ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ในประเทศลุ้น3ไตรมาสหลังปี67ทำรายได้เพิ่ม6.1ุ6 แสนล้าน


สมฤดี จิตรจง 
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

 

ททท.ติดเทอร์โบ3ไตรมาสเที่ยวไทยเร่งเพิ่มรายได้6แสนล้าน

5ภูมิภาคโชว์ความสำเร็จQ1/67โกย68ล้านคนครั้ง4.6แสนล้าน

ดึง“แอร์ไลน์/ห้าง/แอพ”ขายเที่ยวหน้าฝน45สนง.บูม300อีเวนต์

คิงเพาเวอร์แจก3โปรฮ็อตช้อปคลายร้อนลดออนท็อปเงินคืน

ช้อปเลย!!คิงเพาเวอร์3สนามบินรับคุ้มคูณ2GiftCard+OnTop

ททท.จัด“Cars and Coffee”ปลุกคนรักรถขับเที่ยวไทย365วัน

บางจาก/กทม.ลุย“ไม่เทรวมxไม่ทอดซ้ำ”100ร้านร่วมผลิตSAF

สุขทันทีที่เที่ยวอร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวนตะวันออก9จังหวัด

5วิธีดับร้อนพกน้ำ/กินผักผลไม้ฤทธิ์เย็นผ้าเย็น/แช่เท้า/เที่ยว

AWCทุ่ม1.19หมื่นล้าน“ลานนาทีค”ดันเชียงใหม่ฮับทัวร์โลก

เจดับบลิวแมริออทฯผุด JW Gardenฟาร์มโมเดลเที่ยวยั่งยืน 

วันเสาร์ที่  2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #อร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวนภาคตะวันออก  

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/PkwUEPSfk8yNfhzK/?mibextid=oFDknk


ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “นางสาวสมฤดี จิตรจง” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โชว์ความสำเร็จไตรมาส 1 ม.ค.-มี.ค.67 ปลุกเที่ยวไทยแตะ 68 ล้านคน-ครั้ง ตุนรายได้กว่า 463,595 ล้านบาท 3 ไตรมาสหลัง ต้องทำอีก 616,405 ล้านบาท ให้เข้าเป้า 1.08 ล้านล้านบาท เร่งลุยขาย “สุขทันทีที่เที่ยวหน้าฝน” ผนึก 10 พันธมิตรใหญ่ ร่วม “สมาคมและศูนย์ประชุม” จัด 3 คอนซูเมอร์ แฟร์ ผนึก “3แอร์ไลน์ส” บางกอกแอร์ ไทยแอร์ ไทยไลออนแอร์ แจกโปร ควง “3 ห้าง” บิ๊กซี/โลตัส/แม็คโคร“นำฐานสมาชิกหลายล้านออกเที่ยว กอดคอ “3แอปพลิเคชั่น” “GRAB-โรบินฮู้ด-Klook และ 1 เครือโรงหนัง “เมเจอร์” ปิดท้าย จัดเต็ม 5 ภูมิภาค ดันโปรเจกต์หลัก แจก 45 สำนักงาน สานต่อ 300 โครงการย่อย

 นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศ ไตรมาส 1  ระหว่างมกราคม-มีนาคม 2567 มีจำนวน 67,999,727 คน-ครั้ง หรือเกือบ 68 ล้านคน-ครั้ง จากเป้าหมายตลอดทั้งปีนี้ 200 ล้านคน-ครั้ง ส่วนที่เหลือไม่น่าเป็นห่วงในอีก 3 ไตรมาส จะต้องทำเพิ่มอีก 132 ล้านคน-ครั้ง แต่ตัวเลข “รายได้” ยังไม่น่าพอใจ ทำได้แล้ว 231,797 ล้านบาท มีความท้าทายอีกพอสมควรช่วงที่เหลือ 3 ไตรมาส ต้องทำเพิ่มอีกประมาณ 8.56 แสนล้านบาท

ททท.จะต้องเผชิญความท้าทายสูงมาก แผนงานกระตุ้น“รายได้ท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น” ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย ได้แก่

ปัจจัยที่ 1 นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หันมาขับรถเที่ยว หลีกเลี่ยงตั๋วโดยสารเครื่องบินแพง แต่ปัจจจุบันราคาน้ำมันรถยนต์ก็ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ตลอด

ปัจจัยที่ 2 นักท่องเที่ยวลดค่าใช้จ่ายเรื่องทำกิจกรรมในแต่ละพื้นที่ลง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง

ปัจจัยที่ 3 ททท.ฝากความหวังไว้กับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล หากสามารถทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดี คนก็มีเงินจับจ่ายใช้สอยเดินทางพักผ่อน

ปัจจัยที่ 4 สภาพภูมิอากาศร้อนขึ้น เพิ่มความกังวลกับการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีเรื่อง ตั๋วโดยสารเครื่องบินในประเทศแพง เกิดมลพิษฝุ่น PM 2.5 ตอนนี้เกิดความท้าทายใหม่เรื่องอากาศร้อน เป็นอุปสรรคกับการท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่กลางแจ้ง คนอาจจะกลัวเป็นลมแดด แถมฤดูฝนอาจจะมาช้าด้วย

 


แต่ปี 2567 การท่องเที่ยวในประเทศที่ยังครองความนิยมทั้งจำนวนและรายได้จากคนเดินทางต่อเนื่องตลอดไตรมาส1 ปี 2567 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 เดินทางเข้าไปพักค้างคืน 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร อันดับ 2 ชลบุรี อันดับ 3 สมุทปราการ อันดับ 4 ปทุมธานี อันดับ 5นครราชสีมา 

 

กลุ่มที่ 2 เดินทางไปเช้ากลับเย็นไม่ได้พักค้างคืน 5 อันดับแรก ได้แก่  อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัดมาเที่ยวในเมืองหลวง อันดับ 2 นครราชสีมา อันดับ 3 ชลบุรี อันดับ 4 สมุทรปราการ อันดับ 5 ปทุมธานี

นางสาวสมฤดี กล่าวว่า การกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศช่วงฤดูฝนระหว่างพฤษภาคม-กันยายน 2567 ททท.จะเน้นจับมือกับพันธมิตรเอกชนวางกลยุทธ์ตลาดการขายท่องเที่ยวหน้าฝน ทำต่อเนื่องหลังจากจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ระหว่าง 28 มีนาคม -1 เมษายน 2567 เสร็จสิ้นลง ได้ฐานข้อมูลลูกค้าต้องการเที่ยวมาขยายผลทำกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมกับตั้งเป้าชัดเจนทั้งจำนวนและรายได้ที่จะกระจายสู่พื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวเป้าหมาย ขณะนี้เริ่มเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรทำแล้ว 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย

 

กลุ่มที่ 1 ศูนย์การประชุม และสมาคมการท่องเที่ยวจัด คอนซูเมอร์ แฟร์ ท่องเที่ยว รวม 3 งานใหญ่ ได้แก่

 

งานที่ 1 “Thailand Golf & Dive Expo plus OUTDOOR Fest 2024”   ระหว่างวันที่ 16-19 พฤษภาคม นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งสามารถเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีความสนใจเดินทางเฉพาะ หรือ Niche Market เช่น เล่นกอล์ฟ ดำน้ำ เที่ยวเชิงผจญภัย ตามเป้าจะดึงคนเข้าร่วมงานกว่า 55,000 ล้านบาท ทำยอดขายการท่องเที่ยวภายในงานไม่ต่ำกว่า 190 ล้านบาท

 

งานที่ 2 ไทยเที่ยวไทย จัดทั้งหมด 3 ครั้ง ททท.จะเข้าร่วมงานระหว่างวันที่ 27-30 พฤษภาคม 2567 ซื้อพื้นที่ขนาดใหญ่กระตุ้นผู้เข้าร่วมงานมากถึง 300,000 คน ซื้อขายแพกเกจท่องเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

 

งานที่ 3 Inter Care Asia 2024 ททท.หารือกับทางศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เน้นเวลเนส สปา จากชุมชน เพิ่มมากขึ้น ดึงคนเข้าร่วม 14,000 คน สร้างรายได้สะพัด 120 ล้านบาท

 

กลุ่มที่ 2 จับมือกับ 3 สายการบินในประเทศ ผลิตแคมเปญท่องเที่ยวหน้าฝนพฤษภาคม-สิงหาคม 2567 โดยร่วมกับ 3 สายการบิน ได้แก่

 

สายการบินแรก “บางกอก แอร์เวย์ส” ทำโครงการวันธรรมดา น่าเที่ยว ช่วงพฤษภาคม-สิงหาคม นี้ ตั้งเป้าขายนักเดินทาง 10,000 แพ็ก สร้างรายได้ 50 ล้านบาท จะเน้นทำการตลาดร่วมกันไม่เน้นลดราคาตั๋วโดยสารเครื่องบิน หันไปใช้ KOL กับอินฟลูเอนเซอร์ สร้างกระแสการท่องเที่ยวพื้นที่เป้าหมายเป็นหลัก

 

สายการบินที่ 2 ไทย แอร์ เอเชีย ทำโครงการ “เที่ยวเมืองไทย ฉ่ำใจ ฟิลแบบนี้ ปีละครั้ง” เน้นขายการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ซึ่งมีเที่ยวบินเข้าถึงใน ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ตั้งเป้าเกิดการเดินทาง 100,000 คน ทำรายได้ 440 ล้านบาท

 

สายการบินที่ 3 ไทย ไลออน แอร์ ทำโครงการ “เที่ยวใต้ ก่อนฝน ก่อนใคร” เริ่มทำแล้วจะไปสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2567 เป็นกลยุทธ์ปิดจุดอ่อนพื้นที่ซึ่งมีต่างชาติท่องเที่ยวไม่มากช่วงโลว์ซีซัน ในนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง หาดใหญ่(สงขลา) ตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวกว่า 12,000 คน สร้างรายได้กว่า 48 ล้านบาท

 

กลุ่มที่ 3 ห้างสรรพสินค้า แพลตฟอร์ม ออนไลน์ ด้านการท่องเที่ยว  ซึ่งมีฐานสมาชิกอยู่ในแอปพลิเคชั่นหลัก 3 ล้านคนขึ้นไป ททท.สามารถพ่วงกิจกรรมท่องเที่ยวเข้าไปด้วย เบื้องต้นกำลังทำการตลาดร่วมกัน 6 พันธมิตร ดังนี้

 

1.ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีทั่วประเทศ พร้อมจะใช้ฐานสมาชิกกระตุ้นการเดินทางตลอดกิจกรรมได้กว่า 200,000 คน ทำรายได้ 800 ล้านบาท 

 

2.ห้างสรรพสินค้าโลตัส ทำโครงการ “ขับรถเที่ยว อย่าลืมเลี้ยวโลตัส” เพิ่งปิดโครงการเดือนเมษายน กำลังเจรจาทำต่อเนื่องเดือนพฤษภาคม 2567 โดยจะผนวกแม็คโครห้างค้าส่งสินค้าเข้ามาร่วมด้วย

 

3.GRAB บริการโลจิสติกส์การเดินทาง มีฐานลูกค้า 7-8 ล้านคน จะช่วยสร้างการเดินทางท่องเที่ยวไทย 300,000 คน ทำรายได้ 1,200 ล้านบาท 

4.โรบินฮู้ด เป็นแพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่นบริการในเครือของธนาคารไทยพาณิชย์ มีฐานสมาชิกจำนวนมาก ทางโรบินฮู้ดเปิดให้เข้าจองซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบินในประเทศ วันนี้-มิถุนายน รับส่วนลดทันทีครั้งละ 250 บาท ส่วน ททท.จะเข้าไปช่วยสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยว ตั้งเป้าเพิ่มยอดคนเดินทางได้อีกประมาณ 20,000 คน

 

5.KLOOK แพลตฟอร์มออนไลน์ครบวงจรด้านการท่องเที่ยว จะเริ่มทำโครงการประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2567 จะเน้นการขายกิจกรรมท่องเที่ยว ตามปกติฐานสมาชิกเป็นกลุ่มคนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศ ให้หันมาเลือกเที่ยวเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น

6.เครือเมเจอร์ เจ้าของโรงภาพยนตร์ เข้ามาเสริมทัพฐานสมาชิกคนรุ่นใหม่ Gen Y, Z ออกเดินทางท่องเที่ยว เมษายน-มิถุนายน 2567 ไม่ต่ำกว่า 90,000 คน

 

กลุ่มที่ 4 สำนักงาน ททท.ในประเทศ ทั่วไทยมีทั้งหมด 45 สำนักงาน โดยมีส่วนกลางคอยบริหารจัดการแบ่งเป็น 5 ภูมิภาค คือ ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำหน้าที่ผลิตโครงการท่องเที่ยวหลัก “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ซึ่งมีแผนรองรับอยู่แล้วไม่ต่ำกว่า 300 โครงการย่อย ซึ่ง ททท.สำนักงานพื้นที่ทั้งหมดพร้อมรับไม้ต่อกระจายทำกิจกรรมท่องเที่ยวพื้นที่ ต่อด้วยโครงการ “สุขทันทีที่เที่ยวหน้าฝน” กระตุ้นจำนวนและรายได้นักท่องเที่ยวตลอดทั้งฤดูฝนปีนี้

 

            นางสาวสมฤดี กล่าวว่า ได้เตรียมแผนส่งไม้ต่อตลาดในประเทศตามแผนปี 2567 ต่อเนื่องปี 2568 ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ คือ กลยุทธ์ที่ 1 วางแผนการบริหารจัดการงบประมาณตลาด ปิดจุดอ่อนเดือนตุลาคมของทุกปีต้องเผชิญปัญหาไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ จากหลายปัจจัย เช่น งบประมาณมาถึงล่าช้า หรืออื่น ๆ

 

กลยุทธ์ที่ 2 เริ่มประชุมแผนพแผนปฏิบัติการท่องเที่ยวประจำปี 2568 :TATAP 2025” เดือนพฤษภาคมนี้ มอบนโยบายททท.ในประเทศทุกสำนักงาน เร่งทำการบ้านแผนส่งเสริมตลาดการขายปีต่อไปเพื่อจะนำเสนอการประชุมใหญ่เดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งจะนำไปเริ่มใช้ปีจริง เดือนตุลาคม 2567-กันยายน 2568

           

ขณะนี้เจออุปสรรคคือ ททท.ไม่สามารถหาแหล่งท่องเที่ยว Unseen เพิ่มขึ้นได้ แต่จะปรับกลยุทธ์หันไปคัดเลือกพื้นที่ท่องเที่ยวในชุมชนซึ่งมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมโดดเด่นเป็นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่มีเรื่องเล่า ตัวอย่าง สงกรานต์บ้านแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย เชื่อมต่อกับ “แห่ข้าวพันก้อนพระธาตุศรีสองรักษ์” อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย

 

            กลยุทธ์ที่ 3 ดีไซน์การท่องเที่ยวรับมือกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เช่น ภาคเหนือ ปี 2567 ทำรายได้เพิ่มอันดับ 3 แต่มาเจอกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 จึงไม่สามารถทำได้ตามเป้า ททท.จึงต้องแก้จุดอ่อนโดยจะขยับการท่องเที่ยวหน้าฝนกับปลายฝนต้นหนาวให้ยาวมากขึ้น เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด 

 

            นางสาวสมฤดี กล่าวว่า ตลอดการทำงาน ททท.มา 37 ปี เดินทางลงพื้นที่ทั่วเมืองไทยที่จะบอกต่อ “เที่ยวหน้าฝน” สวยสุด ๆ แล้วพลิกมุมใหม่หันมาเที่ยวแบบ “สุขทันทีที่เที่ยวหน้าฝน” ในเมืองไทยให้มีความสนุก เขียวขจี เย็นสบาย ไปด้วยกัน

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์แจก3โปรฮ็อตช้อปคลายร้อนลดออนท็อปเงินคืน

 

คิง เพาเวอร์ ให้คลายร้อนจัดโปรแรง วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต 3 โปรฮ็อต

 

โปรฮอตแรก “สมาชิก คิง เพาเวอร์” ช้อปครบตามเงื่อนไข

 

1.รับส่วนลด ON TOP จากสถานะสมาชิก สูงสุด 8,000 บาท ให้ส่วนลดสูงสุด 8,000 บาท หรือ ยอดซื้อสินค้าที่เข้าร่วมรายการไม่เกิน 120,000 บาท (สุทธิ) / ใบเสร็จ

 

2.รับส่วนลดทันที 800 บาท  เพียงช้อปครบทุก 12,000 บาท (สุทธิ) / ใบเสร็จ

 

โปรฮ็อตที่ 2 “รับคุ้มกว่าเดิม รับคืนแรงให้สุดฮอต” กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 17% หรือแบ่งชำระนานสูงสุด 10 เดือน + แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12 %

 

โปรฮอตที่ 3 สมัครสมาชิกใหม่ สมัครสมาชิก NAVY ฟรี! จากปกติเติมเงิน 1,000 บาท พร้อมรับส่วนลดทุกการช้อป 5% และสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก

 

สมัครสมาชิก SCARLET และเติมเงิน 20,000 บาท รับฟรี! GIFT CARD 3,500 บาท* สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่ามากกว่า 3,500 บาทขึ้นไป รับฟรี! 300 กะรัต* สามารถใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า 300 บาท ได้รับทั้งผู้แนะนำและผู้สมัคร

 

เฉพาะการสมัครผ่าน LINE Official Account : @KINGPOWER และเว็บไซต์ Member1.kingpower.com เท่านั้นพร้อมรับส่วนลดทุกการช้อป 10% และสิทธิประโยชน์สมาชิก

 

สมัครสมาชิกง่าย ๆ ได้ที่ LINE @KINGPOWER หรือที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต

             

ข่าวที่ 2 ช้อปเลย!!คิงเพาเวอร์3สนามบินรับคุ้มคูณ2GiftCard+OnTop

 

โปรดทราบ !! นักท่องเที่ยวทุกคนก่อนขึ้นเครื่องไปต่างประเทศทุกทริปแวะมาได้เลย ! ช้อป ดิวตี้ ฟรี สุดคุ้มคูณ 2  รับโปรโมชั่นได้ที่สนามบินหลักผ่านเข้าออกประเทศตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2567

 

โปรโมชั่นแรก ร้านต่าง ๆ ในสนามบิน “สุวรรณภูมิ”

 

1.รับฟรีทันที! GIFT CARD 2,000 บาท* เมื่อซื้อ CASH CARD 18,000 บาท

 

2.หากยังไม่เป็นสมาชิก รับฟรี! สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET

 

โปรโมชั่นที่ 2 อีก 2 สนามบิน “ดอนเมืองและภูเก็ต”

 

1.รับฟรีทันที! GIFT CARD 1,000 บาท* เมื่อซื้อ CASH CARD 10,000 บาท

 

2.หากยังไม่เป็นสมาชิก รับฟรี! สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY

 

รับคุ้ม ลดแล้วลดอีก! ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับส่วนลดตามสถานะสมาชิกสูงสุด 20%

แถมยังให้สิทธิ์ผ่อนสบาย 0% นานสูงสุด 10 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ 

 

รวมทั้งมีดีลดีให้ช้อป ดิวตี้ ฟรี สุดคุ้มเพียบ สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับส่วนลดพิเศษ

 

ช้อปน้ำหอมและเครื่องสำอาง รับส่วนลด ON TOP สูงสุด 10% ช้อปครบ 3,500 บาท ลด เพิ่ม 5% ช้อปครบ 8,000 บาท ลด เพิ่ม 7% ช้อปครบ 12,000 บาท ลด เพิ่ม 10%

 

รับส่วนลดได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 พ.ค. 67  ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

 

ไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้รับโปรดีไม่มีกั๊ก “ดีลดีสุวรรณภูมิ” รับฟรีทันที GIFT CARD 2,000 บาท + สถานะสมาชิก SCARLET ฟรี เมื่อซื้อ CASH CARD 18,000 บาท สามารถใช้ร่วมกับคูปองส่วนลด ONE DAY MEMBERSHIP วันนี้ – 31 พ.ค. 67  ที่ คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ เท่านั้น

 

“ดีลดีดอนเมืองและภูเก็ต” รับฟรีทันที GIFT CARD 1,000 บาท + สถานะสมาชิก NAVY ฟรีเมื่อซื้อ CASH CARD 10,000 บาท *สามารถใช้ร่วมกับคูปองส่วนลด ONE DAY MEMBERSHIP วันนี้– 31 พ.ค. 67  ที่ คิง เพาเวอร์ สนามบินดอนเมือง และภูเก็ต

 

สมัครสมาชิกใหม่ที่สนามบิน รับฟรีสูงสุด 3,300 บาท สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET และเติมเงิน 20,000 บาทรับฟรี GIFT CARD 3,000 บาท ชวนเพื่อนสมัครรับเพิ่มอีก 300 กะรัต ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

 

ข่าวที่ 3  ททท.จัดCars and Coffee”ปลุกคนรักรถเที่ยวไทย365วัน

 

 

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หอการค้า และจังหวัดนครราชสีมา จัดมหกรรมโครงการ “Cars and Coffee on Vacation” เปิดประสบการณ์ขับรถท่องเที่ยวตามคาเฟ่เก๋ ๆ ทั่วนครราชสีมา มีกลุ่มคนรักรถเข้าร่วมกิจกรรม 500 คัน รวมกว่า 2,000 คน   เดินหน้าสนับสนุนโครงการ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวออกไปแสวงหาโมเมนต์แห่งความสุขในการเดินทาง พร้อมกับส่งเสริมคอนเซ็ปต์เมืองไทยเที่ยวได้ 365 วัน

 

โดยมีกลุ่มผู้ขับรถท่องเที่ยวเข้าร่วมโครงการกับ ททท.จากทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือและข้ามภูมิภาค รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชื่นชอบและสนใจรถยนต์ประเภทสวยงามจาก 3 ประเทศ คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ สปป.ลาว  สร้างจุดขายการท่องเที่ยวในประเทศให้โดดเด่น 4 เรื่อง ได้แก่

 

เรื่องที่ 1 สร้างสรรค์กิจกรรมตามความสนใจ สร้างการจดจำ ความสุขและความประทับใจได้ทันที ตั้งแต่เริ่มวางแผนเดินทางจนถึงสิ้นสุดทริป เรื่องที่ 2 ขยายฐานตลาดการท่องเที่ยวทั่วอีสาน เรื่องที่ 3 ททท.ได้สื่อสารการตลาดสร้างกระแสออกเดินทางไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทยได้ทุกวันตลอดทั้งปี 4.ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand

 

 

นายนิธี กล่าวว่า ททท.ส่งเสริมการจัดงาน Cars and Coffee Vacation ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 11 มุ่งขยายฐานตลาดกลุ่มความสนใจเฉพาะ (Niche Market) กำลังนิยมและชื่นชอบยานยนต์ เช่น รถยนต์ประเภทต่าง ๆ และมอเตอร์ไซต์ โดยมี คาร์ คลับ มีตติ้ง สร้างคอมมูนิตี้กลุ่มคนรักรถขึ้นเพื่อสร้างแรงจูงใจออกเดินทางไปพบปะสังสรรค์กัน ประการสำคัญเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพมีกำลังซื้อสูงและยินดีจ่ายเงินท่องเที่ยวตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง ช่วยกระจายรายได้ไปยังผู้ประกอบการธุรกิจ ร้านค้า ชุมชน เชื่อมโยงสู่พื้นที่ใกล้เคียงเติบโตได้ด้วย

 

เป็นการเพิ่มความสำเร็จต่อยอดจาก 10 ครั้งแรก ททท.และพันธมิตรอื่น ๆ กระจายจัดโครงการดังกล่าวตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ เพชรบุรี สงขลา นครราชสีมา แล้วได้รับความนิยมเติบโตทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว รายได้กระจายเข้าสู่พื้นที่สูงขึ้น และสร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น

 

ส่วนครั้งนี้ ททท.มุ่งนำเสนออัตลักษณ์จังหวัดนครราชสีมาที่โดดเด่นภายใต้แนวคิด “Amazing Sticky Ride Vacation” ส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบเร้าใจ สื่อสาร ซอฟท์ พาวเวอร์ ไทยแลนด์ ด้วยวิธีตกแต่งสถานที่เสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวตลอดงานมีไฮไลต์ที่น่าสนใจ 4 กิจกรรม ได้แก่

 

กิจกรรมที่ 1 ลานจัดแสดงรถสวยงามจากผู้ชื่นชอบยานยนต์ขับมาร่วมงาน เช่น Honda S2000, Nissan Skyline GTR R 34, Honda Civic Type R – Ek9, Toyota Corolla AE86 โดยมีพิธีกรนักแข่งรถชื่อดัง บีม ศรัณยู ประชากริช เป็นแม่เหล็กดึงดูดคนเข้าร่วมงาน

 

กิจกรรมที่ 2 การแสดงดนตรีบนเวทีของเล่าดีเจชื่อดัง DJ Bomber Selecta แชมป์รายการ Red bull 3style และ DJ Poom-Tharn จะมา Scratch โชว์สร้างสีสันภายในงาน ให้แฟนคลับเก็บภาพความประทับใจร่วมแชะแอนด์แชร์ โพสท่าถ่ายรูปที่ โฟโต้ บูธ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” แต่งแต้มลวดลายสุดเก๋สไตล์มินิมอลเอกลักษณ์เมืองโคราชบนร่างกายภายในบูทแท็ตทู

 

กิจกรรมที่ 3 อิ่มอร่อยกับขบวนฟู้ด ทรัค ร้านเด็ดทั่วนครราชสียกทัพความอร่อยมาเสิร์ฟถึงที่ เช่น เฮงผัดหมี่โคราช ซดเตี๋ยว เฮงดีจังหมูกระทะ สิทกริว

 

กิจกรรมที่ 4 เป็นไฮไลต์ให้ทุกคนมาร่วมลุ้นหาผู้ชนะเลิศการประกวดประเภทรถสวยงามและรถเตี้ย ลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษมากมาย  

 

ข่าวที่ 4 บางจาก-กทม.ลุย“ไม่เทรวมxไม่ทอดซ้ำ”100ร้านร่วมผลิตSAF

  

นายนิพนธ์ เลิศทัศนีย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารโครงการ วิศวกรรมและโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมผู้บริหารและพนักงานบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด ร่วมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการ ไม่เทรวม x ไม่ทอดซ้ำ เพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 110 ร้าน บนถนน 4 เส้นทางในเขตปทุมวัน

 

โดยมี นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์  ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนกรุงเทพมหานคร นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ผู้บริหารและพนักงานกรมอนามัย ร่วมงาน ณ ถนนบรรทัดทอง ฝั่งคลองสวนหลวง เขตปทุมวัน

 

การเดินรณรงค์ดังกล่าว มีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ความเข้าใจเรื่อง การแยกประเภทขยะก่อนทิ้ง ประโยชน์ของการไม่ทอดซ้ำและแยกน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วเพื่อนำมาผลิต SAF ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภคจากการรับประทานอาหารที่ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ดีต่อสิ่งแวดล้อมจากการไม่ทิ้งน้ำมันใช้แล้วลงสู่พื้นที่สาธารณะ

 

ซึ่งช่วยลดมลภาวะ และสร้างรายได้เสริมจากการนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วมาจำหน่าย ซึ่งบางจากฯ  ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการ “ไม่ทอดซ้ำ” กับกรมอนามัย

           

ช่วงที่ 2 สาวกผลไม้เลิฟเวอร์ เที่ยวไทยปักหมุด “ภาคตะวันออก” ได้แล้ว พ.ค.-ก.ค.นี้ สวนผลไม้ให้เช็คอินชิมช้อปแชะแชร์ชิลใน 9 จังหวัด อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน แล้วฟัง “5วิธีดับร้อน” พกน้ำดื่ม-กินผักผลไม้ฤทธิ์เย็น-แช่เท้า-ติดผ้าเย็น-เที่ยวน้ำตกทะเล” และฟังข่าวสาระดี ๆ ข่าวแรก “AWC ทุ่ม 1.19หมื่นล้านผุดลานนาทีค” ดันเชียงใหม่ฮับโลก ข่าวที่สอง “เจดับพลิวแมริออตเขาหลัก” เปิด JW Garden รีสอร์ตรักษ์โลกแห่งแรกในเอเชีย

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีที่เที่ยวอร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวนทั่วตะวันออก9จังหวัด

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดพื้นที่ภาคตะวันออกเปิดฤดูท่องเที่ยวสวนผลไม้โครงการ “อร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวน” ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2567 ในธีม “คัลเลอร์ฟูล บูรพา/Colorful Burapha” ชวนไปเช็คอินสวนผลไม้ พาตะลุย ชมไปชิมไป เอาใจสายกิน วนไปทุกสวน

 

ตลอดพฤษภาคม -กรกฎาคม 2567 เปิดพิกัดสวนผลไม้ โรงแรม ร้านอาหารทั่วภาคตะวันออกทั้ง 9 จังหวัด ให้เช็คอินกันแบบรัว  ๆ แบบโดน ๆ ได้ตามชอบ ดังนี้

 

 

“จังหวัดระยอง” จัดแคมเปญ #RayongWanderFruit2024 ทำโปรโมชันแจกส่วนลดพิเศษร่วมกับสวนผลไม้ที่เข้าร่วมโครงการ 32 สวน เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อผลไม้ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป รับส่วนลด 100 บาท ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม - 31 กรกฎาคม 2567 

 

“จังหวัดจันทบุรี” จัดแคมเปญ #เที่ยวกินฟินกับผลไม้เมืองจันท์ ชวนสัมผัสฤดูแห่งความสุข ณ มหานครผลไม้ ทำโปรโมชันกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โรงแรม 20 แห่ง ร้านอาหารและคาเฟ่ 21 แห่ง สวนผลไม้ 14 แห่ง เริ่ม 1 พฤษภาคม  - 15 มิถุนายน 2567 แจกส่วนลดพิเศษ 1,000 สิทธิ์

 

“จังหวัดตราด” จัดแคมเปญ #อร่อยทันทีที่เที่ยวตราด คัดสรรผลไม้มาตรฐานสินค้าที่มี GI แหล่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของตราด คือ ทุเรียนสายพันธุ์ชะนีเกาะช้าง ระกำหวาน สัปปะรดตราดสีทอง เชิญชวนนักท่องเที่ยวจองแพ็กเกจทัวร์สวนผลไม้ตราด 16 สวน และบุฟเฟ่ต์เมืองตราด อร่อยสะหงาด เริ่ม 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2567 

 

“จังหวัดชลบุรี” จัดแคมเปญ #ก็มีนะทุเรียน เปิดเทศกาลทุเรียน ผลไม้อื่น ๆ  และของดีบ่อทอง (OTOP) ระหว่างวันที่ 17-26 พฤษภาคม 2567 บริเวณที่ว่าการอำเภอบ่อทอง  พบกับ กลุ่มแรก “สับปะรดศรีราชา”สินค้า GI เมืองชลบุรี กลิ่นหอม รสชาติหวานฉ่ำ มีผลผลิตออกทั้งปีจะมีมากสุดช่วงเมษายน – มิถุนายน 2567 และเดือน ตุลาคม- ธันวาคม 2567 กลุ่มที่ 2 คาเฟ่ แฟชั่น ฟรุ้ต” เอาใจคนรักทุเรียนต้องได้ชิมเมนูแนะนำจัดขึ้นพิเศษเฉพาะฤดูกาลนี้เท่านั้น

 

“จังหวัดฉะเชิงเทรา” เปิดสวนแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้นชื่อ 2 ชนิด ได้แก่ “สวนมะพร้าว” ท่องเที่ยวได้ตลอดปี มีมะพร้าวน้ำหอมดื่มแล้วชื่นใจ และ “สวนมะม่วง” ทุกปีจะเที่ยวได้ช่วงกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม ลองชิมมะม่วงสายพันธุ์ต่างๆ เช่น น้ำดอกไม้สีทอง ขายตึก แรด เขียวเสวย อกร่อง ฟ้าลั่น ทวายเดือนเก้า โชคอนันต์ และอื่น ๆ   

 

โดยมีบริการคาเฟ่เก๋ ๆ นั่งฟินสบาย ๆ หลายแห่งนำวัตถุดิบมะม่วงกับมะพร้าวไว้บริการ เช่น  Coco Milky Coffee Coconut Latte ข้าวเหนียวมะม่วงเจลลี่ชีสเค้ก ไอศกรีมมะม่วง

 

“จังหวัดปราจีนบุรี” สายทุเรียนเลิฟเว่อร์ต้องมาหนึ่งปีมีครั้งเดียวสินค้า GI ประจำถิ่นมีให้ชิมถึง 7 สายพันธุ์ ได้แก่ ก้านยาว หมอนทอง ชะนี กระดุมทอง และกลุ่มพื้นเมืองอีก 3 สายพันธุ์  ได้แก่ กบชายน้ำ ชมพูศรี และพันธุ์กำปั่น ผลผลิตเริ่มสุกรับประทานได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม 2567

 

“จังหวัดนครนายก” เป็นอีกพื้นที่ท่องเที่ยวอร่อยกับทุเรียนและผลไม้อื่น ๆ เริ่มกลางเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2567 แนะนำเมนู แฟชั่น ฟรุ้ต จากมะยงชิด เสิร์ฟคลายร้อน ตลอดฤดูเที่ยวสวนผลไม้

 

“จังหวัดสระแก้ว” แหล่งผลไม้สุขภาพอย่างแคนตาลูป 2 พันธุ์ยอดนิยมคือ ฮันนี่เวิลด์ ท็อปมารีน พร้อมกับสวนชมพู่รสชาติดี เที่ยวได้ตั้งแต่วันนี้ – มิถุนายน 2567 

 

“จังหวัดสมุทรปราการ” ตะลอนทัวร์ชิมอาหารถิ่น 6 ตำบล “รอบคุ้งบางกระเจ้า” ร้านอาหารในชุมชนนำวัตถุดิบพื้นบ้านมาปรุงอย่างพิถีพิถันเป็นเมนูเรียกสายกินต้องมาชิมแชะแชร์ เช่น เมี่ยงกลีบบัวพริกเกลือ แกงกระเจี๊ยบกุ้ง ห่อหมกปลาช่อนบางยอ แกงมัสมั่นลูกจากพริกเกลือคั่วมะพร้าว แกงส้มพริกสด ปลาทอดซอสตะลิงปิง ไฮไลต์ใน “ชุมชนบ้านสาขลา” มี “กุ้งเหยียด” เป็นเมนูอัตลักษณ์ อยู่ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ สามารถเดินทางมา เที่ยว กิน ฟิน ฟัน ได้ตลอดทั้งปี

 

สุขภาพ –5วิธีดับร้อน“พกน้ำ/กินผักผลไม้ฤทธิ์เย็นผ้าเย็น/แช่เท้า/เที่ยว”

 

ร้อนแบบนี้ ถ้ามีข้อแนะนำดี ๆ ต้องรีบมาบอกกัน เพื่อลดอาการเจ็บป่วย ยิ่งวิธีที่ทำได้ทันที ไม่ได้ยากอย่างที่คิด กับ 5 วิธี ดังนี้

1.พกขวดน้ำไว้ติดตัว เมื่อเรารู้สึกกระหายน้ำนั่นคือสัญญาณจากร่างกายว่าต้องการน้ำอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่ควรรอให้กระหายน้ำ เพียงแค่พกขวดน้ำติดตัวไว้ก็ช่วยให้คุณดื่มน้ำได้ตลอดเวลา ร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำ

 

          2.ทานผักผลไม้ ผักผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นจะช่วยลดความร้อนและปรับสมดุลภายในร่างกาย จึงควรทาน “ผักมีฤทธิ์เย็น” เช่น ผักบุ้ง ตำลึง ผักกาดขาว ผักหวาน บวบ ฟัก แฟง มะละกอดิบ แตงกวา กระเจี๊ยบเขียว ข้าวโพด และ “ผลไม้มีฤทธิ์เย็น” เช่น มังคุด มะยม แตงโม แคนตาลูป ส้ม แก้วมังกร ชมพู่

 

          3.ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หากอยู่นอกบ้านแล้วรู้สึกร้อนมาก ๆ ควรใช้ผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ ชุบน้ำแล้วนำมาเช็ดตัว โดยเช็ดย้อนรูขุมขน เพื่อระบายความร้อนได้ดี และควรเช็ดตามจุดชีพจรในร่างกาย คอ ข้อมือ ข้อพับ ขมับ จะช่วยลดอุณหภูมิภายในเส้นเลือดให้ร่างกายรู้สึกเย็นขึ้นมาในทันที

 

          4.แช่เท้า เพราะจะช่วยให้ร่างกายเราเย็นลง เพียงแค่นำกะละมังเล็ก ๆ ใส่น้ำและน้ำแข็งลงไป จากนั้นแช่เท้าสักครู่จะช่วยให้ร่างกายคลายความร้อนได้

         

5.ไปเที่ยวพักผ่อนหนีร้อน ไปน้ำตก ทะเล หรือว่ายน้ำ นั่งเล่นตามสวนสาธารณะช่วงเย็น ๆ นอกจากคลายร้อนแล้ว ยังเป็นวิธีที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้อีกด้วยเป็นเรื่องใกล้ตัวใช่ไหมคะ สำหรับการดูแลตัวเองในช่วงอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ หวังว่าทุกคน

จะดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ สวมใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ และรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ๆ สม่ำเสมอ และนำวิธีการดูแลตนเองในหน้าร้อนแบบนี้ไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อความสบายใจและปลอดภัย แถมสุขภาพร่างกายแข็งแรงได้ด้วยตัวเอง

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –AWCทุ่ม1.19หมื่นล้าน“ลานนาทีค”ดันเชียงใหม่ฮับทัวร์โลก

 

 

 นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท       แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) “AWC” เปิดเผยว่า ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการ ลานนาทีค เดสทิเนชั่น รวมมูลค่า 11,950 ล้านบาท เป็นโครงการอสังหาริทรัพย์ที่จะร่วมสร้างคุณค่าผลักดันเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกใจกลางเมืองเชียงใหม่   ล่าสุดทางผู้ถือหุ้นอนุมัติให้เข้าลงทุนในทรัพย์สินบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านช้างคลานรวม 3 โครงการ ได้แก่ 1.เชียงใหม่ ไนท์ บาร์ซา 2.กาแล ไนท์ บาร์ซา 3.เดอะ พลาซ่า เชียงใหม่

 

ตั้งเป้าเปิดธุรกิจ 3 บริการ ประกอบด้วย 1.โรงแรมแบรนด์ระดับลักชูรี 2.สร้างสวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกของเชียงใหม่ 3.จุดหมายปลายทางที่ผสมผสานงานศิลปวัฒนธรรม ล้านนา ดนตรีการแสดง ร้านค้าร้านอาหารมากมาย รวมความสุขความสนุกสนานและความอร่อยไว้ในที่เดียวกัน การลงทุนทั้งหมดจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์พร้อมจะเป็นแรงบันดาลใจสร้างความสุขให้ทุกคน

 

นางวัลลภา กล่าวว่า ขณะนี้ทาง AWC พัฒนาธุรกิจย่านช้างคลานอยู่แล้วมีโรงแรม 3 แห่ง ศูนย์การค้า 1 แห่ง อนาคตจะมีโครงการลานนาทีค เดสทิเนชั่น ทำโรงแรมแห่งใหม่อีก 3 แห่ง สวนน้ำในโรงแรมเชียงใหม่ ร้านค้าร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่าง  โดยมีพันธมิตรชั้นนำระดับโลกร่วมด้วยกว่า 10 ราย จะมาช่วยสร้างไฮไลท์ให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว  เฟส 1 จะเริ่มเปิดให้บริการปลายปี 2567  ส่วนเฟสอื่น ๆ จะทยอยเปิดต่อเนื่อง 5 ปีหน้า  

 

AWC ได้วางแผนการลงทุนพัฒนาลานนาทีค เดสทิเนชั่น ภายใต้เอกลักษณ์โดดเด่นด้านศิลปะ อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของนักท่องเที่ยวท้องถิ่นและนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก กระตุ้นตลาดกลุ่ม นักเดินทางที่หลงใหลในวัฒนธรรม คนรักงานศิลปะ กลุ่มเพื่อน คู่รัก ครอบครัว ในทุกเจเนอเรชั่น

 

โดยนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมล้านนาและศิลปะสมัยใหม่ สร้างศูนย์กลางงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุด สะท้อนคุณค่าและเสน่ห์งานศิลปวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของล้านนา งานช่างสิบหมู่ ต่อเนื่องถึงแรงบันดาลใจและงานศิลปะร่วมสมัย ศิลปะนานาชาติ ศิลปะดิจิทัล การออกแบบเชิงนวัตกรรม เพื่อสร้างศูนย์กลางแห่งแรงบัลดาลใจและความสวยงามให้ผู้คนจากทั่วโลกที่รักในงานศิลปะรวมถึงวงการนักลงทุนและนักสะสมงานศิลปะระดับโลก บูรณาการไลฟ์สไตล์และความบันเทิงหลากหลาย

 

รวมถึงมุ่งสร้างจุดหมายปลายทางผสมผสานไลฟ์สไตล์และความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ งานดนตรีการแสดง ความสนุกสนานมากมาย  สวนน้ำ  ตลาดไลฟ์สไตล์ ฟู้ดเลานจ์ แหล่งรวมความสุข ความสนุก ความอร่อยมากมาย และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทำให้เกิดคุณค่าเพื่ออนาคตที่ดีกว่าให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม เศรษฐกิจ เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

 

 

นางวัลลภา กล่าวว่า ผู้ถือหุ้น AWC ยังได้อนุมัติให้เข้าลงทุนเพิ่มในโครงการอสังหาริมทรัพย์บนพื้นที่ระดับไพรม์โลเคชั่นในกรุงเทพฯ อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการแรก โอพี การ์เด้น ย่านบางรัก เพื่อเชื่อมต่อกับแฟลกชิป โรงแรม เดอะ พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา แบงคอก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งเสริมเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวริมสายน้ำ คาดจะเปิดได้ประมาณไตรมาส 4 ปี 2570

 

โครงการที่ 2 โรงแรมถนนสุขุมวิท 38 ย่านไลฟ์สไตล์สุดเทรนดี้ของกรุงเทพฯ เน้นโรงแรมเวลเนส คาดจะเปิดไตรมาสที่ 3 ปี 2571 จะสนับสนุนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก ช่วยสะท้อนความมุ่งมั่นของ AWC รุกทำธุรกิจตามกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยพันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” ต่อไป   

 

ข่าวที่สอง -เจดับบลิวแมริออทฯผุด JW Gardenฟาร์มโมเดลเที่ยวยั่งยืน

 

มร.แอบบิห์มันยู ซิงห์ ผู้จัดการทั่วไป เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก จังหวัดพังงา แบรนด์ที่พักในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ทางรีสอร์ตได้เปิดตัวโครงการฟาร์มครบวงจร JW GARDEN เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์รูปแบบใหม่อันเป็นหัวใจหลักของความมุ่งมั่นอนุรักษ์ธรรมชาติ สร้างการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และสุขภาพจิตที่ดีแบบองค์รวม ผนวกเข้ากับวิถีรักษ์โลก ด้วยการเน้นเก็บผลผลิตส่งตรงจากฟาร์มคงความสดใหม่ให้ได้มากที่สุด จากแหล่งที่มั่นใจ แล้วนำไปปรุงเมนูอาหาร หรือ Farm-to-table ให้นักท่องเที่ยวหรือผู้เข้าพักทุกคนได้รับประสบการณ์ในกิจกรรมต่าง ๆ ไปจนถึงการทำสปา เจริญสติและการอยู่กับปัจจุบัน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้รักธรรมชาติและส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีให้อยู่ในความทรงจำของผู้เข้าพักทั้งหมด

 

                ในฟาร์ม JW Garden มีพื้นที่ 27 เอเคอร์ ตั้งอยู่ในบริเวณที่รมรื่นเงียบสงบ มีพืช ผลไม้ สมุนไพรพื้นเมืองกว่า 200 สายพันธุ์ เน้นเพาะปลูกอย่างถูกวิธีโดยเปิดโอกาสผู้เข้าพักเข้าร่วมกิจกรรมชมฟาร์ม สำรวจพืชพันธุ์ ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางการทำเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งมีพื้นที่เลี้ยงไก่และเป็ดระบบปล่อยผลิตไข่สดใหม่ทุกวัน สะท้อนถึงการทำธุรกิจรีสอร์ทโดยคำนึงจริยธรรมและการจัดหาอาหารที่ยั่งยืนให้แก่ผู้เข้าพัก จากวัตถุดิบออร์แกนิกเก็บเกี่ยวอย่างพิถีพิถันที่จะนำไปใช้ในห้องครัวของรีสอร์ท เพื่อเพิ่มสีสันของอาหารและสนับสนุนการสร้างสรรค์เมนูในร้านอาหารของเจดับบลิว แมริออท เขาหลัก

 

โดยทางโรงแรมยังมุ่งมั่นทำโครงการ กำจัดขยะและทำปุ๋ยหมักจากการนำเศษอาหารที่เหลือจากห้องครัวและห้องอาหารกลับมาใช้ใหม่ ส่งตรงจากฟาร์ม รับประกันความสดใหม่ คุณภาพ และ และประโยชน์ทางโภชนาการ ทำให้ผู้บริโภครับรู้ถึงความเป็นธรรมชาติ และส่งเสริมประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยั่งยืน

 

ทางโรงแรมยังได้จัดโปรแกรมทัวร์ฟาร์ม JW Gardenโดยมีนักอนุรักษ์นำชมทุกวัน ด้วยการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงการริเริ่มที่ยั่งยืน พบกับสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม เช่น ควาย แพะ ไก่ เป็ดที่เลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ ส่วนนักท่องเที่ยวเยาวชนสามารถมาเรียนรู้และพูดคุยเกี่ยวกับธรรมชาติได้ในโครงการ Environment School ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมุ่งมั่นอนุรักษ์โลกธรรมชาติจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป

 

นอกจากทัวร์เยี่ยมชมและเรียนรู้เกี่ยวกับฟาร์มแล้ว ผู้เข้าพักยังสามารถร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจได้หลายรูปแบบ ได้แก่ 1.ส่องนก พายเรือคายัคชมวิวทิวทัศน์ 2.ปลูกและเก็บเกี่ยวสมุนไพรกับผลิตผลต่าง ๆ 3.วิ่งจ็อคกิ้งบนลู่วิ่งที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ขณะออกกำลังกายจะได้สัมผัสและรับรู้ถึงความหลากหลายทางชีวภาพของภูมิประเทศไปพร้อมกัน ในพื้นที่ล้อมรอบด้วยทะเลสาบน้ำจืด ป่าละเมาะที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าตามธรรมชาติ 4.เล่นโยคะที่ศาลาและพื้นที่พักผ่อนเงียบสงบ ทำขึ้นเป็นจุดนั่งชมความงดงามของสภาพแวดล้อม             

 

แนวคิดการลงทุนพัฒนาฟาร์ม JW Garden ขึ้นใน เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก จังหวัดพังงา เพื่อสานโครงการต่อยอดความสำเร็จศูนย์อนุบาลและอนุรักษ์ปลาฉลามกบแห่งแรกของเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในเอเชียแปซิฟิก โดยได้เปิดในรีสอร์ทเมื่อปี 2566  และร่วมกับมูลนิธิ OFA : Oceans For All  ทำเป็นสถานอนุบาลปลาฉลามกบแห่งทะเลอันดามันซึ่งใกล้จะสูญพันธุ์ ทำให้โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Good Travel with Marriott Bonvoy ส่งเสริมผู้เข้าพักคนไทยละทั่วโลกมีส่วนร่วมทำกิจกรรมเชิงบวกให้สภาพแวดล้อมทางทะเลและแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นดำรงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz. 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง