ททท.ดึง“ไทยเที่ยวตะวันออก”8เดือนสะพัด1.18แสนล้าน
ไฮซีซั่น67-68บูม“เที่ยวใกลกรุง-ชายหาด-เมืองชายแดน”
ทัวร์ตะวันออก5บิ๊กอีเวนต์-เทศกาลพลุนานาชาติพัทยา
คิงเพาเวอร์ออนไลน์แจกออนท็อปช้อปWarm Up 11.11
ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์รับ 3 ฟรีตั๋วบิน/คูปองลด-F&B
ททท.ชูWOW!Thailandใช้3สนามบินแจกใหญ่ทัวร์ต่างชาติ
บางจากคว้าSETAwards3รางวัล“ยั่งยืน/ลงทุน/นวัตกรรม”
วันเดียวเที่ยวครบทั่วเมืองปราสาทหินสวยบุรีรัมย์5พิกัด
8 พืชผักผลไม้ดื่มหรือกินเพื่อช่วยย่อย/อิ่มง่าย/สบายท้อง
เอเม็กซ์เปิดโพลล์ปี’67ทัวร์ไทยชอบกินร้านใหม่ช้อปหรู
กรมทัวร์ร่วมAFM2024ดึงหนังฮอลีวู้ดมาไทย1.5พันล้าน
วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #ทททภาคตะวันออก #เที่ยวบุรีรัมย์
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/14k1jxMoNc/
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !! กนกกิตติกา
กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดรายได้ 9 จังหวัด 8 เดือนแรก
ม.ค.-ส.ค.67 คนไทยใช้เงินเที่ยวตะวันออกกว่า 1.18 แสนล้าน 3 พื้นที่แรกโกยรวมกันเกือบแสนล้าน
“ชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี” ไฮซีซั่นเปิดจุดขายใหม่แบ่งเส้นทาง 3 กลุ่มใหญ่ “เที่ยวใกล้กรุง-เมืองชายหาดหมู่เกาะ-เมืองชายแดน”
ชวนเช็คอินบิ๊กอีเวนต์ปลายปี 5 งาน
เทศกาลมาแรงพลุนานาชาติพัทยา
กนกกิตติกา
กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า ได้วางแผนส่งเสริมตลาดการขายท่องเที่ยวภูมิภาคภาคตะวันออกปลายปี 2567
ต่อเนื่องปี 2568 เริ่มตั้งแต่พฤศิกายนนี้เป็นต้นไป
ยังเน้นจุดขายภายใต้ธีม “สีสันตะวันออก Colorfull Burapa : ยืนหนึ่งเรื่องกิน
สุดฟินเรื่องเที่ยว เต็มเหนี่ยวสายศรัทธา เรียนรู้เรื่องรักษ์” สถานการณ์โดยภาพรวม
“เฉพาะตลาดในประเทศ/คนไทยเที่ยวไทย” กระจายในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 9 จังหวัด ช่วง 8 เดือนแรก ตั้งแต่มกราคม-สิงหาคม 2567
สามารถดึงดูด
“คนไทย” ท่องเที่ยวภาคตะวันออก สร้าง “รายได้” รวม 118,934 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 17.99 % สูงกว่าปี
2562 กว่า 40 % มี
“จำนวนผู้เยี่ยมเยือน/นักท่องเที่ยวคนไทย” 27,831,619 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 12.97
% สูงกว่าปี 2562 กว่า 27 % นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเฉลี่ย 4,273.34 บาท/คน/ทริป เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 4.47 % สูงกว่าปี 2562 กว่า 9 % ทำอัตราเข้าพักเฉลี่ย
(OR :Occupacy Rate) 71.94 % เพิ่มขึ้น
3.12 %
ตามข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอัพเดท “ตลาดในประเทศ/คนไทยเที่ยวภาคตะวันออก” แยกรายจังหวัด 8 เดือน ระหว่างมกราคม-สิงหาคม 2567
“ชลบุรี” ทำรายได้ 65,507.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22.16 % มีจำนวนนักท่องเที่ยว 9,754,146 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 10.63 % อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 79.25 % เพิ่มขึ้น 2.49 %
“ระยอง” ทำรายได้ 12,834.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.15 % มีจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทย 3,263,946 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 12.99 % อัตราเข้าพักเฉลี่ย 76.37 % เพิ่มขึ้น 2.58 %
“จันทบุรี” ทำรายได้ 12,388.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.03 % มีจำนวนนักท่องเที่ยว 3,261,917 คน-ครั้ง ลดลง 2.25 % อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 63.99 % เพิ่มขึ้น 3.06 %
“ตราด” ทำรายได้ 1,325.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.67 % มีจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทย 1,325,191 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 25.58 % อัตราเข้าพักเฉลี่ย 57.33 % เพิ่มขึ้น 3.79 %
“นครนายก”
ทำรายได้ 4,498.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.65 % มีจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทย 1,857,641 คน-ครั้ง
เพิ่มขึ้น 68.22 % อัตราเข้าพักเฉลี่ย 64 % เพิ่มขึ้น 4.54 %
“ปราจีนบุรี”
ทำรายได้ 2,867.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.16 % มีจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทย 980,305 คน-ครั้ง
เพิ่มขึ้น 19.02 % อัตราเข้าพักเฉลี่ย 52.55 % เพิ่มขึ้น 7.60 %
“สระแก้ว”
ทำรายได้ 3,062.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.38 % มีจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทย 969,870 คน-ครั้ง
เพิ่มขึ้น 22.96 % อัตราเข้าพักเฉลี่ย 51.49 % เพิ่มขึ้น 6.22 %
“สมุทรปราการ”
ทำรายได้ 3,732.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.38 % มีจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทย 2,346,327 คน-ครั้ง
เพิ่มขึ้น 40.44 % อัตราเข้าพักเฉลี่ย 56.21 % เพิ่มขึ้น 6.31 %
“ฉะเชิงเทรา”
ทำรายได้ 5,333.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.68 % มีจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทย 4,072,276 คน-ครั้ง
เพิ่มขึ้น 12.80 % อัตราเข้าพักเฉลี่ย 46.75 % เพิ่มขึ้น 7.92 %
ผอ.กนกกิตติกา
กล่าวว่า ตั้งแต่พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก
รวมพลังกันนำเสนอกระตุ้นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อนแบ่งตามเส้นทางได้ 3
กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 จังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุง ท่องเที่ยวครึ่งวันหรือเต็มวันแบบไปเช้ากลับเย็น เช่น ปากน้ำ 0”สมุทรปราการ บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี บางแสน ศรีราชา ซึ่งมีเวลาไม่มากก็สามารถไปกินไที่ยวไปไหว้พระไป สามารถทำกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติได้ครบทุกอย่าง
กลุ่มที่ 2 เส้นทางเที่ยวเมืองชายทะเลและหมู่เกาะ ซึ่งเป็นจุดขายหลักในภาคคเวันออก มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก มีชายหาดยอดนิยมต่าง ๆ ระยะทางยาวเที่ยวเชื่อมต่อกันได้ตั้งแต่ ชลบุรีระยอง จันทบุรี ถึงตราด นำโดยพัทยา เกาะสีชัง เกาะล้าน เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก แต่ละพื้นที่มีสิ่งที่ต้องทำ Must Do อย่างแรก “Must Taste อาหาร” แนะนำ กินปูม้า ปูทะเล กั้ง หอยนางรมสด ยิ่งเดินทางโดยรถยนต์ สามาถขนเพื่อนร่วมทางไปได้เต็มที่ ถ้าบินมาก็ลงได้ทั้ง 3 สนามบินหลัก คือ สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา และตราด
กลุ่มที่
3 เมืองชายแดน
สระแก้ว จันทบุรี ตราด ที่มีด่านชายแดนเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งอรัญประเทศ
บ้านแหลม บ้านผักกาด คลองใหญ่ บ้านหาดเล็ก สามารถไปเช้าเย็นกลับได้เช่นกัน
หรือจะพักค้างในอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว หรือเขาสอยดาว จ.จันทบุรี
ก็เป็นเส้นทางที่น่าสนใจการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เปลี่ยนที่กินข้าว
ดูบ้านเมืองเป็นเสน่ห์อันงดงาม
ผอ.กนกกิตติกา กล่าวว่า ช่วงฤดูท่องเที่ยวไฮซีซั่นเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2567 มีงานชิล ๆ เอาใจสายคาเฟ่ กับงานเดินสบาย ๆ ของกินอร่อย ๆ คอกาแฟกับคาเฟ่ ห้ามพลาด 3 งาน คือ งานแรก ชลบุรี คอฟฟี่ ออน เดอะ บีช ชายหาดพัทยา 22-24 พฤศจิกายน นี้ งานที่ 2 ฟังเพลงพ่อ คลอเสียงน้ำ ที่เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก 5-8 ธันวาคม นี้ ฟังดนตรีออร์เกสต้า และเลือกรับประทานอาหารถิ่น และงานที่ 3 แจ่มจันท์ มาร์เก็ต บริเวณเขาสอยดาว จันทบุรี 21-22 ธันวาคม นี้ มีกิจกรรมชุมชนน่ารัก มาต้อนรับนักท่องเที่ยว
พร้อมกับไฮไลต์บิ๊กอีเวนต์ท่องเที่ยว ปักหมุดแรก “ชุมชนขนมแปลกหนองบัว” จ.จันทบุรี จัดเต็มต้อนรับงานประเพณีดั้งเดิม และหมุดที่สอง เที่ยวเทศกาลพลุนานาชาติพัทยา 29-30 พฤศจิกายน นี้ กับเที่ยว “เทศกาลลอยกระทง” ในภาคตะวันออกเปิดทุกพื้นที่จัดงาน นักท่องเที่ยวอยู่ใกล้บริเวณใดก็เที่ยวแถบนั้นได้ทุกแห่ง
ส่วนการท่องเที่ยวใกล้กรุงในวันสบาย
ๆ จะเป็นวันธรรมดา หรือวันหยุด ใน “ภาคตะวันออก”
ก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะนำเงินไปกระจายรายได้จากเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยวในพื้นที่
ซึ่งสามารถสร้างความประสบการณ์ความประทับใจได้ตลอดทุกครั้ง เลือกได้ใน 9 จังหวัด คือ
“สมุทรปราการ” เชิญชวนไปเปิดประสบการณ์เมืองสมุทรปราการมีอะไรมากกว่าที่คิด โดยสามารถขับรถเลยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปก็ถึง “บางปู” เพื่อดูนกนางนวล แวะกินอาหารทะเล ขนมอร่อยที่สายลมบางปู หรือจะ “พักค้างคืน” ก็มีที่พักน่าสนใจให้เลือกเช็คอินได้หลายแห่ง แถมด้วยการนั่งคอนเสิร์ตที่เลอทาน่า
“ฉะเชิงเทรา”
เส้นทางแห่งศรัทธา ไหว้หลวงพ่อดาธร แวะตลาดบ้านใหม่โบราณกว่าร้อยปี ตลาดบางคล้า
แล้วไปผ่อนคล้ายต่อกันที่สปาหินภูเขาไฟ “บลูโอโซน” มีชื่อเสียงด้านเฮลท์
เวลเนส
“ปราจีนบุรี”
เที่ยวเขาใหญ่ทาง “ด่านเนินหอม” แล้วกลับมาแวะพักผ่อนกลางธรรมชาติที่ “รอยัลฮิลล์
นครนายก” เดินทางท่องเที่ยวต่ออีกช่วงได้ที่เขื่อนขุนด่านปราการชล
สัมผัสธรรมชาติสูดโอโซน
“ระยอง”
ไปเช็คอินถ่ายรูปกับ “ทุ่งดอกทิวลิป” เปิดให้เข้าไปเที่ยวฟรีตลอดปี
แล้วเดินทางต่อไปยังหาดแม่รำพึง หรือจะย้อนทางมาเที่ยว บางเสร่ กับ แหลมแม่พิมพ์
ก็ได้ด้วยเช่นกัน
ไฮไลต์ต้องห้ามพลาดเที่ยวระยอง-
จันทบุรี ขับรถลัดเลาะ “ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ” แวะ แหลมแม่พิมพ์ ทุ่งโปรงทอง
เนินนางพญา
ยังคงเสน่ห์ไม่เสื่อมคลายจนถึงทุกวันนี้โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวมาทักทายกันได้ทุกวัน
นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่น
ๆ สามารถบินตรงจากต้นทางมาลงยังท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา หรือตราด
แล้วสามารถนั่งรถใช้เวลาไม่มากไปยังพื้นที่รอบกรุงเทพฯ สุดอากาศบริสุทธิ์
รับประทานอาหารทะเลอร่อย ๆ ได้
ผอ.กนกกิตติกา
กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมของภูมิภาคภาคตะวันออก ล่าสุด 9 เดือน ระหว่างมกราคม-กันยายน 2567 ฟื้นตัวใกล้เคียงปกติปี
2562 อย่างรวดเร็ว โดยมีเที่ยวบินลงสนามบินอู่ตะเภา และตราด
มาจากสมุย และภาคอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ
จึงเชิญชวนให้คนไทยลองเดินทางทางอากาศก็ได้ด้วย เร็ว ๆ นี้
จะมีข่าวดีจากบางกอกแอร์เวย์ส ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ตราด เดือนธันวาคม 2567 จากเพิ่มเป็น วันละ 3 เที่ยว จากปัจจุบัน 2 เที่ยว เปิดโอกาสให้คนไทยได้เที่ยวหมู่เกาะทะเลตราดเพิ่มขึ้น
สำหรับสินค้าท่องเที่ยว
5 Must Do in East แนะนำ Must Taste ทุกจังหวัดมีอาหารทะเล อาหารถิ่นอร่อยครบทุกเมนู Must Buy ช้อปอัญมณีในจันทบุรี Must Seek แหล่งท่องเที่ยวที่กำลังค้นหาความแปลกใหม่ใกล้
ๆ ในนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว มีเสน่ห์ไทยให้ค้นหามากมาย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์ออนไลน์แจกออนท็อปช้อปWarm Up 11.11
คิง
เพาเวอร์ จัด “WARM UP_11.11 SHOP TILL YOU DROP” เริ่มต้นช้อปให้จุใจไปเลย!
กับโปรโมชั่นเด็ดต้องห้ามพลาดที่ “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” เท่านั้น
ช้อปมันส์ได้ทุกวันเปลี่ยนหมวดไปเรื่อย
ๆ สนุกกับส่วนลดออนท็อป 111 บาท แค่กรอกโค้ดเพิ่ม ร่วมกับโค้ดทั่วไปของแคมเปญ NOVEMBER
MISSION POSSIBLE ก็ได้ส่วนลดจุกๆแล้ว
ช้อปพร้อมรอรับของที่สนามบินขาออกประเทศ
ลดสูงสุด
10% เมื่อช้อปครบ 5,000 บาท
รหัสส่วนลด 10NOV24
ลดสูงสุด
15% เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท
รหัสส่วนลด 15NOV24
ลดสูงสุด
20% เมื่อช้อปครบ 12,000 บาท
รหัสส่วนลด 20NOV24
พิเศษ!
ลดเพิ่มทันที 111
ช้อปแบบไม่มีขั้นต่ำ รหัสส่วนลด SAVE111
เปิดให้“ปักหมุดช้อป”
ตามวันดังนี้ได้เลย ช้อป “เครื่องสำอาง สกินแคร์” วันที่ 3 -
4 พ.ย. 67
แคร์ “กลุ่มสินค้า Travel Set” 5 - 6 พ.ย. 67 “กลุ่ม แว่นตา และ นาฬิกา” 7 - 8 พ.ย. 67
“กลุ่มสินค้าอาหาร” 9 - 10 พ.ย. 67
ข่าวที่ 2-ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์รับ
3 ฟรีตั๋วบิน/คูปองลด-F&B
ช้อป
คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2567
ต้อนรับความพเศษด้วย Online Special Offer!!
รับรัว ๆ 3 ฟรี
1.Free!
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ทุกเส้นทางบินจาก EVA AIR สำหรับ Top Spender ลำดับที่ 1 – 4 ตั๋ว SAWASDEE Pass จาก AOT สำหรับ
Top Spender ลำดับที่ 5 – 11 รวม Top
Spender ทั้งหมดจำนวน 11 รางวัล - 30 พ.ย. 67
2.Free
! รับสิทธิพิเศษต่างๆ ต่อไปนี้ เมื่อช้อปครบ 20,000 บาท (สุทธิ) Thai Taste
Hub บัตรเงินสดมูลค่า 200 บาท , Other
Cafe' ส่วนลด 25% , Pullman Bangkok King Power รับส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่ม สูงสุด 30% และFirster
ส่วนลด 500 บาท วันนี้- 30 พ.ย. 67 นี้เท่านั้น! เฉพาะลูกค้าที่ช้อปครบ 20,000 บาท (สุทธิ)
3.Free!
Exclusive E-Vouchers Food & Beverages เมื่อสะสมยอดช้อปครบ 20,000
บาท รับโวเชอร์อาหารและเครื่องดื่ม F&B Voucher มูลค่า 50 บาท เมื่อสะสมยอดช้อปครบ 30,000 บาท รับ F&B Voucher มูลค่า 150 บาท เมื่อสะสมยอดช้อปครบ 40,000.- รับ F&B
Voucher มูลค่า 300 บาท เมื่อสะสมยอดช้อปครบ 50,000.-
รับ F&B Voucher มูลค่า 500 บาท
คูปองส่วนลดอาหารและเครื่องดื่มใช้ที่ร้านค้าในสนามบินสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง และภูเก็ต
รอรับได้คูปองทางอีเมลเมื่อรายการสั่งซื้อสำเร็จตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
สินคิ้วติวตี้ฟรี
เมื่อช้อปจาก คิง เพาเวอร์
เรียบร้อยแล้วไปรับสินค้าได้ที่สนามบินขาออกทุกทริปที่จะเดินทาง
ข่าวที่ 3-ททท.ชูWOW!Thailandยึด3สนามบินแจกใหญ่ทัวร์ต่างชาติ
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า ททท.นำเสนอแคมเปญไฮไลต์ “WOW! Thailand Passport
Privileges” ภายใต้โครงการ Amazing Thailand Passport Privileges ร่วมกับพันธมิตรมอบส่วนลด
สิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลกที่เดินทางมาไทยช่วงพฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567
เน้นกระตุ้นการใช้จ่ายเงินชอปปิ้งสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวชั้นนำในราคาพิเศษกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
และมอบของที่ระลึกเสน่ห์ไทย Must
Do Souvenirs บอกเล่าอัตลักษณ์ของเมืองไทย ครบทั้ง 5 อย่าง คือ Must Taste อาหารไทย Must Try ศิลปะแม่ไม้มวยไทย Must Buy ผ้าไทยและหัตถกรรมไทย Must
Seek แหล่งท่องเที่ยว และศิลปวัฒนธรรมไทย และ Must See การแสดงศิลปะไทย
@ตั้งบูธต้อนรับ3สนามบิน“สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-ภูเก็ต”
ททท.ได้เปิดบูทกิจกรรม WOW! Thailand Passport Privileges ไว้ในสนามบินหลักของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” กระจายอยู่ใน 3 แห่ง ได้แก่ 1.สุวรรณภูมิ” ชั้น 2 บริเวณประตู 10 ชั้น
มีบูธให้นักท่องเที่ยวนานาชาติลงทะเบียนได้ตลอดแคมเปญ
เพียงแสดงหนังสือเดินทางที่บูธดังกล่าว 2.ดอนเมือง
ห้องโถงผู้โดยสารชั้น
มีบูธมอบของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย 3.ภูเก็ต เปิดบริเวณโถงขาเข้าผู้โดยสารชั้น 1 มอบของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงไทยด้วยเช่นกัน
พร้อมกับจัดพิเศษเพิ่มในแคมเปญ WOW! Thailand Passport
Privileges ททท.เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมสนุก และรับสิทธิพิเศษเพิ่มอีก 3 กิจกรรม
@งัด3กิจกรรมแจกเพิ่มแพกเกจ-ลัคกี้นัมเบอร์-บิ๊กเซอร์ไพรส์
กิจกรรมแรก WOW Thailand: Must Do Package เปิดให้นักท่องเที่ยว 10,000 คนแรก
ที่ลงทะเบียนบนเว็บไซต์โครงการ www.tourismthailand.org/wowthailandpassportprivileges กดรับสิทธิพิเศษ WOW Deals เป็นส่วนลดและสิทธิพิเศษสินค้าและบริการท่องเที่ยวได้
1 คน ต่อ 1 สิทธิ์ เพื่อนำสิทธิไปใช้ตามสถานประกอบการที่ร่วมโครงการได้
กิจกรรมที่
2 WOW
Thailand : Lucky Number ลุ้นเป็นผู้โชคดีจากการลงทะเบียนร่วมแคมเปญ
นักท่องเที่ยวทุก ๆ คน เช่น คนที่ 10,000
คนที่ 20,000 และคนที่ 30,000 ไปจนถึง 200,000 ลุ้นรับฟรีแพคเกจท่องเที่ยว คนละ 1
รางวัล รวม 20 รางวัล มูลค่า35,000 บาท/รางวัล รวมมูลค่ากว่า 700,000 บาท
กิจกรรม
3 WOW Thailand : Big Surprise ว้าวกว่าเดิม
เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยและลงทะเบียนบนเว็บไซต์ของโครงการ
ได้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่บิ๊ก เซอร์ไพรส์ มูลค่า 300,000 บาท อีก 1 รางวัล
ผู้ว่าฯ
ฐาปนีย์ นำทีมเปิดตัวโครงการวันแรก 1
พฤศจิกายน 2567 ต้อนรับและมอบของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวนานาชาติเดินทางมาถึงไทยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ นางประหนึ่งนุช บำเพ็ญสมัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พันตำรวจโทรัชนี เฉิดฉาย รองผู้กำกับฝ่าย ตม.ขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 นายมนาเทศ อันนวัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด
ข่าวที่ 4-บางจากคว้าSET Awards3รางวัล“ยั่งยืน/ลงทุน/นวัตกรรม”
นางกลอยตา
ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ล่าสุดในงานบริษัทจดทะเบียนไทย SET
Awards 2024 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
จัดร่วมกับวารสารการเงินการธนาคาร ประกาศให้ “บางจาก”ได้ 3 รางวัลแห่งปี ตนเป็นผู้แทนรับรางวัลแรก Sustainability Awards
of Honor รางวัลเกียรติยศสูงสุดในกลุ่มรางวัล Sustainability
Excellence ต่อเนื่องปีที่ 5 และมีผู้บริหารบางจากขึ้นรับอีก
2 รางวัลสูงสุด 2 ด้าน คือ
ด้านการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน : Sustainability
Excellence - Best Sustainability Award และด้านความเป็นเลิศในการดำเนินธุรกิจ
: Business Excellence - Best Investor Relations Award
ทั้ง
3 รางวัล SET Awards 2024 ได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบางจากฯ
คือผู้นำด้านความยั่งยืนและนวัตกรรมที่โดดเด่น
ที่ได้การยอมรับด้านความเป็นเลิศทางธุรกิจและการดูแลนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ความสำเร็จดังกล่าวจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้บริษัทก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนมั่นคง
มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสร้างผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
พร้อมส่งมอบคุณค่าที่ดีที่สุดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม
@บางจากครองรางวัลความยั่งยืนต่อเนื่องปีที่8
สำหรับ
Sustainability Awards of Honor
เป็นรางวัลที่ผู้จัดมอบให้องค์กรที่เคยได้รับรางวัล Best
Sustainability Awards ติดต่อกันตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะรางวัล Best Sustainability Awards รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ผู้จัดมอบให้บริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลประกอบการทางการเงินและความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย
สามารถนำประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG
(Environmental, Social and Governance) ไปใช้เป็นกลไกในการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางสาวภัทร์ภูรี
ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน
และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บมจ.บางจากฯ
เป็นผู้แทนรับรางวัล Best Investor Relations Awards ในกลุ่มรางวัล Business
Excellence บริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 30,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100,000 ล้านบาท
ต่อเนื่องปีที่ 2 ยืนยันถึงความโดดเด่นของบางจากด้านกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์
(IR) ได้การยอมรับจากนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน
ด้วยความโปร่งใส สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพชัดเจน รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับนักลงทุน
รักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อเนื่องมาตลอดถึงปัจจุบัน
@บางจากคว้ารางวัลนวัตกรรมตอกย้ำพลังงานใหม่SAF
นางนฤพรรณ
สุธรรมเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
กลุ่มงานยุทธศาสตร์และพัฒนาธุรกิจใหม่กลุ่มบริษัทบางจาก
เป็นผู้แทนบางจากขึ้นรับรางวัลโล่ดีเด่น Innovative Company
Awards ในกลุ่มรางวัล Business Excellence องค์กรที่มีการบริหารจัดการองค์กรโดยนำนวัตกรรมมาใช้
หรือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
โดยได้พัฒนานวัตกรรมต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตแบบยกระดับให้บริษัท
และสร้างผลเชิงบวกให้อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ สังคม และประเทศ
จึงทำให้บางจากได้รับรางวัลนวัตกรรมเรื่องระบบนิเวศน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) พลังงานสะอาดเทรนด์ใหม่ในตลาดโลกเริ่มไตรมาส 2 ปี 2568
เป็นต้นไป
ช่วงที่
2 ทริปเที่ยวปลายฝนต้นหนาว
ชวนกันไปเมืองปราสาทหิน “บุรีรัมย์” วันเดียวเที่ยวครบ 5 พิกัด
ศูนย์เรียนรู้นกกะเรียน สนามช้างอารีน่า สักการะอนุสาวรีย์ ร.1 งานเทศกาลตลอดพ.ย.67
แล้วหันมากิน “8พืชผักผลไม้” ช่วยย่อยง่ายแก้ท้องอืด
และข่าวฮ็อตสุด ๆ ข่าวแรก “อเมริกันเอ็กซ์เพรสเปิดโพลล์คนไทย” ปี67 ใช้โซเชียลกินอาหารร้านใหม่ ๆช้อปแบรนด์หรูทั้งหญิงและชาย ข่าวที่สอง
“กรมท่องเที่ยว” ร่วมงาน AFM 2024 โกยหนังฮอลิวู้ดมาถ่ายทำในไทยเพิ่ม
1,500 ล้านบาท
ท่องเที่ยว –วันเดียวเที่ยวครบทั่วเมืองปราสาทหินบุรีรัมย์5พิกัด
เที่ยวสบาย
ๆ ในเมืองปราสาทหิน ปลายฝนต้นหนาวปีนี้ ททท. สำนักงานบุรีรัมย์
เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวนำเสนอเส้นทางวันเดียวเที่ยวทั่วเมือง “บุรีรัมย์”
มีความหมาย ทรงคุณค่า ประทับใจ ใน 5 พิกัด
พิกัดที่
1 เยือนถิ่น นกกระเรียนพันธุ์ไทย ซึ่งเคยสูญพันธุ์จากเมืองไทยนำมาปล่อยอาศัยกลับคืนสู่ตามธรรมชาติไว้ในศูนย์เรียนรู้พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย
ตอนนี้เปิดให้ของ “กางเต็นท์”
เอาใจสายแคมป์ปิ้งและคนรักธรรมชาติ จะได้สัมผัสบรรยากาศฤดูหนาว
ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และตกยามเย็น และกิจกรรมล่องเรือ ค่าบริการ150 บาท /คน/ 1 คืน
การจอง และการยกเลิก1.จองผ่านระบบออนไลน์
และโทรจองผ่านเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ2.จองต้องโอนเงินเต็มจำนวนช่วงแอดมินแจ้งสรุปยอดแล้วโอนภายใน
18.00 น.
ติดต่อ
: ศูนย์เรียนรู้พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย 09
0286 8327
พิกัดที่
2 "เถียงนา เชฟเทเบิ้ล" สัมผัสประสบการณ์ Must
Taste รับประทานอาหารมื้อพิเศษ
ปรุงจากข้าวอินทรีย์พร้อมอาหารพื้นถิ่น มื้อพิเศษจากบ้านสวายสอ
ติตต่อ
: ชาวชุมชนบ้านสวายสอ 08 5494 3250
พิกัดที่
3 ทัวร์ “สนามช้าง อารีนา”
ถิ่นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ได้ชื่อว่าเป็นสนามแห่งแรกและแห่งเดียวของเมืองไทย
ที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนามได้การรับรองระดับโลกมาตราฐาน FIFA ต้อนนักท่องเที่ยวและผู้ชมกีฬามันส์
ๆ ได้เต็มที่ได้ถึงครั้งละ 32,600 ที่นั่ง
แล้วทางองค์การกีฬาฟุตบอลโลกอย่าง “ฟีฟ่า” ยังบันทึกว่าใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุด 256 วัน
ติดต่อ
: สนามช้าง อารีนา 08 1070 2626
พิกัดที่
4 สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.1 พร้อมปิดทองฉัตร 360 ฉัตร เสริมสิริมงคลชีวิต
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สร้างเมื่อปี 2539
เพื่อเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 1 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี
ผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์ เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก
พระบรมราชานุสาวรีย์มีขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์
ฉลองพระองค์แบบนักรบตามขัตติยราชประเพณีโบราณ ประทับบนช้างศึก
จากจดหมายเหตุประชุมพงศาวดาร
ภาคที่ 7 กล่าวว่าเมื่อพ.ศ. 2321 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
โปรดให้สมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไปปราบ “พระยานางรอง” ซึ่งคบคิดกับเจ้าโอ
เจ้าอินแห่งจำปาศักดิ์ ขณะเดินทัพพบเมืองร้างอยู่ที่ลุ่มน้ำห้วยจระเข้มาก
มีชัยภูมิดีแต่ไข้ป่าชุกชุม ชาวเขมรป่าดงไม่กล้าเข้ามาอยู่อาศัย
แต่ตั้งบ้านเรือนอยู่โดยรอบ จึงรวบรวมผู้คนตั้งเป็น “เมืองแปะ”
เพราะมีต้นแปะมากมาย และให้บุตรเจ้าเมืองพุทไธสมันซึ่งติดตามมาเป็นเจ้าเมือง
ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยานครภักดี ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็นบุรีรัมย์
ติดต่อ
: ททท. สำนักงานบุรีรัมย์ โทร. 0 4463 4722
พิกัดที่
5 เที่ยวบุรีรัมย์ 365 วัน Amazing
ยิ่งกว่าเดิม” ร่วมเทศกาลงานประเพณีตลอดทั้งเดือน “พฤศจิกายน 2567” มีปฏิทินเที่ยวดังนี้
วันนี้-10 พฤศจิกายน 2567 “งานงิ้วอำเภอเมืองบุรีรัมย์”
บริเวณถนนข้างโรงเรียนฮั่วเคี้ยวบุรีรัมย์ โทร : 06 4790 5429
วันที่
11-17 พฤศจิกายน 2567 "ลอยกระทงอำเภอหนองกี่" สวนสาธารณะเจ้าพ่อขุนศรี โทร : 08 2128
7655
วันที่
12-16 พฤศจิกายน 2567 "ลอยกระทงอำเภอลำปลายมาศ" ที่เทศบาลตำบลลำปลายมาศ
โทร 044 115 688
วันที่
14-15 พฤศจิกายน "บารายศรัทธา
สมมาสายน้ำ ปราสาทเมืองต่ำ น้อมนำบูชา" ที่ปราสาทเมืองต่ำ โทร : 044
666 577
วันที่
22 พฤศจิกายน "Revo
Thai League “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด VS สุโขทัย
เอฟซี” ที่สนามช้าง อารีนาโทร : 08 1070 2626
วันที่
23-24 พฤศจิกายน "Chang Classic Car
Revival 2024"สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โทร : 044
604 200
วันที่
24 พฤศจิกายน 2567"OBOK RUN" ที่ผาตาเรศ ถึง ช่องโอบก เพิ่มเติม Fanpage Facebook : OBOK RUN
2024
วันที่
25 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 "งานงิ้วอำเภอห้วยราช"
บริเวณตลาดห้วยราชสอบถามเติมโทร : 044 696 094
วันที่
26 พฤศจิกายน 2567 AFC
Champions League Elite 2024/2025 “บุรีรัมย์
ยูไนเต็ด VS คาวาซากิ ฟรอนตาเล่” ที่สนามช้าง อารีนา โทร : 08
1070 2626
ทุกวันตลอดทั้งปี
-เที่ยวชมถนนคนเดินเซราะกราววอล์คกิ้ง สตรีท ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ 16.00
- 21.00 น. ถนนรมย์บุรี เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองกีฬา
เที่ยววิถีชุมชน กินอาหารถิ่น
เที่ยวบุรีรัมย์ง่ายนิดเดียว ททท. สำนักงานบุรีรัมย์
พร้อมให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวทุกคน โทร. 0 4463 4722 หรือ 1672
สุขภาพ –8 พืชผักผลไม้ดื่มหรือกินช่วยย่อย
อิ่มง่าย สบายท้อง
วันนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับ
พืชผัก ผลไม้ ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาคนที่มีอาการ ท้องอืด อาหารไม่ย่อย
ได้ด้วยการกิน 8 อย่าง ดังนี้
1.มะละกอ -มีน้ำย่อยธรรมชาติในตัวเองสามารถช่วยย่อยอาหารที่กินเข้าไปได้
อีกทั้งในมะละกอยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งไฟเบอร์เหล่านี้จะช่วยกำจัดคราบโปรตีนเก่า ๆ
ที่ร่างกายย่อยไม่หมดมากับการขับถ่าย ส่งผลให้อาการแน่นท้อง ท้องอืด
และอาการอาหารไม่ย่อยบรรเทาลงได้
2.สัปปะรด -หลังทานอาหารเสร็จลองทานสับปะรดตามไปสัก
2-3 ชิ้นขนาดกลาง ๆ หรือจะดื่มน้ำสับปะรดปั่นสักครึ่งผลก็ช่วยให้สบายท้อง
เพราะมีเอนไซม์โบรมีเลน (Bromelain) มีฤทธิ์ย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ให้มีขนาดโมเลกุลเล็กลง
ทำให้ร่างกายย่อยเนื้อสัตว์เหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น
แล้วเอนไซม์ยังมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร สมานแผลในกระเพาะได้ด้วย
3.กล้วย -เป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง
มีสรรพคุณช่วยลดอาการบวมน้ำด้วยวิธีลดปริมาณโซเดียมในร่างกาย
อีกทั้งไฟเบอร์จากกล้วยยังช่วยแก้อาการท้องผูกได้ด้วย ดังนั้นคนที่มีอาการท้องอืด
อาหารไม่ย่อย ร่วมกับอาการท้องผูกด้วย กินกล้วยก็ช่วยได้ทุกปัญหา
4.มะเขือเทศ -มีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องอืด แน่นท้องได้
เพราะมีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดปริมาณโซเดียมในร่างกาย
ต้นเหตุก่อให้เกิดอาการท้องป่องจากภาวะบวมน้ำ สามารถทานได้ทั้งสดและน้ำ
5.ชาใบกะเพรา เพียงแค่ใช้ใบกะเพราสดประมาณ 1 กำมือมาต้มกับน้ำเดือด
แล้วกรองเอาแต่น้ำมาดื่ม หรือใช้ใบกะเพราตากแห้งมาชงน้ำร้อนดื่มก็ช่วยได้เช่นกัน
6.แตงกวา -มีไฟเบอร์ที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร
ส่งผลให้อาหารทีทานเข้าไปจะถูกย่อยเร็วขึ้น
นอกจากนี้น้ำจากแตงกวายังจะช่วยร่างกายขับโซเดียม โดยจะกินแตงกวาแกล้มอาหาร
หรือจะนำแตงกวาไปปั่นเป็นสมูทตี้ผสมน้ำผึ้งเพิ่มรสชาติก็ได้
7.ชาคาโมมายล์ สรรพคุณของดอกคาโมมายล์นอกจากช่วยทำให้นอนหลับสบายแล้ว ยังช่วยเรื่องขับลม
บรรเทาอาการอักเสบและยับยั้งการเกิดแผลในทางเดินอาหาร
เพียงแค่นำมาชงกับน้ำร้อนดื่มก็ช่วยให้ท้องโล่งได้แล้ว
8.พริกไทยดำ -มีคุณสมบัติในการขับลม และแก้ท้องอืด
แค่เพียงโรยพริกไทยดำลงไปในอาหารสักหน่อย แล้วรับประทาน กลิ่นฉุน ๆ
จากพริกไทยดำจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น แถมยังช่วยบรรเทาอาการอืดท้องไปพร้อมๆ กัน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก–เอเม็กซ์เปิดโพลล์ปี’67ทัวร์ไทยชอบกินร้านใหม่ช้อปหรู
นายพร้อม
สิริสันต์ ผู้จัดการใหญ่บริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย เปิดเผยว่า อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ได้จัดทำผลสำรวจเรื่อง “แนวโน้มการท่องเที่ยว
การรับประทานอาหาร และไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมของอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
สำหรับประเทศไทย หรือ American Express Travel, Dining, and Luxury Trends
Research for Thailand” ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย
ซึ่งมีอิทธิพลเป็นอย่างยิ่งกับคนไทยโดยเฉพาะ การค้นหาร้านอาหารใหม่ ๆ
เลือกซื้อสินค้าลักซ์ชัวรี่ พบว่าคนไทยที่ตอบแบบสำรวจใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
1.ค้นหาร้านอาหารใหม่ ๆ 85 % และ 2
ใช้ช่วยการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าลักซ์ชัวรี่ ๆ 67%
รวมถึงมีช่องทางอื่นที่คนไทยนิยมใช้อีก
3 อันดับแรก ได้แก่ การบอกต่อ 46% และรีวิวออนไลน์ 43%
พร้อมทั้งยังให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าลักซ์ชัวรี่มากที่สุดรองจากโซเชียลมีเดียคือ
คำแนะนำจากครอบครัว 41% และโฆษณาจากสื่อต่าง ๆ 38%
@คนไทยยังคงนิยมการรับประทานอาหารนอกบ้าน
ประเด็นแรก
การรับประทานอาหารนอกบ้าน คนไทยน้อยสัปดาห์ละครั้งมี 73 %
และมีแนวโน้มไปบ่อยครั้งขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 อีก 56 % ในจำนวนนี้เกือบ 8 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถามมักออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านกับครอบครัว
ประเด็นที่
2 การมองหาร้านอาหารจองได้ยาก พบคนไทยนิยมใช้มากที่สุด 45% เลือกรับประทานในช่วงเวลาที่คนไม่เยอะ 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามคือ กลุ่มมิลเลนเนียลกับ Gen Z ระบุเคยใช้บริการเคาน์เตอร์ต้อนรับหรือ Concierge ของบัตรเครดิตเพื่อช่วยจองร้านอาหาร รวมถึงพบคนไทยนิยมสรรหาสิทธิพิเศษต่าง
ๆ 8 ใน 10 คน
มองหาร้านอาหารที่มีโปรโมชั่นพิเศษในการเลือกร้านอาหาร
@สบช่องแจกสิทธิ์3รายการสมาชิกบัตรแพลทินัม
นายพร้อม กล่าวว่า
คนไทยนิยมกิจกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้านกับครอบครัวและเพื่อนฝูง
จึงต้องการมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าและพิเศษสุดให้โดยได้ร่วมมือพันธมิตรในไทยทั้งโรงแรม
ร้านอาหารชั้นนำหลายแห่ง และแสวงหาความร่วมมือต่อเนื่องกับพันธมิตรใหม่ ๆ
เพื่อนำเสนอเอกสิทธิ์ให้ครอบคลุมมีทางเลือกดีที่สุดให้กับสมาชิกบัตรของเรา
สำหรับ
“สมาชิกบัตรแพลทินัม อเมริกัน เอ็กซ์เพรส” สามารถรับได้ถึง 3 รายการ ได้แก่
รายการที่
1 เครดิตเงินคืน เมื่อรับประทานอาหารมูลค่า 14,000 บาท ตามร้านอาหารที่ร่วมรายการทั้งในและต่างประเทศ
รายการที่
2 รับสิทธิประโยชน์ “1 for 1” อาหารมื้อสายวันอาทิตย์ (Sunday
Brunch) ที่ห้องอาหารในโรงแรมชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ
เช่น คาเพลลา, สยาม เคมปินสกี้, พาร์ค ไฮแอท, ดิ โอกุระ เพรสทีจ, ดิ แอทธินี โฮเทล
แบงค็อก และวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย
รายการที่
3 ใช้บริการ Platinum Concierge
Service การจองที่นั่งล่วงหน้าร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการได้ด้วย
@ผู้บริโภคคนไทยใส่ใจเลือกซื้อสินค้าหรูลักซ์ชัวรี่
สำหรับผลสำรวจเรื่อง
“การเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ไฮเอนด์” คนไทยตอบแบบถาม อันดับแรก 86 %ให้ความสำคัญมากสุดเรื่อง “คุณภาพและฝีมือการผลิต” สินค้านั้น ๆ อันดับสอง 84 % เป็นแบรนด์ที่สอดคล้องกับค่านิยมของตน
มีประมาณ 4 ใน 5 ตอบจะเลือกใช้จ่ายเงินกับแบรนด์พรีเมียมที่มีคุณภาพคงทนกว่าแบรนด์แฟชั่นราคาประหยัด
โดยเน้นเลือกใช้แบรนด์ไฮเอนด์มีประวัติความเป็นมายาวนาน
มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพและฝีมือการผลิต
ผลสำรวจครั้งนี้ผู้บริโภคทุกรุ่นต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้
แนวโน้มตรงกับสมาชิกบัตรอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
มุ่งมั่นจะขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์แบรนด์ไฮเอนด์อย่างต่อเนื่อง
เพื่อมอบประสบการณ์และสิทธิประโยชน์พิเศษให้แก่สมาชิกทุกคน
อเมริกัน
เอ็กซ์เพรส ได้ร่วมมือกับแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลกมากมาย เพื่อจัดกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ
ให้สมาชิกบัตรแพลทินัม ให้เข้าถึงสินค้าคอลเลกชันใหม่ก่อนใคร
พร้อมข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ รวมถึงเคล็ดลับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในวงการแฟชั่น
@ผู้หญิงช้อปรองเท้า/กระเป๋า-ผู้ชายซื้อนาฬิกา/รองเท้า
ตามผลสำรวจคือ
“ซื้อสินค้าลักซ์ชัวรี่” อย่างน้อยปีละครั้ง “กลุ่มผู้หญิง”
นิยมซื้อสินค้าไฮเอนด์มากที่สุดคือรองเท้า 58% กระเป๋าถือ 57% “กลุ่มผู้ชาย” ความสนใจสินค้าไฮเอนด์ประเภท นาฬิกา 64% และรองเท้า 54%
ทั้งนี้
“อเมริกัน เอ็กซ์เพรส” ได้จัดทำผลสำรวจ เรื่องแนวโน้มการท่องเที่ยว
การรับประทานอาหาร และไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมสำหรับประเทศไทย” ดำเนินการโดย บริษัท Kantar ได้รวบรวมข้อมูลจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยในไทย
363 คน อายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป
มีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 140,000 บาท/เดือน ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากเครือข่ายผู้เข้าร่วมสำรวจของ Kantar การสัมภาษณ์ทั้งหมดจัดทำในรูปแบบสอบถามออนไลน์ระหว่างวันที่ 2 -16 พฤษภาคม 2567
ข่าวที่สอง -กรมท่องเที่ยวลุยAFM2024ดึงหนังฮอลีวู้ดมาไทย1.5พันล้าน
นายจาตุรนต์
ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว (DOT) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เปิดเผยว่า ทางกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (TFO : Thailand
Film Office) จะเข้าร่วมเปิดคูหานิทรรศการประเทศไทยในงานAmerican
Film Market 2024 : AFM 2024 ระหว่างวันที่ 5
- 10 พฤศจิกายน 2567 ที่มหานครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา คาด
คาดจะมีคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ที่เข้าร่วมงาน
สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ผนวกกับข้อมูลล่าสุดเมื่อ 28
ตุลาคม ปีนี้
มีผู้ผลิตภาพยนตร์จากสหรัฐอเมริกาเลือกเข้ามาถ่ายทำในเมืองไทยสร้างรายได้แล้ว 780
ล้านบาท รวม 28 เรื่อง
ด้วยศักยภาพของงาน
American Film Market 2024 : AFM
2024
เป็นเทศกาลสำคัญของโลกและมหกรรมเปิดตลาดซื้อขายภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริการะดับฮอลีวู้ด
โดยจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านภาพยนตร์ระหว่างผู้ผลิตภาพยนตร์และผู้สนใจทั่วโลก
ได้จัดสรรพื้นที่ Location EXPO ไว้เฉพาะเพื่อให้ทำประชาสัมพันธ์ของแต่ละประเทศถึงศักยภาพแหล่งถ่ายทำภาพยนตร์
ประชาสัมพันธ์มาตรการจูงใจ และสิ่งอำนวยความสะดวกของกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ
ดังนั้นกรมการท่องเที่ยวจึงพร้อมผลักดันประเทศไทยใช้งานนี้นำเสนอสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่าง
ๆ ครอบคลุมทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 1 สถานที่ถ่ายทำที่มีคุณภาพ
ด้านที่ 2 ข้อมูลมาตรการจูงใจ (Incentive Measures) ด้านที่ 3 ศักยภาพของทีมงานไทย ด้านที่ 4 สิ่งอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ
พร้อมรองรับกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศทั่วโลก ด้านที่ 5 เผยแพร่วัฒนธรรมไทย
หรือไทยแลนด์ ซอฟท์ พาวเวอร์ ด้านต่างๆ ผ่านภาพยนตร์ต่างประเทศ
สร้างการรับรู้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกเพิ่มรายได้จากากรท่องเที่ยวเข้าประเทศเติบโตในระยะยาว
นายจาตุรนต์
กล่าวว่าปี 2567 กรมการท่องเที่ยว ได้นำประเทศไทยจัดทำคูหานิทรรศการ
จะช่วยตอกย้ำการเป็นหมุดหมายสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลก
อันจะส่งผลดีในการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ
และประชาสัมพันธ์ประเทศไทยสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ช่วยสร้างแรงจูงใจในการขยายตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศตัดสินใจเลือกมาเที่ยวเพิ่มมากขึ้นได้ด้วย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM
97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น