ททท.ยันข่าวดี!!3ปัจจัยดันท่องเที่ยวโตเกินคาดปลายปี’65 แอร์ไลน์เพิ่มที่นั่ง75%+เปิด2วีซ่าพิเศษ+บาทอ่อนบุกขายWTM2022ปี’66โกยยุโรป8แสนล้าน

ททท.ยันข่าวดี!!3ปัจจัยดันท่องเที่ยวโตเกินคาดปลายปี’65

แอร์ไลน์เพิ่มที่นั่ง75%+เปิด2วีซ่าพิเศษ+บาทอ่อนดูดทัวร์โลก

นำท่องเที่ยวบุกขายWTM2022ปี’66โกยเงินยุโรป8แสนล้าน

คิงเพาเวอร์ฉลอง33ปีช้อปDelights&Surprisesแจก3.3ล้าน

สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์ที่3สนามบินรับส่วนสูงถึง3,300บาท

คิงเพาเวอร์นำรร.เดอะสแตนดาร์ดฯมหานครคว้ารางวัลโลก

ททท.ชู“Moto GP 2022”ชิงพ่วงขายเที่ยวบุรีรัมย์ 5 งานใหม่

TCEBดึงไมซ์ยกก๊วนทำทีมบิลดิ้งทั่วไทย4ภาค4ชุมชน4สไตล์

บางจากฯกวาดรางวัลเวทีสากลHR Asia Best Companies

เที่ยวไหลเรือไฟแม่น้ำโขงออกพรรษดูเรือโบราณนครพนม

5 วิธีบริโภคผักสดปลอดภัย+เลี่ยงสารอันตรายในผักผลไม้

สุวรรณภูมิโชว์16ปีมีผู้โดยสาร700ล้านคนปี’65เพิ่ม203%

แอร์เอเชียคว้าแชมป์โลก13สมัยแจกโปรตั๋ว13จุด313บาท

 

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #ไหลเรือไฟนครพนม #ทัวร์บุญออกพรรษา15ค่ำเดือน11

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/fTvpxF6Bfg/

 

ช่วงที่ 1 ข่าวดีตลาดอินเตอร์ปลายปีโตเกินคาด “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชี้เป้า 3 ปัจจัย แอร์ไลน์สแห่ “เพิ่มที่นั่งไกลข้ามทวีปเข้าไทย” กว่า 75 % ตลาดระยะใกล้ อาเซียน เอเชีย โตเร็ว ผนวก “รัฐบาลไฟเขียววีซ่าพิเศษ” Tourist Visa และVOA ได้จังหวะรับไฮซีซัน เพิ่มวันพักยาว และไทยยิ้มรับบาทอ่อนดึงดูดทั่วโลกเที่ยวอื้อ จ่อนำผู้ประกอบการไทยชิงลูกค้าใน WTM 2022 พ.ย.นี้ โชว์พลังขาย Amazing New Chapters วางแผนถก ททท.ทั่วยุโรปโกยปี’66 เข้าเป้า 8 แสนล้านบาท

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.เดินหน้าแผนการทำตลาดเชิงรุกด้วยการนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไปทำเทรดโชว์และโรดโชว์จับคู่เจรจาซื้อขายท่องเที่ยว ล่าสุดไปงาน TEJ -Tourism Expo Japan 2022 กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น เพิ่งจะกลับมาจัดครั้งแรกในรอบ 4 ปี ประเทศไทยเป็นพาวิลเลี่ยนโดดเด่นมากที่สุดในการนำเสนอสินค้าแบบครบวงจร ทั้งแหล่งท่องเที่ยว การแสดง ซอฟท์เพาเวอร์ อาหารและสาธิตกิจกรรมมากมาย ท่ามกลางคู่แข่งจากประเทศต่าง ๆ ก็เข้ามาร่วมงานด้วย

 

ประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศช่วงไตรมาส 4 ฤดูเดินทางท่องเที่ยว หลังเสร็จสิ้นการจับคู่ธุรกิจของเอกชนไทยกับญี่ปุ่น ททท.เห็นสัญญาณบวกของการท่องเที่ยวเพิ่มมากกว่าปกติ โดยเฉพาะคู่ค้าญี่ปุ่นได้พูดคุยด้วยมุมมองเชิงบวก ก่อนโควิด-19 แพร่ระบาดชาวญี่ปุ่นหนึ่งในเอเชียตะวันออกเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยติดอันดับ 5 หรือ 6 เฉลี่ยปีละประมาณ 1.7-1.8 ล้านคน สถิติหลังโควิดระหว่างมกราคม-กันยายน 2565 ชาวญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวเมืองไทยแล้ว 160,000 คน ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้รวม 350,000 คน ส่วนปี 2566 ตั้งเป้า 1.25 ล้านคน คิดเป็น 70 % ของปี 2562 เป็นผลมาจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศลดข้อจำกัดเรื่องมาตรการเดินทางมากขึ้น และสถานการณ์โดยรวมผ่อนคลายมากขึ้น

ส่วนตลาดท่องเที่ยวประเทศอื่น ๆ ที่มีสัญญาเพิ่มแรง 5 อันดับแรก เป็นกลุ่ม “ตลาดระยะใกล้” อันดับ 1 มาเลเซีย สามารถเดินทางเข้ามาตามแนวชายแดนได้ทันที อันดับ 2 อินเดีย อันดับ 3 สปป.ลาว อันดับ 4 เวียดนาม อันดับ 5 สิงคโปร์ ททท.ยังคงหวังจะมี “ตลาดระยะไกลข้ามทวีป” เข้ามาเสริมทัพช่วงไฮซีซันทั้งจาก สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป

 

โดยดูจาก ปัจจัยที่ 1  “จำนวนที่นั่งสายการบินระหว่างประเทศเข้าไทย” มีมากขึ้น ข้อมูลจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT :The Civil Aviation Autority of Thailand) ยืนยัน 1.ในช่วงตารางบินฤดูหนาว Winter Program จะเริ่ม 31 ตุลาคม 2565-29 มีนาคม 25666 จะจำนวนที่นั่งเที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นถึง 75 % เปรียบเทียบกับช่วงตารางบินฤดูร้อนปี 2565

 

ดังนั้น ททท.วางกลยุทธ์ รักษาฐาน 2 ส่วน คือ 1.ตลาดระยะใกล้ ที่เดินทางเข้ามาได้ง่ายเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กับ 2.ตลาดระยะไกลข้ามทวีปมีจำนวนที่นั่งเที่ยวบินเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญกว่า 75 % จึงน่าจะทำให้การท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศเข้าไทยสดใสทุกตลาดและเข้าเป้าปี 2565 ได้ตามนโยบายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งไว้ 10 ล้านคน

 

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ตัวแปรใหม่เป็น ปัจจัยที่ 2 เรื่อง “ค่าเงินบาทผันผวนหรือบาทอ่อน” อันเป็นผลมาจากผู้คนทั่วโลกกังวลเรื่อง “เงินเฟ้อ” ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (FED) ประกาศเพิ่มดอกเบี้ย นโยบายอีก ทำให้ค่าเงินของแต่ละประเทศอ่อนลงเนื่องจากมีการดึงเงินดอลลาร์สหรัฐเข้าไปยังอเมริกามากขึ้น

 

ททท.ได้วิเคราะห์ผลจากบาทอ่อนค่าจะเกิดผลดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่จะดึงดูดตลาดนักเดินทางทั่วโลกเพิ่มขึ้น เพราะมาเที่ยวเมืองไทยแล้วมีอำนาจการใช้จ่ายสูงใช้เงินได้มากขึ้น

 

ปัจจัยที่ 3 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวีซ่าพิเศษ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของเอกชนท่องเที่ยว ขอขยายวีซ่า 2 ประเภท เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 -31 มีนาคม 2566 ได้แก่ ประเภทแรก VOA :Visa on Arrival สามารถพำนักในไทยได้ต่อเนื่อง 30 วัน จากเดิม 15 วัน ประเภทสอง Tourist Visa พำนักในไทยต่อเนื่องได้นาน 45 วัน จากเดิม 30 วัน 

นโยบายการขยายวีซ่าของรัฐบาลไทยครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสอดคล้องกับฤดูเดินทางโดยเกิดผลดีกับประเทศโดยรวม

 

เรื่องที่ 1 จะทำให้ไทยเพิ่มวันพักของต่างชาติได้นานวันขึ้น แนวโน้มคนทั่วโลกยังต้องเผชิญอุปสรรคในการเดินทางเนื่องจากตั้นสูงขึ้นจากราคา “ตั๋วโดยสารระหว่างประเทศแพง”เพราะราคาพลังงานสูงขึ้น จำนวนที่นั่งสายการบินยังไม่กลับมา 100 % ดังนั้นเพื่อชดเชยให้คนได้อยู่นานวันขึ้น มีหลายประเทศสามารถลาพักร้อนได้ถึงครั้งละ 5 สัปดาห์ การขยายวีซ่านักท่องเที่ยว Tourist Visa เป็น 45 วัน จากเดิม 30 วัน การขยาย ฟรีวีซ่า VOA :Visa on Arrival เป็น 30 วัน จากเดิม 15 วัน จะช่วยดึงดูดคนสนใจเลือกมาไทยมากขึ้น

เรื่องที่ 2 จะช่วยเพิ่มอำนาจทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของไทยกับนานาชาติเพิ่มจำนวนและรายได้จากตลาดได้มากขึ้น

 

เรื่องที่ 3 ททท.สามารถคัดเลือกสินค้าเพิ่มการใช้เงินต่อคนต่อทริป ตามคอนเซปต์การขายหลัก Amazing New Chapters สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ระหว่างนักท่องเที่ยวพักอยู่นานวันได้ใช้เงินเพิ่มขึ้น ตามเวลาที่รัฐบาลได้ขยายวีซ่าให้เป็นพิเศษตลอด 6 เดือนข้างหน้า เช่น พักนาน 5 สัปดาห์ เกิดการเดินทางเที่ยวทั่วไทย Around Thailand หรือ เที่ยวทั่วภาคเหนือ Around North หรือมาแวะพักกรุงเทพฯ แล้วไปจบที่จังหวัดภูเก็ต

 

ททท.พร้อมนำเสนอจุดขายสินค้าท่องเที่ยวเด่น ๆ ทางธรรมชาติ จะมีกิจกรรมทำได้มากกว่าการถ่ายรูปนั่นคือนักท่องเที่ยวสามารถมาร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ผนวกกับสัมผัสประสบการณ์เป็นวิถีไทยหรือ Thainess และ “ซอฟท์เพาเวอร์” Food ลองชิมอาหารถิ่นสไตล์มิชลินไกด์บุ๊ค ไทยแลนด์ ตอนนี้ขยายไปแต่ละภาค Film บางประเทศได้ลองทำอาหารตามเมนูฉากที่เห็นในภาพยนตร์ Fight กีฬามวยไทยศิลปะการต่อ Festival ร่วมงานเทศกาลประเพณี ลอยกระทง ปีใหม่ Fashion ความหลากหลายของผ้าหลายพื้นที่ ซึ่งจะต้องหารือกันเพื่อเพิ่มโมเมนตั้มการท่องเที่ยวให้มีพลังสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

 

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวถึงแผนส่งเสริมตลาดการขายนำเอกชนร่วมงานระดับโลกปลายปีนี้ WTM : World Travel Mart 2022 กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ปีนี้จะทำเต็มรูปแบบ หลังจากปี 2564 นำผู้ประกอบการไทยไปร่วมงานตามรูปแบบวิถีใหม่แต่สถานการณ์ยังปกติมากนัก แตกต่างจากปลายปี 2565 ทุกอย่างกลับสู่ปกติแล้ว จึงพร้อมนำเสนอการต้อนรับนักเดินทาง กลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อนมิตรสหายได้กลับมารียูเนี่ยนกัน โดยประเทศไทยจะต้อนรับแบบ Always Warm ทั้ง 1.การมอบความอบอุ่นให้ทุกคนตลอดเวลาอย่างสม่ำเสมอ 2.ประเทศที่มีอากาศอบอุ่นกว่า มาเมืองไทยจ่ายค่าพลังงานถูกกว่าอยู่ในประเทศของตนเอง มีการต้อนรับที่ดี สินค้าท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์

 

ส่วนแผนการประชุมกับ ททท.สำนักงานสหภาพยุโรป ระหว่างเดินทางไปร่วมงาน WTM 2022 นั้นได้จัดประจำทุกปีนำโดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะไปรับฟังรายงานความคืบหน้า สถานการณ์ต่าง ๆ ปัญหาอุปสรรค และอื่น ๆ เพื่อให้ทุกสำนักงานนำเสนอบอร์ดถึงสถานการณ์นำนักท่องเที่ยวจากแต่ละตลาดเข้าเมืองไทยต่อไป เพราะหลังสิ้นปีนี้ก็จะเข้าฤดูอีสเตอร์ต่อด้วยซัมเมอร์ จะต้องรุกเจาะอย่างเต็มที่เป็นไปตามที่รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับรัฐบาล มีนโยบายให้ท่องเที่ยวสร้งรายได้เข้าประเทศตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

 

ปี 2566 ททท.ตั้งเป้าหมาย “ตลาดยุโรป”  ปกติจะมาเที่ยวเมืองไทยประมาณปีละ 8 ล้านคน บวกกับการตั้งเป้าภาพรวมต้องทำรายได้ให้ถึง 2.38 ล้านล้านบาท (จากปี 2562 ทำได้ 3 ล้านล้านบาท) ดังนั้นหากปีหน้าจะทำรายได้ท่องเที่ยวจากยุโรป 1 ใน 3 คิดเป็นประมาณ 8 แสนล้านบาท

 

ดร.ยุทธศักดิ์ ย้ำว่าด้านการท่องเที่ยวในประเทศ เมื่อโลกเปิดการเดินทางทุกประเทศก็ใช้นโยบายเดียวกันคือใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ใช้โอกาสนี้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่นพอเงินเยนอ่อนตัวรัฐบาลประกาศเปิดประเทศเชิญชวนคนเดินทางไปทันที เช่นเดียวกันคนไทยก็เดินทางเที่ยวต่างประเทศได้ จึงกังวลอยู่เหมือนกันถึง “นักท่องเที่ยวคนไทย” จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทั้งกลุ่มคุณภาพและครอบครัว ดังนั้นจึงจะขอให้ช่วยกันลองหันมาท่องเที่ยวแหล่งสวยงามใหม่ ๆ ในเมืองไทยก่อนน่าจะเป็นเรื่องที่ดี

 

            รวมทั้งต้องการให้คนไทยร่วมมือกันเที่ยวในประเทศ เช่น ญี่ปุ่นตอนเกิดโควิด-19 ได้จัดทำโครงการ “Go to” รูปแบบคล้ายกับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของไทย จึงขอความร่วมมือให้คนไทยหันมาช่วยกันสร้างความแข็งแกร่งภายในบ้านก่อน เนื่องจากภาพรวมมีรายได้จากตลาดในประเทศปีละ 30-40 % ไทยเที่ยวไทยจะทำให้ขาบ้านมั่นคงและนำท่องเที่ยวมาเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไปด้วยกัน

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ฉลอง33ปีช้อปแฮปปี้Delights&Surprisesแจก3.3ล้าน

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดยิ่งใหญ่มหกรรม “King Power Delights & Surprises”  ฉลองครบรอบ 33 ปี ช้อปแฮปปี้ มีแต่แจก ตลอดเดือนตุลาคม 2565 ไฮไลต์ “แจกตั๋วเครื่องบินฟรีทุกวัน” ไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ หรือ กรุงเทพฯ-เกาหลี พร้อมให้ลุ้นรางวัลรวมกว่า 3.3 ล้านบาท

แถมเอาใจนักช้อปกับโปรโมชั่นแห่งปี แจกฟรี! คูปองส่วนลด 2 ใบ รวมมูลค่า 7,000 บาท พร้อมรับ Gift Voucher สูงสุด 3,300 บาท เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข

สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้เป็น “สมาชิก คิง เพาเวอร์” สมัครฟรีบัตร Navy  พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย

 

จัดเต็มกับกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์ฉลองเดือนเกิด ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1-31 ตุลาคม 2565 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี

 

ข่าวที่ 2 สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์ที่3สนามบินรับส่วนสูงถึง3,300บาท

คิง เพาเวอร์ จัดใหญ่อีกแล้ว เปิดช้อปในสนามบินนานาชาติของไทย 3 แห่ง ให้ช้อปรับส่นลดแบบเต็มเหนี่ยว ระหว่าง – 31 ตุลาคม 2565

 

“คิง เพาเวอร์ ในสนามบินดอนเมือง” แฮปปี้เมื่อช้อปสินค้าแผนกน้ำหอม เครื่องสำอาง แฟชั่น นาฬิกา และเครื่องประดับ (สำหรับลูกค้าทุกสัญชาติ) 1.รับส่วนลดทันที 1,000 บาท* เมื่อช้อปครบ 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ 2.รับส่วนลดทันที 2,400 บาท* เมื่อช้อปครบ 12,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ 3.พิเศษ! เฉพาะลูกค้าสัญชาติไทยเท่านั้น (เฉพาะสินค้าแผนกน้ำหอม และเครื่องสำอาง) และรับส่วนลดทันที 3,300 บาท* เมื่อช้อปครบ 15,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

 

“คิง เพาเวอร์ สนามบินภูเก็ต”แฮปปี้เมื่อช้อปสินค้าแผนกน้ำหอม เครื่องสำอาง แฟชั่น นาฬิกา และเครื่องประดับ (สำหรับลูกค้าทุกสัญชาติ) รับส่วนลดทันที 1,000 บาท เมื่อช้อปครบ 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

 

“คิง เพาเวอร์ สนามบินเชียงใหม่”แฮปปี้เมื่อช้อปสินค้าแผนกน้ำหอม และเครื่องสำอาง (สำหรับลูกค้าทุกสัญชาติ) รับส่วนลดทันที 1,000 บาท เมื่อช้อปครบ 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

 

ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์นำรร.เดอะสแตนดาร์ดฯมหานครคว้ารางวัลโลก

 

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร -The Standard, Bangkok Mahanakhon  ซึ่งมอบหมายให้เชนโรงแรม THE STANDARD บริหาร เป็นธุรกิจในเครือของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ สามารถคว้ารางวัล The Best New Build Hotel  เป็นครั้งแรกในงาน AHEAD AWARDS   ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นรางวัลการันตีคุณภาพด้านการออกแบบและการให้บริการของโรงแรมต่าง ๆ ทั่วโลก ผลจากการได้รับรางวัลครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางช่วยเพิ่มการประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวนานาประเทศหันมาคิดถึงเมืองไทยช่วงปลายปีนี้ช่วงฤดูเดินทางท่องเที่ยวหนาแน่นหรือไฮซีซันคาดนักท่องเที่ยวจะสนใจเลือกพักโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร

 

ปัจจุบันกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้พัฒนาอาคาร “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ให้เป็นอาคาร สถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี เป็นตึกสูง 78 ชั้น ประกอบด้วย 1.โครงการ เดอะ ริทซ์ คาร์ลตัน เรสซิเดนซ์ 2.มหานคร สกายวอล์ค 3.ร้าน FIRSTER  คอนเซ็ปต์ซึ่งเป็นสโตร์ทันสมัยสอดคล้องกับตลาดคนรุ่นใหม่ทุกกลุ่ม

 

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ลงทุนเปิดโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร โดยใช้เชนเดอะ สแตนดาร์ด บริหาร พร้อมทั้งตั้งเป้าให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ต้อนรับนักท่องเที่ยว สะท้อนเสน่ห์แห่งมหานครกรุงเทพฯ ซึ่งรวมถึง มหานคร คิวบ์ ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่ใจกลางเมืองย่านสาทร ที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของวิถีชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง

 

            สำหรับงาน AHEAD AWARDS จัดขึ้นเพื่อสรรหา สร้างมาตรฐานใหม่ และประเมินคุณภาพด้านการออกแบบและการให้บริการของโรงแรมทั่วโลก คณะกรรมการคัดเลือกประกอบไปด้วยบุคคลที่คร่ำหวอดและผู้ทรงคุณวุฒิในวงการ เช่น นักออกแบบ สถาปนิก และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดอีเวนต์ทั่วโลก โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนการตัดสินจากประสบการณ์ของผู้เข้าพักและเข้าใจในบริการ  สะท้อนศักยภาพในเชิงธุรกิจต่อการแข่งขันของตลาดภายในภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพของโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร นั่นเอง

 

ข่าวที่ 4 ททท.ชู“Moto GP 2022”ชิงพ่วงขายเที่ยวบุรีรัมย์5งานใหม่

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ (ททท.) เปิดเผยว่า ได้สนับสนุน ททท.บุรีรัมย์จัดมหกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวต้อนรับปลายเดือนกันยายน-ต้นเดือนตุลาคม 2565 ช่วงจัดการแข่งขัน “MotoGP 2022” รายการ “OR Thailand Grand Prix 2022” ได้ผนวกโชว์จุดขายการท่องเที่ยวพลังซอฟท์ เพาเวอร์ การท่องเที่ยวศิลปะวัฒนธรรม อาหารถิ่น โดยได้ร่วมกับแต่ละภาคส่วนส่งเสริมการท่องเที่ยว 4 งานด้วยกัน

 

ไฮไลต์พ่วงจัดมหกรรมท่องเที่ยว งานที่ 1 "ย้อมสีสาดแสงปราสาทเมืองต่ำ" ระหว่างวันนี้ -3 ตุลาคม 2565 บริเวณปราสาทเมืองต่ำ โบราณสถานอันสวยงาม ในตำบลจระเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ขณะนี้กำลังเปิดให้นักท่องเที่ยวสายมูขอพรความสุขความสำเร็จจากพระกฤษณะ มหาเทพผู้แห่งความหลุดพ้น สถานที่แห่งนี้มีจุดเด่นที่คนนิยมมาขอพรด้านการปกป้องดูแล คุ้มครองแคล้วคลาดเภทภัยอันตรายต่าง ๆ

 

ภายในงานยังได้ระดมพลังซอฟท์ เพาเวอร์ ไฮไลต์ คืออาหารถิ่น มาให้นักท่องเที่ยวได้ “ชิม”กันอย่างเต็มที่ รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นเมืองชวน “ช้อปปิ้ง” พบกับสินค้าทางวัฒนธรรม และผลผลิตพื้นถิ่นจากผู้ผลิตกับผู้ประกอบการ OTOP และSME สินค้าประจำตำบล สินค้าเกษตรปลอดภัยตามฤดูกาล พร้อมการเเสดงทางวัฒนธรรมแล้วก็เปิดโครงการ “ถนนคนเดินเมืองต่ำ” เพื่อให้ได้มาสัมผัสประสบการณ์แล้วแชะภาพแชร์ไปชวนคนรอบข้างลองมาท่องเที่ยวสักครั้ง

 

ขณะเดียวกันยังได้ชวนหลงรักอีสานท่องเที่ยวบุรีรัมย์ ได้พร้อมกันตลอดสุดสัปดาห์นี้อีก  4 กิจกรรม ประกอบด้วย

 

งานที่ 2  “ขึ้นเขาชมปราสาทพนมรุ้ง” อ.เฉลิมพระเกียรติ อยู่ใกล้เคียงปราสาทเมืองต่ำเพียง 8 กิโลเมตรเท่านั้น

 

งานที่ 3 ชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “MotoGP 2022” รายการ “OR Thailand Grand Prix 2022” ซึ่งจัดช่วงเดียวกันวันที่ 30 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อ.เมือง บุรีรัมย์

 

ทั้งนี้ระหว่างการแข่งขัน Moto GP 2022 ยังได้จัดมหกรรมสร้างสีสันดึงดูดคนเข้างานภายใต้ชื่อ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2022” (OR THAILAND GRAND PRIX 2022) นำเสนอความบันเทิงให้งานคึกคักมากยิ่งขึ้นด้วยการจัด มวยไทยวิถีอิสานใต้ การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง จัดคอนเสิร์ต Chang Music Connection การแสดงศิลปะวัฒนธรรม การจำหน่ายสินค้าที่ระลึกในงาน การนำสินค้าของดีบุรีรัมย์ในแต่ละท้องถิ่นมาออกร้าน

 

พร้อมกับเปิดให้มีโซนกิจกรรมเต็มรูปแบบ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เอ็กซ์โป” ตลอดสุดสัปดาห์นี้ โดยลงทุนก่อสร้างพาวิลเลียนขนาดยักษ์ ระดมจัดกิจกรรมภาครัฐ เอกชนอย่างน่าสนใจ รวมถึงจัด Meet & Greet นำนักบิดระดับโลกจากค่ายรถจักรยานยนต์มารวมตัวกัน และมีร้านค้ามากทั่วจังหวัดนำสินค้ามาวางขายกว่า 100 ร้าน

 

งานที่ 4 สนุกกับ “เทศกาลท่องเที่ยววิถีชุมชนหมู่บ้านนกกระเรียนพันธุ์ไทย” ชม ชิม ชอป  ได้ตลอดตั้งแต่ 30 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ตื่นตากับ เส้นทางท่องเที่ยวชุมชน การเสวนาอนุรักษ์นกกระเรียนไทย ชมนิทรรศการและงานแสดงภาพถ่ายทอดวิถีชีวิตของนกกระเรียน แคมป์ปิ้ง : ลานกางเต็นท์ และกิจกรรมในพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก  และถนนคนเดินห้วยจระเข้มาก “เซราะแอง” เลือกซื้อสินค้าโอท็อปของดีบุรีรัมย์ สินค้าต่าง ๆ อาหารการกินจากชุมชนบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำและชมวิวสันสวยสุดโรแมนติกสวยงาม

 

งานที่ 5 เที่ยวบุรีรัมย์ 365 วัน Amazing ยิ่งกว่าเดิม ตลอดเดือนตุลาคม 2565 ไฮไลต์ชมงานประเพณีแข่งเรือเร็ว สนามที่ 1 วันที่ 15-16 ตุลาคม 2565 บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ในอำเภอเมือง

 

                ข่าวที่ 5 TCEBดึงไมซ์ยกก๊วนทำทีมบิลดิ้งทั่วไทย4ภาค4ชุมชน4สไตล์

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ชี้เป้าให้บรรดาชาวไมซ์ในเมืองไทยที่กำลังมองหากิจกรรมสร้างทีมเวิร์ค หรือ Team Building เป็นสถานที่ฝึกทักษะคนในองค์กร แนะนำ 4 กิจกรรมไมซ์เพื่อชุมชนจาก 4 ภาค ดังนี้

 

            “ภาคเหนือ” นำเสนอ “ชุมชนบ้านลวงเหนือ” จ.เชียงใหม่ ที่มีการรวมกลุ่มของชาวไตลื้อบ้านลวงเหนือ นำความรู้ที่มีมาสร้างเป็นฐานกิจกรรมความรู้ในบ้านของตัวเอง กระจายออกเป็น 13 ฐานกิจกรรมให้ชาวไมซ์แบ่งกลุ่มเข้าร่วมกิจกรรมฐานต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย

 

“ภาคกลาง” แนะนำ “ชุมชนไทรน้อย” จ. พระนครศรีอยุธยา ให้ชาวไมซ์ได้เข้าร่วมกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม สัมผัสวิถีชีวิตที่สืบทอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยแบ่งเป็นฐานกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทำอิฐมอญ ทำยาหม่องไพล ทำกะลานวดเท้า ทำขนมโบราณสูตรชาววังตำรับท้าวทองกีบม้

 

“ภาคอีสาน” ชวนไป “ชุมชนบ้านสุขสมบูรณ์” จ.นครราชสีมา ชุมชนที่ได้จัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำมูลโฮมสเตย์บ้านสุขสมบูรณ์ เพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและเชิงเกษตร ชาวไมซ์สามารถแบ่งทีมร่วมกันทำกิจกรรมปลูกผักปลอดสารพิษ ทดลองเพาะเมล็ด ตัดผักจากแปลง และเรียนรู้การทำอาหารถิ่นอย่าง แหนมเห็ดและน้ำยาเห็ด

 

ภาคใต้ พาชาวไมซ์ไปยัง “ชุมชนบ้านนาตีน” จ.กระบี่ หมู่บ้านที่มีความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติมากมาย คนในชุมชนมีอาชีพประมงชายฝั่ง ทำสวนยาง สวนมะพร้าว และสวนผลไม้ โดยสามารถรวมกลุ่มทำกิจกรรมตามวิถีชีวิตของคนในชุมชนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารบนเกาะแบบชาวเล ทำผ้าบาติก ทำของที่ระลึกจากกะลามะพร้าว ทดลองกรีดยางพารา

 

ข่าวที่ 6 บางจากฯกวาดรางวัลเวทีสากลHR Asia Best Companies

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการ
ผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัท บางจากสามารถคว้ารางวัล HR Asia Best Companies to Work For in Asia 2022 ซึ่งเป็นรางวัลระดับสากลที่มอบให้บริษัทในเมืองไทยที่น่าร่วมงานมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ด้วยเครื่องมือวัดได้จาก 3 มิติหลัก ได้แก่ มิติที่ 1 ความหลากหลาย/Diversity มิติที่ 2 ความเท่าเทียม/Equality มิติที่ 3 การยอมรับในความแตกต่าง – Inclusion

 

ซึ่งบริษัทบางจากฯ ได้รับรางวัลนี้จากการดูแลพนักงานภายใต้แนวทาง 100XHappiness เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความสุข 100 เท่า รวมถึงมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน 100 ปี หรือ Bangchak100X ในฐานะกลุ่มธุรกิจผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานมุ่งดำเนินกี 5 ธุรกิจหลัก คือ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน กลุ่มธุรกิจการตลาด กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ โดยมีสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เป็นผู้ลงทุน Corporate Venture Capital เน้นการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตลอด

 

ทั้งนี้บริษัท บางจากฯ มีนายโชคชัย อัศวรังสฤษฏ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร กับนายนพชัย นุตสติ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ เป็นผู้แทนบริษัทเข้ารับรางวัลดังกล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ทาง Business Media International สิงคโปร์ จัดขึ้นที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค  

               

                ช่วงที่ 2 เริ่มแล้วทัวร์บุญออกพรรษา เที่ยว “งานไหลเรือไฟโบราณ” จ.นครพนม สวยสุดอลังการ ชมวิถีความสุข สงบ ริมแม่น้ำโขงหลายร้อยปี ต่อด้วย “5วิธีกินผักผลไม้” อย่างปลอดภัยเลี่ยงสารอันตรายตกค้าง ข่าวเด็ด ข่าวแรก “สนามบินสุวรรณภูมิครบ16ปี” โกยผู้โดยสาร 700 ล้านคน ปี’65 กลับมาโต 203 % ข่าวที่สอง “แอร์เอเชียเทโปร13เส้นทาง 313บาท” ฉลองการแชมป์โลว์คอสต์โลก13สมัย

 

ท่องเที่ยว -เที่ยว“ไหลเรือไฟแม่น้ำโขง”ออกพรรษชมเรือโบราณนครพนม

 

เที่ยวเมืองริมแม่น้ำโขงวิถีความสงบ ช่วงเทศกาลยิ่งใหญ่แห่งปี “ไหลเรือไฟนครพนม” สืบสานตำนานเรือโบราณที่มีมาอย่างยาวนานในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ระหว่างวันนี้- 11 ตุลาคม 2565

 

ความหมายของ “เรือไฟ” หรือ “เฮือไฟ” มีมาแต่โบราณเป็นเรืออันเกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างแท้จริง ร่วมแรงร่วมใจกันนำไม้ไผ่มาต่อเข้าด้วยกันความยาวเรือแต่ละลำประมาณ  1-6 เมตร ภายในเรือจะจัด ขนม ข้าวต้มผัด สิ่งของที่ต้องการบริจาคทาน พร้อมกับตัดเล็บหรือเส้นผม ตามความเชื่อของการสะเดาะเคราะห์

 

สีสันเด่น ๆ คือ แต่ละชุมชนจะตกแต่งเรือด้วยดอกไม้ธูปเทียน ตะเกียงขี้ไต้ เพื่อจุดส่องแสงให้สว่างไสวก่อนจะปล่อยเรือไหลไปตามสายแม่น้ำโขง โดยมีความเชื่อเรื่องการบูชาพระรัตนตรัย การบูชารอยพระพุทธบาทที่ประทับไว้ ณ หาดทรายริมแม่น้ำนัมทามหานที แห่งนี้นั่นเอง

 

ผนวกเข้ากับความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาพระแม่คงคา และความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาพญานาค นับเป็นประเพณีที่ชาวนครพนมสืบทอดเรื่อยมาในช่วงวันออกพรรษา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11)

 

เชิญชวนนักท่องเที่ยวตื่นตากับริ้วขบวนไลเรือโชว์และกระทงสายทุกวัน ไฮไลต์สำคัญวันออกพรรษา  10 ตุลาคม 2565 สัมผัสความมหัศจรรย์ของขบวนเรือไหลเรือไฟบนท้องน้ำของ12 อำเภอ พร้อมประชันการประกวดเรือไฟสวยงามและเรือไฟความคิดสร้างสรรค์

ปี 2565 ระยะทางทางการไหลเรือไฟสุดตระการตาในแม่น้ำโขงความยาวราว 5 กิโลเมตร เริ่มจากบริเวณ “หน้าโบสถ์นักบุญอันนา หนองแสง” ไปสิ้นสุดตรง “หน้าลานหมู่บ้านชนเผ่า” ทางจังหวัดได้จัดพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงให้ประชาชนกับนักท่องเที่ยวได้เลือกชมตามความชอบได้อย่างใกล้ชิด

 

นักท่องเที่ยวที่จะเข้าร่วมชมไฮไลต์ “ไหลเรือไฟโบราณ” ของแต่ละชุมชน แนะนำให้แสกนคิวอาร์โค้ดอก่อนเพราะมีข้อมูลกิจกรรมในงานทั้งหมด รวมถึงมีระบบกระจายเสียงเพื่อบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเรือไฟที่ไหลแต่ละลำ

ส่วน “กิจกรรมการแสดง” แต่ละวัน จะได้ชม การประกอบพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์ กิจกรรมการประกวด TO BE NUMBER  การประกวดร้องเพลง การเดินแบบผ้าไทย การแสดงสินค้าอาหารชุมชน และการจำหน่ายสินค้าโอท็อปของสินค้าชุมชนต่าง ๆ ทั่วนครพนม

 

เที่ยวเมืองไทยในเทศกาลประเพณีเก่าแก่ “ไหลเรือไฟนครพนม” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมด้วยช่วยกันนำการท่องเที่ยวมาเป็นเครื่องมือฟื้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้กลับมาสดใสยั่งยืน

 

สุขภาพ - 5 วิธีบริโภคผักสดปลอดภัย+เลี่ยงสารอันตรายในผักผลไม้

 

ผักสดที่วางขายตามท้องตลาด ส่วนใหญ่จะมีสารพิษของสารเคมีตกค้างอยู่ ซึ่งสารพิษจะเกาะกับผิวบางส่วนจะแทรกซึมเข้าในเนื้อเยื่อของผัก ไม่สามารถมองเห็นสารพิษที่ติดมากับผักผลไม้ด้วยตาเปล่า ดังนั้นเมื่อเราซื้อผักมาแล้ว ก็ต้องล้างให้สะอาด เพื่อชะล้างสารเคมีที่ตกค้าง

 

แนะนำทำ“5 วิธีบริโภคผักให้ปลอดภัย”

 

1.ล้างผักด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง เพื่อชะล้างสารเคมีตกค้าง

2.แช่ผักและผลไม้ในน้ำยาล้างผัก และล้างน้ำยาให้หมดด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง

3.ผักที่ปอกเปลือกได้ ควรล้างด้วยน้ำให้สะอาดก่อนปอกเปลือก

4.การต้มผักแล้วเทน้ำทิ้งไป จะช่วยลดปริมาณยาฆ่าแมลงในผักลงได้บ้าง

5.ถั่วแห้งทุกชนิดก่อนปรุงอาหารควรล้างด้วยน้ำสะอาด ถ้าเป็นอาหารที่ต้องต้ม ควรทิ้งน้ำต้มครั้งแรกเพื่อให้ยาฆ่าแมลงที่ตกค้างที่ผิวนอกของเมล็ดถั่วหลุดไปได้มากที่สุด

 

ส่วนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แนะเลี่ยงอันตรายโดยล้างผักสดด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง 1.วิธีหลีกเลี่ยงอันตรายจากยาฆ่าแมลง 2.เลือกซื้อหรือบริโภคผักที่มีรูพรุนและเลือกทานผักใบมากกว่าผักหัว เพราะผักหัวจะสะสมสารพิษไว้มากกว่า เนื่องจากในผักและผลไม้ ซึ่งมักพบวัตถุดิบที่นำมาปรุงและบริโภคกับส้มตำ น้ำพริก เช่น ถั่วฝักยาว มะนาว กะหล่ำปลี พริกขี้หนู มะละกอ และมะเขือเทศ ผักสลัด มีผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอหากได้รับสารเคมีเหล่านี้ในปริมาณมาก

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก -“สุวรรณภูมิ”โชว์ครบ16ปีมีผู้โดยสาร700ล้านคนปี’65เพิ่ม203%

 

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.”เปิดเผยว่า ในโอกาสสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เปิดเผยใช้งานครบ 16 ปี เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565  โดยเปิดมาตั้งแต่28 กันยายน 2549 มีผู้โดยสารใช้บริการรวมทั้งหมด 709.25 ล้านคน ด้วยปริมาณเที่ยวบินรวม 4.45 ล้านเที่ย ปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศรวม 19.82 ล้านตัน

 

ตลอด 16 ปี สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ได้พัฒนาไม่หยุดยั้ง ร่วมพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ให้บริการเคียงข้างผู้โดยสาร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการบิน การท่องเที่ยวของประเทศ และมุ่งมั่นทำหน้าที่ต้อนรับผู้มาเยือนจากทั่วโลก ด้วยรอยยิ้มและบริการอย่างปลอดภัยได้มาตรฐานสากล พร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 17 อย่างมีคุณภาพ ด้วยบริการที่ดีต่อเนื่องครบวงจร

 

สำหรับสถานการณ์หลังจากทั่วโลกเริ่มผ่านพ้นวิกตโควิด-19 เปิดประเทศตามปกติแล้ว ปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิกลับมาบริการผู้โดยสารการเดินทางเข้าออกประเทศมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เปรียบเทียบผลการดำเนินปีงบประมาณ 2565 กับปี 2564 เริ่มตุลาคม 2564 - สิงหาคม 2565 มีเที่ยวบินรวม 168,421 เที่ยว เพิ่มขึ้น 58.36 % รองรับผู้โดยสารใช้บริการรวม 17.52 ล้านคน เพิ่มขึ้น 203.76 % มีปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 1.11 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14.99 %

 

 

ขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมรองรับปริมาณผู้โดยสารและการจราจรทางอากาศฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติหลังโควิด ตอนนี้ทำได้ตามแผนพัฒนาเฟส 2 ในการเพิ่มศักยภาพการองรับผู้โดยสารจากปีละ 45 เป็น 60 ล้านคน

ส่วนงานพัฒนา โครงการที่ 1 การก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ตอนนี้งานระบบสาธารณูปโภคภายในอาคาร และอีกหลายระบบ อยู่ระหว่างทดสอบการใช้งานจริงเพื่อเตรียมเปิดให้บริการภายในปี 2566

 

โครงการที่ ก่อสร้างทางวิ่งหรือรันเวย์ เส้นที่ 3 ขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 41.72 % จะทำได้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ 40.76 % เดิมจะต้องแล้วเสร็จปี 2566

เป้าหมายปี 2567 จะทำให้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิกลับมารองรับปริมาณการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 68 เป็น 94 เที่ยว/ชั่วโมง

 

ข่าวที่สอง -แอร์เอเชียคว้าแชมป์โลก13สมัยแจกโปรตั๋ว13จุด313บาท

 

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แคปปิตอล เอ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้กลุ่มแอร์เอเชียสายการบินโลว์คอสต์ชั้นนำสามารถคว้ารางวัล “สายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก “จาก Skytrax World Airline Awards 2022 ติดต่อกันเป็นปีที่ 13 ถือเป็นรางวัลเกียรติยศมาตรฐานระดับโลกของอุตสาหกรรมการบิน เป็นผลมาจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้บริการกว่า 14.3 ล้านคน จาก 100 สัญชาติ ทั้งหมด 300 สายการบิน ระหว่างกันยายน 2564 ถึงเดือนสิงหาคม 2565

ครั้งนี้ถือพิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะผู้โดยสารที่ลงคะแนนยังคงสนับสนุนแอร์เอเชียอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เมื่อหลายปีก่อนอุตสาหกรรมการบินต้องเผชิญสถานการณ์ยากลำบากจากสถานการณ์โควิด-19 จนแทบจะไม่มีเที่ยวบินให้บริการ เมื่อมีโอกาสครั้งใหม่นี้แอร์เอเชียจะเพิ่มแข็งแกร่ง มุ่งมั่นเเละพยายามบริการผู้โดยสารอย่างเต็มที่ฟื้นธุรกิจให้กลับมาคึกคักโดยเร็ว

 

คาเรน ชาน ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการพาณิชย์ กลุ่มแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ทันทีที่แอร์เอเชียคว้ารางวัลสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 13  จาก SKYTRAX ประจำปี 2022 ได้ฉลองด้วยการทำโปรโมชั่นที่ใหญ่ที่สุดราคาเริ่มต้น 313 บาท/เที่ยว  จำนวน 13 ล้านที่นั่ง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มสายการบินราคาประหยัดของโลก  โดยเปิดให้จองซื้อได้ตั้งแต่- 2 ตุลาคม 2565 ซื้อแล้วนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่ 1 มกราคม - 28 ตุลาคม 2566  รวม 13 เส้นทาง ประกอบด้วย

 

“เส้นทางบินภายในประเทศ” ใช้รหัสเที่ยวบิน FD มีจำนวนจำกัด ทำโปรโมชั่นบินตรง ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) สู่ปลาย กระบี่ ภูเก็ต และกรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) สู่ปลายทาง เชียงใหม่ สกลนคร นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต

“เส้นทางบินระยะใกล้ต่างประเทศ” ได้แก่ ปีนัง (มาเลเซีย เมือง ญาจาง (เวียดนาม) หลวงพระบาง (สปป.ลาว)  พนมเปญ (กัมพูชา มัณฑะเลย์ กับ ย่างกุ้ง (เมียนมา)  

 

“เส้นทางบินระยะไกล” ใช้รหัสเที่ยวบิน XJ ร่วมโปรโมชั่นด้วย ได้แก่ ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) สู่ปลายทาง กรุงโซล (เกาหลี) 3 เมืองใหญ่ในญี่ปุ่น คือ โตเกียว โอซาก้า ซัปโปโร และเมลเบิร์น (ออสเตรเลีย) ราคาเริ่มต้น 2,980 บาท

ขณะเดียวกันแอร์เอเชียยังได้เปิดโปรโมชั่นสุดคุ้ม “ตั๋วที่นั่งพรีเมี่ยมและแฟลตเบด” ราคาเริ่มต้น 11,190 บาท/เที่ยว

 

“แอร์เอเชีย” รายงานว่าตั้งแต่เริ่มเปิดบินได้ให้บริการแก่ผู้โดยสารไปแล้วกว่า 700 ล้านคน ปัจจุบันร่วมกับพันธมิตรทุกฝ่ายฟื้นธุรกิจกลับมายืนอย่างแข็งแกร่ง พร้อมบริการให้ดีมากขึ้นต่อไปรองรับผู้โดยสารปี 2565 มีแนวโน้มจะเดินทางโดยแอร์เอเชียจำนวนกว่า 1 ล้านคน

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.