ททท.นำธุรกิจหัวหิน/ประจวบฯ4เดือนทำเงินเฉียด2หมื่นล้าน
กระหน่ำขาย5Must Doดัน8อำเภอประเดิมจัดคอนซูเมอร์แฟร
ใหม่!!ครึ่งปีหลัง“สนามบิน-สถานีรถไฟ”-8อีเวนต์เที่ยวประจวบ
คิงเพาเวอร์ออนไลน์จัดให้TOP5สกินแคร์ลักชัวรี่แบรนด์โลก
อร่อยล้ำด้วยบัตรสมาชิกคิงเพาเวอร์แลกกะรัตรัวๆ8ร้านดัง
ช้อปด่วนคิงเพาเวอร์บิวตี้ไอเทมลดถึง30มิ.ย.นี้สูงสุด50 %
“ททท.-5อุตฯ”ใช้กม.สมรสเท่าเทียมโกยรายได้LGBTQIAN+
บางจากปลื้มนำธุรกิจติดอันดับ24ฟอร์จูนครั้งแรกในเอเชีย
TCEBเปิดข่าวดีไมซ์ปี67ทำรายได้รวมเข้าประเทศเกินเป้า5%
สุขทันทีที่เที่ยวไทยฉ่ำสุด6อีเวนต์อาหาร/ดนตรี/กีฬา/ศิลปะ
กินข้าววันละมื้อIF“ประโยชน์-ความเสี่ยง”ต่อร่างกายที่ควรรู้
AOTลุยโร้ดโชว์ลอนดอนตอบนักลงทุนอินเตอร์ชัดๆ4เรื่อง
ททท.แฟรงเฟิร์ต“LOOPWellbeing”รุกเศรษฐียุโรปเพิ่ม20%
วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #สุขทันทีที่เที่ยวเมืองไทย #6บิ๊กอีเวนต์อาหารดนตรีกีฬาศิลปะ
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “นายอาชวันต์ กงกะนันท์” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ 4 เดือนแรก ทำรายได้ 18,163 ล้านบาท โต 26 % ลุยจัดมหกรรมปลุกกระแสเที่ยวต่อครึ่งปีหลัง’67 จัดเต็ม IGNITE Thailand เน้น “ตลาดยั่งยืน-ประชาชนมีส่วนร่วม-ท้องถิ่นมีรายได้เท่าเทียม” รุกใหญ่ 3 โครงการ “สื่อสารรุกตรงเป้า-ร่วมโครงสร้างทัวร์ทั้งจังหวัด-ปูพรมขาย 5 Must do” ดัน 8 อำเภอ โหมโรงเปิดตลาดนัด “คอนซูเมอร์ แฟร์ ท่องเที่ยว” ปลุกกระแสทัวร์ 8 บิ๊กอีเวนต์ พร้อมผนึก ททท.ฮ่องกง โปรโมท ประจวบ เพชรบุรี สนามบินพร้อม เปิดแล้วสถานีรถไฟใหม่ ปั๊มเศรษฐกิจหน้าฝนคึกคัก
นายอาชวันต์
กงกะนันท์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์
เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมด
4 เดือนแรก ระหว่างมกราคม-เมษายน 2567 จำนวน 4,073,598 คน
เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 26 % แบ่งเป็น คนไทย 3,879,798
คน ต่างชาติ 214,451 คน สร้างรายได้รวม 18,163.79
ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 21 % จากคนไทย 15,722 ล้านบาท ต่างชาติ 2,441 ล้านบาท มีอัตราการเข้าพัก 76.16 % เทียบกับตลอดปีที่ผ่านมาทำได้เพียงประมาณ
61 % ปีนี้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 2,600 บาท/คน/วัน
ช่วงครึ่งปีหลัง
2567 ตามนโยบาย IGNITE
Thailand ของรัฐบาล
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ในภาพรวมได้ให้น้ำหนักความสำคัญกับ 3 เรื่อง
1.การพัฒนาตลาดท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
2.ให้ภาคประชาชนเข้ามีส่วนได้ส่วนเสียกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
3.สนับสนุนชุมชนท้องถิ่นมีรายได้อย่างเท่าเทียม
ตลอดช่วงการดำเนินงานที่ผ่านมาชุมชนท่องเที่ยวต่าง ๆ
ในประจวบคีรีขันธ์ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards หลายแห่ง
ซึ่งยังคงเดินหน้าผลักดันขยายชุมชนอื่นยกระดับเข้าสู่มาตรฐานรางวัลท่องเที่ยวมากขึ้นต่อไป
ผนวกกับทำประชาสัมพันธ์ช่วยผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมเสนอขายอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะนี้ ททท.ได้ประสานหน่วยงานต่าง
ๆ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทั้ง สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พาณิชย์ วัฒนธรรม และอีกหลายหน่วยงาน
ซึ่งกำลังผลักดันเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวรายพื้นที่ทั้งหมด 8 อำเภอ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงการเดินทางถึงกันได้
โดย
ททท.วางกลยุทธ์พัฒนาตลาดการท่องเที่ยว ประกอบด้วย
เรื่องที่
1 สื่อสารการตลาดทำประชาสัมพันธ์เจาะลึกให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น กลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQIAN+
จะจัดงาน Pride Month วันที่ 29
มิถุนายน 2567 ที่หัวหิน และการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ
โดยเฉพาะ แหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters เช่น
วัดพระมหาธาตุ อำเภอบางสะพาน
สามารถใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางตอนใต้ของหัวหินในบริเวณใกล้เคียงได้
จะเดินหน้าสร้างการรับรู้เต็มที่
เรื่องที่
2 โครงสร้างทางการท่องเที่ยวจะต้องประสานความร่วมมือกับภาครัฐ
เอกชน ชุมชน ท้องถิ่น จะต้องทำคู่ขนานไปด้วยกันกับการส่งเสริมตลาด เช่น
ระบบขนส่งและการเดินทาง จะต้องสะดวกทั้ง ทางบก ทางราง รถไฟ ทางอากาศ
และมาตรฐานบริการท่องเที่ยว และมาตรฐานความปลอดภัยซึ่งรัฐบาลเน้นย้ำอย่างมาก
และการลงทุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
เรื่องที่
3 ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประจวบคีรีขันธ์
โดยจะโปรโมท 5 Must Do in Prachuap Khiri Khan เพื่อนำไปสู่การเดินทางแบบเชื่อมโยงในแต่ละอำเภอ
อาทิ
1.Must See จัดกิจกรรมแนะนำการท่องเที่ยว ประเพณีห่มผ้าหลวงพ่อทวด
ประเพณีล่องแพแห่พระชุมชนบ้านป่าหมาก
2.Must Eat แนะนำอาหารการกิน
ให้นักท่องเที่ยวมาชิมช่วงเที่ยวสวนผลไม้ ทุเรียนป่าละอู อาหารพื้นถิ่น
เช่น แกงเหมงพร้าไก่บ้าน
3.Must Seek พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ
ซาฟารีเมืองไทยอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
4.Must Buy มาแล้วต้องช้อปสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง ผ้าทอเขาเต่า
ผ้าพิมพ์ลายโขมพสตร์
และชีสเค้กไส้สัปปะรด
5.Must Beat กิจกรรมท้าทายต่าง
ๆ เช่น กิจกรรมพิชิตเขาล้อมหมวก 902
ฟุต , เดินป่าเขาหลวงอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง
ช่วงครึ่งปีหลัง
2567 ในช่วงหน้าฝนเตรียมขายต่อเนื่องมีกิจกรรมการท่องเที่ยวรายการใหญ่ควบคู่กับไป
เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและประชาชนร่วมงานจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 8 กิจกรรม/อีเวนต์ ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 งานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู
โดยเฉพาะทุเรียนป่าละอู ที่ทุกคนรอคอย จะเริ่ม 27
มิถุนายนถึง 3 กรกฎาคม นี้
กิจกรรมที่ 2 ห่อผ้าหลวงพ่อทวด เดือนสิงหาคม นี้ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี
มีพุทธศาสนิกชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานหลักพันถึงหมื่นคน
กิจกรรมที่ 3 ค่ายดนตรี “Music on the Move” ของสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ช่วงเดือนกรกฎาคม ต่อด้วยงานเทศกาลอาหาร
เดือนสิงหาคม
กิจกรรมที่ 4 วิ่งเพื่อการกุศล
วิ่งเพื่อหัวใจและสมอง RUN WITH THE FLOW 2024
ของโรงพยาบาลกรุงเทพที่ กทม. ราชบุรี นครปฐม เพชรบุรี จัดวิ่งทั่วประเทศ 5 สนาม มาปิดท้ายสนามที่ 5 ที่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์
เดือนตุลาคม
กิจกรรมที่ 5 การท่องเที่ยวเชิงกีฬา ช่วงปลายปี
ได้แก่ CIMB THAI TRIATHOLN เดือนธันวาคม ต่อด้วยงานสดุดีวีรชน
8 ธํนวาคม ของกองบิน 5 อ่าวมะนาว
กองทัพอากาศ
กิจกรรมที่ 6 การท่องเที่ยวช่วงปลายปีของไร่องุ่นมอนซูน
หัวหิน จะเป็นกิจกรรมดนตรี Jazz at Moonsoon Valley
กิจกรรมที่ 7 การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เทศกาลท่องเที่ยวดูเหยี่ยวเขาโพธิ์ ที่ อ.บางสะพานน้อย เดือนธันวาคม 2567 ซึ่งอพยพมาจากไซบีเรียบแล้วบินต่อไปเกาะสุมาตราอินโดนีเซีย
และการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยโดย ททท.จะโปรโมทให้มาเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ทางตอนล่าง
กิจกรรม 8 countdown พื้นที่หัวหิน และกระจายจัดตามอำเภอต่าง
ๆ ประจวบคีรีขันธ์
ผอ.อาชวันต์
กล่าวว่า ททท.การลงทุนของภาคเอกชน สำคัญ ๆ ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เท่าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่และข้อมูลจากภาคเอกชน
จะเห็นการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์
ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว บ้านพักตากอากาศ บ้านแบบพูลวิลล่า และในตัวอำเภอเมือง
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็มีการก่อสร้างโรงแรม Budget
Hotel รองรับลูกค้า
ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ร่วมกับ ททท.ประจวบคีรีขันธ์ มีแผนจะจัด “คอนซูเมอร์ แฟร์ : Consumer Fair” รวบรวมผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้ง 8 อำเภอ นำสินค้ามาเปิดขายในห้างกลางเมืองที่ “มาร์เก็ต วิลเลจ หัวหิน”
เพื่อส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวได้ครบทุกอำเภอในประจวบคีรีขันธ์
เชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมงานได้
ส่วนภาคเอกชน
บลูพอร์ต หัวหิน ได้เปิดตัว “บลูพอร์ตฮอลล์” อย่างเป็นทางการขับเคลื่อนให้หัวหิน
ประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ใช้งานกว่า 3,000 ตารางเมตร เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมไมซ์เชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างภาคกลาง
ภาคใต้
รองรับการจัดกิจกรรมได้อย่างมีคุณภาพดีที่สุดเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวด้าน MICE
การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในหัวหินและพื้นที่ใกล้เคียงได้ด้วย
รวมทั้งมีข้อมูลจากเอกชน
จะเห็นการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านเดี่ยว
บ้านพักตากอากาศ บ้านแบบพูลวิลล่า แล้วในตัวอำเภอเมือง ประจวบคีรีขันธ์
ก็มีการก่อสร้างโรงแรมแบบประหยัดหรือ Budget Hotel รองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วย
ขณะที่การลงทุน โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคภาครัฐ
มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 “ทางอากาศ”
ท่าอากาศยานนานาชาติหัวหินได้
ขยายพื้นที่รันเวย์รองรับเที่ยวบินและอากาศยานจากนโยบายการบินข้ามภูมิภาค หรือบินจากประเทศระยะใกล้
และให้ความสำคัญกับความปลอดภัย การบริหารจัดการอาคารที่พักผู้โดยสารพร้อมพื้นที่รองรับ
ส่วนที่ 2 เปิดใช้สถานีรถไฟหัวหินแห่งใหม่เรียบร้อยแล้ว เป็นการก่อสร้างรถไฟทางคู่
โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทดลองวิ่งขบวนรถเพื่อการท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM เริ่มตั้งแต่ 14 มิถุนายน 2567
ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนอย่างมาก
เอกชนกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จะได้จับมือกันเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าหัวหินแล้วกระจายเดินทางต่อไปยังปราณบุรี
และชะอำ เพชรบุรี ต่อไป
ส่วน “ตลาดต่างประเทศ” ททท.ประจวบคีรีขันธ์ และททท. เพชรบุรี จับมือกับทาง
ททท.สำนักงานฮ่องกง จัดกิจกรรม Table Top Sale เชิญตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวผู้ซื้อมาในพื้นที่หัวหิน
ชะอำรวมกว่า 80 ราย กระแสตลาดตอบรับเป็นอย่างดี
แล้วก็พร้อมจะเดินหน้าเพิ่มรายได้จากตลาดต่างประเทศเข้าสู่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์
ควบคู่กันไปด้วยในระยะยาว
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ออนไลน์จัดให้TOP5สกินแคร์ลักชัวรี่แบรนด์โลก
คิง
เพาเวอร์ มีข่าวดีมาบอก กับ “TOP 5 : Luxury Skincare” สายบิวตี้ห้ามพลาด! อย่างแบรนด์ ESTÉE LAUDER, KIEHL'S , LA MER,
SULWHASOO , SHISEIDO, SK-II, CLARINS, L'OCCITANE และอื่นๆ
คุ้มเกินต้านขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว กดช้อปและรอรับของที่สนามบิน
มีเวลาช้อปอีก
2 วัน 22-23 มิถุนายน 2567
กับมหกรรม “Mid-Year Festival” ยังคงยกขบวนดีลเด็ด
ช้อปมันส์กลางปี ทีมช้อปก่อนเที่ยวต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะส่วนลดจัดว่าเด็ดมาก
ช้อปครบจบที่คิง เพาเวอร์ ออนไลน์
สินค้าจัดเต็มทุกหมวดหมู่
ทั้งเครื่องสำอาง น้ำหอม สกินแคร์ กระเป๋า แว่นตา นาฬิกา พร้อมไอเทม Travel
Exclusive และอื่นๆ อีกมาก มีไฟลต์ต้องรีบช้อปด่วน!
และรอรับของที่สนามบิน
1.ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท รหัสส่วนลด 10JUN24
2.ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 5,000 บาท รหัสส่วนลด 15JUN24
Online
Special Offer!!
รับฟรี
Free! ส่วนลด 100.- สำหรับเรียกรถ
Robinhood Ride ไปหรือกลับ
จากสนามบินสุวรรณภูมิ หรือดอนเมืองได้จนถึง - 30 มิ.ย. 67 ทันทีที่ลูกค้าทำยอดช้อปได้ครบ 9,000.-
(สุทธิ) ขึ้นไป ใช้ส่วนลด 1 สิทธิ์/คน/ ครั้ง
รับฟรี!
ส่วนลด 10% ซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ (เมืองไทย HappyTrip
แผนรายเดี่ยว) ทันทีที่ลูกค้าคิง เพาเวอร์ คนไทยและมียอดช้อปครบ 3,000.-
(สุทธิ) ขึ้นไป ใช้ส่วนลด 1 สิทธิ์/คน/ ครั้ง
รอบรับ SMS เมื่อรายการสั่งซื้อสำเร็จตามเงื่อนไข แจกส่วนลด
ถึง 30 มิ.ย. 67 ใช้ส่วนลดได้ถึง 15 ก.ค. 67
ข่าวที่ 2 อร่อยล้ำด้วยบัตรสมาชิกคิงเพาเวอร์แลกกะรัตรัวๆ8ร้านดัง
สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับได้เลยสัมผัสรสชาติแห่งเอเชียกับ 8 ร้านอาหารดังชั้นนำ พร้อมเสิร์ฟเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟรับส่วนลดอาหารพร้อมเครื่องดื่ม
แจกสมาชิกทุกสถานะ NAVY, SCARLET, ONYX, CROWN และ VEGA มอบเพิ่มความพิเศษ 2 ต่อ
ต่อที่ 1
แลกกะระตรับเมนูอาหารและเครื่องดื่มฟรี!
1.ใช้แลก 200 กะรัต เพื่อ รับฟรีเมนูซิกเนเจอร์ ซิหยวน
โคลด์ พาสต้า จากราคาปกติ 380 บาท ที่ เรสเตอรองต์ โคดา
แบ็งคอก กดรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้– 31
ธันวาคม 2567 สมาชิก คิง เพาเวอร์ สามารถใช้สิทธิ์ได้ไม่จำกัด
(หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด) ให้1 สิทธิ์ /ครั้ง/ ใบเสร็จ ตลอดรายการมีทั้งหมด 300
สิทธิ์
2.แลก 200 กะรัต
รับเมนูขนมหวานฟรี! ที่ Shichi Japanese Restaurant
3.แลก 200 กะรัต รับฟรี!
เมนูพิเศษประจำเดือน Special Dish by Chef Nakaseko Jun 1 จาน
(จากราคาปกติ 250 บาท)
4.แลก 120 กะรัต
รับเมนูเครื่องดื่ม พร้อมเลือกรับ Topping หรือ Booster
ฟรี! ที่ร้าน Juicy Bunny
5.แลก 100 กะรัต รับฟรีเมนู Yuzu
Plum (จากราคาปกติ 160 บาท)
ต่อที่ 2 รับส่วนลดสูงสุด 20% เพียงแสดงสถานะสมาชิก ที่ร้าน Kuro
House สามารถกดรับสิทธิ์ผ่านช่องทาง LINE Official Account :
@kingpower หรือ member.kingpower.com เพื่อรับรหัสส่วนลด
(E-Code) และนำไปแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ของร้านค้า
เพื่อทำการชำระเงิน – 31 ธันวาคม 2567
ร้านเปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ 11:00 -22:00 น. สมาชิก คิง เพาเวอร์ สามารถใช้สิทธิ์ได้ไม่จำกัด
หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด
ข่าวที่ 3 ช้อปด่วนคิงเพาเวอร์บิวตี้ไอเทมลดสูงสุด50 % ถึง 30
มิ.ย.
คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ รวมสุดยอด Beauty Items! สินค้ายอดนิยม
สกินแคร์และน้ำหอม 1 มิ.ย. 67 - 30 มิ.ย.
67ลดราคาให้ช้อปหลากหลายแบรนด์ เช่น ESTÉE LAUDER,
ISSEY MIYAKE, SULWHASOO, BURBERRY, LA ROCHE POSAY, 111SKIN, CLINIQUE, GIVENCHY,
SISLEY, VICHY และอื่นๆ อีกมากมาย กดสินค้าใส่ตะกร้าเลย กับ THE
POWER SALE เป็นได้สุด เซลให้สุด เป็นไปได้ ลดสูงสุดถึง 50%
คุ้มเกินคุ้ม ช้อปง่ายๆ
ไม่ต้องใส่โค้ด และไม่มีขั้นต่ำ ก็กดช้อปได้เลยเฉพาะที่ คิง เพาเวอร์
ออนไลน์เท่านั้น ส่วนลดดีเกินคาดแค่มีไฟลต์บินต่างประเทศ ก็ช้อปได้เลย เพราะยกทัพสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ
มาลดจุกๆ ไม่อยากพลาดดีลพิเศษแบบนี้ ต้องรีบช้อปด่วน! แล้วรอรับของที่สนามบินได้ทุกการเดินทาง
ข่าวที่ 4 “ททท.-5อุตฯ”ใช้กม.สมรสเท่าเทียมโกยรายได้LGBTQIAN+
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่ารัฐบาลเปิดทำเนียบร่วมเฉลิมฉลองและแสดงความยินดี
เนื่องในโอกาสที่ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมได้ผ่านวุฒิสภา
ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่รับรองกฎหมายดังกล่าว จึงพร้อมนำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อยอดส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศปูพรมเป็นจุดหมายปลายทางท่องที่ยว
Pride Friendly Destination และเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพดึงงาน
World Pride 2030 มาจัดในไทยปี 2573 นำรายได้จากตลาดความหลากหลายทางเพศทั่วโลกเข้าไทยได้เป็นกอบกำ
ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน และประเทศที่ 3 ในเอเชีย จากไต้หวันและเนปาล ที่เตรียมใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม
หลังที่ประชุมวุฒิสภาผ่านขั้นตอนความเห็นชอบแล้ว แสดงถึงจุดยืนของไทยในการสนับสนุนและส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชนที่มนุษย์ทุกคนทุกเพศทุกวัยและทุกสถานะ
มีสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองให้มีความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมควบคู่ไปด้วย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า
กฎหมายสมรสเท่าเทียมนอกจากจะสร้างความสุขกับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศแล้วยังประกาศให้ทั่วโลกได้รู้ว่าประเทศไทยเป็นสวรรค์เความเท่าเทียมที่จะช่วยเติมเต็มจุดขายการท่องเที่ยวในคอนเซ็ปต์
Amazing Thailand , Paradise for All จะเป็นหมุดหมายใหม่รองรับกลุ่มนักเดินทาง LGBTQIAN+ จากทั่วโลกอย่างแท้จริง
ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับการกระตุ้นบรรยากาศท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวที่มีศักยภาพใช้จ่ายเงินสูง
หลังจากนี้เป็นต้นไป ททท. พร้อมต่อยอดส่งเสริมศักยภาพให้ไทยเป็น Tourism
Hub และ Top LGBTQIAN+ Friendly Destination
ร่วมแสดงจุดยืนและเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เดือนแห่งไพรด์ตลอดมิถุนายน 2567สนับสนุนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เช่น
มหกรรมไพรด์ทั่วประเทศ (Nation Wide Pride Festival) จัดต่อเนื่องตั้งแต่
31 พฤษภาคม – มิถุนายน 2567 งานไทยแลนด์ ไพรด์ 2024 วันที่ 29
มิถุนายน งานไพรด์ เนชั่น สมุย อินเตอร์เนชั่น ไพรด์ เฟสติวัล วันที่
24 – 29 มิถุนายน งาน
เลิฟ ไพรด์ ♡ พาเหรด
2024 วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ซึ่งจะร่วมผลักดันไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานอินเตอร์ ไพรด์ เวิลด์ คอนเฟอเรนซ์ 2025
และ Bangkok World Pride 2030
ในภาพรวมหลังรัฐบาลไทยเตรียมใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม
สามารถช่วยขับเคลื่อนธุรกิจในไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 อุตสาหกรรม ได้แก่
1.อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายน 2567
มีนักเดินทางไพรด์เข้ามาไทยแล้ว 800,000 คน ใช้จ่ายเงินมากกว่านักท่องเที่ยวปกติ 15 % ปัจจุบันนักท่องเที่ยวไพรด์จากนานาชาติมาไทยเพิ่มขึ้นปีละกว่า
1.3 ล้านคน มีบางส่วนอาศัยอยู่ในไทย
1.7 ล้านคน สถิติปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิดใช้จ่ายเงินปีละ
2.39 แสนล้านบาท
2.อุตสาหกรรมภาพยนต์ซีรีย์วายปีที่ผ่านมาผลิตขายได้ถึง 177 เรื่อง ปี 2567 มีแนวโน้มจะเติบโต 1 เท่า สร้างมูลค่าราว 1,200 ล้านบาท
3.อุตสาหกรรมแดร็ก Drag หรือกการแต่งกายเป็นเพศต่าง ๆ
จะใช้จ่ายเงินมากขึ้น ปัจจุบันยังไม่มีสถิติรายได้อย่างเป็นทางการ ตามปกติช่วงเทศกาลต่าง
ๆ กลุ่มความหลากหลายทางเพศใช้จ่ายเงินรวมแล้วประมาณครั้งละ 4,000-49,000 บาท เพื่อซื้อเครื่องแต่งกาย แต่งหน้า
เครื่องประดับ แอคเซสซารี่ต่าง ๆ
4.อุตสาหกรรมบริการสุขภาพ เฉพาะให้คำปรึกษาเพียงอย่างเดียวต้องใช้จ่ายรายครั้ง
500-2,000 บาท
ยังไม่นับรวมการแปลงเพศและอื่น ๆ ซึ่งใช้จ่ายคนละหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทขึ้นไป
5.อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้หลายแบรนด์อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในไทย
ยืนยันจะได้อานิสงด้วยการทำยอดขายเพิ่มได้อีกปีละกว่า 4,000 ล้านบาท จากกลุ่มหลากหลายทางเพศซึ่งมีรายได้ 50,000-85,000 บาท/คน/เดือน มีอยู่ประมาณ 9 % และรายได้เกิน 85,000 บาท/คน/เดือน มีประมาณ 4% ของทั้งหมด
สำหรับการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศสามารถสมรสกันได้ตามกฎหมายแล้ว
คู่สมรสยังมีสิทธิและประโยชน์ครอบคลุมทุกมิติ เช่น 1.สิทธิจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส 2.สิทธิเป็นผู้จัดการแทนในทางอาญา
เช่นเดียวกับสามี-ภรรยา 3.สิทธิรับมรดกหากอีกฝ่ายเสียชีวิต
สิทธิรับบุตรบุญธรรม 4.สิทธิการลงนามยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย 5.สิทธิจัดการศพ
6.สิทธิได้รับประโยชน์และสวัสดิการจากรัฐในฐานะคู่สมรส หลัก
ๆ คือ สิทธิประกันสังคม สิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล 7.สิทธิของ
คู่สมรสที่มีสิทธิในการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการเปิดโอกาสกู้ร่วมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์
ข่าวที่
5 บางจากปลื้มนำธุรกิจติดอันดับ24ฟอร์จูนครั้งแรกในเอเชีย
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น
ได้รับการประกาศให้เป็นหนึ่งใน Fortune
Southeast Asia 500 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นิตยสารฟอร์จูน/Fortune จัดอันดับบริษัทที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจมากที่สุด
500 แห่ง ขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วบางจากก็สามารถครองตำแหน่งอยู่ลำดับที่
24 ของภูมิภาคประจำปี 2567
นิตยสารฟอร์จูนได้จัดอันดับบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดโดยมี
บมจ.บางจากติดอยู่ด้วยใน 25 อันดับแรก หรือ Top 25 ของ
500 บริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงผลการดำเนินงานอันแข็งแกร่งผนวกกับสามารถขยายธุรกิจเดินหน้าพัฒนาการเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยมีกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจหลากหลายอย่างโดดเด่น สะท้อนความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญครอบคลุมครบรอบด้าน
ทั้ง 3 เรื่อง
คือ 1.ความยั่งยืน
2.นวัตกรรมสีเขียว
3.ความเป็นเลิศทุกด้าน
นายชัยวัฒน์กล่าวต้องขอขอบคุณมา ณ
โอกาส ที่ทุกส่วนร่วมกันนำความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มาให้ บมจ.บางจาก ซึ่งเป็นผลจากความทุ่มเทของผู้บริหารกับพนักงานทุกคน
และได้การสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้เสียทางธุรกิจ ทุกภาคส่วนล้วนมีบทบาทสำคัญช่วยกันขับเคลื่อนบางจากฯ
เติบโตต่อเนื่องมายืนอยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก
สำหรับ
Fortune 500 Southeast Asia เป็นการจัดอันดับบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยนิตยสารฟอร์จูน สื่อธุรกิจที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปี 2567 ได้เริ่มต้นประกาสจัดอันครั้งแรก
เพื่อเผยแพร่รายชื่อ 500 บริษัทใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยพิจารณาจากเกณฑ์รายได้ของบริษัทในแต่ละปี ซึ่งทางฟอร์จูนให้ความสำคัญกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมาก
เนื่องจากภูมิภาคนี้ได้มีความสำคัญมากขึ้นทางเศรษฐกิจโลกจากการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานการผลิต
แล้วก็เป็นภูมิภาคที่ได้พัฒนาระบบเศรษฐกิจเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ บมจ.บางจากฯ
ได้รับเลือกให้ติดอันดับทรงเกียรติต้อนรับการจัดครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยิ่งช่วยตอกย้ำถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของบริษัทฯ
ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาค
เป็นหนึ่งในวงการที่นำพาธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในเวทีนานาชาติได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นทั้งปัจจุบันและอนาคต
ข่าวที่
6 TCEBเปิดข่าวดีไมซ์ปี67ทำรายได้รวมเข้าประเทศเกินเป้า5%
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB”
เปิดเผยว่า ทีเส็บมีข่าวดีในการนำอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศปี 2567 มีแนวโน้มทำรายได้รวมเข้าประเทศกว่า
1.36 แสนล้านบาทสูงเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ
5 %
ขึ้นไป
โดยมีปัจจัยหนุนมีงานไมซ์จากนานาชาติทั่วโลกเลือกไทยเป็นเจ้าภาพจัดหลายงานต่อเนื่องกันตลอดทุกเดือน
โดยเฉพาะงานประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ (Convention) และจัดแสดงสินค้าหรือ Exhibition จำนวนหลากหลายด้วยกัน
ปี 2568 ก็มีโอกาสทำรายได้สูงเกินเป้าด้วยเช่นกันจากที่ตั้งไว้
181,000 ล้านบาท
จำนวนคนเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 30.8
ล้านคน จากไมซ์ในประเทศ 97,000 ล้านบาท
และไมซ์ต่างประเทศ 84,000
ล้านบาท
ผลการดำเนินงานอุตสาหกรรมไมซ์ตามปีงบประมาณ
6
เดือนแรก ระหว่างตุลาคม 2566
-มีนาคม 2567 นำนักเดินทางเข้ามาแล้ว 12.99 ล้านคน
สร้างรายได้รวมกว่า 77,764
ล้านบาท มาจาก 2 ตลาดหลัก ได้แก่
ตลาดไมซ์ต่างประเทศ มีจำนวนนักเดินทาง 636,694 คน สร้างรายได้ 36,721 ล้านบาท คิดเป็น 58.29 %
ตลาดไมซ์ในประเทศ มีจำนวนนักเดินทาง 12,360,248 คน
สร้างรายได้ 41,043 ล้านบาท
คิดเป็น 56.22 %
เมื่อประเมินสถานการณ์รายได้ช่วงครึ่งปีหลัง
ระหว่างเมษายน- 30 กันยายน
2567 มีตลาดจัดการประชุมขนาดใหญ่จากไมซ์ต่างประเทศเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก
จึงมีแนวโน้มที่จะทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน
ล่าสุดประเทศไทยเพิ่งได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงาน
Devcon ครั้งที่ 7
ระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายน 2567 เป็นงานประชุมวิชาการหลักที่จัดประจำทุกปีของ Ethereum
Foundation เพื่อส่งเสริมความร่วมมือ นวัตกรรม
และการศึกษาในชุมชนนักพัฒนาสกุลเงินอีเทอเรี่ยม เป็นเวทีของนักพัฒนา นักวิจัย
และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ จำนวนหลายพันคน จะมาร่วมแบ่งปันความรู้ แนวคิด
โครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน
นางสาวนุช หอมรสสุคนธ์
ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ ทีเส็บ และคณะทำงาน จึงได้ต้อนรับคณะผู้บริหารงาน
Devcon นำโดย Mr. Skylar Weaver หัวหน้าทีม
Devcon และ Devconnect เดินทางมากรุงเทพฯ
เพื่อสำรวจสถานที่จัดงาน พร้อมร่วมประชุมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และจัดกิจกรรมกับชุมชนอีเทอเรี่ยมในไทย
เริ่มเตรียมงานที่จะเกิดขึ้นจริงเดือนพฤศจิกายนนี้ในประเทศไทย
โดยมี Tomo
หัวหน้าทีมแบรนด์และดีไซน์ และ Rose หัวหน้าทีมโกลบอลอีโคซิสเต็มและการสื่อสาร
Devcon ได้แสดงความเห็นถึงความพร้อมการจัดงานขึ้นในไทย
ซึ่งมีความพร้อมจะต้อนรับนักพัฒนา ครีเอทีฟ ครีเอเตอร์ ศิลปิน และประชาชนทั่วไป
เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนแห่งอนาคต เหนือคำนิยามคริปโตเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน
เป็นวัตกรรมทางการเงินอันโดดเด่นน่าสนใจกับเทรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเมืองไทยคู่ขนานไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่
ช่วงที่ 2 ไปเที่ยวเมืองไทยกันดีกว่า มาแล้วปฏิทินสุขทันทีที่เที่ยวเมืองไทย อาหาร
ดนตรี กีฬา ศิลปะ 6 บิ๊กอีเวนต์ เที่ยวให้ฉ่ำกันไปเลย
แล้วลองเปิดใจฟัง “กินอาหารมื้อเดียวผลดีและความเสี่ยง” ต่อสุขภาพ
และเกาะติดข่าวฮ็อต ๆ ในรอบสัปดาห์ ข่าวแรก “AOTบุกลอนดอนพบนักลงทุน”
แจงทุกข้อสงสัย 4 เรื่อง “ททท.แฟรงเฟิร์ต”
ดึงเอเย่นต์เยอรมันเทรดโชว์สมุยดันไทยฮับทัวร์สุขภาพ
ท่องเที่ยว
– สุขทันทีที่เที่ยวไทยฉ่ำสุด6อีเวนต์อาหาร/ดนตรี/กีฬา/ศิลปะ
ปฎิทินเที่ยวเมืองไทยฉ่ำฟินสุด
ๆ ในแต่ละเดือนเริ่ม ชวนไป “สุขทันทีที่เที่ยวไทย” ระหว่าง “กรกฎาคม - ธันวาคม 2567 ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศ
(ททท.) จะลงทุนทำ 6 บิ๊กอีเวนต์ ทั้ง อาหาร ดนตรี กีฬา ศิลปะ
วัฒนธรรมต่าง ๆ เติมความสุนทรีย์ด้วยการออกเที่ยวกันดีกว่า
อีเวนต์ที่ 1 Amazing Food Festival 2024 จัดมหกรรมอาหารครั้งยิ่งใหญ่ในคอนเซปต์ “Good Food Good Vibes” ยกความโดดเด่นและเอกลักษณ์อาหารไทย มีเชฟดังมาช่วยรังสรรเมนูนำพร้อมกับรวบรวมร้านอาหารชื่อดัง
5 ภูมิภาค กว่า 50 ร้าน มาไว้ภายในงานเดียว จะจัด 3 พื้นที่
ได้แก่ ภูเก็ต วันที่ 5-7 กรกฎาคม เชียงใหม่ วันที่ 20-22 กรกฎาคม
และประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 10-12 สิงหาคม
อีเวนต์ที่ 2 มหกรรมท่องเที่ยวเชิง ศรัทธา
ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวสายบุญสายมู มีกิจกรรมออนกราวนด์ นำเสนอเรื่องราวของศาสนา
วัฒนธรรม ประเพณี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น พิธีกรรมต่าง ๆ
ตามความเชื่อของแดนดินถิ่นอีสาน จะจัดวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2567 ที่ขอนแก่น มีโซนความรู้เส้นทางสายบุญและสายมูเตลู โซนตลาดมูเตลู
โซนศรัทธาแห่งพลังบุญ
โซนการแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง
อีเวนต์ที่ 3 Amazing Beach Life Festival เอาใจสายซอฟท์ แอดเวนเจอร์
กระตุ้นโลว์ซีซั่นในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลกับความหลากหลายบีชไลฟ์ เช่น จัดกีฬาทางน้ำ
ดนตรี ศิลปะที่อยู่ในกระแสความสนใจ นำท้องถิ่นนำร้านเลือกผลิตภัณฑ์เด่น ๆ
มาวางขาย จะจัด 4 พื้นที่ ได้แก่ “ระยอง” 12-14 กรกฎาคม “พังงา” 26-28 กรกฎาคม “ภูเก็ต”
วันที่ 2-4 สิงหาคม และ “สงขลา” 9-11 สิงหาคม นี้
อีเวนต์ที่ 4 VIJIT 5 ภาค
กลับมาอีกครั้งกับปรากฎการณ์แห่งแสง เสียง และเทคนิคสมัยใหม่ ทั้ง ไลท์อัพ
โปรเจ็คชั่นแมพปิ้ง อินสตอลเลชั่น อาร์ต การแสดงศิลปวัฒนธรรม
สะท้อนความงดงามของวิถีชีวิต ภูมิปัญญาและประเพณีท้องถิ่นครบ 5 ภูมิภาค
ปี 2567 จะจัดใน
5 พื้นที่อัตลักษณ์ ได้แก่ “อุบลราชธานี” วันที่ 13-21 กรกฎาคม “ชลบุรี” วันที่
20-28 กรกฎาคม “ประจวบคีรีขันธ์” วันที่ 17-25 สิงหาคม “ภูเก็ต” วันที่ 24 สิงหาคม-1 กันยายน และ “พิษณุโลก”
วันที่ 7-15 กันยายน นี้
อีเวนต์ที่ 5 AMAZING MUAY THAI
EXPERIENCE เจาะลึกแหล่งกำเนิด “มวยไทย” มรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทย
ผ่านอัตลักษณ์มวยไทยโบราณ 4 สาย หมัดหนักโคราช ฉลาดลพบุรี ท่าดีไชยา
ไวกว่าท่าเสา สู่ 4 พื้นที่ต้นกำเนิด ได้แก่
“มวยไชยา” วันที่ 2-4
สิงหาคม ที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
“มวยท่าเสา” วันที่ 16-18
สิงหาคม ที่วัดใหญ่ท่าเสา ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
“มวยโคราช” วันที่ 6-8
กันยายน ที่ลานเมรุพรหมทัต อ.พิมาย จ.นครราชสีมา
“มวยลพบุรี” วันที่ 13-15
กันยายน ที่ จ.ลพบุรี
ทั้ง 4 พื้นที่จะจัดการแข่งขันชกมวยชิงรางวัล
การสักยันต์เสริมมงคล การละเล่นพื้นบ้านเกี่ยวกับมวยไทย เช่น มวยทะเล มวยตับจาก
สนุกสนานกับตู้เกมส์เพิ่มทักษะมวยไทย การออกร้านอุปกรณ์มวย คอร์สเรียนมวยไทย
การออกร้านจำหน่ายอาหารและการแสดงดนตรี
อีเวนต์ที่ 6 Amazing Music Festival ระเบิดความสุข สนุกสนานครั้งยิ่งใหญ่ วันที่ 30 สิงหาคม-1 กันยายน ที่ชลบุรี พบกับศิลปินไทยและศิลปินที่มีฐานแฟนคลับในต่างประเทศมาขึ้นเวที
เสิร์ฟเพลงและบีทสุดมันแบบนันสต็อปท่ามกลางบรรยากาศอาร์ต เฟสติวัล
เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพและกลุ่มความสนใจมิวสิค เลิฟเวอร์
สุขภาพ
–กินข้าววันละมื้อIF“ประโยชน์-ความเสี่ยง”ต่อร่างกายที่ควรรู้
การกินข้าววันละมื้อเป็นรูปแบบหนึ่งของการทำ
IF (Intermittent Fasting) หรือวิธีควบคุมน้ำหนักด้วยการอดอาหารเป็นช่วงเวลา
จะอดอาหารติดต่อกันเป็นเวลา 23 ชั่วโมง แล้วกินอาหารมื้อใหญ่ 1
มื้อ ในช่วงเวลาที่เหลือ 1 ชั่วโมงที่เหลือเท่านั้น
หลายคนเชื่อว่าการกินข้าววันละมื้อช่วยควบคุมน้ำหนักได้ ปัจจุบันจึงกลายเป็นกระแสความนิยม
แตกต่างจากคนทั่วไปจะกินอาหารประมาณ 3
มื้อ/วัน แต่บางคนอาจกินมากกว่านั้น ซึ่งการกินอาหารบ่อยมากเกินไปอาจทำให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายลดลง
อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคอ้วนและโรคเบาหวานชนิดที่ 2
ได้
“ผลดี” ของการกินข้าววันละมื้อที่มีต่อร่างกายคนเรา
1.อาจช่วยควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพกับผู้ที่มีสุขภาพดี
หรือผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ใช้วิธีนี้จะเกิดผลดีหากควบคุมปริมาณอาหารที่กินใน 1
มื้อไม่ให้เกินแคลอรี่ที่ร่างกายควรได้รับต่อวันได้
ควรเลือกกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและมีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นหลัก
2.อาจช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญ การกินข้าววันละมื้อหรืออดอาหารเป็นช่วง
อาจส่งผลให้ระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น เพราะกินอาหารเพียง
1 มื้อน้อยกว่าพลังงานที่ได้รับจากการกินปกติ 3
มื้อ พลังงานจึงถูกนำออกไปใช้ทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันนั่นเอง
3.อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้
รวมถึงอาจช่วยป้องกันการเกิดภาวะดื้ออินซูลิน อย่างไรก็ตาม
ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่กำลังกินยาควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีนี้
อาจเพิ่มความเสี่ยงน้ำตาลในเลือดต่ำได้
4.อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ กินข้าววันละมื้ออาจส่งผลให้ร่างกายจำเป็นต้องเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ออกมาใช้เป็นพลังงาน
จึงทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายลดลง โดยเฉพาะชนิดที่ไม่ดี และอาจช่วยลดภาวะความดันโลหิตสูง
ซึ่งทั้งสองเรื่องล้วนเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจได้
“ความเสี่ยง”
ต่อสุขภาพที่เกิดจากกินข้าววันละมื้อ
แม้การกินข้าววันละมื้ออาจมีผลดีต่อร่างกายอยู่บ้าง
แต่ก็มีความเสี่ยงต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน โดยมีความเสี่ยงดังนี้
1.อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ได้แก่ รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแรง วิงเวียนศีรษะ
คลื่นไส้ อารมณ์แปรปรวน สมองไม่แล่น หรือไม่มีสมาธิ
2.อาจทำให้รู้สึกหิวจนควบคุมไม่ได้ การอดอาหารเป็นเวลานานหลายชั่วโมงจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเกรลิน
(Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นความอยากอาหารออกมามากขึ้น
ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกหิวมากจนไม่สามารถควบคุมปริมาณของอาหารได้
3.อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สมดุล
การอดอาหารเป็นเวลาหลายชั่วโมงจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง
แต่เมื่อคุณกินอาหารเข้าไป โดยเฉพาะการกินอาหารในปริมาณมากอย่างรวดเร็วในมื้อเดียว
ก็สามารถส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหันเช่นเดียวกัน
4.อาจไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางอย่าง
แม้การกินข้าววันละมื้อจะเป็นวิธีควบคุมน้ำหนักที่หลายคนทำแล้วได้ผล
หากทำไปนาน ๆ อาจนำไปสู่การเกิดภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition) หรือปัญหาสุขภาพอื่นอีกมากมายได้
ดังนั้นควรการกินตามปกติวันละ 2–3 มื้อ เลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
ควบคู่การออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาจเป็นวิธีควบคุมน้ำหนักที่เหมาะสมมากกว่านั่นเอง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก-AOT โร้ดโชว์ลอนดอนตอบนักลงทุนอินเตอร์ชัดๆ4เรื่อง
ดร.กีรติ
กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” เปิดเผยว่า นำทีมเข้าร่วมโร้ดโชว์ใหญ่ในต่างประเทศงาน
“SET London Roadshow 2024” เป็นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจับมือกับผู้นำทางด้านสถาบันการเงิน
2 พันธมิตรคือบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จํากัด
(มหาชน) และ Bank of America Securities ระหว่างวันที่ 17 –
18 มิถุนายน 2567 ที่ Bank of America Merrill Lynch กรุงลอนดอน
สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์เหนือ โดยมีโอกาสได้พบปะนักลงทุนสถาบันจากต่างประเทศชั้นนำหลายแห่งด้วยกัน
รวมทั้งมีโอกาสได้ชี้แจงข้อมูลผลการดำเนินงานของ AOT ปัจจุบันและแผนการดำเนินงานในอนาคต
ตลอดงานยังได้ตอบข้อซักถามต่างๆ อย่างชัดเจนทุกประเด็น
โดยมีคำถามที่นักลงทุนทั่วโลกที่เข้าร่วมโร้ดโชว์ครั้งให้ความสนใจอย่างมากกับสถานการณ์อุตสาหกรรมการบินและการเดินทางของนักท่องเที่ยวนานาประเทศที่เข้ามายังเมืองไทย
ประกอบด้วย 4 เรื่องหลัก ได้แก่
เรื่องที่
1 แนวโน้มการฟื้นตัวของผู้โดยสารต่างชาติโดยเฉพาะตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน
ซึ่งเป็นนักเดินทางที่ทั่วโลกจับตาเนื่องจากมีจำนวนคนและการใช้จ่ายเงินแต่ละปีเที่ยวต่างประเทศสูงเป็นพิเศษ
จึงเป็นตลาดสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยและประเทศจุดหมายปลายทางอื่น ๆ
ได้ด้วย
เรื่องที่
2 โครงการพัฒนาท่าอากาศยาน
การรับโอนท่าอากาศยานจากกรมท่าอากาศยาน เนื่องจากล่าสุดมีกระแสให้ศึกษาความเป็นไปได้กรณีรับโอนสนามบินภูมิภาคทั่วประเทศ
28 แห่ง
เรื่องที่
3 นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG
: Environmental, Social and Governance ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั่วโลกกำลังมุ่งความสนใจที่จะทำกิจกรรมกับคู่ค้ารวมทั้ง
AOT ด้วย
เรื่องที่
4 นักลงทุนส่วนใหญ่ขอทราบความคืบหน้าและรายละเอียดการจัดเก็บรายได้จากโครงการที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน
เช่น แอร์พอร์ต ซิตี้ แผนขยายการพัฒนาเมืองการบินในประเทศไทยตามพื้นที่ต่าง ๆ
ที่มีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะ ๆ รวมทั้งรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ (Concession
Revenues) จากสัมปทานของท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของ AOT
เนื่องจากในอนาคตจะต้องปรับสัดส่วนระหว่างรายได้จากการบิน (Aero) กับรายได้จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่น ๆ (Non Aero)
ให้อยู่ในระดับ 50-50 สอดคล้องกับตลาดโลก
สำหรับ
บมจ.ท่าอากาศยานไทย ได้การเดินทางไปโร้ดโชว์ร่วมกับพันธมิตรโดยมีทั้ง ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมด้วยนางสาวไตรทิพย์
ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการหรือบอร์ด นางอัญชลี ประมวลเจริญกิจ
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานบัญชีและการเงิน) และพนักงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงร่วมทีมไปด้วยกัน
ข่าวที่สอง-ททท.แฟรงเฟิร์ต“LOOPWellbeing”รุกเศรษฐียุโรปเพิ่ม20%
นายศิริปกรณ์
เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ททท. สำนักงานแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมัน ร่วมกับพันธมิตร LOOP
Wellbeing นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวเดินทางมาไทยเพื่อจับคู่เจรจาธุรกิจในงาน
“LOOP Wellbeing 2024”
ระหว่างวันที่ 15-19 มิถุนายน 2567 ที่คามาลายา สมุย รีสอร์ต เกาะสมุย
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ตั้งเป้าขยายการเติบโตต่อเนื่องในกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดคุณภาพเยอรมันที่มีศักยภาพใช้จ่ายเงินสูงอันดับต้น
ๆ ในเมืองไทยเฉลี่ยประมาณ 75,000 บาท/คน/ทริป
ตามสถิตินักท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวหรูหราและสุขภาพองค์รวมถือเป็นตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวสหภาพยุโรป
(EU) ที่เลือกเดินทางมาไทยมากเป็นอันดับ 1 มีส่วนแบ่งตลาดกลุ่มดังกล่าวมากถึง
74% ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ใช้ภาษาเยอรมันเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย หรือ DACH
: German speaking โดยจะเดินทางมาพักผ่อนเฉลี่ย 14-21 วัน/คน/ทริป คาดการจัดงาน “LOOP Wellbeing 2024” ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มยอดขายอีกกว่า 20 %
สามารถสร้างอัตราการรับรู้ข้อมูลการท่องเที่ยวของไทยที่ให้ผลลัพธ์เชิงบวกสู่เครือข่ายในยุโรปได้มากกว่า
95%
ดังนั้น
ททท.แฟรงเฟิร์ต จึงได้นำบริษัทตัวแทนผู้ซื้อการท่องเที่ยว (Buyers) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เน้นนำเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวของไทยให้กลุ่มตลาดเฉพาะสไตล์หรูหราและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม
หรือ Luxury and Wellness เดินทางเข้าร่วมงานเจรจาธุรกิจกว่า
40 ราย นำโดย FIT Reisen, Hanse
Travel GmbH/ TUI Reisecenter, City Reisen Finest BY, ร็อกซ์สตาร์
ลักชัวรี่ แทรเวล, ลักชัวซินไซเดอร์-แทรเวล มีเดีย
เน็ตเวิร์ค พีอาร์ และอีกหลายบริษัทชั้นนำในยุโรป
ตลอดเทรดโชว์ครั้งนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะสมุยตัวแทนผู้ขายของไทยกับเอเย่นต์ท่องเที่ยวยุโรปต่างก็เน้นร่วมมือกันทำ
4 กิจกรรม ได้แก่
กิจกรรมที่
1 คัดเลือกสินค้าทางการท่องเที่ยวมาเสนอขายเพื่อส่งเสริมการตลาดและทำประชาสัมพันธ์โปรดักซ์อัพเดทระหว่างกันโดยเน้นสินค้าลักชัวรรี่
เฮลท์ และเวลเนส
กิจกรรมที่
2 สร้างเครือข่ายพันธมิตรกลุ่มศักยภาพที่นิยมสินค้าประเภทหรูหรา
ตั้งเป้าขยายฐานตลาดและกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มลักชัวรี่
กิจกรรมที่
3 โปรโมทจุดขายใหม่ด้วยสินค้าการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมภายในท้องถิ่น หรือ CBT : Community Base Tourism กับสินค้าการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism)
กิจกรรมที่
4 ผนึกกำลังกันส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ไทยเป็จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวหรูหราของโลก
หรือ Thailand Luxury Destination หวังปูทางอนาคตเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีกำลังใช้จ่ายเงินสูงตลอดการเดินทางพักผ่อนในไทย
ททท.วางแผนหลังเสร็จสิ้นการจัดงาน
LOOP Wellbing 2024 แล้ว ก็จะทำกิจกรรมต่อเนื่องโดยจัดสำรวจพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวหรูหราและเชิงภาพ
โครงการ “TAT Thailand Luxperience FAM Trip” ระหว่างวันที่
19-25 มิถุนายน 2567 นำเสนอพื้นที่เป้าหมายในเกาะสมุย อุทยานเขาสก
จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินหน้าต่อยอดส่งเสริมการขาย
และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มลักชัวรี่กับเวลเนสนำเงินเข้ามาใช้จ่ายมากขึ้นในอนาคตได้ด้วย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น