ลุ้นรัฐรับแผนปฏิรูปตั้ง“กรอ.ไมซ์”สิงหานี้
6เดือนแรกการบินทั่วเอเชียคึกสวนเศรษฐกิจ
ประมูลจ้างที่ปรึกษากลยุทธ์ฉลองอาเซียน50ปี
เช้าวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม 2559 เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” รู้ทันข่าวและสารคดีท่องเที่ยวอัพเดททุกสถานการณ์
ช่วงแรกเวลา 11.15 น.
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการ TCEB |
“ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” ประธานกรรมการ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB จะมาอัพเดทภารกิจใหญ่ในการเดินหน้า“ปฏิรูปโครงสร้างองค์กรไมซ์” จะสามารถเสนอให้ตั้ง “กรอ.ไมซ์” ได้อย่างไร เพื่อที่จะได้ขยายเชิงรุกแผนแม่บทบิสิเนส
อีเวนต์เต็มรูปแบบ ขานรับนโยบายรัฐบาลกับการยกระดับไทยก้าวเข้าสู่ประเทศศูนย์กลาง “พรีเมียร์ บิสิเนส เดสนิเนชั่น” ของอาเซียน
หลังจากเมื่อมิถุนายน-กรกฎาคม 2559 “อนุกรรมการประสานงานภาครัฐเพื่อการอำนวยอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าและบริการอุตสาหกรรม”
ชุดที่ “คุณอัครพล สรสุชาติ” เป็นประธาน ได้ระดมความเห็นพร้อมข้อสรุปเสนอบอร์ดทีเส็บไปเรียบร้อยแล้ว
ถึงแนวทางผ่าทางตันด้วย 3 เรื่องหลัก คือ 1.เสนอแผนแม่บทด้วยบริบทใหม่อุตสาหกรรมไมซ์ต่อสภาปฏิรูปการขับเคลื่อนประเทศไทย
ภายในเดือนสิงหาคม 2559 นี้
2.ลงมือจัดทำคู่มือหรือคัมภีร์อุตสาหกรรมไมซ์
(manual) ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
3.จัดตั้ง กรอ.ไมซ์
ผนึกความร่วมมือกันในทุกรูปแบบเพื่อเดินหน้าไปสู่บริบทอุตสาหกรรมไมซ์เต็มรูปแบบคู่ขนานกันไป พร้อม ๆ
กับการปรับบทบาทของทีเส็บใหม่ให้สอดคล้องกับอนาคต 9 เรื่องหลัก
1.การกำหนดพื้นที่เฉพาะ
: Special Zone พื้นที่จำเพาะของการจัดงาน
ทั้งเรื่องคนและสิ่งของ ในภาคอุตสาหกรรมไมซ์ จะต้องกำหนดกติกา เกณฑ์
ขั้นตอนการปฎิบัติ ให้ชัดเจน
2.สสปน.มีอำนาจในการรับรอง
(Endorsement) งานประชุมและจัดแสดงสินค้าเพื่อพิจารณาขอรับสิทธิพิเศษต่าง
ๆ
3.สสปน.การจัดทำคู่มือ
(manaul) เกี่ยวกับการนำเข้าสิ่งของมาใช้ในการประชุมและแสดงสินค้า
เช่น กฎ ระเบียบ และ ขั้นตอนการนำเข้า การขอใบอนุญาต ระยะเวลายื่นเอกชน ทำให้เป็นคัมภีร์ของภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
4.กำหนดวัตถุประสงค์ของการนำเข้าของสิ่งของให้มีความชัดเจนว่าจะนำเข้ามาเพื่อใช้ในงานประชุมและงานแสดงสินค้า
หรือเพื่อจำหน่าย ลดขั้นตอน และ ระยะเวลา
5.สสปน.จัดระดับความน่าเชื่อถือของกลุ่มผู้ประกอบการด้านไมซ์
โดยแบ่งเระดับเป็น Premuim , Gold, Silver
Class เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณา
ตรวจสอบ ในเรื่องการนำเข้าสิ่งให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
6.สสปน.พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ
เกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ ให้บุคลากรภาครัฐ และการจัดหลักสูตร
เพื่อฝึกอบรมด้านไมซ์โลจิสติกส์แก่บุคลากรภาคเอกชน อันหมายถึงการทำ work flow ให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน
แล้วนำไปสู่การใช้คู่มือเดียวกัน
7.จัดระบบการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกฎ
ระเบียบ ขั้นตอน และ การขอใบอนุญาต สำหรับการนำเข้าสินค้าเพื่ออุตสาหกรรมไมซ์
โดยเชื่อมโยงกับระบบสารสนเทศระหว่างหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยจะต้องพิจารณาให้ต้องมีข้อมูลรวมศูนย์เป็น
One Stop Service
8.การจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง
สสปน.และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน กสทช.
เพื่อปรับปรุงแก้ไขขั้นตอนและแนวทางปฎิบัติ
เพื่ออำนวยความสะดวกและการนำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคม และอุปกรณ์ เพื่อใช้แสดงสาธิตในงานแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ
9.สสปน.ควรเป็นผู้ประสานงานในการจัดกิจกรรมหรือการประชุมนั้น
ๆและแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบอย่างเป็นทางการล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
เนื่องจากเกี่ยวข้องกับประเภทวีซ่าของผู้เดินทางจะต้องแยกให้ชัดเจนว่าเป็น Tourist, Exhibitor หรืออื่น ๆ
ต้องฟัง “ดร.วีระศักดิ์” ตอบทุกประเด็นในรายการ
พร้อมอัพเดทความร่วมมือกับทุกภาคส่วนนำประเทศไทยไปถึงฝั่งฝัน
จากนั้นมาฟังข่าวใหม่ ๆ
ในวงการท่องเที่ยว
ข่าวที่1 “ช้อปตลอดส.ค.นี้เลือกรับ5เอกสิทธิ์”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ย้ำถึงเอกสิทธิ์เพื่อการเดินทาง สิทธิประโยชน์ที่
คิง เพาเวอร์ ในเดือนสิงหาคม 2559
สามารถรับได้ถึง 5 รายการด้วยกัน ได้แก่
1. King Power Discount รับส่วนลดสูงสุด 20% โดยส่วนลดเริ่มต้น 5% และรับเพิ่มเป็นสูงสุด 20% สำหรับการซื้อสินค้าที่
คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา แล้วสะสมกะรัตเพื่ออัพเกรดส่วนลดสูงสุด 20% เมื่อใช้จ่ายตามเงื่อนไขที่กำหนด
2. King Power Carat Rewards รับกะรัตสะสม จาก คิง เพาเวอร์
เพิ่ม 25% โดยยอดซื้อทุก 100 บาท ได้รับ 1.25 กะรัต (จากปกติ ยอดซื้อทุก 100 บาท เท่ากับ 1 กะรัต และ 1
กะรัต มีมูลค่าเทียบเท่ากับ 1 บาท) ให้คุณแลกของรางวัลจาก
คิง เพาเวอร์ ได้ง่ายและเร็วขึ้น
3.
King Power Lounge สิทธิ์ใช้บริการห้องรับรองสำหรับผู้ถือบัตรและผู้ติดตามรวมเป็น
2 ท่าน ที่ King
Power Lounge – คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
4. King Power Birthday Celebration รับ Cash voucher 30% ของมูลค่าสินค้า เพียงซื้อสินค้า 1 ชิ้น มูลค่าตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป (เศษที่ไม่ครบ 100 บาท ไม่สามารถนำมาคำนวณคืนในรูปแบบ Cash Voucher) ที่
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต (ยกเว้นสาขาที่สนามบิน)
โดยสามารถใช้สิทธิ์ Birthday Celebration ภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่ต้นเดือนเกิด และตรวจสอบ Brand สินค้าที่เข้าร่วมรายการพร้อมเงื่อนไขรายการ
Birthday Celebration ได้ ณ จุดขาย หรือ King Power
Contact Centre 1631
5. King Power Wow ! รับคะแนนสะสม X2 เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตร่วม
คิง เพาเวอร์ – ไทยพาณิชย์ แพลทินัม ในวันเสาร์
ข่าวที่2 “สิงหาพาแม่ทัวร์ภาคกลาง9เส้นทาง”
“คุณสมชาย ชมพูน้อย” ผู้อำนวยภูมิภาคภาคกลาง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศ (ททท.) กล่าวว่า ตลอดสิงหาคมเป็นเดือนแห่งการเฉลิมพระเกียรติ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7
รอบ 12 สิงหาคม 2559 นั้น ททท.ภาคกลาง
ได้ด้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับสตรี พร้อมเชิญชวนให้คนไทยพาคุณแม่ออกไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันแม่
ในวันที่ 12 สิงหาคม นี้
