ททท.ATF2017-เทศกาลเที่ยวเมืองไทย2560-สุวรรณภูมิซ่อมรันเวย์ส

ไทยนำท่องเที่ยวผงาดในATF2017

ททท.ผุดโมเดลอาเซียนคอนเน็คปี61

ชูตรุษจีนปีระกาดึงดูดคนเพียบ8.2แสน
สุวรรณภูมิชี้บริการปกติช่วงซ่อมรันเวย์60วัน
10เรื่องห้ามพลาดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย
หมู่บ้านอีสานยก20จังหวัดมาไว้สวนลุม
ปี’60อาเซียนเที่ยวกันเองพุ่ง121ล้านคน
ATF2017เอกชนไทยกวาดไมซ์สิงคโปร์

 สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2560  เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” อัพเดททุกความเคลื่อนไหวในข่าวเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (ติดตามฟังรายการสดบนมือถือเข้า www.google.com พิมพ์สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย เลือก FM 97.0 MHz.)

ยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้สัมภาษณ์ในรายการถึงผลสรุปงาน ASEAN TOURISM FORUM 2017 : ATF ณ ประเทศสิงคโปร์ ว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากการนำผู้บริหารและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเอกชนเข้าร่วมงานตลอดสัปดาห์ 16-20 มกราคม 2560 เพราะ ATF เป็นงานที่สมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ มาร่วมแสดงศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน จากการสอบถามผู้ประกอบการ “ผลตอบรับดีมาก” ทั้งคู่ค้าเก่าและใหม่ ตลาดระยะใกล้และไกล นอกจากนั้นไทยยังเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน ATF 2018 ในปี 2561 โดยเลือก “จังหวัดเชียงใหม่” เป็นสถานที่จัดงานปีต่อไป กำหนดจัดระหว่างวันที่ 22-26 มกราคม 2561

ไฮไลต์ที่ไทยจะนำเสนอกับคู่ค้าอาเซียนในการเป็นเจ้าภาพปี 2561 ประการแรกสมาชิกทั้งภาครัฐและเอกชนในอาเซียนต่างแสดงความดีใจที่จะได้เดินทางมาสร้างประสบการณ์งานปีหน้าที่เชียงใหม่แทนที่จะอยู่ในเฉพาะกรุงเทพฯ เพียงอย่างเดียว การเลือกสถานที่จัดในภาคเหนือก็เป็นนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้ง ททท.ที่ต้องการกระจายรายได้การท่องเที่ยวสู่พื้นที่ท่องเที่ยวภาคอื่น ๆ

สิ่งที่เตรียมไว้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับประสบการณ์ตรงหรือ Local Experices สำคัญในภาคเหนือคือ “วิถีไทยวิถีล้านนา” และต้องการให้ชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงร่วมเป็นเจ้าภาพต้อนรับแขกเมืองด้วยจาก 9 ประเทศ

ประเด็นสำคัญระหว่างการแลกเปลี่ยนนโยบายและการทำงานร่วมกันในเวที ATF 2017 ที่สิงคโปร์ ก็มีแผนจะขับเคลื่อนโครงการโดยให้ “ประเทศไทย” เป็นผู้นำ “สร้างตลาดเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอาเซียน” หรือ ASEAN CONNECTIVITY เป็นสปริงบอร์ดนำเส้นทางท่องเที่ยวต่าง ๆ มาร้อยต่อกันเพื่อขายในตลาดโลก ด้วยศักยภาพของอาเซียนแต่ละประเทศล้วนมีเสน่ห์แตกต่างกันไป แต่ที่ผ่านมายังเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อขายไม่เป็นรูปธรรมมากนัก

ดังนั้นทางรัฐบาลไทยจึงมีนโยบายให้ ททท.วางกลยุทธ์นำร่องให้เห็นชัดเจน เช่น การเชื่อมโยงท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ระหว่าง เชียงใหม่กับหลวงพระบาง สปป.ลาว ผลลัพธ์สุดท้ายต้องผลิตเป็นแพกเกจวางขายได้ การเชื่อมโยงมีความหมายมากกว่าที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะเข้ามาพักผ่อนเฉพาะประเทศจุดหมายปลายทาง ทว่ายังสามารถเดินทางต่อไปยังเพื่อนบ้านในอาเซียนได้ อาทิ เดินทางเข้ามาสิงคโปร์ก็มาต่อประเทศไทยได้

การทดลองทำโมเดลตลาดอาเซียนเข้าประเทศไทย โดยใช้สิงคโปร์นำร่องเชื่อมโยงกับไทย เนื่องจากสิงคโปร์มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาปีละประมาณ 15 ล้านคน หากกระตุ้นให้ตลาดโลกกลุ่มนี้เดินทางต่อเนื่องเข้ามาไทยได้ซึ่งเป็นประเทศใกล้เคียงที่อยู่ในรัศมีการบินไม่เกิน 2 ชั่วโมง ทำให้อีกสักปีละประมาณ 5 ล้านคน ก็จะยิ่งดี หากโมเดลนี้ประสบความสำเร็จ ก็ทำเส้นทางเชื่อมโยงกับประเทศอื่นต่อได้ตามคอนเซ็ปต์การโฆษณาประชาสัมพันธ์ของ ททท.ที่ว่า To be Continue อาเซียนต่อไป

 

เป้าหมายรายได้ของไทยจากตลาดอาเซียนในปี 2559 มีจำนวนรวมกว่า 8.6 ล้านคน ทำได้มากกว่า 2 แสนล้านบาท สัดส่วนรายได้คิดเป็นครึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามา 8.8 ล้านคน แต่ใช้จ่ายเงินกว่า 5 แสนล้านบาท ดังนั้นในปี 2560 จะใช้ศักยภาพการเดินทางที่ใกล้ไปกระตุ้นนักท่องเที่ยวอาเซียนเพิ่มการใช้จ่ายเงินในไทยมากยิ่งขึ้น ด้วยกลยุทธ์ นำเสนอสินค้าใหม่ ๆ ทางการท่องเที่ยวซึ่ง ททท.ไฮไลต์การสร้างประสบการณ์เดินทางไปสัมผัสวิถีชุมชน หรือ Local Experience ตามที่กล่าวไว้ ในการปลุกกระแสการใช้จ่ายเงินต่อคนต่อทริปเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10 %

การนำเสนอ 12 เมืองต้องห้ามพลาด พลัส ในตลาดอาเซีย ได้วางแนวทางการขายไว้ด้วยเช่นกัน เริ่มจากเมืองที่ติดตลาดเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอาเซียนอยู่ก่อนแล้วคือ เชียงใหม่ สมุย (สุราษฎร์ธานี) ความคุ้นเคยของนักท่องเที่ยวกับเมืองดังกล่าวจึงทำให้ ททท.สามารถต่อยอดเสนอขายการท่องเที่ยวในจังหวัดใหม่ใกล้เคียงได้ ทั้งลำปาง ลำพูน หรือทางภาคใต้ก็มีทะเลเชื่อมโยงความสวยงามไม่แพ้กัน หรือจะเป็นภาคอีสานก็จะเร่งโปรโมตวัดต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งในการขยายผล ASEAN CONNECTIVITY ได้ เช่น จังหวัดสุรินทร์สามารถเชื่อมเส้นทางท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศกัมพูชาได้ เป็นเรื่องที่ ททท.ต้องหาวิธีทำเพื่อกระจายรายได้ไปสู่เมืองท่องเที่ยวอันดับรองมากยิ่งขึ้น

โอกาสที่ไทยจะกระจายนักท่องเที่ยวอาเซียนสู่เมืองจะสร้างไฮไลต์การโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยใช้แม่เหล็กสำคัญคือ ชุมชนวิถีไทย อาหารถิ่น ทั้งสองส่วนจะเป็นจุดเริ่มต้นดึงอาเซียนไปสู่พื้นที่รองได้

สำหรับตลาดสำคัญ ๆ นอกจากอาเซียน แล้วในตลาดเอเชียเอง ททท.ก็จะรักษาอัตราการเติบโตของรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย จะเสนอสินค้าท่องเที่ยวใหม่ ๆ ไม่เฉพาะแค่มาดูเพียงอย่างเดียว แต่จะให้ลงมือทำด้วยตามความชอบ เช่น ทำอาหารไทย ลองฝึกเรียนมวยไทย เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นแม่เหล็กสำคัญของการท่องเที่ยววิถีไทย

ขณะเดียวกันในการขยายฐานกลุ่มตลาดใหม่ ๆ เริ่มจากกลุ่มสตรีกับเจนวายแล้ว ก็ยังเพิ่มรายได้ด้วย Product Experience เติมโปรดักซ์ใหม่อย่างสปาที่มีชื่อเสียงเพิ่มกำลังซื้อกลุ่มสตรีโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เกาหลี ขณะเดียวกันโปรดักซ์แต่งงานหรือ Wedding ก็เล็งไปที่ฮ่องกงกับอินเดีย และการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ต่างๆ ทั้งการวิ่งมาราธอน สามารถที่จัดแข่งขันตามเส้นทางที่นักท่องเที่ยวเชิงกีฬาใฝ่ฝัน หรือการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ

นายยุทธศักดิ์กล่าวถึงความร่วมมือในประเทศกับหน่วยงานภายในประเทศ เพื่อผนึกกำลังกันเดินหน้าเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าไทย ในช่วงที่ผ่านมาอาจจะทำเพียงแค่ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเบื้องต้น แต่นับจากปี 2560 เป็นต้นไปจะมานั่งคุยกันคิดโครงการทำในภาคปฏิบัติทันที เช่น ททท.จับมือกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ได้คุยกันชัดๆ แล้วเรื่องการทำหน้าที่เป็นประตูต้อนรับแขก ต้องเน้นการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นมาตรฐานสากลครบวงจร สร้างประทับใจแก่นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม หรือความร่วมมือกับสายการบินนานาชาติพุ่งเป้าสร้างไทยเป็น “สปริงบอร์ดอาเซียน”

ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ททท.ร่วมกับสายการบินอีวา แอร์ ประเทศไต้หวัน นำเข้าตลาดระยะไกลข้ามทวีป ในช่วงงาน ATF 2017 ก็คุยกับทาง “สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส” แล้วที่จะเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์เข้าประเทศไทยในโอกาสต่อไป สิ่งที่สำคัญสุดคือ จะต้องร่วมกันทำให้นักท่องเที่ยว “เดินทางซ้ำ” (repleater) มากขึ้น อีกอย่างพฤติกรรมการเดินทางอิสระด้วยตนเอง (F.I.T.) จะเติบโตมากกว่าซื้อแพกเกจผ่านบริษัทนำเที่ยว

ดังนั้นการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ ททท.จะต้องเน้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวนานาประเทศเกิดความพึงพอใจมากที่สุด

สำหรับปี 2561 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัด ATF 2018 คนไทยเตรียมตัวนอกจากเป็นเจ้าบ้านที่ดีแล้ว ควรต้อง “มีส่วนร่วม” ด้วยหัวใจเพื่อทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภาพใหญ่ของประเทศประสบความสำเร็จ จึงขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงมาเป็นเจ้าภาพร่วมกันกับ ททท.นั่นเอง

ฟังข่าวช่วงแรก

ข่าวที่ 1 “โปรแรงช้อปคิงเพาเวอร์ทุกสาขาคืนเงินกว่า10%”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้นำการประกอบธุรกิจร้านค้าปลอดอากรหรือดิวตี้ฟรีเมืองไทย จัดมหกรรมการขายสินค้าทั้งแบรนด์ไทยและนานาชาติต้อนรับ 2 เดือนแรกในปีระกา ระหว่างวันนี้ -28 กุมภาพันธ์ 2560 ด้วยการมอบสิ่งพิเศษให้ลูกค้าทุกระดับ 2 รายการ ประกอบด้วย รายการที่ 1 เมื่อซื้อสินค้าทุก 10,000 บาทรับเงินคืนสูงสุด 10% ได้ที่ คิง เพาเวอร์สาขาในเมือง 4 แห่ง ได้แก่ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และ คิง เพาเวอร์ ใน 3 สนามบินนานาชาติ ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และ ภูเก็ต

รายการที่ 2 รับฟรี ! กระเป๋าสะพายมูลค่า 580 บาท เพียงซื้อสินค้าแผนกขนม และอาหารสำเร็จรูปตั้งแต่  3,000 บาทขึ้นไป ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี และ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ดอนเมือง โดยมีเงื่อนไข จำกัดการแจก 1 ใบ ต่อ 1 ใบเสร็จ

 ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.kingpower.com หรือโทรสอบถามคอลเซ็นเตอร์ 1631

ข่าวที่ 2“สุวรรณภูมิซ่อมรันเวย์6เดือน-ทอท.บำเพ็ญกุศล100วัน”

นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) มีแผนปรับปรุงทางวิ่งด้านทิศเหนือบางส่วน (01R/19L) ในระหว่างวันที่ 3 มีนาคม-5 พฤษภาคม 2560 รวมทั้งสิ้น 60 วัน ตามแผนดำเนินการดังกล่าวเพื่อปรับปรุงทางวิ่งและทางขับตามระยะที่ ทอท. กำหนด เพื่อความปลอดภัยของอากาศยานและผู้โดยสาร ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งอยู่ในช่วงเวลาปรับปรุงที่เหมาะสมที่สุดเพราะเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้บริการของผู้โดยสารน้อยกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ  ก่อนเข้าสู่ฤดูฝนของปี 2560

นายศิโรตม์ กล่าวว่า เนื่องจากผู้ใช้บริการโดยทั่วไปเป็นกังวลว่า อาจมีผลกระทบต่อความล่าช้าในการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างดำเนินการปรับปรุงทางวิ่งนั้น  ได้พิจารณาและตรวจสอบปริมาณเที่ยวบินและสถิติจำนวนผู้โดยสารแล้ว ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศและเดินทางผ่านทางท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)  ดังนั้น ช่วงเวลาดังกล่าวจะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อการให้บริการ ซึ่ง ทสภ. ได้เตรียมแผนการรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว

สำหรับขีดความสามารถของทางวิ่งดังกล่าว ปัจจุบัน สามารถรองรับได้ 68 เที่ยวบิน/ ชั่วโมง แต่ในช่วงระหว่างการปรับปรุงจะสามารถรองรับได้ 60 เที่ยวบิน/ ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม จากสถิติปริมาณเที่ยวบินที่มีการให้บริการสูงสุด ณ ทสภ. ที่ผ่านมา จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งมีเที่ยวบินเฉลี่ยไม่เกิน 58 เที่ยวบิน/ชั่วโมง ดังนั้น ทสภ. จึงมั่นใจว่าช่วงระหว่างที่มีการปรับปรุงทางวิ่งดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการแต่อย่างใด เนื่องจากขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินมีมากพอต่อการให้บริการ

รวมทั้ง ทสภ. ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) สายการบินที่ให้บริการที่ ทสภ. ในการบริหารจัดการตารางการบิน รวมทั้งหลุมจอดของแต่ละเที่ยวบินให้เป็นไปตามแผนการบินที่กำหนด และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศเพิ่มเติมเอกสารแถลงข่าวการบิน (AIP Supplement) ให้นักบินและผู้เกี่ยวข้องรับทราบเป็นข้อมูลแล้ว เมื่อ 22 ธ.ค. 59  เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการผู้โดยสารได้ ทั้งนี้ ทางวิ่งเส้นที่มีการปรับปรุงดังกล่าวยังคงความสามารถในการทำการบินขึ้น (Take off) ได้ต่อไป

ทางด้าน “นายนิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2560 นำทีมผู้บริหาร พนักงาน ทอท.หน่วยงานราชการ ผู้ประกอบการ และสายการบิน ร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 89 รูป ซึ่งนิมนต์จากวัดโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมทั้งจัด “พิธีบำเพ็ญพระราชกุศล 100 วัน รัชกาลที่ 9” ณ พิพิธภัณฑ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ภายในงาน ยังจัดให้มีกิจกรรม “ปณิธานความดีเพื่อพ่อ”เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้แสดงความตั้งใจอันแน่วแน่ในการทำความดี และน้อมนำคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ 9มาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตและการทำงาน

ข่าวที่ 3 “ททท.ผนึกจีนโหมตรุษจีนปีไก่โกย8.25แสนคน”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า ประเทศไทยเตรียมจัดเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 27 มกราคม- 2 กุมภาพันธ์ 2560 ภายใต้แนวคิด “ตรุษจีนวิถีไทย เก๋ไก๋ปีระกา 2560” เตรียมจัดอย่างยิ่งใหญ่ตั้งเป้าจะมีต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตรุษจีนในไทยประมาณ 825,000 คน เพิ่มขึ้น 4%    

อีกทั้งในปี 2560 ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้เฉลิมฉลองครบรอบ 42 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย-จีนความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่าง ททท. กับกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน

Mr. Chen Jiang ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตจีน กล่าวว่าไฮไลต์สำคัญภายตลอดตรุษจีนในไทย ทางสาธารณรัฐประชาชนจะนำคณะนักแสดงนำวัฒนธรรมมาให้ชมจาก 10 มณฑล กว่า100 คน มีทั้งการแสดงระบำกวนอิมพันมือ จากเมืองหนิงปอ มณฑลเจ้อเจียง การแสดงกังฟูจากโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เทียนจิน และการแสดงอื่น ๆ รวมถึงการนำสุดยอดเชฟดังจากปักกิ่ง 4 คน มาร่วมปรุงอาหารให้จีนต้นตำรับของแท้ให้ได้ลิ้มลองกัน  

งานนี้ ททท.เตรียมผนวกตรุษจีนไว้ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560 ระหว่างวันที่ 25 ถึง 29 มกราคมนี้ เชิญชวนคนไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน รวมถึงนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมงานสัมผัสบรรยากาศชุมชนชาวจีนทุกภูมิภาค เพื่อร่วมกิจกรรมไฮไลต์มากมาย เริ่มต้นจากอาหารจีนจากสุดยอดเชฟจีน  ชมการแสดงจีนจากแชมป์ มณฑลต่างๆ  ทำพิธีแก้ชง ดูมังกรปากน้ำโพความยาวกว่า 40 เมตร เดินข้ามสะพานรับพลังแห่งความรุ่งเรือง ซื้อของตลาดจำลองเยาวราช และอื่นๆ

พร้อมทั้งร่วมสักการะเทพเจ้าสำคัญ ๆ  ได้แก่ ไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ และเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคชะตา อัญเชิญมาจากวัดโลกานุเคราะห์ เขตสัมพันธวงศ์  เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ จาก ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ จังหวัดชลบุรี

นอกจากนี้ยังมีอาหารร้านดังเข้ามาร่วมคับคั่ง จากเยาวราช  ขาหมูหมั่นโถ อาหารจีนยูนาน , สัมผัสวิถีบรรพชนชาวจีนภาคอีสานจากอุดรธานี และชาวจีนเชื้อสายมาลายูสไตล์ภูเก็ต ชมมังกรประดับไฟจากนครสวรรค์ความยาวกว่า 40 เมตร

ข่าวที่ 4”บางจากรุกใช้บริษัทลูกขยายธุรกิจลิเทียม”

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP รายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560  มีมติให้ BCP Innovation Pte. Ltd. (BCPI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนเพิ่มเติมใน Lithium Americas Corp. (LAC) ผู้ดำเนินธุรกิจเหมืองแร่ลิเทียม และเป็นบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดโตรอนโต แคนาดา และดำเนินโครงการเหมืองลิเทียมที่อาร์เจนตินาและสหรัฐอเมริกา

โครงการนี้ตามแผนจะใช้เงิน 42.5 ล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 16.4% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 6.7% คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 15 เม.ย.2560 รวมทั้งยังจะให้เงินกู้ยืมแก่ LAC เพื่อนำไปใช้ลงทุนเพิ่มเติมไม่เกิน 80 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2560 ทาง BCPI ลงนามใน Investment Agreement กับ LAC โดย BCPI จะลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ LAC จำนวน 50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.85 ดอลลาร์แคนาดา รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 42.50 ล้านดอลลาร์แคนาดา การลงทุนนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า LAC จะต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อมีมติอนุมัติการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น คือ BCPI โดยเฉพาะเจาะจงในจำนวนและราคาที่กำหนดเพื่อให้การซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้นภายใน 15 เม.ย.2560

เมื่อเข้าลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวแล้ว BCPI ตกลงที่จะให้เงินกู้ยืมแก่ LAC จำนวนไม่เกิน 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเป็นเงินกู้ยืม หรือเงินลงทุนให้ Minera Exar S.A. ดำเนินการก่อสร้างและดำเนินการเกี่ยวกับเหมืองลิเทียม

ข่าวที่ 5“10เรื่องห้ามพลาดเที่ยวเมืองไทย25-29 ม.ค.”

บริษัท แบงค์คอกไรเตอร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด รายงานว่าได้รับมอบหมายจาก ททท.ให้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560” ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 25 -29 มกราคม 2560 ณ สวนลุมพินี โยดได้รวบรวม 10 สิ่งต้องห้ามพลาดมาไว้ให้ท่องเที่ยวได้ในงานเดียวครบ ดังนี้

 

 1. อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด... รวบรวมอาหารถิ่นหายากจากทั่วกรุงเทพ และ ทุกชุมชนทุกภูมิภาคมาไว้ในงานเดียว ยกตัวอย่างเช่น ขนมจีนน้ำย้อย ของดีเมืองแพร่ ซึ่งมีที่มาจากการทำเส้นขนมจีนขายแบบสดๆ ตอนจับเส้นขนมจีนล้างสะเด็ดน้ำ จะมีน้ำไหลย้อย จึงเป็นที่มาของชื่อขนมจีนน้ำย้อย ข้าวกระยาคู จังหวัดนครนายก ขนมโบราณที่กำลังจะสูญหายไป และหารับประทานได้ยาก เพราะเป็นขนมที่จะได้เฉพาะช่วงก่อนฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเท่านั้น มีความเกี่ยวพันกับความเชื่อตามวิถีชีวิตดั้งเดิม ของคนไทย ในเรื่องการนับถือ “แม่โพสพ” จึงทำให้ขนมชนิดนี้มีความพิเศษ และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ยาวเย  อาหารพื้นเมืองจังหวัดระนอง มีเฉพาะจังหวัดระนองเท่านั้น บางคนเรียกว่า พระรามลงสรง แต่คนระนองเรียกว่า ยาวเย มีลักษณะคล้ายเต้าคั่ว อาหารทางใต้อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งมีส่วนผสมและรสชาติคล้ายๆกัน

2. สักการะพระธาตุประจำวันเกิด ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560 นี้ ได้รวบรวมพระธาตุประจำวันเกิดของแต่ละวัน (7 วัน 8 พระธาตุ) ที่ทั้งหมดประดิษฐานอยู่ในจังหวัดนครพนม มาให้สักการะที่นี่ในคราวเดียวกัน (ดูรายละเอียดในเที่ยวหมู่บ้านอีสาน)

3. สักการะพระธาตุนคร วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช จำลองพระธาตุนคร วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมือง ตามตำนานกล่าวว่า สร้างขึ้นครั้งแรกประมาณ ปี พ.ศ. 854 ด้วยศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัย ภายในบรรจุพระทันตธาตุ (ส่วนฟันของพระพุทธเจ้า) ในส่วนของพระบรมธาตุ ได้ถูกหุ้มด้วยทองคำเหลืองอร่าม จนได้รับการเรียกขานว่าเป็น “พระธาตุทองคำ” ขณะที่ยามแสงแดดตกต้ององค์พระธาตุ เหลื่อมเงากลับทาบทอดไม่ถึงพื้น จนดูเหมือนพระธาตุไม่มีเงา จึงทำให้ได้รับการเขียนขานว่าเป็น “พระธาตุไร้เงา”

4.สัมผัสหมู่บ้านจำลองวิถีชีวิตชนเผ่า : เหนือฝันล้านแรงบันดาลใจ เชิญชวนทุกท่านมาเรียนรู้เรื่องราวของผู้สร้างสุขให้แผ่นดินพบเรื่องราวแห่งการให้ของ “ราชสกุลมหิดล” ผ่านชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชาวภูเขาหลากหลายเผ่าพันธ์ พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตคนไทยภูเขา 10 ชาติพันธ์ ได้แก่ เย้า ลีซอ อาข่า ม้ง(เข็กน้อย) กระเหรี่ยง(ตาก) กระเหรี่ยง (พระบาทห้วยต้ม) ไทยใหญ่ ไทลื้อ ลาวครั่ง และไทพวน  ชิมอาหารเหนือแต๊แต๊แบบอร่อยล้ำนำแรงบันดาลใจ ที่กาดโนโฟม รณรงค์ให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ชมการแสดงชนเผ่าแท้ตัวจริงเสียงจริง สนุกไปกับศาสตร์และศิลป์ แบบชาวเหนือที่ลานอวดดี 

 

5.“กระธูป” สัญลักษณ์แห่งศรัทธาธรรม และความร่วมมือร่วมใจของชาวอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ในประเพณีงานบุญออกพรรษาของทุกปี ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ จะร่วมแรงร่วมใจกันสร้างต้นกระธูปโดยจะตีเกราะเคาะขอลอให้ชาวบ้านออกไปรวมตัว ณ จุดนัดหมาย เพื่อไปให้พันกระธูป เพราะไม่ใช่กระธูปหรือธูปที่วางขายตามตลาด ต้นธูปนี้มีความสูงประมาณ 3-5 เมตร รูปทรงคล้ายฉัตรก่อนนำไปแห่และจุดไฟบูชาในวันออกพรรษา เพื่อถวายสักการะองค์สัมมาพุทธเจ้าที่จะเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากโปรดพุทธมารดา นับเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการ่วมแรงร่วมใจและรักบ้านเกิดของชาวบ้าน  ความร่มเย็นอันยิ่งใหญ่ของ ต้นกระธูป สัญลักษณ์แทนต้นหว้า ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชมพูทวีป หมายถึง พระพุทธศาสนานี้เป็นร่มเย็นแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งภายในงานได้นำมาประดับตกแต่งอย่างสวยงาม เหมาะแก่การถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง

6. เรือนเจ้าพระยา บ้านเรือนไทยสไตล์ท่านเจ้าพระยาภาคกลาง  จำลองเรือนเจ้าพระยา เรือนเจ้านายทางภาคกลาง ลักษณะบ้านเรือนไทยใต้ถุนสูง 2 เมตร สัมผัสวิถีชีวิตและประเพณีแบบไทยโบราณเสมือนจริง ที่มีทั้งความละเอียดอ่อน และมากไปด้วยขั้นตอน อาทิ จำลองประเพณีการทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จำลองพิธีการแต่งงาน เสมือนว่าเราได้ย้อนเวลามาร่วมเป็นแขกภายในงานจริงๆ

7. ยกทัพศิลปินชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ประชัน การแสดงศิลปวัฒนธรรมและร่วมสมัย ภายใต้แนวคิด “ประเทศไทยเรืองรอง” จุดเด่นบนเวทีการแสดงจะมีการจำลองยักษ์สหัสเดชะบนเวที โดยบนเวทีจะมีการแสดงของศิลปินชั้นนำของประเทศไทยในยุคปัจจุบัน อาทิ Body Slam, โจอี้บอย & เก่ง ธชย, The Palace & Friend (ปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจ), The Sound of Siam (โก้ มิสเตอร์แซกแมน, เจนนิเฟอร์ คิ้ม, ปุ้ย ดวงพร), Vie Trio, Paradise Molam Bangkok International Band เป็นต้น รวมทั้งยังได้มีการการแสดงละครชาตรี การแสดงโขน พร้อมชมการแสดงวัฒนธรรมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกด้วย

8.ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน “ตรุษจีนวิถีไทย เก๋ไก๋ปีระกา ๒๕๖๐” สัมผัสบรรยากาศตรุษจีนจากทั่วไทยสืบสานความสัมพันธ์ไทย–จีน สักการะเทพเจ้านาจา เพื่อเป็นสิริมงคล สัมผัสบรรยากาศ ตรุษจีนย้อนยุค ตระการตาไปกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากคณะนักแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนหลากหลายมณฑล เพลิดเพลินกับอาหารจีนต้นตำหรับชาววังจากสุดยอดเชฟจากจีน จำลองบรรยากาศโรงเตี๊ยม สนุกกับการถ่ายแลนด์มาร์กชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนจากทั่วไทย อาทิ ชุมชนเยาวราชตลาดเก่า เสน่ห์มังกรปากน้ำโพธิ์ จิบชาขาหมูหมั่นโถ ดอยแม่สลอง เป็นต้น ชม ช้อป เครื่องรางเสริมมงคล อาหารแสนอร่อย ของที่ระลึกมากมาย

9.พิธีแก้ชง ตรวจดวงชะตา ปีไก่ กับชินแสชื่อดัง รับของที่ระลึกแก้ชง ร่วมลุ้นรับโชคดีปีไก่ ของรางวัลมากมายจากไข่ทองคำ พร้อมตรวจดวงชะตากับหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา และ อ.คฑา ชินบัญชร

10.ช้อปปิ้งสินค้าดีทั่วไทยในงานเดียว พร้อมลุ้นชิงเพ็คเกจเที่ยวไทยมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท สำหรับขาช้อปพลาดไม่ได้กับสินค้าพื้นเมืองชั้นนำใต้ฟ้าเมืองไทย ที่จะมาร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ พิเศษสุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าครบ 10,000 บาท/ร้าน/วัน จากร้านค้าที่ร่วมกิจกรรม รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลแพ็คเกจท่องเที่ยวสุดหรู อาทิ บัตรโดยสารเครื่องบินไปกลับ 2 ที่นั่ง พร้อมโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต 2 คืน แพ็คเกจท่องเที่ยวโรงแรมโซเนว่า คีรี เกาะกูด 2 คืน และรางวัลอื่นมากมาย มูลค่ารวมกว่าหนึ่งล้านบาท จับรางวัลเวลา 21.00 น. ทุกวัน ณ เวทีใหญ่

ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น. ไปเที่ยวหมู่บ้านภาคอีสาน 20จังหวัดได้ใจกลางกรุง ในงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย แล้วต้องดูแลสุขภาพและฟังข่าวยอดนิยมในรอบสัปดาห์

@เที่ยวหมู่บ้านอีสาน20จังหวัดในสวนลุม25-29มค.”

 

เตรียมตัวให้พร้อมในการเดินทางไปสัมผัสการท่องเที่ยวแปลกใหม่จากทั่วทุกภาคของประเทศยกวิถีท้องถิ่นที่หลากหลายมาให้ชมถึงใจกลางเมืองที่สวนลุมพินี เริ่มตั้งแต่วันที่ 25-29 มกราคม 2560 ใน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560”

ที่ “หมู่บ้านภาคอีสาน” ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิดValue Proposition(VP) “อีสาน แซ่บนัว”

 

ไฮไลต์ภายในหมู่บ้านอีสาน  ส่วนแรกในบริเวณ Land Mark  ได้จำลองบ้านไทยอีสานประยุกต์ “หลังคาทรงเกวียน”  กระธูปโบราณ อาเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ทำมาจากใบอุ้มและใบเนียมผสมกับขุยมะพร้าว นำมาพันด้วยกระดาษให้เป็นแท่งเหมือนธูป แล้วหุ้มด้วยกระดำษสีต่าง ๆ ใช้ประดับตกแต่ง ธงใยแมงมุม จังหวัดขอนแก่น เป็นเครื่องแขวนศักดิ์สิทธิ์ ของอีสานโบราณใช้ประจำบุญเดือนสี่ (บุญผะเหวด) งานบุญเทศน์มหำชำติ 1 ในประเพณีฮีต 12 ของแผ่นดินอีสาน

-ตกแต่งภายในหมู่บ้านภาคอีสานสีสัน“อีสาน แซ่บนัว” ผสมผสานความแซ่บนัว ด้วยโครงสร้างหลังคำทรงเกวียนทั้งหมู่บ้าน ผนวกสีสันของกระธูปและธงใยแมงมุม ได้อย่างลงตัว

 

 พระธาตุพนม จ.นครพนม พระมหาธาตุเจดีย์ที่มีตำนานระบุว่า ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ หรือ กระดูกส่วนยอดอกของพระพุทธเจ้า ขอเชิญสักการะพระธาตุพนมจำลองความสูงขนาด 10 เมตร และพระธาตุประจำวันเกิดของแต่ละวัน (7วัน 8 พระธาตุ) ซึ่งผ่านพิธีพุทธาภิเษก โดยอัญเชิญมาจาก วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารเพื่อนำไปประดิษฐานภายในหมู่บ้านภาคอีสาน พร้อมทั้งนำเครื่องสักการะ บายศรีพญานาค 7 เศียร มาให้สักการะที่งานนี้ในคราวเดียวกัน เพื่อเสริมสิริมงคลในช่วงปีพุทธศักราชใหม่

พระธาตุประจำวันเกิด

พระธาตุพนม พระธาตุประจำวันเกิดวันอาทิตย์ อ.ธาตุพนม

พระธาตุเรณู พระธาตุประจำวันเกิดวันจันทร์ อ.เรณูนคร

พระธาตุศรีคุณ พระธาตุประจำวันเกิดวันอังคาร อ.นาแก

พระธาตุมหาชัย พระธาตุประจำวันเกิดวันพุธ อ.ปลาปาก

พระธาตุมรุกขนคร พระธาตุประจำวันเกิดวันพุธ (กลางคืน) อ.ธาตุพนม

พระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุประจำวันเกิดวันพฤหัสบดี อ.นาหว้า

พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันเกิดวันศุกร์ อ.ท่าอุเทน

พระธาตุนคร พระธาตุประจำวันเกิดวันเสาร์ อ.เมือง

 

ลานมูลมัง 20 สาธิต : สาธิตวิถีชีวิตการทางานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของภาคอีสาน ให้นักท่องเที่ยวได้ ชม เรียนรู้ทดลองทาด้วยตนเอง อาทิ

 เครื่องผ้าไตรจีวรไหม จ.ขอนแก่น อาศัยความสามัคคีของผู้ศรัทธาจำนวนมากเพื่อผลิตผ้าไตรจีวรให้สำเร็จ ก่อนหมดฤดูกฐิน

 สาธิตทำไฟตูมกำ จ.ยโสธร “ตูมกำ”เป็นผลไม้ป่าคล้ายผลส้มขนำดเท่ำกำปั้น มีก้านยาวและมีลักษณะพิเศษคือ เปลือกบางและโปร่งแสง นำมาขูดเอาผิวสีเขียวออกและคว้านเอาเนื้อและเมล็ดข้างในออกให้หมด ใช้จุดเป็นโคมไฟส่องทาง

 ครุน้อย บ้านสะอางค์ จ.ศรีสะเกษ “ครุ” เป็นภาชนะตักน้ำของชาวบ้านภาคอีสานซึ่งสานจากไม้ไผ่นำมา ลงน้ำมันยางและชัน ใช้กักเก็บน้ำได้

 ตลาดนายฮ้อย 27 ร้านค้า : เพิ่มคุณค่ำให้นักท่องเที่ยวสัมผัสเอกลักษณ์ควำมเป็นอยู่แบบวิถีไทย(Thainess) ด้วยการรังสรรค์ผ้าไทยอีสานจากโครงการหลวงภาคอีสาน สินค้า ของที่ระลึก OTOP ชั้นดี ระดับ 5 ดาว มาไว้ในโซนนี้ อาทิ

 ผ้าย้อมมูลควาย หลายคนคงนึกไม่ถึงว่า มูลควายจะนำมาย้อมเป็นผ้าหมักมูลควายได้ ถ้าย้อม ในช่วงหน้าฝนจะสวยมากเพราะจะย้อมออกเป็นสีเขียว

 ผ้าไหมแพรวาบ้านโพน จ.กาฬสินธุ์

 บ้านยางน้อย จ.อุบลราชธานี

 บ้านนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์

 หอม กระเทียม ของดี ของอร่อยที่สุดจาก ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกหอมกระเทียมที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

 ลานแซ่บนัว 21 ร้านค้า : ม่วนแซ่บอีหลี กับอาหารพื้นบ้านอีสานขนานแท้ อาทิ  เนื้อโพนยางคา เนื้อนุ่ม ชุ่มลิ้น ของอร่อยถิ่นสกลนคร ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งจากคนไทย และต่างชาติ เนื่องจากเป็นเนื้อวัวคุณภาพดี ได้มาตรฐานและสามารถนำไปทำอาหารได้หลายเมนู

 บะหมี่ปลากะพงทอง เพาะเลี้ยงปลากระพงที่บ้านดุง จ.อุดรธานี ชวนพิสูจน์ความอร่อยรสชาติปลา กระพงจากน้ำทะเลกับปลากระพงน้ำจืด

 ลาบเป็ดอุดร

 มหาลาภ 5 อย่าง ให้มาท้าพิสูจน์

 น้าเห็ดเพื่อสุขภาพ จากพาโนราม่าฟาร์ม

 ตามรอยธรรมราชาและบุญจาริกในแดนอีสานร่วมกับหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ : นิทรรศการตามรอยธรรมราชาในแดนอีสาน และรวบรวมพระราชกรณียกิจสำคัญทางพุทธศาสนาในอีสาน กิจกรรมจำริกที่เป็นบุญในเส้นทางอีสาน ด้วยการเรียนรู้ธรรมะจากการปฏิบัติธรรมและการเดินทางท่องเที่ยว

 การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านภาคอีสานจาก 2 สถาบัน : วิทยาลัยนำฎศิลป์กาฬสินธุ์ และร.ร.เลิงนกทำ จ.ยโสธร

 ร้านขายข้าว ที่สำคัญที่สุดปีนี้ จับมือกับบางจากช่วยชาวนาทั่วประเทศ ช่วยสนับสนุนช่วยซื้อข้าวจากชาวนา ยังมีสินค้า OTOP ที่บางจากให้การสนับสนุนมมขาย

 D.I.Y อีสานเฮ็ดมือ : ท้าคนรุ่นใหม่ มาสัมผัส ทดลองทำสินค้า D.I.Y. ให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมกับชุมชน (Local Experience ) “กลุ่มสกลเฮ็ด” ซึ่งเป็นตัวแทนจากชุมชนและเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่(Gen y) ที่มี แนวคิดในการนำผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาจากชุมชนท้องถิ่นมาสร้างสรรค์เป็นผลงานชิ้นใหม่ D.I.Y. เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และเกิดการกระจายรายได้

ห้ามพลาด...เที่ยวเมืองไทย ด้วยประสบการณ์เข้าถึงอย่างลึกซึ้งวิถีไทยได้ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย วันที่ 25-29 มกราคม 2560 ณ สวนลุมพินี ทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม

 ข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ตั้งเป้าปี’60อาเซียนทัวร์ในภูมิภาคทะลุ121ล้านคน”

รายงานจากเวทีการประชุม ATF 2017 ระบุว่าในปี 2560 คาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันในกลุ่มอาเซียนไม่ต่ำกว่า 121 ล้านคน สูงกว่าปี 2558 ซึ่งมีเพียง108 ล้านคน แนวโน้มปีนี้จะเพิ่มขึ้นมากถึง 13 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 83,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีวันพักเฉลี่ยต่อทริป 6-7 วันต่อคน อันเป็นผลมาจากปีนี้เร่งทำแคมเปญฉลองครบรอบ 50 ปีอาเซียน ด้วย 50 แพกเกจเชื่อมโยงกันตั้งแต่ 2 ประเทศขึ้นไป และได้รับการสนับสนุนหลักจากมาสเตอร์การ์ดกับแอร์เอเชียซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่สามารถสร้างการเติบโตในการนำนักท่องเที่ยวจีนเข้าสู่อาเซียนเพิ่มขึ้นราว 12.4 %. ตามที่องค์การการท่องเที่ยวและการเดินทางโลกรายงาน (the World Travel and Tourism Council)
          สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจแพกเกจเฉลิมฉลอง 50 ปีอาเซียน ที่จะมีไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.visitASEAN50.com

ท่องเที่ยวชงครม.ขยายวีซ่าทัวร์จีน24ม.ค.60

"รมว.กอบกาญจน์" ชงให้บรรจุวาระต่ออายุวีซ่าทัวร์จีนระยะยาวเข้า  "ครม." อังคาร 24 ม.ค.60 หวังชิงเค้กตลาดกลับคืนหลังมาตรการปราบปรามทัวร์จีน 0 เหรียญทำรายได้ท่องเที่ยววูบ  และในเวที ATF2016 ไทยเนื้อหอม "CLMV" ชวนให้เป็นผู้นำขับเคลื่อนการลงทุนร่วมทั่วอาเซียน

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า วันอังคารที่ 24 มกราคม 2560 ได้เสนอให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี บรรจุวาระการพิจารณาการต่ออายุวีซ่านักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย ให้มีระเวลายาวขึ้น  เนื่องจากเรื่องนี้ทางคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ ได้ตั้งอนุกรรมการอำนวยความสะดวกการเดินทาง พิจารณาและอนุมัติเบื้องต้นถึงการให้วีซ่าระยะยาว เพื่อผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทยปีนี้ เพราะชาวจีนมาเที่ยวเมืองไทยปีละกว่า 8.6 ล้านคน อีกครั้งยังจะเป็นประโยชน์สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในด้านอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาเต็มรูปแบบทั้ง E-traveling ไทยแลนด์ 4.0

สำหรับ E VISA ที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยที่ยืนยันให้นานาชาติจะทำให้ได้ในปี 2560 ก็เป็นอีกเรื่องที่จะต้องติดตามกันต่อไป

นางกอบกาญแตกต่างจากหลายประเทศที่พร้อมจะให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไปใช้จ่ายเงิน อาทิ อเมริกากำหนดแนวทางชัดเจนให้วีซ่ามีอายุ 10 ปี หรือ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยกเว้นวีซ่าให้เลย

@ CLMVให้ไทยผู้นำการลงทุนร่วมอาเซียน

ส่วนการเดินทางเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ระหว่างการจัดงานเมื่อ 19 มกราคม 2560 ณ ประเทศสิงคโปร์ ไทยได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นและเตรียมร่วมมือกับสมาชืกอาเซียนในด้านต่าง ๆ  ประกอบด้วย 3 เรื่องหลักที่อาเซียนจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและอุปสรรค ประกอบด้วย 1.การลงทุน 2.ข้อมูล digital และ 3.การพัฒนาคน 4.ทำตลาด

ไฮไลต์เรื่องเตรียมร่วมมือกันด้าน "การลงทุนในอาเซียน-Investment in ASEAN" ที่ทาง เมียนมา กัมพูชา  มาขอให้ไทยเป็นแกนนำ เพราะเมียนมาเปลี่ยนกฎการลงทุน ดังนั้นจึงเสนอให้ใช้เวทีที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุม WTTC 2017 เดือนเมษายน 2560 เป็นเวทีเปิดประเด็นเรื่องดังกล่าว

ส่วนเมียนมาสนใจโดยเสนอให้ไทยนำนร่องก่อนในพื้นที่เชื่อมโยงตามแนวตะเข็บชายแดนเมียนมา คือ เมืองลงทุนฝั่งมะริด ระนอง ภูเก็ต ธุรกิจหลักที่สามารถเริ่มลงทุนได้ทันทีคือโครงการทางน้ำ อย่างท่าเรือท่องเที่ยว-มารีน่า และโรงแรม ซึ่งฝั่งไทยทางภูเก็ตมีท่าเรือสำราญเพื่อการท่องเที่ยวอยู่บ้างแล้ว เพียงแต่ขนาดร่องน้ำลึกที่จะรองรับเรือที่มีผู้โดยสารเกิน 3,000 คนต่อลำได้ จึงกำลังผลักดันให้พัฒนาท่าเรือสำราญบริเวณอ่าวมะขาม ของบริษัท วิน อินเวสต์เมนท์ จำกัด ชนะการประมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว และ ท่าเรือแหลมฉบัง ทั้ง 2 แห่ง สามารถจะรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ได้ตามมาตรฐานสากล เพียงแต่จะต้องเพิ่มสิ่งอำนวความสะดวกด้านพิธการเข้าเมือง ทั้งระบบการตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร อย่างเป็นระบบ และการตัดสินเลือกใช้ท่าเรือต้องอยู่ในทำเลเดินทางขึ้นบกไปเที่ยวได้ในรัศมีไม่ราว 1 กม.

 ล่าสุดเมียนมาได้ปรับปรุงกฎหมายการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกยุคใหม่ รวมทั้งได้เน้นเรื่อง Mynma invesment ASean ซึ่งกำหนดวงเงินการลงทุนชัดเจน หาก การลงทุนขนาดใหญ่ เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม และมีผลกระทบกับประเทศจะต้องขออนุญาตจากรัฐบาลตามขั้นตอน ส่วนการลงทุนอื่น ๆ โดยทั่วไปสามารถเดินหน้าได้ตามระเบียบที่ระบุในกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่

สำหรับแนวทางการลงทุนทางมาเลเซียจาก Kenting Hongkong มี Dream Cruise พร้อมแต่ทางเรายังต้องมาดูรายละเอียดของกฎหมาย เพราะทั่วโลกมองเห็นศักยภาพประเทศไทย 1.มีเที่ยวบินเข้าออกจำนวนมากสามารถเชื่อมเที่ยวครุยส์เชื่อมโยงกับทางอากาศได้ 2.ตลาดหลักคือจีนกับอินเดีย 3.ทำให้ไทยเป็น Homeport แต่ในบ้านเรายังไม่มีมาตรฐานที่เพียงพอ

แต่แม่เหล็กดึงดูดการท่องเที่ยวตลาดเรือสำราญตามรายงานจากไดอะบ็อก ระบุสถิติเดิม 24.5 ล้านคน จะเป็น 25.5 ล้านคน กลุ่มผู้หญิง ชอบเที่ยวมากกว่า อีกทั้งทางผู้ผลิตเรือระดับโลกอย่าง Trip Cruise  จะต่อเรือปีละ 10 ลำ ขนาด 3,009-6,000  คนต่อลำ  ทำให้ทริปทัวร์ถูกลงมีค่าใช้จ่ายแค่วันละ 100 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อวัน

ส่วนภาพรวมในการเดินทางเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ระหว่างการจัดงาน ASEAN Tourism FORUM 2017 เมื่อ 19 มกราคม 2560 ณ ประเทศสิงคโปร์ ไทยได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นและเตรียมร่วมมือกับสมาชืกอาเซียนในด้านต่าง ๆ อาเซียนจะเร่งพัฒนาร่วมกันเกี่ยวกับ การพัฒนาคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีคนไม่เพียงพอ เตรียมจัดโปรแกรมTraining Programm ในการเป็น Train the trainner ทำให้เกิดความยั่งยืน  การยกระดับผู้ประกอบการกลุ่ม Start up ให้มีขีดความสามารถแข่งขันได้ และการใช้ภาษาของบุคลากรภาคบริการ พร้อมเข้าสู่มาตรสากล

โดยเฉพาะ กลุ่ม CLMV เริ่มต้นจาก เวียดนามตกลงจะทำ Joint Venture การท่องเที่ยวไทย-เวียดนาม ส่วน "พม่า" นำเสนอเรื่องของสถิตินักท่องเที่ยว ให้เหมือนกับสหประชาชาติ  "กัมพูชา" ก็นำเสนอให้ไทยไปลงทุนด้าน Eco Tourism จึงต้องการให้ไทยพาเอกชนไปเมืองกัมป็อดเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ ทางด้านบริการการบินระหว่างไทยกับสิงคโปร์ มีเที่ยวบินมากที่สุดถึง 367 เที่ยวต่อสัปดาห์ ประกอบด้วย ไป-กลับ สิงคโปร์-กรุงเทพฯ ได้แก่ การบินไทย 35 เที่ยว สิงคโปร์แอร์ไลน์ส 42 เที่ยว ไทยแอร์เอเชีย 42 เที่ยว ไทเกอร์แอร์ 35 เที่ยว เจ็ตสตาร์เอเชีย 35 เที่ยว สกู๊ต 17 เที่ยว ไทยไลออนแอร์ 14 เที่ยว

สำหรับเส้นทางบินตรงสู่เมืองท่องเที่ยว ซิลค์แอร์ บินจากสิงคโปร์เข้าเชียงใหม่ 7 เที่ยว ภูเก็ต 35 เที่ยว สมุย 14 เที่ยว บางกอกแอร์เวย์ส บินตรง สมุย 14 เที่ยว ไทยแอร์เอเชียบินเข้าภูเก็ต 7 เที่ยว กระบี่ 7 เที่ยว อู่ตะเภา 4 เที่ยว ไทเกอร์แอร์เวย์ส บินเข้าภูเก็ต 16 เที่ยว กระบี่ 7 เที่ยว หาดใหญ่ 7 เที่ยว เชียงใหม่ 3 เที่ยว

@เอกชนไทยโกยอื้อไมซ์สิงคโปร์มาไทยปีระกา

ทางด้านนายวิรัช จัตรุรภุชพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาวิน ทัวร์ (เอเชีย) จำกัด กล่าวว่า การเข้าร่วมขายในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการไทยใน ATF 2017 ที่สิงคโปร์ กระแสตอบรับจากคู่ค้าตัวแทนบริษัทผู้ซื้อจากหลายประเทศยังคงเหนียวแน่น โดยเข้ามาร่วมงานต่อเนื่องกว่า 30 ปีแล้ว อีกทั้งยังได้ทำสัญญาขายนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดไมซ์สิงคโปร์ ซึ่งใช้บริการมาวินทัวร์ปี 2560 เดินทางเข้าเมืองไทยตลอดทั้งปีรวมกว่า 3,000 ปี เป็นกลุ่มคุณภาพที่ใช้จ่ายเงินมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 2-3 เท่า นิยมใช้เงินช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง แฟชั่น รับประทานอาหารดี ๆ ราคาสูง จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตร และเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี

พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao

 

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ผู้ดำเนินรายการ