ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ติดเทอร์ตลาดญี่ปุ่นปี'61 โกยาายได้แดนปลาดิบ7หมื่นล้านบาท-เที่ยวเปร็ดใน-ท่าระแนะ ตราด

“สมคิด”ติดเทอร์โบททท.โกยเงินญี่ปุ่น7หมื่นล้าน
“ยุทธศักดิ์”รุกแผนเมืองรองเพิ่มรายได้หมื่นล้าน
คิงเพาเวอร์ชวนร่วมกิจกรรมใหม่รับตรุษจีน12วัน
หนุนเมืองรองแห่จัดปั่นเที่ยวเพียบก.พ.-มี.ค.นี้
BBGIเครือบางจากปูพรมเข้าตลท.-ลงทุนเพิ่ม
เที่ยวตราดมุมใหม่2ชุมชนเปร็ดใน-ท่าระแนะ
หยุดโรค”ย้ำคิดย้ำทำ”ก่อนสายเกินเยียวยา
รมว.วีระศักดิ์ถกเอกชนแก้เกาะช้าง2ปมใหญ่
วิทยุการบินหนุนเข้มบริการตรุษจีนเมืองรอง
รมว.อาคมชี้เร่งแผนบก-น้ำ-อากาศรับอีอีซี
โรงแรมทั่วไทยบูมแพกเกจขายช่วงตรุษจีน

สวัสดีวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ gurutourza



ช่วงที่ 1 “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมาชำแหละให้ฟังอย่างหมดเปลือกถึงการนำ Open to The New Shades บุกทะลวง “ตลาดญี่ปุ่น” พร้อมกับควงสายการบินถกแผนเปิดเส้นทางเพิ่มจากเกาะใต้กิวชู ตามรัฐบาลไทยไปฟูกูโอกะปลุกธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งทะเลตะวันออก (Eastern Economic Coridoor : EEC) ส่วนแผนการใช้งบรายจ่ายกลางปี 2561 ททท. เร่งทำภารกิจที่ท้าทายเรื่อง “การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักไหลไปสู่เมืองรอง” ให้ได้อย่างต่ำ 10 ล้านคน เพิ่มรายได้อีกกว่า 10,000 ล้านบาท ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีจากทุกฝ่ายพร้อมจะบูรณาการทำงานร่วมกันทั้ง กองทุนหมู่บ้านและชุมชน กระทรวงมหาดไทย

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าการบุกเจาะตลาดญี่ปุ่นซึ่งตามสถิติเดินทางเข้ามาไทยปี 2560 มากถึง 1.5 ล้านคน ทำรายได้กว่า 65,000 ล้านบาท ปี 2561 ตั้งเป้าจะเพิ่มกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกิน 70,210 ล้านบาท เพิ่มขี้นอีก 8 % จากนักท่องเที่ยว 1.56 ล้านคน เติบโตราว 4.05 % เพิ่มการใช้เงินเฉลี่ยเพิ่มเป็นคนละ 44,987 จากเดิมเฉลี่ย 43,460 บาท/ทริป การบุกครั้งนี้จึงนับเป็นตลาดประวัติศาสตร์ของ ททท.ซึ่งต้องการพุ่งเป้าเจาะลึกเข้าไปยัง กลุ่มนักท่องเที่ยวสตรี และกลุ่มกีฬา ผนวกกับการสร้างแคมเปญโดยใช้ Open to The New Shades กระตุ้นให้เกิดมุมมองท่องเที่ยวประเทศไทยในมิติใหม่ กำหนดไปเปิดตัวที่กรุงโตเกียว ในจังหวะที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปลงนามข้อตกลงกับนักลงทุนญี่ปุ่นที่เมืองฟูกูโอกะ จึงผนวก 2 เมืองใหญ่ในการโปรโมตท่องเที่ยว




คอนเซ็ปต์ที่จะใช้ Open to The New Shades เพิ่มแรงดึงดูดจากนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพก็จะชูโปรดักซ์ “อาหาร” เพิ่มอาหารถิ่นในแต่ละภูมิภาคและอาหารหรูหราระดับมิชลินก็จะเพิ่มการรับรู้ให้มากยิ่งขึ้น หรือกลุ่มนักกีฬาชื่นชอบมาวิ่งตามอุทยานแห่งชาติ โบราณสถานสำคัญ และนิวเฉดอีกอย่างคือ “ความงาม” และการดูแลสุขภาพ

ส่วนกลุ่มนักลงทุนจากญี่ปุ่นซึ่งรัฐบาลไทยไปชวนเข้ามานั้นจะผสมผสานการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก นิวเฉดที่จะเสนอการใช้ชีวิตที่ลงตัว การพักผ่อนภายใต้แวดล้อมอย่างเป็นธรรมชาติ สร้างจุดขายในสไตล์ B-Leisure มาทำธุรกิจควบคู่กับการพักผ่อนด้วยไปในตัว ซึ่งสามารถทำให้การขายท่องเที่ยวอย่างลงตัวใน EEC

ในมุมเรื่องของการคมนาคมขนส่งทางอากาศระหว่างไทยกับญี่ปุ่นนั้นกำลังรอฟังข่าวดี หลังจากองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ปลดธงแดงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยการขนส่งทางอากาศในไทยเรียบร้อยแล้ว สายการบินต่าง ๆ ต่างสนใจที่จะใช้สนามบินอินเตอร์ไม่ว่าจะเป็น นาริตะ ฮาเนดะ ซับโปโร นาโกย่า โอซาก้า โดยเฉพาะทางตอนใต้จากเกาะกิวชู ได้รับความคำเรียกร้องขอให้เจรจาเพิ่มสายการบินตรงมากขึ้นกว่าการบินไทยเพียงรายเดียว



ดังนั้น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จึงได้เชิญสายการบินร่วมคณะไปด้วย ทั้งนกสกู๊ต บางกอกแอร์เวย์ส แอร์เอเชีย ไปรับฟังศักยภาพของเกาะกิวชู ถึงปริมาณการขนส่งที่จะเข้าสู่ทั้งสองประเทศมากขึ้น

ขณะเดียวกันกรณีที่ทางญี่ปุ่นมีศักยภาพเป็นต้นแบบการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน ทาง ททท.จับมือกับเจโทร ญี่ปุ่น ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเมืองไทยได้เขียนแผนที่เส้นทางท่องเที่ยวน้ำพุร้อนในประเทศไทยขึ้นบ้างแล้ว กอปรกับนายกรัฐมนตรีนำทีมไปจัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อน ททท.กับทางญี่ปุ่นจึงร่วมกันเขียนแผนอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งพื้นที่น้ำพุร้อนจังหวัดอื่น ๆ ด้วย เช่น ระนอง รวมถึงการทำแผนพัฒนาจุดขายแหล่งท่องเที่ยวนอกเหนือจากนี้อย่าง การท่องเที่ยวเชิงประดิษฐ์ : Industrail Tourism ที่สำคัญสุดคือ ททท.ทบทวนการกลับไปเปิดสำนักงานในเมืองฟูกูโอกะ

ส่วนรูปธรรมในการนำโมเลต้นแบบเมืองน้ำพุร้อนของญี่ปุ่นเข้ามาพัฒนาในประเทศไทย ในการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งนี้จะไปคุยกับทางผู้เชี่ยวชาญในญี่ปุ่นแล้วเชิญมาร่วมชี้แนะ จากนั้นจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมภายใน 1-2 เดือน พร้อมกับการฝึกอบรมคนในชุมชนเจ้าของแหล่งน้ำพุร้อน ซึ่งได้ “กองทุนหมู่บ้านและชุมชน” จะเข้ามาช่วยอีกทางในการสร้างความยั่งยืน

ขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนจึงพร้อมให้ช่วยเหลือทุกรูปแบบเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ ระหว่างนี้ในการเสนอของบประมาณรายจ่ายกลางปี 2561 เป็นเงินสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจฐานราก ททท.จึงต้องทำงานร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กองทุนหมู่บ้านและชุมชน กระทรวงมหาดไทย

 กรอบงบประมาณที่ ททท.ได้รับการจัดสรรเบื้องต้นประมาณ 1,500 ล้านบาท จึงได้เสนอทำ 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการเศรษฐกิจท่องเที่ยวชุมชน- Go Local กว่า 400 ล้านบาท 2.การจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเชื่อมโยงการทำงานหรือ Big DATA เพื่อให้รู้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเพื่อให้นำข้อมูลมาใช้วางแผนอย่างแม่นยำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาพรวมของประเทศ  3.โครงการสร้างความเข้มแข็งสร้างห่วงโซ่คุณค่า 55 เมืองรอง ทำให้การตลาดท่องเที่ยวเติบโตไปข้างหน้า

ทั้ง 3 โครงการ วงเงิน 1,500 ล้านบาท จะต้องดำเนินการภายใน 6 เดือน มุ่งประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการตลาด ตามขั้นตอนส่งให้สำนักงบประมาณแล้ว ภายในวันที่  1 เมษายน นี้เป็นต้นไปจะได้นำมาใช้อย่างเต็มศักยภาพระหว่างเมษายน-กันยายน นี้

เมื่อได้รับงบประมาณลงทุนเพิ่มแล้วในจังหวะที่รัฐบาลส่งเสริมมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวลดหย่อนภาษีเที่ยว 55 เมืองรอง ประเมินผลจากสถิติเปรียบเทียบ การท่องเที่ยว 22 จังหวัด กับ 55 จังหวัดรอง ปี 2559 พบกว่า นักท่องเที่ยวโดยรวมแตกต่างกันมาโดยกระจุกตัวอยู่ในเมืองหลัก 22 จังหวัดมากถึง 70 % และรายได้มารวมอยู่ถึง 90 % ส่วนเมืองรอง 55 จังหวัดมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเพียง 30 % มีส่วนแบ่งรายได้แค่ 10 %

ททท.พยายามมุ่งมั่นใช้งบประมาณเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโดยมุ่งปรับสัดส่วน “จำนวนนักท่องเที่ยว” กระจายสู่เมืองรองเพิ่มจาก 30 % เป็น 35 % จะต้องนำนักท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองรองไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน แต่ละคนใช้จ่ายเพิ่มเฉลี่ยคนละ 1,000 บาท ก็จะมีรายได้เพิ่มปีนี้อีกไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นความท้าทายและความตั้งใจที่ ททท.จะทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์จากการนำงบประมาณครั้งนี้มาใช้ด้วย

ส่วนเครื่องมือที่จะต้องพึ่งพาเพิ่มนอกเหนือจากเงินงบประมาณ คือการสร้างการรับรู้และความร่วมมือกันของทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง แทนต่างฝ่ายต่างทำ ซึ่งการเริ่มต้นครั้งนี้ในการร่วมกันใช้งบประมาณรายจ่ายกลางปีพบว่าจากาการเข้าไปพูดคุยกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กองทุนหมู่บ้านและชุมชน กระทรวงมหาดไทย ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน จึงถือเป็นสัญญาณที่ดี พลังของแต่ละหน่วยงานที่ร่วมกันอย่างเป็นระบบก็จะทำให้เกิดความสำเร็จในการกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้จริง ๆ

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ฉลองตรุษจีนด้วยโชว์-ชิม-ช้อป-โชค”

กลุ่ม บริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า เตรียมร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนครั้งยิ่งใหญ่ต้อนรับปีจอ โดยการจัดงาน “King Power Chinese New Year The Endless Dynasty 2018”  ตลอด 12 วัน ระหว่าง 8 – 18 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ตั้งแต่เวลา 18.30 น.นำเสนอการแสดงสุดพิเศษครั้งแรกที่ “หมาก-ปริญ” ศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยมาในมาดของจอมยุทธ์ จะมาโชว์เหินเวหาเพื่อรับราชินีมังกร คิมเบอร์รี่ ที่ตื่นจากเสียงจังหวะกลองในโชว์ The Endless Dynasty Show และตื่นตาตื่นใจไปกับกำแพงเมืองจีน LED ขนาดยักษ์ กองทัพทหารจักรพรรดิจิ๋นซี ขบวนกลองมหามงคล และโชว์กายกรรมประกอบน้ำพุ พร้อมเทคนิคแสง สี เสียงสุดตระการตา  ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างคับคั่ง

ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ไปดูโชว์สุดพิเศษเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ ก็สามารถไปร่วมกิจกรรมที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มีความสนุกต่อเนื่องจนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ มีทั้งตรวจดวงชะตาต้อนรับปีจอกับทีมนักพยากรณ์ชื่อดัง ที่มาทำนายดวงชะตาแบบครบทุกศาสตร์ มีแจกของเสริมมงคล โดยแจกวันละ 100 ท่านเท่านั้น พร้อมเต็มอิ่มกับหลายเมนูเด็ดของร้านอาหารชื่อดังต้อนรับตรุษจีน ที่เด็ดที่สุดคือมีแจกอั่งเปาส่วนลดสูงสุด 1000 บาท

สำหรับผู้ที่ร่วมชมขบวนพาเหรดกองทัพทหารจักรพรรดิจิ๋นซี ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เค้ายังแจกส่วนลด On top 5% ด้วย และที่ Surprise สุดๆ ใครที่เข้ามาร่วมงานแล้วใส่ชุดกี่เพ้า แค่โพสต์รูปที่ถ่ายคู่กับกองทัพทหารจักรพรรดิจิ๋นซี ลงใน Facebook รับทันที Gift  voucher 300 บาท  จำกัด 50 คนแรกต่อวัน กิจกรรมพิเศษเยอะแบบนี้ พลาดไม่ได้เลยจริงๆ กับ“King Power Chinese New Year the Endless Dynasty 2018” ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

ติดตามได้ที่ Facebook King Power Official หรือโทร. 1631

ข่าวที่ 2 “ไทยยิ้มรับอั่งเปาตรุษจีน7วันเข้าประเทศ2หมื่นล้าน”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตรุษจีนปีนี้ ตรงกับวันที่ 16 ก.พ.นี้ จะมีนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศที่มีเทศกาลนี้ เช่น จีน เริ่มเฉลิมฉลองและมีวันหยุดเทศกาลฤดูใบไม้ผลิควบคู่กับตรุษจีนต่อเนื่อง  7 วัน ระหว่าง 15-21 ก.พ. นี้ จึงคาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 870,000 คน เพิ่มขึ้น 5% สร้างรายได้รวม 20,000 ล้านบาท เติบโต 11% โดยมีนักท่องเที่ยวจีน 290,000 คน เติบโต 13% สร้างรายได้ 8,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24%

ตามที่ซีทริปสำรวจชาวจีนพร้อมเดินทางสู่ทั่วโลก 60 ประเทศ กว่า 6.5 ล้านคน มาไทยเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น เนื่องจากช่วงตรุษจีนปีนี้มีเที่ยวบินใหม่จากจีนบินเพิ่มจาก 26 หัวเมืองใหญ่ 61 เส้นทางบิน เข้ามาไทย 9 สนามบิน มาจาก เจิ้งโจว เหอเฟย์ หนิงป่อ เทียนจิน ซีอาน ตรงเข้ากรุงเทพฯ มากสุด 25 เส้นทาง  แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 5 อันดับแรก อันดับ 1 และ 2 ภูเก็ตและสมุย รวมไปถึงมัลดีฟส์ บาหลี มอริเชียส

ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่จีนเลือกทางไปท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน ได้แก่ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ สหรัฐฯ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม แคนาดา

นายสันติ ชุดินธรา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ระหว่าง 13-23 ก.พ. ที่ ททท.ได้สนับสนุนการจัดงานตรุษจีนทั่วไทย 13 พื้นที่ คือกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 12 พื้นที่ กระตุ้นคนไทยท่องเที่ยว 730,000 คน สร้างรายได้รวม 2,684 ล้านบาท โดยมีกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางดึงดูดนักท่องเที่ยว 144,000 คน สร้างรายได้ 586 ล้านบาท
โดยไทยได้รับเกียรติจากกระทรวงวัฒนธรรมจีน จัดส่งคณะนักแสดงจากมณฑลหางโจวมาร่วมแสดงในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ (เยาวราช) เชียงใหม่ อุดรธานี สงขลา ระหว่างวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2561 และภูเก็ต ระหว่างวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ นี้
ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ที่เยาวราชจะมีเชฟจากมณฑลหางโจว 24  ที่เคยปรุงอาหารให้ผู้นำประเทศในการประชุม G20 มาปรุงพระกระยาหารเพื่อถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมแจกจ่ายไปยังผู้ร่วมงาน ทางด้านชุมชนอื่นที่ก่อตัววัฒนธรรมจีนอย่างเข้มแข็ง ได้จัดกิจกรรมน่าสนใจมากมาย เช่น นครสวรรค์ มีการเชิดสิงโตที่โด่งดัง เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงาม

ข่าวที่ 3 “ททท.ยุโรปผนึกแอตต้า20กพ.ขายทัวร์ชุมชน”

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จัดทำแผนส่งเสริมการขายท่องเที่ยวท้องถิ่นโดยคัด 33 ชุมชนจากทั้งหมดกว่า 700 ชุมชน มอบให้สำนักงาน ททท.ทั่วโลกช่วยกันขายตอบสนองนักท่องเที่ยวหลักกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (F.I.T.) ตามแผนวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ จะทำเวิร์กช็อปกับบริษัทนำเที่ยวสมาชิกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ทำตลาดการขายเจาะต่างประเทศทั้งระยะใกล้และไกลที่เพื่อเฟ้นหาความนิยมชอบเที่ยวชุมชนลักษณะใดเพื่อนำไปบรรจุขายในแพ็กเกจท่องเที่ยว

ส่วนเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ททท.นำตัวแทนขายท่องเที่ยวอยู่ตามโรงแรมหรือร้านค้ามาสัมมนาเชิงปฏิบัติการช่วยกันขายเชียงใหม่ 3 ชุมชน นำร่องด้วยโปรแกรมเที่ยววันเดียว คือ ชุมชนบ้านแม่กำปอง ชุมชนบ้านไร่กองขิง และชุมชนบ้านผาหมอน แล้วเตรียมขยายต่อไปยังกระบี่ซึ่งมีชุมชนที่พร้อมขายเช่นกันคือ บ้านเกาะกลาง ชุมชนทุ่งหยีเพ็ง ชุมชนท่องเที่ยวแหลมสัก ส่วนจังหวัดอื่น ๆ จะทยอยทำต่อไป

ข่าวที่ 4 “BBGIเครือบางจากปูพรมเข้าตลาดขายลงทุน”

นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (BBGI) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพในกลุ่มบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 คาดจะกระจายหุ้นเพื่อเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ราว 30% โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินคือ บัวหลวง กสิกรไทย และฟินันซ่า

การระดมทุนครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้ลงทุนขยายกำลังการผลิต ตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุนของกลุ่มบางจากฯ สำหรับไบโอดีเซล เป็น 1 ล้านลิตร/วัน และเอทานอล เป็น 1 ล้านลิตร/วัน ช่วง 2 ปี จะใช้เงินลงทุนราว 1,500 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตไบโอดีเซล 8.1 แสนลิตร/วัน และเอทานอล 9 แสนลิตร/วัน ส่วนนี้เป็นกำลังการผลิตรวมของกลุ่มบางจากฯ และกลุ่มบมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนใน BBGI

รวมทั้งจะระดมทุนไปต่อยอดธุรกิจด้านชีวภาพ พื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่กลุ่มบางจากฯ จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ในจ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรองรับการลงทุนธุรกิจชีวภาพ ภายใน 5 ปี ด้วยเงินลงทุนมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือราว 1 ใน 3 ของเงินลงทุน 5 ปี (ระหว่างปี 61-65) ของกลุ่มบางจากฯ ที่จะใช้เงินลงทุนรวม 1.13 แสนล้านบาท

นายพงษ์ชัย ย้ำว่าช่วง 2 ปีนี้อยู่ระหว่างศึกษาโอกาสต่อยอดธุรกิจต่าง ๆ จากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีทั้งชานอ้อย น้ำตาล มันสำปะหลัง ปาล์ม สาหร่าย ก่อนจะสรุปเพื่อเตรียมลงทุนในผลิตภัณฑ์ชีวภาพอื่นที่มีมูลค่าสูงขึ้น เป็นกลุ่มไบโอพลาสติก กลีเซอรีน เพื่อต่อยอดธุรกิจอื่น ๆ เช่น อาหารเสริม  เป็นต้น

สำหรับ BBGI เป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมระหว่างธุรกิจชีวภาพของบางจากฯ และธุรกิจเอทานอลของ KSL โดยบางจากฯ ถือหุ้น 60% และ KSL ถือหุ้น 40% มีสินทรัพย์ประมาณ 1.5-2 หมื่นล้านบาท

ช่วงที่ 2 ควันหลงหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จันทบุรี ทาง “ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปค้นหาแหล่งท่องเที่ยวชุมชนมุมใหม่มาแนะนำ คือ “เปร็ดในกับบ้านท่าระแนะ” ผืนป่าโกงกางอายุนับร้อยปีอุดมด้วยธรรมชาติความงดงาม เป็นต้นทางของสิ่งมีชีวิตในทะเล ถูกจัดให้เป็นอันซีนไทยแลนด์ ซึ่งมีวิถีความน่าสนใจให้ท่องเที่ยวมากมาย ส่วนเรื่องสุขภาพต้องติดตามว่า “โรคย้ำคิดย้ำทำป้องกันและรักษาอย่างไร” และข่าวฮ็อต ๆ แวดวงท่องเที่ยว เมื่อเอกชนเกาะช้างจับเข่าขอให้รัฐช่วยแก้ปัญหาทั้งเรื่องคมนาคมและระบบน้ำบนเกาะที่มีนักท่องเที่ยวแห่ไปเที่ยวปีละกว่า 2 ล้านคน ทำเงินได้ 2 หมื่นล้านบาท แต่ปัญหาตามมาเพียบ ส่วนโรงแรมทั่วไทยพากันจัดเทศกาลอาหารต้อนรับวาเลนไทน์ และ บางกอกแอร์เวย์ส พร้อมเปิดเส้นทางใหม่เป็นครั้งแรก เชียงใหม่-ฮานอย เริ่ม 25 มีนาคม นี้เป็นต้นไป และซื้อบัตร Museum Muse เพียง 299 บาท สามารถนำไปใช้ชมพิพิธภัณฑ์ได้ถึง 40 แห่ง แถมนำไปลดค่าอาหารและเครื่องดื่มได้ด้วย

@เที่ยวตราดเฉดใหม่ใน“เปร็ดใน-บ้านท่าระแนะ”


ระหว่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีเดินทางไปประชุมสัญจรที่จังหวัดจันทบุรีและไปตรวจเยี่ยมพื้นที่เชื่อมโยงจังหวัดตราด นั้น “ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ล่วงหน้าไปสำรวจวิถีชุมชน แหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นนับเป็นการท่องเที่ยว New Shades แห่งใหม่ ลองตามคำชวนของรัฐมนตรีไปเที่ยวตราดในเฉดใหม่ ๆ ด้วยกัน
วันนี้ผมออกมาเยี่ยมรับฟังชุมชนหลายแห่งในจังหวัด ตราดและจันทบุรี

ตามปกติจังหวัดตราด..คนมักนิยมไปเที่ยวแต่เกาะช้างจนแน่นขนัด

ผมล่วงหน้าไปก่อนหนึ่งวันเพื่อเยี่ยมเยือน “ชุมชนเปร็ดใน”..ที่นี่มีกระบวนการรักษาป่าชายเลนที่ฟื้นฟูจนสมบูรณ์มาก..ลงเรือออกตรวจ..แวะทักทายชาวประมงพื้นบ้าน..ที่ออกมาวางลอบดักปู..



“ชุมชนเปร็ดใน” เป็นสถานที่ต้องสำรวจและตรวจเยี่ยมอีกครั้งพร้อม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ในชุมชนแห่งนี้มีโครงกระดูกวาฬขนาดใหญ่ที่เหมาะแก่การศึกษา..สำหรับผู้ที่สนใจ..เรื่องของวาฬ

บรรยากาศดี..มาก ๆ ครับ

“เปร็ด” เป็นคำเขมร..แปลว่าทางลัด..เปร็ดในจึงมีทางลัดเลาะป่าโกงกางที่งดงามมากออกสู่ทะเลเปิด..

ใครมาเห็นวิวนี้ต้องอึ้งกับความงดงามราวกับป่าธรรมชาติในหนังต่างประเทศ..หลายจุดมีดงหิ่งห้อยเสียด้วย...ท่านอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบอกว่าป่าชายเลนแบบนี้ของไทย..คือจุดตั้งต้นของความหลากหลายอย่างยิ่งของท้องทะเล...

พื้นที่เดิมนี้บริเวณนี้เคยเป็นป่าเสื่อมโทรมเพราะการมาของนากุ้ง..กับสารพัดการตัดไม้โกงกางสมัยที่รัฐไทยยังปล่อยสัมปทานป่าชายเลน..
จนภายหลังปี2538..รัฐสั่งยกเลิกสัมปทานป่าชายเลนทั้งประเทศ..ชาวบ้านจึงหันมาช่วยกันฟื้นฟูป่าผืนนี้จนอุดมสมบูรณ์อย่างน่าตื่นตา...

ที่นี่เป็นแหล่งดูนกแปลกๆ..เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติของป่าชายเลน..

“ มูลนิธิอุทกพัฒน์” ได้เข้ามาร่วมกับชาวบ้านทำโครงการกักน้ำจืดด้วยวัสดุง่าย ๆ ไว้ทำเกษตร..และในขณะเดียวกันก็กันน้ำเค็มรุกเข้าที่สวนตัวเองได้

ด้วยการใช้ไม้กระดานเป็นสันกันน้ำ!!

และยังมีการใช้บ่อกุ้งเก่ารวมทั้งบ่อที่ถูกตักหน้าดินขายให้กลายมาเป็นบ่อเก็บน้ำจืด....กระจายทั่ว ๆ บริเวณ...

ที่นี่จึงเป็นแหล่งเรียนรู้การจัดการน้ำที่ดีมาก...จนคนขอมาดูงานกันหนาแน่น


ในการสำรวจวันแรก..ผมยังได้ไป “ชุมชุมบ้านท่าระแนะ” อำเภอเมืองตราด...เป็นป่าชายเลนผืนใหญ่ขนาดกว่า 2,000 ไร่ อายุเกิน 100 ปี หนึ่งในป่าอัศจรรย์ Unseen Thailand จุดล่องเรือเพื่อไปยังลานตะบูน ระหว่างล่องเรือจะผ่านช่วงป่าให้ความรู้สึกคล้ายเมืองดึกดำบรรพ์ในคลอง 3 ป่า คือ ป่าโกงกาง ป่าจาก และป่าตะบูน

ที่นี่มีของอร่อยชุมชน..มีป่าโกงกางโบราณที่ไม่เคยเสื่อมโทรมมาเลย..น่าชื่นใจนัก...ชาวบ้านและยุวมัคคุเทศก์ตัวน้อย ๆ ได้พาให้ผมปล่อยปูทะเล..ปล่อยหอยพอก..ในพื้นที่อภัยทาน..เพื่ออนุบาลให้พวกเค้าแพร่พันธุ์ต่อ

ที่นั่นมีชุมชนจากต่างที่..มาร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชนเยอะเลย..จึงมั่นใจได้ว่า..มาเมืองตราด. ถ้าไม่ข้ามไปเกาะช้าง..ก็สนุกและมีอะไรจริงแท้ให้สัมผัสเยอะเลยครับ..

แวะรับประทานทานเที่ยงที่ริมบึงน้ำจืด ซึ่งเจ้าของเดิมเคยให้คนขุดหน้าดินไปขาย..ที่นี่มีเหยี่ยวแดงมาอาศัยนับร้อย..โฉบขึ้นลงกินมันหมูที่ครัวร้านอาหารเอามาลอยเป็นแพบางๆ..แผล้บเดียวเกลี้ยง..แต่ได้ภาพฝูงเหยี่ยวที่มากมายคล้ายที่เราเห็นฝูงนกพิราบในเมืองยังไงยังงั้น..

เป็นประสบการณ์เดินทางทำงานไปพร้อม ๆ กับ สำรวจแหล่งท่องเที่ยวและเยี่ยมเยือนคนในชุมชนเจ้าของแหล่งในจังหวัดตราด ที่นักท่องเที่ยวทั่วไปก็สามารถท่องเที่ยวชุมชนตามเส้นทางเชื่อมโยงที่ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ถ่ายทอดให้ฟังถึงเสน่ห์ภูมิปัญญาท้องถิ่น วิถีธรรมชาติของเมืองไทย สนุก น่าเรียนรู้ และไปเที่ยวได้ทุกวัน

@หยุดโรคย้ำคิดย้ำทำป้องกันและรักษาได้ไม่ยาก

โรคย้ำคิดย้ำทำ เป็นโรคที่หลายคนสงสัยว่าตนเองจะเป็นหรือไม่ เมื่อมีพฤติกรรมซ้ำ ๆ จนเกินปกติ ซึ่งโดยเฉลี่ยคนไทยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำราวร้อยละ2-3 ของคนไทยทั้งหมด โดยสามารถเริ่มต้นสังเกตเห็นอาการตั้งแต่วัยเด็กถึงช่วงวัยรุ่น เราจะพบโรคย้ำคิดย้ำทำในวัยรุ่นได้เมื่ออายุ 20 ปี

อ.พญ.ธนิตา หิรัญเทพ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า สาเหตุของโรคย้ำคิดย้ำทำ เกิดจากการทำงานของสมอง ซึ่งบางส่วนของสมองทำงานมากกว่าปกติก็จะเกิดอาการย้ำคิดย้ำทำขึ้นมาได้ โดยสมองส่วนหน้าและสมองส่วนกลาง หากทำงานประสานกันผิดปกติ ก็จะมีอาการดังกล่าวนี้ขึ้นได้ รวมทั้งอาจมีสาเหตุเกิดจากพันธุกรรมได้อีกด้วย

โรคย้ำคิดย้ำทำเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่คุณภาพชีวิตจะเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ทั้งนี้ ในทางการแพทย์แนะนำให้เริ่มต้นสังเกตอาการของตนเองเกี่ยวกับการทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ หรือมีเหตุกังวลซ้ำ ๆ ถ้าหากมีข้อสงสัยอย่ารอให้มีอาการควรจะรีบไปพบแพทย์ โดยแพทย์จะรักษาตามอาการระดับความรุนแรงในคนไข้

ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคย้ำคิดย้ำทำ ผู้ป่วยที่มีอาการจนกร่อนชีวิต จะมีอาการหลงลืม บางครั้งอาจคิดว่าตนจะทิ้งของมีค่า จะกังวลไม่ทิ้งของ กลัวจะทิ้งของมีค่าและเก็บสะสมของเอาไว้มาก ๆ ซึ่งเป็นของที่ควรนำไปทิ้งแล้ว แต่ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าควรจะเก็บเอาไว้ด้วยความกังวล

ส่วนวิธีการรักษา หากมีอาการแล้วเกิดผลกระทบกับชีวิต ควรจะรีบพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มต้น แพทย์จะทำการซักประวัติและตรวจสุขภาพจิต ในบางรายที่มีความสงสัยว่าอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ จึงมีอาการคล้ายกับย้ำคิดย้ำทำ บางโรคอาจต้องส่งตรวจสมอง เช่น คนไข้กลุ่มที่มีลักษณะการเคลื่อน ไหวที่ผิดปกติต่าง ๆ และอาจจะมีอาการคล้ายกับอาการย้ำคิดย้ำทำเพื่อหาสาเหตุที่ถูกต้องและแก้ปัญหา

ส่วนแนวทางการรักษา ในทางการแพทย์แบ่งการรักษาเป็น 2 แนวทางคือ การใช้ยาในการรักษา และการไม่ใช้ยาในการรักษา โดยในส่วนของการใช้ยาหลังจากพิจารณาการรักษาแล้ว จะให้รับประทานยาลดอาการทางจิตหรือยาต้านเศร้า หรือยาที่ออกฤทธิ์สมดุลของสารเคมีบางอย่าง ยากลุ่มนี้อาจจะใช้เวลานานถึงจะออกฤทธิ์ที่ชัดเจนประมาณ3-4 สัปดาห์ และควรได้รับการรักษาแบบควบคู่พฤติกรรมบำบัด แต่ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้นก็อาจจะรับการรักษาโดยการผ่าตัด เช่น การฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า เพื่อช่วยปรับสัญญาณการทำงานของสมองที่บริเวณนั้น แต่แพทย์มักจะให้การรักษาด้วยยาและควบคู่พฤติกรรมบำบัดเป็นหลักมากกว่า ทางที่ดีเมื่อเริ่มสงสัยและมีอาการควรจะรีบพบแพทย์ทันที

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “รมว.วีระศักดิ์ถกเอกชนแก้2ปัญหาใหญ่เกาะช้าง”

นายวีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ ต.ห้วงน้ำขาว และต.หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด พร้อมภาครัฐและเอกชนของจังหวัด โดยมีนายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการ จ.ตราด และภาคเอกชนจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม รีสอร์ท ได้เสนอให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาการท่องเที่ยว อ.เกาะช้างทั้งเรื่องถนนรอบเกาะและการขาดแคลนน้ำ

ในเบื้องต้นรัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชนต้องการเรื่องใด หากจะสร้างสะพานและถนนรอบเกาะช้างจะทำให้เกาะช้างกลายเป็นเกาะฮ่องกงที่มีแต่ตึกระฟ้า และมีสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม หรือต้องการให้เกาะช้างมีสภาพที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีลักษณะพิเศษ รักษาสภาพแวดล้อมไว้แล้วหันไปเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวไฮเอนท์เข้ามาสร้างรายได้มากกว่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ดีแทนการสร้างตึกสูงขึ้นมาบนเกาะเป็นจำนวนมาก

ทางด้านนายประเสริฐกล่าวว่า เอกชนบนเกาะช้างเห็นตรงกันต้องการเติบโตอย่างเพิ่มศักยภาพมากขึ้น แต่ติดปัญหาถนนรอบเกาะช้างยังขาดอยู่อีก 9.8 กม. และเริ่มขาดแคลนอ่างเก็บน้ำ จึงได้เสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาโครงการซึ่งผ่านการศึกษาและทำแผนมาแล้วรวม 7 โครงการจะใช้งบประมาณกว่า 3.3 พันล้านบาท แต่ปัจจุบันเกาะช้างต้องรับนักท่องเที่ยวปีละกว่า 2 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 2 หมื่นล้านบาท ต้องเผชิญปัญหาตามที่กล่าวข้างต้น

ข่าวที่สอง “บวท.หนุนตรุษจีนพร้อมบริการเที่ยวบินทุกเมืองรอง”

นางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า ได้สนับสนุนนโยบายรัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองช่วงตรุษจีนด้วยการอำนวยความสะดวกด้านการดูแลจราจรทางอากาศแก่สายการบินที่หลั่งไหลเข้ามายังไทย ทั้งเรื่องบุคลากร อุปกรณ์ และบริหารจัดการเที่ยวบินสนามบินภูมิภาคทั่วประเทศ เนื่องจากมีปริมาณนักท่องเที่ยวจีนและเที่ยวบินเพิ่มเข้ามาเป็นจำนวนมากระหว่างวันที่ 15 – 21 ก.พ. 2561 ตามคาดการณ์ทั่วประเทศจะมีเที่ยวบินรวมมากถึง20,677 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 2,954 เที่ยว เพิ่มขึ้นจากตรุษจีนปี 2560 ราว 6% เฉพาะวันที่ 15 ก.พ.นี้ จะมีปริมาณสูงสุดวันละ 3,070 เที่ยว

ดังนั้นจึงสั่งการให้หอบังคับการบินลูกข่ายที่ประจำอยู่ทุกสนามบินทั่วประเทศ เพื่อให้บริการการเดินอากาศด้วยความพร้อมทั้งอุปกรณ์และบุคลากร เช่น หอบังคับการบิน น่าน  แม่สอด แม่ฮ่องสอน บุรีรัมย์  ตราด ระนอง

ข่าวที่สาม “คมนาคมสั่งเร่งบก-น้ำ-อากาศรับอีอีซี”

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.สัญจร ได้ให้หน่วยงานในสังกัดเสนอโครงการสำคัญในระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษฝั่งทะเลตะวันออก (EEC)  ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ เริ่มจาก “กรมทางหลวง”  สรุปความก้าวหน้าของแผนงานโปรเจ็กต์พัฒนาโครงข่ายทางหลวง จ.จันทบุรี โครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เพื่อเชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก) โครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายชลบุรี-ตราด โครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายชลบุรี (ท่าเรือแหลมฉบัง-นครราชสีมา)

  “กรมทางหลวงชนบท” เร่งก่อสร้างถนนพื้นที่เกาะช้าง จ.ตราด ระยะทาง 9 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมเส้นทางบ้านบางเบ้า บ้านสลักเพชร   ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและขอก่อสร้างในเขตอุทยานแห่งชาติ  “การรถไฟแห่งประเทศไทย” จะทำโครงการขยายรถไฟรางคู่สู่ จ.ตราด พร้อมปรับปรุงทางรถไฟท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ
ควบคู่กับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และเน้นการเพิ่มสัดส่วนขนส่งตู้สินค้าพร้อม ๆ กับการบริการผู้โดยสาร

“กรมการขนส่งทางบก” พร้อมเดินหน้าโครงการรถระหว่างประเทศ เส้นทาง อรัญประเทศ-สระแก้ว รวมทั้งสถานีขนส่งใน 3 จังหวัด ได้แก่ ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี เพื่อยกระดับเป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งระบบ และให้ศึกษาเพิ่มเติใเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าข้ามชายแดนของด่านบ้านแหลมและด่านบ้านผักกาด จ.จันทบุรี

ทางด้าน “กรมเจ้าท่า” ก็เตรียมพัฒนาเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่อ่าวไทยตอนบน และขยายท่าเรือท่องเที่ยวพัทยา (เกาะล้าน)

ข่าวที่สี่ “โรงแรมทั่วไทยชูแพกเกจอาหารขายตรุษจีน”

ดิ โอกุระ จัดมื้อใหญ่ตรุษจีน16/18 กพ.นี้

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เปิดห้อง ห้องอาหาร อัพแอนด์อะบัฟ  ให้ทุกครอบครัวมาร่วมฉลองวันปีใหม่ของชาวจีนได้อิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน ปีนี้เตรียมบริการ 2 วัน คือ วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 และวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561

วันที่16 กุมภาพันธ์ 2561 ฉลองตรุษจีน บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน 12.00 น - 15.00 น. ราคาเริ่มต้นคนละ 1,900++ บาท หรือเลือกรับประทานอาหารแบบไม่จำกัดพร้อมไวน์โพรเซคโค เบียร์ ค็อกเทลนานาชนิด ชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ ในราคาท่านละ 2,600++ บาท หรือ จะเลือกรับประทานบุฟเฟ่ต์พร้อมแชมเปญ ไวน์ เบียร์ ค็อกเทลนานาชนิด ชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ ในราคาท่านละ 3,200++ บาท

วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 บุฟเฟ่ต์มื้อสายราคาเริ่มต้นท่านละ 2,800++ บาท เวลา 12.00 น ถึง 15.00 น. หรือเลือกรับประทานบุฟเฟ่ต์ที่ให้บริการพร้อมไวน์โพรเซคโค เบียร์ ค็อกเทลนานาชนิด ชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ ในราคาท่านละ 3,500++ บาท ส่วนบุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ที่ให้บริการอาหารแบบไม่จำกัดพร้อมแชมเปญ ไวน์ เบียร์ ค็อกเทลนานาชนิด ชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ นั้นราคาท่านละ 4,100++ บาท

สอบถามที่ โทร.02 687 9000 หรือ upandabove@okurabangkok.com


โรงแรมอัมราฉลองตรุษจีน 2 สไตล์ที่ห้องอเลเมนท์

โรงแรมอัมรา กรุงเทพฯ เปิด ห้องอาหารเอเลเมนท์ ให้ฉลอง สไตล์แรก “ดินเนอร์ตรุษจีนสุดพิเศษ” หลากหลายวัตถุดิบชั้นดีและราคาย่อมเยา เช่น หยี่ซังเมนูแห่งความโชคดี กระเพาะปลาผัดแห้ง ซุปกังป๋วยเยื่อไผ่เห็ดหอม เป็ดปักกิ่ง ก้ามปูเจี้ยนผัดซอสเอ็กซ์โอ คะน้าฮ่องกงราดซอสเนื้อปู ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้าทะเล สาลี่ตุ๋นรังนก เป็นต้น ราคาเริ่มต้นเพียง 220++ บาท ไปจนถึง 1,900++ บาทต่อจานหรือ 20,000++ บาทสำหรับโต๊ะละ 10 ท่าน

สไตล์ที่ 2 WHipster Night ในธีมกี่เพ้า เมื่ออิ่มจากดินเนอร์แล้ว ต่อด้วยปาร์ตี้คืนวันศุกร์ที่มาพร้อมกับศิลปินคู่ดูโอจากเดอะวอยซ์ไทยแลนด์ คุณไตเติ้ลและปิงปอง และพิเศษไปกว่านั้น หากลูกค้าแต่งชุดกี่เพ้ามาร่วมงานหรือแต่งกายด้วยชุดจีน รับเลยเครื่องดื่มฟรี 1 อย่าง งานนี้เข้าฟรี พร้อมอาหารสไตล์ปาร์ตี้ฟู้ดและโปรโมชั่นเครื่องดื่มซื้อ 1 แถม 1 สองช่วงเวลาเช่นเคย

จองได้เลยที่ 02 021 8888 หรืออีเมล fnb.bangkok@amarahotels.com เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ตรุษจีน Add LINE เร็วทันใจที่@Café Kantary



ร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีน ที่คาเฟ่ แคนทารี ทุกสาขา เพียง Add LINE @Café Kantary เพื่อรับสิทธิ์ซื้อเครื่องดื่ม 1 แก้ว ฟรี 1 แก้ว ที่ราคาเท่ากัน หรือ ถูกกว่า (ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์) สามารถร่วมสนุกรับสิทธินี้ได้ที่คาเฟ่ แคนทารี อยุธยา สระบุรี ปราจีนบุรี ศรีราชา บางแสน ระยอง กาดฝรั่ง เชียงใหม่ เกาะยาวน้อย และภูเก็ต ยกเว้นสาขาโคราช
สอบถามได้ที่ call center: 1627 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.cafekantary.com

ติดตามข่าวท่องเที่ยวทุกแง่มุมได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทาง สวท.FM 97.0 เวลา MHz.11.00-12.00 น.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai