ททท.อีสานปั้น5จุดขายท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่20จังหวัดปี’63 -คิงเพาเวอร์จัดมหกรรมSeptember Collectionลด 15 %
ททท.อีสานปั้น5จุดขายท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่20จังหวัดปี’63
ผุดทัวร์ตัวปลิว-เช็คอินกินเที่ยวฟรีห้องพักปั๊มรายได้แสนล้าน
คิงเพาเวอร์จัดมหกรรมSeptember Collectionลด 15 %
พลังคิงเพาเวอร์มระดมทุนปั่นวิ่งมอบเงินโรงพยาบาลศิริราช
ททท.อัดแคมเปญHappy Retirementขานรับฤดูเกษียน
บูมท่องเที่ยวงานยักษ์Brew&Blendมหกรรมชา@เชียงราย
TRISจัดอันดับเครดิตบางจากผู้นำพลังงานยังแรงในระดับA
TCEBโชว์ไมซ์ปี’62ทำห่วงโซ่เศรษฐกิจทำเงินพุ่ง5.4แสนล้าน
เที่ยวเชียงรายผ่านตำนานเรื่องเล่างานศิลปะชั้นบรมครู6แห่ง
เตือนภัยให้รู้เท่าทันโรคปลายประสาทเสื่อมที่มากับโรคอ้วน
WEFเปิดโพลล์ประเทศผู้นำท่องเที่ยวโลกไทยรั้งอันดับที่31
มหกรรมฟู้ด&โฮเต็ลส์ไทยแลนด์ดันรายได้สะพัด5.5พันล้าน
สศค.ชงครม.เพิ่มกลุ่มท่องเที่ยวไทยร่วมถุงเงินรับ10ล้านคน
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวทFM97 #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ #เที่ยวกับกู๋ #ทททภาคกลาง #เที่ยวเชียงรายแหล่งงานศิลป์ #
สมชาย ชมพูน้อย” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) |
ช่วงที่ 1 เจาะลึก “สมชาย ชมพูน้อย” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชูธงนำอีสาน 20 จังหวัด ก้าวสู่ท่องเที่ยวยุคใหม่ “เปิดแนวรุก 5 จุดขายใหม่ “เที่ยวเชิงกีฬา-อาหาร-อีเวนต์งานบุญฮีต 12 คลอง 14-ชีลที่พัก-บินสบายใน 8 สนามบิน” โหมบุรีรัมย์เจ้าภาพโมโตจีพีโหมกระแสเที่ยวเชื่อมโยงรอบอีสาน ลั่น ปี’63 พร้อมเทหมดหน้าตัก COOL ISAN CONCEPT 2 โปรเจ็กต์ “เที่ยวตัวปลิว ชีล New อีสาน-เช็คอินกินเที่ยวแถมวันพักฟรี” หวังดึงรายได้เฉียดแสนล้านกระจายสู่ชุมชนทั่วทั้งภาค
นายสมชาย ชมพูน้อย ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายปลายปี 2562 ตั้งแต่กันยายนนี้เป็นต้นไป ในพื้นที่อีสาน 20 จังหวัด เน้นชูจุดแข็งการท่องเที่ยวหน้าฝน (เพราะตามปกติคนจะไปเที่ยวหน้าร้อนในทะเลภาคใต้ หน้าหนาวไปภาคเหนือ) เป็นความสวยความสุดลูกหูลูกตาเขียวขจี ซึ่งมีถนนดีที่สุดมีโครงข่ายเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทุกมุม ระหว่างนี้ได้จัดทำคาราวาน 20 จังหวัด 10 วัน มีผุ้ประกอบการร่วมคณะด้วยกว่า 100 ราย ได้เห็นทะเลหมอกหลายจังหวัด อากาศเย็นสบาย วิถีชีวิตการเพาะปลูกอันอุดมสมบูรณ์ ไตรมาส 4 ปีนี้ ทุกจังหวัดจะมีกิจกรรมเลี้ยงส่งนายวัยเกษียน ทุกโรงแรมมีการจัดเลี้ยง
ตลอดเดือนกันยายนนี้ อีสานจะเต็มไปด้วยตลาดกลุ่มคอร์ปอเรต ประชุมสัมมนา จัดเลี้ยงเกษียน พอถึงเดือนตุลาคมจะมีการจัดอีเวนต์งานบุญใหญ่ เทศกาลประเพณีแห่งอีสาน 3 รายการใหญ่ของฮีต 12 คลอง 14 อันเป็นกุศโลบายของท้องถิ่น รายการแรก งานบุญออกพรรษากับการท่องเที่ยวชมมหกรรมบั้งไฟพญานาค ไฮไลต์การชมอยู่ตรงจุดเกิดบั้งไฟ ช่วง 12-14 ตุลาคม นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามารอดูบั้งไฟพญานาค จึงแนะนำวิธีการท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวบนถนน 4 เลน จะมีบั้งไฟอยู่หลายจุดหลายอำเภอ โดยเลือกพักกระจายไปจังหวัดใกล้เคียงอย่างอุดรธานีก็ได้ รายการที่ 2 งานประเพณีท่องเที่ยวไหลเรือไฟ นครพนม และ รายการที่ 3 เทศกาลแห่งปราสาทผึ้ง สกลนคร
สำหรับไฮไลต์ 4-6 ตุลาคม 2562 นี้ จังหวัดบุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพจัด “โมโตจีพี 2019” งานขนาดใหญ่ระดับโลก ซึ่งมีกระแสออกมาตอนนี้ว่าไทยจะได้เป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวต่อไปอีก 5 ปีหน้า ดังนั้นการจัดงานแข่งขันมอเตอร์ไซต์ความเร็วสูงปีนี้จึงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ซึ่งได้เผยแพร่ไปทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ ขณะนี้ที่พักโรงแรมในบุรีรัมย์เต็มแล้ว แต่สามารถจองพักเมืองรอบ ๆ อย่าง นครราชสีมา ขอนแก่น แล้วขับรถไปชมการแข่งขันโมโตจีพีบุรีรัมย์
สนามแข่งขันฟุตบลอลลีก "ช้าง สเตเดี้ยม" ในบุรีรัมย์ ทีรองรับการแข่งขันโมโตจีพี 2562 และเป็นศูนย์รวมของการท่องเที่ยวเชิงกีฬา Sport Cityแห่งอีสาน |
โดยมีที่พักสไตล์บูติกในบุรีรัมย์ เชื่อมโยงไปถึงสุรินทร์ได้ด้วย รวมถึงอาหารการกินจัดเตรียมด้านคุณภาพและสุขภาพต่าง ๆ ได้มาตรฐาน เพราะได้ยกฐานะเป็นเมืองท่องเที่ยว เน้นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬา บวกกับการท่องเที่ยววิถีชุมชน อย่าง บ้านปาลอง ฉนวนนอก ในตัวเมืองบุรีรัมย์มีศูนย์การท่องเที่ยวแห่งใหม่ในอำเภอเมือง มีนกกระเรียนอาศัยอยู่ในแหล่งชุ่มน้ำ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี และบุรีรัมย์ยังมีรอยต่อเข้าสู่กัมพูชา เชื่อมโยงการท่องเที่ยวปราสาทหิน พนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ ร้อยต่อไปยังนครวัด นครธม
นอกจากนี้ยังมีคู่มือแนะนำวิถีการกินเทรนด์ใหม่คือ “ลูกชิ้นยืนกิน” บริเวณในเมืองติดสถานีรถไฟเมืองบุรีรัมย์ โดยมีเอกชนสภาหอการค้าบุรีรัมย์ จับมือกันทำโปรโมชั่นท่องเที่ยวอย่างเหนียวแน่นมากจริง ๆ
เดือนพฤศจิกายน จะเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว เข้าฤดูเทศกาลงานบุญอีกรายการกฐิน สามัคคี ของหน่วยงานองค์กรต่างๆ กิจกรรมของนักท่องเที่ยวก็จะคล้ายกับตลาดสัมมนาหรือคอร์ปอเรต
จากนั้นก็จะมีการท่องเที่ยวทะเลบัวแดง ต่อเนื่องตั้งแต่ตุลาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี
สำหรับธันวาคมจะมีการท่องเที่ยวเทศกาลดอกไม้สวยงามมากมาย โดยเฉพาะอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย เตรียมเปิด Sky Walk เป็นการท่องที่ยวเฉดใหม่ จะเห็นบรรยากาศสกายวอล์คเดินชมทะเลหมอกขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย ต่อจากวัดผาตากเสื้อ จ.หนองคาย รวมทั้งช่วงวันหยุดต่อเนื่องก็จะมีเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส และจังหวัดใหญ่อย่างขอนแก่น นครราชสีมา หรือแม้แต่เมืองรองมุกดาหาร จะพร้อมใจกันจัด Count Down
ผอ.สมชายกล่าวว่า อีสานมีสนามบินเชื่อมโยงภูมิภาค 8 จังหวัด จากเชียงใหม่-ภาคเหนือ ภูเก็ต-ภาคใต้ อู่ตะเภา-ภาคตะวันออก หรือจากสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภาคกลาง แต่ละวันมีเที่ยวบินเข้าออกตั้งแต่เช้าจนถึงดึก ทางอีสานได้เข้าร่วมโครงการ “บินพักหลักร้อยหลักพันลุ้นรับหลักล้าน” อีสานมีส่วนสำคัญอย่างมากด้วยพื้นที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งได้รับการตอบสนองจากนักท่องเที่ยวเที่ยวหลักร้อยหลักพันเป็นอย่างดี ถึงแม้แบรนด์โรงแรมจะไม่ใหญ่เท่าภาคใต้ ภาคกลาง แต่จุดแข็งของห้องพักโดดเด่นเป็นบูติกรีสอร์ต ขนาด 40-80 ห้อง ที่นำเข้ามาทำโปรโมชั่นกับ ททท.
ปี 2563 จะส่งเสริมให้อีสานมีพลังแรง ๆ ด้านการท่องเที่ยวชุมชน เมืองรอง และการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ด้วยศักยภาพเป็นภาคที่มีจุดแข็งเรื่องอีเวนต์ จึงจะนำเสนอภาพรวม “อะเมซิ่ง ไทยเท่” ภายใต้ธีมหลัก “Cool ISAN” โดยจะชูการขายท่องเที่ยว เรื่องที่ 1 อาหาร วัฒนธรรมการกิน ไม่ได้มีแค่ส้มตำ แต่มีประเพณีการกินในสไตล์ต่าง ๆ อย่าง บุรีรัมย์มี Hope by Dinner ชวนกินอาหารค่ำแบบบุรีรัมย์คล้ายขันโตกภาคเหนือ หรือนครราชสีมาชวนกิน “เข่าค่ำหรือพาแลง” เป็นสำรับ มีอาหารเน้นขายท่องเที่ยวเชิงอาหาร (gastronomy) เรื่องที่ 2 การท่องเที่ยวอีเวนต์เทศกาลประเพณี ฮีต 12 คลอง 14 เรื่องที่ 3 การท่องเที่ยวแปลกใหม่ Outlook Standing แหล่งท่องเที่ยวอันซีนต่าง ๆ รวบรวมแล้วดึงขึ้นมาเป็นจุดขายมากขึ้น เรื่องที่ 4 Linked โปรโมตแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงอีสาน 7 เส้นทาง
เพราะฉะนั้นวิถี COOL CONCEPT เน้น 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 เที่ยว New ชีลอีสาน แคมเปญจะเป็นสบาย ๆ นั่งเครื่องบินเข้ามายังแต่ละจังหวัด พอถึงสนามบินก็เช่ารถเที่ยว ผนวกเมืองรองรอบสนามบิน โดยใช้แผนที่ขับรถเที่ยว จากนั้นก็ไปช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน เลือกพักโรงแรมที่ได้มาตรฐาน เมื่อเดินทางกลับจะเสริมการให้บริการน้ำหนักสัมภาระจากการซื้อสินค้าท้องถิ่นกลับบ้าน จะมีบริการไปรษณีย์หรือเคอรี่ แล้วบินกลับตัวเปล่าได้สบาย ทำให้เกิดเที่ยวตัวปลิวชิวอีสานในปี 2563
เรื่องที่ 2 เช็ค อิน กิน เที่ยว ภาคอีสาน เช่นเคยพัก 3 คืน ททท.จะท็อปอัพโดยเพิ่มฟรีเพื่อขยายวันพักเพิ่ม ตัวอย่าง จองพักเสาร์-อาทิตย์ แถมฟรีวันจันทร์
ปี 2562 แนวโน้มรายได้ของภาคอีสานจะสามารถเป็นไปตามเป้าหมายรวมกว่า 90,000 ล้านบาท ในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ ส่วนปี 2563 ทางภาครัฐและเอกชนในอีสานจะต้องช่วยขับเคลื่อนให้ได้ 92,000 ล้านบาท
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์โหมช้อปออนไลน์รับโค้ดลดแหลก12-15%
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรมต้อนรับการช้อปด้วย September Collections ลดสูงสุด 12% หรือ ลดสูงสุด 15% โดยใช้รหัสส่วนลดใช้ได้ที่ KingPower.com และ King Power Application เท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ – 19 กันยายน 2562 เพื่อกระตุ้นตลาดการซื้อสินค้าอย่างสะดวกสบายผ่านช่องทางดิจิตอล จึงได้เปิดโอกาสให้ช้อปได้ดังนี้
1. ส่วนลดสูงสุด 12% สำหรับรายการสั่งซื้อเมื่อช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป
2. ส่วนลดสูงสุด 15% สำหรับรายการสั่งซื้อเมื่อช้อปครบ 8,000 บาทขึ้นไป
3. 0% นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ
ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562
4. รายการส่งเสริมการขายนี้สามารถใช้ร่วมกับสินค้าราคาพิเศษ, สินค้าลดราคา เฉพาะที่ร่วมรายการ
5.รับรหัสส่วนลดเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าทุกแผนกเฉพาะที่ร่วมรายการ เท่านั้น
ข่าวที่ 2 “คิง เพาเวอร์มอบเงินสนับสนุนรพ.ศิริราช-ระดมเงินมอบTFWA
นางสาวอรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมสนับสนุน โครงการ “แสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 5 เฉลิมพระเกียรติ” โดยได้มอบเงินสนับสนุน2 ล้านบาท แก่ รศ. นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นดั่งแสงนำใจของคนไทยทั้งชาติ และเป็นแบบอย่างในการออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพ ณ โรงพยาบาลศิริราช
ส่วนอีกโครงการของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ทำหน้าที่ในฐานะผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีชั้นนำระดับโลก และรายเดียวในประเทศไทย ให้การต้อนรับ คณะ “Wild Tiger’s Roar Trip จากอินเดีย ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ในโอกาสทำกิจกรรมรณรงค์รับบริจาคหารายได้ช่วยเหลือและอนุรักษ์พันธุ์เสือหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ โดยมีจุดหมายปลายทางที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ก่อนเข้าร่วมงานมหกรรม Tax Free World Association (TFWA) ที่กำลังจัดขึ้นในปลายเดือนกันยายนนี้ ซึ่งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เตรียมพร้อมเข้าร่วมงานดังกล่าว
ข่าวที่ 3 “ททท.จัดหนักHappy Retirementดึงทัวร์เกษียนเที่ยวไทย”
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. จัดมหกรรมพิเศษให้คนไทยได้ร่วมฉลองเกษียณให้ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ในช่วงเกษียณทั้งที เที่ยวให้เต็มที่ โดยหันมาเลือกเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยกับแคมเปญ Happy Retirement จองซื้อได้เลยตั้งแต่วันนี้ -20 กันยายน 2562 ททท.ในโครงการ "บินพักหลักร้อยหลักพันลุ้นรับหลักล้าน กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศช่วงโค้งสุดท้ายก่อนปิดปีงบประมาณ 2562 ในเดือนกันยายน นี้ ด้วยการจับมือกับเอกชนจัดโปรเที่ยวทั่วไทยราคาสุดพิเศษ พร้อมรับสิทธิจับฉลากลุ้นรางวัลใหญ่ รถยนต์ Toyota รุ่น Fortuner 2.4G 2WD AT มูลค่า 1,578,100 บาท
“ช่วงกันยายนนี้ เป็นเดือนแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตและการงานของข้าราชการและรัฐวิสาหกิจทุกคน เพราะเป็นเดือนสุดท้ายของข้าราชการที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์จะต้องเกษียณจากงานและภารกิจที่ทำมาหลายสิบปี แต่อีกมุมหนึ่งการเกษียณก็เป็นจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาใหม่ของชีวิตที่ทุกคนจะมีความสุข มีอิสระเสรี ได้ทำอะไรอย่างที่ใจอยากจะทำ จึงเชิญชวนให้รีบวางแผนเดินทางพักผ่อนทั่วเมืองไทย" ผู้ว่าการ ททท.กล่าว
ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.ขอมีส่วนร่วมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขและอิสรภาพนี้กับทุกคน จัด แคมเปญ Happy Retirement สามารถเข้ามาจองซื้อตั๋วเครื่องบิน ที่พักราคาหลักร้อย หลักพัน และแพ็กเกจท่องเที่ยว ราคาสุดพิเศษ ได้จนถึงวันที่ 20 กันยายน 2562
ส่วนเงื่อนไขของการเดินทางกับสายบินและที่พักที่เข้าร่วมโครงการ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ของแต่ละแห่ง
ข่าวที่ 4 “ “ททท.ชวนเที่ยวงานชา@เชียงราย13-15ก.ย.นี้”
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้จัดงาน "Amazing Brew & Blend @ Chiangrai" วันที่ 13-15 กันยายน 2562 ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย อ.เมือง จ.เชียงราย ขยายผลส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง รวมทั้งตอกย้ำภาพลักษณ์จังหวัดเชียงรายให้เป็นเมืองแห่งชา กาแฟ และส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว
ตลอดงานนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมประสบการณ์ 5 โซนกิจกรรมหลัก ประกอบด้วย โซนคาเฟอีน (Caffeine) คัดสรรสุดยอดร้านกาแฟชื่อดังทั่วประเทศกว่า 30 ร้าน แต่ละร้านคัดสรรเมนู Signature มาให้ได้ลิ้มลอง อาทิ เมนูอเมริกาโน่ผสมน้ำมะไฟจีนเสิร์ฟพร้อมมะไฟอบแห้ง จากร้าน Erabica Signature จ.น่าน, เมนูชา 5 มังกร จาก ร้าน Wide berry จ.ลำปาง, กาแฟขี้ควาย จากร้าน บัฟฟาโล่คอฟฟี่ เป็นต้น
โซนโอมากาเสะ คอฟฟี่ (Omakase Coffee) หรือ Slow Coffee จากบาริสต้าชื่อดังของเมืองไทย ได้ร่วมกาแฟคอร์สเมนูแบบ OMAKASE กับสุดยอดเมล็ดกาแฟและชา โดย 3 บาริสต้า จาก 3 ภูมิภาค ได้แก่ จาก 3 บาริสต้าชื่อดังระดับประเทศ ปิ ปิยชาติ "Drip King" ของเมืองไทยจากร้าน Gallery กาแฟ ดริป, โต ชูเกียรติ จากร้านสวรรค์บนดิน, ไผ่ กมลธรรม จากร้าน Heart Made Coffee and Eatery Songkhla มาร่วมรังสรรค์เครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและหาดื่มจากที่ไหนไม่ได้
โซนฟินแลนด์ (Fin Land) ฟินกับเมนูเด็ดอาหารถิ่น อาหารสุขภาพ ร้านอาหารชื่อดังในออนไลน์ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเรนโบว์, ตงตงข้าวมันไก่บ้านสูตรเบตง, Cheesetober พร้อมช้อปปิ้งงานคราฟท์ และสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของแต่ละชุมชนเอกลักษณ์ทั่วประเทศ
โซนรีแลกซ์ (Relax) ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าด้วยการนวด บำรุงผิวด้วยสปากาแฟ ลงสีวาดลวดลายบนแก้วกาแฟด้วยตัวเองแล้วนำกลับไปใช้ได้เลย เช็คดวงผ่านตะกอนชาและกาแฟ รวมถึงไพ่ยิปซี และนักษัตร ไปกับอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์
โซน Let The Music Play เพลิดเพลินกับศิลปินระดับแนวหน้าของเมืองไทยและศิลปินท้องถิ่นในบรรยกาศสบายๆ ไม่ว่าจะเป็น นิวจิ๋ว, ลุลา, Season Five, ทอม อิศรา, แกงส้ม ธนทัต, The Parkinson และ SY51 SomeiYoshino51, เดอะสะล้อ และอ้อม รัตนัง
ซึ่งภายในงานจะมีการลดการใช้พลาสติกและโฟม งดการใช้หลอดพลาสติก โดยเปลี่ยนเป็นหลอดกระดาษ ไม้ไผ่ หรือไบโอพลาสติกที่ย่อยสลายได้ พร้อมทั้งเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานนำภาชนะมาเอง จะได้รับส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อเครื่องดื่มภายในงาน
ข่าวที่ 5 “ทริสคงเรตติ้งเครดิตหุ้นบางจากไว้ที่ระดับ A
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด รายงาน ว่า ได้คงการอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “BCP” ในหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน ไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ไว้ที่ระดับ A และ Greenshoe 4,000 ล้านบาท ไว้ที่ "BBB+/Stable" โดยหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนมีอันดับเครดิตต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทอยู่ 2 ระดับ เนื่องจากหุ้นมีลักษณะการด้อยสิทธิและผู้ออกตราสารสามารถเลื่อนการชำระดอกเบี้ยพร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้ได้
โดยทริสเรทติ้ง กำหนดให้หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีระดับความเป็นทุนระดับปานกลาง (Intermediate Equity Content) ตามลักษณะของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าว ซึ่งรวมถึงความด้อยสิทธิ ความสามารถในการเลื่อนชำระดอกเบี้ยตามดุลยพินิจของบริษัท การห้ามไถ่ถอนหุ้นกู้ในช่วง 5 ปีแรก และมีอายุตราสารที่ยาวนาน ดังนั้น ในการคำนวณอัตราส่วนทางการเงินของบริษัท ทริสเรทติ้งพิจารณา 50% ของเงินต้นคงค้างของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนเป็นทุน และอีก 50% เป็นเงินกู้และระดับความเป็นทุนของตราสารหนี้จะถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับความเป็นทุนน้อย (0%, Minimal Equity Content) ในวันครบกำหนด 5 ปีนับจากวันออกหุ้นกู้ เนื่องจากอายุคงเหลือจริง (Remaining Effective Maturity) ณ วันดังกล่าวน้อยกว่า 20 ปี
ข่าวที่ 6 “TCEBคาดไมซ์ดันห่วงโซ่เศรษฐกิจปี’62ทำเงิน5.4แสนล้าน”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าภารกิจของ TCEB ในอนาคตเรื่องการนำอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2563 เดินหน้าพันธกิจหลักเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดประชุม การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ การจัดงานแสดงสินค้านานาชาติรวมถึงงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการจัดงานระดับโลก
ตามคาดการณ์ปี 2562 อุตสาหกรรมไมซ์ทั้งตลาดในและต่างประเทศจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจ (Economic Impact) ที่จะทำให้เกิดผลเชิงบวกต่อประเทศดังต่อไปนี้
1.เกิดการใช้จ่ายจากการจัดกิจกรรมไมซ์รวมมูลค่าทั้งสิ้น 544,700 ล้านบาท แบ่งเป็นไมซ์ในประเทศ 275,000 ล้านบาท ไมซ์ต่างประเทศ 269,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3% ของ GDP ของประเทศ
2.ภาครัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีได้จากธุรกิจไมซ์ 35,900 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างแรงงานกว่า 340,000 อัตรา
ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมไมซ์ ผลการดำเนินงาน และแผนกลยุทธ์ปีงบประมาณ 2563 มีภารกิจท้าทายที่ TCEB จะต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วนนำประเทศไทยเป็นผู้นำไมซ์แห่งเอเชีย
เริ่มจากขณะนี้ “ไทย” ติดอันดับ 1 ทั้งด้านการจัดประชุมและการแสดงสินค้าของอาเซียน ติดอันดับที่ 4 ของเอเชีย รองจาก จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ด้านการจัดประชุมนานาชาติ อันดับที่ 7 ของเอเชียด้านการแสดงสินค้านานาชาติ ทั้งนี้ โดยได้รับการสนุบสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมาคม TICA TEA THA ATTA และสมาคมต่าง ๆ ในภาคธุรกิจที่ร่วมกันทำให้ประเทศไทย เป็น Destination ของไมซ์อย่างแท้จริง
ส่วนสถานการณ์แนวโน้มตลาดไมซ์ของโลก (Global Market) ทางสมาคมระหว่างประเทศด้านการประชุมและการจัดนิทรรศการ หรือ ICCA ระบุปี 2562 อุตสาหกรรมไมซ์ทั่วโลกมีความเคลื่อนไหวประกอบด้วย
1.ยอดการจัดงานประชุมนานาชาติรวมกว่า 12,900 งาน มีภูมิภาคยุโรปเป็นตลาดการประชุมที่ใหญ่ที่สุดในโลก 6,700 งาน ส่วนการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ มีการจัดงานแสดงสินค้าทั่วโลกทั้งสิ้น 32,000 งาน โดยมีภูมิภาคอเมริกาเป็นตลาดการแสดงสินค้าใหญ่ที่สุดกว่า 10,800 งาน ขณะที่เอเชีย/แปซิฟิคและตะวันออกกลาง ถือเป็นภูมิภาคที่มีการเจริญเติบโตสูงของอุตสาหกรรมไมซ์ในปัจจุบัน
ขณะที่สถานการณ์อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย ปี 2562 จะมีนักเดินทางไมซ์ต่างประเทศมาไทย 1,248,000 คน สร้างรายได้ 100,500 ล้านบาท ตลาดหลักยังคงเป็น จีน อินเดีย และอาเซียน
ปีงบประมาณ 2563 คาดจะมีไมซ์ต่างประเทศมาไทย 1,386,000 คน สร้างรายได้ 105,600 ล้านบาท และตลาดในประเทศ 36,395,000 คน สร้างรายได้ 127,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 คาดจะมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์ไทยร่วมกิจกรรมไมซ์ในประเทศกว่า 31,400,000 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 121,000 ล้านบาท
ช่วงที่ 2 เข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว เตรียมตัวให้พร้อมในการออกเดินทางท่องเที่ยว “เชียงรายเมืองรองแห่งตำนานเรื่องเล่างานศิลป์ชั้นครู” 6 แห่งต้องห้ามพลาด แล้วฟังเสียงเตือนจากวงการแพทย์ คนไทย “อ้วนจนบานปลายกลายเป็นโรคปลายประสาทเสื่อม” ต้องตื่นตัวหันมาดูแลเรื่องอาหารการกินให้มาก ๆ และข่าวเด็ด ๆ ท้ายชั่วโมง “WEF 2019” เปิดโผประเทศที่มีศักภภาพครองใจตลาดโลก ไทยติดอันดับ 31 จากทั้งหมด 140 ประเทศ แต่ก็รั้งท้ายด้านมาตรฐานความปลอดภัย “มหกรรมฟู้ดแอนด์โฮเต็ลไทยแลนด์” ปั๊มธุรกิจทำเงินสะพัด 5,500 ล้านบาท และ “สศค จ่อชง ครม.” เพิ่มกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว ลงทะเบียนร่วมในถุงเงิน ขานรับนโยบายแจกเงินพันบาท 10 ล้านคนไทยเที่ยวฟรีโค้งสุดท้ายปลายปี’62
@เที่ยวเชียงรายไปตามแหล่งสุดยอดงานศิลป์6แห่ง
เริ่มเข้าฤดูปลายฝนต้นหนาว ไปเหนือสุดกันนะ...กับทริป “เที่ยวเชียงรายไปตามแหล่งสุดยอดงานศิลป์”
“เชียงราย” ตอนเหตุการณ์ “13 หมูป่าติดถ้ำหลวง” ทำให้คนทั่วโลกรู้จัก ความงดงามของงานศิลป์แขนงต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งมนต์สะกดนักท่องเที่ยว ทุกครั้งที่ได้เห็นก็จะประทับใจตื่นตาตื่นใจกับแต่ละสถานที่
จุดแรก “วัดร่องขุ่น” สถาปัตยกรรมงานวิจิตรศิลป์ของ “อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” โชว์ฝีมือสร้างสรรงานชิ้นอกชั้นครูแถวหน้า โดยได้แรงบันดาลใจจากความรัก ความศรัทธา และความเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ออกมาเป็นงานศิลป์แบบประยุกต์ ยิ่งใหญ่ ทรงคุณค่า ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาเยี่ยมชม
จุดที่สอง “บ้านดำ” งานศิลป์แห่งชาติระดับตำนานของอาจารย์ “ถวัล ดัชนี” เนรมิตพื้นที่กว่า 100 ไร่ ให้กลายเป็นศูนย์รวมสถาปัตยกรรมท้องถิ่นประยุกต์ และศิลปะพื้นบ้าน ภายใต้โทนสีดำทุกหลัง ซึ่งมีความแปลกแตกต่างไปอีกแบบ
จุดที่สาม “วัดร่องเสือเต้น” วัดสีน้ำเงินโดดเด่นด้วยพระอุโบสถซึ่งมีพญานาคพลิ้วไหวอยู่ตรงบันไดทางเข้า ที่”ครูสล่านก” ศิลปินท้องถิ่นเชียงรายรังสรรค์โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ภายใต้ความสวยงามให้เกิดขึ้น ทำให้วิหารแห่งนี้เป็นทิพยสถานแห่งการสรรเสริญพระพุทธเจ้าลายล้อม
ด้วยประติมากรรมและจิตกรรม
จุดที่สี่ “ขัวศิลปะ” เดินชมห้องจัดแสดงงานศิลปะหลากหลายแขนงของเหล่าศิลปินที่ต้องการสะท้อน ศิลปะเชื่อมโยงสู่สังคม ที่นี่มีร้านกาแฟ ร้านอาหารให้นั่งชีลได้ด้วย
จุดที่ห้า “วัดหิรัญญาวาส” มีความวิจิตรตระการตากับประติมากรรมพระพุทธรูปสานจากไม้ไผ่องค์ใหญ่สุดในโลก “พระสิงห์สานชนะมาร” สร้างด้วยความรัก ความสามัคคี และความสุขของคนในชุมชน ได้นำต้นแบบการสานพระพุทธรูปมาจากชาวไทเขิน จังหวัดเชียงตุง เมียนมา มาใช้ในเชียงแสน องค์พระทำจากโครงเหล็ก ส่วนร่างกายสานด้วยไม้ไผ่มุงทั้งองค์ทาด้วยสีทอง ส่วนจีจรทาด้วยสีแดงของชาด ส่วนใต้ฐานพระทำเป็นโพรงเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ลอดอุโมงค์เข้าไปทำบุญ สะเดาะเคราะห์ และดูความประณีตของพระพุทรูป
จุดที่หก “วนอุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน” ซึ่งโด่งดังไปทั่วโลก เป็นถ้ำภาคเหนือติดอันดับ 4 มีความยาวสุดในเมืองไทย มีประติมากรรมธรรมชาติอันงดงามอยู่ภายใน เหมาะแก่การศึกษาวิจัย รวมทั้งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปได้ในช่วงเปิดถ้ำ ยกเว้นฤดูฝนจะปิดช่วงกรกฎาคม-พฤศจิกายน เพื่อความปลอดภัย
เที่ยวเชียงรายผ่านงานศิลปะ กับเรื่องราวความวิจิตรงดงามทั้ง 6 แห่ง ได้ตลอดทั้งปี
@รู้ให้ทันรีบป้องกันโรคปลายประสาทอักเสบ
ภาควิชาโภชนวิทยา มหาวิทยาลัยมหิด ระบัผลสำรวจพบคนไทยบริโภคน้ำตาลเกินปริมาณที่จำเป็นต่อร่างกาย เฉลี่ยต่อรายสูงถึง 29 ช้อนชา ช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีคนไทยป่วยเป็นโรคอ้วนและเป็นเบาหวานสูงถึงปีละ 79 % พร้อมกับมีโรคแทรกซ้อนที่มักตามมากับเบาหวาน คือ โรคปลายประสาทอักเสบ
ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยในปัจจุบันพบว่า “คนไทยมีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป จะเห็นได้ชัดว่าคนไทยส่วนใหญ่ชอบอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม โดยเฉพาะรสหวานซึ่งพบว่าคนไทยชอบดื่มน้ำหวาน อาทิชา กาแฟ ชานมไข่มุก ที่มีปริมาณน้ำตาลมากกว่าที่ร่างกายต้องการ และจากการสำรวจพบคนไทยได้รับน้ำตาลสูงถึงวันละ 29 ช้อนชา จึงส่งผลให้เป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานสูงถึง 79 % ตามมาด้วยโรคปลายประสาทอักเสบแทรกซ้อน โดยมีอาการชาตามบริเวณปลายมือ ปลายเท้าเพราะขาดวิตามิน B1, B6 และ B12 ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของสมองและเส้นประสาท และยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหลอในร่างกาย”
ดังนั้นจึงแนะนำให้ดูแลรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ ด้วยการหลีกเหลี่ยงการไขว้ขาและการนั่งในท่าที่อาจกดทับเส้นประสาทควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และรับประทานวิตามิน B1, B6 และ B12 อย่างเหมาะสมเพราะวิตามิน B มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง และช่วยซ่อมแซมปลอกหุ้มเซลล์ประสาท”
และดูแลเรื่องการกิน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เพราะอาหารและสิ่งต่าง ๆ ที่กินเข้าไปย่อมมีผลต่อการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของร่างกาย ดังนั้นจึงขอฝากถึงคนไทยทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพ ดูแลเรื่องอาหาร เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ถ้าต้องการมีสุขภาพที่ดีก็ต้องปรับพฤติกรรมการกินโดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นโรคอ้วน หรือ โรคเบาหวาน เพราะนอกจากความเสี่ยงของโรคที่คุณเป็นแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคปลายประสาทอักเสบอีกด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก ““WEFจัดอันดับท่องเที่ยวโลกไทยติด313แย่เรื่องปลอดภัย”
World Economic Forum : WEF เปิดรายงานประจำปี 2019 ศึกษา ซึ่งจัดเป็นประจำทุก 2 ปี จากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสภาวะที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ นโยบายด้านการท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและบริการ ไปจนถึงแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม
ล่าสุดเมื่อต้นเดือนกันยายน 2562 เปิดผลสำรวจของประเทศที่มีศักยภาพแข่งขันด้านธุรกิจท่องเที่ยว สูงที่สุดในโลก ไทยติดอันดับ31 จากทั้งหมด 140 ประเทศ โดยมีคะแนนเรียงต 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.สเปน 2. ฝรั่งเศส 3. เยอรมนี 4. ญี่ปุ่น ได้คะแนเท่ากัน 5.4 คะแนน 5. สหรัฐอเมริกา (5.3) 6. สหราชอาณาจักร (5.2) 7. ออสเตรเลีย (5.1) 8. อิตาลี (5.1) 9. แคนาดา (5.1) 10.สวิตเซอร์แลนด์ (5.0)
สำหรับในเอเชียแปซิฟิก ปี 2019 มีอันดับดังนี้ 4. ญี่ปุ่น (5.4) 7. ออสเตรเลีย (5.1)
13. จีน (4.9) 14. ฮ่องกง (4.8) 16. เกาหลีใต้ (4.8) 17. สิงคโปร์ (4.8) 18. นิวซีแลนด์ (4.7)
29. มาเลเซีย (4.5) 31. ไทย (4.5) 34. อินเดีย (4.4)
สำหรับไทย ไทย มีความโดดเด่นด้านทรัพยากรธรรมชาติสวย แต่เสี่ยงเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม ปี 2562 ไทยได้คะแนนสูง 1.ด้านทรัพยากรธรรมชาติ อันดับ10 ของโลก 2.ด้านโครงสร้างพื้นฐานการบริการท่องเที่ยว อันดับ14 3.ด้านการคมนาคมทางอากาศ อันดับที่ 22 แต่อันดับที่ไทยทำได้ไม่ดีคือ 1.ด้านความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม อันดับ130 2.ด้านความปลอดภัย อันดับ 111 3.ด้านความสะอาด อันดับที่ 88
ข่าวที่สอง ““ทั่วโลกแห่ร่วมมหกรรมการค้าฟู้ดโฮเต็ล2019เงินสะพัด5.5หมื่นล้าน”
นายจัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ต กล่าวว่า ในฐานะผู้รับผิดชอบการจัดงาน Food and Hotels Thailand 2019 ระหว่าง 4-7 กันยายน 2562 ณ ไบเทค บางนา มีผู้ประกอบการและผู้สนใจในการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และบริการ เข้าร่วมชมงานอย่างคึกคัก คาดจะดึงดูดคนเข้าร่วมชมงานได้ถึง 30,000 คน มาจากต่างประเทศถึง 12 ประเทศ ได้แก่ จีน ศรีลังกา ไต้หวัน สาธารณรัฐมัลดีฟส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ คาดจะมีการเจรจาธุรกิจสร้างมูลค่าการค้าตลอดงานสูงถึง 5,500 ล้านบาท
การจัดงานปี 2562 มีให้ชมและเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ 6 โซน ประกอบด้วย 1. Coffee & Tea Culture, Food & Drinks, Food Service Equipment, Hospitality & Retail Technology Thailand, Hospitality Style และ Wine & Spirits Thailand รวมทั้งเป็นแรกที่จัดเพิ่มพิเศษ 2 โซน คือ 1.Fine Food Thailand และ 2.Restaurant & Bar Thailand
ข่าวที่สาม “คลังรอชงครม.อนุมัติเพิ่มกลุ่มท่องเที่ยวลงทะเบียนร่วมถุงเงิน”
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่าเตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)สัปดาห์ที่ 10 กันยายนนี้ เพิ่มร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ”ชิมช้อปใช้” ให้ครอบคลุมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวครบวงจรโดยลงทะเบียนกับกรมบัญชีกลางและติดตั้งแอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ในกลุ่ม ธุรกิจสปา เช่ารถ เรือนำเที่ยว เพิ่มจากกลุ่มแรกที่ได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว คือ ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม โฮมสเตย์ วิสาหกิจชุมชนและร้าน OTOP
สถิติตั้งแต่28 สิงหาคมจนถึงขณะนี้ มีผู้ประกอบการลงทะเบียนแล้ววันละ 500 ราย ซึ่งยังคิดว่าไปได้ รวม 3,300 ราย จากรายชื่อร้านค้าเป้าหมายที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง 40,000 รายคือ ร้านอาหารที่มีเลขทะเบียนพาณิชย์ 14,000 ราย ร้านอาหารขนาดเล็กในพื้นที่อีก 10,000 ราย ร้าน OTOP/วิสาหกิจชุมชน/ 6,000 รายโรงแรมและโฮมสเตย์ 10,000 ราย ปัจจุบันกำลังพิจารณาขยายเวลารับสมัครจากเดิมภายใน 20 กันยายน นี้ เพิ่มไปจนถึงสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2562
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น