ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โชติช่วง ศูรางกูร รองMD หนุ่มสาวทัวร์ชี้ไฮซีซั่นปี67คนไทยเที่ยวนอกคึกคัก

 


โชติช่วง ศูรางกูร 

รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่ม สาว ทัวร์ จำกัด


“โชติช่วง ศูรางกูร”ชี้ไฮซีซั่นคึกคัก“คนไทย”เที่ยวไทย-เที่ยวนอก

ภาคเหนือแชมป์ในประเทศ“ญี่ปุ่น-จีน-เกาหลี-ยุโรป”ยอดขายพุ่ง

ปี’68หนุ่มสาวทัวร์โชว์แผนลงทุนเพิ่มธุรกิจทัวร์-เปิดใหม่2โรงแรม

คิงเพาเวอร์แชมป์รางวัลFRONTIER AWARDS2024 กระหึ่มโลก

คิงเพาเวอร์ฉลองสุขส่งท้ายปี4ธีมTHE POWER OF FUNTASTIC

พบคาร์เทียร์ที่คิงเพาเวอร์ซิตี้บูทีกSunglasses Street-ดีลลด30%

ททท.ผนึกPATAดันเพชรบุรีดาวรุ่งตลาดโลกฮับเที่ยวโดยชุมชน

บางจากปลื้ม S&P จัดอันดับดีที่สุดของโลกด้านพลังงานยั่งยืน

ล่องเรือเที่ยว “VIJIT CHAOPHRAYA”สุขทันที14พื้นที่4ไฮไลต์

กินมื้อเช้ากับเคี้ยวข้าวละเอียด30ครั้งช่วย“อายุยืน-ลดอ้วน”ได้

ด่วน!การบินไทยเปิดลงทะเบียนถกแก้แผนฟื้นฟู3ฉบับ29พ.ย.

DUSITผนึกกองทุนTDFขยายลงทุนโรงแรมทั่วซาอุดิอาระเบีย

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #หนุ่มสาวทัวร์ #TonyChot

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1N9fGwHE4c/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “โชติช่วง ศูรางกูร” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาว ทัวร์  จำกัด และอุปนายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA) “คนไทย” เที่ยวไฮซีซั่นต่างประเทศ 4 จุดหมาย ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ยุโรป 2 ปัจจัย ราคาตั๋วบิน สภาพอากาศหนาว ส่วน“ในประเทศ” ภาคเหนือครองแชมป์ ทัวร์เทศกาล ทุ่งดอกไม้ ปี68 “ธุรกิจทัวร์” ขยายจุดขายใหม่ มาสคอตหนุ่มสาว เปิดเส้นทางเที่ยวคาซัคสถาน “ธุรกิจโรงแรม” เปิดบริการใหม่ 2 แห่ง “ฮิลล์ท็อป เอราวัณ” จ.กาญจนบุรี กับ “บางกอกเกี้ยน” ถนนราชปรารภ กรุงเทพฯ เปิดจอง ม.ค.68

นายโชติช่วง ศูรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาว ทัวร์  จำกัด และอุปนายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA) เปิดเผยว่า ฤดูท่องเที่ยวไฮซีซั่น “คนไทย” จะเที่ยวไทยและเที่ยวต่างประเทศเน้นความฟิน ความชิว สบาย ๆ เป็นช่วงที่ทุกแห่ง “เส้นทางต่างประเทศ” จะเน้นจุดขายเที่ยวงานเทศกาล “คริสต์มาส” ใน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลี ยุโรป แต่ละคนจะใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 30,000 -40,000 บาท/คน/ทริป  โดยมีแรงกระตุ้นจาก 2 ปัจจัยหลัก ปัจจัยที่ 1 สภาพอากาศเย็นสบาย ปัจจัยที่ 2 ตั๋วโดยสารเครื่องบินปี 2567 จะเริ่มลดลงบ้าง เพราะสายการบินเพิ่มความถี่เที่ยวบินมากขึ้น โดยเฉพาะจีนมีการเดินทางเข้าไทยเกินกว่า 5 ล้านคน จึงมีที่นั่งว่างให้คนไทยเดินทางไปจีนได้สะดวกสบายมากขึ้น

เส้นทาง “ในประเทศ” ก็จะไปภาคเหนือระยะสั้น ๆ ภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย เน้นเที่ยวฟินชิวสบาย ๆ มากกว่าทัวร์ผจญภัย วันละ 3-4 แห่ง เพื่อสัมผัสประสบการณ์เช็คอินตามร้านคาเฟ่เก๋ ๆ

“กลุ่มตลาดคนไทย” เที่ยวต่างประเทศจะเป็นองค์กรหรือคอร์ปอเรต กลุ่มครอบครัว และเดินทางโดยลำพัง  โดยมีตัวแปรหลัก ๆ 1.ราคาตั๋วโดยสารเครื่องบิน ตอนนี้ยังคงขึ้นลงตามดีมานต์หรือปริมาณผู้โดยสารกับซัพพลายหรือจำนวนที่นั่งเที่ยว 2.เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ “เงินบาทแข็งค่า” หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งในอเมริกา 3.สายการบินจะฟื้นตัวตามพยากรณ์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) จะมากถึง 104 % ซึ่งจะมีผลดีกับราคาตั๋วเครื่องบินถูกลงเพราะซัพพลายหรือจำนวนที่นั่งจะมากขึ้น เป็นแรงกระตุ้น “กำลังซื้อตลาดระดับกลาง” มีโอกาสซื้อแพกเกจเที่ยวต่างประเทศขยายตัวมากขึ้น

สำหรับเอเชีย มีสัญญาณที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ มีทั้งเที่ยวบินแบบประจำไป-กลับ ระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ แล้วยังมีเพิ่ม “เที่ยวบินเช่าเหมาลำ” (charter flight) จากจีน รัสเซีย คาซัคสถาน บินตรงสู่ภูเก็ต จังหวัดแถบอันดามัน จึงทำให้เที่ยวบินขาออกของคนไทยเดินทางไปกับชาเตอร์ไฟลต์ซื้อตั๋วได้ในราคาถูก ผนวกกับ “ค่าเงินบาทกับเงินเยนญี่ปุ่น” ได้รับความนิยมสูงจากบาทแข็งทำให้ราคาตั๋ว ที่พัก อาหาร ใช้เงินถูกลง แตกต่างจาก “จีน” อาจจะไม่ได้คึกคักมาก เพราะการเดินทางแต่ละเมืองยังลำบากเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวยากกว่าญี่ปุ่น รวมทั้งฮอสพิทาลิตี้ยังน้อย แล้วก็ใช้ภาษาจีนเป็นหลัก รวมถึงจีนเองมีรายได้จากคนในประเทศเที่ยวกันเองเป็นหลัก



นายโชติช่วงกล่าวว่า ฤดูท่องเที่ยวไฮซีซั่นปลายปี 2567 บริษัท หนุ่มสาว ทัวร์ จำกัด ยังมีแพ็กเกจเที่ยวต่างประเทศ ไปยัง 3 ประเทศ จีน ไต้หวัน ยุโรป “ในประเทศ” ก็มีแม่ฮ่องสอน ทัวร์เทศกาลดอกบัวตอง บ้านรักษ์ไทย จ.แม่ฮ่องสอน รับลมหนาว จ.เชียงราย และเที่ยววิถีชีวิต จ.น่าน

จากนั้นปี 2568 บริษัท หนุ่มสาว ทัวร์ จำกัด เตรียมขยายการลงทุน นำร่องเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เริ่มจาก “ธุรกิจทัวร์” สร้างแรงจูงใจ นำโดย “มาสคอตหนุ่มสาว” แต่งตัวคล้ายหมีเนยคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรมของลูกค้า เพิ่มสีสันอีกช่องทาง พร้อมกับจะ “เปิดเส้นทางใหม่” เที่ยวคาซัคสถาน

ส่วน “ธุรกิจโรงแรม” จะเปิดใหม่คือ โครงการที่ 1  โรงแรม ฮิลล์ ท็อป เอราวัณ จ.กาญจนบุรี พื้นที่วิวสวยมาก ไปทางเดียวกับน้ำตกเอราวัณ เตรียมสร้างบ้านแบบชาเลต์ 12 หลัง พร้อมกับโซนลานตั้งแคมป์ และบริการให้เช่า โครงการที่ 2 โรงแรม บางกอกเกียน (Bangkokian) ถนนราชปรารภ กรุงเทพฯ ขยายเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่ 50 ห้อง โรงแรมใหม่จะอย่างไม่เป็นทางการมกราคม 2568 และเปิดอย่างเป็นทางการเดือนมีนาคมปีหน้าเป็นต้นไป ทำให้ในเครือมีทั้งหมด 22 โรงแรม กระจายตัวอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม ในกรุงเทพฯ หัวหิน/ประจวบคีรีขันธ์ ภาคเหนือมีหลายแห่ง เช่น เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน ภาคตะวันออก ที่เกาะช้าง จ.ตราด ภาคใต้ เกาะยาวน้อย จ.ภูเก็ต แต่ละแห่งจะดีไซน์เป็นรีสอร์ตให้เข้ากับวิถีท้องถิ่น สัมผัสธรรมชาติจริง ๆ มากกว่าการเสริมแต่งเยอะเกินไป



ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์แชมป์รางวัลFRONTIER AWARDSไทยกระหึ่มโลก


นายอัยยวัฒน์  ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า “คิง เพาเวอร์ ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยว ในโอกาสปี 2567 ดำเนินธุรกิจครบ 35 ปี ได้จัดแคมเปญ “FESTIVALISATION RANGNAM” กระทั่งล่าสุดคว้ารางวัล “FRONTIER AWARDS 2024 สาขา RETAILER CAMPAIGN OF THE YEARที่ฝรั่งเศส ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ ภายใต้แนวคิด THE POWER OF POSSIBILITIES เป็นได้สุด เป็นไปได้ ผ่านกลยุทธ์ POWER OF PLACE แล้วสามารถพลิกโฉมรางน้ำขึ้นสู่พื้นที่การท่องเที่ยวระดับโลก

@คิงเพาเวอร์คว้าแชมป์รางวัลโลกFRONTIER AWARDS2024

“คิง เพาเวอร์” ได้สร้างความสำเร็จด้วยการนำชุมชนรางน้ำก้าวสู่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก หรือ World Tourism Destination จากแคมเปญ “FESTIVALISATION RANGNAM” เป็นผู้ชนะเลิศรางวัล “FRONTIER AWARDS 2024 สาขา RETAILER CAMPAIGN OF THE YEAR”  นับจากนี้เป็นต้นไป จะเดินหน้าต่อยอด “สร้างอัตลักษณ์ชุมชนรางน้ำ” เป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำ “คิง เพาเวอร์” คือผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวในเวทีโลกอย่างแท้จริง

สำหรับ “รางวัล FRONTIER AWARDS 2024” ทางนิตยสาร DUTY FREE NEWS INTERNATIONAL หรือ DFNI MAGAZINE จัดขึ้น เพื่อมอบเป็นรางวัลระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคสำคัญของวงการธุรกิจดิวตี้ฟรี ในปี 2567 จัดพิธีมอบรางวัลขึ้นที่เมืองคานส์ ฝรั่งเศส

@จัดตรุษจีน-สงกรานต์นำย่านรางน้ำผงาดแหล่งเที่ยวโลก

ขณะที่แคมเปญ “FESTIVALISATION RANGNAM” ทาง คิง เพาเวอร์ ทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับภาครัฐและเอกชนทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องคือ กรุงเทพมหานคร ผู้ประกอบการ และชุมชนย่านรางน้ำ เดินหน้าการพัฒนาและยกระดับพื้นที่ย่านรางน้ำมีอัตลักษณ์เป็น “FESTIVALISATION” ต่อยอดกระทั่งเกิดเป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และย่านท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมืองไทย สร้างผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่และระดับประเทศเติบโตอย่างเข้มแข็งยั่งยืน

โดย คิง เพาเวอร์ ได้ใช้ย่านรางน้ำโปรโมทการท่องเที่ยวด้วยการจัดกิจกรรม ปี 2567 นำเสนอบิ๊กอีเวนต์ 2 เทศกาล ได้แก่ “เทศกาลตรุษจีน” ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และ “สงกรานต์” กลางเดือนเมษายน นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติตอบรับอย่างดี ทำให้ทั้งสองเทศกาลสร้างการรับรู้ (IMPRESSION) ขยายทั่วภูมิภาคเอเชียได้กว่า 600 ล้านคน ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 198,000 คน สื่อในไทยและทั่วโลกให้ความสนใจนำเสนอข่าวกว่า 2,000 สื่อ สร้างมูลค่ารวมเป็นพีอาร์แวลูสูงถึง 397 ล้านบาท ด้วยปริมาณผู้เข้าใช้บริการ (STORE TRAFFIC) เพิ่มขึ้นกว่า 2566 ประมาณ 178% ทำรายได้ขยายตัวต่อปี 140%

แล้วการจัดงานยังสร้างผลกระทบเชิงบวกหรือบิ๊กอิมแพ็คให้ชุมชนย่านรางน้ำอย่างมาก กระตุ้นคนเข้ามาเยี่ยมชมพื้นที่ต่อเนื่องรวมกว่า 200,000 คน สร้างเงินสะพัดในชุมชนไม่ต่ำกว่า 390 ล้านบาท



ข่าวที่ 2-คิงเพาเวอร์จัดสุขส่งท้ายปี4ธีมTHE POWER OF FUNTASTIC

นางสาววรมาศ ศรีวัฒนประภา รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่ด้านการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า คิง เพาเวอร์ ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยว ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย กระตุ้นการท่องเที่ยวส่งท้ายปีด้วยแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025” เริ่มแล้ววันนี้- 31 ธันวาคม 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชวนทุกคนมา ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ เป็นไปได้ เนรมิตเทศกาลเฟสทีฟส่งท้ายปีในบรรยากาศคริสต์มาสสไตล์ไทย ภายใต้ 4 ธีมหลัก ได้แก่ ไทยสุดเฟี้ยว ไทยสุดจ๊าบไทยสุดฟิน และไทยสุดฟัน

@เช็คอินด่วน!ฉลองส่งท้ายปี3ไฮไลต์ที่คิงเพาเวอร์รางน้ำ

คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เปิดพื้นที่ให้เช็คอินโซนไฮไลต์ต้องห้ามพลาด 3 จุด โดยได้ศิลปินดังพร้อมใจกันมาร่วมสร้างสรรค์ประติมากรรมฉลองความสุขส่งท้าย 3 ผลงาน 3 คน นำโดย “SARAN : โอ-ศรัณย์ เย็นปัญญา” สร้างสรรค์ต้นคริสต์มาสสไตล์ไทย MR.KREME :แอนดี้-วรกันต์ จงธนพิพัฒน์” นำเสนอโรงงานผลิตของขวัญตื่นตาตื่นใจ THE MONSTER FUN FACTORY และ Gongkan : ก้องกาน-กันตภณ เมธีกุล”  ดีไซน์กล่องของขวัญยักษ์ FUNTASTIC BOX กับกาซาปองยักษ์ มาให้ได้ลุ้นอย่างสนุกสนาน ตลอดงานนี้นักท่องเที่ยวจะได้ชมคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย และโปรโมชั่นพิเศษกับขบวนพาเหรดสินค้าของคิง เพาเวอร์ จัดมาให้เลือกช้อปแบบจุใจ

นางสาววรมาศกล่าวว่าการจัด “THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025” เทศกาลความสุขส่งท้ายปีให้ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ เป็นไปได้ ในบรรยากาศเฟสทีฟแบบไทย ด้วยการนำเอกลักษณ์ไทยมาผสานเข้ากับคริสต์มาสเทศกาลระดับโลก ควบคู่กับจัดทัพสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประดับตกแต่งงาน สนับสนุนสินค้าไทยให้โลกรู้จักอย่างกว้างขวาง ทำให้ย่านรางน้ำเป็น “FESTIVAL ISATION” แถวหน้าของเมืองไทย

สำหรับแคมเปญ “THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025” จัดภายใต้แนวคิด “คริสต์มาสสไตล์ไทยแล้วก็เปิดวาร์ป “ความสุขสุด FUNTASTIC พาสนุกสุดครื้นเครง” ด้วย 4 ธีมหลัก ได้แก่ ไทยสุดเฟี้ยว ไทยสุดจ๊าบ ไทยสุดฟิน และไทยสุดฟัน

 

@ไทยสุดเฟี้ยวเที่ยวงานศิลป์-สุดจ๊าบกับศิลปะดีศิลปินดัง

ธีมที่ 1 ไทยสุดเฟี้ยว : เปิดวาร์ปพาเที่ยวงานศิลป์สร้างสรรค์โดย 3 อาร์ทติสชื่อดังระดับประเทศ ได้แก่ โอ-ศรัณย์ เย็นปัญญา ดีไซน์ต้นคริสต์มาสที่ผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันตก และวัฒนธรรมตะวันออก ในโทนสีสันคัลเลอร์ฟูล โดยใช้เทคนิคโมดูลาร์ ดีไซน์ นำพัดตอกสาน และกระจาดไม้ไผ่รวมกว่า 20,000 ชิ้น ในคอนเซปต์ Relocal จากชุมชนอำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มุ่งสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนแบบยั่งยืน

โดยมี MR.KREME แอนดี้-วรกันต์ จงธนพิพัฒน์” เนรมิตโรงงานผลิตของขวัญ THE MONSTER FUN FACTORY สนุกกับกาชาปองที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก SANTA’S TOY FACTORY และ GONGKAN ก้องกาน-กันตภณ เมธีกุล” ตื่นตากับมุมถ่ายภาพสุดฟัน เก็บความทรงจำด้วยตัวคุณเองกับกล่องของขวัญยักษ์ FUNTASTIC BOX

ธีมที่ 2 ไทยสุดจ๊าบ : เปิดวาร์ปความมันส์กับฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปิน และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย สนุกกับ FUNTASTIC SHOW ทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เริ่ม 15 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2567 และ 20 – 31 ธันวาคม 2567

เปิดวาร์ปขบวนคริสต์มาสครั้งแรกวันที่ 20 – 22 และ 24 – 25 ธันวาคม 2567 กับ TROOP ROBOT GASHA และ TOY GANG

เซอร์ไพรส์ค่ำคืน 31 ธันวาคม นี้ กับกิจกรรม BUTTERBEAR MINI FAN MEET สุดเอกซ์คลูซิฟ เปิดให้แฟนคลับได้ลุ้นเป็น 40 ผู้โชคดี เพื่อร่วมถ่ายรูปคู่กับน้องเนย เพียงช้อปครบทุก 3,500 บาท ช่วง 1-10 ธันวาคม 2567 และวันที่ 1-31 ธันวาคม 2567 ช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ (สุทธิ) รับฟรีของที่ระลึก BUTTERBEAR

 

@ไทยสุดฟิน-สุดฟัน ช้อป ชิม คุ้มสุดที่คิงเพาเวอร์รางน้ำ

 

ธีมที่ 3 ไทยสุดฟิน : เปิดวาร์ปความฟิน กับ NEON NIGHT BARZAAR เตรียมพบคาราวานความอร่อยแบบจัดเต็มกว่า 30 ร้าน  เช่น บัตเตอร์แบร์ คาเฟ่ วี/ลา มินิบาร์ วันโจ หมูเด้งส์อัมพวา ยิน บอนนี่ คาเฟ่ แอนด์ เบเกอรี่ เบก ทู เบป และ บัตเตอร์บัตเตอร์ ข้าวแต๋นน้ำแตงโม ชาร์ม ห่อหมกเจ๊ศรี สำเพ็ง มันเดย์ มันเดือยกะทิสดหาดใหญ่ ไก่ทอดเดชาหาดใหญ่ กุยช่ายสะพานหัน

โดยมี “ร้านฟู้ดทรัค” ต้องห้ามพลาดชิมเมนูเด็ดมากมาย ทั้ง ORANGINAL ORANGE, HEY JOE SOFT CREAM, YOGURT TRUCK, ตำกะเตี๋ยว, ROSBORAN STATION, BITE BAR

พิเศษ! ลูกค้า KBank อิ่มฟรี เพียงสแกนจ่ายผ่าน K PLUS ภายในงาน นีออน ไนท์ บาร์ซาร์ ครบ 200 บาท รับฟรี! อาหาร หรือ เครื่องดื่ม คนละ 1 สิทธิ์ /วัน แลกรับสิทธิ์ได้ที่ลานน้ำพุ

ธีมที่ 4 ไทยสุดฟัน : เปิดวาร์ปความฟันกับสิทธิพิเศษมากมาย โดยเฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์ และร่วมสนุกจับกาซาปองฟรี 1 สิทธิ์ เมื่อช้อปครบทุก 3,500 บาท / ใบเสร็จ หรือรับฟรีคูปองเล่น E-GOKART TRACK BY MONOWHEEL 1 สิทธิ์ เมื่อช้อปครบ 3,500 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

  

ข่าวที่ 3-คาร์เทียร์คิงเพาเวอร์ซิตี้บูทีกSunglasses Street-บิ๊กดีลลด30%

คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก น้องใหม่โซนพาเหรด ชั้น 1-2 One Bangkok สร้างปรากฏการณ์แรงไม่หยุดในโซน “SUNGLASSSES STREET” อาณาจักรแว่นตาสุดชิคแบรนด์ดังชั้นนำจากทั่วโลก มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ซื้อแล้วรับกลับได้ทันที! กับแว่นตาหลากหลายสไตล์แบรนด์อินเตอร์ สวมใส่แล้วสามารถสะท้อนเอกลักษณ์อย่างมีสไตล์ ให้คุณเปล่งประกายได้ไม่ซ้ำใคร เร็ว ๆ นี้ พร้อมบริการใหม่ จากแบรนด์ “CARTIER” ด้วยบริการหนึ่งเดียวในเมืองไทย เปิดให้ปรับแต่งแว่นตาได้ในสไตล์ของตัวเอง ได้ที่นี่ที่เดียว คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก ชั้น 1  ตั้งแต่ 10.00 - 22.00 น.

คิง เพาเวอร์ เปิดให้แฟนคลับได้ร่วมสัมผัสมิติใหม่แห่งการช้อปใจกลางเมือง  กับ “เต ตะวัน” ในโซนแว่นตาสุดหรู SUNGLASSES STREET​ ได้คัดสรรมาเพื่อให้ทุกคนมั่นใจในทุกมุมมอง​

พิเศษวันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2567  นำสินค้าแบรนด์ใหญ่มาร่วมฉลองแคมเปญCELEBRATION DEALS! ลดสูงสุด 30 %

  

ข่าวที่ 4-ททท.ผนึกPATAดันเพชรบุรีดาวรุ่งตลาดโลกฮับเที่ยวโดยชุมชน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ทางสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Pacific Asia Travel Association: PATA) เลือกไทยเป็นสถานที่จัดประชุม PATA Destination Marketing Forum 2024 ระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2567 จังหวัดเพชรบุรี โดยมีพันธมิตรแถวหน้าของเมืองไทยมากกว่า 5 องค์กร ที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว ไมซ์ (MICE) และเจ้าของพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ผนึกความร่วมมือต้อนรับและสนับสนุนการจัดประชุมสมาชิกสมาคมเดินทางมาจากทั่วโลก 22 แห่ง กว่า 300 คน มีเป้าหมายเน้นผลักดันและยกระดับ “การท่องเที่ยวโดยชุมชน : Community-Based Tourism  จังหวัดเพชรบุรี 1ในเมืองน่าเที่ยว ขึ้นสู่ระดับนานาชาติ ด้วยศักยภาพของสถานที่ท่องเที่ยวมีความพร้อมรองรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

งานนี้จัดภายใต้ธีม “Authentic Prosperous Journeys: Nurturing Culture, Culinary Delights, and Community Wisdom” ชูจุดเด่นเสน่ห์ไทยหรือซอฟท์ พาวเวอร์ เมืองเพชรบุรี  3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 การนำมรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น เรื่องที่ 2 อาหารถิ่นประจำจังหวัด เรื่องที่ 3 ภูมิปัญญาชุมชน เดินหน้าต่อยอดให้นักท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์เดินทางที่มีความหมายอย่างแท้จริง นำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน

ควบคู่กับใช้เวทีการประชุมสมาชิกสมาคม PATA ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและมรดกวัฒนธรรมดั้งเดิมของจังหวัดเพชรบุรี อันลึกซึ้งและเป็นต้นแบบแสดงให้เห็นพื้นที่จุดหมายใหม่ “เมืองน่าเที่ยว” ก็สามารถยกระดับกลายเป็น “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก” ได้ โดยยังคงเสน่ห์ดั้งเดิมไว้ จึงได้รับความไว้วางใจเป็นสถานที่จัดงานประชุมระดับนานาชาติครั้งนี้

การจัดประชุม PATA Destination Marketing Forum 2024 จังหวัดเพชรบุรี  พร้อมกับจัดงาน PATA Destination Marketing Forum 2024 Welcome Night @ Phetchaburi  ต้อนรับสมาชิกนานาชาติร่วมกันขององค์กรหลักชั้นนำในไทย ได้แก่ ททท. จังหวัดเพชรบุรี สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรสำหรัรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ “อพท.” และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่อีกหลายแห่งด้วยกัน

  

ข่าวที่ 5-บางจากปลื้มS&Pจัดอันดับดีที่สุดของโลกด้านพลังงานยั่งยืน

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนระดับสูงสุดในอุตสาหกรรม Oil & Gas Refinery and Marketing จาก S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) ประจำปี 2024 สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง และตอกย้ำถึงบางจากเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนในระดับสากล

บางจากฯ ได้รับการจัดอันดับสูงสุดของโลกด้านความยั่งยืน ร่วมกับบริษัททั่วโลกที่เข้ารับการประเมินในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil & Gas Refinery and Marketing กว่า 70 บริษัท ทำคะแนนรวม 85 คะแนน (จาก 100 คะแนน) และคะแนนสูงสุด (Best Score) ใน 2 มิติ  คือ มิติที่ 1  การกำกับดูแล (Governance) มิติที่ 2 สิ่งแวดล้อม (Environment) แสดงถึงความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยกำกับดูแลกิจการที่ดี

 

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่าผลสำเร็จของบางจากที่ได้รับการประเมินระดับสูงสุดจาก S&P Global CSA องค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเกี่ยวกับความยั่งยืน ซึ่งเป็นผู้จัดทำประเมินความยั่งยืนดัชนี Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI จึงยืนยันปณิธานของบางจากพร้อมดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงมุ่งสร้างผลกำไรทางธุรกิจ แต่ยังต้องส่งเสริมคุณค่าให้สังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป

S&P Global ใช้เกณฑ์พิจารณาจากการดำเนินธุรกิจและพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี ปี 2567ได้รับการประเมินอันดับสูงสุด จึงเป็นอีกบทพิสูจน์ที่ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ เป็นแนวทางที่บางจากฯ ยึดมั่นดำเนินมาตลอดการทำธุรกิจ 40 ปี ปีนี้ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 แล้ว

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจตามหลักการ ESG (Environment, Social, and Governance) ไม่ได้เป็นเพียงแนวทางเพื่อความยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยบางจากฯ ยึดหลัก ESG ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนผ่านการประเมินด้วยอันดับสูงสุดในระดับสากล ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ดีและยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนทั้งปัจจุบันและอนาคตต่อไป

            ช่วงที่ 2  เที่ยวรับลมหนาวชวนไปเช็คอิน “วิจิตรเจ้าพระยา -VIJIT CHAOPHRAYA” ชมไฟสวยงาม ประติกรรมล้ำค่า ริมสองฝั่งแม่น้ำแห่งชีวิต 14 พื้นที่ พร้อมไฮไลต์ 4 จุด สะพานพระราม 8 สะพานพระพุทธยอดฟ้า วัดอรุณ วัดกัลยาณมิตร แล้วมาฟัง “กินลดโรคลดอ้วน” ด้วยการกินอาหารเช้ากับเคี้ยวก่อนกลืนคำละ 30 ครั้ง เกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก “การบินไทยเพิ่มช่องทางลงทะเบียน” ถกแก้แผนฟื้นฟูกิจการ 3 ฉบับ 29 พ.ย.นี้ ข่าวที่สอง “DUSITผนึก TDF” นำแบรนด์โรงแรมไทยลงทุนขยายทั่วซาอุดิอาระเบีย

 

ท่องเที่ยว –ล่องเรือเที่ยว“VIJIT CHAOPHRAYA”สุขทันที14พื้นที่4ไฮไลต์

 

เที่ยวไทยยิ่งใหญ่อลังการแห่งปี มหกรรมท่องเที่ยว “วิจิตร เจ้าพระยา : VIJIT CHAO PHRAYA 2024 เริ่มเช็คอินได้แล้ว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนมาเช็คอิน ชมปรากฏการณ์แห่งแสง สี ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันสุดยิ่งใหญ่ตระการตาต่อเนื่องตลอด 1 เดือนเต็ม ตื่นตากับกิจกรรมมากมายส่งท้ายปี เริ่มแล้ว วันแรก เสาร์นี้ 16 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 2567 ทุกวัน เวลา 18.00 – 22.00 น. ชมทัศนียภาพสถานที่สำคัญริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยนวัตกรรมแสง สี และสื่อประสม ทั้ง Light up, Light Installation, Illumination, Projection Mapping, การแสดงเลเซอร์ การบินโดรนแปรอักษร ชมไฮไลต์พลุสุดอลังการ รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมสะท้อนความงดงามของความเป็นไทย 

 

สุขทันทที่ได้ชมวิจิตรเจ้าพระยา เริ่มเสาร์ที่ 16 พ.ย.-15ธ.ค. 2567 เช็คอินความอลังการ 14 พื้นที่

 นักท่องเที่ยวจะได้เติมเต็มประสบการณ์ “การท่องเที่ยวยามค่ำคืนอันน่าอัศจรรย์” VIJIT CHAO PHRAYA 2024 ชมสถานที่สำคัญริมน้ำตลอดสองฝั่งเจ้าพระยา 14 พื้นที่ ได้แก่

เจดีย์วัดคฤหบดี สะพานพระราม 8 หอนาฬิกา พิพิธภัณฑ์พิมุขสถาน วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร อาคารสำนักงานราชนาวิกสภากองทัพเรือ  วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ป้อมวิไชยประสิทธิ์ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร อาคารสุนันทาลัย (โรงเรียนราชินี)  สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ (สะพานพระพุทธยอดฟ้า)  สะพานพระปกเกล้า ต้นไม้ใหญ่ ด้านหน้าร้านยกยอมารีน่า  และตึกร้างซอยล้ง 1919

เพลิดเพลินเจริญตากับศิลปะวัฒนธรรมอันงดงามแนวสายน้ำคดโค้งไหลผ่านวัดวาอาราม และย่านสำคัญที่แสดงถึงวิถีชีวิตริมน้ำ รวมถึงอาคารโบราณสถาน และสถานที่สำคัญที่มีประวัติศาสตร์และอยู่คู่แม่น้ำเจ้าพระยามาอย่างยาวนาน โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยและต่างชาติทั่วโลกรวมอยู่ด้วย ตัวอย่าง 4 ไฮไลต์ ได้แก่

ร้อยเรียงเรื่องราวความงดงาม สะพานพระราม8-พระพุทธยอดฟ้า-วัดอรุณ-วัดกัลยาณมิตร

“สะพานพระราม 8  เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 ของกรุงเทพฯ เชื่อมต่อสองฝั่งพระนครกับธนบุรี แล้วก็เป็นสะพานขึงแบบอสมมาตรยาวติดอันดับ 5 ของโลก

วัดอรุณราชวราราม” เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอก เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง ยังเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต

“วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร” สร้างขึ้นในสมัยราชกาลที่ 3 ได้รับพระราชทานนามว่ากัลยาณมิตร ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางกอกใหญ่ ฝั่งธนบุรี มีหลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ผู้คนเคารพและเข้าไปกราบไหว้

สะพานพระพุทธยอดฟ้า” สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 เนื่องในโอกาสสมโภชน์พระนครครบรอบ 150 ปี และเพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  

 

สุขภาพ –กินมื้อเช้ากับเคี้ยวข้าวละเอียด30ครั้งช่วยอายุยืนลดอ้วนได้

                กิน “ลดโรค-ลดอ้วน” ได้ เพียงเรารู้จักการกิน “มื้อเช้าทุกวัน” พร้อมกับต้องเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน หลักง่าย ๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามและอาจไม่เห็นความสำคัญ แต่ความจริงหลักการนี้ส่งผลดีต่อร่างกายอย่างมาก จากข้อมูลของหนังสือ อ่อนวัยแน่ แค่ปรับฮอร์โมน โดย ฮิเดะยุกิ เนะโกะโระ บอกไว้ดังนี้

เหตุที่แนะนำให้ต้องเคี้ยวอาหารก่อนกลืนคำละ 30 ครั้ง

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น การหลั่งฮอร์โมน “เลปตินและเกรลิน” จะเริ่มเสียสมดุล จากเดิมเลปตินหลั่งออกมาเมื่อกินถึงระดับร่างกายต้องการเพื่อให้อิ่ม ส่วน “เกรลิน” หลั่งเมื่อกระเพาะอาหารว่างเพื่อให้หิว จากการวิจัยชิ้นหนึ่งได้ตั้งสมมติฐานว่า ปัญหาการเสียสมดุลของฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิด กระทบต่อศูนย์ควบคุมความอยากอาหาร ทำให้ทำงานไม่เต็มที่ จึงส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการกินของผู้สูงอายุที่กินแบบเกินพอดี และกินเฉพาะเนื้อสัตว์

หากต้องการกระตุ้นให้ฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิด ยังทำงานเป็นปกติมากที่สุดแม้เริ่มเสียสมดุลแล้ว คือ “การเคี้ยวอาหารให้ได้ 30 ครั้งทุกก่อนกลืน” เนื่องจากการผลิตและหลั่งฮอร์โมนควบคุมความอยากอาหารจะดำเนินไปอย่างช้าๆ หากกินเร็วและเยอะเกินไป ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่าที่เลปตินจะหลั่งออกมาเต็มที่

จึงควรฝึกเคี้ยวอาหารให้ละเอียดราวคำละ 30 ครั้ง จนเป็นนิสัย เป็นการเพิ่มเวลาให้ระบบในร่างกายได้ทำงานเพิ่มขึ้น เฉลี่ยมื้อละ 30 นาที

 

ผลเสียของการรีบกินรีบกลืนคืออะไร -การปล่อยให้ร่างกายเผชิญภาวะเลปตินและเกรลินเสียสมดุลประจำ อาจเป็นเหตุนำไปสู่ “โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 มาจากพฤติกรรมการกิน กลุ่มคนที่มักติดนิสัยกินเร็วคือ คนทำงาน แข่งกับเวลา เมื่อกินเร็วทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เพราะกินหมดก่อนที่ร่างกายจะส่งข้อมูลไปหน่วยรับอินซูลินว่า เกรลินหยุดทำงานแล้วได้ทัน อินซูลินยังถูกส่งออกมาต่อเนื่องทั้งที่ระดับน้ำตาลลดลงแล้ว เท่ากับการกินเร็วใช้อินซูลินเปล่าประโยชน์

ส่วนการ “กินเยอะเกินไป” เป็นอีกปัจจัยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ร่างกายจึงต้อง “เร่งผลิตอินซูลินเพิ่ม” เพื่อลดน้ำตาลเหล่านี้ ในระยะยาว พฤติกรรมนี้ยังทำให้การหลั่งอินซูลินผิดปกติ เซลล์ต่าง ๆ จึงเสื่อมสภาพ เป็นต้นเหตุแก่ชรา ส่วนน้ำตาลส่วนเกินในกระแสเลือดจะถูกอินซูลินเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในตับและเนื้อเยื่อ ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ท้ายที่สุดก็กลายเป็นโรรอ้วนนั่นเอง

ขณะที่ “การอดอาหารเช้าเป็นตัวการทำให้อ้วน” เพราะความเครียดขัดขวางระบบประสาท “ซิมพาเทติก” ซึ่งทำหน้าที่ย่อยและดูดซึมอาหาร จนไม่อาจทำงานได้เต็มที่ ทำให้ความอยากอาหารลดลง รวมถึงการใช้ชีวิตอย่างปล่อยปละละเลย เช่น การนอนหลับไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกายเป็นเวลานานก็ทำให้ความอยากอาหารลดลงด้วย

จำนวนมื้อและเมนูอาหารมีความสำคัญไม่น้อยกว่ากัน พฤติกรรมการกินย่อมส่งผลต่อร่างกายเช่นนั้น เช่น การงดมื้อเช้า กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นมื้อกลางวัน ดื่มสังสรรค์เป็นมื้อเย็น แล้วกลับมากินบะหมี่ชามโตก่อนนอน

หลายคนคิดว่า “การอดอาหารเช้า” ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะมื้อเย็นก่อนนอนกินมาเต็มที่ หรืออีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงมื้อเที่ยง แต่ร่างกาย การใช้ร่างกายทำกิจกรรมโดยปราศจาคพลังงาน เปรียบเสมือนการขับรถโดยไม่เติมน้ำมัน ร่างกายจะเข้าใจว่า กำลังอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร จึงกักเก็บพลังงานเอาไว้ หากทำเช่นนี้จนเป็นนิสัย ระบบเผาผลาญจะบกพร่องและนำไปสู่การสะสมพลังงานในรูปของไขมันที่มากเกินไป

รวมทั้งการปล่อยให้ท้องว่าง ทำให้กินอาหารมื้อต่อไปมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะมื้อเย็นหลังเลิกงาน เมื่อร่างกายเผาผลาญไม่เต็มที่ พลังงานที่เหลือจึงถูกเก็บสะสมเป็นไขมันเพิ่มอีก จนทำให้ไม่รู้สึกหิวในตอนเช้า ลักษณะนี้เกิดซ้ำเรื่อยๆ จนกลายเป็นต้นเหตุของโรคอ้วนโดยไม่รู้ตัว

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก –ด่วน!การบินไทยเปิดลงทะเบียนถกแก้แผนฟื้นฟู3ฉบับ29พ.ย.67

 

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า การบินไทย ได้เปิดทางเลือกการลงทะเบียนประชุมเจ้าหนี้และลงมติล่วงหน้า ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดนัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการทั้ง 3 ฉบับ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) หากเจ้าหนี้เคยลงทะเบียนไว้แล้ว ไม่ต้องลงใหม่ ระบบจะส่งลิงก์เพื่อเข้าร่วมประชุมอีกครั้ง ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป 

ส่วน “เจ้าหนี้ไม่สะดวกเข้าร่วมประชุม” ในวันและเวลาดังกล่าว การบินไทยเปิดให้ลงมติล่วงหน้าโดยวิธี “กรอกแบบฟอร์มคำร้อง” ขอลงมติล่วงหน้า ส่งไปรษณีย์มายังกองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ชั้น 8 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หรือส่งคำร้องขอลงมติล่วงหน้าในแบบฟอร์มไปที่ Email: business@led.mail.go.th

หรือกรณีเจ้าหนี้ไม่สะดวกหรือมีข้อขัดข้องในการลงทะเบียนหรือลงมติล่วงหน้าตามวิธีข้างต้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดพื้นที่และเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกไว้รองรับที่อาคาร 1 ชั้น 1 สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดี โดยเจ้าหนี้สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมเจ้าหนี้ทุกวัน เริ่มวันนี้ 14-28 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00-17.00 น. หากความประสงค์ลงมติล่วงหน้าทำได้ทุกวัน ตั้งแต่ 14-21 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00-17.00 น. และวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 น.- 12.00 น.

โดยเจ้าหนี้สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการของบริษัท โทร.0-2140-2600 ระหว่าง 09.00-17.00 น. ทุกวัน ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันประชุมศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567

สำหรับ “การยื่นคำร้องขอลงมติล่วงหน้า” ทางเจ้าหนี้ต้องแนบเอกสารยืนยันตัวตน ดังนี้

“บุคคลธรรมดา” ต้องแนบ สำเนาบัตรประชาชน ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมขีดปิดทึบข้อมูลศาสนาและกรุ๊ปเลือดและลงนามกำกับ จำนวน 1 ชุด

“นิติบุคคล” ต้องแนบ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ซึ่งลงนามแทนนิติบุคคลดังกล่าวในคำร้องขอลงมติล่วงหน้า ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมขีดปิดทึบข้อมูลศาสนาและกรุ๊ปเลือด และลงนามกำกับ จำนวน 1 ชุด

 

ข่าวที่สอง -DUSITผนึกกองทุนTDFขยายลงทุนโรงแรมทั่วซาอุดิอาระเบีย

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้นำด้านโรงแรมและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MoU) กับกองทุนพัฒนาการท่องเที่ยว (TDF : Tourism Development Fund ) องค์กรที่สนับสนุนภาคการท่องเที่ยวประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อกำหนดกรอบเบื้องต้นเพื่อพัฒนาโครงการด้านการบริการเพื่อเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว

@DUSITควง TDFกองทุนท่องเที่ยวซาอุฯขยายการลงทุน

ดุสิต อินเตอร์ เนชั่นแนล และ TDF ได้ใช้การเข้างาน World Travel Market 2024 กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของดุสิตพร้อมจะขยายธุรกิจระดับนานาชาติอย่างยั่งยืนในตลาดสำคัญของโลก ส่วน TDF มุ่งเน้นส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาโรงแรมและรีสอร์ทสุดหรูทั่วซาอุดิอาระเบีย   

สถานการณ์ท่องเที่ยวครึ่งปีแรก 2567  ซาอุดิอาระเบียสร้างรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติมูลค่ารวมกว่า 92,600 ล้านริยาด เพิ่มขึ้น 8.2% เปรียบเทียบจากช่วงเดียวกันกับปี 2566 สูงกว่าเป้าหมายประมาณ 41,600 ล้านริยาด การใช้จ่ายเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากซาอุดิอาระเบียเป็นผู้นำกลุ่มประเทศ G20

อ้างอิงจากองค์การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ (UN Tourism) ระบุข้อมูลตลอด 7 เดือนแรกปี 2567 ซาอุดิอาระเบียมีตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตสูงกว่าปีปกติ 2562 ทางด้าน “จำนวนนักท่องเที่ยว” ฟื้นตัวกลับมาได้แล้ว 73% ส่วน “รายได้ท่องเที่ยว” เพิ่มขึ้น 207%

 

สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวแห่งชาติและกรอบวิสัยทัศน์ของซาอุดีอาระเบียปี 2573 (ค.ศ.2030) ซึ่งทาง TDF มุ่งหวังจะกระจายความเสี่ยงภาคการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียด้วยการสนับสนุนโครงการที่มีผลกระทบสูง เน้นแผนพัฒนาอย่างยั่งยืนและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก

ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กับ TDF ร่วมลงนามครั้งนี้ภายใต้บันทึกความเข้าใจมีรายละเอียดระบุจะผนึกกันสร้างโอกาสพัฒนา “โรงแรมชั้นนำ” โดยจะใช้ประโยชน์ของดุสิตอินเตอร์ซึ่งเป็นผู้นำความเชี่ยวชาญด้านการบริการและพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ที่หลากหลายมีมายาวนาน 75 ปี ตั้งแต่ “โรงแรมไลฟ์สไตล์” ไปจนถึง “วิลล่า” ให้เช่าสุดพิเศษ ทั้ง 2 บริษัทมุ่งมั่นจะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้ผู้ใช้บริการ กับสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้เจ้าของโรงแรม นักลงทุน และชุมชนโดยรวม

นางศุภจี กล่าวว่า ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการนำแบรนด์โรงแรมอันเป็นเอกลักษณ์ผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับภูมิทัศน์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซาอุดีอาระเบียเป็นเป้าหมายหลักของดุสิตที่จะการเติบโต ร่วมกับ TDF จะสร้างโอกาสอันล้ำค่าเชื่อมต่อการลงทุนที่มีศักยภาพสูงทั่วทั้งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย มุ่งหวังจะมีส่วนสนับสนุนกลยุทธ์การท่องเที่ยวแห่งชาติซาอุดีอาระเบียและมอบประสบการณ์โรงแรมมอบคุณค่าที่ยั่งยืนกับทุกฝ่าย

ขณะนี้พอร์ตโฟลิโอของดุสิตในตะวันออกกลางมีโรงแรม 8 แห่ง เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น ดุสิตธานี (หรูหรา) ดุสิตดีทู (ไลฟ์สไตล์/ระดับกลาง) ดุสิตปริ๊นเซส (ระดับกลาง) ดุสิตสวีท (ระดับหรูหรา/พักระยะยาว) และ อาศัย โฮเทลส์  (แบรนด์ไลฟ์สไตล์เข้าถึงได้) เมื่อเร็ว ๆ นี้ดุสิตได้เปิดเพิ่มอีก 2 แบรนด์ ได้แก่ เทวารัณย์ -ดุสิต รีสอร์ต ชูบริการสปาเพื่อสุขภาพระดับหรูหรา และ ดุสิต คอลเลคชั่น แบรนด์หรูหราพิเศษ

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง