กลุ่มคิง เพาเวอร์ ชวนนำสิ่งดี ๆ เข้าประเทศ
เปิดใจ3ผู้นำพาไทยประกาศศักยภาพเวทีโลก
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #kingpower # thaifest #AmazingThailand
"นายวิชัย ศรีวัฒนประภา" ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำทีมเปิดเผยว่า ความสำเร็จของการพัฒนาสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ปีที่ 3 ก้าวสู่สูงสุดพรีเมียร์ ลีก ปีที่ 4 ทำให้เป็นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ได้ ปีที่ 5 เข้าสู่ ยูฟ่า ยุโรป
ส่วนการสร้างโอกาสให้ "นักเตะเยาวชน" โดยซื้อOHLลีกดิวิชั่น 2 ของเบลเยี่ยม ผนวกเข้ากับประสบการณ์ที่มีมา รวมทั้งเงื่อยไขที่ยืดหยุ่นมากกว่าของการเปิดทางให้นักเตะไปเล่นในระดับอาชีพเพื่อเรียนรู้ฟุตบอลยุโรป จะเป็น "สะพาน" หรือประตูนำเด็กไทยไปสู่ระดับโลกได้ เป็นช่องทางให้เยาวชนไทยเติบโตในวงการกีฬา เรื่ยไปจนถึงกลุ่มเยาวชนนักเตะใน CLMV ด้วย
สิ่งที่อยากเห็นวงการฟุตบอลของประเทศไทย นั่นคือ ต้องนำสิ่งดีๆ ที่เกิดจากพลังคนไทยช่วยกันส่งเสริม ก็จะทำให้มีความเป็นไปได้ ที่จะทำให้เด็กไทย
ขณะที่ "นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ย้ำถึงโครงการ sPoRT POWER ของคิง เพาเวอร์ ที่จะสานฝันเยาวชนไทยไปสร้างความยิ่งใหญ่ในฟุตบอลโลก ว่า เป็นผลมาจากความสำเร็จของเลสเตอร์ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นได้ใส่ใจในทุกรายละเอียด สิ่งอำนวยความสะดวกด้านมาตรฐานสนามฟุตบอล เรื่อยไปจนถึงวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่สอดคล้องกับร่างกายของเยาวชน ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
กระทั่งในวันนี้ทุ่มเททำโปรเจ็กต์ตอบแทนสังคมและประเทศไทย ในโครงการแรก ในชื่อ KING POWER THAI POWER โเยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำเลสเตอร์จนประสบความสำเร็จ จึงเล็งเห็นว่า เราคิง เพาเวอร์ ทำได้ คนไทยและประเทศไทย ก็ทำได้
ผลจากการทำโครงการFOX HUNT รุ่น 1 โครงการนำเด็กไทยก้าวเข้าสู่เส้นทางสายอาชีพแล้ว เป็นการฝึกประสบการณ์จริงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จนขณะนี้นักเตะที่เข้าโครงการทั้ง 16 คน ได้เข้าสู่วงการค้าแข้งในสโสมร โพลิส ของเมืองไทย และOHL เบลเยี่ยม ครบทั้งหมดแล้ว ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาถึงเมืองไทยในช่วงเช้าคืนวันอาทิตย์และเข้ามาร่วมงานในวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาค ม 2560 ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ
นักเตะ FOX HUNT รุ่น 1 ล้วนผ่านการฝึกฝนตามมาตรฐานยุโรปจนจบหลักสูตร โดยต้องมีวินัยการฝึกด้วยตนเอง เกิดการเรียนรู้ สามารถนำกลับมาพัฒนาฟุตบอลในเมืองไทย สามารถนำมาถ่ายถอดด้วยการแชร์ให้เด็กรุ่นใหม่ในไทยได้ต่อไป
ระยะเริ่มต้นอาจจะไม่เห็นภาพชัด แต่พอผ่านไปสัก 4-5 รุ่น ก็จะเห็นพลังแห่งประสบการณ์ที่แต่ละรุ่นสั่งสมมานาน
โครงการท่ 2 คิง เพาเวอรฺ คัพ 2559 ซึ่งมีผู้สนใจลงแข่งขัน 96 ทีม โดยได้คัดเลือกเยาวชนจากคิง เพาเวอร์ คัพ เข้าไปเป็นตัวแทนในโครงการ FOX HUNT ด้วย และในปี 2560 มีทีมสนใจเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ถึง 200 ทีม เป็นสัญญาณที่ดีของประเทศในอนาคตสำหรับวงการฟุตบอลเยาวชนไทย
โครงการที่ 3 คิง เพาเวอร์ คลีนิก ฟุตบอลไทย ที่จะนำเลสเตอร์มาใกสอนทักษะ สร้างengagement ร่วมกัน
โครงการที่ 4 สานฝันนักบอลสู่อาชีพ จาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากครอบครัวท่ขาดโอกาสในการเล่นกีฬา เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิต โดยเปิดโอกาสให้เด็กบินไปเล่นกับรุ่นอายุ 12 รวมทั้งพบปะกับนักฟุตบอลแถวหน้าของเลสเตอร์ ซิตี้
โดยจะพัฒนาจากต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ คือ"ต้นน้ำ" สร้างสนามฟุตบอล พร้อมอุปกรณ์ท่ได้มาตรฐาน "กลางน้ำ" นำสู่โครงการFox Hunt และ คิง เพาเวอร์ คัพ ควบคู่กับการสร้าง อคาเดมี ขึ้นในเมืองไทย และปลายน้ำ ส่งเข้าสโสมรนักเตะอาชีพใน OHL
สิ่งที่ได้พบเห็นจากเยาวชนนักฝันสะท้อนออกมาคือ ความฝันที่เป็นจริงเมื่อเด็ก ๆ ได้สัมผัสกับนักกีฬาระดับโลก ซึ่งนักเตะของเลสเตอร์ทุกคนยินดีเป็นต้นแบบปลุกพลังเยาวชนให้เกิดแรงบันดสลใจในการเป็นนักเตะอาชีพในระดับนานาชาติ
นายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การสานฝันนักเตะเยาวชนของประเทศเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้การเกิดการสร้าง "โอกาสและช่องทาง" ยกระดับตนเองเป็นนักกีฬาอสชีพ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย สอดคล้องกับนโยบายของสมาคมและบ้านเมืองเรา ที่จะนำพาไทยก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
ส่วนการเข้าไปซื้อ OHLในเบลเยี่ยม โดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เข้าไปเพื่ปูทางให้เด็กหรือเยาวชนได้เข้าไปสู่เส้นทางนักเตะของยุโรปได้ง่ายขึ้น
จึงนับเป็นพลังจากเอกชนโดยคิง เพาเวอร์ ที่จะทำให้นักเตะเยาวชนประสบความสำเร็จอย่างสง่างามในเวทีโลก
อีกทั้งยังได้ยินมาว่า คิง เพาเวอร์จะเดินหน้าภาย 5 ปี สร้างสนามฟุตบอล 100 สนาม ขนาดสนามเล่น 7 คน มาเติมเต็มการทำงานร่วมกันในแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะปัจจุบันในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ขาดแคลนมากคือโค้ชที่ขาดไลเซ่น มีโรงเรียนใน สพฐ. มีโค้ชเพียง 20 คน จึงต้องฝากคิง เพาเวอร์ ให้ใช้โครงการเหล่านี้สนับสนุนวงการกีฬาฟุตบอลให้เข้มแข็งในระดับเวทีโลกต่อไป
เปิดใจ3ผู้นำพาไทยประกาศศักยภาพเวทีโลก
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #kingpower # thaifest #AmazingThailand
"นายวิชัย ศรีวัฒนประภา" ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำทีมเปิดเผยว่า ความสำเร็จของการพัฒนาสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ปีที่ 3 ก้าวสู่สูงสุดพรีเมียร์ ลีก ปีที่ 4 ทำให้เป็นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ได้ ปีที่ 5 เข้าสู่ ยูฟ่า ยุโรป
ส่วนการสร้างโอกาสให้ "นักเตะเยาวชน" โดยซื้อOHLลีกดิวิชั่น 2 ของเบลเยี่ยม ผนวกเข้ากับประสบการณ์ที่มีมา รวมทั้งเงื่อยไขที่ยืดหยุ่นมากกว่าของการเปิดทางให้นักเตะไปเล่นในระดับอาชีพเพื่อเรียนรู้ฟุตบอลยุโรป จะเป็น "สะพาน" หรือประตูนำเด็กไทยไปสู่ระดับโลกได้ เป็นช่องทางให้เยาวชนไทยเติบโตในวงการกีฬา เรื่ยไปจนถึงกลุ่มเยาวชนนักเตะใน CLMV ด้วย
สิ่งที่อยากเห็นวงการฟุตบอลของประเทศไทย นั่นคือ ต้องนำสิ่งดีๆ ที่เกิดจากพลังคนไทยช่วยกันส่งเสริม ก็จะทำให้มีความเป็นไปได้ ที่จะทำให้เด็กไทย
ขณะที่ "นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ย้ำถึงโครงการ sPoRT POWER ของคิง เพาเวอร์ ที่จะสานฝันเยาวชนไทยไปสร้างความยิ่งใหญ่ในฟุตบอลโลก ว่า เป็นผลมาจากความสำเร็จของเลสเตอร์ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นได้ใส่ใจในทุกรายละเอียด สิ่งอำนวยความสะดวกด้านมาตรฐานสนามฟุตบอล เรื่อยไปจนถึงวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่สอดคล้องกับร่างกายของเยาวชน ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
กระทั่งในวันนี้ทุ่มเททำโปรเจ็กต์ตอบแทนสังคมและประเทศไทย ในโครงการแรก ในชื่อ KING POWER THAI POWER โเยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำเลสเตอร์จนประสบความสำเร็จ จึงเล็งเห็นว่า เราคิง เพาเวอร์ ทำได้ คนไทยและประเทศไทย ก็ทำได้
ผลจากการทำโครงการFOX HUNT รุ่น 1 โครงการนำเด็กไทยก้าวเข้าสู่เส้นทางสายอาชีพแล้ว เป็นการฝึกประสบการณ์จริงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จนขณะนี้นักเตะที่เข้าโครงการทั้ง 16 คน ได้เข้าสู่วงการค้าแข้งในสโสมร โพลิส ของเมืองไทย และOHL เบลเยี่ยม ครบทั้งหมดแล้ว ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาถึงเมืองไทยในช่วงเช้าคืนวันอาทิตย์และเข้ามาร่วมงานในวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาค ม 2560 ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ
นักเตะ FOX HUNT รุ่น 1 ล้วนผ่านการฝึกฝนตามมาตรฐานยุโรปจนจบหลักสูตร โดยต้องมีวินัยการฝึกด้วยตนเอง เกิดการเรียนรู้ สามารถนำกลับมาพัฒนาฟุตบอลในเมืองไทย สามารถนำมาถ่ายถอดด้วยการแชร์ให้เด็กรุ่นใหม่ในไทยได้ต่อไป
ระยะเริ่มต้นอาจจะไม่เห็นภาพชัด แต่พอผ่านไปสัก 4-5 รุ่น ก็จะเห็นพลังแห่งประสบการณ์ที่แต่ละรุ่นสั่งสมมานาน
โครงการท่ 2 คิง เพาเวอรฺ คัพ 2559 ซึ่งมีผู้สนใจลงแข่งขัน 96 ทีม โดยได้คัดเลือกเยาวชนจากคิง เพาเวอร์ คัพ เข้าไปเป็นตัวแทนในโครงการ FOX HUNT ด้วย และในปี 2560 มีทีมสนใจเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ถึง 200 ทีม เป็นสัญญาณที่ดีของประเทศในอนาคตสำหรับวงการฟุตบอลเยาวชนไทย
โครงการที่ 3 คิง เพาเวอร์ คลีนิก ฟุตบอลไทย ที่จะนำเลสเตอร์มาใกสอนทักษะ สร้างengagement ร่วมกัน
โครงการที่ 4 สานฝันนักบอลสู่อาชีพ จาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากครอบครัวท่ขาดโอกาสในการเล่นกีฬา เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิต โดยเปิดโอกาสให้เด็กบินไปเล่นกับรุ่นอายุ 12 รวมทั้งพบปะกับนักฟุตบอลแถวหน้าของเลสเตอร์ ซิตี้
โดยจะพัฒนาจากต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ คือ"ต้นน้ำ" สร้างสนามฟุตบอล พร้อมอุปกรณ์ท่ได้มาตรฐาน "กลางน้ำ" นำสู่โครงการFox Hunt และ คิง เพาเวอร์ คัพ ควบคู่กับการสร้าง อคาเดมี ขึ้นในเมืองไทย และปลายน้ำ ส่งเข้าสโสมรนักเตะอาชีพใน OHL
สิ่งที่ได้พบเห็นจากเยาวชนนักฝันสะท้อนออกมาคือ ความฝันที่เป็นจริงเมื่อเด็ก ๆ ได้สัมผัสกับนักกีฬาระดับโลก ซึ่งนักเตะของเลสเตอร์ทุกคนยินดีเป็นต้นแบบปลุกพลังเยาวชนให้เกิดแรงบันดสลใจในการเป็นนักเตะอาชีพในระดับนานาชาติ
นายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การสานฝันนักเตะเยาวชนของประเทศเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้การเกิดการสร้าง "โอกาสและช่องทาง" ยกระดับตนเองเป็นนักกีฬาอสชีพ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย สอดคล้องกับนโยบายของสมาคมและบ้านเมืองเรา ที่จะนำพาไทยก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
ส่วนการเข้าไปซื้อ OHLในเบลเยี่ยม โดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เข้าไปเพื่ปูทางให้เด็กหรือเยาวชนได้เข้าไปสู่เส้นทางนักเตะของยุโรปได้ง่ายขึ้น
จึงนับเป็นพลังจากเอกชนโดยคิง เพาเวอร์ ที่จะทำให้นักเตะเยาวชนประสบความสำเร็จอย่างสง่างามในเวทีโลก
อีกทั้งยังได้ยินมาว่า คิง เพาเวอร์จะเดินหน้าภาย 5 ปี สร้างสนามฟุตบอล 100 สนาม ขนาดสนามเล่น 7 คน มาเติมเต็มการทำงานร่วมกันในแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะปัจจุบันในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ขาดแคลนมากคือโค้ชที่ขาดไลเซ่น มีโรงเรียนใน สพฐ. มีโค้ชเพียง 20 คน จึงต้องฝากคิง เพาเวอร์ ให้ใช้โครงการเหล่านี้สนับสนุนวงการกีฬาฟุตบอลให้เข้มแข็งในระดับเวทีโลกต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น