จุดเปลี่ยน“ธุรกิจสนามบินไทย”ในปี’60
จับตายกดอนเมืองให้“แอร์เอเชีย”บริหาร
คิงเพาเวอร์หนุนโอท็อปประชารัฐแสนล้าน
เช้าวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2559 เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0
MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” รู้ทันข่าวและสารคดีท่องเที่ยวอัพเดททุกสถานการณ์
ช่วงแรกเวลา 11.15 น.
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย |
“ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.”
จะมาให้สัมภาษณ์สดในรายการถึงประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจถึงข้อเสนอเชิงนโยบายกรณีที่
“กลุ่มแอร์เอเชีย เบอร์ฮัด มาเลเซีย” สนใจเข้ามาบริหาร “สนามบินนานาชาติดอนเมือง”
โดยจะขอลงทุนใช้ที่ดินบริเวณอาคารคาร์โก้เก่าพัฒนาใหม่ทำเป็น “อาคารผู้โดยสารโลว์คอสต์”
และภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2559 นี้
ทอท.ในฐานะตัวแทนเจ้าของสนามบินต้องสรุปแนวทางส่งให้ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”
รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เจ้าของแนวนโยบายดังกล่าวพิจารณาอีกครั้งนั้น
ต้องห้ามพลาดฟัง “ดร.นิตินัย”
อธิบายรายละเอียดทุกแง่มุมถึงความเป็นได้หรือไม่ได้เพราะอะไร ?
แล้วฟังสถานการณ์อัพเดทเมกะโปรเจ็กต์ขยายสนามบินนานาชาติเฟสสอง
3 แห่ง คือ
สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต ขณะนี้ “ร้อนแรงรวดเร็ว”
ขนาดไหนในการทยอยอนุมัติการจ้าง บริษัทเอกชนเข้ามาก่อสร้างแต่ละโปรเจ็กต์
เพื่อเปิดให้ได้ตามแผนก่อนที่ปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบินจะล้นทะลักมากไปกว่านี้
จากนั้นฟังข่าวช่วงเบรกแรก
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์หนุน โอท็อปประชารัฐ”แสนล้าน
นายสมบัตร เดชาพานิชกุล รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
เปิดเผยว่ากลุ่มคิงเพาเวอร์ ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าโอท็อปแบรนด์ร่วมกับภาครัฐในโครงการ
“โอท็อปประชารัฐ” ซึ่งเปิดใหม่ล่าสุดโดยพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2559
โครงการ “ไทย จากท้องถิ่น บินสู่ท้องฟ้า”
ของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเริ่มนำร่องพิมพ์แคตตาล็อกสินค้าโอท็อป 8 รายการแรก
ขึ้นไปจำหน่ายพร้อมกับสินค้าดิวตี้ฟรีซึ่งคิงเพาเวอร์ได้รับสัมปทานบนเครื่องของการบินไทย
(duty free onbroad) เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2559 ส่วนใหญ่เป็นสินค้าหัตถกรรม หัตถศิลป์ ประเภทเครื่องประดับ
และแฟชั่น ทำยอดจำหน่ายได้เดือนละเกือบ 1 ล้านบาท
สำหรับในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ คิง เพาเวอร์
นำสินค้าที่ผ่านการคัดเลือกมาวางขายในร้านโอท็อปขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณหัวท้ายสนามบินฯ
2 พื้นที่หลัก
และยังได้ให้ “บริการส่งมอบสินค้า ณ ร้านโอท็อปในสนามบิน” ที่คิง
เพาเวอร์ ได้สัมปทานสิทธิ์บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์
กิจกรรมดังกล่าวคิงเพาเวอร์ร่วมมือกับ บริษัท มอลล์ (ไทยแลนด์) จำกัด
หนึ่งในภาคีเครือข่ายโครงการ “โอท็อปประชารัฐ” ซึ่งรับผิดชอบการขายผ่านออนไลน์ www.thailandmall.com และกระจายสินค้าจัดส่งให้ผู้ซื้อทั้งใน
และต่างประเทศ
นอกจากนี้กว่า 15 ปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์
ยังได้ร่วมมือกับ “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์”
ริเริ่มคัดเลือกและพัฒนาผลิตภัณฑ์โอท็อปชุมชนนำมาวางจำหน่ายในร้านค้าดิวตี้ฟรี คิง
เพาเวอร์ ทุกสาขาทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีสินค้าโอท็อปที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น
ๆ ได้แก่
อาหารและผลไม้แปรรูปที่มีดีไซน์บรรจุภัณฑ์สวยงามและเรื่องราวคุณค่าทางโภชนาการ
ปัจจุบันคิง เพาเวอร์ สามารถช่วยผู้ผลิตสินค้าโอท็อปแบรนด์ไทยจำหน่ายได้ปีละกว่า 10,000 ล้านบาท
คิดเป็น 15-20 % ของยอดขายรวมแต่ละปี
อีกทั้งกลุ่มคิง เพาเวอร์ ยังเป็นเอกชน 1 ใน 33 องค์กรสนับสนุนโครงการ
“ประชารัฐ
รักสามัคคี” มีหน้าที่ทำภารกิจหลัก ๆ
ช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แนะนำผลิตภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้รับรู้ถึงการเลือกของสินค้าแต่ละชนิดในแต่ละฤดูกาล
เช่น การเลือกบริโภคผลไม้ไทยตามเทศกาลในแต่ละเดือน
ข่าวที่ 2 “รับฟรีคู่มือเที่ยว70เส้นทางตามรอยพระบาท”
บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) รายงานว่า
ได้ร่วมจัดทำหนังสือ 70 เส้นทางตามรอยพระบาท มอบให้ผู้ใช้บริการน้ำมันจากฟรี ให้สมาชิกบัตรบางจากแก๊สโซฮอล์คลับ เพียงเติมน้ำมัน E20s ในราคา
600 บาท ก็จะได้รับหนังสือ 70 เส้นทางตามรอยพระบาท
ฟรี
หนังสือ 70 เส้นทางตามรอยพระบาท เป็นคู่มือแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศไทย
เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เห็น ได้เรียนรู้ และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
ที่ทรงมีพระอัฉริยภาพ และต่างทรงงานหนัก
เพื่อให้ประชาชนของพระองค์มีชีวิตที่ดีขึ้น
ข่าวที่ 3 “ททท.ดึงมิชลินโปรโมตร้านอาหารไทย”
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่าเตรียมไปพบผู้บริหารมิชลินซึ่งพร้อมจะผลิตมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ
ซึ่งจะช่วยแนะนำและรับรองคุณภาพด้านอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สื่อสารเข้าถึงกลุ่มตลาดบน
สอดคล้องกับกลยุทธ์การยกระดับรายได้ท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ
ทั้งนี้ผู้ว่าการ ททท.จะใช้โอกาสการเดินทางไปตรวจเยี่ยมสำนักงาน
ททท.ปารีส ฝรั่งเศส หารือกับกลุ่มผู้ผลิตมิชลินไกด์ อีกทั้งอาหารไทยก็มีชื่อเสียงระดับโลกจากเมื่อเร็วๆ นี้ CNN สำนักข่าวดังระดับโลก ได้จัดอันดับประเทศไทยเป็นจุดหมายร้านอาหารริมทาง
(Street food) ดีสุด 1 ใน 23 แห่งของโลก
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. กล่าวย้ำว่า มิชลินไกด์เป็นคู่มือร้านอาหารที่ทั่วโลกยอมรับ
เบื้องต้นหากการหารือและตกลงกันได้แล้ว ทางทีมงานมิชลินจะเดินทางเข้ามาสำรวจร้านที่มีมาตรฐานตรงตามเกณฑ์
ก่อนจะลงมือผลิตหนังสือซึ่งแต่ละเล่มจะแนะนำร้านอาหารประมาณ 50-60 ร้าน เมื่อขั้นตอนการสำรวจและตีพิมพ์ได้แล้ว
ททท.คาดจะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ได้ในช่วงครึ่งปีหลังปี 2560
ข่าวที่4 “บางจากจับมือกรุงศรีเติมน้ำมันคืนเงิน”
“คุณวิบูลย์ วงสกุล ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่
สายงานธุรกิจค้าปลีกและสนับสนุนการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา ระหว่างวันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2559 จัดทำโปรโมชั่นพิเศษ
ให้สิทธิผู้ถือบัตรเครดิตกรุงศรีอยุธยา สามารถเติมน้ำมันปั๊มบางจากแล้วรับเครดิตเงินคืน
2 ต่อรวมสูงสุด 13% เพื่อมอบให้เป็นสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก
ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกรุงศรีที่สถานีบริการ น้ำมันบางจากทุกสาขา
ข่าวที่ 5 “TCEBรุกจัดTIME2016รับมือไมซ์จีน”
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ
กล่าวว่า ได้เปิดตัวโครงการ Thailand Incentive & Meeting
Exchange 2016 หรือ TIME 2016 เป็นครั้งแรก
เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และเจรจาธุรกิจสำหรับตลาด ธุรกิจการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล
(Meetings & Incentives หรือ MI) เจาะกลุ่มตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญ
ที่มีโอกาสการขยายตัวอีกมาก ตั้งเป้าสร้างเป็นโครงการ flagship พร้อมขยายการจัดงานหมุนเวียนไปยังกลุ่มลูกค้าไมซ์ในตลาดอื่นๆที่มีศักยภาพ
ในช่วง 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ 2559 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์รวม 750,742 คน สร้างรายได้ 60,593 ล้านบาท
ซึ่งตลาดจีนยังครองอันดับหนึ่งของจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์สูงสุดตามด้วยอินเดีย
และ สิงคโปร์ โดยมีสัดส่วนของนักเดินทางกลุ่ม MI จำนวน 393,859 คน สร้างรายได้ 29,664 ล้านบาท”
สำหรับการจัดงาน TIME 2016 จึงเป็นอีกกิจกรรมที่สร้างสรรค์ให้ผู้ประกอบการไมซ์เตรียมการเชิงรุกเพื่อดึงตลาดไมซ์จีนเข้ามาไทย
สำหรับกิจกรรมในงาน TIME 2016 แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก
ส่วนแรก Knowledge Exchange เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ในอุตสาหกรรมการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในรูปแบบของการจัด
FORUM เชิญผู้เชี่ยวชาญในด้าน
MI มาเป็นวิทยากร นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจ
มีผู้เข้าร่วมงานเป็นผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมประมาณ 150 ราย
ส่วนที่สอง Business Exchange เวทีเจรจาธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการไทย
ได้เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไมซ์ (MICE Agent) จากประเทศจีนจำนวนกว่า 40 ราย
ส่วนที่สาม Experience Exchange การจัดกิจกรรมทัศนศึกษาขนาดใหญ่ จากจีนจำนวน
40-45 ราย ณ จังหวัดภูเก็ต
ข่าวที่ 6 “จองแล้วบินเลยแค่510บาท”
“ไทย แอร์เอเชีย” ชวนผู้โดยสารบินได้ทันทีเมื่อเข้าไปจองซื้อตั๋วของแอร์เอเชีย
ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2559 กับแคมเปญ “จองแล้ว บินเลย” เริ่มต้นที่ราคาเพียงเที่ยวละ 510 บาท ในไฮไลต์ 6 เส้นทาง ไปหรือกลับ อุดรธานี น่าน
สุราษฎร์ธานี เวียงจันทน์ โฮจิมินห์
และอีกหลากหลายปลายทางในฝันของนักเดินทางทุกเพศทุกวัย ดูรายละเอียดได้เลยที่ www.airasia.com ซื้อตอนนี้สามารถเก็บไว้ใช้เดินทางได้ข้ามปี
จนถึงเดือนเมษายน 2560
ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ช่วงดี ๆ มีความสุขกับการพาไปเที่ยวปากช่อง
นครราชสีมา สไตล์ชิคและชิว ที่“ฟาร์มเกษตรอินทรี FOUNTAIN RESORT & เขาใหญ่ฟาร์ม วิลเลจ
และนั่งจิบกาแฟกลางธรรมชาติใน “ไร่คั่วกาแฟ”
และคนวัยทำงานต้องฟังว่านั่งนานตัวก่อปัญหาท้องผูก
@ทัวร์อำเภอปากช่องสไตล์ชิค&ชิว
ที่ “ฟาร์มเกษตร-FOUNTAIN RESORT & เขาใหญ่ฟาร์ม วิลเลจ” และแฮงเอาท์จิบกาแฟชิว ๆ
กลางทุ่ง “ไร่คั่วกาแฟ”
สถานที่แรก “FOUNTAIN RESORT & เขาใหญ่ฟาร์ม
วิลเลจ" ตั้งอยู่ตรง
ถนนขนงพระ อำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นพื้นที่โรงแรมห้องพักสีเขียวและศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
พิ้นที่ปลูกเห็ดนางรม |
ภายในพื้นที่จะแบ่งเป็น “ฟาร์มปลูกผักและแปลงเมล่อน”
สามารถเดินชมได้ 2 โซน “โซนด้านหน้า” เป็นอาคารห้องพัก ร้านอาหาร และ
ลานกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงผจญภัย “โซนด้านหลัง” เป็นพื้นที่ฟาร์มเกษตร
"เขตปลูกพืชปลอดสาร" เกือบ 90 ชนิด ที่นำวัตถุดิบ 100
% มาใช้ปรุงอาหารในครัวของรีสอร์ตเพื่อบริการลูกค้า
จัดสรรพื้นที่ทำเป็นศูนย์เรียนรู้และสถานีพืชแต่ละชนิด ทั้งพืชกินใบ กินผล
พืชไฮไลต์ก็มีต้นหอม และอื่น ๆ และมีโรงเพาะเห็ดราคาแพง ทั้งเห็ดเป็นยา เช่น
ถังเช่า ราคาขาย กก.หลักแสน เห็ดหลิงจือ และเห็ดทำเป็นอาหาร เช่น เห็ดฮังการี
นางฟ้า-นางรม-นางนวล
โรงเลี้ยงไส้เดือนและหนอนไหม |
ส่วนเขต "เลี้ยงสัตว์" ไฮไลต์หลัก ๆ คือ โซนที่ 1. EARTH WORM-โรงเลี้ยงหนอนไหมและไส้เดือนทำปุ๋ยอินทรีย์"
โดยเพาะหนอนไหม เลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมเพื่อไว้ใช้ทำโครงการใหม่คือ
"สบู่โปรตีนไหม" แห่งแรก ผลิตภัณฑ์นี้จะเริ่มออกวางตลาดเดือนตุลาคม 2559
โซนที่ 2 ศูนย์เพาะเลี้ยงไส้เดือน 2 สายพันธ์ คือ แอฟริกันไนคอลเลอร์
กับไทเกอร์เวิร์ม เพื่อใช้ในการทำให้ดินเป็นอินทรีย์ในการเพาะปลูกพืชทั่วบริเวณ โซนที่ 3 โซนเลี้ยง
ไก่ดำภูพาน ขนดำและขาว หน้าดำ กระดูกดำ
ที่นำไปทำอาหารต้มซุปไก่ดำ ราคาค่อนข้างสูง
ฟาร์มแกะในส่วนฟาร์มเขาใหญ่ วิลเลจ |
โซนที่ 4ฟาร์มแกะ ในลานโล่งกว้าง
รองรับนักท่องเที่ยวพาครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติผู้ใหญ่ ไปให้อาหาร หรือ ป้อนนมแกะ
ราคาค่าเลี้ยงหญ้าแกะ ครั้งละ 50 บาท ต่อหญ้า 1 กำ ส่วนนมขวดละ 20 บาท ด้านหน้าทุ่งเลี้ยงแกะ
มีช้อปแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำนมแกะ เช่น ครีมขัดผิวน้ำ โลชั่น เซรั่มบำรุงผม
รวมทั้งของที่ระลึกอีกหลายอย่าง สนนราคา ขวดละ 200 บาทขึ้นไป
คุณภาพทัดเทียมผลิตภัณฑ์แกะนิวซีแลนด์
โทร.สอบถามได้ที่ 093-319-0931-2 หรือ www.khaoyaifarmvillage.com
, www.facebook Khoa Farm Village
สถานที่สอง “โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว”
ในตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
โฮมสเตย์ใน "ไร่คั่วกาแฟ" |
เป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางธรรมชาติ 5 ไร่
ของหนุ่มนิเทศศาสตร์ชาวราชบุรี วัย 37 ปี ได้หันมาเอาดีการทำกาแฟคอนแทร็กฟาร์มมิ่งกับเครือข่ายชุมชนทำตามสูตรการเพาะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์
แล้วนำมาคั่วและมาชงให้ลูกค้านั่งชิว ๆ ใน “ร้านกาแฟ” ติดแม่น้ำ
ผลิตภัณฑ์กาแฟแปรรูปเป็นครีมบำรุงผิวจาก "ไร่คั่วกาแฟ" |
ภายในบริเวณออกแบบเป็นสไตล์เกษตรผสมผสานแบ่งพื้นที่
“บริเวณด้านหน้า” ทำเป็นโรงคั่วกาแฟขนาดเล็กกับร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปครีมดูแลผิวพรรณที่ทำจากกาแฟแปรรูป
“บริเวณด้านหลัง” สร้างบ้านพักมีแค่ 2 หลังเท่านั้น สนนราคาก็ 2,500
บาทต่อหลังต่อคืนขึ้นไป ส่วนที่ 3 เปิดเป็นร้านกาแฟเก๋ ๆ สไตล์ชิค ๆ
ที่มีคนแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ต้องชงกาแฟมือเป็นละวิง
ปากช่องเป็นอำเภอที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย
ซึ่งกำลังจะกลายเป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยวข้ามภาคตามคอนเซ็ปต์ของ ททท.ภูมิภาคภาคอีสาน
นั่นเอง
@เตือนวัยทำงานนั่งนานระวังเจอปัญหาท้องผูก
มูลนิธิหมอชาวบ้าน
และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำการดูแลสุขภาพ “อยากสุขภาพดีต้องมี 3อ. สำหรับวัยทำงาน"
เพราะทุกวันนี้คนวัยทงานมักมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ
ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวร่างกาย และกินอาหารปรุงสำเร็จซึ่งมักมีผักและผลไม้น้อย
โดยเฉพาะผู้ที่นั่งทำงานเป็นเวลานาน มักมีปัญหาท้องผูก
ปริมาณใยอาหารที่ควรบริโภคต่อวัน
ควรบริโภคให้ได้ปริมาณ 20-35 กรัมต่อวัน หรือกินผักมื้อละ 1 ทัพพี และผลไม้วันละ 3-5 ส่วน กินธัญพืชไม่ขัดสี
หรือถั่วเมล็ดแห้งแทนได้ กินกล้วยน้ำว้าสุกช่วยระบายท้อง
และหลีกเลี่ยงการใช้ยาระบาย
นอกจากนี้การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อหน้าท้องและกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร
ประชาชนควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และบริโภคอาหารที่ถูกหลักโภชนาการทั้ง
5 หมู่ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
สำหรับข่าวยอดนิยมในรอบสัปดาห์
ข่าวแรก“4ปัจจัยทำการบินไทยQ2ขาดทุนยับ”
“จรัมพร โชติเสถียร” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท
การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการการบินไทย ไตรมาส 2
มกราคม-มิถุนายน 2559 บริษัทใหญ่และบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 2,915
ล้านบาท (ขาดทุนจากบริษัทใหญ่ 2,921 ล้านบาท)
โดยมีผลมาจากขาดทุนการดำเนินงาน 1,782 ล้านบาท
โดยมีตัวแปร 4
ปัจจัย ได้แก่ "ปัจจัยลบ" ที่มีผลต่อการขาดทุนของการบินไทยในไตรมาส 2 หลัก ๆ 2 เรื่อง คือ 1.มีค่าใช้จ่ายหลักโครงการปฎิรูปและการด้อยค่าของทรัพย์สิน
2,300 ล้านบาท และอื่นๆ 2.เป็นช่วงนอกฤดูเดินทางผนวกกับการแข่งขันของการบินในภูมิภาคเอเชีย
แปซิฟิก ส่งผลให้การบินไทย มีปริมาณการขนส่งผู้โดยสารลดลง 0.6 % ปริมาณการผลิตผู้โดยสาร
0.2 % ขณะที่ อัตราการบรรทุกผู้โดยรวมทำได้ 69.0 %
"ปัจจัยบวก" ที่เป็นแรงส่งในไตรมาส 2 ให้การบินไทยดีขึ้น อีก 2 เรื่อง คือ 1.อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกับสกุลเงินต่างประเทศทำให้มีกำไร
595 ล้านบาท 2.ค่าใช้จ่ายทางด้านราคาน้ำมันเครื่องบินตลอดไตรมาส2
ลดลงไปถึง 3,182 ล้านบาท คิดเป็น 21.3 % ส่วนราคาน้ำมันเฉลี่ยในตลาดลดลงไป
27.9 %
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2559 (มกราคม-มิถุนายน)
การบินไทยกำไรสุทธิ 5,397 ล้านบาท
ข่าวที่สอง “ดุสิตธานีปักธงรร.ไทยแห่งที่6ในดูไบ”
“นางศุภจี สุธรรมพันธ์” ซีอีโอกลุ่มดุสิตธานี เปิดเผยว่า
ได้ลงนามความตกลงเข้าบริหารโรงแรมแห่งที่ 6
ในตะวันออกลาง ณ มหานครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ “ACES
Property Development” ซึ่งจะเปิดโครงการห้องพักในชื่อ
“ดุสิต ปริ๊นเซส แอคเซส ดูไบ” เป็นโรงแรมสไตล์อพาร์ทเมนต์ ขนาด 250 ห้อง
ภายในประกอบด้วย ห้องพักสตูดิโอเพนต์เฮาส์ 3
ห้องนอน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สปา ห้องยิม
ซาวน่า คาเฟ่เปิดโล่ง ร้านอาหาร
ซึ่งตั้งอยู่ภายในเมกะโปรเจ็กต์ จูเมราห์ วิลเลจ
เซอร์เคิล อยู่ใกล้กับ มารีน่า สกายไลน์ ดูไบ และ สนามบินนานาชาติอัล มัคตุม ปาล์ม
จูเมราห์ อีกทั้งยังรายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งและเอนเตอร์เทนเมนต์
ข่าวที่สาม “ททท.งัด5กิจกรรมรักษารายได้5ล้าน”
“ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผลจากเหตุการณ์ป่วนเมือง 7 จังหวัด
เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะทำให้การท่องเที่ยวสูญรายได้ไปประมาณ 5,080 ล้านบาท จึงได้รณรงค์ให้นำ5กิจกรรม
มาจัดเพื่อปลุกนักท่องเที่ยวกลับคืนมา ได้แก่
1. กิจกรรม Expat For Fun ซึ่งเป็นกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม
อาหาร สินค้าและการท่องเที่ยว ให้กับชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย ได้มาร่วมงานและแสดงถึงความรักที่มีต่อประเทศไทย
2.
กิจกรรม
”อลังการเมืองไทย”
(Magnificence Thailand) ประกอบด้วย เทศกาลอาหารริมทาง (Street
Food) เทศกาลอาหารถิ่น
การประดับไฟฟ้า (Illuminated)
การฉายภาพบนอาคาร
(Mapping)
รมวทั้งการจัดถนนคนเดิน
(Shopping
Street)
3.
เทศกาล
วิ่ง เล่น เต้น กิน หัวหินเฟสติวัล จัดให้มี มหกรรมเพลแจ๊ส การวิ่งมาราธอน กิจกรรมกีฬาโดยจะดึงโปรเม
กับโปรแหวน มาตีกอล์ฟในพื้นที่
4.
กิจกรรมท้าเที่ยวข้ามภาค
โดยจะท้าให้คนภาคอื่น ๆ เดินทางมาเที่ยวภาคใต้
5. กิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศคนที่
30
31 32 ..... ล้าน
พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม
ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า
รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao และ
ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน ผู้ดำเนินรายการ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น