ทอท.ชูภูเก็ตโมเดลต้นแบบสนามบิน10ปีหน้า
บ๊อสคิงเพาเวอร์แจกไม่ยั้งKPG Award2016
48ชั่วโมงเที่ยวเมืองไทยในสวนลุม28-29มค.
กระบี่นาคาเฟสต์2017ดึงแจ๊ส7ชาติปลุกทัวร์
สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.(ฟังรายการสดได้ทางสมาร์ทโฟน)
ช่วงที่ 1 รวยด้วยข่าวเศรษฐกิจ
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย
|
“ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.” ให้สัมภาษณ์ในรายการ พุ่งเป้า 2 ประเด็น คือ 1.แนวทางการแก้ปัญหาท่าอากาศยานภูเก็ต ที่จะสร้าง “โมเดลต้นแบบ”
ที่จะนำไปใช้ขยายสนามบินในอนาคต 10 ปีหน้า และ 2.การแตกพาร์หุ้น AOT เพื่อให้ “รายย่อย” เข้าถึงการลงทุน
ดร.นิตินัยเริ่มต้นเล่าสถานการณ์แรก
การจัดทัพรับนักท่องเที่ยวช่วงการเดินทางหนาแน่นตั้งแต่ต้นปี 2560 เรื่อยมาจนถึงขณะนี้เข้าสู่เทศกาล “ตรุษจีน ปีระกา” ทั้ง 6 ท่าอากาศยาต้นที่อยู่ภายใต้การดูแลของ
ทอท.ต้องรับมือกับจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะ
“ท่าอากาศยานภูเก็ต” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำวิธีใหม่เข้ามาใช้คู่ขนานกัน นั่นคือ
ปิดซ่อม 1 อาคาร และให้บริการ 1 อาคาร ไปพร้อมกัน เป็น “ภูเก็ต โมเดล”
หากจำกันได้ตอนขยายท่าอากาศยานดอนเมือง
ยังใช้วิธีแบบเดิมคือปิดแล้วเร่งการก่อสร้างเป็นรายอาคารโดยไม่มีผู้โดยสารเข้าไปใช้บริการ
ในอดีตการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิก็สร้างอยู่บนหนองงูเห่า
ในอดีตการก่อสร้างท่าอากาศยานภูเก็ต อาคาร 2
ก็ใช้รูปแบบเก่า
แต่ครั้งนี้ภูเก็ตเป็นแห่งแรกที่ก่อสร้างไปด้วยพร้อมกับให้ผู้โดยสารใช้บริการไปด้วย
แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ได้รับการร้องทุกข์จากผู้โดยสารว่าการนำวิธีใหม่เข้ามาใช้นั้นก่อให้เกิดความไม่สะดวก
ทอท.จึงแยกแนวทางการแก้ไขในขณะนี้ออกเป็น อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ก่อสร้างแล้วเสร็จโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เดินทางเป็นประธานเปิดอาคารผู้โดยสารหลังใหม่เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 ส่วนนี้ได้ออกแบบให้เป็นการตรวจสัมภาระเรียกว่าLine Sceening เป็นเหมือนสนามบินใหม่อย่างสุวรรณภูมิ หรือ
ดอนเมือง
นั่นคือพอผู้โดยสารเดินเข้าไปยังเคาน์เตอร์เช็คอินจะไม่มีระบบเอ็กซ์เรย์ตรวจกระเป๋าเดินทางเหมือนแต่ก่อน
พอเช็คอินก็วางกระเป๋าได้เลย ระบบเอ็กซ์เรย์จะติดตั้งคร่อมสายพานกระเป๋าทุกใบได้ทันที
ซึ่งนำมาใช้ในภูเก็ต แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนั้นเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา การออกแบบเทคโนโลยีก็คิดว่าทันสมัยแล้ว
พอมาสร้างจริงยุคปัจจุบันเทคโนโลยีล้ำหน้าและวิวัฒนาการก่อการร้ายก็ก้าวล้ำยิ่งกว่า
เพื่อความมั่นใจในระบบตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีที่ต้องเปลี่ยนจากแบบเก่าเป็นสมัยใหม่
จึงต้องอัพเกรดเทคโนโลยีการตรวจทุกอย่าง จะเสร็จสิ้น 15-25 มีนาคม นี้
ตั้งแต่เปิดเมื่อเดือนกันยายนปี 2559 เรื่อยไปจนถึงจะทำให้แล้วเสร็จภายในมีนาคมปี 2560
ท่าอากาศยานภูเก็ตจึงต้องใช้วิธีนำอุปกรณ์เข้ามาติดตั้งในอาคารซ้อนเข้าไปเพื่อความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
ส่วนปัญหาอยู่ตรงการออกแบบแต่ละแห่งไม่ได้เตรียมไว้เพื่อให้มีเข้าแถวต่อยาวอย่างปัจจุบัน
จากแถวเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
และเอ็กซ์เรย์ไม่ได้เตรียมไว้ให้มีการต่อแถว
จึงเกิดปัญหาตอนนี้คือแถวแต่ละแถวพันกันยุ่งไปหมด เพราะเครื่องเอ็กซ์เรย์ที่นำไปตั้งก็ได้เพียง
5 เครื่องเท่านั้น
ช่วงปีใหม่จึงตัดสินใจทำเป็น Terminal Sceening ข้อดีคือตั้งเครื่องเอ็กซ์เรย์ได้ 9 เครื่อง เพิ่มขึ้นสองเท่า ลดความแออัดของแถวทั้ง 3 กลุ่ม ตม.เช็คอินแอร์ไลน์ส และแถวเอ็กซ์เรย์ โดยแถวใหม่จะออกมาอยู่ด้านนอก
ทำให้ไม่มีแถวปะปนทำงานได้เร็วขึ้น
ส่วนข้อเสียคือภาพจะดูไม่ดีเพราะคนไหลออกมาอยู่นอกอาคาร
และภายในเดือนมีนาคมนี้ก็จะไม่มีปัญหาดังกล่าวแล้ว หลังจากอัพเกรดระบบให้ทันสมัย
แต่ก็มีภาพปรากฏในโซเชียล มีเดีย
ไหลยาวออกไปนอกตัวอาคาร เมื่อช่วงวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา บริษัท หย่งเล่อ จำกัด
ของจีนได้นำคณะทัวร์เดินทางมาลงทีเดียว 4,000
คน
แล้วยืนต่อคิว และจะมาลงอีกตอนขากลับพร้อมกันทั้งหมดปลายเดือนกุมภาพันธ์ นี้
ทางบอร์ด ทอท.จึงเร่งรัดท่าอากาศยานภูเก็ตให้ขยายพื้นที่ X-Terminal เป็นอาคารรีโมทเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณคนได้อีกจำนวนเพิ่มขึ้น
ช่วยระบายการตรวจสัมภาระ
ทั้งหมดคือปัญหาของ
“อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต” อันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีตกยุค
ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน
แต่ก็ไม่หนักใจมากนักเพราะพออัพเกรดเทคโนโลยีได้ทุกอย่างก็เดินหน้าบริการได้ตามปกติ
สำหรับที่ยังหนักใจอยู่คือ
“อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ” ซึ่งต้องทำคู่ขนานกัน 3 ส่วน คือปฏิบัติการบิน (operate) ให้บริการ (service) และก่อสร้าง (construction) ต้องตามแก้ไขกันหน้างาน
ลักษณะอาคารเมื่อหันหน้าเข้าสนามบินภูเก็ต “อาคารผู้โดยสารในประเทศ” อยู่ขวาสุด
“อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ” อยู่ตรงกลาง และ “อาคารจอดรถ” อยู่ซ้าย
การทำไปพร้อมกัน 3 ส่วน
จึงต้องเปิดและปิดใช้งานทีละครึ่ง
ดังนั้นปัญหาที่เกิดก็คือผู้โดยสารต่อเที่ยวบินต้องเดินผ่านการก่อสร้างบริเวณภายในลานสนามบิน
(airside)
ด้านหน้าก็มีการกันพื้นที่ก่อสร้างและคนเดินไว้
แต่ก็มีผู้รับเหมาไปตัดแผ่นกันซึมบนหลังคา มีฝนตกน้ำรั่ว
ถึงแม้จะปิดมิดชิดแต่บนหลังคาก็ก่อสร้างกันอยู่
ผู้โดยสารที่ลงจากเครื่องบินแล้วจะกลับบ้านเพื่อไปทางซ้ายสุด
ต้องลากกระเป๋านอกรั้วสนามบินเพื่อให้พ้นเขตก่อสร้างเข้าลานจอดรถ ตอนนี้
ทอท.ก็ได้ทำทางมีหลังคาโดยไม่ต้องเดินออกไปนอกรั้วแล้ว
ภาพการบริการก็ดีขึ้นมาอีกระดับ แต่ก็มีอีกช่วงที่แก้ปัญหาไม่ตกกรณี
“รถก่อสร้างเข้า-ออก” ไม่สามารถทำเต็นท์ได้เพราะรถจะเคลื่อนเข้าออกไม่ได้
เลยหันมาใช้บริการร่มข้ามถนน ปัญหาก็ตามมาอีกผู้โดยสารนำร่มกลับบ้านไปเลย
ท่าอากาศยานภูเก็ตก็พยายามหาซื้อร่มมาเติมอยู่ตลอด
จึงขอรณรงค์ให้
“ผู้โดยสารท่าอากาศยานภูเก็ต” ที่ใช้ร่มแล้วเก็บไว้ให้ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ได้ใช้ด้วย แก้ตามหน้างานกันไป
แต่ก็ยังเป็นห่วงตอนนี้มั่นใจว่าอุดหลาย ๆ
ช่องที่เป็นปัญหากับการให้บริการผู้โดยสารไปได้มากแล้ว พอถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้
เมื่อการปรับปรุงแล้วเสร็จก็จะเปิดใช้บริการ
จากนั้นก็จะปิดอีกซีกของสนามบิน
โดยจะใช้ประสบการณ์ครั้งแรกมาแก้ปัญหา พอช่วงกรกฎาคม-ธันวาคม 2560 ช่วง 5 เดือนหลังท่าอากาศยานภูเก็ตจึงสาหัสอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม “ภูเก็ต โมเดล” ก็จะเป็นต้นแบบของอีก 5 ท่าอากาศยานของ ทอท.ต้องปรับปรุงและขยายพื้นที่ในลักษณะคล้ายคลึงกัน
คือก่อสร้างควบคู่กับการให้บริการ ในช่วง 10 ปีหน้า
ดังนั้น
ทอท.ต้องเรียนรู้วิธีบริหารจัดการ มั่นใจว่าจะดีกว่านี้แน่นอน
เมื่อส่วนแรกปรับปรุงแล้วเสร็จท่าอากาศยานภูเก็ตจะต้องรับผู้โดยสารได้มากขึ้น
ต้องขอบอกว่าในอดีตมีเรื่องราวทางการเมืองเปลี่ยนแปลงบ่อย
ทำให้แแผนขยายสนามบินล่าช้าไปมาก
อย่างไรในวันนี้ก็ต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับอนาคตของอุตสาหกรรมการบิน
เมื่ออาคารใหม่ในประเทศแล้วเสร็จ
และเตรียมก่อสร้างอาคารใหม่ในช่วงกรกฎาคมนี้ เมื่อแล้วเสร็จท่าอากาศยานภูเก็ตจะรองรับผู้โดยสารได้
12.5 ล้านคน ซึ่งปี 2559 มีผู้โดยสารทะลุไปเรียบร้อยแล้วกว่า 13 ล้านคน
จึงต้องบอกว่าตอนแออัดกันอยู่มีอาคารระหว่างประเทศหลังเดิม มีผู้โดยสารใช้มากถึง 12 ล้านคน ทั้งที่ขีดความสามารถในการรองรับมีเพียง 6 ล้านคน แต่ด้วยการบริหารจัดการปริมาณจราจรทั้งเที่ยวบินและคนมีประสิทธิภาพดี
คนภูเก็ตบ่นน้อยมาก เป็นเพราะช่วงก่อนหน้านี้จึงเกิดปัญหาไม่มาก
แต่พอมาขยายตึกใหม่ พื้นที่ก็ใหม่ จำนวนผู้โดยสารก็เพิ่มขึ้น
ทุกอย่างใหม่ผนวกกับโดนร้องเรียนมาก อาจจะเป็นด้วยต้องพิจารณา
“วิธีบริหารจัดการให้ลงตัว” เพราะในอดีตสนามบินเล็กผู้โดยสารจำนวนมากกลับจัดการได้
แต่พอพื้นที่ขยายใหญ่กลับทำไม่ได้ดีเหมือนเดิม
ทอท.จึงต้องขออภัยผู้ใช้บริการทุกกลุ่มทั้งคนไทยและต่างชาติ
เนื่องจาก จำเป็นต้องติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ ควบคู่กับการขยายพื้นที่ใหม่
และยังก่อสร้างอีก จึงขอสัญญาจะทำให้ทุกอย่างลงตัวโดยเร็ว หลังกรกฎาคมนี้
แล้วก็จะระดมกำลังไปทุ่มทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ภายในปี 2562 ปริมาณผู้โดยสารก็จะมาเยือนท่าอากาศยานภูเก็ตเกินกว่า 12 ล้านคน ตามแผนต้องขยายเฟส 3 ต่อทันที เพื่อเตรียมไว้รองรับอีก 10 ปีข้างหน้า ราวปี 2570 จะมีผู้โดยสารปีละ 25 ล้านคน มากกว่า 1-2 ปีที่ผ่านมามีเพียงปีละ 6.5 ล้านเท่า อนาคตเท่ากับขยายเพิ่มให้ได้รับได้ถึง 4 เท่า
ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการตรวจและทำประชาพิจารณ์เรื่องสิ่งแวดล้อมด้วย
นอกจากนี้ในการประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ปี 2559
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 สำหรับข่าวดีของ
“ผู้ถือหุ้นรายย่อย” น่าจะเป็นกรณีที่มติผู้ประชุมอนุมัติแตกพาร์หุ้นของ AOT นับจากปี 2553 หุ้น AOT ราคาเพียงหุ้นละ 30 บาทเศษ นักลงทุนรายย่อยมีส่วนซื้อได้มากเพราะราคาไม่แพง
ผู้เล่นหุ้นก็เข้าใจหลักเกณฑ์ดีจะต้องซื้อขั้นต่ำ 100 หุ้น
ดังนั้นมีเงิน 4,000 บาท ก็สามารถซื้อหุ้น AOT ได้ แต่พอราคาขึ้นมาหุ้นละ 400 บาท
นั่นหมายความว่าจะต้องใช้เงินครั้งละเกือบครึ่งแสนจึงจะซื้อได้
ปัญหาอยู่ตรง ท่าอากาศยานไทย จำกัด
(มหาชน) เป็นมหาชนของคนไทยหรือสถาบันรายใหญ่ของไทยหรือต่างชาติ ทางบอร์ด
ทอท.จึงตระหนักเป็นอย่างดีถึงกรณีดังกล่าว
เพราะในช่วงที่ผ่านมาบางวันราคาหุ้นถูกทุบลงไป 300 บาท
แล้วกลับมาปิดที่ 370 บาท
จึงเกิดคำถามเป็นวงกว้างว่านักลงทุนรายย่อย ๆ ก็ยังคงเป็นแมงเม่าอยู่วันยังค่ำ
ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงพยายามหาหนทางทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะให้ “รายย่อย”
มีโอกาสเข้าไปลงทุนได้มากขึ้นในกองทุน
จึงนำไปสู่การนำเสนอขอประชามติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี
2559 ในในวันศุกร์ที่ผ่านมา
เพื่อพิจารณาแตกราคาพาร์หุ้น เมื่อทำแล้วหุ้นราคาหุ้นละ 400 บาท ให้มีบางส่วนราคาเพียงหุ้นละ 40 บาท เพื่อให้รายย่อยที่มีเงิน 4,000 บาท สามารถลงในหุ้น AOTได้แล้ว
ขั้นตอนหลังจากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีอนุมัติ
ก็ต้องยื่นเรื่องขอจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ในการแปลงมูลค่าหุ้นดังกล่าวตามราคาพาร์ใหม่
คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จะประกาศช่วงเดือนมีนาคมนี้
เพื่อประกาศขายหุ้น AOT ราคาใหม่
ภารกิจหลัก ๆ ของ ผู้นำ
ทอท.และผู้เกี่ยวข้อง ในช่วงต้นปี 2560 ก็มี 2 เรื่องหลักข้างต้น คือ
แก้ปัญหาตามหน้างานของท่าอากาศยานภูเก็ตซึ่งจะเป็น “โมเดลต้นแบบ” ของอีก 10 ปีข้างหน้าสำหรับอีก 5 ท่าอากาศยาน
และการทำให้ประชาชนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนในหุ้น AOT ได้ด้วย
สำหรับข่าวช่วงแรก
ข่าวที่ 1 “บ๊อสคิงเพาเวอร์ทุ่มแจกKPG Award”
นายวิชัย ศรีวัฒนประภา
ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ได้จัดงาน KPG Award 2016
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม 2560
ณ
โรงละคร อักษรา คิง เพาเวอร์ ถนนรางน้ำ ในฐานะผู้นำองค์กรและบุกเบิกธุรกิจร้านค้าปลอดอากรหรือ
Duty Free รายแรกในประเทศไทย ต้องการที่จะจัดงานดังกล่าวขึ้นเพื่อขอบคุณผู้บริหารและพนักงานที่ตั้งใจและทุ่มเทปฏิบัติงานให้องค์กรมาเป็นระยะเวลายาวนาน
ตั้งแต่ 10 ปี 20 ปี
และ 25 ปี จำนวนรวมที่รับมอบรางวัลครั้งนี้กว่า 00 คน
สำหรับปีนี้มี
นางสาววรมาศ ศรีวัฒนประภา
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานพาณิชย์ บุตรสาวคนโตของทายาทศรีวัฒนประภา ขึ้นรับรางวัลด้วยในฐานะผู้บริหารที่ปฏิบัติงานครบ
10 ปี
ทั้งนี้ในด้านการวางแผนขับเคลื่อนธุรกิจร้านค้าปลอดอากรของคิง
เพาเวอร์ ปี 2560 ยังคงมุ่งมั่นที่จะฝ่าฟันความท้าทาย
รวมพลังกันสร้างยอดขายสินค้าดิวตี้ฟรีและสินค้าไทย ร้านอาหาร
และกิจการในเครือรวมแล้วจะทำให้ได้ไม่ต่ำกว่า 85,000 ล้านบาท
โดยมีสินค้าดิวตี้ฟรีและสินค้าไทยวางจำหน่ายกระจายอยู่ใน
สนามบินนานาชาติ 3 แห่ง ได้แก่
สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และตามสาขาดิวตี้ฟรีในเมืองอีก 4 แห่ง
ได้แก่ คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ (กรุงเทพฯ) ศรีวารี
(ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ) พัทยา และภูเก็ต
ข่าวที่ 2 “ทอท.เคลียร์6สนามบินรับตรุษจีน3.8ล้านคน”
ดร.นิตินัย
ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ
ทอท.กล่าวว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2560 ระหว่าง 27 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2560 สายการบินแจ้งขอบินขึ้น-ลงทั้ง 6 ท่าอากาศยาน รวมทั้งสิ้น 23,869 เที่ยว คาดจะมีผู้โดยสารใช้บริการ 3.87 ล้านคน
ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต
เชียงใหม่ หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จำนวน 23,869 เที่ยว หรือเฉลี่ยประมาณวันละ
2,386
เที่ยว จำนวนผู้โดยสารใช้บริการ 3.87 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณวันละ 387,000 คน โดยเฉพาะ “สุวรรณภูมิ” จะมีประมาณวันละ 1,000 เที่ยว ผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ
183,000 คน “ดอนเมือง” เฉลี่ยวันละ
696 เที่ยว มีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 104,000 คน
ทอท.ได้เตรียมความพร้อมให้บริการ
และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวตลอด 24
ชั่วโมง ได้แก่
การรักษาความสะอาดสถานที่ และห้องสุขา
การจัดเตรียมรถเข็นกระเป๋า การเพิ่มเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
และเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย ภาษาจีน
เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกผู้โดยสารทุกด้าน เช่น
การแนะนำเที่ยวบิน เส้นทางการบินและเคาน์เตอร์เช็คอิน รวมทั้งการสอบถามข้อมูลต่างๆ
รวมถึงเพิ่มเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลด้านการจราจรเข้า-ออก ท่าอากาศยานและบริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสาร
การเข้มงวดมาตรการการตรวจค้นบุคคล และการตรวจยานพาหนะเข้า-ออก
อีกทั้ง ทอท.ได้ประสานผู้ประกอบการเพิ่มเจ้าหน้าที่ลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ
เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการรอรับกระเป๋า
ประสานกับผู้ประกอบการให้จัดรถยนต์บริการประเภทต่างๆ ให้เพียงพอต่อการให้บริการผู้โดยสาร
ขณะเดียวกันก็ยังจัดกิจกรรมต้อนรับเทศกาลตรุษจีนแก่นักท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว
3 รายการได้แก่ 1.การประดับตกแต่งซุ้มเทศกาลตรุษจีนภายในอาคารผู้โดยสารแต่ละท่าอากาศยาน
2.มอบของที่ระลึก ได้แก่ ผลไม้มงคล และอั่งเปา โดยมีผู้บริหาร
และเจ้าหน้าที่ของแต่ละท่าอากาศยานให้การต้อนรับและแจกของที่ระลึก 3.จัดการแสดงต่างๆ
เช่น การแสดงดนตรี การแสดงฟ้อนรำต้อนรับแบบล้านนา
ข่าวที่ 3 “ททท.คาดรายได้ตรุษจีนแตะ1.2หมื่นล้าน”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ประมาณการจำนวนกับรายได้นักท่องเที่ยวปี 2560 ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยตลอดเดือนมกราคมจำนวนรวม 3,183,097 คน เพิ่มขึ้น 6.06% รายได้ 165,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.65%
สำหรับช่วงตรุษจีน 27 มกราคม-4 กุมภาพันธ์ นี้ จำนวนนักท่องเที่ยว 257,673
คน เพิ่มขึ้น 10.87 % รายได้ 12,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.09 %
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.
เปิดเผยว่า ประเทศไทยเตรียมจัดเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 27 มกราคม- 2 กุมภาพันธ์ 2560 ภายใต้แนวคิด “ตรุษจีนวิถีไทย เก๋ไก๋ปีระกา 2560”
ตั้งเป้าจะมีต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตรุษจีนในไทยประมาณ 825,000 คน เพิ่มขึ้น 4%
ททท.ได้นำงานตรุษจีนอันยิ่งใหญ่มาไว้ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560 ระหว่างวันที่ 25-29
มกราคมนี้ เชิญชวนคนไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน
รวมถึงนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมงานสัมผัสบรรยากาศชุมชนชาวจีนทุกภูมิภาค
เพื่อร่วมกิจกรรมไฮไลต์มากมาย
เริ่มต้นจากอาหารจีนจากสุดยอดเชฟจีน
พร้อมทั้งยกร้านดังเข้ามาร่วมคับคั่ง
อาทิ จากเยาวราช
มีเมนูเด็ดขาหมูหมั่นโถ อาหารจีนยูนานหลากหลายมากมาย การแสดงจีนจากแชมป์
มณฑลต่างๆ ทำพิธีแก้ชง
ดูมังกรปากน้ำโพความยาวกว่า 40 เมตร เดินข้ามสะพานรับพลังแห่งความรุ่งเรือง ซื้อของตลาดจำลองเยาวราช
พร้อมทั้งร่วมสักการะเทพเจ้าสำคัญ ๆ
ได้แก่ ไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ และเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย
เทพเจ้าแห่งโชคชะตา อัญเชิญมาจากวัดโลกานุเคราะห์ เขตสัมพันธวงศ์ เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ จาก
ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ จังหวัดชลบุรี
ข่าวที่ 4 “บางจากจัดหนักให้สมาชิกปีระกา”
ข่าวแรก - บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
จับมือกับผู้นำด้านประกันภัยรายใหญ่ ได้แก่ ทิพยประกันภัย และเอเชียไดเรค โบรกเกอร์
ให้สิทธิ์ผู้ถือบัตรสมาชิกบางจากใช้บริการโปรแกรม “ผ่อนสบาย
ๆ” ระหว่างวันนี้- 31 มี.ค. 2560 เพื่อรับส่วนลดเพิ่ม 2 โปรโมชั่นแรง ๆ ได้แก่ โปร 1 - ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ราคาเริ่มต้นที่ 11,999 บาท โปร 2 – ไม่มีบัตรเครดิต ก็ผ่อนได้
แถมลดเพิ่มได้อีก 5-9% (จากราคาปกติ)
การรับสิทธิ์ง่าย ๆ สำหรับรถที่มีอายุตั้งแต่ 2-15 ปี เฉพาะรถเก๋งและกระบะส่วนบุคคลเท่านั้น
ไม่ใช้รับจ้างหรือให้เช่า โทร. 02-6251055 หรือ คลิก www.asiadirect.co.th/bangchak-tip
ข่าวที่ 2
: วันนี้–
30 มิ.ย. 2560 ที่ WASH PRO ศูนย์เคลือบสี
เคลือบแก้ว ให้ส่วนลดสมาชิกบัตรบางจาก
ล้างสีดูดฝุ่นเคลือบสี 20% เพียงแสดงบัตรสมาชิกบางจากแก๊สโซฮอล์คลับ
และ บางจากดีเซลคลับ ก่อนรับสิทธิ์ Ffpสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าบางจาก 1651 กด 4
สาขา WASH
PRO ศูนย์เคลือบสี
เคลือบแก้ว
1. สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขา
เทพารักษ์กม.9
2. สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขา
นิมิตรใหม่2
3. สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขา
แคราย2
4. สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขา
พหลโยธิน กม. 38
5. สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขา
ศรีนครินทร์ (สมิติเวช)
ข่าวที่ 5 “ชิมช้อปอาหารถิ่นแปลกอร่อยที่สวนลุม”
พลเอกธนะศักดิ์
ปฎิมาประกร รองรายกรัฐมนตรี ประธานเปิดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย-ตรุษจีนวิถีไทย
เก๋ไก๋ ปีระกา” กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้ทุกภาคส่วนรวมพลังกัน
ทำให้การท่องเที่ยวเติบโต อีกทั้งมรดกทางวัฒนธรรม การเป็นเจ้าบ้านที่ดี
สามารถหันหัวเรือมาสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ
จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ หลังจากที่ปี 2559 ท่องเที่ยวทำรายได้เข้าประเทศ 2.5 ล้านล้านบาท จากต่างชาติ 32 ล้านคน และกรุงเทพฯ
ครองแชมป์เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด
ขณะที่
ททท.เองก็ได้รับการสนับสนุนจากกรุงเทพมหานคร ให้ใช้สวนลุมพินีเป็นสถานที่จัดทศกาลเที่ยวเมืองไทย
2560
นำของดีทุกส่วนจาก 77
จังหวัด มาเสนอขายอย่างจุใจ และผลจากการเดินตรวจงานวันแรกประเมินแล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมาก
ชาวชุมชนที่นำสินค้าของดีทั่วไทยมาจำหน่ายก็มีรายได้กระจายสู่ยังท้องถิ่น
ทั้งนี้ภายในงานต้องห้ามพลาด
“อาหารถิ่นทั่วไทย” ยกจาก 5 ภูมิภาค
มาให้เลือกชิม ช้อป ครั้งเดียวในรอบปี
ภาคเหนือ – ยำไข่น้ำแจ้ซ้อน จ.ลำปาง สูตร ม.ร.ว.ถนัดศรี
สวัสดิวัตน์ กระบองทอด อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ขนมจีนน้ำย้อย จ.แพร่
ที่นำเส้นสดมาคลุกน้ำพริกเหยาะน้ำปลาให้เข้ากัน รับประทานได้เลย ไก่ทอดมะแขว่น จ.น่าน ส้มตำไหลบัว จ.นครสวรรค์
ภาคตะวันออก – ข้าวกระยาคู
คือข้าวอ่อนท่ยังเป็นน้ำนมอยู่เปลือกสีเขียวอ่อนนำมาคั้นสด ๆ ทำเป็นขนมไทยโบราณ ของ
จ.นครนายก แกงส้มผักกระชับ จ.ระยอง ปลาคก จ.ชลบุรี ข้าวคลุกพริกเกลือ
จันทบุรี
ภาคกลาง – ขนมเกสรลำเจียก
อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ผัดหมี่ไทยวน จ.สระบุรี กระเพราเต้าหู้ดำ จ.ราชบุรี
ทอดมันหน่อกะลา ของชชาวมอญเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ปลาสร้อยสามแม่น้ำแดดเดียว
จ.กาญจนบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ – ข้าวปุ้นน้ำเงี้ยว จ.ยโสธร
ขนมจีนกินคู่กับน้ำซุปหางวัว ตำด๊องแด๊ง จ.เลย อังแก๊บบอบ
เป็นอาหารปิ้งย่างที่ชาวกุย (กวย) นิยม มีรสเผ็ดร้อนจากพริก ของ จ.สุรินทร์ ยำแตร็ยปรัย
(กุ้งจ่อม) เป็นอาหารประเภทหมักดองมีทั้งกุ้งและปลา จ.บุรีรัมย์ หมกเจาะ
อาหารขึ้นชื่อของไทญ้อ จ.นครพนม
ภาคใต้ –โรตีชาชัก (3ชายแดน) จ.ปัตตานี และ ข้าวนาซิดาแฆ
สุดยอดอาหารเช้าของชาวไทยมุสลิม จ.ปัตตานี ยาวเย
เป็นอาหารโบราณของจีนฮกเกี้ยน ใน จ.ระนอง ขนมผูกรัก ลักษณะคล้ายผูกโบ
สอดไส้ตรงกลางด้วยสมุนไพร ของ จ.สตูล จอแหร้ง ลักษณะคล้ายปูหลน
ที่ต้มกะทิกับกุ้งและตระไคร้ เป็นของ จ.พังงา
อาหารและขนมท้องถิ่นแต่ละอย่างหน้าตาเป็นอย่างไร
พาครอบครัว คู่รัก และเพื่อนฝูง ไปชมกันได้ในงานเดียวเทศกาลเที่ยวเมืองไทย
ที่จะปิดฉากในวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม นี้
ช่วงที่
2
จะแนะนำเข้าชมให้ครบ 10
โซนเที่ยวไทยในสวนลุม และสาวกไมเกรนต้องเลี่ยง 4 อาหารเจ้าปัญหา
และข่าวชวนติดตามในรอบสัปดาห์
@48ชั่วโมงเที่ยวเมืองไทย10โซนในสวนลุม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ยก 77 จังหวัดมาไว้ในสวนลุมพินี
ในช่วง 48
ชั่วโมงสุดท้าย
เสาร์ที่ 28-อาทิตย์ที่ 29 มกราคม นี้
ต้องไป “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560” ชมให้ครบ 10 โซน
โซนที่
1 อุทยานไม้ดอกไม้ ไม้ประดับ
เฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ ๙ และรัชกาลที่ ๑๐ นิทรรศการเส้นทางการท่องเที่ยวตามรอยพระบาท
5 ภาค
โซนที่
2 ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง
(หมู่บ้าน 5 ภาค)
รวบรวมของดี ของเด่นจากทุกภูมิภาคของเมืองไทย
เพื่อสร้างการรับรู้เอกลักษณ์ในแต่ละพื้นถิ่นมีการนำเสนอแลนด์มาร์คของแต่ละภาคที่สะท้อนความเป็นตัวตนของแต่ละพื้นที่
การแสดงที่หาดูได้ยาก ของดี ของเด่นทั่วเมืองไทย ประกอบด้วย
หมู่บ้านภาคเหนือ
:
“เหนือฝันล้านแรงบันดาลใจ” ปีนี้เชิญชวนทุกท่านมาเรียนรู้เรื่องราวของผู้สร้างสุขให้แผ่นดินพบเรื่องราวแห่งการให้ของราชสกุล
“มหิดล” ผ่านชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชาวไทยภูเขาหลายเผ่าพันธุ์
อิ่มเอมกับสวนดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ เรียนรู้วิถีชีวิตคนไทยภูเขา 10 ชาติพันธุ์ ชิมอาหารเหนือแต๊แต๊แบบอร่อยล้ำนำแรงบันดาลใจที่กาดโนโฟม
ชมการแสดงชนเผ่าแท้ตัวจริงเสียงจริงสนุกไปกับ “ศาสตร์และศิลป์” แบบชาวเหนือที่ลานอวดของดี
เลือกช้อปปิ้งของคุณภาพ ราคาโดนใจได้ที่โซนของดีชุมชน
หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
:
“อีสาน แซ่บนัว” ขอเชิญสักการะพระธาตุพนมจำลองความสูงขนาด 10 เมตร พร้อมเครื่องสักการะบายศรีพญานาค
7 เศียร
ต้นกระธูปยักษ์ การจำลองบ้านไทยอีสานประยุกต์ “หม่องเบิ่งหนัง” สาธิตการทำกระธูป แมงมุม ฟืม
สำหรับใช้ในงานบุญอีสาน นิทรรศการ “ตามรอยธรรมราชาและบุญจาริกในอีสาน”
วันเสาร์ที่ 28 มกราคม
นี้เวลา 07.00 น. ร่วมตักบาตรข้าวเหนียวบริเวณพระธาตุพนม
(จำลอง) หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับหนังสือตามรอยธรรมราชาในแดนอีสานจำนวนจำกัด
วันละ 3,000 เล่ม
ส่วนโซนห้ามพลาดอยู่ตรงกิจกรรม D.I.Y. อีสานเฮ็ดมือ 6 WOW อาทิ กี่จิ๋วทอผ้า
สมุดทำมือจากกาบกล้วยย้อมคราม กาแฟดริปยิปซีอีสาน ร่วม Work Shop ได้วันละ 3 รอบ รอบแรกเวลา 15.00-16..00 น. รอบที่ 2 เวลา 17.30-18.30 น. รอบสุดท้ายเวลา 19.30-20.30 น.
สำหรับกิจกรรมกระตุ้นชวนเที่ยวอีสานในงานแถลงข่าวงาน
ฮีต 12 คอง 14 ประเพณีอีสาน
(ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน นี้) ท้ายสุดวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม นี้ ตั้งแต่
18.30 น. เป็นต้นไป
พบกับกิจกรรมไฮไลท์ “แก๊งเฟี้ยวเที่ยวทั่วไทย
(อีสานแซ่บนัว)” Journey The Series
หมู่บ้านภาคกลาง
:
“สุขกลางใจใกล้แค่เอื้อม” จำลองวิถีชีวิตไทยภาคกลาง
โดยแลนด์มาร์คยกบ้านเรือนไทย (เรือนเจ้าพระยา) เรือนไทยจำลองใต้ถุนสูง ๒ เมตร
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมภายในบ้าน
พร้อมทั้งจัดกิจกรรมสาธิตวิถีชีวิตไทยภาคกลางบนเรือนไทย
มีการจัดซุ้มสาธิตช่างสิบหมู่ หัตถกรรม หัตถศิลป์ ซุ้มสาธิตการนวดไทย
จุดจำหน่ายสินค้า OTOP ตลาด 100 ร้าน
สาธิตอาหารถิ่น 5อย่าง อาทิ
เกสรลำเจียก ผัดหมี่ไทยวน ไส้กรอกปลาแนม ทอดมันหน่อกะลา และปลาสร้อยสาแม่น้ำแดดเดียว
แวะ ณ จุดถ่ายภาพแหล่งท่องเที่ยว
อาทิ อุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา เขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี
ตลาดร่มหุบ จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นต้น
หมู่บ้านภาคใต้ : “ปักษ์ใต้…ปักหมุดหยุดเวลา” โดยไฮไลท์จะนำเอาความสวยงามและมุมมองใหม่ของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล
พบกับแลนด์มาร์คเรือยอร์ชพร้อมท่าเทียบเรือ
มีการจำลองพระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
จังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จังหวัดปัตตานีและลานปูดำ
จังหวัดกระบี่ พบสินค้าดีอาหารอร่อยในบรรยากาศตลาดใต้โหนด
ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่นที่มีชื่อในจังหวัดพัทลุง
พร้อมจัดพื้นที่พิเศษสำหรับบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดอาหารทะเล และอาหารถิ่น
หมู่บ้านภาคตะวันออก : “สีสันตะวันออก” โดยจุดเด่นนำเสนอความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล
วัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชน แหล่งท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิง อาหารถิ่นขึ้นชื่อ
และสินค้า OTOP ที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่
โดยซุ้มประตูทางเข้ามีการจำลองสะพานอัษฎางค์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ส่วนแลนด์มาร์คหลักจะมีการจำลองบรรยากาศชายทะเลและประภาคาร
และชุมชนตลาด 100 ปี
จังหวัดฉะเชิงเทรา
ชมการแสดงดนตรีจากวงดนตรีทหารเรือ
การแสดงจากอัลคาซ่าร์ มิโมซ่า พัทยา
มีการสาธิตการปรุงอาหารพื้นถิ่น สาธิตกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานจากไม้ไผ่ กระจูด
เป็นต้น สาธิตการทอเสื่อกก การปรุงยาสมุนไพร จากโรงพยาบาลอภัยภูเบศร
และสาธิตการทำอัญมณีอันล้ำค่าของจันทบุรี
โซนที่ 3
กิจกรรมของดี 50 เขต ของ กทม.
และอาหารถิ่น 5 ภูมิภาคของ
ททท. นำเสนอสินค้าเด็ดอาหารดัง จากทุกชุมชนมาไว้ในงานเดียวในพื้นที่เขต กทม.
และอาหารอร่อยจาก 5 ภูมิภาค
โซนที่
4 ครบเครื่องเรื่อง ททท. นิทรรศการสร้างการรับรู้และเผยแพร่ความรู้ท่องเที่ยว IT, TAT
Shop, รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
(Thailand Tourism Awards), กิจกรรมท่องเที่ยวประชาสัมพันธ์แคมเปญ
ททท. โครงการหลวง, ประชารัฐสุขใจ, Food Truck และนิทรรศการสร้างการรับรู้และเผยแพร่ความรู้ท่องเที่ยว
โซนที่
5 เส้นทางแนะนำแหล่งท่องเที่ยว นำเสนอขายแพ็คเกจท่องเที่ยวภายใต้โครงการท่องเที่ยว
ปี 2560 อาทิ
โครงการท้าเที่ยวข้ามภาค, โครงการ 12 เมืองต้องห้ามพลาด...พลัส, โครงการวันธรรมดาน่าเที่ยว เป็นต้น
โซนที่
6 Outdoor Fest อินดี้วิถีไทย
โซนที่คุณจะได้พบกิจกรรมท่องเที่ยวเก๋ไก๋ที่จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยครั้งใหม่ของคุณไม่เหมือนเดิมกับนิตยสาร
“อนุสาร อ.ส.ท.” นิตยสารท่องเที่ยวที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย
เขตทหารท่องเที่ยวได้ และ ๑๖๗๒ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย
โซนที่
7 เวทีการแสดงเวทีใหญ่
พบกับการแสดงสุดพิเศษและทัพศิลปินชั้นแนวหน้า กิจกรรมบันเทิง
การแสดงศิลปวัฒนธรรมและร่วมสมัย ภายใต้แนวคิด “ประเทศไทยเรืองรอง” จุดเด่นบนเวทีการแสดงจะมีการจำลองยักษ์สหัสะเดชะบนเวที
พบกับศิลปินชั้นนำของประเทศไทย การแสดงละครชาตรี การแสดงโขน
พร้อมชมการแสดงวัฒนธรรมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
โซนที่
8 เทศกาลตรุษจีน และแหล่งท่องเที่ยวไชน่าทาวน์ ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน
“ตรุษจีนวิถีไทย เก๋ไก๋ปีระกา 2560” สัมผัสบรรยากาศตรุษจีนจากทั่วไทยสืบสานความสัมพันธ์ไทย–จีน สักการะเทพเจ้านาจา เพื่อเป็นสิริมงคล
และทำพิธีแก้ชง ตรวจดวงชะตา ปีไก่ กับชินแสชื่อดัง รับของที่ระลึกแก้ชง
ร่วมลุ้นรับโชคดีปีไก่ ของรางวัลมากมายจากไข่ทองคำ สัมผัสตรุษจีนย้อนยุค
จำลองบรรยากาศโรงเตี๊ยม สนุกกับการถ่ายแลนด์มาร์กชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนจากทั่วไทย
อาทิ ชุมชนเยาวราชตลาดเก่า เสน่ห์มังกรปากน้ำโพธิ์ จิบชาขาหมูหมั่นโถ ดอยแม่สลอง
เป็นต้น ชม ช้อป เครื่องรางเสริมมงคล อาหารแสนอร่อย ของที่ระลึกมากมาย
โซนที่
9 แหล่งท่องเที่ยวทางทรัพยากรธรณีวิทยา
อุทยานทางธรณีวิทยา ไดโนเสาร์จำลอง มหกรรมเปิดโลกธรณีวิทยา
ประกอบด้วย
1)
นิทรรศการเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาของไทยในชื่อของ “อุทยานธรณี”(Geopark)
นำเสนอในรูปแบบของทัวร์เสมือนจริง
(virtual tour) ผ่านจอภาพขนาดใหญ่ 2)
นิทรรศการเปิดตัวไดโนเสาร์สายพันธุ์ไทย นำเสนอผ่านป่าจำลองบรรยากาศยุคดึกดำบรรพ์พร้อมหุ่นจำลองไดโนเสาร์สายพันธุ์ไทย
และชิ้นตัวอย่างกระดูกไดโนเสาร์ของจริง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมขุดกระดูกไดโนเสาร์ส่งเสริมการเรียนรู้
3) นิทรรศการพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยาทั้ง 7
แห่งของไทยนำเสนอความเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของแต่ละแห่ง และ 4)
นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ผ่านจอภาพขนาดใหญ่โดยใช้ระบบ Body sensor
โซนที่
10 เซลฟี่น้องสุขใจ 77
จังหวัด
ร่วมถ่ายรูปกับน้องสุขใจ ซึ่ง ททท.
ได้ดึงเอกลักษณ์ของน้องสุขใจในแต่ละท้องถิ่นมาใส่ชุดประจำจังหวัด และตกแต่งไฟสีสันสวยงามในเวลากลางคืน
เลี่ยงอาหาร 4 ชนิดป้องกันไมเกรน
อาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือที่รู้จักกันในชื่อโรค "ไมเกรน"
เป็นโรคที่พบบ่อยในวัยทำงานและผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงและขาดประสิทธิภาพในการทำงาน
โดยลักษณะอาการจะปวดศีรษะข้างใดข้างหนึ่งแบบตุ๊บๆ และอาจมีอาการคลื่นไส้
อาเจียนร่วมด้วย
ระดับการปวดอาจรุนแรงปานกลางถึงมากจนไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันตามปกติได้
ซึ่งถึงแม้โรคนี้จะมียาแก้ปวดไว้ช่วยบรรเทาอาการ
แต่การทานยาแก้ปวดมากเกินไปย่อมไม่ดีต่อร่างกายแน่นอน
จะดีกว่านี้ไหมถ้ามีวิธีหลีกเลี่ยงโรคนี้ได้ก่อนที่จะเป็น
จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแห่งเบิร์คเลย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
รายงานผลว่า มีอาหาร 4 ประเภทที่เป็นสาเหตุของอาการปวดหัวไมเกรน โดยการทดลองพบว่า
หากหยุดอาหารดังต่อไปนี้นานราวหนึ่งเดือน อาการไมเกรนก็ไม่กลับมาเยือนอีก
วันนี้เราจึง 4 อาหารสาเหตุทำปวดไมเกรนควรเลี่ยง
มานำเสนอ เพื่อให้คุณดูแลร่างกายอย่างถูกวิธี เลี่ยงสาเหตุส่วนหนึ่งของอาการนี้ได้
1. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน : กาแฟรวมไปถึงช็อกโกแลต
โกโก้ และชาที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนด้วย
2. ขนมปังบางชนิด : ขนมปังเปรี้ยว (sourdough
bread) ขนมปังยีสต์ (baked yeast bread) ส่วนขนมปังอื่นๆ
โดยเฉพาะที่ทำจากแป้งโฮลวีต หรือชนิดที่ผสมธัญพืชไม่ก่อให้เกิดไมเกรน
3. ผลไม้บางชนิด : องุ่น พลัม มะละกอ ลูกฟิกซ์
รวมทั้งกล้วยและอะโวคาโดที่สุกงอมเกินไป ฉะนั้นควรกินแต่พอดี
4. เนื้อสัตว์บางประเภท : เนื้อวัว เนื้อไก่ รวมไปถึงฮอทดอก ไส้กรอก โบโลนย่า เปปเปอโรนี่
และซาลามี ก็สามารถก่ออาการปวดหัวไมเกรนได้เช่นกัน
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ลงใต้ไปกระบี่ นาคา เฟสต์ 2017”
นายอภิชัย อรัญญิก ผอ.ททท.สำนักงานกระบี่ นำทีมภาครัฐและเอกชนขึ้นเวที
ประกอบด้วย นายนอบ คงพูน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยนายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง รองนายก อบจ.กระบี่
นายสุขกาย จันทร์อ่อน นายก อบต.หนองทะเล นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์
ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการในการต้อนรับนักท่องเที่ยว
ทั้งหมดได้ผนึกกำลังกันโปรโมตความยิ่งใหญ่ในการนำศิลปินจาก 7 ประเทศมาสร้างความสุขในงาน
"กระบี่ นาคา เฟสต์ 2017" ระหว่าง 17-19 ก.พ.2560 จัด ณ หาดคลองม่วง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนานาชาติจะได้พบกับมหกรรมดนตรี อินเตอร์เนชั่นแนล (แจ๊ส) มีศิลปินจากฮอลแลนด์
เดนมาร์ก ยุโรป อเมริกา และอีกหลายทวีป ขึ้นเวทีกับ "โก้-แซกแมน" สร้างความสุขกับนักท่องเที่ยว
ณ ริมทะเลเมืองกระบี่
นายนอบ กล่าวว่ากระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีรายได้ปีละ 80,000 ล้านบาท มีไฮไลต์ทางทะเล อ่าวมาหยา หาดทับแขก
ทะเลแหวก รวมทั้งยังมธรรมชาติอันซีน น้ำพุร้อนเค็ม
ท่องเที่ยววิถีชุมชนตามหมู่บ้านแหลมศักดิ์ ชุมชนเกาะกลาง เพื่อกำหนดความยั่งยืนจึงได้เน้นพัฒนาการท่องเที่ยวภายใต้คอนเซ็ปต์
Krabi go Green 7 มิติ แหล่ง กิจกรรม บริการ
ใส่ใจสิ่งแวดล้อม บรรยากาศการจัดแสดง กระบี่ นาคา เฟสต์ 2017" จัด 17-19 ก.พ.2560 ที่ทะเลริมชายหาดคลองม่วง
นายณัฐ พุฒสูตร ผอ.กองสร้างสรรค์กิจกรรมการท่องเที่ยว ททท.กล่าวว่า
จะมีคนเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 50,000 คน โดยมี โก้ แซกแมน นำทีม สร้างความสุนทรี ณ หาดคลองม่วง กระบี่ ตั้งแต่ 18.00-24.00
น. มีศิลปินแจ๊สนานาชาติจาก 7 ประเทศ
ขึ้นประชันกัลศปินไทย
นายสุขกาย จันทร์อ่อน นายก อบต.หนองทะเล
ทำหน้าที่จัดเตรีนมสถานที่จัดงาน ลานจอดรถ ที่พักโรงแรม
ทุกฝ่ายร่วมวางแผนกันเป็นอย่างดี โดยมีหลายกิจกรรมที่น่าสนใจมากอีกอย่างที่ท้าทายและดึงความสนใจคนไทยและทั่วโลก
"เดินวิ่งพิชิตเขาหงอนนาค" 18 กุมภาพันธ์ ห้ามพลาด 08.00 น เพื่อเดินวิ่งชม ต้นไม้
หิน ธรรมชาติ ที่ไม่ได้ตกแต่ง ความงามมาจากธรรมชาติล้วน ๆ
บริเวณบนเขาหงอนนาคยังมีมุมชมวิวกระบี่พาโนรามา 360 องศา
หากอากาศเป็นใจจะได้เห็นทะเลหมอกด้วย
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาสมาคมกธุรกิจท่องเที่ยว จ.กระบี่
ตัวแทนผู้ประกอบการภาคเอกชน ชาวกระบี่พร้อมบริการนักท่องเที่ยวอย่างญาติไม่ใช่เหยื่อ
ด้วยราคาห้องพักมีตั้งแต่ 500-1,500 บาทขึ้นไป ราคายังคงปกติ
โดยมีความหลากหลายให้เลือก ระดับ 5 ดาวก็ไม่เกิน 5,000
บาท ค่าบริการเรือทัวร์แพกเกจต่าง ๆ
ข่าวที่สอง “SPAผนึก WechatPayรับทัวร์จีน”
นายณรัล วิวรรธนไกร
กรรมการบริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA กล่าวว่า ในฐานะที่ SPA คือผู้บริหารเดย์สปาเชน
แบรนด์ ระรินจินดา เวลเนส สปา เเละเล็ทส์ รีแลกซ์ สปา ได้วางกลยุทธ์ต้อนรับตรุษจีนปีระกาโดยร่วมมือกับ
WechatPay หนึ่งในแอพพลิเคชั่นระดับโลกที่มีจำนวนคนลงทะเบียนใช้งานกว่า
800 ล้านคน รองรับการซื้อสินค้าและบริการของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาไทย
สามารถชำระเงินสกุลหยวนเมื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการในไทย
สำหรับจุดเด่นของ WechatPay
คือ
บริการอี-วอลเล็ต (e-Wallet) ที่เรียกว่า
วีแชทเพย์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมออนไลน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย
สำหรับวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2560 ติดตามฟังสัมภาษณ์เจาะลึก
“วิบากกรรมการบินไทยกับสินบนโรลส์-รอยซ์” ใครคืออีแอบ?
ติดตามฟังย้อนหลังทั้งหมดของรายการได้ทาง
www.facebook.com/rauydauykhoa และ www.facebook.com/penroong
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ การบิน/ท่องเที่ยว และผู้ดำเนินรายการ
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น