ททท.ชี้ชิมช้อปใช้ดันรายได้ปลายปี62พุ่งปรี๊ด-อัดฉีดเพิ่ม2โปรเจ็กต์ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย วันธรรมดาราคาช็อกโลก-CEOคิงเพาเวอร์เปิดแผนธุรกิจเพื่อสังคม

ผู้นำททท.ชี้“ชิมช้อปใช้”ดันเศรษฐกิจ-รายได้ปลายปีพุ่งปรี๊ด

อัดฉีดเพิ่ม“ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย-วันธรรมดาราคาช็อกโลก”

ปรับตลาดใหม่หลังโทมัสคุ้กล้ม-WTMชูขายทัวร์รับผิดชอบ

ซีอีโอคิงเพาเวอร์รุก”ธุรกิจเพื่อสังคม”บูมชุมชนติดตลาดโลก

คิงเพาเวอร์ผนึกAIGช้อปรับประกันคุ้มครองวงเงินล้านบาท

ททท.แจกรางวัลกินรีลั่นใช้ยกระดับคุณภาพอุตฯท่องเที่ยว

ททท.เชียงใหม่หาช่องเติมรายได้เฟ้นจุดขายใหม่3เรื่องปี63

บางจากโรงกลั่นเจ้าแรกได้รับมาตรฐานวอเตอร์ฟรุตปริ๊นท์

TCEBงัด4Ms-ลดพลาสติกบุกโกยตลาดไมซ์แสนล้านปี63

เที่ยวบางแสนชีลมุมใหม่“Die for Coffee-คุซัทซึออนเซน”

ถอดรหัสลับเรื่องการกิน 2 : 1 : 1 อาหารเป็นยาอาวัฒนะ

บอร์ดบินไทยให้สุเมธผ่านโปร-ตีกลับซื้อฝูงบินจ่อใช้วิธีเช่า

อังกฤษวุ่นแก้โทมัสคุ้กล้มลุยเช่าเหมาพันเที่ยวขนกลับบ้าน

ชวนเที่ยวบุญใหญ่งานออกหว่าแม่ฮ่องสอน12-14ต.ค.นี้

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋  #ชิมช้อปใช้ #ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย #วันธรรมดาราคาช็อกโลก #คิงเพาเวอร์ #toDieforCoffee #Kusutsuonsen

ช่วงที่ 1 เจาะกระแสแรง ๆ กับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชี้มหกรรม “ชิมช้อปใช้” คึกคักเกินคาดแห่จองเต็มล้านคนตั้งแต่เช้ามืดทุกวัน ชงรัฐบาลอัดเพิ่มอีก 2 แคมเปญ “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย-วันธรรมดาราคาช็อกโลก” ปลุกเศรษฐกิจปลายปีพุ่งอีก 20 % ส่วนตลาดต่างประเทศสั่งยุโรป 6 สำนักงานรับมือโทมัส คุ้ก ล้มละลายลุยออกแคมเปญพิเศษ พ.ย.นี้ ขานรับงาน WTM 2019 ลุยขายเที่ยวอย่างรับผิดชอบช่วยกันออมธรรมชาติ และปี’63 ยังคงยึดโกยรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 3.34 ล้านล้านบาท

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ขานรับนโยบายรัฐบาลลงทะเบียนนักท่องเที่ยวในโครงการชิมช้อปใช้ในด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนและร้านค้าเข้าร่วมบริการ ตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียนตามโควต้าวันละ 1 ล้านคน เริ่ม 23 กันยายน มียอดครบภายในเวลาบ่าย 2 โมง วันที่ 24 กันยายน เต็ม 8 โมงเช้า  วันที่ 25 กันยายน ประมาณ 6 โมงเช้า วันที่ 26 กันยายน เต็มตั้งแต่เวลาตี 5 เศษ แสดงถึงคนให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมรับสิทธิ์ เงิน 1,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายรวมทั้งสิทธิประโยชน์เป็น Cash Back เงินคืนสูงสุด 30,000 บาท ขณะเดียวกันร้านค้าก็มีความตื่นตัวทางกรมบัญชีกลางกระทรวงการคลังดูแลมีผู้สนใจเข้าร่วมมากกว่า 120,000 แห่ง เพื่อให้ 10 ล้านคนไปใช้จ่ายสร้างเงินให้สะพัดมากขึ้น

โครงการนี้จะมีส่วนผลักดันเศรษฐกิจเป็นบวก โดยประมวลผลการท่องเที่ยว 8-9 เดือนแรก มกราคม-กันยายน2562 ทั้งจำนวนคนและรายได้เติบโต 6-7 % ช่วงปลายปีมีวันหยุดค่อนข้างมากรวมถึงอากาศเริ่มเย็นลงทำให้การเดินทางในประเทศค่อนข้างคึกคัก ประกอบกับกิจกรรม “ชิมช้อปใช้” จะช่วยเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวในประเทศให้เข้าเป้า 1 ล้านล้านบาท

ขณะเดียวกันก็มอบหมายให้ ททท. 5 ภูมิภาคขับเคลื่อนโดยในการเริ่มปีงบประมาณใหม่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป ยังคงมีงบประมาณเหลืออยู่มาพัฒนาโครงการตามลำดับความสำคัญเพื่อกระตุ้นคนไทยเที่ยวไทย เพราะส่วนหนึ่งก็กังวลเกรงคนไทยจะหันไปเที่ยวต่างประเทศเนื่องจากค่าเงินบาทแข็งทำให้แพกเกจเที่ยวต่างประเทศถูกลง ททท.จึงปรับกลยุทธ์โดยได้เตรียมแคมเปญกระตุ้นไว้ 2 โครงการ ได้แก่ 1.ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย จะโปรโมตปลายปี 2.วันธรรมดาราคาช็อกโลก เพราะปกติคนไทยจะเที่ยววันหยุด หรือหยุดยาว จึงจะเพิ่มความเข้มข้นให้คนหันมาเที่ยววันธรรมดาโดยไม่จำกัดอยู่แต่วันหยุดเพียงอย่างเดียว

ทั้ง 2 แคมเปญ จะสามารถเปิดตัวได้ประมาณ กลางเดือนตุลาคม 2562 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ หากเริ่มได้ก็จะเป็นช่วงต้อนรับฤดูท่องเที่ยวปลายปีนี้พอดี โดยได้ประเมินเป้าหมายการเติบโตเพิ่มสูงกว่าปกติด้านจำนวนไม่ต่ำกว่า 10-20 % ด้านความถี่การเดินทางท่องเที่ยว ส่วนรายได้จะขยับเพิ่มอีก 5-10 % ซึ่งจะผนวกไปกับการลดราคาและการจ่ายปกติ

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่าการวางแผนรับมือหลังจากโทมัส คุ้ก บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวยักษ์ใหญ่ของโลกล้มละลายเลิกกิจการนั้น เมื่อหันมาประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทยขณะนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 28-29 ล้านคน เป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดจะต้องไม่ต่ำกว่า 38.9 ล้านคน ทำรายได้ 2.02 ล้านล้านบาท ททท.พยายามจะทำให้ถึง ช่วงเวลาที่เหลือต้องสร้างความมั่นใจให้ถึงเป้าหมาย โดยได้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาปกติ ผนวกกับตั้งแต่ต้นถึงกลางเดือนกันยายน 2562 มียอดบวกไม่น้อยกว่า 20 % แม้จะเกิดเหตุการณ์โทมัส คุ้ก ในยุโรป แต่ก็ได้ส่งทีมงานไปพูดคุยกับทางกลุ่มบริษัทดังกล่าว และหารือกับผู้ประกอบการในไทยเตรียมไปช้อนหรือเก็บนักท่องเที่ยวตกหล่นจากโทมัส คุ้ก โดยให้ ททท.ยุโรป 6 แห่ง ทำแคมเปญพิเศษเริ่มพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

สำหรับตลาดที่ได้รับผลกระทบหนักจากเหตุการณ์โทมัส คุ้ก ล้มละลายหยุดบริการ คือ สหราชอาณาจักร กับเซ็นทรัลยุโรป แต่ไทยมีฐานตลาดไม่สูงมากนัก เบื้องต้นจึงต้องใช้วิธีพยุงฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่อย่าง อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส ไว้ อย่างไรก็ตามปีนี้แนวโน้มยุโรปจะหนาวเร็วจึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการย้ายมาพักผ่อนในไทยเร็วขึ้น โดยได้เปิดตัวแคมเปญ Book Now Travel Now แต่ละสำนักงานก็มีแคมเปญพิเศษเฉพาะพื้นที่อยู่ด้วย คาดจะนำมาใช้ในจังหวะพอดีกับที่โทมัส คุ้ก ปิดกิจการไป

ผู้ว่าการ ททท.กล่าวว่า ช่วงระหว่าง 2-6 พฤศจิกายน 2562 ยังคงเดินหน้านำทัพผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยไปร่วมเจรจาธุรกิจในมหกรรมใหญ่ระดับโลก World Travel Mart : WTM 2019 ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ โดยจะชูจุดขายการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวออมทรัพยากรธรรมชาติ

ส่วนแคมเปญคือ Open to the New Shades ที่เน้นความสำคัญของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพราะถึงแม้ขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยจะดีกว่าหลายประเทศ แต่ในด้านอันดับของสิ่งแวดล้อมกลับลดลง จึงต้องกระตุ้นนักท่องเที่ยวในแบบที่เรียกว่า “ท่องเที่ยวแบบออมธรรมชาติ” มีความสุขด้วยกันทุกฝ่าย เป็นไฮไลต์จุดขายสำคัญในงาน WTM 2019 โดยจะคัดสรรกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้านสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมใหม่ ๆ เข้าไปร่วมด้วย เมื่อปี 2561 ก็ได้ส่งเสริมกลุ่ม TRAVELTEC ที่ผ่านการประกวดของ ททท.กับ NIA เข้าไปร่วมงาน ดังนั้นปี 2562 ก็จะมีบางส่วนที่ไปด้วย ธีมงานจะเน้นสิ่งแวดล้อม อย่างประเด็นเรื่องช้าง เพราะไทยถูกมองว่านำช้างมาใช้ในการท่องเที่ยวเป็นการทารุณกรรมสัตว์ แต่ก็อาจจะมีอีกเวทีเพื่ออธิบายถึงคน สัตว์ ต้องอยู่กับธรรมชาติได้ เพื่อนำเสนอในเวที WTM 2019

สำหรับปี 2563 เป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวของประเทศ ตามแผนวิสาหกิจ ททท.จะเพิ่มอีกประมาณ 10 % ซึ่งอาจจะทบทวนแผนอีกครั้ง แผนงานของรัฐบาลกำหนดตลาดต่างประเทศจะต้องเพิ่ม 41.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 2 ล้านคน (39.8 ล้านคน) รายได้ 2.22 ล้านล้านบาท เติบโตประมาณ 9 % ส่วนตลาดในไทยประเทศรายได้จะต้องเพิ่มอีก 7 % จากฐานรายได้ปีนี้จะทำให้ได้ 1.1 ล้านล้านบาท ททท.น่าจะยึดตัวเลขดังกล่าวตามมาตรฐานของรัฐบาลรวมแล้วรายได้ท่องเที่ยวปีหน้าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 8 %

ในด้านการให้น้ำหนักเพิ่มเป็นพิเศษกับตลาดระยะใกล้อาเซียน และเอเชีย ตามยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มุ่งหวังตลาดระยะใกล้อย่าง ตลาดจีนมีมากถึง 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหมด ขณะที่เพื่อนบ้านจากอาเซียน เกาหลี ญี่ปุ่น ก็ยังคงเน้นเจาะตามเซ็กเมนต์แต่ละกลุ่ม รวมถึงต้องการให้เพื่อนบ้านเล็งเห็นไทยเป็น Weekend Destination รวมทั้งต้องเสริมสินค้าเชิงมูลค่า เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-Wellness tourism และการท่องเที่ยวเชิงกีฬา -Sport Tourism เป็นอีกกลุ่มตลาดที่รัฐมนตรีพิพัฒน์กำชับเป็นอย่างมาก

ช่วงระหว่าง 4-6 ตุลาคม 2562 ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโมโตจีพี ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงกีฬาระดับโลกนั้น ททท.ได้วางแผนการขายท่องเที่ยวเชื่อมโยงเพราะยอดจองเข้าพักในจังหวัดจัดงานมีสูงถึง 300 % จึงต้องขยายการรองรับไปยังสุรินทร์ นครราชสีมา ขอนแก่น มีคนจองพักเกินกว่า 70 % และทำให้เกิดการท่องเที่ยวเชื่อมโยง สร้างรายได้เพิ่ม ทำให้ชุมชนต่าง ๆ มีความตื่นตัวรองรับนักท่องเที่ยว ตัวอย่าง เขากระโดง บุรีรัมย์ มีจุดขายใหม่ นกกะเรียน หรือ ททท.ไทเปแจ้งว่าจะมีนักท่องเที่ยวไต้หวันจองเข้าชมโมโตจีพีสูงมากเป็นพิเศษ

ดร.ยุทธศักดิ์ ฝากถึงคนไทยเที่ยวไทยช่วงหน้าหนาว หรือก่อนตัดสินใจไปต่างประเทศต้องหันมาดูแหล่งท่องเที่ยวในประเทศซึ่งมีความงดงามไม่แพ้ที่ใด และคนไทยด้วยกันก็รอให้พี่น้องคนไทยท่องเที่ยว ด้วยมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลก็น่าจะออกไปใช้เงิน เพื่อให้พี่น้องชาวไทยในห่วงโซ่การท่องเที่ยวได้รับประโยชน์แบบวินวินร่วมกัน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “ซีอีโอคิงเพาเวอร์ผ่าแผนธุรกิจเพื่อสังคมปี’63ลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ชุมชน”

“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ 

“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ได้มุ่งมั่นเพื่อจะตอกย้ำภารกิจของผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวในฐานะผู้บุกเบิกการขายสินค้าปลอดอากร (duty free) ประเทศไทยครบ 3 ทศวรรษ  ระหว่าง 1-31 ตุลาคม 2562 เตรียมจัดแคมเปญคืนความสุขครั้งยิ่งใหญ่ฉลอง 30 ปี คิง เพาเวอร์ ด้วยมหกรรม “Delight and Surprises Celebrates 30 years of a Remarkable Jouney : ยิ่งช้อป ยิ่งคุ้ม” ทุ่มแจกตั๋วโดยสารเครื่องบินฟรี 30 เส้นทาง ทำโปรโมชั่นลดราคาสินค้าตามสาขาต่าง ๆ สูงสุดถึง 60 % อีกทั้งยังร่วมกับแอร์ไลน์ โรงแรม บริษัทนำเที่ยว ขายแพกเกจคุ้มค่าตอบแทนสังคม

“อัยยวัฒน์” เปิดใจถอดรหัสแนวคิด และเจตนารมณ์ เพื่อสานต่อทุกความตั้งใจของพ่อ-วิชัย ศรีวัฒนประภา ก้าวไปข้างหน้าด้วยโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ในปี 2563 กำลังก้าวขึ้นปีที่ 4 มีจุดเปลี่ยนอีกระดับของพลังที่ทุ่มเททำเพื่อคืนสู่สังคมทั่วประเทศทั้ง 4 ด้าน ได้แก่

พลังที่ 1 SPORT POWER แจกฟุตบอล  1 ล้านลูก (โครงการ ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย) สร้างสนามฟุตบอล 100 แห่ง ให้ทุนคัดนักเตะเยาวชนเข้าสู่ FOX HUNT เข้าสู่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ อังกฤษ กับ OHL LEUVEN เบลเยี่ยม

พลังที่ 2 COMMUNITY POWER นำผลิตภัณฑ์ชุมชนทั่วประเทศไปวางขายใน The City Fanstore at King Power Stadium  รวมทั้งให้นักเตะเลสเตอร์สวมใส่ด้วย ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ได้บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมา สร้างการรับรู้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งผลิตชุมชนเพื่อกระตุ้นให้คนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย โดยเฉพาะผ้าย้อมครามในดีไซน์สีธรรมชาติ สามารถทำยอดขายสูงเกือบ 3,000 ตัว

พลังที่ 3 MUSIC POWER สานฝันผู้ที่มีใจรักดนตรีเครื่องเป่านานาชาติจากทั่วโลกให้เข้ามาประชันความสามารถกันตลอดทุกปี

พลังที่ 4 EDUCATION AND HEALTH POWER สนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็ก ๆ ผ่านรายการ SUPPER 10กับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัย เดอ มง ฟอร์ต ในอังกฤษ ตอนนี้มีผู้จบและพร้อมกลับมาทำงานให้บ้านเมืองแล้วถึง 20 คน จัดหาอุปกรณ์การแพทย์บริจาคตามโรงพยาบาลที่ขาดแคลน โดยเฉพาะตู้อบเด็กแบบอยู่กับที่และเคลื่อนที่ได้ ซึ่งพลังนี้ ปี 2563 จะนำไปอยู่ภายใต้การดูแลของ “มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา” (เดิมชื่อมูลนิธิคิง เพาเวอร์) โดยจะเติมพลังเพิ่มในส่วนของการใส่ใจดูแลครอบคลุมต้นน้ำถึงปลายน้ำในชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ตั้งแต่เรื่อง การศึกษาแต่ละวัย การทำนุบำรุงศาสนา  และด้านสาธารณสุข แม้แต่ในอังกฤษก็ได้จัดงาน Charity PoLo Cup ต่อเนื่องที่เพื่อเงินที่ได้ไปมอบให้โรงพยาบาลในเมืองเลสเตอร์และอื่น ๆ

เมื่อคืนความสุขสู่สังคมภายนอกแล้ว ปี 2563 ก็ต้องขยายผลให้แก่พนักงานภายในองค์กร ด้วยการนำร่องทำโครงการ “POWER DNA” ถ่ายทอดพันธุกรรมความคิดเชิงสร้างสรรค์ปลุกจิตวิญญาณทีมงานกว่า 12,000 คน ให้หลอมรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกันที่จะนำพา คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี และกิจการในเครือ เติบโตไปด้วยกันภายใต้ 4 P

P ที่ 1 -Project Engagement ปลุกจิตสำนึกให้พนักงานเกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของโดยใช้กิจกรรมเป็นสะพานเชื่อมสำคัญ

P ที่ 2 -Passion ปลุกพลังภายในผลักดันให้พนักงานเกิดแรงบันดาลใจกระตือรือร้นลุกขึ้นมาสร้างและสานต่อสิ่งที่ดีทั้งในองค์กรและสังคมร่วมกันอย่างยั่งยืน

P ที่ 3 -People ปลุกพลังสร้างความสัมพันธ์อันแนบแน่นให้พนักงานผนึกการทำงานเป็นทีม ต่อยอดขยายผลเครือข่ายความผูกพันเชื่อมโยงสู่ภายนอกได้ด้วย

P ที่ 4 -Play ปลุกพลังความสนุกให้ทุกคนใส่ใจ สนใจ มีความสุขกับงานเหมือนการได้เล่นในสิ่งที่รักและชื่นชอบ

“อัยยวัฒน์” ยืนยันว่าปี 2563 เตรียมปรับแผนงานโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ปูทางต่อเฟส 2 ระยะ 3-5 ปีหน้า เบื้องต้นเดือนธันวาคม 2562 นี้ จะนำร่องขยาย COMMUNITY POWER ผลิตภัณฑ์ชุมชนจากผ้าย้อมครามไปสู่ผ้าไทยเพื่อที่จะให้นักเตะสวมใส่ในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลใหม่ พร้อม ๆ  กับนำไปวางจำหน่าย ณ The City Fanstore at King Power Stadium สื่อให้ผู้แฟนคลับสโมสรเลสเตอร์ในอังกฤษและชาติอื่น ๆ ได้รับรู้ถึงศักยภาพสินค้าภูมิปัญญาไทย กับเรื่องราวอันน่าค้นหาและเหมาะกับการใช้เงินซื้ออย่างคุ้มค่า

“สิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย นั้น จุดเริ่มมาจากครอบครัว คุณพ่อ-วิชัย คุณแม่เอมอร ศรีวัฒนประภา ทำร่วมกันมาตลอดตั้งแต่แรก จนมาถึงรุ่นผมได้ต่อยอดทำให้โครงการขยายสู่สังคมเป็นวงกว้างมากขึ้น ผมบอกกับพนักงานทุกคนเสมอว่าการทำความดีไม่ต้องแอบ เมื่อทำแล้วก็ต้องบอกสังคมเพื่อจะได้ช่วยกันขยายเครือข่าย เมื่อกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เริ่มปูทางไว้แล้ว คนอื่น ๆ จะมานำไปใช้ก็ยิ่งดี เพราะไม่ว่าใครทำ ประเทศไทยก็ได้ประโยชน์ ยิ่งทำกันมาก ๆ ก็ยิ่งส่งผลดีต่อสังคมไทย”

ข่าวที่ 2 “ช้อปคุ้ม อุ่นใจ ที่คิงเพาเวอร์รับวงเงินคุ้มครองAIG 1ล้านบาท

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้า และสมาชิก คิง เพาเวอร์ คนไทยเท่านั้น เพียงช้อปครบ 1,000 บาท (สุทธิ / ใบเสร็จ) ระหว่างวันนี้ – 31 ส.ค. 2563 รับฟรี! ประกันคุ้มครองอุบัติเหตุทั่วโลก มูลค่า 1 ล้านบาท (1 สิทธิ์ / ท่าน / วัน) หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง  ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และมหานคร

โดยให้สิทธิ์เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบสินค้าร่วมรายการเพิ่มเติม ณ จุดขาย สามารถ ใช้ร่วมกับส่วนลดจากบัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ ผ่อนชำระ 0%  แต่ไม่สามารถ ใช้ร่วมกับสิทธิ์  Birthday Celebration , ยอดเงินในบัตรสมาชิก, E- Cash, Cash Card , Gift Card , Gift Voucher, Cash Voucherรวมถึงคูปองส่วนลดอื่นๆ  ยกเว้น  ยอดเงินในบัตรสมาชิกที่ได้รับจากการสมัครบัตรสมาชิก

ข่าวที่ 3 “ททท.แจกรางวัลกินรีเร่งยกระดับมาตรฐานท่องเที่ยว”

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 12 ประจำปี 2562 -Thailand Tourism Awards เมื่อ 27 กันยายน 2562 ตรงกับวันท่องเที่ยวโลก (World Tourism Day)  โดยมี นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ ททท.การบินไทย ไทยสไมล์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และผู้ประกอบการท่องเที่ยวร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยงานจะจัดขึ้นทุก 2 ปี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนหน่วยงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ให้ยังคงรักษามาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพในสากล นำไปสู่การสร้างกระแสการเลือกใช้สินค้าท่องเที่ยวคุณภาพ และผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน (Preferred Destination) ตามวิสัยทัศน์ททท.

ภายในงานได้มอบรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือ รางวัลกินรี ให้ผู้ประกอบการ ที่จะต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกภายใต้กรอบ 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืน (Sustainability and Responsibility) 2.เสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยว (Voice of Customer: VOC) และ 3.ความสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยว (Customers Interest) เป็นเสมือนเครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของเมืองไทย

สำหรับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 12 ประจำปี 2562 มีทั้งหมด 3 ประเภท ซึ่งมีผลงานที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมและดีเด่น 88 ผลงาน ประกอบด้วย 1.ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว 25 ผลงาน 2.ประเภทแหล่งท่องเที่ยว 44 ผลงาน 3.ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 19 ผลงาน โดยมีผลงานที่ได้รับรางวัลเกียรติยศ Hall of Fame หรือรางวัลยอดเยี่ยมประเภทเดิม 3 ครั้งติดต่อกัน 6 รางวัล ได้แก่ 1.ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว 1 ผลงาน คือโรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท เชียงใหม่ 2.ประเภทแหล่งท่องเที่ยว 1 ผลงาน คือ เทศบาลเมืองน่าน จังหวัดน่าน 3.ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4 ผลงาน คือ ดิ โอเอซิส สปา ลานนา เชียงใหม่  บันยันทรี สปา กรุงเทพฯ กรุงเทพมหานคร  บางกอกโอเอซิสสปา กรุงเทพมหานคร  ศูนย์ฝึกอบรมอภัยภูเบศร เดย์ สปา จังหวัดปราจีนบุรี 

ปีนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม Speed Dating เป็นครั้งแรก โดยให้สถานประกอบการที่ได้รับรางวัลกินรี มาเป็นผู้ขาย  62 ราย ได้พบกับกลุ่มผู้ซื้อ อาทิ สมาคมด้านการท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยว ผู้ประกอบการ Startup  ททท. ด้านตลาดในประเทศ-ต่างประเทศ สื่อมวลชน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับรางวัลกินรีได้แสดงผลงานและพบปะกับหน่วยงานต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ 

                และได้จัดมหกรรมช้อป ชิม ชิล สินค้าท่องเที่ยวในงานกินรี Showcase 2019 ที่รวบรวมผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลมาไว้ในงานเดียว ระหว่าง 28 – 29 กันยายน นี้ ณ มิตรทาวน์ฮอลล์ 2 ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ 

ข่าวที่ 4 “ททท.เชียงใหม่เร่งปั้น3จุดขายปั๊มรายได้ท่องเที่ยวปี’63

นางสาวภัคนันท์ วินิจชัย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปี 2563  วางกลยุทธ์ปลุกตลาดท่องเที่ยวเชียงใหม่ด้วยจุดขายเด่น ๆ  3 เรื่อง ประกอบด้วย เรื่องแรก ท่องเที่ยวเชิงอาหาร โดยขยายผลที่เชียงใหม่ได้ร้านมิชลินสตาร์ เรื่องที่ 2 ท่องเที่ยวเชิงงานฝีมือ ด้วยวิธีจัดอีเวนต์งานคราฟต์ซึ่งเป็นจุดเด่นของล้านนาตลอดทั้งปี ควบคู่การสนับสนุนแบรนด์ต่าง ๆ เรื่องที่ 3  ท่องเที่ยวเชิงการศึกษา ผนึกความร่วมมือกับสถานศึกษาในจังหวัดและ ททท.สำนักงานต่างประเทศ นำเด็กและเยาวชนเข้ามาทัศนศึกษา เรียนรู้วิถีชีวิตชาวเชียงใหม่

                ควบคู่กับการโหมโปรโมตการท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีในวันธรรมดา และเที่ยวหน้าฝน พร้อมจับมือโรงแรมในเชียงใหม่กว่า 40,000 ห้อง จัดทำบัญชีรายชื่อที่พักที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้นักท่องเที่ยวเลือกพักสอดคล้องกับตลาดยุโรปกำลังให้ความสำคัญเรื่องการท่องเที่ยวยั่งยืนเป็นอย่างมาก

ขณะที่สถานการณ์ท่องเที่ยวเชียงใหม่ 7 เดือนแรก ระหว่างมกราคม-กรกฎาคม 2562) โดยภาพรวมรายได้มีกว่า 60,260 ล้านบาท ยังคงเติบโต 1.12 % จากคนไทยมาเที่ยว 5.7 ล้านคน/ครั้ง ลดลง1.8% มีผลกระทบมาจากปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงมีนาคมลดไป 12.21% เมษายนลด 6.46% เริ่มกลับมาเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 1-2 % ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 2.38%

ข่าวที่ 5 “บางจากโรงกลั่นเจ้าแรกของไทยได้รับมาตรฐานWater Footprint

 

นายปฏิวัติ ทิวะศะศิธร์ รักษาการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจโรงกลั่น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนรับมอบ ใบรับรองมาตรฐาน Water Footprint ของผลิตภัณฑ์ ผ่านมาตรฐานการรับรองวอเตอร์ฟุตพรินต์ของผลิตภัณฑ์ รวม 6 ประเภท จากการจัดทำ Water Management ผ่าน Program Water Footprint of product รวมทั้งเป็น โรงกลั่นน้ำมันแรกในไทย ที่ได้รับรองการบริหารจัดการน้ำด้วยกระบวนการ Water Footprint of Product เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุนการผลิต

การเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ในงานสัมมนา "Eco Innovation Forum 2019"ภายใต้แนวคิด Circular Economy: Way to Smart and Sustainable Eco Industrial Town "Eco Innovation Forum 2019“ จัดโดยสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ณ โรงแรม มิราเคิลแกรนด์ หลักสี่

ข่าวที่ 6 “TCEBงัด4Ms-ลดพลาสติกเร่งตลาดไมซ์ผงาดเวทีโลกปี’63

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าวางกลยุทธ์สร้างการเติบโตอุตสาหกรรมไมซ์ในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2562 นี้ โดยได้ตั้งเป้าทำรายได้จากตลาดต่างประเทศเข้าไทยให้ได้กว่า 105,600 ล้านบาท จากจำนวน 1,386,000 คน ต่อเนื่องจากปี 2562 ที่สามารถสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้ราว 100,500 ล้านบาท จากจำนวน 1,248,000 คน โดยได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “4 Ms : Meeting Now-Meeting Mega-Meeting Smart-Meeting Sustainable 2020” โดยสนับสนุนด้านงบประมาณให้พันธมิตรกระจายสู่เป้าหมายแต่ละกลุ่ม ตั้งแต่นำคนเข้ามาจัดงานไมซ์แต่ละประเภทในไทยได้ก็จะได้รับเงิน 500 บาท/คน/ครั้ง มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบท จะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป รวมทั้งพุ่งเป้าสร้างจุดขายในตลาดโลกด้วย 4 กลยุทธ์ ประกอบด้วย

1.พัฒนาตลาดอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยสู่ความยั่งยืน ชูการทำโครงการไฮไลต์ทำแคมเปญ “Zero Plastic Events” นำร่องลดการใช้พลาสติกในไมซ์ ซิตี้ 5 เมือง คือ กรุงเทพฯ พัทยา ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต  ตั้งเป้าลดให้ได้ถึง 50 % ลดปริมาณขยะขวดพลาสติกจากเดิมงานไมซ์โดยรวมแต่ละปีที่เคยใช้มากถึง 17 ล้านขวด ให้เหลือ 8.6 ล้านขวด เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 70,226 ต้น ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 638 ตัน โดยดำเนินการรณรงค์ผ่าน 3 แนวทาง คือ 1.การใช้ขวดแก้ว ซึ่งเหมาะกับการประชุมระยะสั้น 1-2 วัน แนวโน้มการบริโภคในปัจจุบันดื่มน้ำ 1 ขวดต่อผู้ร่วมประชุม 2 คน 2.การใช้ขวดน้ำพกพา เหมาะกับการประชุมที่มีระยะเวลามากกว่า 1 วัน สามารถแจกแทนของที่ระลึกและให้นำมาใช้ในการประชุมทุกวัน 3.การใช้ตู้กดน้ำ เหมาะกับการประชุมทุกประเภท แนะนำการนำภาชนะมาใช้เองของผู้เข้าประชุมหรือแก้วน้ำของสถานที่ โดยงดใช้แก้วพลาสติกหรือกระดาษนั่นเอง  

2.กระจายรายได้ไมซ์สู่ชุมชนท้องถิ่น โดยได้ผนึกเครือข่ายขยายความร่วมมือกับทั้ง สหกรณ์ชุมชน นวัตวิถี กลุ่มสตาร์ตอัพทางด้านนวัตกรรมไมซ์ชุมชนอย่าง Mindstree

3.ลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายรัฐบาล เนื่องจากไมซ์เป็นอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างรายได้เข้าถึงชุมชนสูงกว่าการท่องเที่ยวปกติ 2-3 เท่า อีกทั้งยังขยายผลต่อยอดทางด้านการซื้อสินค้า การเจรจาธุรกิจระหว่างชุมชนกับคู่ค้าโดยตรงได้เพิ่มมากขึ้นในแต่ละครั้งของการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อผู้บริโภคในระดับประเทศ เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ เป็นวงกว้างมากขึ้นด้วย

4.ขยายตลาดไมซ์กลุ่มใหม่ เพิ่มพื้นที่เจาะขายอย่าง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่ตุลาคม 2562 ได้แต่งตั้งตัวแทนไมซ์ของ TCEB อีกแห่งในมณฑลกวางโจว พร้อมกับตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าให้ได้ 50 % ขึ้นไป รวมทั้งกลุ่มตลาดบินไกลข้ามทวีปอย่าง ยุโรปตะวันออกซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น โปแลนด์ เพิ่มปีละสองหลัก อเมริกา แคนาดา ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โดยเร่งทำงานบูรณาการเชิงรุกร่วมกันเครือข่าวพันธมิตรทั่วโลกและในประเทศเดินหน้าฝ่าความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ภัยธรรมชาติ สงครามการค้า และค่าเงินบาทแข็งค่าทำให้คนตัดสินใจใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดมากขึ้น รวมเงินสกุลอื่น ๆ ผันผวนอย่างหยวนจีนอ่อนค่า หรือปัญหาอื่น ๆ ด้านคู่แข่งขันเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

“TCEB ได้ใช้เวทีการเป็นเจ้าภาพจัดงาน IT & CMA and CTW Asia-Pacific 2019 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพปีที่ 18 จัดเมื่อ 24-26 กันยายน 2562 เปิดตัวแคมเปญใหม่ส่งเสริมการตลาดและการขาย 4 Ms โดยเพิ่มการสนับสนุนและการจัดแคมเปญร่วมกับพันธมิตรกระจายสู่แต่ละกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ 1. Meet Now ดึงดูดกลุ่มประชุมที่เดินทางไปยังเมืองที่มีศักยภาพตามจังหวัดต่าง ๆ 2. Meet Mega กลุ่มการประชุมขนาดใหญ่  3. Meet Smart กลุ่มประชุมตามธุรกิจภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 และ 4. Meet sustainable 2020 กลุ่มประชุมที่จัดงานหรือทำกิจกรรมเพื่อการจัดงานอย่างยั่งยืน  โดยได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ ช่องทางพิเศษ MICE Lane การแสดงทางวัฒนธรรม ของที่ระลึก และงบประมาณสนับสนุนตามเงื่อนไขมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน TCEB ตั้งเป้าปี 2563 จะเพิ่มรายได้จากตลาดธุรกิจการประชุม และการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (meeting and incentive : MI) จากลูกค้าต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยอีกกว่า  57,000 ล้านบาท จากจำนวนรวม 762,000 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 มีตลาด MI มาใช้จ่ายเงินราว 54,500 ล้านบาท จากจำนวน 686,000 คน

นายจิรุตถ์กล่าวว่า การวางแผนพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ไทยสู่ความยั่งยืนนั้น ได้นำร่องทำในพื้นที่ไมซ์ ซิตี้ 5 เมือง ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เพื่อเป็นต้นแบบสร้างโมเดลส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศและความพร้อมของเมืองในการเป็นเจ้าภาพรองรับการจัดงานนานาชาติ ร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมไมซ์อย่างเป็นระบบตามคอนเซ็ปต์ MICE Ecosystem ปลุกจิตอาสาร่วมพัฒนาเมืองไมซ์อย่างยั่งยืนใน 4 มิติ ได้แก่ 1.การพัฒนาศักยภาพ องค์ความรู้ จัดอบรม ส่งเสริมข้อมูล 2.การประชาสัมพันธ์ เผยแพร่สถานที่หรือผู้จัดงาน 3.การสนับสนุนงาน ผลักดันการจัดงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Events) และผลักดันสถานที่จัดงานให้ได้มาตรฐานความยั่งยืน และ 4.ติดตามประเมินผล ส่งเสริมการวัดผลการแสดงความยั่งยืนจากธุรกิจไมซ์ที่จับต้องได้

                ช่วงที่ 2 เที่ยวบางแสนมุมใหม่ สุดชิค More Fun เก๋ไก๋ จาก “to DIE For Coffee” ชุมทางร้าน ชา กาแฟ ที่นักท่องเที่ยวคลั่งไคล้ แวะไปชมห้องพักเทรนด์ปั่นกับขี่ที่ Wheeler Bike and Ride เลยไปพัก “บางแสนเฮอริเทจ” ก่อนกลับต้องห้ามพลาด “คุซัทซึ ออนเซน ชลบุรี” ยกเมืองบ่อน้ำแร่ออนเซนจากเมืองกุมมะ ญี่ปุ่น มาไว้ในตะวันออก แล้วก็มาดูว่า “รหัสลับเรื่องกินเพื่อสุขภาพ 2 : 1 : 1” ดีอย่างไร ส่วนข่าวต้องอ่าน “ทำไมบอร์ดการบินไทย” ให้ DD-สุเมธผ่านโปรแต่ตีกลับแผนจัดซื้อฝูงบิน 38 ลำ ด้าน “โทมัส คุ้ก” ล้มละลายเขย่าตลาดทัวร์โลก และไปเที่ยวบุญใหญ่ “งานออกหว่าแม่ฮ่องสอน” ให้สบายใจ 12-14 ต.ค.นี้

@บางแสนสุดชิคto DieforCoffee-คุซัทซึออนเซน

สถานที่ในความทรงจำของคนไทย “ชายหาดบางแสน” ที่ได้รับการเนรมิตตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เมื่อปี 2486  ให้กลายเป็นสถานตากอากาศแสนสำราญ ดินแดนแสนสุข ผ่านมาเกือบ 90 ปี หากทว่า “บางแสน...วันนี้” มีความแปลกใหม่ให้เลือกท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากมาย ถ้าเลือกไปช่วงวันธรรมดาวันจันทร์-วันพฤหัสบดี ในแต่ละสัปดาห์ จะยิ่งฟินกับการพักผ่อนตลอดทริป

แหล่งพักพิงเทรนด์มาแรงดึงดูดคนรุ่นใหม่ต้องที่ “To Die for Coffee” ในแนวคิดสุดอะเมซิ่ง We know inside out about Coffee ร้านกาแฟติดถนนใหญ่ดีไซน์สไตล์ล็อฟที่สร้างเปลือย ๆ ด้วยปูน โครงเหล็ก และไม้ ตกแต่งด้วยธีม Biker 2 ล้อ นำรถจักรยานมาประดับผนังได้อย่างลงตัว สลับกับบิ๊กไบค์ ด้านหลังมีสนามหญ้ากับเก้าอี้เก๋ ๆ อยู่ใต้ต้นไม้เขียวสดใส ให้วัยรุ่นแห่แหนกันมาสั่ง ชา กาแฟ น้ำผลไม้ สารพัดซิกเนเจอร์เค้ก ทั้งเพื่อกินและถ่ายรูปแชร์ลงโซเชียลกันแบบบ้าคลั่ง ตลอดทั้งวัน

ด้านหลังทำเป็นโรงแรมชื่อ “Wheeler Bed & Ride” ห้องพักโลว์ไลฟ์ขนาด 2 ชั้น มีเพียงแค่ 31 ห้อง ประกอบด้วย 3 สไตล์ คือ 1.ห้องสไตล์ Biker ขนาด 23 ตารางเมตร เหมาะกับวัยรุ่น มีมุมเก็บจักรยานพับแขวนบนผนังห้องได้ 2.ห้องสไตล์ Rider ขนาด 32 ตารางเมตร เหมาะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว ทั้งสองแบบตกแต่งสีสันอบอุ่น สดใส สบายตา สนนราคาที่พักเริ่มจากคืนละ 2,300 บาทขึ้นไป/ห้อง 3.วิลล่า 2 สไตล์ แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 70 ตารางเมตร/หลัง มีสระว่ายน้ำแนวยาวขนานพื้นที่ห้อง สนนราคาคืนละ 10,500-10,900 บาท/ห้อง

ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มองค์กร บริษัท ห้างร้าน ที่มาจัดประชุม สัมมนา และชื่นชอบความเท่ เก๋ และมีไลฟ์สไตล์ชิค ๆ สอดคล้องกับรสนิยมของคนรุ่นใหม่ยุคนี้

ในบางแสนยังมีที่พักเทรนด์ใหม่อย่าง “บางแสน เฮอริเทจ” ของครอบครัวคุณปลื้ม ที่ออกแบบอาคารเชื่อมต่อกันสไตล์รักสิ่งแวดล้อมสูงเพียง 3 ชั้น เน้นสนามพื้นที่สีเขียวสดใสในรีสอร์ต เหมาะกับกลุ่มสัมมนาที่เสร็จงานแล้วสามารถลงข้ามถนนเล็ก ๆ ไปเดินเล่นหน้าหาดได้ตลอดเวลา อาหารเช้าในรีสอร์ตก็มีให้เลือกละลานตา รสชาติถูกปากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและนานาชาติ

ไฮไลต์บางแสนอีกแห่งที่กำลังกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่คือ “คุซัทซึ ออนเซน ชลบุรี” ศูนย์บริการสุขภาพจำลองต้นญี่ปุ่นขนานแท้จากเมืองกุมมะมาไว้ในบางแสน ผนวกเข้ากับศูนย์ออกกำลังกายสอนต่อยมวยไทย โชว์พลังหมัดและแข้งที่สาว ๆ คลั่งไคล้แห่ไปใช้บริการกันมากกว่า 80 % เพราะเป็นการท่องเที่ยวเชิงกีฬาแบบทูอินวันได้ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก กระชับกล้ามเนื้อทุกส่วนไปในตัว

“คุณสอง-ธนิต วิรัชพันธุ์ กับ คุณน้อง-วัชรา งามสง่า” เจ้าของคุซัทซึ ออนเซน ชลบุรี สลับกันเล่าถึงออนเซนแห่งนี้ เดิมตั้งใจจะลงทุนในที่ดิน 3 ไร่ ใช้เงินแค่ 5 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ใช้ไปถึง 50 ล้านบาท เพื่อใส่มาตรฐานทั้งระบบน้ำ ผลึกแร่ เทคโนโลยีสมัยใหม่ แยกออนเซนโซนชาย-หญิง ออกจากกัน มีทั้งบ่อร้อน บ่อเย็น ถังแช่ ซาวน่า และห้องวีไอพีขนาดเกือบ 100 ตารางเมตร ค่าบริการออนเซนฟังแล้วต้องตลึงเพราะคิดแค่คนละ 490 บาท ก็สามารถใช้บริการได้ทั้งวัน แถมมีนวดไทย อโรมา สปา ครบ ราคาเริ่มต้นเพียงชั่วโมงละ 350 บาท ส่วนการเรียนมวยไทยค่ายพุ่มพันธุ์ม่วง สนนราคาก็สบายกระเป๋า รายวันแค่ 390 บาท ส่วนรายเดือนเข้ามาเล่นได้ทุกวันจ่ายเพียง 3,900 บาท

บริเวณที่สร้างความตื่นตาตื่นใจนักท่องเที่ยวกลุ่มวัยรุ่นอีกมุมคือ “ร้านกาแฟ” ดีไซน์คล้ายโรงเตี๊ยมในญี่ปุ่น มีชา กาแฟ ซิกเนเจอร์ มีเมนูให้เลือกชิมเพียบ พร้อมของหวานสวยรสชาติดี ส่วนนักท่องเที่ยววัยเก๋า ซิลเวอร์เอจทั้งชาย-หญิง ก็ถูกใจกับ “ร้านญี่ปุ่น” ที่เจ้าของคัดสรรวัตถุดิบทุกอย่างสด และนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรง ดึงตัวเชฟจากร้านดังแถวทองหล่อมาเป็นพ่อครัวใหญ่ที่นี่ ทุกเมนูจึงอร่อยถูกปากลูกค้า

เที่ยวบางแสนครั้งนี้ เหลือเชื่อจริง ๆ ว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่กับวิถีการท่องเที่ยวที่มีเทรนด์เท่ ๆ มาให้ลองต้องไปแล้วจะรู้ว่า More Fun การพักผ่อนที่บางแสนทั้งสุขและสนุกอย่างแน่นอน

@รหัสลับพิชิตโรค 2 : 1 : 1

ต้องยอมรับว่า เรื่องอาหารการกิน กลายเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว “วันนี้จะกินอะไรดี ?” กลายเป็นคำถามที่มักจะถามตัวเองอยู่บ่อยครั้ง แทบจะทุกมื้ออาหารก็ว่าได้ ทาง สสส. ได้นำเคล็ดลับการเลือกบริโภคอาหาร ตามสูตร 2: 1 : 1

2 : 1 : 1 เป็นการกำหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสม โดยการแบ่งสัดส่วนของจาน (เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 9 นิ้ว ) ออกเป็น 4 ส่วน เท่าๆ กัน และแบ่งประเภทอาหารที่จะใส่ลงไปในจาน ประกอบด้วยผัก 2 ส่วน เป็นผักสุกหรือสดก็ได้  ข้าว 1 ส่วน - ควรเลือกข้าวที่ไม่ขัดสี เข่น ข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท และธัญพืช เช่น ลูกเดือย เนื้อ 1 ส่วน - ควรเลือกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อไก่ไม่ติดหนัง ปลา หรือไข่ ถั่วเหลือง เต้าหู้ โปรตีนเกษตร

โดยการเลือกวัตถุดิบ และกรรมวิธีในการประกอบอาหารให้ได้ อาหาร 1 จาน ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยมีเคล็ดลับการเลือก ดังนี้

1.เลือกประเภทของผักให้หลากหลาย เลือกผักที่ปลอดภัย และล้างให้สะอาดก่อนรับประทาน

2.การปรุงอาหาร ควรเลือกวิธีการนึ่ง อบ ลวก ต้ม ตุ๋น พยายามลดหรือหลีกเลี่ยงการปรุง ประกอบอาหารที่ใช้กะทิ หรือน้ำมัน นั่นคือ ไม่ผัด ไม่ทอด ไม่มัน

3.ควรลดการปรุงอาหารรสชาติจัด เพื่อเลี่ยงความหวาน มัน และเค็ม

4.ปริมาณที่ควรรับประทาน คือ หนึ่งมื้อ หนึ่งจาน หรือชาม

5.ควรรับประทานผลไม้เป็นอาหารว่าง 1-2 มื้อ ต่อวัน โดยเลือกผลไม้หวานน้อย

6.ควรดื่มนม โดยเป็นนมพร่องมันเนย หรือนมขาดมันเนย โยเกิร์ตพร่องมันเนย และขาดมันเนยรสธรรมชาติ หรือ นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียมชนิดไม่ใส่น้ำตาล

7.ควรเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “บอร์ดบินไทยตีกลับแผนซื้อฝูงบิน38ลำศักดิ์สยามแนะให้เช่า”

ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ที่มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เป็นประธานประชุม ได้พิจารณาพร้อมมีมติ 2 เรื่องที่เป็นไฮไลต์ คือ

เรื่องแรก ประเมินผลการทำงานนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) ให้ผ่าน แต่ผลงานยังไม่เห็นผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ทั้งหมด สาเหตุเพราะสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกที่เข้ามากระทบต่อการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นกรรมการจึงได้ให้ข้อกำกับเพิ่มเติม ให้ไปจัดทำแผนการฟื้นฟูสภาวะวิกฤตของบริษัทฯ โดยเร็วทั้งด้านรายได้และการบริหารจัดการ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการดำเนินการ โดยต้องไม่กระทบต่อการบริการและความปลอดภัยผู้โดยสาร

เรื่องที่ 2 ตีกลับแผนจัดหาฝูงบินใหม่ 38 ลำ ให้ฝ่ายบริหารนำกลับไปทำมาใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมการบินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และทบทวนพิจารณาการจัดหาแหล่งเงินทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ล่าสุดของการบินไทย แล้วนำกลับมาเสนอใหม่ใน 6 เดือนหน้า

               

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า แนวทางการจัดหาฝูงบินการบินไทย อาจจะต้องปรับกลยุทธ์จากซื้อทั้งหมดเป็นเช่าซื้อก็เป็นได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การบินอนาคตและเหมาะสมกับการเงินของการบินไทยเอง

ข่าวที่สอง “โทมัสคุ้กล้มตลาดยุโรปทำท่องเที่ยวโลกระส่ำ”

ทันทีที่ โทมัส คุ้ก บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวของอังกฤษที่ดำเนินธุรกิจมาถึง 178 ปี ประกาศล้มละลายเลิกกิจการเมื่อวันจันทร์ที่ 23 ก.ย.2562  โดยหยุดบริการทำให้นักท่องเที่ยวและเที่ยวบินโดนยกเลิกทั้งหมด นักท่องเที่ยวตกค้างอยู่ทั่วโลกกว่า 200,000 คน จนรัฐบาลอังกฤษและสำนักงานการบินพลเรือนของอังกฤษ (ซีเอเอ) ต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือนำนักท่องเที่ยวที่ติดค้างเหล่านั้นกลับประเทศ

รายงานข่าวระบุนักท่องเที่ยวลูกค้าของบริษัทโทมัส คุก ที่กำลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ทั่วโลกวันดังกล่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมแล้วกว่า 600,000 คน เป็นชาวอังกฤษรวม 160,000 คน ในขั้นต้นคาดว่าอาจจะต้องใช้งบเพื่อการนี้มากกว่า 100 ล้านปอนด์  หรือกว่า 3,800 ล้านบาทภายใต้แผนปฏิบัติการที่มีชื่อรหัสว่า โอเปอเรชั่น แมตเทอร์ฮอร์น  (Operation Matterhorn) หรือ ปฏิบัติการแมตเทอร์ฮอร์น ที่มีซีเอเอ และหน่วยงานอื่นๆ อาทิ กระทรวงคมนาคมอังกฤษ กระทรวงการต่างประเทศและเครือจักรภพ ฯลฯ เป็นแกนนำ  รัฐบาลอังกฤษได้เช่าเหมาเครื่องบินจำนวนมากกว่า 40 ลำจะต้องใช้บินราว 1,000 เที่ยว  เพื่อขนนักท่องเที่ยวกลับบ้าน ภายใน 2 สัปดาห์ ระหว่าง 23 กันยายน – 6 ตุลาคม นี้  

ข่าวที่สาม “เที่ยวงานบุญใหญ่ออกหว่าแม่ฮ่องสอน 12-14 ต.ค.62”

องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ชวนเที่ยวงาน มหัศจรรย์สีสันแห่งโคม ครั้งที่ 5 Amazing Lights in Wonderland #5 ประจำปี พ.ศ.2562 ระหว่างวันที่12 - 14 ตุลาคม ตื่นตากับความงดงามตระการตาของโคมล้านนาตะวันตก ทั่วทั้งเมืองจะสว่างไสว ภายในงานมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมดี ๆ ณ บริเวณวัดสุพรรณรังสี (วัดจองคำ) อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้แก่

1. นิทรรศการ “แสงไฟกับสายน้ำ” แสงไฟที่สะท้อนบนผิวน้ำ บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของ

ประเพณีออกหว่า เทศกาลออกพรรษา อ.แม่สะเรียงได้เป็นอย่างดี

2. กิจกรรม “สีสันแห่งศรัทธา” สร้างบุญเสริมบารมีกับ แคมเปญ “One Day Trip ไหว้พระ 9 วัด” นั่ง

รถรางชมเมือง โดยมีรถวิ่ง 2 รอบต่อวัน  รอบเช้า เวลา 09.30 – 11.30 น. รอบเย็น เวลา 17.30 – 19.30 น.

อีกทั้งได้จัด “ทริปอิ่มบุญ สุขใจ ไหว้พระธาตุ 4 จอม” ซึ่งเชื่อกันว่าหากใครได้มีโอกาสได้เดินทางมาสักการะพระธาตุครบทั้งสี่จอม จะเป็นผู้ประเสริฐไปด้วยภูมิปัญญารื่นรมย์ในเสียงดนตรีไปกับวงสะล้อซอซึง และวงโฟล์คซอง

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.