เจาะลึก"อาอาจารย์ณาแอสเซ็ทกรุ๊ป”ลุยเทรนด์บริการตลาดสูงวัย ปลุกธุรกิจไทยกลุ่มโรงแรม-อสังหา-โรงพยาบาลหนุนเศรษฐกิจ

เจาะลึก“อาจารย์ณาแอสเซ็ทกรุ๊ป”ลุยเทรนด์บริการตลาดสูงวัย

ปลุกธุรกิจไทยกลุ่มโรงแรม-อสังหา-โรงพยาบาลหนุนเศรษฐกิจ

คิงเพาเวอร์30ปีจัดกระหึ่มDelightแจกตั๋ว30เมือง

คิงเพาเวอร์นำมหานครแบงค็อกฯติด1 ใน17 รู้ฟท็อปบาร์โลก

ททท.ชูPopCultureผนึกอาเซียนปลุกท่องเที่ยวผ่านงานศิลป์

ก.ท่องเที่ยวควงททท.จัดวิ่งเทรลระดับโลกที่เชียงใหม่ก.พ.63

บางจากงัดแก้วอินทนิลเพื่อน้อง-เติมน้ำรับคืนแคชแบ็ก10 %

TCEBนำร่องไมซ์ซิตี้5เมืองร่วมโปรเจ็กต์ซีโร่พลาสติกลด50%

หนาวนี้!!ต้องห้ามพลาดเที่ยวดอยตุงสูดโอโซนชมวิถีชาวเขา

8เคล็บลับชีวิตดี ๆ เริ่มต้นที่เราดูแลครอบครัว-สังคมเป็นสุข

“อนุทิน” ”จ่อชงครม.ขยายวีซ่าต่างชาติโรคตาช่วยเศรษฐกิจ

จัดเต็มวิ่ง KILORUN OSAKAบุกประชันอาหารไทย-ญี่ปุ่น

ทาเลสคว้าสิทธิผลิตอีพาสปอร์ตให้ไทยเริ่มไตรมาส2ปี’63

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋  

ช่วงที่ 1 เปิดใจนักบูรณาการธุรกิจ “ธรรมจักร เหลืองประเสริฐ” ประธานกรรมการ บริษัท อาจารย์ณา จำกัด และอาจารย์ณา แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ กรุ๊ป ผู้บุกเบิกการสร้างเทรนด์ “โรงแรม-Hospitality -Senior Aging Resident” ผสมผสานการเติบโตของกลุ่มนักลงทุนขนาดใหญ่จาก ไรม่อนแลนด์ สู่ เดอะ พาร์ค ไนน์ โฮเต็ล และ ชลดาบางบัวทอง รวมทั้งยังนั่งเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโรงแรมไทย ได้ถอดรหัส “โอกาสและความสำเร็จ” ในการลงทุนรองรับเทรนด์ตลาดผู้สูงวัยอย่างมืออาชีพควรทำอย่างไร และการท่องเที่ยวของเมืองไทยสามารถเติบโตแรง ๆ ได้ด้วยการรณรงค์ให้คนไทยงัด 3 รอยยิ้มที่สวยงาม-แววตาเป็นมิตร-หัวใจบริการที่ดี“ มาใช้ครองใจชาวต่างชาติ เพื่อรวมพลังกันดึงรายได้สร้างเศรษฐกิจให้แข็งแรงอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ธรรมจักร์ เหลืองประเสริฐ ประธานกรรมการ
บริษัท อาจารย์ณา จำกัด และอาจารย์ณา แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ กรุ๊ป 

นายธรรมจักร์ เหลืองประเสริฐ ประธานกรรมการ บริษัท อาจารย์ณา จำกัด (ARJARNNAR) (เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ที่สำเร็จการศึกษาทางด้านวิศวกรรมมีโอกาสได้เรียนทางด้านบริหารด้วย ผ่านการทำงานกับทางแอสเซ็ทเวิลด์ในเครือ ทีทีซี กลุ่มคุณเจริญ วัฒนภักดี จึงเห็นการทำให้สินทรัพย์เพิ่มได้มีวิธีทำอย่างหลากหลาย จึงขอเกษียณออกมาบุกเบิกธุรกิจส่วนตัวอย่างจริงจัง ในชื่อ อาจารย์ณา แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ กรุ๊ป (ARJARNNAR ASSET MANAGEMENT GROUP) โดยรับความผิดชอบหลายส่วนเนื่องจากเป็นคนโรงแรมมาตลอดชีวิต ขณะนี้มีภารกิจหลายอย่างด้วยกัน

ภารกิจแรกได้รับเกียรติจากคุณศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย(THA) เชิญเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ THA ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของประเทศไทย

ภารกิจที่ 2 บริษัท ไรม่อนแลนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นธุรกิจทางด้าน Hospitality การลงทุนภาคบริการ

ภารกิจที่ 3 ทาง เดอะ พาร์ค ไนน์ โฮเต็ลส์ กรุ๊ปเชิญไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนเจ้าของหรือ Representitive Owner

ภารกิจที่ 4 ทางชลดาให้เข้าไปเป็นที่ปรึกษาเจ้าของอีกแห่งที่ โรงพยาบาลชลดา บางบัวทอง ทำโครงการหมู่บ้านผู้สูงอายุชื่อโครงการ “บ้านเป็นสุข” รองรับคนมีอายุ 60 ปีขึ้นไป

โดยได้บูรณาการเทรนด์ธุรกิจภาคบริการ นำความรู้จากงานโรงแรม ผนวกเข้ากับเรื่องที่พักอาศัย อีกธุรกิจที่น่าสนใจคือที่พักผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้ความรู้ประสบการณ์ทางด้าน โรงแรม การแพทย์หรือหมอ บวกกับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเด็นนี้เป็นเทรนด์สำคัญเพราะสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคหรือตลาดผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นทุกปี

