วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568

เปิดใจ ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ซีอีโอ คิง เพาเวอร์ รุกใหม่ 3ทาง ฉลอง36ปี-เพิ่มรายได้-ลงทุนต่างประเทศ



เจาะลึก!!ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ซีอีโอคิงเพาเวอร์รุก 3 ทาง

ฉลองเดือนเกิดแบรนด์36ปี-ปรับโครงสร้างรายได้-ขยายลงทุน

ลุยการค้าต่างประเทศใน“จีน + AVOLTA”เครือข่ายดิวตี้ฟรีโลก

ช้อปคิงเพาเวอร์รางน้ำ1หมื่นได้ลด 4,000 บาท พร้อมโปรเพียบ

คิงเพาเวอร์ออนไลน์ช้อปต.ค.นี้แจกพิเศษตั๋วบินEVAแอร์ทั่วโลก

เฮ!!POWER PASSใช้CARATโอนแลกไมล์ROPบินไทยได้แล้ว

ททท.ชวนอินเดียฉลองดิวาลิในไทย16-31ต.ค.โกย 650 ล้าน

บางจากลุยศึกษาe-fuelsโมเดลญี่ปุ่น-ย้ำกลยุทธ์Bangchak100x

สุขที่เที่ยว“บ้านทุ่งเพลUnseenGreenRouteกลางผืนป่าจันทบุรี

5 สาเหตุยอดฮิตอาการนอนแล้วปวดหลังกับ 6 วิธีปรับสุขภาพ

ททท.จาการ์ตา-อินโดฯแอร์เอเชียเปิดบิน“สุราบายา-กรุงเทพ”

AOTนำองค์กร+4สนามบินคว้ารางวัลความปลอดภัยชีวอนามัย

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก  #บ้านทุ่งเพลจันทบุรี

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/17NmRGkcCa/

ช่วงที่ 1 !! สัมภาษณ์ ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปลุกพลังการค้า การลงทุน ดิวตี้ฟรีคนไทยในประเทศและเวทีโลกครั้งใหม่ รุกใหญ่ 3 โครงการ 1.“ฉลอง 36 ปี เดือนเกิดต.ค.68” กระหน่ำ 3 กิจกรรมแห่งปี “เปิด POWER PASS” ร่วมกับ 120 แบรน์ สมาชิกรับส่วนลดคุ้ม 40% ขยายฐานสมาชิกต่างชาติ 4หมื่นราย “เปิดตัวบัตร CardX King Power Platinum Mastercard จัดใหญ่ KING POWER 36th ANNIVERSARY DELIGHTS &SURPRISES17-19 ต.ค.ที่รางน้ำ ลุ้นรับรถหรู Lexus และของรางวัลมูลค่ารวม 3.6 ล้าน  2.“เพิ่มโครงสร้างรายได้ใหม่ 3 ส่วน” ดิวตี้ฟรีในเมือง สนามบิน ต่างประเทศ 3.“ลุยลงทุนต่างประเทศ” เริ่มแล้วที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ผู่ตง 2 ปีหน้าจ่อร่วมประมูลดิวตี้ฟรีในเทอร์มินัล3 ล่าสุดผนึก AVOLTA จับมือพันธมิตร 10 ดิวตี้ฟรีโลก ลุยขยายเครือข่ายขานรับตลาดยุคใหม่

 

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้วางทิศทางพัฒนาธุรกิจร้านค้าปลอดอากร (duty free) กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ก้าวสู่เป้าหมายใหม่ เริ่มตั้งแต่เดือนเกิดของคิง เพาเวอร์ ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป เดินหน้าทำให้ปรากฎเป็นรูปธรรมชัดเจน เพื่อสร้างธุรกิจของคนไทยในเวทีโลกมีความแข็งแกร่ง พร้อมจะช่วยประเทศในมิติเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ภายในประเทศ และต่างประเทศ โดยพร้อมขับเคลื่อนใหม่ 3 โครงการ  ประกอบด้วย

 


โครงการที่ 1 เฉลิมฉลอง 36 ปีเดือนเกิดกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ตุลาคม 2568 มุ่งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันระดับสากล ขับเคลื่อนด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่

กิจกรรมที่ 1 เปิดตัวใหม่บัตร “POWER PASS” ที่จะยกระดับประสบการณ์แบบไร้รอยต่อร่วมกับพันธมิตรชั้นนำกว่า 120 แบรนด์ มอบสิทธิพิเศษให้นักเดินทางตอกย้ำแนวคิด “The Power of Possibilities : พลังแห่งความเป็นไปได้” สมัครฟรี บัตรไม่มีวันหมดอายุ เชื่อมโยงทุกแบรนด์ในเครือคิง เพาเวอร์ ทั้งคิง เพาเวอร์ มหานคร โรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ และรับส่วนลดสูงสุด 20 %  พร้อมกับเปิดตัว “เจฟ ซาเตอร์” กับ “อาโป ณัฐวิญญ์” พรีเซ็นเตอร์ปลุกกระแสนักช้อปรุ่นใหม่ ตั้งเป้าปี 2568 ขยายฐานสมาชิกเติบโตอีก 17% จากปัจจุบันมีสมาชิกต่างชาติทั้ง จีน อินเดีย ไต้หวัน แล้วกว่า 40,000 คน

กิจกรรมที่ 2 เปิดตัว CardX King Power Platinum Mastercard ร่วมกับบัตรเครดิต CardX มอบส่วนลด 20 % เจาะกลุ่มที่ต้องการค้นพบสิ่งใหม่ในชีวิต

กิจกรรที่ 3 จัด KING POWER 36th ANNIVERSARY DELIGHTS &SURPRISES :More Power, More PossibilitiesWith POWER PASS : พลังช้อปเหนือขีดจำกัด สู่ทุกความเป็นไปได้” เป็นงานยิ่งใหญ่แห่งปีด้วยกิจกรรมและสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าคนสำคัญและทุกคนได้ร่วมสนุกแบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างจุใจ ระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาค 2568 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พบกับ 3 ไฮไลต์ ดังนี้

ไฮไลต์ที่ 1 ร่วมเซอร์ไพรส์ OF THE YEAR วันที่ 17 ตุลาคม 2568 เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์พร้อมโชว์มอบความสุขจาก เจฟ ซาเตอร์ กับ อาโป ณัฐวิญญ์ แล้วลุ้นเป็นผู้โชคดี 50 คน ร่วม Exclusive Chill &Talk กับอาโป ชมบูธกิจกรรมของแบรนด์ชั้นนำอย่าง CardX การบินไทย AIS, Grab, โรงพยาบาลเครือ BDMS, Trip.com ให้สมาชิก POWER PASS ได้รับสิทธิพิเศษมากมาย วันที่ 18 ตุลาคม สนุกกับมินิคอนเสิร์ตปาล์มมี่ วันที่ 19 ตุลาคม จัด The Power of Legends สมาชิกใหมช้อปครบ 40,000 บาท /ใบเสร็จ หรือสมาชิกปัจจุบันช้อปครบ 50,000 บาท รับฟรี 1 สิทธิ์/คน เพื่อชมคอนเสิร์ตเอ็กซ์คลูซีฟแห่งปีจากวงนูโว และ เจ เจตริน วรรธนะสิน

 

ไฮไลต์ที่ 2 โปรโมชั่น ที่สุดแห่งปี OF THE YEAR! กับ 2 กิจกรรม 1.ทุกการช้อป 5,000 บาท ลุ้นเป็นเจ้าของรถหรู LEXUS รุ่นNX50h Luxury และรางวัลมากมายมูลค่ารวมกว่า 3.6 ล้านบาท 2.ซื้อกิฟการ์ดตามเงื่อนไขรับฟรีแคชการ์ดมูลค่าสูงสุด 4,000 บาท สมัครสมาชิก POWER PASS รับ E-Purse ในบัญชี 100 บาท กับรับเพิ่ม “เซ็ตคูปองลด 40%” นำไปใช้ได้ทุกสาขา และยิ่งช้อปมากได้ “กะรัต” สุดคุ้มจากคิง เพาเวอร์ และพันธมิตร

ไฮไลต์ที่ 3 สินค้า เอ็กซ์คลูซีฟ ที่ คิงเพาเวอร์ เท่านั้น ตื่นตากับแบรนด์หรูระดับโลก ที่จะเปิดตัวคอเลกชั่นพิเศษ เอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ เพื่อฉลอง 36 ปี ที่ คิง เพาเวอร์ แห่งเดียว


โครงการที่ 2 ปรับแผนพัฒนาธุรกิจใหม่ เพิ่มโครงสร้างรายได้เป็น 3 ส่วน เพิ่มเครือข่ายร้านสาขาและออนไลน์ในต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต โดยโครงสร้างรายได้ดิวตี้ฟรีของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ปัจจุบันมาจากเพียง 2 ส่วน เท่า ๆ กัน 50 : 50 ประกอบด้วย

ส่วนที่ 1 ร้านค้าปลอดอากรในเมือง (Dutyfree Downtown) เดิมเคยได้ 50 % หลังสถานการณ์โควิดจนถึงปัจจุบันรายได้หลักที่เคยมาจากนักท่องเที่ยวจีนซึ่งมาเที่ยวเมืองไทยน้อยจึงหดตัวลงเหลือ 10-15 % บวกกับเดือนกันยายน 2568 ปิดร้านดิวตี้ฟรีชั่วคราวอีก 3 สาขา คือ มหานคร ศรีวารี และพัทยา เพื่อจะแปลงโฉมสู่ธุรกิจใหม่อีกครั้ง ผสมผสานระหว่างดิวตี้ฟรีกับกิจกรรมสร้างแรงจูงใจดึงดูดให้คนเข้าร่วมโดยไม่ต้องพึ่งพากรุ๊ปทัวร์ต่างประเทศ


ส่วนที่ 2 ร้านค้าปลอดอากรสนามบิน (Dutyfree Airports) ได้จัดทำแผนไว้ 2 ทาง แบบ A และ B เพื่อรองรับสถานการณ์ หลังคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” ประชุมช่วง 22 ตุลาคม 2568 เพื่อประกาศผลการศึกษา “แนวทางแก้ปัญหาการดำเนินกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในท่าอากาศยาน” ที่ ทอท. ดูแล แล้วได้จ้างที่ปรึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ศึกษาทางเลือกด้านกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การเงิน และบริหารธุรกิจ สรุปแนวทางใหม่ธุรกิจดิวตี้ฟรี 5 สนามบิน ทั้งสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่

 


โครงการที่ 3 ขยายการลงทุนใหม่ในต่างประเทศ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นำร่องเปิดแล้ว “ทวีปเอเชีย” คือ “บริษัท เซี่ยงไฮ้ คิง เพาเวอร์ คอมเมิร์ซ จำกัด” เมื่อ 9 กันยายน 2568 ในท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง สาธารณรัฐประชาชนจีน หนึ่งในสนามบินใหญ่ที่สุดของโลก บุกเบิก 2 ธุรกิจแรก ได้แก่ 1.TAI HAI TAOร้านขนมไทยและอาหารสำเร็จรูปคุณภาพ 2.SOMBAT THAIร้านอาหารไทยแท้ที่คัดสรรวัตถุดิบจากเมืองไทย

สนใจจะขยายดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง ซึ่งมีแผนจะขยายอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ในระยะอันใกล้อีก 2 ปีข้างหน้า การลงทุนใหม่จะทำภายใต้โจทย์ คิง เพาเวอร์ เตรียมตัวคู่ขนานเตรียมความพร้อมและทิศทางเศรษฐกิจ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภค กับเทรนด์สินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการคนยุคใหม่


ขณะเดียวกันการลงทุนในจีนต้องร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่พัฒนา “ช่องทางการขาย” เทรนด์ใหม่ผ่าน 1.เครือข่ายดิจิทัล ออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีคู่ค้าช่วยกระจายสินค้าขายผ่านออนไลน์อยู่บ้างแล้ว 2.ขยายฐานกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ KOLs 

“การลงทุนทวีปอื่นๆ” จับมือกับ AVOLTA เครือข่ายดิวตี้ฟรีรายใหญ่ของโลก ล่าสุดคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เดินทางไปประกาศความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรกัน ถือเป็นครั้งแรกที่มี “ดิวตี้ฟรีทั่วโลก” กว่า 10 แห่ง ซึ่งควรจะเป็นคู่แข่งกันกลับมาเปิดกลยุทธ์เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน เบื้องต้นจะนำบัตร POWER PASS คิงเพาเวอร์ เข้าไปร่วมขยายฐานให้สิทธิพิเศษแก่สมาชิก ส่วนขั้นตอนการลงทุนด้านอื่น ๆคงต้องรอศึกษาตลาดอีกสักระยะ เช่น การเปิดคลังสินค้า หรือตั้งบริษัท อาจจะแตกต่างจากในเซี่ยงไฮ้ที่ คิง เพาเวอร์ มีประสบการณ์ตลาดมายาวนานมาก่อนแล้ว

ดร.นิตินัย กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารธุรกิจเอกชนขอนำเสนอรัฐบาลเร่งพัฒนา “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเมืองไทย” มุ่งขยาย “พื้นที่การท่องเที่ยวใหม่” อย่างจริงจัง เพราะแหล่งท่องเที่ยวปัจจุบันถึงจุดอิ่มตัว แล้วก็ขอให้คำนึงผู้ประกอบการที่ลงทุนควรจะได้ผลตอบแทนที่ดีทำให้ธุรกิจอยู่ได้ในระยะยาวด้วย เพื่อจูงใจให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันผนึกกำลังกันเปิดตลาดและจุดขายใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันกับประเทศอื่น  ๆ เพราะจากประสบการณ์ในการเดินทางไปจีนและเห็นการคลื่นการลงทุนท่องเที่ยวหลั่งไหลไปเวียดนามก็ไม่ได้มีแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นแตกต่างจากไทย เพียงแต่คนอาจจะยังไม่เคยไปจึงทำให้ได้เปรียบไทยตรงที่มีคนมาซ้ำ ๆ ในพื้นที่เดิม แต่ยังไม่ได้ลองเพิ่มประสบการณ์ไปยังแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ซึ่งยังมีอยู่อีกมากมาย จึงเห็นด้วยที่รัฐบาลประกาศเดินหน้ายกระดับการท่องเที่ยวเมืองรองมากขึ้น

สำหรับ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นธุรกิจของคนไทยที่เป็นตัวแทนนำชื่อเสียงประเทศไทยไปแข่งขันในเวทีโลก เปรียบเทียบก็เหมือนกับเป็นตัวแทนนักกีฬาไทยไปแข่งขันในโอลิมปิกส์  จึงขอฝากให้ทุกฝ่ายร่วมให้กำลังใจธุรกิจคนไทยทั่วโลก แล้วในฐานะผู้บริหารคิง เพาเวอร์ ก็ต้องขอขอบคุณคนไทยที่ให้การสนับสนุนดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ ร้านค้าปลีกเพื่อการเดินทางและท่องเที่ยวได้มีโอกาสเติบโตมาจนถึงปัจจุบนนี้

ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์รางน้ำช้อปหมื่นได้ลด 4,000 บาทพร้อมโปรเพียบ

 

เมื่อมีบินช่วงวันหยุดยาวนี้ พุ่งตัวไปช้อปด่วน ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ! ช้อป 10,000 ได้ลดถึง 4,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ ดังนี้ 

1. ช้อปแฟชั่นไอเทม นาฬิกา และเครื่องประดับ  แนะนำซื้อ CASH CARD 10,000 บาท ก่อนช้อป

 รับเพิ่ม! GIFT CARD 4,000 บาท


2.ช้อปครบทุก 5,000 บาท (สุทธิ) รับสิทธิ์สูงสุด x 3 ลุ้นรับรถยนต์ LEXUS รุ่น NX 350h Luxury Gift Voucher, CARAT REWARDS และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 3.6 ล้านบาท (ใบอนุญาตเลขที่ 1492/2568)


3.ช้อปครบเข้าชมฟรี!  Exclusive Concert The Power of Legend พบศิลปินในตำนาน วง NUVO และ เจ เจตริน 

รับฟรี! บัตรเข้าชมคอนเสิร์ต จำนวน 1 ที่นั่ง เมื่อสมาชิก POWER PASS ช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) (จำกัด 1 สิทธิ์ /คน/วัน สมาชิกใหม่ POWER PASS ช้อปภายในวันที่สมัครครบ 40,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับ1 สิทธิ์ /คน/วัน ตลอดรายการ ตั้งแต่วันนี้ - 16 ตุลาคม 2568 ดูเพิ่มที่ https://kp.group/Whu4hl

 

ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์ออนไลน์ช้อปต.ค.นี้แจกพิเศษตั๋วบินEVAทั่วโลก

 

คิง เพาเวอร์ จัดเต็ม “Online Exclusive” ช้อปปิ้งสุดคุ้มค่า พร้อมรับของแถม Special Gift ฟรี! เฉพาะลูกค้าคนโปรดของเราเท่านั้น รีบมาช้อปเลย! จากคิง เพาเวอร์ ออนไลน์! เมื่อช้อปตามเงื่อนไข วันนี้ -31 ตุลาคม 2568 รับพิเศษ ดังนี้

 

1.TOP SPENDER OF OCTOBER 2025 รับฟรี ! ตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด อีวีเอแอร์(ไต้หวัน) ไป-กลับ จาก 1 รางวัล 1 ที่นั่ง บินจากกรุงเทพฯ เลือกไปยังปลายทางใดก็ได้ในเครือข่ายสายการบินดังกล่าว

 

2.ลูกค้าที่มียอดช้อปออนไลน์สะสมสูงสุดตลอดทั้งเดือนตุลาคม 2568

 

รับฟรี ! ทุกออร์เดอร์ รับส่วนลด 15%  เมื่อซื้อบัตรเข้าชม Mahanakhon SkyWalk และ SkyVerse แจกส่วนลด วันนี้ - 30 พฤศจิกายน 2568 แล้วสามารถนำไปใช้ได้จนถึง 20 ธันวาคม 2568

 

รับฟรี ! ทุกออร์เดอร์ รับ ยาดม PASTEL CREATIVE (คละกลิ่น ไม่สามารถเลือกได้)​ และทองม้วน คิง เพาเวอร์ โรลล์ รสต้นตำรับ ขนาด 15 กรัม ของแถมมีจำนวนจำกัด แจกวันนี้- 31 ตุลาคม 2568

 

ข่าวที่ 3-เฮ!!POWER PASSใช้CARATโอนแลกไมล์ROPบินไทยได้แล้ว

 

สมาชิก POWER PASS โอน CARAT แลก ไมล์ ได้แล้ววันนี้! พร้อมฉลองเดือนเกิด คิง เพาเวอร์ รับเรทแลกไมล์พิเศษตลอดเดือนตุลาคม 2568 ตามข้อเสนอพิเศษให้ “สมาชิก “ รอยัล ออร์คิด พลัส :ROP ” ของการบินไทย แลก CARAT คิง เพาเวอร์ เป็น “รอยัล ออร์คิด พลัส ไมล์”  ได้แล้ว ทางเว็บไซต์ power.kingpower.com ตั้งแต่วันนี้ - 1 กันยายน 2570

 

 

พิเศษ! ฉลองเดือนเกิด คิง เพาเวอร์ มอบเรทแลกไมล์พิเศษให้สมาชิก POWER PASS แลกฟินได้มากกว่า! ตลอดเดือนตุลาคม 2568 ดูเพิ่มทาง : https://kp.group/kLgEn7

 

ยังไม่เป็นสมาชิก POWER PASS สมัครฟรี! สะสม CARAT ได้ทันที! พร้อมรับสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษอีกมากมายจาก POWER PASS คลิกสมัครได้ทันที

 

ข่าวที่ 4-ททท.ชวนอินเดียฉลองดิวาลิในไทย16-31ต.ค.โกย 650 ล้าน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า อินเดียเตรียมต้อนรับอินเดียที่พร้อมเดินทางมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลิ (Diwali) งานใหญ่สุดนอกประเทศในเมืองไทยกับงาน “Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025” ระหว่าง 16–31 ตุลาคม 2568 ตลอดการจัดงานคาดจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 100,000 คน ทั่วประเทศสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวเทศกาลดิวาลี กว่า 650 ล้านบาท

 

ตลอดเทศกาลได้เนรมิตความสุขสนุกสนานสไตล์แดนภารตะด้วยแนวคิด “Light Unites Us” ใช้แสงเป็นสัญลักษณ์ของพลังชีวิต ความหวัง ขจัดความมืดมน พร้อมถ่ายทอดมิตรภาพอันงดงามของ ไทย–อินเดีย ชวนผู้คนดื่มด่ำมนต์เสน่ห์แห่งแสงผ่านการประดับไฟสุดวิจิตร การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย–อินเดีย ขบวนแห่สไตล์บอลลีวูด และมินิคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง พร้อมมอบสิทธิประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวกับกิจกรรม Amazing Thailand Grand Diwali Privilege 2025 ที่จะดึงดูดอินเดียเที่ยวเมืองไทยปี 2568 ได้ตามเป้า 2.5 ล้านคน

         

ททท.ขอร่วมเฉลิมฉลองแสงแห่งศรัทธาครั้งสำคัญไปพร้อมชาวอินเดียตลอด “เทศกาลแห่งแสงสว่าง : Diwali” หนึ่งในเทศกาลสำคัญระดับโลก เพื่อเฉลิมฉลองการขจัดความมืดสู่ความสว่าง ที่นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาตินิยมเป็นจำนวนมาก ปีนี้ขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในชื่อ Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025” 2 พื้นที่หลัก คือ “คลองโอ่งอ่างและพาหุรัด” ซึ่งเป็นจุดเชื่อมสำคัญด้านการทูตและการค้า  พร้อมส่งเสริมเป็นแลนด์มาร์ควัฒนธรรมไทย–อินเดียแห่งแรกของไทย ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางอีเวนต์ระดับโลก

 

งาน“Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025 จัดภายใต้แนวคิด “Light Unites Us – แสงเชื่อมสัมพันธ์” โดยใช้ “แสง” เป็นสัญลักษณ์ของพลังชีวิต ความหวัง และการเฉลิมฉลอง พร้อมถ่ายทอดมิตรภาพระหว่างสองวัฒนธรรม ไทย–อินเดีย ผ่านงานศิลป์ แสง สี เทคโนโลยีสื่อผสมที่ทันสมัย ไฮไลต์จัดงานแบ่งเป็น 2 พื้นที่หลัก ได้แก่

 

พื้นที่ถนนพาหุรัด วันที่ 16–31 ตุลาคม 2568 จะเนรมิตถนนทั้งประดับไฟสว่างไสววิจิตรด้วยเทคโนโลยีสื่อผสมสุดล้ำ ตั้งแต่ 16.00–22.00 น.ไฮไลต์วันที่ 18-20 ตุลาคม  ชมการแสดงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย–อินเดีย วันละ 4 รอบ เช่น ระบำโคมอัจจะกัป ระบำโคมบัว นาฏยศิลป์ร่วมสมัย การแสดงผสมผสานระหว่างนาฏศิลป์คลาสสิก (Bharatanatyam) และนาฏศิลป์พื้นบ้าน (Bihu – อัสสัม) India Contemporary dance and Bollywood dance 

 

พิเศษสุด 19 ตุลาคม พิธีเปิดงานและพบกับขบวน “Happiness Troop” จะสร้างความสุขและสีสันสุดคึกคัก ทั้งขบวนแห่พระแม่ลักษมี พระพิฆเนศ และขบวนสไตล์ Bollywood ก่อนจะสนุกต่อเนื่องกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ทั้ง จ๊ะ นงผณี, Musketeers, ปราง ปรางทิพย์, Mirrr, มีนตรา อินทิรา และ ZANI จะมามอบเสียงเพลงและพลังแห่งความสุขให้ตลอดค่ำคืน แล้วยังจะได้ชมผลงานศิลปะบนกำแพง และศิลปะบนพื้น ในพื้นที่พาหุรัดและคลองโอ่งอ่าง 8 ตำแหน่ง

 

โดยมี บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุน แล้วยังมี กิจกรรมสาธิตวัฒนธรรมไทย-อินเดีย เช่น สาธิตการเพ้นท์เฮนน่า เพ้นท์โคมไฟ ร้อยลูกปัด ทำพัดสาน การแสดงเชิงวัฒนธรรมบอลลีวูด การออกร้านขายอาหารและสินค้าสไตล์อินเดีย

 

ผู้ร่วมงาน แนะนำให้ร่วม “บูชาพระลักษมีและพระพิฆคเณศ” ปลุกพลังศรัทธา ต้อนรับแสงใหมในชีวิตอย่างงดงาม เสริมความสำเร็จและโชคลาภ

 

พื้นที่ 2 คลองโอ่งอ่าง จะแต่งแต้มแสงไฟหลากสีฉายสะท้อนผืนน้ำงดงาม ด้วยศิลปะรังโกลี และตะเกียง Diyas นับร้อยพร้อมจุดขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ต้อนรับแสงใหม่ในชีวิต ตั้งแต่ 16-31 ตุลาคม 16.00-22.00 น. ในวันที่ 16-20 ตุลาคม 2568 จะได้เพลิดเพลินกับการแสดงเชิงวัฒนธรรมบนเวทีย่อยริมคลอง

 

 

โดยมีพันธมิตรร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองและส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลดีวาลีพื้นที่อื่น ๆ ด้วยเช่นกันคือ  ไอคอนสยาม และห้างสรรพสินค้าในเครือกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา

 

แล้ว ททท. พร้อมมอบประสบการณ์เหนือระดับในงาน Amazing Thailand Grand Diwali Privilege 2025” ส่งต่อความสุขให้นักท่องเที่ยวให้คนไทย อินเดีย และต่างชาติ รับเทียนที่ระลึก และสิทธิพิเศษส่วนลดการใช้บริการด้านการท่องเที่ยวจากเครือข่ายพันธมิตรอย่าง   สยามพิวรรธน์ เซ็นทรัลกรุ๊ป คิง เพาเวอร์ บิ๊กซี วัน แบงค็อก Erb, ซื่อสัตย์ iSnack, Jula’s herb และอื่น ๆ  

 

“เปิดลงทะเบียนรับสิทธิประโยชน์” ภายในงาน Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025 วันที่ 16-18 ตุลาคม 2568 ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และภายในงาน Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025 ที่คลองโอ่งอ่าง วันที่ 16-20 ตุลาคม 2568   และพาหุรัด วันที่ 18-20 ตุลาคม 2568 มาร่วเติมแสงไฟแห่งชีวิตตลอดเทศกาลดีวาลี ที่เต็มไปด้วยแสงแห่งความสุข ความโชคดี ประสบการณ์เที่ยวเมืองไทยอันน่าประทับใจไม่รู้ลืม

 

ตั้งแต่ 1 มกราคม – 7 ตุลาคม 2568 อินเดียมาเที่ยวเมืองไทยแล้วกว่า 1,821,962 คน ทำสถิติสูงสุดติด 1 ใน 3 ของต่างชาติเที่ยวไทย โดยมีปัจจัยหนุนได้แก่ 1.แหล่งท่องเที่ยวตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชาวอินเดียได้ดี 2.มีเที่ยวบินตรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3.มาตรการยกเว้นวีซ่า 60 วัน เดินทางสะดวกมากขึ้น

 

อินเดียส่วนใหญ่นิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) ใช้จ่ายเฉลี่ย 36,704 บาท/คน/ทริป มีวันพักเฉลี่ย 6.60 คืน  เส้นทางยอดนิยมคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันเริ่มขยายไปยังหมู่เกาะต่าง ๆ  ได้แก่ เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน

 

ขณะนี้ ททท. เดินหน้าขยายตลาดต่อเนื่อง มุ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากหลายกลุ่ม เช่น ครอบครัว อินเซ็นทีฟ แต่งงานและเฉลิมฉลอง กลุ่มผู้หญิง กลุ่มผู้สูงวัย กลุ่มมิลเลนเนียล กลุ่มท่องเทียวหรูหรา กลุ่มกอล์ฟ

 

ข่าวที่ 5-บางจากลุยศึกษา e-fuels โมเดลญี่ปุ่น-ย้ำกลยุทธ์Bangchak 100x

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เร่งกลยุทธ์ “Accelerating Bangchak 100x: Pivoting toward Energy Security and Sustainability” ให้สอดคล้องปี 2571 ตามที่ได้ประกาศไปเมื่อเร็ว ๆ  4 แกนยุทธศาสตร์ 1.ตั้งเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายทำ EBITDA เติบโตเพิ่มขึ้น 100% พร้อมเสริมสร้างศักยภาพองค์กรและตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน 2. การขับเคลื่อนสู่ความมั่นคงทางพลังงานและความยั่งยืน 3.การยกระดับศักยภาพธุรกิจผ่านการปรับโครงสร้าง 4.สร้างคุณค่าแก่ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี เพื่อเสริมความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการเติบโตระยะยาว

 

ทางคณะผู้บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก นำโดย “นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แสดงให้เห็นถึงการเร่งเครื่องกลยุทธ์ดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อ 29 กันยายน 2568 ได้ไปเยี่ยมชมศูนย์วิจัยเทคนิคกลางที่เมืองโยโกฮาม่า ของ ENEOS Holdings  ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่สุดของญี่ปุ่น โดยมี ดร. ยูอิชิโร ฟูจิยาม่า Chief Technology Officer ของ ENEOS Holdings คณะผู้บริหารและทีมงานร่วมต้อนรับ   กิจกรรมนี้บางจากมุ่งเสริมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี สร้างความแข็งแกร่งก้าวสู่ความมั่นคงทางพลังงาน ความยั่งยืน และการพัฒนาพลังงานแห่งอนาคต

 

“ศูนย์วิจัยเทคนิคกลางของ ENEOS ได้จัดตั้งโรงงานสาธิตผลิต e-Fuels หรือเชื้อเพลิงสังเคราะห์มาตั้งแต่ปี 2567 โดยใช้กระบวนการแปรรูป “ไฮโดรเจน” แยกโมเลกุลน้ำ และดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ นำไปผ่านกระบวนการผลิตเป็น “ไฮโดรคาร์บอนสังเคราะห์” สามารถใช้แทนน้ำมันจากฟอสซิลได้ทันที (drop-in fuels) โดยไม่ต้องเปลี่ยนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน หรือระบบนิเวศน์ใด ๆ ช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงดั้งเดิมและเป็นคำตอบเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

 

โรงงานสาธิตนี้มีกำลังผลิตเริ่มต้น 1 บาร์เรลต่อวัน ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้สนับสนุนจากหน่วยงานวิจัยและพัฒนา New Energy and Industrial Technology Development Organization (NEDO) ภายใต้กองทุน Green Innovation Fund โดยนำผลงานไปจัดแสดงแล้วใน “โอซาก้า เอ็กซ์โป 2025 

           

ในยุคที่โลกก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านพลังงาน และมีแนวโน้มใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น แต่ “ไฮโดรคาร์บอน” จะยังมีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกเติบโต โดยเฉพาะเชื้อเพลิงในกลุ่มโมเลกุลสะอาด (Clean Molecules) มีจุดเด่นความหนาแน่นพลังงานสูง การขนส่งสะดวก จัดเก็บง่าย ตอบโจทย์การใช้งานในหลายภาคส่วนของโลกยุคเปลี่ยนผ่าน

 

“แนวโน้มตลาดโลก” ก็สะท้อนภาพนี้ชัดเจน ข้อมูลปัจจุบันปี 2568 อุตสาหกรรม e-Fuels มีมูลค่าประมาณ 11,700 ล้านเหรียญสหรัฐ Fortune Business Insights (2024) คาดภายในปี 2575 จะขยายตัวเกือบ 88,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

           

“นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีรถยนต์กว่า 1,500 ล้านคัน วิ่งอยู่บนท้องถนนทั่วโลก การเปลี่ยนทั้งตัวรถ โครงสร้างพื้นฐาน และระบบนิเวศน์การผลิตรถ ย่อมสิ้นเปลืองมหาศาล ดังนั้น e-Fuels เป็นอีกทางเลือกใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์จากการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) และไฮโดรเจนสะอาด สามารถใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิงปกติได้ทันทีในเครื่องยนต์สันดาป (ICE) โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนใด ๆ บนรถยนต์ (drop-in) หรือระบบนิเวศน์ โครงสร้างพื้นฐาน และไม่เพิ่มภาระการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงเป็นพลังงานหมุนเวียนช่วยเร่งการก้าวสู่อนาคตพลังงานสะอาดหรือ Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม

           

บางจากฯ มีศักยภาพผลิตเชื้อเพลิงสะอาดยุคใหม่จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว ครอบคลุมการเดินทาง การขนส่งทั้ง 1.ทางอากาศด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) 2.ทางบกด้วย Renewable Diesel (HVO) และ 3.ทางน้ำด้วย B24 Marine Biofuels จึงมุ่งให้ความสำคัญกับการติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี e-Fuels อย่างใกล้ชิด ในฐานะพลังงานเชื่อมโลกปัจจุบันกับโลกพลังงานสะอาด เป็นสะพานเปลี่ยนผ่านที่จับต้องได้ และตอกย้ำบทบาทผู้นำพลังงานแห่งอนาคต

           

คณะของบางจากได้เข้าเยี่ยมชม “ไร่ชาเขียวมัตซึดะ เอ็น” (Matsuda-en) จังหวัดชิซุโอกะ แหล่งผลิตมัตฉะคุณภาพสูง ทาง “อินทนิล” แบรนด์เครื่องดื่มภายใต้การบริหารของบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (BCR) ในกลุ่มบริษัทบางจาก ได้นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในเมนูมัตฉะหลากหลายชนิด เพื่อส่งมอบรสชาติและคุณภาพต้นตำรับจากญี่ปุ่นให้ลูกค้า

 

          ช่วงที่ 2 มีเส้นทางเที่ยวใกล้ในภาคตะวันออกมาชวนไปเช็คอินที่ “บ้านทุ่งเพล” เส้นทาง อันซีน กรีน รู้ท พักใจแบบสโลไลฟ์กลางผืนป่าอำเภอมะขาม จันทบุรี แล้วฟัง “5สาเหตุฮ็อต” กับ 6 วิธีแก้อาการนอนแล้วปวดหลัง และข่าวดี ๆ ข่าวแรก “ททท.จาร์กาตาผนึกอินโดนีเซีย”เปิดบินตรงสุราบายา-กรุงเทพฯ ข่าวที่สอง “AOT นำองค์กร&4สนามบิน” คว้ารางวัลดีเด่นด้านความปลอดภัยและชีวอนามัย

 

ท่องเที่ยว –สุขที่เที่ยว“บ้านทุ่งเพลUnseenGreenRouteกลางผืนป่าจันทบุรี

 

เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ไปเช็คอิน “ชุมชนบ้านทุ่งเพล” เส้นทางท่องเที่ยวสีเขียว Green Tourism ในอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี  ปลายฝนต้นหนาวปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี ชวนสายรักษ์โลก ลองเดินทางไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ซึมซับพลังธรรมชาติเสน่ห์แห่งผืนป่า สายน้ำ วิถีชีวิตเรียบง่ายแสนบริสุทธิ์ชาววิถีชุมชนน่ารัก ๆ แห่งนี้

 

บ้านทุ่งเพล” เป็นชุมชนเล็ก ๆ กลางผืนป่าใหญ่ มีสวนผลไม้พื้นถิ่นร่มรื่น สงบเงียบ เหมาะกับผู้แสวงหาประสบการณ์เข้าถึงธรรมชาติและวิถีชีวิตชุมชนเขตปลอดมลพิษ สัมผัสประสบการณ์ Slow Life – Slow Travel ได้เต็มที่

 

ด้วยการ “หยุดฟัง” เสียงน้ำไหลจาก “ต้นน้ำเขาคิชกูฎ” ผ่านเกาะแก่ง ลำธารใส และโขดหิน ความสดชื่นจากอากาศบริสุทธิ์ พร้อมเสียงนกป่า และสายลมที่ขับกล่อมอย่างเป็นธรรมชาติ

 

“บ้านทุ่งเพล” จึงโดดเด่นเป็น “Unseen Green Route” ที่ยังคงความบริสุทธิ์ ปราศจากมลพิษและไร้การเร่ง รีบ  ทำให้ได้ยินเสียงธรรมชาติของ ป่าเขา ลำธาร และสายลมพัดผ่าน เป็นดินแดนแห่งการฮีลใจกายอย่างแท้จริง

 

“เสน่ห์วิถีชีวิต” ชาวทุ่งเพลมีมากกว่าธรรมชาติ นั่นคือ วิถีคนชุมชนที่อยู่กับความเรียบง่ายและยั่งยืนขต่างรู้จักพึ่งพาทรัพยากรท้องถิ่นอย่างรู้คุณค่า ถ่ายทอดภูมิปัญญาเกษตรกรรมผสานเข้ากับการดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว จนกลายเป็น “ต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” ในทุกมิติ

 

“กิจกรรม” ไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวมาถึงชุมชนบ้านทุ่งเพล ต้องห้ามพลาด

“การเดินป่า” ชมความอุดมสมบูรณ์และสัมผัส “ต้นไม้ยักษ์ Unseen” กลางป่าใหญ่

 

แช่น้ำใส” ในลำธารธรรมชาติ

 

“ชิมผลไม้สด” ตามฤดูกาลจากสวนอินทรีย์

 

“ลิ้มรสอาหาร” พื้นบ้านแท้ ๆ จากวัตถุดิบท้องถิ่น

 

“ทำบุญตักบาตรใบไม้” อีกกิจกรรมช่วยลดการใช้พลาสติก พร้อมเรียนรู้แนวทางการเจริญสติ ที่วัดเขาบรรจบ

 

“เลือกซื้อ” ผลิตภัณฑ์ชุมชนรักษ์โลก ของฝากและสินค้าแปรรูปจากเกษตรอินทรีย์

 

นักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียวทุกคน สนใจเดินทางไปสัมผัสชุมชนทุ่งเพล สอบถาม ททท.สำนักงานจันทบุรี โทร. 0 3948 0220

 

สุขภาพ –5 สาเหตุยอดฮิตอาการนอนแล้วปวดหลังกับ 6 วิธีปรับสุขภาพ

อาการ “นอนแล้วปวดหลัง” มักเกิดจาก 5 สาเหตุ ดังนี้

 

1. การนอนผิดท่า ท่านอน ไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดแรงกดทับที่กระดูกสันหลัง จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการนอนแล้วปวดหลัง ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อนอนคว่ำและนอนหงาย  

 

นอนคว่ำจะทำให้ช่วงกลางลำตัว โดยเฉพาะบริเวณท้องส่วนล่างจมลงไปกับที่นอนมากกว่าส่วนอื่น กระดูกสันหลังจะถูกยืดออกในขณะนอนหลับ และมักจะคอหันไปด้านข้างตลอดเวลา ซึ่งไม่ตรงกับแนวกระดูกสันหลัง จึงทำให้เกิดอาการปวดหลังและปวดคอตามมา 

 

นอนหงายก็อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังได้เช่นกัน แม้จะเป็นท่านอนที่ทำให้ช่วยให้กระดูกสันหลังเรียงตัวได้อย่างเหมาะสม แต่หากมีช่องว่างบริเวณหลังส่วนล่างมากเกินไป

 

2. ที่นอนที่ไม่เหมาะสม -ใช้งานเป็นเวลานานแล้วเป็นแอ่งตรงกลาง สปริงที่นอนเสื่อมสภาพ จึงไม่รองรับกับสรีระ แข็งหรือนุ่มจนเกินไป ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนตื่นนอนแล้วมีอาการปวดหลังได้

 

3. อาการบาดเจ็บที่หลัง - เกิดจากกล้ามเนื้อหรือเอ็นยืดตึงมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดจาก 1.การยกของหนัก เคลื่อนไหวผิดท่า การเล่นกีฬาที่ทำให้เกิดการบิดช่วงเอวและหลังส่วนล่างมากเกินไป เช่น เทนนิส กอล์ฟ บาสเกตบอล หากทำต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้ปวดหลังเรื้อรัง และปวดขณะนอนได้

 

4. หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม (Degenerative disc) -อยู่ระหว่างข้อกระดูกสันหลังแต่ละข้อ ทำหน้าที่รับน้ำหนักและลดแรงกระแทกขณะเคลื่อนไหวร่างกาย อาการ “หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมมักพบในผู้สูงอายุ ซึ่งสภาพร่างกายจะเสื่อมไปตามวัย แต่ก็อาจเกิดจากการยกของหนัก การเล่นกีฬา อุบัติเหตุต่าง ๆ ผู้มีน้ำหนักตัวมาก ทำให้เกิดอาการนอนแล้วปวดหลังได้

 

5. ไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia) เป็นภาวะปวดกล้ามเนื้อทั่วร่างกายอย่างเรื้อรัง จึงทำให้เกิดอาการนอนแล้วปวดหลัง ร่วมกับอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ความจำแย่ลง อารมณ์แปรปรวน โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่คาดว่าอาจเป็นผลจากความผิดปกติของสมอง 

 

นอกจาก 5 สาเหตุแล้ว เมื่อนอนแล้วปวดหลังอาจเกิดจากโรคอื่น ๆ ด้วย เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) นิ่วในไต โรคข้ออักเสบ การตั้งครรภ์ และอื่น ๆ

 

6วิธีดูแลรักษาเมื่อเกิดอาการนอนแล้วปวดหลัง สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น

 

1.เปลี่ยนท่านอน  “การนอนตะแคงจะช่วยลดความเสี่ยงปวดหลังได้ โดยอาจใช้หมอนรองระหว่างหัวเข่าทั้งสองข้าง หากมีช่องว่างระหว่างหลังและที่นอน ให้ใช้หมอนอีกใบหนุนไว้ เพื่อบบรเทาอาการปวดหลัง

 

2.เปลี่ยนฟูก โดยเฉพาะฟูกที่ใช้งานมานานกว่า 5 ปี หรือเมื่อฟูกเริ่มเสื่อมสภาพ เลือกหมอนหนุนศีรษะและฟูกรองรับกับสรีระช่วงคอ บ่า และหลัง ได้ดี ไม่สูงเกินไป ไม่นุ่มและแข็งเกินไป

 

3.กายบริหารยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกเช้าด้วย “ท่าโยคะและเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ ระหว่างวัน

 

4.ออกกำลังกายเป็นประจำเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูกและกล้ามเนื้อต่าง ๆ

 

5.หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่หลังเพิ่ม

6.ประคบร้อนที่หลัง หรือรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หากมีอาการปวด

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –ททท.จาการ์ตา-อินโดฯแอร์เอเชียเปิดบิน“สุราบายา-กรุงเทพ”

 

 

นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ ารท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจาการ์ตา อินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับสายการบินอินโดนีเซีย แอร์เอเชีย กระตุ้นนักท่องเที่pวอินโดนีเซียซึ่งเป็นฐานตลาดขนาดใหญ่ของอาเซียน เปิดบินปฐมฤกษ์ เที่ยวบินตรง ไป-กลับ เมืองสุราบายา-กรุงเทพฯ 4 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ 2 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป แล้วได้หารือกับพันธมิตรเจาะตลาดศักยภาพ ทำให้ปี 2568 มีอินโดนีเซียเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยตามเป้าหมาย 900,000 คน โดย ททท. สร้างรายได้กว่า 30,000 ล้านบาท

 

โดยอินโดนีเซีย แอร์ เอเชีย ได้เปิดเที่ยวบินตรงปฐมฤกษ์ สุราบายา - กรุงเทพฯ เริ่ม 2 ตุลาคม 2568 ด้วยรหัสเที่ยวบิน QZ330 ขนาดบรรทุกผู้โดยสาร 180 ที่นั่ง/ลำ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติจูอันดา เมืองสุราบายา 13.30 น. มาถึงท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ 17.50 น. บริการบิน 4 เที่ยว/สัปดาห์ ทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวันอาทิตย์ โดยจะขยายเส้นทางบินจากเมืองหลักอย่าง จาการ์ตา เมดาน และบาหลี เชื่อมโยงเครือข่ายเมืองรองในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น ช่วงครึ่งแรกปี 2568 รองรับนักท่องเที่ยวได้กว่า 310,000 คน

 

“สุราบายา” เป็นเมืองใหญ่ลำดับ 2 ของอินโดนีเซีย มีประชากรกว่า 3 ล้านคน มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การคมนาคมทางเรือ เมื่อเปิดบินใหม่เส้นทางนี้จะเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่าง “ชวาตะวันออก” กับไทย ได้อย่างสะดวกมากขึ้น

 

ผอ.นิติ กล่าวว่า คาดการณ์ไตรมาส 4 ปี 2568  เมื่อเปิดบิน “สุราบายา-กรุงเทพฯ” จะนำนักท่องเที่ยวอินโดนีเซียมาไทยเพิ่มได้อีกกว่า 10,000 คน  ในอนาคต ททท.จะร่วมกับอินโดนีเซีย แอร์เอเชีย พัฒนากิจกรรมส่งเสริมตลาดและเพิ่มเส้นทางบินใหม่มากขึ้นด้วย รวมถึงยังได้ร่วมหารือกับบริษัททัวร์ในพื้นที่ ได้แก่ Adinda Tour, Lavensia Tour และ Felia Tour นำเสนอสินค้าการท่องเที่ยว และจุดหมายปลายทางใหม่ของไทย เช่น เมืองรองและเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพิ่มการขายแพ็กเกจทัวร์ เจาะกลุ่มตลาดนักเดินทางรุ่นใหม่และครอบครัวซึ่งมีกำลังซื้อสูงเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางหลัก

 

ขณะนี้ ททท. จาการ์ตา ได้จัดกิจกรรม Networking Lunch ร่วมกับบริษัทนำเที่ยวท้องถิ่นใน “เมืองบันดุง” อินโดนีเซีย ได้แก่ บริษัท Tripin และ Adityatama เดินหน้าแลกเปลี่ยนข้อมูลและมุมมองด้านตลาดท่องเที่ยว สร้างความร่วมมือกับพันธมิตร พบปะพูดคุยกัน แนวโน้มจะมี 2กลุ่มใหม่ ได้แก่ 1.นักท่องเที่ยวเดินทางครั้งแรก (First Visit) 2.กลุ่มนักท่องเที่ยวมุสลิม เดินทางมาไทยเติบโตไปในทิศทางที่ดี

 

ข่าวที่สอง AOTนำองค์กร+4สนามบินคว้ารางวัลความปลอดภัยชีวอนามัย

 

            นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ที่ปรึกษา 10 และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานมาตรฐานท่าอากาศยานและการบิน) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” เป็นผู้แทน AOT รับมอบรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านความปลอดภัย และอาชีวอนามัย ระดับประเทศ (Thailand Safety Award) ประจำปี 2568 จาก นายบุญธรรม ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 จัดขึ้นที่สำนักงาน AOT เมื่อเร็ว ๆ นี้

 

            โดย “สำนักงานใหญ่ AOT” ได้รับรางวัลฯ ระดับประเทศ (ระดับทอง) ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แล้วยังมีท่าอากาศยาน AOT ได้รับรางดังกล่าว ระดับประเทศ  อีก 4 แห่ง ได้แก่

 

            ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้รับรางวัลฯ ระดับประเทศ (ระดับแพลทินัม) ต่อเนื่องปีที่ 16

 

            ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ได้รับรางวัลฯ ระดับประเทศ (ระดับทอง) ต่อเนื่องปีที่ 5

           

            ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้รับรางวัลฯ ระดับประเทศ (ระดับทอง) ต่อเนื่องปีที่ 3

 

            ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้รับรางวัลฯ ระดับจังหวัด ต่อเนื่องปีที่ 2 

 

การได้รับรางวัลดังกล่าวสะท้อนถึง  AOTให้ความสำคัญและทุ่มเทดูแลบุคลากร พร้อมกับคำนึงถึงสภาพแวดล้อม ความปลอดภัยของบุคลากรในการทำงาน พร้อมก้าวสู่องค์กรชั้นนำแห่งความเป็นเลิศ
“ด้านการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย และอาชีวอนามัย”

 

เพราะ “บุคลากร” คือพลังสำคัญที่จะสนับสนุนและช่วยขับเคลื่อนองค์กร AOT ให้บรรลุตามเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคต่อไป

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดใจ ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ซีอีโอ คิง เพาเวอร์ รุกใหม่ 3ทาง ฉลอง36ปี-เพิ่มรายได้-ลงทุนต่างประเทศ

เจาะลึก !! ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ซีอีโอคิงเพาเวอร์รุก 3 ทาง ฉลองเดือนเกิดแบรนด์ 36 ปี-ปรับโครงสร้างรายได้-ขยายลงทุน ลุยการค้าต่างประเ...