จัดคาราวานรถยนต์ 300 คัน เดินทางท่องเที่ยวไปยัง 9 เส้นทาง ย้อนวันวานอดีตพาแม่นั่งรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ
โดยได้เชิญ “น้องมะลิ-ด.ญ.พาขวัญ สหวงษ์”
ร่วมแสดงในภาพยนตร์โฆษณาชุด“ภาพบนฝาผนัง” และทุกทริปการเที่ยวตลอดเดือนสิงหาคม
สามารถลุ้นรับสิทธิ์ “รวมใจเที่ยวไทย” เพิ่มขึ้น 2 สิทธิ์ต่อภาพ ด้วยการส่งภาพถ่ายที่ผู้ส่งไปเที่ยวกับแม่หรือคุณแม่ที่พาลูกเที่ยวเดือนสิงหาคม
ดูกติกาและรายละเอียดที่ www.ThailandHero.com
ข่าวที่
3 “ไทยชูเที่ยวเชิงอาหารถิ่นโกย5แสนล้าน”
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. |
“คุณยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท.
เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2559 พร้อมนำทีมเครือข่ายภาคีพันธมิตร
ประกอบด้วย ยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม เชฟชุมพล
แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย โดยมี 2 เซเลบริตี้นักชิม ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์
และ นายเกริกพล มัสยวาณิช ร่วมงาน
เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวให้รับทราบอย่างกว้างขวาง ถึงการเปิดโครงการเสริมสร้างมาตรฐานอาหารถิ่น “สุขใจชวนกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด” โดยตั้งเป้าสร้างกระแสการท่องเที่ยวเชิงอาหารไทยให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในประเทศและทั่วโลก
ซึ่งเลือกในพื้นที่ “12 เมืองต้องห้าม ... พลาด”, “เมืองต้องห้าม ... พลาดพลัส” และ 5 จังหวัดท่องเที่ยวหลักของไทย
สำหรับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Food
Tourism) ปี 2558 องค์การสหประชาชาติด้านการท่องเที่ยว หรือ UNWTO ระบุในรายงานว่า สามารถสร้างรายได้รวมประมาณ
5.1 ล้านล้านบาท (1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) ส่วนประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงอาหารรวม
4.56 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด จากนักท่องเที่ยวต่างชาติบริโภคอาหารสูงสุด
3 อันดับแรก ได้แก่ จีน อังกฤษ รัสเซีย และนักท่องเที่ยวไทยอีก 1.74 แสนล้านบาท
ปี 2559 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดการณ์จะสร้างรายได้ให้ถึง
5 แสนล้านบาท เติบโตอีก 10% ชูไฮไลต์อาหารไทยยอดนิยมติดอันดับโลก เช่น
ต้มยำกุ้ง ผัดไทย ผัดกะเพรา แกงเผ็ดเป็ดย่าง ต้มข่าไก่ ยำเนื้อ หมูสะเต๊ะ
ไก่ผัดเม็ดมะม่วง และพะแนงเนื้อ
ข่าวที่
4
"บางจากตั้งรับราคาน้ำมัน40เหรียญ"
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม |
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางราคาน้ำมันจนถึงสิ้นปี 2559 จะยังคงผันผวน
โดยมีโอกาสที่ราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 40-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปัจจัยสำคัญคือ กำลังการผลิตจากเชลล์ออยล์ของสหรัฐที่พร้อมจะเพิ่มกำลังการผลิตตลอดเวลา
หากราคาน้ำมันขยับสูงขึ้น
ส่วนค่าการตลาดน้ำมันในประเทศที่สูงขึ้นโดยเฉพาะดีเซลที่ค่าการตลาดมากกว่า 2 บาทต่อลิตรนั้น ทางบางจากฯ
กำลังพิจารณาอย่างใกล้ชิดและพร้อมที่จะปรับลดราคาเพื่อผู้บริโภค แต่บริษัทบางจากฯ เชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบริษัทปี 2559 เปรียบเทียบแล้วยังดีกว่าปี 2558
ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ยังผันผวน
นั้น ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ประมาณ 38.47
เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทางบางจากฯ ยอมรับว่ามีโอกาสที่ไตรมาส
3
อาจจะขาดทุนสต๊อกหากราคาสิ้นไตรมาสไม่ขยับสูงขึ้นเพราะไตรมาส 2 ราคาน้ำมันดิบดูไบปิดที่ 47-48 เหรียญสหรัฐต่อบาร
ข่าวที่ 5“ร่วมชิงรางวัล4แสนดิจิตอลไมซ์อวอร์ด”
“คุณสริตา จินตกานนท์
ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า ได้"แคมเปญ Digital MICE Award 2016 Young VDO Contest เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้
จนถึง 2 กันยายน 2559 โดยเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.youngvdocontest.com เชิญชวนนิสิต
นักศึกษา และบุคคลทั่วไป อายุระหว่าง 18-25 ปี ร่วมส่งผลงานคลิปวีดีโอเข้าประกวด
ภายใต้หัวข้อ "MICE is everywhere ไม่ว่าที่ไหนในเมืองไทย ก็จัดงานประชุมได้" ลุ้นรับเงินรางวัลสูงสุด
40,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
“รางวัล” สำหรับผู้ชนะจะแบ่งเป็นหมวดต่างๆ ประกอบด้วย
1.ประเภทนักศึกษา
2.ประเภทบุคคลทั่วไปอายุไม่กิน 25 ปี และ 3.ประเภทคลิปวิดีโอ ที่มียอดวิวสูงสุด (Highest View) จะได้รับเงินรางวัล
10,000 บาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศ เพราะแคมเปญนี้มุ่งเน้นสร้างกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ด้วย
ข่าวที่
6 “เคลียร์3สนามบินรับส่งผู้โดยสารฮัจย์”
“ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ทอท. สนับสนุนคนไทยเดินทางไปทำพิธีฮัจย์
ณ เมืองมักกะห์ ซาอุดิอารเบีย โดยได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรใน 3 สนามบินหลัก คือ สุวรรณภูมิ ภูเก็ต
หาดใหญ่ ร่วมมือกับสายการบิน ภาคราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริการด้านการตรวจหนังสือเดินทาง
การผ่านพิธีการศุลกากรและการให้ข้อมูลด้านสาธารณสุข และอื่นๆ เช่น ห้องละหมาด
และป้ายแสดงข้อความแนะนำเส้นทาง ซึ่งได้รับแจ้งจากสายการบินจะมีผู้โดยสารชาวไทยมุสลิมเดินทางผ่านสนามบินของ
ทอท. กว่า 11,000 คน ระหว่าง
3 สิงหาคม – 4 กันยายน 2559 ประกอบด้วย สุวรรณภูมิ 5,027 คน ภูเก็ต 1,804 คน
และหาดใหญ่ จะมีผู้โดยสารกว่า
5,000 คน มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ 18
เที่ยว เดินทางระหว่าง 4 - 9
สิงหาคม และ 21 - 26
กันยายน 2559
ข่าวที่ 7
“จัดเต็มตั๋วบินครึ่งราคาทุกเส้นทางไทย-เทศ”
สายการบินไทยแอร์เอเชีย รวมมหกรรมลดค่าตั๋วโดยสารมากถึง 3 แคมเปญ เหลือแค่ครึ่งราคาหรือจ่ายค่า
50 % เมื่อเข้าไปซื้อตอนนี้จนถึง 7 สิงหาคม 2559
แคมเปญแรก “บินตรงญี่ปุ่น เกาหลีใต้
เซี่ยงไฮ้” เมื่อซื้อตั๋ว 2 ที่นั่งขึ้นไป
จำกัดสิทธิ์จองแต่ละครั้งซื้อได้สูงสุด 8 ที่ แคมเปญที่ 2 “ทุกที่นั่ง ทุกเที่ยวบิน ทุกเส้นทางบินในประเทศและอาเซียน” ก็ลดครึ่งราคาเช่นกัน แคมเปญที่
3 “ร่วมฉลอง
50 ปี สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา”
บินตรงจากพัทยา ไป-กลับ 4 เส้นทาง ได้แก่
เชียงใหม่ หาดใหญ่ อุดรธานี สิงคโปร์ เข้าจองได้เลยที่ www.airasia.com ตั๋วโดยสารทั้ง
3 แคมเปญ ซื้อภายในวันที่ 7 สิงหาคม
นี้ แล้วนำไปใช้เดินทางระหว่าง 1-30
ก.ย.2559
ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ชวนแม่ไปดูโครงการแม่ของแผ่นดิน ที่
“ชุมชนตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ” อ่างทอง แล้วมาลองทำตามคำแนะนำของหมอให้คนหันมา
“หัวเราะกำจัดโรคร้าย”
และข่าวเอ็กซ์คลูซีฟสถานการณ์การบินครึ่งปีแรกรายได้ฉลุยทั้งการขนส่งผู้โดยสารและคาร์โก้
@จูงมืแม่ทัวร์ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ
อ่างทอง
ปราชญ์ชุมชนสร้างสรรหัตถศิลป์ตุ๊กตาชาววัง บ้านบางเสด็จ อ่างทอง |
เดือนแห่งวันแม่ สิงหาคมนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งเป็น 1 ใน 70
เส้นทางตามรอยพระบาท ณ “ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ” จ.ลพบุรี โครงการที่ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ” ทรงโปรดเกล้าให้ตั้งโครงการตุ๊กตาชาววัง มานานนับกว่า 40 ปี
กำเนิดขึ้นเมื่อปี 2519 เป็นงานหัตถศิลป์ล้ำค่าแห่งชาวบ้านบางเสด็จ
(เดิมชื่อบ้านวัดตาล) ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
ด้วยจุดเด่นของหมู่บ้านบางเสด็จมีดินเหนียวคุณภาพดีเหมาะแก่การนำมาออกแบบปั้นตุ๊กตาดินที่พระองค์ท่านโปรดเกล้าให้ผู้เชี่ยวชาญไปสอนชาวบ้าน
จวบจนทุกวันนี้กลายเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวและแหล่งผลิตตุ๊กตาของที่ระลึกแฮนด์เมดซึ่งออกแบบการปั้นด้วยร้อยเรื่องราววิถีชีวิตคนไทยภาคกลาง
ผ่านเทคนิคเน้นความสดใสเสมือนมีชีวิต เน้นกิริยาท่าทางการละเล่น ศิลปวัฒนธรรม เช่น
วงมโหรีปี่พาทย์ กีฬามวยไทย และเรื่องราวความเป็นอยู่มากมาย ราคาขายเริ่มต้นแค่ชิ้นละ
5 บาท เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เปิดตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 4
โมงเย็น
แนะนำให้ไปเที่ยวพักค้างคืนสัก 2 วัน 1 คืน
โดยลัดเลาะชมแหล่งท่องเที่ยวต่อเนื่องกัน 3 จังหวัด
“วันแรก”
ช่วงเช้า เข้าไปเยี่ยมเมืองเก่า
“พระนครศรีอยุธยา” เล่าเรื่องประวัติศาสตร์เมืองหลวงของไทยอันยาวนานถึง
417 ปี ช่วงบ่าย ไปดูวัดเดียวที่ไม่ถูกทำลายสมัยเสียกรุงคือ
“วัดหน้าพระเมรุ” มีวิหารพระมงคลบพิตรแล้วก็ลงเรือล่องแม่น้ำรอบเกาะเมืองอยุธยา
“วันที่สอง”
ช่วงเช้า มุ่งหน้าตรงไป
“ศูนย์ตุ๊กตาบ้านบางเสด็จ” อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
ดูวิธีปั้นตุ๊กตาดินเหนียวฝีมือชาวบ้านที่ยังคงอนุรักษ์สืบต่อกันรุ่นสู่รุ่น
จากนั้นมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านทำกลองเอกราชที่ ใกล้ๆ วัดป่าโมกวรวิหาร
หมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ก่อนมื้อเที่ยงแวะสักการะ
“พระนอนยาวที่สุดในประเทศ” ที่วัดขุนอินทประมูล 1 ในโครงการเขาเล่าว่า...ความศักดิ์สิทธิ์เมื่อไหว้แล้วจะอายุยืนยาว
“ช่วงบ่าย” มาถึงรอยต่อ “สุพรรณบุรี” ถือโอกาสไปชมของดีให้ครบทั้งเมือง
ได้แก่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสุพรรณบุรี ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและอุทยานมังกรสวรรค์
ชมพิพิธภัณฑ์ลูกหลานมังกรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไปย้อนรำลึกแหล่งอันซีนเมืองไทย
วัดพระนอน จากนั้นก็ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดป่าเลไลย์ วรวิหาร
แวะซื้อของในตลาดเก่าเมืองสุพรรณบุรี
@ใช้เสียงหัวเราะบำบัดโรคร้าย
World Heart Federation แนะนำ
การใช้เสียงหัวเราะเพื่อช่วยบำบัดบรรเทาความเครียดได้ผลชะงัด
เพราะความเครียดมิเพียงเป็นภัยต่อสุขภาพจิต
อาจเกิดภาวะซึมเศร้าและอาการหวาดวิตกในขั้นรุนแรงได้
แต่ความเครียดยังใช้ร่างกายมนุษย์เป็นแหล่งฟักตัวชั้นดี ดังที่ความเครียดสามารถกลับมาจู่โจมด้วยโรคร้ายแรงถึงขั้นเอาชีวิต
อย่างเช่นโรคหัวใจและหลอดเลือด ความเครียดสะสมจะลดการไหลเวียนของเลือดที่ส่งไปเลี้ยงหัวใจ
จนอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ ซ้ำร้ายยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่หลอดเลือดจะแข็งตัวอีกด้วย
ในชีวิตประจำวันเพียงแค่ “การหัวเราะ” จะสามารถปัดเป่าอาการเจ็บป่วยทางร่างกายได้
Mayo Clinic ตอกย้ำด้วยรายงานโดยดอธิบายไว้ว่า
ประโยชน์เฉพาะหน้าของเสียงหัวเราะนั้น
เกิดจากลักษณะท่าทางขณะเปล่งเสียง ได้ช่วยให้ร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงทางสรีระ
เพราะขณะเราหัวเราะ
ร่างกายของเราจะสูดรับอากาศที่เต็มไปด้วยออกซิเจนมากกว่าการหายใจตามปกติ
เมื่ออัดออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ก็จะไปกระตุ้นอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ปอด
และกล้ามเนื้อมัดต่างๆ
ทั้งยังกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เสียงหัวเราะมิเพียงช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต
แต่ยังช่วยผ่อนคลายแรงเครียด ซึ่งถูกกดจากการไหลเวียนของเลือด
พร้อมทั้งยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ดีอีกด้วย
“ประโยชน์ของเสียงหัวเราะ” มิได้มีแค่ระยะสั้น แต่ยังส่งผลต่อชีวิตในระยะยาว
เพราะเสียงหัวเราะสัมพันธ์กับสุขภาพจิตที่ดี
ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำกับควบคุมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ยิ่งหัวเราะยิ่งทำให้ภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพ และยังช่วยทุเลาอาการเจ็บปวดไปด้วย
เสียงหัวเราะยังช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนนิวโรเปปไทด์ เพื่อต้านความคิดเชิงลบ
ความหดหู่ และอาการป่วยที่คุกคามร่างกาย รวมทั้งภาวะซึมเศร้าและอาการหวาดวิตกต่างๆ
รศ.วิลเลี่ยม บี. สเตรนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสรีระและการออกกำลังกาย
แห่งมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ต้าแห่งเอ็ดมอนตัน ระบุด้วยเช่นกันในรายงานของสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ
ถึงประสิทธิภาพเชิงบำบัดของเสียงหัวเราะ เกิดประโยชน์ในหลายด้านตามที่ปรากฎในบันทึกของแพทย์หลากหลายสาขา
ไม่ว่าเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ เนื้องอก ดูแลผู้ป่วยหนัก จิตเวช เวชศาสตร์ฟื้นฟู
รูมาติก งานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย หรืองานดูแลเพื่อบรรเทาอาการ เป็นต้น
ข้อมูลจากบันทึกทางการแพทย์เหล่านี้ช่วยรับรอง
และเป็นหลักฐานที่แสดงถึงคุณค่าของเสียงหัวเราะ
ว่ามิใช่แค่พฤติกรรมตอบสนองของร่างกายขณะเกิดความเบิกบาน แต่ยังเป็นวิธีบำบัดอีกแขนง
ซึ่งเป็น “ตัวช่วย”
ที่ดีขณะอยู่ในกระบวนการรักษาตัวที่งานและดีอีกทาง
สำหรับข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ครึ่งปีแรกการบินทั่วเอเชียโตสวนศก.โลก”
สมาคมสายการบินภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก (Association of Asia Pacific Airlines :AAPA) รายงานว่า สถานการณ์ของอุตสากรรมการบินระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย
แปซิฟิก คึกคักทั้งการขนส่งผู้โดยสารและแอร์คาร์โก้ ยอดโตฉลุย
แอร์ไลน์สโกยผู้โดยสารรวม 144 ล้านคน
ส่วนการขนส่งสินค้าทางอากาศโตภายใต้แรงกดดันเศรษฐกิจโลกผันผวน เฉพาะเดือนมิถุนายน 2559 ปริมาณ “ผู้โดยสารระหว่างประเทศ” มีจำนวน 23.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.9 %
อัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 78.5 % เพิ่มขึ้น 0.7 %
รายได้เฉลี่ยผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (revenue
passenger kilometre :RPK) เติบโต
7.5 %
ส่วน“การขนส่งสินค้าทางอากาศ” นายแอนดริว เฮิร์ดแมน ผู้อำนวยการทั่วไป
สมาคมสายการบินภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า
ความต้องการขนส่งสินค้าเติบโตรวดเร็วที่สุดตั้งแต่ช่วงต้นปี
โดยสายการบินในเอเชียมีปริมาณสินค้าต่อกิโลเมตร (freight tonne kilometre : FTK) เติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4.1 % อัตราบรรทุกสินค้าทำได้ 63.6 %
เส้นทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.3 % และขีดความสามารถการขนส่ง เพิ่ม 3.6 %
ช่วงครึ่งปีแรก มกราคม-มิถุนายน 2559
ปริมาณการเดินทางของ “ผู้โดยสารระหว่างประเทศ” จำนวนรวมมีสูงถึง 144 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.2 %
สะท้อนอนาคตของตลาดการขนส่งผู้โดยสารมีแนวโน้มเชิงบวก
จากปัจจัยบวกของนักเดินทางมีความสุขกับสิทธิประโยชน์จาก “ราคาตั๋วโดยสาร” ที่สามารถรับได้
การขยายบริการหลากหลายเรื่อง ซึ่งช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
“แอร์คาร์โก้” มีปริมาณความต้องการสูงขึ้นจากการลงทะเบียนใช้บริการเพิ่มขึ้น 2.5%
แต่ยังต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากความอ่อนแอทางการค้าของเศรษฐกิจโลก
ขณะเดียวกันสายการบินในเอเชียพยายามพุ่งเป้าไปยังการแลกเปลี่ยนการเดินทางของผู้โดยสาร
การลงทุนฝูงบินใหม่และบริการที่ดีขึ้นคู่ขนานกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าทางธุรกิจการบิน
ข่าวที่สอง
“เปิดประมูลกูรูกลยุทธ์ตลาดฉลอง50ปีอาเซียน”
Mr.Tran Phu Cuong รักษาการผู้อำนวยการบริหาร
การท่องเที่ยวเวียดนาม (Vietnam National
Administration of Tourism)
ในฐานะผู้บริหารการประสานงานการท่องเที่ยวการประมูลงานกลยุทธ์การตลาด สมาคมแห่งชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(The Association of Southeast Asian Nations : ASEAN)
กล่าวว่าสมาคมได้เปิดรับที่ปรึกษาผู้มีประสบการณ์เชิงสร้างสรรกลยุทธ์ตลาดการท่องเที่ยวอาเซียน
เสนอแผนงานโครงการเข้าร่วมประมูลได้ภายในวันที่ 19 สิงหาคม 2559 เพื่อนำจะพิจารณานำมาใช้ขับเคลื่อนแผนแม่การท่องเที่ยวอาเซียนระหว่างปี 2560-2562 ในโครงการ “การฉลองครบรอบ50ปีอาเซียน” โดยได้จัดสรรงบประมาณการประมูลครั้งนี้ไว้ประมาณ 30,000
เหรียญสหรัฐ
ผู้ที่สนใจจะต้องเขียนแผนโดยนำเสนอนวัตกรรมความคิดสร้างสรรการทำกลยุทธ์การตลาดในอาเซียนอย่างเข้มข้น
นำเสนอโปรแกรมงานวิจัยที่จะนำไปใช้ประยุกต์ให้เข้ากับตำแหน่งทางการตลาด
โครงสร้างและเทรนด์การเดินทางของนักท่องเที่ยว
ขีดความสามารถทางการแข่งขันของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
ประการสำคัญในการทำแผนการตลาดจะต้องระบุให้ชัดเจนถึงวิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์
เป้าหมาย และ ความสำเร็จ ที่กำหนดกรอบเวลาการดำเนินงานแต่ละเรื่องที่สามารถนำสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถส่งรายละเอียดเสนอประมูลงานที่ปรึกษาการวางกลยุทธ์การตลาดอาเซียนไปได้ที่
ASEAN Secretariat and cc the ASEAN
Tourism Marketing Coordinator
ผลงานของผู้ชนะครั้งนี้จะนำไปปรับใช้จัดทำเฟรมเวิร์คแผนแม่บทกลยุทธ์การตลาดอาเซียน
ปี 2559-2567
ทั้งนี้สำนักงานกลยุทธ์การตลาด
สมาคมท่องเที่ยวแห่งอาเซียน ตั้งอยู่ที่การท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐเวียดนาม
@ไปพิพิธภัณฑ์แม่หอศิลป์กรุงเทพฯถึง14สค.นี้
ห้ามพลาดชมมหกรรมจำลอง“สวนประติมากรรม...พิพิธภัณฑ์แม่”
ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครวันนี้-14สิงหาคม 2559
"คุณครองศักดิ์ จุฬามรกต" ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้ง
"สวนประติมากรรม
ปฐมอุทยานแห่งความรักพิพิธภัณฑ์แม่" เล่าให้ฟังว่า เมกะโปรเจ็กต์
"สวนประติมากรรม ปฐมอุทยานแห่งความรักพิพิธภัณฑ์แม่" คือศูนย์รวมจิตวิญญาณทางความคิดด้วยการนำงานศิลปะ ประติกรรม
มาเป็น "สื่อ" ปลุกวิญญาณลูกหลานและคนในทุกครอบครัว
ให้ฃด้รำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของ "แม่"
ผู้ก่อกำเนิดทุกชีวิตให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
รวมถึงความยั่งยืนของธรรมชาติที่ช่วยจรรโยงทุกชีวิตดำรงอยู่อย่างมีความสุข
ในช่วงแนะนำโครงการฯ
ทุกท่านสามารถแวะเข้าไปชมศิลปะประติมากรรม
และนิทรรศการแสดงภาพเขียนของคุณครองศักดิ์และศิลปินที่มีชื่อเสียงได้ทุกวัน ระหว่างวันนี้-14 สิงหาคม 2559 ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร
(ติดกับศูนย์การค้ามาบุญครอง ลงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สนามกีฬาแห่งชาติ
มีสะพานทางเดินเชื่อมเข้าถึงฮอลล์) จัดแสดงบริเวณชั้น 1-3 โดยมีกิจกรรมเวิร์คช้อปช่วงบ่าย
2 เปิดฟรีให้ทุกเพศทุกวัยได้ร่วมเรียนรู้กับศิลปินดังทุกวัน
สำหรับสวนประติมากรรม
ปฐมอุทยานแห่งความรักพิพิธภัณฑ์แม่ โครงการใหญ่ จะเกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม
ในพื้นที่ขนาด 40 ไร่ จัดทำโดยแบ่งโซนพื้นที่กลางแจ้ง
ในอ้อมกอดความเขียวขจีธรรมชาติ นำประติมากรรมไปจัดวางร้อยเรียงเรื่องราวของชีวิต
พร้อมทั้งจะเปิดให้ศิลปินสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนนำผลงานประติมากรรมมาจัดแสดง
ทำให้มีชีวิตและสีสันทุก ๆ วัน
พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม
ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao และ ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น