สนั่น อังอุบลกุล
ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
เปิดมุมมอง“สนั่น
อังอุบลกุล”ประธานหอการค้าไทย
ปลื้มTCEBดึงทั่วโลกบูมมหกรรมพืชสวนโลกอุดรปี’69
รายได้สะพัด6.7หมื่นล้านขยาย“การค้า/การลงทุน”ใหม่
ช้อปเดือนเกิดคิงเพาเวอร์โค้งสุดท้ายรับรัวๆ
ถึง 5 ได้
สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์มีดีลพิเศษส่วนลดสูงสุด20%
พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดA Love Story Weddingรับ5ต่อ
สรวงศ์-ททท.ลุยเทรดโชว์ITB Asia2024ไทยฮับอาเซียน
บางจาก-BAFSเปิดท่อส่งSAFเข้าสุวรรณภูมิ/ดอนเมือง
TCEBรับรางวัลสมาชิกICCA50ปีไมซ์ไทยในตลาดโลก
สุขทันทีเที่ยววิจิตรเจ้าพระยา4พิกัด15 พ.ย.-16 ธ.ค.นี้
3แนวเลือกกิน “อาหารโลว์คาร์บอน” ช่วยลดโลกร้อน
ไทยจัดAmazing Marathonทัวร์กีฬาโลกโกย
660 ล้าน
บอร์ดAOTดึงสนามบินซอลท์เลคUSAหนุนสุวรรณภูมิ
วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #พืชสวนโลกอุดรธานี2569 #VijitrChaoPhraya2024
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/JDDRPhodxRUVsFZL/
ช่วงที่ 1
สัมภาษณ์ !! สนั่น
อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ลั่นพร้อมจับมือทีเส็บโชว์ผลงานเจ้าภาพจัด
“พืชสวนโลก อุดรธานี 2569” ชมเปาะทำงานดีเยี่ยมใกล้ชิดกันเหมือนญาติ
เป็นหน่วยงานคุณภาพขับเคลื่อนไมซ์ ร่วมสร้างเศรษฐกิจคึกคัก 67,000 ล้านบาท
ต่อยอดพัฒนาโลจิสติกส์ไทย-สปป.ลาว-จีน ด้าน YEC หอการค้ารุ่นใหม่ในอุดรขานรับแผนยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปท้องถิ่นบุกตลาดโลก
ปั้นสมาร์ท ฟาร์มเมอร์ ปูพรมต่อปี’ 72 งาน
โคราช เอ็กซโป 2029 ผนึกทีเส็บหนุนงานประชุมสมาชิกหอการค้าทั่วไทย
22-24 พ.ย.67 ที่สวนนงนุช
เชิญ “นายกฯอิ๊งค์” ประธานเปิด ลุยจัดมหกรรมแสดงสินค้าราคาถูกคู่เทศกาลคอนเสิร์ตเวิลด์คลาสเมืองพัทยา
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยพร้อมเดินหน้าส่งเสริมไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน “พืชสวนโลก อุดรธานี 2569 : Udonthani International Horticultural Expo 2026” ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569-14 มีนาคม 2570 สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อนุมัติงบประมาณไว้ 2,500 ล้านบาท ในการพัฒนาพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์กว่า 1,030 ไร่ เป็นพื้นดิน 400 ไร่ กับผืนน้ำอีก 630 ไร่ นำเสนอคอนเซ็ปต์ที่ดีมากคือ Diversity of Life :People, Water, and Plants : วิถีชีวิต ผู้คน สายน้ำ และพืชพรรณ สอดคล้องกันแนวโน้มของโลกกำลังมุ่งให้ทุกฝ่ายร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
เบื้องต้น “งานพืชสวนโลกอุดรธานี 2569” จะมีผลเชิงบวกครอบคลุมหลายส่วนกระจายไปยังพื้นที่ภายในอุดรธานี
กับจังหวัดใกล้เคียง และเชื่อมโยงสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ใน 3 ส่วนหลัก
ดังนี้
ส่วนที่ 1 มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ “เศรษฐกิจประเทศ” ตลอดการจัดงานต่อเนื่อง 134 วัน จะดึงดูดคนเข้าร่วมงานจาก 20 ประเทศ ไม่ต่ำกว่า 3.6 ล้านคน แบ่งเป็นคนไทย 70 % ต่างชาติ 30 % “สร้างรายได้รวม” ทั้งทางตรงและทางอ้อมราว 67,000 ล้านบาท ประกอบด้วย “ทางตรง” จะมีเงินสะพัดกว่า 32,000 ล้านบาท จากการท่องเที่ยวและบริการ “ทางอ้อม” จะเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP :Gross Domestic Product) กว่า 20,000 ล้านบาท จัดเก็บภาษีเพิ่มได้ 7,700 ล้านบาท และเกิดการจ้างงาน 81,000 อัตรา
ส่วนที่ 2 เชื่อมโยงการพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์ระหว่างจังหวัดอุดรธานี กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สู่ สปป.ลาว จากบ่อเต็น ไปจนถึงตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน
ส่วนที่ 3 นิคมอุตสาหกรรมในอุดรธานี
พร้อมจะขยายอุตสาหกรรมใหม่ ๆ อย่าง เกษตรแปรรูปอาหาร
และผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์อื่น ๆ อีกหลายอย่างด้วยกัน
นายสนั่นกล่าวว่า การได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลกอุดรธานี 2569 นั้น ทาง “สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB” มีบทบาทสำคัญมากในฐานะหน่วยงานประสานบูรณาการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหอการค้าไทยและหน่วยงานโดยตรง สร้างโอกาสดีมากให้ประเทศนำงานไมซ์ระดับโลกมาจัดในไทย แต่ช่วงนี้อาจจะต้องขอให้ภาครัฐประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างการรับรู้ให้มากและกว้างขวางมากสุด เพื่อทำให้คนในและต่างประเทศถึงจุดเด่นของไทย ควบคู่กับการตอกย้ำถึงศักยภาพไทยเป็น “เมืองไมซ์ระดับโลก”
ทางหอการค้าไทยยังเล็งเห็นถึงการใช้งานพืชสวนโลกชูจุดขาย
“ซอฟท์ พาวเวอร์-เสน่ห์ไทย”
สร้างความเข้าใจที่ดีให้ต่างชาติเข้าใจวิถีชีวิต วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม
อาหารท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น ส้มตำ ปลาร้า
ทำให้เกิดกระแสโปรโมตให้ทั่วโลกรู้จัก ผนวกเข้ากับวิถีเกษตรกรรม
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถจัดงานเมกะอีเวนต์ระดับโลก ช่วยเพิ่มโอกาสพัฒนา “พื้นที่ท่องเที่ยวใหม่”
ในอีสาน
แล้วยังมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้า YEC :Young Entrepreneur Chamber of Commerce มีความสามารถต้อนรับนานาชาติ ยืนยันถึงภาคเอกชนมีพลังสร้างเสน่ห์และพัฒนาสินค้าท้องถิ่นเป็นผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ ดึงดูดเงินลงทุนไหลเข้าสู่อุดรธานี และดึงมืออาชีพเข้ามาทำงานในไทย หรืออย่างยุโรป จีน เมื่อมาเที่ยวงานพืชสวนโลกก็สามารถนำเทคโนโลยีมาต่อยอดให้เกิด Smart Farmer
ส่วน TCEB
ที่มีบทบาทมากทำงานได้ดีเยี่ยมเพราะเป็นองค์กรที่มีเข้าใจภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น
ในไทย แล้วยังเข้าถึงต่างชาติทั่วโลกได้เป็นอย่างดี สามารถดึงการค้า นักลงทุน โดยทำงานใกล้ชิดกันเหมือนญาติกับหอการค้าในฐานะเอกชนขอชมทีเส็บอย่างมาก
ที่ผ่านมาทำงานเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน ปี 2568 หอการค้าไทยเตรียมจัดประชุมสมาชิกทั่วประเทศ
จึงได้ขอการสนับสนุนจากทีเส็บเข้ามาช่วยจัดงาน โดยจะเชิญนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานเปิดงาน ระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน
2567 ที่สวนนงนุช พัทยา ผนวกเข้าพัทยาจะจัดงาน “คอนเสิร์ตระดับเวิลด์คลาส”
การประชุมประจำปีสมาชิกหอการค้าไทยในช่วงวันดังกล่าวทางหอการค้าร่วมกับทีเส็บจัดมหกรรม “แสดงสินค้าราคาถูก” ของกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมกับเปิดกว้างให้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว และกลุ่มแฟนคลับที่มาชมคอนเสิร์ต เข้ามาเดินชมเลือกซื้อสินค้านวัตกรรม
นายสนั่นกล่าวว่ามุ่งหวังให้ทุกฝ่ายหันมารวมพลังกันสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก อุดรธานี 2569 เนื่องจากเป็นช่วงตรงกับไฮซีซั่นอยู่แล้ว ดังนั้นจะขอให้รัฐบาลช่วยส่งเสียงประชาสัมพันธ์ยืนยันไทยจะเป็นเจ้าภาพที่ดี เพราะในการพิจารณาจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (The International Association of Horticultural Producers :AIPH) เน้นให้ประเทศที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานจะต้องบูรณาการความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชนท้องถิ่น ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่ดี ซึ่งไทยมีความพร้อมอยู่แล้ว
เพียงแต่อย่าประมาท เพราะไทยยังมีงานต่อเนื่องที่จะเป็นเจ้าภาพ “Korat Expo 2029” ระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน 2572-28 กุมภาพันธ์ 2563 ในพื้นที่สาธารณะประโยชน์โคกหนองรังกา ตำบลเทพาลัย อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา บนเนื้อที่ 678 ไร่ รองรับการจัดงาน มหกรรมพืชสวนโลกขนาใดหญ่ที่สุดระดับ A1 หรือ World Horticultural Exhibition ตามแนวคิด Nature & Greenery :Envisioning The Green Future :ธรรมชาติและพรรณพืชสีเขียวขจีแห่งโลกที่สีเขียว จะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดเงินสะพัดกว่า 18,942 ล้านบาท เพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 9,163 ล้านบาท ทำรายได้จากการจัดเก็บภาษี 3,429 ล้านบาท สร้างงาน 36,003 อัตรา
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-ช้อปเดือนเกิดคิงเพาเวอร์โค้งสุดท้ายรับรัว ๆ 5 ได้
คิง เพาเวอร์ จัด โค้งสุดท้าย! เซลดีที่สุด เดือนเกิดตุลาคม 2567 โปรแน่นจัดเต็มให้ช้อปต่อเนื่อง คุ้มสุดในรอบปี รับไปเลย 5 ได้ ฟรีทุกวัน ลุ้นรางวัล คุ้มเครดิตเงินคืน เที่ยวบิน และสมาชิก ดังนี้
1.ได้ฟรีทุกวัน ส่งท้ายเดือนเกิด รับคูปองส่วนลด 5,000 บาท ใช้ช้อป 20,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ พิเศษ! คูปองส่วนลด 1,500 บาท* ใช้ช้อป 6,500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
“สมาชิก คิง เพาเวอร์” รับฟรี 1 ใบ บัตรเข้าร่วม Butterbear’s 1st Fam Meeting Adventure Awaits! เมื่อช้อปครบ 30,000 บาท (สุทธิ) ภายในวันตั้งแต่ 24 ตุลาคม – 8 พฤศจิกายน 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
2.ได้ลุ้นรางวัลเพียบ! ยิ่งช้อปเยอะ
ยิ่งได้ลุ้นเยอะ! ช้อปครบทุกๆ 5,000 บาท* (สุทธิ) ได้ลุ้น 1 สิทธิ์
ลุ้นรางวัลใหญ่ รถยนต์ Lexus และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่ 24 – 31 ตุลาคม 2567
3.ได้คุ้มกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 17% แนะนำให้สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ ดีที่สุด และใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนเต็มจำนวน ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
4.ได้ไฟลต์! เมื่อสมัครสมาชิก SCARLET แล้วเติมเงิน 20,000 บาท รับฟรี! คูปองเงินสด 3,000 บาท นำไปเป็นส่วนลดซื้อตั๋วโดยสารบิน “คาเธย์ แปซิฟิก” ได้ทุกเส้นทาง
5.ได้ฟรี! สถานะสมาชิก NAVY จากปกติเติมเงิน 1,000 บาทแลกกะรัตดีที่สุด ได้แลกคุ้มกว่าเดิม 35 กะรัต รับ Gift Voucher 350 บาท เพื่อใช้ช้อปสินค้า ดิวตี้ ฟรี ไม่มีขั้นต่ำ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต
รวมทั้งเลือกแลกรับสิทธิประโยชน์
จากพันธมิตรชั้นนำที่ คิง เพาเวอร์ สาขา รางน้ำ มหานคร และ 3 สนามบินคือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต
ข่าวที่ 2-สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์มีดีลพิเศษส่วนลดสูงสุด 20%
คิง เพาเวอร์ นำเสนอดีลพิเศษ! ช้อปก่อนออกเดินทาง
รับสิทธิประโยชน์สุดคุ้ม เมื่อใช้บริการพันธมิตร คิง เพาเวอร์
แจกส่วนลดสำหรับช้อปสินค้า ดิวตี้ ฟรี พิเศษกว่าเดิม!
ใช้สิทธิ์นี้ได้วันนี้ - 31 ตุลาคม 2567ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต และ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต
“สมาชิก คิง เพาเวอร์” เท่านั้น! ที่จะได้รับส่วนลดสูงสุด 20% ในการซื้อสินค้า 4,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
“ลูกค้าคนไทย” ที่ยังไม่เป็นสมาชิก รับฟรี! สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY เมื่อตัดสินใจช้อปคิง เพาเวอร์
พิเศษ! รับสถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET
เมื่อสะสมยอดซื้อครบ 20,000 บาท (สุทธิ) รับเพิ่มเงินมูลค่า
500 บาท
หรือCash back คืนเข้าบัญชีสมาชิก
เพื่อนำไปใช้ช้อปได้สุดคุ้ม
ข่าวที่ 3-พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดA Love Story Weddingรับ5ต่อ
โรงแรมพูลแมน
คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ในกลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ได้จัดงาน A Love Story Wedding Showcase วันเสาร์ที่ 26-อาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 จัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดการขาย
โดยเชิญชวนคู่รักลงทะเบียนเข้าร่วมช้อป “แพ็กเกจจัดแต่งงาน” กับทางโรงแรม มีราคาสุดพิเศษเพียง
399,999 บาทสุทธิเท่านั้น
พร้อมรับของขวัญเพิ่มเติมได้ภายในงานจัดเตรียมไว้แล้วที่จะให้มากถึง
5 ต่อ
ต่อที่ 1 รับ Gift set จาก Gucci ทุกคนเมื่อลงทะเบียนเข้าร่วมงาน
ต่อที่
2 รับสถานะฟรีบัตรสมาชิกคิง
เพาเวอร์ Navy มูลค่า 1,000
บาท พร้อมคูปองส่วนลดสูงสุด 3,000
บาท
ต่อที่ 3 รับบัตรสตาร์บัคส์ 100 บาท จากทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร KTC ในงาน 10,000 บาท รับบัตรสตาร์บัคส์ได้สูงสุด 10 ใบ
ต่อที่
4 รับแพ็กเกจฮันนีมูน
3 วัน 2 คืน ให้กับทุกคู่รักที่ยืนยันเลือกใช้โรงแรมพูลแมนจัดงานแต่งงาน ทุกคู่รักจะได้รับแบบไม่ต้องลุ้น
เลือกพักโรงแรมพูลแมนทั่วเอเชีย เช่น พูลแมนโตเกียว ทามาชิ ญี่ปุ่น , พูลแมน บาหลี
ลีเกน บีช อินโดนีเซีย, พูลแมน ดานัง เวียดนาม และพูลแมน สิงคโปร์ ออร์ชาร์ด และโรงแรมอื่น ๆ
ต่อที่ 5 ผู้ที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดในงาน A Love Story Wedding Showcase รับผลิตภัณฑ์จากกุชชี่ เช่นน้ำหอม เครื่องสำอาง และอื่น ๆ
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานทางออนไลน์ bit.ly/PullmanWeddingshowcase หรือ สอบถามเพิ่มที่ 02-680-9999 หรือไลน์ทางการ @PullmanBangkok
ห้ามพลาดรับ “สิทธิพิเศษ” สุด ๆ มอบให้ทุกคู่รักที่เข้าร่วมงานและบ่าวสาวทุกคู่เลือกให้ตรงตามทุกความต้องการได้หลากหลาย ไฮไลต์ 3 รายการ ได้แก่
รายการแรก “แพกเกจฟรี” ห้องพักซูพีเรีย 2 ห้อง 1 คืน พร้อมอาหารเช้า 2 คน
รายการที่สอง“แพ็กเกจส่วนลด” จัดเลี้ยงหลังแต่งงาน (after party) ลด 50 % แขก 100 คน มูลค่า 20,000 บาท ส่วนลดค่าเปิดขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 10,000 บาท (ยกเว้นเบียร์) ส่วนลดซุ้มอาหาร 1 ซุ้ม มูลค่า 10,000 บาท
รายการที่สาม “สมนาคุณ” ซุ้มอาหาร 1 ซุ้ม แขก 100 คน มูลค่า 10,000 บาท เบียร์สด 1 ถัง 30 ลิตร มูลค่า 10,000 บาท และโฟโต้บูธ ไม่จำกัดจำนวนภาพ มูลค่า 10,000 บาท
ข่าวที่ 4-สรวงศ์-ททท.ลุยเทรดโชว์ITB Asia2024ไทยฮับอาเซียน
นายสรวงศ์
เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า
เป็นประธานเปิดคูหาประเทศไทยในงานเทรดโชว์ ITB Asia 2024
ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทย 32 ราย เข้าร่วมเจรจาซื้อขายท่องเที่ยวกับคู่ค้าทั่วโลก จัดขึ้นที่ แซนด์ส
เอ็กซโป แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ มารีน่า เบย์ แซนด์ส สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม
2567 โดยมีผู้ซื้อและผู้ขายเข้าร่วมจาก 132 ประเทศ กว่า 13,000 คน
ไทยจะใช้เวทีนี้ผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อสื่อสารถึงคู่ค้านานาประเทศ 4
เรื่อง ได้แก่
เรื่องที่
1 ขับเคลื่อนตลาดตามนโยบายรัฐบาลในพันธกิจ
Ignite Thailand’s Tourism เรื่องที่ 2 ร่วมหารือกับเอกชนถึงแนวทางความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
เรื่องที่ 3 เจรจากับพันธมิตรสายการบินผลักดันเปิดเส้นทางบินใหม่ระหว่างสิงคโปร์กับเมืองน่าเที่ยวของไทยใน
55 จังหวัด เรื่องที่ 4 ส่งเสริมการเดินทางกลุ่มโอเวอร์แลนด์มุ่งส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาคอาเซียนหรือ
“Hub of ASEAN”
ตลอดการจัดมหกรรมส่งเสริมตลาดการขายท่องเที่ยว
ITB Asia 2024 ที่สิงคโปร์ ปี 2567 ททท. กับผู้ประกอบการไทย 32 ราย
จะมีโอกาสพบปะกับหน่วยงานรัฐและเอกชนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
ได้แก่ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจากประเทศต่าง ๆ (NTOs) ธุรกิจโรงแรม บริษัทนำเที่ยว สายการบิน บริษัทรถเช่า สนามกอล์ฟ เรือสำราญ
บริษัทรับจัดงาน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว สปา
และธุรกิจบริการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
ใช้เป็นเวทีเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวกับคู่ค้าผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว (Tour
Operator) และสื่อมวลชนนานาชาติร่วมเผยแพร่การท่องเที่ยวของไทย
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า
การลงทุนเปิดคูหาประเทศไทยในงาน ITB Asia 2024
ได้นำเสนอแนวคิด “Sustainable Tourism-การท่องเที่ยวไทยที่ยั่งยืน”
เน้นตกแต่งคูหาไทยด้วยวัสดุธรรมชาติ มาจากอำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นำเสนอสินค้าท่องเที่ยวของไทย ควบคู่กับ 5 Must Do in Thailand เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ ๆ
เชิญชวนทั่วโลกเลือกมาเที่ยวเมืองไทยในเมืองหลักและ 55 เมืองน่าเที่ยว
กับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยจะมีโอกาสได้นัดหมายจับคู่ธุรกิจ
800 นัดหมาย โดยมีทั้งหมด 32 ราย ประกอบด้วย
โรงแรมและรีสอร์ต บริษัทนำเที่ยว สวนน้ำ กอล์ฟคลับ พันธมิตรแพลตฟอร์ม TAGTHAI
และบริษัท ไทยแลนด์ พริวิลเลจ คาร์ด
ร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วโลก
โดยนายสรวงศ์
เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เป็นประธานพิธีเปิดคูหาท่องเที่ยวประเทศไทย วันที่ 23 ตุลาคม 2567 ช่วง 10.00 น.
พร้อมด้วย นางอุรีรัชต์ เจริญโต เอกอัครราชทูต ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท.
ภายในคูหานี้เปิดเคาน์เตอร์ให้ข้อมูลสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย
(Information Counter) จัดกิจกรรมสาธิต D.I.Y. ทำของที่ระลึกจากวัสดุอัพไซคลิ่งจากขยะทะเลให้ผู้ร่วมงานร่วมตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
สำหรับประเทศไทยมี
“สิงคโปร์” เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตั้งแต่ 1 มกราคม – 21 ตุลาคม 2567 รวม 747,994 คน ททท.ตั้งเป้าภายสิ้นปีนี้จะทำให้ถึง 1 ล้านคน
สร้างรายได้กว่า 48,000 ล้านบาท ต่อเนื่องจากปี 2566
สิงคโปร์เที่ยวเมืองไทยรวม 1,027,424
คน ทำสถิติติดอันดับ 3 รองจากมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ชอบท่องเที่ยว 5 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ สงขลา
ภูเก็ต กระบี่ พัทยา
ปี 2567
เดินหน้ารุกขยายฐานตลาดศักยภาพมีมากถึง 6 กลุ่ม
ได้แก่ กลุ่มที่ 1 นักท่องเที่ยวขับรถข้ามแดน กลุ่มที่ 2
บินมาแล้วเลือกขับรถเที่ยวหรือ Fly & Drive มีสัญญาณเติบโตดี กลุ่มที่ 3 ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Health
& Wellness กลุ่มที่ 4 ท่องเที่ยวเชิงกีฬา
โดยเฉพาะกอล์ฟ ปั่นจักรยาน วิ่งมาราธอนและมวยไทย กลุ่มที่ 5 เยาวชน
กลุ่มที่ 6 นักท่องเที่ยวเรือสำราญ
ในงาน
ITB Asia 2024 ครั้งนี้ ประเทศไทยเตรียมขึ้นรับรางวัล
“2024 Global Partner Award – Most Popular Destination” จาก
Trip.com ผู้ให้บริการการเดินทางนานาชาติแบบครบวงจร
ซึ่งเกิดจากความร่วมมือด้วยดีระหว่างประเทศไทย โดย ททท.และ Trip.com ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมในตลาดโลก
ข่าวที่
5-บางจาก-BAFSเปิดท่อส่งSAFเข้าสุวรรณภูมิ/ดอนเมือง
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากร่วมกับพันธมิตรการบิน 2 บริษัท บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด
(มหาชน) หรือ “BAFS” และบริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด หรือ
“BPT” ร่วมกันเป็นประธานนำร่องโครงการ
“เติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF เข้าระบบท่อ”
ใน 2 สนามบินหลักของประเทศคือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง
เตรียมพร้อมให้อุตสาหกรรมการบิน ทั้งสายการบินในประเทศและระหว่างประเทศ
โดยกลุ่มพันธมิตร
SAF (Sustainable Aviation Fuel)
ของบางจากได้นำร่องเปิดโครงการด้วยกันครั้งนี้ที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง
มีทั้งผู้บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก นายจักรสนิท กฤษสอาดใจ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) และนายเจษฎ์ ทูปิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด
ทั้ง
3 องค์กรมีเป้าหมายเดียวกัน 2 เรื่องหลัก
คือ เรื่องที่ 1 ร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมการบิน ก้าวสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ให้สำเร็จภายในปี 2593 เรื่องที่ 2 ส่งเสริมให้ระบบขนส่งทางอากาศของประเทศไทยมีมาตรฐานสอดคล้องตามองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
(International Civil Aviation Organization : ICAO) และสมาคมการบินระหว่างประเทศ
(International Air Transport Association : IATA)
ความร่วมมือครั้งนี้
บางจากนำน้ำมันการบินที่ยั่งยืน SAF ผสมเข้ากับน้ำมันเครื่องบิน (Jet A1) เพื่อนำร่องส่งเข้าระบบท่อสู่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิและดอนเมือง
เตรียมความพร้อมวางโครงสร้างพื้นฐานรองรับการผลิตและใช้ SAF ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและความเป็นผู้นำพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายชัยวัฒน์
กล่าวว่า บางจากฯ เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้เพื่อพัฒนาการผลิต SAF กว่า 8,500 ล้านบาท
ควบคู่กับการนำวัตถุดิบน้ำมันปรุอาหารใช้แล้ว ที่ได้รวบรวมรับซื้อผ่าน บริษัท
บีเอสจีเอฟ จำกัด ในเครือบางจากมาผลิตอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันก็ได้ก่อสร้างหน่วยผลิต SAF บริเวณพื้นที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง กำลังดำเนินไปตามแผน
จะเริ่มผลิตป้อนอุตสาหกรรมการบินในไทยเมืองไทยได้ช่วงต้นไตรมาส 2 ปี 2568 ด้วยกำลังการผลิตวันละ 1 ล้านลิตร
ระหว่างนี้จึงต้องร่วมมือกับแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้โครงการผลิตและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน
SAF เดินหน้าทุกขั้นตอนตามแผนเปิดให้บริการได้แบบไร้รอยต่อในอนาคตอันใกล้นี้
ข่าวที่ 6-TCEBรับรางวัลสมาชิกICCA50ปีบูมไมซ์ไทยในตลาดโลก
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บได้รับรางวัล 50-Year Long-Standing Member ในโอกาสประเทศไทยเป็นสมาชิกครบ 50 ปี จาก ICCA
:International Convention and Congress Association ที่ 2 ผู้นำ คือ นายมาร์ฮา โกเมส ประธาน เซนธิล โกพินาธ ซีอีโอ ICCA เป็นผู้มอบให้ในงาน Long-Standing Members Appreciation Ceremony ในโอกาสที่ทีเส็บนำเอกชนเข้าร่วมงานใหญ่ ICCA Congress 2024 ที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคม 2567
พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณ
ICCA พันธมิตรระดับนานาชาติที่ทำงานเคียงข้างกับทีเส็บอย่างเข้มแข็งมาอย่างยาวนาน
โดยเฉพาะการสร้างความสำเร็จทำให้เกิดผลลัพธ์สำคัญอันโดดเด่นตอกย้ำศักยภาพความมุ่งมั่นที่ได้ร่วมมือกันพัฒนาและผลักดันให้เกิดการจัดทำร่าง
“ปฎิญญากรุงเทพฯ เพื่อการจัดการอาหารอย่างยั่งยืน :Bangkok Plege on
Gastronomy Sustainable” ในเวทีการประชุม ICCA Congress 2023 ที่กรุงเทพฯ
ประเทศไทยยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
ICCA Congress มากที่สุดถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกปี 2528
ที่กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2 ปี 2550 ที่พัทยา แล้วครั้งที่ 3
ล่าสุดปี 2566 เลือกมาจัดที่กรุงเทพมหานครอีกเป็นครั้งที่สอง
มีสมาชิกจากทั่วโลกเดินทางเข้าร่วมงานกว่า 1,100 คน
ทำสถิติมีคนเข้าร่วมมากที่สุดในเอเชีย
โดยทีเส็บสามารถใช้การจัดประชุม
ICCA Congress ครั้งล่าสุด ต่อยอดอนาคตตลาดไมซ์ไทยในเวทีโลก
จากการสานสัมพันธ์กับซีอีโอและสมาคมใหญ่ ๆ ระดับนานาชาติที่เดินทางเข้าร่วมประชุมอย่าง
สมาคมแพทย์ สมาคมวิจัย สมาคมพลังงาน และอื่น ๆ ซึ่งผู้นำสมาคมแต่ละคนมีเครือข่ายลูกค้ากับสมาชิกอยู่ในมือมากกว่า
10,000 ราย ขณะเดียวกันก็ได้โชว์ให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้เห็นถึงศักยภาพรับรู้ถึงขีดความสามารถของศูนย์ประชุมต่าง
ๆ ของไทย เช่น ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศูนย์นิทรรศการแสดงสินค้าไบเทค
และอีกหลายแห่ง มีความพร้อมรองรับการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพครบทุกมิติ
ต่อเนื่องไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่งเข้าถึงสถานที่ตามความสนใจและจัดกิจกรรมต่าง
ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
สร้างโอกาสให้ไทยเป็นอีกทางเลือกของตลาดไมซ์โลกเติบโตในอนาคตอย่างแข็งแกร่ง
ช่วงที่ 2 เตรียมตัวเที่ยว “วิจิตร เจ้าพระยา 2024”
ททท.กับสถานที่สำคัญ ชุมชน ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเปิดให้โชว์ Projection
Mapping & Lighting ชวนนักท่องเที่ยวล่องเรือชมตลอด 1 เดือนเต็ม 15 พ.ย.-16 ธ.ค.67
ห้ามพลาด “3แนวเลือกกินอาหารโลว์คาร์บอน”
ช่วยลดโลกร้อน และข่าวคุณภาพ ข่าวแรก “ไทยจัด Amazing Marathon 2024” โปรโมทเที่ยวเชิงกีฬาโลก ข่าวที่สอง “บอร์ด AOT”
ถกบิ๊กสนามบินซอลค์เลค” อเมริกา ปลุกแอร์ไลน์บินมาสุวรรณภูมิ
ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยววิจิตรเจ้าพระยา4พิกัด15 พ.ย.-16 ธ.ค.นี้
เตรียมตัวให้พร้อมเช็คอิน
เที่ยวงานใหญ่ในกรุงเทพฯ “Vijitr Chao Phraya 2024” การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วันที่ 15 พฤศจิกายน - 16 ธันวาคม 2567
ตื่นตากับนวัตกรรมความสวยงามยามค่ำคืนของสถานที่สำคัญสีสันแนวแม่น้ำเจ้าพระยา แสง
สี และสื่อผสมสมัยใหม่ ด้วย Projection Mapping & Lighting ควบคู่กับการผสมผสานวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ให้มีความทันสมัย
ทำให้ค่ำคืนแห่งสายน้ำเจ้าพระยาเป็นศูนย์รวมนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ
ชมการประดับไฟ การฉายภาพบนตัวอาคาร การแสดงพลุ การแสดงทางวัฒนธรรม
จะคัดเลือกพื้นที่จัดการแสดงที่มีเอกลักษณ์และสะท้อนถึงความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมที่งดงามของสายน้ำคดโค้งไหลผ่านวัดวาอาราม
และย่านสำคัญที่แสดงถึงวิถีชีวิตริมน้ำ สู่แลนด์มาร์ก ของประเทศ
นักท่องเที่ยวจะได้ชมอาคารโบราณสถาน
สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่อยู่คู่แม่น้ำเจ้าพระยามายาวนาน สุดอลังการ
4 พิกัด
พิกัดที่
1 “สะพานพระราม 8”
สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 ของกรุงเทพมหานคร
เชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี เป็นสะพานขึงแบบสมมาตรยาวติดอันดับ 5 ของโลก
พิกัดที่
2 “วัดอรุณราชวราราม”
เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ชื่อเดิมเรียกว่า “วัดมะกอก”
เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ที่ตั้งอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง
เคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต
พิกัดที่
3 “วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร” สร้างขึ้นในสมัยราชกาลที่ 3 พระราชทานนามวัดแห่งนี้ว่า กัลยาณมิตร ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เขตบางกอกใหญ่ ฝั่งธนบุรี มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อย่าง หลวงพ่อโต
ที่เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงให้ได้เข้าไปกราบไหว้
พิกัดที่
4 “สะพานพระพุทธยอดฟ้า
สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7
เนื่องในโอกาสสมโภชน์พระนครครบรอบ 150 ปี
และเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสะพานแห่งนี้
แต่ละพื้นที่มีกิจกรรมหลากหลายน่าสนใจ
ที่คนในชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันสนับสนุนทำให้ งาน Vijit
Chao Phraya กลายเป็นเทศกาลสำคัญ
สร้างความสัมพันธ์และความรักในวัฒนธรรมท้องถิ่น
พร้อมส่งเสริมการอนุรักษ์แม่น้ำเจ้าพระยาให้คงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป
สุขภาพ
–3แนวเลือกกิน
“อาหารโลว์คาร์บอน”ช่วยลดโลกร้อน
ช่วงวันอาหารโลกปี 2567 ได้มุ่งส่งเสริม
“สิทธิการเข้าถึงอาหารเพื่อคุณภาพชีวิตและอนาคตที่ดี” รณรงค์ให้คนทั่วโลกเห็นความสำคัญเรื่องคุณภาพอาหารและปัญหาความอดอยาก
เนื่องจาก “อาหาร”
เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม “ปล่อยคาร์บอน” มากที่สุด ดังนั้นจึงมีข้อแนะนำให้ “เลือกกินอาหารคาร์บอนต่ำ”
ที่มีประโยชน์ต่อทั้งตัวเรา สังคม และสิ่งแวดล้อม สามารถช่วยลดขยะอาหาร
ลดการปล่อยคาร์บอนช่วยลดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอาหารที่ดีด้วย
3 วิธีง่าย
ๆ
1.เลือกวัตถุดิบออร์แกนิก ปราศจากสารเคมีอันตราย และปุ๋ยเคมีที่ผลิตจากเชื้อเพลิงและปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยส่งเสริมกระบวนการผลิตอาหารที่ยั่งยืน
2.ผักผลไม้ตามฤดูกาล และปลูกภายในประเทศ เพราะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งทางไกล และสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น
3.เนื้อปลา เนื้อไก่ และเนื้อหมู เป็นเนื้อสัตว์ที่ปล่อยคาร์บอนต่ำกว่าเนื้อวัวและเนื้อแกะ เพราะใช้ทรัพยากรและพลังงานในการเลี้ยงน้อยกว่าสัตว์เคี้ยวเอื้อง สามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนเฉลี่ย
20% ในระยะยาว อีกทั้งราคาเข้าถึงง่าย
สำคัญที่สุดการกินอาหารอย่างคุ้มค่า
ไม่เหลือทิ้ง ช่วยให้ประชากรโลกเข้าถึงอาหารได้อย่างพอเพียงมากขึ้น
และช่วยลดมลพิษจากการกำจัดขยะ นอกจากรักสุขภาพแล้ว ยังช่วยรักษ์โลกไปพร้อมกัน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–ไทยจัดAmazing Marathonทัวร์กีฬาโลกโกย660ล้าน
นายสรวงศ์ เทียนทอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ประเทศไทยเตรียมจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนระดับโลก
รายการ “AMAZING THAILAND MARATHON BANGKOK 2024” โดยความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) กรุงเทพมหานคร การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกรีฑาโลก
สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ล่าสุดเปิดตัว “เอลีอูด คิปโชเก” นักวิ่งมาราธอนแถวหน้าของโลกซึ่งเป็นแบรนด์
แอมบาสเดอร์ ให้กับ AMAZING THAILAND ต่อเนื่องมา 3
ปี จะเดินทางมาลงสนามร่วมการแข่งขันวิ่งระยะ
10 กิโลเมตร โปรโมทการท่องเที่ยวเชิงกีฬาให้เมืองไทยในเวทีโลกด้วย
การจัดแข่งขัน
“อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2024 :AMAZING THAILAND MARATHON BANGKOK 2024” เป็นรายการวิ่งมาราธอนในเมืองหลวง (MARATHON
OF THE CAPITAL) จะจัดในวันที่ 1
ธันวาคม 2567 ไทยตั้งเป้าหมายเป็น
1 ใน 3 มาราธอนระดับเอเชีย
พร้อมต้อนรับนักวิ่งและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และตอกย้ำภาพลักษณ์เป็นจุดหมายปลายทางเมืองกีฬา
(Sport Destination) ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดจะสร้างรายได้หมุนเวียนไม่น้อยกว่า 660
ล้านบาท หลังปิดรับสมัครพบมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันเกินเป้าหมายจากทั่วโลก
77 ประเทศ
33,712 คน จากเป้าตั้งไว้เพียง 30,000
คน รวมทั้งยังมีผู้ติดตามเดินทางมาด้วยอีกกว่า
18,000 คน เกิดผลจ้างงานอีกกว่า
7,000 คน
ปี 2568 รัฐบาลไทยประกาศเป็นปีการท่องเที่ยว “Thailand
Grand Tourism & Sports Year 2025” ผนวกจุดขายใช้ “การท่องเที่ยวกับการกีฬา”
เป็นเครื่องมือกระตุ้นนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ
ส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้คนไทย
และผู้ประกอบการในห่วงโช่อุปทานการท่องเที่ยวทุกพื้นที่ทั้ง 5 ภาค
@เปิดถนนพญาไท/ห้างMBKโปรโมททัวร์มาราธอนโลก
สำหรับเส้นทางการแข่งขัน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์
มาราธอน แบงค็อก 2024”
ปีนี้ จุดสตาร์ตอยู่ตรงถนนพญาไท (หน้าห้างสรรพสินค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์)
ซึ่งได้การรับรองมาตรฐานการจัดการแข่งขันระดับโลกจาก World Athletics เปิดแข่งขันมาราธอนระยะ
42.195 กิโลเมตร ฮาล์ฟมาราธอน 21.1
กิโลเมตร มินิมาราธอน 10 กิโลเมตร และแฟมิรี่รัน 4.5
กิโลเมตร
รมว.สรวงศ์
กล่าวว่าการจัดอีเวนต์แข่งขันมาราธอนระดับโลกในเมืองหลวงของไทยครั้งนี้ จะเป็นแรงส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
ยกระดับวงการวิ่งมาราธอนของไทยสู่ระดับนานาชาติ
สร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในใจคนทั่วโลกหรือ Top of Mind และเกิดการเดินทางมายังกรุงเทพฯ
และพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วเมืองไทย กระจายรายได้เพิ่มให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทำให้เศรษฐกิจประเทศคึกคักในระยะยาว
ทั้งนี้
รมว.สรวงศ์ ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงรายละเอียดการจัดแข่งขัน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2024”
นำโดยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เอเลสซิโอ
ปุนซี่ ผู้อำนวยการอาวุโสสมาคมกรีฑาโลก พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายยุธยา จีนหีต
ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย
พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการ
สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน
ข่าวที่สอง
-บอร์ดAOTดึงสนามบินซอลท์เลคUSAหนุนสุวรรณภูมิ
พลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ
ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกากับพลอากาศเอก
มนัท ชวนะประยูร กรรมการ AOT เพื่อเข้าพบ
Mr.Franz Kolb ผู้อำนวยการการค้าระหว่างประเทศ
และ Diplomacy and Protocol Governor's Office of Economic Opportunity มลรัฐยูท่าห์
เพื่อหารือถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา พัฒนาความร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างท่าอากาศยาน
“ซอลท์ เลค ซิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กับสุวรรณภูมิ” เปิดเส้นทางบินตรงระหว่างกัน ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างประเทศ
การแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด และได้หารือการเลือกใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย
นำมาใช้ยกระดับการรักษาความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าอากาศยาน
รวมทั้งการเข้าเยี่ยมชมกิจการสนามบินหรือท่าอากาศยาน
ซอลต์ เลค ซิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมกับเข้าเยี่ยม
Mr.Mike Mower Senior Advisor, Community & Intergovernmental Relations, State of
Utah ที่สำนักงานผู้ว่าการมลรัฐยูท่าห์
สหรัฐอเมริกา เพื่อขอความร่วมมือและให้การสนับสนุนการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันในอนาคตด้วย
สำหรับซอลต์ เลค ซิตี้
อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นสนามบินแถวหน้าตั้งอยู่ในรัฐยูทาห์
เป็นฐานปฏิบัติการสำคัญของสายการบินหลักของหรัฐอเมริกา มีเส้นทางการบินครอบคลุมและเชื่อมโยงเมืองสำคัญหลายแห่งจนกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการบินหลักในภูมิภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเชื่อมต่อการเดินทางภูมิภาคต่าง
ๆ ทั่วโลก
ปัจจุบัน AOT ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยาน
กับผู้ประกอบการท่าอากาศยาน 14 แห่ง ในทั่วโลก 3 ภูมิภาค ได้แก่ ยุโรป แอฟริกา
และเอเชีย รวมทั้งหมด 10 ประเทศ
โดยมีท่าอากาศยานระหว่างประเทศภายใต้มาตรฐานสนามบินปลอดภัย หรือ SAA
:Safty Aviation Airport รวม 18 แห่ง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น