อีสานท้า“เจนวาย-เก๋า”เที่ยวไทยต้อนรับฤดูหน้าหนาว
ตลุยเที่ยว“3ป่ามหัศจรรย์”กำแพงเพชร-สุโขทัย
4บริษัทจ่อประมูล3พันล้านงานAPMสุวรรณภูมิ
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2559
เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” รู้ทันข่าวและสารคดีท่องเที่ยวอัพเดททุกสถานการณ์
ช่วงแรกเวลา 11.15 น.
“คุณสมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
“คุณสมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ให้สัมภาษณพิเศษในรายการว่า
ช่วงปลายฝนต้นหนาวเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมในภาคอีสาน ผลจากการจัดคาราวานมิตรภาพไทย-จีน
39 วัน
เนื่องจากฤดูฝนเขียวชอุ่ม มีนาข้าวและช่วงเช้าหมอกลง สามารถท่องเที่ยวได้ยาวตลอด 3 เดือนตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป
เป็นฤดูเปิดการท่องเที่ยวต้นฤดูหนาว และเป็นงาน “บุญใหญ่-ออกพรรษา” ทั่วทุกจังหวัด นักท่องเที่ยวจะสัมผัสบุญใหญ่ด้วยกัน
เส้นทาง “อีสานใต้”
วิถีชีวิตชุมชน
ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมจีนเดินทางเข้ามา ด้วยการเชื่อมโยงวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน จาก
บ้านปราสาท ประสาทหินพิมาย โบราณสถาน นครราชสีมา
ร้อยเรียงต่อไปยัง “บุรีรัมย์”
หมู่บ้านสนวนนอก
ชุมชนเข้มแข็งที่รักษาบ้านไม้ไว้อย่างเข้มแข็ง มีขนมถิ่น “ตดหมูตดหมา” รสชาติคล้ายขนมจาก
เป็นแหล่งผลิตเส้นไหม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมการผลิตไหม
รวมถึงได้เห็นถึงความสามัคคีกลมเกลียวของชาวบ้าน โดยมีผู้เฒ่าผู้แก่มาคอยต้อนรับ
หลังจากนั้นพาไปดู “บ้านสว่าง”
หมู่บ้านทอผ้าทองเป็นน้ำหนึ่งของอีสาน พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก
ชุมชนบ้านเก่าโบราณ ยโสธร มีเรื่องเล่าในอดีตเป็นเมืองท่าค้าขาย
ศาลหลักเมืองเป็นเส้นทางแปลกอีกเส้น มีประเพณีมาลัยข้าว มาลัยไม้ไผ่
เลาะมายังอุบลราชธานี “หมู่บ้านทำเทียน”
มาเรียนรู้หมู่บ้านแกะสลักเทียนเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน ซึ่งยังเก็บรักษาไว้สร้างความตื่นตากับนักท่องเที่ยว
แล้วก็ไปดูวิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง
การจัดคาราวานจะจัดต่อเนื่องระยะยาว ให้นักท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิต
พอเข้ามาถึงอีสานก็จัดเตรียมรถท้องถิ่น รถอีแต็ก หรือช้างมารับกว่า 50 เชือก
อีกไฮไลต์คือปราสาทพนมรุ้ง เป็นเส้นทางเชื่อมโยงสู่กัมพูชาได้
เส้นทางนี้คนไทยก็นิยมขับรถเที่ยวได้
หรือจะมีอีกโปรแกรมคือนั่งเครื่องบินแล้วลงขับรถเที่ยวได้ ผลไม้ข้างทางอย่าง
ไร่แก้วมังกร เงาะ ลำไย และผลไม้หลากหลยแวะซื้อได้ตลอดทาง
เส้นทางอีสานใต้ “คนวัยเก๋า-เกษียน” การเติบโตต่อเนื่องตลอดปี 2559 ตั้งเป้า 34 ล้านคน พุ่งเป้าไปยังนักท่องเที่ยว “เจนวาย” อายุต่ำกว่า 50 ปี
เที่ยวแบบไร้ข้อจำกัดเรื่องเวลาการเดินทาง ส่วน “วัยเก๋า” เกิน 55 ปีมีน้อยมาก
แต่ปีนี้อัตราการเติบโตสูงถึง 56
% สะท้อนถึงความสนใจมีมากขึ้นและเดินทางได้โดยไม่ติดกับดักเวลา
ดังนั้นปี 2560 ททท.อีสานวางแผนเจาะกำลังซื้อ “วัยเก๋า”
นอกจากจะนำรายได้เข้าสู่ชุมชน
สิ่งสำคัญคือภูมิปัญญาของนักท่องเที่ยวที่เกษียนแล้วมีความรู้สูงสามารถแชร์ประสบการณ์องค์ความรู้กับผู้ให้บริการ
โดยเฉพาะโรงแรมที่พักต้องกระตุ้นให้ตื่นตัวในการปรับปรุงสถานที่สิ่งอำนวยความสะดวกให้สอดคล้องกับความต้องการของวัยเก๋า
ปี 2560 “เก๋ายกก๊วน ชวนเที่ยวอีสาน แซบนัว” แบ่งเป็ 7 เส้นทาง ตามสำนักงาน เก๋าขึ้นภู จ.เลย
ซึ่งนักรถอีแต็กหรือขึ้นไปบอกรักกันบนภูเรือก็ได้ “เก๋าบาสโลฟ” หนองคาย จับมือกับผู้สูงอายุที่ตั้งเป็นชมรมสอนเต้นทุกสัปดาห์อยู่แล้ว
มาชวนกันเต้นที่ท่าเสด็จได้ หากนักท่องเที่ยวรวมตัวกันเป็นบัสก็จัดเต้นบาสโลฟได้
ทั้งหนองคายและนครพนม
เป็นเส้นทางตัวอย่างที่จะนำเสนอขายเป้นแพกเกจเส้นทางท่องเที่ยว
สำหรับตุลาคมเป็นเดือนเหมาะกับวัยเก๋าในการมาทำ “เส้นทางออมบุญ” ช่วงออกพรรษากับงาน 12 เดือนอีสาน
อาจจะเลือกช่องทางได้หลากหลาย นั่งเครื่องมาสกลนคร ดูแห่ประสาทผึ้ง
แล้วนั่งรถไปพระธาตุพนม 16 ต.ค.ซึ่งเป็นวันสำคัญบูชาพระธาตุ
และสะเดาะเคราะห์กับไหลเรือไฟโบราณ ททท.จัดในเมือง
ซึ่งช่วงกลางคืนจัดยิ่งใหญ่ติดตลาดให้ไปชมงานกลางแม่น้ำโขง
มีกิจกรรมแปลกแตกต่างจากทุกปี
ขอนแก่น เที่ยวงานฮ้านและลอยประทีป นำฟักทองแกะสลักจุดเทียนข้างใน
หรือนำกระทงวางไว้ในสวนสาธารณะขอนแก่น วันที่ 16
ต.ค.จะทำพิธีลอยประทีปในวันออกพรรษา และงาน ลอยกาบ
สะเดาะเคราะห์ บั้งไฟพญานาค ที่โพนพิสัย เพิ่มที่รัตนวาปี หนองคาย อีกกิจกรรมคือ “ตักบาตรเทโว” กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ร่วมจุลกฐินที่มุกดาหาร 22-24
ต.ค.แตกต่างจากทั่วไปคือชาวบ้านเก็บฝ้ายแล้วนำมารวมในจุลกฐินแล้วทอ
เป็นผ้าช่วงเช้าถวายพระ ชาวผู้ไทจะทอผ้าแล้วแต่งชุดประจำเผ่า
ส่วนโครงการใหญ่ “ท้าเที่ยวข้ามภาค” ภาคอีสานจะเน้นการเชื่อมโยงโดยร่นระยะเวลาเดินทางโดยพึ่งสายการบิน
จากหาดใหญ่มาขอนแก่น ภูเก็ตมาอุดรธานี เจาะตลาดที่ต่าง ๆ เพื่อชวนคนใต้กับเหนือมาอีสาน
สินค้าจะแตกต่างจากในพ้นที่ อย่างภาคใต้มีทะเลก็หันมาเที่ยวศิลปะ
ประเพณี อีสาน เช่น อุบลราชธานีกับสุราษฎร์ธานี แห่เทียนอุบลแลกกับชักพระสุราษฎร์
และตุลาคมนี้จะนำแห่เทียนไปร่วมชักพระพร้อมนางรำจากอุบลไปร่วมรำตลอดงาน
สำหรับข่าวเบรกแรก
ข่าวที่ 1 “SCBผนึกคิงเพาเวอร์จัดแลกเงินดอลล์ได้กำไร”
กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ร่วมกับธนาคารไทยพานิชย์ให้สมาชิกบัตรคิงเพาเวอร์ใช้สิทธิ์แลกเปลี่ยนเงินฯ
ได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2559 โดยรับไปเลย “ส่วนลดแลกเงิน”
อัตราแลกเปลี่ยนพิเศษต่างประเทศ ณ เคาน์เตอร์ธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ
ยกเว้นที่สุวรรณภูมิ แบ่งเป็น 3 ยอด ได้แก่ 1.ตํ่ากว่า USD 2,000 หรือสกุลอื่นเทียบเท่า รับส่วนลด 0.05 บาท / USD
2.
USD 2,000 - 4,999 หรือสกุลอื่นเทียบเท่า รับส่วนลด 0.10 บาท / USD 3. USD 5,000 ขึ้นไป หรือสกุลอื่นเทียบเท่า รับส่วนลด 0.12 บาท /
USD ด้วยวิธีง่าย ๆ แค่แสดงบัตรสมาชิกคิง
เพาเวอร์ พร้อมหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชน
ข่าวที่ 2 “ททท.จัดเต็มท้าเที่ยวข้ามภาค8เรื่อง6ต.ค.”
คนไทยหัวใจชอบเที่ยว
เตรียมตัวให้พร้อมกับการร่วมกิจกรรม “ท้าท่องเที่ยวไทยข้ามภาค” ตลอดปี’60 เพื่อพิสูจน์ความเกรียน ความเก๋า ความเก่ง ใคร ๆ
วัยไหนก็สนุกได้ทุกที่
นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า ภายในเดือนตุลาคม 2559 นี้ในช่วงเริ่มต้นปีงบประมาณ 2560 จะเปิดตัวโครงการ “ท้าเที่ยวข้ามภาค”
โดยจะร่วมกับเครือข่ายภาคีพันธมิตรสายการบิน นำร่องโครงการกับ “ไทย แอร์เอเชีย”
ซึ่งมีเที่ยวบินบริการภายในประเทศครอบคลุมเมืองหลัก เมืองรอง และเมืองย่อย
ทุกภาคของประเทศ
ส่วนไฮไลต์กระตุ้นความสนใจคือ “ค่าใช้จ่ายในการเดินทางอย่างคุ้มค่า”
เบื้องต้นแยกท้าเที่ยวไทยข้ามภาคได้ใน 8 หมวดหลัก ประกอบด้วย 1.ธรรมชาติ 2.ศาสนา 3.ประเพณีวัฒนธรรม
4.สุขภาพและความงาม 5.ชุมชน 6.อาหาร
7.สิ่งแวดล้อมและสังคม
8.กิจกรรมกลางแจ้งและผจญภัย (outdoor & Adventure)
ตัวอย่างแคมเปญสร้างสีสันให้คนไทยออกมาเที่ยวตลอดปี 2560
อย่างสนุกสนานมีชีวิตชีวา กับการท้าเที่ยวไทยข้ามภาค ในหมวด “ธรรมชาติ” ไปกับธีมท่องเที่ยว
อาทิ “จ่ายหลักพันไปสัมผัสวิวหลักล้าน” ชมวิวสวยบนยอดเขา เสม็ดนางชี จ.พังงา ภูลังกา จ.พะเยา ภูสิงห์
จ.บึงกาฬ “ท้าขึ้นเหนือไปขึ้นดอยคนฟ้าอลังการดาวล้านดวง”
ที่ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ดอยเสมอดาว จ.น่าน ภูสอยดาว อุตรดิตถ์
“ท้าข้ามภาคไปพิสูจน์ตัวเองที่
2 สองหัวใจแห่งขุนเขา” แต่ละแห่งมีเอกลักษณ์รูปหัวใจ เช่น
น้ำเปรโต๊ะลอซู อ.อุ้มผาง จ.ตาก ภูกระดึง
จ.เลย “ท้าปิดโซเชียล เปิดชีวิต ข้ามภาคไป Slow Life ที่เกาะ 3
ไข่” เกาะไข่นอก-เกาะไข่ไน-เกาะไข่นุ้ย จ.พังงา
“ท้าข้ามภาคมาพิสูจน์สันหลังมังกรปักษ์ใต้” ที่หาดสันหลังมังกร จ.พังงา และ จ.สตูล
สำหรับ “ท้าท่องเที่ยวไทยข้ามภาค” อีก 7 หมวด จะทยอยนำมาเสนอ
พร้อมกติกาการร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลมากมาย
เพื่อคนไทยจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีสีสันเข้าถึงการเดินทางท่องเที่ยววิถีใหม่
“เที่ยวไทยเก๋ไก๋ ลึกซึ้ง” ในแบบ Local
Experience
ข่าวที่ 3 “เที่ยวงานรับบัวหนึ่งเดียวในโลกที่บางพลี”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ
และอำเภอบางพลี จัดงาน “ประเพณีรับบัว” หนึ่งเดียวในโลก แห่งเดียวในประเทศไทย จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่
81 ระหว่างวันที่
12-15 ตุลาคม 2559
ในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ
การแสดงวิถีชีวิตชาวบางพลีในอดีต การละเล่นพื้นบ้าน การประกวดขวัญใจแม่ค้า
การประกวดหนุ่ม-สาวรับบัว การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง การประกวดเรือประเภทสวยงาม
ความคิด ตลกขบขัน การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การประกวดทำอาหารจากปลาสลิด
และการจำหน่ายขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง สินค้า OTOP ของดีของอำเภอบางพลี
วันที่ 15 ตุลาคม 2559 เวลา 08.00 น.
จะมีการอัญเชิญองค์หลวงพ่อโตจำลองลงเรือแห่ไปตามลำคลองสำโรง
เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ
เป็นประธานเปิดงาน อำเภอบางพลี
ตามประเพณี วันโยนบัวคือ 15 ตุลาคม 2559 เริ่ม 07.00 น. เป็นต้นไป ณ
บริเวณที่ว่าการอำเภอบางพลี, คลองสำโรง (วัดบางพลีใหญ่ใน)
และวัดบางพลีใหญ่กลาง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ข่าวที่ 4 “ดินเนอร์เจ้าพระยาครึ่งราคาด้วยบัตรบางจาก”
สมาชิกบัตรบางจากห้ามพลาด ล่องเรือดินเนอร์ เจ้าพระยาครุยส์ Amazing Dinner Cruise (Thai & International Buffet) วันนี้ – 31 ธ.ค. 59 ลดเหลือ 990 บาท (ปกติ1,700 บาท) โดยแสดงบัตรสมาชิกบางจากแก๊สโซฮอล์คลับ หรือ
บางจากดีเซลคลับ ก่อนชำระเงินเพื่อรับสิทธิประโยชน์ หรือ ส่วนลดพิเศษจาก เรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์
ลงทะเบียนขึ้นเรือเวลา 18.45 น. ท่าเทียบเรือที่ 1 ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา ซอยเจริญกรุง 30
เริ่มล่องเรือเวลา 19.00-21.00 น.
ไม่สามารถใช้ส่วนลดราคาพิเศษ ได้ในวันหยุดเทศกาล และวันหยุดนักขัตฤกษ์ได้ และสำรองตั๋วล่วงหน้า
3 วัน โดยสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง โทร.02-5415599
ข่าวที่ 5 “TCEBโกยเงินไมซ์งานเดียว2.5พันล้านบาท”
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์
รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ
(องค์มหาชน) หรือ " TCEB" พร้อมด้วย " น.ส. ปาริฉัตร เศวตเศรนี
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร นำทีมลุยจัดงาน "IT& CM
Asia and Asia-Pacific 2016 งานเทรดโชว์ทางด้านไมซ์ที่ใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
จัดระหว่างวันที่ 27-29 กันยายน 2559 ณ บางกอกคอนเวนชั่น เซนทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์
ซึ่งประเทศไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นสถานที่จัดงานต่อเนื่องมา
15 ปี ในปี 2559
คาดการณ์จะสามารถรายได้เข้าประเทศเบื้องต้นอย่างน้อย 2,500
ล้านบาท
ภายในงานทางทีเส็บผู้สนับสนุนการจัดได้นำผู้ประกอบการธุรกิจไมซ์และ SMEs ไทย
ที่มีศักยภาพ มาเป็นตัวแทนผู้ขายธุรกิจไมซ์ 67 แห่ง มาร่วมพบปะเจรจากับผู้ประกอบการตัวแทนซื้อขายจากทั่วโลกกว่า
60 ประเทศ 2,800 คน
โดยมีสื่อสารมวลชนนานาชาติมาร่วมกว่า100 คน
ภายในงาน "IT& CM Asia and Asia-Pacific 2016 ทาง TCEB ได้จัดพื้นที่ "ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน" ขนาด 400 ตารางเมตร เพื่อให้คู่ค้าได้เจรจาธุรกิจกัน
รวมทั้งยังได้นำ 2 เมือง ไมซ์ ซิตี้ คือ พัทยาและเชียงใหม่
มาเปิดบูธแนะนำโปรดักไมซ์แบบครบวงจร
นางศุภวรรณกล่าวว่า
ทีเส็บยังได้เปิดตัวแคมเปญ "THAILAND
CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success" ที่จะสร้างรายได้โดยภาพรวมเข้าประเทศตามเป้ากว่า
1.01 แสนล้านบาท ควบคู่กับการเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์
20 ปี ระหว่าง พ.ศ.2560-2579 โดยตั้งเป้าภายใน 5
ปีข้างหน้า หรือประมาณปี 2564 ประเทศไทยจะต้องเป็น
ประเทศศูนย์กลางการเชื่อมโยงไมซ์แห่งเอเชีย (MICE
HUB ASIA)
สำหรับรายได้ไมซ์เข้าประเทศปี
2560
ทีเส็บตั้งไว้ 1.01 แสนล้านบาท มาจาก 1.การประชุมองค์กร(meeting) 33,000 ล้านบาท 2. การประชุมนานาชาติ (convention) 30,000 ล้านบาท 3.การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล
(incentive) 20,000 ล้านบาท 4.การประชุมนานาชาติ (exhibition) 18,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในปี 2559 ทีเส็บสร้างความสำเร็จตลอด 3 ไตรมาสแรกปี 2559 ทำรายได้รวม กว่า 60,593 ล้านบาท (1,740 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากจำนวน 750,742 คน มาจากลูกค้ารายใหญ่ในตลาด 10 อันดับแรก ได้แก่
1. จีน 7,909 ล้านบาท 2.อินเดีย 6,461 ล้านบาท 3.สิงคโปร์ 5,195 ล้านบาท 4.มาเลเซีย 4,547 ล้านบาท 5.สหรัฐอเมริกา 2,934 ล้านบาท
6.ญี่ปุ่น 2,489 ล้านบาท 7.เกาหลี 2,407 ล้านบาท 8.อินโดนีเซีย 2,014 ล้านบาท 9.ฮ่องกง 1,953 ล้านบาท 10.เวียดนาม 1,675 ล้านบาท
ข่าวที่ 6 “บินแน่
“ภูเก็ต-นครวัด”7พ.ย.59”
ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) กล่าวว่า ไทยแอร์เอเชียจะเปิดเส้นทางบินใหม่อย่างแน่นอ
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เชื่อมเส้นทางบินจากเมืองชายทะเล “ภูเก็ต” ทุกวันสู่เมืองมรดกโลก
“นครวัด” จังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา เริ่มเที่ยวแรก วันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 ตอนนี้ยังมีตั๋วโปรโมชั่นสุดประหยัดเริ่มที่ 1,490 บาทต่อเที่ยว รีบจองด่วนภายใน2 ตุลาคม 2559 เพื่อเดินทางตั้งแต่เที่ยวบินปฐมฤกษ์ 7พ.ย. 2559 -28 ต.ค.2560 นับเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางสู่จุดหมายจากเมืองชายทะเลของไทยสู่เมืองมรดกโลก
เพิ่มได้ทั้งจำนวนคนและรายได้เข้าสู่ประเทศไทยและกัมพูชา
ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ฟังเรื่องที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข
สุขภาพดี และมีข่าวทันสมัยไปบอกต่อ
บินไปขับรถเที่ยว “ป่ามหัศจรรย์” 3 อุทยานแห่งชาติ ใน 2
จังหวัดภาคเหนือ กำแพงเพชรและสุโขทัย
การเดินทางขึ้นเหนือมุ่งหน้าสู่เมืองราชธานีแห่งแรกของไทย
“สุโขทัย” เชื่อมต่อไปถึง “กำแพงเพชร” ตามเส้นทาง
“ป่ามหัศจรรย์” เริ่มต้นจาก “อุทยานแห่งชาติแม่วงศ์” ซึ่งมีช่องเย็นอากาศหนาวเหน็บตลอดทั้งปี
สามารถกางเต็นท์ค้างแรมนอนชมดาวและเดือนได้สบาย
ๆ ทุกวัน
พื้นที่โดยรอบเป็นผืนผ่ารอยต่อระหว่างนครสวรรค์กับกำแพงเพชร
มีพันธุ์ไม้ให้เรียนได้ถึง 80 พันธุ์ และมีถึงน้ำตกให้ดื่มด่ำความฉ่ำเย็นถึง 3
แห่ง คือ น้ำตกแม่กระสา น้ำตกแม่เรวา และน้ำตกแม่วงศ์
ส่วนเส้นทางศึกษาธรรมชาติก็มีแก่งหินลำห้วยคลองขลุง
ต่อด้วย “อุทยานแห่งชาติคลองลาน” มีน้ำตกขึ้นชื่อที่มีระดับความสูงเกือบ 100 เมตร
และมีศูนย์รวมจุดท่องเที่ยวที่เป็นพระเอกของอุทยานอีกแห่งคือ “คลองน้ำไหล”
ปิดท้ายเที่ยว “อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า” มีความโดดเด่นเรื่องพันธุ์ไม้หลากหลาย กับ
“น้ำตกคลองน้ำแดง”ซึ่งเป็นน้ำตกหินชนวนแห่งเดียวในประเทศไทย
เที่ยวเสร็จแล้วอย่าลืมอุดหนุนชุมชน
ซื้อผลิตภัณฑ์กล้วยไข่ กำแพงเพชร ส้มลิ้ม
และหัตถกรรมพื้นบ้านสุโขทัยติดมือกลับมาฝากคนที่บ้าน เพื่อนฝูงที่ทำงาน ด้วย
เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นทั่วไทย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ททท.สำนักงานสุโขทัย
โทร.055-616-228-9
@คนมีความสุขจะไม่ทำร้ายด้วยตัวเองด้วย5เรื่อง
ความสุขเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเองได้
หากใครอยากมีความสุข ควรหลีกเลี่ยงเรื่องดังต่อไปนี้
1.สนใจเรื่องของคนอื่น ไม่ได้หมายถึงเราจะไม่แคร์คนรอบข้าง เพียงแต่ไม่สนใจว่าใครจะทำอะไรกับชีวิต
หยุดมองคนอื่นว่าได้หรือมีอะไร หรือมองว่าใครจะดีกว่า เลิกที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับทุกสิ่งอย่างจงฟังเสียงหัวใจตัวเองให้มาก
แล้วเก็บความปรารถนาดีกับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไว้ใกล้ๆหัวใจตัวเอง
ขอให้จำไว้ว่าอย่ากลัวที่จะเดินไปข้างหน้าเพียงลำพัง
อย่ากลัวที่จะสนุกไปกับมันและอย่ายอมให้การปฏิเสธ ความเสียใจ
หรือแม้แต่ความคิดแย่ๆ ของใครมาหยุดเราได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามุ่งสู่เป้าหมายที่มีความสำคัญต่อจิตใจแล้วละก็แทบไม่มีอะไรเลยที่จะทำให้เราสั่นคลอนได้
2. ตัดสินคุณค่าของตัวเองจากผู้อื่น พวกเขาไม่เคยเอาคำติ หรือประสบการณ์แย่ๆ
ที่ได้รับจากคนอื่นมาเป็นตัวตัดสินว่าตัวเองมีค่ามากน้อยเพียงใด ไม่ว่าใครคิดหรือพูดอะไรเกี่ยวกับเรา
เราเองต้องโฟกัสไปที่สิ่งที่รู้และคิดกับตัวเองดีกว่าแล้วเดินไปข้างหน้าด้วยขาของตัวเอง
3. รอความสุขจากใคร ความทุกข์นั้นอยู่ระหว่างสิ่งที่เรามีกับสิ่งที่เราต้องการ
แต่ความจริงคือเราไม่จำเป็นต้องเพิ่มเติมอะไรเลย ควรพอใจกับสิ่งที่เรามี
เราไม่ต้องให้ใครมาอนุญาตก่อนเราถึงจะมีความสุขได้
ทันทีที่คุณให้ใครก็ตามมารับผิดชอบในความสุขของคุณ
เชื่อได้เลยว่าชีวิตคุณต้องเจอกับเรื่องอึดอัดและน่าเศร้าเพียงใด เพราะฉะนั้น
เลือกความสุขของเราเอง อย่ารอให้ใครมาประเคนความสุขให้ เพราะเราสร้างมันขึ้นมาเองได้
นี่คือชีวิตเรา
4. กักเก็บความแค้นไว้ จำไว้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตนั้นเป็นเพียงบทหนึ่งของเรื่องราวในชีวิต
อย่าปิดกั้นหนังสือแต่จงเปิดหน้าถัดไป
เรามักถูกทำร้ายโดยการตัดสินใจของเราเองและผู้อื่นทั้ง ๆ ที่เวลาผ่านไปนานแล้ว เราต้องฝึกที่จะให้อภัย เป็นวิธีการในการเยียวยารักษาที่จะนำคุณไปสู่อนาคต
โดยไม่ต้องต่อสู้กับอดีตที่ผ่านมา เรียนรู้จากมันและก้าวต่อไปข้างหน้า
5. ใช้เวลานานในสภาพแวดล้อมแย่ๆ เราไม่สามารถสร้างทางเลือกที่ดีขึ้นได้จากสภาพแวดล้อมที่เป็นลบหรือแย่ๆ
รอบตัวเรา นั่นคือความรู้สึกอึดอัด อารมณ์เสียง่าย จิตใจไม่สงบ
นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าเรามีความผิดปกติ ให้เริ่มสังเกตที่ตัวเองว่าเราเองหรือเปล่าที่แย่
ถ้าไม่แล้วล่ะก็มองไปรอบๆ ตัวดูว่ากำลังอยู่ผิดที่ ควรออกมาจากตรงนั้น ถ้ามั่นใจว่าอยู่คนเดียวดีกว่า
สงบกว่า มีความสุขมากกว่า มีความคิดที่ดีและสร้างสรรค์ ถ้าอย่างนั้นคนเดียวไม่สุขกว่าหรือ
6. หนีความจริง เราไม่เคยต่อต้านความจริง หรือใช้ชีวิตอยู่กับการโกหก
เพราะในที่สุดเรื่องโกหกจะเติบโตและแข็งแกร่งมากในจิตใจของเรา จนทำให้กลายเป็นคนที่ไม่ยอมรับความจริง
ท้ายที่สุดเราจะเป็นคนที่เสียใจมากที่สุด และเสียการควบคุมตัวเองไปเลย เราจึงควรมีความสุขแบบถูกวิธีและยั่งยืน
การยอมรับความจริงได้นั้นจะนำมาซึ่งการให้อภัยและไม่หวนคืนอดีต ย่อมดีกว่าแน่นอน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมงที่ทั้งฮ็อตและคุณภาพเต็มเปี่ยม
ข่าวแรก “ทอท.จ่อเปิดประมูลAPMสุวรรณภูมิ3พันล.”
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย
จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่าขณะนี้ความคืลหน้าในการเปิดประมูลสัญญางานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ หรือ Automated People Mover -APM ซึ่งเป็น 1 ในอีก 4 สัญญาที่เหลือ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
(ปีงบประมาณ 2554-2560) การประกวดราคาสัญญา APM มีแนวโน้มจะดำเนินการได้ภายในเดือนตุลาคมปีนี้
โดยจะใช้ราคาตลาดที่จะเปรียบเทียบเคียงกับงานAPM
ในสนามบินต่างประเทศ อาทิ
สนามบินฮ่องกง สนามบินดูไบ และหากเริ่มตามขั้นตอนได้จะเริ่มก่อสร้างได้เดือนกุมภาพันธ์
2560 กำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2560
ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่าการประกวด
APM แนวโน้มจะได้ราคากลางต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท เบื้องต้นมี 4 บริษัท มีคุณสมบัติสามารถเข้าร่วมประกวดราคาโครงการดังกล่าวได้
คือ ซีเมนส์ ,บอมบาเดียร์,มิตซูบิชิ และ IHI ของประเทศญี่ปุ่น
ข่าวที่สอง “ทีทีซีบุกท่องเที่ยวผนึกจัดเฮโรก้าเอเชีย2017”
นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ
บริษัท เอเชีย โฮเรก้า จำกัด ในกลุ่มทีซีซี แอสเซ็ทส์ เปิดเผยว่า ในภาพรวมแต่ละปีกลุ่มธุรกิจโฮเรก้า ประกอบด้วย โรงแรม, ร้านอาหาร,
กาแฟ และธุรกิจจัดเลี้ยง เติบโตต่อเนื่องประมาณ 10-20% คิดเป็นมูลค่าปีละ 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มโรงแรม
5.27 แสนล้านบาท กลุ่มร้านอาหาร 3.85
แสนล้านบาท กลุ่มกาแฟ เบเกอรี่ ไอศกรีม และธุรกิจจัดเลี้ยงที่ 6.2 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
บวกกับมีวิจัยระบุชัดว่า คนไทยรับประทานอาหารนอกบ้านสัปดาห์ละ 3-6 ครั้ง
จากแนวโน้มดังกล่าว เป็นแรงดึงดูดให้ผู้ประกอบในธุรกิจโฮเรก้า ต้องการวัตถุดิบ
อุปกรณ์ เครื่องมือ มาบริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในอนาคต
ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(ทีเส็บ), สมาคมการบริหารโรงแรม
วางแผนจับมือกับ บริษัท เอเชียโฮเรก้า จำกัด เตรียมจัดงาน "โฮเรก้า เอเชีย 2017"
โดยตั้งเป้าจะมีผู้เข้าร่วมงาน 8,000 ราย สร้างเงินสะพัดงานเดียว
200-300 ล้านบาท
ข่าวที่สาม “อินเตอร์คอนเปิดเทศกาลเห็ดทรัฟเฟิลดำ”
โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เปิดห้องอาหาร “ไฟร์เพลส กริลล์ แอนด์ บาร์” เสิร์ฟเมนูเห็ดทรัฟเฟิลดำพิเศษประจำฤดูกาล
จากห้องอาหาร ระหว่างวันที่ 7 ตุลาคม –
30 พฤศจิกายน 2559
เชฟเซบาสเตียน ไรเชอร์
หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารไฟร์เพลส กริลล์ แอนด์ บาร์ เชิญชวนมาร่วมลิ้มลองรสชาติของวัตถุดิบเลอค่าประจำฤดูกาล
เห็ดทรัฟเฟิลดำ (แบล็ค ทรัฟเฟิล) กับกลิ่นหอมเฉพาะตัวอันเป็นเอกลักษณ์
ในหลากหลายเมนูที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ อาทิ ฟัวกราส์ชิ้นนุ่มคู่ซอส
Périgueux ไวน์ขาวและทรัฟเฟิลเข้มข้น
สเต๊กเนื้อแกะเวลลิงตันเสิร์ฟพร้อมทรัฟเฟิลดำและซอสทรัฟเฟิลหอมละมุน
รวมถึงเมนูของหวาน พานาคอตต้าเนื้อนุ่มเคล้ากลิ่นทรัฟเฟิลในทุกๆคำที่รับประทาน
พร้อมเมนูสุดคลาสสิกหลายรายการ เสิร์ฟพร้อมเมนูไวน์ชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลก
พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา
11.00-12.00 น.
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล
พุกยม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น