ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ัภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียฯ คนใหม่ ปี68ทำรายได้ 1.3ล้านล้าน

 


ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ 

รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท.

ททท.ตลาดเอเชียปี’68ดึงเงินเข้าไทย1.3 ล้านล้าน

งัดIBMเพิ่มรายได้-ขยายทัวร์เกินล้านคน10ประเทศ

ปั้น8โปรเจกต์เร่งกระตุ้นการขายทั่วเอเชีย13โร้ดโชว์

คิงเพาเวอร์เปิดTimeValléeแห่งแรกในไทย&เอเชีย

ช้อป!!คิงเพาเวอร์วันนี้-23ต.ค.แจกดีลดีรับทันที6ได้

คิงเพาเวอร์-น้องเนยทำหมอนรองคอมีฮู้ดสุดคิวท์

ท่องเที่ยว10เดือนโกยเงินต่างชาติ1.27 ล้านล้าน

บางจากMOUมทร.อีสาน17แห่งร่วมผลิตน้ำมันSAF

TCEBขยับ7ผู้บริหารใหม่รวมพลังไมซ์ 2 แสนล้าน

ชวนเที่ยวเทศกาลเที่ยวพิมาย4พิกัดสุขสนุก6-10พ.ย.

4 อาหารต้านซึมเศร้ามีงานวิจัยยืนยันช่วยได้จริง

บินไทยเปิดบินฤดูหนาวปี67/68ทั่วโลก64เส้นทาง

สิงคโปร์แอร์ไลน์สโปรตั๋วบินทั่วโลกTIME TO FLY

วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://www.facebook.com/share/v/2JYPLbEPz1yvx

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำทีมรุกภารกิจใหญ่ทำรายได้ตลาดอาเซียน เอเชีย ปี68 ให้ได้ 1.3 ล้านล้านบาท เพิ่ม 22.4% งัดใช้กลยุทธ์ “IBM” เพิ่มรายได้ทุกเม็ดจากทุกตลาด สร้างสมดุลทำไฮซีซั่นตลอดปี รักษายอดตลาดเกิน 1 ล้านคน ให้ได้เกิน 10 ประเทศ ชูโปรดักซ์ท่องเที่ยว 5 ประเภท “5 F 5Must do-อีเวนต์เอนเตอร์เทนเมนท์-ธีมปาร์ค-ช้อปปิ้ง-แหล่งเที่ยวธรรมชาติ ทุกสำนักงานรวมพลลุย 8 โปรเจกต์ จัดเต็มเทรดโรดโชว์ พ.ย.67-มี.ค.68 ไม่ต่ำกว่า 13 งาน


แหล่งท่องเที่ยวทะเลกระบี่

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมปีงบประมาณ 2568 เริ่มแล้วตุลาคมนี้เป็นต้นไป “ตลาดต่างประเทศ” ตั้งเป้าหมายนำการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้คึกคัก กระจายรายได้ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว และเพิ่มการใช้จ่ายเงินเฉลี่ยให้ได้มากที่สุด ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 รายได้รวม 2.23 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.64% จากปี 2567 ต้องทำให้ได้ 1.8 ล้านล้านบาท ในส่วนของ “ตลาดอาเซียน เอเชีย และแปซิฟิกใต้” ปี 2568  ตั้งเป้าไว้ 1.3665 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4 % คิดเป็น  61% ของตลาดต่างประเทศทั้งหมดเป้าหมายรายได้ ปี 2567 ต้องทำให้ได้ 1.1511 ล้านล้านบาท 

ส่วนที่ 2 จำนวนนักท่องเที่ยวเป้าหมายปี 2568 ตลาดต่างประเทศภาพรวมทั้งหมด39 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.43% จากปี2567 ต้องทำให้ได้ 35.9 ล้านคน  และฟื้นตัวจากปีปกติ 2562 แล้ว 98% ในส่วนของ “ตลาดอาเซียน เอเชีย และแปซิฟิกใต้” ตั้งเป้า 28.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.12% คิดเป็น 72% จากของตลาดต่างประเทศทั้งหมด ส่วนปี 2567 ต้องทำให้ได้ 25.11 ล้านคน

ส่วนที่ 3 การใช้จ่ายเงินปี 2568 ค่าเฉลี่ยรวมของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 48,153 บาท /คน/ทริป ลงลึกในรายละเอียดจะแตกต่างกัน เช่น ตลาดระยะใกล้ (short haul) อาเซียน เอเชีย และแปซิฟิกประมาณ 57,000 บาท/คน/ทริป ส่วนตลาดระยะไกล (longhaul ) ยุโรปและอื่น ๆ กว่า 80,000 บาท/คน/ทริป

 


เกาะทะลุ จ.ระยอง

รวมทั้งจะใช้กลยุทธ์การตลาดเพิ่มรายได้ปี 2568 ด้วยสูตร IBM ประกอบด้วย 

I -Increase เพิ่มค่าใช้จ่ายตลอดการท่องเที่ยวต่อคนต่อทริป เพิ่มความถี่การเดินทางท่องเที่ยวจากตลาดบินใกล้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง และเพิ่มวันพักเฉลี่ยนานวันขึ้น

B -Balance ได้แก่ 1.ไม่ต้องมีช่วงโลว์หรือไฮซีซั่น 2.ปรับสมดุลจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาครั้งแรก (first visit) กับเดินทางท่องเที่ยวซ้ำ ๆ (Repeater) โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ในอนาคต 3.สร้างสมดุลการท่องเที่ยวกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ

M -Maintain รักษาตลาดนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยปีละเกิน 7 หลัก หรือ 1 ล้านคนขึ้นไป มีอยู่หลายตลาดด้วยกัน ปี 2568 มีเป้าหมาย 10 ประเทศ จากทั้งหมด 20 ประเทศ ดังนี้ สาธารณรัฐประชาชนจีน 8 ล้านคน มาเลเซีย 5.3 ล้านคน  อินเดีย 2.18 ล้านคน เกาหลีใต้ 2.1 ล้านคน สปป.ลาว 1.3 ล้านคน ไต้หวัน 1.2 ล้านคน สิงคโปร์ 1.15 ล้านคน เวียดนาม 1.15 ล้านคน ญี่ปุ่น 1 ล้านคน และฮ่องกง 1 ล้านคน

สินค้าท่องเที่ยวประเภทไหนบ้างที่จะนำมาใช้กระตุ้น นักท่องเที่ยว คุณภาพสูง จากเอเชีย แปซิฟิก เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายเงิน หรือ พักค้างแรม หรือ กิน เที่ยวช้อป เพิ่มมากขึ้น  ประกอบด้วย

 


ก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นชื่อ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สำหรับ “สินค้าการท่องเที่ยว” ที่ ททท.เอเชียและแปซิฟิกใต้ พร้อมนำใช้กระตุ้นนักท่องเที่ยว  5 ประเภท ได้แก่

1. สินค้า 5F เทศกาล/Festival อาหาร/Food ทำเลถ่ายทำภาพยนตร์/ละคร/Film แฟชั่นผ้าไทย/Fashion การท่องเที่ยวเชิงกีฬาต่อสู้/Fight และ 5 must do in Thailand

2.อีเวนต์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ที่มีแฟนมีตติ้ง คอนเสิร์ตของนักร้องนักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับโลก

3.ธีมปาร์คโชว์ เช่น คาร์นิวัล เมจิก สวนสนุกอย่าง สวนสัตว์เปิดเข้าเขียวที่มีน้องหมูเด้ง และซาฟารีเวิลด์

4.ช้อปปิ้ง มอลล์ ททท.ร่วมกับห้างสรรพสินค้าในไทย หลัก ๆ จัดทำโปรโมชั่นกระตุ้นนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้เงินอย่างเครือเซ็นทรัล เดอะมอลล์ คิง เพาเวอร์

5.แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และ กิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ เช่น ทะเลภาคใต้และตะวันออกกิจกรรมทดลองนั่งช้าง อาบน้ำช้าง กิจกรรมเวิร์คช้อปร่วมกับชุมชนท่องเที่ยว

นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวว่าปี “ช่วงไฮซีซั่นปลายปี 2567 ต่อเนื่องตลอดปี 2568 ททท.พร้อมเดินหน้าโครงการเรือธงกระตุ้นตลาด ขณะนี้แต่ละสำนักงานจัดเตรียมไว้แล้ว ไฮไลต์ 8 โครงการ ดังนี้

 


ฟาร์ม อ้อมกอดภูเขา จ.เชียงใหม่

โครงการที่ 1 Wonder Moment in Amazing Thailand  นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวสะท้อนเสน่ห์ไทย หรือซอฟท์ พาวเวอร์ประชาสัมพันธ์ในตลาดเป้าหมาย และต่อยอดโดยทำโปรโมชั่นร่วมกับบริษัทนำเที่ยว และออนไลน์ (OTA) กระตุ้นการเดินทางมาไทย  

โครงการที่ 2 Feel good in Amazing Thailand ททท.ซิดนีย์ (ออสเตรเลีย) นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในไทยโดยเน้นท่องเที่ยวสีเขียวและมีส่วนร่วมรับผิดชอบ Green&Responsible Tourism

โครงการที่ 3 The Celebrations with and inner shine ททท.นิวเดลี อินเดีย จะเจาะกลุ่มตลาดคู่แต่งงานปรับปรุงสิทธิประโยชน์กระตุ้นการขายและการตัดสินใจเลือกไทยเป็นสถานที่จัดแต่งงาน ฉลองครบรอบต่าง ๆ เน้นเสนอขายโรงแรมพันธมิตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผนวกบริการเวลเนส

โครงการที่ 4 Discover Senses of the Charming South ททท.กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย จะนําเสนอแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือเวลเนสสปา ฟาร์ม สวนอาหาร คาเฟ่ ตามเส้นทางจังหวัดสงขลา เชื่อมโยงไปยังเมืองน่าเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ เช่น พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี, ชุมพร และระนอง

 


สนามกอล์ฟบางพระ จ.ชลบุรี

โครงการที่ 5 Sports Thailand : You Ultimate Playground ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ผ่านการจัดอีเวนต์กีฬาร่วมทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่นเข้าร่วมงาน “เทรดโชว์” ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาในประเทศแถบเอเชียตะวันออก เช่น เจแปน กอล์ฟ แฟร์ มารีน ไดวิ่ง แฟร์  จัดกิจกรรม “โร้ดโชว์” นำเสนอสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวในไทยที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงกีฬาโดยตรง

โครงการที่ 6 Color Yours Stories in Thailand ททท.สำนักงานโตเกียว ญี่ปุ่น นำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวตามหลักคิด BCGs Model จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  STG Goals หรือ SDG เช่น เทศกาล งานประเพณีต่าง ๆ ควบคู่กับสินค้าซอฟท์ พาวเวอร์ ในไทย เช่น คอนเสิร์ต T-Pop อาหารไทย กาแฟ ร้านอาหารมิชลินที่มีชื่อเสียง และสินค้า 5 MUST DO in Thailand

โครงการที่ 7 Women are always right! ททท.สำนักงานเซี่ยงไฮ้  สาธารณรัฐประชาชนจีน เน้นเจาะกลุ่มตลาดกำลังซื้อสูง อาทิ กลุ่มเลดี้ส่งเสริมการเดินทางมาไทย เช่น แทรเวล ลักชัวรี่เอเย่นต์ในกลุ่มไฮเอนด์ เช่น Virtuso / 8 continent / Aspire ซึ่งเป็นลักษณะแพกเกจเทเลอร์เมด และร่วมมือกับ Meituan ทำแคมเปญออนไลน์ Let’s play sport in Thailand # Must Try ( มาราธอน กอล์ฟ ดำน้ำ เล่นเซิร์ฟ มวยไทย เสนอขายแพกเกจโรงแรมและโปรดักซ์กีฬา รวมถึงร่วมกับยูเนี่ยนเปย์ออกบัตร Lady card กระตุ้นการเดินทาง

 


สวนสัตว์และแคมป์ ซาฟารี จ.กาญจนบุรี

โครงการที่ 8 โปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตรทุกฤดูเดินทาง โดย ททท.สำนักงานโซล เกาหลี นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่คนเกาหลีนิยม ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เน้นช่วงโลว์ซีซั่นจะจับมือกับ สายการบิน บริษัทจัดนำเที่ยว ตัวแทนขายท่องเที่ยวออนไลน์  และแพลตฟอร์มออนไลน์ หน่วยงานพันธมิตร รุกกระตุ้น 2 ตลาดหลักคือ กลุ่มแรก ได้รางวัลเดินทางฟรี (Incentive) เข้ามาไทยช่วงเมษายน - มิถุนายน 2568 กลุ่มสอง นักท่องเที่ยวระดับกลางถึงบน ทั้งกลุ่มครอบครัว และกลุ่มวัยทำงานตอนต้น เข้ามาไทยช่วงกรกฎาคม – กันยายน 2568

ระหว่างนี้ ททท.แต่ละสำนักงานได้นำนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมกิจกรรมในไทย เช่น เดือนหนีหน่าว มันธ์ ความสัมพันธ์ไทย-จีน จัดกอล์ฟเอเย่นต์พบผู้ประกอบการภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ และอินเซ็นทีฟเกาหลี 1,000 คน มาเล่นกอล์ฟที่เชียงใหม่ หรือทำกิจกรรมหลังน้ำท่วมสำรวจที่ภาคเหนือช่วงก่อนสิ้นปี 2567

นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวถึงการใช้กลยุทธ์นำเอกชนไทยเข้าร่วมเทรดโชว์และโร้ดโชว์ตลาดต่างประเทศ รายการใหญ่ ๆ เริ่มปลายปี 2567 ได้แก่ 1.ไอทีบี เอเชีย ระหว่าง 23-25 ตุลาคม 2567 ที่สิงคโปร์ 2.งาน ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แทรเวล มาร์ท :CITM 2024 ปลายเดือนพฤศจิกายน  ที่เซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน 3.อินเตอร์เนชั่นแนล แฟร์ ไต้หวัน ปลายพฤศจิกายนนี้

ปี 2568 จะเดินทางเข้าร่วมโร้ดโชว์ในเอเชีย และแปซิฟิกในแต่ละเดือนรวมทั้งหมด  13 งาน ประกอบด้วย

 


สยามพารากอน แหล่งช้อปปิ้งในไทยโด่งดังไปทั่วโลก

เดือนกุมภาพันธ์ 3 งาน คือ 1.อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โร้ดโชว์ ทู มาเลเซีย แอนด์ อินโดนีเซีย Amazing Thailand 2025 ต่อด้วย อินเดีย 2 งาน คือ 2. Outbound Travel Mart 2025 ที่มุมไบ 3.South Asia’s Travel &Tourism Exchange 2025 ที่นิวเดลี

 

เดือนมีนาคม 2 งาน คือ 4. อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โร้ดโชว์ ทู ฮ่องกง &ไต้หวัน 2025 และ 5.อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โร้ดโชว์ ทู ไชน่า 2025

 

เดือนเมษายน 3 งาน คือ 5.งานไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ทัวริสซึ่ม แฟร์ ที่จีน และ 6.เอ็กซโป2025, โอซาก้า เจแปน ที่ญี่ปุ่น และ 6. อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โร้ดโชว์ ทู เวียดนาม 2025

 

เดือนพฤษภาคม 4 งาน เป็น อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โร้ดโชว์ 2025 ทั้งหมดใน 4 ประเทศ คือ  7.อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โร้ดโชว์ ทู  ออสเตรเลีย 8.เกาหลี 9.ไชน่า(สาธารณรัฐประชาชนจีน) และ 10. เจแปน(ญี่ปุ่น)

 

เดือนกรกฎาคม 1 งาน คือ 11.อะเมซิ่ง ไทยแลนด์  โร้ดโชว์ ทู อินเดีย 2025

 

เดือนกันยายน ปิดท้าย 2 งาน คือ 12. อินเตอร์เนชั่นแนล แทรเวล เอ็กซโป โฮจิมินห์ ซิตี้ ที่เวียดนาม และ 13. Tourism Expo Japan 2025 ที่ญี่ปุ่น

 

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์เปิดTimeValléeแห่งแรกในไทย&เอเชีย

 

 

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  เปิดเผยว่า นับเป็นก้าวสําคัญของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวที่ได้นำ Luxury Watch Retail Experience ระดับโลกมาสู่ใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมจับมือกับไทม์ วัลเลย์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ เปิดแฟล็กชิปบูทีก “TimeVallée Bangkok King Power Rangnam -ไทม์ วัลเลย์ กรุงเทพ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ แห่งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ คิง เพาเวอร์    รางน้ำ ยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งระดับเวิลด์คลาสให้ลูกค้า ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักสะสมนาฬิกา และนักลงทุนรุ่นใหม่  ก้าวสู่จุดหมายปลายทางคนรักนาฬิกาหรูในเมืองไทย

 

@เปิดเวิลด์คลาสสวิตเซอร์แลนด์แห่งใหม่ในคิงเพาเวอร์รางน้ำ

 

คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พร้อมจะเนรมิตรอาณาจักรใหม่แห่งเรือนเวลาเวิลด์คลาสจากสวิตเซอร์แลนด์ สร้างนิยามใหม่ในการช้อปปิ้งเหนือระดับโดยผสานความล้ำค่าทางวัฒนธรรมเข้ากับความหรูหราร่วมสมัยสุดพรีเมียม ด้วยการนำเสนอเอกลักษณ์จากการรังสรรค์เรือนเวลาชั้นสูงบนพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 447 ตารางเมตร ดีไซน์พื้นที่ทอดยาวต่อเนื่อง 34 เมตร พร้อมพื้นที่บริเวณทางเข้าสโตร์รองรับการจัดกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งปี ด้านในเป็นโซนจัดแสดงแบรนด์ชั้นนำของโลกทั้ง Baume & Mercier, Cartier, IWC Schaffhausen, Jaeger-LeCoultre, Panerai, Piaget, Roger Dubuis และ Vacheron Constantin แต่ละแบรนด์จัดแสดงตามรูปแบบแตกต่างกัน เผยให้เห็นเอกลักษณ์อันล้ำค่าและหัตถศิลป์โดดเด่นเฉพาะตัวต่างกันไป  ตอบโจทย์คนรักนาฬิกาโดยเฉพาะทุกสไตล์

 

@บริการห้องรับรองพิเศษอย่างมืออาชีพ L’Atelier 

               

แล้ว คิง เพาเวอร์ ยังได้จัดให้มีห้องรับรองพิเศษ VIP Salon ชื่อว่า L’Atelier เพื่อมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งสุดพิเศษและเป็นส่วนตัว โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยได้ผสานความเชี่ยวชาญธุรกิจนาฬิกาลักซ์ชัวรี่ รวมเข้ากับประสบการณ์ความเข้าใจตลาดในไทยของคิง เพาเวอร์ ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยว กว่า 35 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2532 จึงสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้ไทม์วัลเลย์เติบโตอย่างแข็งแกร่งในไทย

               

                สำหรับไทม์ วัลเลย์ แฟล็กชิปบูทีกสาขาล่าสุด ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ในกรุงเทพฯ มุ่งปูทางขยายสาขาต่อไปยังแคนาดาและเกาหลีใต้ในอนาคต หลังจากก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จมาแล้วในญี่ปุ่น อินเดีย และสหรัฐอเมริกา

 

@TimeValléeสวิตเซอร์แลนด์แห่งแรกในไทย1ใน50สาขาโลก

 

สำหรับ TimeVallée คือศูนย์รวมนาฬิกาหรูระดับโลกจากหลากหลายแบรนด์ มาเปิดครั้งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เพื่อมอบประสบการณ์การเลือกซื้อนาฬิกาชั้นนำท่ามกลางบรรยากาศและบริการแบบเหนือระดับ ก่อตั้งเมื่อปี 2557 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ชูคอนเซปต์การออกแบบบูทีกให้เป็นพื้นที่นำทางผู้หลงใหลนาฬิกา เข้าสู่การเดินทางเพื่อค้นหา เรียนรู้ แบ่งปัน ตลอดจนเปิดประสบการณ์อันหลากหลายในโลกแห่งเรือนเวลา ด้วยการผสานอดีตอันล้ำค่าเข้ากับความหรูหราล้ำสมัย ปัจจุบันดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตรชั้นนำมากมาย ทั่วโลกมีสาขามากถึง 50 แห่ง

 

ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์ชวนช้อปวันนี้-23 ต.ค.รับไปเลย 6 ได้

 

คิง เพาเวอร์ ชวนคนมีไฟลต์รีบช้อปด่วน 18 - 23 ตุลาคม 2567 เซลดีที่สุด 6 วันเท่านั้น#ช้อปเดือนเกิดคิงเพาเวอร์ดีที่สุด สมาชิกฯ คุ้มได้หลายต่อ!

 

ได้ที่ 1 โบนัส! ลดสูงสุด 30% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ พร้อมสะสมยอดช้อปเป็น 35 Top Spenders

 

ได้ที่ 2 โบนัสพิเศษ!  สมาชิกฯ NAVY, SCARLET และ ONYX รับ GIFT CARD มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท  ส่วนสมาชิกฯ VEGA และ CROWN รับเอ็กซคลูซีฟทริปเพื่อการเดินทาง 2 คน เมื่อมียอดช้อปขั้นต่ำครบตามเงื่อนไข

 

ได้ที่ 3 คุ้มทุกการช้อป! รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 35% เมื่อช้อปผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

 

ได้ที่ 4 กิฟต์! รับเอ็กซคลูซีฟ แบ็ก กระเป๋าผ้าออกแบบโดย 2 Artists ชื่อดัง GONGKARN และ SUNTUR เพียงช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป(สุทธิ) ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ รับ 1 สิทธิ์ ร่วมกิจกรรม CeleBestion Lucky Box  แลกรับ Exclusive Bag หรือ Lucky Box หรือที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต แลกรับ Exclusive Bag มีจำนวนจำกัดให้คนละ 1 สิทธิ์ /วัน

 

ได้ที่ 5 ลุ้นรถยนต์ Lexus ทุกบิล! เมื่อช้อปครบทุก 5,000 บาท*(สุทธิ) ได้รับ 1 สิทธิ์ ลุ้นเป็นเจ้าของรถยนต์ LEXUS รุ่น LBX Premium สุดหรู มูลค่า 2,390,000 บาท และของรางวัลอื่นๆเพียบ!

พิเศษ! สมาชิกฯ ใหม่ SCARLET ได้ลุ้น 2 สิทธิ์*! เมื่อสมัครและช้อปภายในวันที่สมัคร ถ้ายังไม่เป็นสมาชิกฯ สมัคร SCARLET คุ้มสุด!

 

ได้ที่ 6 ไฟล์ตบิน! คูปองเงินสด 3,000 บาท นำไปใช้เป็นส่วนลดซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบิน “คาเธย์ แปซิฟิก” ทุกเส้นทาง

 

พิเศษ! เมื่อสมัครที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ รับเพิ่ม! AIS SIM2Fly 5G (จำกัด 350 ท่านแรก*)  และ BEST TASTE SMOOTHIE รสชาติพิเศษจาก 3 ศิลปิน 1 แก้ว

 

พร้อมรับโปรฯพิเศษอื่นๆอีกเพียบ 18 ตุลาคม 2567 - 23 ตุลาคม 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต

 

ข่าวที่ 3 -คิงเพาเวอร์ควงน้องเนยทำหมอนรองคอมีฮู้ดสุดคิวท์

 

คิง เพาเวอร์ นำเสนอความน่ารักของ “น้องเนย” หมีน่ารักแสนซนมาพร้อมกับเพื่อนใหม่ และคอลเลคชัน #PastelCreativeWearxButterbear เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “หมอนรองคอแบบมีฮู้ด” สุดน่ารัก ให้น้องเนยมอบความอบอุ่นให้ได้ทุกที่ทุกเวลา มาเจอน้องเนยแล้วมาจองหมอนรองคอน้องเนยกัน ในวันที่ 18 ตุลาคม นี้

 

เปิดพรีออเดอร์แบบออฟไลน์ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เท่านั้น!!จำนวนหมอนรองคอราคาพิเศษ มีจำนวนจำกัด

พิเศษสุดๆ  พรีออเดอร์หมอนรองคอน้องเนยภายในงาน จะได้รับส่วนลด 100 บาท โดยนำใบจองสินค้า ไปใช้เป็นส่วนลดซื้อสินค้า Pastel Creative Wear x Butterbear ที่ช่องทาง Facebook และ Line @PastelCreative

 

เมื่อซื้อสินค้า Pastel Creative Wear x Butterbear   คอลเลคชันอื่นๆที่จะมีมาเซอร์ไพรส์อีกเพียบ  เพียงซื้อครบ 1,000 บาท ก็รับส่วนลดไปเลย 100 บาท

  

ข่าวที่ 4 -ท่องเที่ยว10เดือนโกยเงินต่างชาติ1.27ล้านล้าน

 

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สรุปสถานการณ์ภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยเข้าสู่เดือนที่ 10 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 13 ตุลาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาตินำเงินมาใช้จ่ายสร้างรายได้หลั่งไหลเข้าประเทศแล้ว 1,270,462 ล้านบาท มีจำนวนยอดสะสมรวมทั้งหมด 27,218,869 คน เพิ่มขึ้น 30 % สถิติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 สาธารณรัฐประชาชนจีน 5,474,502 คนอันดับ 2 มาเลเซีย 3,905,682 คน อันดับ 3 อินเดีย 1,606,060 คน อันดับ 4 เกาหลีใต้ 1,446,748 คน และ อันดับ 5 รัสเซีย 1,205,879 คน

 

คาดการณ์สัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 14-20 ตุลาคม 2567 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น จากแรงหนุน 3 ปัจจัย ได้แก่

 

ปัจจัยที่ 1 ตลาดระยะไกล (Long haul) สถานการณ์เดินทางของนักท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาต่อเนื่องสอดคล้องกับการเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นฤดูท่องเที่ยวไฮซีซั่น

 

ปัจจัยที่ 2 นโยบายรัฐบาลไทยยังใช้มาตรการ Ease of traveling เพิ่มความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย ผนวกกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขยายมาตรการยกเว้นบัตร ตม.6 ด่านทางบกและทางน้ำ

 

ปัจจัยที่ 3 แผนตลาดกระตุ้นและส่งเสริมสายการบินนานาชาติเพิ่มความถี่ เส้นทาง จุดบิน เข้ามายังไทยเพิ่มมากขึ้น

 

ส่วนการเดินทางสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 7-13 ตุลาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยรวมทั้งสิ้น 575,415 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อน  (30 กันยายน- 6 ตุลาคม 2567 ) 62,744 คน 9.83 % เดินทางเฉลี่ยวันละ 82,202 คน โดยมีสัญญาณที่เป็นแรงส่งและแรงฉุดดังนี้

 

กลุ่มแรก นักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล (Long haul) ฟื้นตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมีผู้เดินทางมาไทย 166,052 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 4.92 % ด้วยปัจจัยบวกสนับสนุนสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซัน

 

กลุ่มสอง นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) มีแรงฉุด จึงเดินทางมาไทยลดลงจากสัปดาห์ก่อน 14.70 % ด้วยปัจจัยลบ สาธาณรัฐประชาชนจีน และเกาหลีใต้ 2 ตลาดใหญ่สิ้นสุดการเดินทางท่องเที่ยววันหยุดต่อเนื่องแล้ว

 

ตลอดสัปดาห์ที่ 9-13 ตุลาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเปอร์เซนต์ลดลง 4 ประเทศ เพิ่มขึ้นเพียง 1 ประเทศ โดยเข้ามาสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 สาธารณรัฐประชาชนจีน 86,455 คน ลดลง 46.13 %  อันดับ 2 มาเลเซีย 85,595 คน เพิ่มขึ้น 0.42 %  อันดับ 3 อินเดีย 37,630 คน ลดลง 0.23 % อันดับ 4 เกาหลีใต้ 30,733 คน ลดลง 18.13 %  อันดับ 5 รัสเซีย 24,437 คน ลดลง 1.02 %

 

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะได้รวบรวมข้อมูลหลังจากที่หารือกับทุกฝ่ายทั้งหมดแล้ว จะเร่งช่วยให้ตรงประเด็นมากที่สุด พร้อมจะนำไปเสนอรัฐบาลพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือทันที เตรียมจัดทำโครงการเร่งด่วน “แอ่วเหนือ คนละครึ่ง” นำร่อง 2 จังหวัด คือเชียงใหม่และเชียงราย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นผู้รับผิดชอบเตรียมโครงการไว้โดยจะให้เงินสนับสนุนนักท่องเที่ยว 400 บาท จาก 800 บาท/คน/ทริป ในจำนวน 10,000 คน ปลายปี 2567 จะทำแพ็คเกจส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบเร่งด่วน หากเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ประชาชนและผู้ประกอบการโดยเห็นผลชัดเจน ก็จะเสนอรัฐบาลยกระดับขยายผลขึ้นไปอีกกระจายจัดตามพื้นที่ท่องเที่ยวอันเหมาะสมต่อไป

 

สอดคล้องกับที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวประสานเป็นเสียงเดียวกันจะเร่งฟื้นฟูกลับมาเปิดบริการได้ทันฤดูเดินทางท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ซึ่งทาง ททท. ได้จัดทำแผนกิจกรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่น่าสนใจและตลอดช่วงปลายปี 2567 ควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากการท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลไกหลักสร้างรายได้ให้กับพื้นที่เชียงใหม่ เชียงราย และอีกหลายจังหวัดของไทย

  

ข่าวที่ 5 -บางจากMOUมทร.อีสาน17แห่งร่วมผลิตน้ำมันSAF

 

นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด เปิดเผยว่า นำบางจากร่วมกับภาคี 4 พันธมิตรทำพิธีลงนามความร่วมมือและเปิดโครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพจากน้ำมันทอดซ้ำ นำมาใช้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF : Sustainable Aviation Fuel) และต่อยอดลงนามร่วมกับเครือข่าย 17 หน่วยงาน โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น (มทร.อีสาน) เป็นประธาน ร่วมลงนามกับ นายธนวัฒน์ ลินจงสุบงกช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนโชคน้ำมันพืช (2012) จำกัด นายจิตรเทพ เนื่องจำนงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรีน เวิลด์ ยูซีโอ จำกัด

 

โดยเชิญชวนสถานประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและสถาบันการศึกษาเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในโครงการ ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมาวิทยาลัยเทคนิคสว่างแดนดิน วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี และวิทยาลัยการอาชีพขอนแก่น เพื่อส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาและอันตรายต่อสุขภาพจากน้ำมันทอดซ้ำและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการจัดเก็บและนำไปผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) สร้างความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำมันใช้แล้วจากทุกหน่วยงาน ผลักดันสู่การเป็นพื้นที่สีเขียว

 

นายธรรมรัตน์ กล่าวว่าได้ใช้พิธีดังกล่าวร่วมปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ทิศทางและแนวทางการพัฒนาเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ประเทศไทย” โดยผู้บริหารร่วมบรรยายพิเศษด้วย ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นจำนวนมาก ช่วยย้ำให้ตระหนักถึงพิษหรือโทษของใช้น้ำมันทอดซ้ำ การรักษาสุขภาพและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี จึงเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนหันมาร่วมมือกันรวบรวมน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วนำมาขายให้ทาง กลุ่มบริษัทบางจาก ผ่านบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด เพื่อนำไปใช้การผลิต SAF เชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ เพื่อโลกยั่งยืน ในอนาคตต่อไป

  

ข่าวที่ 6 -TCEBขยับ5ผู้บริหารใหม่รวมพลังไมซ์ 2 แสนล้าน

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้อนุมัติแต่งตั้งโยกย้ายโครงสร้างใหม่ทีมผู้บริหารระดับสูงเพื่อหมุนเวียนเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมกับสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ทีมบริหารได้เรียนรู้องค์กร รวมพลังจะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์นำรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประเทศปี 2568 ที่จะต้องขยายการเติบโตในภาพรวมให้ได้เกิน 200,000 ล้านบาท จึงได้ปรับใหม่มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 รวม 7 ตำแหน่ง ประกอบด้วย “รองผู้อำนวยการ” 3 ตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิ 1 ตำแหน่ง และ “ผู้อำนวยการฝ่าย” 3 ตำแหน่ง ดังนี้

 

นางนิชาภา ยศวีร์ ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ ทีเส็บ กำกับดูแลงานด้านการตลาดและสร้างพันธมิตรภายในประเทศ

 

นายภูริพันธ์ บุนนาค ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ ทีเส็บ กำกับดูแลงานด้านการตลาดและสร้างพันธมิตรในต่างประเทศ

 

นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ ทีเส็บ กำกับดูแลงานบริหารและพัฒนาองค์กร รวมถึงประสานงานภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ดำรงตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิ ทีเส็บ กำกับดูแลงานด้านการพัฒนานวัตกรรม

 

นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับผู้อำนวยการฝ่าย ดังนี้

นางสาวปาริฉัตร เศวตเศรนี ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ

 

นางหริสุดา บุญยวัฒน์ ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายไมซ์อินเทลลิเจนซ์และนวัตกรรม

 

นางสาวนุช หอมรสสุคนธ์ ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร

 

ทีเส็บ เตรียมพร้อมสานต่อความเชี่ยวชาญที่หลากหลายและมุมมองใหม่ ๆ มุ่งเน้นพัฒนาและขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์ที่ทันสมัย ยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางแห่งเอเชียต่อไป

  

            ช่วงที่ 2  ได้เวลาทำโปรแกรมออกเที่ยวเมืองไทย ไปสุขทันทีเทศกาล “เที่ยวพิมาย” 5 วัน 5 คืน 6-10 พ.ย.นี้ ที่อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ลำน้ำจักราช หน้าทางเข้าประสาทหินพิมาย กับกิจกรรม 4 สุข แล้วฟัง “4อาหารคลายซึมเศร้า” มีงานวิจัยยันช่วยได้จริง และข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “การบินไทยเปิดฤดูหนาว67/68” บินทั่วโลก 64 เส้นทาง ในประเทศ 217 เที่ยว/สัปดาห์ ข่าวที่สอง “สิงคโปร์แอร์ไลน์ส” จัดโปรดี Time to Fly ตั๋วบินถูกแถมส่วนลดห้อง แหล่งท่องเที่ยวเพียบ

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวพิมายเทศกาลความสุขแสงแห่งศรัทธา 6-10 พ.ย.67

เตรียมตัวเช็คพิกัดความสุขทันทีเมื่อได้ไปร่วมเทศกาล “เที่ยวพิมาย” อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา การท่องเที่ยวเชิงศรัทธา และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่มีความหลากหลายให้ได้ชมพร้อม ๆ กัน ตลอด 5 วัน 5 คืน ช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี ปีนี้จัดระหว่างวันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2567

 

ปักหมุดในพื้นที่จัดงานหลัก ๆ “เที่ยวพิมาย” จะอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย บริเวณลำน้ำจักราช และ หน้าทางเข้าปราสาทหินพิมาย

 

ปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา พร้อมจะนำนักท่องเที่ยวเข้าสู่ภาพจำแสนประทับใจ กับประสบการณ์มุมใหม่ ๆ สุขทันที 4 รายการ

 

สุขที่ 1 “การแสดง แสง สี เสียง” สุดยิ่งใหญ่ตระการตานำเสนอผ่านสื่อผสม ถ่ายทอดเล่าเรื่องราวความเป็นมาของอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย โดยมีเหล่าอัปสราร่ายรำบนเวทีกลางปราสาทหินอายุนับพันปี

 

สุขที่ 2 งานแข่งเรือยาวประเพณีชิงชนะเลิศถ้วยพระราชทานฯ การแข่งขันเรือยาวประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  สนุกเร้าใจไปกับเสียงเชียร์ก้องลำน้ำกับงานประเพณีที่มีมาอย่างยาวนาน

 

สุขที่ 3 เดินตลาดย้อนยุคโบราณ บรรดาพ่อค้าแม่ขายนำสินค้าพื้นเมือง อาหารพื้นบ้าน และผลิตภัณฑ์ชุมชน มาให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มรสอาหารพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เมนูต้องลองอย่าง คั่วหมี่พิมาย ข้าวเม่าพิมาย หมี่อ่อนพิมาย 

 

สุขที่ 4 ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และกิจกรรมวิถีชีวิตท้องถิ่นพร้อมมอบประสบการณ์ความสุขต่อเนื่องตลอดเทศกาลท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น การแสดงคอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา กิจกรรมสันทนาการเติมความสนุกมากมาย

 

สุขภาพ –4 อาหารต้านซึมเศร้ามีงานวิจัยยืนยันช่วยได้จริง

 

ตอนนี้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนแปลงไป การเลือกกินอาหารจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องคัดกรอง ศึกษา หาความรู้ไว้บ้างก็ดี อย่างอาหารออกฤทธิ์ต้านซึมเศร้า สมุนไพร เช่น หญ้าฝรั่น มีประโยชน์มาก ๆ ในการช่วยลดอาการเหวี่ยงวีนในกลุ่มผู้ที่มีอาการพีเอ็มเอส แล้วนักวิจัยต่าง ๆ มีข้อมูลแนะนำอาหารจะออกฤทธิ์ต้านซึมเศร้า 4 อย่าง

 

1. ชาเขียว การดื่มชาเขียวช่วยลดความวิตกกังวล จากการศึกษาใน Phytomedicine เมื่อปี 2560  นักวิจัยระบุว่า เป็นผลมาจาก แอล-ทีอะนีนและคาเฟอีน การดื่มชาเขียวยังดีต่อสมอง ช่วยในเรื่องสมาธิ ความจำอีกด้วย

 

2. พริกแดง อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 นักวิจัยแนะว่า ผู้หญิง (โดยเฉพาะผู้หญิงวัยกลางคนและสูงอายุ) ที่กินอาหารที่มีวิตามินบี 6 ต่ำ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าระดับรุนแรงสูง อ้างอิงจากการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Nutrients ในเดือนพฤศจิกายน 2563

 

3. โยเกิร์ต ด้วยโพรไบโอติกส์และวิตามินดี (ที่มีมากในโยเกิร์ต) นั้นให้ประโยชน์ด้านอารมณ์ ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Progress in Neuro-psychopharmacology & Biological Psychiatry ปี 2018 ระบุว่า โพรไบโอติกส์และวิตามินดี ช่วยให้อาการซึมเศร้าดีขึ้นและลดอาการวิตกกังวล

 

4. ผลไม้ตระกูลส้ม ในงานวิจัยเดือนมกราคม 2563 วารสาร Nutrients นักวิจัยระบุว่า ผลไม้ตระกูลส้มให้ผลดีต่ออารมณ์และจิตใจ ผู้ที่ชอบกินผลไม้ประเภทส้ม มะนาว เกรปฟรุ้ต มักมีความเครียดที่ต่ำว่า และยังมีแนวโน้มวิตกกังวลและซึมเศร้าน้อยกว่าด้วย

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –บินไทยเปิดบินฤดูหนาวปี67/68ทั่วโลก64เส้นทาง

 

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า วางกลยุทธ์บริการบินขนส่งผู้โดยสารช่วงตารางการบินฤดูหนาว เริ่ม 27 ตุลาคม 2567 – 29 มีนาคม 2568 โดยได้เพิ่มความถี่และเส้นทางยอดนิยมตามเทรนด์ของนักเดินทางนานาชาติ ครอบคลุมทั่วโลก 64 เส้นทาง ดังนี้

 

“ยุโรปและออสเตรเลีย” บินรวม 14 เส้นทาง ประกอบด้วย ยุโรป 11 เส้นทาง จากกรุงเทพฯ สู่ปลายทางซึ่งมีเที่ยวบินวันละ 1 เที่ยว หรือ 7 เที่ยว/สัปดาห์ ได้แก่ “มิวนิก” เยอรมัน “ซูริก”สวิตเซอร์แลนด์ วัน 1 เที่ยว หรือ 7 เที่ยว/สัปดาห์  “ปารีส” ฝรั่งเศส  “มิลาน” อิตาลี “บรัสเซลส์” เบลเยี่ยม เริ่มบิน 1 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป “อิสตันบูล” ตุรกี “สตอกโฮล์ม” สวีเดน “โคเปนเฮเกน” เดนมาร์ก  “ออสโล” นอร์เวย์  และ เส้นทางที่บินวันละ 2 เที่ยวหรือ 14 เที่ยว/สัปดาห์ ได้แก่ แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมัน และลอนดอน อังกฤษ/สหราชอาณาจักร

 

ส่วน “ออสเตรเลีย” 3 เส้นทาง ได้แก่ “เพิร์ท” วันละ 1 เที่ยว หรือ 7 เที่ยว/สัปดาห์ และเมลเบิร์น กับ ซิดนีย์ วันละ 2 เที่ยวหรือ 14 เที่ยว/สัปดาห์ เมลเบิร์น ทำการบินทุกวัน สัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน

 

@เส้นทางบินเอเชียสุดฮ็อตมีบริการมากสุด 42 เส้นทาง

 

“เอเชีย” บินรวม 42 เส้นทาง ประกอบด้วย จากกรุงเทพฯ สู่ปลายทาง “ญี่ปุ่น”  6 เส้นทาง 5 เมือง ได้แก่ บินวันละ 1 เที่ยว ไปยัง 2 เมือง คือ ซัปโปโร กับฟุกุโอกะ บินวันละ 2 เที่ยว หรือ14 เที่ยว/สัปดาห์ไปยัง 2 เมือง คือ โตเกียว (นาริตะ) วัน 3 เที่ยว 21 เที่ยว/สัปดาห์ โตเกียว (ฮาเนดะ) และโอซากา ส่วนนาโกยา บินทุกวัน รวม 11 เที่ยว/สัปดาห์

 

“กรุงโซล”  เกาหลีใต้  “ไทเป” ไต้หวัน วันละ 3 เที่ยว หรือ21 เที่ยว/สัปดาห์ “เกาสง” ไต้หวัน วัน 1 เที่ยว “ฮ่องกง” ทำวัน 4 เที่ยว 28 เที่ยว/สัปดาห์

 

สาธารณรัฐประชาชนจีน บินทุกวันไปยัง 5 เส้นทาง ได้แก่ “ปักกิ่ง” บินทุกวัน 10 เที่ยว/สัปดาห์ “เซี่ยงไฮ้” บินทุกวัน 11 เที่ยว/สัปดาห์ “กวางโจว” 7 เที่ยว/สัปดาห์ “เฉิงตู” 7 เที่ยว/สัปดาห์ “คุนหมิง” 7 เที่ยว/สัปดาห์

 

“สิงคโปร์”  วัน 5 เที่ยว หรือ 35 เที่ยว/สัปดาห์ มาเลเซีย บิน 2 เส้นทาง ไปยัง “กัวลาลัมเปอร์” 14 เที่ยว/สัปดาห์  “ปีนัง” 7 เที่ยว/สัปดาห์ ฟิลิปินส์ ไปยัง  “มะนิลา” วันละ 2 เที่ยว 14 เที่ยว/สัปดาห์ อินโดนีเซีย บิน 2 เส้นทาง สู่เมืองจาการ์ตา และ เดนปาซาร์ เส้นทางละ 14 เที่ยว/สัปดาห์

 

ประเทศกลุ่ม CLMV คือ กัมพูชา 2 เส้นทาง บินสู่เมือง “เสียมราฐ” 7 เที่ยว/สัปดาห์ “พนมเปญ” 14 เที่ยว/สัปดาห์ “เวียงจันทน์” สปป.ลาว บินทุกวัน  14 เที่ยว/สัปดาห์ เวียดนาม บิน 3 เส้นทาง สู่เมือง “โฮจิมินห์” 14 เที่ยว/สัปดาห์ “ฮานอย” 14 เที่ยว/สัปดาห์ และ เมียนมาร์ สู่เมืองย่างกุ้ง 14 เที่ยว/สัปดาห์

 

@อินเดียมาแรงปักหมุดขยายเครือข่ายบินบริการ 9 เมือง

 

“อินเดีย” บินทุกวันมี 9 เส้นทาง สู่ “เดลี” 22 เที่ยว/สัปดาห์ “มุมไบ” 11 เที่ยว/สัปดาห์ ส่วนอีก  6 เมือง คือ กัลกัตตา อาห์เมดาบัด เบงกาลูรู ไฮเดอราบัด เจนไน คยา บินเส้นทางละ 7 เที่ยว/สัปดาห์

 

สำหรับ “โกชิ” อินเดีย บิน 5 เที่ยว/สัปดาห์ ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 จะเพิ่มอีก 2 เที่ยว/สัปดาห์ รวมเป็น 7 เที่ยว/สัปดาห์

               

“ธากา” บังกลาเทศ บินทุกวัน 14 เที่ยว/สัปดาห์ “กาฐมาณฑุ” เนปาล บินทุกวัน สัปดาห์ละ 14 เที่ยว/ปสัดห์ “โคลัมโบ” ศรีลังกา บินทุกวัน 7 เที่ยว/สัปดาห์ 

 

ปากีสถาน บินทุกวัน มี 3 เส้นทาง คือ “ละฮอร์” 6 เที่ยว/สัปดาห์ ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันจันทร์ อังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ และ “อิสลามาบัด” 4 เที่ยว/สัปดาห์ ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และเสาร์ “การาจี” 5 เที่ยว/สัปดาห์ ออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์

 

@บินในประเทศ “เหนือ-อีสาน-ใต้” 8เส้นทาง217เที่ยว/สัปดาห์

 

ขณะที่ “เส้นทางภายในประเทศ”  การบินไทยมีบริการบินครอบคลุม ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ รวม 8 เส้นทาง/จังหวัด217 เที่ยว/สัปดาห์ ไป-กลับ กรุงเทพฯ สู่จังหวัดปลายทาง ดังนี้

 

“ภาคเหนือ” 2 เส้นทาง/จังหวัด 56 เที่ยว/สัปดาห์ สู่ “เชียงใหม่” วันละ 5 เที่ยว หรือ 35 เที่ยว/สัปดาห์ “เชียงราย” วันละ 3 เที่ยว หรือ 21 เที่ยว/สัปดาห์

 

“ภาคอีสาน” 3 เส้นทาง/จังหวัด 63 เที่ยว/สัปดาห์ สู่ “ขอนแก่น” วันละ 4 เที่ยว หรือ 28 เที่ยว/สัปดาห์ “อุดรธานี”  วันละ 3 เที่ยว หรือ 21 เที่ยว/สัปดาห์ “อุบลราชธานี” วันละ 2 เที่ยวหรือ 14 เที่ยว/สัปดาห์

 

“ภาคใต้” 3 เส้นทาง/จังหวัด 98 เที่ยว/สัปดาห์ สู่ “ภูเก็ต” บินทุกวัน 63 เที่ยว/สัปดาห์ “กระบี่” วันละ 2 เที่ยว หรือ 14 เที่ยว/สัปดาห์ “หาดใหญ่”(สงขลา) วันละ 3 เที่ยว หรือ21 เที่ยว/สัปดาห์

 

ข่าวที่สอง -สิงคโปร์แอร์ไลน์สเทโปรตั๋วบินทั่วโลกTIME TO FLY

 

สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส รายงานว่า พร้อมเสนอโปรโมชั่น TIME TO FLY TRAVEL FAIR พร้อมตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษและสิทธิประโยชน์มากมาย เริ่มวันนี้ 17 ตุลาคม- 3 พฤศจิกายน 2567 พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษให้ผู้โดยสารจากเมืองไทยเลือกเดินทางกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์สสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยมประเทศต่าง ๆ ไฮไลต์ 6 เส้นทาง ได้แก่ สิงคโปร์ นาโกย่า/ญี่ปุ่น ซิดนีย์/ออสเตรเลีย ปารีส/ฝรั่งเศส ลอนดอน/อังกฤษ ลอสแอนเจลิส/สหรัฐอเมริกา และจุดหมายปลายทางอื่น ๆ เครือข่ายการบิน

 

เปิดให้จองซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษทางเว็บไซต์ singaporeair.com แอปพลิเคชั่นมือถือ SingaporeAir หรือผ่านตัวแทนการท่องเที่ยวที่ได้รับการแต่งตั้งภายใน 3 พฤศจิกายน 2567

 

จัดเต็มโปรโมชั่น TIME TO FLY TRAVEL FAIR สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เปิดขายตั๋วโดยสารราคาพิเศษ ทั้งที่นั่งชั้นธุรกิจ ชั้นประหยัดพิเศษ และชั้นประหยัด โดยมีพันธมิตรเข้าร่วมทั้งบัตรเครดิต แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วสามารถตรวจสอบเพื่อสิทธิต่าง ๆ กับพันธมิตร 5 กลุ่ม พร้อมมอบความพิเศษเพิ่มให้นักเดินทางดังนี้

 

กลุ่มที่ 1 บัตรเครดิต - ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารชั้นธุรกิจ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ เมื่อมียอดใช้จ่ายสูงสุดกับบัตรเครดิตยูโอบีคริสฟลายเออร์ที่ใช้จ่ายทาง singaporeair.com หรือแอปพลิเคชั่นมือถือ SingaporeAi รับเครดิตเงินคืนผู้ถือบัตร UOB CardX และ KTC2

 

กลุ่มที่ 2 ที่พัก -จ่ายที่พักราคาพิเศษประเภทห้องเดี่ยวหรือคู่ ที่ Changi Cove สิงคโปร์ 120 ดอลลาร์สิงคโปร์สุทธิ/ห้อง/คืน/ห้อง และที่ มารีน่าเบย์ แซนด์ส รีสอร์ต ดอลลาร์ มูลค่าสูงถึง 130 ดอลลาร์สิงคโปร์ เข้าพักที่ครอส โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส ลดสูงสุด 30%

 

กลุ่มที่ 3 ช้อปปิ้ง - รับบัตรกานัลจากศูนย์การค้า Takashimaya สิงคโปร์ มูลค่า 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ ส่วนลดช้อปที่คิง เพาเวอร์ ของไทย สูงสุด 20%

 

กลุ่มที่ 4 ห้องอาหาร- โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ ลด 15 % ที่ห้องอาหารซุยเซียน กับบุฟเฟ่ต์ติ่มซามื้ออาหารกลางวัน วันจันทร์-เสาร์

 

กลุ่มที่ 5 แหล่งท่องเที่ยว -บริการท่องเที่ยว ทัวร์ บัตรเข้าสถานที่ บน Pelago รับส่วนลดสูงสุด 50%  รับบัตรเข้าสวนน้ำ Adventure Cove Waterpark ที่เซนโทซ่า สิงคโปร์  และรับบัตรเข้า เบิร์ด พาราไดส์ ที่สิงคโปร์

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง