“สบพ.-บินไทย”ตั้งศูนย์สร้างคนหนุนเขตศก.EEC
24ก.ค.ICAOส่งกัปตันหญิงดึงเด็กไทยเข้าอุตฯบิน
คิงเพาเวอร์แจ้งเกิดโปรเจ็กต์CSR1ล้าน1สนาม1รร.
BPCPเครือบางจากรุกโซลาร์ฟาร์มใหม่ 9 เมกก์
เมเจอร์ฯผุดคอนโดซูเปอร์หรู7โปรเจ็กต์ทำเงิน
สุขใจทัวร์บุญแห่เทียนพรรษา3ภาค11จังหวัด
ดุสิตธานีจัด2โปรใหญ่อำลาลูกค้าถึง15เม.ย.61
เรเนซองส์งัดสูตรเพิ่มยอดขายห้องอาหารก.ค.นี้
บินไทยเปิดแนวรุกใหม่แจกตั๋วฟรีลูกค้าคอนโด
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังทางมือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านใน www.facebook.com/penroong ฟังย้อนหลังทาง youtube www.facebook.com/rauydauykhao) #gurutourza #thailandfest #AmazingThailand
ช่วงที่ 1 “คุณวรินทร เลี่ยมนาค” ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาธุรกิจ สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ให้สัมภาษณ์พิเศษ การนำ “คนไทย” ก้าวสู่อุตสาหกรรมการบิน 4.0 พาประเทศถึงฝั่งฝันการเป็น “ศูนย์กลางการบินอาเซียนและเอเชีย” ในอนาคตอันใกล้นี้ และถึงเวลาจุดประกายให้ “ผู้หญิง” ผงาดในอาชีพนักบินได้อย่างสง่างาม
คุณวรินทร เลี่ยมนาค ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาธุรกิจ สถาบันการบินพลเรือน |
“คุณวรินทร เลี่ยมนาค” เปิดเผยว่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป ประเทศไทยมีโอกาสได้จัดกิจกรรมสำคัญด้านการบินหลายโครงการด้วยกัน เริ่มจากงานแรก “การลงนามบันทึกความเข้าใจข้อตกลงความร่วมมือ” ระหว่าง สบพ.กับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดตั้ง “ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรการบินและอวกาศ” ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2560
ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 สบพ.รับนโยบายจากรัฐบาลมาดำเนินการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรทางด้านการบิน โดย “พลเรือตรีปิยะ อาจมุงคุณ” ผู้ว่าการ สบพ.ได้เป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือไว้ก่อนหน้านี้กับทางกองทัพเรือ โดยพลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือไทย และในวันดังกล่าว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เกียรติร่วมงานดังกล่าวด้วย
สำหรับศูนย์ฝึกอบรมด้านบุคลากรการบิน คือส่วนหนึ่งที่รวมอยู่ในเมกะโปรเจ็กต์การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งทะเลตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC) ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า สบพ.พร้อมสนองนโยบายระเบียงการบินภาคตะวันออกของไทยด้วย เพื่อผนึกทีมกันช่วยสนับสนุนแผนขยายท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ชลบุรี ไปยังแถบพื้นที่เชื่อมโยงในจังหวัดระยอง ส่งเสริมการลงทุนภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามายังพื้นที่พิเศษดังกล่าว
โปรเจ็กต์นี้ สบพ.เตรียมการผลิตเจ้าหน้าที่อากาศยานครอบคลุมทุกด้าน โดยการบินไทยจะมีศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานขนาดใหญ่ (MRO) เบื้องต้นการบินไทยได้ลงนามกับทางบริษัท แอร์บัส จำกัด เรียบร้อยแล้ว ส่วนภารกิจของ สบพ.มีหน้าที่ผลิตบุคลากรเข้าไปทำงานในศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน TG MRO เป็นโครงการที่จะใช้ระยะเวลา 5 ปี นำร่องของ สบพ.ยกระดับมาตรฐานหลักสูตรเดิมที่ “องค์การการบินพลเรือน” (ICAO) รับรองอยู่ในปัจจุบันไปสู่ระดับสูงของ European Aviation Safety Agency :EASA องค์กรมาตรฐานการบินแห่งสหภาพยุโรป อันจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของบุคลากรไทยที่มีมาตรฐานขั้นสูงในการเข้าไปทำงานในทุกหน่วยงานด้านการบินของประเทศและนานาชาติ
ประการสำคัญโครงการความร่วมมือการจัดทำศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรการบิน สบพ.ผนวกอยู่ในโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน TG MRO จะตอกย้ำถึงศักยาภาพของไทยในการก้าวขึ้นเป็น “ประเทศศูนย์กลางการบินอาเซียนและเอเชีย”
วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ผู้บริหารของ สบพ.และการบินไทย มีเจตนารมย์ที่จะทำภารกิจร่วมกันในระยะที่ 1 ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ EEC ทางชายฝั่งทะเลตะวันออก แผนฉบับนี้ทั้งสองหน่วยงานจะเข้าไปดำเนินการจัดตั้ง “ศูนย์” ร่วมทั้งการหารือร่วมกับทางบริษัท แอร์บัส ด้วยถึงความต้องการให้ผลิตบุคลากรการบินในสาขาหลัก ๆ อย่างไร
การปูพรมความร่วมมือครั้งนี้ปัจจุบันทาง สบพ.ได้ผลิตบุคลากรตามมาตรฐานสากลของ ICAO เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งในและต่างประเทศ นับจากวันนี้เป็นต้นไปจะเห็นถึงความพยายามของรัฐบาลเร่งนโยบายขยายระเบียงเศรษฐกิจไปสู่จังหวัดระยอง ซึ่งใช้สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาให้มีความพร้อมรองรับการขยายตัวต่อในอนาคตได้ โดยจะเป็นศูนย์กลางการเดินทางและอำนวยความสะดวกแก่พนักงานที่มาใช้บริการใช้เครือข่ายกระจายไปทำงานยังรอบพื้นที่ โดยเฉพาะทางด้านการบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อการทำงานในโครงการเกิดเต็มรูปแบบ ทาง สบพ.ซึ่งมีหน้าที่ผลิตบุคลากร นักบินที่ได้มาตรฐานสากลอยู่แล้ว ก็ยังผลิตช่างเทคนิค โดยขยายการผลิตคนการบินเพิ่มในสาขาต่าง ๆ เช่น ช่างการบิน อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือวัดอากาศการบิน เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ
โดยปกติก็จะผลิตคนเข้าสู่งานบริการภาคพื้น งานบริการท่าอากาศยานและขนส่งสินค้า มาตลอด เปิดหลักสูตรมาตรฐานสากลมีทั้งนักเรียนไทยและต่างชาติเข้ามาเรียนอย่างต่อเนื่องทุกปี
วันที่ 5 กรกฎาคม นี้ นอกจากการลงนามความร่วมมือกับการบินไทยจัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรการบินและอวกาศแล้ว ยังมีพิธีสำคัญ “ประดับเครื่องหมายการบิน” และมอบประกาศนียบัตรแก่ศิษย์การบินของ สบพ.รุ่นที่ 98-104 แล้วยังมีมอบประกาศให้แก่นักบินเฮลิคอปเตอร์รุ่นที่ 46-48 จำนวนนักบินที่จะเข้ารับการประดับปีกการบินทั้งหมดรวม 169 คน โดย ฯพณฯ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เกียรติเป็นประธานพิธี นับเป็นความสำเร็จของ สบพ.ในรอบ 56 ปี สามารถผลิตนักบินออกสู่สังคมและอุตสาหกรรมการบินได้กว่า 100 รุ่น (สำเร็จหลักสูตรเมื่อ 6 มิถุนายน 2560)
นักบินที่ติดปีกสำเร็จการศึกษาประจำปี 2560 เตรียมเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามสายการบินหลัก ๆ โดยเป็นนักเรียนทุนมาจากการบินไทย ไทยสไมล์ และนักเรียนทุนส่วนตัว ซึ่งน้อง ๆ ทุนส่วนตัวปัจจุบันก็เป็นนักบินให้แก่สายการบินต่าง ๆ
การรับสมัครนักเรียนการบินรุ่นต่อไป จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป เป็นกลุ่มนักเรียนทุนการบินไทย ตามปกติตลอด 1 ปีจะรับศิษย์การบิน 4 รุ่น ส่วนปี 2560 รับรุ่นที่ 5 เข้ามาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นในช่วงเปิดเรียนตอนเดือนกันยายนปีนี้ กำลังวางแผนเปิดรับเลยหรือปรับแผนใหม่ อยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจอีกครั้ง
นักเรียนที่สนใจเรียนหลักสูตรการบิน ปริญญาเรียน 4 ปี โดยมีคณะหลัก ๆ คือ นักบิน การจัดการจราจรทางอากาศ และการขนส่งสินค้าทางอากาศ ส่วนอนุปริญญา เรียน 2 ปี จะสอนทางด้านช่างอากาศยาน
ผู้ที่ตั้งใจสมัครเรียนเข้าไปดูรายละเอียดและเงื่อนไขทั้งหมดได้ทางเว็บไซต์ของ สบพ.ตามตารางการเปิดรับปีละ 1 ครั้ง ช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี จากนั้นจะต้องผ่านขั้นตอนการสอบคัดเลือก วิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ฟิสิกส์ ความรู้พื้นฐานด้านการบิน เมื่อสอบผ่านก็จะต้องมาตรวจร่างกาย ก่อนจะเข้าเรียนช่วงกรกฎาคมของทุกปี
ปีนี้หลักสูตรและการคัดเลือกเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เตรียมเปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2560
ส่วนที่จะฝากไปถึงผู้สนใจ สบพ.ยังมีอีก 1 โครงการคือ “สานฝันการบิน” เปิดโอกาสให้เยาวชนที่สนใจมาดูเรื่องการบินมีอาชีพที่น่าสนใจอะไรบ้าง ทาง สบพ.จะคัดเลือกให้ส่งเขียนเรียงความ หัวข้อ “นักบินไทยยุค 4.0” เยาวชนมีความเห็นกับอาชีพนี้อย่างไร ส่งเข้ามาแล้ว กำหนดจะประกาศรายชื่อผ่านการคัดเลือก 16 คน เข้ามาทำกิจกรรมในวันที่ 25-26 กรกฎาคม นี้ กับ สบพ.ที่ศูนย์ฝึกการบิน 2 แห่ง คือ หัวหิน และกรุงเทพฯ
จึงขอให้ผู้สนใจกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายเตรียมตัวเขียนเรียงความส่งเข้ามาร่วมโครงการได้ในปี 2561 ก็จะมีกิจกรรมดังกล่าวได้ทุกปีเช่นกัน
คุณวรินทรกล่าวว่ามีอีกหนึ่งโครงการคือ Dream Floor ของ ICAO จัดทำขึ้นจากความตั้งใจของผู้อำนวยการ ICAO ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ได้จัดประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องต้อนรับ “เชสต้า เวฟ” เป็นนักบินพลเรือนหญิงชาวอัฟกานิสถานคนแรก ที่ได้ทำการบินรอบโลกไปตามประเทศต่าง ๆ แล้วจะมาบินมาและทำกิจกรรมในไทยระหว่างวันที่ 22-26 กรกฎาคม นี้ ตามแผนที่วางไว้ ทางไทยโดยหน่วยงานการบิน การศึกษา สบพ.ร่วมกันจัดกิจกรรมกับกัปตันหญิงคนดังกล่าว ในวันที่ 24 กรกฎาคม นี้ แบ่งเป็น ภาคเช้า จัดทำการแนะแนวหลักสูตรของสถาบันการศึกษาทางการบิน และนิทรรศการการบิน ภาคบ่าย จัดเวทีให้กัปตันหญิงเชสต้า เวฟ ขึ้นไปพูดเพื่อคุยให้ฟังเกี่ยวกับอาชีพนักบินเชิญชวนเยาวชนหญิงเข้ามาฟังและเรียนรู้ว่าอาชีพนักบินไม่ใช่เรื่องไกลตัว “ผู้หญิง” ก็สามารถเข้าสู่อาชีพในอุตสาหกรรมการบินได้
นับได้ว่าไทยเป็นประเทศที่โชคดีได้รับโอกาสจากกัปตันเชสต้า เวฟ ในวันงานจะเปิดฟรีให้ผู้ที่สนใจเข้ามาฟัง ขณะนี้อยู่ระหว่างเลือกสถานที่จัดงาน ตามโปรแกรมจะเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ สวทช. สพฐ.เพราะมีเรื่องสอดคล้อง STEM เป็นการศึกษาแนวใหม่ทางด้าน เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ โครงการนี้รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและส่งเสริม เพื่อสร้างแรงจูงใจ เพิ่มความรู้ ทางด้านการบินแก่เยาวชนคนรุ่นใหม่
เด็ก ๆ ที่สนใจไม่ควรพลาดเข้าร่วมงานนี้ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญทางการบินอย่าง การบินไทย วิทยุการบินแห่งประเทศไทย สบพ.กรมท่าอากาศยาน สำนักงานการบินพลเรือน และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มาร่วมจัดนิทรรศการ แสดงโชว์ หรือบรรยายพิเศษเพื่อให้ความรู้ทางการบิน
ตลอดเดือนกรกฎาคม 2560 สถาบันการบินพลเรือนเดินแผนเชิงรุก โดยบูรณาการความร่วมมือทุกรูปแบบเพื่อที่จะสานฝันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของอาเซียนและเอเชียอย่างสมบูรณ์แบบในอนาคตข้างหน้าอีก 5 ปีนี้
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์ผุดเมกะโปรเจ็กต์1ล้าน1สนามฟุตบอล”
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ซีอีโอกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ |
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ “KING POWER THAI POWER : คิง เพาเวอร์ พลังคนไทย” มีคณะกรรมการทำหน้าที่คัดเลือกโรงเรียนที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของโครงการเสนอรายชื่อเข้ามา จากนั้นทางบริษัทจะมอบเงินทุนให้นำไปพัฒนาสนามกีฬา พร้อมอุปกรณ์การเล่นฟุตบอล
เป้าหมายปีแรกจะส่งเสริม 20 โรงเรียน ในจังหวัดที่คิง เพาเวอร์ เปิดบริการ ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และพิจารณาเลือกโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร กรุงเทพฯ ปริมณฑล แล้วจะทยอยสร้างสนามฟุตบอลตามโรงเรียนเป้าหมายให้ครบทุกภาคทั้ง 76 จังหวัด
ทั้งนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ดำเนินการในฐานะผู้นำธุรกิจสินค้าปลอดอากร ซึ่งมีความมุ่งมั่นและตระหนักถึงการนำกิจกรรมกีฬาเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเยาวชนของประเทศ ด้วยการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้เยาวชนไทยในอนาคตก้าวไกลสู่ระดับสากล
ใช้แนวทางของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ นำกีฬาเข้ามายกระดับ “สภาพร่างกายและจิตใจ เยาวชน” เนื่องจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้ความสำคัญต่อเนื่องมาตลอด 28 ปี และพร้อมทั้งเข้าไปมีส่วนพัฒนาสร้างสรรสิ่งดีแก่วงการกีฬาของประเทศไทย
ข่าวที่ 2 “ชวนเที่ยวถนนสายวัฒนธรรมกระทู้7-9ก.ค.นี้”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคใต้รายงานว่า ได้ให้การสนับสนุนการจัดงานถนนสายวัฒนธรรมเมืองกะทู้ กระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 ปีนี้จัดระหว่าง 7-9 กรกฎาคม 2560 ณ บริเวณถนนวิชิตสงคราม ตั้งแต่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองกะทู้ จนถึง ศาลเจ้าต่องย่องสู ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งปีนี้ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ดึงนานาประเทศเข้าร่วมงานเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม อาทิ อินโดนีเซีย เวียดนาม บรูไน พม่า
ดร.ชัยอนันท์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ เปิดเผยว่า ททท. ให้การสนับสนุนจัดงาน โดยทางจังหวัดก็ได้ร่วมกับทางวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต จัดงานเทศกาลอาหารภูเก็ต ขบวนแห่ยิ่งใหญ่ตระการตาที่รวบรวมศิลปวัฒนธรรม พร้อมทั้งได้รับเกียรติจากตัวแทนประเทศต่างๆ หน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมในขบวนด้วย อีกทั้งยังจะจัดกิจกรรมการเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ชีวิตโดยการนมัสการศาลเจ้า 3 แห่ง ได้แก่ ศาลเจ้ากะทู้ ศาลเจ้าปุ้นถ่าวก้งอ๊าม(ศาลเจ้าฮกเซียงเก้ง) และศาลเจ้าต่องย่องสู หรือจะเลือกชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่จัดแสดงให้ลูกหลานชาวในทูได้ศึกษาหาความรู้
นอกจากนี้ก็มีการจำลองวิถีเมืองแห่งแร่ หมู่บ้านเหมืองแร่กะทู้ นิทรรศการภาพถ่ายเก่าเล่าอดีตวิถีชีวิตวัฒนธรรมกะทู้ การถ่ายภาพย้อนยุค การละเล่นพื้นบ้าน การแสดงรำวง การแข่งขันร่อนแร่ การสาธิตวิถีชีวิตพื้นบ้านในอดีต เช่น การละเล่นสะบ้า จำลองร้านกาแฟโบราณ สาธิตการอยู่ไฟ สาธิตการไหว้พระอิ่มบุญ การทำขนมพื้นบ้าน
ไฮไลต์อีกอย่างคือ “ร้านอาหารพื้นเมือง” ตามแบบฉบับดั้งเดิม อาทิ หมี่โปเปี่ยน บะหมี่เหลืองทำเอง เสิร์ฟทั้งแบบน้ำ แห้ง ต้มยำ เย็นตาโฟ ร้านหมี่จี้เหลี่ยน ผัดก๋วยเตี๋ยวกุ้ย และหมี๋ฮกเกี้ยน ขนมอาโป้งป้าต้อย ขนมพื้นบ้านที่หวาน หอม อร่อย ให้เลือกชิมตลอดทั้งเส้นทาง
ข่าวที่ 3 “บีพีซีจีเครือบางจากรุกโซลาร์เซล9เมกก์”
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บีซีพีจีสนับสนุนการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar farm) ของหน่วยราชการซึ่งผ่านการคัดเลือก 2 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 8.94 เมกะวัตต์ คือ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลพบุรี) กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตสุพรรณบุรี) กำลังการผลิต 3.94 เมกะวัตต์
การสนับสนุนโครงการโซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร (โซลาร์สหกรณ์) ที่บีพีซีจีดำเนินการนั้นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มตามแนวทางการทำกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise)
ทั้งนี้ บมจ.บีซีพีจี ได้เดินหน้าสนับสนุนโซลาร์ฟาร์มหลังจากที่สำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศผลจับสลากโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร พ.ศ. 2560 เรียบร้อยเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 256 ตามแผนจะลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนรูปแบบอื่นๆ ตลอดปี 2560 ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตภายในประเทศรวมประมาณ 30 เมกะวัตต์
ข่าวที่ 4 “บิ๊กTCEBนำทีมไทยรับมือ2งานโลกปี’60”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน.หรือ TCEB” เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นจากสมาคมระดับโลก ตามการประกาศในงานจัดประชุมสมาคมการจัดประชุมโลก เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ไทยได้เลื่อนอันดับเป็นประเทศจัดงานไมซ์มาอยู่อันดับที่ 24 จาก 27 ขณะที่กรุงเทพฯ ก็เลื่อนมาอยู่อันดับ 12 จากเดิม 16
ซึ่งเป็นผลมาจากไทยมีจุดแข็งทางด้านตำแหน่งทางยุทธศาสตร์การบริการระดับมืออาชีพและการเชื่อมต่อกับพื้นที่เป้าหมายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์
อีกทั้งยังในแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2560 ยังพร้อมจัดนิทรรศการและนิทรรศการนานาชาติที่ได้รับเลือกจากองค์กรระดับโลกเลือกมาจัดงานประชุมในไทยกว่า 300 งาน
โดยเฉพาะงานใหญ่อย่างยิ่งที่ไทยได้รับเลือกจะเป็นเจ้าภาพการประชุม PCMA Global Professional Conference Asia-Pacific ณ กรุงเทพมหานคร ถือเป็นประเทศแรกในเอเชีย จะจัดระหว่าง 28-31 สิงหาคม 2560 ลักษณะงานเป็นการประชุมของสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพด้านพัสดุภัณฑ์ของสหรัฐฯ (PCMA) มีสมาชิก 6,500 ราย และลูกค้า 50,000 ราย กระจายอยู่ในสหรัฐอเมริกาแคนาดาและเม็กซิโก
จากนั้นทาง Union of International Associations(UIA) องค์กรที่มีความเก่าแก่นับ 100 ปี เลือกไทยจัดงานประชุมโต๊ะกลมภาคพื้นเอเชีย - แปซิฟิกประจำปี 2560 เป็นครั้งที่สอง ระหว่าง 21-22 กันยายน 2560 ณ จังหวัดเชียงใหม่ งานนี้สามารถดึงดูดผู้แทนระดับสูงจาก 91 สมาคมนานาชาติใน 37 ประเทศ เข้ามาร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งทาง UIA มุ่งเน้นการศึกษาและทักษะที่จำเป็นในการจัดการสมาคม โดยเคยเลือกไทยจัดงานครั้งแรกเมื่อปี 2556
ข่าวที่ 5 “เมเจอร์ผุดคอนโดซูเปอร์หรู7โปรเจ็กต์โกยเงิน”
ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้วางกลยุทธ์การลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมในสไตล์ ซูเปอร์ลักชัวรี ในปี 2560 จะลงทุน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ต่อเนื่องจากกระแสตอบรับโครงการ มาร์ค สุขุมวิท) กับ มิวนีค สุขุมวิท 23 ดีมากมียอดจองมากกว่า 70%
ดังนั้นจึงพร้อมจะขยายแบรนด์ใหม่ในชื่อ “ MARU-มารุ” นำร่องก่อน 2 โครงการ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 4,100 ล้านบาท ประกอบด้วย บริเวณลาดพร้าว 15 มูลค่า 1,800 ล้านบาท และเอกมัยซอย 2 มูลค่า 2,300 ล้านบาท ทั้งสองโครงการจะสร้างความฮือฮาด้วยจุดขายใหม่ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคปัจจุบันด้วย Pet Friendly & Wellness Living มีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงและพื้นที่รองรับคนรักสุขภาพ เน้นสร้างคอนโด High Rise ราคาเริ่มต้นที่ 1.5 แสนบาท/ตรม. โครงการละ 200 – 300 ยูนิต
โครงการ MARQUE Sukhumvit (มาร์ค สุขุมวิท) เป็นคอนโดระดับซูเปอร์ลักชัวรี มีเพียง 148 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 42 ล้านบาท ถึง 350 ล้านบาท ชูแนวคิด “Heritage Living” ด้วยการมีจุดแข็งเรื่อง ทำเลตั้งบนถนนสุขุมวิทเส้นหลัก ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีพร้อมพงษ์ ใกล้ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรี่ยมและเอ็มควาเทียร์ ก่อสร้างเสร็จแล้วกว่า 95% ขายได้แล้ว 70 % คาดจะเริ่มโอนได้ภายในกรกฎาคมนี้ ตั้งเป้าหมายภายในปีนี้จะโอนได้กว่า 5,000 ล้านบาท จากส่งผลให้มูลค่าโครงการกว่า 7,500 ล้านบาท
ช่วงที่ 2 เตรียมตัวให้พร้อมช่วงวันหยุดต่อเนื่องสัปดาห์ 7-10 กรกฎาคม นี้ ชุมชนทั่วประเทศไทยรวมใจจัดงานประเพณี “แห่เทียนพรรษา” หนึ่งปีมีครั้งเดียว สามารถเลือกไปสัมผัสประสบการณ์ “ทัวร์บุญ” ได้ใน 3 ภาค ล้วนมีอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้เข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้
@ทัวร์บุญแห่เทียนพรรษา3ภาค 11 จังหวัด
ภาคกลาง ไปสัมผัสความลึกซึ้งประเพณีท้องถิ่นแห่เทียนชุมชนแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในภาคกลาง 6 จังหวัด ได้แก่
“สุพรรณบุรี” ชมขบวนแห่เทียนพรรษา และการจัดงานสมโภชเทียนพรรษา ชมการแสดง การละเล่นวัฒนธรรมพื้นถิ่น วันที่ 8-10 กรกฎาคม 2560
ณ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อส่งเสริม พัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยว อนุรักษ์และส่งเสริมประเพณีเข้าพรรษา เสริมสร้างความเข็มแข็งให้กับชุมชนทางด้านวัฒนธรรมประเพณี การนำเสนอ “ศาสตร์พระราชา” ผ่านขบวนแห่เทียนพรรษาของแต่ละอำเภอ และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุพรรณบุรี ให้แพร่หลาย
ไฮไลต์วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม 2560 ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป ชมรถเทียนพรรษา 10 อำเภอ พร้อมจัดแสดง ร่วมถวายเทียนพรรษา และร่วมพิธีเวียนเทียนรอบวิหารหลวงพ่อโต
สอบถามที่ทำการปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี โทร. 035-535380
“นครปฐม” ชมนิทรรศการอาเซียน การแสดงทางวัฒนธรรมอาเซียน ขบวนแห่เทียนเมียนมา รามัญ ชม ชิม ช้อป สินค้าชุมชน และอาหารอาเซียน การแสดงนาฏศิลป์อาเซียน วันที่ 7-9 กรกฎาคม 2560ณ วัดชุมนุมศรัทธา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม โทร. 034-34038
พร้อมชม “งานตำนานองค์พระปฐมเจดีย์พญากงพญาพาน” วันที่ 7-9 กรกฎาคม 2560 ณ องค์พระปฐมเจดีย์ ชมการแสดงละครเวที เรื่องพญากงพญาพาน ตำนาน-องค์พระปฐมเจดีย์ และการสาธิต จำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม ชมขบวนแห่เทียนพรรษาพระราชทาน โทร. 034-340383
“ราชบุรี” จัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอำเภอสวนผึ้ง ครั้งที่ 38 วันที่ 1-9 กรกฎาคม 2560 ณ หน้าเทศบาลตำบลชัฏป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
ชมการประกวดรถบุปผชาติ ประเภทสวยงาม และความคิดสร้างสรรค์ ชมขบวนแห่เทียนพรรษาของวัดต่าง ๆ ในเขต อำเภอสวนผึ้ง ร่วมหล่อเทียนพรรษาถวายวัด นิทรรศการทางพระพุทธศาสนา สอบถามเพิ่มที่คุณสิริลักษมณ์ เพ่งสวัสดิ์ เทศบาลตำบลชัฏป่าหวาย โทร. 087-0636826
“กาญจนบุรี” ใน 2 พื้นที่ พื้นที่ 1 “ประเพณีแห่เทียนพรรษาวัดหนองกระทุ่ม” กำลังกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานวันที่ 9 กรกฎาคม 2560
ณ วัดหนองกระทุ่ม ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ชาวบ้านได้จัดขบวนแห่เทียนพรรษาไปยังวัดหนองกระทุ่ม เป็นการสืบสานประเพณีร่วมกันของคนในท้องถิ่นที่มีเสน่ห์อย่างมาก สอบถามองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกุ่ม โทร. 034-581020
แห่งที่ 2 “ประเพณีแห่เทียนพรรษาตำบลห้วยกระเจา” วันที่ 7 กรกฎาคม 2560 ณ หน้าที่ว่าการอำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอห้วยกระเจา ไฮไลต์ภายในงานมีการประกวดขบวนแห่เทียนพรรษาของหมู่บ้านต่าง ๆการประกวดธิดาเทียน การจำหน่ายสินค้า OTOPสินค้าทางการเกษตร โทร. 034-650074, 034-650148
“พระนครศรีอยุธยา” จัดยิ่งใหญ่งานประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ลาดชะโด ครั้งที่ 8 ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 ณ ตลาดลาดชะโด อำเภอผักไห่ จังหวัดอยุธยาชมขบวนเรือแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่สืบทอดกันมายาวนาน ณ คลองลาดชะโด กว่า 200 ลำ พร้อมกับกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมา โทร. 035-740263
“สระบุรี” ไปร่วมงาน “ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา” “งานประเพณี ตักบาตรดอกเข้าพรรษา ประจำปี 2560” วันที่ 7-9 กรกฎาคม 2560 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น (อำเภอพระพุทธบาท) เป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก พุทธศาสนิกชนจะได้บุญกุศลอันยิ่งใหญ่กับการถวายดอกเข้าพรรษาแด่พระภิกษุสงฆ์ พร้อมตื่นตาตื่นใจกับขบวนพยุหยาตรา ขบวนรถบุปผชาติ และที่ขาดเสียมิได้คือ ความงดงามของ “ดอกเข้าพรรษา” ที่บานสะพรั่งทั่วทั้งวัดพระพุทธบาท ตั้งแต่เช้าตรู่ จนกระทั่งตะวันลับขอบฟ้าหลังมณฑปพระพุทธบาทแลลับทิวเขาสุวรรณบรรพต
“ดอกเข้าพรรษา” หนึ่งปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียว เฉพาะในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาเท่านั้น เมื่อถึงวันเข้าพรรษา คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ชาวอำเภอพระพุทธบาทจะพากันไปเก็บดอกเข้าพรรษาตามไหล่เขาโพธิลังกาหรือเขาสุวรรณบรรพต เทือกเขาวง และเขาพุ ในเขตอำเภอพระพุทธบาท นำดอกเข้าพรรษามาจัดรวมกับธูปเทียนเพื่อตักบาตรถวายพระ
แต่ละปีทางจังหวัดสระบุรีนี้ได้จัดพิธี ตักบาตร ดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท ภายในงานจะได้ชม นิทรรศการ ดอกเข้าพรรษา การแสดง ของดี ของเด่น แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรี (บริเวณศาลาเฉลิมพระเกียรติ) ขบวนเทียนพรรษาพระราชทาน และขบวนการแสดงวัฒนธรรมพื้นถิ่น
สอบถามที่เทศบาลเมืองพระพุทธบาท โทร. 036-267111
“สิงห์บุรี” จัดงานประเพณียายดอกไม้ (ตักบาตรรดอกไม้) วันที่ 9-10 กรกฎาคม 2560 ณ วัดจินดามณี ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ชมประเพณีพื้นบ้านของชุมชนร่วมกันจัดข้าวตอกดอกไม้ 5 ชนิด ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม จัดเป็นกำใส่บาตรพระ เพื่อใช้เข้าอุโบสถ เป็นพุทธบูชา ทำบุญฉลองพระปางคู่นิมิต พร้อมทำบุญเลี้ยงเพลพระ โทร. 081-7910656
ภาคอีสาน ดินแดนแห่งตำนานจัดงานประเพณีแห่เทียน ปีนี้ขยายจาก “อุบลราชธานี” เพิ่มความตื่นตาไปพร้อมกันอีก 3 จังหวัด นครราชสีมา สุรินทร์ ร้อยเอ็ด
“นครราชสีมา” จัดแห่เทียนใน 3 พื้นที่
พื้นที่แรก - งานประเพณีแห่เทียนพรรษาอำเภอโชคชัย วันที่ 7-8 กรกฎาคม 2560 ณ บริเวณสนามกีฬากลาง หน้าเทศบาลตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย ชมการประกวดต้นเทียน การประกวดขบวนแห่เทียนพรรษา การสาธิตอาหารพื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรม การประกวดร้องเพลง สอบถามที่ เทศบาลตำบลโชคชัยโทร. 044-491919
พื้นที่สอง - งานประเพณีแห่เทียนพรรษาอำเภอพิมาย วันที่ 7-8 กรกฎาคม 2560 ณ บริเวณลานเมรพรหมทัด อำเภอพิมาย รณรงค์ร่วมประกวดต้นเทียน การประกวดขบวนแห่เทียนพรรษา การแสดงศิลปวัฒนธรรม สอบถามที่ เทศบาลตำบลพิมาย โทร. 044-471121
พื้นที่สาม - งานประเพณีแห่เทียนพรรษาโคราชวันที่ 7-9 กรกฎาคม 2560 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา แข่งขันประกวดต้นเทียนพรรษา การประกวดขบวนแห่เทียน การประกวดประดิษฐ์ต้นเทียน พิธีเจริญพระพุทธมนต์ สอบถามเพิ่มที่เทศบาลนครราชสีมา โทร. 044-234763, 044-234752
“อุบลราชธานี” ปี 2560 จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 116 งานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี มีพัฒนามาตลอด ทั้งทางด้านเทียนโบราณ ประเภทเทียนแกะสลัก ติดพิมพ์ ชาวชุมชนเทียนได้ถ่ายทอดฝีมือจากรุ่นสู่รุ่น เกิดช่างฝีมือรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมากมาย ปีนี้ ททท.ร่วมสืบสานมนต์เสน่ห์ “ศิลปะเทียนแห่งเมืองอุบล” นักท่องเที่ยวที่จะได้ชมกิจกรรมตลอดงาน ณ พิพิธฑภัณฑสถานแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2560 ดังนี้
1.ชมผลงานการประกวดแกะสลักเทียน ในหัวข้อ "เทียนธรรม แดนศรัทธา" ภายใต้แนวคิด ทศชาติชาดก จากสถาบันการศึกษาทางด้านศิลปะชั้นนำทั่วประเทศ
2.ชมการแสดงแสงแห่งจินตนาการ "Imagination Light" ชุด "พระมหาชนก"
3.กิจกรรม "ชวนทำเทียน" (Creative Art) งานศิลปะสร้างสรรค์แนว DIY
4.กิจกรรม "เวียนชมธรรม" (Experience Art) มาเยี่ยมเยือนชุมชนคนทำเทียนตามคุ้มวัดต่างๆของเมืองอุบลอย่างใกล้ชิด
ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 ชมขบวนแห่เทียนพรรษาสุดอลังการ และขบวน-ฟ้อนรำอย่างสวยงาม การประกวดต้นเทียนพรรษา ณ ถนนรอบทุ่งศรีเมือง
พิเศษสำหรับปีนี้สามารถชมประติมากรรมเทียนได้ตลอดตั้งแต่ 12-30 กรกฎาคม 2560 ภายใต้แนวคิด "เทียนอุบล ยลได้ตลอดเดือน" ณ บริเวณหอประชุมโดม วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี
ดูเติมได้ที่ www.tourismthailand.org/thaifest และสอบถามที่เทศบาลนครอุบลราชธานี โทร. 045-246060
“สุรินทร์” งานมหกรรมแห่เทียนพรรษา และตักบาตรบนหลังช้างจังหวัดสุรินทร์ วันที่ 7-8 กรกฎาคม 2560 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ และอนุสาวรีย์พระยา-สุรินทร์ภักดี ทุกหน่วยงานในท้องถิ่นได้ร่วมกันจัดขบวนแห่เทียนพรรษา ขบวนแห่ช้าง ขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานบนหลังช้าง พิธีปฏิบัติธรรมและเจริญสมาธิภาวนา การประกวดสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ สอบถามที่ฝ่ายอำนวยการสำนักงานสุรินทร์ โทร. 044-512039 , 044-521358
“ร้อยเอ็ด” งานประเพณีเข้าพรรษาเมืองร้อยเอ็ด วันที่ 8-9 กรกฎาคม 2560
ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์-ร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ดกิจกรรมชมการประกวดขบวนแห่เทียน ประกวดต้นเทียน ธิดาเทียน และสาธิตแกะสลัก-ต้นเทียน สอบถามที่เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด โทร. 043-511222
ภาคเหนือ เชียงรายเป็นตัวแทน 17 จังหวัดภาคเหนือ มีไฮไลต์งานประเพณีเส้นทางทัวร์บุญ
“เชียงราย” เชิญชวนไปชม พิธีหล่อเทียนพรรษา การประกอบพิธีทางศาสนา พิธีถวายเทียนพรรษา พิธีเวียนเทียนรอบพระบรม-สารีริกธาตุ ชมขบวนแห่ต้นเทียนพรรษา สอบถามที่สำนักการศึกษาเทศบาลนคร-เชียงราย โทร. 053-711333 ต่อ 301-7
@ 9 สิ่งที่ไม่ควรทำหลังกินอาหารเสร็จ
คุณทราบกันไหมว่า หลังจากกินอาหารอิ่มใหม่ๆ ถ้าเราทำพฤติกรรมบางอย่างทันที แล้วจะทำให้ร่างกายมีโอกาสเสี่ยงจะเกิดโรคได้ โดยเฉพาะ 9 สิ่ง ไม่ควรทำหลังกินอาหารคือ
1. อาบน้ำหลังจากกินอาหารอิ่ม จะไปรบกวนระบบการย่อยอาหารให้ทำงานผิดปกติ อาหารอาจย่อยได้ไม่ดี เพราะการอาบน้ำจะกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปทั่วร่างกายรวมถึงบริเวณท้อง
2. กินผลไม้ตามทันที ทำให้ไม่ได้รับคุณค่าจากผลไม้อย่างเต็มที่ เพราะต้องรอการย่อยอาหารก่อน เกิดการหมักหมมระหว่างอาหารและผลไม้ ส่งผลให้มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และมีลมในกระเพาะอาหาร
3. อิ่มปุ๊บก็ล้มตัวลงนอนปั๊บ เป็นผลให้เกิดลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะไม่สามารถจะย่อยอาหารได้สะดวก ที่สำคัญคือยังเป็นสาเหตุของโรคกรดไหลย้อนอีกด้วย
4. เมื่อกินอิ่มแล้วทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องใช้แรงหรือใช้สมองก็ตาม อาจทำให้สมองต้องทำงานหนัก ไม่ปลอดโปร่ง เพราะจะมีปริมาณเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและสมองน้อยลง
5. ดื่มชาเข้มข้นหลังกินอาหาร หรือดื่มในช่วงเวลาใกล้มื้ออาหารจะทำให้การดูดซึมสารอาหารได้น้อยลงโดยเฉพาะธาตุเหล็ก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงจะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
6. กินอิ่มมากจนต้องคลายเข็มขัด เพราะจะส่งผลให้ลำไส้ไม่ปกติ อาจทำให้ลำไส้บิดตัวและอุดตันได้
7. การสูบบุหรี่หลังกินอาหารจะทำให้มีโอกาสเป็นโรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็ง เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
8. ออกกำลังกาย เนื่องจากกระเพาะอาหารต้องการเวลาในการย่อย หากไปออกกำลังกายทันทีจะทำให้เกิดอาการจุก อาหารไม่ย่อย และทำให้การดูดซึมสารอาหารมีประสิทธิภาพลดลง
9. อิ่มแล้วขับรถทันที ด้วยสภาพร่างกายหลังกินอาหารอิ่ม ๆ จะอ่อนเพลียร่วมด้วย อาจเกิดอาการง่วงนอนมากขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
สรุปหลังจากกินอาหารอิ่มแล้ว กระเพาะอาหารต้องใช้เวลาในการจะย่อยอาหารประมาณ 4 ชั่วโมง จึงจะสามารถทำกิจกรรมต้องห้ามดังกล่าวได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ดุสิตธานีกรุงเทพจัด2โปรใหญ่ถึง15เม.ย.61”
นางสุกัญญา จันทร์ชู ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ กล่าวว่า โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ประกาศจะเปิดให้บริการจนถึงวันที่ 16 เมษายน 2561 จึงจัดแคมเปญพิเศษขอบคุณคุณลูกค้าต่อเนื่องทั้งปี เพื่อร่วมฉลองความทรงจำอันแสนงดงามตลอด 48 ปี ส่งท้ายตำนานโรงแรมไทยแห่งแรกใจกลางกรุง ซึ่งจะทุบแล้วสร้างโรงแรมดุสิตธานีแปลงโฉมใหม่เปิดให้บริการอีกครั้งปี 2565 ทำอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมสไตล์ Mix Use มีทั้งห้องพักโรงแรม สิ่งอำนวยความสะดวก ห้างสรรพสินค้า เป็นวันสต็อป เซอร์วิส
ส่วนแคมเปญตั้งแต่วันนี้-15 เมษายน 2561 ประกอบด้วย 1.แคมเปญ “ความทรงจำแสนพิเศษสำหรับคู่รักแต่งงาน” จะมอบบัตรกำนัลให้แก่คู่รักที่เคยมาจัดงานแต่งที่โรงแรมที่เปิดตั้งแต่ปี 2513 รับประทานอาหารชุดพิเศษฟรีมื้อกลางวันหรือค่ำ เซ็ทเมนู 3 คอร์ส มอบให้คู่รักทุกคู่ที่เคยจัดงานแต่งงาน นับตั้งแต่โรงแรมเปิดให้บริการเมื่อปี พ.ศ. 2513 ถึงปัจจุบัน เพียงร่วมกติกาง่ายๆ แสดงภาพแต่งงาน เพื่อรับสิทธิ พร้อมกับรับหนังสือวิธีการปรุงอาหารไทยของดุสิต “Thai Way of Life: The Dusit Cookbook” ส่วนลดพิเศษ 27% ใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารในโรงแรม
2.โปรโมชั่นจองห้องพักผ่าน www.dusit.com ภายใน 31 ธันวาคม 2560 จะได้รับราคาที่ดีที่สุด “ดุสิตเบสท์เรท” อัพเกรดห้องพักเป็นระดับถัดไป (ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องพักที่ว่าง) เป็นอภินันทนาการ เช็คอินได้ตั้งแต่ 06.00 น. และเช็คเอ้าท์จนถึง 18.00 น. รวมตั๋วรถไฟฟ้าบีทีเอสฟรีอีกคนละ 1 ใบต่อวัน
ส่วนผู้จองห้องพักแบบซูพีเรีย ภายใน 31 สิงหาคม 2560 เพื่อเข้าพักภายก่อน 31 ตุลาคม 2560 จะได้อัพเกรดเป็นห้องพักแบบ ดุสิตรูม (เอ็กเซ็กคูทีฟ สวีท มีห้องนั่งเล่นแยกเป็นสัดเป็นส่วน – 60 ตรม.) ในราคาพิเศษเพียงคืนละ 4,800 บาท++ รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 คน
ข่าวที่สอง “โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ ต้อนรับเทศกาลแห่ง “เห็ดทรัฟเฟิล” อันโด่งดังจากอิตาลี นำมาปรุงหลากหลายเมนูสุดคลาสสิค “Culinary Treat Of Truffle” ณ ห้องอาหารอิตาเลียน ลา ทาโวล่า แอนด์ ไวน์ บาร์ ตลอดเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคมนี้ ตั้งแต่จานเรียกน้ำย่อยถึงอาหารจานหลัก อาทิ เมนูคาร์ปาชิโอเนื้อวากิวคู่ทรัฟเฟิล เสิร์ฟสไตล์อิตาเลียนแท้ เมนูเนื้อแกะอบชิ้นหนาคู่หอยเชลล์ฮอกไกโดและซอสทรัฟเฟิล และ เมนู ญอกกี้มันฝรั่งและชีวบูราต้าสไตล์อิตาเลี่ยนในครีมซอสทรัฟเฟิล รวมถึงเมนูอิตาเลี่ยนสุดโปรดของทุกท่าน ทั้ง พิซซ่าและรีซอตโต้ ที่เชฟรังสรรค์รสชาติแห่งความหรูหราด้วยเห็ดทรัฟเฟิล
เมนูอาหารพิเศษ “Culinary Treat Of Truffle” ให้บริการเพิ่มเติมจากเมนูอะ ลา คาร์ท มื้อกลางวันและมื้อค่ำทุกวันตั้งแต่วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ตลอดเดือนกรกฏาคมถึงเดือนสิงหาคมนี้ ในราคาเริ่มต้น 380++ บาท
ส่วนที่ห้องอาหารเฟลเวอร์ จัดเต็ม “เมนูเนื้ออบสูตรพิเศษ Roast Specials” โดย เชฟแมทเทียส มิทนาชท์ กลับมาพร้อมกับสุดยอดเมนูอาหารมากมาย ในโปรโมชั่นล่าสุดเนื้ออบสูตรพิเศษ ช่วงมื้อค่ำทุกวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดีในเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคมนี้ ชวนมาลิ้มลอง หมูหันหนังกรอบเนื้อนุ่ม ไก่งวงอบเนื้อหวานฉ่ำสุดคลาสสิค และอีกหลายเมนู เสิร์ฟให้ทุกท่านได้ลิ้มลองควบคู่เครื่องเคียง อาทิ กราแตงมันฝรั่งอบชีส หน่อไม้ฝรั่งย่างเกลือใบไทม์ และซอสต่างๆ ทั้ง ซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิล ซอสเกรโมลาต้า ซอสซัลซ่าเวอร์เด ที่จะมาเพิ่มรสชาติของเนื้ออบให้กลมกล่อม ในราคาคนละ 1,590++ บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ สำรองที่นั่ง โทร 02 125 5010
ข่าวที่สาม “3บริษัทบูมจัดมาราธอนวิ่งได้เที่ยวฮอยอัน”
บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ร่วมกันกับ 3 พันธมิตร คือ บริษัท กรีนแฮท จำกัด ซึ่งเป็นออร์แกไนซ์ท้องถิ่นชั้นนำของเวียดนาม และบางกอกแอร์เวย์ส จัดมหกรรม “มาราธอนวิ่งเหมือนได้เที่ยว” ชวนเหล่านักวิ่งร่วมงาน “ฮอยอัน อินเตอร์เนชั่นแนล มาราธอน 2017” (Hoi An International Marathon 2017) ที่สุดแห่งเส้นทางวิ่งเปี่ยมมนต์เสน่ห์เมืองมรดกโลก17 กันยายน 2560 ณ เมืองฮอยอัน เวียดนาม เปิดรับทางสมัครออนไลน์ที่ www.fabmotion.co.th บัตรมีราคา 900 1,200 และ 2,500 บาท
เป็นรายการวิ่งมาราธอนเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ตามเส้นทางสวยที่สุดในประวัติศาสตร์ ใจกลางเมืองท่องเที่ยวติดอันดับโลกอย่าง “ฮอยอัน” ซึ่งมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และความสวยงามของธรรมชาติ ที่ผู้เข้าร่วมมาราธอนครั้งนี้จะมีโอกาสได้วิ่งและท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กัน สามารถเลือกวิ่งแบบสนุกกันได้แก่ Fun Run หรือวิ่งระยะทางสั้น 5 กิโลเมตร และ Marathon ระยะไกล 10 และ 42 กิโลเมตร
ข่าวที่สี่ “บินไทยรุกขายแนวใหม่ตั๋วฟรีลูกค้าศุภาลัย”
นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย-ประเทศไทย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ขยายแนวรุกทางการขายตั๋วโดยสารการบินไทย โดยจับมือกับ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ทำโปรโมชั่นใหม่ล่าสุด “ได้บ้าน ได้บิน ฟินไกล ทั่วเจแปน” มอบสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่จองบ้านหรือคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ของศุภาลัยทั่วไทยกว่า 80 โครงการ รับสิทธิ์บินคู่ บินฟรี ไม่ต้องลุ้น สูงสุด 4 ที่นั่ง เพื่อบินตรงกับสายการบินไทย ทั่วญี่ปุ่น
โปรโมชั่น “ได้บ้าน ได้บิน ฟินไกล ทั่วเจแปน” ถือเป็นครั้งแรกที่ศุภาลัยร่วมมือกับการบินไทย ที่มอบสิทธิพิเศษการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นให้ลูกค้าจองบ้านหรือคอนโดมิเนียมก่อนรับไปเลยตั๋วบินฟรีเป็นคู่ 2 คน หรือ สูงสุด 4 ที่นั่ง เดินทางได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560-31 พ.ค. 2561 สอบถามเพิ่มโทร. 1720 และ www.supalai.com
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์การบิน-ท่องเที่ยว เจ้าของรายการ "รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์" FM97.0 MHz. |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น