ชำนาญ ศรีสวัสดิ์
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ประธานสภาฯทัวร์ผ่านโยบาย“คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน”
ยาวิเศษพลิกวิกฤตน้ำท่วม-ปลุกเศรษฐกิจ55เมืองน่าเที่ยว
ชี้ทำด่วน3โปรเจกต์-ตั้งอนุกรรมการชาติช่วยซัพพลายไซด์
คิงเพาเวอร์ซิตี้บูทีคเปิดแล้ว8 โซน-ช้อปดิวตี้ฟรีลุ้น Lexus
พูลแมนคิงเพาเวอร์ชูมื้อพิเศษ5Chefs10Handsที่เท็นชิโนะ
ททท.ควงไทยประกันชีวิต3มิตรชูเที่ยวสุขใจได้ลุ้น 2 ล้าน
บางจากจัดGreenovativeForum รุก IAเปลี่ยนผ่านพลังงาน
เที่ยวลอยกระทงคลองผดุงกรุงเกษมในกรุงเทพฟิน4พิกัด
9 อาหารชะลอวัยใกล้ตัวกินด่วนช่วยคนยุคนี้ห่างไกลโรค
เซ็นทารากะรนภูเก็ตโฉมใหม่แจกโปรไฮซีซั่นถึง30พ.ย.นี้
ไลออนแอร์เปิดใหม่ดอนเมือง-เกาสง21ม.ค.68โปร2.8พัน
วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #ลอยกระทงคลองผดุงกรุงเกษม
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/aUgSkAmZn624Tr2R/
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผ่านโยบาย “คนละครึ่ง” เอกชนชงรัฐบาลเท 5,000 ล้านบาท ลุยโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ทั่วไทย 20,000 ล้านบาท ยา 2 ขนานวิเศษฟื้นวิกฤตหลังน้ำท่วม ปลุกเศรษฐกิจทั่วไทย แนะทำด่วน 3 โปรเจกต์ “เที่ยวคนละครึ่ง” โมเดลกระจายคนเที่ยวเมืองหลักสู่ 55 เมืองน่าเที่ยว ดัน “ตั้งอนุกรรมการในบอร์ดท่องเที่ยวแห่งชาติ” พัฒนาซัพพลายไซด์เต็มรูปแบบ และ “ปั้นไทยเวิลด์คลาสทัวร์” ริเริ่มจัดอีเวนต์โลก ITB , WTM ส่วน “ภาคธุรกิจ” SMEs ส่งเสียงขอรัฐบาล 2 เรื่อง 1.ยกเว้นภาษีป้ายและลงเรือน 2.เข้าถึงแหล่งเงินทุนกู้ดอกเบี้ยต่ำ
นายชำนาญ
ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เสนอรัฐบาลทำโครงการ
“ท่องเที่ยวไทยคนละครึ่ง” เนื่องจากมีดัชนีชี้วัดการท่องเที่ยวไตรมาส 3/2567
พบการลดลงพร้อมกันทั้ง 3 เรื่อง คือ 1.การจ้างงาน 2.จำนวนนักท่องเที่ยว 3.รายได้การท่องเที่ยว ผนวกเข้ากับปัญหาเกิดฉับพลันอีก 2 เรื่อง คือ 4.เงินบาทแข็งค่าขึ้น
เป็นแรงจูงใจให้คนไทยหันไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น 5.วิกฤตน้ำท่วมภาคเหนือในเชียงใหม่
เชียงราย ทางกรมการท่องเที่ยวมีสถิติทั้งสองจังหวัดเป็นพื้นที่ทำรายได้ท่องเที่ยวรวมกันเฉลี่ยเดือนละ
7,000 ล้านบาท
จึงเป็นเหตุผลทำให้มีสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ต้องนำเสนอโครงการ “ท่องเที่ยวไทยคนละครึ่ง” ผ่านนางสาวนัทรียาทวีวงศ์
ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย
ภาคเอกชนจึงต้องส่งเสียงถึงรัฐบาลเพื่อให้เร่งทำในไตรมาส 4 ปี 2567 ใน 2 พื้นที่หลัก
ได้แก่ พื้นที่แรก จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
เพื่อกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจเร่งด่วน พื้นที่สอง 55 เมืองน่าเที่ยว
รัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันซ่อมสร้างพร้อมกับหาวิธีกระจายนักท่องเที่ยวเดินทางเชื่อมโยงสู่เมืองใกล้เคียงครบวงรอบให้เกิดเป็นรูปธรรม
ไม่เช่นนั้นนักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะเที่ยวกระจุกตัวอยู่แต่ในเมืองหลักเพียงแค่ 10
จังหวัดเท่านั้น
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ มุ่งหวังให้รัฐบาลทำแผน Booster Shot ทำทันที แต่ก็เข้าใจตามระบบงานรัฐจะต้องผ่านการอนุมัติตามขั้นตอน หากย้อนดูสถิติตั้งแต่ 1 มกราคม-20 ตุลาคม 2567 มีต่างชาติเดินทางเที่ยวไทยแล้วทั้งสิ้น 27,794,011 คน สร้างรายได้ 1,297,614 ล้านบาท สูงสุดตามลำดับ 5 อันดับแรก ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน 5,567,725 คน มาเลเซีย 3,983,405 คน อินเดีย 1,645,960 คน เกาหลีใต้ 1,476,061 คน และรัสเซีย 1,235,507 คน
ส่วนอันดับ 7-10 ได้แก่ สสป.ลาว 9.5 แสนคน ไต้หวัน 8.7 แสนคน เวียดนาม 8.3 แสนคน ญี่ปุ่น 8 แสนคน สหรัฐอเมริกา 7.6 แสนคน
ตามพยากรณ์จากผู้เชี่ยวชาญยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ดังกล่าวจะเดินทางกระจุกตัวอยู่ในเมืองหลัก กรุงเทพฯ สมุย ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ พัทยา/ชลบุรี โดยยังไปไม่ถึง “เมืองน่าเที่ยว” จึงต้องหันมาสร้างรายได้เพิ่มโดยเร็วจากตลาดในประเทศเข้าไปเสริมให้มากที่สุด
นายชำนาญกล่าวว่า จากการประมวลสถานการณ์โดยรวมแล้วจึงเสนอให้รัฐบาลทำโครงการ “ท่องเที่ยวไทยคนละครึ่ง” เร่งด่วน เบื้องต้น “นายสรวงศ์ เทียนทอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เริ่มประกาศนโยบาย “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ใช้งบประมาณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อุดหนุนนักท่องเที่ยวคนละ 400 บาท/คน/ทริป ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เสนอให้ใช้เงินกระตุ้น “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5,000 ล้านบาท เฉลี่ยใช้เงินอุดหนุน 2,000 บาท/คน/ทริป แต่รัฐบาลเลือกนำงบประมาณ Quick Win ออกมาใช้ก่อนคนละ 400 บาท/คน/ทริป
แนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทยสามารถใช้ได้
2 วิธี ได้แก่ วิธีแรก
จัดกิจกรรมอีเวนต์ที่มีแรงดึงดูดคนเดินทางเข้าร่วมให้ได้มากที่สุด วิธีที่ 2
กระจายเม็ดเงินลงสู่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยตรงแบบเรียลเซกเตอร์อย่างรัฐบาลชุดก่อนใช้โครงการ
“เราเที่ยวด้วยกัน” ส่วนรัฐบาลปัจจุบันอาจจะใช้ “เที่ยวคนละครึ่ง”
ก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะเงิน 5,000 ล้านบาท
สามารถหมุนในระบบเศรษฐกิจได้อีกหลายรอบ
โดยเฉพาะ “การเพิ่มรายได้สู่เมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด” จะต้องเติมนักท่องเที่ยวเข้าไปก่อน เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายเงินกระจายสู่แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม มีเงินไปใช้ปรับปรุงธุรกิจและบริการได้ พัฒนาทักษะบุคลากร
นายชำนาญกล่าวว่า “ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” และ “สมาชิกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว” ตลอดปี 2567 จากดัชนีชี้วัดอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไตรมาส 3/2567 พบผู้ประกอบการระดับกลางถึงบนประมาณ 30 % มีเม็ดเงินลงทุนขนาดใหญ่มีความพร้อมสามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างราบรื่น ส่วนกลุ่มขนาดกลางและขนาดย่อม “SMEs” รวมประมาณ 70 % ยังติดกับดัก “เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน” ในจังหวะที่เทรนด์ตลาดการท่องเที่ยวของโลกเปลี่ยนแปลงไป
ตัวอย่างผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ประสบปัญหาวิกฤตน้ำท่วมครั้งล่าสุด ส่งเสียงผ่านสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ขอให้เสนอรัฐบาล เรื่องที่ 1 ยกเว้นภาษีชั่วคราว เช่นภาษีป้าย ภาษีลงเรือน ของกลุ่มโรงแรม/ที่พัก หรือบางแห่งไม่โดนน่ำท่วมแต่พนักงานบ้านโดนน้ำท่วมจึงไม่มีใจบริการได้เต็มร้อยเปอร์เซนต์ เรื่องที่ 2 ขอเข้าถึงแหล่งเงินทุนสะดวกกว่าทุกวันนี้ จึงทำให้การกระจายนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่ 55 เมืองน่าเที่ยว
ดังนั้นสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
จึงต้องย้ำที่จะเดินหน้าเสนอรัฐบาลทำเร่งด่วน 3 โครงการ ได้แก่
โครงการที่ 1 ประกาศใช้นโยบาย “เที่ยวคนละครึ่ง”ครอบคลุม พื้นที่วิกฤตน้ำท่วม และ 55 เมืองน่าเที่ยว
โครงการที่ 2 จัดตั้งคณะอนุกรรมการท่องเที่ยวเข้าไปอยู่ในคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่เข้ามาดูแลและพัฒนาซัพพลายไซต์ เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องทำงานเชิงบูรณาการกับหลายภาคส่วน หากมีคณะอนุกรรมการรับผิดชอบโดยตรงก็สามารถพัฒนาคนหรือบุคลากรบริการ แหล่งท่องเที่ยว แล้วก็พิจารณาการเก็บเงินค่าเหยียบแผ่นดิน 300 บาท/คน/ทริป เพื่อนำมาใช้จ่ายด้านการพัฒนาเรื่องดังกล่าว
โครงการที่
3 การยกระดับไทยสู่เมืองท่องเที่ยวโลก World
Class Destination จะต้องพยายามริเริ่มจัดเมกะอีเวนต์ระดับโลกควบคู่ไปด้วย
เช่น ITB Berlin กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน หรือ WTM
-World Travel Mart กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร สามารถที่จะนำร่องจัด ITB
และ WTM Thailand บ้างได้หรือไม่
เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีแผนงานโครงการชัดเจนที่จะผลักดันนโยบาย Customer Journey -การเดินทางท่องเที่ยวอย่างประทับใจตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง หรือการรุกตลาดคุณภาพด้วยสินค้าไฮเอนด์อย่างท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Health & Wellness ต้องสร้างกระแสความนิยมให้นักท่องเที่ยวต้องทำ หากมาแล้วไม่ทำสปา นวดไทย ไม่กินอาหารไทย ก็มาไม่ถึงเมืองไทย
นายชำนาญกล่าวว่า ข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทั้ง 3 โครงการ จะเป็นแรงส่งถึงความสำเร็จที่จะทำให้เป้าหมายปี 2568 ท่องเที่ยวไทยรายได้ 3.4 ล้านล้านบาท และขีดความสามารถทางการแข่งขันโดยคัดเลือกสินค้าให้โดนใจเมกะเทรนด์ตลาดโลก เช่นกลุ่มท่องเที่ยวเวลเนส พร้อมกับวางกลยุทธ์บุกตลาดเป้าหมายให้หนักมากกว่าปัจจุบัน
ส่วนความร่วมมือที่จะผนึกกันระหว่างสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับภาคธุรกิจเอกชน จะต้องแก้จุดอ่อนที่เป็นปัญหาหลักของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 1.กระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติจากเมืองหลักไปยังเมืองน่าเที่ยวเพิ่มขึ้น 2.เร่งสร้างความพร้อมเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด 3.การเติมเต็ม Customer Journey โดยตั้งคณะอนุกรรมการท่องเที่ยวมาดูแลด้านซัพพลายไซต์ โดยพุ่งเป้า “เมืองหลัก” เน้นแก้ไขระบบจราจร การเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ส่วน “เมืองน่าเที่ยว” ต้องเน้นพัฒนาความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว และการให้บริการ
โดยนายกรัฐมนตรีจะต้องนั่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เพื่อกำหนดแนวทางขับเคลื่อนในเชิงมหภาคอย่างเป็นรูปธรรม เพราะหากสินค้าท่องเที่ยวไม่พร้อม กลไกการตลาดและการขับเคลื่อนส่วนอื่น ๆ ก็ทำต่อได้ค่อนข้างยากลำบากนั่นเอง
นายชำนาญกล่าวว่า
อีกไม่กี่เดือนจะต้องเลือกตั้ง “ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย”
และกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งตนเองก็ยังน่าจะนั่งเป็นที่ปรึกษาอยู่ด้วย
จึงหวังให้บอร์ดสภาฯ ชุดใหม่ ได้ส่งเสียงไปถึงรัฐบาลในเรื่องที่กล่าวไปทั้งหมดนี้
เพราะเชื่อมั่นอุตสหกรรมท่องเที่ยวคือเครื่องจักรตัวหลักกู้วิกฤตเศรษฐกิจประเทศได้
หลังจากทุกฝ่ายมีบทเรียนจาก ภัยพิบัติน้ำท่วม สงครามของนานาประเทศ
และอีกหลากหลายปัจจัยที่จะต้องก้าวข้ามไปให้ได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์ซิตี้บูทีคเปิดแล้ว8 โซน-ช้อปลุ้นรับรถLexus
เปิดเเล้ว! “คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีค” ชั้น 1-2 โซน Parade ในเมกะโปรเจกต์ The One Bangkok เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 - 22.00 น.มาร่วมค้นพบประสบการณ์ใหม่ในทุกมิติที่ร้านออกแบบอย่างมีสไตล์แเป็นเอกลักษณ์จาก Hayon Studio สตูดิโอระดับโลก รังสรรค์พื้นที่ช้อปปิ้งให้เป็นประสบการณ์เหนือระดับ ผสมผสานศิลปะแห่งการออกแบบได้อย่างลงตัว ให้นักช้อปได้เพลิดเพลินไปกับสินค้าดิวตี้ฟรี และ สินค้าซื้อแล้วรับกลับทันที ทั้ง 8 โซน
1.เซนท์ เวนิว/SCENT AVENUE 2.ซันกลาสเซส สตรีท 3.ไทย เมเกอร์ มาร์เก็ต 4. ลิคเคอร์ เลน LIQUOR LANE 5.มาสเตอร์พีซ 6.ไทม์พีซ ทาวน์ 7.บิวตี้ บูราวาร์ด และ 8.เดอะสแควร์
แล้วห้ามพลาด ช้อปฉลองเดือนเกิดคิง เพาเวอร์ ยังมีเวลาให้ลุ้น รถหรู “LEXUS” และรางวัลอื่นๆ อีกเพียบ! ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ตุลาคม นี้ มีเวลาอีกตั้ง 5 วัน ยิ่งช้อปเยอะ ยิ่งได้ลุ้นเยอะ!
เมื่อช้อปที่ คิง เพาเวอร์ ที่ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ตครบทุก ๆ 5,000 บาท (สุทธิ) จะได้ 1 สิทธิ์ ลุ้นรับรางวัลใหญ่ รถยนต์ Lexus และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
แถมยังได้
“คุ้มกับบัตรเครดิต” ที่ร่วมรายการ พร้อมให้ใช้จ่ายเงินแบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
พร้อมกับรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 17%
ข่าวที่ 2-พูลแมนคิงเพาเวอร์จัด5Chefs 10 Handsที่เท็นชิโนะ
โรงแรม “พูลแมน คิง เพาเวอร์” แนะนำแฟนคลับ “คาเวียร์” ห้ามพลาดมื้อพิเศษ "5 Chefs 10 Hands – The Night Of Romanovs" พบกันวันที่ 31 ตุลาคม และ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. ที่ห้องอาหารเท็นชิโนะ ทั้ง 5 เชฟ จะนำทุกคนร่วมเดินทางย้อนเวลาสู่อาณาจักร “โรมานอฟ” ผ่านเมนูต่างๆ ที่ได้รังสรรขึ้นจากแรงบันดาลใจของอาหารประจำถิ่นตั้งแต่ “กรุงวอร์ซอ” โปแลนด์ ถึง “วลาดิวอสตอค” รัสเซีย ทุกจานประดับคาเวียร์ Miras Imperial Beluga และ Baerii
มาร่วมย้อนเวลาไปในยุคสมัยแห่ง “ราชวงศ์โรมานอฟ” ที่เท็นชิโนะ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ คิง เพาเวอร์ กับมื้อดินเนอร์สุดพิเศษ 10 คอร์ส โดยผู้มากประสบการณ์ 5 เชฟ คิดค้นเมนูผสมผสาน คาฟิเอร์ออสซีตรา, ไข่คาฟิเอร์เบลูกาของมาราสกับซูเฟล่บลินี, หางกุ้งก้ามกรามย่างกับคาฟิเอร์พรูเนียร์ ในบรรยากาศหรูหราประทับใจเป็นเอกลักษณ์ เป็นค่ำคืนแห่งศิลปะการทำอาหารที่คุณจะไม่มีวันลืม
ราคา 6 คอร์ส อาหารอย่างเดียว 3,900 บาทสุทธิ อาหารรวมไวน์ 6,400 บาทสุทธิ และ 10 คอร์ส อาหารอย่างเดียว 5,900 บาทสุทธิ อาหารรวมไวน์8,400 บาทสุทธิ (มื้ออาหารและไวน์)
โดยมีข้อเสนอพิเศษให้สมาชิก
Accor Plus และ King Power สำหรับ
10 คอร์ส
รับประทานอาหารจ่าย
5,000 บาทสุทธิ หรือแพกเกจอาหารรวมไวน์ 7,500 บาทสุทธิ
สมาชิก Accor Plus และ King Power สามารถจองราคาพิเศษได้โดยกรอกฟอร์ม หรือส่งอีเมลไปที่ Somruthai.MONKONG@accor.com หรือ Weerachon.PASUKKI@accor.com หรือโทร 02 680 9999
ชวนแฟนคลับร่วมดื่มด่ำสุดยอดรสชาติคาร์เวียในเมืองสุดยอดของโลกพร้อมกันไฮไลต์
3 เมนู ดังนี้
1.Caviar,
and Langoustine Bisque Cream – เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก,
รัสเซีย
2.Miras Beluga Caviar Egg with Soufflé Blini, Crispy Egg Yolk, and Sour
Cream Espuma – เคียฟ, ยูเครน
3.Grilled Crayfish Tails with Tapioca Rice Cracker, Salty Finger Mousse, and Prunier Paris Caviar – ฮาร์บิน, จีน
เชฟมากประสบการณ์พร้อมโชว์ทั้ง
5 คน ซึ่งมีความถนัดและประสบการณ์แตกต่างกัน
จะทำให้ทุกคนได้สัมผัสรสชาติใหม่ ๆ จากความคิดสร้างสรรค์
เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง ให้เพลิดเพลินกับวัฒนธรรมอาหารอันหลากหลาย คือ
คนแรก
“เชฟดาเรียส” มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในร้านอาหารมิชลินสตาร์และงานเลี้ยงของราชวงศ์
ด้วยเทคนิคละเอียดและความคิดสร้างสรรค์ นำความหรูหราของยุโรปมาสู่ทุกจาน
ทำให้ประสบการณ์รับประทานอาหารของคุณไม่เหมือนใคร
คนที่
2 “เชฟจาโคโป อาวิโก”
ด้วยความหลงใหลในอาหารอิตาเลียนทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่
เชฟจึงได้ผสมผสานรสชาติคลาสสิกยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารให้ทุกคน
คนที่
3 “เชฟแพน” จากห้องอาหารเท็นชิโนะ
เป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์และหลงใหลในอาหารญี่ปุ่นและฝรั่งเศสแบบฟิวชั่น
พร้อมพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์รับประทานอาหารสุดหรูไม่เหมือนใคร ประทับใจทุกจาน
คนที่ 4 “เชฟคาร์ลอส กาอูเดนซิโอ” เป็นที่รู้จักในยุโรปและเอเชียเรื่องสร้างรสชาติเด่นชัดหรูหรา พร้อมจะฝากความประทับใจทุกเมนูที่สร้างสรรค์ ทำให้ทุกมื้ออาหารของคุณพิเศษอย่างแท้จริง
คนที่ 5 “เชฟนอร์ธ” เชฟมิชลินสตาร์จาก Caper by Dan Bark มีความละเอียดอ่อนและสมดุลในรสชาติ ช่วยยกระดับแต่ละคอร์สให้กลายเป็นงานศิลปะต้องไม่พลาด
ข่าวที่ 3-ททท.ควงไทยประกันชีวิต3มิตรชูเที่ยวสุขใจลุ้นรับ2 ล้าน
นายนิธี
สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า ททท. นำทีมจัดแคมเปญส่งท้ายปี “Stay Fun Stay Safe เที่ยวทั่วไทยสุขใจ
ปลอดภัยทุกทริป” ร่วมกับ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) พร้อมพันธมิตรชั้นนำ
บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด
มอบสิทธิพิเศษผ่านแอปพลิเคชันไทยประกันชีวิต
ให้ลูกค้ากระตุ้นท่องเที่ยวไฮซีซั่นปลายปี 2567
ใช้กลยุทธ์สร้างสรรค์เนื้อหาการท่องเที่ยวที่น่าสนใจผ่านบทความและ
Gamification ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ผ่านหน้าจอทางแอพลิเคชั่น
“ไทยประกันชีวิต” พร้อมกับมอบสิทธิประโยชน์ ดีลส่วนลด ของรางวัลสุดพิเศษ
เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางจริง ใช้จ่ายเงินกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ สร้างรายได้ตรงสู่ผู้ประกอบการและท้องถิ่นทั่วไทย
นายนิติพงษ์
ปรัชญานิมิต รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) “TLI” กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยกระดับแอปพลิเคชันไทยประกันชีวิต “TLI
Application” ให้เป็น ไลฟ์สไตล์ แอปพลิเคชั่น
ในชีวิตประจำวันมากกว่าแค่ทำธุรกรรม มุ่งให้ทุกคำตอบการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ
และการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล หรือ Life Solutions Provider ด้วยแนวคิดการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
พร้อมส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้าครบรอบด้าน
ช่วงไตรมาสสุดท้ายตั้งแต่ตุลาคม
2567 -กุมภาพันธ์ 2568 บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี “Stay
Fun Stay Safe เที่ยวทั่วไทยสุขใจ ปลอดภัยทุกทริป”
ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ 3 ราย ได้แก่ ททท. บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด
(ในเครือพีทีจี) บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด
ส่งเสริมการท่องเที่ยวขานรับนโยบายของภาครัฐ พร้อมมอบของรางวัล ส่วนลด
และสิทธิพิเศษมากมาย ให้ลูกค้าคนพิเศษของไทยประกันชีวิต รวมมูลค่ากว่า 2,000,000
บาท
แคมเปญ
“Stay Fun Stay Safe เที่ยวทั่วไทยสุขใจ ปลอดภัยทุกทริป”
ประกอบด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่
HAPPY
TRIP : ปักหมุด เที่ยวทั่วไทย เพียงอ่านบทความท่องเที่ยวจาก ททท.
แล้วกดเช็กอินผ่านแอปพลิเคชันไทยประกันชีวิต ติดต่อกันครบ 4 เดือน
ลุ้นรับของรางวัลมูลค่าสูงสุด 3,000 บาท
HAPPY
GIFT : รับสุขทั่วไทย
สิทธิพิเศษถูกใจนักเดินทาง ได้คัดสรรของรางวัลหลากหลายมามอบให้ เช่น อี-คูปอง
เป็นส่วนลดนํ้ามันพีทีจี เครื่องดื่มจากร้านกาแฟพันธุ์ไทย ร้านดอยคำ
ส่วนลดบริการจากศูนย์ดูแลรถยนต์ Autobacs
HAPPY
LIFE : Welcome to Thailand เที่ยวไทย
สุขได้ทุกที่ สะสมคะแนนจากการเล่นเกมสูงสุด 8,000 ลำดับแรก
รับของรางวัลพิเศษมากมาย เพียงคลิกเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมที่
แอปพลิเคชันไทยประกันชีวิต https://thailifeapplication.page.link/StayFunStaySafe
นายนิติพงษ์
กล่าวว่าตลอดปี 2567
ไทยประกันชีวิตยังได้จัดแคมเปญพิเศษให้ลูกค้าบนแอปพลิเคชันต่อเนื่อง ด้วยไฮไลต์ 3 แคมเปญ ดังนี้
แคมเปญแรก
Eat Well Live Well ไทยประกันชีวิตให้คุณสุขภาพดีทุกคำ
แจกสูตรทำอาหารเมนูพิเศษ 4 เมนู 4 ภาค จากเชฟดังระดับประเทศ
มอบสิทธิพิเศษสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE รับฟรี
อาหารจานพิเศษ 1 เมนู จากร้านอาหารของเชฟ ส่วนลดค่าอาหาร 10%
ให้สมาชิกพริวิลเลจทุกระดับ ทั้ง INFINITE / ULTIMATE / PRIME ลุ้นเป็นผู้โชคดีเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช้อปทำอาหารกับเชฟพฤกษ์
แคมเปญที่
2 เพิ่มสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์ My Wellness Vital Scan
บริการเช็กสุขภาพเบื้องต้น ผ่านการสแกนใบหน้าด้วยเทคโนโลยี AI
พร้อมแจ้งผลคะแนนรวมด้านสุขภาพ ค่ามาตรฐาน การแปลผลเบื้องต้น
คำแนะนำที่สอดคล้องกับผลสุขภาพของแต่ละบุคคล ให้ลูกค้าบริษัทรับพิเศษ 3
สิทธิ์/คน/เดือน เพื่อตรวจเช็กสุขภาพได้บ่อยขึ้น
หรือให้สิทธิ์คนในครอบครัวตรวจเช็กสุขภาพได้
แคมเปญที่
3 อื่น ๆ อย่าง แคมเปญ Gamification เกมเศรษฐี เกมล่าขุมทรัพย์ใต้ทะเล แคมเปญมูทิป เช็กดวงชะตา
ตอบโจทย์กลุ่มชอบมูเตลู สามารถอ่านคําทํานายดวงชะตาจากแอปได้ตลอดทั้งปี
ข่าวที่ 4-บางจากจัดGreenovativeForumสำรวจIAเปลี่ยนพลังงาน
กลุ่มบริษัทบางจาก
รายงานว่า เตรียมจัดงานสัมมนา Greenovative Forum ครั้งที่
14 วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 9.00-12.00 น. ที่ห้องประชุมใบไม้ ชั้น 8
อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ บริษัท บางจากฯ
โดยร่วมกับ สำนักข่าว The Standard นำเสนอหัวข้อ
"Crafting Tomorrow's Future with Sustainable Energy and AI" นำร่องทำโครงการสำรวจแนวทางที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน
พบกับการบรรยายพิเศษ
“AI’s Role in Energy Transition” โดย นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ต่อด้วยการสนทนา
Fireside Chat หัวข้อ “Crafting Tomorrow's
Future with Sustainable Energy and AI” ร่วมกับ นายนครินทร์ วนกิจไพบูลย์ (เคน) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
และบรรณาธิการบริหาร บริษัท เดอะสแตนดาร์ด จำกัด
รวมทั้งการบรรยายโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากต่างประเทศ
และการเสวนาสะท้อนหลากหลายมุมมองเกี่ยวกับ AI สำหรับผู้สนใจ
กรุณาติดตามรายละเอียดการลงทะเบียนร่วมสัมมนาต่อไป
ช่วงที่ 2 ปลายฝนต้นหนาวใกล้วันเพ็ญเดือน 12 ปักหมุดรอเที่ยวงานลอยกระทง
“คลองผดุงกรุงเกษม” 13-16 พ.ย.นี้
มาร่วมเทศกาลประเพณีสัมผัสวัฒนธรรมอันงดงามได้ 4 พิกัด
จำลองงานเด่น 5 ภาค มาไว้ในกรุง ช้อป ชิม แชะแชร์ ได้ครบ
แล้วฟังต่อเรื่อง “9อาหารชะลอวัย” กินด่วนจะได้ห่างไกลโรค
ต่อด้วยข่าวดี ๆ ข่าวแรก “เซ็นทารา กะรน
รีสอร์ต ภูเก็ต” อวดโฉมใหม่จัดโปรรับไฮซีซั่น ข่าวที่สอง “ไทยไลออนแอร์”
เปิดบินใหม่ ดอนเมือง-เกาสง/ไต้หวัน เริ่ม 21 ม.ค.68 มีตั๋วโปร 2,890 บาท/เที่ยว
ท่องเที่ยว –เที่ยวลอยกระทงคลองผดุงกรุงเกษม”ในกรุงเทพฟิน
ๆ4 พิกัด
เตรียมตัวไปลอยกระทงใกล้
ๆ ในกรุงเทพฯ ที่ “คลองผดุงกรุงเกษม” วันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2567
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร
ชวนออกมาเติมความสุขเที่ยวงานประเพณีสะท้อนคุณค่าความเป็นไทยอย่างสร้างสรรค์ หนึ่งในซอฟท์ พาวเวอร์
อัตลักษณ์พื้นที่รากวัฒนธรรม วิถีไทย
วันขึ้น
15 ค่ำ เดือน 12 เปิดคลองผดุงกรุงเกษม
ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ชมภาพรวมขบวนแห่ประเพณีลอยกระทงทางน้ำและนางนพมาศ
การแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงจากศิลปิน การแสดงแสงเสียง ไลท์ แอนด์ ซาวนด์
พร้อมกิจกรรมลอยกระทง และเช็คพิกัดเที่ยวในงาน
พิกัดที่
1 เดินสัมผัสกลิ่นอายในพื้นที่จำลองงานประเพณีลอยกระทง
ประดับไฟแสดงความรุ่งเรือง ทางวัฒนธรรมสื่อผ่านสัญลักษณ์แลนด์มาร์ค ครบทั้ง 5 พื้นที่ ได้แก่
“ประเพณียี่เป็ง”
จังหวัดเชียงใหม่ “ลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง” จังหวัดตาก
ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง
จังหวัดสมุทรสงคราม ประเพณี สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป จังหวัดร้อยเอ็ด
พิกัดที่
2 ร่วมวงลงมือทำกิจกรรม DIY ทำกระทงอัตลักษณ์ของแต่ละภาคซึ่งมีความยากง่ายต่างกันไป
เมื่อได้ลองทำเองแล้วจะรู้ เช่น โคมล้านนา กระทงกะลามะพร้าว กระทงใบลาน
กระทงกาบกล้วย กระทงรวงข้าว และประดิษฐ์กระทงด้วยตนเองจากวัสดุธรรมชาติ
พิกัดที่
3 เดินชิมอาหาร ช้อปสินค้าพื้นเมือง
และสนุกกับกิจกรรมการสาธิตอาหารไทยโบราณ ที่ยกมาไว้ในงานนี้แบบจัดเต็ม
พิกัดที่
4 ชีลกับการเช็คอินตามจุดตกแต่งประดับไฟแสงสี
ตลอดบริเวณคลองผดุงกรุงเกษม
สุขภาพ –9
อาหารชะลอวัยใกล้ตัวกินด่วนช่วยคนยุคนี้ห่างไกลโรค
ยุคสมัยปัจจุบันการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
สามารถช่วยให้แก่ช้า สุขภาพดี เริ่มจากการกินดี สารอาหารครบถ้วน
หนังสือแนวทางการดูแลสุขภาพตามหลัก 3 อ. อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์
แนะนำให้หันมาเลือกรับประทาน 9 อาหารชะลอวัย ใกล้ ๆ
ตัว ดังนี้
1.
น้ำ - ช่วยดูดซึมอาหาร ขจัดของเสีย รักษาอุณหภูมิร่างกาย
2.
ผัก - มีวิตามิน กากใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ
3.
ผลไม้ - อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ กากใยอาหาร
4.
หอม กระเทียม - เพิ่มภูมิต้านทาน ลดคอเลสเตอรอล
5.
ธัญพืชชนิดไม่ขัดสี - เช่น ข้าวโพด ลูกเดือย มีโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร
6.
ถั่วเมล็ดแห้ง - เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง มีวิตามินบี
ลดเสี่ยงคอเลสเตอรอล
7.
ถั่วเปลือกแข็ง - เช่น ถั่วลิสง อัลมอนด์ มีวิตามินบีและอี ใยอาหาร ไขมันดี
8.
โอเมกา 3 - แหล่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่
แซลมอน ปลาทู น้ำมันปลา ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และสมองเสื่อม
9.
โยเกิร์ต - มีแคลเซียม จุลินทรีย์ ช่วยการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –เซ็นทารากะรนภูเก็ตโฉมใหม่แจกโปรไฮซีซั่นถึง30พ.ย.นี้
“เซ็นทารา
กะรน รีสอร์ท ภูเก็ต” โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา รายงานว่า หลังลงทุนปรับโฉมครั้งใหญ่เสร็จเรียบร้อย
ได้จัดกิจกรรมต้อนรับการกลับมาเปิดให้บริการใหม่อีกครั้ง
พร้อมมอบประสบการณ์พักผ่อนให้นักเดินทาง ด้วยข้อเสนอพิเศษเพื่อเข้าพักได้ตั้งแต่ 1
ธันวาคม 2567 -30 เมษายน 2568 รับสิทธิประโยชน์รีสอร์ทเครดิต ผู้ถือบัตรสมาชิก เซ็นทารา
เดอะ วัน (CentaraThe1) รับส่วนลดห้องพัก และคะแนนเพิ่มเพียบ
โดยเลือกจองห้องพักตั้งแต่วันนี้
-30 พฤศจิกายน 2567 ที่ “เซ็นทารา กะรน รีสอร์ท ภูเก็ต”
แล้วนำไปใช้พักได้ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2567-30 เมษายน 2568 จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายดังนี้ 1.ฟรีเด็กอายุไม่เกิน 12
ปี เข้าพักพร้อมครอบครัว เล่นสนุก รับประทานอาหาร 2.รีสอร์ทเครดิตมูลค่า
500 บาท/วัน ไว้ใช้จ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม สปา
ภายในรีสอร์ท 3.เช็คอินและเช็คเอ้าท์ยืดหยุ่นเวลาได้ตามเหมาะสม
4.ฟรีบริการเติมมินิบาร์ทุกวัน
สำหรับ
“สมาชิก CentaraThe1” รับส่วนลดห้องพักเพิ่มอีก 15%
และทุกการเข้าพักรับคะแนนในบัตรดังกล่าวเพิ่ม 3 เท่า
เปิดให้ลูกค้าล็อคอินหรือสมัครฟรีเป็นสมาชิกทางเว็บไซต์ centara1card.com
ปัจจุบัน
“เซ็นทารา กะรน รีสอร์ท ภูเก็ต”
ลงทุนปรับปรุงโรงแรมใหม่เพื่อยกระดับประสบการณ์การพักผ่อนให้สมบูรณ์แบบ
นำเสนอรีสอร์ทผสานความทันสมัยกับความสะดวกสบายสูงสุดอย่างลงตัวเข้ากับความงามทางธรรมชาติของเกาะภูเก็ต
ด้วย “ห้องพัก” ตอบโจทย์ความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพัก มีให้เลือก 3 สไตล์ ได้แก่ 1.ห้องวิวทะเลเดอะเทอร์เรซ 2.ห้องแฟมิลี่เดอะลากูน 3.ห้องพูลวิลลาพร้อมสระส่วนตัว
ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ครบจบที่เดียว ทั้ง
ห้องอาหารเลิศรสหลากสัญชาติต่าง ๆ สระว่ายน้ำทั้งของผู้ใหญ่และเด็ก
พร้อมกิจกรรมสันทนาการเหมาะกับแต่ละวัย
เลือกทำได้ตลอดการพักผ่อนอยู่ในเกาะภูเก็ตที่มีชื่อเสียงทางการท่องเที่ยวติดอันดับโลก
ข่าวที่สอง -ไลออนแอร์เปิดใหม่บินดอนเมือง-เกาสง21ม.ค.68โปร2.8พัน
ไทย
ไลอ้อน แอร์ รายงานว่า เตรียมเปิดบริการเที่ยวบินตรงแบบประจำเส้นทาง
ไป-กลับ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – เกาสง (ไต้หวัน)
เริ่มปฐมฤกษ์เที่ยวบินแรกตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2568 นำเสนอตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษเริ่มต้น 2,895
บาท/เที่ยว สัปดาห์ละ 4 เที่ยว ทุกวันอังคาร
พฤหัสบดี เสาร์ อาทิตย์ ด้วยเป้าหมายการเปิดเส้นทางบินดังกล่าว
มุ่งรองรับการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ
ควบคู่กับการสนับสนุนส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว
ซึ่งจะสามารถอำนวยความสะดวกกระตุ้นคนเดินทางแลกเปลี่ยนกันระหว่างไต้หวันกับเมืองไทย
จุดเด่นของเมือง“เกาสง”
ไต้หวัน มีแม่เหล็กดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวครอบคลุม 3 ด้านหลัก ได้แก่
ด้านที่
1 ประวัติศาสตร์การเป็นเมืองท่าและศูนย์กลางธุรกิจทางภาคใต้และเมืองใหญ่อันดับ
2 ของไต้หวัน
ด้านที่
2 เป็นหนึ่งใน Exotic Getaway แห่งเอเชีย
มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมอันงดงาม พร้อมสัญลักษณ์ตึก Kaohsiung 85
Building เป็นอันดับ 2 ของไต้หวัน
ด้านที่
3 อาหารถิ่นและสินค้าช้อปปิ้งสร้างความตื่นตาตื่นใจทั้งคุณภาพและราคา
ดังนั้น
“ไทย ไลอ้อน แอร์” จึงได้จัดทำตารางบิน เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) –
เกาสง (ไต้หวัน) วันละ 1 เที่ยว ดังนี้
เที่ยวบินขาไป
SL390 กรุงเทพฯ– เกาสง ออกจากสนามบินดอนเมือง เวลา 02.45
น. ถึงสนามบินเกาสงตามเวลาท้องถิ่นในไต้หวัน เวลา 07.15 น.
เที่ยวบินขากลับ
SL391 เกาสง – กรุงเทพฯ ออจาก สนามบินเกาสง (ไต้หวัน) เวลา 13.40
น. ถึงสนามบินดอนเมือง เวลา 16.00 น.
ขณะนี้ไทย
ไลออนแอร์ เปิดให้ผู้โดยสารจองซื้อตั๋วโดยสารเที่ยวบินดังกล่าวในราคาโปรโมชัน
และเลือกซื้อบริการพิเศษเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.lionairthai.com
หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ Contact Center Line Official
Account: @lionairgroup และโทร 02-529-9999 ฟรีค่าธรรมเนียมการจองและตัดบัตรเพื่อชำระเงินค่าต่าง
ๆ ของสายการบิน
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น