ททท.อัดบิ๊กแคมเปญ นำญาญาตลุยปลุกเที่ยวไทยครึ่งปีหลัง-ชูGiveMeFiveขายอินเดีย เพิ่มNewGenจีน-ททท.กระหึ่มThanks4Millionโกยมาเลย์4.4ล้านคน
ททท.อัดบิ๊กแคมเปญครึ่งปีหลังนำญาญ่าปลุกเที่ยวไทย
ชูGiveMeFiveบุกอินเดีย-ผุดคลิปจีนสอบเสร็จทัวร์ไทย
คิงเพาเวอร์ผนึกลาแมร์เปิดช้อปใหญ่สุดในโลกที่รางน้ำ
ททท.จัดกระหึ่มThanks4Millionโกยมาเลย์4.4ล้านคน
บางจากจัดเต็มเช็ครถฟรี11รายการเติมฟูริโอลด 15 %
ปิดทองหลังพระนำชมมูลนิธิกาญจนบารมี จ.เลย
เที่ยวใกล้กรุงทำ5กิจกรรมชุมชนคลองเขื่อนฉเชิงเทรา
เลือกกินสารอาหาร3อย่างใกล้ตัวสร้างสุดยอดสายตาดี
ประมูลดิวตี้ฟรีรอบใหม่ทอท.ฉลุยไม่เข้าพรบ.ร่วมทุนฯ
อีลิตการ์ดจ่อรับผู้นำคนใหม่คุมเงินสดรื่นมือ2พันล้าน
จ็อบไทยชี้ท่องเที่ยวแห่จ้างงานเพิ่มกว่า2พันตำแหน่ง
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
ในวันเสาร์ที่ 20 เมษษยน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ #อะเมซิ่งไทยเท่ #ชุมชนคลองเขื่อนฉะเชิงเทรา #PinYourtrip
ช่วงที่ 1 ตามไปฟังบิ๊ก ททท. “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลุยขับเคลื่อนแผนสื่อสารตลาดครึ่งหลังปี’62 อัดแน่นด้วยกิจกรรมไฮไลต์เที่ยวต่อเนื่อง 6 เดือน “เม.ย.-ก.ย.” อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ อะเมซิ่ง ไทยเท่ “ญาญ่า” นำ Pin your Trip สร้างความปังตลาดคนไทยเที่ยวเมืองรองหลังสงกรานต์ เดินหน้าแคมเปญอินเดีย“Amazing Thailand Give Me Five” ผนึกอาลีบาบารุกจีนตลาดนิวเจนรุ่นใหม่ด้วยคลิปเด็ด “สอบเสร็จแล้วไปเที่ยวเมืองไทยกัน”
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าพร้อมลุยขับเคลื่อนกลยุทธ์สื่อสารการตลาดครึ่งปีหลัง ตลาดในประเทศ ด้วยโครงการ 1.อะเมซิ่ง ไทยเท่ ภายใต้แคมเปญ “Pin Your Trip-ตามล่าหาพิน” กับ ดาราดัง “ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บัน” ในเมืองท่องเที่ยวรอง ต่อเนื่องตลอด 2 เดือนนี้ เมษายน-31 พฤษภาคม 2562 ในพื้นที่ท่องเที่ยวมุมใหม่ ๆ ซึ่งจะมีความแรงในการกระตุ้นคนแต่ละวัยออกมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างคึกคัก ททท.ได้จัดทำพินสัญลักษณ์ปลุกการท่องเที่ยวเมืองรองด้วย 5 สไตล์ คือ 1.ควายน้ำ-พัทลุง 2.แพนด้าคราม-สกลนคร 3.สตรอบอรี่-เชียงราย แหล่งปลูกไร่สตรอบอรี่ 4.ทุเรียน-จันทบุรี และภาคตะวันออก 5.ลิงบนดอกทานตะวัน-ลพบุรี บนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของญาญ่าในหนังโฆษณาอะเมซิ่ง ไทยเท่ จะมีพินแต่ละชนิดเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา
ขณะนี้กระจายแจกพินครอบคลุม 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครนายก ขอนแก่น หาดใหญ่(สงขลา) นครศรีธรรมราช อุทัยธานี ลพบุรี ระยอง นครพนม โดยได้เปิดให้นักท่องเที่ยวนำตั๋วโดยสารเครื่องบิน ตั๋วเดินทางท่องเที่ยว และค่าใช้จ่ายมาแลกรับพินได้ตลอดช่วงเวลา 60 วันนี้ เฉพาะหลังสงกรานต์วันเดียว 17 เมษายน 2562 ก็มีนักท่องเที่ยวแห่กันมาแลกที่ ททท.สำนักงานใหญ่ถนนเพชรบุรีเป็นจำนวนมาก เป็นแม่เหล็กที่จะสร้างความแรงต่อเนื่องต่อไป ส่วนโครงการ “Local Hero-ปั้นคนท้องถิ่นคนต้นแบบนำเที่ยว” ด้วยกลยุทธ์จัดประกวดให้ทางพื้นที่ส่งมายัง ททท.เพื่อประชาสัมพันธ์ทาง off และ On line กำลังได้รับความสนใจมากเหมือนกัน
สำหรับอะเมซิ่ง ไทยเท่ ซึ่งเป็นร่มใหญ่ในการปูพรมภาพการท่องเที่ยวเมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวเท่ ๆ มากหลากหลายมุม โดยจะปรับเพิ่มรายละเอียดปฏิทินท่องเที่ยวแต่ละเดือนให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นตั้งแต่หลังสงกรานต์
เดือนแรก เมษายน 2562 การนำเสนอแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ พิธีพลีกรรม เพื่อนำจาก 107 แห่ง มาใช้ในพระราชพิธีราชาภิเษกอย่างสมพระเกียรติ ซึ่งน้ำตามวัดสำคัญ ๆ สามารถแนะนำให้คนไทยและนักท่องเที่ยวในประเทศไปกราบสักการะได้ เป็นเดือนต้อนรับปีใหม่ไทย
เดือนพฤษภาคม 2562 มีพระราชพิธีราชาภิเษก มหามงคล ททท.จะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อย่างยิ่งใหญ่ทั้งภายในประเทศและทั่วโลก
เดือนมิถุนายน 2562 สีสันแห่งฤดูเที่ยวสวนผลไม้ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ และอีกหลายประเทศแถบอาเซียนนิยมมาท่องเที่ยวกินผลไม้ สอดคล้องกับสวนผลไม้ภาคตะวันออก ภาคใต้ จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก
เดือนกรกฎาคม 2562 จัดทำ Green Tourism -การท่องเที่ยวหน้าฝน พุ่งเป้ารณรงค์ท่องเที่ยวอย่างมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม จึงได้ระดมสำนักงาน ททท.ทั่วประเทศ จัดทำกิจกรรมเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมโปรเจ็กต์ ลดโลกเลอะ เก็บขยะตามแหล่งท่องเที่ยว ควบคุมจำนวนขยะ ตลอดการเดินทางจะไม่สร้างความกระทบกระเทือนให้แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ
เดือนสิงหาคม 2562 จัดยิ่งใหญ่ “สิงหา...พาแม่เที่ยว” เฉลิมฉลองวันแม่ของแผ่นดิน ด้วยข้อความ “กลับบ้านไปกราบแม่” พร้อมการตั้งคำถามในหนังโฆษณาว่า “นานเท่าไรแล้ว ที่คุณไม่ได้กลับบ้านไปกราบแม่” เป็นคีย์หลัก
เดือนกันยายน 2562 ท่องเที่ยวสายน้ำใกล้งานสำคัญขบวนเรือพระราชพิธี ขณะนี้ทางกองทัพเรือแม่งานใหญ่กำลังนำเรือพระราชพิธีมาปรับปรุงตกแต่งอย่างงดงาม ควบคู่กับการฝึกฝีพาย โดยภาพรวมทุกจังหวัดที่นำแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็เตรียมจัดมหกรรมแข่งขันเรือยาวแห่งสายน้ำ อาทิ พิจิตร สิงห์บุรี อ่างทอง และอีกหลายจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสาขาต่าง ๆ ไหลผ่าน จะใช้เป็นธีมหลักปั่นกระแสการท่องเที่ยว
ทั้ง 6 เดือนนี้จะขับเคลื่อนสื่อสารการตลาดท่องเที่ยวในประเทศเชิงรุกภายใต้โปรเจ็กต์ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ อะเมซิ่ง ไทยเท่” เที่ยวเมืองไทยแล้วเท่ตามสถานที่ต่าง ๆ ซุกซ่อนในแต่ละเดือนตามที่กล่าวข้างต้น รวมทั้งการท่องเที่ยวคู่ขนานนำหลักฐานการเดินทางไปแลก Pin Your Trip ตลอด เมษายน-พฤษภาคม 2562 ด้วย
นายธเนศวร์กล่าวว่า การพลิกโฉมโฆษณาประชาสัมพันธ์กระตุ้นตลาดต่างประเทศ หัวใจหลักยังต้องทำให้ชื่อชั้น “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง พร้อมกับเสริมจุดแข็งความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวด้วย Open to the New Shades อยู่ในกิจกรรมทางการตลาดทุกสำนักงาน ททท.ทั่วโลก 29 แห่ง โดยเฉพาะในช่วงพฤษภาคม-กันยายน 2562 ตาม ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มามอบนโยบาย ททท.ในจังหวะประกาศให้ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ททท.สมัยที่ 2 ต่อเนื่องนั้น ททท.จะเพิ่มความเข้มข้นด้วยการพุ่งเป้าเจาะตลาดเอเชียประเทศหลัก ๆ
ได้แก่ อินเดีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ทุกสำนักงานจะต้องบุกเจาะขยายอย่างเต็มที่ โดยใช้พลังจาก 2 มาตรการ คือ 1.นโยบายขยายฟรีวีซ่า Visa On Arrival :VOA ในตลาดอินเดียปี 2562 และ จัดแคมเปญที่เหมาะกับ 2 ตลาด นี้ โดยอินเดียควรจะมีนักท่องเที่ยวมาไทยไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ต่อเนื่องจากปี 2561 มาแล้วถึง 1.5 ล้านคน ล่าสุดหารือกับทางคุณฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย แปซิฟิกใต้ ททท.สรุปหลัก ๆ ททท.จะร่วมมือกับสายการบินพันธมิตร รุกเจาะกลุ่มตลาดครอบครัวอินเดีย ซึ่งมาเมืองไทยแล้วชอบความสนุกสนานกับช้อปปิ้ง จะมีลูกเล่นในการทำตลาดอย่างแรก เสนอให้น้ำหนักสัมภาระกระเป๋าเดินทางอีก 5 กิโลกรัม ทำเป็นแคมเปญ Amazing Thailand Give Me Five : ตีมือกันพร้อมให้น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเพิ่มเข้าออกเมืองไทยอีก 5 กิโลกรัม ตอนนี้ทาง ททท.ในอินเดียทั้ง 2 สำนักงาน คือ เดลลี มุมไบ
มั่นใจหากนำ 1 มาตรการ VOA กับ 1 แคมเปญ รวมถึงการผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรในไทยทั้งกลุ่มสวนสนุก ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ พร้อมลดแลกแจกแถม จะทำให้แคมเปญดังกล่าวแข็งแรงมาก โดยจะนำไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ในอินเดียสร้างความ WoW ได้เริ่ม Kick off ได้ภายในพฤษภาคม นี้เป็นต้นไป
ตามแผนจะสื่อสารการตลาดเชื่อมโยง “ท่องเที่ยวเมืองรอง” เชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยด้วย เริ่มจากเมืองหลัก “พัทยา” เข้ากับจันทบุรี ระยอง ตราด จะต้องกระตุ้นให้ขยายไปแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว ส่วนกรุงเทพฯ ก็จะขยายไปยังสมุทรสงคราม สมุทรสาคร และอื่น ๆ
ตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเน้นเจาะกลุ่ม New Gen เพราะการทำส่งเสริมท่องเที่ยวทัวร์จีนจะบุกขายผ่านออนไลน์ โดยใช้เครือข่ายความสัมพันธ์กับทางดิจิทัลยักษ์ใหญ่ “อาลีบาบา” กลุ่มหลักที่มีจำนวนมหาศาลได้แก่ กลุ่มนักศึกษาจบใหม่เริ่มทำงาน และกลุ่มมีพาสปอร์ตเดินทางเล่มแรก ตอนนี้ทั้ง 2 กลุ่มในจีนพัฒนาไปไกลมากโดยมีคำโฆษณาเก๋ ๆ ด้วยภาษาจีนซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “สอบเสร็จแล้วไปเที่ยวเมืองไทยกัน” ททท.เตรียมสร้าง key word ดังกล่าวเป็น Clip สร้างกระแสสื่อสารการตลาดผ่านโฆษณาประชาสัมพันธ์ช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ จูงใจให้นักท่องเที่ยวเจเนเรชั่นใหม่ ๆ ของจีนซึ่งมีทักษะพูดภาษาอังกฤษได้ดี ใช้สมาร์ตโฟนและออนไลน์ เดินทางมาเที่ยวเมืองไทย จะเสริมสร้างกระแสการท่องเที่ยวเมืองรองและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เติบโตเพิ่มมากขึ้น
โดยจะผสมผสานโปรดักซ์ท่องเที่ยวแต่ละเดือนเข้าไปเพิ่มสีสันชวนจีนรุ่นใหม่เลือกเที่ยวด้วย เช่น เที่ยวสวนผลไม้ไปกินทุเรียน เงาะ และผลไม้ภาคตะวันออก เป็นแรงผลักดันให้เกิดการกระจายสู่ชุมชนตามสวนผลไม้ แคมเปญเจาะตลาดจีนรุ่นใหม่เชิงรุก ตอนนี้กำลังผลิตสื่อและเพิ่มน้ำหนักให้ครอบคลุมทุกด้านเพื่อทำให้สถานการณ์รายได้ครึ่งปีหลังหลั่งไหลเข้าเมืองไทยเพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง ข่าวที่ 1
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ผนึกลาแมร์จัดช้อปใหญ่สุดในโลกที่รางน้ำ”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ห้ามพลาดมหกรรม Crème de la Mer Jar Installation ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดความสูง 5 เมตร ณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เสาร์ 20-อาทิตย์ 21 เมษายน 2562 นี้ พบกับความร่วมมือ ระหว่าง คิง เพาเวอร์ ธุรกิจค้าปลีกท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทย กับ ลาแมร์ (La Mer) 0yfเฉลิมฉลองการมาถึงของ Installation กระปุก Crème de la Mer มอยซ์เจอไรเซอร์ ที่มีเนื้อสัมผัสหลากหลายระดับตำนาน ขนาดความสูงกว่า 5 เมตร ตั้งตระหง่านใต้โดม คราวน์ เอเทรียม เปิดโอกาสให้คนไทยได้สัมผัสผลิตภัณฑ์ลาแมร์
พบเรื่องราวเบื้องหลังการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ลาแมร์อย่างใกล้ชิด ในรูปแบบนิทรรศการอันน่าตื่นเต้น พิเศษเฉพาะลูกค้าคิง เพาเวอร์ เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ลาแมร์ภายในงานตามเงื่อนไขที่กำหนด รับฟรีกระเป๋า La Mer Luxury Travel Trunk Case พร้อมบริการเขียน Calligraphy สุดเอ็กซ์คลูซีฟ* แฟนคลับจะได้ฟังเรื่องราวของลาแมร์ Crème de la Mer มอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีผลวิจัยมากว่า 12 ปี ผ่านการทดลองมากกว่า 6,000 ครั้ง
โดย ดร.แมกซ์ ฮูเบอร์ (Dr. Max Huber) ผู้ที่ผิวได้ถูกทำร้ายจากอุบัติเหตุในห้องทดลอง ความลับของ Crème de la Mer อย่างเต็มศักยภาพแห่งการฟื้นฟูเซลล์ผิวของส่วนผสมหลักอย่าง Miracle Broth™ มอยซ์เจอไรเซอร์นี้จึงนำเอาคุณสมบัติของส่วนผสมจากท้องทะเลมาฟื้นบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใน Crème de la Mer Jar Installation ณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จัดแสดงนิทรรศการตั้งแต่ก้าวแรกสู่กระปุกยักษ์ โดยเนรมิตอาณาจักรใต้ท้องทะเลของลาแมร์ ผ่านเสียงคลื่นและแสงสีฟ้าอ่อนโยนใต้มหาสมุทร เปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมได้ทำความรู้จักกับมอยซ์เจอไรเซอร์ทั้ง 5 เนื้อสัมผัส ได้แก่
1.ครีมเข้มข้นเป็นพิเศษ (Rich) 2.ครีมเนียนนุ่ม (Soft) 3.โลชั่นเชียร์ (Sheer) 4.โลชั่นบาลานซ์ (Balanced) 5.เนื้อเจลเย็น (Cool) ผู้เยี่ยมชมสามารถค้นพบความลับของ Miracle Broth™ และกำแพง Crème de La Mer สุดอลังการของแบ็กดรอปสุดเพอร์เฟคให้ผู้เยี่ยมชมและอินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลาย ได้เก็บภาพความประทับใจสุดพิเศษนี้ด้วย รวมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญด้านการปรนนิบัติผิวของลาแมร์คอยให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลและขั้นตอนการบำรุงผิวด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ พร้อมแบ่งปันเคล็ดลับการดูแลผิวแบบ “Arrive Hydrated” ที่จะทำให้ผิวดูกระจ่างใสและแข็งแรงอยู่เสมอตลอดการเดินทาง
ข่าวที่ 2 “ททท.บุกจัด4Mllion Thanksตลาดมาเลย์”
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าในวันที่ 19 เมษายน 2562 ได้นำทีมไปพบปะกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในมาเลเซีย รวมกว่า 350 หน่วยงาน โดยได้ลงทุนจัดงาน กาลา ดินเนอร์ภายใต้ธีม Thanks 4 Million –Let’s Celebrate Songkran Festival ณ โรงแรม Mandarin Oriental Kuala Lumper เพื่อแสดงความขอบคุณ เพราะปี 2562 ตั้งเป้าเหมายเชิญชวนชาวมาเลเซียมาท่องเที่ยวเมืองไทยสูงถึง 4.4 คน ทำรายได้เข้าประเทศราว 127,785 ล้านบาท หลังจากปี 2561 ทำสถิติชวนมาเลเซียมาเที่ยวไทยทุบสถิติเป็นปีแรก 4.01 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17 %
ตลอดการจัดงาน Thanks 4 Million –Let’s Celebrate Songkran Festival ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการมาเลเซีย พร้อมกับการจัดแสดงจัดการแสดงทางวัฒนธรรม เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในเชิงบวกของนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่สนใจมาไทย พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้เกี่ยวข้องในวงการท่องเที่ยวของมาเลเซียด้วย
ททท.สำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวมาเลเซีย นิยมเดินทางท่องเที่ยวในไทยตามพื้นที่ยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ หาดใหญ่ (สงขลา) กรุงเทพฯ สุไหงโกลก เบตง (ยะลา) ภูเก็ต และเพิ่มจำนวนการเที่ยวทางทะเลสูงขึ้นใน กระบี่ สมุย (สุราษฎร์ธานี) และเที่ยวธรรมชาติภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย โดยชอบขับรถเป็นคาราวานผ่านเข้ามาทางด่านภาคใต้ รวมถึงใช้จ่ายเงินช้อปปิ้ง ท่องเที่ยวบันเทิง
ส่วนปริมาณเที่ยวบินระหว่าง ไทย-มาเลเซีย ช่วงตารางบิน มีนาคม-พฤศจิกายน 2561 มีรวม 351 เที่ยว/สัปดาห์ ไป-กลับ กรุงเทพฯ-กัวลาลัมเปอร์ แต่ละสัปดาห์ ประกอบด้วย 1.การบินไทย 14 เที่ยว 2.ไทยสไมล์ 7 เที่ยว 3.มาเลเซียแอร์ไลน์ส 42 เที่ยว กัวลาลัมเปอร์-ภูเก็ต 21 เที่ยว 4.บางกอกแอร์เวย์ส บิน กัวลาลัมเปอร์-สมุย 7 เที่ยว 5.ฟลายเออร์ฟลาย ปีนัง-ภูเก็ต 7 เที่ยว 6.มาลินโด แอร์เวย์ส บิน กัวลาลัมเปอร์ สู่กรุงเทพฯ 21 เที่ยว สู่ภูเก็ต 11 เที่ยว สู่หาดใหญ่ 4 เที่ยว และปีนัง-หาดใหญ่ 4 เที่ยว 7.รอยัล โจดาเนียน บิน กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพฯ 3 เที่ยว
ขณะที่ แอร์เอเชียมาเลเซีย มีเที่ยวบิน ไป-กลับ จากกัวลาลัมเปอร์เข้าสู่ 9 จังหวัดของไทย ด้วยจำนวนเที่ยวบินตรงในแต่ละสัปดาห์ ดังนี้ 1.กรุงเทพฯ 59 เที่ยว 2.ภูเก็ต 38 เที่ยว 3.กระบี่ 21 เที่ยว 4.สุราษฎร์ธานี 4 เที่ยว 5.หัวหิน 7 เที่ยว 6.อู่ตะเภา(พัทยา) 4 เที่ยว 7.เชียงใหม่ 14 เที่ยว 8.เชียงราย 3 เที่ยว และ 9.โจโฮบารู-กรุงเทพฯ 4 เที่ยว
ส่วนไทย แอร์ เอเชีย มีเที่ยวบินแต่ละสัปดาห์ ไป-กลับ ดังนี้ กัวลาลัมเปอร์ สู่ 1.กรุงเทพฯ 25 เที่ยว 2.หาดใหญ่ 11 เที่ยว 3.ปีนัง-กรุงเทพฯ 14 เที่ยว 4.โจโฮบารู-กรุงเทพฯ 3 เที่ยว 5.โคตาคีนาบาลู-กรุงเทพฯ 3 เที่ยว
ข่าวที่ 3 “บางจากเปิดตรวจรถฟรี11รายการเติมFurioราคาพิเศษ29ปั๊ม”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มิตรแท้นักเดินทาง บริการตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” รับส่วนลดน้ำมันเครื่อง FURiO สูงสุด 15% ระหว่างวันนี้ - 31 พฤษภาคม 2562 โดยร่วมกับศูนย์บริการฟิวริโอแคร์ และวอชโปร และกรมการขนส่งทางบก จัดโปรโมชั่น มิตรแท้นักเดินทาง ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย พร้อมส่วนลดน้ำมันเครื่อง FURiO Care F 1 และ F2 สูงสูด 15 % รายการตรวจรถฟรี 11 รายการ ดังนี้
1. ตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง 2. ตรวจเช็คน้ำมันเบรก / คลัทช์ 3. ตรวจเช็คน้ำมันเกียร์ธรรมดา / อัตโนมัติ 4. ตรวจเช็คน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ 5. ตรวจเช็คน้ำฉีดกระจก 6. ตรวจเช็คน้ำในหม้อน้ำ / ฝาหม้อน้ำ
7. ตรวจเช็คทำความสะอาดกรองอากาศ / กรองแอร์ห้องโดยสาร 8. ตรวจเช็คสายพานเครื่องยนต์ / เพาเวอร์ / แอร์ 9. ตรวจเช็คแบตเตอรี่ - น้ำกลั่น / ขั้ว 10. ตรวจเช็คน้ำมันเฟืองท้าย และ 11. ตรวจเช็คสภาพยาง / เติมลมยาง โดยมีสถานีน้ำมันบางจากทั้งในกรุงเทพฯ รอบปริมณฑล และต่างจังหวัด เข้าร่วมโครงการกว่าถึง 29 ปั๊มด้วยกัน
ตรวจสอบข้อมูลได้ในเว็บไซต์ www.bangchak.co.th
ข่าวที่ 4 “ปิดทองหลังพระนำชมมูลนิธิกาญจนบารมี จ.เลย”
มูลนิธิปิดทองหลังพระ รายงานว่า เตรียมนำทีมลงพื้นที่เยี่ยมชมพื้นที่ “มูลนิธิกาญจนบารมี” โครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย หนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการสาธารณสุข ที่แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
เมื่อครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระราชทานพระราชดำริให้ก่อตั้ง “โครงการกาญจนบารมี” ขึ้น ด้วยทรงห่วงใยและคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรไทยในด้านสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับความทุกข์ยากจากการเจ็บป่วย ยากไร้และขาดโอกาส คือ และทรงเป็นประธาน จัดสร้างศูนย์บำบัดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพื่อลดความทุกข์ยากลำบากในการเดินทางมารับการรักษา
ต่อมา ยกสถานะขึ้นเป็นโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี ให้บริการรักษาผู้ป่วยมะเร็งทุกประเภทปีละมากกว่า 2,000 ราย รวมทั้งให้ความรู้ในการป้องกัน การดูแลรักษาทั้งทางร่างกายและจิตใจสำหรับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายให้มีความสุข ถือเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านมะเร็งที่ครบวงจรและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ
ปี 2540 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “มูลนิธิกาญจนบารมี” ขึ้น เป็นกองทุนสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาล และดูแลผู้ป่วยที่ยากไร้ขาดโอกาสให้ได้รับการดูแล ด้วยโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านม (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาสขึ้น เพื่อค้นหาผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกล มีฐานะยากจนและขาดโอกาส ให้ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็ง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นโรคร้ายที่ผู้หญิงไทยป่วยและเสียชีวิตในอัตราสูง
ปัจจุบันการดำเนินงานโครงการเข้าสู่ระยะที่ 5 มีการออกหน่วยคัดกรองมะเร็งเคลื่อนที่ ทั่วประเทศ 76 จังหวัด รวมแล้ว 763 ครั้ง (ณ สิ้นสุดวันที่ 30 มีนาคม 2562) มีการตรวจคัดกรองมะเร็งให้กับผู้หญิงกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ห่างไกลไปแล้วมากกว่า 200,000 คน พบผู้ป่วยมากกว่า 1,500ราย ที่ถูกส่งต่อไปรับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเหมาะสม
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยใกล้กรุงอุดหนุนเศรษฐกิจฐานราก ต้องออกไปเที่ยว “ชุมชนคลองเขื่อน” จ.ฉะเชิงเทรา มีกิจกรรมดีให้ทำ 5 อย่าง ส่วนการดูแลสุขภาพ “เลือกกินสารอาหารบำรุงสายตา” 3 อย่างหาได้ง่ายในชีวิตแต่ละวัน ตามติดข่าวฮ็อต ๆ “เฮรับประมูลดิวตี้ฟรีรอบใหม่ไม่เข้า PPP” ทอท.โล่งใจลุยขายทีโออาร์เร่งทำให้เสร็จตามขั้นตอนได้ภายในปี’62 “อีลิตการ์ดจ่อเปิดรับสมัครผู้นำคนใหม่” พ.ค.นี้ คึกเงินสดล้นมือกว่า 2,000 ล้านบาท ด้าน “JobThai” ชี้กลุ่มท่องเที่ยวแห่จ้างงานเพิ่มมีนาคมเดือนเดียวกว่า 2,000 อัตรา ค่าจ้างขั้นต่ำเดือนละหมื่นบาท
@ทัวร์เกษตรใกล้กรุง5อย่างในชุมชนคลองเขื่อน ฉะเชิงเทรา
การพลิกฟื้นทุ่งนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนของชาว “คลองเขื่อน” ในอำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา มีสีสันและเสน่ห์แรงดึงดูดนักท่องเที่ยวยุคนี้ให้เข้าไปชม “การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม” นำจุดเด่นเรื่องพื้นที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอม มะม่วงที่มีถึง 40 กว่าสายพันธุ์ และผักพื้นบ้าน เช่น ตะไคร้ พริก มะกรูด มาเชิญชวนคนเข้าไปชมโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางระยะใกล้ และนิยมเดินทางสัมผัสธรรมชาติ ออกมาสูดอากาศที่สดชื่นเพื่อการพักผ่อน แทนที่จะใช้วันหยุดในการอาศัยอยู่กับตึกสูง และพื้นที่หนาแน่น ปัจจุบันตลาดท่องเที่ยวของจังหวัดยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง และที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เป็นหลัก
เมื่อเดินทางไปถึงคลองเขื่อน สถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสนใจเป็นพิเศษ แนะนำให้ไปชม 5 อย่าง ดังนี้
อย่างแรก เข้าไปชมฐานเรียนรู้การเกษตร ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในการทำเกษตรกรรมนาไร่ และสวนผลไม้ การสร้างบ้านดิน วิถีชีวิตชาวบ้านริมแม่น้ำบางปะกง ล่าสุดยังเปิดให้มีการเรียนรู้การปลูกหญ้าแฝกเพื่อใช้เป็นแนวทางป้องกันปัญหาการเกิดน้ำท่วมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีศูนย์การเรียนรู้แบ่งออกเป็นศูย์ย่อยๆอีกมากมาย เช่น กลุ่มเรียนรู้วิสาหกิจ เป็นต้น
อย่างที่ 2 ต้องเลือกโฮมสเตย์ที่พักอาศัยกับชาวบ้านในท้องถิ่น
อย่างที่ 3 ช้อปและซื้อหาสินค้าที่ระลึก และอาหารพื้นบ้านคาว – หวาน ทางการเกษตร อาทิ ข้าว มะม่วง มะพร้าวน้ำหอม กระยาศาสตร์ ขนมไทยพื้นบ้าน รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ต่อยอดจากวัสดุทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อป 4 หมู่บ้าน ที่องค์การพัฒนาชุมชนเข้ามาให้ความรู้ อาทิ กะลามะพร้าวน้ำหอม ซึ่งนำมามาพัฒนาเป็นของใช้หลากหลายรูปแบบ
อย่างที่ 4 ชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอุทยานพระพิฆเนศองค์ยืน วัดสำคัญต่างๆ จำนวน 10 แห่ง อาทิ กราบไหว้หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ที่วัดใหม่กรมยาน ที่เกาะรัด ต. บางตลาด อ.คลองเขื่อน หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว มณฑปวัดบ้านกล้วย 200 ปี ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่คนจีนมาสร้างและเก็บพระสำคัญไว้ในมณฑป
อย่างที่ 5 อุดหนุนสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่น และอาหารการกินมีทั้งคาวหวานยอดนิยม 5 ประเภท ได้แก่ 1.ข้าวหอมขาว ข้าวกล้อง ข้าวหอมนิล ซึ่งอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างดีเพราะปลูกในเขตชลประทาน 2.มะพร้าวน้ำหอม มะม่วง 3.กระยาศาสตร์ 4.กาละแม 5.กล้วยกรอบ
สนใจท่องเที่ยวชุมชน โทรประสานงานได้ที่คุณสุชาติ เสน่ห์หา คณะกรรมการชุมชนบ้านคลองเขื่อน จ. ฉะเชิงเทรา โทร. 081 – 590 - 4909
@สารอาหารที่รับประทานแล้วดีต่อสายตา
สารอาหารที่รับประทาน แล้วดีต่อสายตานั้นมีอยู่หลายประเภท จึงขอยกตัวอย่างสารอาหารที่สำคัญและสามารถหารับประทานได้ทั่วไป
1. โอเมก้า 3 เป็นไขมันที่ช่วยลดอาการตาแห้งอันเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง และ การโดนแสงแดดเป็นเวลานาน พบได้ในอาหารจำ่พวกปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไข่ไก่ หรือเต้าหูถั่วเหลือง
2. วิตามินเอ มีความสำคัญเป็นอย่างมากกับการมองเห็นของคนเรา เพราะการขาดวิตามินเอจะทำให้เราตาบอดในเวลากลางคืนได้ และอาจทำให้ตาบอดในที่สุด วิธีป้องกันสามารถทำได้โดย การรับประทานไข่ หรือผักที่มีสีเหลือง หรือสีส้ม เช่น แครอท ฟักทอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริม เนื่องจากวิตามินเอหากได้รับมากเกินไปอาจจะเป็นพิษต่อร่างกายได้
3. สารต้านอนุมูลอิสระ มีการศึกษาพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นต้อกระจก หรือโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ อาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ผักและผลไม้ต่าง ๆ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ทอท.-เอกชนรอเฮโปรเจ็กต์ประมูลดิวตี้ฟรีไม่ต้องเข้าพรบ.ร่วมทุน”
คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บอร์ด PPPs) เปิดเผยว่าขณะนี้มีความเป็นไปได้ที่โครงการเปิดประมูล กิจการร้านค้าปลอดอากร (duty free) ตามที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ขอหารือในที่ประชุมต่อเนื่องกัน 2 ครั้ง เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน 2562 ในท้ายที่สุดแล้วจะเป็นกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็น ในกิจการท่าอากาศยานตามมาตรา 7 วรรค 2 ของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เพราะถึงแม้ท่าอากาศยานไม่มีดิวตี้ฟรี ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อกิจการท่าอากาศยานแต่อย่างใด
ตามระเบียบปฏิบัติทางอนุกรรมการด้านกฎหมายจะต้องเสนอข้อสรุปนี้ให้คณะกรรมการ PPPs ชุดที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติรับทราบ จากนั้นช่วงปลายเดือนเมษายน 2562 จึงจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบออกประกาศตามมาตรา 7 วรรค 2 ดังกล่าว
ทั้งนี้ ทอท.ได้เปิดขายซองทีโออาร์การให้เอกชนที่สนใจร่วมประมูลสิทธิดิวตี้ฟรีไปในช่วง 1-18 เมษายน 2562
นัดฟังคำชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม 22 เมษายน นี้
นัดดูสถานที่ประกอบการ 23 เมษายน 2562 เวลา 09.00-12.00 น.
พร้อมกำหนดยื่นข้อเสนอการดำเนินงาน 22 พฤษภาคม 2562 นำเสนอผลงาน ข้อเสนอทางเทคนิค
27 พฤษภาคม 2562 เปิดซองเสนอค่าตอบแทน 28 พฤษภาคม 2562
และประกาศผลคะแนนสูงสุด 31 พฤษภาคม 2562
ข่าวที่สอง “อีลิตการ์ดจ่อรับผู้นำคนใหม่ พ.ค.นี้ปลื้มเงินสดล้นมือ”
นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านบริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการ การสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่คนใหม่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด :TPC เจ้าของบัตรสมาชิกไทยแลนด์อีลิทการ์ด ตามระเบียบปฏิบัติของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)จะเริ่มขั้นตอนประกาศรับสมัครได้ช่วงพฤษภาคม 2562 นับไป 150 วัน ผู้ที่สนใจลงสมัครชิงตำแหน่งดังกล่าวรอตรวจสอบคุณสมบัติตามประกาศในเร็ว ๆ นี้ได้
ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังเปิดดำเนินการผ่านมา 15 ปี บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เริ่มมีกระแสเงินสดหมุนเวียนกว่า 2,000 ล้านบาท ยกเว้นการบันทึกระบบบัญชียังขาดทุนสะสม 600 ล้านบาท ตามสภาพของอายุบัตรที่ระบุให้สมาชิกถือครองได้คนละ 20 ปี
ข่าวที่สาม “JobThaiโชว์ท่องเที่ยวแห่จ้างงานเพิ่มกว่า2พันตำแหน่ง”
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย (JobThai) กล่าวว่า ขณะนี้ JobThai ในฐานะผู้ให้บริการหางาน สมัครงาน ออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศไทย ได้รวบรวมสถิติการเปิดรับสมัครงานภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมเดือนมีนาคม 2562 มีความต้องการจ้างแรงงานสูงถึง 2,309 อัตรา เติบโตตามกระแสการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ การเปิดรับมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1.งานขาย จำนวน 131 อัตรา ได้ เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15,000-35,000 บาท (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น)
2.งานล่าม/มัคคุเทศก์/จองห้อง/จองตั๋ว 122 อัตรา ยุโรป เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13,000-25,000 บาท (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น)
3.งานอาหาร-เครื่องดื่ม จำนวน 99 อัตรา เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น)
4.งานบัญชี 65 อัตรา เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12,000 - 35,000 บาท
5.งานช่างเทคนิค 35 อัตรา เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 11,000 - 15,000 บาท ดังนั้นทาง JobThai จึงพยากรณ์ความต้องการแรงงานของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมยังคงเติบโตต่อเนื่องเพราะปัจจัยบวกหลายอย่างเป็นแรงส่งทั้งเรื่อง เข้าสู่ช่วงเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวของไทย บวกกับมาตรการของภาครัฐกระตุ้นการท่องเที่ยว ล้วนเป็นปัจจัยหนุนทำให้ความต้องการจ้างแรงงานเพิ่มสูงตามไปด้วย
ข่าวที่สี่ “หวั่นครัวเรือนกังวล3เดือนหน้าเม.ย.-มิ.ย.ค่าใช้จ่ายชะตัว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุถึงดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ 47.4 มาอยู่ที่ 47.0 ซึ่งจะสะท้อนถึงภาคครัวเรือนมีความกังวลมากขึ้นในช่วงระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้สิน) ที่ต้องเพิ่มขึ้นในกิจกรรมต่าง ๆ 3 ปัจจัยหลักได้แก่
1.เทศกาลสงกรานต์ ต้องใช้เงินทำบุญ ท่องเที่ยว เดินทางกลับภูมิลำเนา พบปะสังสรรค์กับเครือญาติและเพื่อนฝูง
2.สถานการณ์ราคาสินค้าและบริการภายในประเทศหลายรายการกำลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่ม พลังงานและบริการพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ระดับราคาสินค้าและบริการภายในประเทศปรับตัวเร่งขึ้น
3.การปรับขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางจะมีผลบังคับใช้ 22 เมษายน นี้เป็นต้นไป หลังจากยืดเวลาจากเดิมมาแล้ว 3 เดือน เดิมต้องขึ้นตั้งแต่มกราคมปีนี้
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ชูGiveMeFiveบุกอินเดีย-ผุดคลิปจีนสอบเสร็จทัวร์ไทย
คิงเพาเวอร์ผนึกลาแมร์เปิดช้อปใหญ่สุดในโลกที่รางน้ำ
ททท.จัดกระหึ่มThanks4Millionโกยมาเลย์4.4ล้านคน
บางจากจัดเต็มเช็ครถฟรี11รายการเติมฟูริโอลด 15 %
ปิดทองหลังพระนำชมมูลนิธิกาญจนบารมี จ.เลย
เที่ยวใกล้กรุงทำ5กิจกรรมชุมชนคลองเขื่อนฉเชิงเทรา
เลือกกินสารอาหาร3อย่างใกล้ตัวสร้างสุดยอดสายตาดี
ประมูลดิวตี้ฟรีรอบใหม่ทอท.ฉลุยไม่เข้าพรบ.ร่วมทุนฯ
อีลิตการ์ดจ่อรับผู้นำคนใหม่คุมเงินสดรื่นมือ2พันล้าน
จ็อบไทยชี้ท่องเที่ยวแห่จ้างงานเพิ่มกว่า2พันตำแหน่ง
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
ในวันเสาร์ที่ 20 เมษษยน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ #อะเมซิ่งไทยเท่ #ชุมชนคลองเขื่อนฉะเชิงเทรา #PinYourtrip
ช่วงที่ 1 ตามไปฟังบิ๊ก ททท. “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลุยขับเคลื่อนแผนสื่อสารตลาดครึ่งหลังปี’62 อัดแน่นด้วยกิจกรรมไฮไลต์เที่ยวต่อเนื่อง 6 เดือน “เม.ย.-ก.ย.” อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ อะเมซิ่ง ไทยเท่ “ญาญ่า” นำ Pin your Trip สร้างความปังตลาดคนไทยเที่ยวเมืองรองหลังสงกรานต์ เดินหน้าแคมเปญอินเดีย“Amazing Thailand Give Me Five” ผนึกอาลีบาบารุกจีนตลาดนิวเจนรุ่นใหม่ด้วยคลิปเด็ด “สอบเสร็จแล้วไปเที่ยวเมืองไทยกัน”
ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) |
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าพร้อมลุยขับเคลื่อนกลยุทธ์สื่อสารการตลาดครึ่งปีหลัง ตลาดในประเทศ ด้วยโครงการ 1.อะเมซิ่ง ไทยเท่ ภายใต้แคมเปญ “Pin Your Trip-ตามล่าหาพิน” กับ ดาราดัง “ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บัน” ในเมืองท่องเที่ยวรอง ต่อเนื่องตลอด 2 เดือนนี้ เมษายน-31 พฤษภาคม 2562 ในพื้นที่ท่องเที่ยวมุมใหม่ ๆ ซึ่งจะมีความแรงในการกระตุ้นคนแต่ละวัยออกมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างคึกคัก ททท.ได้จัดทำพินสัญลักษณ์ปลุกการท่องเที่ยวเมืองรองด้วย 5 สไตล์ คือ 1.ควายน้ำ-พัทลุง 2.แพนด้าคราม-สกลนคร 3.สตรอบอรี่-เชียงราย แหล่งปลูกไร่สตรอบอรี่ 4.ทุเรียน-จันทบุรี และภาคตะวันออก 5.ลิงบนดอกทานตะวัน-ลพบุรี บนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของญาญ่าในหนังโฆษณาอะเมซิ่ง ไทยเท่ จะมีพินแต่ละชนิดเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา
ขณะนี้กระจายแจกพินครอบคลุม 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครนายก ขอนแก่น หาดใหญ่(สงขลา) นครศรีธรรมราช อุทัยธานี ลพบุรี ระยอง นครพนม โดยได้เปิดให้นักท่องเที่ยวนำตั๋วโดยสารเครื่องบิน ตั๋วเดินทางท่องเที่ยว และค่าใช้จ่ายมาแลกรับพินได้ตลอดช่วงเวลา 60 วันนี้ เฉพาะหลังสงกรานต์วันเดียว 17 เมษายน 2562 ก็มีนักท่องเที่ยวแห่กันมาแลกที่ ททท.สำนักงานใหญ่ถนนเพชรบุรีเป็นจำนวนมาก เป็นแม่เหล็กที่จะสร้างความแรงต่อเนื่องต่อไป ส่วนโครงการ “Local Hero-ปั้นคนท้องถิ่นคนต้นแบบนำเที่ยว” ด้วยกลยุทธ์จัดประกวดให้ทางพื้นที่ส่งมายัง ททท.เพื่อประชาสัมพันธ์ทาง off และ On line กำลังได้รับความสนใจมากเหมือนกัน
สำหรับอะเมซิ่ง ไทยเท่ ซึ่งเป็นร่มใหญ่ในการปูพรมภาพการท่องเที่ยวเมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวเท่ ๆ มากหลากหลายมุม โดยจะปรับเพิ่มรายละเอียดปฏิทินท่องเที่ยวแต่ละเดือนให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นตั้งแต่หลังสงกรานต์
เดือนแรก เมษายน 2562 การนำเสนอแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ พิธีพลีกรรม เพื่อนำจาก 107 แห่ง มาใช้ในพระราชพิธีราชาภิเษกอย่างสมพระเกียรติ ซึ่งน้ำตามวัดสำคัญ ๆ สามารถแนะนำให้คนไทยและนักท่องเที่ยวในประเทศไปกราบสักการะได้ เป็นเดือนต้อนรับปีใหม่ไทย
เดือนพฤษภาคม 2562 มีพระราชพิธีราชาภิเษก มหามงคล ททท.จะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อย่างยิ่งใหญ่ทั้งภายในประเทศและทั่วโลก
เดือนมิถุนายน 2562 สีสันแห่งฤดูเที่ยวสวนผลไม้ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ และอีกหลายประเทศแถบอาเซียนนิยมมาท่องเที่ยวกินผลไม้ สอดคล้องกับสวนผลไม้ภาคตะวันออก ภาคใต้ จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก
เดือนกรกฎาคม 2562 จัดทำ Green Tourism -การท่องเที่ยวหน้าฝน พุ่งเป้ารณรงค์ท่องเที่ยวอย่างมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม จึงได้ระดมสำนักงาน ททท.ทั่วประเทศ จัดทำกิจกรรมเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมโปรเจ็กต์ ลดโลกเลอะ เก็บขยะตามแหล่งท่องเที่ยว ควบคุมจำนวนขยะ ตลอดการเดินทางจะไม่สร้างความกระทบกระเทือนให้แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ
เดือนสิงหาคม 2562 จัดยิ่งใหญ่ “สิงหา...พาแม่เที่ยว” เฉลิมฉลองวันแม่ของแผ่นดิน ด้วยข้อความ “กลับบ้านไปกราบแม่” พร้อมการตั้งคำถามในหนังโฆษณาว่า “นานเท่าไรแล้ว ที่คุณไม่ได้กลับบ้านไปกราบแม่” เป็นคีย์หลัก
เดือนกันยายน 2562 ท่องเที่ยวสายน้ำใกล้งานสำคัญขบวนเรือพระราชพิธี ขณะนี้ทางกองทัพเรือแม่งานใหญ่กำลังนำเรือพระราชพิธีมาปรับปรุงตกแต่งอย่างงดงาม ควบคู่กับการฝึกฝีพาย โดยภาพรวมทุกจังหวัดที่นำแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็เตรียมจัดมหกรรมแข่งขันเรือยาวแห่งสายน้ำ อาทิ พิจิตร สิงห์บุรี อ่างทอง และอีกหลายจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสาขาต่าง ๆ ไหลผ่าน จะใช้เป็นธีมหลักปั่นกระแสการท่องเที่ยว
ทั้ง 6 เดือนนี้จะขับเคลื่อนสื่อสารการตลาดท่องเที่ยวในประเทศเชิงรุกภายใต้โปรเจ็กต์ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ อะเมซิ่ง ไทยเท่” เที่ยวเมืองไทยแล้วเท่ตามสถานที่ต่าง ๆ ซุกซ่อนในแต่ละเดือนตามที่กล่าวข้างต้น รวมทั้งการท่องเที่ยวคู่ขนานนำหลักฐานการเดินทางไปแลก Pin Your Trip ตลอด เมษายน-พฤษภาคม 2562 ด้วย
นายธเนศวร์กล่าวว่า การพลิกโฉมโฆษณาประชาสัมพันธ์กระตุ้นตลาดต่างประเทศ หัวใจหลักยังต้องทำให้ชื่อชั้น “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง พร้อมกับเสริมจุดแข็งความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวด้วย Open to the New Shades อยู่ในกิจกรรมทางการตลาดทุกสำนักงาน ททท.ทั่วโลก 29 แห่ง โดยเฉพาะในช่วงพฤษภาคม-กันยายน 2562 ตาม ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มามอบนโยบาย ททท.ในจังหวะประกาศให้ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ททท.สมัยที่ 2 ต่อเนื่องนั้น ททท.จะเพิ่มความเข้มข้นด้วยการพุ่งเป้าเจาะตลาดเอเชียประเทศหลัก ๆ
ได้แก่ อินเดีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ทุกสำนักงานจะต้องบุกเจาะขยายอย่างเต็มที่ โดยใช้พลังจาก 2 มาตรการ คือ 1.นโยบายขยายฟรีวีซ่า Visa On Arrival :VOA ในตลาดอินเดียปี 2562 และ จัดแคมเปญที่เหมาะกับ 2 ตลาด นี้ โดยอินเดียควรจะมีนักท่องเที่ยวมาไทยไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ต่อเนื่องจากปี 2561 มาแล้วถึง 1.5 ล้านคน ล่าสุดหารือกับทางคุณฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย แปซิฟิกใต้ ททท.สรุปหลัก ๆ ททท.จะร่วมมือกับสายการบินพันธมิตร รุกเจาะกลุ่มตลาดครอบครัวอินเดีย ซึ่งมาเมืองไทยแล้วชอบความสนุกสนานกับช้อปปิ้ง จะมีลูกเล่นในการทำตลาดอย่างแรก เสนอให้น้ำหนักสัมภาระกระเป๋าเดินทางอีก 5 กิโลกรัม ทำเป็นแคมเปญ Amazing Thailand Give Me Five : ตีมือกันพร้อมให้น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเพิ่มเข้าออกเมืองไทยอีก 5 กิโลกรัม ตอนนี้ทาง ททท.ในอินเดียทั้ง 2 สำนักงาน คือ เดลลี มุมไบ
มั่นใจหากนำ 1 มาตรการ VOA กับ 1 แคมเปญ รวมถึงการผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรในไทยทั้งกลุ่มสวนสนุก ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ พร้อมลดแลกแจกแถม จะทำให้แคมเปญดังกล่าวแข็งแรงมาก โดยจะนำไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ในอินเดียสร้างความ WoW ได้เริ่ม Kick off ได้ภายในพฤษภาคม นี้เป็นต้นไป
ตามแผนจะสื่อสารการตลาดเชื่อมโยง “ท่องเที่ยวเมืองรอง” เชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยด้วย เริ่มจากเมืองหลัก “พัทยา” เข้ากับจันทบุรี ระยอง ตราด จะต้องกระตุ้นให้ขยายไปแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว ส่วนกรุงเทพฯ ก็จะขยายไปยังสมุทรสงคราม สมุทรสาคร และอื่น ๆ
ตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเน้นเจาะกลุ่ม New Gen เพราะการทำส่งเสริมท่องเที่ยวทัวร์จีนจะบุกขายผ่านออนไลน์ โดยใช้เครือข่ายความสัมพันธ์กับทางดิจิทัลยักษ์ใหญ่ “อาลีบาบา” กลุ่มหลักที่มีจำนวนมหาศาลได้แก่ กลุ่มนักศึกษาจบใหม่เริ่มทำงาน และกลุ่มมีพาสปอร์ตเดินทางเล่มแรก ตอนนี้ทั้ง 2 กลุ่มในจีนพัฒนาไปไกลมากโดยมีคำโฆษณาเก๋ ๆ ด้วยภาษาจีนซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “สอบเสร็จแล้วไปเที่ยวเมืองไทยกัน” ททท.เตรียมสร้าง key word ดังกล่าวเป็น Clip สร้างกระแสสื่อสารการตลาดผ่านโฆษณาประชาสัมพันธ์ช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ จูงใจให้นักท่องเที่ยวเจเนเรชั่นใหม่ ๆ ของจีนซึ่งมีทักษะพูดภาษาอังกฤษได้ดี ใช้สมาร์ตโฟนและออนไลน์ เดินทางมาเที่ยวเมืองไทย จะเสริมสร้างกระแสการท่องเที่ยวเมืองรองและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เติบโตเพิ่มมากขึ้น
โดยจะผสมผสานโปรดักซ์ท่องเที่ยวแต่ละเดือนเข้าไปเพิ่มสีสันชวนจีนรุ่นใหม่เลือกเที่ยวด้วย เช่น เที่ยวสวนผลไม้ไปกินทุเรียน เงาะ และผลไม้ภาคตะวันออก เป็นแรงผลักดันให้เกิดการกระจายสู่ชุมชนตามสวนผลไม้ แคมเปญเจาะตลาดจีนรุ่นใหม่เชิงรุก ตอนนี้กำลังผลิตสื่อและเพิ่มน้ำหนักให้ครอบคลุมทุกด้านเพื่อทำให้สถานการณ์รายได้ครึ่งปีหลังหลั่งไหลเข้าเมืองไทยเพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง ข่าวที่ 1
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ผนึกลาแมร์จัดช้อปใหญ่สุดในโลกที่รางน้ำ”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ห้ามพลาดมหกรรม Crème de la Mer Jar Installation ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดความสูง 5 เมตร ณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เสาร์ 20-อาทิตย์ 21 เมษายน 2562 นี้ พบกับความร่วมมือ ระหว่าง คิง เพาเวอร์ ธุรกิจค้าปลีกท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทย กับ ลาแมร์ (La Mer) 0yfเฉลิมฉลองการมาถึงของ Installation กระปุก Crème de la Mer มอยซ์เจอไรเซอร์ ที่มีเนื้อสัมผัสหลากหลายระดับตำนาน ขนาดความสูงกว่า 5 เมตร ตั้งตระหง่านใต้โดม คราวน์ เอเทรียม เปิดโอกาสให้คนไทยได้สัมผัสผลิตภัณฑ์ลาแมร์
พบเรื่องราวเบื้องหลังการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ลาแมร์อย่างใกล้ชิด ในรูปแบบนิทรรศการอันน่าตื่นเต้น พิเศษเฉพาะลูกค้าคิง เพาเวอร์ เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ลาแมร์ภายในงานตามเงื่อนไขที่กำหนด รับฟรีกระเป๋า La Mer Luxury Travel Trunk Case พร้อมบริการเขียน Calligraphy สุดเอ็กซ์คลูซีฟ* แฟนคลับจะได้ฟังเรื่องราวของลาแมร์ Crème de la Mer มอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีผลวิจัยมากว่า 12 ปี ผ่านการทดลองมากกว่า 6,000 ครั้ง
โดย ดร.แมกซ์ ฮูเบอร์ (Dr. Max Huber) ผู้ที่ผิวได้ถูกทำร้ายจากอุบัติเหตุในห้องทดลอง ความลับของ Crème de la Mer อย่างเต็มศักยภาพแห่งการฟื้นฟูเซลล์ผิวของส่วนผสมหลักอย่าง Miracle Broth™ มอยซ์เจอไรเซอร์นี้จึงนำเอาคุณสมบัติของส่วนผสมจากท้องทะเลมาฟื้นบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใน Crème de la Mer Jar Installation ณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จัดแสดงนิทรรศการตั้งแต่ก้าวแรกสู่กระปุกยักษ์ โดยเนรมิตอาณาจักรใต้ท้องทะเลของลาแมร์ ผ่านเสียงคลื่นและแสงสีฟ้าอ่อนโยนใต้มหาสมุทร เปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมได้ทำความรู้จักกับมอยซ์เจอไรเซอร์ทั้ง 5 เนื้อสัมผัส ได้แก่
1.ครีมเข้มข้นเป็นพิเศษ (Rich) 2.ครีมเนียนนุ่ม (Soft) 3.โลชั่นเชียร์ (Sheer) 4.โลชั่นบาลานซ์ (Balanced) 5.เนื้อเจลเย็น (Cool) ผู้เยี่ยมชมสามารถค้นพบความลับของ Miracle Broth™ และกำแพง Crème de La Mer สุดอลังการของแบ็กดรอปสุดเพอร์เฟคให้ผู้เยี่ยมชมและอินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลาย ได้เก็บภาพความประทับใจสุดพิเศษนี้ด้วย รวมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญด้านการปรนนิบัติผิวของลาแมร์คอยให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลและขั้นตอนการบำรุงผิวด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ พร้อมแบ่งปันเคล็ดลับการดูแลผิวแบบ “Arrive Hydrated” ที่จะทำให้ผิวดูกระจ่างใสและแข็งแรงอยู่เสมอตลอดการเดินทาง
ข่าวที่ 2 “ททท.บุกจัด4Mllion Thanksตลาดมาเลย์”
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าในวันที่ 19 เมษายน 2562 ได้นำทีมไปพบปะกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในมาเลเซีย รวมกว่า 350 หน่วยงาน โดยได้ลงทุนจัดงาน กาลา ดินเนอร์ภายใต้ธีม Thanks 4 Million –Let’s Celebrate Songkran Festival ณ โรงแรม Mandarin Oriental Kuala Lumper เพื่อแสดงความขอบคุณ เพราะปี 2562 ตั้งเป้าเหมายเชิญชวนชาวมาเลเซียมาท่องเที่ยวเมืองไทยสูงถึง 4.4 คน ทำรายได้เข้าประเทศราว 127,785 ล้านบาท หลังจากปี 2561 ทำสถิติชวนมาเลเซียมาเที่ยวไทยทุบสถิติเป็นปีแรก 4.01 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17 %
ตลอดการจัดงาน Thanks 4 Million –Let’s Celebrate Songkran Festival ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการมาเลเซีย พร้อมกับการจัดแสดงจัดการแสดงทางวัฒนธรรม เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในเชิงบวกของนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่สนใจมาไทย พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้เกี่ยวข้องในวงการท่องเที่ยวของมาเลเซียด้วย
ททท.สำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวมาเลเซีย นิยมเดินทางท่องเที่ยวในไทยตามพื้นที่ยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ หาดใหญ่ (สงขลา) กรุงเทพฯ สุไหงโกลก เบตง (ยะลา) ภูเก็ต และเพิ่มจำนวนการเที่ยวทางทะเลสูงขึ้นใน กระบี่ สมุย (สุราษฎร์ธานี) และเที่ยวธรรมชาติภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย โดยชอบขับรถเป็นคาราวานผ่านเข้ามาทางด่านภาคใต้ รวมถึงใช้จ่ายเงินช้อปปิ้ง ท่องเที่ยวบันเทิง
ส่วนปริมาณเที่ยวบินระหว่าง ไทย-มาเลเซีย ช่วงตารางบิน มีนาคม-พฤศจิกายน 2561 มีรวม 351 เที่ยว/สัปดาห์ ไป-กลับ กรุงเทพฯ-กัวลาลัมเปอร์ แต่ละสัปดาห์ ประกอบด้วย 1.การบินไทย 14 เที่ยว 2.ไทยสไมล์ 7 เที่ยว 3.มาเลเซียแอร์ไลน์ส 42 เที่ยว กัวลาลัมเปอร์-ภูเก็ต 21 เที่ยว 4.บางกอกแอร์เวย์ส บิน กัวลาลัมเปอร์-สมุย 7 เที่ยว 5.ฟลายเออร์ฟลาย ปีนัง-ภูเก็ต 7 เที่ยว 6.มาลินโด แอร์เวย์ส บิน กัวลาลัมเปอร์ สู่กรุงเทพฯ 21 เที่ยว สู่ภูเก็ต 11 เที่ยว สู่หาดใหญ่ 4 เที่ยว และปีนัง-หาดใหญ่ 4 เที่ยว 7.รอยัล โจดาเนียน บิน กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพฯ 3 เที่ยว
ขณะที่ แอร์เอเชียมาเลเซีย มีเที่ยวบิน ไป-กลับ จากกัวลาลัมเปอร์เข้าสู่ 9 จังหวัดของไทย ด้วยจำนวนเที่ยวบินตรงในแต่ละสัปดาห์ ดังนี้ 1.กรุงเทพฯ 59 เที่ยว 2.ภูเก็ต 38 เที่ยว 3.กระบี่ 21 เที่ยว 4.สุราษฎร์ธานี 4 เที่ยว 5.หัวหิน 7 เที่ยว 6.อู่ตะเภา(พัทยา) 4 เที่ยว 7.เชียงใหม่ 14 เที่ยว 8.เชียงราย 3 เที่ยว และ 9.โจโฮบารู-กรุงเทพฯ 4 เที่ยว
ส่วนไทย แอร์ เอเชีย มีเที่ยวบินแต่ละสัปดาห์ ไป-กลับ ดังนี้ กัวลาลัมเปอร์ สู่ 1.กรุงเทพฯ 25 เที่ยว 2.หาดใหญ่ 11 เที่ยว 3.ปีนัง-กรุงเทพฯ 14 เที่ยว 4.โจโฮบารู-กรุงเทพฯ 3 เที่ยว 5.โคตาคีนาบาลู-กรุงเทพฯ 3 เที่ยว
ข่าวที่ 3 “บางจากเปิดตรวจรถฟรี11รายการเติมFurioราคาพิเศษ29ปั๊ม”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มิตรแท้นักเดินทาง บริการตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” รับส่วนลดน้ำมันเครื่อง FURiO สูงสุด 15% ระหว่างวันนี้ - 31 พฤษภาคม 2562 โดยร่วมกับศูนย์บริการฟิวริโอแคร์ และวอชโปร และกรมการขนส่งทางบก จัดโปรโมชั่น มิตรแท้นักเดินทาง ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย พร้อมส่วนลดน้ำมันเครื่อง FURiO Care F 1 และ F2 สูงสูด 15 % รายการตรวจรถฟรี 11 รายการ ดังนี้
1. ตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง 2. ตรวจเช็คน้ำมันเบรก / คลัทช์ 3. ตรวจเช็คน้ำมันเกียร์ธรรมดา / อัตโนมัติ 4. ตรวจเช็คน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ 5. ตรวจเช็คน้ำฉีดกระจก 6. ตรวจเช็คน้ำในหม้อน้ำ / ฝาหม้อน้ำ
7. ตรวจเช็คทำความสะอาดกรองอากาศ / กรองแอร์ห้องโดยสาร 8. ตรวจเช็คสายพานเครื่องยนต์ / เพาเวอร์ / แอร์ 9. ตรวจเช็คแบตเตอรี่ - น้ำกลั่น / ขั้ว 10. ตรวจเช็คน้ำมันเฟืองท้าย และ 11. ตรวจเช็คสภาพยาง / เติมลมยาง โดยมีสถานีน้ำมันบางจากทั้งในกรุงเทพฯ รอบปริมณฑล และต่างจังหวัด เข้าร่วมโครงการกว่าถึง 29 ปั๊มด้วยกัน
ตรวจสอบข้อมูลได้ในเว็บไซต์ www.bangchak.co.th
ข่าวที่ 4 “ปิดทองหลังพระนำชมมูลนิธิกาญจนบารมี จ.เลย”
มูลนิธิปิดทองหลังพระ รายงานว่า เตรียมนำทีมลงพื้นที่เยี่ยมชมพื้นที่ “มูลนิธิกาญจนบารมี” โครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย หนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการสาธารณสุข ที่แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
เมื่อครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระราชทานพระราชดำริให้ก่อตั้ง “โครงการกาญจนบารมี” ขึ้น ด้วยทรงห่วงใยและคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรไทยในด้านสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับความทุกข์ยากจากการเจ็บป่วย ยากไร้และขาดโอกาส คือ และทรงเป็นประธาน จัดสร้างศูนย์บำบัดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพื่อลดความทุกข์ยากลำบากในการเดินทางมารับการรักษา
ต่อมา ยกสถานะขึ้นเป็นโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี ให้บริการรักษาผู้ป่วยมะเร็งทุกประเภทปีละมากกว่า 2,000 ราย รวมทั้งให้ความรู้ในการป้องกัน การดูแลรักษาทั้งทางร่างกายและจิตใจสำหรับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายให้มีความสุข ถือเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านมะเร็งที่ครบวงจรและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ
ปี 2540 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “มูลนิธิกาญจนบารมี” ขึ้น เป็นกองทุนสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาล และดูแลผู้ป่วยที่ยากไร้ขาดโอกาสให้ได้รับการดูแล ด้วยโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านม (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาสขึ้น เพื่อค้นหาผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกล มีฐานะยากจนและขาดโอกาส ให้ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็ง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นโรคร้ายที่ผู้หญิงไทยป่วยและเสียชีวิตในอัตราสูง
ปัจจุบันการดำเนินงานโครงการเข้าสู่ระยะที่ 5 มีการออกหน่วยคัดกรองมะเร็งเคลื่อนที่ ทั่วประเทศ 76 จังหวัด รวมแล้ว 763 ครั้ง (ณ สิ้นสุดวันที่ 30 มีนาคม 2562) มีการตรวจคัดกรองมะเร็งให้กับผู้หญิงกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ห่างไกลไปแล้วมากกว่า 200,000 คน พบผู้ป่วยมากกว่า 1,500ราย ที่ถูกส่งต่อไปรับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเหมาะสม
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยใกล้กรุงอุดหนุนเศรษฐกิจฐานราก ต้องออกไปเที่ยว “ชุมชนคลองเขื่อน” จ.ฉะเชิงเทรา มีกิจกรรมดีให้ทำ 5 อย่าง ส่วนการดูแลสุขภาพ “เลือกกินสารอาหารบำรุงสายตา” 3 อย่างหาได้ง่ายในชีวิตแต่ละวัน ตามติดข่าวฮ็อต ๆ “เฮรับประมูลดิวตี้ฟรีรอบใหม่ไม่เข้า PPP” ทอท.โล่งใจลุยขายทีโออาร์เร่งทำให้เสร็จตามขั้นตอนได้ภายในปี’62 “อีลิตการ์ดจ่อเปิดรับสมัครผู้นำคนใหม่” พ.ค.นี้ คึกเงินสดล้นมือกว่า 2,000 ล้านบาท ด้าน “JobThai” ชี้กลุ่มท่องเที่ยวแห่จ้างงานเพิ่มมีนาคมเดือนเดียวกว่า 2,000 อัตรา ค่าจ้างขั้นต่ำเดือนละหมื่นบาท
@ทัวร์เกษตรใกล้กรุง5อย่างในชุมชนคลองเขื่อน ฉะเชิงเทรา
การพลิกฟื้นทุ่งนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนของชาว “คลองเขื่อน” ในอำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา มีสีสันและเสน่ห์แรงดึงดูดนักท่องเที่ยวยุคนี้ให้เข้าไปชม “การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม” นำจุดเด่นเรื่องพื้นที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอม มะม่วงที่มีถึง 40 กว่าสายพันธุ์ และผักพื้นบ้าน เช่น ตะไคร้ พริก มะกรูด มาเชิญชวนคนเข้าไปชมโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางระยะใกล้ และนิยมเดินทางสัมผัสธรรมชาติ ออกมาสูดอากาศที่สดชื่นเพื่อการพักผ่อน แทนที่จะใช้วันหยุดในการอาศัยอยู่กับตึกสูง และพื้นที่หนาแน่น ปัจจุบันตลาดท่องเที่ยวของจังหวัดยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง และที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เป็นหลัก
เมื่อเดินทางไปถึงคลองเขื่อน สถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสนใจเป็นพิเศษ แนะนำให้ไปชม 5 อย่าง ดังนี้
อย่างแรก เข้าไปชมฐานเรียนรู้การเกษตร ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในการทำเกษตรกรรมนาไร่ และสวนผลไม้ การสร้างบ้านดิน วิถีชีวิตชาวบ้านริมแม่น้ำบางปะกง ล่าสุดยังเปิดให้มีการเรียนรู้การปลูกหญ้าแฝกเพื่อใช้เป็นแนวทางป้องกันปัญหาการเกิดน้ำท่วมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีศูนย์การเรียนรู้แบ่งออกเป็นศูย์ย่อยๆอีกมากมาย เช่น กลุ่มเรียนรู้วิสาหกิจ เป็นต้น
อย่างที่ 2 ต้องเลือกโฮมสเตย์ที่พักอาศัยกับชาวบ้านในท้องถิ่น
อย่างที่ 3 ช้อปและซื้อหาสินค้าที่ระลึก และอาหารพื้นบ้านคาว – หวาน ทางการเกษตร อาทิ ข้าว มะม่วง มะพร้าวน้ำหอม กระยาศาสตร์ ขนมไทยพื้นบ้าน รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ต่อยอดจากวัสดุทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อป 4 หมู่บ้าน ที่องค์การพัฒนาชุมชนเข้ามาให้ความรู้ อาทิ กะลามะพร้าวน้ำหอม ซึ่งนำมามาพัฒนาเป็นของใช้หลากหลายรูปแบบ
อย่างที่ 4 ชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอุทยานพระพิฆเนศองค์ยืน วัดสำคัญต่างๆ จำนวน 10 แห่ง อาทิ กราบไหว้หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ที่วัดใหม่กรมยาน ที่เกาะรัด ต. บางตลาด อ.คลองเขื่อน หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว มณฑปวัดบ้านกล้วย 200 ปี ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่คนจีนมาสร้างและเก็บพระสำคัญไว้ในมณฑป
อย่างที่ 5 อุดหนุนสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่น และอาหารการกินมีทั้งคาวหวานยอดนิยม 5 ประเภท ได้แก่ 1.ข้าวหอมขาว ข้าวกล้อง ข้าวหอมนิล ซึ่งอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างดีเพราะปลูกในเขตชลประทาน 2.มะพร้าวน้ำหอม มะม่วง 3.กระยาศาสตร์ 4.กาละแม 5.กล้วยกรอบ
สนใจท่องเที่ยวชุมชน โทรประสานงานได้ที่คุณสุชาติ เสน่ห์หา คณะกรรมการชุมชนบ้านคลองเขื่อน จ. ฉะเชิงเทรา โทร. 081 – 590 - 4909
@สารอาหารที่รับประทานแล้วดีต่อสายตา
สารอาหารที่รับประทาน แล้วดีต่อสายตานั้นมีอยู่หลายประเภท จึงขอยกตัวอย่างสารอาหารที่สำคัญและสามารถหารับประทานได้ทั่วไป
1. โอเมก้า 3 เป็นไขมันที่ช่วยลดอาการตาแห้งอันเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง และ การโดนแสงแดดเป็นเวลานาน พบได้ในอาหารจำ่พวกปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไข่ไก่ หรือเต้าหูถั่วเหลือง
2. วิตามินเอ มีความสำคัญเป็นอย่างมากกับการมองเห็นของคนเรา เพราะการขาดวิตามินเอจะทำให้เราตาบอดในเวลากลางคืนได้ และอาจทำให้ตาบอดในที่สุด วิธีป้องกันสามารถทำได้โดย การรับประทานไข่ หรือผักที่มีสีเหลือง หรือสีส้ม เช่น แครอท ฟักทอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริม เนื่องจากวิตามินเอหากได้รับมากเกินไปอาจจะเป็นพิษต่อร่างกายได้
3. สารต้านอนุมูลอิสระ มีการศึกษาพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นต้อกระจก หรือโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ อาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ผักและผลไม้ต่าง ๆ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ทอท.-เอกชนรอเฮโปรเจ็กต์ประมูลดิวตี้ฟรีไม่ต้องเข้าพรบ.ร่วมทุน”
คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บอร์ด PPPs) เปิดเผยว่าขณะนี้มีความเป็นไปได้ที่โครงการเปิดประมูล กิจการร้านค้าปลอดอากร (duty free) ตามที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ขอหารือในที่ประชุมต่อเนื่องกัน 2 ครั้ง เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน 2562 ในท้ายที่สุดแล้วจะเป็นกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็น ในกิจการท่าอากาศยานตามมาตรา 7 วรรค 2 ของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เพราะถึงแม้ท่าอากาศยานไม่มีดิวตี้ฟรี ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อกิจการท่าอากาศยานแต่อย่างใด
ตามระเบียบปฏิบัติทางอนุกรรมการด้านกฎหมายจะต้องเสนอข้อสรุปนี้ให้คณะกรรมการ PPPs ชุดที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติรับทราบ จากนั้นช่วงปลายเดือนเมษายน 2562 จึงจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบออกประกาศตามมาตรา 7 วรรค 2 ดังกล่าว
ทั้งนี้ ทอท.ได้เปิดขายซองทีโออาร์การให้เอกชนที่สนใจร่วมประมูลสิทธิดิวตี้ฟรีไปในช่วง 1-18 เมษายน 2562
นัดฟังคำชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม 22 เมษายน นี้
นัดดูสถานที่ประกอบการ 23 เมษายน 2562 เวลา 09.00-12.00 น.
พร้อมกำหนดยื่นข้อเสนอการดำเนินงาน 22 พฤษภาคม 2562 นำเสนอผลงาน ข้อเสนอทางเทคนิค
27 พฤษภาคม 2562 เปิดซองเสนอค่าตอบแทน 28 พฤษภาคม 2562
และประกาศผลคะแนนสูงสุด 31 พฤษภาคม 2562
ข่าวที่สอง “อีลิตการ์ดจ่อรับผู้นำคนใหม่ พ.ค.นี้ปลื้มเงินสดล้นมือ”
นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านบริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการ การสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่คนใหม่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด :TPC เจ้าของบัตรสมาชิกไทยแลนด์อีลิทการ์ด ตามระเบียบปฏิบัติของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)จะเริ่มขั้นตอนประกาศรับสมัครได้ช่วงพฤษภาคม 2562 นับไป 150 วัน ผู้ที่สนใจลงสมัครชิงตำแหน่งดังกล่าวรอตรวจสอบคุณสมบัติตามประกาศในเร็ว ๆ นี้ได้
ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังเปิดดำเนินการผ่านมา 15 ปี บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เริ่มมีกระแสเงินสดหมุนเวียนกว่า 2,000 ล้านบาท ยกเว้นการบันทึกระบบบัญชียังขาดทุนสะสม 600 ล้านบาท ตามสภาพของอายุบัตรที่ระบุให้สมาชิกถือครองได้คนละ 20 ปี
ข่าวที่สาม “JobThaiโชว์ท่องเที่ยวแห่จ้างงานเพิ่มกว่า2พันตำแหน่ง”
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย (JobThai) กล่าวว่า ขณะนี้ JobThai ในฐานะผู้ให้บริการหางาน สมัครงาน ออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศไทย ได้รวบรวมสถิติการเปิดรับสมัครงานภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมเดือนมีนาคม 2562 มีความต้องการจ้างแรงงานสูงถึง 2,309 อัตรา เติบโตตามกระแสการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ การเปิดรับมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1.งานขาย จำนวน 131 อัตรา ได้ เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15,000-35,000 บาท (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น)
2.งานล่าม/มัคคุเทศก์/จองห้อง/จองตั๋ว 122 อัตรา ยุโรป เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13,000-25,000 บาท (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น)
3.งานอาหาร-เครื่องดื่ม จำนวน 99 อัตรา เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท (ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น)
4.งานบัญชี 65 อัตรา เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12,000 - 35,000 บาท
5.งานช่างเทคนิค 35 อัตรา เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 11,000 - 15,000 บาท ดังนั้นทาง JobThai จึงพยากรณ์ความต้องการแรงงานของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมยังคงเติบโตต่อเนื่องเพราะปัจจัยบวกหลายอย่างเป็นแรงส่งทั้งเรื่อง เข้าสู่ช่วงเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวของไทย บวกกับมาตรการของภาครัฐกระตุ้นการท่องเที่ยว ล้วนเป็นปัจจัยหนุนทำให้ความต้องการจ้างแรงงานเพิ่มสูงตามไปด้วย
ข่าวที่สี่ “หวั่นครัวเรือนกังวล3เดือนหน้าเม.ย.-มิ.ย.ค่าใช้จ่ายชะตัว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุถึงดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ 47.4 มาอยู่ที่ 47.0 ซึ่งจะสะท้อนถึงภาคครัวเรือนมีความกังวลมากขึ้นในช่วงระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้สิน) ที่ต้องเพิ่มขึ้นในกิจกรรมต่าง ๆ 3 ปัจจัยหลักได้แก่
1.เทศกาลสงกรานต์ ต้องใช้เงินทำบุญ ท่องเที่ยว เดินทางกลับภูมิลำเนา พบปะสังสรรค์กับเครือญาติและเพื่อนฝูง
2.สถานการณ์ราคาสินค้าและบริการภายในประเทศหลายรายการกำลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่ม พลังงานและบริการพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ระดับราคาสินค้าและบริการภายในประเทศปรับตัวเร่งขึ้น
3.การปรับขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางจะมีผลบังคับใช้ 22 เมษายน นี้เป็นต้นไป หลังจากยืดเวลาจากเดิมมาแล้ว 3 เดือน เดิมต้องขึ้นตั้งแต่มกราคมปีนี้
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น