ททท.น้อมจัดแสงเทียนแห่งความภักดี
แบ่งสินค้าท่องเที่ยว5แนวคิดปลายปี59-60
ไปประชุมในโครงการพระราชดำริกับTCEB
ตามรอยพระบาทศูนย์ฯ
เกษตรวังน้ำเขียว
นพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย |
“นายนพดล ภาคพรต” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทางรายการถึง
การจัดเตรียมสินค้าทางการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมตลาดการขายนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ที่จะเชิญชวนมาร่วมกิจกรรมในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึง ตลอดปี 2560
โดยมีไฮไลต์ปลายปีการจัดกิจกรรมอันยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ภายใต้โครงการ
“แสงเทียนแห่งความภักดีสว่างไสวทั่วแผ่นดิน”
เตรียมจุดเทียนทั่วแผ่นดินแทนการจุดพลุเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ส่วนการจัดทำสินค้าตลอดปีนี้และปีหน้านั้น ททท.ได้แบ่งออกเป็น
5 แนวคิด
ประกอบด้วย
1.เป็น Amazing Thailand Amazing Story เที่ยวเก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง บอกเล่าเชิญชวนนักท่องเที่ยวเที่ยวเมืองไทยอย่างเข้าถึงสถานที่
วิถีชีวิต
2.มุ่งเน้นสินค้าที่มีความหรูหราLuxury เพื่อเจาะตลาดคุณภาพ อย่างกลุ่มฮันนีมูน เวลเนส
ยอร์ช
3.การท่องเที่ยวเชิงกีฬา
หรือ Sport Tourism เน้นส่งเสริมโปรดักซ์และอีเวนต์
โดยเน้นเรื่องการระดมคนร่วมแข่งขันมาราธอน ไตรกีฬา
ที่เคยมีสถิติคนเข้าร่วมปีละมากกว่า 5 แสนคน
4.เทศกาลประเพณีวัฒนธรรม
ทั้งการจัดลอยกระทงที่สวนสันติชัยปราการ เดือนพฤศจิกายนนี้ การจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560
เดือนมกราคมปีหน้า และ งานตรุษจีนช่วงปลายเดือนมกราคม 2560
จะได้ปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป
5.กิจกรรมระดับสากล
เช่น งาน Thailand Yatch Show และอื่น
ๆ
ฟังข้อมูลอีกมากมายของ
ททท.ได้ทางรายการในช่วงเวลา 11.10-11.25 น. ถึงการเดินหน้าสร้างสินค้าและกิจกรรม
ที่จะช่วยชุมชนประชารัฐและสร้างฐานรากทางเศรษฐกิจ
ตอบสนองการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศในปี 2560
เพื่อสร้างความมั่งคั่ง ยั่งยืน ให้กับประเทศในระยะยาว
ฟังข่าวช่วงแรก
ข่าวที่
1 “หนุนรถเช่าลด50%ชมโครงการพระราชดำริทั่วไทย”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า
ได้มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ได้ส่วนลด
50% เมื่อเช่ารถกับ Sixt ซึ่งเป็นบริการรถชั้นนำของโลก
(ครอบคลุมสาขาทั่วประเทศ) พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ
ประหยัดทุกการเดินทาง ระหว่างวันนี้ - 31 ธันวาคม 2559
ขอแนะนำให้เช่ารถเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมโครงการพระราชดำริ
โครงการหลวง และเส้นทางตามรอยพระบาท ทั่วประเทศมีให้เลือกเข้าเยี่ยมชมมากกว่า 4,000 โครงการ
แต่ละโครงการมีเนื้อหาสาระความรู้ คุณูปการครอบคลุมในทุก ๆ
ด้านที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของคนไทยและนานาชาติ
เกี่ยวข้องกับวิถีธรรมชาติอย่างสมดุล
และการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงให้มีความสุขได้ตลอดชีวิต
สามารถจองรถเช่าหรือสอบถามเพิ่มเติมโทร.1798 โดยสำรองรถเช่าล่วงหน้า
3 วัน พร้อมแสดงบัตรสมาชิกคิง เพาเวอร์
ในวันที่เข้าใช้บริการ ทางบริษัทฯ จะทำการบล็อกวงเงินค่าเช่า 1.5 เท่าของยอดเช่าทั้งหมด ราคาค่าเช่าไม่รวมประกันภัย (ECDW+PAI) ซึ่งเป็นราคานี้ร่วมรายการเฉพาะรถเช่าขับเองเท่านั้น
(Self Drive) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kingpower.com เข้าไปดูในสิทธิประโยชน์สมาชิกแต่ละเดือน
ข่าวที่ 2 “ร่องรอยวิชาสถาปัตย์รอบพระบรมมหาราชวัง”
ร่องรอยกว่าร้อยปี
“วิชาสถาปัตยกรรม” รอบพื้นที่พระบรมมหาราชวังและเกาะรัตนโกสินทร์
คุณอรนุช อิ่มอารมณ์
หัวหน้าฝ่ายบริหารงานอนุรักษ์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กล่าวอย่างต่อเนื่องถึง
โครงการพัฒนาพื้นที่รอบพระบรมมหาราชวัง รอบเกาะรัตนโกสินทร์
ที่ได้ทยอยปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน
3 อาคาร โดยดำเนินการแล้วเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ หน้าพระลาน
ท่าช้าง ระหว่างนี้จะทยอยพัฒนาบริเวณ “ท่าเตียน”
เป็นพื้นที่สุดท้ายในโครงการเพื่อให้แล้วเสร็จเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่ภาพรวมโดยรอบในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้มีเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ในหนังสือ
“อนุรักษณียาคาร” ถึงตึกแถวหน้าพระลาน
ท่าช้าง และท่าเตียน เป็นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นในระยะเวลาเดียวกัน
ใช้เทคโนโลยีและวัสดุก่อสร้างแบบเดียวกัน ยกเว้น “ตึกแถวริมน้ำท่าเตียน”
ที่สร้างขึ้นภายหลัง ในการศึกษา “เรื่องวัสดุก่อสร้างของอาคารแถวนี้”
ได้ใช้หลักฐานชั้นต้น ได้แก่ สำเนารายการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างของ “กรมพระคลังข้างที่” และ
การค้นพบในช่วงการบูรณะ
ทำให้ทราบรายละเอียดของการก่อสร้างในด้านชนิดและแหล่งที่มาของวัสดุก่อสร้าง
ผู้รับเหมและผู้ควบคุมงาน บริษัทขายวัสดุ รวมถึงราคาในสมัยนั้น
เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา “วิชาสถาปัตยกรรม”
ในสาขาโครงสร้างวัสดุก่อสร้างและประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม
โครงสร้างโดยรวมของอาคารตึกแถวทั้ง 3 บริเวณ เป็นกำแพงอิฐถือปูนใช้รับน้ำหนัก ฐานรากเป็นแบบที่เรียกว่า
“คลองราก” คือ ขุดดินเป็นร่องตามแนวผนังที่จะก่อสร้างแล้วถมด้วยทรายหยาบ หิน จากนั้นตอกเข็มไม้
เส้นทางผ่าศูนย์กลาง 4-6 นิ้ว ความยาว 1-1.5 เมตร เรียงเป็นแถวถี่ไปตลอดแนว จากนั้นเทคอนกรีตหยาบไม่เสริมเหล็ก
เป็นแนวคานขนาดใหญ่ แล้วก่อฐานรากอิฐลดหลั่นคล้ายขั้นบันได (Stepped Footing) ฐานรากนี้พบได้ในตึกแถวสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 6
เป็นร่องรอยของ “สถาปัตยกรรม” กว่า 100 ปี ปัจจุบันสามารถหาชมได้ในบริเวณรอบพระบรมมหาราชวังและเกาะรัตนโกสินทร์นั่นเอง
ข่าวที่ 3 ททท.ชวนไปชม70เส้นทางตามรอยพระบาท”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเสริมว่า กระแสการเดินทางของตลาดไทยเที่ยวไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
(ไฮซีซั่น) จะปรับแผนตลาดในประเทศ และหันมาโปรโมตเรื่องการท่องเที่ยว “ตามรอยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช”
ให้คนไทยได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านมากขึ้น ช่วงไฮซีซั่นปีนี้
พื้นที่โครงการพระราชดำริในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่หัวหิน
จะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวคนไทยเป็นจำนวนมากด้วยสภาพอากาศเริ่มหนาวเย็นเหมาะกับการท่องที่ยว
ส่วนการท่องเที่ยว “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว)
นั้นรัฐบาลจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้ตามปกติต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ด้วยวิธีแบ่งเป็นโซนระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้เดินทางไปเคารพพระบรมศพ
ข่าวที่ 4 “จัดไมซ์ในโครงราชพระราชดำริ”นายภูริพันธ์ บุนนาค ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาดในประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) หรือ TCEB เปิดเผยว่ากล่าวว่า แนวทางส่งเสริมจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ในจังหวัดที่มีโครงการในตลอดปี 2559 ที่สามารถทำกิจกรรมได้ ตลอดปี 2559 กำหนดนำร่องทำเต็มรูปแบบ 12 แห่ง เพื่อช่วยเป็นการกระจายรายได้ไปทุกภูมิภาคและสร้างมูลค่าเศรษฐกิจหมุนเวียนจากการเพิ่มการใช้จ่ายภายในประเทศ ส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมหลังการประชุม (Post Tour) โดยการไปศึกษาดูงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ องค์กรต่างๆ ได้น้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ทำงานหรือชีวิตประจำวัน ที่ TCEB แนะนำและได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ประชุมทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน
ได้แก่ “ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์”
ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
ภายในโครงการมีองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำทางทะเล
ภายใต้แนวคิดคืนความสมบูรณ์สู่ทะเลไทยตามพระราชดำริ
เป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างจิตสำนึกในทรัพยากรสัตว์น้ำ
ซึ่งสัตว์น้ำในที่นี้ก็มีอยู่หลากหลายชนิด เช่น ปลาชะลิน ปลานวลจันทร์ ปลาทูน้ำจืด
หอยมือเสือ ปลิงทะเล หอยเป๋าฮื้อ หอยตลับ ฯลฯ ปัจจุบันมีการเก็บหอยเหล่านี้ขึ้นมาใช้ประโยชน์จำนวนมาก
ทำให้พันธุ์หอยในธรรมชาติมีปริมาณลดน้อยลงในทุกแหล่ง
จึงเป็นเหตุให้เกิดโครงการดังกล่าวขึ้นมาเพื่อเลี้ยงให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น
ตามพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ส่วนที่โดดเด่นภายในโครงการคือ “การเลี้ยงเพื่ออนุรักษ์หอยตลับ”
ซึ่งแตกต่างจากที่อื่นตรงการเลี้ยงในบ่อดิน มีเปลือกเป็นเสน่ห์ชวนสัมผัสความมันเงาด้วยลวดลายต่างๆ
ทั้งสีขาวเรียบ สีครีม สีน้ำตาลอ่อน ไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม เนื้อหอยนิยมนำมาบริโภคเป็นอาหารทะเลรสดี
และยังแกะเนื้อส่งจำหน่ายไปยังต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ส่วนเปลือกหอยยังใช้ประโยชน์ในการนำมาประดิษฐ์เป็นของที่ระลึก
ของประดับตกแต่งต่างๆ หอยตลับจึงเป็นสัตว์น้ำที่มีค่าทางเศรษฐกิจ
ไม่เพียงเท่านี้
ยังมีหอยมือเสือที่เป็นตัวเด่นอีกชนิดของศูนย์ฯ
เหมาะแก่การไปเรียนรู้ถึงความเป็นอยู่ของมัน
ด้วยรูปร่างของมันที่มีขนาดใหญ่กว่าหอยทั่วๆ ไป และมีความแตกต่างจากหอยชนิดอื่น
คือ ไม่กินอาหาร แต่กินแสงแดดแทน มีลักษณะหุบและบานคล้ายกับดอกไม้ พ่นน้ำได้
และเป็นทั้งเพศผู้และเพศเมียในตัวเดียวกัน
เปลือกที่ใหญ่และสวยงามของมันก่อให้เกิดธุรกิจปลาสวยงามในการนำไปประดิษฐ์เป็นของที่ระลึกเช่นเดียวกับหอยตลับ
หากใครชื่นชอบในการหาของตกแต่งคงไม่ผิดหวัง
เพราะลวดลายของมันก็ดูสวยงามเป็นดั้งเดิม
ศูนย์ฯ
แห่งนี้ยังมีทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้ภูเขา
ด้านหลังเขามีแหล่งน้ำขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา มีวิวแบบพาโรนามาใกล้กับอ่าวมะนาว ซึ่งได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางไปจัดประชุมได้พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติด้วย
ช่วงที่ 2 ฟังช่วงดี
ๆ มีความสุข
@ตามรอยพระบาทไปศูนย์กสิกรรมไร้สารพิษโคราช
ศูนย์กสิกรรมไร้สารพิษตามโครงการพระราชดำริ จ.นครราชสีมา ตั้งอยู่เลขที่14 ม. 11 บ้านน้ำซับ ต.วังน้ำเขียว
อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.
“นครราชสีมา” เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีสถานที่
ท่องเที่ยวให้เลือกพักผ่อนมากมาย โดยเฉพาะ”อำเภอวังน้ำเขียว” คือแหล่งตากอากาศแอบอิงธรรมชาติยอดนิยมแห่งหนึ่ง
แต่ถ้าพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร คงจะ ไม่มีที่ไหน
สำคัญไปกว่าการได้มาชมสวนผักออร์แกนิก ณ ศูนย์กสิกรรมไร้สารพิษตามโครงการพระราชดำริ
โครงการแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี
พ.ศ. 2541
เริ่มต้นจากการรวมกลุ่มของเกษตรกรในอำเภอวังน้ำเขียว ที่ทราบถึง
ผลกระทบในการใช้สารเคมีหรือสารพิษในการทำการเกษตร ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับสภาพแวดล้อมและภาวะสุขภาพของผู้คนในละแวกใกล้เคียง
โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ จึงริเริ่มที่จะหันมาทำการเกษตร ปลอดสารพิษ
รวมถึงตั้งตัวเป็นกลุ่มเศรษฐกิจชุมชนที่พึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน
ก่อนได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอันเนื่องในพระราชดำริปัจจุบันมีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอวังน้ำเขียวสีคิ้ว
ขามทะเลสอ และครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
การแวะมาชมพื้นที่การเกษตรในแหล่งท่องเที่ยว
ท่ามกลางธรรมชาติบริสุทธิ์แบบนี้ ถือเป็นการพักผ่อนที่ดี รูปแบบหนึ่ง
ที่ช่วยชาร์ตพลังความสดชื่นคืนกลับสู่ ร่างกายได้ดีไม่แพ้สิ่งใด
" ศูนย์กสิกรรม
ไร้สารพิษเป็นแหล่งเรียนรู้ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ "
ตัวอย่างการเดินทางพักค้างแรม 2 วัน 1 คืน
เส้นทางท่องเที่ยวจ.นครราชสีมา วันแรก ช่วงเช้า •สักการะหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
อุทยานลานบุญมหาวิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)•เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน
แห่งแรกของเมืองไทย หนึ่งในเจ็ดแห่งของโลก •เยี่ยมชมอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม)
วีรสตรีผู้กล้า ช่วงบ่าย •ชมวัดศาลาลอย
พระอุโบสถรูปสำเภาโต้คลื่น •เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียงฯ ค่ายสุรนารี สถานที่เผยแพร่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและงานศิลปา
วันที่สอง ช่วงเช้า •เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ภาพ
3 มิติ อาร์ต ออฟ โคราช ฝีมือคนไทย แห่งแรกของอีสาน •เลือกซื้อเครื่องปั้นดินเผาที่หมู่บ้านด่านเกวียน ช่วงบ่าย•ชมศูนย์ส่งเสริมกสิกรรมไร้สารพิษ
อันเนื่อง มาจากพระราชดำริ • เยี่ยมชมมอนทาน่าฟาร์ม
แหล่งเที่ยวบรรยากาศดีท่ามกลางขุนเขา
ที่เที่ยวห้ามพลาด •แปลงผักออร์แกนิก
ชมการปลูกผักปลอดสารพิษในโครงการ
กิจกรรมห้ามพลาด •
สนทนาแลกเปลี่ยนความรู้กับ คุณอำนาจ
หมายยอดกลาง ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการเกษตรปลอดสารพิษ •ชมกรรมวิธีการผลิตปุ๋ยหมักอินทรีย์ชีวภาพ
และการเผาถ่านเพื่อผลิตน้ำส้มควันไม้สำหรับใช้ไล่แมลง • ทดลองปลูกผักเกษตรอินทรีย์
หรือออร์แกนิกด้วยตัวเอง
โทร. 08-1977-8699,08-1966-4247
การเดินทาง จากตัวเมือง ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านอำเภอปักธงชัย
ก่อนถึง ที่ว่าการอำเภอวังน้ำเขียว ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 71 เลี้ยวขวาไป
บ้านน้ำซับ เมื่อถึงวัดบ้านน้ำซับให้เลี้ยวซ้ายไปยังศูนย์ส่งเสริม
กสิกรรมไร้สารพิษฯ
@เตรียมรับมือกับความโศกเศร้าตามทฤษฎี
3 L
วิธีดูแลสุขภาพจิตทั้งของตัวเองและคนใกล้ชิด
ให้เตรียมพร้อมรับมือกับภาวะความโศกเศร้า ตามข้อแนะนำของวงการแพทย์ระดับนานาชาติ โดยการช่วยเหลือจากผู้ใกล้ชิดแบ่งเป็น
“ทฤษฎี 3 L” คือ
1. LOOK มองหา มองเห็น ได้แก่ การสำรวจค้นหาคนหรือกลุ่มเสี่ยง
เช่น กลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง
ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เช่น แสดงความโศกเศร้ารุนแรง กินไม่ได้นอนไม่หลับ
2. LISTEN รับฟัง คือ มีสติรับฟังอย่างตั้งใจ ใช้ภาษากาย เช่น
สบตา จับมือ โอบกอด เพื่อช่วยให้ผู้สูญเสียบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึก
คลายความทุกข์ในใจ และจัดการอารมณ์ให้สงบ
3. LINK ช่วยเหลือ ส่งต่อ คือ ให้ความช่วยเหลือตามความจำเป็นพื้นฐาน
ในกรณีที่ช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วไม่ดีขึ้น เช่น ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
โศกเศร้ารุนแรง มีความคิดฆ่าตัวตาย ให้ส่งต่อตามความเหมาะสม
ถึงแม้วันนี้ คนไทย“การสูญเสีย”
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นำมาซึ่ง“ความโศกเศร้า” อันใหญ่หลวงของมหาชน
แต่ก็เป็นโอกาสในการสร้างความเป็นหนึ่งอันเดียวกัน ที่จะได้แสดงความรู้สึกร่วมกัน
และสืบทอดปณิธานของพระองค์ท่านเพื่อให้สังคมไทยก้าวต่อไป
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “5เชนโรงแรมชิงบริหารบัตเจ็ตโฮเต็ลส์ปตท.”
บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) วางแผนเชิงรุกเข้าสู่ธุรกิจโรงแรม “Budget Hotels” เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้เชิญกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม
5 ราย เข้าไปนำเสนอข้อมูลและโครงการบริหารจัดการ กำหนดจะประกาศผลรอบแรกในวันที่
11 พฤศจิกายนนี้
โดยมีผู้ประกอบการโรงแรม 5
รายที่เข้าไปนำเสนอข้อมูลประกอบด้วย 1.เซ็นทารา อินเตอร์เนชั่นแนล
แมนเนจเม้นท์ ผู้บริหารโรงแรมในเครือเซ็นทารา
(กลุ่มเซ็นทรัล) 2.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ผู้บริหารโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ
และฮ็อปอินน์ บัดเจตโฮเต็ลที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในต่างจังหวัด 3.ซี.พี.แลนด์ ผู้บริหารโรงแรมแกรนด์
เมอร์เคียว ฟอร์จูน, ฟอร์จูน,
ฟอร์จูน-ดี 4.GPCM Group ผู้บริหารโรงแรมแบรนด์ B2
ทั่วประเทศ และ 5.Wyndham Group หรือวินแฮม วาเคชั่น รีสอร์ทส์
(ประเทศไทย) ผู้บริหารโรงแรมซีเพิร์ล รีสอร์ท ภูเก็ต และรามาดา ภูเก็ต ดีวาน่า
ข่าวที่สอง “โพลล์ชี้คนถูกแย่งวันพักผ่อนจากครอบครัว”
มร.ลี หลิน เตียว ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการแบรนด์
ฮอลิเดย์ อินน์ ภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา อินเตอร์คอนติเนนตัล
โฮเต็ลส์ กรุ๊ป (ไอเอชจี) กล่าวถึง ผลสำรวจของ ฮอลิเดย์
อินน์ พบว่า “ผู้คนทำงานเยอะและมีเวลาเล่นน้อยเกินไปในช่วงวันหยุด” ผลสำรวจล่าสุดเผยผลกระทบจาก “การทำงานในช่วงวันหยุดของครอบครัว”
และเหตุผลว่าทำไมทุกคนควรทำอะไรที่รักให้มากขึ้นในช่วงวันหยุด
•มากกว่าครึ่งของคนที่เดินทางในวันหยุดมีเป็นบางครั้งหรือหลายๆ
ครั้งที่ต้องทำงานไปด้วย
•มากกว่าครึ่งของคนกลุ่มนี้
จำเป็นต้องยกเลิกหรือเลื่อนทริปซึ่งมีสาเหตุจากงาน
•มีเพียง 1 ใน 10 ของผู้คนที่ถูกสำรวจที่สามารถ “ปิดตัวเอง” จากการทำงานได้อย่างเต็มที่ในช่วงวันหยุด
และจำไม่ได้แล้วว่าเคยมีวันหยุดที่ไม่มีงานเข้ามาขัดจังหวะ
ข่าวที่สาม “คลังช่วยฟื้นธุรกิจบริการไตรมาส4”
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง
ได้หารือเบื้องต้นกับ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง
ถึงการดูแลเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อรักษารายได้ของการท่องเที่ยวซึ่งยังคงเป็นเสาหลักของประเทศ
โดยกระทรวงการคลังจะมีมาตรการออกมาดูแลกลุ่มธุรกิจภาคบริการ เช่น โรงแรม
และศูนย์การแสดงสินค้า ที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ประเทศมีความโศกเศร้านี้
แต่ต้องไม่สวนกับความรู้สึกสูญเสียของประชาชนช่วงนี้
พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา
11.00-12.00 น.
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao และ ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์การบิน/ท่องเที่ยว และเจ้าของรายการ "รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์" |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น