“ทีเส็บ”ผุดโปรเจ็กต์ต้นแบบปลุกเทรนด์ไมซ์ยั่งยืนปี’63 นำไมซ์ซิตี้5เมืองNo Plasticเซฟขยะโลก8.6ล้านขวด

“ทีเส็บ”ผุดโปรเจ็กต์ต้นแบบปลุกเทรนด์ไมซ์ยั่งยืนปี’63

นำไมซ์ซิตี้5เมืองNo Plasticเซฟขยะโลก8.6ล้านขวด

เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน -บล็อกเกอร์ : gurutourza ,www.facebook.com/penroongyaisamsaen

ผู้นำ “TCEB” ลั่นปี’63 “ลุยแคมเปญ “ประชุมเมืองไมซ์ งดใช้พลาสติก-No Plastic” ปลุกกระแสไมซ์ซิตี้ 5 เมือง กรุงเทพฯ ขอนแก่น พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต นำร่องสร้างโมเดลต้นแบบ ขานรับการยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ไทยอย่างยั่งยืน ผงาดขึ้นนำอาเซียน หวังทุกห้องประชุมลดใช้ขวดพลาสติกลง 50% ปีละไม่ต่ำกว่า 8.6 ล้านขวด เซฟการปลุกต้นไม้ได้ถึง 7 หมื่นต้น ลดปล่อยก๊าซพิษคาร์บอนออกไซด์สู่โลกได้ถึง 638 ตัน

จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ TCEB นำทีมตัวแทนไมซ์ซิตี้ 5 เมือง ประกาศเปิดตัวแคมเปญ "ประชุมเมืองไมซ์ งดใช้พลาสติก” หรือ No Plastic ในงาน IT&CMA and CTW 2019 

---------------------------------------------------------------------------------------------

           นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าไทยชื่อว่าเป็นประเทศแรกในเอเชียที่สร้างโรดแมปการจัดประชุมสีเขียวต่อเนื่องกว่าททศวรรษ ในปี 2563 ตั้งเป้าเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมไมซ์สู่ความยั่งยืน (Sustainable MICE Cities Destination)   ภายใต้แคมเปญ “ประชุมเมืองไมซ์ งดใช้พลาสติก” หรือ No Plastic โดยตั้งเป้าดำเนินการนำร่องในไมซ์ซิตี้ 5 เมืองหลัก ทั้ง กรุงเทพฯ ขอนแก่น พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต ปลุกกระแสเครือข่ายทั่วประเทศลงมือทำอย่างจริงจัง ตั้งเป้าปีแรกจะลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกในห้องประชุมพื้นที่เป้าหมายลง 50 % หรือลดให้ได้ถึง 8.6 ล้านขวด ซึ่งเท่ากับการช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 638 ตัน (638 TonCO2) เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 70,226 ต้น ลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 30 ล้านบาท

            โดยได้เปิดตัวแคมเปญ “ประชุมเมืองไมซ์ งดใช้พลาสติก” หรือ No Plastic อย่างยิ่งใหญ่ในเวทีการเป็นเจ้าภาพจัดงาน IT & CMA and CTW 2019 มหกรรมเจรจาธุรกิจผู้ซื้อทั่วโลกจาก 61 ประเทศ พบผู้ขายกลุ่มผู้ประกอบการไทย ในกลุ่มตลาดหลัก การประชุมสัมมนาและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลเดินทางฟรี (Meeting and Incentive : MI) ซึ่งมีการจัดงานไปเมื่อวันที่ 24-26 กันยายน 2562 ณ เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัล เวิลด์ กรุงเทพฯ

ตามสถิติปี 2561 ไมซ์ซิตี้ทั้ง 5 เมือง มีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ 34,691,347 คน ตลอดทั้งปีสร้างขยะขวดพลาสติกที่นำมาใช้ในห้องประชุมใน 5 เมือง กว่า 17 ล้านบาท ปี 2563 จึงต้องเร่งขับเคลื่อนแคมเปญ “ประชุมเมืองไมซ์ งดใช้พลาสติก” เต็มรูปแบบเพื่อขยายผลนำไปใช้ในเมืองไมซ์ทั่วประเทศต่อไป

แคมเปญดังกล่าวนี้ ทาง TCEB ได้วางกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อน “ประชุมเมืองไมซ์ งดใช้พลาสติก” ด้วยการนำเครือข่ายไมซ์ซิตี้ 5 เมือง ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต ให้ตื่นตัวร่วมมือกันเน้นจัดงานไมซ์อย่างยั่งยืน เสริมภาพลักษณ์การรองรับงานนานาชาติ ควบคู่การพัฒนาระบบนิเวศน์ สร้างการมีจิตอาสาร่วมสร้างสรรค์สู่การเป็นเมืองแห่งไมซ์ที่ยั่งยืน     ผ่านแผนพัฒนาความร่วมมือ 4 มิติ ประกอบด้วย

1.การพัฒนาศักยภาพ เน้นพัฒนาองค์ความรู้  จัดอบรม ส่งเสริมด้านข้อมูลให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่

2.ประชาสัมพันธ์ เน้นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ของเมือง ศักยภาพของสถานที่การจัดประชุมและผู้จัดงาน รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติอันดี Best practices เพื่อส่งเสริมการประชุมยั่งยืน

3.สนับสนุนงาน เน้นส่งเสริมการจัดงานยั่งยืน Sustainable events  โดยผลักดันสถานที่จัดงาน ให้ได้มาตรฐานความยั่งยืนด้านต่าง ๆ

4.ติดตามประเมินผล เน้นส่งเสริมการคำนวณเพื่อวัดผลแบบเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ TCEB มุ่งมั่นบุกเบิกนโยบายการส่งเสริมการจัดงานอย่างยั่งยืนต่อเนื่องมากว่า  1 ทศวรรษ เริ่มตั้งแต่ปี 2551 สอดคล้องกับพันธกิจหลักขององค์กร ที่เน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์อย่างยั่งยืน สร้างสมดุลความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

อีกทั้งยังได้รณรงค์ขุมชนและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ หันมาร่วมมือใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันแนวคิดเรื่องความยั่งยืนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม 

นายจิรุตถ์ย้ำว่า ปี 2563 จะผนึกร่วมมือกับเครือข่ายไมซ์ซิตี้  เดินหน้ารณรงค์ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของเมือง รวมถึงการส่งเสริมความพร้อมของไมซ์ซิตี้ในการเป็นเจ้าภาพงานนานาชาติ และพัฒนาระบบนิเวศน์ของผู้ประกอบการธุรกิจไมซ์ในพื้นที่ให้มีจิตอาสา ร่วมพัฒนาเมืองสู่การเป็นเมืองแห่งไมซ์ที่ยั่งยืน หรือ Sustainable MICE Cities Destination สร้างประโยชน์ให้เกิดกับทุกภาคส่วน รวมทั้งช่วยสร้างมาตรฐาน และสร้างแนวคิด ผลักดันนโยบายลงสู่ภาคปฏิบัติด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม  ความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม ความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ  ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเมืองและผู้ประกอบการไมซ์ไทยให้แข็งแกร่ง เป็นผู้นำไมซ์ยั่งอย่างยืนของภูมิภาคอาเซียนต่อไป