ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เกาะรัตนโกสินทร์-อาคารเก่าเล่าเรื่อง-ศูนย์พัฒนาผาตั้งเชียงราย-ททท.


สนง.ทรัพย์สินฯเปิดตำนานอาคารเก่าเล่าเรื่อง

เกาะรัตนโกสินทร์-รอบพระบรมมหาราชวัง

ห้ามพลาดชมศูนย์พัฒนาฯดอยผาตั้งเชียงราย

ท่องเที่ยวเลื่อน-ยกเลิก-จัดงานปกติสิ้นปี59

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2559   เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์รู้ทันข่าวและสารคดีท่องเที่ยวอัพเดททุกสถานการณ์

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.


คุณกำพล เอกพันธ์
หัวหน้ากองอาวุโสกองโครงการอนุรักษ์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

คุณกำพล เอกพันธ์” หัวหน้ากองอาวุโสกองโครงการอนุรักษ์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการถึง “อาคารเก่าเรื่อง” รอบเกาะรัตนโกสินทร์และบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง เริ่มต้นจากการทำหนังสือเล่มใหม่ “อนุรักษณียาคาร” พูดถึงเกี่ยวกับตึกแถว หน้าพระลาน ท่าช้าง ท่าเตียน โดยอาจารย์ยงธนิศร์ พิมลเสถียร ที่ปรึกษาฝ่ายบริหารงานอนุรักษ์ รองศาสตราจารย์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เขียนไว้ค่อนข้างครบถ้วน

            ทางคุณกำพลจึงจะขอเล่าในส่วนที่จำได้และคุ้นเคยกับการทำงาน ซึ่งอาจจะไม่ละเอียดเท่าข้อมูลในหนังสือที่อาจารย์ยงธนิศร์รวบรวมไว้

คุณกำพลเริ่มต้นเล่าเรื่องว่า อาคารเก่าทั้ง  3 แห่ง จากหน้าพระลาน ท่าช้าง ถึง ท่าเตียน เป็นตึกแถวที่มีจุดเริ่มในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงโปรดให้มีการวางผังเมืองยุคแรก ๆ ทำให้เมืองใหม่มีระเบียบเรียบร้อย รวมถึงผสมผสานการเป็น “ย่านการค้า” กับ “ที่อยู่อาศัย” ไปพร้อม ๆ กันด้วย
 

            ตึกแถวทั้ง 3 แห่ง ทั้งหน้าพระลาน ท่าช้าง ท่าเตียน สร้างขึ้นในยุคไล่เลี่ยกันเมื่อปี พ.ศ.2450-2452-2453 เริ่มจากตึกแถว “หน้าพระลาน” พระองค์ทรงให้สร้างขึ้นเพื่อรองรับการค้าหรือคนที่จะมาเข้าเฝ้าแวะพักรอหน้าวัง อาคารที่สร้างจึงอยู่ใกล้กับหน้าวังด้วย ส่วนต่อมาที่ขยายออกไปคือ “ท่าช้าง” อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเป็นวังเก่าของเจ้านายซึ่งได้ปรับปรุงพัฒนาขึ้นมา แล้วการค้าเดิมใช้เรือพาย ต่อมาในสมัยรัชกาลที่  5 มีระบบการขนส่งเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการอยู่บ้านบนเรือนแพก็ไม่เหมาะกับยุคสมัย พระองค์ท่านจึงดำริให้สร้างตึกแถวขึ้นมาหลายตึกทีเดียว รวมทั้งตึกท่าช้างต่อจากหน้าพระลาน เพื่อรองรับการค้าที่อยู่ติดถนน

อิทธิพลของสถาปัตยกรรมการก่อสร้างอาคารก็จะมาจากยุโรป รวมทั้ง “ท่าเตียน” ความจริงเป็นตลาดน้ำที่มีทั้งของสด ของคาว เพราะเป็นบริเวณขึ้นสินค้าทางน้ำและเป็นชุมชนมาก่อน ข้าวของค่อนข้างรก พระองค์ทรงให้ปรับอย่างเป็นระเบียบมากขึ้น ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้มาพบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมอีกภายในหลังเมื่อครั้งสมัยรัชกาลที่ 7 ทรงดำริว่า “ตลาดท่าเตียน” แห่งนี้รกตาฉันเหลือเกินจะทำอย่างไรจึงจะเป็นระเบีบบมากขึ้น

จึงได้ทำส่วนขยายจากยุครัชกาลที่ 5 มาสู่รัชกาลที่ 7 ทั้งหลายทั้งปวงของ อาคารเก่าทั้ง 3 แห่ง หน้าพระลาน ท่าช้าง ท่าเตียน ปรับปรุงแต่ละสมัยก็เพื่อ 1.ทำให้บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย 2.ประโยชน์ทางการค้า 3.ชุมชนที่อยู่รอบพระนครยังเอื้อประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตที่ดีของชุมชนโดยรอบด้วย

ร่องรอยความเจริญที่พบเห็นมีความแตกต่างกันแต่ละยุค จากการศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ทั้ง  3 แห่ง นั้น แต่เดิมทำอะไรมาบ้าง โดยพบว่า “ผู้เช่า” ตระกูลต่างๆ สืบทอดกันมานานกว่า 80 ปี และธุรกิจที่ทำต่อกันมา ก็ได้เห็นว่าเคยทำอะไรมาบ้าง

เช่น “ท่าช้าง” ห้างหลักทำร้านไฟฟ้าอยู่หัวมุม ร้านค้าย่อย ร้านของชำ ร้านยา ร้านหนังสือ ส่วน “ท่าเตียน” เป็นโซนของแห้งร้านค้าส่งจำนวนมาก พวกลูกเต๋า ร้านยา ปลาเค็มปลาแห้ง

อาคารเก่าดังกล่าวได้ทำให้เห็นร่องรอยทางการค้าที่มีความหลากหลาย สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต โดยเฉพาะตึกแถวในบริเวณแต่ละแห่งจะมีไฮไลต์เป็น “ร้านอาหารขึ้นชื่อ” อยู่ด้วย ปัจจุบันยังพอหลงเหลืออยู่บ้าง ทางเราอยากให้เขากลับมาแต่เขาทำไม่ไหว ตัวอย่าง ร้านหน้าพระลาน “ร้านมิ่งหลี” ยังมีอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ร้านคู่แข่งรุ่นเดิมขายอาหารของครอบครัวซึ่งมาจากเมืองจีน ทายาทรุ่นหลังมาเปลี่ยนเป็น “ร้านขายของที่ระลึกนักท่องเที่ยว”

สำหรับ “ท่าช้าง” ก็ยังมีร้านเก่า ๆ ยังไม่ได้กลับไปทำเพราะส่งคืนได้เพียงปีเศษ จึงยังไม่ได้เข้าไปทำ เพราะเอกลักษณ์ของตึกแถวพอปรับปรุงรุ่นพ่อแม่ก็ส่งให้รุ่นลูกแล้วสืบต่อกิจการ ซึ่งลูกหลานอาจจะเปลี่ยนตามมุมมองใหม่ในด้านการค้าขาย โดยได้เปลี่ยนทั้งอาชีพ ธุรกิจ และสินค้า เช่นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ก็เปลี่ยนดีไซน์เป็นร้านกาแฟชื่อ “ร้านปาลิโอ” เช่นเดียวกับ “ท่าเตียน” ร้านไข่เค็ม ปลาเค็ม ปลาแห้ง จัดระเบียบสวยขึ้น ร้านลูกเต๋าก็เปลี่ยนเป็นร้านอาหารแทน เพราะพอทางสำนักงานทรัพย์สินปรับปรุงแล้วส่งคืนให้รุ่นพ่อแม่เดิมก็ไม่ทำแล้ว แต่นำไปให้รุ่นลูกทำต่อเพราะสูงวัยเหนื่อยทำไม่ไหวต้องการไปพัก ทางลูก ๆ ส่วนใหญ่ก็นำไปทำเป็น “ร้านอาหาร” ร้านเล็ก ๆ น่ารัก จำนวนมาก ขายนักท่องเที่ยวที่ออกจากวัด พักจากการชมเมือง ก็มานั่งพักผ่อน ตามร้านดังกล่าว

ล่าสุดทางสำนักงานทรัพย์สินกับกรุงเทพมหานครได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ลานจอดรถสวนนาคราภิรมย์ ไปตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2559 นับจากนี้ต่อไปจะดูดีขึ้นมากเมื่อสร้างแล้วเสร็จภายในปลายปี 2561 ซึ่งเป็นที่รับรู้ถึงการปรับปรุงของหน่วยงานเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตามแผนการพัฒนาทางกรุงเทพมหานครมองถึงจุดที่ “คนไทย” ได้พักผ่อนตอนนี้มีไม่กี่แห่ง เดิมสวนนาคราภิรมย์พอทำเสร็จตอนนั้นต้นไม้น้อยจึงร้อนมาก

ดังนั้นในการปรับปรุงครั้งใหม่ที่วางศิลาฤกษ์ไปเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2559 นั้น จึงมุ่งหวังให้คนไทยหรือนักท่องเที่ยว มาใช้ เพราะจุดนี้เป็น “แกนหลัก” สมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์มองเปรียบเทียบฝรั่งเศสระหว่างแกนหลักของเมืองในมุมสวย ๆ ต้องให้ความสำคัญ แต่ในยุคหลัง ๆ ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญ จึงต้องการเปิดมุมมองความสำคัญ นับจากด้านหลังจะเห็น พระบรมมหาราชวัง และวัดระฆัง ย้อนอีกข้างจะเห็นวัดหงส์ เป็นมุมตัดกัน ที่สวยงาม สำหรับบริเวณมุมที่ไม่สำคัญก็ออกแบบปลูกต้นไม้ เป็นจุดพักผ่อน รวมถึงทำเป็นลานแสดงเล็ก ๆ หรือลานแสดงใหญ่ ที่ทางกรุงเทพมหานครได้จัดกิจกรรมอย่าง สงกรานต์หรือปีใหม่ นำมาจัดยังสถานที่แห่งใหม่ได้เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันตรงสวนนาคราภิรมย์ ทางสำนักงานทรัพย์สินฯ ก็กำลังปรับปรุง “ตลาดท่าเตียน” โดยจะทำให้สอดคล้องกันในแนวพื้นที่ริมน้ำเป็นทางยาวขึ้น เปิดพื้นที่ให้โล่งโปร่ง ทำให้เห็นจุดสำคัญได้มากขึ้น เชื่อได้ว่าแนวคิดมีผู้มีความรู้ นักออกแบบ มาร่วมถกเถียงจนตกผลึก จนได้แบบชัดว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่จะสร้าง ศาลาท่าน้ำ ท่าเรือ จะเกิดความปลอดภัยมีความแปลกใหม่ไปในทางที่ดียิ่งขึ้น สุดท้ายก็ลงตัวเป็นแบบใหม่ที่กำลังทยอยทำในขณะนี้

“เส้นทางพักผ่อน” ระหว่างอาคารเก่าเชื่อมโยงกันทั้ง  3 แห่ง กรณีแรก “เดินชม” ก็จะได้ระยะทางสั้น ๆ หากจะให้ได้บรรยากาศมากขึ้นคือ “ปั่นจักรยาน” จะสนุกมาก เพราะจุดเชื่อมโยงไปได้ไกลมากขึ้น ปัจจุบันท่ามหาราช และ ยอดพิมาน ทำเสร็จแล้ว โดยออกแบบกิจกรรม

เส้นทางรอบเกาะรัตนโกสินทร์และรอบพื้นที่พระบรมมหาราชวัง เมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะได้เห็นโฉมใหม่ที่ยังคงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมสไตล์ยุโรปยุคแรกอย่างชัดเจน บวกกับสิ่งใหม่ที่สร้างเพื่อรองรับความปลอดภัยตามมาตรฐานใหม่

แนะนำว่าถ้าจะเดินเล่นก่อนจากหน้าวัง แวะหน้าพระลาน ไปแวะรับประทานอาหารท่าช้าง เดินเลียบไปตลาดท่าเตียน สำหรับคนไทยใช้เวลาเดินสักประมาณชั่วโมงกว่า ๆ หรือ 2-3 ชั่วโมงอาจจะร้อนเกินไป แต่ถ้าปั่นจักรยานก็จะได้ระยะทางไกลกว่านั้น จากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ไปวนใต้สะพานพระปิ่นเกล้า เลียบคลองแล้วเข้ามาทางกระทรวงกลาโหม แล้ววนกลับเลาะคลองไปเข้าตลาดแวะท่าช้าง ตลอดสองข้างทางจะได้เห็นอาคารเก่ากลาโหม วัดต่าง ๆ ที่สวยงามมากมาย โดยเฉพาะวันอาทิตย์ปริมาณรถยนต์น้อยจะปั่นจักรยานได้สะดวกสบายด้วย

ทั้งนี้บริเวณแห่งใหม่ “ลานจอดรถสวนาคราภิรมย์” มีบริเวณจุดจอดจักรยานได้ด้วย เพราะมีจุดฝากจักรยานหรือนำจักรยานข้ามไปปั่นต่อ โดยขึ้นตรงบริเวณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดกัลยาณมิตรราชวรมหาวิหาร ซึ่งหลังปี 2561 จะได้ใช้อย่างสมบูรณ์

ช่วงการก่อสร้างและพัฒนาลานจอดรถและปรับปรุงตลาดท่าเตียน ได้ข้อคิดเห็นร่วมกันเรียบร้อยแล้วในหลักการขยายพื้นที่ สิ่งต่อไปคือ “เรื่องการท่องเที่ยว” จากบริเวณสวนนาคราภิรมย์ จะสวยเหมือนเดิมมีฟังก์ชั่นเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีอาคารเก่าคลังสินค้าที่ปรับปรุงซ่อมแซมเป็น “พิพิธภัณฑ์โขน” ซึงยังคงซ่อมอนุรักษ์ให้เหมือนเดิมโดยปรับพื้นที่ใช้งาน เป็นจุดชมใหม่ใกล้มหาราชวัง ชุมชนเมืองที่ได้เห็นศิลปะโขน เป็นจุดน่าสนใจมาสวนแล้วยังได้ชมพิพิธภัณฑ์ควบคู่กันไป

ระหว่างก่อสร้างจะมีกิจกรรมภาพเขียน “จิตรกร” บริเวณรอบรั้วลานจอดรถ ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานกับภาคส่วนต่าง ๆ หรือจะเดินทางไปชมวิถีชีวิตชาวตลาดท่าเตียนซึ่งมีเสน่ห์อีกแห่งในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์นั่นเอง

จากนั้นมาฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “ซื้อแคชการ์ดรับฟรีกิฟการ์ดที่คิงเพาเวอร์”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ แนะนำผู้เดินทางเมื่อแวะเข้าไปยังร้านดิวตี้ฟรี ได้เลือกซื้อ CASH CARD รับฟรีทันที GIFT CARD สูงสุด 15,000 บาท ที่แผนกสินค้าแบรนด์เนม และนาฬิกา โดยสามารถซื้อได้แล้ววันนี้ 31 ตุลาคม 2559 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี และคิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  และดอนเมือง

เพื่อนำ CASH CARD ไปใช้แทนเงินสดในการซื้อสินค้าราคาปกติที่แผนก Watch และ Boutique ที่ร่วมรายการเท่านั้น (ยกเว้น Chanel) ใช้ร่วมกับส่วนลดของบัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ ยกเว้นการใช้ร่วมกับสินค้าโซน Brandname Outlet และรายการ Delights & Surprises ที่ร้านค้า คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และศรีวารี เข้าไปดูรายละเอียดที่ www.kingpower.com

ข่าวที่ 2 “เสนอยูเนสโก้พิจารณาอนุรักษณียาคารไทยปี’61

 

นางอรนุช อิ่มอารมณ์ หัวหน้าฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารงานอนุรักษ์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดเผยว่า ทางฝ่ายงานอนุรักษ์ฯ ได้จัดทำหนังสือชื่อ “อนุรักษณียาคาร” เสนอของชิงรางวัลทางด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมดีเด่นระดับโลก ต่อ องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก้ ภายในปี 2561 โดยรายละเอียดภายในหนังสือดังกล่าวได้รวบรวมเรื่องราวอาคารรอบเกาะรัตนโกสินทร์และรอบบริเวณพระมหาราชวัง 3 อาคาร ได้แก่ หน้าพระลาน ท่าช้าง และท่าเตียน ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2450 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 7 ล้วนมีประวัติศาสตร์ วิถีวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม รวมทั้งสะท้อนเศรษฐกิจแต่ละยุคสมัยได้เป็นอย่างดี

นับเป็นครั้งแรกที่ได้จัดทำหนังสือ “อนุรักษณียาคาร” ด้วยวิธีรวบรวมเอกสารหลักฐาน ภาพอดีต จากทุกแหล่งมาไว้อยู่ในเล่มอย่างสมบูรณ์ โดยใช้เวลานานกว่า 2 ปี เพื่อบอกเล่าคุณค่าของอาคารรอบเกาะรัตนโกสินทร์ต่อพี่น้องชาวไทยและชาวโลก ซึ่งได้เคยนำไปมอบให้หลายประเทศในอาเซียนตามโอกาสสำคัญ ๆ และส่งต่อไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องทางด้านศิลปวัฒนธรรม

สำหรับในประเทศไทย ผู้ที่สนใจหรือหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ สามารถทำจดหมายขอหนังสือ“อนุรักษณียาคาร” ได้ฟรี เพียงแต่จะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนให้ทางฝ่ายบริหารงานอนุรักษ์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พิจารณาตามความเหมาะก่อนจะอนุมัติให้นำหนังสือไปใช้ประโยชน์ต่อไป

 ข่าวที่ 3 “ชมแมงกะพรุนหลากสีแหลมกลัด จ.ตราด”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด รายงานว่า ขณะนี้ชาวประมงบ้านแหลมกลัด ได้แจ้งการพบฝูงแมงกะพรุนหลากสีจำนวนนับแสนตัว  เข้ามาอาศัยอยู่ในทะเลติดชายหาดพลอยแดง ม.9ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด เริ่มมีนักท่องเที่ยว เช่าเหมาเรือประมงพื้นบ้าน ออกไปแล่นเรือชมฝูงแมงกะพรุนในทะเลดังกล่าว ซึ่งมีฝูงแมงกะพรุนหลากสีจำนวนมาก ขนาดตัวยังไม่ใหญ่นัก และยังไม่มีสีสันสดใสนัก ยังเป็นสีอ่อนๆ ทั้งสีฟ้า สีเขียว สีน้ำตาล และสีส้ม  ลอยอยู่ใต้ผิวน้ำเนื่องจากหลบแสงแดด และอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 10-50 เมตร กระจายเป็นกลุ่มๆไปทั่วบริเวณ เป็นทางยาวกว่ากิโลเมตร โดยธรรมชาติแมงกะพรุนหลากสีจะเข้ามาอาศัยในทะเลตำบลแหลมกลัดทุกๆปี ในช่วงเดือนตุลาคม พฤศจิกายน  

ผู้ที่สนใจดูแมงกะพรุนร้อยสีสามารถเดินทางไปชมได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงหลังเทศกาลลอยกระทงช่วงที่เหมาะที่สุดคือ ช่วงเช้า 6.00-11.00 น. ลงเรือไปดูแมงกะพรุนที่หาดพลอยแดง ใช้เส้นทาง ตราด-คลองใหญ่ เลยหาดมุกแก้ว มาประมาณ 1 กม. แล้วเลี้ยวขวา เข้าทางเดียวกับพลอยแดงซีฟู้ด ประมาณ 200 เมตร เลี้ยวขวา เข้าท่าเรือ

ส่วนผู้ประกอบการเรือประมงพื้นบ้าน จะมีบริการพาออกไปเที่ยวชมและถ่ายภาพความสวยงามของฝูงแมงกะพรุนหลากสี ค่าบริการ เรือไม้คิดคนละ 100 บาท นั่งได้ลำละ 5 คน หากไปไม่ถึง 5 คน สามารถเหมาเรือได้ลำละ 400 บาท มีเรือรองรับอยู่ 6 ลำ ติดต่อเช่าเรือได้ที่ คุณจเร โทร. 095 541 7341   

ขณะที่ผู้ประกอบการบริเวณหาดราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน มีที่พักไว้รองรับเป็นโรงแรมหลายแห่งระดับ3-5ดาว และโฮมสเตย์ สอบถามได้ที่ โทร 095-541-7341

ข่าวที่ 4 “บางจากรับได้ใบประกาศต่ออายุCAC

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้รับมอบใบประกาศรับรองการต่ออายุเป็นสมาชิกของแนวร่วมปฎิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC – Thailand’s Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption) จาก ดร.กอปร กฤตยากีรณ รองประธานกรรมการ CAC พร้อมเป็นวิทยากรร่วมเสวนาในเรื่อง 700 Companies: From Collective Action to Action” ในงานสัมมนาระดับชาติประจำปี (National Conference on Collective Action against Corruption) ครั้งที่ 7 ภายใต้หัวข้อ “Ethical Leadership: Combating Corruption Together” จัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ณ โรงแรมดุสิตธานี เมื่อเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ บริษัท บางจากฯ ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกของแนวร่วมปฎิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต หรือ CAC ครั้งแรกในปี 2556 ซึ่งใบรับรองดังกล่าวมีอายุ 3 ปี

ข่าวที่ 5 “ไทยวางยุทธศาสตร์10ปีผนึกไมซ์อาเซียน”

นางสาววิภารัตน์ ธาราธีรภาพ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารรัฐกิจวิสาหกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB  กล่าวว่า การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวอาเซียน 10 ปี (พ.ศ. 2559-2568) นั้น วางเป้าหมายในปี พ.ศ. 2568 อาเซียนจะเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวและการจัดงานไมซ์ที่มีคุณภาพ โดยนำเสนอความหลากหลายผ่านประสบการณ์อาเซียน อันนำไปสู่การจัดงานไมซ์อย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน มีความครอบคลุมในทุกมิติอย่างมีสมดุล นำไปสู่การกินดีอยู่ดี และความเป็นอยู่ที่ดีทางเศรษฐกิจและสังคมประชาชนอาเซียน โดยมี 2 แนวทางหลักในการขับเคลื่อน ได้แก่

ด้านที่ 1 การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางเดียวกัน ผ่านแนวทางต่างๆ ดังนี้ (1) ทำการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างเข้มข้น (2) มีผลิตภัณฑ์สำหรับการจัดกิจกรรมไมซ์ที่หลากหลาย (3) ดึงดูดให้เกิดการลงทุนทางด้านธุรกิจไมซ์เพิ่มมากขึ้น (4) เพิ่มปริมาณและความสามารถของบุคลากรด้านไมซ์ (5) วางแผนดำเนินงานและขยายมาตรฐานในการจัดงานไมซ์ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก บริการ และจุดหมายปลายทางต่างๆ (6) วางแผนดำเนินงานและขยายการเชื่อมต่อตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานของจุดหมายปลายทางต่างๆ และ (7) เสริมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการจัดงานไมซ์

ด้านที่ 2 สร้างความมั่นใจว่าการจัดงานไมซ์ในอาเซียนเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุมทุกมิติ ได้แก่ (1) เพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของภาครัฐและภาคเอกชนในห่วงโซ่อุปทานด้านไมซ์ (2) ปรับปรุงและพัฒนาความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาสถานที่ที่มีความสำคัญทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และ (3) เพิ่มความรับผิดชอบต่อการปกป้องสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และการเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลของสภาพภูมิอากาศ

 ข่าวที่ 65ขั้นตอนจองตั๋วบินถูกแบบง่ายๆ”

วิธีการจองโปรโมชั่นตั๋วโดยสารเครื่องบิน โดยเฉพาะของ “ไทย แอร์เอเชีย” เพื่อเดินทางไปพักผ่อนให้ได้ราคาที่ถูก ประหยัด คุ้มค่า อย่างแท้จริงมี 5 ขั้นตอนง่าย  ๆ ดังนี้

            1.วางแผนการเดินทางก่อนเข้าไปจองตั๋วโดยสารเครื่องบินโดยพยายามหลีกเลี่ยงช่วงเทศกาลท่องเที่ยวหนาแน่น มาก ๆ

            2.เช็คราคาล่วงหน้าไว้หลาย ๆ เดือนก่อนตัดสินใจเดินทาง เพราะยิ่งรู้ล่วงหน้ามากจะมีโปรโมชั่นตั๋วโดยสารที่ขายผ่านทางเว็บไซต์ในราคาถูกและคุ้มค่ากว่าที่จะตั๋วประเภทตัดสินใจซื้อในนาทีสุดท้าย ซึ่งราคาจะยิ่งแพงขึ้นตามลำดับ

            3.ใช้บริการโหลดแอพลิเคชั่นแจ้งเตือนโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไว้บนมือถือ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลต่าง ๆ

            4.เปรียบเทียบราคาโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินของหลาย ๆ สายการบิน เพื่อจะได้ทางเลือกที่ดีกว่า

            5.ในการจองซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์สายการบินควรจะต้องดูรายละเอียด เพราะตามปกติก็จะบวกค่าสัมภาระ ค่าประกันภัยเดินทาง หรือ ค่าอาหารว่าง ถ้าไม่จำเป็นหรือเราไม่ต้องการก็ให้ตัดทิ้งไป จะได้ประหยัดเงินค่าตั๋วโดยสาร

            เป็นหลักวิธีซื้อตั๋วโปรโมชั่นราคาประหยัดที่สามารถนำไปลองปฏิบัติกันได้ แล้วจะได้ราคาที่ถูกใจคุ้มค่าเงินนั่นเอง
ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ออกมาเดินทางเยี่ยมชม 70 เส้นทางตามรอยพระบาทข้ามภูมิภาค ณ โครงการหลวงผาตั้ง เชียงราย แล้วฝึกเรียนรู้วิธีกินยาพาราเซตามอนอย่างปลอดภัย ปิดท้ายด้วยข่าวประจำสัปดาห์

@ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง จังหวัดเชียงราย
 

 ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง อยู่ที่ ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เป็นโครงการพัฒนาการเกษตรอย่างถูกวิธี ช่วยเพิ่ม ความยั่งยืนและสร้างรากฐานอาชีพภายในชุมชนอย่าง มั่นคง วันนี้ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง ไม่เพียงเป็น แหล่งผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพ ตลอดจนมีระบบ อนุรักษ์ดินและน้ำที่ดีเพียงเท่านั้น บ้านผาตั้งยังกลาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในบทบาทชุมชนอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติแหล่งสำคัญของเชียงราย เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เปิดให้เข้าชมทุกวัน 08:00 - 16:00 น.

            จากเดิมที่เคยเป็นหน่วยย่อยของศูนย์พัฒนา โครงการหลวงห้วยแล้ง ภายหลังได้รับถวายฎีกาการ พฒั นาปรับปรุงพื้นที่จากชาวบ้านหมู่บ้านผาตั้ง บ้านร่มฟ้า ผาหม่น และบ้านศิลาแดง หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประทานมูลนิธิโครงการหลวง โปรดให้จัดตั้ง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้งขึ้น ในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2550 เพื่อช่วยส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแก่ชาวบ้าน

            ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง มีการปรับพื้นที่ ภายในศูนย์ฯ สำหรับวางแผนทดสอบและสาธิตวิธีการ ปลูกผักและไม้เมืองหนาว รวมถึงการเลี้ยงสัตว์ได้แก่ กระต่าย แพะ ไก่กระดูกดำ และหมู เพื่อหล่อเลี้ยงชุมชน ประกอบด้วย คนจีนคณะชาติ ม้ง เย้า มูเซอ อีก้อ ไทลื้อ และคนพื้นเมืองมากกว่า 600 ครัวเรือนอย่างทั่วถึง

 " ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกร เน้นการปลูกผักภายใต้โรงเรือนและลดการใช้สารเคมี "

การเดินทางไปท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน “วันแรก”  ช่วงเช้า นั่งเรือหางยาวชมวิวแก่งผาได จุดที่แม่น้ำโขง ไหลออกจากเมืองไทยสู่ลาวเป็นจุดแรก ช่วงบ่าย ชมผาบ่อง ประตูรักแห่งขุนเขา ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ จุดชมวิวเนิน 102 ดอยผาตั้ง

“วันที่สอง” ช่วงเช้า ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่ภูชี้ดาว โครงการหลวงผาตั้ง ชมแปลงพืชผักเมืองหนาว ช่วงบ่าย ขี่จักรยานชมเมืองเชียงของ ชมการทอผ้าทอไทลื้อแบบดั้งเดิมที่พิพิธภัณฑ์ลื้อลายคำ

“วันที่สาม” ช่วงเช้า ตักบาตรรับอรุณริมโขงที่เชียงของ ลันเจีย ลอดจ์ เยี่ยมชมโฮมสเตย์ และทำกิจกรรมในชุมชน ชมการแสดงของชุมชน

            สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด แปลงทดสอบการปลูกผักและ ไม้เมืองหนาว ชมพืชผักเมืองเหนือ บนแปลงดินกว่า 16 ชนิด ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูง ดอยผาหม่น ชมดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ทิวลิป และลิลลี่

 

 ดอยผาตั้ง จุดชมวิวไทย-ลาว และจุดชมทะเลหมอก สูงจากระดับน้ำ ทะเล 1,800 เมตร

            กิจกรรมห้ามพลาด ชมวิถีชีวิตชุมชนในละแวก ใกล้เคียงของชาวเขาเผ่าม้ง ชาวจีนยูนนาน และเย้า อุดหนุนผลิตผลจากโครงการและ งานหัตถกรรมชาวเขา

สอบถามเพิ่มที่โทร. 0-5316-3308

การเดินทาง  จากตัวเมืองเชียงราย ใช้เส้นทาง เชียงราย-เวียงชัย-พญาเม็งราย- บ้านเต่า (ทางหลวงหมายเลข 1233, 1733 และ 1152) ประมาณ 50 กม. ต่อมาถึงบ้านเต่า บ้านท่าเจริญ เวียงแก่น-ปางหัด (ทางหลวงหมายเลข 1155) ระยะทางประมาณ 17 กม. และต่อไปยังบ้านปางหัด-ดอยผาตั้ง อีก 15 กม.

 @แนะวิธีกินพาราเซตามอลอย่างปลอดภัย

ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล ประธานคณะทำงานสร้างเสริมความเข้มแข็งภาคประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ให้ข้อมูลว่า พาราเซตามอลเป็นยาเป็นยาลดไข้ที่ดีที่สุดที่ใช้ในปัจจุบัน แต่อันตรายของการใช้พาราเซตามอล คือ การเป็นพิษต่อตับ (hepatotoxicity) ส่งผลตั้งแต่การทำงานของตับ ไปจนถึง ภาวะตับวายอย่างเฉียบพลัน (acute liver failure) และนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ซึ่งการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่อตับเกิดจากการรับประทานยามากกว่าขนาดยาสูงสุดที่แนะนำต่อวัน

ใช้ยาพาราเซตามอลให้ปลอดภัยต้องดูที่ขนาด

ผศ.นพ.พิสนธิ์ แนะนำว่า ควรกินตามน้ำหนักตัว คูณด้วย 10 หรือ 15 จะได้ขนาดยาเป็นมิลลิกรัมที่เหมาะกับตัวเรา (แต่ต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อครั้ง) เช่น หนัก 50 กิโลกรัม ขนาดยาที่เหมาะคือ 500 หรือ 750 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับยา 1 เม็ด หรือ 1 เม็ดครึ่ง (ถ้าตัวใหญ่ คูณน้ำหนักแล้วเกิน 1,000 ก็กินไม่เกิน 2 เม็ด)

ขนาดยาสูงสุดต่อวันสำหรับผู้ใหญ่

- ขนาดมาตรฐานทั่วไป ไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม โดยรวมถึงยาที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอลอยู่ด้วยเช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาบรรเทาหวัด เป็นต้น

- สำหรับคนตัวเล็ก ควรไม่เกิน 3,000-3,250 มิลลิกรัม (เป็นค่าเพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้น)

- สำหรับผู้ที่ต้องกินต่อเนื่องระยะยาว ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ไม่เกิน 2,500-2,600 มิลลิกรัม

- ผู้ป่วยโรคตับ หรือดื่มสุราเป็นประจำ ต้องกินไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม

- สำหรับผู้ป่วยทีต้องรับยาวาร์ฟาริน (Warfarin) คือ ยาต้านทานการแข็งตัวของเลือด ที่ทางการแพทย์ใช้รักษาและป้องกันภาวะอุดตันของหลอดเลือด อันมีสาเหตุจากการทำงานของเกล็ดเลือดที่ผิดปกติ (ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ) ควรกินไม่เกินครั้งละ 1,300-1,500 มิลลิกรัม

ขนาดยาสูงสุดต่อวันสำหรับเด็กอายุ 0-12 ปี

ไม่เกิน 75 มิลลิกรัม/กิโลกรัม หมายถึงคูณน้ำหนักตัวเด็กด้วย 10 หรือ 15 คือมิลลิกรัมที่เหมาะต่อการป้อนยา 1 ครั้ง วันละไม่เกิน 5 ครั้ง ควรอ่านฉลากให้เข้าใจเสมอว่ายาที่กำลังจะป้อนเด็ก 1 ช้อนชาหรือ 5 ซีซี นั้น มีตัวยากี่มิลลิกรัม

การบริโภคยาพาราฯ เกินขนาดจะไม่เห็นอาการในเร็ววัน จะเห็นก็ต่อเมื่อระยะอันตราย เป็นตับอักเสบ ตับแข็ง และก่อให้เกิดมะเร็งตับแล้ว ดังนั้น ควรใช้ยาเมื่อมีความจำเป็น เพิ่มความระมัดระวังโดยการอ่านฉลากข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัดทุกครั้งที่จะมีการใช้ยา

  ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ดอนเมืองจัดรถฟรีผู้โดยสารตจว.ถวายบังคมพระบรมศพ”

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า เนื่องจากท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ (Low cost carriers) โดยมีผู้โดยสารกว่าร้อยละ 70 เป็นผู้โดยสารภายในประเทศที่เดินทางเข้ามายังกรุงเทพมหานคร เพื่อไว้อาลัยและถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระบรมมหาราชวัง

เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้และเป็นการไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ทดม.จึงเปิดให้บริการรถรับ-ส่งผู้โดยสารในเส้นทาง สนามบินดอนเมือง- สนามหลวง เพื่อให้บริการผู้โดยสารที่จะเดินทางไปถวายบังคมพระบรมศพและไว้อาลัยโดยไม่คิดค่าบริการ ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2559 - 15 พฤศจิกายน 2559 ระหว่างเวลา 08.00 - 17.00 น ทุกวัน ให้บริการทุกๆ 1 ชั่วโมง โดยรถจะออกจากอาคารผู้โดยสาร ทดม.อาคาร 2 ชั้น 3 ประตู 15

โดยในเที่ยวไปจะใช้เส้นทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ต่อเนื่องทางพิเศษเฉลิมมหานคร ลงทางลงยมราช และจอดส่งด้านหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ และเที่ยวกลับ ออกจากด้านหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ต่อเนื่องทางยกระดับอุตราภิมุข และจอดส่งบริเวณอาคารผู้โดยสาร ทดม.อาคาร 2 ชั้น 3 ประตู 15 ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center 1722

ข่าวที่สอง “ท่องเที่ยวแจ้งงาน“จัดปกติ-เลื่อน-ยกเลิก”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้รวบรวมงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทยที่ทยอยแจ้งยกเลิกและเลื่อนไปในระหว่างการจัดงานพระบรมศพ  ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต โดยให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์กำหนด 1 ปี และงดการจัดงานรื่นเริงต่าง ๆ เป็นเวลา 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป มีดังนี้

งานที่ยังจัดตามปกติ ได้แก่

1.งานไตรกีฬาชาเลนต์ ณ เขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี วันที่ 23 ตุลาคม 2559 จัดงานตามปกติสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ challenge-thailand.com โทรศัพท์ 08 7939 6442

2.งานมหกรรมหนังสือ ณ ศูนย์สิริกิติ์ จัดแสดงต่อถึงวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2559

3.งานผาสาดลอยเคราะห์ จังหวัดเลย จัดแต่งดการแสดงดนตรีท้องถิ่นและปรับรูปแบบงานใหม่

งานที่ยกเลิก ได้แก่

1. การประกวดวงดนตรีเยาวชน กาดสวนแก้วลูกทุ่ง (ครั้งที่ 2) วันที่ 22,23,30 ตุลาคม 2559 ณ กาดสวนแก้ว เชียงใหม่ เลื่อนการประกวดออกไปอย่างไม่มีกำหนดOtop SME Excellence Fair 2016

            2. มหกรรมเล่นกับผีที่เมกาบางนา ตอน จิตคลั่ง โรงพยาบาลหลอนวันที่ 20-31 ตุลาคม 2559 ณ เมกา บางนา

3.Otop SME Excellence Fair 2016 วันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2559 ณ ศูนย์การค้าโพศรีวิลเลจ

4. เทศกาลส้มสีทอง ของดีทุ่งช้าง แอ่วงานเกี๋ยงเป็ง จังหวัดน่าน วันที่ 9-15 พฤศจิกายน 2559 ณ ที่ว่าการอำเภอทุ่งช้าง

5.งานประเพณีออกพรรษาอุบลราชธานี ไหลเรือไฟ ลอยกระทง และการแข่งขันเรือยาว วันที่วันที่ 22-23 ตุลาคม 2559

6.ถนนคนเดิน วันเสาร์ (ถนนวัวลาย), ถนนคนเดินวันอาทิตย์ (ราชดำเนิน) และไนซ์บาซ่า (ยกเลิกการจำหน่ายสินค้าโดยไม่มีกำหนด)

งานที่เลื่อนการจัด ได้แก่

1.งานเทศกาลหุ่นโลกกาญจนบุรี วันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2559 เลื่อนเป็นวันที่ 20-26 กุมภาพันธ์ 2560

2.งานจันทบุรีซีนิคมาราธอน วันที่ 29-30 ตุลาคม 2559 ณ จันทบุรี เลื่อนการจัดงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด

3. งานเทศกาลเที่ยวพิมาย นครราชสีมา (เลื่อนการจัดงานอย่างไม่มีกำหนด)

4.คอนเสิร์ต Mystic Valley นครราชสีมา (เลื่อนการจัดงานอย่างไม่มีกำหนด)

5.งานแข่งขันวิ่งมินิมาราธอนดงมะไฟ  นครราชสีมา(เลื่อนการจัดงานอย่างไม่มีกำหนด)

6.งานมหกรรมลำปางมอเตอร์โชว์ 2016 (เลื่อนการจัดงานอย่างไม่มีกำหนด)

พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao และ ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน ผู้ดำเนินรายการ
คอลัมน์นิสต์และบล็อกเกอร์การบิน/ท่องเที่ยว 
 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai