ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ภูเก็ตนำท่องเที่ยวปี2567ทำรายได้4แสนล้าน

 

นายเลิศชาย หวังตระกูลดี 

ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต


ททท.ภูเก็ตติดเทอร์โบปี’67พลิกจุดขายทำรายได้4แสนล้าน

หลังโควิด“YoungGen+ครอบครัว”ไทย/ต่างชาติยึดพื้นที่เที่ยว

ปี’67โรงแรมกว่า2พันแห่งขายห้องฉลุย“ราคาต่อวัน”แซงปี62

รีบสมัคร!สมาชิกคิงเพาเวอร์ได้4สนามบินเฮงส่งท้ายตรุษจีน

คิงเพาเวอร์ดึงฝรั่งผลิตยูทูบรายการ“ผจญไทย”เที่ยวชุมชน

ท่องเที่ยวทั่วไทยเฮลั่นหยุดสงกรานต์5วันหวังหมื่นล้านบาท

บางจากฯรับข่าวดีต้นปี’67คว้ารางวัลเด่น“Leading of ESG”

 เที่ยวปัตตานีสุขทันทีที่งานมหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว

5 อาหารบำรุงกระดูก หาง่ายใกล้ตัวรีบรับประทานด่วน

นกแอร์MOUเหอหนานจ่อบินเพิ่มปี67รับฟรีวีซ่าไทย-จีนโต

โรงแรมอีสตินฯสาทรลุยขายไทยเที่ยวไทย2โปรแจกแถม

วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #  #เที่ยวงานกตัญญูคู่มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี2567 #เลิศชายหวังตระกูลดี

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/qhfbj0TICf/?mibextid=Nif5oz

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “เลิศชาย หวังตระกูลดี” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดมิติใหม่เที่ยวภูเก็ตปีมังกร 2567 โฟกัส “รายได้” ทะลุ 400,000 ล้านบาท คุม “จำนวนนักท่องเที่ยว” โตไม่เกิน 10% เฟ้นโปรดักซ์ท่องเที่ยวยั่งยืน ขานรับเทรนด์ใหม่ 2 กลุ่ม “คนรุ่นใหม่-ครอบครัว” โรงแรม รีสอร์ต เร่งเปิดเส้นทางทัวร์ชุมชน ด้านธุรกิจพลิกโฉมลงทุนปรับห้องพัก ไตรมาส 1 ต่างชาติ คนไทย แห่จองพักทำราคาขาย ADR ต่อห้องต่อคืน พุ่งแซงปี’62 เรียบร้อยแล้ว เที่ยวบินแน่นวันละ 400 ไฟลต์

นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยว่า ปี 2567 ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศกว่า 70 % คนไทยเกือบ 30 % ปีนี้ตั้งเป้าหมายจะเน้นเป้าหมายรายได้จะทำให้ได้ถึง 400,000 ล้านบาท ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตเพิ่มขึ้น 5-10 % จากปี 2566 ทำไว้กว่า 11 ล้านคน โดยจะเน้นใช้วิธีบริหารจัดการควบคุม “จำนวนนักท่องเที่ยว” ไม่ให้มากเกินขีดความสามารถของพื้นที่เกาะซึ่งไม่ควรรองรับคนปริมาณมากเกินไป แต่จะหันไป “เพิ่มรายได้” จากการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น โดยต้องให้น้ำหนักความสำคัญกับสินค้าท่องเที่ยว โดยกระจายเม็ดเงินลงสู่ชุมชนให้มากที่สุด

 

สถานการณ์หลังโควิดโครงสร้างนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเปลี่ยนเป็น “นักเดินทางรุ่นใหม่” กลุ่ม Young Traveller มากเป็นอันดับ 1 ดังนั้นจึงคัดเลือกสินค้าท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับตลาดใหม่ ผนวกกับได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และอื่น ๆ ททท.เล็งหาตลาดใหม่ศักยภาพสูงมาเสริมช่วงฤดูฝน เช่น ตะวันออกกลาง ซาอุดิอาระเบีย โอมาน อิสราเอล ออสเตรเลีย และตลาดระยะใกล้จาก มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน

มีสัญญาณชี้ว่าด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 จะทำให้ทั้งจังหวัดมียอดจองพักเติบโตหนาแน่นไปตลอดฤดูท่องเที่ยวปี 2567 จากจำนวนบริการห้องพักโรงแรมรีสอร์ตรวมทั้งเกาะภูเก็ตมีมากถึง 2,000 แห่ง กว่า 112,000 ห้อง ทำอัตราเข้าพักเฉลี่ย (OR :Occupacy Rate) ช่วงฤดูท่องเที่ยวหรือไฮซีซันเกิน 80 %  ซึ่งขยับจากเดือนธันวาคม 2566 มาอยู่ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 แล้วกระจายไปยังพื้นที่รองได้มากขึ้น ส่วน “นักท่องเที่ยวไทย” ยังคงเดินทางมาภูเก็ตจำนวนมาก โดยแข่งขันกับการท่องเที่ยวต่างประเทศไปภูเก็ต เกาหลี ไต้หวัน การเพิ่มส่วนแบ่งตลาดคนไทยจึงเน้นขายความหรูหราอันโดดเด่น

 


ส่วนตรุษจีน จัดช่วง 15-17 กุมภาพันธ์ 2567 ปิดท้ายพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งเป็นอีกเทศกาลที่ค่อนข้างได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ นิยมมาถ่ายรูปเช็คอิน ตามย่านเมืองเก่าภูเก็ต แล้วจากนั้นก็จะเดินหน้าจัดมหกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬานานาชาติอย่าง Night Run วิ่งช่วงกลางคืน วิ่งเป็นครอบครัว และอีกหลายรายการ

หัวใจสำคัญการเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวมายังภูเก็ต ส่วนที่ 1 เลือกจัด “อีเวนต์” ให้โดดเด่นจะเป็นพลังดึงดูดคนเข้าภูเก็ต ส่วนที่ 2 การเลือกสินค้าท่องเที่ยวมานำเสนอขาย สถานการณ์ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลผ่านเข้ามาทางท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นจำนวนมากเฉลี่ยวันละ 50,000-60,000 คน แซงสนามบินดอนเมืองไปเรียบร้อยแล้ว จากต่างประเทศ 30,000-40,000 คน คนไทยอีกประมาณ 10,000-20,000 คน ดังนั้นการจะทำตลาดท่องเที่ยวในภูเก็ต ต้องหันมาทำเพิ่มส่วนที่ 3 เปิดการท่องเที่ยวใหม่ไปยังชุมชน อย่าง ชุมชนบางโรง ย่านเมืองเก่าภูเก็ต รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มเรือสำราญขึ้นมาเที่ยวในเวลาสั้น ๆ  ครึ่งวัน ครั้งละ 3,000-4,000 คน สามารถที่จะกระจายไปยังชุมชนเพื่อทำกิจกรรมวิถีชีวิตวัฒนธรรมได้

               


ตอนนี้ภูเก็ตจะนำเสนอสินค้าเทรนด์โลกเรื่องการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (Sustainability Tourism) ผนวกเข้ากับการท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม ททท.ภูเก็ต พยายามจะผนวกการนำเสนอขายสินค้า กิจกรรม ท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดคนรุ่นใหม่ รวมทั้งเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวลองหันมาท่องเที่ยวชุมชน และตระหนักถึงการเที่ยวอย่างรับผิดชอบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งทาง ททท.ได้จัดทำมาตรฐานรับรองด้วย STGs :Sustainable Tourism Goals

                ผอ.เลิศชาย กล่าวว่า สถานการณ์แนวโน้มการท่องเที่ยวภูเก็ตปี 2567 วิเคราะห์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวปี 2566 ภูเก็ตสร้างรายได้ 380,000 ล้านบาท ทำสถิติมากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ส่วน “จำนวนนักท่องเที่ยว” จำนวนกว่า 11 ล้านคน เป็นรองจังหวัดชลบุรี ทำได้ 23 ล้านคน แต่มีรายได้ท่องเที่ยวเพียง 230,000 ล้านบาท บ่งบอกถึง “ภูเก็ต” มีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยกว่าชลบุรีเกือบครึ่ง แต่รายได้กลับมากกว่าเกินครึ่งเช่นกัน อันหมายถึง “การใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวในภูเก็ต” เฉลี่ยทำได้ถึง 9,500 บาท/คน/วัน


                ขณะที่ “เที่ยวบิน” เข้าออก ท่าอากาศยานภูเก็ต ก่อนสถานการณ์โควิดมีประมาณ 350 เที่ยว/วัน ปี 2567 ตั้งเป้าหมายจะฟื้นกลับมาให้ได้ 400 เที่ยว/วัน ซึ่งอาจจะเป็นข้อจำกัดในการบริหารจัดการปริมาณนักท่องเที่ยวเข้าออกภูเก็ตอยู่บ้าง แต่ก็สามารถแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวพื้นที่ใกล้เคียงจาก กระบี่ พังงา นครศรีธรรมราช ผนวกกับการตรวจสอบข้อมูลกับทางผู้ประกอบการโรงแรมในภูเก็ตเดือนธันวาคม 2566 ทำได้ประมาณ 80 % ตั้งแต่ต้นปี 2567 สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อวัน (ADR :Average Daily Rate )แซงหน้าปี 2562 ไปเรียบร้อยแล้ว

                ผอ.เลิศชาย กล่าวว่า ตอนนี้ภูเก็ตเตรียมวางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวเทศกาลแห่งปี “สงกรานต์” เบื้องต้น 1.กำหนดวันจัดงาน 13-15 เมษายน ขยายจากปีก่อน ๆ จัดเพียงวันเดียว 13 เมษายน 2.กำลังเลือกพื้นที่ เช่น บริเวณสวนสาธารณะกลางเมือง ริมชายหาดต่าง ๆ 3.รูปแบบกิจกรรมเน้นคุณภาพทำให้นักท่องเที่ยวเห็นถึงความคุ้มค่าที่จะมาเล่นสงกรานต์ในภูเก็ต ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะสรุปอีกครั้งก่อนเดือนเมษายนนี้

 


                ส่วนการลงทุนใหม่ ๆ ในภูเก็ต มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจนหลังสถานการณ์โควิดปี 2565 เป็นต้นมา ได้แก่ กลุ่มที่ 1 อสังหาริมทรัพย์ ที่พัก โรงแรม รีสอร์ต ได้ลงทุนปรับปรุงใหม่เน้น “ห้องพัก” ที่เหมาะสมสามารถรองรับนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ กับกลุ่มครอบครัว ขนาดครอบครัว 3-5 คน กลุ่มที่ 2 แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น อควอเรียม/พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนน้ำแห่งใหม่อลามานด้า สวนสนุกคานิวัลเมจิก สร้างใหม่เจาะตลาดครอบครัว 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 รีบสมัคร!สมาชิกคิงเพาเวอร์ได้4สนามบินเฮงส่งท้ายตรุษจีน

คิง เพาเวอร์ ย้ำอีกครั้ง นักช้อปที่มีไฟลต์เดินทางต่างประเทศรีบเลย “ช้อปส่งท้ายความเฮงตรุษจีน” ปีมังกร เพียงสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET ที่สนามบินหลัก ๆ   วันนี้– 29 ก.พ. 2567  สมัครง่ายที่จุดขายและจุดบริการสมาชิก คิง เพาเวอร์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต อู่ตะเภา และ LINE Official Account : @KINGPOWER  ได้ดังนี้

1.สมัครสมาชิกใหม่ SCARLET และเติมเงิน 8,000 บาท ให้เฉพาะลูกค้าสัญชาติไทย และต่างชาติที่พำนักในไทย (EXPAT) เท่านั้น สถานะสมาชิกหมดอายุ 31 ธันวาคม 2567

รับทันที 3 อย่าง คือ 1.ส่วนลดตลอดอายุสมาชิก 10% 2.สิทธิ์วันเกิดรับเครดิตเงินคืน 25% จำนวน 2 สิทธิ์ (สิทธิ์ละ 1 ชิ้น) 3.สิทธิ์เข้าใช้บริการ King Power Lounge หรือ King Power Space รวม 6 สิทธิ์ (สงวนสิทธิ์การเข้าใช้บริการสูงสุดไม่เกิน 1 สิทธิ์ / ครั้ง / วัน พร้อมให้สิทธิ์แก่ผู้ติดตามเข้าใช้บริการครั้งละไม่เกิน 1 สิทธิ์ / ครั้ง / วัน

2.สมัครสมาชิก SCARLET แล้วเติมเงิน 20,000 บาท รับคูปองส่วนลด 20 % จำนวน 2 ใบ พร้อมสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกอีกมากมาย

คูปองใบที่ 1 : สำหรับใช้ช้อปที่ คิง เพาเวอร์ สาขาในท่าอากาศยานทุกสาขา

คูปองใบที่ 2  : สำหรับใช้ช้อปที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต

วิธีใช้ คูปองส่วนลดของสมาชิกใหม่คิง เพาเวอร์ ประเภท SCARLET จำนวน 2 ใบ จะหมดอายุ 31 สิงหาคม 2567

ใบที่ 1 คูปองส่วนลด 20% ใช้ซื้อสินค้า 1 ชิ้น ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และอู่ตะเภา หมดอายุภายในวันที่สมัครสมาชิก 

ใบที่ 2 คูปองส่วนลด 20% สามารถใช้ซื้อสินค้า 1 ชิ้น ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต


ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ดึงฝรั่งผลิตยูทูบรายการ“ผจญไทย”เที่ยวชุมชน

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” เป็นหนึ่งในโครงการและช่องทางสำคัญสนับสนุนการพัฒนาสินค้าชุมชนของไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขว้างระดับประเทศและนานาชาติ ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพและส่งเสริมความสามารถในการผลิตและจำหน่ายสินค้า โดยได้ผลิตรายการ “ผจญไทย” ซึ่งเป็นรายการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสกับวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของคนไทย และความเป็นไทย ผ่านผลิตภัณฑ์สินค้าไทยนานาชนิด ตลอดจนงานฝีมือ อาหาร วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เผยแพร่ทาง Youtube : King Power Thai Power พลังคนไทย เป็นประจำทุกเดือน ปัจจุบันดำเนินการมาแล้วทั้งสิ้น 32 เทป

เสน่ห์ที่น่าสนใจและดึงดูดผู้ชมให้เข้ามาติดตามชมรายการอย่างต่อเนื่องอยู่ โดยมีพิธีกรต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทยผู้หลงรักในวัฒนธรรมไทย สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเล่าเรื่องและทดลองทำสินค้าจริงในรายการ เรียนรู้ขั้นตอนการผลิตสินค้าไทยตั้งแต่ต้นจนจบ พิธีกรต่างชาติเหล่านี้ไม่เคยทำมาก่อน ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความยากลำบากที่กว่าจะได้สินค้ามาแต่ละชิ้น ต้องใช้ความอดทนและใช้เวลาอย่างมาก เป็นการตอกย้ำให้เห็นคุณค่าของสินค้าไทยมากยิ่งขึ้น

 

                จอง ฮยอง ยุน หรือเจได หนุ่มเกาหลีพิธีกรเจ้าประจำของรายการอยู่เมืองไทยมากว่า 20 ปี กล่าวว่า รักเมืองไทยและคนไทยมากเพราะมีน้ำใจ รู้สึกว่าประเทศไทยเป็นบ้านตัวเอง ด้วยความที่อยู่มานาน จึงพูดภาษาไทยได้ดีมาก มีโอกาสทำงานที่หลากหลาย รวมถึงร่วมงานกับ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ขณะนั้นกำลังจะผลิตรายการผจญไทยและหาพิธีกรมาร่วมรายการ ซึ่งตนเองได้ประเดิมใน EP แรก เป็นตอนจักสานไม้ไผ่ ที่ จ.ชลบุรี ได้เรียนรู้เรื่องการจักสานและลงมือทำจริงในทุกขั้นตอน หลังจากนั้นก็ทำหน้าที่ในรายการผจญไทยอีกเรื่อย ๆ สลับสับเปลี่ยนกับพิธีกรต่างชาติคนอื่น ๆ  ตนมองว่า คิง เพาเวอร์ ให้โอกาสชาวบ้านได้ทำสินค้าแล้วนำมาขายที่สนามบิน ถือเป็นโอกาสที่ดีช่วยชาวบ้านจริง ๆ

 

จอง ฮยอง ยุน กล่าวว่า ตอนแรกที่เห็นแล้วรู้สึกน่าจะทำง่าย แต่พอได้ลองทำดูจริง ๆ ยากมาก การได้ลงพื้นที่ไปสัมผัสกับแหล่งผลิตผลงานฝีมือของชาวบ้านทำให้รู้สึกประทับใจ ดังนั้นการเป็นพิธีกรรายการผจญไทยนี้ ถือเป็นการเปิดโลกใบใหม่และใบใหญ่ของตนเองให้เปิดกว้างยิ่งขึ้น โดยได้เรียนรู้จากทำรายการยังไม่ถึง 20% ของงานฝีมือคนไทย จึงอยากเรียนรู้สิ่งใหม่เรื่อย ๆ รู้สึกสนุกกับการทำรายการมาก เพราะได้ลองสิ่งแปลกใหม่เป็นครั้งแรกหลายอย่างด้วยกัน

  

“เรียวตะ โอมิ” หนุ่มแดนปลาดิบตัดสินใจมาเมืองไทยทั้งที่ไม่เข้าใจภาษาไทยแม้แต่นิดเดียว กล่าวว่า เลือกมาไทยเพราะรู้สึกสนใจและอยากมาหาประสบการณ์ จึงความพยายามอย่างหนักในที่สุดก็สามารถพูดและเข้าใจภาษาไทยได้อย่างรวดเร็ว จนได้เปิดช่อง Youtube, Tiktok มีผู้ติดตามมากมาย ตลอดจนได้มาร่วมเป็นพิธีกรในรายการผจญไทย ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชน ส่วนใหญ่ทำงานฝีมือที่มีขั้นตอนเยอะและไม่สามารถก๊อบปี้ได้

 

มีโอกาสได้เดินทางไปหลาย ๆ แห่งในเมืองไทย เช่น สกลนครได้เรียนรู้เรื่องการย้อมคราม ไปลำพูนหัดทำผ้ามัดย้อม ไปชุมชนกะเหรี่ยงได้ลองย้อมผ้าด้วยฮ่อมและมะเกลือ การได้มาร่วมรายการผจญไทย ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ประทับใจมาก นับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากอย่างหนึ่งในชีวิตที่ได้รับ

 

โคลอี้ โซล่า” อีกหนึ่งสาวที่ได้ร่วมเป็นพิธีกรรายการ “ผจญไทย”  ในฐานะวิดีโอครีเอเตอร์บนโซเชียลมีเดียชาวฝรั่งเศส พูดได้หลายภาษา ยืนยันว่า ถึงแม้จะพูดได้หลายภาษาทั้ง อังกฤษ อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น แต่ภาษาที่ทำให้เป็นรู้จักมาก ๆ คือคลิปพูดเป็น “ภาษาอีสาน” ทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจนได้โอกาสจาก คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ชวนมาเป็นหนึ่งในพิธีกรรายการผจญไทย

 

คลิปแรกได้เดินทางไปเรียนรู้การทำผ้าไหมที่บุรีรัมย์ ต่อมาก็ทำกระเป๋าจากใยตาลที่สงขลา ซึ่งได้โชว์ทักษะภาษาใต้และอีสาน ส่วนเทปต่อ ๆ มา ก็ได้เรียนรู้เรื่องราวมากมาย การได้ทำรายการผจญไทยทำให้มีความสุข ภูมิใจ และประทับใจมาก

 

รวมทั้งยังได้ความรู้เพิ่มเติม เช่น การทำกระเป๋า การทำผ้าไหม เห็นขั้นตอนการผลิตต่าง ๆ รู้วิธีต้องทำทุกขั้นตอน ได้เห็นคนในชุมชนเล็ก ๆ ทำงานฝีมือ ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมอันงดงามอีกทาง ตนเป็นต่างชาติแท้ ๆ ยังรู้สึกประทับใจทำให้ยิ่งอยากรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้นไปอีกด้วย หากต่างชาติคนอื่น ๆ ได้เห็นก็คงสนใจไม่แพ้กัน บางคนพอเห็นคลิปรายการทำให้อยากซื้อสินค้าทันที

 

ข่าวที่ 3 ท่องเที่ยวทั่วไทยเฮลั่นหยุดสงกรานต์5วันหวังหมื่นล้านบาท

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  มีมติเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เห็นชอบเพิ่มวันหยุดกรณีพิเศษช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ต่อเนื่อง 5 วัน เริ่มวันศุกร์ที่ 12-16 เมษายน 2567  โดยมุ่งกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันทางคณะกรรมการซอฟท์ พาวเวอร์ ได้เชิญหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือเตรียมจัดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2024 : เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 โดยจะเปิดพื้นที่ต้นแบบพื้นที่บริเวณถนนราชดำเนินกลาง ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร จัดสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ตามกำหนดจะจัดวันที่ 11-15 เมษายน 2567    

 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ล่าสุดได้ประชุมร่วมกับ คณะกรรมการซอฟท์ พาวเวอร์ ที่ห้องประชุมสุพรรณหงส์ ชั้น 10 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานใหญ่ โดยแต่ละฝ่ายได้รายงานความคืบหน้าการเตรียมจัดงานดังกล่าว วางแผนเตรียมประชาสัมพันธ์งานสงกรานต์ของประเทศไทยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเลือกและวางโปรแกรมมาเที่ยวสงกรานต์ ร่วมเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษหลังจากองค์การยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนให้ “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการในบัญชีตัวแทน “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ” (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity)

 

ปี 2567 รัฐบาลไทยจึงมีนโยบายให้จัดเทศกาลสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นการใช้พลังซอฟท์ พาวเวอร์ ต่อยอดกิจกรรมทางการท่องเที่ยว ยกระดับกิจกรรมงานเทศกาลประเพณีไทย หรือ Festival จากระดับประเทศสู่ระดับโลก สามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทั้งคนไทยเที่ยวในประเทศและต่างชาติเที่ยวเมืองไทย ผ่านรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ นำไปสู่การสร้างรายได้หมุนเวียนจากการจัดกิจกรรม สร้างมูลค่าเพิ่มต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

 

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตามที่ ครม.มีมติเพิ่มวันหยุดยาวสงกรานต์ปี 2567 รวม 5 วันนั้นจะเป็นแรงกระตุ้นการท่องเที่ยวทำเงินสะพัดทั่วประเทศกว่า 10,000 ล้านบาท จาก 3 ปัจจัย ได้แก่ 1.คนไทยเดินทางกลับภูมิลำเนา 2.นักท่องเที่ยวต่างประเทศเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางเที่ยวเทศกาลสำคัญในไทย ตามสถิติช่วงตรุษจีนอัพเดทวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 วันเดียวมีรวมกว่า 1.9 แสนคน โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามาเฉลี่ยสูงสุดเกือบ 20,000 คน/วัน 3.รัฐบาลไทยทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งนโยบายจัดกิจกรรมช่วงสงกรานต์อย่างเต็มที่ตลอดเดือนเมษายนนี้

 

ขณะเดียวกันก็มีสัญญาณที่ดีจากการเดินทางทางอากาศ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไปมี “เที่ยวบินระหว่างประเทศ” มายังจังหวัดท่องเที่ยวหลัก ๆ ของไทย เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ตลาดนักท่องเที่ยวหลักจะเป็น มาเลเซีย กลุ่มประเทศแถบอาเซียน ส่วนการเดินทางทางบกก็มีนักท่องเที่ยวขับรถไปจังหวัดยอดนิยมครอบคลุมทั้ง 5 ภูมิภาค โดยภาพรวมสงกรานต์ปีนี้เมืองท่องเที่ยวหลักยังคงครองรายได้มากสุด ดังนั้นจึงต้องหาวิธีช่วยเหลือเมืองท่องเที่ยวรองและย่อยเพิ่มขึ้น ทางรัฐบาลควรสนับสนุนเอกชนจัดทำแพกเกจโปรโมชั่นดึงดูดคนกระจายการเดินทางสู่เมืองขนาดเล็ก ๆ ได้รับอานิสงสงกรานต์ปีนี้บ้าง

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) เปิดเผยว่า หลัง ครม.ประกาศเพิ่มวันหยุดพิเศษปี 2567 เพิ่มช่วงสงกรานต์ปีใหม่ไทยต่อเนื่อง 5 วัน จะส่งผลดีกับธุรกิจโรงแรมที่พักจากนักท่องเที่ยวสามารถวางแผนจองใช้บริการล่วงหน้าได้มากขึ้น รวมทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จะมีนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติกระจายการเดินทางร่วมกิจกรรมได้ทั่วประเทศ อีกทั้งยังช่วยสร้างจุดขายงานเทศกาลประเพณีอันดีของไทย ได้รับความนิยมจากนานาประเทศมายาวนาน แล้วยังจะทำให้เศรษฐกิจช่วงเมษายนปีนี้คึกคักตามไปด้วย

 

ข่าวที่ 4 บางจากฯรับข่าวดีต้นปี’67คว้ารางวัล“Leading of ESG”

 

 

           บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้รับรางวัล Future Trends Awards 2023 “Leading of ESG” จากงาน Future Trends Ahead & Awards 2024 เป็นข่าวดีต้อนรับศักราชใหม่ และวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ในฐานะที่เป็นองค์กรมีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance - ESG) ในเวทีการประกาศของ Future Trends ซึ่งเป็นสื่อชั้นนำด้านธุรกิจ เทคโนโลยี การตลาดและนวัตกรรม เพื่อยกย่ององค์กรที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และเป็นผู้นำในการกำหนดเทรนด์และนวัตกรรมต่าง ๆ

 

สำหรับรางวัล Leading of ESG สะท้อนถึงบางจากฯ เป็นต้นแบบองค์กรผู้นำด้าน ESG ทางผู้คัดเลือกและจัดงานจึงมอบให้กับแบรนด์หรือองค์กรที่นำหลักการ ESG มาใช้ในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวัดผลจากแผนการดำเนินงาน กับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น อย่างความสอดคล้องกับเป้าหมายด้าน ESG โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ Future Trends พิจารณาคัดเลือกและตัดสินอย่างเข้มข้นตั้งแต่ต้นจนถึงขั้นตอนสุดท้ายก่อนประกาศรายชื่อองค์กรที่จะได้รับรางวัลดังกล่าว

 

ปี 2567 บางจากฯ ได้การยอมรับในฐานะองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและส่งมอบความสุขให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมตามวิสัยทัศน์ “รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว” และแนวคิด “Greenovate to Regenerate สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด”

 

ส่วนการจัดงาน Future Trends Ahead & Awards 2024 มอบรางวัลสุดยอดผู้นำแห่งโลกธุรกิจและบุคคลที่เป็น Trends Setter จาก 13 สาขา แบ่งเป็น รางวัลประเภทองค์กรที่มีผลงานอันโดดเด่น (Corporate Awards)  7 สาขา ทั้งในด้านองค์กรที่มีอิทธิพล องค์กรโดดเด่นด้านนวัตกรรม องค์กรผู้นำด้าน ESG องค์กรเพื่ออนาคต และองค์กรน่าสนใจที่สุดสำหรับพนักงานจบใหม่และกลุ่มที่ไม่ใช้พนักงานจบใหม่ รางวัลประเภทบุคคลในฐานะผู้นำเทรนด์ (Leader Awards)  6 สาขา ครอบคลุมสุดยอดผู้นำที่โดดเด่นทั้งในด้านธุรกิจ เทคโนโลยี สังคม และผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สร้างประโยชน์สอดคล้องตามคอนเซ็ปต์ของรางวัล  

 

            ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยไป “ปัตตานี” มีเทศกาลท่องเที่ยวงานประเพณี ““กตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี ประจำปี 2567”  ระหว่าง 21-27 ก.พ.นี้ ร่วมบุญใหญ่แห่งปี 7 กิจกรรม แล้วฟังด่วน “5อาหารบำรุงกระดูก หาง่ายใกล้ตัว” พร้อมเกาะติดข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “นกแอร์MOUเหอหนาน” ลุยเปิดเที่ยวบินขานรับฟรีวีซ่าผู้โดยสารไทย-จีน โตแรง ข่าวที่สอง “โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ” อัดโปรไทยเที่ยวไทย แจกแถมอื้อ

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวปัตตานีสุขทันทีที่งานมหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว

 

สุขทันทีเที่ยว...เมืองไทย ล่องแดนใต้ชมงานประเพณีสืบสานอนุรักษ์ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม งาน“กตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี ประจำปี 2567”  เที่ยวได้ตลอดสัปดาห์ 21 – 27 กุมภาพันธ์ 2567  ใน ปัตตานี” ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองงาม 3 วัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ ชนน้อมนำศรัทธา ถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้” 

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุน จังหวัดปัตตานี โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี ร่วมกับทางมูลนิธิเทพปูชนียสถานปัตตานี เทศบาลเมืองปัตตานี สำนักงานนราธิวาส วัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี ภาครัฐและเอกชน เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน  เดินทางมาร่วมงานประเพณีอันมีคุณค่าทางใจ “กตัญญูคู่ฟ้ามหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี” ประจำปี 2567 กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว รักษาประเพณีวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงมายาวนาน จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ชายแดนใต้ 

 

ตลอดงานนักท่องเที่ยวจะได้ชมประเพณีอันยิ่งใหญ่ของชาวปัตตานีตั้งแต่บริเวณศาลเจ้าเล่งจูเกียงถนนอาเนาะรู ถนนปะนาเระ ถนนปัตตานีภิรมย์ ถนนนรินทราช  ถนนสายบุรี อำเภอเมืองปัตตานี ท่องเที่ยวได้ถึง 7 กิจกรรม

 

กิจกรรมที่ ไปชีลได้ทุกวันตรงถนนคนเดินอาหารสามวัฒนธรรม วันที่ 21 – 27 กุมภาพันธ์ 2567 บริเวณถนนนรินทราช  ริมแม่น้ำปัตตานี

 

กิจกรรมที่ 2 ชมการจัดแสดงศิลปะพื้นบ้านพหุวัฒนธรรม รถคลาสสิคโบราณ “ปัตตานีคลาสสิคอินทาวน์” พร้อมด้วยออกร้านจำหน่ายสินค้าวินเทจ วันที่ 23 – 25 กุมภาพันธ์ 2567 บริเวณลานศิลปะวัฒนธรรม ถนนสายบุรี

 

กิจกรรมที่ 3 พิธีอัญเชิญองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวประทับเกี้ยวใหญ่มหามงคล หามรอบเมืองปัตตานี พิธีเปิดงานมหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว การแสดงมังกร LED สุดพิเศษจากคณะสิงโตมังกรทอง ลูกท้าวมหาพรหม วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 บริเวณศาลเจ้าเล่งจูเกียง

 

กิจกรรมที่ 4 พิธีอัญเชิญองค์พระออกจากศาลเจ้าเล่งจูเกียง ลุยน้ำ ลุยไฟ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ในบริเวณ 2พื้นที่ ตรงศาลเจ้าเล่งจูเกียง และริมแม่น้ำปัตตานี เชิงสะพานเดชานุชิต

 

กิจกรรมที่ 5 ชมการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปิน วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 อาลีฟ PARATA , วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 TT REBORN วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 คอนเสิร์ตวิถีมุสลิมอนาชีด บริเวณลานศิลปะวัฒนธรรม ถนนสายบุรี

 

กิจกรรมที่ 6 ตื่นตาตื่นใจ สนุกกับการประกวดเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมยนานาชาติ   วันที่ 26 – 27 กุมภาพันธ์ 2567 บริเวณศาลเจ้าเล่งจูเกียง

 

กิจกรรมที่ 7 เพลิดเพลินได้ทุกคืนกับเรื่องราวความสนุกกับ การแสดงงิ้ว มโนราห์ การแสดงศิลปะพื้นบ้านพหุวัฒนธรรม และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

 

ตามความเชื่อหากผู้ใดบูชาด้วยความศรัทธา ความศักดิ์สิทธิ์จะบังเกิดแก่ผู้นั้น เดินทางมาได้เลยในงานมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียน กตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี ประจำปี 2567 

 

สุขภาพ –5 อาหารบำรุงกระดูก หาง่ายใกล้ตัวรีบรับประทานด่วน

 

การรับประทานอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการเป็นวิธีดูแลร่างกายง่าย ๆ ที่มีประโยชน์ต่อกระบวนการสร้างกระดูกให้แข็งแรงเป็นอย่างมาก มาดูตัวอย่างอาหารบำรุงกระดูกที่เหมาะสำหรับคนทุกช่วงวัย ดังนี้

 

ชนิดที่ 1 ปลาที่มีกรดไขมันจำเป็น เป็นแหล่งวิตามินดีที่มีส่วนช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะปลาที่หาซื้อได้ง่าย เช่น ปลาทู ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาแซลมอน มีกรดไขมันจำเป็นอย่างกรดไขมันโอเมก้า 3 ยังมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกอีกด้วย

 

ชนิดที่ 2 ผักใบเขียว สีเขียวเข้มหลายชนิดอุดมไปด้วยแคลเซียม ทั้ง คะน้า บร็อคโคลี่ ผักกะเฉด ใบยอ ใบชะพลู หรือบ็อกฉ่อย อีกทั้งยังมีวิตามินเคซึ่งเป็นแร่ธาตุช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคกระดูกพรุนด้วย ซึ่งผักแต่ละชนิดจะให้แคลเซียมในปริมาณที่มากน้อยต่างกันไป ผู้บริโภคควรคำนึงถึงชนิดของผักและปริมาณในการรับประทานที่พอเหมาะร่วมด้วย เช่น ใบยอและใบชะพลูไม่ควรรับประทานในปริมาณมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดนิ่วในไตหรือในกระเพาะปัสสาวะได้

 

ชนิดที่ 3 ผลิตภัณฑ์จากนม เป็นนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม อย่างชีสหรือโยเกิร์ต แต่จริง ๆ แล้วผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังให้โปรตีน โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพกระดูกเช่นกัน ในปัจจุบันมีการเติมสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพิ่มมากขึ้นลงไปในนม เราจึงเห็นนมสูตรเพิ่มวิตามินดีหรือแร่ธาตุอื่น ๆ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภคนั่นเอง

 

ชนิดที่ 4 ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองล้วนเป็นผลผลิตของถั่วเหลืองที่มีโปรตีนอยู่ปริมาณมาก แต่แค่โปรตีนอาจไม่เพียงพอ นมถั่วเหลืองพร้อมดื่มเพิ่มเติมวิตามินดี แคลเซียม และสารอาหารอื่น ๆ ลงไป ซึ่งสามารถนำมารับประทานแทนนมผู้ที่ไม่ชอบดื่มนมหรือผู้กินมังสวิรัติได้

 

ชนิดที่ 5 ไข่ หลายคนคุ้นเคยกับกินไข่ในเมนูต่าง ๆ เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่าไข่แดง 1 ฟองนั้น มีวิตามินดีถึง 40 IU ส่วนไข่ขาวจะอุดมไปด้วยโปรตีนที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ผู้บริโภคสามารถกินไข่วันละ 1 ฟอง หรือถ้าจะกินมากขึ้นก็ควรพิจารณาอาหารชนิดอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากไขมันบางประเภทอาจส่งผลต่อสุขภาพได้

 สุขภาพกระดูกและสุขภาพโดยรวมจะแข็งแรงไปพร้อมกันได้หากรับประทานอาหารครบทุกหมู่ในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –นกแอร์MOUเหอหนานจ่อบินเพิ่มปี67รับฟรีวีซ่าไทย-จีนโต

 

ดร.วุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า นำฝ่ายการพาณิชย์ หารือกับ Zhengzhou Cultural Tourism and Sports Group Co., Ltd. และลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างนกแอร์กับการท่องเที่ยวมณฑลเหอหนาน  เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทย-จีน พร้อมทั้งร่วมผลักดันธุรกิจนกแอร์เพิ่มเที่ยวบินรองรับการขยายตัวของนักเที่ยวทั้งไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น ต่อเนื่องจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศประกาศนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยมาตรการฟรีวีซ่าจีนเข้าประเทศไทยซึ่งจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี คาดนโยบายดังกล่าวจูงใจให้นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายเงินเพื่อเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางเติบโตสูงขึ้น ในทางกลับกันก็จะมีคนไทยสนใจไปเที่ยวตามเมืองต่าง ๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วยเช่นกัน

 

นายณัฐกร ชุณหชา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ กล่าวว่า ได้เป็นตัวแทน บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับการท่องเที่ยวแห่งมณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เน้นเป้าหมายเดินหน้าประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างเมืองเจิ้งโจวของจีนกับเมืองไทย โดยจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งสองตลาดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังประเทศอื่นในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นได้ด้วย เพิ่มทางเลือกธุรกิจท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งยังจะเพิ่มประสบการณ์บริการเดินทางให้นักท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายด้วยเช่นกัน 

 

สำหรับ “เจิ้งโจว” เป็นอีกเมืองจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวคนไทยให้ความสนใจ โดยเป็นศูนย์กลางทางด้านการเมือง อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี การศึกษาที่สำคัญของมณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงมีประวัติศาสตร์น่าสนใจ ปัจจุบันกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของทั้งในประเทศและนานาชาติ เช่น วัดเส้าหลิน จัตุรัสอื้อฉี ศาลไคฟง  และสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ พร้อมให้ทุกคนได้เยี่ยมชมมากมาย หลังจากนกแอร์เปิดบริการบินก็จะเดินทางเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นต่อไป -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

 

ข่าวที่สอง -โรงแรมอีสตินฯสาทรลุยขายไทยเที่ยวไทย2โปรแจกแถม

 

โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ รายงานว่า ได้จัดทำโปรโมชั่นเข้าร่วมขายในมหกรรมงาน “ไทยเที่ยวไทย” ครั้งที่ 69 ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ -3 มีนาคม 2567 ที่บูท H02-03 ศูนยการประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  โดยจะนำเสนอขายไฮไลต์ 2 โปรโมชั่น ได้แก่  โปรโมชั่นที่ 1 บัตรรับประทานอาหาร พร้อมมอบความพิเศษ  เมื่อซื้อบัตรครบ 5 ใบ แถมฟรี 1 ใบ  สามารถเลือกซื้อได้ 2 แบบ คือ

 

แบบแรก บัตรบุฟเฟต์นานาชาติสุดคุ้ม ที่ห้องอาหาร เดอะ กลาส เฮ้าส์ โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร มีให้เลือกได้ 2 มื้อ คือ มื้อกลางวัน ทุกวันจันทร์-เสาร์ ราคาสุทธิคนละ 690 บาท จากปกติคนละ 975 บาท รับประทานได้อย่างจุใจทั้งอาหารไทย ญี่ปุ่น อาหารนานาชาติอีกมากมาย

 

แบบที่สอง บัตรแกรนด์วีกเอนด์บุฟเฟต์ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จ่ายเพียงคนละ 1,390 บาท จากปกติคนละ 1,950 บาท

 

ซึ่งทางโรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร ได้จัดทัพอาหารเตรียมไว้ต้อนรับด้วยไลน์บุฟเฟต์ละลานตา ทุกวันเสาร์มื้อค่ำ หรือวันอาทิตย์มื้อกลางวัน เสิร์ฟแบบพรีเมี่ยมทั้ง ปูยักษ์ ปูม้า ปูทะเล กุ้ง กุ้งแม่น้ำเผา หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรมเกาหลี ปลาหิมะ เนื้อแกะอบ เนื้อวากิวออสเตรเลีย ก๋วยเตี๋ยวหมูชาชู อาหารไทยรสเลิศ มัสมั่นเนื้อน่องลาย อาหารญี่ปุ่น ปลาแซลมอน ปลาฮามาจิ หอยเชลล์ญี่ปุ่นโฮตาเตะ ทาโกะ ซาชิมิ ซูชิ กุ้งเทมปุระ โคลด์คัทและชีสชั้นดี สลัดบาร์ พาสต้าบาร์ ช็อกโกแลตฟองดูว์ ของหวาน ข้าวเหนียวมะม่วง บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน ผลไม้นานาชนิด รวมน้ำสมุนไพร น้ำดื่ม กาแฟร้อน และ ชาร้อน  

โปรโมชั่นที่ 2 เปิดให้ซื้อ “บัตรสมาชิกอีสติน แกรนด์ การ์ด” ราคา 9,999 บาท บัตรเดียวที่ลูกค้าสามารถได้รับครบทั้ง 1.บัตรกำนัล 2.ส่วนลด 3.สิทธิพิเศษอีกมากมาย แล้วสามารถนำไปใช้บริการได้ใน 2 โรงแรม คือ โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ กับโรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท พิเศษเมื่อซื้อบัตรสมาชิกในงานไทยเที่ยวไทย ท็อปอัพเพิ่มฟรี! เป็นบัตรกำนัลเงินสด มูลค่า 500 บาท   

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai