ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.นครพนมเปิดโมเดลเมืองรองสู่เมืองหลักปี2567


 นางสาวเสาวนีย์ คนกล้า

ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม

ททท.เปิดโมเดล“นครพนม”เมืองรองสู่เมืองหลักปีมังกร67

ขายRestinationเมืองพักผ่อน3ที่สุด”พระธาตุ/สะพาน/วิวโขง”

บูมตรุษจีน3จังหวัดสนุก-4เดือนแรกอัดฉีดเที่ยว6งานใหญ่

คิงเพาเวอร์”ชวนฉลองตรุษจีนปังทุกกิจกรรม10-18 ก.พ.67

คิงเพาเวอร์รางน้ำแจก“สมบูรณ์/มั่งคั่งมั่งมี/สุขมงคล/สมหวัง”

รับเลย!ช้อปมั่งคั่งโชคมั่งมีแวะมาที่คิงเพาเวอร์รับโชค3ชั้น

ผู้ว่าฯททท.ลุยตลาดฮอกไกโดญี่ปุ่นดึงแอร์ไลน์เปิดบินปี’67

บางจากต่อยอดปี67มิติใหม่โมเดลนักกีฬาไทยไร้คาร์บอน

สุขทันทีเที่ยวตราดพายซับดูพระจมน้ำ/เที่ยวกินอาหารถิ่น

แก้โรคกระดูกพรุนด้วยวิธีออกกำลัง-เลิก“คาเฟอีน/กินเค็ม”

“สุดาวรรณ-ฑูตหานจื้อเฉียง”อวยพรตรุษฉลอง2โอกาสดีปี67

บันยันกรุ๊ปทุ่ม2พันล้านดอลล์เปิดลากูน่าเลคแลนด์ภูเก็ต

วันเสาร์ที่  10 กุมภาพันธ์ 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #ทททนครพนม  #จังหวัดสนุก #สุขทันทีที่เที่ยวตราด #เสาวนีย์คนกล้า

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/q6IoVA0pcW/?mibextid=2JQ9oc

 


ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “เสาวนีย์ คนกล้า” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม ปี’67 รับโจทย์ท้าทาย “นครพนม” โมเดลต้นแบบเมืองรองสู่เมืองหลัก ชูคอนเซปต์ Resination :Rest +Destination “เมืองแห่งการพักผ่อน”  และ 3 สวยที่สุด “พระธาตุสวยสุด-สะพานข้ามโขง-วิวทิวทัศน์” 4 เดือนแรก “ม.ค.-เม.ย.” กระหน่ำจัดมหกรรมกระตุ้นท่องเที่ยว จังหวัดสนุก “นครพนม-สกลนคร-มุกดาหาร” 6 งานใหญ่ ห้ามพลาด “นมัสการองค์พระธาตุพนม-สงกรานต์ริมโขง” จัดเต็ม 365 วัน 5 ไฮไลต์  ผนวกซอฟท์ เพาเวอร์ “Faith-Fashion3-Food

นางสาวเสาวนีย์ คนกล้า ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่ไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่งจะต้องดูแล 3 จังหวัดสนุก “นครพนม-สกลนคร-มุกดาหาร” มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ปีนี้ทาง “นครพนม” เป็นโมเดลนำร่องยกระดับเมืองรองสู่เมืองหลัก แต่ละปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นจากกิจกรรมการท่องเที่ยวงานเทศกาลคริสต์ เคาน์ดาวน์ ระหว่างกุมภาพันธ์-เมษายนนี้ ไฮไลต์การท่องเที่ยว 6 งาน เริ่ม งานที่ 1 จัดประจำทุกปี น้ำใจไทยสกล งานกาชาด จังหวัดสกลนคร ตอนนี้กำลังมีงานที่ 2 ตรุษจีน มีความโดดเด่นประดับตกแต่งด้วยโคมสีแดงต่างกัน ด้วยเชื้อชาติจีน เวียดนาม ลาว อาศัยอยู่ร่วมกัน

 

“งานตรุษจีน” ปีมังกร 2567 ทุกจังหวัดสนุกพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวนำโดย “ซินจ่าวมุก” วันที่ 8-11 กุมภาพันธ์  ที่มุกดาหาร “ตรุษไทสกล” วันที่ 10-12 กุมภาพันธ์  ที่ลานคนเมือง สกลนคร “ตรุษจีน : ไทย-จีน-เวียดนาม” ที่นครพนม จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีดีงามระหว่างชาวไทยเชื้อสายจีนกับเวียดนาม ทำบุญฉลองวันขึ้นปีใหม่แบบจีน พร้อมประดับตกแต่งเมืองด้วยแสงไฟ โคมไฟจีนนครพนม

 

งานที่ 3 นมัสการพระธาตุพนม จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-25 กุมภาพันธ์ นี้ เชิญชวนลูกพระธาตุพนมร่วมงานบุญเดือน 3 ที่วัดพระธาตุพนม อำเภอธาตุพนม นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมกิจกรรมบุญ ได้แก่ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ร่วมขบวนแห่อันเชิญพระอุปคุตจากริมแม่น้ำโขง การถวายผ้าห่มพระธาตุพนมตักบาตรคู่อายุ ถวายข้าวพีชภาค เสียค่าหัว พิธีเจริญพระพุทธมนต์การแสดงพระธรรมเทศนาและพิธีเวียนเทียน การออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง และการแสดงมหรสพสมโภชตลอดงาน 9 วัน 9 คืน

งานที่ 4 มหกรรมมูนมังอีสาน “สกลม่วนซื่น” วันที่ 19-22 กุมภาพันธ์ นี้ บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร ไฮไลต์ธีม “สกลมาคราฟท์”

งานที่ 5 การท่องเที่ยว 2 แผ่นดิน จัดสนุกสนานด้วยการใช้ สองล้อสองน่องท่องแผ่นดิน จัดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปั่นจากมุกดาหารไปสะหวันเขต สปป.ลาว และไฮไลต์งานแฮกหมาน ตลาดชุมชน อาหารถิ่น มีเวทีการแสดงของชาวชาติพันธุ์มุกดาหาร ส่วนสกลนครก็มีความโดดเด่นของไทยโซ่ก็จัดกิจกรรมในลักษณะใกล้เคียงกัน

 

งานที่ 6 ประเพณีสงกรานต์ ถนนข้าวปุ้น นครพนม สรงน้ำตามสถานที่ท่องเที่ยวและวัดสำคัญ ๆ รวมทั้งสงกรานต์พระธาตุเชิงชุม สกลนคร สรงน้ำพระใหญ่วัดพระพุทธบาทภูมโนรมย์ มุกดาหาร

 

ผอ.เสาวนีย์ กล่าวว่า ปี 2567 นครพนมจะเป็นโมเดลในภูมิภาคภาคอีสานที่จะเป็นต้นแบบ “เมืองรองสู่เมืองหลัก” ซึ่งจะใช้คอนเซ็ปต์ Resination :Rest +Destination อันหมายถึง “เมืองแห่งการพักผ่อน” ซึ่งเป็นมากกว่าการมาท่องเที่ยวคือ เมื่อรู้สึกเหนื่อยก็ให้แวะมาพักนครพนมได้ โดยมีแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว 3 ที่สุด ได้แก่ พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่สุด สวยที่สุดสะพานข้ามแม่น้ำโขงสวยที่สุด วิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขงสวยที่สุด รวมทั้งยังมีพลังซอฟท์ เพาเวอร์ ครบถ้วน เพื่อกระจายรายได้เข้าสู่เมืองรอง เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มความถี่ได้มากที่สุด

 

ขณะที่ “365 วัน มหัศจรรย์เที่ยวนครพนม” พร้อมนำเสนอแบบจัดเต็มทุกมิติ เพื่อให้เป็นจังหวัดสนุก นครพนม สกลนคร มุกดาหาร เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวเดินทางมาได้ทุกวัน ด้วยแม่เหล็กดึงดูด 5 ไฮไลต์ ดังนี้

 

ไฮไลต์ที่ 1 กิจกรรมส่งเสริมอัตลักษณ์โดยเข้าไปร่วมดำเนินการต่อเนื่องกับทาง 3 จังหวัด พร้อมทั้งทำประชาสัมพันธ์ เพิ่มวันพักค้างคืน และใช้จ่ายเงินมากขึ้น

 

ไฮไลต์ที่ 2 ร่วมผลักดันการคมนาคมเข้าถึง ตั้งแต่การเพิ่มเที่ยวบินให้มีความถี่มากขึ้นต่อเนื่อง เพราะขณะนี้สนามบินนครพนมมีผู้โดยสารเต็มเกือบทุกเที่ยวบิน และรถขนส่งจากสนามบินไปยังแหล่งท่องเที่ยว อย่างสะดวกสบายกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเพิ่มมากขึ้น เพราะทุกวันนี้จะมีคนในภาคอีสาน กรุงเทพฯ สามารถกระจายจากนครพนมไปยังจังหวัดใกล้เคียงด้วย

 

ไฮไลต์ที่ 3 สินค้าต่าง ๆ จุดเด่นด้วยหัตถกรรม เครื่องเงิน ผ้าคราม เสื่อกก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมายในทุกกลุ่ม อย่าง Art & Craft ร้านคาเฟ่ กิจกรรม D.I.Y. และอื่น ๆ

 

ไฮไลต์ที่ 4 เส้นทางการท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ ดึงดูดความสนใจ เช่น ถนนคนเดินริมแม่น้ำโขง นครพนม ตลาดอินโดจีน มุกดาหาร

 

ไฮไลต์ที่ 5 กิจกรรมงานประเพณีเด่น ๆ เช่น รำบวงสรวงพญาศรีสัตนนาคราช วันที่ 7 เดือน 7 ส่วนการรำบวงสรวงพระธาตุเชิงชุม เพิ่งจัดเสร็จไปเมื่อต้นปีเดือนมกราคม 2567 และ “ประเพณีไหลเรือไฟ” ปี 2567 จะยกระดับเป็นกิจกรรมระดับนานาชาติ ซึ่ง ททท.ประชาสัมพันธ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

 

ใน 365 วัน ททท.นครพนม ต้องการจะกระตุ้นแรง ๆ ช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน 2567 โดยจะต้องสร้างสรรค์กิจกรรมพิเศษ อย่างการจัดงาน “วิจิตรนครพนม” ไฟสวยงาม สามารถช่วยดึงนักท่องเที่ยวทั่วประเทศหลั่งไหลเข้ามาใช้จ่ายเงินได้เป็นจำนวนมากมีเสียงเรียกร้องให้จัดต่อเนื่องปีนี้ด้วย

 

ขณะที่ “เส้นทางสายศรัทธา สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์” ทางจังหวัดสนุกมีครบทั้ง “ศาสนาพุทธ” โดยมีองค์พระธาตุพนม พระธาตุเชิงชุม ผนวกกับเส้นทางไหว้พระธาตุวันเกิดอีก 8 พระธาตุ ต่อด้วยเส้นทางตามความเชื่อการเดินทางไหว้พญาศรีสัตนาคราช  พญานาคสามพิภพ จ.มุกดาหาร มีพญานาคดินที่แก่งกะเบา พญานาคน้ำสะพานมิตรภาพไทย-ลาว พญานาคฟ้าสีเขียวสวยงามวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ทางด้าน “คริสต์ศาสนา” งานแห่ดาววัดสองคอน สกลนคร มีนักบุญ 7 ท่าน กับวัดนักบุญอนา นครพนม สถาปัตยกรรมสวยงาม และสกลนครก็มีโบสถ์คริสต์ดึงดูดให้คนเข้าไปเยี่ยมชมด้วย

 

ผอ.เสาวนีย์ กล่าวว่า นครพนมมี ซอฟท์ เพาเวอร์ 3F ได้แก่ F1 :Faith เส้นทางแห่งศรัทธา F2 :Fashion แฟชั่นผ้าพื้นเมือง ผ้าฝ่าย ผ้าย้อมคราม ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะ 1.สกลนครจะจัดเทศกาลให้คล้ายกับเมืองคาน ฝรั่งเศส โดยใช้ชื่อ “เทศกาลเมืองคราม สกลนคร” มีหมู่บ้านทำผ้าย้อมครามโดดเด่นชัดเจน 2.บ้านนาหว้า นครพนม มีเสื่อกก และได้นำเสนอผลิตภัณฑ์มอบให้ผู้เข้าร่วมงานประชุม APEC ASIA 2023 ด้วย 3.การแต่งกายด้วยผ้าของชุมชนชาติพันธุ์เก่าแก่ใน 3 จังหวัด มีหมู่บ้านรักษาการแต่งงานได้อย่างเหนียวแน่น F3 :Food มีอาหารและเครื่องดื่มขึ้นชื่อย่าง ข้าวฮางสินค้าGI เนื้อโพนยางสกลนคร น้ำหมากเม่า ข้าวปั้นเวียดนามที่มุกดาหาร และอาหารชนเผ่า เช่น เมี่ยงตาสวดของชุมชนไทยแสง จ.นครพนม หรือ พลุ-อา-เลี้ยง หนึ่งปีมีให้รับประทานได้เพียงครั้งเดียวเป็นการนำปูนามาย่างปรุงเครื่องเทศ

 

ปี 2567 ในนครพนมจะได้เห็นการลงทุนใหม่รองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยว ได้แก่ การเปิดเส้นทางคมนาคมใหม่ ๆ การเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินนครพนมจะแล้วเสร็จเปิดบริการประมาณต้นปี 2568 ขยายโรงแรมใหม่ ๆ และทางเทศบาลเมืองเตรียมความพร้อมด้านความสะดวก ปลอดภัย ขยะ ระบบบำบัดน้ำเสีย ทางจังหวัดบูรณาการร่วมกันทั้งหมด เพื่อเดินหน้าสู่เมืองหลักได้หารือร่วมกันเพื่อเสนอที่ประชุมใหญ่พิจารณาแนวทางปูพรมสู่ความเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์”ชวนฉลองตรุษจีนปังทุกกิจกรรม10-18 ก.พ.67

 

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า คิงเพาเวอร์ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรุงเทพมหานคร และพันธมิตร เปิดแล้วมหกรรมมหามงคลเฉลิมฉลองตรุษจีนต้อนรับปีมังกรที่จะนำทุกคนก้าวทะยานสู่เทศกาลแห่งการเริ่มต้นใหม่จัดสุดยิ่งใหญ่ “KING POWER CHINESE NEW YEAR 2024 POWER YOUR LUCK, POWER YOUR LIFE” ระหว่างวันนี้ -18 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เนรมิตอาณาจักรมังกร ส่งมอบพลังของมังกร ที่นำพาแต่ความโชคดี ความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่งมั่งมี สุขมงคล และสมหวัง ให้แก่ลูกค้านักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ นำเสนอกิจกรรมสุดพิเศษกิน เที่ยว ขอพร สนุกกับคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง พร้อมโปรโมชั่นคัดสรรมาเพื่อความโชคดี

 

 

นายอัยยวัฒน์ กล่าวว่า การจัดงานฉลองตรุษจีนปีนี้กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ตอกย้ำให้ “คิง เพาเวอร์” เป็นจุดหมายปลายทางต้อนรับลูกค้านักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ ร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย และพัฒนาย่านรางน้ำให้เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ  จึงใช้โอกาสงานเทศกาลตรุษจีนต่อยอด 3 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 ส่งเสริมพลังซอฟท์ เพาเวอร์ ให้ผู้คนได้รู้จักวัฒนธรรมและประเพณีไทย-จีน ลิ้มรสอาหารไทยแสนอร่อย  โครงการที่ 2 สนับสนุนไทยครองใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกหรือ Top of mind โครงการที่ 3 พัฒนาย่านรางน้ำต่อยอดสร้างชุมชนในกรุงเทพมหานครแห่งใหม่เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวในอนาคตของตลาดนานาชาติ

 

วันเสาร์ที่ 10 และวันอาทิตย์ที่ 11  กุมภาพันธ์ นี้ เตรียมปิดซอยรางน้ำแห่งมังกรอย่างยิ่งใหญ่เวลา 17.30 น. จะได้พบกับศิลปินดังนำโดย หยิ่น-อานันท์ ว่อง พร้อโชว์พิเศษจาก ชามุก-สุชานันท์ มหาพรหมวัน วันที่ 11 กุมภาพันธ์  พบกับ นนท์-ธนนท์ จำเริญ ตื่นตาตื่นใจไปกับโชว์สุดตระการตาทั้งการแสดงดนตรีและการแสดงจากแดนมังกรมากมาย   

 

ต่อเนื่องจากเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2567 คิง เพาเวอร์ ได้จัดพิธีเปิดเทศกาลตรุษจีน เวลา 17.00 น. ที่ฟาวน์เท่น สแควร์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดร่วมกับ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยมีขบวนเชิดมังกรจัดเต็มทั้งซอยรางน้ำเป็นครั้งแรกความยาวถึง 36  เมตร

 

โดยได้ปิดทั้งซอยรางน้ำจัดขบวนแห่มังกรเต็มรูปแบบครั้งแรก โดยมีศิลปินดังนำทีมอย่าง พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร, เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง, ต้าห์อู๋-พิทยา แซ่ฉั่ว และออฟโรด-กันตภณ จินดาทวีผล

 

ส่วนกิจกรรมฉลองตรุษจีนปีมังกร ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดยาว 18 วัน เริ่มต้นด้วยชวนมาสักการะองค์เทพ และมหกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ระหว่าง 1-18 กุมภาพันธ์ 2567 ทุกวัน 10.00-21.00 น. ที่บริเวณ คราวน์ เอเทรียม จากนั้นเพิ่มไฮไลท์ ระหว่าง  6-18 กุมภาพันธ์ ระหว่าง 12.00-21.00 น. เปิดพื้นที่ฟาวน์เท่น สแควร์ บริการอาหารการกิน ท่องเที่ยว ขอพร สนุกกับคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์รางน้ำแจก“สมบูรณ์/มั่งคั่งมั่งมี/สุขมงคล/สมหวัง”

 

คิง เพาเวอร์ เตรียมมอบความสุขไว้ในงาน “KING POWER CHINESE NEW YEAR 2024 POWER YOUR LUCK, POWER YOUR LIFE” วันนี้-18 กุมภาพันธ์ 2567 มาที่ “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” ร่วมทะยานสู่ความโชคดี ฉลองพลังปีมังกร ปี 2567 เน้นคอนเซ็ปต์ HEALTH-WEALTH-LUCK -LOVEให้มอบพลังมังกรให้ทุกคนครบทั้ง ความอุดมสมบูรณ์-มั่งคั่งมั่งมี-สุขมงคล-สมหวัง

 

 

Health ทะยานสู่ความอุดมสมบูรณ์ “ลิ้มรสอาหารมงคลร้านดังกว่า 50 ร้าน” จากร้านอร่อยในตำนานการันตีโดยมิชลิน ไกด์ อย่างร้านตั้งใจอยู่ ตั้งใจย่าง หมูแดงมิชลิน MAZE Dining, Cross BKK, MOTT32 BANGKOK ข้าวขาหมูตรอกซุง ชานมไข่มุก Chaffeine กุ้ยช่ายสะพานหัน ฮ่องเต้กุ้งช่ายกรอบ ชาม ก๋วยเตี๋ยวเส้นคลุก  ที่ฟาวน์เท่น สแควร์ มาได้ตลอดตั้งแต่วันนี้ -18 กุมภาพันธ์ 2567

 

Wealth” ทะยานสู่ความมั่งคั่ง มั่งมี ช้อปรับโชคดี ฉลองพลังปีมังกร แจก 3 อย่าง อั่งเปา ทริปเที่ยวแดนมังกร และทองคำ ระหว่างวันนี้-11 กุมภาพันธ์ นี้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต อีกทั้งมากมายกับกิจกรรมสุดมั่งคั่ง เพียงสแกน AR ตามหามังกรแห่งความโชคดีเพื่อลุ้นอั่งเปาสุดเฮง พร้อมรับรางวัลสุดพิเศษจากแบรนด์ดังกว่า 7,000 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 1,500,000 บาท ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำแจกมาตั้งแต่ 1-18 กุมภาพันธ์ 2567  

 

LUCK ทะยานสู่ความสุขมงคล สุขมงคลที่ 1 รับโชคเสริมบุญบารมี สักการะองค์เทพนาจา และเทพมังกรเขียว ปีมังกรนี้ทุกคนต้องมาสักการะ สุขมงคลที่ 2 เซียมซีพลังมังกร สแกนเสี่ยงเซียมซีทำนายดวงปี 2567 ลุ้นอั่งเปาชิ้นใหญ่ และกิจกรรมถ่ายภาพลุ้นรับของรางวัลก่อนกลับบ้าน

 

LOVE ทะยานสู่ความสมหวัง ได้วันนี้-18 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พบกันในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ นี้ ปิดทั้งซอยรางน้ำ แห่ขบวนมังกรสุดยิ่งใหญ่ 17.30 น. – 20.00 น. นำโดย หยิ่น-อานันท์   วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้ พบกับ นนท์-ธนนท์ พร้อมการแสดงดนตรีและจากแดนมังกร

 

ข่าวที่ 3 รับเลย!ช้อปมั่งคั่งโชคมั่งมีที่คิงเพาเวอร์รับเลยโชค3ชั้น

 

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมฉลองตลอดเทศกาลตรุษจีน ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ  ลุ้นเลยรับโชคกับโปรโมชั่น “ช้อปมั่งคั่ง โชคมั่งมี” 3 ความโชคดีที่จะส่งมอบความสุขไม่รู้จบ ได้แก่

 

โชคดีที่ 1 รับทันทีอั่งเปาส่วนลด 2 ใบ รวมมูลค่า 8,000 บาท  โชคดีที่ 2 ลุ้นออกเดินทางสู่แดนมังกร ท่องเมืองมรดกโลก ลี่เจียง แชงกรีลา พิชิตภูเขาหิมะมังกรหยก รับคูปองลุ้นทันที 1 ใบ เมื่อช้อปครบทุก 8,000 บาท โชคดีที่ 3 ลุ้นมังกรทองคำ น้ำหนัก 1 บาท กับกิจกรรมสะสม Dragon Hunter พิเศษ! สมาชิกใหม่ คิง เพาเวอร์ SCARLET ในวันสมัครรับทองคําฟรี 1 สลึง เพียงช้อปครบ 80,000 บาทเท่านั้น

 

มาด่วนเฉลิมฉลองตรุษจีน “KING POWER CHINESE NEW YEAR 2024 POWER YOUR LUCK, POWER YOUR LIFE” ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เพื่อรับพลังความโชคดีได้ตลอดปีมังกร 2567

 

ข่าวที่ 4 ผู้ว่าฯททท.ลุยตลาดฮอกไกโดญี่ปุ่นดึงแอร์ไลน์เปิดบินปี’67

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า  ได้นำผู้บริหาร ททท.เดินทางไปพบปะกระชับความสัมพันธ์และหารือแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับจังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ได้การต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก Mr.Uramoto Motohito รองผู้ว่าราชการจังหวัดฮอกไกโด MR. Kouki MAEKAWA ผู้อำนวยการสำนักการท่าอากาศยานและการบินจังหวัดฮอกไกโด และ MS.Chikako GOTOU ผู้อำนวยการสำนักท่องเที่ยวจังหวัดฮอกไกโด รวมทั้งกล่าวขอบคุณญี่ปุ่นซึ่งก่อนหน้านี้ส่งเสริม ททท.ทำโครงการปรับและเพิ่มทักษะ หรือupskill reskill โดยให้โควตา ศึกษาดูงานตามพื้นที่ต่าง ๆ  

 

ไฮไลต์การหารือครั้งนี้ ททท.ได้ทำกิจกรรมหลัก 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่  1 แนวทางเพิ่มเส้นทางบินเชื่อมต่อระหว่างไทยกับญี่ปุ่น (connectivities) เปิดเส้นทางบินตรงและทางอ้อมไว้รองรับนักท่องเที่ยวของไทยกับจังหวัดฮอกไกโด มุ่งเพิ่มจำนวนที่นั่งผู้โดยสาร (seat capacities) ให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นสามารถเดินทางมาไทยเพิ่มมากขึ้นตลอดปี 2567  ส่วนผู้บริหารของจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งถือเป็นอีกเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยด้วย ประมินจากรายงานอัตราการเดินทางสู่เกาะฮอกไกโดเพิ่มขึ้นจากก่อนสถานการณ์โควิดหลายเท่า

 

เรื่องที่ 2 การพูดคุย Networking Talk with TAT อย่างเป็นกันเอง โดยได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ที่โรงแรม Keio Plaza Hotel เมืองซัปโปโร ฮอกไกโด พร้อมกับได้พบปะหารือร่วมกับพันธมิตรและสื่อมวลชนสำคัญในฮอกไกโด เพื่อวางแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในพื้นที่ฮอกไกโดฟื้นกลับมาเติบโตอีกครั้งภายหลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 มาได้แล้ว

 

ระหว่างงาน Networking Talk with TAT มีพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของญี่ปุ่นสนใจเข้าร่วมอย่างหลากหลาย ประกอบด้วย สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (JATA :Japan Association of Travel Agents) สาขาฮอกไกโด บริษัท Tour Wave จำกัด ผู้นำธรกิจเที่ยวรายใหญ่มีสาขาครอบคลุมพื้นที่ตอนเหนือของญี่ปุ่น (ประจำภูมิภาคฮอกไกโดและโทโฮขุ )  สายการบินโคเรียนแอร์ ของเกาหลี สายการบินอีวีเอแอร์ (ไต้หวัน) สถานีวิทยุ FM North Wave สถานีวิทยุรายใหญ่ที่ออกอากาศครอบคลุมทั่วพื้นที่เกาะฮอกไกโด ทุกคนแสดงความสนใจที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ ททท.เพื่อขยายการท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนระหว่างตลาดฮอกไกโด ญี่ปุ่น กับเมืองไทย 

 

ข่าวที่ 5 บางจากต่อยอดปี67มิติใหม่โมเดลนักกีฬาไทยไร้คาร์บอน

 

          นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ร่วมกับผู้บริหารบริษัทฯ ต้อนรับทีมนักกีฬาแบดมินตันระดับโลกของไทยจากโรงเรียนบ้านทองหยอด ยืนยันปี 2567 ทางบางจากฯ ยังสนับสนุนนักกีฬาบ้านทองหยอดอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 คน ทั้งด้านกีฬาแบดมินตันและการชดเชยคาร์บอนในการใช้ชีวิตประจำวัน การเดินทางไปแข่งขันแบดมินตันรายการต่าง ๆ รวมถึงมหกรรมการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส เดือนกรกฎาคม 2567

 

ปีนี้บางจากฯ ยังได้ร่วมรณรงค์ให้ความรู้และส่งเสริมเรื่องการจัดการขยะในโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน เข้ามามีส่วนร่วมช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม “ลด ละ เริ่ม - ลด รอยเท้าคาร์บอน ละ การสร้างภาระต่อสิ่งแวดล้อม และ เริ่ม ได้แล้วตั้งแต่วันนี้และทุก ๆ วัน” เพื่อร่วมบรรเทาวิกฤติภูมิอากาศอันเป็นประเด็นสำคัญของโลกที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน

 

ส่วนทีมนักกีฬาที่เข้าพบกับผู้บริหารบางจาก นำโดย “โค้ชเป้-ภัททพล เงินศรีสุข” กับนักกีฬาระดับโลกทั้ง 3 คน ได้แก่ เมย์ - รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิง อันดับ 8 ของโลก วิว - กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชาย อันดับ 8 ของโลก และ จิว - ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ นักแบดมินตันหญิง อันดับ 38 ของโลก ได้เข้าพบเพื่อสวัสดีปีใหม่ 2567 และขอบคุณบางจากฯ ที่ให้การสนับสนุนโรงเรียนบ้านทองหยอดต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 เริ่มตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา

 

นายชัยวัฒน์ได้กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จของนักกีฬาตลอดปี 2566 ทั้ง 3 คน ซึ่งบางจากฯ ได้สนับสนุนให้เป็น “นักกีฬาไร้คาร์บอน” กลุ่มแรกของไทย ผ่านการชดเชยคาร์บอนฟรุตพริ้นท์ส่วนบุคคลที่เกิดจากการเดินทางไปแข่งขันในประเทศต่าง ๆ และการใช้ชีวิตประจำวันตลอดทั้งปี ด้วยคาร์บอนเครดิตผ่านการซื้อขายใน Carbon Markets Club ได้จำนวนถึง 111 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ นับเป็นต้นแบบของนักกีฬาที่มีผลประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการใช้ชีวิตประจำวันและภารกิจต่าง ๆ และชดเชยให้การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ส่งต่อแรงบันดาลใจให้สังคมในการมีส่วนร่วมคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไป

 

            ช่วงที่ 2 เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ไปได้ทุกวัน “จังหวัดตราด” เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม นี้ ชวนไปเที่ยวอันซีนแสนสบายกระเป๋า 2 กิจกรรม พายซับบอร์ดไปชม “พระดำน้ำ” อ่างเก็บน้ำเขาระกำ และ “เที่ยวกินอาหารถิ่นตราด” เพิ่มประสบการณ์เมนูสับปะรดสีทอง ลดแบบไม่ลังเล 150 บาท แล้วฟัง “แก้โรคกระดูกพรุนด้วยการออกกำลังกาย” เกาะติดข่าวสุดฮ็อต ข่าวแรก “สุดาวรรณ-ฑูตหานจี้เฉียง” ร่วมอวยพรตรุษจีนฉลองในไทย 2 โอกาส และข่าวที่สอง “บันยันกรุ๊ปเปิดเมกะโปรเจกต์ลากูน่าเลคแลนด์” 2,000 ล้านดอลล์

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยวตราดพายซับดูพระจมน้ำ/เที่ยวกินอาหารถิ่น

กุมภาพันธ์ 2567 เป็นอีกเดือนแห่งการเดินทาง ที่จะชวนไป “สุขทันทีเที่ยวจังหวัดตราด” ความสุขเลือกได้ทุกที่ในภาคตะวันออก กับ2 กิจกรรม

 

กิจกรรมที่ 1 พายซับบอร์ดสุดอันซีนไปชม “พระจมน้ำ” หรือพระพุทธสิริภูวดลมงคลชัย ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ท้าทาย และตื่นตาตื่นใจ บางปีหากน้ำแห้งนักท่องเที่ยวสามารถลงเดินไปยังองค์พระได้ด้วย

 

“พระพุทธสิริภูวดลมงคลชัย” เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีขนาดสูงกว่า 5 เมตร ตั้งอยู่ กลางอ่างเก็บน้ำเขาระกำ เมื่อครั้งอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นสำนักสงฆ์เขาระกำได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้านมาก จึงพร้อมใจกันสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนได้สักการะอย่างกว้างขวาง

 

ต่อมากรมชลประทานต้องการเพิ่มพื้นที่ให้สามารถใช้น้ำมากขึ้น จึงได้ขยายพื้นที่กักเก็บน้ำออกไปทำให้บริเวณสำนักสงฆ์เขาระกำถูกน้ำท่วม จากนั้นเป็นต้นมา “พระพุทธสิริภูวดลมงคลชัย” จึงจมอยู่ใต้น้ำมาจนถึงปัจจุบัน

 ปีนี้ ททท. สำนักงานตราด จับมือชมรมซัพบอร์ด จังหวัดตราด และ SUP Aholic Trat จัดกิจกรรมชวนนักท่องเที่ยวสายพายซับบอร์ด มาสัมผัสประสบการณ์พายซัพในแหล่งท่องเที่ยวกลางอ่างเก็บน้ำเขาระกำ ทำเป็นโปรโมชั่นจองล่วงหน้าวันนี้ จนถึง 31 พฤษภาคม 2567 ในราคาเพียงคนละ 500 บาท

โดยจะรับเฉพาะนักท่องเที่ยวที่จองล่วงหน้าเท่านั้น โทรศัพท์จองได้ที่ 09 5782 2895, 08 6159 1924

 

กิจกรรมที่ 2 “เที่ยวกินอาหารถิ่นเมืองตราด” มีร้านอาหารทั่วจังหวัดตราดแห่เข้าร่วมโครงการนี้ พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวที่จะร่วมสนุกด้วยเริ่มตั้งแต่วันนี้กุมภาพันธ์ จนถึง 31 พฤษภาคม 2567 เพียงแค่สั่งเมนูอาหารถิ่น ขนมหวาน หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสม “สับปะรดตราดสีทอง” อย่างน้อย 2 เมนู ก็จะได้รับส่วนลดทันที 150 บาท เมื่อทานอาหารครบ 500 บาทขึ้นไป (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)  

 

ทาง ททท.สำนักงานตราด ได้นำผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ท ร้านกาแฟ จังหวัดตราด จัดกิจกรรม “เที่ยว-กิน อาหารถิ่นเมืองตราด” ชวนให้มาลิ้มรสอาหารถิ่นรสชาติจัดจ้าน เด่นชัด เป็นเอกลักษณ์แต่ละท้องถิ่น แนะนำให้ทดลองสั่งเมนู เช่น สะลอมาจู ปลาย่ำสวาท กุ้งฉิ้วเกาะช้าง ต้มส้มระกำ ต้มกระวานเมืองตราด น้ำพริกกุ้งแห้ง หมูชะมวง  ทะเลผัดพริกเกลือ ผัดเผ็ดกระวาน ผัดกะปิตราด (หมู/ไก่/ทะเล)  ก๋วยเตี๋ยวผัดปู ปลาทอดราดน้ำปลา และเมนูตามที่กำหนด นักท่องเที่ยวที่มาแบบก๊วนเล็ก ก๊วนใหญ่ มาเป็นคู่ เป็นครอบครัว ก็รับส่วนลดได้อย่างเท่าเทียม ด้วยการทำตามกติกาที่ร้านและโครงการนี้ระบุไว้ นั่นก็คือ

 

ขั้นตอนที่ 1 สั่งเมนูอาหารถิ่น ขนมหวานและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมสับปะรดตราดสีทอง จากเมนูที่กำหนอย่างน้อย 2 เมนู รับประทานครบ 500 บาทขึ้นไป (ราคาอาหารไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) รับส่วนลดทันที 150 บาท   

 

ขั้นตอนที่ 2 โพสต์รูปเมนูอาหารถิ่นลง Facebook หรือ Instagram พร้อม Check In ร้านอาหาร เปิดโพสต์เป็นสาธารณะ แล้วติดแฮชแทก #เที่ยวกินถิ่นตราด2567 #สุขทันทีที่เที่ยวตราด แล้วนำไปแสดงแก่ร้านอาหารเพื่อรับสิทธิ์ส่วนลด

 

ขั้นตอที่ 3 กิจกรรมนี้ ททท.ให้สิทธิ์เฉพาะนักท่องเที่ยวไทยที่ไม่ได้มีถิ่นที่อยู่ในจังหวัดตราด โดยยึดข้อมูลตามหน้าบัตรประชาชน โดยให้คนละ 1 สิทธิ์  กรณีเดินทางมาด้วยกันหลายคนสามารถใช้สิทธิ์ได้ตามจำนวนโดยไม่จำกัดร้านต่อวัน

 

ขั้นตอนที่ 4 ททท.จะดำเนินกิจกรรมไปจนกระทั่งเมื่อมีผู้มาใช้สิทธิ์เต็มจำนวนก็จะปิดโครงการก่อนวันสิ้นสุดกิจกรรม 31 พฤษภาคม 2567

 

นักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรม “เที่ยว-กิน อาหารถิ่นเมืองตราด” ไม่สามารถใช้สิทธิ์ร่วมกับโครงการอื่น ๆ ของรัฐได้ และจะต้องยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ร้านค้าที่ใช้บริการ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล และจังหวัดภูมิลำเนา เพื่อให้ ททท. ตรวจสอบใช้เป็นหลักฐานในการรับสิทธิ์ส่วนลด หาขอถอนความยินยอม ททท. ขอสงวนสิทธิยกเลิกให้ส่วนลดดังกล่าว สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวของ ททท. เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้ทาง https://www.tat.or.th/th/privacy-policy

 

สุขภาพ –แก้โรคกระดูกพรุนด้วยวิธีออกกำลัง-เลิก“คาเฟอีน/กินเค็ม

 

โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ แนะวิธีป้องกันโรคกระดูกพรุน โดยการออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า ไม่รับประทานอาหารรสเค็มจัด เน้นเพิ่มอาหารที่มีแคลเซียมสูง ช่วยห่างไกลจากโรคกระดูกพรุน

 

                    แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า ทางมูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ ความตระหนักถึงการดูแลรักษากระดูก ป้องกันการเป็นโรคกระดูกพรุนในอนาคต กลุ่มเสี่ยง คือ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป มีโอกาสเสี่ยงที่จะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุน และผู้หญิงที่หมดประจำเดือนก่อนอายุ 45 ปี ผู้ที่มีประวัติในครอบครัวเป็นกระดูกพรุน หรือ กระดูกหักจากภาวะกระดูกพรุน ผู้ที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มกาแฟ นั่งทำงานเป็นเวลานาน ขาดการออกกำลังกาย ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ธัยรอยด์ มะเร็ง ข้ออักเสบ รูมาตอยด์ ไต และโรคเลือด รวมถึงผู้ที่ใช้ยาประจำ เช่น ยากันชัก ยารักษาโรครูมาตอยด์ ยาลูกกลอนที่ผสมสเตียรอยด์ มีโอกาสเสี่ยงเช่นกัน

 

“โรคกระดูกพรุน” เป็นภาวะที่เนื้อกระดูกบางจากการสูญเสียแคลเซียม ทำให้กระดูกไม่แข็งแรง ผุกร่อน รับน้ำหนักได้ไม่ดี หากเกิดการบาดเจ็บ กระทบกระแทก หรือแค่ยกของหนักเพียงเล็กน้อยอาจทำให้กระดูกหักได้ง่าย อาการสำคัญของโรคกระดูกพรุน คือ ปวดตามกระดูกโดยเฉพาะกระดูกส่วนกลางที่รับน้ำหนัก เช่น กระดูกสันหลัง สะโพก รวมถึงข้อต่าง ๆ ต่อมาหลังจะโก่งค่อม ตัวเตี้ยลง เนื่องจากกระดูกสันหลังยุบตัวลง ทำให้ปวดหลังมาก เคลื่อนไหวตัวลำบาก

 

                    นายแพทย์อดิศักดิ์ งามขจรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ แนะนำ การป้องกันโรคกระดูกพรุนสามารถทำได้ดังนี้ การออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า ไม่ดื่มน้ำอัดลม เนื่องจากในน้ำอัดลมมีความเป็นกรดสูง ทำให้มวลกระดูกลดต่ำกว่าเกณฑ์ งดดื่มกาแฟ ไม่รับประทานอาหารรสเค็มจัด มีผลทำให้มวลกระดูกต่ำได้ รวมถึงการใช้ยาลูกกลอน และควรเพิ่มอาหารที่มีปริมาณแคลเซียมสูง เช่น นม ผลิดภัณฑ์นม ปลาตัวเล็กที่สามารถกินได้ทั้งกระดูก เนยแข็ง ผักใบเขียว รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตลอดจนใส่ใจดูแลสุขภาพ ทำให้ร่างกายห่างไกลจากโรคกระดูกพรุนได้

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –“สุดาวรรณ-ฑูตหานจื้อเฉียง”อวยพรตรุษฉลอง2โอกาสดีปี67

 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนในนามรัฐบาลไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกล่าวคำอวยพรเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 ให้พี่น้องชาวจีนทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลอง 2 โอกาสสำคัญ คือครบรอบ 49 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน และฉลองครบรอบ 20 ปี ความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. นายเชว่ เสี่ยวหัว ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน คณะผู้บริหาร ททท. และหน่วยงานต่าง ๆ  เข้าร่วมด้วย ควบคู่กับเปิดเทศกาลตรุษจีนประเทศไทย ประจำปี 2567 ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน กรุงเทพฯ

 

ทั้งไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นกันมาอย่างนาวนานทั้งทางด้านการค้า ศิลปกรรม และวัฒนธรรม การท่องเที่ยวซึ่งมีจีนเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องปี 2566 จำนวนกว่า 3.5 ล้านคน ปี 2567 การจัดเทศกาลตรุษจีนในไทยครั้งนี้ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งที่จัดนอกแผ่นดินจีน ซึ่งสำคัญต่อการส่งเสริมสานความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ให้ยืนยาวตลอดไป  

 

รมว.สุดาวรรณ กล่าวขอใช้โอกาสนี้อวยพรให้พี่น้องชาวไทยและชาวจีนที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศไทย และทั่วโลก มีความสุขความเจริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรง ร่ำรวยเงินทองและสมปรารถนาทุกประการ และขอขอบคุณรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ได้นำการแสดงทางวัฒนธรรมชุดพิเศษสวยงามหาชมได้ยากจากเขตปกครองตนเองซีจ้าง และเมืองฉวนโจ มณฑลฝูเจี้ยน มาร่วมเฉลิมฉลอง ถือเป็นของขวัญอันล้ำค่ามาร่วมสร้างความสุข ความประทับใจ และรอยยิ้มให้แก่พี่น้องชาวไทย

 

ปี 2567 กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้นำการแสดงทางวัฒนธรรมจาก 2 เมือง ได้แก่ การแสดงระบำ และดนตรี จากเขตปกครองตนเองซีจ้าง และเมืองฉวนโจว มณฑลฝูเจี้ยน  เข้าร่วมการแสดงแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ส่วนไทยได้จัดการแสดงชุด “อวยพรชัย มหามงคล” “จตุรทิศแสงสีสัน อัศจรรย์วิถีไทย” และ “นาฎกรรมมวยไทย” โดยมี ต่อ-ธนภพ  ลีรัตนขจร ศิลปินนักแสดงมาร่วมร้องเพลงบนเวทีวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567

 

ปี 2567 ททท. คาดการณ์ช่วงเทศกาลตรุษจีนไทยจะท่องเที่ยวจากตลาดต่างประเทศและในประเทศสร้างรายได้รวม 34,390 ล้านบาท เติบโต 30 % เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน เฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจีนคาดจะสร้างรายได้เข้าไทย 6,213 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 366 % เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน

 

สำหรับเทศกาลตรุษจีน ปี 2567 บริเวรย่านเยาวราช ททท. ได้ประดับตกแต่งไฟตั้งแต่ 1- 29 กุมภาพันธ์ 2567 ภายใต้แนวคิด “เฉลิมฉลอง ปีทองแห่งความรุ่งเรือง (The Golden of Celebration)” เพื่อสานความสัมพันธ์ทางการทูตอันยิ่งใหญ่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่าง 2 ประเทศ กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว ขยายวันพักและเพิ่มค่าใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน

 

ภายในงานมีไฮไลต์ “อุโมงค์มังกรทอง” ประดับและตกแต่งไฟฟ้าอย่างสวยงาม บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนเยาวราช พร้อมจัดการแสดง Projection Mapping ภายใต้เรื่องราวแห่งความเชื่อ ความศรัทธา ของคนไทยเชื้อสายจีน บริเวณถนนเยาวราช ระหว่าง 10-12 กุมภาพันธ์ 2567 และการแสดงศิลปวัฒนธรรมของนักแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน

 

รวมถึงทำบูธงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช วันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567 นำเสนอศาสตร์พยากรณ์หลายรูปแบบ เช่น อักษรมงคลพยากรณ์ ศาสตร์โหงวเฮ้ง นำโดยซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร ซินแสชื่อดังของเมืองไทย จัดกิจกรรม“เสริมมงคลชีวิตรับปีมังกรทอง กับ 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์” ได้แก่ เทียนฟ้ามูลนิธิ ศาลเจ้าไต้ฮงกง ศาลเจ้ากวนอูและเจ้าพ่อม้า ศาลเจ้าแม่ประดู่ และศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี้ยะ ท่องเที่ยวได้ต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้-29 กุมภาพันธ์ 2567

 

ข่าวที่สอง -บันยันกรุ๊ปทุ่ม2พันล้านดอลล์เปิดลากูน่าเลคแลนด์ภูเก็ต

 

 โฮ กวงปิง หรือเคพี โฮ ผู้ก่อตั้งและปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของเครือบริษัทบันยันกรุ๊ป เปิดเผยว่า ในฐานะผู้บุกเบิกการท่องเที่ยว และเจ้าของลากูน่า ภูเก็ต รีสอร์ท วางแผนธุรกิจปี 2567 เดินหน้าลงทุนมูลค่ารวมทั้งโครงการกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้เปิดตัวชุมชนไลฟ์สไสตล์นานาชาติแห่งใหม่ในภูเก็ตแบบครบวงจรขนาดใหญ่และโดดเด่นที่สุดในเอเชียชื่อโครงการ “ลากูน่า เลคแลนด์” ตั้งเป้าผลักดันให้พร้อมจะเป็นจุดหมายปลายทางศูนย์รวมที่อยู่อาศัยครบวงจรมากที่สุด เพราะนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างเดินทางเข้ามาเที่ยวภูเก็ต คาดการณ์อีก 5-10 ปีข้างหน้า จะสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นในภูเก็ตถึง 5,000 ยูนิต

 

เพื่อตอบรับความต้องการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เน้นสร้างความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโครงการอยู่ติดกับลากูน่า ภูเก็ต รองรับตลาด “กลุ่มครอบครัวทั่วโลก” เติบโตอย่างรวดเร็ว ช่วงวันหยุดหันมาเลือกบ้านอยู่อาศัยหลักมากขึ้น นอกจากบ้านพักตากอากาศส่วนตัวช่วงวันหยุดในภูเก็ต

 

ในโครงการ “ลากูน่า เลคแลนด์” มีพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางเมตร หรือประมาณ 700 ไร่ ราว 276 เอเคอร์ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนพฤกษศาสตร์ สวนสาธารณะ ป่าฝน ทะเลสาบเงียบสงบ และเนินเขา ตั้งเป้าพัฒนาให้เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยส่วนตัวใหญ่ที่สุดในภูเก็ต รองรับตลาดลูกค้าที่แสวงหาไลฟ์สไตล์คุณภาพสูงที่ยังมีความสมดุลตามธรรมชาติอยู่ครบถ้วน โดยมีพื้นที่เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินเท้า สะพาน เส้นทางปั่นจักรยาน ความยาวรวม 15 กม. เส้นทางธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์ที่รายล้อมใน ลากูน่า เลคแลนด์ นี้จะเปิดให้บริการชุมชนด้วย สำหรับผู้ที่อาศัยในโครงการจะได้รับสิทธิพิเศษ Beach Club บนหาดบางเทา และ Country Club สโมสรสันทนาการศูนย์รวมกิจกรรม

 

สำหรับเครือบริษัทบันยันกรุ๊ป เป็นธุรกิจหลักของเคพี โฮ ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 30 เริ่มก่อตั้งในภูเก็ตปี 2533 เน้นการท่องเที่ยวเป็นหลัก และมีส่วนพัฒนาภูเก็ตโดยเปิดให้เข้าพักลากูน่า ภูเก็ต รีสอร์ท หรูครบวงจร ดึงคนมาใช้บริการปีละ 1 ล้านคน หรือ 10% ของผู้เดินทางสู่ภูเก็ตทั้งหมด ปัจจุบันนักท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนได้ผันชีวิตย้ายมาใช้ชีวิตในภูเก็ต บริษัทจึงได้พัฒนาต่อยอดสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เต็มรูปแบบ

 

เคพี โฮ   กล่าวว่า นอกจากภูเก็ตจะมีนักเดินทางตลาดเอเชียเข้ามามากสุดแล้ว ตอนนี้ยังกลายเป็นสถานที่ของครอบครัวชาวเอเชียสนใจเข้ามาตั้งถิ่นฐานและใช้ชีวิตอย่างสมดุลมากสุด เพราะมีสภาพอากาศน่าดึงดูดเอื้อต่อกิจกรรมกลางแจ้งตลอดทั้งปี โรงเรียนนานาชาติ 13 แห่ง ท่าจอดเรือ 4 แห่ง โรงพยาบาลระดับโลก มีนักเดินทางมากถึง 40% ของประชากรโลกบินตรงมายังภูเก็ตได้ภายในเวลาเพียง 4-5 ชั่วโมง ภูเก็ตจึงกลายเกาะมาจอร์ก้าแห่งเอเชีย และจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ของผู้คนจากทุกมุมโลก

 

สำหรับชุมชนที่พักอาศัยแบบบูรณาการแห่งใหม่นี้ ทุกคนสามารถเข้าถึงชายหาดส่วนตัว เรื่อยไปถึงร้านอาหารระดับโลก สปา สนามกอล์ฟ โรงเรียนที่ได้มาตรฐาน กิจกรรมร่วมกันมากมาย  ทางบันยันกรุ๊ปให้คำมั่นสัญญาจะนำเสนอไลฟ์สไตล์ครอบคลุมทุกด้าน พร้อมมอบประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืนเหนือระดับ และความเพลิดเพลินที่ไร้ขีดจำกัด

 

“สจ๊วต เรดดิ้ง” กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เครือบริษัทบันยันกรุ๊ป กล่าวว่า เมื่อเปิดโครงการใหม่“ลากูน่า เลคแลนด์” สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางกระบวนทัศน์ของภูเก็ตจากสถานที่น่าไปเยือนสู่เมืองน่าอยู่อาศัย ซึ่งความต้องการไม่เพียงแต่จำกัดอยู่เฉพาะเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจะย้ายเข้ามาอยู่ถาวรเพิ่มขึ้นด้วย

เพราะในภูเก็ตอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงราคาต่ำกว่ามากในตลาดรัสเซีย จีน หรือ ยุโรป อยู่มาก จึงเป็นปัจจัยให้คนเลือกมาซื้อในภูเก็ตอย่างมีนัยสำคัญ

 

ทางลากูน่า เลคแลนด์ ได้ออกแบบเป็นที่อยู่อาศัยโดดเด่นแตกต่างกันแบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ 1.ฮิลล์ไซด์ 2.ออร์ชาร์ด  3.ฟอเรสต์ 4.เลคไซด์ 5.ลากูน แต่ละโซนจะมีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินและเส้นทางปั่นจักรยาน

เริ่มเปิดขายเฟสแรก คือ 1.เลควิวเรสซิเดนซ์ คอนโดมิเนียมความสูง 4 ชั้น และ 7 ชั้น ขนาด 1-3 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้บนชั้นดาดฟ้า 2.วอเตอร์ฟร้อนท์วิลล่า ติดลากูน แบบ 4 ห้องนอนดีไซน์หรูหรา พร้อมสระว่ายน้ำ สวนส่วนตัว มีพื้นที่เฉลี่ย 560 ตารางเมตร ราคาคอนโดมิเนียมเริ่มต้น 6.8 ล้านบาท (1.9 แสนเหรียญสหรัฐ) ส่วนวิลล่าเริ่มต้น 60 ล้านบาท (1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ)

 

โดยมีตัวเลือกสันทนาการหลากหลายเหมาะกับตลาดคนรุ่นใหม่ทุกเพศทุกวัยที่รักสุขภาพ และให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดี เช่น สโมสรนันทนาการส่วนกลาง หรือ Country Club สระว่ายน้ำ สนามกีฬา สนามเทนนิส และกิจกรรมภายในครอบครัว

 

พร้อมทั้งมีโซนผจญภัยบนเนินเขาและพื้นที่เด็กเล่น เส้นทางเดินป่าและปั่นจักรยานท่ามกลางธรรมชาติ ที่จอดจักรยานเสือภูเขาโดยเฉพาะ ทางเดินผ่านป่าฝนไปยังจุดชมบนยอดสูงเพื่อชมพระอาทิตย์ตกอันตระการตา Town Centre คือหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ออกแบบให้ตั้งอยู่ใจกลางลากูน่า เลคแลนด์ เป็นจุดพบปะสังสรรค์ สันทนาการ มีร้านค้า บริการต่าง ๆ ร้านอาหารริมทะเลสาบ ไว้ให้ผู้พักอาศัย พร้อมบีชคลับ และโซนกิจกรรมหอคอยขนาดใหญ่มองเห็นทิวทัศน์ทะเลอันดามัน ไฮไลต์อีกแห่งคือ “จุดชมวิว” มองเห็นวิวด้านล่างมุมกว้าง สวนผลไม้ออร์แกนิก สวนบนชั้นดาดฟ้าปลูกผลิตผลไร้เคมีที่นำมาเสิร์ฟให้ลูกค้าได้รับประทานแบบสดใหม่ และบ่อปลา พื้นที่เด็กเล่น ดอกไม้ป่าพื้นเมืองในทุ่งหญ้า บริเวณที่นั่งพักผ่อน

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai