ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

“นายกหญิงโรงแรมไทย”ออกโรงกระทุ้งรัฐช่วยธุรกิจ-แรงงานท่อเที่ยวด่วน4มาตรการ ดันเต็มเหนี่ยว“Co-Pay”สมทบเงินเดือนจ่าย8แสนรายครึ่งปี-ขอซอฟท์โลน60ล้าน/ราย

 “นายกหญิงโรงแรมไทย”ออกโรงกระทุ้งรัฐช่วยธุรกิจ-แรงงานท่อเที่ยวด่วน4มาตรการ

ดันเต็มเหนี่ยว“Co-Pay”สมทบเงินเดือนจ่าย8แสนรายครึ่งปี-ขอซอฟท์โลน60ล้าน/ราย

ช้อปคิงเพาเวอร์กับ“SUPER SURPRISES”เทโปรแรงแบรนด์ดังลด30%อีก15วันเท่านั้น

คิง เพาเวอร์มอบสิทธิ์ใหญ่3ความพิเศษ“แคชการ์ด-สายบิวตี้-สมาชิกใหม่”ถึง20ม.ค.64

ททท.-กรมอนามัยลุยมอบตราSHAอุตสาหกรรมการบินนำร่อง“ดอนเมือง-แอร์เอเชีย”

ก.ท่องเที่ยวจ่อชงครม.อนุมัติตั้ง“กองทุนท่องเที่ยว”เก็บเงินต่างชาติปีแรกหวัง3พันล้าน

TCEB”ย้ำทำงานได้ปกติหลังขยายบุคลากรwork from Homeรอเปิดใหม่1ก.พ.64

ทัวร์2วัดดังเมืองสุพรรณวัดพระศรีแห่งเบญจภาคี-จิตรกรรมฝาหนังวัดหน่อพุทธางกูร

เทรนด์การเลือกกิน“8เมนูอาหารเช้า”ได้พลังงานสูงสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ตามวิถีใหม่

“ผลวิจัยกรุงศรี”ชี้ไทยต้องรอ4ปีหน้าทัวร์ต่างชาติฟื้น-แนะโรงแรม3กลุ่มรับมือแข่งขันดุ

วิทยุการบินโชว์สถิติธ.ค.63ไทยมีบิน3.95หมื่นเที่ยวไจับตาปี'64โควิดทำตลาดแกว่ง

 

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 16 มกราคม 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #สมาคมโรงแรมไทยTHA #KingPowerSuperSurprise ฟัง Live สดรายการจากลิงค์นี้https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1545176085676444&id=100005522016696

ช่วงที่ 1 ลุยค้นหาทางรอดธุรกิจโรงแรมปี’64 กับ “มาริสา สุโกศล หนุนภักดี” นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) ต้อนรับศักราชใหม่ปีฉลูเปิดฉากกระทุ้งรัฐบาลเร่งช่วยเอกชนพยุงแรงงาน 8 แสนราย เจ้าของกิจการ 1.6 หมื่นแห่ง ด้วยข้อเรียกร้อง 4 มาตรการ “จ่ายประกันสังคม50%-ทำ Co-Pay ร่วมจ่ายเงินเดือน50% 6เดือน-ปล่อยกู้ซอฟท์โลนขั้นต่ำรายละ 60ล้าน-ประกาศนโยบายหน่วยราชการประชุมทั่วไทย” วอนทุกฝ่ายสร้างความเข้าใจกิจการโรงแรมเคยสร้างความมั่งคั่งจากเงินต่างชาติวันนี้ขอโอกาสสู้ต่อ ขอให้อดทนก้าวข้ามวิกฤตนี้รอดไปด้วยกัน

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association :THA) เปิดเผยว่า ปี 2564 ธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศต้อเผชิญความท้าทายจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่เริ่มจากสมุทรสาครขยายผลลามไปตามพื้นต่าง ๆ ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการต้องประเมินสถานการณ์โดยมีบางส่วนต้องทยอยปิดชั่วคราว เนื่องจากนักท่องเที่ยวเลื่อนหรือยกเลิกเดินทาง รวมทั้งการจองจัดงานประชุมก็เช่นเดียวกัน บางโรงแรมในพื้นที่เสี่ยงก็ไม่สามารถรับนักท่องเที่ยว ส่วนโรงแรมที่เคยมีตลาดหลักเป็นลูกค้าต่างชาติก็ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้ต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ล็อกดาวน์เมษยน 2563 มาจนถึงปัจจุบัน ก่อให้เกิด “หนี้สะสม” พอสมควร แม้บางโรงแรมจะรับนักท่องเที่ยวเข้าพักแต่ก็ไม่สามารถทำกำไรได้ แต่อาจจะขาดทุนน้อยลง จากโครงการของรัฐแต่ก็ได้รับประโยชน์เป็นบางพื้นที่ตามความนิยมของนักท่องเที่ยว

ด้วยปัจจัยเชิงลบรอบด้านที่มีต่อเนื่องมานานนับปี ส่งผลทำให้ธุรกิจมีผลประกอบการ “ขาดทุนสะสมจำนวนมาก” พอมาเจอโควิด-19 ระลอกใหม่ก็พากันล้มไม่มีออกซิเจนมาช่วยเติม แถมเม็ดเงินที่หามาได้ช่วงที่ตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัว แต่ก็มีการระบาดอีกครั้งช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นมา อีก 2-3 เดือนข้างหน้าธุรกิจอาจจะอยู่กันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

นางมาริกากล่าวว่า ล่าสุดได้รวบรวมข้อมูลเสนอกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาผ่านไปยังรัฐบาล เร่งเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศ แบ่งเป็น 1.แผนระยะเร่งด่วน กลุ่มโรงแรมที่จะต้องปิด ในพื้นที่โซนสีแดงเข้ม และ 28 จังหวัด ขอให้รัฐช่วยพิจารณาดังต่อไปนี้

มาตรการที่ 1 สิทธิประโยชน์เงินประกันสังคมให้แก่โรงแรมปิดบริการรัฐประกาศจะจ่ายสมทบให้ลูกจ้าง 50 % ตลอดระยะเวลาปิดชั่วคราว หรือแม้จะเป็นโรงแรมที่ไม่ได้โซนสีแดงอย่าง หัวหิน เชียงใหม่ ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวเลือกเดินทางไปนั้น ก็ควรจะได้รับการพิจารณาความช่วยเหลือด้วย

มาตรการที่ 2 Co-Pay ทางสมาคมโรงแรมไทยเสนอต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 ขอให้รัฐร่วมสมทบจ่ายเงินเดือนพนักงานโรงแรมที่ปิดบริการเพราะโควิด-19 อัตรา 50 % โดยจำกัดเพดานเงินเดือนไว้สูงสุดคนละ 15,000 บาท/เดือน เนื่องจากที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันไม่มีนักท่องเที่ยวเพียงพอระยะยาวจริง ๆ สถิติก็มีโรงแรมทยอยปิดกิจการไปบ้างแล้ว ส่วนทางโรงแรมมีหน้าที่จะต้องรักษาบุคลากรในอุตสาหกรรมบริการไว้ให้ได้

ทางสมาคมโรงแรมไทยได้ทำผลสำรวจกับสมาชิกทั่วประเทศที่มีอยู่ประมาณกว่า 16,000 แห่ง จำนวนรวมกว่า 7 แสนห้อง เฉลี่ยประมาณ 48-50 ห้อง/แห่ง คูณด้วยพนักงานที่จะต้องดูแลคือ 1.12 ห้อง/คน คิดเป็นจำนวนพนักงานจะต้องดูแลกว่า 8 แสนคน ตามที่มูลนิธิมาตรฐานโรงแรมไทยลงพื้นที่ตรวจประเมินธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศ จะเห็นได้ชัดเจนว่าคนในส่วนปฏิบัติงาน (workforce) หายไปแล้วถึง 50 % เช่น ภูเก็ต สมุย พังงา กระบี่ พื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก แรงงานพากันกลับบ้านไปหมดแล้ว

สำหรับกรอบเวลาในการขอความช่วยเหลือเงินสมทบจ้างพนักงานให้อยู่ต่อไปสักประมาณ 6 เดือน – 1 ปี เนื่องจากไม่สามารถเปิดได้อย่างเต็มที่ และยังไม่มีความแน่นอนว่าจะกลับมาเปิดได้เมื่อไร

มาตรการขอให้รัฐช่วยสมทบจ่ายเงินจ้างพนักงาน 50 % นั้นทางสมาคมโรงแรมไทยไม่ได้รับการปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้รับความมั่นใจจากรัฐ หรือคำสัญญาที่จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งทางสมาคมโรงแรมไทยเล็งเห็นถึงโครงการของรัฐประกาศเมื่อปีที่ผ่านมาเปิดรับ “นักศึกษาจบใหม่” แต่ในทางปฏิบัติผู้ประกอบการโรงแรมไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีธุรกิจ จึงอยากให้ช่วยกันรักษาการจ้างงาน เพราะคุณสมบัติวุฒิการศึกษาไม่ใช่ประเด็นสำคัญแต่ต้องเน้นบุคลากรที่มีใจรักงานบริการเป็นหลัก คนเหล่านี้เป็น “ทรัพย์สินของชาติ” ที่เอกชนต้องการให้รัฐรักษาไว้ เพราะโรงแรมเป็นกิจการหน้าตาของประเทศ จึงมุ่งหวังจะขอให้รัฐช่วยรักษาแรงงานเหล่านี้ไว้

มาตรการที่ 3 ขอให้ช่วยผลักดันการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) รายละ 60 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 2 % และปลอดดอกเบี้ย 2 ปี เรื่องการขอกู้นั้นประเมินค่อนข้างยากพอสมควร แต่ต้องการให้กลุ่มเจ้าของกิจการที่มีศักยภาพ มุ่งมั่นจะสู้ต่อมีเงินเข้ามาใช้หมุนเวียน หากโรงแรมที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่เพียงพอ ก็จะขอรัฐประกาศนโยบายให้บรรษัทสินทรัพย์ (บสย.) ตั้งกองทุนค้ำประกันเงินกู้ขึ้นมาช่วยอีกทาง รวมถึงโรงแรมที่มีสินทรัพย์หลายแห่งรวมกันแล้วมีมูลค่าเกิน 500 ล้านบาท ได้สิทธิ์กู้ซอฟท์โลนนี้ด้วย เพราะตอนนี้มีหลายโรงแรมล้มหรือปิดกิจการถาวรไปเรียบร้อยแล้ว โดยไม่แคร์เพราะไม่ต้องการแบกภาระหนี้สินอีกต่อไป

นางมาริสากล่าวว่าช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบแรก เอกชนเคยเสนอขอซอฟท์โลนไปบ้างแล้ว เท่าที่ได้รับรายงานก็มีบางโรงแรมได้รับเงินกู้มาบางแต่จำนวนไม่มากประมาณรายละ 2-3 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่แล้วจะติดเงื่อนไขเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ และไม่สามารถทำแผนธุรกิจได้ เนื่องจากประเมินยากถึงผลกระทบยืดเยื้ออีก 2-3 ปีหน้า สถิติเมื่อเดือนธันวาคม 2563 โรงแรมเพิ่งจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้าหลักเข้ามาเพียงเดือนละหลักพันคน ดังนั้นผู้ที่จะอนุมัติเงินกู้ก็ต้องเข้าใจสภาพของธุรกิจโรงแรมที่ต้องรอต่างชาติเข้ามาใช้บริการด้วย

นางมาริสา กล่าวว่า การขับเคลื่อนตลาดในประเทศต้องขอชื่นชมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” กับ “คนละครึ่ง” ส่งผลดีมาก หากไม่ได้ทำนักท่องเที่ยวคงจะหายไปเลย จึงควรจะต้องทำต่อเนื่อง ขยายผลเฟสต่อไปเพิ่มสิทธิประโยชน์โดยรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายห้องพักแก่นักท่องเที่ยวจากปัจจุบัน 40 เป็น 50 % รวมถึงโครงการใหม่ทางสมาคมนำเที่ยวในประเทศเสนอ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะเน้นกระตุ้นกลุ่มผู้สูงวัยเดินทางท่องเที่ยววันธรรมดา แต่ก็จะต้องรอฟังเหตุผลจากรัฐบาลอีกครั้ง

มาตรการที่ 4 ขอให้รัฐประกาศให้หน่วยงานราชการจัดประชุม สัมมนา ถือเป็นอีกช่องทางที่จะฟื้นฟูรายได้ให้โรงแรม สถานที่จัดการประชุมต่าง ๆ และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอีกหลายสาขา หรือจะใส่เงินผลักดันเอกชน หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จัดประชุมนอกสถานที่ด้วยก็ได้ เป็นการช่วยกันผลักดันให้เกิดการใช้บริการโรงแรมเพิ่มมากขึ้น

ส่วนระยะเร่งด่วน ทางสมาคมโรงแรมไทยไม่ได้เข้าไปช่วยเป็นรายจังหวัดหลังจากรัฐบาลประกาศพื้นที่เป็น 4 สี 4 โซน ตามการระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากศักยภาพการสร้างรายได้ของโรงแรม เมื่อมีโครงการรัฐออกมาจึงมีความไม่เท่าเทียมกันอย่างมาก ระหว่างโรงแรม 4-5 ดาว กับ 2-3 ดาวลงไป เช่น ภูเก็ต สมุย พังงา หรือในกรุงเทพฯ ก็มีโรงแรมที่ยังปิดบริการอยู่เป็นจำนวนมาก

นางมาริสายืนยันว่า ปี 2564 ธุรกิจโรงแรมที่จะอยู่ได้ อาจจะใช้ตัวเลขอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเป็นเกณฑ์ไม่ได้ แต่จะต้องขึ้นอยู่กับโรงแรมแต่ละแห่งจะต้องรัดเข็มขัดประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด เมื่อก่อนจุดคุ้มทุนการดำเนินธุรกิจแต่ละปีอาจจะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (occupancy rate) อยู่ที่  50-60 % แต่ตอนนี้อาจจะลดลงเหลือ 30-40 % ก็ได้เพราะโรงแรมส่วนใหญ่ได้ลดขนาดจำนวนห้องพักเปิดให้บริการลงตามสถานการณ์ควบคู่กับการต้องรัดเข็มขัดอย่างจริงจัง เพราะทุกคนรู้แล้วว่าดีมานต์หรือความต้องการใช้ห้องพักก็น้อยลง ส่วนห้องอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage : F&B) เดิมเคยสร้างทำกำไรได้สูงแต่ต้นทุนก็สูงเหมือนกัน ซึ่งตอนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีบางโรงแรมอยู่ได้เพราะรายได้จากอาหารเครื่องดื่ม และจัดเลี้ยง แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้หายไปเกือบทั้งหมด

สุดท้ายจะขอฝากไปถึงผู้ประกอบการโรงแรมว่าตอนนี้มีนิมิตหมายที่ดีเพราะโลกสามารถผลิตวัคซีนป้องกันรักษาไวรัสโควิด-19 ได้ แล้วรัฐบาลก็ใช้งบประมาณซื้อวัคซีนมาให้คนไทยได้ฉีดกันอย่างทั่วถึง ก็ควรจะรออย่างอดทนสักพัก เพื่อให้ทุกอย่างกลับสู่ปกติ ตอนนี้ทางสมาคมโรงแรมไทยพร้อมที่จะช่วยผู้ประกอบการฝึกอบรมซ่อมสร้างธุรกิจและบุคลากร รวมถึงหาช่องทางการตลาดมาเติมเต็มสมาชิกทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนก้าวข้ามสถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวที่ ช้อปคิงเพาเวอร์กับ“SUPER SURPRISES”เทโปรแรงแบรนด์ดังลด30%อีก15วันเท่านั้น


กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เดินหน้าแคมเปญช้อปลดสะใจกับแคมเปญ “SUPER SURPRISES ดีลพิเศษในราคาดิวตี้ฟรี ลดสูงสุดถึง 30 % ระหว่างวันนี้ – 31 มกราคม 2564 โดยให้นักช้อปเข้าไปรับ “รหัสส่วนลด” แล้วสามารถใช้ได้ที่ www.kingpower.com หรือ แอปพลิเคชัน KING POWER  เมื่อช้อปครบ 2,000 บาทขึ้นไป รับส่วนลดสินค้าปกติลดสูงสุด 20% และส่วนลดสินค้าพิเศษ ลดสูงสุดถึง 30%

รายการส่งเสริมการขายนี้เฉพาะสั่งซื้อสินค้า BRANDNAME สินค้าแฟชั่น, เครื่องสำอาง(ยกเว้น HOURGLASS) เสื้อผ้า เครื่องหนัง และแบรนด์ชั้นนำเฉพาะที่ร่วมรายการในแคมเปญนี้เท่านั้น ส่งตรงถึงบ้าน ในราคา DUTY FREE สินค้าร่วมจัดรายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สำหรับสินค้าจัดรายการ Super Special Deals จะใช้เวลาในการจัดเตรียมสินค้านานกว่าปกติ ซึ่งจะได้รับสินค้าภายใน 5 - 10 วันทำการ

แบ่งชำระ 0% ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ดังนี้ 1.นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ 2.นานสูงสุด 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ

วิธีสั่งซื้อลูกค้าต้องสมัครสมาชิกเว็บไซต์ kingpower.com และทำการล็อคอินก่อนการใช้รหัสส่วนลดนี้ ซึ่งจะไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ Birthday Celebration, บัตรส่วนลดอื่นๆ E-Purse, E-Cash, Gift Voucher, Cash Voucher ทุกประเภท และโปรโมชั่นอื่นๆ ส่วนสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ทุกรายการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์สามารถสะสมกะรัตได้ด้วย


ข่าวที่ 2 คิง เพาเวอร์มอบสิทธิใหญ่3ความพิเศษ “แคชการ์ด-สายบิวตี้-สมาชิกใหม่”ถึง20ม.ค.64


กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบความพิเศษ ให้คุณช้อปให้คนพิเศษ วันนี้ – 20 มกราคม 2564 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร และภูเก็ต แวะเข้ามาได้ทุกที่ ตามเวลาเปิดบริการ 11.00-21.00 น. กับ 3 ความพิเศษ ดังต่อไปนี้

ความพิเศษที่ 1 ช้อปคุ้มด้วย Cash Card  1.ซื้อ Cash Card มูลค่า 50,000 บาท รับเพิ่ม Gift Card มูลค่า 8,000 บาท รวมมูลค่า 58,000 บาท 2.ซื้อ Cash Card มูลค่า 500,000 บาท รับเพิ่ม Gift Card มูลค่า 100,000 บาท รวมมูลค่า 600,000 บาท

ความพิเศษที่ 2 เอาใจนักช้อปสายบิวตี้ น้ำหอม เครื่องสำอางและสกินแคร์ รับส่วนลด 10% (ไม่มียอดช้อปขั้นต่ำ / เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)

ความพิเศษที่ 3 ยังไม่ได้เป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ พลาดไม่ได้ รับส่วนลด 5% เพียงลงทะเบียนทดลองเป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ (ไม่มีค่าสมัคร)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/37Spry6

ข่าวที่ 3 ททท.-กรมอนามัยลุยมอบตราSHAอุตฯการบิน “ดอนเมือง-แอร์เอเชีย”

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข  ตรวจเยี่ยมพร้อมกับมอบมาตรฐานตราสัญลักษณ์ Amazing Thailand Safety & Health Administration :SHA แก่สนามบินดอนเมือง และสายการบินไทยแอร์เอเชีย ซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานสาธารณสุขและการให้บริการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด  

ทางคณะกรรมการตรวจประเมินมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA ร่วมกันลงพื้นที่เยี่ยมชมบริการส่วนต่างๆ ภายในอาคารผู้โดยสาร สนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นประตูด่านแรกและจุดเริ่มต้นของการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงต้องมุ่งเน้นการปฏิบัติตามสาธารณสุขอย่างถูกต้องตามหลักสุขอนามัย เริ่มจากพนักงานและทุกคนสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือขณะปฏิบัติหน้าที่ มีการทำความสะอาดพื้นที่และส่วนให้บริการนักท่องเที่ยวตลอดเวลา และเน้นย้ำให้ทุกคนต้องผ่านจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ  รักษาความสะอาด เว้นระยะห่าง เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไวรัส โควิด-19

สำหรับการตรวจประเมินมี 2 แนวทาง ได้แก่ 1.การตรวจโดยคณะกรรมการตรวจประเมิน และ 2.การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า Voice of Customer (VOC) เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงให้สถานประกอบการดำเนินการตามมาตรฐาน SHA และลดการแพร่ระบาดของโรคไวรัส โควิด-19 อย่างเข้มข้นทุกวัน

ขณะนี้ ททท. ยังประชาสัมพันธ์โครงการ SHA เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งด้วยวิถีปกติใหม่ หรือ New Normal ให้ได้มากที่สุด

ผู้ประกอบการสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมโครงการ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA ได้ที่ www.tourismthailand.org/thailandsha และ line official : @thailandsha รวมทั้งสามารถประเมินความพึงพอใจผ่าน QR Code อีกด้วย

ข่าวที่ 4 ก.ท่องเที่ยวจ่อชงครม.อนุมัติตั้ง“กองทุนท่องเที่ยว”ต่างชาติปีแรกหวัง3พันล้าน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติครั้งที่ 1 ประจำปี 2564 เห็นชอบให้ “จัดตั้งกองทุนการท่องเที่ยว” ลักษณะคล้ายคลึงกับญี่ปุ่นจัดเก็บภาษีที่เรียกว่า “ซาโยนาระ” เพื่อรองรับกรณีที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทย แล้วประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย จะต้องได้รับการดูแลตามขั้นตอนจนกระทั่งเดินทางกลับประเทศ โดยจะเก็บคนละ 300 บาท/ครั้ง หรือประมาณ 10 เหรียญสหรัฐ/ครั้ง คาดการณ์ปีแรกจะจัดเก็บได้มากถึง 3,000 ล้านบาท  จากจำนวนฐานนักท่องเที่ยวเข้าไทยปีละ 10 ล้านคน การดำเนินงานหลังจากนี้เตรียมนำเรื่องเข้าหารือกระทรวงการคลังและคณะกรรมการส่งเสริมกาประกอบธุรกิจประกันภัย ก่อนจะประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

สำหรับการจัดเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ากองทุน คนละ 300 บาท/ทริป จะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและกรณีเสียชีวิต ล่าสุดรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้นโยบายไว้แล้ว ดังนั้นจึงเตรียมเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาเร็ว ๆ นี้

ข่าวที่ 5 TCEB”ย้ำทำงานได้ปกติหลังขยายwork from Homeรอเปิดใหม่1 ก.พ.64

 


นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB เปิดเผยว่า ได้ขยายเวลาให้บุคลากรของทีเส็บปฏิบัติงานอยู่ที่บ้านหรือ Work from Home ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 กำหนดจะกลับมาเปิดทำงานปกติที่สำนักงานอาคารสยามพิวรรธ ทาวเวอร์ อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป

ส่วนการบริหารจัดการงานต่าง ๆ กับเครือข่ายพันธมิตรในอุตสาหกรรมไมซ์ ยังคงสามารถประสานการทำงานร่วมกันได้เหมือนการทำงานตามปกติที่สำนักงาน นั่นคือ สามารถติดต่อผู้บริหารและทีมงานของทีเส็บได้ทางอีเมล info@tceb.or.th หรือโทร.สอบถามเพิ่มเติมได้ในวันทำการจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 8.30-17.30 น.ได้ที่ 02-694-6000 หรือสามารถสื่อสารทางมือถือกับบุคลากรที่เคยประสานงานกันไว้ก็ได้เช่นกัน

                ช่วงที่  2 ออกเที่ยวเมืองไทย เที่ยวใกล้บ้าน เที่ยวใกล้กรุง ทริปนี้แนะแวะ “2วัดดังเมืองสุพรรณบุรี” วัดแรก “วัดพระศรีมหาธาตุ ตำนานแห่งพระเบญจภาคีเมืองไทย วัดที่สอง “วัดหน่อพุทธางกูร” ต้นตำรับจิตรกรรมฝาผนังสวยสุด ๆ เที่ยววัดกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมบุญกันดีกว่า ส่วนสุขภาพยกให้ การเลือกกิน “8เมนูอาหารเช้า” ให้พลังงานสูงป้องกันโรคตามแบบชีวิตวิถีใหม่ และข่าวเด็ด “ผลวิจัยกรุงศรี” ชี้อนาคตตลาดท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย รอไปอีก 4 ปีหน้า จะมาเท่าเดิมปีละ 38-40 ล้านคน ส่วน “บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย” เผยปริมาณการบินเดือนเดียวธันวาคม 2563 เฉียด 4 เที่ยว ไทย แอร์เอเชีย ยังแชมป์บินในประเทศมากสุด

 


ทัวร์2วัดดังในสุพรรณ“วัดพระศรีฯ-ชมจิตรกรรมฝาหนังวัดหน่อพุทธางกูร”

เที่ยวไทย ยังเที่ยวได้ เที่ยวใกล้  ๆ ในจังหวัดใกล้เคียง หรือในจังหวัดของตัวเอง ทริปนี้จะชวนไป 2 วัดดัง เมืองสุพรรณบุรี วัดแรก “วัดพระศรีมหาธาตุ” เป็น 1 ใน 9 การค้นพบพระเบญจภาคี วัดที่สอง วัด “หน่อพุทธรางกูร” สุดยอดแห่งจิตรกรรมฝาผนังสวยงามสุด ๆ ในเมืองไทย

 


ปักหมุดหยุดเที่ยวที่ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” อำเภอเมือง -ย้อนตำนานแหล่งเบญจภาคี” อยู่ในตำบลรั้วใหญ่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี ถนนสมภารคงแยกจากถนนมาลัยแมน ไปประมาณ 300 เมตรในสมัยก่อนเป็นศูนย์กลางของเมืองสุพรรณภูมิ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง สันนิษฐานว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปี ปรางค์องค์ประธาน เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ เมื่อปี พ.ศ. 2456 ชาวบ้านลักลอบขุดค้นหาทรัพย์สินจนทรุดโทรมไปมาก พระพิมพ์ผงสุพรรณบุรีที่โด่งดังมาก อันเป็นหนึ่งใน “เบญจภาคี” ก็ได้ไปจากกรุในองค์พระปรางค์นี้ และพระเครื่องที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ที่นอกเหนือจากพระผงสุพรรณ เช่น พระกำแพงศอก พระมเหศวร พระสุพรรณยอดโถ พระสุพรรณหลังผาน ตลอดจนพระเนื้อชินต่างๆ ซึ่งปัจจุบันหายาก

นักโบราณคดีหลายท่านให้ความเห็นว่า น่าจะเป็นศิลปะการก่อสร้าง ในสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ เพราะหลักฐานการก่อสร้าง เป็นการก่ออิฐไม่ถือปูน ซึ่งเป็นวิธีการเก่าแก่ก่อนสมัยอยุธยา


พระผงสุพรรณ มีแหล่งกำเนิดจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี เนื้อเป็นเนื้อดินเผาละเอียด ปราศจากเม็ดแร่ มีหลายสี เช่น สีแดง สีเขียว สีดำ และสีมอย(ดำจางๆคล้ายผงธูป)

พระผงสุพรรณพิมพ์ที่นิยมในวงการมีอยู่ 3 พิมพ์ ด้วยกันคือ 1 พิมพ์หน้าแก่ 2 พิมพ์หน้ากลาง 3 พิมพ์หน้าหนุ่ม

กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี เป็นโบราณสถานสำคัญสำหรับชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 หน้า 3710 วันที่ 8 มีนาคม 2478 หลังจากนั้นได้มีการดำเนินงานขุดศึกษาโบราณคดี และบูรณะโบราณสถานบางส่วนเป็นระยะ และปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์จนแล้วเสร็จ เมื่อพุทธศักราช 2562

 


เดินทางต่อมาที่ “วัดหน่อพุทธางกูร”  ตั้งอยู่ตรงถนนสมภารคง เส้นทางเลียบแม่น้ำฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ใกล้ตัวเมืองสุพรรณบุรี ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมงดงามมาก ด้วยสถาปัตยกรรมของอุโบสถ เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่ออิฐถือปูนขนาด 3 ห้อง ด้านหน้าโบสถ์มีมุขยื่นออกมามีเสารองรับอยู่ 4 ต้น หน้าบันและส่วนประดับต่าง ๆ เป็นไม้จำหลักงดงามมาก หลังคามุงกระเบื้องดินเผาปลายมน ฐานอาคารแอ่นโค้งเป็นรูปท้องเรือสำเภา ซึ่งเป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมที่นิยมในสมัยอยุธยาตอนปลาย

สันนิษฐานได้ว่าเดิมวัดมะขามหน่อนี้อาจเป็นวัดเก่ามีมาแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ต่อมาชาวบ้านบริเวณวัดมะขามหน่อได้บูรณะขึ้นใหม่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว


ส่วนภาพจิตกรรมฝาผนังภายในโบสต์แห่งนี้เกิดขึ้นจากฝีมือของนายคำชาวเวียงจันทน์เป็นช่างเขียน นายคำถูกกวาดต้อนมาในสมัยกบฏเจ้าอนุวงศ์ มีพี่น้องอยู่ด้วยกัน 3 คน แต่พลัดพรากจากกัน ตอนเดินทางเข้ามาอยู่เมืองไทย ตัวนายคำเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ในฐานะที่เคยเป็นช่างเขียนมาก่อน แล้วก็ถูกเกณฑ์ให้เขียนภาพที่วัดสุทัศน์ จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็พยายามออกตามหาพี่น้องของตนที่มาจากเวียงจันทน์ด้วยกัน จนสืบทราบว่าพี่น้องมาปักหลักอยู่สุพรรณบุรี ตามหาจนพบที่ตำบลพิหารแดง

 

ช่วงนั้นพอดีชาวบ้านวัดมะขามหน่อได้ก่อสร้างอุโบสถเสร็จ จะเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง นายคำจึงอาสาเขียนให้และได้ให้นายเทศช่วยเขียนภาพด้วยอีกคนหนึ่ง เมื่อเขียนภาพที่วัดหน่อพุทธางกูรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังได้ไปเขียนภาพที่อุโบสถวัดประตูสาร ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง สุพรรณบุรี ด้วย

วัดหน่อพุทธางกูร (เดิมชื่อ วัดมะขามหน่อ) ตั้งอยู่ที่ตำบลพิหารแดง ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณ เลยวัดพระลอยไปทางเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร ตามทางหลวง หมายเลข 3507 กิโลเมตรที่ 3 เป็นวัดที่เงียบสงบสร้างในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ภายในพระอุโบสถหลังเก่ามีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติ ค่อนข้างสมบูรณ์ชัดเจน เป็นจิตรกรรม ที่มีความงดงาม เขียนราว พ.ศ. 2391 ในสมัยรัชกาลที่ 3

เที่ยวเมืองไทย เที่ยววิถีใหม่ ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขด้านสุขอนามัย สวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลล้างมือ รักษาระยะห่าง และดูแลตัวเองกับคนรอบข้าง ให้เที่ยวอย่างปลอดภัยไปด้วยกัน


เทรนด์การเลือกกิน“8เมนูอาหารเช้า”ได้พลังงานสูงสร้างภูมิคุ้มกันโรค

เมนูอาหารเช้าที่มีประโยชน์จะทำให้เราทุกคนเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใสไปพร้อมกับสุขภาพร่างกายที่ดี เมื่อกินในสัดส่วนที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงาน ป้องกันการกินอาหารวันละมาก ๆ ตลอดทั้งวัน และสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ด้วย

มาเลือก “เมนูอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ” กันดีกว่า ดูจากส่วนประกอบที่เหมาะเพื่อการทำเมนูอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ ได้แก่ ผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ดแบบที่ไม่ผ่านการแปรรูป ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม โปรตีนและไขมันที่มีประโยชน์ โดยตัวอย่างเมนูเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมกับมื้อเช้า ที่ต้องรับประทานดังนี้

1.แซนด์วิชขนมปังโฮลวีทใส่ทูน่าหรือเนื้อสัตว์ไร้มันและผักสด 2.ซีเรียลหรือคอร์นเฟลกผสมกับนมจืด

3.ข้าวเหนียวหมูปิ้งไม่ติดมันและไม่เกรียม 4.ข้าวต้มใส่เนื้อสัตว์และผัก

4.ข้าวผัดหรือข้าวไข่เจียว 5.ข้าวโอ๊ตต้มสุกพร้อมอัลมอนด์หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อบแห้ง 6.โยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่งพร้อมผลไม้สด  7.ไข่ต้ม ไข่คนหรือไข่ดาว กินคู่กับขนมปังข้าวสาลี (Wholemeal Toast) เห็ดและมะเขือเทศ และ 8. ขนมปังโฮลวีทพร้อมไข่ต้มสุกและผักสด 

เพื่อให้มีเวลาพอในการกินมื้อเช้า หรือหากมีเวลาไม่มากในช่วงเช้าควรตื่นเร็วกว่าปกติ 10–15 นาที หรือบางคนสามารถเตรียมวัตถุดิบและเมนูอาหารเช้าไว้ตั้งแต่กลางคืนเพื่อให้ง่ายต่อการกินตอนช่วงเช้า หรือสละเวลาทำกิจกรรมที่ไม่สำคัญในช่วงเช้าออกไปก่อน อย่างการเล่นมือถือหรือการดูทีวี เพียงเท่านี้อาจช่วยเพิ่มเวลาให้คุณสามารถกินมื้อเช้าได้ทันในแต่ละวันมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม การเลือกกินเมนูอาหารเช้าที่มีประโยชน์จะช่วยให้มีสุขภาพดี แต่ก็ต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ ให้แข็งแรงไปพร้อมกันด้วย โดยควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน พักผ่อนให้เพียงพอ จัดการกับความเครียด พูดคุยกับผู้อื่น จำกัดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไม่สูบบุหรี่ มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 


ข่าวแรก “ผลวิจัยกรุงศรี”ชี้ไทยต้องรอ4ปีหน้าทัวร์ต่างชาติฟื้น-แนะโรงแรม3กลุ่มรับมือแข่งขันดุ

ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวในไทยช่วงครึ่งแรกปี 2564 ตลาดต่างชาติจะเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างจำกัด จาก 3 ปัจจัย คือ 1.เรื่องมาตรการฟรีวีซ่า SPECIAL VISA TOURISM :SVT  2.ความเป็นไปได้ในการเปิดข้อตกลงเชื่อมต่อการเดินทางโดยไม่ต้องกักตัว (Travel Bubble)  3.การค้นพบวัคซีนและนำมาใช้ได้อย่างแพร่หลายช่วงครึ่งหลังปี 2564 จะเริ่มสร้างความมั่นใจให้ต่างชาติมีหันมาเดินทางเพิ่มต่อเนื่อง

แต่ “ธุรกิจโรงแรม” แบ่งเป็น 3 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย คลัสเตอร์ที่ 1 พื้นที่ท่องเที่ยวหลักทั้ง กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต คาดรายได้จะทยอยฟื้นตัวตามทิศทางการท่องเที่ยว อัตราเข้าพักเฉลี่ยจะประมาณ 50-55 % ขณะที่ผู้ประกอบการมีแนวโน้มชะลอการลงทุน เพราะภาวะอุปทานส่วนเกินหลังวิกฤตโควิด -19  คลัสเตอร์ที่ 2 โรงแรมในจังหวัดศูนย์กลางภูมิภาค รายได้จะทยอยปรับดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวในประเทศซึ่งได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐ

คลัสเตอร์ที่ 3 โรงแรมตามจังหวัดอื่นๆ  รายได้มีแนวโน้มทรงตัวจากปี 2563 ซึ่งยังคงได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ แต่อัตราการเข้าพักยังจะอยู่ในระดับต่ำ เพราะส่วนใหญ่รองรับนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านเพื่อไปจังหวัดศูนย์กลางภูมิภาค หรือ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

ขณะที่ “ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจโรงแรม” มีแนวโน้มจะรุนแรง เนื่องจากอุปทานส่วนเกินจากธุรกิจเดียวกันและธุรกิจบริการที่พักรูปแบบอื่น เมื่อผนวกกับอุปสงค์ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ส่งผลถึง “การปรับราคาห้องพัก” ทำได้ค่อนข้างยาก  โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวหลักทซึ่งเคยพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมาตลอด จะขยับขึ้นได้แบบค่อยเป็นค่อยไป

ข่าวที่สอง วิทยุการบินโชว์สถิติธ.ค.63ไทยมีบิน3.95หมื่นเที่ยวไจับตาปี'64โควิดทำตลาดแกว่ง

บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด รายงานผล สรุปปริมาณเที่ยวบิน และอันดับเที่ยวบินของสนามบินภูมิภาค ประจำเดือนธันวาคม 2563 โดยภาพรวมสถานการณ์เที่ยวบินเข้า-ออก และผ่านน่านฟ้าไทย ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19    แม้ว่าภาพรวมของสถิติเที่ยวบินในประเทศจะเพิ่มขึ้น  แต่เป็นอัตราการเพิ่มแบบชะลอตัวต่อเนื่อง  คือ

เที่ยวบินระหว่างประเทศ และเที่ยวบินผ่านน่านฟ้า ยังคงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 70-80%  ตลอดเดือนธันวาคม 2563 ให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ รวมทั้งสิ้น 39,506 เที่ยว เปรียบเทียบกับพฤศจิกายน 2563 มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 4,068 เที่ยว หรือเพิ่ม 11.5%

เป็นการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ หลัก ๆ  4  ประเภท ดังนี้

1.เที่ยวบินระหว่างประเทศ 5,277 เที่ยว

2.เที่ยวบินภายในประเทศ 24,056 เที่ยว

3. เที่ยวบินผ่านน่านฟ้า 2,747 เที่ยว

4.เที่ยวบินสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจทางทหารและราชการ 7,426 เที่ยว

โดย "ไทยแอร์เอเชีย" ยังคงเป็นสายการบินที่ครองอันดับ 1 ด้วยปริมาณเที่ยวบิน 7,668 เที่ยว ตามมาด้วย นกแอร์ 4,313 เที่ยว และไทย เวียตเจ็ท 3,510 เที่ยว

ขณะที่ "สนามบินภูมิภาค" มีเที่ยวบินใช้บริการตามอันดับดังนี้ 1.เชียงใหม่ ยังคงเป็นสนามบินที่มีเที่ยวบินใช้บริการมากที่สุด ตามด้วย ภูเก็ต และหาดใหญ่ ส่วนนครศรีธรรมราช ขยับขึ้นอันดับที่ 4 และอุดรธานีเป็นอันดับที่ 5

บริษัทวิทยุการบินฯ คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ทางการบินปี 2564 ยังมีความไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ จะส่งผลกระทบยืดเยื้อ หรือจะสามารถควบคุมให้กลับมาเป็นปกติได้ในระยะเวลาอันสั้น รวมถึงนโยบายรัฐบาลที่ส่งผลต่อปริมาณเที่ยวบินของสายการบินต่าง ๆ ด้วย

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai