“TCEB”ถอดบทเรียนชวดExpo2028เปิดเบื้องหลังเสนอครม.
เก็บแต้มช่วงExpoถก3อีเวนต์โลกขยายฐานไมซ์ไทยในยุโรป
เดินหน้าต่อปั้นภูเก็ตผงาดนำเมดิคัลฮับเอเชีย-ไมซ์อินเตอร์
บัตรคิงเพาเวอร์จองทัวร์Travelokaลดแล้วลดอีกถึง31ธ.ค.นี้
“พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดโปรขายคูปองบุฟเฟต์ซีฟู้ดซื้อ5ฟรี1
Mott32รร.เดอะสแตนดาร์ดเสิร์ฟเอ็กคลูซีฟเมนูถึง2ก.ค.66
ททท.จัด“อะเมซิ่งมูติเวิร์ส”ปลุกทัวร์สายมูโต4หมื่นล้านดอลล์
บางจากชูซอฟท์เพาเวอร์จัด“DekShowDedFest”มิ.ย.-ธ.ค.66
TCEBโกยไมซ์โลกIMEXFrankfurtfมาไทย120งาน4พันล้าน
เที่ยววัดหงษ์ทองUnseenNewChapterบางปะกง ฉะเชิงเทรา
5 วิธีดูแลลำไส้ให้แข็งแรงรอดพ้นปราศจากโรคภัยร้ายแรง
AWCตั้งบ.ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้วเดอะล้ง1919ดึงทั่วโลกทัวร์ไทย
แอตต้าได้สิทธิ์หอค้าไทย-จีนรับกรุ๊ปจีนโลกประชุมWCEC
วันเสาร์ที่
24 มิถุนายน 2566
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.
ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower
#TAT #TCEB #บางจาก
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/lmagQl9BSq/
ช่วงที่ 1 เจาะลึก ไทยพลาด Expo 2028 กับ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ
อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ทีมไทยแลนด์ยินดีกับเซอร์เบีย พร้อมถอดบทเรียนประเทศไทย เสนอ
ครม.และทุกภาคส่วน
เดินหน้าใช้ประโยชน์ที่ได้ร่วมชิงงานนำแผนที่เมืองไทยติดเทอร์ไมซ์ในตลาดโลกดันจุดขายภูเก็ตเพิ่มใหม่
“เมืองเมดิคัลฮับ-ไมซ์ อินเตอร์ ซิตี้-สร้างความแกร่งตลาดโลก”
ใช้จังหวะช่วงเดินสายชิงเอ็กซ์โป หาพันธมิตรตลาดยุโรปได้อีก 3 กลุ่ม “UFI-อุตชิ้นส่วนยานยนต์-
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
“TCEB” เปิดเผยว่า
ทีเส็บและทีมไทยแลนด์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนนำเสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ Specialised
Expo 2028 ในชื่อ Expo 2028 Phuket Thailand เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่
21 มิถุนายน 2566 ต้องขอแสดงความยินดีกับเซอร์เบียที่ได้รับการโหวตให้เป็นผู้ชนะจากการลงคะแนนของสมาชิกองค์การนิทรรรศการนานาชาติ
BIE -Bureau of International Expositions 171 ประเทศ
ตามแผนทันทีที่กลับถึงประเทศไทยต้องทำเป็นอันดับแรกคือปิดไฟล์โครงการนี้เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
(ครม.) พร้อมข้อเสนอแนะ เพราะการนำประเทศไทยเข้ารอบงานชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ Special Expo 2028 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่สามารถเข้าถึงรอบการแข่งขันได้ลึกที่สุดในรอบสุดท้ายชิงชนะเลิศ 5 ประเทศ แตกต่างจากเมื่ออดีตไทยเคยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน World
Expo แต่ผ่านรอบแรกก็หลุดจากโผไป
นอกจากการ
“ถอดบทเรียน” นำเสนอนายกรัฐมนตรี และที่ประชุม ครม.ไทย แล้ว
ทีเส็บยังจะต้องนำเสนอให้ภาครัฐและเอกชนที่ทำงานร่วมกัน
พร้อมทั้งจัดเสวนาร่วมกันด้วย
นายจิรุตถ์
กล่าวว่า ทีเส็บได้ใช้ประสบการณ์จากเวทีโลกครั้งนี้
พลิกให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยต่อในอนาคต 4 ส่วน ประกอบด้วย
ส่วนที่
1 ได้ใช้เวลาตลอด 1 ปีครึ่ง
เผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ศักยภาพความโดดเด่นของไทยและจังหวัดภูเก็ต
ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้พร้อมจะเป็นจุดหมายปลายทางอุตสาหกรรมไมซ์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และศูนย์กลางบริการสุขภาพองค์รวมแบบครบวงจรแห่งในอันดามัน Medical &
Wellness Hub ของตลาดโลก
ส่วนที่
2 รัฐบาลไทยเห็นความสำคัญมีนโยบายสนับสนุนพัฒนาการลงทุนพื้นที่หาดไม้ขาว
จังหวัดภูเก็ต 141 ไร่ จึงทำให้ทีเส็บเกิดโอกาสใหม่ได้ลงมือทำงานร่วมกับรัฐ
เอกชน ภูเก็ต ทีมไทยแลนด์
อย่างเข้มข้นเพื่อวางแผนแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ผู้ร่วมชิงเจ้าภาพทั้ง 4 ประเทศ คือ เซอร์เบีย
ซึ่งเป็นผู้ชนะแล้วทางทีเส็บก็ได้แสดงความยินดีด้วยเรียบร้อยแล้ว สหรัฐอเมริกา สเปน และอาร์เจนตินา
ส่วนที่
3 ทีเส็บพร้อมจะถอดบทเรียนทั้งหมดเพื่อนำไปต่อยอดประสบการณ์การเข้าร่วมประมูลงานระดับโลกครั้งต่อไป
เพราะความสำเร็จหรือชัยชนะครั้งนี้มีความลึกซึ้ง เพราะต้องพึ่งพาการโหวตจากสมาชิก BIE
จากนานาประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นเรื่องนโยบายของแต่ละประเทศกำหนดจะเลือกประเทศใด
ในจำนวนทั้ง 171 ประเทศ มีสิทธิ์ลงคะแนนโหวต 150 ประเทศ ในรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566
ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส เป็นเวทีการนำเสนอ Presentation เนื้อหาทั้งหมดซึ่งบันทึกไว้เว็บไซต์ www.miceinthailand.com คนไทยทั้งประเทศสามารถเข้าไปเปิดชมดูย้อนหลังได้
ซึ่งเนื้อหานั้นประเทศไทยทำได้โดนใจกรรมการ
แต่ผลชี้ขาดขึ้นอยู่กับการลงคะแนนเสียงของสมาชิกทั้งหมด
ทีเส็บจึงขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำงานอย่างเข้มแข็งกับทีเส็บ
แล้วการนำเสนอเนื้อหาและเป้าหมายของไทยทำได้ไม่น้อยหน้าประเทศใด ๆ
ส่วนที่
4 ผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตมีพลังที่จะขยายผลการยกระดับเป็นเมือง
World MICE เพราะโครงการก่อสร้างทั้งหมดยังคงเดินหน้าทำต่อไป
ทั้งเรื่องโครงข่ายโลจิสติกส์ MICE City เรื่อยไปจนถึง Health
and Wellness และ Medical ของกระทรวงสาธารณสุข
ทางทีเส็บจะพยายามเพิ่มโอกาสทางการตลาดนำไมซ์ทั่วโลกเข้ามาใช้บริการต่อเนื่องทุกปีที่จะขยายฐานภูเก็ต
ไมซ์ ซิตี้
นายจิรุตถ์กล่าวว่า
ตามแผนพัฒนาตลาดไมซ์ของประเทศในอนาคตนับจากนี้ไป ยังคงเดินหน้า
การประมูลงานพืชสวนโลกมาจัดที่ จ.นครราชสีมา พร้อมกับนำเสนอพื้นที่มีความพร้อมจะจัดงานระดับโลกได้อีกหลายแห่งด้วยกัน
รวมทั้งภูเก็ตก็มีงานระดับนานาชาติอื่น ๆ สนใจเข้ามาจัดงานช่วงปลายปี 2566 เป็นต้นไป
ซึ่งทุกฝ่ายก็สามารถที่จะใช้ประสบการณ์จากกลไกที่ขับเคลื่อนแล้วนำภูเก็ตเข้าไปอยู่ในแผนที่โลกเรียบร้อยแล้ว
อย่างน้อยสมาชิก BIE 171 ประเทศ
ก็ได้เห็นศักยภาพภูเก็ตอย่างชัดเจนมาตลอดปีครึ่ง
ส่วนแผนแม่บทพัฒนาเกาะภูเก็ตจะใช้
9 เสาหลัก ไม่เฉพาะการท่องเที่ยว
แต่ยังขยายในส่วนของอุตสาหกรรมไมซ์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม
การท่องเที่ยวเชิงเกษตร และอีกหลายอุตสาหกรรมที่จะเป็นพลังสร้างเศรษฐกิจเมืองเติบโตตามเป้าหมาย
ขณะเดียวกันระหว่างการเดินทางไปนำเสนอความพร้อมเป็นเจ้าภาพ
Expo 2028
ได้รุกหาพันธมิตรตลาดไมซ์ยุโรปควบคู่กันไปด้วย
โดยได้พบหารือกับตัวแทนผู้จัดแสดงสินค้ารายใหญ่ 3 กลุ่ม
ได้แก่ กลุ่มที่ 1 Mr.Micheal Doug ประธานสมาคมการแสดงสินค้าโลก
หรือ UFI :The Global Association of The Exhibition
Industry สนใจนำงานต่าง ๆ มาจัดในเมืองไทย
กลุ่มที่ 2 ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนประกอบในการผลิตรถยนต์
หรือ Composite in Autoumotive
ซึ่งมีตัวแทนงานแสดงสินค้าของยุโรปสนใจจะนำงานมาจัดในไทยในจังหวะที่เหมาะสม
กลุ่มที่ 3 หารือกันเรื่องการนำงาน Air Show เข้าไปจัดในเมืองไทย
เป็นการพูดคุยระหว่างที่ทีเส็บจัดโร้ดโชว์กับคู่ค้าทางด้านจัดงานเอ็กซิบิชั่นในยุโรป
ซึ่งกำลังรอความพร้อมพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC
:Eastern Economic Corridor) รองรับให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัด แอร์โชว์
ในโอกาสต่อไป
ส่วนงานแสดงสินค้าใหม่
ๆ จากตลาดต่างประเทศ ทีเส็บสามารถดึงเข้ามาจัดในเมืองไทยระหว่างมิถุนายน2566 -มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป
ที่ยืนยันจัดแน่นอนแล้วไม่น้อยกว่า 20 งาน และไทยเป็นประเทศดาวเด่นหรือจุดหมายปลายทางของไมซ์ทั่วโลกสนใจจะนำงานแสดงสินค้า/เอ็กซิบิชั่น
เข้ามาจัดเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 “บัตรคิงเพาเวอร์จองทัวร์Travelokaลดแล้วลดอีกถึง31ธ.ค.
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนให้ทุกคนมาร่วมประสบการณ์ “เป็น ไป
ได้” ไม่สิ้นสุด “สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์” ทั้ง 5 ประเภท NAVY, SCARLET, ONYX, CROWN, VEGA สมัครหรือเป็นสมาชิกรีบเลยรับสิทธิประโยชน์จาก Traveloka ระหว่างวันนี้-31 ธันวาคม 2566 เพียงแสดงสถานะสมาชิกพร้อมหลักฐานเพื่อแลกรับสิทธิ์ส่วนลดสูงสุด
ทันที 5% และใช้คะแนนกะรัตแลกลดได้อีก 600 บาท เพียงคลิกกดรับสิทธิ์ง่าย ๆ ผ่าน LINE Official Account หรือ member.kingpower.com แล้วนำ Promo code เข้าไปจองทุกจุดหมายปลายได้ทางwww.traveloka.com/en-th/
ตลอดโปรโมชั่นนี้ คิง เพาเวอร์ และ Traveloka
พร้อมให้สมาชิกทุกคนสามารถใช้สิทธิในบัตรเพิ่มให้กับ
“ผู้ติดตาม” ได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง กดรหัสรับสิทธิ์แล้วไม่นำไปใช้ต้องถือว่าสละสิทธิ์ไปเลยทางคู่ค้าจะจะไม่ได้ชดเชยให้ซ้ำในทุกกรณี
รวมทั้งเปลี่ยนหรือทอนเป็นเงินสดไม่ได้ด้วยเช่นกัน
ข่าวที่ 2 “พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดโปรขายคูปองบุฟเฟต์ซีฟู้ดซื้อ5ฟรี1
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ นำเสนอโปรโมชั่น #LASTMINUTEOFFERS คูปองบุฟเฟต์ซีฟู้ด ซื้อ 5 ฟรี 1 ระหว่างวันนี้ -30 มิถุนายน 2566
เพื่อนำไปใช้ที่ “ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก” ในการรับประทานบุฟเฟต์ซีฟู้ดมื้อกลางวันและมื้อค่ำ
และสมาชิกคิงเพาเวอร์ลดเพิ่มอีก 10 %
เริ่มต้นด้วย “บุฟเฟต์นานาชาติมื้อกลางวัน”
ซื้อคูปองแล้วนำไปใช้รับประทานได้ทุกวันจันทร์ - วันเสาร์ ราคา คนละ 900 บาทสุทธิ
ไม่รวมเครื่องดื่ม จากปกติคนละ 1,150 บาทสุทธิ
ตามด้วย “บุฟเฟต์ซีฟู้ดบาร์บีคิวมื้อค่ำ” ทุกวันจันทร์
- วันพุธ ราคาคนละ 1,200 บาทสุทธิ รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้ง จากปกติคนละ 1,750
บาทสุทธิ ซึ่งจะมีความพิเศษมากยิ่งกว่าโดยทางโรงแรมได้เพิ่มเมนู “ปูอลาสก้า” ทุกทุกวันพฤหัสบดี
- วันอาทิตย์ ราคาคนละ 1,500 บาทสุทธิ รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้ง จากปกติคนละ 2,250
บาทสุทธิ
รวมทั้งจัด “บุฟเฟต์ซีฟู้ดซันเดย์บรันซ์”
ช่วงสาย ๆ ของทุกวันอาทิตย์ ราคา 1,600 บาทสุทธิรวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้ง
ฟรีเด็กต่ำกว่า 12 ปี 1 คน จากปกติ 2,590
บาทสุทธิ โดยขอให้ใช้รหัส CR
กินเพลินเดินเที่ยว , CR
6 August Journey และ CR Go X Someday
: หนีเที่ยวสักวัน
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์
พร้อมเสิร์ฟเมนูบุฟเฟต์คุณภาพทั้ง 3 สไตล์ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02 680
9999
ข่าวที่ 3 Mott32รร.เดอะสแตนดาร์ดมหานครเสิร์ฟเอ็กคลูซีฟเมนูถึง2ก.ค.
ห้องอาหาร “Mott 32 Bangkok” ชั้น 2 โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร ธุรกิจในเครือของกลุ่มบริษัท คิง
เพาเวอร์ ได้เชิญ “เชฟ ลี แมน ซิง/Lee Man Sing” เชฟใหญ่ประจำกรุ๊ปห้อง Mott 32 บินตรงมาเพื่อส่งมอบความอร่อยให้กับลูกค้าถึงเมืองไทยโดยเฉพาะ
ตั้งแต่วันนี้ – 2 กรกฎาคม 2566
โดย เชฟ ลี แมน ซิง พร้อมจะนำเสนอความพิเศษด้วยเอกลักษณ์ของ
Mott 32 Bankokร้านอาหารจีนสไตล์โมเดิร์นชื่อดังจากฮ่องกง
เดินหน้าเปิดประสบการณ์ความเป็น ไป ได้ ด้วยการรังสรรค์เมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และเมนูซิกเนเจอร์ อย่าง “หมูแดงบาร์บีคิวไอเบอริโกหมักด้วยน้ำผึ้ง”
พร้อมเมนูพิเศษอื่น ๆ ในบรรยากาศสุดอบอุ่นกับอีกหลากหลายความอร่อย เช่น ขาปูหิมะนึ่งในเหล้าจีน ปลาคอดอบด้วยไวน์ข้าว เส้นอีหมี่ผัดไข่ปูหิมะ และอื่น ๆ
ทาง “เชฟลี แมน ซิง” จะอยู่ประจำห้องหาร Mott 32 Bangkok ตั้งแต่วันนี้- 27 มิถุนายน 2566
จึงเชิญชวนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหาร
สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มทางอีเมล mott32.bangkok@standardhotels.com หรือ โทร 02 085 8888
ข่าวที่ 4 ททท.จัด“อะเมซิ่งมูติเวิร์ส”ปลุกทัวร์สายมูตลาดโต4หมื่นล้านดอลล์
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้เปิดตัวโครงการ “เสริมพลังบุญ หนุนพลังใจ”
เดินหน้าจัดกิจกรรม “อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส เปิดจักรวาลสายบุญ” ระหว่างวันที่ 30
มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2566 บริเวณลานสแควร์ B ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ด้วยการนำงานพลังบุญของทั้งประเทศรวมไว้ในงานเดียว เปิดแลนด์มาร์กสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
กระตุ้นนักเดินทางสายมูเตลู และเคล็ดลับเสริมสิริมงคลชีวิตให้ปังในเวที Guru Talk กับอาจารย์หมอดูสุดฮอตแห่งปี
ซินแสเป็นหนึ่ง อาจารย์ต็อกแต็ก A4
และอาจารย์ไวท์ หมอดูโอปป้า พร้อมแลกรับสิทธิ์ดูดวงแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
งานนี้จัดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กระแสการท่องเที่ยวมูเตลูหรือการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา
ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับความสนใจจากตลาดทั่วโลกด้วย
โดยไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายที่โดดเด่นทั้งวัฒนธรรมเชื่อมโยงถึงอัตลักษณ์
ความเชื่อของท้องถิ่นของนักท่องเที่ยวสายศรัทธา และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ตามข้อมูลจากแหล่งใหญ่ 2 องค์กร คือ
องค์กรแรก กระทรวงพาณิชย์ยืนยันเมื่อปี 2562
การท่องเที่ยวเชิงแสวงบุญสร้างรายได้หมุนเวียนให้ประเทศสูงสุดถึง 10,800 ล้านบาท องค์กรที่ 2 Future Market Insight 2023 ระบุการท่องเที่ยวเชิงศรัทธามีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดคาดภายใน
10 ปี จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลกเพิ่มขึ้น 3เท่า
จากปี 2565 ทำได้กว่า 13,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2576 จะเพิ่มขึ้นเป็น 40,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า
จากแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว ททท. จึงเลือกเดินหน้าเปิดโครงการ “เสริมพลังบุญ
หนุนพลังใจ” ภายใต้แนวคิด “เปิดจักรวาลสายบุญ” มุ่งเน้นนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมายให้แก่นักท่องเที่ยว
(Meaningful Travel) โดยจะได้รวบรวมสินค้าท่องเที่ยวกลุ่มศรัทธาความเชื่อและภูมิปัญญาที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของไทยรวมไว้ในงานเดียว
ประกอบด้วย ศาสนสถานวัด สิ่งเคารพและศรัทธา
วัฒนธรรมและภูมิปัญญา การท่องเที่ยวโดยชุมชน จัดกิจกรรม “อะเมซซิ่ง มูติเวิร์ส (Amaing Mutiverse) : เปิดจักรวาลสายบุญ” ภายในงานแบ่งออกเป็น
3 ส่วนหลักได้แก่
โซนแรก 12 เส้นทางท่องเที่ยวเสริมพลังบุญหนุนพลังใจ จัดทำแลนด์มาร์คจำลองสิ่งศักดิ์สิทธิ์สักการะบูชาและเสริมสิริมงคล
โซนสอง ตลาดสายมู เปิดบูธหมอดูชื่อดังจากสมาคมโหราศาสตร์
ของศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคลกว่า 45 ร้านค้า เช่น ร้าน Ravipa เครื่องประดับสายมูแม่หมอจิ๊ก 100
รีวิวสักลายมือเศรษฐี นครมูเบอเกอร์ พร้อมร้านค้า ร้านอาหารชื่อดังเข้าร่วมงานจาก 5
ภูมิภาค
โซนสาม กิจกรรมบนเวที สนุกสนานกับศิลปินชื่อดังของเมืองไทยได้แก่ ส้มมารี วง NO ONE ELSE วง New Country พร้อมกับกิจกรรม Guru Talk เสริมสิริมงคลชีวิตให้ปัง กับอาจารย์หมอดูสุดฮอตแห่งปีซินแสเป็นหนึ่ง
ลายเซ็นพารวย อาจารย์ต๊อกแต๊ก A4 หมอดูเงินล้าน
และอาจารย์ไวท์เปิดดวง หมอดูโอปป้า
รับ 2 สิทธิพิเศษ! ผู้ที่เข้าร่วมงานเพียงซื้อสินค้าภายในงานให้ครบทุก
999 บาท ลุ้นรับสิทธิ์ดูดวงแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับหมอดูชื่อดังพิเศษวันละ 3
สิทธิ์เท่านั้น และเมื่อซื้อสินค้าครบทุก 500 บาท
ลุ้นรับสิทธิ์เข้าร่วมทริปเดินทางเสริมพลังบุญหนุนพลังใจ 2
เส้นทาง กับอาจารย์ไวท์หมอดูโอปป้า ได้แก่ เส้นทางที่ 1 มูเปิดดวงเศรษฐี
789 จังหวัดสระบุรี เส้นทาง 2 กรุงเทพฯ One Day Trip เปลี่ยนดวงชะตาร้ายเป็นดีแบบฉับพลัน
รวมทั้ง ททท. ได้ออกแบบการท่องเที่ยว 12 เส้นทาง
ท่องเที่ยวเสริมพลังบุญหนุนพลังใจ รวบรวมศาสนสถาน วัด สิ่งเคารพและศรัทธาทั่วไทย
เพื่อปักหมุดเส้นทางขอพรพระเสริมสิริมงคล และสถานปฎิบัติธรรมทุกคนไปสงบจิตสงบใจและทำโซเชียลดีท็อกซ์ทั่วไทยในรูปแบบ
E-Book ได้ทั้ง 5 ภูมิภาค 12 เส้นทาง ได้แก่
“ภาคเหนือ” 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.เพลินเมืองแพร่ เที่ยววัดขลังเสริมพลังกายพลังใจ จ.แพร่ 2.เยือนพะเยา
กราบพระเจ้าตนหลวงเสริมมงคล ดลบันดาลทุกความปรารถนาจังหวัดพะเยา 3.เชียงใหม่
อิ่มบุญอุ่นใจ๋ ไหว้พระปฏิบัติธรรม ขอพรสำเร็จทุกปรารถนาจังหวัดเชียงใหม่
“ภาคกลาง” 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.ศรัทธามหานครโชคลาภพุ่ง โชคเลิฟทะยานกรุงเทพ 2.สระบุรี
สร้างบารมีเสริมสิริมงคล สักการะหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ตระการตาเขาพรหมสวรรค์
จังหวัดสระบุรี 3.สุพรรณบุรี พลังบารมีศรีสุพรรณภูมิ
ต่อโชคต่อลาภรับสิริมงคลจังหวัดสุพรรณบุรี
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.บึงกาฬ
อลังการทิวทัศน์ อัศจรรย์นาคา กราบไหว้หลวงปู่อือลือนาคราช จังหวัดบึงกาฬ 2.อิ่มบุญแดนอุบล ยลแสงแห่งธรรม ตามรอยอารยธรรมเรืองแสงแห่งลุ่มแม่น้ำโขง
จังหวัดอุบลราชธานี
“ภาคตะวันออก” 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.แก้ชงครบองค์มังกร แก้ชง 3 จังหวัดกรุงเทพ- ฉะเชิงเทรา-จันทบุรี 2.ฉะเชิงเทรา
เสริมพลังชีวิตเราให้งานรุ่งเงินโรจน์ สักการะพระพิฆเนศ 3
ปาง จังหวัดฉะเชิงเทรา
“ภาคใต้” 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.ภูเก็ตเก็บแต้มบุญ หนุนแต้มดวง สักการะ 4 ศาล
เสริมชะตา 4 ด้าน จังหวัดภูเก็ต 2.มนตราเมืองตรัง
เสริมดวงเสริมพลัง สัมผัสเสน่ห์อันซีนเมืองตรัง
ข่าวที่ 5 บางจากชูซอฟท์เพาเวอร์จัด“DekShowDedFest”มิ.ย.-ธ.ค.66
นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจาก จัดโครงการ ‘Dek
Show Ded Festival@ Phrakhanong, Bangna’ โดยร่วมกับพันธมิตรทรู
ดิจิทัล พาร์ค 101 สำนักงานเขตพระโขนง และสำนักงานเขตบางนา เปิดพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ด้านดนตรีและการแสดงต่าง
ๆ ให้เยาวชนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ซึ่งมีโรงเรียนในพื้นที่เขตพระโขนงและเขตบางนาพร้อมใจกันสร้างความแสดงความสามารถ
ทั้งการแสดงดนตรี ร้องเพลง เต้นรำ ฟ้อนรำ และการแสดงเชิงวัฒนธรรมต่าง ๆ
เป็นหนึ่งในการร่วมสร้างประโยชน์สู่สังคมรอบพื้นที่ธุรกิจ ด้วยการสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์
สร้างความภาคภูมิใจ และเห็นคุณค่าในตนเอง สานสัมพันธ์ในครอบครัว
ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียน ที่บริเวณ 101
Skyline ชั้น 2 ลานกิจกรรม อาคารทรู ดิจิทัล
พาร์ค พื้นที่แห่งการเรียนรู้ความยิ่งใหญ่และทันสมัยโลกดิจิทัล
ทางบางจากได้เปิดพื้นที่จัดกิจกรรม
Dek Show Ded Festival ขึ้นทุกวันเสาร์ รวม 6 ครั้ง 2 พื้นที่ นำร่อง ครั้งแรกไปเมื่อวันเสาร์ที่ 17
มิถุนายน 2566 และครั้งที่ 6 คือ วันเสาร์ที่
23 ธันวาคม 2566 วางแผนจัดกิจกรรม 3 ครั้งแรก ระหว่างเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2566 เลือกใช้สถานที่จัดคือศูนย์การค้า
101 ทรู ดิจิทัล พาร์ค ส่วนอีก 3 ครั้งหลัง
ระหว่างเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม 2566 เตรียมจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเมกาบางนา
ผู้ที่สนใจเข้าชมความสามารถของเยาวชนไทยติดตามวันเวลากิจกรรมแต่ละครั้งได้ทาง
Facebook: Bangchak
ส่วนในวันเปิดงานเสาร์แรก
มีผู้บริหารของพันธมิตรให้เกียรติเข้าร่วมงานและสนับสนุนอย่างเต็มที่ ได้แก่ ดร.จิระพงศ์
พิพัฒนภิวงศ์ ประธานผู้อำนวยการ บริษัท วิซดอม แลนด์มาร์ก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ศูนย์การค้า 101 ทรู ดิจิทัล พาร์ค
นางสาววรุณลักษม์ พลหาญ ผู้อำนวยการเขตพระโขนง และนางสาวยุวนุช นงพรมมา
ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางนา
ข่าวที่ 6 TCEBโกยไมซ์โลกIMEXFrankfurtfมาไทย120งาน4พันล้าน
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ
เปิดเผยว่า ทีเส็บได้เข้าร่วมงานเทรดโชว์อุตสาหกรรมไมซ์ระดับโลก IMEX Frankfurt 2023 ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี นำผู้ประกอบการไมซ์ไทย 29 หน่วยงาน เจรจาธุรกิจกับลูกค้าต่างประเทศมากถึง
960 นัดหมาย
แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ผู้ประกอบการไมซ์ไทย
866 นัดหมาย ส่วนที่
2 ทีเส็บจำนวน 94 นัดหมาย
สะท้อนถึงคู่ค้านานาชาติทั่วโลกแสดงความสนใจและความเชื่อมั่นประเทศไทยในฐานะตัวเลือกระดับแถวหน้าในการจัดงานไมซ์
ภายหลังเสร็จสิ้นงานไทยเป็นประเทศได้รับความสนใจจากคู่ค้าที่มีศักยภาพเตรียมนำไมซ์เข้ามาจัด(lead) ได้มากถึง 120 งาน คาดทำรายได้เข้าประเทศ
4,035.30 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.งานประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล
(MI : Meeting &Incentive) 109 กลุ่ม มีจะนักเดินทางรวม
21,561 คน และ 2.งานประชุมนานาชาติ
(Convention) 11 งาน จะมีนักเดินทาง
39,580 คน
ภายในงาน
IMEX Frankfurt 2023
ทีเส็บได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “Thailand MICE to Meet You Year 2023”
เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ตลาดไมซ์ต่างประเทศรับรู้เพิ่มอย่างกว้างขวาง
โดยชูจุดขายพร้อมของไทยที่ได้รับการยกระดับไมซ์ในทุกมิติ
เช่น
การขยายเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าเมืองให้นักเดินทางไมซ์นานาชาติ
ที่สนามบินดอนเมือง
การเพิ่มจำนวนสถานที่จัดงานที่ได้รับมาตรฐานการจัดงานอย่างยั่งยืน และผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดงาน
การพัฒนายกระดับโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของเมืองไมซ์
พร้อมกับการเปิดตัวไทยเตรียมพร้อมจัดประชุมระดับโลก
2 รายการ คือ รายการแรก
งานประชุมสามัญประจำปีของสมาคมการประชุมนานาชาติ หรือ ICCA Annual Congress 2023 งานประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลก งานที่ 2 Annual Meetings of the World Bank
and the International Monetary Fund (IMF) 2026 เพื่อแสดงศักยภาพตอกย้ำที่ไทยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานประชุมระดับโลก
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยไปกับเทรนด์ Unseen
New Chapter พิกัด “วัดหงษ์ทอง บางปะกง” จ.ฉะเชิงเทรา ชมแสงสุดท้ายสวยสุดลับขอบฟ้าที่แปดริ้ว
เดินข้ามสะพานแก้ว ไปสักการะพระธาตุกลางทะเลแห่งแรกของโลก
จากนั้นฟังการรักษาสุขภาพกับ “4วิธีดูแลลำไส้ให้แข็งแรงปราศจากโรคร้าย”
และข่าวเด่นประจำสัปดาห์ ข่าวแรก “AWC ตั้งบริษัทศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว”
ที่ เดอะล้ง 1919 ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก ข่าวที่สอง
“แอตต้าได้งานบริการกรุ๊ปจีนประชุมWCEC” ที่ศูนย์สิริกิติ์
ท่องเที่ยว
– เที่ยววัดหงษ์ทองUnseenNewChapterบางปะกง ฉะเชิงเทรา
ออกเดินทางกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ไปเก็บแสงสุดท้ายในภาคตะวันออกใกล้กรุง เช็คพิกัด Unseen New Chapter ที่ “วัดหงษ์ทอง” ปลายสะพานแก้ว…จุดชมพระอาทิตย์ตกเมืองแปดริ้ว
ในตำบลสองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หรือ "วัดกลางน้ำ" เปิดทุกวัน 06.00
- 18.00 น.
วัดหงษ์ทอง
ตั้งอยู่ในชายทะเลล้อมรอบด้วยป่าชายเลน มีทางเดินเชื่อมจากชายฝั่งไปยัง “พระธาตุคงคามหาเจดีย์ฯ”
ซึ่งบรรจุพระธาตุพระอรหันต์ในทะเลแห่งแรกของโลก เคียงคู่กับโบสถ์กลางทะเลมายาวนาน
เมื่อครั้งอดีตเคยถูกน้ำทะเลกัดเซาะกระทั่งพื้นที่ในวัดหายไปเกินครึ่งปัจจุบันขยับอยู่กลางทะเล เป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวพากันแวะเวียนเข้ามาชมโบสถ์กลางน้ำ
อาคารในทะเล และถึงสถานที่แห่งใหม่ “ซีวอล์ค” หรือ สะพานกระจกแก้วใสทอดตัวออกไปในทะเล
มีชื่อเสียงโด่งดังว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดในเมืองแปดริ้ว มาจนถึงทุกวันนี้
ยิ่งตอนเวลาน้ำขึ้นจะตื่นตาตื่นใจมาก เพราะมองจากภายนอกเข้ามาดูคล้ายกับผู้คนกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำได้
“วัดหงษ์ทอง”
เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีประมาณ 21 ไร่ 80 ตารางวาตั้งขึ้นมากว่า
40 ปี ภายในวัดได้ก่อสร้างศูนย์พัฒนาจิต
ศาลาปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ศรนิลอนุสรณ์ ยื่นไปในทะเล โดยสร้างเจดีย์บรรจุพระธาตุในทะเลใช้ชื่อว่า
“พระธาตุคงคามหาเจดีย์ปรีชาประภากรณ์ปราชญ์ศรนิลอนุสรณ์” บรรจุพระธาตุอรหันต์ในทะเลเป็นแห่งแรกของโลก
ภายในองค์พระเจดีย์
“ชั้นล่าง” ประดิษฐานหลวงพ่อโสธร “ชั้นที่
2” ได้ประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนจริงของพระมงคลเทพมุนี
(สด จนฺทสโร) วัดปากน้ำ และประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ
พระแก้วมรกตองค์จำลอง และ “ชั้นบนสุด” เป็นที่บรรจุพระอรหันต์ธาตุไว้ในเจดีย์สีทอง
ทุกชั้นมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงเรื่องราว
พุทธประวัติ ภาพวาดของพระมหากษัตริย์ตั้งแต่อดีตจนถึงรัชกาลปัจจุบัน
รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ วัดมีกุฏิหลวงปู่ ด้านบนมีเจดีย์สีทองขนาดย่อมอยู่
จุดเด่นของวัด
“อุโบสถกลางทะเล” ภายในมีพระประธานสีทองและมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ
ด้านหลังอุโบสถมีรูปหล่อเสด็จเตี่ยหรือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นอกจากนี้แล้วที่วัดหงษ์ทองแห่งนี้
ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์, หลวงพ่อโต, ศาลพ่อปู่ชีวกโกมารภัจจ์, พระแม่คงคา ช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปีจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนมาบวชเนกขัมมะ
หรือชีพราหมณ์ สร้างบุญกุศลให้สังคม
ตอนนี้ “วัดหงษ์ทอง” เป็นหนึ่งใน Unseen New Chapter ซึ่งมีความเด่นเป็นศูนย์รวมพลังความดี
เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน
สุขภาพ -5 วิธีดูแลลำไส้ให้แข็งแรงรอดพ้นปราศจากโรคภัยร้ายแรง
สุขภาพที่ดีเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการดูแลตัวเอง
และการที่เราดูแลตัวเองต้องเริ่มต้นจากภายใน โดยเฉพาะลำไส้ เพราะลำไส้เป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายที่ไม่เพียงแต่มีหน้าที่ลำเลียงอาหารไปยังส่วนต่าง
ๆ ของร่างกาย แต่ยังมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารและลำเลียงของเสียออกจากร่างกายอีกด้วย
ทั้งนี้ลำไส้ยังเปรียบเสมือนสมองส่วนที่สองเพราะภูมิคุ้มกันเราส่วนใหญ่อยู่ที่ลำไส้
แต่ถ้าจะพูดไปแล้วลำไส้กลับถูกมองข้ามมากที่สุด
วิธีที่ 1 ดื่มน้ำสะอาดทุกวัน การดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำและงดดื่มน้ำหวาน
ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม ถือเป็นการล้างลำไส้ให้สะอาดขึ้น
แถมยังทำให้การขับถ่ายดีขึ้น
วิธีที่ 2 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ถือเป็นการดูแลลำไส้อย่างหนึ่งเนื่องจากการออกกำลังกายจะกระตุ้นลำไส้ให้มีการขยับและทำให้ขับถ่ายดีขึ้น
วิธีที่ 3 ขับถ่ายให้ตรงเวลา ทุกวัน
จะทำให้ร่างกายของเราขับของเสียออกมาเวลาเดิมทุกวัน
และการขับของเสียเวลาเดิมทุกวันจะทำให้ลำไส้ทำงานได้อย่างปกติตรงเวลา อีกทั้งการขับถ่ายยังเป็นการทำความสะอาดลำไส้อีกด้วย
วิธีที่ 4 รับประทานอาหารเวลาเดิม เป็นเรื่องหนึ่งที่ทุกคนอาจมองข้ามและไม่ให้ความสำคัญ
ซึ่งการรับประทานอาหารเวลาเดิมจะทำให้ร่างกายหลั่งน้ำย่อยออกมาเวลาเดิม
และลำไส้ก็จะมีการทำงานในเวลาเดิม ๆ จึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยดูแลลำไส้
วิธีที่ 5 การรับประทานอาหารที่ดีต่อลำไส้ ควรเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อลำไส้ของเรา
โดยอาหารที่ดีต่อลำไส้ก็คืออาหารที่มีจุลินทรีย์และเส้นใยสูง
เพราะกากใยจะช่วยทำความสะอาดลำไส้และนำสิ่งตกค้างออกจากร่างกายได้ดี
ส่วนจุลินทรีย์จะช่วยเพิ่มแบคทีเรียดีในลำไส้ทำให้ลำไส้แข็งแรง สำหรับ “อาหารที่มีจุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกาย” ได้แก่ โยเกิร์ต
นมเปรี้ยว นัตโตะ มิโซะ กิมจิ ผักเสี้ยนดิง ชาหมัก เป็นต้น ส่วนอาหารที่มีกากใยสูง
ได้แก่ ข้าวกล้อง ผักใบเขียว ถั่ว แอปเปิลเขียว อโวคาโด เป็นต้น
การดูแลลำไส้ให้มีความแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดีนั้นไม่เพียงแต่ทำให้การขับถ่ายดีเท่านั้น
แต่การมีลำไส้ที่ดียังช่วยให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
– AWCตั้งบ.ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้วเดอะล้ง1919ดึงทั่วโลกเที่ยวไทย
นางวัลลภา ไตรโสรัส
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด
(มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ บริษัท
ศาลเจ้าแม่ หม่าโจ้ว จำกัด
เพื่อเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมและดูแลบริหารศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ภายใต้โครงการ เดอะ
ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น เมื่อมีผลกำไรก็จะนำมาเพื่อใช้ทำนุบำรุงดูแลรักษาศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว
อันเป็นสาธารณประโยชน์ของสังคมและชุมชนรอบข้าง อนุรักษ์คุณค่า วัฒนธรรม
ประวัติศาสตร์ จิตวิญญาณของชุมชนให้คงอยู่ยั่งยืน
เป็นแผนงานต่อเนื่องหลังจาก AWC
เช่าที่ดินเมื่อปลายปี 2565 แล้วพลิกโฉมพื้นที่ริมน้ำประวัติศาสตร์ เป็น เดอะ
ล้ง 1919
ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น ยกระดับกรุงเทพฯ
สู่การเป็นจุดหมายปลายทางลักซ์ซัวรี่ระดับโลก ร่วมกับ แมริออต อินเตอร์เนชั่นแนล
ในการพัฒนาและบริหารโรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์ สร้างเป็นแลนด์มาร์กศูนย์สุขภาพริมน้ำในระดับสากล
หรือ The Integrated Wellness Destination
ล่าสุด AWC ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่
คือบริษัท ศาลเจ้าแม่ หม่าโจ้ว จํากัด เพื่อบริหารจัดการศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว
ตั้งเป้าทำให้เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม ภายใต้โครงการเดอะ ล้ง 1919
ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น ดึงดูดผู้คนที่นับถือได้เข้าเยี่ยมชมและกราบสักการะ
โดยจะนำกำไรกลับมาอนุรักษ์และพัฒนาศาลเจ้าแม่หม่าโจ้วต่อไป ตามความมุ่งมั่นของ AWC
ในการอนุรักษ์คุณค่าวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ และจิตวิญญาณของชุมชนให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
นางวัลลภา
ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ของ
ล้ง 1919 ซึ่ง AWC จะพัฒนาโดยอนุรักษ์คุณค่าโครงสร้างเก่าทั้ง
4 อาคารไว้
ตลอดจนวัฒนธรรมท้องถิ่น สถาปัตยกรรมและศิลปะจีนโบราณอันทรงคุณค่า
เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงประวัติศาสตร์ ควบคู่การสร้างคุณค่ายั่งยืนให้ชุมชน และส่งต่อวัฒนธรรมให้คนรุ่นต่อไปได้สักการะองค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว
ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจและที่นับถือของคนทั่วไป รวมถึงคนในชุมชนเพื่อความเป็นสิริมงคล
ภายในศาลเจ้ามีองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วประดิษฐาน
3 ปาง ได้แก่ ปางแรก ปางเด็กสาว
หรือปางจุ้ยบ๊วยเนี้ย จะประทานพรเรื่องการศึกษา คู่ครอง ปาง 2 ปางผู้ใหญ่
หรือ ปางให่ตั้งหม่า จะประทานพรเรื่องธุรกิจการค้า เงินทอง และ ปาง 3 ปางเทพ
หรือ ปางเทียนโหวเชี่ยบ้อ จะประทานพรในเรื่องของสุขภาพ ความร่ำรวย
ทาง AWC ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาชุมชนธุรกิจรอบพื้นที่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ได้จัดกิจกรรมประจำปีเพื่อสักการะองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วร่วมกับคนในชุมชน เช่น การกราบสักการะองค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว
ขอพรเสริมสิริมงคลช่วงเทศกาลตรุษจีน สารทจีน และวันไหว้พระ
เมื่อปี 2565 AWC ได้ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจาก
บริษัท หวั่งหลี จำกัด แล้วพัฒนาเป็น เดอะ ล้ง 1919
ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น จุดหมายปลายทางประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำในเวลาสั่งสมคุณค่ามานานถึง
64 ปี เพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย
สำหรับ “เจ้าแม่หม่าโจ้ว” หรือ
“เจ้าแม่ทับทิม” เปิดให้เข้าเยี่ยมชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่ 08:00 – 18:00 น.
พร้อมบริการที่จอดรถ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ตั้งอยู่คู่กับท่าเรือ “ฮวย จุ่ง ล้ง”
หรือท่าเรือ ล้ง1919 ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2393 (ค.ศ.1850)
สมัยรัชกาลที่ 4 มาจนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 170 ปี
เป็นเทพอุปถัมภ์การเดินเรือทางทะเลเส้นทางการค้าขายในอดีต
เมื่อคนจีนเดินทางจากโพ้นทะเลมาถึงไทยก็จะมากราบสักการะท่านเพื่อรับพรและเป็นการขอบคุณที่ช่วยทำให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
เมื่อเดินทางกลับไปประเทศก็จะมากราบลา “เจ้าแม่หม่าโจ้ว”
ศูนย์รวมจิตใจของผู้คนที่มาทำการค้าจนเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลให้พื้นที่ ล้ง 1919
เชื่อมโยงไปถึงทรงวาดและเยาวราช
ข่าวที่สอง
–แอตต้าได้สิทธิ์หอค้าไทย-จีนรับบริการกรุ๊ปจีนโลกประชุมWCEC
นายอดิษฐ์
ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เปิดผยว่า ในฐานะสมาคมตัวแทนนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย
ได้สิทธิ์จากสภาหอการค้าไทย-จีน รับงานบริการในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก
(World Chinese Entrepreneurs Convention-WCEC) ครั้งที่
16 ระหว่าง 24-26 มิถุนายน 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยทำหน้าที่ต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วโลกกว่า
2,000 คน
ด้วยการให้บริการนำเข้าพักโรงแรม จัดโปรแกรมนำเที่ยวครึ่งวันและเต็มวัน
พาไปรับประทานอาหารตามร้านต่าง ๆ พร้อมกับมีมัคคุเทศก์ รถขนส่ง
ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถตู้ และรถบัส
ตามแผนพร้อมนำกลุ่มนักธุรกิจทั้งหมดที่มาประชุมมีประสบการณ์เดินทางเพิ่มในเมืองไทยแบ่งเป็น
2 ส่วน
ได้แก่
ส่วนที่ 1 ท่องเที่ยวหลัก 4 เส้นทาง วัดพระแก้ว หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
(กรุงเทพฯ) วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (กรุงเทพฯ) เมืองโบราณ
(พิพิธภัณฑ์จำลอง) จังหวัดสมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา
ส่วนที่ 2 เส้นทางดูงาน
10 จุด คือ 1.FORESTIAS by MQDC บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้
ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 2.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
หรือเซเว่นอีเลฟเว่น ศูนย์กระจายสินค้า DC สุวรรณภูมิ 3.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด
(มหาชน) หรือเซเว่นอีเลฟเว่น ปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว 4.บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด
(มหาชน) 5.บริษัท นันยาง เท็กซ์ไทส์ กรุ๊ป 6.นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้
7.โรงพยาบาลเมดพาร์ค 8.บริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน) 9.บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์
จำกัด (มหาชน) และ 10.บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น