เปิดโฉมไทยแลนด์มอลล์คือใคร-ผู้นำประชารัฐโอท็อป-เอ็กซ์พีเดียชี้เทรนด์จองรร.ไทยผ่านมือถือพุ่ง

เปิดตัว “ไทยแลนด์มอลล์” คือใคร?

ผู้นำทาง“โอทอปประชารัฐ”โกอินเตอร์

ชี้เทรนด์จองรร.ไทยผ่านมือถือพุ่ง55%

เช้าวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2559   เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” อัพเดททุกสถานการณ์ข่าวครบทุกเรื่องราวท่องเที่ยว การบิน และอื่น ๆ

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.



พรรณประวีร์ กิวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอลล์ ไทยแลนด์ จำกัด
เจ้าของ www.thailand.com ผู้ได้สิทธิ์ขายสินค้าออนไลน์ "โอทอปประชารัฐ"

“คุณพรรณประวีร์ กิวานนท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอลล์ ไทยแลนด์ จำกัด เจ้าของเว็บ www.thailandmall.com ขายสินค้าออนไลน์ “โอทอปประชารัฐ” ที่ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดโครงการ “ไทย จากท้องถิ่น บินสู่ท้องฟ้า” แล้วเริ่มคลิกออฟแล้วตั้งแต่ 18 สิงหาคม 2559 เป็นต้นมา โดยทำแคตตาล็อกสินค้าโอทอปไทยขายอยู่บนเครื่องของการบินไทย ไทยสไมล์ และนกแอร์ และร้านค้าภายในโซนขาออกสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ 2 พื้นที่ คือ ในร้านโอทอปของคิงเพาเวอร์ ด้านหัวท้ายคองคอร์ด D กับบริเวณศาลาไทย

“คุณพรรรประวีร์” พร้อมมาพูดคุยในรายการถึงโร้ดแมฟของธุรกิจที่ได้รับสิทธิจากกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ให้เป็น 1 ใน 8 องค์กร การค้าที่จะนำพาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก “เฟสแรก” ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์โอทอปชุมชนมาวางอยู่ในแคตตาล็อกแล้ว 128 ผลิตภัณฑ์ ตั้งเป้าจะขายให้ได้เดือนละ 5 ล้านบาท การทดลองตลาดเบื้องต้นกระแสตอบรับจากนักช้อปนานาชาติสั่งซื้อสูงถึง 80 % ทั้งอเมริกา ออสเตรเลีย ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มคนไทยอีก 20 %

ตามแผนอีก 6 เดือนข้างหน้าจะขยายเฟส 2 และเฟส 3 ด้วยการเพิ่มไลน์และหมวดผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาขายมากขึ้น เพื่อช่วยยกระดับ “รายได้ชุมชนผู้ผลิตทั่วประเทศ” เนื่องจากการขายผ่านช่องทางออนไลน์จะเป็นแรงส่งที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกได้สะดวก รวดเร็ว เพราะคุณค่าและคุณภาพสินค้าโอทอปไทยมีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่าสินค้าทั่วไปของประเทศคู่แข่งขันอื่น ๆ

สำหรับยอดขายสินค้าโอทอปปี 2559 กรมพัฒนาชุมชน ตั้งเป้าหมายแนวโน้มจะทำได้ถึง 120,000 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งทำได้ราว 108,000 ล้านบาท

 จากนั้นมาฟังข่าวต้นชั่วโมงที่น่าสนใจ

ข่าวที่ 1 “ชอปลุ้นรับเบนซ์และรางวัล3.6ล้าน”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ให้นักช้อปได้ซื้อสินค้าที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 3,600,000 บาท เป็นเวลาอีก 1 เดือน ระหว่างวันนี้-10 กันยายน 2559 กับแคมเปญ “The Magical Happyness : Spend More Win More” หรือยิ่งใช้มาก ยิ่งลุ้นมาก ทุกการใช้จ่ายมีสิทธิ์ชิงรางวัล  ให้ลุ้นรับถึง 5 อย่าง 1.รถ Mercedes-Benz GLA 200 มูลค่า 2,090,000 บาท 1 รางวัล 2.แหวนเพชรจาก Jubilee มูลค่า 300,000 บาท    1 รางวัล 3.บัตรของขวัญ คิง เพาเวอร์ มูลค่า 100,000 บาท    5 รางวัล 4.บัตรของขวัญ คิง เพาเวอร์ มูลค่า 50,000 บาท      10 รางวัล 5.สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท มูลค่า 21,050 บาท     10 รางวัล ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.kingpower.com

ข่าวที่ 2 “รับฟรีคู่มือเที่ยว70เส้นทางตามรอยพระบาท”

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ขอมอบสิทธิให้สมาชิกบัตรบางจากแก๊สโซฮอล์คลับ เพียงเติมน้ำมัน E20s ในราคา 600 บาท ก็จะได้รับหนังสือ 70 เส้นทางตามรอยพระบาท ฟรี

หนังสือ 70 เส้นทางตามรอยพระบาท เป็นคู่มือแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เห็น ได้เรียนรู้ และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงมีพระอัฉริยภาพ และต่างทรงงานหนัก เพื่อให้ประชาชนของพระองค์มีชีวิตที่ดีขึ้น

ข่าวที่ 3 “ดวลวงสวิงกรีนซีซัน9สนามในหัวหิน-ชะอำ”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 2 สำนักงาน ทั้งประจวบคีรีขันธ์กับเพชรบุรี ผนึกความร่วมมือกับ ชมรมสนามกอล์ฟเพชรบุรี-ประจวบฯ จัด “เทศกาลกอล์ฟหัวหิน-ชะอำ ครั้งที่ 15” ระหว่างวันนี้-30กันยายน 2559 โดยมีสนามกอล์ฟเข้าร่วมจากทั้ง 2 จังหวัด 9 สนาม เสนอราคากรีนฟีสนามละ 1,000-1,800 บาท และค่าสมัครเข้าร่วมแข่งขัน 1,600-2,400 บาท  

สนามกอล์ฟที่เข้าร่วมโครงการฯ มีดังนี้  1. The Imperial Lake View Resort & Golf Club 2. Kaeng Krachan Country Club 3.The Majestic Creek Golf & Resort 4.Springfield Royal Country Club 5.Palm Hills Golf Club & Residence 5.Banyan Golf Course 6.Black Mountain Golf Course 7.Royal Hua Hin Golf Course8.Royal Thai Army Sport Center 9. Suanson Pradipat Golf Courseสอบถามข้อมูลได้ที่ 09 7101 6114 และ www.hcgolffestival.com, www.ppgathailand.com

ข่าวที่ 4 “เจ้าพระยาดินเนอร์ครุยส์ลดครึ่งสมาชิกบางจาก”

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ร่วมกับภาคีพันธมิตรท่องเที่ยว มอบส่วนลดพิเศษผู้ถือบัตรสมาชิกบางจาก ระหว่างวันนี้ – 31 ธ.ค. 2559 ล่องเรือดินเนอร์ เจ้าพระยาครุยส์  Amazing Dinner Cruise (Thai & International Buffet)  “ผู้ใหญ่” ลดเหลือ 990 บาท จากปกติ1,700 บาท “เด็ก” 5-10 ขวบ เหลือเพียง 650 บาท จากราคาปกติ 1,100 บาท

 ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ  1.แสดงบัตรสมาชิกบางจากแก๊สโซฮอล์คลับ หรือ บางจากดีเซลคลับ ก่อนชำระเงินเพื่อรับสิทธิประโยชน์ หรือ ส่วนลดพิเศษจาก เรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์ 2.สำรองที่นั่งล่วงหน้า 3 วัน โดย โทรแจ้งที่02-5415599  และ 3.ลงทะเบียนขึ้นเรือเวลา 18.45 น. ท่าเทียบเรือที่ 1 ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา ซอยเจริญกรุง 30 เริ่มล่องเรือเวลา 19.00-21.00 น.

 ข่าวที่ 5 “ทีเส็บนำไมซ์ร่วมCSRช่วยสภากาชาด”

“นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย” ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า หรือ TCEB ได้ร่วมสนับสนุนองค์กรภาครัฐและอกชนทำกิจกรรม “12 สิงหา ฮาล์ฟ มาราธอน กรุงเทพฯ 2016” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 20,000 คน โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำไปสมทบ “ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ” เพื่อโรคมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

โครงการดังกล่าวเป็นกิจกรรมสร้างประโยชน์สู่สังคม จัดโดย บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดกิจกรรม โดยมี TCEB ร่วมกับหน่วยงานภาคีพันธมิตรร่วมสนับสนุนด้วยได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานคร  

นายนพรัตน์ย้ำว่าTCEBได้ตั้งเป้าหมายเชิงเศรษฐกิจมุ่งเน้นทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2559 เติบโตทางด้านจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์จะทำให้ได้ถึง 1,060,000 คน และสร้างรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 92,000 ล้านบาท  

ข่าวที่ 6 “ปรับโฉมโมบายแอพจองตั๋วบินแรงเร็ว”

สายการบินไทย แอร์เอเชีย ปรับโฉมใหม่ที่่ดีกว่าให้ผู้โดยสารใช้บริการ “แอร์เอเชีย โมบายแอพ!”

เพียงดาวน์โหลดและติดตั้งแอร์เอเชียโมบายแอพ ก็สามารถวางแผนการเดินทางทุกที่ทุกเวลาโยการปรับโฉมใหม่การทำงานให้รวดเร็วและลื่นไหลมากขึ้นในการค้นหาเที่ยวบิน การสำรองที่นั่ง และการจัดการเที่ยวบินต่างๆ จะสามารถทำได้โดยตรงจากโทรศัพท์มือถือของคุณทั้งในระบบ Android และ iOS การจองตั๋วเครื่องบินราคาสุดประหยัดเพื่อเดินทางสู่เส้นทางในฝันของคุณก็กลายเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น ด้วย 4 บริการหลัก ดังนี้

1.ค้นหาเที่ยวบินและสำรองที่นั่ง ราคาสุดประหยัดสำหรับเที่ยวบินตรง เที่ยวบิน Fly-Thru หรือ บริการเชื่อมต่อไปยังเกาะและเมืองต่างๆ across Asia and Australia are now at your fingertips.

2.ชำระเงินผ่านโมบายแอพ  : จองบัตรโดยสารแล้วชำระเงินง่ายๆ ผ่านแอพของเราที่รับประกันความปลอดภัย! แอปพลิเคชั่นของเรารองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตวีซ่า มาสเตอร์การ์ด และ Amex รวมไปถึงบัตร BIG MasterCard และบัตรเติมเงิน AirAsia ezpay

3.จัดการบุ๊คกิ้ง” จัดการเที่ยวบินได้ง่ายๆ และการเข้าบัญชี BIG Shot เพื่อเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขข้อมูลในเที่ยวบินของคุณจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์ต่างๆ คือเช็คอิน ตรวจสถานะเที่ยวบิน แสดงบอร์ดดิ้งพาสส์ จัดการบุ๊กกิ้ง

4.เพิ่มเติมด้วยภาษาใหม่ๆ” แอปพลิเคชั่นแอร์เอเชียรองรับการใช้งานถึง 11 ภาษา

ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ฟังเรื่องดี ๆ มีความสุขกับการได้ไปสัมผัสวิถีเกษตรจากปากช่องถึงวังน้ำเขียวใน 2 ฟาร์มเกษตร แล้วฟังคำเตือนจากหมอถึง 10 โรคเสี่ยงของคนวัยทำงาน และข่าวประจำสัปดาห์

@วิถีทัวร์เกษตร2ฟาร์มสุขจากปากช่องถึงวังน้ำเขียว

ออกเดินทางไป “ปากช่อง” และ “วังน้ำเขียว” ไปเที่ยวสวนเกษตรอินทรีย์ 2 แห่ง ที่มีความร่มรื่น โดดเด่น เป็นแหล่งเรียนรู้ที่แตกต่างกัน

ฟาร์มปลูกเมล่อนใน "สวนผักคลองม่วง"

แห่งแรก “อาณาจักรสวนผัก” ในตำบลคลองม่วง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขนาดพื้นที่กว่า 600 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงเกษตรอินทรีย์เคมี(บางส่วน) พืชไฮไลต์ที่ปลูก เป็นหน้าตาของสวนคือ “สวนเมล่อน” ใช้พื้นที่ปลูกราว 6 ไร่ มี 2 สายพันธุ์ เนื้อในเป็นสีส้มชมพู สายพันธุ์แรก "เปลือกสีเหลือง" รสหวานกรอบอร่อย นักท่องเที่ยวเจนวายนิยม ทำให้ยอดขายได้จำนวนมาก ส่วนอีกสายพันธ์ " เปลือกสีเขียวเป็นลายตาข่าย" รสหวานนุ่มกลิ่นหอม นักท่องเที่ยววัยเก๋าจะชอบกิน สนนราคาขายทั้ง 2 สายพันธุ์เท่ากันคือกิโลกรัมละ 150 บาท ตอนนี้ขายเฉพะหน้าร้าน เพราะกำลังการผลิตเพิ่งทำรุ่น 2 ผลิตยังน้อยอยู่ ได้ประมาณวันละ 50 ลูก อนาคตจะส่งออกไปภัตตาคารในฮ่องกง

ฟาร์มปลูกคึ่นชายสีเขียวและสีขาวใน "สวนผักคลองม่วง"พื้นที่กว่า 400 ไร่

 

            ส่วนที่อลังการงานสร้างคือ “สวนขึ้นฉ่ายต้นสีเขียวและสีขาว” ใช้พื้นที่ปลูกรวมกว่า 400 ไร่ เพราะเป็นพืชที่ใช้ดินปลูกได้ทีละครั้ง ต้องหมุนเวียนหาพืชชนิดอื่นมาปลูกสลับก่อนจึงจะนำดินบริเวณดังกล่าวกลับมาปลูกขึ้นฉ่ายรุ่นใหม่ได้ สนนราราขาย คึ่นช่ายเขียว กก.ละ 40 บาท ส่วนคึ่นช่ายขาว กก.ละ 120 บาท กำลังการผลิตอย่างละ 200-300 กก.ต่อวัน ส่วนใหญ่จะนำส่งตลาดไทยและสี่มุมเมือง

สำหรับ “เห็ด” ก็ทำเงินได้มากโขเช่นกัน ซึ่งทาง “สวนผัก” ดัดแปลงคอกม้าแข่งเดิมมาทำเป็นโรงเพาะเห็ด อาทิ เห็ดฮังการ เห็ดภูฐาน และอื่น ๆ จำหน่ายในตลาดท้องถิ่น ปากช่อง เมืองโคราช

แห่งที่ 2 “สวนลุงไกร” เกษตรศิลปินแห่งวังน้ำเขียว ต.บ้านไทยสามมัคคี อ.วังน้ำเขียว

แปลงปลูกผักปลอดสารในสวนลุงไกร วังน้ำเขียว

 

บรรยากาศเป็นคนละสไตล์กับ “สวนผักคลองม่วง” ในปากช่อง ทั้งขนาดพื้นที่เพียงไม่กี่ไร่ อาศัยการปลูกตามวิถีปราชญ์ที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียงกับวิถีท้องถิ่นในการทำเกษตรปลูกผักปลอดสารเคมี เป็นภูมิปัญญาของปราชญ์ชื่อ "ลุงไกร" เกษตรกรผู้มีดนตรีในหัวใจ วัย 64 ปี ใช้เสียงเพลงฮอต take me Home กล่อมให้ผักจากแปลงดินและใช้หลักความดันในดินผสมผสานเข้าด้วยกัน และด้วยทำเลของแปลงผักที่ตั้งอยู่ในอ้อมกอดขุนเขา ติดอ่างเก็บน้ำห้วยขมิ้น ได้ฟังเพลงที่ลุงเล่นกีตาร์ให้ฟังอย่างไพเราะทุกวัน ผักของลุงไกรจึงเติบโตมีผลผลิตให้เก็บขายได้เงินเป็นกอบกำ พลิกชีวิตครอบครัวให้อยู่อย่างมีความสุข มานานกว่า 23 ปี

ปราชญ์ "ลุงไกร" เกษตรศิลปิน ที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

 

ชีวิตลุงไกรมีความสุขกว่าคนอีกมากมายหลานล้านครอบครัว และลุงไกรก็พร้อมจะเปิดบ้านหลังนี้ ที่มีทั้งแปลงผักปลอดสาร บ้านพักโฮมสเตย์ 17 หลัง และอาณาจักรแห่งความสุข แบ่งปันให้กับนักท่องเที่ยวทุกวัย แวะเข้ามาได้เลยทุก ๆ วัน ที่สวนลุงไกร และ วังน้ำเขียววิลเลจ โทร.สอบถามได้ที่ 080-049-5522, 080-049-5511

โฮมสเตย์ใน "สวนลุงไกร วังน้ำเขียว"

 

@10 โรคเสี่ยงของคนวัยทำงาน

นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย ให้คำแนะนำ “ประชากรวัยทำงาน” ยุคนี้ส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ในที่ทำงานไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ดังนั้นการดูแลให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ยุคนี้คนวัยทำงานมีความเสี่ยงทางสุขภาพ 10 โรค ได้แก่

 1.โรคอ้วน จากการขาดการออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไป 2.โรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งมีผลต่อเนื่องมาจากโรคอ้วน 3.โรคมะเร็งระบบสืบพันธุ์ พบมากโดยเฉพาะในผู้หญิง เช่น มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม 4.โรคจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ นำไปสู่การเกิดมะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งกล่องเสียง หลอดเลือดสมองตีบ และเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ 5.โรคเครียด ที่เสียงต่อการฆ่าตัวตายมากที่สุด สาเหตุส่วนใหญ่มาจากเรื่องเงินและเรื่องงาน

6.โรคเอดส์ จากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และการใช้สารเสพติด 7.ภาวะมีบุตรยาก คือ คู่สมรสที่มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอเกิน 1 ปี แต่ไม่สามารถมีบุตรได้ 8.การทำแท้ง ร้อยละ 71.1 มีสาเหตุมาจากการไม่ได้ตั้งใจตั้งครรภ์ และร้อยละ 56.5 ไม่ได้คุมกำเนิด 9.ความเสี่ยงจากงานและโรคจากการประกอบอาชีพ เช่น อุบัติเหตุขณะทำงาน โรคระบบทางเดินหายใจจากการทำงาน และโรคพิษจากสารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว สารหนู โรคประสาทหูเสื่อม และ 10.อุบัติเหตุบนท้องถนน จากการเมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกำหนด

คุณหมอจึงแนะนำว่า วัยทำงานดูแลสุขภาพตนเองได้ด้วย 2 เรื่องหลัก  “1.การกินอาหารอย่างถูกต้องเหมาะสม” โดยเฉพาะ “มื้อเช้า” เพราะหากไม่กินร่างกายจะเกิดภาวะขาดน้ำตาล ทำให้ความคิดตื้อตัน สมองไม่ปลอดโปร่ง วิตกกังวล ใจสั่น อ่อนเพลีย หงุดหงิด โมโหง่าย และเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก ผลไม้

“2.ควรออกกำลังกาย” จัดสรรเวลาให้เหมาะสม เพื่อลดน้ำหนักและรอบพุงวันละ 30-60 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน จะเป็นการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวในที่ทำงาน เช่น บริหารร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ วันละประมาณ 5 นาที 2 ครั้ง เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ ขี่จักรยานหรือเดินไปทำงาน

เป็นวิธีทำความรู้จักจัดการความเครียดโดยการทำงานอดิเรก หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

สำหรับข่าวท้ายชั่วโมงประจำสัปดาห์

ข่าวแรก“ทัวร์ซูเปอร์ยอร์ชเข้าภูเก็ตครั้งแรกธ.ค.นี้”

Mark Robba เจ้าของ “ดูเนีย บารู” บริการเรือยอร์ชให้เช่าท่องเที่ยวแบบหรูหรา กล่าวว่าได้นำนักท่องเที่ยวกลุ่ม “ซูเปอร์ยอร์ช เรดเดซวอส” บุกเข้าสู่ภูเก็ต จัดปาร์ตี้เฉลิมฉลองกิจกรรมประจำปี Asia Superyacht Rendezvous ครั้งแรกในรอบปีนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม นี้ นับเป็นอีเวนต์การจัดงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกิจกรรมเรือมอเตอร์ยอร์ชในภูมิภาคเอเชีย ที่จะได้นำเรือรุ่นล่าสุดมาโชว์ พร้อมทั้งจัดพบกิจกรรมนัดพบในกลุ่มลูกค้าวี.ไอ.พี. ได้ปะสังสรรค์ ร่วมเฉลิมฉลองดื่มด่ำกับความงดงามของเรือที่นำเข้ามาแวะจอดในภูเก็ตตลอด 3 วัน โดยเลือกใช้สถานที่ศาลารีสอร์ตแอนด์สปา ภูเก็ต

ในเดือนธันวาคมนี้หลังจากทริปภูเก็ตแล้ว ดูเนีย บารู ได้นำเสนอการทำทริปเช่าเหมาลำเข้าสู่เมียนมา ราคาสัปดาห์ละ 94,500 เหรียญสหรัฐ สำหรับนักท่องเที่ยว 14 คน ภายในเรือยอร์ชมีสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหราด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยครบครัน

ข่าวที่สอง “ภูเก็ตบูมอาหารถิ่นกินกุ้งมังกรถึง31ส.ค.”

“วีระชัย ปรานวีระไพบูลย์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีภูเก็ต (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด จับมือกับจังหวัดภูเก็ต ททท.และชุมชนผู้เลี้ยงกุ้งมังกรจังหวัดภูเก็ตและแถบอันดามัน ชวนแฟนพันธุ์แท้เมนูล็อบสเตอร์ ห้ามพลาดร่วมเทศกาล Phuket Lobster Festival 2016     2016 : เจ้าถิ่นพากินกุ้งมังกร” ระหว่าง 1-31 สิงหาคม 2559 จัดเตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ บริเวณรอบเกาะภูเก็ต

ข่าวที่สาม “ภัตตาคารดิ้นหนีตายหลังคนหันกินสตรีทฟู้ด”

“นางฐนิวรรณ กุลมงคล” นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มภัตตาคารไทยต้องดิ้นหาตลาดและควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย หลังพบว่าแนวโน้มลูกค้าพากันหันไปเลือกกินอาหารฟู้ดสตรีทเพิ่มขึ้นถึง 60 % ทำให้บรรดาอาหารเหลาในภัตตาคารยอดขายซบเซา ต้องปรับกลยุทธ์ลดต้นทุนด้วยการลดปริมาณการใส่วัตถุดิบราคาแพงอย่างกุ้งในแต่ละจาน หรือเพิ่มขนาดจานให้ใหญ่ขึ้น

รวมทั้งต้องหาช่องทางเพิ่มด้วยการจับมือกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย จัดซื้อขายวัตถุดิบอาหารด้านเกษตรในรูปแบบออนไลน์ โดยให้ร้านอาหารที่เป็นสมาชิกซื้อวัตถุดิบด้านเกษตรจากเว็บไซต์ อ.ต.ก. โดยตรง และซื้อได้ถูกกว่าท้องตลาดราว10% เพราะร้านอาหารต้องพึ่งพาสินค้าเกษตรถึง 30%

ข่าวที่สี่ “แวะชิมอาหารเวียดนามที่คามิโออยุธยา”

โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อยุธยา ชวนไปชิม “อาหารเวียตนาม” วันที่ 27-29 สิงหาคม นี้ เวลา 18.30 – 22.00 น. ห้องอาหารแทพเพสทรี เหมาะสำหรับแฟนพันธุ์แท้อาหารเวียตนามทุกท่านพบกับเทศกาลอาหารเวียดนามหลากหลายเมนูในแบบบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ

ปรุงสุดฝีมือโดยเชฟมืออาชีพ ที่คัดสรรอาหารเวียดนามสูตรต้นตำรับรสเลิศมาบริการ อาทิ ขนมเบื้องญวน ปอเปี๊ยะสดญวน เฝอ ในราคาสุทธิเพียงท่านละ 490 บาท  เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีลดครึ่งราคา

สอบถามที่ โทร. 035-212-535 หรือ : www.kameocollection.com

ข่าวที่ห้า“ชี้ต่างชาติแห่จองโรงแรมไทยผ่านมือถือพุ่ง55%”

“พิมพ์ปวีร์ นพกิจกำจร” ผู้อำนวยการบริหารการตลาด เอ็กพีเดีย กรุ๊ป เปิดเผยว่า แนวโน้มการให้บริการจองห้องพักผ่านสมาร์ทโฟน/โทรศัพท์มือถือ หรือ Mobile Hotel Booking Trends ในประเทศไทย กลายเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมจากบริษัทและนักเดินทางจากตลาดต่างประเทศทั่วโลก สถิติในเมืองไทยมีผู้จองห้องพักผ่านทางมือถือเติบโตสูงถึง 55 % ส่วนใหญ่เป็นนักเดินทางจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สวีเดน ฮ่องกง ออสเตรเลีย

ยอดจองช่วงครึ่งปีแรก 2559 ของนักเดินทางชาวต่างชาติที่เลือกจุดหมายปลายทางมาเมืองไทย ใช้บริการผ่านเอ็กพีเดีย กรุ๊ป พบยอดจองเพิ่มขึ้นจากตลาดเกาหลี 110% เนเธอร์แลนด์ 75 %

วิธีการจองแต่ละทริปจะประมาณ 1-6 วัน มียอดเติบโตเพิ่ม 25 % และในจำนวนนี้มีถึง 1 ใน 3 เลือกจุดหมายปลายทางเมืองไทย

พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao และ ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน ผู้ดำเนินรายการ
และคอลัมนิสต์การบินและท่องเที่ยว