ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผู้นำสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ตเปิดปฏิบัติการฟื้นเศรษฐกิจเมืองเกาะปีฉลู64 “Phuket First October”รับทัวร์ต่างชาติ-Have You Ever รุกทัวร์ไทย

ผู้นำสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ตเปิดปฏิบัติการฟื้นเศรษฐกิจเมืองเกาะปีฉลู64

Phuket First October”รับทัวร์ต่างชาติ-Have You Ever รุกทัวร์ไทย

คิงเพาเวอร์คว้าแชมป์โลก4รางวัลหนุนตลาดอินเตอร์เชื่อมั่นเที่ยวไทย

ช้อปโปรสุดคุ้ม”คิงเพาเวอร์”ลดแบบไม่ต้องมียอดซื้อขั้นต่ำถึง28ก.พ.นี้

ห้ามพลาด!!ONCE UPON A MONTHขอ5วันช้อปคิงเพาเวอร์ลด50%

ททท.ปลุกสนง.ทั่วโลกเร่งขายทัวร์เข้าไทยหลังรับวัคซีน-เอเชียเสือเร็ว

ททท.-TRUEแจก 5 พันสิทธิ์เที่ยวทุกวัน“นครนายก-ปราจีนฯสระแก้ว”

TCEBรวมพลัง 14 องค์กรชิงประมูลสิทธิ์จัดพืชสวนโลกปี’72ที่โคราช

“อุตรดิตถ์”ชวนทัวร์มุมใหม่“ฟากท่า”กลางหุบเขา/ตำนานเมืองลับแล

เปลี่ยนด่วน!!12 พฤติกรรมป้องกันดูแลการเกิดปัญหาอาหารไม่ย่อย

CEOบางกอกแอร์นั่งนายกแอร์ไลน์ไทยเร่งดันรัฐเปิดน่านฟ้าอินเตอร์

การบินไทยชำแหละผลงานปี’63ยืนยันขาดทุนสุทธิอื้อ1.41แสนล้าน

 

ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม 

นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต  #Kingpower #ททท  ฟังLive สดจากลิงค์นี้ https://www.facebook.com/97qfm/videos/471824093856668/

ช่วงที่ 1 เจาะลึกแผนปฏิบัติการภูเก็ต ออกโทเบอร์ กับ “ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม” นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต งัด 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ รุกเพิ่มรายได้ วันพัก โปรเจ็กต์แรก “Phuket First October” ปลุกคู่ค้าทั่วโลก จัดทัวร์ต่างชาติเข้าเกาะกลางอันดามันเริ่มตุลาคม 2564 นี้ เล็งรับตลาดขาใหญ่กลุ่มสแกนดิเนเวีย 4 ชาติ “ฟินแลนด์-นอร์เวย์-สวีเดน-เดนมาร์ก” พร้อมเปิดบินเช่าเหมาลำทันที และรอดูท่า “ตลาดเอเชีย” เลือกประเทศพร้อมฉีดวัคซีนโควิดเป็นหลัก โปรเจ็กต์ 2Have You Ever” เอาใจ “ตลาดในประเทศ” ช่วงรอต่างชาติ 7 เดือน มี.ค.-ก.ย.นี้ ชูจุดขาย 3 แม่เหล็กใหญ่ “ราคาจับต้องได้-ประสบการณ์ใหญ่สัมผัสธรรมชาติสวยเกินบรรยาย-กิจกรรมใหม่เพียบ” ดูดเงิน 3 ตลาด “ครอบครัว-คู่รัก-นักค้นหาความแปลกใหม่” เอกชน องค์กรปกครองท้องถิ่น จ่อควักเงินเองซื้อวัคซีนฉีดคนภูเก็ต 2.59 แสนคน ปูพรมสร้างความเชื่อมั่นรับนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ ประกาศขอร่วมเป็นเสาหลักฟื้นเศรษฐกิจชาติก้าวพ้นวิกฤตโควิด-19

 

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์นำทัพธุรกิจเมืองท่องเที่ยวดังระดับโลกภูเก็ตก้าวข้ามวิกฤตไวรัสโควิด-19 โดยเอกชนจับมือกับหน่วยงานภาครัฐสร้างให้เกิดระหว่างสมดุลการแพร่ระบาดของโควิดกับการพัฒนาธุรกิจให้ชาวภูเก็ตสามารถอยู่ได้จริง หลังจากเจอผลกระทบต่อเนื่อง 2 รอบ ตั้งแต่รอบแรกช่วงเดือนเมษายน 2563 ซึ่งหนักสาหัสมากเพราะตลาดต่างประเทศไม่สามารถเข้ามาได้ กว่าจะฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งต้องใช้เวลาโดยได้รับการอุดหนุนจาก “ตลาดคนไทยในประเทศ” เดินทางเข้ามาใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวภูเก็ตตั้งแต่สิงหาคม-พฤศจิกายน 2563

กระทั่งเจอรอบสองซ้ำลงมาอีกจึงทำให้ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศหายไปพร้อม ๆ กัน ตอนนี้จึงอยู่ในช่วงต้องกอบกู้สถานการณ์ท่องเที่ยวภูเก็ตฟื้นคืนอีกรอบ

โดยจะต้องยอมรับความจริงเกี่ยวกับ “รายได้จากตลาดในประเทศ” ในภูเก็ต ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งรายได้จากคนไทยสถิติปี 2562 (ก่อนโควิด) มีประมาณ 17 % ของทั้งหมดเท่านั้น ภาคีเครือข่ายในพื้นที่พยายามตั้งเป้าหมายขยับให้ได้เป็น 20-22 % แต่ก็ยังมีความยากลำบากหลายเรื่องด้วยกันทั้ง 1.ปริมาณเที่ยวบินเข้าออกภูเก็ต 2.ความพร้อมใช้จ่ายทางเศรษฐกิจของนักท่องเที่ยวคนไทย

ผมมองว่าทางออกของ “ภูเก็ต” ก็คือทางออกของ “ประเทศไทย” ด้วย ดังนั้นจึงมองข้ามไปถึง “เดือนตุลาคม 2564” ด้วยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศลูกค้าหลักของภูเก็ต จะต้องเริ่มเดินทางเข้ามาพักผ่อนแต่ก็ต้องค่อย ๆ ช่วยกันปลดล็อกการกักตัว 14 วัน ซึ่งปัจจุบันมีผลต่อการตัดสินใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้จำนวนไม่มากนัก

ดังนั้นสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ตได้จับเข่าคุยกับทางภาครัฐประกาศยุทธศาสตร์ เดินหน้าทำโครงการ Phuket First October 2021ภูเก็ตจะต้องกลับมาเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้เป็นต้นไป ควบคู่กับการเร่งเดินหน้า 2 เรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการเดินทางได้จริง คือ 1.ปลดล็อกมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติ 14 วัน 2.หาวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาฉีดให้ชาวภูเก็ตจนครบทั้งเกาะ 

นายภูมิกิตติ์กล่าวว่า การฟื้นฟูตลาดในประเทศเข้ามาพยุงรายได้ช่วงรอตลาดต่างประเทศที่จะเข้ามาตามโครงการ “Phuket First October 2021” ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ภาคธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตร่วมใจกันสร้างแรงจูงใจกระตุ้นคนในประเทศเข้ามาเที่ยวด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ

1.ทำโปรโมชั่นพิเศษในราคาคนไทยจับต้องได้ ทั้งห้องพัก และแพกเกจท่องเที่ยว (รวมห้องพัก-อาหาร-กิจกรรมท่องเที่ยว)

2.ความสวยงามทางธรรมชาติซึ่งฟื้นคืนความสวยสุดในรอบหลายสิบปี โดยเฉพาะธรรมชาติใต้ทะเลของเหล่านักดำน้ำลึก

3.แนะนำสินค้าท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย แบ่งเป็น กลุ่มแรก ยังไม่เคยมาเที่ยวภูเก็ต รีบตัดสินใจมาชมความสวยงามเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต กลุ่มที่ 2 เคยเดินทางมาเที่ยวแล้ว เคยมีประสบการณ์นั่งเรือกาตามารันชมพระอาทิตย์ตกดินในทะเล หรือสัมผัสน้ำทะเลอันดามัน เดินทางเมืองเก่าภูเก็ต

ตอนนี้จึงได้สร้างแคมเปญใหม่มากระตุ้นความสนใจในชื่อ Have You Ever : คนไทยมาถึงภูเก็ตแล้วหรือยัง” แคมเปญนี้จะเพิ่มประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่นักท่องเที่ยวไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เมื่อมาแล้วก็จะเกิดคำถามว่าในภูเก็ตมีแหล่งท่องเที่ยว แบบนี้ด้วยหรือ เช่น แหล่งท่องเที่ยวที่จะได้รับการเปิดเผยใหม่ 7-8 แห่ง แม้แต่คนภูเก็ตเองก็ตั้งคำถามว่าเราเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน หรือ “กิจกรรมใหม่”  เช่น Phuket Surf Skate Series นำร่องโปรโมตครั้งแรกช่วงวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา สนามแรกที่เปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุกโดย “เปิดพื้นที่เมืองเก่าภูเก็ต” ให้คนเล่นเซิร์ฟสเก็ตครั้งแรก สร้างความคึกคักและรอยยิ้มให้ชาวภูเก็ตทุกเพศทุกวัยกลับมาได้อีกครั้ง

วางแผนจะนำเสนอขายกิจกรรมใหม่โครงการ Phuket Surf Skate Series ปูพรมชูธงให้ภูเก็ตเป็น “Surf and Skate of The World : เมืองแห่งเซิร์ฟแอนด์สเก็ตของโลก” ศูนย์รวมการเล่นเซิร์ฟกับสเก็ต โดยจะจัดทำเป็นอีเวนต์ย่อย ๆ ไปจนถึงเดือนธันวาคมนี้ ไฮไลต์จะสร้างสนามเล่นเป็นทางการด้วยต่อไป

ส่วนการขายจะจัดแพกเกจเชื่อมโยงกิจกรรมเข้าด้วยกัน เช่น ดำน้ำเล่นเซิร์ฟและสเก็ต กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวมีกิจกรรมแปลกใหม่ทำอยู่ตลอด ควบคู่กับ “เพิ่มวันพัก” และ “เพิ่มการใช้จ่ายเงินในพื้นที่” ไปพร้อม ๆ กัน ในอดีตอาจจะมาพักเพียง 3-4 วัน นับจากปีนี้เป็นต้นไปพอมีกิจกรรมทำต่อเนื่องได้ วันแรก ดำน้ำ วันที่สอง ไปเล่นเซิร์ฟสเก็ต วันที่สาม ไปวิ่งเทรลภูเขา และวันต่อไปมีกิจกรรมอื่น ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มวันพักกับรายได้ให้ภูเก็ตมากขึ้นได้

 

ส่วนกระแสตอบรับของ “ตลาดในประเทศ” คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภูเก็ต แบ่งตามพฤติกรรมการเดินทางได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มครอบครัว เพิ่มมากขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีถือเป็นการนัดรวมตัวพบปะสังสรรกันในภูเก็ต ตอกย้ำว่าสามารถตอบสนองนักท่องเที่ยวทุกวัยได้ โดยผู้สูอายุไปเล่นกอล์ฟ แม่บ้านไปทำสปา เด็กวัยรุ่นไปเล่นเซิร์ฟ พอค่ำก็มารับประทานอาหารร่วมกัน เดินชมเมืองเก่ายามค่ำคืน 2.กลุ่มคู่รัก ตอนนี้ภูเก็ตบรรยากาศล่องทะเลชมธรรมชาติยามเย็นโรแมนติก ภูเก็ตจึงเหมาะมาฮันนีมูนแบบเป็นคู่ได้ตลอดทั้งปี 3.นักเดินทางค้นหาประสบการณ์ใหม่ อาจจะมาคนเดียวหรือมากับเพื่อนฝูงก็ได้

นายภูมิกิตติ์ ย้ำว่าแผนเตรียมความพร้อมรับ “ตลาดต่างประเทศ” เรื่องหลัก ๆ คือ “วัคซีน” รัฐบาลต้องกระจายให้ประชาชนโดยมีคำตอบโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นเงื่อนไขสำคัญทำให้ต่างชาติไม่ตัดสินใจท่องเที่ยว ดังนั้นภายในเดือนมีนาคมนี้จะต้องมีสัญญาณชัด เพื่อสื่อสารไปยังคู่ค้าทั่วโลก กลุ่มนักท่องเที่ยวข้ามทวีป หรือ Longhaul traveller อย่างน้อย 4 เดือน ก่อนฤดูท่องเที่ยวช่วงตุลาคม 2564 จะต้องรู้เงื่อนไขใหม่ในการเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย

ตลาดหลักที่ภูเก็ตต้องการต้อนรับเข้ามาใช้บริการตั้งแต่ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ตลาดหลักคือ “ยุโรป” ตามปกตินิยมหนีหนาวมาพักผ่อนระยะยาว ขณะนี้มีหลายประเทศทยอยฉีดวัคซีนแล้ว ผนวกกับสามารถจัดให้มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำตลอดฤดูกาล (charter flight scadual) บินตรงเข้าภูเก็ตได้เลย ทั้งจาก กลุ่มสแกนดิเนเวีย เช่น ฟินแลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก

ส่วน “เอเชีย” ก็มีเพียงสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ส่วนอีกหลายประเทศแม้จะเริ่มฉีดแล้วแต่ยังน้อย จึงยังไม่น่าจะเริ่มเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้


ส่วนการสื่อสารไปยังคู่ค้าท่องเที่ยวทั่วโลกถือเป็นหัวใจสำคัญมาก ที่จะต้องหาข้อสรุปให้ชัดเจนก่อนจะส่งข้อความออกไป 2 เรื่อง คือ เรื่องแรก รัฐบาลจะต้องทำคือพิจารณาข้อมูลทั้งหมดแล้วตัดสินใจว่า นักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจะกักตัวหรือไม่อย่างไร ถ้าไม่กักตัว 14 วัน ก็จะง่ายที่จะทำตลาดต่างประเทศ เรื่องที่ 2 เตรียมพร้อมหาวัคซีนมาฉีดให้คนภูเก็ตอย่างน้อย 2.59 แสนคน กระจายฉีดให้ 3 กลุ่มแรก คือ 1.บุคลากรทางการแพทย์  2.องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลคัดเลือก 3.พนักงานในภาคธุรกิจจ่ายเงินดูแลกันเอง ฉีดพร้อม ๆ กันในเวลาใกล้เคียงกัน แล้วภายในกันยายน นี้จะต้องฉีดวัคซีนให้แล้วเสร็จ มีเวลาสร้างภูมิคุ้มกัน 28 วัน ก่อนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาในเดือนตุลาคม 2564 นี้

สำหรับรูปแบบการนำเสนอของภาคธุรกิจที่จะใช้ช่องทางระดมหาวัคซีนมาแก่ให้พนักงานของตนเอง ตอนนี้เอกชนเข้าใจว่าหลังจากสำนักงานหรือผู้ตรวจเงินแผ่นดินทำข้อเสนอแนะไปยังอธิบดีกรมการปกครองท้องถิ่น กรณีไม่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำงบประมาณมาจัดซื้อวัคซีนเอง แต่ข้อเสนอแนะดังกล่าวเอกชนเข้าใจตรงกันว่าไม่ได้เป็นข้อห้าม ส่วนจะทำหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง

โดยมี 2 ประเด็นที่เป็นปัจจัยหนุน คือ ประเด็นที่ 1 ทางอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นเองได้ทำหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ทำประชาสัมพันธ์การฉีดวัคซีน ซึ่งการปฏิบัติตามเรื่องใช้งบท้องถิ่นจัดหาวัคซีนหรือไม่อย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับท้องถิ่นตัดสินใจ ประเด็นที่ 2 การฉีดวัคซีนเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจได้จริง ๆ เห็นจากหลายประเทศต่างระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชน ฉนั้นภูเก็ตเองมีความหวังก่อนตุลาคมนี้ในประเทศต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วออกเดินทาง สร้างสมดุลเรื่องการท่องเที่ยวได้อีกช่องทาง

นายภูมิกิตติ์กล่าวว่า การวางแผนกระตุ้นความสัมพันธ์กับคู่ค้าท่องเที่ยวในตลาดต่างประเทศทั่วโลก ตอนนี้ภาคธุรกิจในภูเก็ตร่วมมือกับ ททท.สำนักงานต่างประเทศ เริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องกระบวนนับหนึ่งทางการขาย เพราะคู่ค้าในประเทศนั้น ๆ ก็ต้องรอความชัดเจนของไทย โดยเฉพาะปัจจัยการปลดล็อกการกักตัว 14 วัน เป็นเรื่องหลักแรก ๆ ที่จะตอบคู่ค้าให้ชัดเจน

 


นายภูมิกิตติ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ชาวภูเก็ตพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและทั่วโลกกลับมาใช้ชีวิตวิถีใหม่ช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจบนเกาะให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง สถิติปี 2562 มีนักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวภูเก็ตมากเป็นอันดับ 1 จำนวนมากถึง 4 ล้านคน อันดับ 2 จีน 3 ล้านคน ฉนั้นภูเก็ตจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางของคนในประเทศมาตลอด ยิ่งตอนนี้เป็นราคาที่คนไทยจับต้องได้ ส่วนตลาดต่างประเทศมาเที่ยวจำนวนมากตามปกติ ซึ่งนักธุรกิจและองค์กรท้องถิ่นในภูเก็ตพร้อมจะควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อวัคซีนมาฉีดให้พนักงานและประชาชน

รวมถึงชาวภูเก็ตขอเป็นหนึ่งในแกนหลักเรื่องการมีส่วนร่วมกับประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยก้าวข้ามวิกฤตโควิดไปด้วยกัน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 


ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์คว้าแชมป์โลก4รางวัลโลกหนุนตลาดอินเตอร์เชื่อมั่นเที่ยวไทย

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า  ได้พัฒนาธุรกิจร้านค้าปลีกเพื่อการเดินทางและร้านปลอดอากร (duty free)  ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน พร้อม ๆ กับการสร้างแบรนด์ธุรกิจท่องเที่ยวกระทั่งเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล มีส่วนช่วยทำให้นานาชาติรู้จักคนไทยและประเทศไทยมากขึ้นตลอดปี 2563 ต่อเนื่องถึงปี 2564 ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้แสดงพลังด้านศักยภาพบริหารจัดการธุรกิจ สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์กระทั่งสามารถสร้างความภาคภูมิใจมากที่สุด โดยได้รับเลือกจากภูมิภาคเอเชียและระดับโลกถึง 3 เวที มอบ 4 รางวัลแห่ง ความสำเร็จอันทรงคุณค่าเป็นเกียรติประวัติ ตอกย้ำการทำหน้าที่เป็นสื่อกลางช่วยประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นนานาชาติทั่วโลก

รางวัลอันทรงเกียรติถือเป็นความภาคภูมิใจภายใต้แบรนด์นักลงทุนไทยครั้งนี้ประกอบด้วย ธุรกิจดิวตี้ฟรี ได้รับความไว้วางใจการประกาศในเวที ‘ดีเอฟเอ็นไอ-ฟรอนเทียร์ เอเชีย แปซิฟิก อวอร์ด’ : DFNI-Frontier Asia Pacific Awards 2020  คิง เพาเวอร์ คว้า 2 รางวัล ได้แก่

1.รางวัลผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสนามบินที่บริหารงานยอดเยี่ยม หรือ Asia Pacific Airport Travel Retailer of  the Year การันตีถึงความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรภายในสนามบินและร้านค้าเชิงพาณิชย์ซึ่งสามารถพัฒนาให้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องสินค้า บริการ แก่นักเดินทางทั่วโลก

เบื้องหลังความสำเร็จในการคว้ารางวัลผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสนามบินที่บริหารงานยอดเยี่ยมนั้น “คิง เพาเวอร์” ได้รับการโหวตให้เป็นผู้ชนะด้วยคะแนนสูงสุดเหนือคู่แข่งขันในกลุ่มธุรกิจดิวตี้ฟรีอีก 3 ราย ได้แก่ จากอินเดีย 2 ราย คือ Delhi Duty Free กับ Hyderabad Duty Free และ The Shilla Duty Free เกาหลีใต้ 

2.รางวัลผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน หรือ CSR or Sustainability Initiative of the Year เป็นครั้งแรกที่คว้ารางวัลนี้มาครอง ด้วยความุ่งมั่นขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมแบบครวงจรทางด้านชุมชน กีฬา ดนตรี ที่ก่อให้เกิดประโยชน์โดยรวมต่อสังคมไทยมาแล้วมากกว่า 12 โครงการ สร้างผลงานชนะคู่แข่งได้สำเร็จจากทั้งหมด 5 ราย ได้แก่ Delhi Duty Free อินเดีย, Dubai Duty Free สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, Lotte Duty Free เกาหลีใต้, Ever Rich Duty Free สาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) และโครงการ Wild Tiger’s Roar Trip อินเดีย

3.รางวัลผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีสนามบินยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียประจำปี 2563 หรือ Asia's Leading Airport Duty Free Operator 2020 โดยยังคงครองความเป็น 1 ใน 10 ธุรกิจดิวตี้ฟรี อย่างต่อเนื่อง นับเป็นอีกหนึ่งรางวัลสำคัญของวงการดิวตี้ ฟรี ระดับอาเซียน จากเวที  ‘เวิลด์ ทราเวล อวอร์ด 2020’ (World Travel Awards 2020)   

4.รางวัล  “Brand of the Year”  ‘เวิลด์ แบรนด์ดิ้ง อวอร์ด 2020-2021’ (WorldBranding Awards 2020-2021) สาขา Duty Free - Thailand (National Tier) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ตามกติกาแบรนด์ที่จะพิชิตรางวัลนี้ได้ต้องมีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค เนื่องจาก 70% ของคะแนนเป็นผลโหวตจากผู้บริโภคลงคะแนนเลือกแบรนด์ในดวงใจ

นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า ทั้ง 4 รางวัล ที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับจากเวทีระดับเอเชีย และระดับโลก ครั้งนี้ สะท้อนถึงศักยภาพการขับเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยวที่บริหารโดยคนไทยเพื่อคนไทย ทำให้ทั่วโลกยอมรับ เป็นพลังให้คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นเดินหน้าปี 2564 พัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวของไทยให้พร้อมครอบคลุมครบทุกมิติ โดยเฉพาะการสร้างบรรทัดฐานใหม่ด้านการให้บริการ ต้องถึงพร้อมด้าน

ข่าวที่ 2 ช้อปโปรสุดคุ้ม”คิงเพาเวอร์”ลดแบบไม่ต้องมียอดซื้อขั้นต่ำถึง28ก.พ.

คิง เพาเวอร์ มอบความพิเศษให้คุณช้อปสุขใจ กลับมาใหม่ โปรช้อปคุ้ม ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร พัทยา และภูเก็ต รับส่วนลดทันทีได้ทุกคน สูงสุด 30% โดยไม่ต้องมียอดขั้นต่ำเหมือนโปรโมชั่นทั่วไป

ช้อปครบ ลดเพิ่มอีกดังนี้ 1.เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)/ใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 1,500 บาท 2.ช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)/ใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 5,000 บาท

และรับสิทธิ์ช้อปครบ อิ่มฟรี ที่ ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำรับคูปองรับประทานอาหาร 300 บาท เมื่อมียอดช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)/ใบเสร็จรับเงิน

รายละเอียดเพิ่มเติม http://bit.ly/3aIoycB

ข่าวที่ 3 ห้ามพลาดช้อป!!ONCE UPON A MONTHขอ5วันที่คิงเพาเวอร์ลด50%

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปแคมเปญ “ONCE UPON A MONTH #ขอสักครั้งห้าวันพิเศษ” ระหว่าง 24-28 กุมภาพันธ์ 2564 Home Delivery Sale Up To 50% Offข้อกำหนดและเงื่อนไขรหัสส่วนลดสามารถใช้ได้ที่ www.kingpower.com และ แอปพลิเคชัน KING POWER รับส่วนลดสูงสุด 50% เมื่อช้อปขั้นต่ำ 3,000 บาทขึ้นไป

รายการส่งเสริมการขายนี้เฉพาะสั่งซื้อสินค้าที่ร่วมรายการในแคมเปญนี้เท่านั้นสินค้าร่วมจัดรายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าแบ่งชำระ 0% ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

1.แบ่งชำระนานสูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ 2.นานสูงสุด 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ

 


ข่าวที่
4
ททท.ปลุกสนง.ทั่วโลกรุกขายทัวร์เข้าไทยรับวัคซีนโควิด-เอเชียเสือปืนไว

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้จัดประชุมปรับแผนการตลาดปี 2564 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในโครงการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 คืนรอยยิ้มประเทศไทย ส่งสัญญาณท่องเที่ยวดีขึ้นตามลำดับ จึงได้เร่งสั่งผู้อำนวยการและทีมงาน ททท.ต่างประเทศทั้ง 29 แห่ง สำรวจความต้องการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก พบกระแสตอบรับว่าทั่วโลกต้องการเดินทางท่องเที่ยวโดยไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ

ส่งผลทำให้การเสนอขายล่วงหน้าแพ็กเกจเที่ยวเมืองไทยมีกระแสตอบรับดี เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน รอรัฐบาลจีนส่งสัญญาณให้เดินทางออกต่างประเทศได้เท่านั้น รวมถึงอีกหลายประเทศใน อาเซียน เอเชีย ก็มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

ทางด้าน นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าด้านการตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท.กล่าวว่า ตลอดการร่วมหารือกับทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็ก เตรียมแนวทางเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วทยอยเดินทางเข้าไทยได้ คู่ขนานกับการทำงานร่วมกับเอกชนท่องเที่ยว เตรียมผลิตแพ็กเกจท่องเที่ยวรองรับต่างชาติแรกที่ฉีดวัคซีนแล้วได้รับอนุญาตให้มาเที่ยวเมืองไทย

ททท.ได้ทำกลยุทธ์กระตุ้นตลาดเสมือนจริงต่อเนื่องผ่านออนไลน์ ร่วมกับพันธมิตรประเทศต่าง  โดยเฉพาะ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ เพื่อจัดอีเวนต์เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย เช่น จัดรายการ Thailand I Miss You นำดาราหรือเน็ตไอดอล มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ร่วมจัดเรียลลิตี้โชว์ เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศไทย นำร่องเชียงใหม่และภูเก็ต รุกเจาะเป้าหมายกลุ่มมิลเลนเนียลตลาดคนไทยและจีน อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีทั้งเงินและเวลา ขณะนี้รายการเผยแพร่ทางทีวีช่อง 3 ส่วนจีนจัดให้ชมทางช่องยอดนิยมของวัยคือ Tencent Video Application

นายฉัตรทันต์ยืนยันว่า ล่าสุด ททท. เดินหน้าทำซีรีย์กระตุ้นตลาดวัยรุ่นญี่ปุ่นที่ชื่นชอบซีรีย์วายดัง ๆ ของไทยไปออกอากาศในญี่ปุ่น มีกระแสตอบรับดีมากใช้เวลาเพียง10 วันเท่านั้น ก็มีการพูดถึงเมืองไทยกันเป็นวงกว้างมากขึ้น ตอกย้ำถึงความต้องการอยากออกเดินทางมาท่องเที่ยวเหมือนปกติอีกครั้ง


ข่าวที่ 5 ททท.ผนึกTRUEแจก5พันสิทธิ์เที่ยวทุกวัน“นครนายก-ปราจีนฯสระแก้ว”

นายสกล ทองคำ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  สำนักงานนครนายก​ กล่าวว่า ได้เชิญชวนผู้ประกอบการในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ​นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ร่วมโครงการฟรีในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโครงการ "เที่ยวทุกวัน นครนายก​ ปราจีนบุรี สระแก้ว" มอบส่วนลดพิเศษให้นักท่องเที่ยวกว่า 5,000 สิทธิ์ จาก โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม กิจกรรมตามแหล่งท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นรายได้ต้อนรับการกลับมาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระหว่างเดือนมีนาคม-มิถุนายน 2564 นี้

            กลยุทธ์นี้ ททท.นครนายก จับมือกับทางทรู จัดทำโปรโมชั่นเพื่อขยายฐานตลาดกลุ่มดิจิทัล ด้วยการรับจ่ายเงินผ่านแอพลิเคชั่น  True Money Wallet ส่งเสริมนักท่องเที่ยวลดการสัมผัสใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวผ่านแอพ แล้วได้รับส่วนลดทั้ง ที่พัก อาหาร เครื่องดื่ม และการร่วมทำกิจกรรมท่องเที่ยวรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัยตามแนวชีวิตวิถีใหม่หลังโควิด-19 คลี่คลายลง

ผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมโปรโมชั่นโครงการนี้โดยเข้าไปกรอกแบบฟอร์มของ ททท. จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ทรูติดตั้งแอพลิเคชั่นและสอนการใช้ระบบ ส่วนนักท่องเที่ยวเพียงแค่กรอกข้อมูลงแบบฟอร์ม ของ ททท.ทุกครั้งที่ใช้โค้ดส่วนลดดังกล่าว เพื่อรับสิทธิ์ 1 เบอร์/1สิทธิ์/1ใบเสร็จรับเงิน เป็นรับส่วนลดทันทีครั้งละ 30-100 บาท มากถึง 5,000 สิทธิ์ จากพันธมิตร 4 กลุ่ม ประกอบด้วย

1.ร้านอาหาร เมื่อใช้จ่ายครบ 500 บาท รับส่วนลดทันที 100 บาท มีจำนวน 2,000 สิทธิ์

2.ร้านเครื่องดื่ม ใช้จ่ายครบ 300 บาท รับส่วนลดทันที 30 บาท มีจำนวน 1,000 สิทธิ์

3.ที่พัก ใช้จ่ายครบ 1,000 บาท รับส่วนลดทันที 100 บาท มีจำนวน 1,500 สิทธิ์

4.กิจกรรม/ร้านของที่ระลึก ใช้จ่ายครบ 1,000 บาท รับส่วนลดทันที 100 บาท จำนวน 500 สิทธิ์

            ตามแผน ททท.จะทำป้ายการแจกสิทธิ์โปรโมชั่น และป้ายประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้กลุ่มธุรกิจของทั้ง 3 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการนี้ ควบคู่กับการเผยแพร่กิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ททท. รวมทั้งเครือข่ายพันธมิตร และ ทรู มันนี วอลเลท

ผู้ประกอบการสามารถสอบถามเพื่อสมัครเข้าร่วมโครงการ https://qrgo.page.link/FTvNC


ข่าวที่ 6 TCEBจับมือ14องค์กรชิงประมูลสิทธิ์จัดพืชสวนโลกปี’72ที่โคราช

ดร. อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานการประชุม “เตรียมความพร้อมยื่นประมูลสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกในปี 2572” ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ  โดยนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการทีเส็บ   ร่วมกับทางจังหวัดนครราชสีมาอีก 14 หน่วยงานโดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำทีมมาร่วมระดมความเห็น เพื่อวางกลยุทธ์ชิงงานพืชสวนโลกมาจัดที่ จังหวัดนครราชสีมา ในประเทศไทย

โดยทั้งทีเส็บและจังหวัดนครราชสีมา ตั้งเป้าที่จะนำประเทศไทยกลับสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการจัดงาน “มหกรรมพืชสวนโลก ปี 2572” ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีก 8 ปีข้างหน้า และเป็นงานสำคัญระดับโลก ที่ทุกฝ่ายจะผนึกกำลังกันนำกลับมาจัดในไทยให้ได้อีกครั้งในรอบกว่า 20 ปี

                ช่วงที่ 2 ชวนขับรถไปเที่ยวมุมใหม่หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ตั้งเข็มไมล์มุ่งหน้าสู่ “อุตรดิตถ์” ไปสัมผัสธรรมชาติทิวทัศน์สวย ๆ ก่อนใครได้เลยที่ “อำเภอฟากท่า” กับตะลอนทัวร์ดินแดนในตำนาน “เมืองลับแล” กินของอร่อยตลุยไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ทั่วเมือง จากนั้นขอให้ “เปลี่ยนด่วน ๆ 12 พฤติกรรมป้องกันอาหารไม่ย่อย” ปิดท้ายด้วยข่าวแรงแห่งสัปดาห์ “7 ซีอีโอ 7 สายการบิน” กอดคอตั้ง “สมาคมสายการบินในประเทศ” ประกาศเดินหน้าเร่งรัฐบาลเปิดน่านฟ้าระหว่างประเทศรับผู้โดยสาร นักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วน “การบินไทย” ชำแหละผลงานตัวเองตลอดปี’63 ขาดทุนสะสมอื้อ 1.411 แสนล้านบาท


อุตรดิตถ์ชวนเที่ยวมุมใหม่“ฟากท่า”กลางหุบเขา-ตำนานเมืองลับแล

            เตรียมส่องสถานที่ท่องเที่ยวใหม่  ๆ หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ชวนกันจูงมือเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือเดินทางคนเดียว เที่ยวเมืองไทย สัปดาห์นี้มีมุมเก๋ใน “อุตรดิตถ์” มานำเสนอ ลองขับรถไปเที่ยวกัน

กลิ่นอายธรรมชาติใหม่ใน "อำเภอฟากท่า" เมืองงามกลางหุบเขา อยู่ห่างจากตัวเมือง 132 กม.กำลังได้รับการกล่าวถึงอย่างมาก ในการขับรถลัดเลาะไปสูดอากาศดีวิวสวย ๆ ในอ้อมกอดภูเขาลูกน้อยใหญ่ ช่วงหน้าฝนมีภาพทุ่งนาเขียวขจี อยู่กลางละอองไอหมอก ให้ความรู้สึกฟินจริง ๆ

ไฮไลต์คือการขับรถไปจอดแล้วเดินเท้าอีกสักเล็กน้อย เพื่อขึ้นไปยัง “โคกธาตุ” ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปมุมสูง มองลงมาเบื้องล่างจะเห็นวิวพาโนรามาของชุมชนกับวิถีชาวอำเภอฟากท่าทั้งหมดแบบเต็ม ๆ  

ระหว่างทางไปอำเภอฟากท่า นักท่องเที่ยวสามารถขับรถแวะเข้าไปชมจุดผ่านแดนถาวร "ด่านภูดู่" เขตติดต่อ ไทย-สปป.ลาว และอำเภอบ้านโคก ซึ่งอยู่ตอนเหนือสุดของอุตรดิตถ์ได้ด้วย

อีกทั้งในอุตรดิตถ์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด!! อยู่ในอำเภอเล็ก ๆ “เมืองลับแล”

จุดแรก เดินชมภายในตัวอำเภอ “เมืองลับแล” เมื่อครั้งอดีตยุคด้วยถนนหนทางการเดินทางไม่สะดวก ไปตามเส้นทางคดเคี้ยว ผู้คนหลงทางจนนำมาพูดกันปากต่อปากว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเมืองลับแลแปลว่าเมืองที่มองไม่เห็น ตามตำนานพื้นบ้านยังเล่าต่อ ๆ กันมาว่าเมื่อมาถึงเมืองนี้แล้วต้องห้ามพูดโกหกด้วยเช่นกัน

ยุคปัจจุบันเมืองลับแลกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเต็มไปด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวสายกินนิยมมาค้นหาของอร่อยทั้งอาหารพื้นเมือง และทุเรียนภูเขารสชาติอร่อยมาก พันธุ์หลิและหลงลับแล

ภายในอำเภอลับแล มีสถานท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ ให้นักท่องเที่ยวแวะสักการะได้ด้วย 

จุดแรก “วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง” อยู่ในตัวเมืองลับแล เปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึงเย็น 5 โมงครึ่ง เป็นวัดสำคัญประจำเมืองทุ่งยั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอลับแล สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงสุโขทัยตอนปลาย ช่วงสมัย สมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ 1 หรือ พระยาลิไทย

 ภายในวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่น่าสนใจ คือ วิหารหลวงเก่าแก่ สมัยกรุงศรีอยุธยาก่อด้วยศิลาแลงและอิฐ หลังคาลดหลั่น 3 ชั้น หน้าบันแกะสลักลงรักปิดทองสวยงามมาก ประดิษฐาน หลวงพ่อหลักเมือง หรือ หลวงพ่อโต ชาวบ้านนิยมเรียกว่า หลวงพ่อประธานเฒ่า นับเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะของคนในพื้นที่

 

จุดที่สอง “วัดดอนสัก” ตั้งอยู่ตำบลบ้านฝายหลวง เมืองลับแล  ไปให้ชมตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ไฮไลต์คือ “วิหาร”สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีอันซีนก็ว่าได้คือ บานประตูแกะสลักงดงามเป็นลวดลายกนกก้านขดไขว้ เป็นบานคู่ประตูไม้จำหลักโบราณสมัยอยุธยา แกะสลักอ่อนช้อยสวยงามเป็นรูปสัตว์หิมพานต์แทรกอยู่ในลวดลายกนกต่าง ๆ บานซ้ายกับขวาลายจะไม่เหมือนกัน ต่อเมื่อปิดประตูทั้งสองบานแล้วจึงจะเห็นลวดลายเป็นเรื่องราวเดียวกัน สร้างความอัศจรรย์แก่ผู้ที่ได้พบเห็นทุกคน

ว่างตอนไหนขับรถมาเที่ยวอุตรดิตถ์ กันเถอะนะพี่น้องชาวไทย

 


12 วิธีเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันดูแลการเกิดปัญหาอาหารไม่ย่อย

อาหารไม่ย่อย (Indigestion หรือ Dyspepsia) เป็นอาการปวดท้องช่วงบน ท้องอืด จุกเสียดแน่นท้อง จุกลิ้นปี่ รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว หรือมีอาการแสบร้อนกลางทรวงอกหลังรับประทานอาหาร เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน โดยอาการจะดีขึ้นและหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป หรืออาจเป็นสัญญาณของโรคและการเจ็บป่วยในระบบย่อยอาหาร ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ด้วยยา หรือการปรับพฤติกรรมบางอย่างในการใช้ชีวิต การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุหรืออาการป่วย แนะนำให้เปลี่ยน 12 พฤติกรรม ดังนี้

1.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง มีรสเผ็ด หรือพวกอาหารสำเร็จรูป

2.รับประทานอาหารให้ตรงเวลาเสมอ

3.ไม่รับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไป หรืออาจแบ่งปริมาณอาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ หลายมื้อ แทนการรับประทานอาหารปริมาณมากในคราวเดียว

4.ค่อย ๆ รับประทานอาหาร ไม่รับประทานอาหารเร็วเกินไป

5.ควรเข้านอนตอนท้องว่าง ไม่รับประทานอาหารอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน

6.ลดหรืองดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของโซดา

7.ไม่สูบบุหรี่หรือเลิกสูบบุหรี่

8.ควบคุมให้มีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมอยู่เสมอ ควรลดน้ำหนักหากกำลังอยู่ในภาวะน้ำหนักเกินหรือภาวะอ้วน

9.ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย รวมทั้งช่วยกระตุ้นอวัยวะภายในระบบย่อยอาหารให้มีสุขภาพดีและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10.หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวดกลุ่มแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน ยานาพรอกเซน และยาที่อาจมีผลต่อระบบย่อยอาหารอื่น ๆ ในระยะยาว หรือปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาและการปรับยา

11.เรียนรู้วิธีบริหารจัดการรับมือกับความเครียด หาวิธีผ่อนคลาย เช่น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

      12.เดินทางท่องเที่ยว ดูหนังฟังเพลงเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ หรือการทำสมาธิ

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง


ข่าวแรก CEOบางกอกแอร์นั่งนายกฯแอร์ไลน์สในประเทศดันรัฐเปิดน่านฟ้าอินเตอร์

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส ได้รับการลงคะแนนโหวตจากสมาชิกให้ขึ้นนั่งตำแหน่ง "นายกสมาคมสายการบินในประเทศ" เป็นคนแรกของประเทศไทย แล้วแต่งตั้งซีอีโอสายการบินที่ร่วมก่อตั้งสมาคมเป็นอุปนายกทั้ง 6 คน

นายพุฒิพงศ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นายกสมาคมสายการบินในประเทศกล่าวว่า ได้แต่งตั้งซีอีทั้ง 6 สายการบิน เป็น 6 อุปนายก ได้แก่

1.นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย

2.นายนัตดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์

3.นางชาริตา ลีลายุทธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยสมายล์แอร์เวย์

4.นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยไลอ้อนแอร์

5.นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยเวียตเจ็ท

6.นายรัช ตันตนันตา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์

ภารกิจหลักของสมาคมสายการบินในประเทศ คือ รวมพลังกันเร่งผลักดันรัฐบาลเปิดน่านฟ้าการบินระหว่างประเทศ เพื่อให้มีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางใช้จ่ายเงิน โดยจะเดินหน้าหารือกับทางสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association :IATA) เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยนำโครงการ IATA TRAVEL PASS :ใบรับรองการเดินทางดิจิทัล” ของไออาต้าที่ได้นำระบบ Wallet Digital Platform ของนักเดินทางต่างชาติทุกคนเข้ามาใช้ตรวจสอบด้านสุขอนามัยผ่านการวีคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ตามแล็บมาตรฐานของแต่ละประเทศที่ขึ้นทะเบียนเรียบร้อยมีรายชื่อปรากฏอยู่ในคลังข้อมูลของไออาต้า เป็นระบบตรวจสอบแม่นยำถูกต้องมากที่สุดในปัจจุบัน

สำหรับทั้ง 7 ซีอีโอสายการบินในประเทศกลุ่มนี้ ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ได้รวมตัวกันเดินทางเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอมาตรการจากภาครัฐช่วยผู้ประกอบการสายการบินที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไวรัสโควิด-19  เรื่องหลัก ๆ คือ

เรื่องแรก ขอให้รัฐออกนโบายสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (soft Loan) ล็อตแรกรวมประมาณ 24,000 ล้านบาท แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ

เรื่องที่ 2 ขอลดภาษีสรรพสามิตราคาน้ำมันเครื่องบิน

เรื่องที่ 3 ขอลดค่านำอากาศยานหรือเครื่องบินขึ้นลงตามสนามบินต่าง ๆ ในประเทศ ล่าสุด บริษัท ท่าอกาศยานไทย จำกัด(มหาชน) "AOT/ทอท." ลดค่าขึ้นลงจอดและค่าหลุมจอดให้เรียบร้อยแล้ว

เรื่องที่ 4 ขอปลดล็อกเพื่อให้สายการบินสามารถขายอาหารและเครื่องดื่มแก่ผู้โดยสารได้ระหว่างให้บริการการบิน ปัจจุบันได้รับการผ่อนปรนเรียบร้อยแล้วจะเริ่มได้เดือนมีนาคม 2564 เป็นต้นไป

 


ข่าวที่สอง การบินไทยชำแหละผลงานปี’63เผยขาดทุนสุทธิ 1.41แสนล้าน

นายชาย เอี่ยมศิริ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและการบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2563 ของการบินไทย และบริษัทย่อย มีรายได้รวมทั้งสิ้น 48,311 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 96,430 ล้านบาท ขาดทุนจากการดำเนินงาน 48,119 ล้านบาท และผลขาดทุนสุทธิ 141,180 ล้านบาท

โดยมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ส่วนใหญ่เป็นตัวเลขทางบัญชีที่ไม่มีผลกระทบกับกระแสเงินสด 91,978 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเครื่องบินและสินทรัพย์สิทธิการใช้และอุปกรณ์การบินหมุนเวียน 82,703 ล้านบาท

2.ผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงของกลุ่มรายการของฐานะสุทธิ 5,227 ล้านบาท

3.สำรองเงินชดเชยพนักงานในโครงการร่วมใจจากองค์กร Mutual Separation Plan (MSP A) 3,098 ล้านบาท

4.ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ  895 ล้านบาท

5.ผลขาดทุนจากการด้อยค่าซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 จำนวน 261 ล้านบาท

6.กำไรจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนเงินลงทุนในบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) 206 ล้านบาท

โดย บมจ.การบินไทย ได้ดำเนินมาตรการลดค่าใช้จ่ายเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างต่อเนื่อง  2 โครงการ ได้แก่

1.การลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายบุคลากร โดยขอความร่วมมือผู้บริหารและพนักงานสมัครใจร่วมโครงการลาหยุดโดยไม่รับเงินเดือนและค่าตอบแทน (Together We Can)

2.จัดทำโครงการ "ร่วมใจเสียสละเพื่อองค์กร" 2 โครงการ ได้แก่ โครงการร่วมใจจากองค์กร Mutual Separation Plan (“MSP A”) และโครงการลาระยะยาว (“LW20”) เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้บริษัทสามารถดำรงเงินสดในมือให้เพียงพอในการดำเนินกิจการระหว่างที่ไม่มีกระแสเงินสดรับจากการดำเนินธุรกิจการบินปกติ และจากแหล่งเงินทุนอื่น ประกอบกับการชะลอการลงทุน และการจัดซื้อจัดจ้าง ปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการ และความปลอดภัย และหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้ลดค่าใช้จ่ายคงที่จากปีก่อนได้ 15,000 ล้านบาท

    ควบคู่ “การหารายได้” จากบริการเที่ยวบินขนส่งสินค้า รวมทั้งเที่ยวบินพิเศษนำคนไทยกลับบ้าน และรายได้จากกิจการอื่น ๆ อาทิ ฝ่ายครัวการบิน

โดยเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้บริษัทฟื้นฟูกิจการและมีคำสั่งแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่บริษัทฯ เสนอ ต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ลงประกาศคำสั่งศาลให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งคณะผู้ทำแผนในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563

ขณะนี้คณะผู้ทำแผนอยู่ระหว่างจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการโดยศาลล้มละลายกลางอนุญาตให้ผู้ทำแผนยื่นส่งแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายในวันที่ 2 มีนาคม 2564 หลังจากยื่นส่งแผนฟื้นฟูกิจการเรียบร้อยแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย แล้วศาลล้มละลายกลางจะพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการเป็นลำดับต่อไป

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai