ททท.เอเชียตะวันออกพ.ค.-ก.ย.67จัด3โร้ดโชว์1คาราวาน

 

ททท.ผ่า“ตลาดเอเชียตะวันออก”4เดือนแรกโกยแล้ว4ล้านคน

รุกเทรนด์ใหม่3Gen“Y-Z-I”เศรษฐีรุ่นใหม่ใช้เงินแต่งงานในไทย

พ.ค.-ก.ย.67นำเอกชนท่องเที่ยวลุย3โร้ดโชว์จัดใหญ่1คาราวาน

“อัยยวัฒน์”ซีอีโอนำเลสเตอร์ฯคว้าแชมเปี้ยนชิพขึ้นพรีเมียร์ลีก

พาสปอร์ตไทยรับสมาชิกคิงเพาเวอร์ฟรี1วันช้อปทุกสนามบิน

คิงเพาเวอร์5.5Double Day Dealsแจกโปรแรง6วันลดใหญ่25%

ททท.-ยูเนี่ยนเพย์ฯเร่งดันเศรษฐีจีนใช้บัตรไร้เงินสดทัวร์ไทย

บางจากใช้2งานแชร์โมเดลลดคาร์บอนแก้วิกฤตสภาพอากาศ

สุขทันทีเที่ยว“ระยอง”5พิกัดริมหาด“ถนนคนเดิน/ค่าเฟ่/อาหาร”

9 วิธีรับมืออากาศร้อนจัดรีบทำด่วนๆลดปัญหาสุขภาพพังเร็ว

TCEBนำไทยคว้าเจ้าภาพงานGSTC 2026 ปั้นภูเก็ตฮับไมซ์โลก

บางกอกแอร์เทโปรตั๋ว“5.5SuperSales”15เส้นทาง1,430บาท

 

วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #สุขทันทีที่เที่ยวระยอง 

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...

 

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล” ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผ่าโครงสร้างใหม่ตลาดท่องเที่ยว “เอเชียตะวันออก” เจาะกลุ่มใหม่ 3 Gen “Y-Z-I” พฤติกรรมคนรุ่นใหม่คู่รักฮันนีมูนเปลี่ยนวัฒนธรรมเดิมแห่ใช้เงินแต่งงานนอกประเทศ ททท.พร้อมกระตุ้น 5 ประเทศ “จีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น-ฮ่องกง-ไต้หวัน” ตอนนี้มาไทยแล้ว 4 ล้านคน ช่วง พ.ค.-ก.ย.67 พร้อมลุยทำ 4 โครงการ นำเอกชนออนทัวร์ 3 โร้ดโชว์ “จีนเมืองหลัก/เมืองรอง3ครั้ง-โซลเมืองใกล้เคียง-ไต้หวัน/ฮ่องกง” จัดใหญ่ 1 คาราวานขับรถเที่ยวจีนสู่ไทย ก.ค.นี้

 

นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดเอเชียตะวันออกเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยไตรมาส 3 ระหว่างพฤษภาคม-กันยายน 2567 ทั้ง 5 ตลาด ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี มองไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวได้ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์และตลอดทั้งปี  ส่วนญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางต่อเนื่องด้วยเช่นกัน แต่ละช่วงจะมีวันหยุดหลายเทศกาล จึงไม่กังวลเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวเป้าหมาย จึงหันมาเน้นเร่งเพิ่มตลาดคุณภาพเพิ่มการใช้เงิน พักนานวัน และเพิ่มความถี่การเดินทางมาเที่ยวสูงขึ้น

ระหว่าง 1 มกราคม -29 เมษายน 2567 มีนักท่องเที่ยวภูมิภาคภาคตะวันออก 3,938,256 คน มาจาก สาธารณรัฐประชาชนจีน 2,323,706 คน  เกาหลีใต้ 676,225 คน ไต้หวัน 355,475 คน ญี่ปุ่น 330,871 คน ฮ่องกง 251, 979 คน

 

ขณะนี้ ททท.พยายามผ่าตัดโครงสร้างส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวตลาดเอเชียตะวันออก โดยจะขยายฐาน กลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ 3 Gen Y-Z-I แนวทางจะเจาะตั้งแต่นักเรียนมัธยมศึกษา อุดมศึกษา นักศึกษาจบใหม่ เพราะปัจจุบันจะมีนักท่องเที่ยวสูงวัย รุ่นเก่า ที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ท่องเที่ยวเมืองไทย

 

ตลาดเอเชียตะวันออกทั้ง 3 Gen Y-Z-I พฤติกรรมส่วนใหญ่จะเติบโตอยู่กับเทคโนโลยีมือถือ ไม่ค่อยได้เห็นของจริง ททท.จึงกระตุ้นให้เดินทางมาทำกิจกรรมท่องเที่ยวในเมืองไทย เช่น อาบน้ำช้าง ดูการปลูกข้าว ควายน้ำไทย และอื่น ๆ ซึ่งเด็กกลุ่มนี้จะเห็นเรื่องราวเหล่านี้แต่ในสารคดีเป็นหลัก แต่เมื่อมาเมืองไทยสามารถสัมผัสประสบการณ์จริงเหล่านี้ได้ และประเทศอื่นก็ทำได้ไม่ได้มากเท่ากับไทยให้ทำได้อย่างใกล้ชิด

 

ระหว่าง พฤษภาคม-กันยายน 2567 ททท.เอเชียตะวันออก ร่วมกับเอกชน ทำกิจกรรมกระตุ้นตลาดเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวด้วย 4 โครงการ ประกอบด้วย

 

