เจาะลึก!!สถาบันอาหารพลิกโฉมธุรกิจชิงตลาดส่งออกโลก
ครึ่งปีหลัง67ดัน“ฮาลาลฮับ-ร่วมเวทีซอฟท์พาวเวอร์11อุตฯ
นำร่อง1หมู่บ้าน1เชฟอาหาร-Local
Chef Thai Restaurant
สมาชิกคิงเพาเวอร์เลือกเที่ยว7แห่งรับสิทธิ์ลดสูงสุด
65%
ฮือฮา!lสมาชิกคิงเพาเวอร์ลด60%ที่บำรุงราษฎร์/ไวทัลไลฟ์
ททท.ผนึกบินไทยดึงเอเย่นต์ค้าตั๋วโลกหนุนTourism Hub
บางจากนำ3บริษัทรับ2มาตรฐานEU-มอบวินโนหนี้ให้กทม.
เที่ยว“น่านหน้าฝน” ดี๊ดีฟินฉ่ำเวอร์ในอ้อมกอดธรรมชาติ
7 วิธีลดไขมันในเลือดด้วยตัวเองช่วยสุขภาพหัวใจแข็งแรง
AWCผนึกAntInterเปิดBettrธุรกิจปล่อยสินเชื่อค้าส่งอาหาร
สุริยะ-เสริมศักดิ์หนุนงานIMCASAsiaนำไทยฮับทัวร์สุขภาพ
วันอาทิตย์ที่
23 มิถุนายน 2567
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz.
ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://www.facebook.com/share/v/TGc8ENjGM3BLkU6R/?mibextid=oFDknk
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ “ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์”
ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (nfi) เดินหน้าลุยอุตสาหกรรมอาหาร 2
บิ๊กโปรเจกต์ “ซอฟท์ พาวเวอร์” ชิมลางร่วม 11 อุตสาหกรรมเปิดคอนเฟอร์เรนซ์แรก
28-30 มิ.ย.นี้ “-ตั้งศูนย์ฮาลาลแห่งประเทศไทย”
ชิงเค้กตลาดโลก 2.1 ล้านล้านดอลล์ ปี67ได้งบกลางช่วยท้องถิ่น
2 โครงการ “1หมู่บ้าน 1 เชฟอาหาร” และ “Local Chef Thai Restaurant”
ยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารถิ่น และดันเทรนด์ใหม่นวัตกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงไทยชิงส่วนแบ่งตลาดส่งออกติดท็อปเทนโลก
ดร.ศุภวรรณ
ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (nfi) เปิดเผยว่า
กำลังรับทำ 2 โครงการใหญ่ นำร่องโครงการแรก ซอฟท์ พาวเวอร์
ทางด้านอาหาร ที่ได้รับนโยบายผ่านกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
ส่งมอบมายังสถาบันอาหารเป็นผู้ดำเนินงานลงมือปฏิบัติ โครงการที่ 2 จัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลแห่งประเทศไทย นำโดยนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญการพัฒนาอาหารฮาลาล ส่วนอื่น ๆ
ก็มีโครงการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสนับสนุนชุมชนเป็นดาวรุ่ง และอุตสาหกรรมใหม่อาหารสัตว์เลี้ยงเทรนด์ใหม่คล้ายอาหารมนุษย์ซึ่งไทยสามารถส่งออกเป็นอันดับ
3 ของโลก
โครงการแรก ริเริ่มจัดงานคอนเฟอเรนซ์ อุตสาหกรรม ซอฟท์ พาวเวอร์ 11 สาขา วันที่ 28-30 มิถุนายน 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีอุตสาหกรรมอาหารรวมอยู่ด้วย จะได้นำเสนอถึง แรงบันดาลใจ การเชิญชวนเข้าร่วมอุตสาหกรรม ในกลุ่มอาหารจะมีเชฟดังจากทั่วประเทศมาร่วมสาธิตด้วย
ตามแผนปี
2567 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณกลางให้สถาบันอาหารนำมาใช้ขับเคลื่อน
2 โครงการ ประกอบด้วย
โครงการแรก 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหาร เป้าหมายเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพเชฟ ปัจจุบันหลังสถานการณ์โควิดจบลงทั่วโลกขาดแคลนเชฟอาหารโดยเฉพาะอาหารไทย ปีนี้งบมาล่าช้าจึงจะขยับเป้าผลิตให้ได้เพียง 6,500 ราย จากเดิมตั้งไว้ 10,000 ราย แล้วจะไปเพิ่มจำนวนการผลิตปี 2568 ตลอดทั้งปีให้เกินกว่า 10,000 ราย เนื่องจากเป็นโครงการทำต่อเนื่อง 4 ปี
แผนงานของโครงการ
1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย
ผลิตแล้วจะให้ออกเดินทางไปอบรมเป็นโค้ชเชฟอื่น ๆ
โดยจะเปิดรับสมัครผู้สนใจผ่านช่องทางกองทุนหมู่บ้าน
เข้าร่วมอบรมออนไลน์และออฟไลน์รวม 90 ชั่วโมง
จัดทำหลักสูตรผ่านหลายกระทรวงบูรณาการร่วมกันนำโดย กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สถาบันคุณาวิชาชีพ กระทรวงแรงงาน
ผู้ที่จบหลักสูตรจะได้รับประกาศนียบัตรด้วย
โครงการที่สอง
Local Chef Thai Restaurant ต่อยอดจากขณะนี้ทุกหมู่บ้านในเมืองไทยมีเชฟท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่นอยู่จำนวนมากทำเมนูน่าสนใจ
แต่ยังขาดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ความคิดเชิงสร้างสรรค์
อาจจะต้องเพิ่มเติมได้อีก
ทางสถาบันจึงจะนำโครงการนี้เข้าไปช่วยยกระดับคุณภาพอาหารถิ่น ยืดอายุอาหาร (Shelf
life) โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน เช่น เมนูขนมจีนน้ำยาภาคใต้
ใช้เครื่องมือปรับปรุงให้อยู่ได้หลายเดือน หรือขนมไทยไปทำข้าวต้มมัดแบรนด์แม่เอย
จนสามารถทำให้ขนมมัดอยู่ได้เป็นปีโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น
สำหรับโครงการการจัดตั้งศูนย์ฮาลาลแห่งประเทศไทย
ซึ่งเป็นความริเริ่มของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกรทะรวงอุตสาหกรรม
ต้องการขยายตลาดส่งออก เนื่องจากตลาดทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 2.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศไทยส่งออกเป็นอันดับ 1 ใน
10 หรือท็อปเทนของโลก มูลค่าปีละกว่า 200,000 ล้านบาท หากตั้งศูนย์ฮาลาลจะเร่งทำ 2 เรื่อง คือ 1.เปิดช่องทางใหม่ขยายตลาด
เพิ่มยอดส่งออกให้ได้มากที่สุด 2.เพิ่มเครือข่ายอุตสาหกรรมฮาลาลทั่วโลก
ตามแผนจะเริ่มเดินทางไปต่างประเทศเริ่มจากไปร่วมงานที่บรูไน
เดือนสิงหาคม 2567 ต่อด้วยมาเลเซียร่วมงาน “มิฮัจ”
ฮาลาลใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดือนกันยายน นี้ นำผู้ประกอบการกว่า 60
รายไปเปิดตัวในแต่ละงาน
ซึ่งจะต้องบริหารจัดงานเพื่อทำงานร่วมกับพันธมิตรค่อนข้างมาก
ดร.ศุภวรรณ
กล่าวว่า สถาบันอาหารยังได้ริเริ่มทำอาหารแห่งอนาคต หรือ Future
Food เพราะทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารต่าง ๆ
ตอนนี้ไทยส่งออกอาหารสุนัข แมว นก มีโรงงานรับจ้างผลิตตลาดเติบโตสูงมาก
ผนวกกับแนวโน้มคนที่มีสัตว์เลี้ยงดูแลเสมือนลูกนั้นได้ประยุกต์ทำจาก Plant
Base กับ Fuctional food
อาหารเสริมช่วยลดคอเรสเตอรัล และอื่น ๆ
เป็นเทรนด์ใหม่โภชนาการอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง
ซึ่งมีผู้ผลิตรายใหญ่หลายโรงงานในเมืองไทย
ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากไทยมีโรงงานอาหารทะเลขนาดใหญ่นำส่วนที่เหลือมาแปรรูปเป็นอาหารสัตว์เลี้ยง
ระยะหลังมีผู้ประกอบการขอให้สถาบันอาหารช่วยพัฒนาสูตรและดูแลเรื่องสารปนเปื้อนด้วย
เป็นไปตามภารกิจขององค์กรเน้นใช้นวัตกรรม ยืดอายุอาหาร
โดยมีเครื่องมือทดสอบกับห้องแลบตรวจสอบสารปนเปื้อน
รวมทั้งโรงงานในสถาบันอาหารช่วยผลิตสินค้าให้ลูกค้าได้
ปัจจุบันมีโมเดลสนับสนุนกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่โดยเฉพาะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับเรื่อง
ESG : Environmental, Social
and Governance เน้นการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน
ส่งผลให้สถาบันอาหารต้องเข้าไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนร่วมด้วย เช่น
ชุมชนริมเขื่อนในอุตรดิตถ์ปลูกไร่มะม่วงหิมพานต์
มีสินค้าตกเกรดไปต่อยอดผลิตนมมะม่วงหิมพานต์
หรือแม่ฮ่องสอนนำเปลือกกระหล่ำปลีที่เสียหายมาพัฒนาใหม่เป็นอาหารสแน็กอย่างข้าวเกรียบกระหล่ำปลี
และน้ำเต้าหู้ 1 ในฮาลาลฟู้ด
ตอนนี้มีนวัตกรรมรสชาติต่าง ๆ
ที่โดนใจตลาดคือรสนมกระทิแล้วเพิ่มโภชนาการอาหารเข้าไปด้วย
ดังนั้นสถาบันอาหารจะต้องเตรียมความพร้อมคือ
“บุคลากร” ที่จะเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงให้ชุมชนซึ่งมีความน่าสนใจจากนักท่องเที่ยว
มีผลิตภัณฑ์ที่มีอายุใช้งานสั้นมาก จึงได้เข้าเน้นผลักดันการทำ
“ผลิตภัณฑ์สร้างเศรษฐกิจชุมชน” เป็นการทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชน และกองทุนต่าง ๆ
ปัจจุบันทำร่วมกองทุนพัฒนาไฟฟ้าซึ่งได้รับงบประมาณยกระดับสินค้าและบริการ
ทำให้ชีวิตของชุมชนรอบโรงไฟฟ้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
จึงเข้าไปร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
กระจายทำโครงการตามพื้นที่ต่าง ๆ ทุกแห่งที่สร้างมลพิษแล้วนำอาหารเข้าไปช่วยตอบโจทย์ให้ชุมชนมีชีวิตดีขึ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตมากขึ้น
โดยใช้อุปกรณ์และเครื่องมือทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ
ที่มีอยู่ไปสร้างนวัตกรรมอาหารเทรนด์ใหม่ เช่น ไข่ผำ สามารถพัฒนาเป็นผงชงกินได้
หรือแกงเรียงทำให้แห้งเป็นผงแล้วส่งออกเมื่อเทน้ำลงไปก็ได้รับประทานเมนูเหมือนปกติทุกอย่าง
ดร.ศุภวรรณ
กล่าวว่า พยายามเปิดช่องทางให้คนเข้าถึงสถาบันอาหารหลายช่องทาง หลัก ๆ ได้แก่
เพจเฟสบุ๊ค ใส่คำว่า nfi ,nfi foodconnect, หรือเว็บไซต์ www.nif.or.th
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 สมาชิกคิงเพาเวอร์เลือกเที่ยว7แห่งรับสิทธิ์ลดสูงสุด65%
สมาชิก
คิง เพาเวอร์ เท่านั้น ได้รับสิทธิพิเศษพักผ่อนในฝันรวม 7 แหล่งท่องเที่ยวรับส่วนลดสุดคุ้ม เที่ยวสนุก พบประสบการณ์สุดพิเศษ
ลดสูงสุดถึง 65% หรือแลกกะรัตเพื่อรับของที่ระลึกสุดพิเศษ วันนี้ – 31 ธ.ค. 67 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมกดรับสิทธิ์ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
1.Beat
Active รับส่วนลดสูงสุด 25%*
หรือ แลก 50 กะรัต* รับฟรี! กระบอกน้ำ
2.Elephant
Jungle Sanctuaryรับส่วนลด 20%* และรับฟรี! Cash
Voucher 100 บาท* หรือ แลก 50 กะรัต รับฟรี! Tote Bag
3.Habo
Cruise รับฟรี! ชุดผ้าขนหนู จาก Celebrity Cruises มูลค่า 500 บาท*
4.Monowheel
รับส่วนลดสูงสุด 20%* หรือ แลก 50 กะรัต* เพื่อรับส่วนลด 50 บาท
5.Seea
Life Bangkok รับส่วนลดพิเศษ และคูปองส่วนลดสูงสุด 290 บาท
6.สิริมหรรณพ เรืออาหารลักชัวรี่หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์เอเชีย ทีค กรุงเทพฯ
ให้นักท่องเที่ยวรับส่วนลดสูงสุดมากถึง 10%
7.วานา นาวา หัวหิน สวนน้ำนวัตกรรมใหม่ทางเทคโนโลยี ก็พร้อมมอบส่วนลดสูงสุด 65%
หรือ แลก 100 กะรัต เพื่อรับส่วนลด 100 บาท ก็ได้เช่นกัน
ข่าวที่ 2 ฮือฮา!lสมาชิกคิงเพาเวอร์ลด60%ที่บำรุงราษฎร์/ไวทัลไลฟ์
สมาชิกบัตร
คิง เพาเวอร์ ได้สิทธิพิเศษ เพิ่มอีกแล้ว ที่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์
มอบสิทธิพิเศษและส่วนลดอื่นๆอีกมากมาย สูงสุดถึง 60% จองได้ตั้งแต่วันนี้ -31 ธันวาคม 2567
“โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์”
ใช้บริการสถานดูแลสุขภาพแถวหน้าของเมืองไทยแสดงบัตรสมาชิกคิง เพาเวอร์ รับ
ค่ารักษาพยาบาลส่วนลดสูงสุด 15% และค่าทันตกรรมรับส่วนลด 10%
“ไวทัลไลฟ์”
ให้สมาชิก คิง เพาเวอร์ ทุกคนได้ใช้บริการด้าน Health &
Wellness รับส่วนลดสูงสุด 60% และบริการด้าน Aesthetic รับส่วนลดสูงสุด 29%
สมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY, SCARLET และ ONYX กดรับสิทธิ์ผ่านช่องทาง LINE
Official Account : @KINGPOWER หรือ member.kingpower.com เพื่อรับรหัสโปรโมชั่น (E-Code) และนำไปแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ
ไวทัลไลฟ์ เพื่อชำระเงินส่วนต่างที่ใช้บริการแต่ละครั้ว
สมาชิก คิง เพาเวอร์ CROWN และ
VEGA รับสิทธิ์และทำการนัดหมายแพทย์ ผ่าน The ATLAS
Personal Assistant หรือ KING POWER CONTACT CENTRE โทร. 1631
รับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้- 31
ธันวาคม 2567 เป็นส่วนลดค่ารักษาพยาบาล 10 - 15% และครอบครัวก็รับสิทธิ์ได้ด้วยเฉพาะญาติสายตรง บิดา มารดา คู่สมรส
บุตรอายุไม่เกิน 25 ปี เท่านั้น
ข่าวที่
3 ททท.ผนึกบินไทยดึงเอเย่นต์ค้าตั๋วโลกหนุนTourismHub
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เข้าร่วมงานของบริษัท
การบินไทย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขับเคลื่อน “THAI Networking Event 2024” ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ
โดยได้ร่วมต้อนรับเครือข่ายผู้ประกอบการจากทั่วโลกกว่า 150 ราย
ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทขายตั๋วโดยสารการบินไทย (Agent) เดินทางมาไทยระหว่างวันที่
18-20 มิถุนายน 2567 เป็นกลุ่มคู่ค้าคุณภาพมีช่องทางการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายศักยภาพตลาดหลักในภูมิภาค
ได้แก่ ยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย จึงได้ใช้โอกาสนี้นำเสนอข้อมูลข่าวสาร
นโยบายการให้บริการของการบินไทย และ
ททท.ซึ่งเป็นหน่วยสำคัญขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในเวทีตลาดทั่วโลก
ททท.นำเสนอข้อมูลสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยและความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ
กลุ่มระยะใกล้ (Short-Haul) และระยะไกลข้ามทวีป (Long-Haul) เน้นเพิ่มโอกาสควบคู่ไปกับการขยายเส้นทางการบินของการบินไทยไปยังประเทศต่าง
ๆ ตามวิสัยทัศน์ Thailand Tourism
2025 นำไทยก้าวสู่ “ศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของภูมิภาค
หรือ Tourism Hub” ตามเป้าหมายปี 2567 รัฐบาลให้เร่งนำการท่องเที่ยวสร้างรายได้เข้าประเทศ
3.5 ล้านล้านบาท ปี 2568 จะทำรายได้เพิ่มมากขึ้นต่อไป
รวมทั้ง ททท.ได้ใช้การเข้าร่วมงานครั้งนี้
สนับสนุนการรวมอัตลักษณ์วัฒนธรรมให้เอเย่นต์ทั่วโลกได้ชมพลัง ซอฟท์ พาเวอร์ ไทย
นำเสอนการแสดงไทยร่วมสมัย ชุด “amazing เมืองไทย ส่งใจลัดฟ้า ต้องมาให้รู้”
สอดคล้องกับ IGNITE
Thailand 5 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่
1.การยกระดับประสบการณ์
(Experience) การท่องเที่ยวไทยในทุกสัมผัสที่เดินทางเข้ามา
2. โปรโมทซอฟท์ พาวเวอร์ ไทย ด้วยเรื่องราวหรือสตอรี่ที่ดึงดูดใจผ่านการนำเสนอเมื่อมาถึงเมืองไทยแล้วต้องทำ
5
อย่างหรือ 5 Must Do in Thailand
3.กระจายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากพื้นที่หลักสู่เมืองใกล้เคียงโดยเฉพาะเมืองน่าเที่ยว
หรือเมืองซึ่งเป็นอัญมณีของประเทศไทยที่มีความงดงามซ่อนอยู่ (Hidden Gems)
4.พัฒนาการท่องเที่ยวโดยมีไทยเป็นประเทศศูนย์กลางร่วมกับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
“ CLMV :กัมพูชา-สปป.ลาว-เมียนม-เวียดนาม”
5.นำไทยเป็นศูนย์กลางดึงงานเวิลด์อีเวนต์ระดับโลกเข้ามาจัดได้ตลอดทั้งปี
ขณะนี้กำลังได้รับความสนใจจากนานาชาติทยอยเข้ามาจัดงานเป็นจำนวนมาก
ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า
ททท.ได้นำเสนอ 5
กลยุทธ์ พร้อมกับให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพทางการท่องเที่ยวควบคู่กับปริมาณหรือจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
และร่วมมือบูรณาการทำงานกับทุกฝ่าย ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นฟันเฟืองสำคัญสร้างและกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นอย่างทั่วถึงเท่าเทียม
ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลือกนำเงินเข้ามาใช้จ่ายเติบโตเพิ่มขึ้นและเดินทางตามเทรนด์การท่องเที่ยวยั่งยืน
สร้างเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งมั่งคั่งมั่นคงตลอดทุกปี
สำหรับการจัดงาน “THAI
Networking Event 2024” มีผู้บริหารของการบินไทยและ
ททท.ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด กับทุกฝ่ายที่ร่วมงานนี้มี นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์
ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย นายชาย เอี่ยมศิริ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณกรกฏ ชาตะสิงห์
ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ นางณัชสิชา
วรพฤกษ์พิสุทธิ์ รองประธานพัฒนาธุรกิจ มาสเตอร์ การด์ เอเชีย/แปซิฟิก
ข่าวที่
4 บางจากนำ3บริษัทรับ2มาตรฐานEU-มอบวินโนหนี้ให้กทม.
นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจในกลุ่มบางจาก 3 บริษัท
ได้การรับรอง 2 มาตรฐานสากล
ได้แก่ มาตรฐาน ISCC EU :
International Sustainability & Carbon Certification และมาตรฐาน ISCC CORSIA ตลอดห่วงโซ่อุปทานเพื่อการจัดจำหน่ายเชื้อเพลิงยั่งยืน
นำโดย บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท บีซีพีที จำกัด และบริษัท
บีเอสจีเอฟ จำกัด ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทานสำหรับการจัดจำหน่ายเชื้อเพลิงยั่งยืน
โดยได้การรับรองมาตรฐานสากล ISCC
EU และ ISCC CORSIA ตลอดห่วงโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชนสำหรับการจัดจำหน่ายเชื้อเพลิงยั่งยืน
เช่น น้ำมันแนฟทาชีวภาพ น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF:Sustainable
Aviation Feul ) อันเป็นการเตรียมความพร้อมในการผลิตและจัดจำหน่ายเชื้อเพลิงยั่งยืนทุกชนิดของกลุ่มบริษัทบางจาก
รองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคตอันใกล้นี้
ความสำคัญของ “มาตรฐาน ISCC EU” ได้รับการยอมรับจากตลาดสหภาพยุโรป
เพื่อการรับรองห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพหรือชีวมวลสำหรับเชื้อเพลิงการขนส่งสอดคล้องกับ
EU RED (Renewable Energy Directive) และได้การยอมรับโดยคณะกรรมาธิการยุโรป ส่วน
“มาตรฐาน ISCC CORSIA” เป็นการรับรองน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนที่เข้าข่ายตามเกณฑ์กลไกชดเชยและการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทางการบินระหว่างประเทศ
(CORSIA) ในโครงการการบินระหว่างประเทศและตลอดห่วงโซ่อุปทาน
โดยมีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation
Organization: ICAO) รับรอง เพื่อแสดงถึงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนของแต่ละกลุ่มธุรกิจ
ล่าสุดนายธีรชัย เยาว์พฤกษ์ชัย
รองผู้จัดการสายธุรกิจ บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด
หน่วยงานให้การรับรองมาตรฐาน ISCC ได้มายังโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง
พร้อมกับทำพิธีมอบโดยมีตัวแทนของกลุ่มบริษัทบางจากที่เกี่ยวข้องแต่ละส่วนเข้ารับใบรับรองมาตรฐานดังกล่าวอย่างพร้อมเพียงกัน
ประกอบด้วย
ล่าสุด นางกลอยตา ณ ถลาง
รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท
บางจากฯ กับบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) “BSRC” ร่วมกันส่งต่อนวัตกรรมสีเขียวเพื่อความยั่งยืนมอบจักรยานยนต์ไฟฟ้าวินโนหนี้ให้นายชัชชาติ
สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 21
คัน เพื่อให้ กทม.ใช้ในสาธารณะประโยชน์
สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ในสวนเบญจกิติและสวนวชิรเบญจทัศ ในพิธีเปิดงานนิทรรศการกรุงเทพมหานคร 2567
BKK EXPO 2024 เมืองเปลี่ยนได้เพราะคุณ ณ
อาคารพิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ ซึ่งวินโนหนี้ได้ให้บริการรับ-ส่งผู้เข้าร่วมงานนิทรรศการฯ
ระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน 2567
ด้วย
สำหรับ “วินโนหนี้”
เป็นสตาร์ทอัพแพลตฟอร์มให้เช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่รายแรกในเมืองไทย
พัฒนาธุรกิจภายในกลุ่มบริษัทบางจากได้นำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวมายกระดับคุณภาพชีวิตผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ส่งเสริมให้ใช้พลังงานสะอาด
ลดมลพิษทางอากาศ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศสังคมคาร์บอนต่ำ
รักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่านประสบการณ์การขับขี่ที่“ดีต่อเราและต่อโลก”
ช่วงที่ 2 กลิ่นอายฝน หอมแผ่นดินแดนเหนือ ลอยมาแล้ว ชวนสายธรรมชาติ ไปเที่ยว
“น่านหน้าฝน” ปีนี้ ททท.นำ สายการบิน ที่พัก ร้านอาหาร แจกโปรดี ๆ วันธรรมดาเพียบ
มาก่อนรับเลย รีบหน่อยนะ...รออยู่ แล้วฟัง “7วิธีลดไขมันด้วยตนเอง”
ก่อนหัวใจอวัยวะอื่นพัง เกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก “AWCผนึกAntInter” เปิดbettrบริการสินเชื่อค้าส่งอาหาร ข่าวที่สอง
“สุริยะ-เสริมศักดิ์” หนุนจัด ICMSA Asia”
นำไทยฮับบริการสุขภาพ
ท่องเที่ยว
– เที่ยว“น่านหน้าฝน”ดี๊ดีฟินฉ่ำเวอร์ในอ้อมกอดธรรมชาติ
“น่านเมืองในม่านหมอกฝน” ย่างเข้าสู่ฤดูฝนของทุกปี
ช่วงต้นเดือนมิถุนายน จนถึงปลายเดือน สิงหาคม ของทุกปี จังหวัดน่าน เป็นกรีนซีซันรายล้อมด้วยสภาพอากาศเย็นสบาย ฉ่ำด้วยไอฝน หอมกลิ่นดิน เย้ายวนให้นักเดินทางทั่วทุกสารทิศอยากเที่ยวให้ทั่วทั้งจังหวัดน่าน
ชวนมาสัมผัสบรรยากาศเขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำช่วงฤดูฝนทั้งน่านเหนือ น่านกลาง เเละน่านใต้
มีกิจกรรมหลากหลายให้ฟินเวอร์ได้ทุกวัน จะขับรถเที่ยวบนถนนลอยฟ้า ดำนากับชาวนา
สัมผัสวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ จิบกาเเฟชมวิวทุ่งนา สัมผัสบรรยากาศฝนตกชุ่มฉ่ำ
ตอนนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ชวนผู้ประกอบการเมืองน่าน ทำจัดโปรโมชั่นต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนช่วงฤดูฝน
ไฮไลต์ด้วย โปรโมชั่นที่ 1 เที่ยวเป็นหมู่คณะศึกษาดูงาน แนะนำเส้นทางเที่ยวน่านหน้าฝน ยลวิถีชุมชน
กิจกรรมวีคเดย์เสน่ห์น่าน และโปรโมชั่นที่ 2 ชวนคนวัยทำงานออกเที่ยวในวันธรรมดา ทั้งลดทั้งแถมของที่ระลึกมากมาย
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมายังจังหวัดน่านด้วยสายการบิน
ใช้บัตรโดยสารขึ้นเครื่องหรือ บอร์ดดิ้ง พาสส์ รับส่วนลดสุดพิเศษจากร้านอาหารที่ร่วมโครงการ 5 – 10 % รวมทั้งร่วมอีกกิจกรรมห้ามพลาดคือ
พิกัดที่ 1 ท่องเที่ยวงาน
Nan Music
2024 ฟังเพลงท่ามกลางบรรยากาศสายฝน
สัมผัสคุณค่าศิลปวัฒนธรรมของเสียงดนตรีพื้นเมืองน่านที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น
ผ่านกาลเวลาเกิดการผสมผสานสู่การนำเสนอดนตรีพื้นเมืองที่มีเสน่ห์ในมุมมองใหม่
พิกัดที่ 2 กิจกรรมชวนพักผ่อนที่น่านหน้าฝนแบบยาวๆ
“งานหอมกลิ่นถิ่นน่าน” ชวนนักท่องเที่ยวสายกินต้องมาลอง “งานปัวเปื้อนมาก” พบกับการแข่งขันวอลเลย์บอลโคลน
พิกัดที่ 3 งาน Amazing Nan Marathon
2024
สายวิ่ง สายเฮลท์ตี้ นัดกันมาได้เลย
น่านเปิดเนินเขาธรรมชาติเขียวขจีไว้รอแล้ว
พิกัดที่ 4 ชี้เป้าไฮไลต์แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเที่ยวได้ตลอดฤดูฝน
เลือกได้เลย อย่าง จุดที่ 1 จุดชมวิว
1715 สัมผัสหมอกฝน สัมผัสอากาศเย็นตลอดทั้งปี จุดที่ 2 ชมวิวทุ่งนาบ้านเวร
ชุมชนบ้านสะปัน และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวสัมผัสความเขียวได้ตลอดฤดูฝน
ทุกการเดินทางท่องเที่ยวธรรมชาติ
และแหล่งอื่น ขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ไม่ทิ้งเศษขยะในเเหล่งท่องเที่ยว ช่วยกันดูแลรักษา แหล่งท่องเที่ยว
สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวหน้าฝน
ททท.เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สอบถามการเดินทาง
วางแผนล่วงหน้าก่อนเที่ยว เลือกน่านเป็นหมุดหมายในการเดินทาง “เที่ยวน่านหน้าฝน” หรือจะเที่ยวเมืองน่านได้ตลอดทั้งปีทั้ง
365 วัน
สุขภาพ
–7 วิธีลดไขมันในเลือดด้วยตัวเองช่วยสุขภาพหัวใจแข็งแรง
วิธีลดไขมันในเลือดด้วยตัวเอง
เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยภาวะไขมันในเลือดสูง (Hyperlipidemia) ควรทำความรู้จักเอาไว้ เนื่องจากการมีระดับไขมันในเลือดที่สูงเกินปกติอาจส่งผลให้ผู้ที่ป่วยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
เช่น ภาวะหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง ภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นภาวะที่เลือดในร่างกายมีไขมัน
อย่างคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ สะสมอยู่ในปริมาณมาก
ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้หลอดเลือดเกิดการอุดตันได้ โดยการรักษาภาวะนี้หลัก ๆ
จะเป็นการใช้ยาร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย
มาทำความรู้จักวิธีลดไขมันในเลือดด้วยตัวเอง -การรักษาภาวะนี้หลัก ๆ จะเป็นการใช้ยาร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ชนิดของยาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้รักษา
ส่วนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือการดูแลตัวเองที่ผู้ป่วยสามารถทำได้เองจะมีดังต่อไปนี้
1.ออกกำลังกาย ลองเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายให้มากขึ้น
หรือประมาณ 150
นาที/สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การว่ายน้ำ หรือการปั่นจักรยาน
2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร -ผู้ที่เริ่มลดไขมันในเลือดควรลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันชนิดไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์ และน้ำตาล
ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารที่อาจส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นได้
แหล่งของอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงก็เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว
และนมวัวหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวสูตรที่มีไขมัน
ส่วนอาหารที่มักพบไขมันทรานส์มากก็เช่น มาการีน และขนมหวานต่าง
ๆ
นอกจากลดปริมาณอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลแล้ว การเพิ่มการรับประทานอาหารที่ช่วยลดไขมันในเลือดก็อาจมีส่วนช่วยลดไขมันในเลือดได้เช่นกัน
โดยกลุ่มสารอาหารที่ควรเพิ่มการรับประทานก็เช่น โอเมก้า 3 ใยอาหาร และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
กลุ่มอาหารที่มักพบสารอาหารเหล่านี้ได้มากก็เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า
อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อะโวคาโด ข้าวโอ๊ต แซลมอน และถั่วแดง
3. ควบคุมน้ำหนักตัว -การมีน้ำหนักตัวมาก หรือภาวะอ้วน อาจส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีในร่างกายลดลง
และระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (Low–Density Lipoprotein: LDL) เพิ่มขึ้นได้ การควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร
จึงเป็นอีกวิธีที่อาจช่วยลดไขมันในเลือดได้
4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ -ควันบุหรี่ ทั้งการสูบเองและการได้รับควันบุหรี่มือสอง
อาจส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีในร่างกายลดลง และระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีเพิ่มขึ้นได้
5. หลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาจส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นได้
ดังนั้น
ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณการดื่มให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
6. รับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบางชนิด อาจมีส่วนช่วยในการควบคุมหรือลดไขมันในเลือดได้
เช่น
6.1 น้ำมันปลา เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารอาหารที่อาจมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์ในร่างกายได้
6.2 ไซเลียม ฮัสค์ เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดหนึ่งที่มีใยอาหารชนิดละลายน้ำ
(Soluble Fiber) เป็นส่วนผสมอยู่มาก
ซึ่งสารอาหารชนิดนี้อาจมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้
ก่อนรับประทานอาหารเสริม
ผู้รับประทานควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาถึงความเหมาะสมก่อน
โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพใด ๆ อยู่ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย
7.เพิ่มพืชสมุนไพรบางชนิดในมื้ออาหาร อาจมีส่วนช่วยในการลดระดับไขมันในร่างกายได้
โดยตัวอย่างพืชสมุนไพรที่อาจมีส่วนช่วยในด้านนี้ก็เช่น กระเทียม ขิง โหระพา
วิธีลดไขมันในเลือดด้วยตัวเองทั้งหมดที่ยกมาในข้างต้นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการควบคุมหรือลดระดับไขมันในเลือดเท่านั้น
ซึ่งในการจะลดไขมันในเลือดให้ได้ผล
ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงก็ควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และรับประทานยาที่แพทย์ให้อย่างสม่ำเสมอร่วมด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก – AWCผนึกAntInterเปิดBettrธุรกิจปล่อยสินเชื่อค้าส่งอาหาร
นางวัลลภา
ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์
คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ “AWC” จับมือกับ Ant International เปิดตัวบริการสินเชื่อดิจิทัลระดับโลก
bettr
เน้นปล่อยสินเชื่อกับธุรกิจขนาดย่อย
ขนาดย่อม และขนาดกลาง (MSMEs) ซึ่งทาง bettr จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ
AWC
ในโครงการ
“Phenix
:ฟินิกซ์”
แหล่งรวมสินค้าอาหารและสุดยอดความอร่อยใจกลางเมืองบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านประตูน้ำเป็นแห่งแรก
เพื่อมอบทางเลือกบริการทางการเงินบนระบบดิจิทัลให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการด้านอาหารในโครงการ
‘Phenix’
สนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมค้าส่งอาหารของไทยสู่ตลาดโลกผ่านโซลูชันทางการเงินที่มีความน่าเชื่อถือจากผู้พัฒนาระดับโลก
โดย bettr
จะขยายการให้บริการนวัตกรรมทางการเงินให้กับ
MSME
ในโครงการอื่นๆ
ของ AWC
ในอนาคต
ความร่วมมือครั้งนี้จะผสมผสานจุดแข็งของสองฝ่ายแล้วเปิดตัว
bettr ให้บริการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลอย่างสะดวก
ไร้รอยต่อกับธุรกิจขนาดย่อย และขนาดย่อม ซึ่งอยู่ในระบบนิเวศธุรกิจโครงการต่าง ๆ
ผ่านแพลตฟอร์ม และช่องทางต่าง ๆ AWC จะเริ่มจากโครงการ “Phenix” แหล่งรวมสินค้าอาหารและสุดยอดความอร่อยใจกลางเมืองบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านประตูน้ำ
ซึ่งมีกำหนดเปิดตั้งแต่ 26 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ขาย
ผู้ซื้อ กลุ่มธุรกิจรายย่อยและขนาดเล็ก และซัพพลายเออร์ของ AWC ที่ทำธุรกิจบนฟินิกซ์ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ อนาคตจะขยายความร่วมมือต่อเนื่องไปยังโครงการอื่น
ๆ ด้วย
มร.
เพ็ง หยาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ant International กล่าวว่า ตื่นเต้นกับการนำ bettr มาบริการ SME และพันธมิตรในอุตสาหกรรมให้กลุ่มตลาดเกิดใหม่ เสริมศักยภาพSME ทั่วโลกด้วยโซลูชันฟินเทคที่สร้างสรรค์ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค
และยินดีอย่างยิ่งที่ร่วม AWC นำร่องโครงการฟินิกซ์เป็นแห่งแรก
ตามภารกิจ bettr คือผู้ให้บริการทางการเงินทำเรื่องที่ง่ายและสามารถเข้าถึงได้สะดวกยิ่งขึ้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อย
จะช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมทางการค้าและการพาณิชย์ในระดับภูมิภาค
รวมถึงการค้าข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ โดยหวังจะได้ขยายความร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง
ๆ และผู้นำในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยอย่าง AWC ด้วยวิสัยทัศน์ร่วมกันสร้างระบบการค้าแห่งอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกส่วนและยั่งยืนด้วย
ส่วนความร่วมมือระหว่าง AWC กับ Ant International จะช่วยผลักดันธุรกิจ SME และผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลกผ่านนวัตกรรมการเงินและโซลูชันเทคโนโลยีล้ำสมัย
สานต่อเชื่อมโยงธุรกิจข้ามพรมแดนระหว่างกัน สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยและอํานวยความสะดวกเรื่องการขยายธุรกิจให้ผู้ประกอบการของไทยสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน
ผ่านบริการชำระเงินข้ามพรมแดนและโซลูชันเทคโนโลยีดิจิทัล Alipay+ และบริการชำระเงินดิจิทัลครบวงจรและแพลตฟอร์มทางการเงินสำหรับธุรกิจระดับโลกอย่าง WorldFirst โดย Ant International
สร้างการเติบโตที่เข้มแข็งให้วงจรการค้าส่งของเมืองไทย
ข่าวที่สอง
-“สุริยะ-เสริมศักดิ์”หนุนงานIMCAS Asiaดันไทยฮับทัวร์สุขภาพ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า
ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB”
ได้เป็นประธานเปิดงาน การประชุมนานาชาติ “IMCAS Asia 2024 17th Edition and 12th ITCAM” ที่ประเทศไทยได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมต่อเนื่องปีที่
6 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมจากทั่วโลกกว่า 3,000 คน ระหว่าง 21-23 มิถุนายน 2567 โรงแรม ดิ
แอทธินี โฮเทล แบงค็อก อะ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น
ซึ่งจะเป็นงานไมซ์นานาชาติสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศสูงกว่าการท่องเที่ยวปกติ
ซเป็นหนึ่งในนโยบายที่จะผลักดันการเติบโตทั้งจำนวนงานและเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจต่อไป
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่ายินดีสนับสนุนงาน IMCAS
Asia 2024 ที่เลือกไทยเป็นสถานที่จัดงาน โดยมีบุคลากรระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ผิวหนัง
ศัลยแพทย์พลาสติก เวชศาสตร์ความงาม และฟื้นฟูความเสื่อมจากทั่วโลก
นักวิชาการและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทางการแพทย์จากทั่วโลกกว่า 3,000 คน ขานรับกับวิสัยทัศน์
IGNITE Thailand ของรัฐบาลที่กำลังยกระดับประเทศเป็น “ศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ
หรือ Wellness & Medical Hub” และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
20 ปี จะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้ไทยมหาศาล
ด้วยศักยภาพของกลุ่มผู้ร่วมงานเป็นแพทย์
พยาบาล นักวิชาการ ผู้ประกอบการด้านความงาม แล้วยังเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพมีศักยภาพใช้จ่ายเงินสูงตลอดการเดินทางประชุมและพักผ่อนในไทย
จึงมุ่งหวังจะให้งาน IMCAS Asia 2024 เป็นเวทีสำคัญเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีด้านสุขภาพและความงาม
เสริมสร้างศักยภาพและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
การที่ไทยได้รับเลือกเป็นสถานที่เจ้าภาพจัดงานประชุม
IMCAS Asia 2024 ครั้งนี้จะเกิดประโยชน์โดยตรงกับประเทศ 4 ด้าน
ประกอบด้วย
ด้านที่
1 ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง จากกลุ่มผู้เข้าร่วมงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และความงาม
ผู้บริหารองค์กรและนักลงทุน พร้อมใช้จ่ายเงินสูง เดินทางมาพร้อมผู้ติดตาม ซึ่งมีทั้งผู้เดินทางมาก่อนล่วงหน้าและผู้ที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวหลังจบงานต่อไปยังจังหวัดอื่น
ๆ ด้วย จึงคาดหวังจะเกิดการใช้จ่ายกระจายไปยังที่พัก อาหาร การขนส่ง
ภาคการท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นทำให้เศรษฐกิจคึกคักมากขึ้น
ด้านที่ 2
ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในระดับโลก
ในฐานะเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติ จึงมีช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อระดับโลก
เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มในอนาคตอนาคตได้
ด้านที่ 3 ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) ของไทย ตอกย้ำเรื่องความก้าวหน้าบริการทางการแพทย์และความงาม ผู้เข้าร่วมงานสามารถเลือกใช้การแพทย์ในไทยมากขึ้น เช่น การทำศัลยกรรมความงาม การรักษาโรคเฉพาะทาง การพักฟื้นตามรีสอร์ตสุขภาพ จะเป็นอีกตลาดที่แต่ละคนพร้อมใช้จ่ายเงินจำนวนมาก สร้างผลเชิงบวกกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
ด้านที่ 4 พัฒนาเครือข่ายธุรกิจ จากผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศจะมีโอกาสพบพูดคุยสร้างเครือข่ายธุรกิจกับผู้ประกอบการในไทยพัฒนาธุรกิจและการลงทุนในอนาคต เช่น การลงทุนคลินิกความงามและศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ช่วยยกระดับเศรษฐกิจเมืองไทยเติบโตต่อเนื่องระยะยาว เกิดปรากฎการณ์ใหม่ทั้งอาชีพ การจ้างงาน และการลงทุนที่มีมูลค่าสูงขึ้นต่อไป
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น