ดังนั้นโอกาสที่จะเปิดรับเข้าร่วมเครือข่ายการทำ Senior Aging Resident นั้น ประกอบด้วย 1. ผู้ประกอบการจะต้องมีใจรักงานบริการ ในการดูแลผู้สูงวัย 2.มีเงินทุนในระดับหนึ่ง เพราะการคืนทุนจะต้องใช้เวลาพอสมควร 3.ความรู้จะเกี่ยวข้องทางด้านวิชาการการแพทย์เพื่อนำมาใช้ดูแลผู้สูงวัย ซึ่งนักลงทุนจะต้องมีครบทั้ง 3 ข้อ

ขณะนี้เป็นเทรนด์จึงทำให้บริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทขนาดกลาง หรือแม้แต่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต่างก็มองตลาดนี้และต้องการเข้ามาร่วมธุรกิจ แต่จะเดินหน้าจนประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยหลาย ๆ ศาสตร์มาผนวกเข้าด้วยกัน

ส่วนการบูรณาการเทรนด์ Hospitality กับ Senior Aging Resident มีปัจจัยสำคัญที่สุดคือ 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ 1.เข้าใจพฤติกรรมของผู้สูงอายุเพื่อดีไซน์โครงสร้างที่อยู่อาศัยการบริการได้ถูกต้องเหมาะสมสุด รวมถึง 2.จะต้องมีคุณหมอมืออาชีพที่มีความรู้ความเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีเข้ามาร่วมพัฒนาธุรกิจประเภทนี้ด้วย ถึงจะสำเร็จได้

นายธรรมจักร์กล่าวว่า สถานการณ์แนวโน้มเมืองไทยมีดีมานต์สูง แต่จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคเกี่ยวกับ ครอบครัวคนไทยยังจะต้องทำความเข้าใจยุคสมัยปัจจุบันลูก ๆ ต่างต้องการให้พ่อแม่มีความสุข โจทย์ใหญ่คือเมื่อลูก ๆ นำคุณพ่อคุณแม่ไปอยู่ใน Senior Aging Resident นั้นไม่ได้ความว่าจะนำพวกท่านไปปล่อย แต่ต้องการให้ไปอยู่ในสังคมที่ดี มีการดูแลอย่างดี มีเพื่อน สุขภาพอนามัยที่ดี หากเกิดปัญหาความฉุกลุกก็จะมีทีมแพทย์มืออาชีพเข้ามาดูแลทันที

ส่วนกลยุทธ์จะต้องทำ 2 ส่วน 1.การสร้างฮาร์ดแวร์ เป็นศาสตร์จะต้องดีไซน์ที่อยู่อาศัยสร้างความสุขสบายให้คนสูงอายุอย่างปลอดภัย 2.การออกแบบกิจกรรมบริการ จะต้องทำอย่างไรพวกท่านจะมีความสุข สุขภาพกายใจแข็งแรง และหากมีอะไรเกิดขึ้นทางโครงการจะดูแลผู้สูงอายุอย่างไร

ไฮไลต์คือ กิจกรรม อาหารการกิน ที่อยู่อาศัย แอพลิเคชั่นใหม่ ๆ สามารถส่งเตือนศูนย์เซ็นเตอร์ กล้องวงจรปิด การสื่อสารกับลูกหลานได้ตลอดทั้งครอบครัว โดยมีระบบนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาเสริมให้สามารถขึ้นข้อมูลได้ตรงตามเหตุการณ์ทุกอย่าง เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นำไปสู่การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและปลอดภัยของผู้สูงอายุทุกคน

นายธรรมจักร์กล่าวว่า ราคาค่าใช้จ่ายมาตรฐานในตลาดสำหรับเทรนด์การใช้บริการ Senior Aging Resident จะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.ซื้อขาดในอสังหาริมทรัพย์มาเป็นของเรา ราคายูนิตมีประมาณ 3-5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสิ่งอำนวยความสะดวก ขนาดพื้นที่ใช้สอย จะมากน้อยตามความต้องการแตกต่างกัน 2.Leased Hold มีเงินก้อนจ่ายก่อนตอนเข้าใช้บริการ แล้วจากนั้นก็จ่ายเป็นรายเดือน แล้วอยู่จนกระทั่งพอใจ มีให้เลือกแบบ 10, 15 ปี หรือจนกระทั่งผู้สูงอายุไม่ต้องการพักอยู่ต่อไป

ส่วนการพัฒนาธุรกิจโรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ การบริหารไรม่อนแลนด์ และ Senior Aging Resident นั้น สามารถบูรณาการธุรกิจให้เชื่อมโยงด้านการตลาดผู้สูงวัยในมุมใดได้บ้างนั้น

นายธรรมจักร์อธิบายว่า ธุรกิจโรงแรมก็คือห้องพักนักท่องเที่ยวจะไปจะมาก็ต้องเลือกพักโรงแรม แล้วใช้บริการอาหารและเครื่องดื่มภายในโรงแรม ซึ่งสามารถนำศาสตร์ของโรงแรมไปประยุกต์ใช้ใน Senior Aging Resident ตลาดผู้สูงอายุได้ ประเมินแล้วสามารถลิงค์เป็นลูฟประยุกต์ใช้เข้าด้วยกัน

ขณะนี้มองกลุ่มตลาดคนไทยเป็นหลัก โดยยังไม่ได้รองรับต่างชาติมากนัก เพราะเรามีความรู้ความเข้าใจคนไทยด้วยกันมากที่สุด

ในส่วนของธุรกิจ เดอะ พาร์ค ไนน์ โฮเต็ลส์ ตั้งอยู่บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ตรงข้ามพาสิโอ และห้างโรบินสัน โรงแรมเพิ่งเปิดใหม่ใช้เวลาจากโรงแรมไปสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 8 นาที หรือจะไปเซ็นทรัล วิลเลจ ก็ประมาณ 15 นาที ซึ่งมีส่วนเกี่ยวเนื่องเพราะลูกค้าหลักเป็นกลุ่มแวะพัก หรือ Stop Over นั่นคือนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่บินทั้งขามาไทย เพื่อไปจุดหมายอื่นทั้งในประเทศและขากลับออกไปยังต่างประเทศ เล็งเห็นถึงการพักโรงแรมในเมืองอยู่ไกลสนามบิน การจราจรทางถนนแออัด ไม่ชอบพักไกลสนามบิน สุ่มเสี่ยงตกเที่ยวบิน

ดังนั้นโรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ โฮเต็ล จึงเป็นทางเลือกที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ การพักผ่อน   ไม่ต้องฝ่าฟันจราจรก่อนขึ้นเครื่องเดินทางกลับประเทศ สามารถไปเที่ยววิถีชีวิตชมชาวคลองประเวศน์ นักท่องเที่ยวสามารถใช้ชีวิตชีล ๆ พักต่ออีก 2 คืน อย่างสบาย ๆ แตกต่างจากโรงแรมในเมืองใจกลางกรุง

และถือว่าธุรกิจท่องเที่ยวเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ทาง เดอะ พาร์ค ไนน์ โฮเต็ล จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมสร้างการท่องเที่ยวเติบโตอย่างมีคุณภาพ เรื่อยไปจนถึงคนไทยจะต้องช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาด้วยหัวใจ เพราะทั้งหมดไม่ได้เป็นธุรกิจของคนใดคนหนึ่ง เพราะเมื่อคนมาเที่ยวก็สามารถสร้างรายได้กระจายไปสู่อาชีพต่าง ๆ ด้วยรอยยิ้มที่สวยงาม แววตาอันเป็นมิตร และหัวใจของการบริการที่ดี เมื่อดึงทั้ง 3 อย่างออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็จะทำให้การท่องเที่ยวของประเทศประสบความสำเร็จได้ด้วยพลังของทุกคน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ฉลอง30ปีจัดใหญ่Delights&Surprisesแจกตั๋วฟรี/โปรลด60%”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เตรียมจัดอย่างยิ่งใหญ่ มหกรรมงานฉลอง 30 ปี “Delight and Surprises Celebrates 30 years of a Remarkable Jouney : ยิ่งช้อป ยิ่งคุ้ม ได้ลุ้นบินฟรี 30 เส้นทาง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1- 31  ตุลาคม 2562 จัดให้ครบช้อปจบที่เดียวใน คิง เพาเวอร์ สาขาหลัก รางน้ำ และสาขาอื่น ๆ  พร้อมตื่นตาตื่นใจกับมหกรรมสินค้าโปรโมชั่นลด 20-60 % ครอบคลุมทั้ง 5 สาขา ได้แก่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ , มหานคร ศรีวารี, พัทยา และภูเก็ต ให้ไปเลยทันทีถึง 3 ความคุ้มค่า คุ้มที่ 1-2 ช้อป รับสิทธิได้ตลอดทั้งเดือนตุลาคม 2562 ประกอบด้วย

คุ้มที่ 1 ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 1 ใน 30 เส้นทาง เมื่อช้อปครบทุก 5,000 บาทสุทธิ์ หรือ ลุ้นรับ CARAT REWARDS มูลค่าสูงถึง 3 ล้านบาท หรือของรางวัลแบรนด์เนม เมื่อช้อปครบทุก 30,000 บาทสุทธิ ส่วนผู้ถือบัตรสมาชิก ประเภท CROWN กับ VEGA รับคูปองลุ้น 2 สิทธิ์

คุ้มที่ 2 รับทันทีตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ หรือ ภูเก็ต-สิงคโปร์ เมื่อช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป

คุ้มที่ 3 THE HUNTER ลุ้นคูปองตัวอักษรสะสม ช่วงระหว่างวันที่ 1-16 ตุลาคม 2562 รับ Gift Voucher คืนให้มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท เมื่อช้อปครบทุก 20,000 บาทสุทธิ โดยจำกัดยอดซื้อไว้สูงสุดวันละ 20,000 บาท/คน และเมื่อจ่ายค่าสินค้าผ่านบัตรเครดิตของธนาคารในเครือพันธมิตรก็จะได้รับคืนสูงสุดอีก 20 % อาทิ ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย กรุงศรีอยุธยา เคทีซี ธนชาติ ยูโอบี ซิติแบงก์ เคบีซี

ระหว่างวันที่ 4-20 ตุลาคม 2562 ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ได้จับมือกับพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว สายการบิน โรงแรม ทัวร์ ประกัน และอื่น ๆ ร่วมกันเติมสีสันเพิ่มความฟินให้นักช้อปอย่างเต็มที่ด้วยโปรโมชั่นลดกระจายถึง 60 % จำหน่ายทั้งตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ เริ่มที่ 1,240 บาท กรุงเทพฯ-ไทเป(ไต้หวัน) เริ่มที่ 3,645 บาท แพ็กเกจท่องเที่ยว ฮอกไกโด (ญี่ปุ่น) 6 วัน 4 คืน เริ่มที่ 30,900 บาท ตุรกี 8 วัน 6 คืน เริ่มที่ 22,900 บาท ทัวร์อิสระ พร้อมตั๋วเครื่องบิน ที่พักโรงแรม 5 ดาว จำนวน 3 วัน 2 คืน ในบรูไน เริ่มที่ 19,020 บาท และซื้อ Travel SIM 3 เบอร์ รับฟรีช้อปปิ้งแบ็ก 1 ใบ

ช่วงระหว่างวันที่ 17-20 ตุลาคม 2562 เพลิดเพลินกับกิจกรรม “Shoot and Share” ในการลุ้นรับตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-สุราบายา ฟรี 4 รางวัล ด้วยการร่วมสนุกตามกติกาง่าย  ๆ ดังนี้ 1.ถ่ายรูปในงานพร้อมแคปชั่นเรื่องราวการเดินทางที่ประทับใจในแบบของแต่ละคน ภายใต้คอนเซ็ปต์ 4 Traveller DNA 2.ติด hastag #kingpowerDelightsAndSurprises #MyTravelDNA 3.โพสต์ลง Facebook ของตัวคุณเองและเปิดโพสต์เฟสบุ๊คเป็น Public 4.รอลุ้นรับรางวัลจากทีมงานจะเลือกโพสต์ที่โดนใจ โดยกำหนดประกาศผลวันที่ 28 ตุลาคม 2562 ทาง King Power Official Page

ไฮไลต์ระหว่าง 17-20 ตุลาคม 2562 กับกิจกรรมลุ้นรับสิทธิพิเศษ เอ็กซ์คลูซีฟ ดินเนอร์ กับดาราแบบใกล้ชิด ที่ Glen Bar โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) รับได้ถึง 2 ต่อ คือ ต่อที่ 1 ทันทีที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานบริเวณ คราวน์ เอเทรียม ก็รับสิทธิ์ลุ้นบัตรรับประทานอาหารกับดาราดัง 5 รางวัล วันละ 1 สิทธิ์/คน ต่อที่ 2 สมัครสมาชิกแล้วลุยช้อปสินค้าภายในงานลุ้นรับบัตรรับประทานอาหารกับดาราดัง 25 รางวัล โดยสมาชิก SCARLET ช้อปสินค้าภายในงานครบ 6,000 บาทขึ้นไป/วัน รับคูปองลุ้นรางวัล 2 สิทธิ์ สมาชิก ONYX ช้อปสินค้าครบ 60,000 บาทขึ้นไป/วัน รับคูปองลุ้นรางวัล 30 สิทธิ์

พร้อมกับชมฟรีการแสดงมินิคอนเสิร์ตบริเวณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ในแต่ละวันระหว่างเวลา เวลา 19.00-20.00 น. จะมีศิลปินขวัญใจทุกวัยหมุนเวียนกันมาขึ้นเวที วันที่ 17 ตุลาคม พบกับ คริส-สิงโต วันที่ 18 ตุลาคม พบกับนาย ณ ภัทร วันที่ 19 ตุลาคม พบกับ ต่อ-ธนภพ พบกับวันที่ 20 อิน-สาริน

ห้ามพลาด !! ร่วมฉลอง 30 ปี คิง เพาเวอร์ อย่างคุ้มค่ากับมหกรรม “Delight and Surprises Celebrates 30 years of a Remarkable Jouney : ยิ่งช้อป ยิ่งคุ้ม ได้ลุ้นบินฟรี 30 เส้นทาง ตลอดเดือนตุลาคม 2562

ข่าวที่ 2 “ปลื้มมหานครแบงค็อกสกายบาร์ติด1ใน17รู้ฟท็อปโลก”

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ล่าสุด Time Out  ได้จัดอันดับให้ มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ติด 1 ใน 17 ของโลก และ 1 ใน 2 ของเอเชีย ประเภท Roof Top Bar ดีที่สุดในโลก เป็นอีกช่องทางที่จะช่วยสร้างชื่อเสียงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากนานาชาติเข้ามาใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นตามนโยบายรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานเกี่ยวข้องภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จะช่วยเพิ่มรายได้หมวดอาหาร เครื่องดื่ม และความบันเทิงการท่องเที่ยวยามค่ำคืนเชิงสร้างสรรค์ด้วยไลฟ์สไตล์มุมใหม่ ๆ ของกรุงเทพมหานคร

                โดย Time Out  นิตยสารชั้นนำระดับอินเตอร์ในการรวบรวมข้อมูลและประสบการณ์การใช้บริการสถานที่ร้านอาหารและจุดชมวิวบนดาดฟ้าทั้งจากภูมิภาคเอเชีย ยุโรป อเมริกา และทั่วทุกมุมโลก ซึ่งได้เล็งเห็นถึงศักยภาพ ความเหมาะสม น่าสนใจของ มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ หนึ่งในโครงการไฮไลต์บริการร้านอาหารหรูหรามีเรื่องราวความน่าสนใจ ตั้งอยู่บนชั้น 76 และ 77 ของอาคารคิง เพาเวอร์ มหานคร กรุงเทพฯ 

                ระหว่างนี้ทาง มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ได้เปิดตัวการแสดงใหม่ "The Myth of the Kinnaree and the Hunter" และ “The Bohemian Opera” บนห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ต่อเนื่องทุกคืนวันศุกร์ และเสาร์ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 30 พฤศจิกายน 2562 เวลา21.00 น. เป็นต้นไป นำการร่ายรำประกอบดนตรีแบบร่วมสมัยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานกินรีและพรานป่าอันโด่งดัง โดยใช้เทคนิคแสงสีเสียงทันสมัย พร้อมเครื่องแต่งกายที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สำหรับการแสดงนี้โดยฉพาะ 

                ส่วนผู้ที่หลงใหลในโอเปร่าสามารถดื่มด่ำกับเสียงเพลงอันทรงพลังและมีเสน่ห์จาก 5 หนุ่ม-สาว ที่รวมตัวกันในชื่อ "The Bohemian Opera" การแสดงดนตรีโอเปร่าประยุกต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวงควีน ทุกคืนวันจันทร์ และพุธ ตั้งแต่เวลา 21:00 น. เป็นต้นไป เช่นกัน

ทั้งนี้ภายในอาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร นอกจากชั้น 78 จะมีไฮไลต์ มหานคร สกายบาร์ และสกาย วอล์ค แล้ว บริเวณชั้น 76 และ 77 ยังมีบริหารห้องอาหารหรู “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” ออกแบบโดย Tristan Auer Wilson Associates โดยมีสุดยอดเชฟ Joshua Cameron ผู้มีชื่อเสียงในวงการมิชลิน สตาร์ ของนิวยอร์ก มาทำหน้าที่คิดค้นปรุงเมนูให้เลือกชิมในสไตล์ตะวันตกและเอเชียที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะได้นั่งรับประทานท่ามกลางบรรยากาศทิวทัศน์งดงามของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน สอบถามเพิ่ม โทร. 02-677-8722 หรือ www.mahanakhonbangkokskybar.com

ข่าวที่ 3 “ททท.จัดASEAN POP Culture 5เมืองรองไทย-กัมพูชา-เมียนมา

ดร.ยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2562 ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนโดยได้รับเกียรติให้เป็นศูนย์กลางอาเซียนสนับสนุนเมืองรองภายใต้โครงการ “Experiencing ASEAN POP Culture” เพื่อส่งเสริมด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยว โดยจึงเฟ้นหาสถานที่สวยงามและทรงคุณค่าด้านวัฒนธรรมร่วมสมัยทั้งในประเทศและอาเซียน  โดยเชื่อมโยงเรื่องอาหาร ศิลปะ วรรณกรรม แฟชั่น ดนตรี กีฬา และสื่อ เพื่อนำจุดเด่นของแต่ละเมืองรองมาสร้างอัตลักษณ์ของท้องถิ่นผ่านผลงานสร้างสรรค์ของศิลปินชื่อดังอาเซียน โดยสื่อสารผ่านงานศิลปะหลากหลายแขนงในแนววัฒนธรรมสมัยนิยมหรือ POP CULTURE  โดยนำจุดแข็งด้านคุณค่าทางวัฒนธรรมแต่ละถิ่นฐานของเมืองรองมาเป็นจุดขาย ผ่านผลงานที่รังสรรค์จากเหล่าศิลปินคนดังจุดกระแสความคึกคัก สามารถกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน

ททท.ได้คัดเลือกเมืองรองเข้าร่วมโครงการ “Experiencing ASEAN POP Culture” 5 สถานที่สำคัญ ได้แก่ 1.อ.เชียงของ จ.เชียงราย 2.อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย 3.อ.แหลมงอบ จ.ตราด เชื่อมโยงสู่เพื่อนบ้านอาเซียน คือ 4.เมืองพระตะบอง กัมพูชา และ 5.เมืองมัณฑะเลย์ เมียนมาร์ โดยนำศิลปินไทยและอาเซียน10 ประเทศ อาทิ Ceno ศิลปินวาดภาพชาวสิงคโปร์  Toma และ Wiliam ชาวเวียดนาม Peap และ Lisa ศิลปินวาดภาพชาวกัมพูชา  ALISON SHORE นักร้อง-นักดนตรีจากฟิลิปปินส์  JIRAYU KOO นักวาดภาพประกอบชาวไทย และ Vinn , Patararin สถาปนิกชาวไทย

หน้าที่ของศิลปินที่เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องใช้ความสามารถทางศิลปะสร้างสีสันความสนุกสนานที่แฝงด้วยเสน่ห์ของประเทศในกลุ่มอาเซียน ปลุกกระแสให้เกิดการท่องเที่ยวในเชิงคุณค่าทางวัฒนธรรม

โครงการนี้ ททท.ได้รับแรงผลักดันและการสนับสนุนจากเอกชนเข้าร่วมด้วย อาทิ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ บางกอก แอร์เวย์ส บริษัท สีเบเยอร์ โรงแรม Mercure Madalay Hill Resort และ บริษัท BMW ประเทศไทย จำกัด

ข่าวที่ 4 “กระทรวงท่องเที่ยว-ททท.จัด“วิ่งเทรล ดอยอินทนนท์”ระดับโลปี63”

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้ร่วมกับ 3 กระทรวง คือ กลาโหม มหาดไทย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงใหม่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดงานวิ่งเทรลระดับนานาชาติ ตามมาตรฐานของ UTMB-Ultra trail Mont Blanc ใน รายการ Ultra Trail Thailand 2020 ระหว่าง 14 -16 กุมภาพันธ์ 2563  ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ คาดจะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันจากทั่วโลก ได้มีโอกาสมาสัมผัสวิถีชีวิตธรรมชาติของเมืองไทย

แบ่งการแข่งขัน 4 ระยะทาง ได้แก่ 170 , 110 , 80 กิโลเมตร และ 25 กิโลเมตร เส้นทางแข่งขันจะใช้เส้นทางเส้นทางการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เส้นทางดับไฟป่า หรือเส้นทางสัญจรสำคัญของประชาชน   โดยจะผ่านเส้นทางธรรมชาติดอยอินทนนท์ จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกสิริภูมิ ผาแง่ม ผาหมอน นาขั้นบันได และอีกหลากหลายความงดงาม เข้าไปดูรายละเอียดในเพจเฟสบุ๊ค UltraTrailThailand

นายพิพัฒน์ ย้ำว่ามีแผนที่จะประสานกับทาง UTMB-Ultra trail Mont Blanc ซึ่งเป็นรายการแข่งขัน trail ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทางกระทรวงท่องเที่ยวจะจัดให้มีโครงการ Ultra Trail Thailand Series ประจำปี 2563 นำร่อง 3 สนาม คือ สนามที่ 1 พัทลุง สนามที่ 2 นครราชสีมา สนามที่ 3 เชียงใหม่

ข่าวที่ 5“บางจากทำแก้วเพื่อน้องอินทนิลลด25บาท-เติมน้ำมันเงินคืน10%

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รณรงค์ให้เข้าร่วมโครงการ แก้วอินทนิลเพื่อน้อง ยิ่งให้ ยิ่งได้ลด -ผลิตแก้วรุ่นพิเศษในร้านกาแฟอินทนิลบางจาก Limited Education x Inthanin ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มโอกาสทางการศึกษาด้วยแก้วอินทนิลเพื่อน้อง ราคา 199บาท นอกจากรายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้โครงการฯ แล้ว อินทนิล ยังใจดีมอบส่วนลดโกโก้เย็นให้อีกในราคาเพียง 25 บาท !!!  พบกันได้ที่ร้านอินทนิล สาขาสุขุมวิท 62 และ M Tower ส่วนสาขาอื่น ๆ และ Shopee เร็ว ๆ นี้ เตรียมจัดกิจกรรมด้วยเช่นกัน

ส่วนผู้ที่ใช้บริการเติมน้ำมันตามสถานีบางจาก ได้ร่วมกับบัตรเครดิตกรุงเทพฯ มอบเงินคืนสูงสุด 10% ระหว่างวันนี้ – 30 มิถุนายน 2563 เมื่อเติมน้ำมันครบทุก 800 บาท ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ประเภทบัตร Infinite รับ Cash Back 10%  บัตร Platinum และบัตร Titanium รับ Cash Back 3%  สำหรับบัตรเครดิตประเภทอื่นๆ ของธนาคาร รับ Cash Back 2%  

ข่าวที่ 6 ““ทีเส็บ” ดัน 5 ไมซ์ซิตี้งดใช้พลาสติก8.6 ล้านขวดปี63

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่าไทยชื่อว่าเป็นประเทศแรกในเอเชียที่สร้างโรดแมปการจัดประชุมสีเขียว ในปี 2563 จึงเตรียมเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์สู่ความยั่งยืน ภายใต้แคมเปญ “ประชุมเมืองไมซ์ งดใช้พลาสติก” โดยตั้งเป้าลดขวดพลาสติกในห้องประชุม 8.6 ล้านขวดภาย 1 ปี คาดลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองได้กว่า 30,000,000 บาท หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 70,000 ต้น

กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนแคมเปญ “ประชุมเมืองไมซ์ งดใช้พลาสติก” จะนำเครือข่ายไมซ์ซิตี้ 5 เมือง กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น เน้นการจัดงานอย่างยั่งยืนเสริมภาพลักษณ์รองรับงานนานาชาติ และพัฒนาระบบนิเวศน์ของไมซ์ให้มีจิตอาสาร่วมพัฒนาเมืองสู่การเป็นเมืองแห่งไมซ์ที่ยั่งยืน (Sustainable MICE Cities Destination)   ผ่านแผนพัฒนาความร่วมมือ 4 มิติ

1.การพัฒนาศักยภาพ เน้นพัฒนาองค์ความรู้  จัดอบรม ส่งเสริมด้านข้อมูลให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่

2.ประชาสัมพันธ์ เน้นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ของเมือง ศักยภาพของสถานที่การจัดประชุมและผู้จัดงาน รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติอันดี Best practices เพื่อส่งเสริมการประชุมยั่งยืน

3.สนับสนุนงาน เน้นส่งเสริมการจัดงานยั่งยืน Sustainable events  โดยผลักดันสถานที่จัดงาน ให้ได้มาตรฐานความยั่งยืนด้านต่างๆ

4.ติดตามประเมินผล เน้นส่งเสริมการคำนวณเพื่อวัดผลแบบเป็นรูปธรรม

                ช่วงที่ 2 หนาวนี้ห้ามพลาดขึ้นดอยไปสัมผัสอากาศเย็น  ๆ ที่ “ดอยตุง” สูดโอโซนบริสุทธิ์ สนุกกับการเที่ยววิถีชีวิตชาวเขา กินอาหารอร่อย ๆ จากวัตถุดิบสด แล้วต้องดูแลสุขภาพ “8เทคนิค” ชีวิตดี ๆ เริ่มต้นที่เรา จากนั้นก็ต้องเกาะกระแสข่าวลึก “อนุทิน ชาญวีระกุล” ปิ๊งนโยบายขยายวีซ่าต่างชาติโรคตาพักรักษายาวในไทยเพิ่มรายได้เข้าประเทศ “สมัครเลยวิ่ง KILORN OSAKA 2019” ที่ญี่ปุ่น กับไฮไลต์วัฒนธรรมอาหารไทยประชันญี่ปุ่น และเกะติด “ทาเลส” บริษัทข้ามชาติที่ชนะประมูลสิทธิ์ผลิตอีพาสปอร์ตให้ประเทศไทย

@หนาวนี้!! ดอยตุงรอนักท่องเที่ยวไปสูดโอโซนสัมผัสวิถีชาวเขา

ฝนกำลังจะหมดแล้ว ใครที่ชอบเที่ยวที่สูงเตรียมตัวให้พร้อม จะพาไปเติมโอโซนความสุขกันที่ “โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” จ.เชียงราย สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เปิดทุกวันตั้งแต่ โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น มีค่าเข้าชมคนละ 150 บาท เพื่อเข้าไปเดินอย่างเพลิดเพลินใน พระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง และหอพระราชประวัติ บริเวณทางขึ้นจะมีรถสองแถวบริการออกทุก ๆ 20 นาที ตั้งแต่ 7 โมงเช้า

โครงการอันเนื่องจากพระราชดำริของสมเด็จย่าแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นปี 2531 ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ทั้งแม่จัน แม่ฟ้าหลวง และแม่สาย เป็นถิ่นที่อยู่ของชาว ชนเผ่าอาข่า ลาหู่ จีนก๊กมินตั๋ง ไทใหญ่ ไทลื้อ และไทลัวะ กว่า 11,000 ชีวิตที่หันมาปลูกพืชเมืองหนาว อนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรม ประเพณีภาคเหนือไว้ได้เป็นอย่าง

ทุกวันนี้โครงการพัฒนาดอยตุงฯ คือแหล่งเรียนรู้งานฝีมือและการแปรรูปจากผลผลิตทางการเกษตรให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานความทันสมัยและรากเหง้าของวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลงตัว

สถานที่เที่ยว ไฮไลต์ ต้องห้ามพลาด !! วันแรก ต้องขึ้นไปสำรวจอุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง ศึกษาประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตชาวเชียงราย ไปชมขัวศิลปะ ร่วมกิจกรรมงานศิลปะกับศิลปิน และ ชมศิลปะบ้านดำของ อ.ถวัลย์ ดัชนี

วันต่อมาไปเดินชมพระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง หอแห่งแรงบันดาลใจ ดูศูนย์ผลิตและจำหน่ายงานจากดอยตุง ซื้อผลิตภัณฑ์ดอยตุงชมโรงงานทอผ้า เซรามิก

สถานที่เที่ยวปิดท้าย ต้องไป หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน อุมงคมุข อุโมงค์กาลเวลาที่รวบรวมเรื่องฝิ่นที่สมบูรณ์ที่สุด แล้วไปเดินตลาดแม่สาย เลือกซื้อสินค้าจากไทย-เมียนมาร์

ส่วนที่หอพระราชประวัติ มีมุมร้านกาแฟโครงการพัฒนา ดอยตุง กาแฟสดรสเยี่ยมเปิดตลอดตั้งแต่ โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น  

สนใจท่องเที่ยวโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) ศูนย์ท่องเที่ยวและบริการ สำนักงาน ประสานงานโครงการพัฒนาดอยตุง อาคารอเนกประสงค์ พระตำหนัก ดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โทร. 0-5376-7015-12 หรือเข้าไปดูได้ที่ www.doitung.com

@ชีวิตดีเริ่มที่เรา ด้วยเคล็ดลับ 8 เทคนิค

ด้วยสังคมและยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป เกือบทั้งชีวิตทุกคนต่างก็ทุ่มเทให้กับงาน และหน้าที่ต่าง ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ จนมองข้ามอะไรบางอย่างในชีวิตไปนั่นคือ สุขภาพ สำหรับ ชีวิตดีเริ่มที่เรา ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. มีแคมเปญที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นได้ด้วย 8 เรื่องใกล้ตัว

1. กินให้พอดี ขยับกายให้มีพลัง กินอาหารที่เหมาะสมในแต่ละมื้อ ด้วยสูตร 2:1:1 คือ ผัก 2 ส่วน แป้ง 1 ส่วน หาข้อมูลได้ที่ www.raipoong.com

2. สร้างพื้นฐานจิตใจให้เข้มแข็งนำไปสู่ชีวิตดีทุกด้าน ต้องเริ่มต้นด้วยการมองโลกในแง่ดี เรียนรู้วิธีการสร้างพลังบวกได้ที่ www.happinessisthailand.com

3. คุยกับลูกเรื่องเพศ คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกตัดสินใจไม่พลาด สอบถามข้อมูลการเลี้ยงลูกได้ที่ www.คุยเรื่องเพศ.com

4. ความสัมพันธ์ในครอบครัว องค์กร และชุมชน คือองค์ประกอบสำคัญของการเสริมสร้างความสุข สร้างความสุขด้วยหลัก Happy Workplace 8 ประการ ศึกษาข้อมูลได้ที่ www.happy8workplace.com

5. สร้างพลังจิตอาสา เสริมพลังสร้างสังคม แบ่งปันเพื่อไปช่วยเหลือดูแลคนอื่น หรือเข้าร่วมโครงการธนาคารจิตอาสา กับ สสส. ได้ที่ www.jitarsabank.com

6. หยุดอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนนด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ไม่ขับรถเร็ว งดใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ สวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ติดตามข้อมูลการขับขี่ที่ปลอดภัยได้ทาง www.roadsafetythai.org

7. เลิกเหล้าโดยใช้คนรักเพื่อเป็นแรงผลักดัน เพื่อความสุข และสุขภาพที่ดีขึ้น หรือ โทรสายด่วนเลิกเหล้า 1413

8. ไม่ทำร้ายกันด้วยควันบุหรี่ หากอยากเลิกบุหรี่ต้องมีแรงบันดาลใจ และพร้อมที่จะเลิก โทรเลยสายด่วน 1600 เพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมกับการเลิกบุหรี่ด้วยตนเอง

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก“อนุทินปิ๊งขยายวีซ่าต่างชาติรักษาโรคตาเพิ่มรายได้เศรษฐกิจไทย”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เป็นประธาน ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) โดยมีนายพิพัฒน์  รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมประชุมด้วยภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ได้หารือถึงแนวทางการผ่อนปรนเรื่องขยายวีซ่าแก่ชาวต่างชาติทั่วโลกซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคตาที่เดินทางเข้ามารักษาในไทยให้อยู่ได้นานขึ้น  โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในเร็ว ๆ นี้ นำร่องเริ่มขยายวีซ่าของผู้ป่วยกลุ่มประเทศโลกที่ 1 จากเดิมอยู่ได้เพียง 14 วัน หรือไม่เกิน 1 เดือน 

                โดยจะพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบด้านความมั่นคงจากกระทรวงเกี่ยวข้องทั้งหมด และต้องได้รับความเห็นชอบจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ด้วย ประการสำคัญจะช่วยเพิ่มรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากกลุ่มต่างชาติที่เดินทางเข้ามารักษาสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มคุณภาพที่มีการใช้จ่ายเงินสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ

ข่าวที่สอง “บูมจัด KILORUN OSAKA 2019โชว์วัฒนธรรมอาหารไทย-ญี่ปุ่น”

กลุ่มบริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) รายงานว่า จับมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักการท่องเที่ยว   โอซาก้า จัดมหกรรมงาน “KILORUN OSAKA 2019” งาน ASIAN LIFESTYLE JOURNEY วันที่ 22 ตุลาคม 2562 ตั้งเป้าดึงนักแข่งวิ่งลงสนามอย่างคึกคักมากถึง 16 ประเทศ โดยมีไฮไลต์การกินอาหารดังในญี่ปุ่น 7 ร้านปะทะ“ผัดกระเพราไทย กับการชวนนักวิ่ง นักกิน นักเที่ยว ร่วมสนุกวิ่งยามเช้า ชมและถ่ายรูปสวนสุดฟินติดปราสาทโอซาก้า สำหรับคนไทยจองบัตรที่ WWW.KILORUN.COM ราคาแพ็คเกจรวมที่พัก การเดินทางและบัตรร่วมงาน Let’s go KILORUN OSAKA จาก H.I.S. Tours เริ่มต้นคนละ 23,000 บาท มีรางวัลเป็นตั๋วโดยสาร ไป-กลับกรุงเทพ-โอซาก้า 1 รางวัล 2 ที่นั่ง พร้อมเสื้อวิ่ง ตุ๊กตา และอื่น ๆ

การจัดแข่งขันแบ่ง 2 ประเภท 1. KM: Breakfast Run วิ่งในสวนสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าและโพสต์ท่าวิ่งถ่ายภาพติดฉากหลังปราสาทโอซาก้า กับ 2 ระยะทาง คือ L RUN 10 กิโลเมตร และ M RUN 5 กิโลเมตร และ 2. KG: Delicious Run อิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นแท้ยามบ่ายของญี่ปุ่นที่ยกขบวนมาเสิร์ฟถึงในสวนปราสาทโอซาก้า 7 จานเด็ด ได้แก่

1.ซูชิพรีเมี่ยม (Nigiri Sushi) จาก Daiki Suisan ร้านอาหารทะเลเก่าแก่กว่า 40 ปี 2.ทาโกยากิ (Takoyaki) ระดับตำนานจากร้าน ITAKOYAKI กับวัตถุดิบสไตล์อิตาเลี่ยน 3.ยากิโซบะ (Yakisoba) อันดับ 1 จาก TSURUHASHI FUGETSU ร้านใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่มีสาขาทั้งในและต่างประเทศกว่า 90 สาขา 4.ครอกเก้เนิ้อวากิว (Naniwa Beef Croquette) กรอบนอกฉ่ำในจากร้าน SANSEI 5.ไก่คาราเกะ(Chicken Karaage) เจ้าของรางวัลการันตีจากร้าน TSURUSHIN 6.โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) จากสุดยอดวัตถุดิบของร้าน DEN 

และ 7. พุดดิ้งคัสตาร์ด (Custard Pudding) เข้มข้นจากไข่คุณภาพจากร้าน RIKYU PURIN ปะทะเมนูเซอร์ไพร์สอาหารไทยชื่อดัง “ผัดกระเพรา” ที่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติชื่นชอบเสิร์ฟให้กับผู้ลงสนามได้ลิ้มลอง งยังเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านอาหารประจำชาติไทย-ญี่ปุ่น  

จองบัตรที่ WWW.KILORUN.COM ราคาแพ็คเกจรวม ที่พัก การเดินทาง บัตรร่วมงาน Let’s go KILORUN OSAKA

ข่าวที่สาม “ทาเลสคว้าผู้ผลิตอีพาสปอร์ตให้ไทยเริ่มไตรมาส2ปี63

นายวินสตัน เยียว รองประธานอาวุโสฝ่ายโซลูชั่นการระบุตัวตนและไบโอเมตริก กลุ่มบริษัท ทาเลส (Thales) กล่าวว่า ได้รับสิทธิ์จากกระทรวงต่างประเทศของไทยให้เข้ารับผลิตและจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (พาสปอร์ต) ตามเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งคือ ภายในเวลา 7 ปี หรือผลิตหนังสือเดินทางทั้งหมด 15 ล้านเล่ม ซึ่งจะเริ่มมอบหนังสือเดินทางเล่มแรกให้กับกระทรวงการต่างประเทศภายใน 9 เดือน หรือสามารถเริ่มทำได้ช่วงต้นไตรมาส 2 ปี 2563

ทางทาเลสประมูลในนาม DGM Consortium ชนะการประกวดราคาจ้างเอกชนผลิต และให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 ตามการเสนอราคา 7,463,250,000 บาท ส่วนราคากลาง 12,438,750,000 บาท หรือเล่มละ 829.25 บาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding)

สำหรับจุดแข็งของกลุ่มทาเลส ที่ได้รับการลงนามสัญญาจ้างหลังการประกวดราคาเสร็จสิ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา นั้น เพราะจุดแข็งที่แตกต่างกับหนังสือเดินทางเดิมของไทย 5 เรื่อง ประกอบด้วย

1.ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของหนังสือเดินทางไทยให้เป็นขั้นสูง ตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ กำหนดลักษณะพิเศษของหนังสือเดินทางมีความปลอดภัยเก็บข้อมูลแบบไบโอเมตริกที่ไม่สามารถปลอมแปลงได้

2.เพิ่มระบบซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยลงไปในหนังสือเดินทาง เพื่อลดการเข้าถึงหนังสือเดินทางโดยไม่ชอบ และเพิ่มประสิทธิภาพของหนังสือเดิ         นทางในการผ่านเข้าออกเมือง

3.เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหนังสือเดินทางตามกฎหมายกำหนด โดยในส่วนของการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล 1 คีย์สามารถเข้าถึงได้เพียง 1 ผู้ใช้เท่านั้น

4.ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับกระทรวงการต่างประเทศ ในการจัดทำหนังสือเดินทางได้รวดเร็วมากขึ้น ผ่านการปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น

 5.ขยายศูนย์ให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางตาม TOR โดยร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศขยายศูนย์ให้บริการเพิ่มอีก 15 แห่ง และเข้าไปปรับปรุงขั้นตอนการลงทะเบียนที่ศูนย์ดำเนินการจัดทำหนังสือเดินทาง 22 แห่ง  

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 – 12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน ผู้ดำเนินรายการ