ททท.ปี'60โกยเงินนักท่องเที่ยวเอเชีย1ล้านล้าน-บางจากช่วยน้ำท่วมใต้

ไทยรุกโกย1ล้านล้านอาเซียน-เอเชียปีระกา

เปิด6สนามบินอินเตอร์รับวันเด็กแห่งชาติ

ดุสิตธานีได้จัดประชุมโรงแรมทั่วเอเชีย

         สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2560  เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” อัพเดทข่าวเศรษฐกิจทุกความเคลื่อนไหว

 ช่วงแรกเวลา 11.15 น.



ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์
รองผู้ว่าด้านตลาดเอเชีย แปซิฟิก ททท.

“คุณศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์” รองผู้ว่าด้านตลาดเอเชีย แปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้สัมภาษณ์ในรายการทุกรายละเอียดของการเดินหน้ารุกหารายได้จากตลาดที่มีกำลังซื้อมหาศาลรวม ๆ แล้วปีละเกินกว่า 1 ล้านล้านบาท

โดยขอเริ่มจากตลาดอาเซียน 2559 จาก 9 ประเทศเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยตลอดทั้งปีประมาณ 8.6 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมายซึ่งตั้งไว้ที่ 8.2 ล้านคน ส่วนเอเชียเฉพาะ “จีน” เพียงตลาดเดียวเดินทางเข้ามาสูงถึง 8.8 ล้านคน ยังไม่รวมญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง สัดส่วนของอาเซียนกับจีนใกล้เคียงกันมาก ททท.จึงจับตาให้ความสำคัญกับอาเซียนที่มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะมีความเสี่ยงน้อยด้วยความใกล้ชิดกัน สามารถเปิดจุดบินโดยใช้เวลาน้อยเพิ่มความถี่การเดินทางได้ง่าย

       ปี 2560 ททท.จะใช้เวที ASEAN TOURISM FORUM 2017 ททท.ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2560 ณ ประเทศสิงคโปร์ ททท.ต้องไปรับไม้ต่อในการเป็นเจ้าภาพต่อจากสิงคโปร์จัดงาน ATF 2018 ไฮไลต์ที่จะนำเสนอกับสมาชิกอาเซียนด้วยกันคือ “ประเทศไทย” จะขอเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงและสปริงบอร์ดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบินแห่งอาเซียน สามารถไปมาหาสู่กันได้สะดวก โดยสามารถใช้จุดแข็งทางด้านทำเลซึ่งได้มาด้วยโชคคือ “ที่ตั้งของประเทศไทย” อยู่ใจกลางอาเซียนเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านเป็นยุทธศาสตร์เกื้อกูลอาเซียนด้วยกัน และไปถึงอาเซียนใหม่ กัมพูชา-สปป.ลาว-เมียนมา-เวียดนาม (CLMV) ต่อไปได้สบาย ๆ ทางทางอากาศ ทางเรือ ทางบก ขณะเดียวกันก็มีการเชื่อมโยง “การบิน” จากไทยสู่อาเซียน ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว

ทั้ง 2 เรื่องเป็นยุทธศาสตร์ที่ไทยต้องรักษาไว้

ดังนั้น ททท.มีหน้าที่จะต้องไปประชาสัมพันธ์กับอาเซียนด้วยกัน รวมถึงชาวโลกจากทวีปไกลที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยสามารถสปริงบอร์ดเข้าออกระหว่างกันได้ทั้งหมด จึงขอเรียกกลยุทธ์นี้ว่า THAILAND AND MORE

จุดแข็งที่กล่าวมาข้างต้น ททท.จะนำเสนอในเวทีมหกรรม ATF 2017 ดัง ๆ อีกครั้ง พร้อมกับเชิญชวนสมาชิกเตรียมตัวมางาน ATF 2018 ที่เชียงใหม่ จะจัดประมาณวันที่ 24 มกราคม 2560 แค่นั้นคงจะไม่เพียงพอจึงจะเพิ่มการบอกต่อถึงสถานการณ์การเติบโตของอุตสาหกรรมตลาดท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเมืองไทย ควบคู่กับการสร้างกระแสเชื่อมโยงเส้นทางเพื่อผลทางการตลาดระยะยาว เช่น ไทย-พม่า เวียดนาม สปป.ลาว หรือทั้ง 9 ประเทศ

สำหรับตลาดเอเชียตะวันออก ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศมาท่องเที่ยวเมืองไทยเกินปีละ 1 ล้านคน โดยเฉพาะ เกาหลี เกินปีละ 1.4 ล้านคนแล้ว แซงหน้าญี่ปุ่นซึ่งใกล้ปีละ 1 ล้านคน ขณะที่ “เวียดนาม” มาแรงมากเติบโตอย่างรวดเร็วปี 2559 จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยทะลุ 8 แสนคน เรียบร้อยแล้ว ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า ททท.มีความพยายามจะทำยอดแตะปีละ 1 ล้านคน ทางด้านเอเชียใต้ตลาดอินเดียเกินปีละ 1 ล้านคนแล้วเช่นกัน

ด้วยสถิติของนักท่องเที่ยวอาเซียนและเอเชียที่ทะลักเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยแต่ละปี ทำให้ ททท.เห็นลู่ทางที่ยังมีช่องให้เข้าไปเล่นได้อีกหลากหลายกลยุทธ์ เห็นโอกาสทางการตลาดจำนวนมากในการนำคนเข้ามาใช้จ่ายเงินสร้างเศรษฐกิจประเทศในแต่ละปี

คุณศรีสุดาอธิบายโครงสร้างตัวเลข “นักท่องเที่ยวเอเชีย” ที่เดินทางเข้าไทยปี 2559 (นักท่องเที่ยวต่างชาติจากทุกทวีปเข้าไทยทั้งหมด 32 ล้านคน) ประกอบด้วย สถิติรวมทั้งสิ้น 21.7 ล้านคน แบ่งเป็น อาเซียน 8.6 ล้านคน ที่เหลือเป็นเอเชียตะวันออกทั้งหมด 13.1 ล้านคน เอเชียใต้ 1.5 ล้านคน นอกนั้นมาจากยุโรป 6.1 ล้านคน อเมริกา 1.3 ล้านคน  ตะวันออกกลาง 7 แสนคน สรุปแล้วส่วนแบ่งการตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยจะมาจากทวีปเอเชียมากที่สุด

หากวิเคราะห์ถึง “ส่วนแบ่งรายได้ท่องเที่ยวจากตลาดเอเชีย” ประมาณกว่า 8.7 แสนล้านบาท (ยอดรายได้รวมตลอดปีจากทุกทวีปประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท) เอเชียใต้ 6.8 หมื่นล้านบาท โอเชเนีย 7 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมเอเชียทั้ง 3 ตลาดเข้าด้วยกันแล้ว ก็น่าจะถือได้ว่าทำรายได้เข้าประเทศมากเป็นอันดับต้น ๆ นั่นเอง

การจัดเตรียมสินค้าทางการท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกในปี 2560 ธีมการขายเน้นการสร้างประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยว : Experience ซึ่งจะใช้กลยุทธ์นำเสนอโปรดักซ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวแต่ละชาติ เช่น จีน ชื่นชอบช้อปปิ้ง พม่านิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเชิงการศึกษา สิงคโปร์ ฮ่องกง ชอบมาทำสปาดูแลสุขภาพ และอีกหลายประเทศมีความต้องการมาท่องเที่ยวในลักษณะเฉพาะแตกต่างกัน ททท.จึงต้องจัดแบ่งตามความชื่นชอบ โดยไม่สามารถใช้กลยุทธ์เดียวกันกับทุกกลุ่มตลาดเป้าหมายได้

ส่วนจุดขายหลักทางด้านความเป็นวิถีไทย เอกลักษณ์วัฒนธรรม เรื่อยไปจนถึงการผนวกขายสินค้า “ไทยแลนด์ แบรนด์” โดยเฉพาะ เอเชียด้วยกันอย่าง ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเมืองไทยโดยเน้นช้อปปิ้งหรือซื้อสินค้าแบรนด์ไทยมากกว่าแบรนด์อินเตอร์ หรือแม้แต่ เมียนมา เวียดนาม ก็ชื่นชอบมาซื้อเครื่องสำอางไทย หรือจีนมองหาสินค้าไทยอื่น ๆ และสินค้าโอท็อปดีไซน์หรู ก็ได้ความสนใจเช่นกัน

การเชื่อมโยงความร่วมมือการทำงานร่วมกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หลังการลงนามข้อตกลงความร่วมมือต่อเนื่องเป็นครั้งที่สองระหว่างปี 2560-2563 นั้น คุณศรีสุดา ยืนยันว่าจะยิ่งสร้างโอกาสและช่องทางสำคัญในการผนึกทีมกันขับเคลื่อนกิจกรรมการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการใช้สนามบินนานาชาติเป็นห้องรับแขกแรกและประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หรือการทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ วิเคราะห์แนวโน้มเพื่อมุ่งสร้างกลยุทธ์การตลาดสำคัญ ๆ เชิงรุกไปด้วยกัน หรือการจัดปฏิทินต้อนรับนักท่องเที่ยวรายเดือน ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ หรือจัดกิจกรรม Lady Jouney สิงหาคมเดือนแห่งผู้หญิงท่องเที่ยว หรือเดือนครอบครัวท่องเที่ยวช่วงมิถุนายนของทุกปี เป็นต้น

ทางสนามบินนานาชาติในความดูแลของ ทอท.สามารถที่จะตอบสนองการต้อนรับนักท่องเที่ยวได้เลยทุกกลุ่ม ดังนั้น ทอท.จึงเป็นพันธมิตรที่ถูกคู่อย่างมากของ ททท.รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลปริมาณเที่ยวบินเข้าออกที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มตลาดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (charter flight) ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์อย่างมากกับการนำมาวิเคราะห์รับมือกับการขยายตลาดนักท่องเที่ยวโดยภาพรวม หรือทิศทางการตลาดเมื่อ ททท.จะไปเจาะพื้นที่เฉพาะ ทอท.ไปด้วยก็จะได้เชิญชวนพร้อมทั้งเสนอสิทธิประโยชน์อำนวยความสะดวกให้แก่สายการบินในเมืองเหล่านั้นจัดเที่ยวบินเข้ามาได้ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย และการแลกเปลี่ยนถ่ายเทพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว

ขณะที่การเข้าร่วมงานเทรดทางการท่องเที่ยว มีหลายงานสำคัญ ททท.กับ ทอท.ไปทำด้วยกันสามารถแนะนำสายการบินที่สนใจมีหน่วยงานอธิบายข้อมูลครบทุกเรื่องได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว

ดังนั้นในปี 2560 ด้วยจุดแข็งของประเทศ และการทำงานอย่างหนักของ ททท.ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ผนวกกับการลงนามความร่วมมือกับ ทอท.เจ้าของห้องรับแขกของประเทศ จะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยแข็งแกร่งเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงและสปริงบอร์ดหลักอาเซียน ทำให้เศรษฐกิจมั่นคงเข้มแข็งในระยะยาวต่อไป

 ฟังข่าวช่วงแรก

ข่าวที่ 1 “ช้อปแบรนด์เนมที่คิงเพาเวอร์ลดกว่า90%"

สัปดาห์สุดท้ายในการช้อปแบรนด์อินเตอร์ ที่ร้านดิวตี้ฟรี “คิง เพาเวอร์”  กับโปรโมชั่น  Let’s Sale up to 90% โดยได้จัดสินค้าใหม่ ๆ ให้นักเดินทางได้ช็อปทุกวัน จนถึง 15 มกราคม 2560

          สำหรับการไปช้อปที่ “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ  ชั้น 3” ในโปรโมชั่นช้อป LET’S SALE UP TO 90% แล้วยังสามารถรับส่วนลด On-Top 20% เมื่อซื้อสินค้าครบ 3 ชิ้น และส่วนลด On-Top 30% เมื่อซื้อสินค้าครบ 5 ชิ้น

            ส่วน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต ก็มีโปรโมชั่นเช่นกัน

 •End of Season Sale แบรนด์เนมลดสูงสุดถึง 60% สินค้าราคาปกติ ลดสูงสุดถึง 20%

           •ซื้อ Cash Card รับฟรี Gift Card สูงสุด มูลค่า 12,000 บาท

 ฟรี Gift Card มูลค่า 2,000 บาท  เมื่อซื้อ Cash Card 20,000 บาท (สำหรับสินค้าแบรนด์เนม และนาฬิกาเท่านั้น)

ฟรี Gift Card มูลค่า 12,000 บ. เมื่อซื้อ Cash Card 100,000 บาท (สำหรับสินค้าแบรนด์เนม และนาฬิกาเท่านั้น)

 ข่าวที่ 2 “ทอท.เปิด6สนามบินต้อนรับวันเด็ก”

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ในวันเด็กแห่งชาติ วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2560 นั้น ทอท.ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2560 ทั้ง 6 สนามบินหลัก ดอนเมือง สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย

เริ่มจากสนามบินดอนเมือง ทอท.ได้ร่วมจัดกิจกรรมวันเด็กกับกองทัพอากาศ บริเวณกองบิน 6 โดยจัดซุ้มกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ ร่วมเล่นเกมส์พร้อมมอบของรางวัล และ ทอท.ยังได้สนับสนุนพื้นที่ในท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อจอดรถโดยสารขนาดใหญ่ของกองทัพอากาศ สำหรับรับ-ส่งผู้ไปร่วมงานบริเวณหน้าอาคารจอดรถ 5 ชั้น รวมทั้งได้จัดที่จอดรถสำหรับผู้ไปร่วมงานบริเวณอาคารคลังสินค้า 4 ด้านทิศใต้รองรับรถยนต์ได้ประมาณ 100 คัน โดยจะมีรถบัสรับ-ส่งของกองทัพอากาศให้บริการไปยังบริเวณที่จัดงาน ที่กองบิน 6

ภายในบริเวณสนามบินดอนเมือง ก็จัดกิจกรรมมอบของขวัญวันเด็กบริเวณชั้น 3 ห้องโถงผู้โดยสารขาออก อาคารผู้โดยสารภายในประเทศอาคาร 2 และมอบกระเป๋าเป้เป็นของขวัญให้เด็กในโรงเรียนและชุมชนรอบสนามบินดอนเมือง 5,000 ใบ ซึ่งจะมีผู้ปกครองเดินทางไปร่วมงาน ณ สถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงอาจส่งผลต่อการจราจร ดังนั้น จึงใคร่ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาและวางแผนการเดินทางไปยัง ทดม.ด้วย

ส่วน “สนามบินสุวรรณภูมิ” ได้ร่วมกับจังหวัดสมุทรปราการและเขตลาดกระบัง จัดซุ้มสันทนาการ โดยมีการเล่นเกมส์ตอบคำถามเกี่ยวกับ ทสภ.และแจกของขวัญ เขตลาดกระบัง

สนามบินภูเก็ต ได้ร่วมกับบริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ชมอากาศยานส่วนบุคคลและชมการสาธิตสมรรถนะรถดับเพลิงอากาศยาน รวมทั้งจัดซุ้มเล่นเกมส์แจกของรางวัล บริการอาหารเครื่องดื่มระหว่างเวลา 08.30-15.00 น. ณ อาคาร X Terminal รวมทั้งได้ร่วมกับกองทัพเรือภาคที่ 3 จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ณ ท่าเรือน้ำลึก อ่าวมะขาม

สนามบินหาดใหญ่ ได้จัดให้มีการสาธิตสมรรถนะรถดับเพลิงอากาศยาน รวมทั้งจัดเกมส์มอบของขวัญ ระหว่างเวลา 08.30-15.30 น. ณ ลานจอดอากาศยานฝูงบิน 561 กองบิน 56 และภายในงานยังมีการแสดง Airshow จากกองบิน 56 อีกด้วย

            สนามบินเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมวันเด็กให้แก่สถานศึกษา 3 แห่งโดยรอบสนามบิน คือ โรงเรียนสิริมังคลาจารย์ โรงเรียนบ้านดอนปิน และโรงเรียนวัดศรีสุพรรณ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และยังได้จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านการบิน และภารกิจของสนามบินเชียงใหม่รวมทั้งกิจกรรมสันทนาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ณ ท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 เรื่อยไปจนถึงได้มอบของขวัญและน้ำดื่มให้แก่เด็กๆ ในพื้นที่ทุรกันดารผ่านหน่วยทหารและหน่วยราชการในแต่ละพื้นที่อีกด้วย

สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) มีการจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับท่าอากาศยานและจัดกิจกรรมพร้อมมอบตั๋วเครื่องบินและของขวัญ ระหว่างเวลา 08.00-16.00 น. ณ บริเวณอาคารรับ-ส่ง ทชร.

สำหรับปี 2560 ทอท. ได้จัดของขวัญมอบให้กับโรงเรียนและชุมชนโดยรอบสนามบินที่อยู่ในความเป็นกระเป๋าเป้จำนวนกว่า 25,000 ชิ้น  เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่ง ทอท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมงานวันเด็กในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมเสริมสร้างความรู้ความสนุกสนาน รวมถึงให้เยาวชนได้รับรู้เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบและระเบียบวินัย เพื่อให้เยาวชนเติบโตเป็นอนาคตที่ดีของชาติต่อไป ตามคำขวัญวันเด็กประจำปี 2560  “เด็กไทยใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง”

 ข่าวที่ 3 “ททท.ผนึกทอท.ลุย6ภารกิจเพื่อชาติ”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เป้าหมายของการสานต่อข้อตกลงความร่วมมือกันในวันนี้ ระหว่าง ทอท. และ ททท. นั้น ทั้ง 2 หน่วยงานเห็นพ้องต้องกันว่าควรมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งและเข้มข้นต่อเนื่องเบื้องต้นตลอด 3 ปี ระหว่างปี 2560-2563 โดยผนึกความร่วมมือกัน 6 ภารกิจหลัก ได้แก่

1.ทำการตลาดและประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยเฉพาะการเพิ่มปริมาณการเดินทางของนักท่องเที่ยวทางอากาศมายังประเทศไทยและการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินทั้งปกติและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ที่ใช้บริการผ่านสนามบินของ ทอท. ทั้ง  6 แห่ง ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้มีประสิทธิภาพ

2.วางยุทธศาสตร์เพื่อเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวเป้าหมายโดยทำแผนดำเนินการประจำปีหรือกิจกรรมในแต่ละเดือน รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ด้านการตลาดของทั้งสองฝ่ายเพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาวิเคราะห์แนวโน้มการเจริญเติบโตของธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การวางแผนการตลาดต่อไปในอนาคต

3.ร่วมกันสนับสนุนและเผยแพร่โครงการ หรือมาตรการส่งเสริมธุรกิจการบินเพื่อเพิ่มปริมาณและรายได้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าประเทศไทย โดยใช้เวทีการทำโรดโชว์ เทรดโชว์ การเจรจากับสายการบิน ทั้งในและต่างประเทศ ทำงานกันเป็นทีม

            4.จัดประชุมหารือเพื่อระดมความเห็นละความรู้ในการสร้างกลยุทธ์การบินกับการท่องเที่ยวไปในทิศทางเดียวกัน โดยนำสายการบินกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง

5.แลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อเสนอแนะ ผลวิเคราะห์พฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวในลักษณะ Maketing Intelligence Database แบ่งปันช่องทางการสื่อสารสู่สาธารณะในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร วารสาร สื่ออิเลคทรอนิกส์ เครือข่ายพันธมิตร และความร่วมมือใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและวางกลยุทธ์บริหารจัดการตลาดเพื่อประโยชน์ต่อการเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศ

            6.นำปฏิทินประจำปีกิจกรรมโครงการสำคัญ ๆ มาร่วมมือกันจัดให้ยิ่งใหญ่ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ทอท.ในฐานะผู้บริหารท่าอากาศยานหลักของประเทศไทย 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ซึ่งถือเป็นประตูด่านแรกในการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ในแต่ละปีได้รองรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และได้ทำงานร่วมกับ ททท. ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาตลอด ด้วยการนำร่องทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกันครั้งแรกปี 2556 – 2559 รวมระยะเวลา 3 ปี ล่าสุดเมื่อ 12 มกราคม 2560 ก็ได้ทำข้อตกลง MOU ต่ออีก 3 ปี เพื่อเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง ระหว่างปี 2560-2563

โดยทั้ง  2 องค์กร มุ่งมั่นจะผนึกความร่วมมือสร้างพันธมิตรทาง ธุรกิจร่วมกัน ตลอดจนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในอนาคต

สำหรับการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการส่งเสริมปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยการขนส่งทางอากาศมายังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวของ ททท.และการทำการตลาดเชิงรุกของ ทอท.ซึ่งจะต้องร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยว โดยเป็นการร่วมมือกันทางด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ และสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวม และตอบสนองนโยบายของรัฐบาลได้อย่างเป็นรูปธรรม

 โดยเฉพาะการเข้าร่วมงานประชุมเจรจาด้านธุรกิจการบิน เช่น The Routes Event : Routes Asia and World Routes ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ความพร้อมของการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางอากาศในภูมิภาค หรือ “Hub” และการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

นายนิตินัย กล่าวตอนท้ายว่า ทอท.มีความมุ่งหวังว่า การร่วมมือกันในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจนี้ จะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จะนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และดึงดูดให้เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ข่าวที่ 4 “เติมบางจาก200ปั๊มร่วมบริจาคน้ำช่วยภาคใต้"

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมปันน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ด้วยการบริจาคน้ำดื่มที่ได้รับจากการเติมน้ำมันบางจาก ตั้งแต่วันที่ 9 - 20 มกราคม 2560 หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากที่ร่วมรายการกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ

โดยบริษัท จะรวบรวมน้ำดื่มที่ได้รับทั้งหมด นำไป มอบให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมรุนแรง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส เป็นต้นโดยเร่งด่วนต่อไป

 ข่าวที่ 5 “เรื่องดีๆ45ปีมิตซูบิชิผู้นำเครื่องไฟฟ้า”

นายยาซุชิ โมริยามะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ครบรอบ 45 ปี แห่งการมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นหลักเน้นการดูแลสิ่งแวดล้อมประหยัดพลังงาน ภายใต้นโยบาย “Changes for the Better” หรือ “การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า”  เน้นการความสุขของคนไทยหรือ “Cooling is Happiness” ผนวกกับในอีก 3 ปีข้างหน้า พ.ศ.2563 บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จะครบรอบ 100 ปี ซึ่งตั้งเป้ารายได้รวมทั่วโลกไว้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านล้านเยน

ปี 2560 เศรษฐกิจในประเทศไทยมีแนวโน้มจะฟื้นตัว เป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เครื่องปรับอากาศ ที่ทางบริษัทฯ ยังมองเห็นโอกาสการสร้างยอดขายอีกมากในหลากหลายผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงาน และดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยคอนเซ็ปต์ “Eco Changes” มุ่งให้พนักงานตระหนักร่วมกันในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบไป

ทางบริษัทฯ จึงร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และเนชั่น ทีวี จัดกิจกรรม “ปั่น Slow Life ไปตามรอยพระบาท 12 เมืองต้องห้ามพลาด” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี คืนความสุขสู่สังคม และน้อมรำลึกใน พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย

ในโอกาสครบรอบ 45 ปี มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา ได้พัฒนาระบบการสั่งซื้ออะไหล่ของมิตซูบิชิอีเล็คทริคผ่านช่องทางออนไลน์ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายได้ที่ WWW.MKYSPAREPART.COM

 สามารถสั่งซื้อได้ตลอด 24 ชม. ภายใต้สโลแกน “Speed & Efficiency” คือ การบริการที่รวดเร็วและ มีประสิทธิภาพ เพิ่มพูนความพึงพอใจของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นไป

นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานปี 2559 (เม.ย.59 -มี.ค.60) จะเข้าเป้า 15,000 ล้านบาท ส่วนปี 2560 เตรียมขยายศูนย์บริการแต่งตั้งและศูนย์บริการเครือข่ายมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ทั่วประเทศให้ครบ 143 แห่ง ทำยอดขายให้ได้มากกว่า 15,900 ล้านบาท  

โดยล่าสุดได้ส่ง 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน โดยเครื่องปรับอากาศ LN Series มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด 3D Move-eye Human Sensor เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ช่วยส่งลมเย็นได้ตรงจุด  เครื่องปรับอากาศรุ่นEcono Air ดีไซน์ใหม่ เรียบหรู และเทคโนโลยีสมบูรณ์แบบ Dual Barrier Coating ลดฝุ่นเกาะ เย็นเต็มประสิทธิภาพ

 ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.

ตามรอยพ่อไปเรียนรู้เรื่องดี  ๆ ไปสูดโอโซนป่าธรรมชาติริมทะเลที่ “ป่าสิริเจริญวรรษ” ชลบุรี และข่าวในรอบสัปดาห์หลากหลายแง่มุมที่น่าสนใจ

 @ตามรอยพ่อโครงการป่าสิริเจริญวรรษ ชลบุรี

 

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ ที่มีชีวิตในเมืองชายทะเลตะวันออก ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ไปเยือนได้เรียนรู้ วิธีการฟื้นฟูป่า ให้กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิม "  ณ “โครงการป่าสิริเจริญวรรษ” ตั้งอยู่ที่ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อได้มาท่องเที่ยวเมืองชลบุรี ไม่ได้มีดีเพียงแค่การเล่นน้ำทะเลเท่านั้น หากแต่ยังได้เห็นเมืองสีเขียวชอุ่มที่มีผืนป่าอันอุดม เป็นที่อยู่อาศัยของ สัตว์ป่านานาชนิดให้เราได้ทำความรู้จัก ทุกครั้งที่นักท่องเที่ยวได้ไปเยือน เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่ เวลา 08.00-16.30 น

ด้วยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้พื้นที่กว่า 3,900 ไร่ ของป่าสิริเจริญวรรษกลายเป็นโครงการปลูกป่า โดยเน้นการอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างยั่งยืน จากเดิมซึ่งเคยเป็นป่าเสื่อมโทรม เมื่อผ่านความพยายามในการปลูกป่าตามแนวพระราชดำริ ต้นไม้ที่ เพาะกล้าไว้ เริ่มงอกเงยกลายเป็นป่าใหญ่ เหล่าสัตว์ป่า ทั้งหลายก็กลับมีชีวิตชีวา ชาวบ้านในพื้นที่ก็สามารถ ทำมาหากินได้ เก็บของป่าไปจำหน่ายได้ มีทั้ง หน่อไม้ เห็ด และยอดหวาย

ปัจจุบันพื้นที่สีเขียวแห่งนี้ เปิดประตูต้อนรับ นักท่องเที่ยว ให้เข้าพักผ่อนหย่อนใจ และยังเป็น แหล่งเรียนรู้สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา รวมทั้งประชาชนที่สนใจในธรรมชาติ ให้มีโอกาสได้มาสัมผัส กับผืนป่ากว้างที่มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ผืนป่าแห่งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ซึ่งผู้มา เยือนจะได้เรียนรู้วิธีการฟื้นฟูป่า ให้กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิม

ทริปตัวอย่าง 2 วัน 1 คืนเส้นทางท่องเที่ยว จ.ชลบุรี    

            วันแรก ช่วงเช้า •เยี่ยมชมวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร และศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านโรงสี  ช่วงบ่าย •เที่ยวชมป่าสิริเจริญวรรษ •พักค้างคืนที่นาจอมเทียน

วันที่สอง ช่วงเช้า  •เที่ยวชมเขตห้ามล่าสัตวป่าเขาชีโอน แหล่งเพาะเลี้ยงขายพันธุ์สัตว์ป่าหายาก เช่น หมีควาย•เยี่ยมชมวิหารเซียน  ช่วงบ่าย •ซื้อของฝากที่ชุมชนตลาดนาเกลือ

สถานที่เที่ยวห้ามพลาด •สวนรวมพันธุ์ ไม้ดอกหอมไทย เดินชิลล์กลางป่าใหญ่เก็บภาพ ดอกไม้สวยๆ โดยรอบ•สวนรวมพันธุ์กล้วยไทย ดูการเติบโตของกล้วยนานาชนิด•โรงอนุบาลสัตว์และหอดูสัตว์ ชมสัตว์ป่าทั้งหลายโดยไม่รบกวน

กิจกรรมห้ามพลาด•ร่วมเป็นอาสาเพาะชำกล้าไม้ เพิ่มสีเขียวให้พื้นที่•เรียนรู้และลงรู้ทางฝายชะลอน้ำพิทักษ์ป่าให้ชุ่มชื่น•กางเต็นท์พักแรมริมบึงน้ำแสนสวย

โครงการป่าสิริเจริญวรรษ  โทร.08-1782-4032 www.facebook.com/lovesiricharoenwat

 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 สุขุมวิท-พัทยา เลยพัทยาใต้มาทางสัตหีบ พอเข้าเขตนาจอมเทียน ประมาณ หลักกม.ที่ 161 ให้สังเกตซ้ายมือ จะเห็นทางเข้าวัดเขาชีจรรย์ เลี้ยวซ้าย เข้าถนนบานเย็น แล้ววิ่งตรงไปประมาณ 8 กม. โครงการฯ จะอยู่ขวามือ

 @เลือกกินอาหาร7ชนิดช่วยสมองดี

นักโภชนาการสุขภาพแนะนำการดูแลสุขภาพแบบง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้โดยการรับประทานอาหารต่างๆ ดังนี้

1. ไข่ เป็นอาหารเบสิกที่ช่วยพัฒนาสมองได้ดี เพราะไข่มีสารโคลินที่ช่วยพัฒนาสมองส่วนความจำ มีงานวิจัยมากมายที่กล่าวตรงกันว่าเด็กทารกที่รับประทานไข่ไก่ที่เพียงพอจะมีความสามารถในด้านความจำที่ดีกว่าเด็กทารกที่รับประทานไข่ไก่น้อย นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ที่รับประทานไข่ต้มวันละฟองจะช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายและช่วยบำรุงสมองได้ดี

2. อาหารเช้า งานวิจัยพบว่าการรับประทานอาหารเช้าจะช่วยให้สมองมีความจ ำและมีสมาธิที่ดี ผลงานวิจัยกล่าวตรงกันว่านักเรียนที่รับประทานอาหารเช้าจะมีสมาธิในการเรียนดีกว่านักเรียนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า อีกทั้งยิ่งถ้ารับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงเช่น นมสด ไข่ ด้วยแล้วก็จะยิ่งช่วยให้สมองดีมีสมาธิมากขึ้น

3. ปลา เป็นอาหารบำรุงสมองที่ดีอันดับต้นๆ เลยทีเดียว เพราะปลามีโอเมก้าสาม และมีไขมันดีที่จะช่วยเพิ่มสมาธิและความจำของสมอง อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดในสมองในผู้สูงวัยอีกด้วย

4. ถั่ว อาหารจำพวกถั่วและเมล็ดพืชต่างๆ นั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านของความจำ เพราะอาหารประเภทถั่วมีวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุและช่วยเพิ่มสมาธิในการเรียนรู้ของเด็กได้ดีอึกด้วย

5. อาโวคาโด มีไขมันที่ดีต่อร่างกายและช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานอย่างดี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน นอกจากนี้ อาโวคาโดยังมีสารที่ช่วยทำให้สมองส่วนความจำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

6. กระเทียม ช่วยกระตุ้นให้สมองสร้างเทโรนินมากขึ้น ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาทอีกทั้งช่วยทำให้สมองมีความจำที่ดี นอกจากนี้ กระเทียมยังมีสารที่ทำให้อารมณ์ดีและช่วยลดความเครียดอีกด้วย แม้ว่าจะกลิ่นแรงไปหน่อยก็ตามเถอะ

7. รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ การรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ อันได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ ไขมัน นอกจากจะให้พลังงานแก่ร่างกายและช่วยซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่สึกหรอของร่างกายแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายในการต้านทานโรคต่างๆ ทำให้เราไม่เป็นคนที่เจ็บป่วยง่าย อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองอีกด้วย

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

-ข่าวแรก “3 แอร์ไลน์สทำโปรโมชั่นตั๋วพิเศษบินลงใต้”

ไทยสมายล์

สายการบินไทยสมายล์เสนอบัตรโดยสารราคาพิเศษตั้งแต่วันนี้ถึง 15 มกราคม 2560 เพื่ออำนวยความสะดวกและแบ่งเบาภาระให้แก่พี่น้องชาวใต้ที่จำเป็นต้องเดินทางในเส้นทาง กระบี่ สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ และ นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย ในราคาเพียง 999 บาท ต่อท่าน ต่อเที่ยว (รวมทุกอย่างแล้ว) จองได้ที่ www.thaismileair.com Smile Call Center 1181 หรือ  02-118-8888 และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินไทยสมายล์ ซื้อแล้วใช้เดินทางได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึง 20 มกราคม 2560

บางกอกแอร์เวย์ส

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าของ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เสนอโปรโมชั่น “PG Together บางกอกแอร์เวย์สร่วมใจช่วยชาวใต้" วันนี้ - 15 มกราคม 2560 ขายตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษเที่ยวละ 790 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีสนามบิน) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางไปยังภาคใต้   โดยสำรองที่นั่งผ่านทางลิ้งค์ https://goo.gl/llHrfA สำนักงานขายบัตรโดยสารบางกอกแอร์เวย์สทั่วประเทศ และศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) โทร 1771 หรือ 02 270 6699 ตลอด 24 ชั่วโมง ซื้อแล้วใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2560

โปรโมชั่นราคาพิเศษ “PG Together บางกอกแอร์เวย์สร่วมใจช่วยชาวใต้" นี้จะมีเฉพาะในเส้นทางบิน (ไป-กลับ) ระหว่างกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - สมุย กรุงเทพฯ - กระบี่ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต พัทยา(อู่ตะเภา)-สมุย พัทยา(อู่ตะเภา)-ภูเก็ต และ ภูเก็ต-หาดใหญ่ เท่านั้น

ตั๋วโดยสารดังกล่าว เป็นราคาต่อเที่ยวบิน ไม่รวมภาษีสนามบิน ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละเส้นทาง และมีจำนวนที่นั่งจำกัดในแต่ละเที่ยวบิน   ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/flybangkokair หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) โทร 1771 หรือ 02 270 6699 ตลอด 24 ชั่วโมง (ครั้งละ 3 บาททั่วไทย เฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน)

ไทยแอร์เอเชีย

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ไทยแอร์เอเชีย จัดโปรโมชั่นพิเศษ “To South With Love จากใจเราสู่ชาวใต้” ระหว่างวันนี้-22 มกราคม นี้ ราคาตั๋วโดยสารรวมเริ่มต้นเพียง 590 บาทต่อเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางสู่เส้นทางภาคใต้ที่ไทยแอร์เอเชียมีบริการสู่ปลายทาง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง กระบี่ ตั๋วดังกล่าวสามารถจองผ่าน www.airasia.com โมบายแอพ เคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขา ตัวแทนจำหน่าย และสำนักงานจำหน่ายบัตรโดยสารแอร์เอเชียประจำสนามบินทั่วประเทศ ซื้อแล้วนำไปใช้เดินทางทันทีตั้งแต่วันนี้-31 ม.ค.60  

            รวมทั้งไทยแอร์เอเชียพร้อมที่จะบริการขนส่งฟรีสำหรับสิ่งของอุปโภคบริโภคที่บริจาคเพื่อนำไปมอบไปมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ หากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนสนใจส่งของบริจาค ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร โทร. 02-562-5824 วันจันทร์-ศุกร์ เวลาทำการ 10.00-18.00 น.                

 ข่าวที่สอง“เลือกดุสิตธานีจัดประชุมนักลงทุนระดับโลก”

รายงานข่าวจากคณะผู้จัดอีเวนต์ระดับนานาชาติ ได้ประกาศข่าวดีของประเทศไทย ล่าสุดได้เลือก “โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ” เป็นเจ้าภาพและสถานที่จัดงานสำคัญคือ “South East Asia Hotel Investors Summit 2017” จะจัดระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน 2560 ภายในงานยังจะมีการประชุมของ Gulf and Indian Ocean Hotel Investors Summit (GIOHIS) รวมอยู่ด้วย

การจัดงานอินเตอร์เนชั่นแนลดังกล่าวในเมืองไทย จะเป็นผลดีต่อการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจประเทศ เนื่องจากจะมีนักลงทุนและซีอีโอสาขาต่าง ๆ จากทั่วโลกเดินทางมาขึ้นเวที ซึ่งเป็นตัวแทนมาจาก 34 สาขา และซีอีโอโรงแรมแถวหน้าของอาเซียนอย่างน้อย 18 โรงแรม ทั้งในประเทศไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง รวมทั้งมีผู้เข้าร่วมตลอดงานกว่า 200 ราย

เลือก “โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ” เป็นเจ้าภาพและสถานที่จัดงานสำคัญคือ “South East Asia Hotel Investors Summit 2017” จะจัดระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน 2560 ภายในงานยังจะมีการประชุมของ Gulf and Indian Ocean Hotel Investors Summit (GIOHIS) รวมอยู่ด้วย

การจัดงานอินเตอร์เนชั่นแนลดังกล่าวในเมืองไทย จะเป็นผลดีต่อการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจประเทศ เนื่องจากจะมีนักลงทุนและซีอีโอสาขาต่าง ๆ จากทั่วโลกเดินทางมาขึ้นเวที ซึ่งเป็นตัวแทนมาจาก 34 สาขา และซีอีโอโรงแรมแถวหน้าของอาเซียนอย่างน้อย 18 โรงแรม ทั้งในประเทศไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง รวมทั้งมีผู้เข้าร่วมตลอดงานกว่า 200 ราย

ข่าวที่สาม “คาเฟ่ แคนทารี มอบของขวัญวันเด็ก”

          วันที่ 14  มกราคม นี้  คาเฟ่ แคนทารี ทุกสาขา เชิญร่วมสนุกในวันเด็กแห่งชาติ พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับเด็กๆ  เมื่อซื้อไอศกรีม 1 สกู๊ป แถม 1 สกู๊ป ฟรี!!!  และชมการสาธิตบิดลูกโป่ง เป็นรูปสัตว์ต่างๆ โดยตัวตลกโบโซ่ พร้อมอิ่มเอมกับขนมอร่อยๆ อีกมากมาย

      สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ call center: 1627 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.cafekantary.com

 พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao และวิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com