ททท.ภาคใต้ปั้นบิ๊กโปรเจ็กต์ชีพจรลงเซาท์ว้าวทุกสไตล์14จังหวัดปี63-More Fun!!CSRเกาะสีชังเพาะปูม้าปลูกปะการังสนุกสุดๆ
ททท.ภาคใต้โชว์แผนตลาดบิ๊กโปรเจ็กต์เที่ยว14จังหวัดปี’63
ชีพจรลงเซาท์ว้าวทุกสไตล์ดันยอดคนไทยเททัวร์ใต้พุ่ง35%
อัยยวัฒน์นำคิงเพาเวอร์สมทบรัฐช่วยน้ำท่วม10ล้านบาท
สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์ออนออฟไลน์รับทันทีส่วนลด20%
ททท.ผนึกคลังชวน10ล้านคนไทยชิมช้อปใช้เริ่ม 23 ก.ย.นี้
More Funตะวันออกบูมเที่ยววิ่งควายเมืองชล
6-12 ต.ค.
บางจากจ่อออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ฯเตรียมขยายการลงทุนใหญ่
TCEBแนะธุรกิจไมซ์ใช้3กลยุทธ์จัดอีเวนต์งานเฟสติวัลให้ปัง
MoreFun!!CSRเกาะสีชังเพาะปูม้าปลูกปะการังคืนทะเล
ดูแลสุขภาพ7วิธีลดกินอาหารหวานมันเค็มปิ้งย่างผัดทอด
งัดแคมเปญ”กรุงเทพ-มา-หา-นคร”ปลุกคนเที่ยวเมืองคอน
มิวเซียมสยามเปิดฟรีนิทรรศการ5ไฮไลต์ลายสัก3ชาติพันธุ์
ทราเวลโลโกเทตั๋วบินห้องพักรถเช่า25-29ก.ย.ลดสุดๆ80%
ต้อนรับเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
#รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋
#ชีพจรลงเซาท์
#วันธรรมดาน่าเที่ยว #เที่ยวไทย365วัน #ทททภูมิภาคภาคใต้ #MoreFunCSRเกาะสีชัง
ช่วงที่ 1 ฟังแผนการตลาดอันเข้มข้นจาก “นิธี สีแพร”
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ผนึกเครือข่ายทุกกลุ่มเปิดแนวรุกท่องเที่ยวปี 2563 ดึงรายได้ไหลเข้าสู่ภาคใต้ 14 จังหวัด 365
วัน
ด้วยบิ๊กโปรเจ็กต์ CSR ชุมชน
บิลด์ขายวันธรรมดาน่าเที่ยว ปลุกคนไทยพุ่ง 35 % กับ
ชีพจรลงเซาท์ ว้าว ทุกสไตล์ จัดทัพสินค้าขึ้นห้าง ททท.ดีพาร์ทเมนท์สโตร์
จัดทัพเส้นทางกินแหลกสารพัดวิถีวัฒนธรรมอาหาร ไทย จีน มุสลิม
ความสุขที่พบได้ทุกเวลาจากชุมพรไปจนถึงชายแดนใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส
นิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) |
นายนิธี
สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ได้วางแผนตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวภาคใต้ 14 จังหวัด ปี 2563 รุกเจาะไลฟ์สไตล์คนในประเทศ ตามคอนเซ็ปต์ใหญ่ของ
ททท.ระบุท่องเที่ยวเมืองไทย สวยทุกที่ เท่ทุกสไตล์ จึงได้ทำกลยุทธ์ชูชีพจรลงเซาท์
ว้าว ทุกสไตล์ เพราะภาคใต้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย
ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไปจะเร่งนำเรื่องวิถีชีวิตและอาหารการกินซึ่งมีเรื่องราวความแตกต่างกันไป
เล็งกลุ่มวัยทำงานเพิ่มมากขึ้น
มีกำลังซื้อมาท่องเที่ยวและใช้จ่ายจริงในพื้นที่ตลอดทั้งปี
ไฮไลต์การท่องเที่ยววิถีต่าง
ๆ
โดยเฉพาะการท่องเที่ยววิถีชุมชนภาคใต้ได้จัดเตรียมไว้จำนวนมากเพื่อตอบโจทย์หลายกลุ่มหลายวัย
เช่น “ชุมพร-ระนอง-สุราษฎร์ธานี” ทำธีมกินสบาย ๆ ได้เรียนรู้จากภูผาสู่มหานที
เน้นเรื่องวิถีกิน เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเกษตร ประมง ผู้ที่ชื่นชอบเข้าสวน
ล่องเรือ ตามป่าโกงกาง จะชวนไปท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานีมีสายน้ำลำคลอง เช่น
คลองร้อยสาย น้ำลายสอ เป็นพื้นที่มีของกินมากมาย
เปิดเวทีให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำหมาจาก ต้มส้มปลากระบอก ทำโดยน้ำส้มจาก
หรือกิจกรรมกินหอยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีหอยนางรมจำนวนมากอยู่ตามขนำกลางทะเลเป็นฟาร์มเลี้ยงหอยนางรม
สำหรับพื้นที่
“นครศรีธรรมราช-พัทลุง-ตรัง” มีไลฟ์สไตล์การกินแบบ “ดั้งเดิม เสริมความเชื่อ” เป็นวิถีการไหว้พระ รับพลัง
ร่วมกิจกรรมงานประเพณีต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีอาหารการกินตามความเชื่อ เช่น
สารทเดือนสิบ นครศรีธรรมราช จะมีขนมลา ขนมพอง หรือ พัทลุง
กินข้าวเหนียวดำแช่น้ำว่าน เชื่อเรื่องอยู่ยงคงกระพัน หรือ ตรัง
กินหมูย่างแล้วชีวิตเมื่อลงมือทำสิ่งใดแล้วจะได้หมู ๆ และการไปลอดถ้ำเลเขากอบ
ก็คล้ายได้ลอดท้องมังกร
ส่วนเมืองชายแดน
“สงขลา-สตูล-ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส” จะชูธีม “การกินหลากสไตล์ หลายวัฒนธรรม”
จะได้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันด้วยความแตกต่างของวัฒนธรรมการกินและเชื้อสายไทย จีน
มุสลิม
ขณะเดียวกันทางพื้นที่บริเวณนี้จะให้
“สงขลา” เป็นศูนย์กลางของแอ่งพื้นที่ เช่น สงขลา-สตูล เชื่อมโยงการท่องเที่ยว 2
ฝั่งทะเล หรือสงขลาไปยัง 3 จังหวัดแดนใต้ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา
ก็จะแยกให้เห็นถึงจุดแข็งแตกต่างกัน มีอาหารมุสลิม มีให้เลือกมากมาย ตัวอย่าง
การไปกินแกงตอแมะกับข้าวพันคำที่บ้านเกรตรี จ.สตูล หรืออาหารทะเลสด ๆ
และล่องเรือไปชมสันหลังมังกร แล้วไปไก่เบตง ยะลา ก็เลือกได้ตามความชอบของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม
ทางบริเวณจังหวัดหลัก
“ภูเก็ต-กระบี่-พังงา” ชูธีม “กินหรู อยู่สบาย” บรรยากาศไลฟ์สไตล์ชีล ๆ
คู่รักที่ชอบบรรยากาศโรแมนติกเป็นส่วนตัว ก็มีแพกเกจ Phuket Luxperience,
Krabi Premium และ
พังงาเวลาเป็นของคุณ และ Samui in Love
ผอ.นิธีกล่าวว่าจะเร่งสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในโครงการ
“วันธรรมดา น่าเที่ยว” โดยเฉพาะเมืองศูนย์กลางธุรกิจอย่าง สุราษฎร์ธานี สงขลา
นครศรีธรรมราช วันเสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลมาเป็นจำนวนมาก
ส่วนวันธรรมดาก็จะเน้นเจาะกลุ่มประชุมสัมมนา ทางด้านเมืองหลัก ภูเก็ต กระบี่ พังงา
สมุย ส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดาผนวกกับนอกฤดูท่องเที่ยว
โดยมีโปรโมชั่นสุดพิเศษมาก ๆ ไว้ให้เลือกเที่ยวอย่างเต็มที่
ปี 2563
จะต้องชูโรงการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ
(responsibility tourism)
ผสมผสานการท่องเที่ยวบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility
: CSR)
ในพื้นที่ภาคใต้มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวร่วมทำมากมายในฐานะเมืองท่องเที่ยวชายทะเลต้องรณรงค์การดูแลรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างมาก
กิจกรรมที่จะกระตุ้นให้ทำตลอดทั้งปี ได้แก่ การเก็บขยะในทะเลซึ่งทุกคนให้ความสำคัญ
ขณะนี้ผู้ประกอบการชุมชน โรงแรม และอื่น ๆ ในจังหวัดกระบี่ ได้จัดทำโครงการ Andaman
Go Green ซึ่งเน้นความสำคัญของการสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวสะอาดตามคอนเซ็ปต์
7 Green มีทั้ง Green
Attraction, logistic, Service , Hearth โดย
ททท.ได้นำมาร้อยเรียงเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสีเขียวเข้าไปทำซีเอสอาร์ชุมชน
ภาคใต้จะย้ำเน้นการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วยคอนเซ็ปต์
“ชีพจรลงเซาท์ เรารักเล” ซึ่งมีทั้งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน
โดยเฉพาะอันดามันจะพุ่งเป้าทำเรื่อง Go Green เปิดตัวการทำกิจกรรมแต่ละประเภทแจกสวิงให้เรือท่องเที่ยวช่วยกันตักขยะขึ้นเรือมาไว้บนฝั่ง
ทางด้านทะเลอ่าวไทยทำเรื่อง Paddy Reunion โดยมีเกาะเต่าเป็นศูนย์กลางพื้นที่มาเรียนดำน้ำมากสุดกับสถาบันสอนดำน้ำระดับโลกชื่อ
Paddy จึงจะให้กลุ่มเรียนดำน้ำขั้นพื้นฐานร่วมกันดำน้ำเก็บขยะทั้งในทะเลและริมชายหาด
จะจัดกิจกรรมขายเป็นแพกเกจท่องเที่ยวหลากหลายอย่าง
ทั้งการทำความสะอาดดำน้ำเก็บขยะทะเล การสร้างบ้านปลา ทำซั้งเชือก ธนาคารสัตว์ทะเล
ม้าน้ำ ปลูกป่าโกงกาง ต่าง ๆ จะร่วมกับ 1 ชุมชน 1
CSR โดยจะไปเชิญชวนพันธมิตรกลุ่มโรงแรม
สายการบิน เข้ามาร่วมโครงการด้วย
การสร้างเครือข่ายพันธมิตรจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิง
CSR อย่างมากมายทั้งจากในประเทศและทั่วโลก
ซึ่งทางภาคใต้จะใช้แคมเปญ “ชีพจรลงเซาท์ ว้าว ทุกสไตล์”
ผนึกความร่วมมือกับองค์กรหรือบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ร่วมกันทำอย่างจริงจัง ซึ่งป็นอีกช่องทางที่จะเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคอร์ปอเรตได้ด้วย
หรือการร่วมกับเว็บไซต์ออนไลน์ท่องเที่ยวดัง อย่าง TravelLoka, shoppee เพื่อดึงโปรดักซ์ต่าง ๆ
ไปขายผ่านออนไลน์เจาะตลาดคนไทยซึ่งถึงแม้จะเดินทางด้วยตนเองก็สามารถซื้อแพกเกจ
ท่องเที่ยววันเดียวได้ (one day trip)
ขณะนี้ ททท.ภาคใต้จับมือกับไลออนแอร์ทำแพกเกจท่องเที่ยว CSR วันธรรมดาราคาตั๋วโดยสารเพียง 495 บาท/คน ก็จะทำต่อไป
จึงขอให้สายการบินเตรียมความพร้อมเข้ามาร่วมเป็นภาคีพันธมิตรกัน และการจับมือกับกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมนำลูกค้าเดินทางไปท่องเที่ยวภาคใต้ในเรื่องวิถีการกิน
ซึ่งหลายจังหวัดมีโรงแรมที่พัก อาหารติดดาวมิชลิน อาหารถิ่น อร่อย ๆ
รอต้อนรับนักท่องเที่ยว
หรือการจับมือกับเครือเซ็นทรัล
เจ้าของบัตร The 1st Card มีสมาชิกอยู่
8 ล้านคน เลือกเที่ยวภาคใต้เพียง
10 % ก็ได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นแล้ว
จะใช้โรงแรมที่พัก คอนวีเนี่ยนสโตร์
โครงการความร่วมมือทั้งหมดจะสามารถสร้างกระแสการท่องเที่ยวภาคใต้เติบโตได้ตามเป้าหมาย
ปี 2563
แนวโน้มจะกระตุ้นคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภาคใต้ขยับเพิ่มเป็น
35 % จากปัจจุบัน 30
% เพื่อผลักดันให้เกิดความสมดุลระหว่างตลาดในประเทศกับต่างประเทศ
ชูจุดแข็งส่งเสริมการขายเส้นทางท่องเที่ยวมูลค่าสูง หรือท่องเที่ยวหรูหรา
ค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายจะต้องเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10 % ขณะนี้คนไทยใช้เงินท่องเที่ยวภาคใต้เฉลี่ยกว่า 5,000
บาท/คน/ทริป พักค้างแรมเกินกว่า 3
คืน/คน/ทริป
ส่วนตลาดต่างประเทศซึ่งนิยมมาท่องเที่ยวภาคใต้สูงถึง
70 % เมื่อมาถึงเมืองไทยจะต้องเพิ่มยอดรายได้จากการกิน
ช้อป เที่ยว มีอีเวนต์ดึงดูดความสนใจ
ซึ่งเป็นภารกิจกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติเชื่อมจากพื้นที่หลักสู่เมืองรอง
ผอ.นิธีกล่าวว่า
ททท.ภูมิภาคภาคใต้
เตรียมเข้าไปมีส่วนร่วมกระตุ้นให้คนไทยที่ได้รับสิทธิ์จากรัฐบาลในโครงการ
“ชิมช้อปใช้” เลือกเที่ยวภาคใต้ด้วย ซึ่งเป็นพื้นที่มีโรงแรมสวยชื่อเสียงระดับโลก
มีนักท่องเที่ยวปีละหลายล้านคน หรืออาหารถิ่นในภูเก็ต พังงา ได้รางวัลมิชลิน
หรือการกินอาหารถิ่น เที่ยวเกาะ อีกหลากหลายโปรแกรม
เรื่อยไปจนถึงการคัดสรรสินค้าท่องเที่ยวของภาคใต้มาวางขายในช่องทางใหม่การขายแพกเกจออนไลน์บน
“ททท.ดีพาร์ทเมนท์ สโตร์” จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ ท่องเที่ยวชุมชน
ที่กำลังได้รับความนิยมมาแรง คือ อุทยานธรณีวิทยาที่ได้รับรางวัลระดับโลก GEO
PARK จังหวัดสตูล
ปราสาทหินพันยอด สันหลังมังกร
พื้นที่ดังกล่าวจะนำมาวางขายร่วมกับฝ่ายสินค้าท่องเที่ยว หรือการไปลงมือทำกิจกรรม
จับเคยมาทำกระปิ บ้านแหลมสัก ชิมอาหารถิ่นเมืองเก่าสงขลา
โดยนิตยสารที่มีชื่อเสียงอย่าง The CROWN มานำเสนอเรื่องราวการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ
ททท.ภูมิภาคภาคใต้
พร้อมแล้วที่จะกระพือการขายทุกรูปแบบเจาะเข้าถึงนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป้าหมาย
เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ชุมชนเข้มแข็ง
โดยยึดส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ
เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตลอดไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “สมัครด่วนสมาชิกบัตรคิงเพาเวอร์ช้อปรับส่วนลดกว่า20%
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนสมัครสมาชิกได้ทันที
สมัครง่าย วันนี้ – 31 ธันวาคม 2562 สมัครเลย!
ที่จุดบริการสมาชิกทุกสาขารับส่วนลดสูงสุด 20%
และสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น*
สิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก คิง
เพาเวอร์ ประเภท
NAVY / SCARLET / ONYX บัตรแต่ละประเภทมีอายุ 2 ปี
ยอดซื้อทุก 100
บาท รับเลยคะแนนสะสม 1 กะรัต และสิทธิ์ร่วมรายการ
Birthday Celebration มอบ 2 สิทธิพิเศษ
เพียงซื้อสินค้าราคาปกติตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป (1
ชิ้น) ต่อที่
1: รับ Cash Back 30%
ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี มหานคร พัทยา และภูเก็ต ต่อที่ 2: รับ
Cash Back 25% ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ดอนเมือง และภูเก็ต
บริการฟรีห้องรับรองพิเศษ King
Power Lounge
ส่วนลดสายการบิน โรงแรม
อัตราแลกเปลี่ยน บริการรถเช่า แพ็กเกจทัวร์
ส่วนลดร้านอาหารที่ คิง เพาเวอร์
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต และคิง เพาเวอร์
รางน้ำ
ข่าวที่ 2 “อัยยวัฒน์บินด่วนนำคิง
เพาเวอร์ช่วยน้ำท่วม10ล้านบาท
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ บินลัดฟ้าจากอังกฤษมายังกรุงเทพฯ
เพื่อทำกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคม ร่วมบริจาคเงินในนามคิง เพาเวอร์ 10 ล้านบาท
สมทบเข้ากองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย โดยได้รับเกียรติจากพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับมอบในรายการพิเศษ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ณ
ห้องส่ง 5 อาคารปฏิบัติการ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ภาครัฐนำเงินดังกล่าวไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยทางภาคเหนือ
และตะวันออกเฉียงเหนือ
ข่าวที่ 3 “ททท.ปลุกคนไทยชิมช้อปใช้เปิดลงทะเบียน23ก.ย.นี้”
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า
ได้ให้ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องหนุนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ
“ชิมช้อปใช้” ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2562 โดยมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ดูแลการเปิดรับสมัครนักท่องเที่ยวที่จะเข้าร่วมโครงการ ให้คนทั่วไปลงทะเบียนรับเงินจากภาครัฐเพื่อนำไปใช้ท่องเที่ยวคนละ
1,000บาท ได้ทางเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com แล้วนำเงินไปใช้สอยทางแอพลิเคชั่นเป๋าตัง
เริ่ม 27 กันยายน - 30 พฤศจิกายน
2562
ส่วนผู้ประกอบการทั่วประเทศได้เปิดให้ลงทะเบียนในแอพลิเคชั่นถุงเงินมาก่อนหน้านี้แล้ว
สำหรับการลงทะเบียนทั้ง 2 แอพลิเคชั่น
ตามขั้นตอนง่านและใช้เวลาเพียงสั้น ๆ แนว “สมัครง่ายๆ... ใช้จ่ายสบายกระเป๋า”
นายอุตตม
กล่าวว่ากระทรวงการคลังได้ปรับหลักเกณฑ์มาตรการ “ชิมช้อปใช้”
ให้ตอบโจทย์ผู้เข้าร่วมมากขึ้น 2 เรื่อง
คือ
1. ระยะเวลาการใช้สิทธิ ในวงเงิน 1,000 บาท สามารถใช้ได้ภายใน 14 วัน
จนถึง 30 พฤศจิกายน 2562
2. ประเภทการใช้จ่าย โดยขอบเขตการใช้งาน g-wallet ตั้งแต่ 1.จะครอบคลุม
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 2.ค่าที่พักรวมถึงบริการตามปกติของที่พักนั้น ๆ 3.ค่าซื้อสินค้าท้องถิ่น ค่าซื้อสินค้าและบริการจากร้านธงฟ้าประชารัฐ
และ 4.ค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในท้องถิ่นอีกหลายประเภท เช่น สปา
รถเช่า บริการนำเที่ยวในพื้นที่
ส่วนผู้ประกอบการร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศตอนนี้มีแล้วกว่า
135,000 ร้านค้า ประกอบด้วย 1.ผู้ประกอบการใหม่กว่า 55,000 ร้านค้า
2.ผู้ประกอบการเดิมที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” กว่า 80,000 ร้านค้า โดยกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาขยายวันรับสมัครออกไปเพื่อให้ร้านค้าเข้าร่วมได้มากที่สุด
นายอุตตม ยืนยันผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
อย่าได้วิตกกังวลว่ารัฐจะนำฐานข้อมูลไปเกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีใด ๆ
เพราะเครื่องมือเหล่านี้เป็นเพียงช่องทางกระตุ้นการใช้เงินท่องเที่ยวเศรษฐกิจในประเทศ
ข่าวที่ 4 “ททท.บูมMORE FUNเที่ยวงานวิ่งควายชลบุรี6-12ต.ค.นี้”
นายวิบูลย์
นิมิตวานิช ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
กล่าวว่า
ทางจังหวัดชลบุรีชวนท่องเที่ยวงานประเพณีที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและนานาชาติเข้าร่วมอย่างต่อเนื่องกับมหกรรม
“ประเพณีวิ่งควาย ประจำปี 2562“
จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 148 ระหว่างวันที่
6 – 12 ตุลาคม 2562 ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง
และสนามหน้าศาลากลางชลบุรี
ในวันที่
12 ตุลาคม 2562
นักท่องเที่ยวจะได้สนุก ตื่นเต้น
ระทึกใจไปกับการแข่งขันวิ่งควาย รุ่นจิ๋ว รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่
รวมถึงการประกวดสุขภาพควาย พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ไปพร้อม ๆ
กับการร่วมงานบุญฟังทศชาติชาดกขบวนเกวียน 13 กัณฑ์ การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน
การประกวดน้องนางบ้านนา และประกวดสาว (เหลือ)น้อยบ้านนา
ไฮไลต์ตลอดการจัดงาน
7 วัน
ชาวชุมชนต่างในจังหวัดชลบุรี ได้จัดมหรสพให้นักท่องเที่ยวชมฟรี
พร้อมกับคัดสรรสินค้าโอท็อปคุณภาพมาจำหน่ายให้ช้อปกันอย่างจุใจ
สามารถเลือกท่องเที่ยวได้ทั้งช่วงวันธรรมดาน่าเที่ยว และวันหยุดสุดสัปดาห์
และสามารถใช้สิทธิ์ชิมช้อปใช้ได้ด้วย โดยเข้าไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ททท. www.ชิมช้อปใช้.com
ได้ตั้งแต่วันที่
23 กันยายน 2562
พร้อมกับโหลดแอพลิเคชั่น เป๋าตุง 1
รับเงินท่องเที่ยวจากภาครัฐ 1,000
บาท และ เป๋าตุง 2 ใช้เงินท่องเที่ยวเพิ่มเพื่อรอรับ cashback
เงินคืนสูงสุด 4,500 บาท
และตรวจสอบดูรายละเอียดร้านค้าที่จะใช้จ่ายระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศแต่ละพื้นที่ในแอพลิเคชั่น
“ถุงเงิน” ของธนาคารกรุงไทย กระทรวงการคลัง ซึ่งมีมากถึง 135,000 ร้านด้วยกัน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจร่วมสนุกในงานประเพณีวิ่งควาย
จังหวัดชลบุรี ประจำปี 2562 สอบถามเพิ่มได้ที่
เทศบาลเมืองชลบุรี โทร. 038-283-449 ต่อ 508
และ 605
ข่าวที่ 5 “บางจากเตรียมออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯจ่อลุยขยายกิจการ”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า บางจากเตรียมพิจารณาออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน
โดยมีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุน และ/หรือ
เป็นเงินทุนที่ใช้หมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และ/หรือ ชำระคืนหนี้เดิมซึ่งการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน
จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ
ให้สอดคล้องและรองรับกับแผนการเติบโตในอนาคต
ปัจจุบันบริษัทฯ
อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท
ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด
และมีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ของบริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2562
โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิที่จะไถ่ถอนหุ้นกู้ดังกล่าวได้ก่อนกำหนด หลังครบอายุ 5 ปี
หรือตามเงื่อนไขอื่น ๆ ที่กำหนดไว้ในร่างหนังสือชี้ชวน
ด้านความเสี่ยงนั้น ทริสเรทติ้ง
ได้จัดอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ "A" แนวโน้ม
"คงที่"
และจัดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของบริษัทที่ "BBB+" ซึ่งยังจัดอยู่ในระดับน่าลงทุน หรือ Investment
Grade ทั้งนี้
บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงสร้างหุ้นกู้และดอกเบี้ยที่เหมาะสม ซึ่งบางจากจะประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่สนใจจะลงทุนทราบต่อไป
ข่าวที่ 6 “TCEBแนะ3กลยุทธ์จัดอีเวนต์เฟสติวัลไมซ์ให้ปังโดนใจลูกค้า
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) ได้รวบรวมข้อมูล เทคนิคการจัดงานอีเวนต์ Festivalization ให้ปัง
! มานำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกกับผู้เกี่ยวข้องในวงการอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย
3 กลยุทธ์ซึ่งจะเป็นไฮไลต์ทำให้โดนใจผู้ใช้บริการในตลาดแล้วประสบความสำเร็จสร้างรายได้เป็นอย่างดี
ประกอบด้วย
เรื่องแรก ออกแบบและวางแผนการจัดงานโดยยึดผู้ร่วมงานเป็นศูนย์กลาง
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของผู้ร่วมงาน
เรื่องที่ 2 ออกแบบกิจกรรมให้มีความหลากหลายเพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับผู้ร่วมงานแต่ละกลุ่ม
เรื่องที่ 3 ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
เพื่อช่วยให้ผู้จัดงานเข้าใจผู้ร่วมงานได้อย่างลึกซึ้ง
และกระตุ้นการมีส่วนร่วมเช่น การทำโพลล์ออนไลน์
แต่เมื่อไหร่ก็ตาม
ที่โรงแรมไม่สามารถมอบบริการดังกล่าวหรือแม้แต่บริการธรรมดาๆ เช่น
บริการโทรปลุกตอนเช้า บริการนวดในห้องพัก
ก็อาจไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้แขกผู้เข้าพักได้
เช่นเดียวกับธุรกิจไมซ์ที่เป็นเวทีพบปะของคนที่มีความสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งเหมือนกัน
แต่ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ล้วนมีความต้องการรายละเอียดปลีกย่อย ตามความชอบที่หลากหลายแตกต่างกัน
ทำให้ MICERs จำเป็นต้องออกแบบบริการ
เพื่อมัดใจลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ต่างกันให้สำเร็จ เช่น เมนูอาหารรองรับคนที่รับประทานฮาลาล
อาหารมังสวิรัติ อาหารชาววีแกน
ส่วนการจัดกิจกรรมเสริมนอกเหนือจากกิจกรรมหลักที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละประเภท
ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยวธรรมชาติ
การท่องเที่ยวแบบผจญภัย
หากอยากนำเสนอสินค้าและบริการ
รวมถึงประสบการณ์ที่ตรงกับความ ต้องการของลูกค้า
ก็ต้องเปิดตา เปิดใจ มองสินค้าและบริการที่เรามีผ่านสายตา ของลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาตัวเอง
แล้วมอบสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องของลูกค้าให้ได้ดีที่สุด
เพื่อให้งานอีเวนต์เฟสติวัลต่าง ๆ ประสบความสำเร็จโดนใจลูกค้าแบบปัง ๆ ทุกงาน
ช่วงที่
2 สนุกกับทริปเที่ยวสร้างประโยชน์สู่ธรรมชาติ
โดยชวนกันไป More Fun !!! ลงมือทำ CSR บนเกาะสีชัง เพาะพันธุ์ปูม้า ปลูกปะการังอ่อน ปล่อยเต่า
ขยายพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่ทะเลอ่าวไทย แล้วก็ดูแลสุขภาพด้วย “7วิธีลดกินมันเค็มหวานผัดปิ้งย่าง” และฟังข่าวร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟ
ห้ามพลาด ! แคมเปญเที่ยว “กรุงเทพ-มา-หา-นคร”
ลงใต้ไปเที่ยวเมืองรองนครศรีธรรมราชมีครบทุกสไตล์
“มิวเซียมสยามเทจัดนิทรรศการลายสัก5ไฮไลต์”
สนุกกับสารพัดสักสีสักศรีลายศักดิ์ 3 ชาติพันธุ์ หาดูยาก
ชมฟรีที่นี่ที่เดียวได้ถึง 27 ตุลาคมนี้ “ทราเวลโลโก้”
เทกระจาดออนไลน์ ระหว่าง 25-29 ก.ย.นี้ ลดกระหน่ำ ตั๋วเครื่องบิน
ห้องพัก รถเช่า แบบสุด ๆ 80 % พร้อมท็อปอัพจัดช่วงนาทีทองลดเพิ่มมโหฬาร
@MoreFun!!CSRเกาะสีชังเพาะปูม้าปลูกปะการังคืนสู่ทะเล
วันดี ๆ ทริปสนุก ๆ
ที่จะได้ไปทำเรื่องดี ๆ ท่องเที่ยวเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ที่เกาะสีชัง
ด้วยการตื่นเช้าออกจากกรุงเทพฯ ตอน 7 โมง มุ่งหน้าสู่ท่าเรือเกาะลอย
จ.ชลบุรี นั่งเรือใหญ่ใช้เวลาราว 45 นาที เพื่อทำกิจกรรมดี ๆ
บนเกาะมีกิจกรรมท่องเที่ยวบำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชนได้ด้วย
คือการทำกิจกรรมร่วมขยายพันธุ์ปะการังและธนาคารปู
ที่สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอาคารเปิดโล่งจัดนิทรรศการแสดงพันธุ์สัตว์ทะเลในอ่าวไทยให้เยี่ยมชมฟรี
พร้อมกับองค์ความรู้ต่าง ๆ
ทั้งเรื่องราวของวาฬ ปะการัง เต่า
หอยมือเสือ หอยชนิดต่าง ๆ สัตว์ใต้ทะเลอีกมากมาย จำลองไว้ในบ่อซีเมนต์
ให้เห็นวิถีชีวิต เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติเหล่านี้ไว้
โดยเฉพาะ สัตว์ 3 ชนิด
ได้แก่ เต่าทะเล ปะการังอ่อน และปูม้า ที่จะชวนนักท่องเที่ยวไปช่วยกันขยายพันธุ์
เริ่มจากเต่าทะเล ตัวขนาดเล็กเลี้ยงไว้ในบ่อ
หากหน่วยงานหรือองค์กรใดไปท่องเที่ยวแล้วต้องการจะปล่อยลงทะเล ทางสถาบันวิจัยฯ
จะจัดเตรียมไว้ให้ตามจำนวน การปล่อยเต่าลงทะเลที่ถูกต้องควรปล่อยตอนน้ำขึ้น
เพื่อให้เต่าได้คลานลงไปเมื่อน้ำเริ่มลง
เช่นเดียวกันกับ “ปูม้า”
แต่ละตัวจะมีไข่กว่า 10 ล้านฟอง
แต่ปริมาณการเกิดลูกที่จะเป็นอาหารของเรา มีเพียง 1 % เท่านั้น
แล้วตอนนี้ปริมาณปูม้าก็เริ่มลดลงเนื่องจากนักท่องเที่ยวนิยมกินกัน
ชาวประมงจับมาได้ก็ส่งให้ร้านอาหาร ภัตตาคาร
แต่การเจริญเติบโตไม่ทันกับความต้องการบริโภค ขณะนี้จึงต้องรณรงค์ให้ช่วยกันหันมาใส่ใจการขยายพันธุ์ปูม้า
ตามที่ “รศ.ดร.นิลนาจ ชัยธนาวิสุทธิ์” รองผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อธิบายย้ำหนักหนาว่าแต่ละครั้งที่จะกินปูม้า
หากเลี่ยงได้ไม่ควรกินตอนหน้าปูม้ากำลังวางไข่ เพราะต่อไปคนไทยอาจขาดแคลนได้
อีกทั้งปูม้าก็มักไม่เจริญเติบโตในบ่อเลี้ยงสักเท่าไร
ต้องเกิดและโตในทะเลตามธรรมชาติเท่านั้น
ดังนั้นทางสถาบันฯ
จึงขอเชิญชวนให้มาช่วยกันทำกิจกรรมปล่อยปูม้าลงสู่อ่าวไทยที่เกาะสีชัง
เพราะนอกจากจะช่วยขยายพันธุ์แล้ว ยังได้ช่วยชาวบ้านอาชีพประมงจะได้มีรายได้
นำปูที่จับมาได้มาขายให้ทางสถาบันไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ปล่อยสู่ทะเลได้ทุกวัน
เมื่อไปถึงสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เกาะสีชังแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถปลูกปะการังอ่อนในบ่อซีเมนต์ ได้ด้วย
ปลูกง่ายมากเพียงทำตามขั้นตอน นำหน่อปะการังอ่อนที่ทางสถาบันฯ จัดเตรียมไว้
ใช้ไม้ปลายแหลมขนาดเล็กเท่าไม้จิ้มฟันปักลงตรงการ
แล้ววางบนท่อพีวีซีสีเขียวซึ่งมีทรายบรรจุอยู่
จากนั้นก็นำไปวางในบ่อซีเมนต์ตามจุดที่กำหนด เพื่อให้ปะการังแต่ละต้นค่อย ๆ เติบโต
ใช้เวลา 7-8 เดือน
ก็จะขยายเป็นปะการังขนาดใหญ่ ซึ่งทางสถาบันจะนำไปปลูกในธรรมชาติใต้ทะเลต่อไป
บริเวณใกล้ ๆ กัน ได้เปิดร้านโอท็อป
“สินค้าชุมชน” ให้ชาวบ้านผู้สูงวัยบนเกาะ ผลิตชิ้นงานของที่ระลึกมาวางจำหน่าย มีสินค้าเก๋
ๆ สวย ๆ มากมายให้เลือกช้อปกระจายรายได้ถึงมือชุมชนโดยตรง
สนใจไปท่องเที่ยวพร้อมทำกิจกรรม CSR
แบบสนุกได้ความสุขกลับบ้าน ทางสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เกาะสีชัง ยินดีต้อนรับ ปัจจุบันเปิดบริการฟรี
แต่สามารถบริจาคเพื่อช่วยค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้
ติดต่อ “รศ.ดร.นิลนาจ ชัยธนาวิสุทธิ์”
รองผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร.081-802-1839 , 02-218-8160
ทริปดี
ๆ สนุกแบบนี้ ต้องไปเที่ยวไปทำกันให้ได้ที่เกาะสีชัง
@ 7 วิธีเลี่ยงการกิน หวาน มัน เค็ม ปิ้ง
ย่าง ผัด ทอด
กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs
สามารถป้องกันได้ เพียงแค่เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหาร ให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ดังนี้
1. เริ่มจากลดปริมาณการปรุงและปริมาณการบริโภคลงครึ่งหนึ่งของที่เคยกิน
2. ฝึกนิสัยการชิมก่อนปรุงทุกครั้ง
บอกลาพวงเครื่องปรุงร้านก๋วยเตี๋ยว
3. เน้นเมนูอาหารประเภท
ต้ม ลวก ตุ๋น ยำ อบ นึ่ง
4. เพิ่มผักสดผลไม้สด
ที่มีกากใยสูงในทุกมื้อ
5. ลดการกินของหมักดอง
6. ไม่กินของที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ
7. กินอาหารให้ถูกสุขลักษณะครบหมู่
ครบทุกมื้อ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ปั้นโปรเจ็กต์“กรุงเทพ-มาหา-นคร”ชวนเที่ยวนครศรีธรรมราช
นายวิรัตน์ รักษ์พันธุ์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า
ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคใต้
และเครือข่ายพันธมิตรชวนเที่ยวในโครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร” ปลุกคนไปสัมผัสความสุขในเมืองรอง
น่าลอง น่ารัก ปักหมุด “นครศรีธรรมราช” ซึ่งอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทั้งภูเขา
ป่าไม้ แม่น้ำ ลำธาร และ ทะเล ร่ำรวยวิถีวัฒนธรรมและมรดกศิลป์
ทั้งการเล่นหนังตะลุง รำมโนราห์ เครื่องถม เครื่องเงิน ผ้ายก งานจักสานย่านลิเภา รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นงาประเพณีที่มีชื่อเสียงอย่างการแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ
ประเพณีบุญสารทเดือนสิบ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้พบกับคำว่า “เวลาเดินช้าลง”
โดยทางเจ้าบ้านพร้อมต้อนรับด้วยความยินดี
นายนิธี สีแพร
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า ปี 2561 ,uนักท่องเที่ยวไทยท่องเที่ยวภายในประเทศ
114.82 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 3.93% โดยสำรวจพบว่ากลุ่มใหญ่ไปท่องเที่ยวตามภูมิภาคต่าง
ๆ จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง “กรุงเทพ-มาหา-นคร”
เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นนักท่องเที่ยวในกรุงเทพและปริมณฑลไปสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช
ซึ่งเป็นจังหวัดมีความโดดเด่นทางธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นอย่าง
“บ้านคีรีวง” ซึ่งเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 1 ของประเทศ รวมทั้งจุดท่องเที่ยวต่างๆ
ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากเมืองหลวงซึ่งเต็มไปด้วยความรีบเร่ง
ได้สัมผัสมิติของการท่องเที่ยวอย่างผ่อนคลาย
ในแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสุข ทั้งจากธรรมะ และ ธรรมชาติ
ปี 2561นครศรีธรรมราชมีนักท่องเที่ยว
3,972,748 คน เติบโต 7% สร้างรายได้ 17,135 ล้านบาท ปี 2562 ตั้งเป้าจำนวนและรายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก
10 % โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนที่ได้รับความนิยมดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มาก
เช่น “หมู่บ้านคีรีวง” อ.ลานสกา ซึ่งมีอากาศที่ดีที่สุดในประเทศไทย “หาดในเพลา”
อ.ขนอม ชายหาดอันสงบเงียบ “ทะเลหมอกเขาจังโหลน” อ.นบพิตำ
ข่าวที่สอง “มิวเซียมสยามบูมจัดลายสัก5ไฮไลต์3ชาติพันธุ์ดูฟรีถึง27ต.ค.นี้
มิวเซียมสยาม จัดมหกรรมชวนเที่ยวนิทรรศการ 5
ไฮไลท์ “สักสี สักศรี” แทททูเลิฟเวอร์
เชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบมรดกทางวัฒนธรรมเก่าแก่และทรงคุณค่าผ่านรอยสักที่สมบูรณ์แบบที่สุดของไทยและไต้หวัน เปิดให้ชมฟรีระหว่างวันนี้-ว27 ตุลาคม
2562 ที่มิวเซียมสยาม
(ท่าเตียน) ถนนสนามไชย กรุงเทพฯ บริเวณชั้น
1 จะพบกับนิทรรศการ “สักสี สักศรี Tattoo
COLOR Tattoo HONOR” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นนิทรรศการที่สร้างปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมระหว่างไทย-ไต้หวัน
กับการรวบรวมลายสักจาก 3
กลุ่มชาติพันธุ์ที่หาชมยากและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งปี กับนิทรรศการ “สักสี สักศรี Tattoo
COLOR Tattoo HONOR” ดังนี้
1.สัมผัสรอยสัก 3
กลุ่มชาติพันธุ์ ไทย-ไต้หวัน สู่วันวานรอยสักแห่งศักดิ์ศรี ที่ห้องแรก จะจัดแสดงภาพ
หุ่นไม้แกะสลัก มือไม้แกะสลัก ภาพประวัติศาสตร์การสักของกลุ่มชาติพันธุ์
อุปกรณ์สักลาย รวมลายสักแปลกตาที่หาชมได้ยากจาก 3
กลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ ชาวไท่หย่า (Atayal) ซึ่งมีถิ่นอาศัยทางตอนเหนือของไต้หวัน
ชาวไผวัน (Paiwan) ทางตอนใต้ของไต้หวัน และชาวล้านนาทางตอนเหนือของไทยกับรวมถึงการสักขา
ที่บ่งบอกถึง ความกล้าหาญ เกียรติยศ และคติความเชื่อ
2.ชมภาพยนตร์สารคดีสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
ย้อนตำนานลายสัก 3 กลุ่มชาติพันธุ์ ภาพยนตร์สารคดีที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษและถูกนำมาฉายภายในนิทรรศการเท่านั้น
3.เวิร์คชอปสุดสนุก จุ่มหมึก ปั้มลาย
พร้อมงานเสวนาโดนใจแทททูเลิฟเวอร์ ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่น
คนรุ่นใหม่ รวมถึงเด็ก ๆ ฟังการเสวนาได้ฟรี ในวันเสาร์ ที่ 28
กันยายน 2562 เวลา 13.00 – 16.00 น.
ณ อาคารเอนกประสงค์ มิวเซียมสยาม
4.สนุกกับเกมแห่งสักสี เกมการ์ดชุดพิเศษ
เฉพาะนิทรรศการ สักสี สักศรี สนใจเข้าร่วมประลอง
“Tattoo Game Card เกมแห่งสักสี”
สามารถลงทะเบียนฟรีเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันได้
5.แดนซ์กระจายสไตล์ชนเผ่า!
ไปแกะท่าเต้นสุดชิคของไต้หวัน ท้าชนเพลงดังฝั่งไทย “รักติดไซเรน”
สอบถามเพิ่มได้ที่
สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) โทร. 02-225-2777 เว็บไซต์
www.museumsiam.org หรือ www.facebook.com/Museum Siam
ข่าวที่สาม “ทราเวลโลก้าเทส่วนลด25-29
ก.ย.นี้สูงสุดถึง80%
ทราเวลโลก้า ผู้นำบริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักออนไลน์
(OTA)ประกาศเปิดตัวแคมเปญ EPIC SALE มหกรรมลดราคาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งที่พัก
ตั๋วเครื่องบิน สินค้ากลุ่ม Xperience ตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พัก
บริการรถรับส่งสนามบินผ่านทุกช่องทางการจอง โดยจัดให้มีช่วง EPIC Hour ชั่วโมงให้ส่วนลดโรงแรมที่พัก
หรือ ตั๋วเครื่องบินสูงสุดถึง 80 % เริ่ม 25 – 29 กันยายน 2562
สามารถเข้าไปเลือกช้อปในทราเวลโลก้าได้
5 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. โรงแรมและที่พักทั้งในและต่างประเทศ
เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือ เกาหลีใต้ รับส่วนลดปกติตลอดทั้งแคมเปญสูงสุด 80% ใช้เดินทางได้ถึง
31 กรกฎาคม 2563
2. ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ
รับส่วนลดในช่วงปกติสูงสุด 12% ใช้เดินทางได้ถึง 30 มิถุนายน 2563
3.
ตั๋วเครื่องบินและที่พักรับส่วนลดในช่วงปกติตลอดทั้งแคมเปญสูงสุด 2,200 บาท
4. Xperience รับส่วนลดในช่วงปกติตลอดทั้งแคมเปญสูงสุด
25%
5. รถรับส่งสนามบิน
รับส่วนลดในช่วงปกติตลอดทั้งแคมเปญสูงสุด 50%
รวมทั้งได้เปิดช่วงเวลา EPIC
HOUR ชั่วโมงลดราคาสูงสุด 80% โรงแรมและที่พัก
และตั๋วเครื่องบิน ดังนี้
1. รับส่วนลดสูงสุด 80%
พร้อมตัวเลือกมากขึ้นโรงแรมและที่พัก ผ่านทางแอพลิเคชั่นทราเวลโลก้า วันที่ 25 –
28 กันยายน 2562 ช่วง 12.00 น. – 12.59 น. โดยสังเกตสัญลักษณ์ EPIC สีแดง
สีส้ม และสีเหลือง
2.
รับส่วนลดตั๋วเครื่องบินเส้นทางต่างประเทศ เพิ่มจากช่วงปกติลดสูงสุด 30% วันที่ 25
– 29 กันยายน 2562 ช่วง 14.00 น. – 14.59 น.
โดยให้สังเกตสัญลักษณ์รูปดาว
เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมแคมเปญ EPIC
SALE ได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/
หรือhttps://www.facebook.com/TravelokaTH
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง
สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น