ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

 

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา

ประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ 

“คิงเพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก”แลนด์มาร์กใหม่ในONE BANGKOK

หมู่บ้านช้อปปิ้งหรูกลางเมือง “3 ซิตี้-8 โซน-200แบรนด์โลก”

โชว์พลัง“กรุงเทพฯ”สู่มหานครช้อปปิ้งโลก-ท่องเที่ยวไทยปัง

คิงเพาเวอร์เปิด3วาร์ป“ไฟคริสต์มาส/มินิคอนเสิร์ต/โกคาร์ด

เซลใหญ่“คิงเพาเวอร์”จัดเฟสทีฟแบรนด์ดังลดสูงสุด 70 %

คิงเพาเวอร์รวมกิฟท์เซ็ตที่”สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง”ถึง30พ.ย.

สรวงศ์-ททท.ยึดWTMชู3โปรเจกต์ปี68ดึงทัวร์โลก39ล้านคน

บางจาก9เดือนรายได้พุ่ง 4.4 แสนล้านรับรู้Synergyเกินเป้า

เช็คอินจันทบุรีเที่ยวรักษ์โลกพักอีโคโฮเทลตลุยกินอาหารถิ่น

10 วิธีดูแลจิตใจตนเองให้พ้นจากทุกข์ภัยในชีวิตรีบทำด่วน

สิงคโปร์แอร์ทุ่ม1.1พันล้านเหรียญเพิ่มบริการพรีเมี่ยมA350

การบินไทยปี’67โชว์ไตรมาส3กำไรเพิ่ม-รวม9เดือนกำไรลด

วันเสาร์ที่  9 พฤศจิกายน 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://www.facebook.com/share/v/1Aq7YxA8Gn/

ช่วงที่ 1 !! สัมภาษณ์พิเศษ โดย “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” คอลัมนิสต์ และผู้ดำเนินรายการ เจาะลึก “คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก” เปิดแล้ว...อาณาจักรใหม่ชูจุดขาย “หมู่บ้านช้อปปิ้งใจกลางเมือง” กว่า 5,248 ตร.ม.ในโซนพาเหรด ชั้น 1-2  ONE BANGKOK ผนึกกว่า 200 แบรนด์ เชื่อมจุดขายกลยุทธ์ 3  ซิตี้ 8 โซน หนุนกรุงเทพฯ ขึ้นชั้นมหานครช้อปปิ้ง นำเที่ยวไทยกระหึ่มโลก หนุนเศรษฐกิจไทยยั่งยืน

 

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ปฏิวัติการลงทุนใหม่เปิดบริการ “คิง เพาเวอร์ ซิตี้บูทีก : KING POWER CITY BOUTIQUE” ด้วยดีไซน์หมู่บ้านช้อปปิ้งใจกลางเมือง “SOPHISTICATED VILLAGE” มีสินค้ากว่า “200 แบรนด์” มารวมตัวกันอยู่ในพื้นที่กว่า 5,248 ตารางเมตร ตั้งอยู่โซนพาเหรด ชั้น 1-2 เมกะโปรเจกต์ “ONE BANGKOK” พร้อมเดินหน้าสร้างพลังกระตุ้นเศรษฐกิจเติบโต ยกระดับกรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งการช้อปปิ้ง และแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาตินำเงินเข้ามาใช้จ่ายที่ คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก แห่งนี้

ได้เนรมิตให้เป็นย่านค้าปลีกแบบครบวงจรสร้างปรากฏการณ์ “ย่านธุรกิจที่เพียบพร้อมทุกด้าน : MULTI-NATIONAL DIVERSITY” โดดเด่นด้วยดีไซน์จากนักออกแบบผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกชาวสเปนอย่าง “ไฮเน่ ฮายอน” จาก HAYON STUDIO

 

นำเสนอแนวคิด “AN EXPERIENTIAL SHOPPING JOURNEY IN THE CITY” ประสบการณ์ช้อปปิ้งใจกลางเมืองเต็มไปด้วยอรรถรส และเป็นแม่เหล็กดึงดูดกำลังซื้อ “ตลาดเป้าหมาย” ในประเทศและนักท่องเที่ยวทั่วโลก เข้ามาช้อปสินค้า “ดิวตี้ฟรี” ป้ายสีฟ้า เมื่อมีเที่ยวบินระหว่างประเทศซื้อแล้วไปรับของขาออกท่าอากาศยานของไทย และ “สินค้านำกลับได้ทันที” ป้ายสีขาว แบรนด์เนมและผลิตภัณฑ์ชุมชนเกรดพรีเมี่ยมมากมาย

โดย “คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก” ได้เปิดปรากฏการณ์ช้อปปิ้งใหม่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 -22.00 น. ผ่านกลยุทธ์ 3 CITY ได้แก่

 

กลยุทธ์ที่ 1 CITY OF REVOLUTION พลิกโฉม คิง เพาเวอร์ ด้วยการแตกแบรนด์ใหม่ “ซิตี้ บูทีก” นำเสนออัตลักษณ์แห่งสีสัน การออกแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายในที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยสตูดิโอระดับโลก “HAYON STUDIO” โดย “ไฮเม่ ฮายอน : JAIME HAYON  พร้อมประติมากรรมนก 2 ตัว สะท้อนคุณค่าคิง เพาเวอร์ เชิงบวก “นก-HERE” บ่งบอกถึงความสง่างาม ความเป็นเลิศ ความซื่อสัตย์ “นก-NOW” เป็นสัญลักษณ์การหยุดพักชั่วครู่ เพื่อเงยหน้ามองดวงดาวและฝันถึงความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ภายในพื้นที่ยังอบอวนไปด้วย “Bright” กลิ่นหอมพิเศษดึงดูดใจผู้คนตั้งแต่สัมผัสแรกที่เข้ามาใช้บริการ

กลยุทธ์ที่ 2 CITY OF EXPERIENCE เป็นแลนด์มาร์คใหม่ล่าสุด “จุดเช็คอิน” กรุงเทพฯ ที่ต้องห้ามพลาด รายล้อมด้วยไอเทมสินค้าหลากหลายทั้งแบรนด์ลักชัวรี่ สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ และลิมิเต็ดไอเทมส์ รวมถึงแบรนด์ไทยระดับพรีเมี่ยมในโซน “ไทย เมกเกอร์ส มาร์เก็ต”

กลยุทธ์ที่ 3 CITY OF HAPPENINGS ศูนย์รวมกิจกรรมหลากหลาย ไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่น เป็นแหล่งนัดพบของคนทุกวัย และคนรุ่นใหม่อินเทรนด์ สะท้อนวิถีชีวิตคนเมืองเสมือนเป็นหัวใจที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างชุมชน ศิลปวัฒนธรรม และธุรกิจ เข้าด้วยกัน

พิเศษ ! ฉลองโอกาสเปิดบริการใหม่ “คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก” ช้อปวันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2567 รับทันที 4 รายการ

รายการที่ 1 ส่วนลดสินค้าภายใน คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก ทั้งหมดที่เข้าร่วมรายการ ลดสูงสุด 30%

รายการที่ 2 รับฟรี กระเป๋าเอ็กซคลูซิฟ เพียงช้อปภายในวันครบ 10,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)

รายการที่ 3 สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY ฟรี และ SCARLET 20,000 บาท รับฟรีคูปองส่วนลดมูลค่า 3,000 บาท

รายการที่ 4 ช้อปครบตามยอดที่กำหนด “ช้อปครบ 3,000 บาท” ต่อใบเสร็จ/คน/วัน รับสิทธิ์ร่วมกิจกรรมออกแบบ PERSONALISE KEY CHAIN วันละ 50 สิทธิ์ ตลอดรายการรวม 300 สิทธิ์ “ช้อปครบ 5,000 บาท” ต่อใบเสร็จ/คน/วัน รับสิทธิ์ร่วมถ่ายภาพ แฟชั่น โพลารอยด์ พอร์ทเทรท และสเปเชียลแท็กกับการ์ดโฮลเดอร์ วันละ 50 สิทธิ์ รวมทั้งสิ้น 300 สิทธิ์ รวมถึงร่วมกิจกรรมกับทัพศิลปินสไตล์ ทรูป โปรโมชั่น

 

“คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก” มีให้เลือกช้อปในพาเหรด  8 โซน แบ่งเป็น ชั้น 1 รวม 6 โซน และชั้น 2  อีก 2 โซน โดยนำเสนอแยกเป็น “4 โซนไฮไลต์” กับ “4 โซนเอกลักษณ์เฉพาะตัว” คือ

 

“4 โซนไฮไลต์” มีบริการสินค้าแบรนด์ดังรุ่นหายาก สินค้าไทยคุณภาพพรีเมี่ยม  ได้แก่

 

โซนที่ 1 MASTERPIECES นำเสนอสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซิฟ คัดสรรค์เฉพาะรุ่นหายาก ลิมิเต็ดอิดิชั่น เช่น Panerai รุ่น Submersible Tourbillion GMT Luna Rossa Experience ทั่วโลกมีเพียง 20 เรือนเท่านั้น และสินค้ายอดนิยมอื่น ๆ อย่าง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์พรีเมี่ยมจากทั่วทุกมุมโลก พิเศษสุดคือ Camus Cognac Trubute To Nature 4 Elements (Earth, Fire, Air , Water) และสินค้าอีกมากมาย

 

โซนที่ 2 SUNGLASSES STREET แว่นกันแดด นำเสนอครั้งแรกในเมืองไทยด้วยบริการ “ออกแบบแว่นตาตามต้องการ” นำโดยแบรนด์คาร์เทียร์ เรย์-แบน โอ๊คเลย์ พร้อมแบรนด์ชั้นนำหมุนเวียนนำคอเลคชั่นใหม่มาจัดแสดง เช่น GUCCI, DIOR, PRADA,  LOEWE และอื่น ๆ

 

โซนที่ 3 THAI MAKERS MARKET ตื่นตากับ “สินค้าไทยฝีมือคนรุ่นใหม่” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์จาก “ชุมชนสู่ตลาดโลก : LOCAL TO GLOBAL” มีให้เลือกช้อป 4 โซนย่อย ได้แก่ 1.ไทยเนส แฟชั่น นำเสนองานหัตถกรรมไทยดั้งเดิม เช่น ลองกอย นายใจดี ห่มรัก ม่อฮ่อมแพร่ 2.ไลฟ์สไตล์แอนด์ซูวีเนียร์ ละลานตากับสินค้าแบรนด์หลัก มหานคร Pastel และ Fearlessness 3.สินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยม เช่น อุปกรณ์มวยไทย น้ำมันมะพร้าว สบู่ Sopha 4.ผลิตภัณฑ์ของว่างไทยและแพกเกจอาหารสำเร็จรูปอย่าง ทองม้วน ผลิตภัณฑ์โอทอปจากวัตถุดิบ GI คุณภาพดี

 

โซนที่ 4 BEAUTY BOULEVARD สุดเอ็กซ์คลูซิฟกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สกินแคร์ น้ำหอม แบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมคัดสรรพิเศษบิวตี้ไอเทมมาเอาใจสายความงามทุกเพศทุกวัย

 

ส่วน “4 โซนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” นำเสนอ เครื่องดื่ม นาฬิกา เครื่องหอม มุมกิจกรรม ได้แก่

 

โซนที่ 5 LIQUOR LANE  ศูนย์รวมเครื่องดื่มแบรนด์ดังจากทุกมุมโลก จาก สก็อตแลนด์ อเมริกา ญี่ปุ่น อินเดีย จีน มีตั้งแต่ วิสกี้ คอนยัค เตกิลา จิน วอดก้า รัม หาดื่มยาก พร้อม “เหมาไถ”  สุราระดับตำนานจีน มีกิจกรรมโชว์ผสมสูตรให้ลองดื่มแบบง่าย ๆ

 

โซนที่ 6 TIMEPIECE TOWN พบกับพรีเมี่ยม วอทช์ แบรนด์ ไฮไลต์คือ “แกรนด์ ไซโก” ฉลองครบ 20 ปี ด้วยรุ่นลิมิเต็ด Spring drive Grand Seiko SBGA497 ทั่วโลกผลิตเพียง 1,500 เรือนเท่านั้น และรุ่นพิเศษอื่น ๆ

 

โซนที่ 7 SCENT AVENUE อลังการด้วยแบรนด์เครื่องหอมเอ็กซ์คลูซีฟมาพร้อมคอลเลกชั่นยอดนิยม และเครื่องหอมลักชัวรีจากอิตาลีอย่างแบรนด์ CULTI MILANO แบรนด์เส้นผมระดับโลก BALMAIN PARIS HAIR COUTURE โดยมีบริการ “เพอร์ฟูม บาร์” ไว้ให้ลูกค้าทดลองค้นหากลิ่นที่ชอบได้ด้วย

 

โซนที่ 8 THE SQUARE มุมกิจกรรมหลากหลายสไตล์มอบอีเวนต์ประสบการณ์พิเศษ และความบันเทิงทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ -10 มกราคม 2568 ทาง “เอสเต้ ลอเดอร์” จัดป๊อบอัพสโตรว์ : My Shade My Story Café บริการให้คำปรึกษาเฉดสีเฉพาะที่เหมาะกับแต่ละคน

 

มาช้อปได้ทุกวันที่โซน พาเหรด :PARADE ชั้น 1-2 ใน วัน แบงค็อก : ONE BANGKOK เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 10.00-22.00 น. รวมพลังไทย ทำให้กรุงเทพเป็น “มหานครแห่งการช้อปปิ้งโลก” ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์รางน้ำเปิด3วาร์ปไฟคริสต์มาส/มินิคอนเสิร์ต/โกคาร์ด

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดวาร์ปไฮไลท์ความสนุก ให้มาร่วมฉลองได้สุดตลอดเดือนที่ คิง เพาเวอร์ เปิดให้เติมความสุข สุดมันส์ ระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน- 31 ธันวาคม 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ด้วยการเปิด 3 วาร์ป

 

เปิดวาร์ปแรก เริ่มวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567  “FUNTASTIC SHOW” ต้อนรับลมหนาวด้วยเทศกาล “เปิดไฟต้นคริสต์มาส” พร้อมชมฟรี! โชว์ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน โดยเจฟ ซาเตอร์ และอาโป ณัฐวิญญ์

 

เปิดวาร์ปที่ 2 ความฟิน ทุกศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ กับ “มินิคอนเสิร์ต” จัดเต็มกว่า 29 ศิลปิน อย่าง  Pretzelle, Season Five, Jaylerr, Tilly Birds, Tytan และอีกมากมาย

ไปพร้อม ๆ อิ่มอร่อยกับสตรีทฟู้ด NEON NIGHT BARZAAR และ POP UP CAFÉ ร้านดังกว่า 30 ร้าน

 

เปิดวาร์ปที่ 3  “สนามโกคาร์ท” ใจกลางรางน้ำ เริ่มตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป มันส์ได้เต็มที่กับ E-Gokart Track by MONOWHEEL และร่วมสนุกฟรี! เพียงช้อปครบ 3,500 บาทขึ้นไป (สุทธิ)/ใบเสร็จ คนละ 1 สิทธิ์/วัน รวม 20 สิทธิ์/วัน หรือร่วมสนุกได้เพียงรอบละ 350 บาท/คน

 

ข่าวที่ 2-เซลใหญ่“คิงเพาเวอร์”จัดเฟสทีฟแบรนด์ดังลดสูงสุด70%

คิง เพาเวอร์ เสนอแคมเปญ “GET READY FOR SHOPPING”งานเซลที่ยกแบรนด์ดังมาให้คุณช้อปสนุก “KING POWER FESTIVE SALEBRATION” UP TO 70% OFF

 

เซลสูงสุด ช้อปส่งท้าย เป็นไปได้รวมตัวท็อปแฟชั่นไอเทม ให้ช้อปได้ในราคาพิเศษ ลดสูงสุดถึง 70%* งานนี้แฟชั่นนิสตามีฟิน!

 

จัดเต็มทั้งแบบมีไฟลต์บิน หรือไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปได้ ที่บริเวณคราวน์ เอเทรียม ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำตั้งแต่วันนี้ - 5 มกราคม 2568 เวลา 10.00 - 21.00 น.

 

มอบเฉพาะใน “งานนี้” ที่เดียวเท่านั้น ให้สิทธิ์ส่วนลดไปกันแบบเต็มพิกัด ไปจนกว่าสินค้าจะหมด กับสินค้าที่ร่วมรายการ เลือกช้อปตามเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

สอบถามเพิ่มเติมที่ KING POWER CONTACT CENTRE 1631

  

 

ข่าวที่ 3-คิงเพาเวอร์รวมกิฟท์เซ็ตที่”สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง”ถึง30พ.ย.

 

คิง เพาเวอร์ มัดรวม GIFT SET ของขวัญ ส่งมอบความสุขให้คุณและคนพิเศษ ตั้งแต่วันนี้-30 พฤศจิกายน 2567 เฉพาะที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง

 

ตอนนี้ให้ช้อปจัดเต็มได้ไม่อั้นกับสินค้าแผนก “น้ำหอมและเครื่องสำอาง” ที่ 2 สนามบินหลัก! ได้ลดสูงสุด 10% + สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ รับเหนาะ  ON-TOP สูงสุด 10%

 

สำหรับ “นักเดินทางชาวไทย” รับส่วนลดจุใจสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

 

พิเศษแรก ! สมาชิก คิง เพาเวอร์ ลดบิวตี้สุดคุ้ม 10% พร้อมรับเพิ่มส่วนลดอีกถึง 3 บวก

บวแรก  ได้ลดเพิ่มอีก 10% เมื่อช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

บวกที่ 2  ได้ลดเพิ่ม 7% เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

บวกที่ 3  ได้ลดเพิ่ม 5% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

 

พิเศษยิ่งกว่า! เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท (สุทธิ) รับคูปองส่วนลด 15% เมื่อซื้อสินค้าน้ำหอมและเครื่องสำอางของใบเสร็จถัดไป 1 ชิ้น

 

  

ข่าวที่ 4-สรวงศ์-ททท.ยึดWTMชู3โปรเจกต์ปี68ดึงทัวร์โลก39ล้านคน

 

นายสรวงศ์  เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ว่า ระหว่างเข้าร่วมงาน งาน World Travel Market (WTM) 2024  ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ได้ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เอกชนไทย ทำกิจกรรมเชิงรุกให้เครือข่ายท่องเที่ยวทั่วโลกร่วมสนับสนุนไทยทำรายได้ตามเป้าหมายปี 2568 จึงได้ใช้เวที WTM 2024 อัพเดท 3 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 เปิดปีการท่องเที่ยว 2568  Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 โครงการที่ 2 มอบรางวัล Responsible Thailand Awards 2024 ให้บุคคลและองค์กรที่เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน 5 สาขา โครงการที่ 3 จัดงานกาลา ดินเนอร์ Amazing Thailand Night: Royal Gala Dinner 2024 ที่ห้องบอลรูมโรงแรมเจดับบลิว แมริออต กรอสเวนเนอร์ เฮาส์ ลอนดอน

 

ปี 2568 รัฐบาลไทยประกาศฉลองปีท่องเที่ยว Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ตั้งเป้านำนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้าประเทศสูงสุด 39 ล้านคน เตรียมจัดสุดยอดอีเวนต์กับมอบสิทธิประโยชน์ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาสัมผัสคุณค่าและความหมายการท่องเที่ยวในไทยเกิดเป็นความประทับใจตลอดไป

 

ส่วนโครงการ Amazing Thailand Press Conference 2024 ได้นำเสนอสถานการณ์การท่องเที่ยว สินค้าและบริการให้บริษัทนำเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ในกลุ่มสหราชอาณาจักร รับรู้ถึงปี 2568 ไทยหวังรายได้ท่องเที่ยว 3.4 ล้านล้านบาท เน้น 4 เรื่อง ได้แก่

 

เรื่องที่ 1มุ่งเป็นผู้นำการท่องเที่ยวระดับโลก ส่งเสริมการเชื่อมโยงเครือข่ายการเดินทางภายในภูมิภาคสะดวกสบายไร้รอยต่อผ่านนโยบาย 6 ประเทศ 1 จุดหมาย

 

เรื่องที่ 2 ประชาสัมพันธ์จุดหมายปลายทางที่มีอัตลักษณ์วัฒนธรรม ในเมืองน่าเที่ยวที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร เช่น น่าน แพร่ สกลนคร ควบคู่กับเผยแพร่ทุนทางวัฒนธรรมเป็นเสน่ห์ หรือซอฟท์ พาวเวอร์แต่ละท้องถิ่น ในมุมอนุรักษ์และส่งเสริมประเพณี ศิลปะ หัตถกรรมไทย ขยายผลด้วยแนวคิด 5 Must Do in Thailand

 

เรื่องที่ 3 ผลักดันไทยเป็น ศูนย์กลางของอีเวนต์และความบันเทิงระดับโลก ผ่านสุดยอดอีเวนต์ เทศกาลและงานประเพณีตลอดทั้งปี เช่นงาน อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ เคาน์ดาวน์ 2568 งานโมโตจีพีเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2568 งานสงกรานต์เดือนเมษายน เพื่อยกระดับกิจกรร,สู่อีเวนต์โลก คาดจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างมาก

 

เรื่องที่  4 เปิดให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วม และสร้างโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ช่วยกันผลักดันให้ไทยก้าวสู่ประเทศศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค หรือ Tourism Hub และจุดหมายระดับโลก

 

@มอบรางวัลเที่ยวยั่งยืน5สาขาเปิดตัวหนังกรีนไซด์สตอรี่ปี68

 

นายสรวงศ์กล่าวว่า มีพิธีมอบ “รางวัล Responsible Thailand Awards 2024” และเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “Green Side Story” แคมเปญสื่อสารแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในต่างประเทศปี 2568 เปิดตัวครั้งแรกในงาน WTM 2024 โดย ททท.เร่งผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน ตาม 17 เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals : STGs) ปีนี้ได้มอบรางวัลเป็นที่ 17 มีผู้สมัคร กว่า 162 ราย 5 สาขารางวัล ได้แก่

 

1. Responsible Animal Welfare ได้แก่เอเลเฟ่น ฮิลล์ จ.สุราษฎร์ธานี 2. Responsible Conservation ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านบางโรง จ.ภูเก็ต 3. Responsible Community Tourism ได้แก่ เขาหลัก เมอร์ลิน รีสอร์ท จ.พังงา 4. Responsible Accommodation ได้แก่ อนุรักษ์ คอมมูนิตี้ ลอร์ดจ์  จ.พังงา 5. Responsible Local Guide ได้แก่ นางวิภาพร โอร์ด จากบริษัท ออล พอยต์ อีสต์

 

@จัดไทยไนท์บูมแกรนด์เยียร์-Hidden Gem Citiesปี’68

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า คณะกรรมการ และผู้บริหาร ททท.พร้อมนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงการท่อเที่ยว นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวง และทีมไทยแลนด์ ให้การรับเสด็จ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี  เสด็จเข้าร่วมงาน Amazing Thailand Night: Royal Gala Dinner 2024 ที่ห้อง โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรอสเวนเนอร์ เฮาส์ ลอนดอน  

 

จัดขึ้นเพื่อเปิดตัวแคมเปญ Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 เสนอขายจุดหมายปลายทางที่มีอัตลักษณ์และประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมกระตุ้นตลาดต่างประเทศ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษต่าง ๆ และมีแคมเปญประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด Your Stories Never End ส่งเสริมเรื่องราวน่าเที่ยวในพื้นที่เมืองน่าเที่ยว หรือ Hidden Gem Cities ที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร พร้อมขยายผลด้วยแนวคิด 5 Must Do in Thailand ได้แก่ Must Taste, Must Try, Must Buy, Must See, Must Seek สัมผัสเสน่หความเป็นไทยที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยครบทุกมิติ นำรายได้ปี 2568 เข้าประเทศให้ได้ตามนโยบายรัฐบาล

  

ข่าวที่ 5-บางจาก9เดือนรายได้รวมพุ่ง4.4แสนล้านรับรู้Synergyเกินเป้า

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทบางจากมีผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2567 ทำสถิติใหม่ สร้าง “รายได้” จากการขายและการให้บริการ รวม 447,631 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 84 % มี “ยอดจำหน่ายน้ำมัน” เติบโตก้าวกระโดดกว่า 10,000 ล้านลิตร “กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ” ทำรายได้สูงสุดจากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น มี EBITDA 33,499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
7 %  ทำ “กำไร” ในส่วนของบริษัทใหญ่ 2,168 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.30 บาท รับรู้ Inventory Loss (รวม NRV) 4,683 ล้านบาท หรือ 1.88 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากค่าการกลั่นพื้นฐานและราคาน้ำมันอ่อนตัวลง ยังคงคาดตลอดทั้งปี 2567 บริษัทจะมีรายได้บรรลุเป้าหมายตั้งไว้กว่า 500,000 ล้านบาท

 

@BSRC บางจากศรีราชาตัวช่วยหนุนSynergyดีเกินเป้า4,400ล้าน

ตลอดกว่า 1 ปี ภายหลังซื้อบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC เมื่อ1 กันยายน 2566 กลุ่มบริษัทบางจากประสบความสำเร็จทำSynergy เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้โดย ภายใน 9 เดือนแรก ปี 2567 สร้างมูลค่าเพิ่มมียอดสะสมสูงถึง 4,400 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,500 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์
กลุ่มบริษัทบางจากมีประสิทธิภาพตามที่วางไว้ และสร้างความมั่นใจปรับเป้าหมาย Synergy ใหม่ให้สูงขึ้นในปี 2568 เป็น 5,500 ล้านบาท จากปีนี้ 5,000 ล้านบาท ส่วน “ไตรมาส 4 ปีนี้ คาดกค่าการกลั่นจะปรับตัวสูงขึ้น และกำลังเข้าช่วงฤดูหนาวจะส่งผลให้แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นด้วย

นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บางจากฯ รายงานผลการดำเนินงานแต่ละกลุ่มธุรกิจเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 9 เดือนแรกปีนี้ 2567 ธุรกิจ 5 กลุ่มหลัก มีดังนี้

@บางจากนำ5กลุ่มธุรกิจกวาดรายได้ไตรมาส 3

กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มีรายได้ 373,716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85 % มี EBITDA 4,832 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 58 % มีกำลังการผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 254,000 บาร์เรลต่อวัน เติบโตกว่า51 % แม้ช่วงกลางปีนี้จะหยุดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง ตามวาระ แต่มีกำลังการผลิตชดเชยเพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา ทำให้รับรู้รายได้เต็ม 9 เดือน เติบโตท่ามกลางความท้าทาย 3 เรื่อ

1.ราคาน้ำมันผันผวนจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากค่าการกลั่นพื้นฐานลดลงจาก Crack Spread ของกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักปรับตัวลดลง 2.การรับรู้ Inventory Loss 4,683 ล้านบาท จากราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปรับตัวลดลง และ 3.รับรู้กำไรจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้าลดลง โดยมีค่าการกลั่นพื้นฐาน 3.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ทางด้าน บริษัท บีซีพี เทรดดิ้ง (BCPT) มีธุรกรรมซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันเพิ่มขึ้น การขยายตลาดน้ำมันดิบแบบ Overseas Trading (Out-Out) เติบโตขึ้น และยังเร่งขยายเครือข่ายซื้อขายน้ำมัน Out-Out ต่อเนื่องทั้งน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับธุรกิจขยายตัว เพิ่มช่องทางซื้อขาย

กลุ่มที่ 2 ธุรกิจการตลาด มีรายได้ 295,610 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91 % มี EBITDA 5,029 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68 % มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันรวมทุกช่องทาง 10,247 ล้านลิตร เติบโตอก้าวกระโดดกว่า97 %จากการผสานเครือข่ายสถานีบริการและฐานลูกค้าตามการขยายตัวและฐานลูกค้าอุตสาหกรรมครอบคลุมมากขึ้น และการรับรู้ผลการดำเนินงาน BSRC เต็ม 9 เดือน ปี 2567 ซึ่งปรับกลยุทธ์การตลาดตอบโจทย์ลูกค้า ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ทันสมัย และปรับปรุงคุณภาพสถานีบริการต่อเนื่อง อย่างโลโก้สถานีบริการ BSRC แล้วเสร็จไปกว่า80 %

รวมถึงพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง Premium 97 และ Premium Diesel ยืนหนึ่งเป็นพลังสะอาด ปกป้องเครื่องยนต์ได้ 100% เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดผ่านสถานีบริการรวมเติบโต 29 % ในส่วนค่าการตลาดสุทธิรวมลดลงเล็กน้อย 0.86 บาทต่อลิตร จากการรับรู้ Inventory Loss ตามราคาน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวลดลง สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 มีสถานีบริการรวม 2,141 และจุดชาร์จ EV กว่า 321 สถานี

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด มีรายได้ 3,402 ล้านบาท ลดลง 8 % มี EBITDA 3,743 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18 % โดยรับรู้รายได้การขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น บวกกับรับรู้ผลการดำเนินงานเต็ม 9 เดือนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา 4 แห่ง 857 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวที่มีปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่ม 82 %เตรียมขายไฟให้การไฟฟ้าเวียดนาม จะช่วยลดผลกระทบการสิ้นสุด Adder ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยได้ทั้งหมด และรับรู้กำไรหลังหักภาษีจากการจำหน่ายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 2,159 ล้านบาท เมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา9 โครงการ

 

กลุ่มที่ 4 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มีรายได้ 15,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63 % มี EBITDA 654 ล้านบาท จากยอดขายเพิ่มขึ้น 58 % เพราะความต้องการผลิตภัณฑ์ B100 เพิ่มขึ้นจาก BSRC ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลกำไรขั้นต้นเติบโตขานรับปริมาณการผลิตและจำหน่ายเอทานอลเพิ่มขึ้น และราคาขายปรับเพิ่มขึ้นตามราคาต้นทุนวัตถุดิบหลักยังอยู่ระดับสูง

 

กลุ่มที่ 5 ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มีรายได้ 29,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33 % มี EBITDA                    19,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42 % จากการขยายการลงทุนต่อเนื่อง รับรู้ผลการดำเนินงานจากแหล่งปิโตรเลียม Statfjord หนุนปริมาณการขายเติบโต 38 % ได้รับโอนกรรมสิทธิ์แล้วเสร็จเมื่อ 29 ธันวาคม 2566 และแหล่งผลิต Brage เพิ่มกำลังการผลิตได้ต่อเนื่อง การรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มครึ่งปีจากแหล่งผลิต Hasselmus เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อตุลาคม 2566

 

ทั้งนี้กลุ่มบริษัทบางจากตลอดไตรมาส 3 ปี 2567 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับก่อน ปีนี้มีรายได้จากการขายและให้บริการ 154,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63 % มี EBITDA 7,427 ล้านบาท ลดลง 46 % รับรู้ผลขาดทุนส่วนของบริษัทใหญ่ 2,093 ล้านบาท

  

            ช่วงที่ 2  เที่ยวเมืองไทยไปเช็คอิน “จันทบุรี” กับทริปรักษ์โลก พัก “The Motifs Eco” โรงแรมดูแลสิ่งแวดล้อม ชิมอาหารถิ่น ตะลอนเที่ยวชุมชน แล้วก็ฟัง “10วิธีดูแลตัวเอง” ให้พ้นจากทุกข์ ส่งท้ายด้วยข่าวฮ็อต ข่าวแรก “สิงคโปร์แอร์ไลน์ส” ทุ่ม 1,100 ล้านเหรียญสิงคโปร์ปรับที่นั่งฝูงบินไกล A350 ล็อตแรก 41 ลำ ข่าวที่สอง “การบินไทย” 9 เดือนปี 67 กำไรลดลง

 

ท่องเที่ยว –เช็คอินจันทบุรีเที่ยวรักษ์โลกพักอีโคโฮเทลตลุยกินอาหารถิ่น

 

เที่ยวใกล้ ปักหมุดไปเช็คอิน “จันทบุรี” ใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ 3 ชั่วโมงครึ่ง สู่จุดหมาย “เที่ยวเชิงผจญภัยทางอาหาร” ตามฤดูกาลที่มีวัตถุดิบสดใหม่มาจาก ป่าไม้ สมุนไพรพื้นถิ่น พริกไทย ใบชะมวง และอีกเพียบ รวมถึงสวนผลไม้เมืองร้อน ทุเรียน มังคุด สละ  ทะเลสดอันอุดมสมบูรณ์

 

เช็คอินที่พักรักษ์โลก โรงแรม “The Motifs Eco Hotel” เปิดมา 3 ปีแล้ว ตอบโจทย์สายชิมอาหาร และแหล่งพักผ่อนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “อิรีลดา จิรโชคชญานันท์” ใช้ประสบการณ์เดินป่าและเรียนรู้ธรรมชาติ พอมีโอกาสเปิดโรงแรมยึงเน้นให้ความยั่งยืน ทำอาคารประหยัดพลังงานผสมผสานความสวยงามที่ดึงดูดสายตา หู และจมูก

 

ออกแบบอาคารเน้นหมุนเวียนของอากาศและกลิ่น ใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติ มอบทิวทัศน์ธรรมชาติให้ทุกห้องได้ผ่อนคลาย ภายในไร้ป้ายพลาสติก แถมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดย่อยสลายได้ทางชีวภาพ แล้วยังคำนึงถึงชุมชนโดยรอบ จึงออกแบบโรงแรมให้เข้ากับย่านริมน้ำเก่าอย่างลงตัว

 

โรงแรม The Motifs Eco เลือกใช้อุปกรณ์ที่หามาจากรัศมีรอบพื้นที่ 30 กิโลเมตร เปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งน้อยสุด ใช้เฟอร์นิเจอร์คือ “เสื่อ” จากชุมชนบางสะเกา “หมอน” จากชุมชนหัตถกรรมภาคเหนือและอีสาน กลิ่นหอมเฉพาะตัวภายในห้องสร้างสรรค์โดยแบรนด์ท้องถิ่นอย่างภูตะวัน ส่วน “ห้องอาหาร” ก็นำเสนอเมนูเด็ดหมุนเวียนชุมชนต่าง ๆ ในจันทบุรี สร้างแรงบันดาลใจให้แขกออกไปสำรวจอาหารท้องถิ่น

 

“ขยะ” ที่เกิดขึ้นภายในโรงแรมจะชั่งน้ำหนัก แยก บันทึกทุกวันให้มีขยะน้อยสุด Motifs Eco Hotel ลดขยะอินทรีย์ในแต่ละวันลงเหลือเพียงหนึ่งหรือสองกิโลกรัมได้หลังจากแยกวัสดุรีไซเคิลแล้ว ห้ามพลาดเดินเที่ยวได้

พิกัดที่ 1 ชุมชนริมน้ำจันทบุรี” ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี ไม่ไกลจากตลาดอัญมณีมากนัก จุดเด่นคือ อาคารสไตล์โคโลเนียลยุโรปอายุกว่าร้อยปีผสมผสานกับตึกแถวไม้ ตลอดสองเส้นทางมีอาหารก็เรียงรายอยู่หใลิ้มลองเมนูท้องถิ่น เช่น เค้กไข่ ไอศกรีมแบบดั้งเดิม ปลาหวานย่าง กุ้งต้ม และข้าวเกรียบแบบดั้งเดิม

พิกัดที่ 2 ตลาด 100 ปี อยู่ด้านหลังอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลตลาดแห่งนี้เปิดเฉพาะเช้าวันเสาร์และวันอาทิตย์ เต็มไปด้วยอาหารท้องถิ่นแสนอร่อย โดยเฉพาะอาหารทะเลและขนมไทยโบราณหายาก เช่นโพะ (พุดดิ้งหวาน) ข้าวเกรียบมะพร้าว ขนมดอกแคและก๋วยเตี๋ยวจันทบุรีผัดเนื้อปู

 

พิกัดที่ 3 ชุมชนขนมแปลก มีขนมแปลกรสชาติหวานและเค็มไม่ธรรมดา เชื่อกันว่าโรงงานอ้อยเก่าแก่ในละแวกนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ชาวจันทบุรีคิดค้นขนมแปลกที่มีรสชาติหวานและหอมเป็นเอกลักษณ์ ตั้งชื่อแปลกๆ เช่น ก๊วยเลิง ขนมติดคอ ขนมตังกุย และน้ำเยี่ยววัว ส่วนอาหารรสเผ็ดยอดนิยมคือ หอยทากย่างตัวใหญ่ ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงที่มีกลิ่นหอมผสมผสานกับสมุนไพรและเครื่องเทศเฉพาะของจันทบุรี

            สุขทันทีที่ได้เที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในจันทบุรี

 

สุขภาพ –10 วิธีดูแลจิตใจตนเองให้พ้นจากทุกข์ภัยในชีวิต

 

กรมสุขภาพจิต มีคำแนะนำ 10 วิธีที่จะดูแลจิตใจตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งสติ สร้างกำลังใจให้ตัวเอง ฝึกหายใจคลายเครียด บริหารร่างกาย ซึ่งวิธีเหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ง่ายๆ ดังนี้

1.ตั้งสติให้มั่น มองทุกปัญหาว่ามีทางแก้ไข

2.หากรู้สึกท้อใจ ให้ค้นหาแหล่งสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง ได้แก่ ความรัก ความผูกพัน กับคนในครอบครัว ความศรัทธาทางศาสนา การมีเป้าหมายชีวิตที่มีคุณค่า ความเชื่อว่าปัญหาจะผ่านไป…แล้วมันจะดีขึ้น การมองเห็นสิ่งดีๆ ในชีวิต

3.ฝึกหายใจคลายเครียด และทักษะผ่อนคลายอื่นๆ

4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง

5.พูดคุยกับคนใกล้ชิด อย่าคิดคนเดียว ช่วยกันปรึกษาหารือ แปลงปัญหาเป็นโอกาสในการสร้างความผูกพันใกล้ชิดต่อกัน

6.บริหารร่างกายเป็นประจำ เท่าที่สภาพแวดล้อมจะเอื้ออำนวย อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที วันเว้นวัน

7.ศึกษาและปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา

8.มองหาโอกาสในการช่วยเหลือผู้อื่น เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชน

9.คิดทบทวนสิ่งดีๆ ในชีวิตเป็นประจำทุกวัน

10.จัดการปัญหาทีละขั้นทีละตอน ทำในสิ่งที่ทำได้ สร้างความรู้สึกสำเร็จเล็กๆ จากสิ่งที่ทำ ไม่จมไปกับปัญหาที่ยังแก้ไขอะไรไม่ได้ หลีกเลี่ยงการใช้สุรา หรือสารเสพติดในการจัดการความเครียดความทุกข์ใจ

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –สิงคโปร์แอร์ทุ่ม1.1พันล้านเหรียญเพิ่มบริการพรีเมี่ยมA350

 

 

Mr Goh Choon Phong ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส (SIA) เปิดเผยว่า สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ใช้เงินลงทุนราว 1,100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ พัฒนาโครงการต่อเนื่องกันหลายปีในฝูงบินแอร์บัส A350-900 จำนวน 41 ลำ ด้วยการติดตั้งผลิตภัณฑ์ห้องโดยสารใหม่เพื่อใช้บริการเที่ยวบินระยะไกลและไกลพิเศษ (ULR) กำหนดนิยามเป็นประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียมบนเครือข่ายการบิน พร้อมจะเปิดตัว “ห้องโดยสารชั้นหนึ่ง” ที่หรูหราในฝูงบินบิน A350-900ULR ล็อตแรก 7 ลำ ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมการเดินทางเส้นทางยาวที่สุดในโลก ซึ่งได้ออกแบบอย่างพิถีพิถันมากเพื่อนักเดินทาง

 

“สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส” พร้อมจะนำเสนอ “ที่นั่งชั้นหนึ่งหรูหรา” ทั้งหมดเหล่านี้เพื่อมอบประสบการณ์บนเที่ยวบินที่ไม่เหมือนใคร ให้ลูกค้าชั้นธุรกิจด้รับประสบการณ์ที่นั่งใหม่ในเร็ววันนี้จากการออกแบบด้วยนวัตกรรมใหม่ พร้อมจะมอบความเป็นส่วนตัว ความสบาย ความสะดวกมากขึ้น ทั้งที่นั่งชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจของฝูงบิน A350-900

 

การปรับโฉมตกแต่งฝูงบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ดำเนินการโดย SIA Engineering Company สิงคโปร์ ตามแผนการปรับโฉมฝูงบินระยะไกล แอร์บัส A350-900 ลำแรก คาดจะเข้าประจำการไตรมาส 2 ปี 2569 ส่วนฝูงบินแอร์บัส A350-900ULR รุ่นแรก จะทยอยแล้วเสร็จปี 2670 ตามโปรแกรมทั้งหมดตั้งเป้าหมายที่จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2573 

 

ภายในโครงสร้างชั้นที่นั่ง “เครื่องบิน” แอร์บัส A350-900 ระยะทางไกล 34 ลำ ประกอบด้วย ชั้นธุรกิจ 42 ที่นั่ง ชั้นประหยัดพิเศษ 24 ที่นั่ง และชั้นประหยัด 192 ที่นั่ง ส่วนแอร์บัส A350-900ULR ประกอบด้วย ที่นั่งชั้นหนึ่ง 4 ที่นั่ง ชั้นธุรกิจ 70 ที่นั่ง และชั้นประหยัดพิเศษ 58 ที่นั่ง

 

ที่นั่งทั้งหมดได้รับการออกแบบตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยรูปแบบกว้างขวางและองค์ประกอบตามหลักสรีรศาสตร์ตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกอย่าง ซึ่งจะได้นำการออกแบบที่นั่งแบบเดียวกันกันนี้ไปนำเสนอบนเครื่องบินโบอิ้ง 777-9 ของสิงคโปร์ แอร์ไลน์สที่กำลังจะมาถึงในเร็ววันนี้เช่นกัน

 

ส่วนห้องโดยสาร “ชั้นประหยัดพิเศษและชั้นประหยัด” ทยอยปรับปรุงใหม่เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้ลูกค้า ด้วยระบบความบันเทิงบนเครื่องบิน (IFE) KrisWorld รุ่นต่อไป ทางสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส พร้อมจะนำเสนอเนื้อหาเฉพาะกับผู้โดยสารมากขึ้น และมีตัวเลือกตามไลฟ์สไตล์อันหลากหลายทุกชั้นโดยสาร ที่นั่งชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ ซึ่งจะมีหน้าจอความบันเทิงบนเครื่องบินแบบใหม่เช่นกัน

 

ซีอีโอสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา 6 ปี ได้ทำงานร่วมกับลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ห้องโดยสารระยะไกลรุ่นต่อไป โดยคิดค้นความต้องการและความคาดหวังเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียดที่สุด ทั้งการออกแบบที่นั่งชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจใหม่จะผสมผสานองค์ประกอบที่ได้ไตร่ตรองขยายความสะดวกสบาย ความหรูหรา ความทันสมัย เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถผ่อนคลายหรือทำงานบนเครื่องบินได้อย่างสะดวกสบาย

 

ส่วนการปรับโฉมเครื่องบินรุ่นต่อไปและระบบบันเทิงบนเครื่องบินหรือ KrisWorld ลูกเรือสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ที่มีชื่อเสียงระดับโลกพร้อมมอบบริการอย่างอบอุ่น และเอาใจใส่ผู้โดยสาร ด้วยมาตรฐานใหม่ด้านนวัตกรรม มอบประสบการณ์ให้ลูกค้า และความเป็นเลิศด้านการบริการ ควบคู่กันไป

 

ข่าวที่สอง -การบินไทยปี’67ไตรมาส3กำไรเพิ่ม-รวม9เดือนกำไรลด

 

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทหลักและบริษัทย่อย มีผลการดำเนินงาน 2 ช่วง ได้แก่ ไตรมาสที่ 3 และ 9 เดือนแรก ปี 2567 ตามรายละเอียดดังนี้

การดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 8,820 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวมก็เพิ่มตามไปด้วย 29,289 ล้านบาท กำไรสุทธิสูงกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน 1,546 ล้านบาท ประกอบด้วย

 

@การบินไทยQ3/67“รายได้-ค่าใช้จ่าย-กำไร”เพิ่ม

ส่วนที่ 1 รายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 45,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,820 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนทำไว้ 37,008 ล้านบาท หรือ 23.8% บริการผู้โดยสารรวม 3.94 ล้านคน ทำอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร 76.1 % ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนทำไว้ 77.3%

 

ส่วนที่ 2 มีค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 38,636 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนทำไว้ 29,289 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากค่าผันแปรตามปริมาณการผลิตและการขนส่งเพิ่มขึ้น คือ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 13,550 ล้านบาท คิดเป็น 35.1% ของค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว)

 

ส่วนที่ 3 มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 7,192 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาส 3 ปี 2566 ทำกำไรไว้ 7,719 ล้านบาท

 

ส่วนที่ 4 มีต้นทุนทางการเงินเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) 4,829 ล้านบาท และมีรายการเกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 10,119 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ

 

ส่วนที่ 5 มีกำไรสุทธิ 12,483 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อนทำกำไรไว้ 1,546 ล้านบาท

ส่วนที่ 6 EBITDA 6,655 ล้านบาท หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินจริง (Power by the Hours)

 

@9 เดือนปี67“รายได้-ค่าใช้จ่าย”เพิ่ม“กำไร”ลดลง

 

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย รวม 9 เดือนแรกปี 2567 มีดังนี้

 

ส่วนที่ 1 มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 135,810 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนทำไว้รวม 115,897 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.2%

 

ส่วนที่ 2 มีค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 111,617 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนทำไว้รวม 86,567 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.9%

 

ส่วนที่  3 กำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว)  24,193           ล้านบาท ต่ำกว่างวดเดียวกันกับปี 2566 ทำกำไรไว้ 29,330 ล้านบาท ลดลง 17.5% 

 

ส่วนที่ 4 มีต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) 14,233 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้รวม 5,273 ล้านบาท  ส่วนใหญ่มาจากปรับปรุงรายได้ตั๋วโดยสารที่หมดอายุ กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ  และมีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ส่วนใหญ่มาจากการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าเครื่องบินแบบแอร์บัส A380-800

 

ส่วนที่ 5 มีกำไรสุทธิ 15,221 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนทำกำไรไว้ 16,342 ล้านบาท 

 

ส่วนที่ 6 มี EBITDA 25,056 ล้านบาท หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours)   

 

ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ ได้ชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการไปแล้วรวมทั้งสิ้น 3,531 ล้านบาท

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.