โครงการแรก โร้ดโชว์ ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน 3 ครั้ง เริ่มจากครั้งที่ 1 กวางโจ เซี่ยงไฮ้ เฉินตู ครั้งที่ 2 สมาคมธุรกิจท่อเที่ยวพัทยา คุนหมิง เฉินตู เพิ่งจัดเสร็จไปเมื่อสัปดาห์สุดท้ายเดือนเมษายน ครั้งที่ 3 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ทำโร้ดโชว์เมืองเซี่ยงไฮ้ สัปดาห์ที่สองเดือนพฤษภาคม นี้   ส่วนตลาดไต้หวัน กับฮ่องกง ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตทำโร้ดโชว์ไปแล้วก่อนสงกรานต์ ตลาดตอบรับดีทุกตลาด

 

เดือนพฤษภาคม นี้ มีวันหยุดยาวเดินทางมาจำนวนมากเป็นพิเศษ 2 ตลาด คือ ตลาดแรก สาธารณรัฐประชาชนจีน” มีวันหยุดต่อเนื่องกันมาช่วงวันหยุดแรงงาน อูอี้-May Day ทะลักเข้ามาไทย แล้ว ททท.ยังได้ร่วมทำกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปีกับ 2 พันธมิตรรายใหญ่

 

รายแรก ยูเนียนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล แพลตฟอร์มบัตรเครดิตรายใหญ่ทำโปรโมชั่นร่วมกันกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินผ่านบัตรตลอดการท่องเที่ยวในไทย

 

รายที่สอง หัวเหว่ย ธุรกิจกลุ่มโทรคมนาคมมือถือใหญ่สุดของรัฐบาลจีน ปรับภาพลักษณ์ไทยให้ทันสมัย โมเดิร์น เจาะตลาดกลุ่มเมืองรองในจีนประมาณกว่า 20 มณฑล

 

ตลาดที่ 2 ญี่ปุ่น ช่วงนี้มีวันหยุดโกลเด้น วีค ด้วยเช่นกัน ก็นิยมเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวช่วงพฤษภาคม 2567

 

โครงการที่ 2 จัดคาราวานรถยนต์ บิ๊กไบค์ รถไฟความเร็วสูง ระหว่างกรกฎาคม-สิงหาคม 2567 จะเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ เน้นเจาะตลาดจีนกลุ่มครอบครัว และเทรนด์ตลาดใหม่ Me & Mom ลูกสาวพาคุณแม่เที่ยว Me & Dad ลูกชายพาพ่อเที่ยว กำลังเป็นเทรนด์มาแรง และกลุ่มตลาด มัลติ-เจนเนอเรชั่น พ่อแม่ลูกหลานปู่ย่าตายาย

 

โครงการที่ 3 ททท.ร่วมกับแอร์ เอเชีย จัดโร้ดโชว์ ที่โอซาก้า และโตเกียว เดือนกรกฎาคม 2567

โครงการที่ 4 โร้ดโชว์ กรุงโซล เจาะนักท่องเที่ยวเมืองรองในเกาหลี โดยจะเชิญชวนผู้ประกอบการจากเมืองรอบกรุงโซล อย่าง ปูซาน ควังจู เพื่อทำแพกเกจเสนอขายการท่องเที่ยวทะเลมายังภูเก็ต กระจายการเดินทางต่อไปยังเมืองรองในจังหวัดแถบทะเลอันดามันของไทย

 

ผอ.ชูวิทย์ กล่าวว่า ททท.เตรียมจัดมหกรรม TTM+2024 :Thailand Travel Mart Plus 2024 ซึ่งจะไปจัดนอกกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 5-9 มิถุนายน 2567 ที่เขาหลัก จังหวัดพังงา ตอนนี้เอเชียตะวันออกตอบรับเข้าร่วมมากเป็นอันดับ 1 ในภาพรวมตอนนี้ทำได้เกินเป้าแล้วมีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมแล้ว 423 ราย จากที่ตั้งไว้เพียง 400 ราย ในจำนวนนี้เอเชียตะวันออกมากสุด 129 ราย อันดับ 1 สาธารณรัฐประชาชนจีน 102 ราย เกาหลี 13 ราย ญี่ปุ่น 9 ราย ไต้หวัน 3 ราย ฮ่องกง 2 ราย

 

เป็นสัญญาณที่ดีกับภาคใต้ของไทย โดยจะเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการแต่ละประเทศมาทำความรู้จักแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ เขาหลัก พังงา มีเกาะธรรมชาติอย่าง เขาหลัก เกาะตาชัย หมู่เกาะสิมิลัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันของนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออก ครั้งหนึ่งในชีวิตอยากเดินทางมาพักผ่อนในฝั่งทะเลอันดามัน

 

สถิตินักท่องเที่ยวตลาดเอเชียแต่ละปีมาเที่ยวเมืองไทยเกินกว่า 50 % ของต่างชาติทั้งหมด ส่วนภาคใต้จะ อันดับ 1 ภูเก็ต เดิมกระจุกอยู่แถวหาดป่าตอง ตอนนี้กระจายไปยังหาดไม้ขาว หาดบางเทา กระบี่ และเขาหลัก พังงา รองรับตลาดฮันนีมูน คู่แต่งงาน

พฤติกรรมหลังโควิดโครงสร้างตลาดเปลี่ยนแปลงไปมาก นักท่องเที่ยว GEN Z ในเอเชียตะวันออกกลุ่มคู่รักที่จะนิยมไปจัดงานหรือเฉลิมฉลองแต่งงานในต่างประเทศ เปลี่ยนจากวัฒนธรรมเดิมจะแต่งงานในบ้านเกิด ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน หันมาเลือกแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลเป็นสถานที่จัดแต่งงาน บวกกับชอบจุดพลุมาก ซึ่งในจีน ฮ่องกง ไต้หวัน การจุดพลุถือว่าทำผิดกฎหมาย อีกอย่างหากจัดแต่งงานในประเทศตนเองจะนิยมจัดช่วงเดือนเดียวกันจึงทำให้สถานที่จัดค่อนข้างแน่นราคาแพง   ด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้เป็นโอกาสของผู้ประกอบการแถบทะเลอันดามันแทน

 

รวมทั้งในภูเก็ต กระบี่ ยังมีถนนคนเดิน แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนเป็นไนท์ไลฟ์ ผนวกกับอาหารทะเลสด ๆ อัธยาศรัยไมตรีของคนในพื้นที่ด้วย

 

ผอ.ชูวิทย์ กล่าวว่า ตลาดเอเชียตะวันออก ยังชื่นชอบ ซอฟท์ พาวเวอร์ ของไทยอย่างมากทั้ง 5F อันดับแรก คือ Food/อาหาร ร้านมิชลิน บิ๊บกูร์มอง และอาหารท้องถิ่น สตรีทฟู้ด เนื่องจากพฤติกรรมพื้นฐานคนเอเชียนิยมกินหนักทั้ง จีน เกาหลี ฮ่องกง หากถูกใจยอมจ่ายเงินเพื่อกินอาหารแบบไม่อั้น อันดับ 2 Festival/เทศกาล ตัวอย่าง เทศกาลสงกรานต์ไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ต่อด้วยมหกรรมการท่องเที่ยวเทศกาลดนตรี ดนตรีพื้นบ้าน ลูกทุ่ง ภาพยนตร์ซีรีย์วาย ซีรี่ไทย

 

ส่วน F อื่น ๆ ก็ได้รับความนิยมอย่าง Flighting ศิลปะการต่อสู้ และกีฬาอื่น ๆ ด้วย เช่น ไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันวอลเลย์บอล ลีก เดือนพฤษภาคม นี้ ที่กรุงเทพฯ รวมทั้งไทยมีนักวอลเลย์หญิงไทยไปอยู่ตามสโมสรต่างประเทศชั้นนำ อย่าง “น้องชมพู่-พรพรรณ” ไปอยู่ในสโมสรเอ็นบีเค เกาหลี เมื่อแข่งขันเสร็จแล้วก็เชิญเพื่อนนักกีฬาต่างชาติ มี เกาหลี 2 คน และคนอื่น ๆ มาเที่ยวเมืองไทย รวมถึงนักกีฬาหญิงไทยทุกคนโชว์การไหว้อย่างสวยงาม

 

ตอนนี้ตามวัดท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ วัดอรุณราชวราราม ก็มีนักท่องเที่ยว LGBT แต่งไทยเดินทางเข้าไปเที่ยว จึงช่วยตอกย้ำกระแสซอฟท์ พาเวอร์ ไทย ด้านการท่องเที่ยว มีกระแสตอบรับเติบโตดีทั้ง 5F จึงขอฝากคนไทยและผู้ประกอบการดูแลนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวเมืองไทย ช่วงกรกฎาคมนี้จะปิดเทอมช่วงฤดูร้อนจะมีครอบครัวจีนเดินทางเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ช่วยกันบริการ ความปลอดภัย มาตรฐานคมนาคมการเดินทาง เป็นเสมือนครอบครัวเดียวกัน

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 “อัยยวัฒน์”ซีอีโอนำเลสเตอร์ฯคว้าแชมเปี้ยนชิพขึ้นพรีเมียร์ลีก

 

"อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา" ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำทีมฟุตบอล "เลสเตอร์ ซิตี้" ผงาด "แชมเปี้ยนชิพ" ฟุตบอล สกายแบ็ต เป็นสมัยที่ 8 

 

สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการ "ทำลายสถิติสูงสุด" ของฟุตบอลลีก ระดับดิวิชั่น 2 ของอังกฤษ

 

ในอดีตเคยคว้าแชมป์มาแล้วเมื่อปี 1925, 1937, 1954, 1957, 1971, 1980 และ 2014 

 

เลื่อนชั้นกลับสู่ "พรีเมียร์ลีก"  ฤดูกาลหน้า อย่างแน่นอนแล้ว

 

วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม 2567 "เลสเตอร์ ซิตี้"  จะเปิดบ้าน “คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม” รับการมาเยือนของทีม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เริ่มเวลา 18:30 น. 

 

ร่วมเชียร์  "เลสเตอร์ ซิตี้"ทำได้ถึง 100 คะแนน ในการแข่งขันวันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม นี้ เพิ่มแต้มจากตอนนี้เก็บได้แล้ว 97 คะแนน

 

ข่าวที่ 2 พาสปอร์ตไทยรับสมาชิกคิงเพาเวอร์ฟรี1วันช้อปได้ทุกสนามบิน

 

คิง เพาเวอร์ แนะนำ ผู้ที่เดินทางต่างประเทศช่วงวันหยุดยาว พิเศษสำหรับนักเดินทางพาสปอร์ตไทย

อย่าลืมเผื่อเวลาเช็กอินอย่างน้อย 3 ชั่วโมง   ตั้งแต่วันนี้– 30 มิถุนายน 2567 เป็นสมาชิกฟรี 1 วัน แล้วเปิดให้ตลุยช้อปที่ทุกสนามบินขาออก รับฟิน ๆ ได้เลย 4 แบบ

 

1.ยังไม่เป็นสมาชิกก็ช้อปฟิน รับฟรี บัตรสมาชิก 1 วัน ที่สนามบิน ทดลองใช้ ทุกการช้อปภายในวันที่ได้รับบัตรเมื่อลงทะเบียนและช้อปครบ 1,000 บาท รับสถานะสมาชิก NAVY หรือ  20,000 บาท รับสถานะสมาชิก SCARLET

2..ส่วนลดทุกการช้อป 10% ที่ คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ และดอนเมือง

3.ส่วนลดทุกการช้อป 15% ที่ คิง เพาเวอร์ เชียงใหม่ และภูเก็ต

4.ช้อปครบ รับสถานะสมาชิก NAVY หรือ SCARLET  

 

ซึ่งนักเดินทางสามารถเลือกช้อปสินค้าแบรนด์ดัง หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เข้าร่วมรายการ ทุกทริปเดินทางผ่านสนามบินทั้ง 5 แห่ง ถือพาสปอร์ตไทย แวะรับสิทธิ์ได้ตลอดจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน นี้

 

ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์5.5Double Day Dealsโปรแรง6วันลดใหญ่25%

 

คิง เพาเวอร์ ชวนช้อป “5.5 Double Day Deals” โปรแรงแบบฉุดไม่อยู่ช้อปได้ไม่ต้องยั้ง ลดสูงสุด 25% ทั้งน้ำหอม เครื่องสำอาง พิเศษแค่ 6 วันเท่านั้น!! วันนี้ -6 พฤษภาคม 2567 เฉพาะที่คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ เท่านั้น  ลดสูงสุด 25% เมื่อช้อปครบ 3 ชิ้นขึ้นไป รหัสส่วนลด 55DD25

 เมย์เดย์ เปย์ความคุ้ม แจกฟรี! ส่วนลด 1,000 บาท สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับฟรี คูปองส่วนลด 1,000 บาท เมื่อช้อปครบ 4,500 บาท ขึ้นไป/ใบเสร็จ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต  ได้คนละ1 สิทธิ์/วัน

 

มีไฟลต์บินแล้วเตรียมช้อปสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ พลาดไม่ได้กับหลากหลายแบรนด์ดังระดับโลก ในราคา Duty Free  ช้อปออนไลน์ก่อนบินได้เลย  

 

สินค้าดิวตี้ฟรีสุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน แล้วประโยชน์รับเบอร์ใหญ่ 5 สิทธิ ได้ที่ คิง เพาเวอร์ เท่านั้น

 

1.แบ่งชำระ 0%  นานสูงสุดถึง 10 เดือน ทำตามกติกาได้ง่าย ๆ เพื่อรับสิทธิ์นี้ทันที

2. รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10,800 บาท

3.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า)

4.รับเลย! ส่วนลด 800 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์

5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท (สุทธิ)

 

ข่าวที่ 4 ททท.-ยูเนี่ยนเพย์ฯเร่งดันเศรษฐีจีนใช้บัตรไร้เงินสดทัวร์ไทย

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำ ททท. ร่วมลงนาม ในเจตจำนง ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว (LOI : Letter of Intent)  กับ  Mr. Wang Lixin บริษัท ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ตกลงจะผนึกกำลังกันส่งเสริมการขายและกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาใช้จ่ายเงินในเมืองไทย และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีท่องเที่ยวไทย เพิ่มจำนวนและรายได้กลุ่มตลาดจีนที่มีแนวโน้มเติบโตทางเศรษฐกิจสูง โดยได้รับเกียรติจาก Ms. Chang Yumeng ที่ปรึกษาแผนกวัฒนธรรมประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนาม LOI ของทั้งสองฝ่าย

 

ล่าสุดพบนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยต่อเนื่องปี 2567 ติดอันดับ 1 ใน 10 ของต่างชาติเที่ยวเมืองไทย โดยมีกำลังซื้อใช้จ่ายตลอดท่องเที่ยวแบบ “ไร้เงินสด”  รวมถึงมีแรงเสริมจากมาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าไทย (Visa Exemption) ทำให้จีนพำนักในไทยต่อเนื่องตามสิทธิ์ได้นานสูงสุดครั้งละ 30 วัน

 

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า ตามข้อมูลของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา พบนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 21 เมษายน 2567 แล้วประมาณ 2,152,167 คน ติดอันดับ 1 จำนวนมากที่สุดของต่างชาติเที่ยวเมืองไทย จากนี้เป็นต้นไป ททท. ยังคงมุ่งหน้าสร้างความเชื่อมั่นทำตลาดเชิงรุก เร่งส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรในตลาดจีนต่อเนื่อง มุ่งสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ผลักดันรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ตลอดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน

 

สำหรับโครงการลงนาม LOI ร่วมกับ ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ครั้งนี้ ททท.หวังจะกระตุ้นจีนเดินทางและใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เป็นเครื่องมือและช่องทางทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย และเพิ่มความปลอดภัยการเดินทางเรื่องทรัพย์สินจากการระบบไร้เงินสดได้อีกด้วย

 

รวมทั้งจะสร้างประโยชน์ร่วมกันอย่างชัดเจน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.แลกเปลี่ยนข้อมูลการท่อเที่ยวและการใช้จ่ายเงินผ่านบัตรระหว่างกัน เพื่อนำมาเป็นฐานการศึกษาข้อมูลเชิงลึกทางด้านการบริโภคและพฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มเป้าหมาย เรื่องที่ 2 ช่วยให้ไทยเข้าถึงกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีนระดับไฮเอนด์ เรื่องที่  3 ททท.สามารถวางกลยุทธ์นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวได้ตรงตามความต้องการเพิ่มการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวต่อไป

 

Mr. Wang Lixin, บริษัท ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งมีผู้นิยมใช้งานเพิ่มสูงขึ้น เพราะปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่หันมาใช้ระบบการชำระเงินแบบไร้เงินสด (Cashless) ตามร้านค้าส่วนใหญ่จะรับชำระเงินผ่านบัตรเดบิต บัตรเครดิต แอปพลิเคชันการชำระเงินต่าง ๆ แทนการใช้เงินสด ขณะนี้บัตรยูเนี่ยนเพย์สามารถใช้ได้ทั่วโลกกว่า 180 ประเทศและในพื้นที่เขตการปกครอง พร้อมทั้งมีเครือข่ายร้านค้านอกประเทศเกือบ 67 ล้านแห่ง

 

ความร่วมมือกับ ททท.ครั้งนี้จะเพิ่มโอกาสช่วยนำเสนอสินค้าและบริการคุณภาพของไทยในตลาดจีนเติบโตเพิ่มขึ้น ผ่านช่องทางใช้จ่ายผ่านบัตรยูเนี่ยนเพย์ ได้มอบข้อเสนอสุดพิเศษให้แก่สมาชิกผู้ถือบัตร สร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวเกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

 

หลังการลงนาม LOI เสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง ยูเนี่ยน เพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล และ ททท.จะร่วมกันส่งเสริมตลาดให้นักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และผู้ถือบัตรยูเนี่ยนเพย์เดินทางมายังไทยมากขึ้น พร้อมส่งมอบประสบการณ์การที่ดีให้นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มอีกช่องทาง

 

ข่าวที่ 5 บางจากใช้2งานแชร์โมเดลลดคาร์บอนแก้วิกฤตสภาพอากาศ

 

นางกลอยตา ณ ถลาง รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธาน คาร์บอน มาร์เก็ต คลับ/Carbon Markets Club เปิดเผยว่า ได้ร่วมเสวนาขับเคลื่อนการรับมือวิกฤตสภาวะภูมิอากาศ 2 เวที นำเสนอเรื่อง “ทางออกสู่การรับมือและแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Carbon Neutral & Climate Justice)” ในงาน Social Value Thailand Forum 2024 ทำอิมแพ็คการพัฒนาธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมสร้างภาคีพันธมิตรด้วยพลังภาคการศึกษา) และเรื่อง “How Carbon Markets Support Thailand’s Energy Transition” ในงาน Bank of America Economic Seminar 2024 - Thailand Global Outlook

 

เวทีแรกงาน Social Value Thailand Forum 2024 นำโมเดลของกลุ่มบริษัทบางจากมีแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผน BCP 316 NET ก้าวสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ พ.ศ.2593 หรือ ค.ศ. 2050 ของบางจากทำ 4 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 เดินหน้ากระบวนการผลิตโดยปรับปรุงประสิทธิภาพต่าง ๆ   เรื่องที่ 2 ลงทุนทางนวัตกรรมช่วยเพิ่มผลผลิตและลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เรื่องที่ 3 สร้างสมดุลทางระบบนิเวศ การดูดซับคาร์บอนด้วยธรรมชาติ การเพิ่มสัดส่วนธุรกิจสีเขียว สร้างระบบนิเวศทำให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำ

 

พร้อมกับสร้างภาคีพันธมิตรด้วยพลังภาคการศึกษา ทางกลุ่มบริษัทบางจากให้น้ำหนักความสำคัญเน้นสนับสนุนการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ผ่านโครงการต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัทฯ และมูลนิธิใบไม้ปันสุข เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงพัฒนาเยาวชนทั้งด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อม เน้นการอ่านออกเขียนได้เป็นพื้นฐานหลักนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านต่าง ๆ  เพื่อต่อสู้กับวิกฤตสภาวะภูมิอากาศซึ่งขณะนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ด้วยวิธีร่วมกับสถาบันการศึกษาทำโครงการต่าง ๆ เช่น

 

โครงการแรก ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียศึกษาเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เดินหน้าศึกษาการดักจับ ต่อเนื่องถึงการใช้ประโยชน์และกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CCUS)   การศึกษาวิจัยการเพิ่มมูลค่าเอทานอลเปลี่ยนแก๊สโซฮอล์เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงเพื่อผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF : Sustainable Aviation Fuel

 

โครงการที่ 2 ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากหลังคาอาคารเป็นต้นแบบมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ หรือ Smart University 

 

โครงการที่ 3 ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริหารจัดการทำความเย็นจากส่วนกลาง เพื่อประหยัดพลังงาน District Cooling 

 

โครงการที่ 4 สนับสนุนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แหล่งหญ้าทะเลเพื่อกักเก็บก๊าซเรือนกระจกในรูปแบบ Blue Carbon

 

โครงการที่ 5 ร่วมกับภาคการศึกษาทำวิจัยและพัฒนา หรือพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมาย Net Zero

 

เวทีที่สอง งาน Bank of America Economic Seminar 2024 - Thailand Global Outlook นางกลอยตา เสวนาร่วมกับบริษัท บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด และ Bank of America พุ่งเป้าเรื่องการทำตลาดคาร์บอนในไทย ปัจจุบันในไทยยังเป็น “ตลาดภาคสมัครใจ” จึงทำให้ราคาคาร์บอนเครดิตในประเทศ และความต้องการซื้อขายคาร์บอนเพื่อชดเชยการปล่อยคาร์บอนจากภาคธุรกิจไม่สูง เมื่อเทียบกับ “ตลาดภาคบังคับ” ในทวีปยุโรป และสิงคโปร์

 

แต่ด้วยบริบทโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและปัจจุบันวิกฤตสภาวะภูมิอากาศรุนแรง ทำให้ทุกฝ่ายต้องเร่งบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เช่นเดียวกับในไทย ได้จัดตั้ง “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” กำหนดกฎหมาย คือ (ร่าง) พระราชบัญญิตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นกลไกควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กับนำภาษีคาร์บอนมาใช้ ควบคู่กับมีมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน อย่างเช่น CBAM ของสหภาพยุโรป และอื่น  ๆ

 

เนื่องจากตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตมีความสำคัญอย่างมากตอนนี้จึงต้องร่วมมือกันขับเคลื่อน 3 เรื่อง คือ 1.การสนับสนุนเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน 2.ความต้องการมาตรฐานคาร์บอนเครดิตในระดับสากลที่ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้และไม่เป็นการฟอกเขียวทางเศรษฐศาตร์ (greenwashing) 3.การดำเนินงานของบางจากมุ่งส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและส่งเสริมให้ความรู้เรื่องวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ผ่าน Carbon Markets Club อย่างเต็มที่

 

นางกลอยตา กล่าวว่า ได้ใช้ทั้ง 2 เวทีเชิญชวนให้ผู้สนใจจากภาคการศึกษา ภาคเอกชน หน่วยงาน บุคคล สมัครเป็นสมาชิกคาร์บอน มาร์เก็ต คลับ ร่วมเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์วิกฤตสภาวะภูมิอากาศ เข้ามาใช้บริการตลาดคาร์บอน และเครื่องมือต่าง ๆ ทางเว็บไซต์ www.carbonmarketsclub.com  เช่น เครื่องมือประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร และอื่นๆ ที่แต่ละหน่วยงานกำลังพัฒนาอยู่ สมัครสมาชิกแล้วทดลองใช้เครื่องมือต่าง ๆ ฟรี เพื่อร่วมกันเดินหน้ารับมือวิกฤตสภาพภูมิอากาศเมืองไทยและโลกไปด้วยกัน

 

            ช่วงที่ 2 ไปเที่ยวทะเลกัน สุขทันทีที่ “เที่ยวระยอง” จัดเวลาวันสบาย ๆ เดือนพฤษภาคม นี้ ไว้สัก 3 วัน 2 คืน คลายอุณหภูมิ 5 พิกัด ชิลถนนคนเดิน ชิมอาหารทะเลสด ฟินฟรีมิวสิค เทศกาล ๆ ทุกสัปดาห์ แล้วมาฟัง “9เรื่องต้องรู้หน้าร้อน” ทำด่วนก่อนสุขภาพพัง เกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก “TCEBนำไทยคว้าเจ้าภาพงาน GSTC2026” นำภูเก็ตฮับไมซ์โลก ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์ยอมแจกโปร 5.5” ตั๋ว 15 เส้นทาง เริ่มแค่ 1,430 บาท/เที่ยว 9-15 พ.ค.67

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยว“ระยอง”5พิกัดริมหาด“ถนนคนเดิน/ค่าเฟ่/อาหาร”

 

พฤษภาคม นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีทริปคลายร้อนริมทะเล ไป “สุขทันทีเที่ยวระยอง” ชวนไปชิล สูดโอโซนหน้าร้อนริมทะเล

 

พิกัดที่ 1 ทัวร์ถนนคนเดิน เติมความมันส์กับ “ฟรีคอนเสิร์ต” ของเหล่าศิลปิน เจนนี่ ลิลลี่ แซ็ค ชุมแพ ก็อปปี้โชว์ Og-anic x Highhot เฟิร์ส พรชิตา บังนัด Future band โชว์กระบองไฟ ละลานตากับสตรีทฟู้ดอร่อย ๆกว่า 200 ร้าน ให้ชม ชิม ช้อปให้หนำใจ ได้ตั้งแต่ต้นเดือนห้านี้

 

พิกัดที่ 2 เดินฟินริมหาดแหลมเจริญ เลือกฟู้ดทรัคเรียงรายบนหาด คาเฟ่สไตล์แคมป์ปิ้ง "Haus Coffee and Space" จิบเครื่องดื่มรับทะเลหรือชวนมาวาดรูประบายสีแห่งความฝัน "มาวาดฝัน ma.ward.fun" Workshop ในวันว่างๆ ระบายสีผ้าบาติก เพ้นท์กระเป๋าผ้า หมวก ขวดแก้ว กระจก เริ่มต้นเพียง59 บาท

 

พิกัดที่ 3 เพลินตาใน “ย่านเมืองเก่ายมจินดา” เดินถ่ายรูปสุดวินเทจให้หนำใจ ภาพคาเฟ่ตึกเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกิส หลานเอก คอฟฟี่เฮาส์ -เดินเข้าไปนั่งพักเย็น ๆ ในคาเฟ่  "ญาจินดม" ขนมไทยสดใหม่และเครื่องดื่มคลายร้อน จะลองทำงานแฮนเมดร้อยลูกปัดสารพัดของกุ๊กกิ๊ก "Hippie type" ก็ได้

 

พิกัดที่ 4 เช็คอินพักโรงแรมในโครงการ “Rayong Workation” ทั้งเที่ยวและอิ่มในราคาติดโปร พักผ่อนรับส่วนลดค่าที่พัก พร้อมโปรโมชั่นทัวร์สวนผลไม้ใน "โครงการ Rayong Wander Fruits" ลดสุดพิเศษเอาใจสายผลไม้ 32 สวน 

 

พิกัดที่ 5 เที่ยวระยอง ต่อเนื่องทุกสัปดาห์ 8-31 พฤษภาคม 2567

 

 8-14 พฤษภาคม : ถนนคนเดิน Rayong Walking Street x งานผลไม้ของดี อ.แกลง ปั๊มเสี่ยไต๋บางจากระยอง อ.แกลง

 

10-16 พฤษภาคม : เทศกาลดนตรี สีสีน ผลไม้ สไตล์ตะพง ณ ตลาดกลางผลไม้ตะพง อ.เมืองระยอง

 

16-20 พฤษภาคม : เทศกาลผลไม้และของดี จ.ระยอง สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง อ.เมืองระยอง

 

17-21 พฤษภาคม : งานเทศกาลผลไม้ วังจันทร์ ณ ตลาดผลไม้ ต.พลงตาเอี่ยม อ.วังจันทร์

 

18 พฤษภาคม : Spicy on the beach 2 @ Leam Chareon Beach

 

22 พฤษภาคม : ฟรีคอนเสิร์ต Potato @ Passione Hall ชั้น 3

 

 สุขทันทีที่เที่ยวระยอง ไปดับร้อนในบรรยากาศทะเลอ่าวไทย ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีเวลา 2-3 วัน ก็สามารถเที่ยวฟิน ในเมืองศูนย์รวมกิจกรรมอันหลากหลาย ไปได้ทุกวัน

 

สุขภาพ –9 วิธีรับมืออากาศร้อนจัดรีบทำด่วนๆลดปัญหาสุขภาพพังเร็ว

 

สภาพอากาศร้อนต่อเนื่องตลอดเดือนเมษายนเรื่อยมาจนถึงพฤษภาคม นี้ ต้องดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัว หาวิธีรับมือกับสภาพอากาศที่ร้อนมากถึงมากที่สุด 

 

1.ดื่มน้ำมากขึ้น ต้องพยายามรักษาร่างกายไม่ให้ขาดน้ำ ควรดื่มให้มากขึ้นจากเดิม ทดแทนน้ำที่สูญเสียไปเพราะความร้อน ช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายได้ด้วย

 

ปกติควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดประมาณ 2,500 มิลลิลิตร เป็นวิธีเติมน้ำหรือให้อาหารแก่สมอง เนื่องจากสมองคนเราจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 80 % หากขาดน้ำเพียงเล็กน้อยจะทำให้ระดับฮอร์โมนที่กระตุ้นความเครียดเพิ่มสูงขึ้น มีผลกับการทำงานของอวัยวะภายใน และในระยะยาวอาจทำให้สมองถูกทำลายได้

 

          2. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสารปรุงแต่ง เช่น สารให้ความหวาน น้ำตาล แอลกอฮอล์ และสารคาเฟอีน

         

3. ต้องกินอาหารให้น้อยลงในช่วงหน้าร้อน เป็นวิธีดูแลสุขภาพช่วยไม่ให้ร่างกายทำงานหนัก เพราะช่วงนี้ร่างกายจะใช้เวลาย่อยอาหารนานขึ้น และการย่อยจะทำให้เกิดพลังงานความร้อน จึงควรเลือกกินอาหารย่อยง่าย ไม่กินมื้อใหญ่เกินไป โดยเฉพาะมื้อเย็น เน้นกิน ผัก ผลไม้ มากขึ้น

 

          4. ก่อนออกจากบ้านควรทาครีมกันแดด  ทั้งใบหน้า ลำตัว เลือกที่มี SPF สูงๆ ไว้ ถ้าต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน แว่นกันแดด หรือ ร่มขาดไม่ได้ เพราะช่วยลดการสัมผัสความร้อนจากแสงแดดได้

         

5. ควรล้างมือบ่อย ๆ ป้องกันท้องร่วง ให้ล้างมือให้สะอาด และล้างบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนกินอาหาร เพราะอาจทำให้มีอาการท้องเสีย ท้องร่วงได้ง่ายกว่าฤดูอื่น ถ้าหากไม่สะดวกล้างมือเวลาออกนอกบ้าน ให้พกเจลแอลกอฮอล์ติดตัวไว้

         

6.ออกกำลังกายในร่มแทนกลางแจ้ง หรือตอนกลางวันร้อน ๆ ไปอยู่ในร่มแทน เช่น วิ่งลู่วิ่งในยิม ยกเวท เล่นโยคะ หรือ เลือกออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือเย็นแทน

         

7.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ เพราะจะซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือดอย่างเร็ว แรงดันโลหิตสูงขึ้นกว่าช่วงอากาศหนาวเย็น หรือช่วงปกติ ซึ่งถ้าหากร่างกายปรับสภาพไม่ทัน อาจทำให้ช็อกได้

         

8. อย่าอยู่แต่ในห้องแอร์ การอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา ห้องที่อากาศไม่ถ่ายเท หรือการระบายอากาศไม่ดี อาจทำให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เชื้อไวรัส เจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น ควรมีช่วงเวลาที่เปิดประตู เปิดหน้าต่างในตอนกลางวัน ให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทในห้องด้วย

 

          9. ไม่ทิ้งเด็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่จอดไว้กลางแจ้ง เนื่องจากอุณหภูมิภายในรถจะสูงกว่าภายนอก 

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก – TCEBนำไทยคว้างานGSTC 2026 ปั้นภูเก็ตฮับไมซ์โลก

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB/ทีเส็บ” เปิดเผยว่า เป็นหน่วยงานหลักร่วมกัน 5 องค์กร นำประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพได้สำเร็จดึงงานระดับโลก Global Sustainable Tourism Conference 2026 หรือ GSTC 2026 มาจัดที่จังหวัดภูเก็ต เดือนเมษายน 2569 ถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศนำงานท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมาได้ จะช่วยประชาสัมพันธ์ระเบียงเศรษฐกิจอันดามัน 6 จังหวัด ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและไมซ์อย่างยั่งยืนในอนาคตที่ได้การยอมรับจากทั่วโลก

           

แผนการจัดงาน Global Sustainable Tourism Conference 2026 หรือ GSTC 2026  เดือนเมษายน 2569 นำเสนอภายใต้แนวคิด “Regenerative Tourism” เพื่อการประชุมและสัมมนายกระดับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน คาดจะมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมจาก 60 ประเทศ กว่า 700 คน สร้างรายได้กว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป ภายในงานจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวระดับโลกและท้องถิ่นเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นต่าง ๆ สร้างการมีส่วนร่วมและสนับสนุนการเดินทางและท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งจากองค์กรภาครัฐ โรงแรม บริษัททัวร์ บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ สถาบันการศึกษา องค์กรพัฒนา องค์กรพัฒนาเอกชน และผู้เกี่ยวข้องอีกมากมาย

           

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนและประชาชนไทยที่ช่วยสนับสนุนภูเก็ตเสนอเป็นเจ้าภาพงาน GSTC 2026 ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ไทยในเวทีโลก ขานรับกับแผนยกระดับภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนภายในปี 2570 มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คาร์บอนไดออกไซด์ การบริหารจัดการของเสีย โดยจะก่อให้เกิดประโยชน์และสนับสนุนการพัฒนาท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้ประสบความสำเร็จในอนาคตด้วย

           

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานมูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กล่าวว่า มูลนิธิมุ่งมั่นยกระดับให้เกิดขึ้นจริงเป็นรูปธรรมทั้งการเดินทางและการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืนในไทย ผ่านแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ความร่วมมือของธุรกิจท่องเที่ยวและประชาชน โดยเฉพาะการให้น้ำหนักสำคัญกับ 4 เรื่อง ได้แก่ 1.ลดดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2.วิธีการกำจัดขยะอย่างถูกต้อง 3.การปรับตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยวท่ามกลางแรงกดดันและความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก 4.เงื่อนไขทางกฎหมายของหลายประเทศที่เริ่มนำมาใช้ในภาคการท่องเที่ยว

 

เมื่อภูเก็ตได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพงาน GSTC 2026 ถือเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางปูพรมสู่การท่องเที่ยวยั่งยืนของภูเก็ต อันดามัน และประเทศไทย พร้อมกับจะยกระดับภูเก็ตเป็นจังหวัดจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลกอย่างแท้จริง

 

ข่าวที่สอง -บางกอกแอร์เทโปรตั๋ว“5.5SuperSales”15เส้นทาง1,430บาท

 

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางกอก แอร์เวย์ส นำกลยุทธ์การตลาดยอดนิยม วันที่ 5เดือน 5 ทำโปรโมชั่น “5.5 Super Sales” ชิงส่วนแบ่งตลาดผู้โดยสารเข้ามาจองซื้อตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษระหว่างวันที่ 5-9 พฤษภาคม 2567 รวมเที่ยวบินสู่จุดหมาย 15 เส้นทาง ได้แก่ เที่ยวบินในประเทศ 14 เส้นทาง และระหว่างประเทศอีก 1 เส้นทาง ราคาเริ่มต้นเพียง 1,430 บาท/เที่ยว โดยชูแม่เหล็กดึงดูดผู้โดยสารเข้ามาซื้อตั๋วด้วยบริการบูทีคแอร์ไลน์สที่ให้บริการแบบฟูล เซอร์วิส ทั้งเลาจน์โดยสารตามสนามบิน เสิร์ฟอาหารบนเครื่องบิน

 

โดยได้จัดทำโปรโมชั่นตั๋วโดยสารตามเครือข่ายเส้นทางบินของ บางกอก แอร์เวย์ส ครอบคลุม บริการเดินทาง ไป-กลับ ทั้ง 4 สนามบิน ประกอบด้วย

 

“เที่ยวบินภายในประเทศ” 14 เส้นทาง ไป-กลับ ดังต่อไปนี้

 

สนามบินแรก “สุวรรณภูมิ” จากกรุงเทพฯ” สู่ปลายทาง ภาคเหนือ 2 เส้นทาง คือ เชียงใหม่  สุโขทัย “ภาคตะวันออก” 1 เส้นทาง คือ ตราด “ภาคใต้” 2 เส้นทาง คือ ภูเก็ต กระบี่

 

สนามบินที่ 2 ท่าอากาศยานอู่ตะเภา  สู่ปลายทาง ภูเก็ต สมุย

 

สนามบินที่ 3 ท่าอากาศยานภูแก็ต สู่ปลายทาง หาดใหญ่  สมุย  กระบี่ เชียงใหม่

 

สนามบินที่ 4 ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สู่ปลายทาง  ภูเก็ต   กระบี่  สมุย และเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ – สมุย

 

“เที่ยวบินระหว่างประเทศ” ทำโปรโมชั่นพิเศษเพียง 1 เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ - หลวงพระบาง เริ่มต้น 3,425 บาท/เที่ยว  

 

สำหรับราคาตั๋วโปรโมชั่น “5.5 Super Sales” ทางบางกอก แอร์เวย์ส ได้รวมภาษีสนามบิน ค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง (สำหรับเส้นทางบินต่างประเทศ) ค่าธรรมเนียมออกตั๋วโดยสารจองซื้อได้เพียง 5 วันเท่านั้น ระหว่าง 5  – 9 พฤษภาคม 2567 ทางเว็บไซต์ https://www.bangkokair.com/flyfest           

 

“สิทธิพิเศษ” เฉพาะสมาชิก “ฟลายเออร์โบนัส” วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 สามารถเข้าไปจองที่นั่งตั๋วโดยสารของบางกอก แอร์เวย์ส ได้ก่อนผู้โดยสารทั่วไป   

 

ตั๋วโดยสารที่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว สามารถนำไปใช้เดินทางตามเส้นทางที่เลือกไว้ เริ่ม 1 มิถุนายน – 30 พฤศจิกายน 2567 พร้อมกับรับบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น บริการฟรีโหลดกระเป๋าสัมภาระน้ำหนักคนละ 20 กิโลกรัมบริการห้องรับรองผู้โดยสาร บูทีคเลาจน์ ที่สนามบินที่ให้บริการ เสิร์ฟอาหาร-เครื่องดื่มบนเที่ยวบิน ตามรูปแบบฟูลเซอร์วิสของบางกอก แอร์เวย์ส  

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.