TCEBนำธุรกิจไทยกวาดไมซ์ยุโรปครึ่งปีหลัง66ตลาดMIพุ่งแรง
แผนปี’67รุก3บริการ“ThaiMice-SingleWindow-InnovationVoucher
เปิดโลกไมซ์ยั่งยืนเร่งลดก๊าซเรือนกระจก/ลดคาร์บอนเป็นศูนย์
FIRSTERbyKingPowerช้อปออนไลน์ฉลองPrideMonthลด25%
ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์ก่อน/หลังเที่ยว-สมาชิกอาหารลด20%
ททท.จัดAmazingGrandSaleบูม6จังหวัด15มิ.ย.-15ส.ค.ลด80%
“บางจาก”เปิดปั๊มแจกข้าวลดโลกร้อนปลุกผู้บริโภคถึง30มิ.ย.66
“TCEB-กทม.”หนุนPride
Monthบูมไมซ์-ปี’67ต่อยอดWorldPride
เที่ยว“เกาะปันหยี”ทัวร์อ่าวพังงาดินแดนUnseen New Chapters
เช็กด่วน!!อาการขาดสารอาหาร 6ชนิดอันตรายไม่ควรมองข้าม
“Great Harbour”ขายเฟิร์สคลาสบุฟเฟต์หรูสุดๆ2,599++บาท/คน
กวินอินเตอร์เทรดดึงเอ็กซิบิชั่นจัดรวดเดียว4วัน4งานโกยพันล้าน
ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
วันอาทิตย์ที่
4 มิถุนายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower
#TAT #TCEB #บางจาก #UnseenNewChapters
#เกาะปันหยี
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/kXV_rgminA/
ช่วงที่ 1 ผ่าไมซ์ไทยในเวทีโลกกับ “ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ครึ่งปีหลัง 66 “ตลาดยุโรป” คึกคัก MI ประชุมกับอินเซ็นทีฟ อังกฤษ ฝรั่งเศส สวีเดน เยอรมัน สแกนดิเนเวีย ไหลเข้าไทยกว่า 20,000 คน ส่วนเทรดโชว์ยังแรงไม่หยุด THAIFEX Anuga 2023 สร้างชื่อสนั่นวงการ ปี’67 ยืนหลักติดเทอร์โบดิจิทัล 3 บริการ 1.Thai Mice Connect 2. Single Window One Stop Service 3. Innovation Voucher ดาหน้านำอุตสาหกรรมไมซ์เข้าสู่วงจรลดก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซด์
ดร.ศุภวรรณ
ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าล่าสุดทีเส็บร่วมกับ
กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์
เดินทางไปอังกฤษเพื่อขอเสียงโหวตจากสมาชิก BIE ซึ่งมีสิทธิ์ออกเสียงกว่า 100 ประเทศ ให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัด Special Expo
:Expo 2028 Phuket Thailand วิธีโหวตจะมาจากการแลกเสียงทางการฑูตผ่านระบบภาคีต่าง
ๆ ของหน่วยงานต่าง ๆ ต่อด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ “ไทย”
เป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ติด 1 ใน 5
ร่วมกับอีก 4 ประเทศซึ่ง “โผ”
คะแนนเสียงนั้นพลิกและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด โดยมี “ไทย” ติดอยู่ใน shortlist
ทางทีเส็บและพันธมิตรพยายามจัดกิจกรรมให้ตรงกับความสนใจกับสมาชิกที่สุด
เนื่องจากไทยไม่ได้มีสถานฑูตอยู่ตามเกาะต่าง ๆ ในแต่ละทวีป เช่น ออสเตรเลีย
ก็จัดแล้วเชิญตัวแทนจากหมู่เกาะต่าง ๆ เข้ามาร่วมเพื่อพิจารณาไทยให้ได้มากที่สุด
ส่วนสถานการณ์อุตสาหกรรมไมซ์ครึ่งปีแรกของไทย กลุ่มที่ 1 องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่พร้อมจัด MI :Meeting /จัดประชุม และ Incentive/การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล ช่วงมิถุนายน 2566 จะมีอินเซนทีฟในโซนตลาดยุโรป นำโดยอังกฤษทยอยเข้ามาไม่น้อยกว่า 10 กรุ๊ป รวมเกือบ 20,000 คน โดยมี 5 อันดับหลัก อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน แสกนดิเนเวีย (สวีเดน/เดนมาร์ก/นอร์เวย์) เรื่อยไปจนถึง “ตลาดดาวรุ่ง/Emerging Market ในทะเลบอลติก และบอลข่าน รวมถึงอิสราเอล 2 กลุ่ม 2,680 คน คาซัคสถานกว่า 2,000 คน เนเธอร์แลนด์ 300 คน และอื่น ๆ
ขณะเดียวกันในงาน IMEX FRANKFURT 2023 ที่เยอรมัน ทีเส็บได้นำผู้ประกอบการไทยทั้งโรงแรม สถานที่จัดประชุมเข้าร่วมเทรดโชว์ระดับโลกด้านไมซ์ค่อนข้างคึกคักมาก
กลุ่มที่ 2 จัดการประชุม (Meeting) ขณะนี้มีหลายงานมาจาก เนเธอร์แลนด์ เยอรมัน ออสเตรีย และสิงคโปร์ มาปลายปีนี้ไม่ต่ำกว่า 4,000 คน และงานใหญ่ ICCA World Congress 2023 มีนานาชาติผู้เข้าร่วมเกิน 2,000 คน จัดทั้งในกรุงเทพฯ และต่อยอดไปตามจังหวัดต่าง ๆ ด้วย
กลุ่มที่ 3 เทรดโชว์ มีกระแสตลาดตอบรับค่อนข้างดี จัดมหกรรม THAIFEX
Anuga 2023 เป็นรายการใหญ่แห่งเอเชียที่มีผู้ซื้อและผู้ขายให้ความสนใจเข้าร่วมเติบโตสูงอย่างมีนัยสำคัญ
นางศุภวรรณ
กล่าวว่า หลังจัดงาน TECNO MART 2023
ทำให้มีบริษัท Tech Firm ชั้นนำของประเทศเกิดขึ้นกว่า
100 ราย
พร้อมจะนำเสนอเป็นทางเลือกให้บริการกับผู้ประกอบการด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสมัยใหม่
ทั้งผู้จัดงาน สถานที่จัดงาน โดยมีกว่า 200 เครื่องมือ
ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างทรงพลังเติบโตเร็ว
เนื่องจากตลาดเปลี่ยนแปลงการลงทุนจัดงานไปสู่ “ไฮบริด” มากขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ละงานจะใช้การแสกนใบหน้าเข้างาน เอกสารอัตโนมัติ และเครื่องมือที่ใช้ระหว่างงาน
เช่น innovation signate ให้ข้อมูล
ตัวอย่าง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นำมาใช้เต็มรูปแบบโดยมีทีเส็บสนับสนุนอย่างเต็มที่ แล้วศูนย์ประชุมต่าง ๆ
ในเมืองไทยได้นำไปใช้อย่างกว้างขวาง
เพราะสามารถนำไปใช้วิเคราะห์พฤติกรรมความต้องการของผู้เข้าร่วมงานได้อย่างตรงเป้าหมาย
ปัจจุบันทั้งผู้ประกอบการและผู้เข้าร่วมงานทั้งงานประชุม
คอนเฟอเรนซ์ และคอนเวนชั่น
ทุกฝ่ายต้องการรู้ถึงความต้องการของผู้เข้าร่วมงานทั้งก่อน-ระหว่าง-หลังงาน
โดยใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลอัตโนมัติ (Analitic Data) ปี 2567
ทีเส็บกำลังเตรียมเพิ่มเครื่องมือใหม่ในอุตสาหกรรมไมซ์คือ “Single Sign On”
ซึ่งเป็นการรวมศูนย์ให้เข้าถึงระบบบริการนวัตกรรมดิจิทัลทั้งหมด ขณะนี้ทีเส็บมีบริการที่รวดเร็วด้วย 3 บริการ ได้แก่
บริการ
1 เว็บไซต์ Thai
MICE Connect เป็นระบบนิเวศน์ของผู้ประกอบการ
รวม 12 แคติกอรี่ กว่า
10,000 ราย
รวมตัวแลกเปลี่ยนติดต่อซื้อขายกันเกิดขึ้น
บริการที่
2 Single
Window One Stop Service MICE เป็นช่องทางให้ทุกภาคีได้เข้ามาค้นหาข้อมูล
กฎระเบียบต่าง ๆ และการขออนุมัติจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อนำคอนเฟอเรนซ์
งานแสดงสินค้า เข้ามาจัดในเมืองไทย
มีผู้เข้ามาค้นหาข้อมูลทั้งในประเทศและทั่วโลกจำนวนมาก
บริการที่
3 Innovation
Voucher/คูปองอัตโนมัติ
สนับสนุนการจัดงานต่าง ๆ ได้รับความสนใจเฉพาะช่วงจัด Techno Mart 2023 มีกว่า 75 ราย
นางศุภวรรณกล่าวตอนท้ายว่า
กลุ่มคอร์ปอเรตกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยการนำงานประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลหลั่งไหลเข้าเมืองไทย
โดยมีตลาดดาวรุ่งเกิดใหม่จากยุโรปตะวันออกเป็นหลัก
แล้วเลือกใช้พื้นที่ทางจังหวัดแถบทะเลอันดามัน
จึงคาดหวังจะขยายตลาดดังกล่าวเติบโตเพิ่มสูงขึ้นในปี 2567
จึงขอให้ผู้ประกอบการไมซ์ในไทยเร่งเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของเทรนด์ตลาดใหม่จะให้น้ำหนักเรื่องการจัดไมซ์อย่างยั่งยืน
แต่ละการจัดงานไมซ์จะต้องลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
หรือการลงทุนซื้อคาร์บอนเพื่อชดเชยก่อนปล่อยมลพิษ หรือ carbon obset จะต้องทำอย่างจริงจังตอบโจทย์ตลาดโลกอย่างแท้จริง
เพื่อรักษาสถานะของไทยก้าวสู่ความเป็นผู้นำตลาดและประเทศจุดหมายปลายทางของโลกที่จะเดินทางนำเงินเข้ามาจัดงานไมซ์อย่างมั่งคั่งยั่งยืน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 FIRSTERbyKingPowerช้อปออนไลน์ฉลองPrideMonthลด25%
คิงเพาเวอร์
ชวนกันมาช้อปออนไลน์ FIRSTERbyKingPower ฉลองเทศกาล Pride Month กับ “FIRSTER GEN(DER) ไหนก็ช้อปมันส์” ชวนสนุกกับกิจกรรมสุดพิเศษ
พร้อมโปรโมชั่น จัดเต็ม เอาใจทุกไลฟ์สไตล์ให้จอยได้แบบไพรด์ๆ ตลอดเดือนมิถุนายน 2566
1.ลดเพิ่มสูงสุด 20% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท 2.พิเศษ!
เมื่อช้อปครบ 5,000 บาท
รับส่วนลดเพิ่ม 500 บาท 3.สนุกกับกิจกรรมหมุนวงล้อสายรุ้ง
รับรางวัลจัดเต็ม! เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท เฉพาะวันศุกร์,
เสาร์ และอาทิตย์ 4.ยกขบวนแบรนด์น้ำหอมชื่อดัง BY LUXASIA มาลดเพิ่มแบบจุกๆ
สูงสุด 25%
เตรียมสนุกสุดมันส์ทุก
GENDER กับ Pride Paradeให้คุณได้สนุกและส่งต่อพลังความไพรด์ไม่รู้จบเฉพาะที่สาขา
สยาม สแควร์ ซอย 7 เท่านั้น!
วันที่
10 มิถุนายน 2566 สนุกกับ Pride
Parade 2 รอบ เวลา 15.00 น. และ 17.00 น. พร้อมรับของรางวัล จากแบรนด์ดังมากมาย และ Voucher ส่วนลดแบบจัดเต็ม
พิเศษ!
รอบ Parade 17.00 น. พบกับคุณซิลวี่ และคุณมิ้น
คู่รักนักร้องที่จะมาร่วมเดินนำขบวนส่งเสียงแห่งความหลากหลายและเท่าเทียมกลางสยาม
วันที่
24 มิถุนายน 2566
เต็มอิ่มส่งท้ายเดือนกับ Pride Parade 2 รอบ เวลา 15.00 น. และ 17.00 น.
พร้อมของรางวัลจากแบรนด์ดังมากมาย และ Voucher
ส่วนลดแบบจัดเต็มปักหมุด Pride กันให้สุดๆ
แล้วไปช้อปโปรโมชั่นดีๆ
พร้อมกิจกรรมฉลองเทศกาล
Pride Month ตั้งแต่วันนี้
- 30 มิถุนายน 2566 ที่ FIRSTER
by King Power ได้ทั้ง 2 สาขา คิง เพาเวอร์
มหานคร และ สาขา สยามสแควร์ ซอย 7 เปิดให้บริการทุกวัน
จันทร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 น. - 21.00 น.
หรือช้อปออนไลน์
www.firster.comช้อปผ่าน Application FIRSTER BY
KING POWER https://www.firster.com/firster-app
ข่าวที่ 2 ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์ก่อน/หลังเที่ยว-สมาชิกกินอาหารลด20%
คิง เพาเวอร์
พร้อมมอบความสุขทุกการเดินทาง ไม่ว่าคุณจะเป็นสายช้อปแบบไหนก็ เป็น ไป ได้ “ทีมช้อปก่อนเที่ยว”
เลือกซื้อสินค้า ดิวตี้ ฟรีก่อนออกเดินทางได้ที่ คิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ หรือ
สนามบิน ส่วน “ทีมเที่ยวก่อนช้อป” ลงเครื่องเเล้วสามารถช้อปสินค้าดิวตี้ ฟรี ขาเข้า
ได้เลยง่ายๆ ที่สนามบิน เช่นกัน
จะทีมไหนก็ช้อปดิวตี้
ฟรี ออนไลน์ได้ที่ www.kingpower.com
เลือกซื้อล่วงหน้าสูงสุด 60 วัน หรือก่อนเดินทาง 2 ชั่วโมง
แล้วไปรับสินค้าได้ทั้งขาเข้า-ขาออก ช้อปทุกความเป็นไปได้ ที่ คิง เพาเวอร์
พิเศษ!
เฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 66 รับทันทีส่วนลดจากห้องอาหาร ECLIPSE คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ทั้งส่วนลด 20% สำหรับเมนู A LA CARTEหรือส่วนลด 500 บาท เพียงใช้ 500 กะรัตแลกแทนเงินสด กดรับสิทธิ์ง่ายๆ ผ่าน
LINE Official Account @KINGPOWER
สมาชิกคิง
เพาเวอร์ รับเพิ่มอีก จาก โรงแรมในเครือ TOLANI HOTELS มอบส่วนลดพิเศษมากมาย
วันนี้ -31 ธ.ค. 66 กดรับสิทธิ์ง่ายๆ ผ่าน LINE Official Account คลิก : https://lin.ee/QxLtQ1b สมัครแล้ว
อย่าลืมผูกบัญชีสมาชิกบน LINE
ตามเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ข่าวที่ 3 ททท.จัดAmazingGrandSaleบูม6จังหวัด15มิ.ย.-15ส.ค.ลด80%
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า
ได้เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมจัดโครงการ “Amazing Thailand Grand Sale 2023” โดยมีหน่วยงานภาครัฐ สมาคม
และพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 50 ราย รวมห้างสรรพสินค้าชั้นนำจากทั่วประเทศ
กลุ่มสายการบิน แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ e-commerce กลุ่ม
Privilege Card ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวโดยจะมีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 ราย โดยเฉพาะ 6 จังหวัดท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี
ชลบุรี (พัทยา) สงขลา
(หาดใหญ่) ร่วมมอบสิทธิพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยวต่อเนื่องตลอด
2 เดือน เริ่มตั้งแต่ 15 มิถุนายน – 15 สิงหาคม 2566 ซึ่งจะกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว เพิ่มค่าใช้จ่าย กระจายรายได้หมุนเวียนให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไม่น้อยกว่า
75 ล้านบาท
ททท.และพันธมิตร ได้ Amazing Thailand Grand
Sale เป็นหนึ่งในโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องทุกปี
ซึ่งปี 2566 เพิ่มจุดขายพิเศษมากกว่าทุกปี
เพื่อฉลองการท่องเที่ยวกลับมาเดินทางเต็มรูปแบบ ททท.
จึงเชิญชวนพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วประเทศร่วมมือกันตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศให้เป็น 1 ใน 6
จุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้ง (Shopping Destination) ปลุกกระแสคนทั่วโลกอยากเลือกเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย
โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง
6 จังหวัดยอดนิยม
อย่าง กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี ชลบุรี (พัทยา) สงขลา
(หาดใหญ่) พร้อมจะนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ
เพิ่มมีความหลากหลาย และคุ้มค่า มุ่งส่งเสริมซอฟท์ เพาเวอร์ไทย และสร้างมาตรฐานความยั่งยืน กระตุ้นนักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้น
ด้วยการส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวเหนือระดับที่มีคุณค่าและความหมาย (Meaningful Travel)
โครงการ Amazing
Thailand Grand Sale 2023 ระหว่าง 15 มิถุนายน - 15 สิงหาคม 2566 เดินหน้าขายภายใต้แนวคิด “Hunting Season” สร้างสีสันให้นักท่องเที่ยวได้สนุกกับกิจกรรมล่าดีลเด็ดกว่า
10,000 รายการ นักท่องเที่ยวจะได้เข้าถึงสินค้าและบริการท่องเที่ยวราคาพิเศษโดยส่งเสริมการขายแบ่งเป็น 2
ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1 นักท่องเที่ยวต่างชาติ
ททท. ร่วมกับ Vat Refund แจกของที่ระลึก 5 ชุมชน
เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าและบริการตามร้านค้าที่รับ Vat Refund ที่ศูนย์การค้าที่เข้าร่วมโครงการ
Amazing Thailand Grand Sale 2023 ทั้ง 6 จังหวัด มียอดครบ 5,000 บาท รับของที่ระลึกได้เลยที่เคาน์เตอร์ Vat Refund ที่สนามบินนานาชาติของไทยทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง
อู่ตะเภา ระยอง-พัทยา เชียงใหม่
ภูเก็ต และหาดใหญ่
ส่วนที่ 2 นักท่องเที่ยวชาวไทย ร่วมลุ้นรางวัลทุกสัปดาห์
เมื่อซื้อสินค้าและบริการตามร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ ครบ 500 บาท /1 สิทธิ์
มูลค่ารวมกว่า 2.5 ล้านบาท และยังแจกกระเป๋า Shopping Bag เมื่อซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าครบ 3,000 บาท ณ
ศูนย์การค้าที่เข้าร่วมทั้ง 6 จังหวัด
รวมทั้งมีแคมเปญโปรโมชั่นลดสูงสุด 80% จากแบรนด์สินค้าไทยในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ พันธมิตรสายการบิน
ช้อปปิงแพลตฟอร์ม รวมทั้งส่วนลด On Top
แก่ผู้สมาชิกบัตร Privilege Card, VISA,
The1, Mcard, Viz Card Union Pay หรือ NFT Community
นอกจากนี้มีกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรอื่น ๆ เช่น 1.TikTok Creators Challenge 2.See Post Get Code
ผู้ที่เห็นรีวิวสินค้าของโครงการฯ จะได้รับโค้ดส่วนลดทันที 3.LIVE Flash Sale ไลฟ์นำเสนอสินค้าราคาส่วนลด
80% ขึ้นไป ในวัน
Pay Day ผ่านแพลตฟอร์ม Shopee และ LAZADA
4.แข่งชันช้อป หรือ Shop
Challenge
ข่าวที่
4 “บางจาก”เปิดปั๊มแจกข้าวลดโลกร้อนปลุกผู้บริโภคถึง30มิ.ย.66
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด กลุ่มธุรกิจการตลาด
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
บางจากได้รับมอบ “ข้าวลดโลกร้อน” จำนวน 40 ตัน
เพื่อนำมาแจกในโอกาวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน 2566
เป็นข้าวที่รับซื้อจากวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่ตำบลเดิมบาง
จ.สุพรรณบุรี ผ่าน บริษัท ออมสุขวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด แล้วจะนำมาเป็นสมนาคคุณให้ลูกค้าตามสถานีบริการบางจากร่วมรายการ
พื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 5-30 มิถุนายน 2566 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
ตามที่บางจากฯ ให้ความสำคัญการสร้างช่องทางการตลาดให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2541 จนถึงปัจจุบัน
ด้วยการคัดสรรผลผลิตจากเกษตรกร และผลิตภัณฑ์แปรรูปของกลุ่มชุมชนเพื่อนำมาเป็นของสมนาคุณลูกค้า
นำผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ความโดดเด่นมาเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค
สนับสนุนพี่น้องเกษตรกรไทย ส่วนผลผลิตข้าวลดโลกร้อนครั้งนี้ยังสามารถช่วยรณรงค์เรื่องสภาวะโลกร้อนได้อีกทาง
ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน
การรับมอบข้าวของบางจากฯ ครั้งนี้ มีนางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) ในฐานะกรรมการ บริษัท ออมสุขวิสาหกิจเพื่อสังคม
จำกัด นำทีมพันธมิตรร่วมรณงค์สนับสนุนโครงการด้วย
ได้แก่ นายพีรพันธ์ คอทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.แบนท์ คริสเตียนเซน
ที่ปรึกษาทูตฝ่ายอาหารและการเกษตร
ในฐานะผู้แทนเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย นายชิษณุชา บุดดาบุญ รองอธิบดีกรมการข้าว นายรพีทัศน์
อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ดร. นานา
คึนเคล ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการด้านการเกษตรและอาหาร
องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ Thailand) และ มิสเตอร์โอเล่ เฮนริกเซน ผู้อำนวยการโครงการ ไทยไรซ์ นามา (Thai Rice NAMA)
สำหรับ “ข้าวลดโลกร้อน” เป็นตัวอย่างความสำเร็จในการเปลี่ยนมุมมองและวิถีการทำนาแบบใหม่ของวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่
ซึ่งได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้การทำนาแบบเปียกสลับแห้งในโครงการไทยไรซ์ นามา (Thai
Rice NAMA – Nationally Appropriate Mitigation Action) ภายใต้ความร่วมมือหลัก
ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน
ประจำประเทศไทย (GIZ Thailand) มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
โดยเปลี่ยนกระบวนการผลิตข้าวรูปแบบใหม่ของชาวนาเลือกใช้ 4 เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุนคือ
1.ปรับพื้นที่นาด้วยเลเซอร์ให้เรียบเสมอกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก 2. การจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง 3.การใช้ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม
และ 4.การจัดการฟางและตอซังด้วยน้ำหมักแทนการเผา
สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ
คือ ลดก๊าซมีเทน และก๊าซไนตรัสออกไซด์ ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ
จากการวิจัยและติดตามผลของโครงการ ไทยไรซ์ นามา พบว่า
การทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ราว 30%
เทียบกับวิธีทำนาปกติ จึงเรียกว่า “นาข้าวลดโลกร้อน”เป็นอีกทางเลือกในการบริโภคที่จะช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน
ขณะนี้กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกภาคส่วนด้วยเช่นกัน
ข่าวที่
5 “TCEB”หนุนPride Monthบูมท่องเที่ยว/ไมซ์ปี’67ชงจัดWorldPride
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ทีเส็บร่วมเป็นส่วนหนึ่งต้อนรับเดือนแห่ง Happy
Pride Month 2023 ในโอกาสที่เป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจของคนที่มีความหลากหลายทั้งไทยและนานาชาติทั่วโลก
จึงได้สนับสนุนทุกคนและทุกความหลากหลาย เข้ามาร่วมเฉลิมฉลองได้ที่งาน #BangkokPride2023 ในวันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน
2566 ตั้งแต่ 18.00 น.
เป็นต้นไป โดยจะจัดขบวนการเดินอย่างยิ่งใหญ่เริ่มแยกปทุมวัน
ถนนพระราม 1 ฝั่งสยามพิวรรณธน์ จนถึงแยกราชประสงค์
บริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
งานนี้ทางกรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพร่วมกับพันธมิตร
โดยจัดกิจกรรม Pride Month ปี 2566
ในธีม ‘Beyond Gender’ พร้อมประกาศยกระดับไพรด์พาเหรดของไทยก้าวสู่มาตรฐาน
WorldPride ตามที่คณะผู้จัดนฤมิตรไพรด์ รวมทั้งเครือข่าย LGBTQIA+
จะเสนอในการประชุมที่กรุงเทพฯ ให้พิจารณาเลือกเป็นสถานที่เจ้าภาพจัดต่อเนื่องยกระดับเป็น
WorldPride 2027 อย่างยิ่งใหญ่ในปีต่อไป
เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกิจกรรมไมซ์ได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับการจัดงาน Pride Month ในเมืองไทยแต่ละฝ่ายต่างให้การยอมรับในความหลากหลาย
รวมถึงทีเส็บด้วย พร้อมจะส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคมให้เกิดขึ้นแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน
(Sustainable Development Goals) ของ SDGs ต้องใช้หลักการพัฒนาอย่างครอบคลุมโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
(Leave no one behind) ควบคู่กับการต้องนึกถึงคนทุกกลุ่ม
และกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศด้วย
ส่วนคำว่า ‘Pride’ นอกจากจะหมายถึง
‘ความภาคภูมิใจ’ ยังมีอีกนัยสำคัญคือ ‘การรับรู้และให้เกียรติต่อตนเอง’ คำว่า ‘Pride’
จึงได้นำใช้ในการรณรงค์ความเท่าเทียมทางเพศ ไปพร้อม ๆ กับส่งเสริมให้ทุกคนภูมิใจในตนเอง
ยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดความเสมอภาคอย่างแท้จริง
ช่วงที่ 2 ลงใต้ไปทัวร์หมู่บ้านกลางน้ำ “เกาะปันหยี” จ.พังงา Unseen New
Chapters และตะลอนเที่ยวเกาะหินปูนสุดอลังทั้งถ้ำลอด ภาพเขียน
ที่สามารถพายเรือลอดทะลุเพื่อชมหินงอก หินย้อย ได้อย่างใกล้ชิด แล้วมาฟัง
“อาการขาดสารอาหาร6ชนิด” อันตรายอย่างมองข้าม ฟังข่าวฮ็อต
ข่าวแรก “Great Habour” เปิดเฟิร์สคลาสบุฟเฟต์หรูสุด 2,599++บาท ข่าวที่สอง “กวินอินเตอร์เทรด” ดึงทั่วโลกจัดแสดงสินค้า4วัน4งานรวดโกยรายได้พันล้าน
ท่องเที่ยว –เที่ยว“เกาะปันหยี”อ่าวพังงาดินแดนUnseen
New Chapters
ออกเดินทางไปค้นหา
“Unseen New Chapters” ในภาคใต้ “เกาะปันหยี” ตำบลปันหยี
อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เกาะมหัศจรรย์ที่สุดในเมืองไทย ปัจจุบันมีผู้คนอาศัยอยู่
4 หมู่บ้าน รวมร้านค้า โรงเรียน ลอยอยู่กลางน้ำทะเล เมื่อครั้งอดีต 200 ปีก่อน
บริเวณนี้มีชาวอินโดนีเซียพอพยพมาตั้งถิ่นฐานทำอาชีพกลายเป็นชุมชนประมง
ตามความเชื่อในศาสนาอิสลามการตั้งถิ่นที่อยู่ด้านหลังหน้าผาหินสูงใหญ่
เปรียบเสมือนกำแพงใหญ่ของหมู่บ้านนั่นเอง
ทุกวันนี้วิถีชีวิตคนในชุมชนสุดสโลว์ไลฟ์
กับความสำเร็จในการ “สร้างสนามฟุตบอลกลางน้ำUnseen ระดับโลก”
“ช่วงฤดูท่องเที่ยว”
ระหว่างเดือนธันวาคม – เมษายน ของทุกปี
จะเหมาะกับการท่องเที่ยวเกาะปันหยีที่ดีที่สุด
ท่ามกลางบรรยากาศที่มีฝนไม่มากเหมือนในทุก ๆ เดือน เพราะ สายฝน และ สายหมอก
คือเสน่ห์ของแดนใต้
ที่มอบความสวยงามให้นักเดินทางได้สัมผัสเสน่ห์ที่มีคุณค่าและความหมายอย่างมาก
“แลนด์มาร์ก”
ล่าสุดบนเกาะปันหยีอีกแห่งคือ บริเวณท่าเทียบเรือ กับรูปปั้นหอยขนาดใหญ่สุด Unseen
เป็นจุดเช็กอินของ การมา ที่พักเกาะปันหยี เลยก็ว่าได้!!
รูปทรงฝาหอยเปิดกว้างขนาดใหญ่ที่ด้านใน มีมุกสีขาวนวล กลมโต สวยงาม
“ร้านอาหารและคาเฟ่กลางน้ำ”
ที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะไปนั่งแฮงเอาท์ลิ้มรสอาหาร คือ “นิวเฟิร์นแอนด์ซีแคนู” Newfern
Restaurant & Sea canoe มีความ Unseen เช่นกันด้วยดีไซน์เรือนไทยหรูหราสุดอลังการ
ที่มีอาหารเมนูหลากหลายทั้งคาวและหวานเพียบพร้อมต้อนรับผู้ไปเยือน
“การเดินทาง”
เข้าถึงหมู่บ้านกลางน้ำเกาะปันหยี ต้อง “ล่องเรือหางยาว” ฝ่าเกลียวคลื่น
สัมผัสธรรมชาติแห่งท้องทะเล
ท่ามกลางทัศนียภาพอ่าวพังงามีชื่อเสียงความสวยงามและหมู่เกาะติดอันดับโลก
โดยเฉพาะเรื่องความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติดูแลรักษาไว้ได้เป็นอย่างดี
ส่วน
“แหล่งท่องเที่ยว” รอบบริเวณและใกล้เคียง “เกาะปันหยี”
มีความงดงามแตกต่างกันกันไปอีก 2 พิกัดสุด Unseen
เหมือนกัน
พิกัดที่
1 ถ้ำลอด ด้วยธรรมชาติปันหยีเป็นเกาะหินปูนที่มีช่องลอดผ่านเป็นรูกว้างขนาดใหญ่
เกิดจากการกัดกร่อนของน้ำทะเลเซาะเป็นอีกหนึ่ง Unseen ซึ่งนักท่องเที่ยวเรือสามารถนำเรือคายัคแล่นผ่านโพรงถ้ำเข้าไปชมได้อย่างใกล้ชิดทั้งหินหงอก
หินย้อย ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ
พิกัดที่
2 ภูเขาเขียน ในบริเวณเกาะหินปูนแห่งอ่าวพังงา
ที่มีรูปภาพ ภาพเขียนรูปต่าง ๆ โทนสีน้ำตาล อาทิ โลมา มนุษย์ และสัตว์น้ำต่างๆ
เขียนลงในหินเว้าแนบกับเกาะหิน แนะนำให้นักท่องเที่ยวพายเรือล่องผ่านแนวผาชมภาพวาดต่าง
ๆ ได้อย่างใกล้ชิด เป็นอีกหนึ่ง Unseen น่าตื่นตาตื่นใจ
เที่ยวเมืองไทยไปสักครั้ง
“เกาะปันหยี” พังงา แล้วจะรู้ว่า 365 วัน
มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน สวยทุกที่ มีความสุขทุกเวลา
สุขภาพ
-เช็กด่วน!!อาการขาดสารอาหาร 6ชนิดอันตรายไม่ควรมองข้าม
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็ก
เสริมสร้างการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
และมีส่วนช่วยป้องกันโรคเรื้อรังในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ มาดูกันว่าหากเรามีอาการขาดสารอาหารจะสังเกตได้จากอะไรบ้าง
และมีวิธีดูแลรักษา
เพราะการขาดสารอาหารชนิดที่เกิดขึ้นบ่อย
และอาการที่ควรสังเกต -มักมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและไขมัน ผิว ผมและเล็บแห้ง
ตัวเย็น กระสับกระส่าย และเจ็บป่วยได้ง่าย ซึ่งสารอาหารที่คนมักจะได้รับไม่เพียงพอ
เช่น
1.ธาตุเหล็ก -เป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายในการสร้างฮีโมโกลบินซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง
ธาตุเหล็กพบได้ในเนื้อวัว เครื่องในสัตว์ ไข่แดง หอยนางรม ผักปวยเล้ง บรอกโคลี่
ถั่วแดง เมล็ดฟักทอง งา และอาหารเช้าซีเรียลที่มีการเติมธาตุเหล็กเพิ่มเติม
2.แคลเซียม -จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อ หัวใจ เส้นประสาท และหลอดเลือด
รวมทั้งช่วยในการผลิตฮอร์โมนที่สำคัญในร่างกาย
แคลเซียมพบในนมและผลิตภัณฑ์นมอย่างชีสและโยเกิร์ต ปลาซาร์ดีน ปลาเล็กปลาน้อย
กุ้งฝอย เต้าหู้เหลือง ผักคะน้า ผักกระเฉด ตำลึง และผักเคล
มักพบบ่อยในเด็ก
ผู้ที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน และผู้สูงอายุ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคกระดูกอ่อนในเด็ก
(Rickets) ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ โรคกระดูกพรุน
และโรคกระดูกบาง
3.วิตามินบี 12 -ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงและ
DNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมในเซลล์ของร่างกาย
และช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ผู้ที่ขาดวิตามินบี 12
มักมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ไม่อยากอาหาร น้ำหนักลด มือเท้าชา
ไม่สามารถทรงตัวได้ และความจำแย่ลง
ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินบี 12
เองได้ ซึ่งอาหารที่มีวิตามินบี 12 มักจะพบในเนื้อสัตว์อย่างเนื้อหมู
เนื้อวัว เนื้อปลา ไข่ นมและผลิตภัณฑ์นม
4.วิตามินดี -ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
จึงมีส่วนช่วยในการทำงานของกระดูก ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานชนิดที่ 2
โรคหัวใจ และมะเร็ง การขาดวิตามินดีอาจทำให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลง
และทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน ผู้ที่ขาดวิตามินดีอาจมีอาการอ่อนเพลีย
ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก ผมร่วง แผลหายช้า และเจ็บป่วยบ่อย
คนที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี เช่น
ผู้ที่ทำงานกะกลางคืนหรือในอาคาร ซึ่งไม่ค่อยได้สัมผัสแสงแดด ผู้สูงอายุ
ผู้มีโรคอ้วน และผู้มีโรคประจำตัว เช่น ฮอร์โมนพาราไทรอยด์สูง (Hyperparathyroidism)
โรคตับ โรคไต
หรือมีความผิดปกติที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมวิตามินดีได้
วิธีป้องกันการขาดวิตามินดีอาจทำได้โดยการโดนแสงแดด
เพราะร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้จากแสงแดด
ควบคู่กับการรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี เช่น
ปลาที่มีไขมันสูงอย่างแซลมอนและทูน่า ไข่แดง ตับ นมและอาหารอื่น ๆ
ที่ผ่านการเติมวิตามินดี
5.โปรตีน - ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของกล้ามเนื้อ
เนื้อเยื่อ ผิวหนัง และผม
และช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย การขาดโปรตีนอาจทำให้เด็กเติบโตช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน
ส่วนผู้ใหญ่อาจทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
ผมบาง ผมร่วง ผิวแห้งลอก เล็บเปราะ บาดแผลหายช้า เจ็บป่วยบ่อย แขน ขา
และหน้าท้องบวม หญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการขาดโปรตีนอาจทำให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ
ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อแม่และทารก
การขาดสารอาหารอย่างโปรตีนมักพบในผู้ที่รับประทานอาหารที่มีโปรตีนไม่เพียงพอ
เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ นักกีฬาที่ฝึกซ้อมหนัก และผู้มีโรคประจำตัว เช่น
โรคอะนอเร็กเซีย (Anorexia Nervosa) โรคเอดส์ (AIDs) โรคมะเร็ง
และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีโปรตีน เช่น เนื้อไก่
เนื้อวัวไม่ติดมัน เนื้อปลา ไข่ เต้าหู้ และถั่วชนิดต่าง ๆ
จะช่วยป้องกันอาการขาดโปรตีนได้
6.คาร์โบไฮเดรต มักพบในผู้ที่ลดน้ำหนักและงดการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต
ซึ่งอาจทำให้ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องผูก หากได้รับคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพออย่างต่อเนื่อง
อาจทำให้เกิดภาวะคีโตซิส (Ketosis) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายนำพลังงานจากไขมันในร่างกายมาใช้เป็นพลังงานหลัก
ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และลมหายใจมีกลิ่นเหม็น จะต้องระวังด้วยเช่นกัน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–“Great Harbour”ขายเฟิร์สคลาสบุฟเฟต์หรูสุดๆ2,599++บาท/คน
Great Harbour รายงานว่า
จัดมหกรรมบุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยม ชุด “First Class Buffet” ต้อนรับแฟนคลับได้อิ่มอร่อยกับรสชาติอาหารสไตล์
Fine Dining โดยได้คัดสรรวัตถุดิบระดับเวิลด์คลาส
มาตอบสนองความต้องการของนักชิมที่มีไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับทั้งยุโรปและเอเชียหรูหราไฮเอนด์ถึง
17 เมนู ราคา 2,599++ บาท
ได้แก่
เริ่มที่ “ยุโรป” จัดออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อยให้เลือกลิ้มลองได้
2 เมนู
คือ เมนูแรก “Seared Hokkaido Scallop Corn Puree” หอยเชลล์คุณภาพเยี่ยมของฮอกไกโด
ส่งตรงจากญี่ปุ่น ผสานความเข้มข้นละมุนลิ้นเข้ากันได้ดีกับความหอมหวานของมูสข้าวโพด หรือเมนูที่ 2 “Lobster
Tail Thermidor” แคนนาเดี่ยนล็อบสเตอร์อบมอสซาเรลล่าชีส
กลมกล่อมอย่างดีด้วยวัตถุดิบคุณภาพทุกขั้นตอน
ตามมาด้วยจานหลักเลือกได้ 3 เมนู
คือ เมนูที่ 1 “Seared Foie Gras with Chestnut
Puree & Sauce Vin Chaud” สเต๊กฟัวกราส์ชิ้นโตรับประทานทานคู่กับซอสเชลนัทและซอสไวน์แดงสูตรพิเศษ
ให้ได้สัมผัสความอร่อย
เมนูที่ 2 “Grilled Lamb Chop with Black Garlic
Rosemary Sauce” ซี่โครงแกะไซซ์ใหญ่แบบ Cap off ไม่ติดมัน
ราดด้วยซอสโรสแมรี่แสนอร่อยปรุงมาเป็นอย่างดี ให้เนื้อสัมผัสที่ละเอียด นุ่มนวล
รสเข้มข้น และชุ่มฉ่ำ และ เมนูที่ 3
“Australian Wagyu Filet
Steak with Foie Gras” วากิวออสเตรเลียเนื้อนุ่มละมุนลิ้นแทบจะละลายได้ในปาก
รับประทานคู่กับฟัวกราส์ พร้อมซอสทรัฟเฟิลกลมกล่อมทำให้เนื้อรสชาติเข้มข้นขึ้น ด้วยสัดส่วนของเนื้อและไขมันกำลังพอดี
“ฝั่งเอเชีย” เตรียมเมนูพรีเมี่ยมจานเด่นสุดพิเศษไว้ให้เลือกทั้ง
ญี่ปุ่น จีน ไทย พาเหรดกันมาให้เลือกแบบปัง ๆ
“อาหารญี่ปุ่น” เมนูที่ 1 ซาซิมิดีลักซ์สุดพิเศษจากญี่ปุ่น นำโดย
“โทโร่” ซึ่งทงเชฟคัดสรรเนื้อปลาส่วนท้องสุดพรีเมียมมาให้รสสัมผัสมีความนุ่มลิ้น
ละลายในปากได้เช่นกัน แต่ยังคงความแน่นของเนื้อปลาไว้อยู่ทุกอนู เมนูที่ 2 สุดยอดปลาเนื้อขาววัตถุดิบพิเศษนำเข้าจากญี่ปุ่นรสชาติเป็นเอกลักษณ์เนื้อกรุบกรอบ
แน่นและสดอย่างปลาฮามาจิ เมนูที่ 3
แซลมอลนำเข้าจากนอร์เวย์ทำให้เนื้อสัมผัสความหวานฉ่ำ สด นุ่ม
และไขมันที่แซกพอประมาณ รวมทั้ง หอยปีกนก หอยเชลล์ฮอกไกโด ปลาหมึกยักษ์
เมนูที่ 4 ข้าวด้งฟัวกราส์ย่างสุขกำลังดีกรอบนอกนุ่มใน ชุ่มฉ่ำด้วยซอสเทอริยากิ
เพิ่มความพิเศษด้วยอูนิพรีเมียมนำเข้าจากญี่ปุ่น ปิดท้ายอาหารดินแดนปลาดิบด้วย
เมนูที่ 5 ซูชิปลาอนาโกะ
ปลาไหลทะเลญี่ปุ่นทั้งตัว ราดด้วยซอสอานาโงะสูตรพิเศษจากเซฟประจำร้าน
“อาหารจีน” ละลานตากับ ล็อบสเตอร์ผัดไข่เค็มลาวารสชาติกลมกล่อมถูกใจทุกวัย ปลาหิมะนึ่งเต้าซี่อาหารจีนโบราณหารับประทานยาก
“อาหารไทย” คัดวัตถุดิบคุณภาพสุดพิเศษ
ครบเครื่องเรื่องสมุนไพรนานาชนิด มาปรุงแต่รสชาติ ได้จัดจ้านแบบพอดีตัว
กลมกล่อมจนหยุดไม่ได้ อย่าง พล่าล็อบสเตอร์ เมนูยอดนิยมรสชาติแบบไทยแท้ หรือปลากระพงผัดฉ่าเผ็ดร้อนด้วยเครื่องสมุนไพร
หอมกลิ่นสมุนไพรและเครื่องเทศ ผัดรวมกันแล้วอร่อยเข้ากันเป็นอย่างดี หากรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน
ๆ จะเป็นประสบการณ์ในความทรงจำอย่างแน่นอน
ปิดท้ายด้วย
“อาหารหวาน” ดาหน้ากันมาเต็มคาราเบลทั้ง เมนูที่
1 Baked Alaska Flambé ไอศกรีมเมอแรงค์แสนอร่อยเสิร์ฟแบบตื่นตาตื่นใจด้วยการเบิร์นไฟแสนอลังการ เมนูที่ 2
Fruity Berry Panna Cotta with homemade lemon sorbert พานาคอตต้าผลไม้รวมให้ความสดชื่นต้อนรับซัมเมอร์แถมด้วยมาการองสูตรพิเศษจากทางร้าน เมนูที่ 3 Sticky
Date Pudding, Toffee Sauce, Almond Tuile with Vanilla Ice Cream และพุดดิ้งอินทผลาลัม
หอมหวานเข้ากันได้ดีกับไอศกรีมวนิลาพรีเมี่ยมจากไฮเก้นดาส
ขณะเดียวกันทาง Great Habour ยังมีเมนูบุฟเฟต์อื่น
ๆ ตามปกติให้เลือกรับประทานได้อีกกว่า 100 รายการ เพิ่มความอร่อยและเต็มอิ่มกับเมนูคุณภาพ จองล่วงหน้าได้ที่
Hungry Hub หรือเพิ่มเพื่อนไลน์ได้ที่ Line :
@harbour และ Facebook : greatharbour เพื่อจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมตามที่ต้องการทุกวัน
ข่าวที่สอง
-“กวินอินเตอร์เทรด”ดึงเอ็กซิบิชั่นจัดรวดเดียว4วัน4งานโกยพันล้าน
นายกวิน กิตติบุญญา กรรมการผู้จัดการ
บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด เปิดเผยว่า
ในฐานะบริษัทรับจัดงานผนึกรวมจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibition)
พร้อมกัน 4 งานใหญ่ ภายในเวลา 4 วัน
ระหว่าง 13-16 กรกฎาคม 2566 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
กรุงเทพฯ ทั้งงานอาหาร เครื่องดื่ม ค้าปลีก แฟรนไชส์ พร้อมน้องใหม่ผับและบาร์ ตั้งเป้าจะสร้างเงินสะพัดกว่า
1,000 ล้านบาท
จากทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 40
ประเทศ และดึงผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 24,000
คน
ภายในงานมีเสียงตอบรับจากหน่วยงานของรัฐและเอกชนร่วมสนับสนุนกว่า
20 องค์กร เอกชนเข้าร่วมอีกกว่า 260 บริษัท ในพื้นที่แสดงกว่า 15,000 ตารางเมตร
ซึ่งจะมีตัวแทนจัดแสดงสินค้าหลัก ๆ ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย
ออสเตรีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย และอื่น ๆ
สำหรับไฮไลต์งานแสดงสินค้าทั้ง
4 งาน ประกอบด้วย งานที่ 1 งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจ
ปีที่ 19 (TFBO) งานที่ 2 งานแสดงสินค้าและอุปกรณ์ของใช้วัตถุดิบอาหารและเครื่องดื่ม
ปีที่ 17 (TRAFS) งานที่ 3 งานแสดงเทคโนโลยีและอุปกรณ์ค้าปลีก ปีที่ 8 (ASEAN
RETAIL) ใหม่ล่าสุด งานที่ 4 งานแสดงอุปกรณ์
เครื่องดื่ม ชนิดต่างๆ สำหรับ ผับ บาร์ และสถานบันเทิง (PUB & BAR
ASIA)
ตลอดงานจมีสินค้าจากทั่วโลกกว่า 10,000 รายการ
มานำเสนอให้เจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบการ ผู้บริหาร ฝ่ายจัดซื้อ ทั้งกลุ่มโรงแรม Fine
Dinning ภัตตาคาร ร้านอาหาร Food Chain และ
Cafe ได้สัมผัสสินค้า เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เลือกนำไปใช้ในธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตตลาดการนักท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ
ทางกวิน อินเตอร์เทรด ได้รับความร่วมมือจากองค์กรรัฐและเอกชนเกือบ
20 หน่วยงาน เช่น สถาบันอาหาร สมาคมเดอะเชฟ สมาคมเบเกอรี่ สมาคมภัตตาคาร
สมาคมผู้บริหารเเม่บ้านโรงแรม มาร่วมนำเสนอในงานเกือบ 50 กิจกรรม
เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งจัดสัมมนาให้ความรู้
สาธิตการทำอาหารและเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ
เพื่อเสริมทักษะและวิชาชีพนำไปต่อยอดธุรกิจได้ต่อไป
โดยเฉพาะ
งาน TFBO ปีที่
19 กับงาน ASEAN RETAIL ปีที่ 8
มีผู้เเสดงเข้าร่วมงานสูงสุดนับตั้งแต่จัดงาน เป็นกลุ่มเเสดงสินค้าจากต่างประเทศสูงสุดสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจเศรษฐกิจไทยจะเติบโตเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง
ส่วน งาน TFBO มีแฟรนไชส์ไทยและต่างชาติกว่า 150 เเบรนด์ ได้แก่
ธุรกิจอาหาร ญี่ปุ่น เกาหลี จีน
ไทย กาแฟ ชานม เบเกอรี่ ไอศกรีม ครัวซองค์
พิซซ่า มันฝรั่งทอดชื่อดัง ธุรกิจซักรีดปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมสูง
การศึกษา อสังหาริมทรัพย์ ขนส่ง บริการอื่น ๆ แล้วยังมีกิจกรรมพิเศษ จาก “ต่อ
เพนกวิน” จะมาช่วยชี้เป้าแนวทางเลือกธุรกิจการลงทุน รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญ จาก
สถาบันและสมาคมอีกมากมายเข้ามาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์อาชีพที่ประสบความสำเร็จ
ขณะเดียวกันในงาน
TRAFS ก็มีผู้จัดแสดงสินค้าทั้งไทยและต่างประเทศ
เตรียมนำเสนอสินค้า อุปกรณ์ ของใช้ วัตถุดิบ อาหารแลเครื่องดื่ม
เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด รองรับไตรมาสุดท้ายปี 2566 ช่วงไฮซีซั่น ต่อเนื่องถึงปี 2567 และการขยายสาขาของธุรกิจโรงแรม
FOOD SERVICE กับ FOOD
CHAIN อย่างเต็มที่
ส่วนงาน ASEAN RETAIL จะมีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมานำเสนอกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ไฮไลต์เป็น AI การโฆษณารูปแบบใหม่ เช่น TikTok การปรับตัวของ Meta อุปกรณ์ POS Payment Gateway ระบบความปลอดภัย ตลอดจนการออกแบบร้านค้า พร้อมเปิดให้ผู้เข้างานร่วมฟังบรรยาย MARTECH ใหม่ ๆ นำทีมโดย “หนุ่ย -พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์” เจ้าของ Beartai “หนึ่ง-ธัญญ์นิธิ อภิชัยโชติรัตน์” นักการตลาดดิจิทัลยอดเยี่ยมของเอเชียมาเป็นวิทยากรให้ความรู้
ปิดท้ายในงาน PBA 2023 จัดขึ้นครั้งแรกในไทย ที่โรงแรม ภัตตาคาร ผับ บาร์ สถานบันเทิง จะได้ประโยชน์เต็ม ๆ ที่จะได้สัมผัสกับอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง พร้อมเครื่องดื่มต่าง ๆ เหล้า ไวน์ เบียร์ คราฟเบียร์ การสาธิต การทำคราฟเบียร์ การผสมค็อกเทล และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น