ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาท่องเที่ยวชี้เป้ารัฐบาลพลิกเกมใหม่ปี2567-2568

 


นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 


ประธานสภาฯทัวร์ชี้เป้า“รัฐบาล”ปรับด่วนแผนท่องเที่ยวปี’67-68

ปลดล็อก5เรื่องลุย/ตั้งไทยแลนด์ทีม-แจกจิดิทัลวอลเลตเที่ยวไทย

ทำด่วน!1 KPI 1กระทรวงเพื่อท่องเที่ยว-ตอบตลาดโลก3โจทย์ใหญ่

สมาชิกคิงเพาเวอร์-SCBด่วยแลกกะรัต5เท่าส่วนลดอาหาร8แห่ง

ช้อปคิงเพาเวอร์ได้ไม่ต้องมีไฟลต์กระเป๋าฟินLONGLAI5แบรนด์

ตั้ง2รองผู้ว่าททท.“อภิชัย”นั่งตลาดในปท.“ธีรศิลป์”คุมแผน1ต.ค.67

บางจากร่วมNon-Deal Roadshowหุ้นBCPเข้าตานักลงทุนต่างชาติ

สุขทันที....ที่เที่ยวชุ่มฉ่ำรับหน้าฝน @ อ่างทอง”เช็คอินด่วน6พิกัด

10 วิธีง่าย ๆ ตัวช่วยสุขภาพรับมือกับอากาศแปรปรวนในหน้าฝน

ศูนย์สิริกิติ์คว้ารางวัลโลกWorldMICEAwardsรับเวิลด์อีเวนต์เพียบ

IATAชี้พ.ค.67แอร์ไลน์สโลก6ทวีปขายตั๋วเครื่องบินราคาพุ่งขึ้น6%

 

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #เที่ยวอ่างทอง

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/aiwmnDg3SxRkju4b/?mibextid=oFDknk

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ ! “ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สอท.) ชี้เป้าพลิกสถานการณ์ท่องเที่ยวให้เข้าเป้าครึ่งปีหลัง2567 ต่อยอดแผน TATAP 2025 ปี68 แนะรัฐบาลเร่งทำใหม่ 5 ประเด็น “ตั้งไทยแลนด์ทีม” 29 ททท.โลกผนึกเอเย่นต์เพิ่มยอดต่างประเทศจากฐานอีก 4 ล้านคน “สั่งสนามบินจับมือรถบัส” กระจายอินบาวนด์ 55 เมืองน่าเที่ยว “เปิดบัสเที่ยวไทย” อัดฉีด 3 เดือน 15,000 คัน 30 ล้านคน-ครั้ง “สร้างอีโคซิสเต็มใหม่” เพิ่มรายได้เวลเนสตลาดอาหรับ “จัดดิจิทัลวอลเลท” ผนวกท่องเที่ยวได้ใช้ด้วย ทำด่วน 2 เรื่องใหญ่ “1กระทรวง 1 KPIเพื่อท่องเที่ยว-ตอบโจทย์โลก” อยากได้ยิน 3 เรื่อง “Tourism for All-เที่ยวยั่งยืน-เวลเนสฮับ” แนะเอกชนปรับตัว ปรับองค์กร ให้ทันเมกะเทรนด์โลกใหม่

 


นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยช่วง 1 มกราคม-8 กรกฎาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้ว 18.25 ล้านคน ดังนั้นตลอดปีนี้น่าจะเข้าเป้าหมายของรัฐบาลประมาณ 36 ล้านคน ส่วน “รายได้” อาจจะลดลงจากเป้าเล็กน้อยจาก 3 ล้านล้านบาท   และหากคำนวณจากฐานปกติด้วยจำนวนต่างชาติเที่ยวไทย 35 ล้านคน คูณ 50,000 บาท/คน/ทริป คนไทยเที่ยวไทย 200 ล้านคน-ครั้ง คูณ 4,500 บาท/คน/ทริป สามารถสร้างรายได้รวมได้เกินอย่างแน่นอน 2.7 ล้านล้านบาท

 

ล่าสุดทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ระดมทำผลสำรวจความคิดเห็นจากทั่วประเทศกว่า 150 สมาคม เพื่อจะทำให้ได้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีรายได้เป็นไปตามเป้าปี 2567 ตามตัวเลขฐาน 3 ล้านล้านบาท จะต้องปรับแผน 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศอีก 4 ล้านคน หรือนักท่องเที่ยวในประเทศอีก 30 ล้านคน-ครั้ง 2.เพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว/คน/ทริป 3.เจาะลึกกลุ่มตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพเร่งด่วน เช่น นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง และอื่น  ๆ 

ในมุมมองของเอกชนคาดว่าสามารถทำให้เป็นไปได้ สมาชิกสมาคม สมาพันธุ์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เสนอแนะวิธีทำไว้ 5 ประเด็น ประกอบด้วย 

ประเด็นที่ 1 ตั้งไทยแลนด์ ทีม เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ปรับขึ้นจากฐานเดิมอีกประมาณ 4 ล้านคน ด้วยการนำการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทั่วโลก 29 สำนักงาน จับมือกับบริษัทตัวแทนนำเที่ยวที่เป็นท็อปของพื้นที่ 10 บริษัท ไปทำการขายแบบเคาะประตูตามตลาดต่าง ๆ โดยรัฐบาลใส่เงินเป็นค่าเดินทางเพื่อทำโร้ดโชว์และการขายดังกล่าว เนื่องจากปี 2566 ต่อเนื่องช่วงครึ่งปีแรก 2567 จะเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งยังไม่ได้ใช้บริษัทนำเที่ยวอย่างเต็มศักยภาพ มุ่งเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวจากการทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter flight) กลุ่มใหม่ ๆ เข้ามาเที่ยวเมืองไทย 

ประเด็นที่ 2 ใช้ท่าอากาศยานหลักจับมือกับรถบัสโดยใช้บริษัทท่องเที่ยวในประเทศร่วมมือกันเปิดศูนย์ที่สนามบินแล้วกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติไปสู่ภูมิภาคโดยเฉพาะ 55 เมืองน่าเที่ยว/เมืองรอง ซึ่งตอบโจทย์ IGNITE Thailand ของรัฐบาล 

ประเด็นที่ 3 ทำโครงการ “รถบัสเที่ยวทั่วไทย” สนับสนุนงบประมาณนำรถบัสประมาณ 5,000 คัน/เดือน มากระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มจากฐานปกติช่วงครึ่งปีหลังอีก 30 ล้านคน-ครั้ง ทำต่อเนื่องตลอดไตรมาส 3-4 รวมประมาณ 15,000-20,000 คัน ซึ่งสามารถกระจายรายได้สู่จังหวัดเมืองน่าเที่ยวในพื้นที่ต่าง ๆ ได้จริง 

ประเด็นที่ 4 เพิ่มรายได้จากคุณภาพใช้จ่ายเงินสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ทำการตลาดเชิงรุกเร่งด่วนพุ่งเป้าไปยังกลุ่มตลาดในแถบประเทศอาหรับ ด้วยการฝึกมัคคุเทศก์ภาษาอาหรับ ฝึกผู้อำนวยความสะดวก (falicitrator) เป็นผู้ทำหน้าที่แนะนำนักท่องเที่ยวให้ไปใช้บริการดูแลรักษาสุขภาพทั้ง เมดิคัล เวลเนส ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในไทย พร้อมกับสร้างอีโค ซิสเต็มจูงใจให้เกิดการเดินทางอย่างเต็มที่ นำร่องด้วยการเชิญนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 

ประเด็นที่ 5 ขอให้รัฐบาลเปิดให้คนไทยได้ใช้งบกระตุ้นจาก ดิจิทัล วอลเลท สักประมาณ 20 % มาสนับสนุนเที่ยวไทยเพื่อจะได้ทำให้รายได้เป็นไปตามเป้าหมายปีนี้ 

นายชำนาญกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายท่องเที่ยวไว้ใน IGNITE Thailand ไว้ดีแล้ว เพียงแต่จะต้องเร่งลงมือปฏิบัติอย่างเร่งด่วนและจริงจัง คือ 



ส่วนที่ 1 นายกรัฐมนตรีเติมงบประมาณกลางปีกระจายลงสู่พื้นที่เมืองน่าเที่ยว/เมืองรอง ซึ่งไม่ได้ยากเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งพร้อมจะพัฒนาอยู่แล้วทำให้เกิดผลสำเร็จขึ้นโดยเร็ว แล้วก็ตั้งเกณฑ์การประเมินผล   1 กระทรวง 1 KPI เพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว  เพื่อจะได้จัดสรรงบประมาณที่ได้จากท่องเที่ยวสัดส่วน 20% ของจีดีพีใส่ไปตามจังหวัดต่าง ๆ หากทุกภาคส่วนทำตามสูตรนี้แล้วรายงานตรงไปยังนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามารถเป็นอีกช่องทาง “แก้จน” ให้คนในประเทศได้ด้วย

 

ส่วนที่ 2 ทั่วโลกอยากได้ยินประเทศไทยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลหรือ Tourism for All ต้องมาร่วมมือกันอย่างจริงจัง เรื่องที่ 2 การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ถึงเวลาต้องวางระบบมาตรฐานเดินหน้าจริงจัง เรื่องที่ 3 ผลักดันยกระดับประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์กร Welness Tourism ชูจุดขายไทยเป็น “เมืองเกษียนโลก”

 

ขานรับการหลอมรวมเป้าหมายหลักทางการท่องเที่ยวของประเทศซึ่งต้องการเป็น Tourism Hub-Worldclass Tourism”โดยเน้น 5 อย่าง ได้แก่ เน้นดูแลสิ่งแวดล้อม เน้นชุมชน เน้นกระจายรายได้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ร่วมกัน เน้นพลังงานสะอาด และเน้นใช้ดิจิทัล มาใช้ตอบโจทย์ดังกล่าว

 

นายชำนาญกล่าวว่าขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำลังประชุมเชิงปฏิบัติการแผนตลาดท่องเที่ยวปี 2568 :TATAP 2025 โดยตั้งเป้าหมายใหม่ 1.ยกระดับรายได้การท่องเที่ยวไทยติด 1 ใน 14 ของโลก โดยคาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน และคนไทยเที่ยวในประเทศ 220 ล้านคน-ครั้ง ซึ่งเพิ่มจากเป้าหมายปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ไว้ 3 ล้านล้านบาท ดังนั้นปี 2568 จะทำรายได้เข้าเป้า 3.4 ล้านล้านบาท

 

สิ่งที่ “รัฐบาล” ต้องทำทันที 3 เรื่องใหญ่ ได้แก่ เรื่องที่ 1 ประกาศท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ เรื่องที่ 2 ต้องลงมือทำแทนการประกาศแต่เพียงแค่นโยบาย 55 เมืองน่าเที่ยว/เมืองรอง เพราะตอนนี้ประเทศไทยยังเติบโตไม่เต็มประสิทธิภาพ เรื่องที่ 3 การพัฒนาแผนตลาดระยะสั้น-กลาง-ยาว ต้องทำไปพร้อมกัน ควบคู่กับการซ่อมสร้างพื้นที่ โดยพัฒนาคน ผลักดันเทรนด์ให้ทันกระแสโลก เริ่มตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้เกิดรายได้จริงเข้าประเทศในปี 2568 ต่อเนื่องได้ด้วย

 

จะต้องทำทั้งทัวร์ทั่วไทย กระตุ้นนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศและในประเทศเพิ่มจำนวนกับใช้จ่ายเงินมากขึ้นช่วงโลว์ซีซัน พัฒนาโลจิสติกสต์ท่าเรือ รถขนส่ง จากนั้นปี 2568 เส้นทางตลอดห่วงโซ่การเดินทางของลูกค้าหรือ Customer Journey ทุกพื้นที่การเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว (touch point) ก็จะทำให้เกิดผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่ต้องการได้ทั้งรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด

 

นายชำนาญกล่าวทิ้งท้ายว่า ในส่วนของรัฐบาลขณะนี้เดินมาถูกทางแล้วเพียงแต่ต้องทำให้นโยบายที่ประกาศใช้ลงสู่ภาคปฏิบัติจริง ต้องใช้ทุกเครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งไทยแลนด์ทีม ดึงบริษัทนำเที่ยวเข้ามาทำงานด้วย ทำมาตรฐานตัวชี้วัด 1 กระทรวง 1 KPGเพื่อการท่องเที่ยว ส่วนเอกชนท่องเที่ยวต้องเร่งปรับตัวตามเมกะเทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการพัฒนาตนเอง เรียนรู้ เทคโนโลยี เมกะเทรนด์โลก และโปรดักซ์ตอบโจทย์หลังปี 2567 โดยต้องพัฒนาบุคลากร ขนาดองค์กรให้มีประสิทธิภาพทางการค้า และร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี เพื่อให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยเติบโตยั่งยืนอย่างแท้จริง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 สมาชิกคิงเพาเวอร์-SCBด่วยแลกกะรัต5เท่าส่วนลดอาหาร8แห่ง

 

ห้ามพลาด! มีไฟลต์บิน อย่าลืมแวะมาช้อปที่ คิง เพาเวอร์ ลดสูงสุด 20% สำหรับสมาชิกเท่านั้น ลดเพิ่มสูงสุด 5% ช้อปคุ้มตลอดเดือนกับโปรปังกว่าใคร  ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต

 

สมาชิก คิง เพาเวอร์ ลดสูงสุด 20%  ตามสถานะสมาชิกลดเพิ่มสูงสุด 5% เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)/ใบเสร็จ และแลกกะรัต” ได้คุ้มกว่าเดิมให้รับคืนได้ถึง 5 เท่า เมื่อช้อปครบ 30,000 บาทสุทธิ ใช้เพียงแลก 300 กะรัต รับกิฟท์ โวเชอร์ได้มากถึง 1,500 บาท    แจกคนละ 1 สิทธิ์ /วัน

 

สิทธิพิเศษ !!  สมาชิก คิง เพาเวอร์ และผู้ถือบัตรเครดิต SCB PRIVATE BANKING, SCB FIRST และ SCB PRIME รับส่วนลดร้านอาหารชั้นนำ สูงสุด 30% พร้อมรับสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อใช้บริการร้านอาหารชั้นนำ 8 แห่ง ตั้งแต่วันนี้ 31 ุลาคม 2567

 

แห่งที่ 1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ แจกทันที 3 รายการ ได้แก่ 1.รับส่วนลด 20% ที่ห้องอาหาร Eclipse  2.รับฟรี! คูปองมูลค่า 150 บาท ที่ไทยเทสต์ฮับ 3.รับฟรีที่ QQ Dessert ชานมไข่มุกมินิ 1 แก้ว 

 

แห่งที่ 2 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ” มอบส่วนลดสูงสุด 20% ที่ห้องเทนโกะ โอมากาเสะ  และส่วนลด 30% ที่ห้องคุยซีน อันปลั๊ก

 

แห่งที่ 3 คิง เพาเวอร์ มหานคร” นำพื้นที่บริการอาหารยอดนิยม 4 ห้อง มอบส่วนลดสูงสุด 10% เริ่มที่มหานคร อีทเทอรี่  ลด 10 % ตามมาด้วยอีก 3 ห้องอาหาร ลด 5 % ได้แก่ ห้องเดอะ พาลอร์ ห้องโอโจ แบงค็อก และห้องเดอะ สแตนดาร์ด กริลล์ 

 

ข่าวที่ 2 ช้อปคิงเพาเวอร์ได้ไม่ต้องมีไฟลต์กระเป๋าLONGLAI5แบรนด์

 

คิง เพาเวอร์ ชวนคนไม่ต้องมีไฟลต์บิน ก็ช้อปได้ ร่วมยกระดับคอมพลีตลุคด้วย “กระเป๋าเเบรนด์ไทย” ราคาสบายๆ แต่คุณภาพดีไม่เเพ้ใคร 5 สไตล์ นำโดย แบรนด์ที่ 1 LONGLAI ดีไซน์เก๋ สุดมินิมัล ถูกใจสายแบก แบรนด์ที่ 2 SUGAR MONDAY กระเป๋าหนังลายสานซิกเนเจอร์ เรียบหรู โดดเด่น โดนใจพี่สาวชาวจีน แบรนด์ที่ 3 LABELLA กระเป๋าใบจิ๋ว เเมตช์ง่ายได้ทุกลุคจากกลางวันสดใสจนถึงกลางคืนสุขใจหรือ DAY TO NIGHT แบรนด์ที่ 4 LUSTER กระเป๋าหนังเเท้วัสดุทนทาน ทรงพระจันทร์เสี้ยว แบรนด์ที่ 5 MERIMIES กระเป๋าสีพาสเทลสุดน่ารัก เติมสีสันให้การเเต่งตัวดูสนุกยิ่งขึ้น

 

ไม่ต้องมีไฟลต์บินต่างประเทศ ก็ช้อปได้ เพียงสังเกตป้ายสีฟ้า “TAKE HOME PRODUCTS“ ซื้อแล้วนำกลับบ้านได้เลย

 

สอบถามเพิ่มเติม King Power Contact Centre 1631 ทุกการช้อปเป็นไปได้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

 

ข่าวที่ 3 ตั้ง2รองผู้ว่าททท.”อภิชัย”นั่งตลาดในปท.-“ธีรศิลป์”คุมแผน1ต.ค.67

 

                นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เรื่องแต่งตั้งโยกย้ายรอบใหม่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป นำร่อง 2 รองผู้ว่าการ ททท. คือ คนแรก นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ย้ายมาเป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ (นักบริหาร 10 ตำแหน่งเลขที่536) จากปัจจุบันเป็นรองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว (นักบริหาร 10 ตำแหน่งเลขที่ 430) และคนที่ 2 นายธีระศิลป์ เทเพนทร์ ย้ายมาเป็นรองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน (นักบริหาร 10 ตำแหน่งเลขที่ 276) จากปัจจุบันเป็นรองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา (นักบริหาร 10 ตำแหน่งเลขที่ 349)

 

                รวมทั้งยังมีเก้าอี้ “รองผู้ว่าการ ททท.” ให้ผู้บริหารอีกหลายลุ้นเพิ่มเพื่อจะมีโอกาสได้เลื่อนมาแทนที่คนเกษียน และสลับตำแหน่งมาแทนเก้าอี้ที่กำลังว่างลงมีอีกอย่างน้อย ตำแหน่ง ประกอบด้วย

 

ตำแหน่ง “2 รองผู้ว่าการ” ที่จะได้รับการแต่งตั้งเข้ามาทำหน้าที่แทนคนปัจจุบันกำลังจะเกษียนอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2567 ได้แก่  1.รองผู้ว่าการด้านบริหาร เนื่องจากนางรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ และ 2.รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากนายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา

 

ตำแหน่ง “2 รองผู้ว่าการ” เข้ามาแทนที่เก้าอี้ว่างลงเพราะคนเก่าย้ายไปนั่งเก้าอี้ใหม่ ได้แก่ 1.รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว แทนนายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ไปดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ 2.รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา แทนนายธีระศิลป์ เทเพนทร์ ไปดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน แทนนางน้ำฝน บุณยะวัฒน์ กำลังจะเกษียณเดือนกันยายนนี้

 

การแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้ว่าการ ททท.ครั้งนี้ เกิดขึ้นระหว่างกำลังจัดประชุมเชิงบูรณาการแผนปฏิบัติการ ททท. ปี 2568 -Tourism Authority of Thailand Action Plan 2025 : TATAP 2025 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งมีผู้บริหารระดับผู้อำนวยการทั่วประเทศและทั่วโลกมารวมตัวกัน จึงค่อนข้างได้รับความสนใจกล่าวถึงการโยกย้ายครั้งนี้มากเป็นพิเศษ

ขณะที่อีก 2 รองผู้ว่าการที่ยังคงรั้งตำแหน่งเดิมอยู่อย่างเหนียวแน่น ได้แก่ 1.นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด 2.นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

 

สำหรับรองผู้ว่าการ ททท.ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 ตำแหน่ง ได้แก่ 1.รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ 2.รองผู้ว่าการด้านบริหาร 3.รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา 4.รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด 5.รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว 6.รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน 7.รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิก 8.รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

 

ข่าวที่ 4 บางจากร่วมNon-Deal Roadshowหุ้นBCPเข้าตานักลงทุนต่างชาติ

 

นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ร่วมกับทางทีมนักลงทุนสัมพันธ์บางจากฯเข้าร่วมกิจกรรม Non-Deal Roadshow ของ 3 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นนำโดย J.P. Morgan, CLSA และเมย์แบงก์ จึงเป็นโอกาสสำคัญของบางจากในการนำเสนอข้อมูลธุรกิจแก่ผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ 3 ประเทศ คือ ฮ่องกง มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

          

บางจากฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรม Non-Deal Roadshow กับทางบริษัทหลักทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่องมาตลอด เน้น 2 เรื่องหลัก ได้แก่ เรื่องที่ 1 ขยายฐานนักลงทุนกับสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มนักลงทุน เรื่องที่ 2 นำเสนอข้อมูลธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างการรับรู้ความเคลื่อนไหวและคืบหน้าให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท

         

โดยได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2567 บางจากฯ ยังคงเป็นบริษัทพลังงานแห่งเดียวของไทยที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงาน JPM Malaysia+ ASEAN Conference 2024 ในมาเลเซีย ซึ่งทาง J.P. Morgan เป็นเจ้าภาพจัด โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำในมาเลเซียจำนวนมาก ยืนยันถึงนักลงทุนระดับภูมิภาคต่างให้ความสนใจหุ้น BCP 

 

นักลงทุนส่วนใหญ่มุ่งความสนใจ 5 ส่วนหลัก คือ 1.รายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจการตลาด 2.การเติบโตทางธุรกิจ 3.การควบรวมเข้าซื้อกิจการ (Synergy) บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ “BSRC เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มบริษัทบางจาก 4.ความคืบหน้าการก่อสร้างหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่ยั่งยืน หรือ  SAF :Sustainable Aviation Fuel ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้กลุ่มบางจากในระยะยาวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 กลุ่มบางจากเข้าร่วมงานที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนนานาชาติเข้าร่วมอย่างคั่งอีก 2 งาน ได้แก่  งานแรก INVEST ASEAN Corporate Day 2024 ทางบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่ เมืองปีนัง มาเลเซีย งานที่สอง 20th  CITIC CLSA ASEAN Forum ทาง CLSA จัดขึ้นที่อินโดนีเซีย แต่ละงานได้รับความสนใจจากผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากอังกฤษ ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งเข้าร่วมรับฟังข้อมูลตอกย้ำความเชื่อมั่นการเข้าร่วมทุกงานได้เป็นอย่างดี

         

สำหรับหุ้น BCP บางจากได้รับเลือกเป็นหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี SET50 ทำให้กองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศแสดงความสนใจดังกล่าวมากขึ้นมาตลอด ผนวกกับมีปัจจัยบวกจากกองทุนซึ่งเป็นการลงทุนตามเบนซ์มาร์คดัชนี SET50 จึงเพิ่มโอกาสเป็นแรงส่งให้เกิดความสนใจในการลงทุนหุ้น BCP ด้วยเช่นกัน

 

            ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวไทยในช่วงหน้าฝน ทริปนี้ ททท.ชี้เป้าชวนไปใกล้ ๆ อีกจังหวัด ปักหมุด “สุขทันที...ที่เที่ยวชุ่มฉ่ำ@อ่างทอง6 พิกัด แล้วฟังด่วน ๆ “10วิธีรับมือหน้าฝน” สุขกายสุขใจ และข่าวฮ็อตท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “ศูนย์สิริกิติ์คว้ารางวัลโลกWorldMICE” ข่าวที่สอง “IATA ชี้พ.ค.67แอร์ไลน์สทั่วโลก” ดันตั๋วเครื่องราคาสูงขึ้น 6 %

 

ท่องเที่ยว สุขทันที....ที่เที่ยวชุ่มฉ่ำรับหน้าฝน @ อ่างทอง”เช็คอินด่วน6พิกัด

 

ตั้งเข็มไมล์ออกไปเที่ยว “อ่างทอง” เมืองใกล้ ๆ ขับรถง่าย ๆ  ยิ่งช่วงหน้าฝนอากาศเย็นสบาย เช็คอินได้ทุกวัน กับความครบวงจร 6 พิกัด

 

พิกัดที่ 1 “อุทยานสวรรค์อ่างทองหนองเจ็ดเส้น” เป็นอุทยานแห่งความจงรักภักดี บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ ในเขตอ่างทอง เนรมิตสรรค์ให้เป็นอุทยานสวรรค์ แหล่งท่องเที่ยวกลางธรรมชาติ ตกแต่ง จัดวางแปลนรอบล้อมด้วยไม้ประดับหายาก นานาชนิดนับร้อยสายพันธุ์ กว่าแสนต้น จะพบความสุข ความประทับใจ

 

พิกัดที่ 2 “วัดจันทรังษี” ภายในวัดมีวิหารจัตุรมุขมียอดบุษบกกลาง 5 ชั้น สูง 48 เมตร กว้าง 24 เมตร ยาว 33 เมตร มีสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในจังหวัดอ่างทอง ภายในประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ (หลวงพ่อสด จันทสโร) หล่อด้วยโลหะองค์ใหญ่สุดในโลก มีขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร 9 นิ้ว สูง 9 เมตร 9 นิ้ว

 

พิกัดที่ 3 “ล่องเรือแม่น้ำน้อย” รับประทานมื้อกลางวันกับเมนูอาหารไทยพื้นบ้าน ชมธรรมชาติ แม่น้ำน้อย วิเศษชัยชาญ ในเขตเทศบาลตำบลบางจัก อ.วิเศษชัยชาญ นั่งเรือแม่น้ำน้อย ชมรังนกกระจาบ ตามต้นไม้ริมแม่น้ำซึ่งนับวันจะหาชมได้ยาก แวะไหว้หลวงพ่อโตวัดสี่ร้อย เดินเล่นตลาดเก่าของชุมชน ชมวิถีชีวิตของคนริมสองฝั่งแม่น้ำน้อย การหาปลาแบบยกยอ หรือการเลี้ยงปลาในกระชัง

 

พิกัดที่ 4 The Lao Caféอยู่กลางทุ่งนาเขียวขจี ร้านบรรยากาศดีมาก ๆ แถมกาแฟอร่อย สามารถมองเห็น องค์พระใหญ่ที่สุดในอ่างทอง สัมผัสอากาศปลอดโปร่งชุ่มฉ่ำ จากกลิ่นไอดินเคล้าทุ่งข้าว ช่วยให้หายเหนื่อย

 

พิกัดที่ 5 “บ้านหุ่นเหล็ก” พบกับความตื่นตาตื่นใจกับหุ่นยนต์จากภาพยนตร์ดัง ที่ใหญ่โตสูงกว่า 8 เมตร และยังมีเหล่า SuperHero และตัวละครดังๆ อีกมากมาย ไฮไลต์คือมี “สนิมหวาน” กับเครื่องมือช่างรสชาติช็อกโกแลต หากได้มาแล้วต้องลองชิม ถ้าไม่ได้ทานถือว่าพลาดมากเลย

 

 พิกัดที่ 6 Monstera Café” เป็นอีกคาเฟ่ ที่มีต้นไม้เยอะ ท่ามกลางสวนเฟิร์น ฟิวนั่งธรรมชาติ สัมผัสหมอกไอ Café มีต้นไม้เยอะ ท่ามกลางสวน เฟิร์น ฟิวนั่งธรรมชาติ สัมผัสหมอกไอ น้ำเย็น สดชื่น สบายใจ

 

เที่ยวไทยในหน้าฝน สัมผัสความเขียวขจี วิถีชีวิตริมแม่น้ำ คาเฟ่สุดฟิว ปักหมุดไว้ให้ครบ 6 พิกัด แล้วไปเที่ยวอ่างทองกันดีกว่า

 

สุขภาพ – 10 วิธีง่าย ๆ ตัวช่วยรับมือกับอากาศแปรปรวนในหน้าฝน

 

           1. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 1.5 ลิตร เพื่อให้สมดุลของอุณหภูมิในร่างกายคงที่ จะช่วยทำให้โอกาสการติดเชื้อลดลง

 

           2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ถ้านอนหลับยาก ลองรับประทานกล้วยหอมก่อนนอน ซึ่งกล้วยหอมจะมีสารทริปโตเฟน ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและหลับได้ง่ายขึ้น

 

           3. หน้าฝนมักจะไม่ค่อยเสียเหงื่อ เพราะอากาศชื้น ควรออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายได้ขับของเสีย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายวิธีหนึ่งด้วย

 

           4. อาหารที่ควรรับประทานอาหาร ได้แก่ ขิง ข่า ตะไคร้ ใบกะเพรา กระชาย เป็นต้น เพราะเป็นอาหารที่มีความเผ็ดร้อน เป็นการเพิ่มอุณหภูมิให้แก่ร่างกาย 

 

           5. อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงรับประทาน คือ อาหารที่มีฤทธิ์เย็น รสขม เพราะจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลงมากกว่าเดิม ส่งผลให้ระบบการย่อยทำงานหนัก ย่อยยาก 

 

           6. ไม่ควรอยู่ในที่อึดอัด เพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย ควรอยู่ที่อากาศแห้งและถ่ายเทสะดวก เปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ และทำตัวเป็นมนุษย์สะอาด ล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรมเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

 

           7. หน้าฝนอากาศไม่ปลอดโปร่ง ทำให้คนมีจิตใจหดหู่ ควรหาเวลาไปพักผ่อนเพื่อเพิ่มออกซิเจนบริสุทธิ์ให้กับร่างกาย

 

           8. อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้ง่าย เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วยการรับประทานวิตามินซีเสริมวันละ 500-1,000 มิลลิกรัม

 

           9. ควรใส่เสื้อผ้าสีสดใส เพื่อเติมพลังงานให้กับจิตใจ ใครจะคิดบ้างว่าแค่การปรับเปลี่ยนสีเสื้อผ้าก็ทำให้อารมณ์คุณเปลี่ยนแล้ว

 

           10. นอกจากเตรียมความพร้อมของร่างกายแล้ว ควรเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ทำจิตใจให้สงบนิ่ง ด้วยการนั่งสมาธิ เพื่อรับมือกับทุกสภาวะ

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –ศูนย์สิริกิติ์คว้ารางวัลโลกWorldMICEรับเวิลด์อีเวนต์เพียบ

 

นายสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดเผยว่า ล่าสุดศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คว้ารางวัล “ศูนย์การประชุมที่ดีที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2023” (Thailand's Best Convention Centre 2023) จากเวที World MICE Awards ซึ่งทำพิธีประกาศรางวัลอย่างเป็นทางการในปี 2567 โดยมีผู้อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมไมซ์-ท่องเที่ยวและคนทั่วโลกโหวตลงคะแนนให้ทั้งหมด ซึ่งยืนยันถึงศูนย์การประชุมของไทยได้สร้างมาตรฐานและยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศก้าวไปยืนแถวหน้าระดับสากลอย่างสง่างาม

 

นายสุรพล กล่าวว่าเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลก World MICE Awards ในฐานะศูนย์การประชุมที่ดีที่สุดในประเทศไทย จึงต้องขอบคุณบริษัท World Travel Group ผู้ริเริ่มรางวัลดังกล่าว และขอบคุณทุกคะแนนจากทุกคนในแวดวงอุตสาหกรรมไมซ์-ท่องเที่ยว โหวตให้ศูนย์สิริกิติ์เป็นศูนย์การประชุมที่ดีที่สุดในประเทศไทย จึงพร้อมจะนำรางวัลดังกล่าวมาเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน มุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์-ท่องเที่ยว ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

 

สำหรับ “World MICE Awards คือหนึ่งในรางวัลที่ได้การยอมรับให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศของอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ระดับโลก แต่ละปีจะมอบให้เพื่อยกย่องและเป็นรางวัลกับธุรกิจที่มีความเป็นเลิศด้านต่าง ๆ ที่ดำเนินงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ รวมถึงพัฒนาเป็นจุดหมายปลายทางสถานประกอบการที่ดีที่สุดทั่วโลก จัดทำขึ้นโดยบริษัท World Travel Group สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้นำที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจ                ด้านการเดินทาง การท่องเที่ยว อินเทอร์เน็ต และสื่อสิ่งพิมพ์ มากว่า 30 ปี

 

นอจากรางวัล World MICE Awards แล้ว บริษัทดังกล่าวยังได้มอบรางวัล World Travel Awards, World Golf Awards และ World Spa Awards ซึ่งล้วนเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลกมาตลอดด้วย

 

ก่อนหน้านี้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็คว้ารางวัลสำคัญระดับนานาชาติต่อเนื่องมาได้หลายรางวัล ได้แก่ รางวัล “M&C Asia Stella Awards 2023” ในฐานะศูนย์การประชุมที่มีการริเริ่มด้านความยั่งยืนเป็นเลิศ รางวัล “FIABCI-Thai PRIX D’EXCELLENCEAWARDS 2023 ประเภทศูนย์การประชุมที่มีความงดงามด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบ

 

รวมทั้งได้รับความไว้วางใจให้เป็นสถานที่จัดงานระดับโลก “Money 20/20 Asia” งานโชว์ฟินเทคระดับโลก งาน “The 74th FIFA Congress 2024” การประชุมคณะกรรมการจัดการประชุมใหญ่สามัญของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ครั้งที่ 74 ล่าสุดคือ “ISTH 2024 Congress” การประชุมวิชาการประจำปีด้านภาวะลิ่มเลือดอุดตัน การห้ามเลือด และชีววิทยาหลอดเลือด ครั้งที่ 32 ซึ่งล้วนเป็นสิ่งยืนยันถึงความเชื่อมั่นของผู้จัดงาน และตอกย้ำถึงความเป็น ศูนย์การประชุมที่ดีที่สุดในประเทศไทย อย่างแท้จริง   

 

ข่าวที่สอง - IATAชี้พ.ค.67แอร์ไลน์สโลก6ทวีปทำขายราคาตั๋วเครื่องบินพุ่ง6%

 

มร.วิลลี วอลช์ ผู้อำนวยการทั่วไป สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA : International Air Transport Association) หรือ “ไออต้า” เปิดเผยว่าผลสรุปปริมาณผู้โดยสารเดินทางทางอากาศเดือนพฤษภาคม 2567 สถานการณ์ทั่วโลกมีความต้องการเดินทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลเชิงบวกกับสายการบินนานาชาติมีผู้ใช้บริการเติบโตเพิ่มขึ้น 10.7 % เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยทำสถิติมียอดจองที่นั่งสูงสุด 83.4% สะท้อนถึงมูลค่า “ยอดขายตั๋วโดยสารเครื่องบิน” ช่วงต้นฤดูกาลท่องเที่ยวทั้ง 6 ทวีป เพิ่มขึ้นแล้วเกือบ 6 % แนวโน้มการขยายดีตัวอย่างต่อเนื่องทำให้สายการบินต่าง ๆ ทั่วโลก พยายามอย่างเต็มที่สร้างความเชื่อมั่นให้นักเดินทางทุกคนมั่นใจตลอดช่วงฤดูร้อนบริการบินตามเส้นทางทางเหนือของโลก ซึ่งกำลังเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวจะสามารถเดินทางได้สะดวกราบรื่นแน่นอน

 

อีกทั้งหน่วยงานให้บริการเดินอากาศ (ANSP - Air Navigation Service Providers) ก็กำลังถูกทดสอบจากความคาดหวังของทุกฝ่ายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหน่วยงานกำกับดูแลการควบคุมการจราจรทางอากาศในยุโรปก่อนจะเข้าสู่ฤดูเดินทางท่องเที่ยวเริ่มเห็นความล่าช้าเกิดขึ้นบ้างแล้วถึง 5.2 ล้านนาที เห็นได้ชัดถึงการปฏิบัติหน้าที่ของ ANSP ในยุโรปยังคงมีปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขอยู่บ้าง จึงส่งผลทำให้เมื่อช่วงวันหยุดสุดปสุดสัปดาห์วันทหารผ่านศึกเดือนพฤษภาคมปีนี้ มีเที่ยวบินต้องล่าช้า 32,000 เที่ยว

 

เช่นเดียวกับในสหรัฐอเมริกาปัญหาต่างๆ ยังคงเกิดขึ้นในลักษณะคล้ายคลึงกัน ทำให้สายการบินต้องรับผิดชอบลูกค้า ไม่ต่างจาก ANSP ก็ต้องรับผิดชอบด้วยเหมือนกันกับประสิทธิภาพการดูแลจราจรทางอากาศซึ่งมีความสำคัญต่อลูกค้าสายการบินและนักเดินทางจำนวนหลายล้านคน จึงต้องการให้ผู้เกี่ยวข้องกับสายการบินทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ภาพรวมของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก

 

ส่วนสถานการณ์การขนส่งทางอากาศทั่วโลกตลอดเดือนพฤษภาคม 2567 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน มีปริมาณการขนส่งผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (RPK) เติบโตเพิ่มขึ้น 10.7 % มีต้นทุนราคาตั๋วโดยสารต่อที่นั่ง (ASK) เพิ่มขึ้น 8.5%  ทำอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยได้ 83.4 % เพิ่มขึ้น  1.7 ประกอบด้วย

 

1.เที่ยวบินระหว่างประเทศ ของแต่ละทวีป มีความต้องการจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 14.6 % มีกำลังการผลิตจำนวนที่นั่งให้บริการผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 14.1 % ทำอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยได้ 82.8%  เพิ่มขึ้น 0.3 %

 

2.เที่ยวบินภายในประเทศ ของแต่ละทวีป มีความต้องการจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 4.7 % มีกำลังการผลิตจำนวนที่นั่งให้บริการผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 0.1% ทำอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยได้ 84.5 % เพิ่มขึ้น 3.8 %

               

จากสถิติการดำเนินธุรกิจของ “สายการบินนานาชาติ” เดือนพฤษภาคม 2567 แบ่งตามภูมิภาคใน 6 ทวีป มี “ส่วนแบ่งตลาดผู้โดยสาร” เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่

 

อันดับ 1 เอเชียแปซิฟิก มีส่วนแบ่งตลาด 31.7 % ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (RPK) เติบโตเพิ่มขึ้น 14.7 % ทำราคาตั๋วโดยสารต่อที่นั่ง (ASK) เติบโตเพิ่มขึ้น 8.5%   

 

อันดับ 2 ยุโรป มีส่วนแบ่งตลาด 27.1 % ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (RPK) เติบโตเพิ่มขึ้น 10.3 % ทำราคาตั๋วโดยสารต่อที่นั่ง (ASK) เติบโตเพิ่มขึ้น 9.7

 

อันดับ 3  อเมริกาเหนือ มีส่วนแบ่งตลาด 24.2 % ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (RPK) เติบโตเพิ่มขึ้น 6.5 % ทำราคาตั๋วโดยสารต่อที่นั่ง (ASK) เติบโตเพิ่มขึ้น 6.5

 

อันดับ 4  ตะวันออกกลาง มีส่วนแบ่งตลาด 9.4 % ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (RPK) เติบโตเพิ่มขึ้น 10.2 % ทำราคาตั๋วโดยสารต่อที่นั่ง (ASK) เติบโตเพิ่มขึ้น 8.9

 

อันดับ 5  ละตินอเมริกา มีส่วนแบ่งตลาด 5.5 % ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (RPK) เติบโตเพิ่มขึ้น 7.9% ทำราคาตั๋วโดยสารต่อที่นั่ง (ASK) เติบโตเพิ่มขึ้น 5.3

 

อันดับ 6  แอฟริกา มีส่วนแบ่งตลาด 2.1 % ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (RPK) เติบโตเพิ่มขึ้น 13.4 % ทำราคาตั๋วโดยสารต่อที่นั่ง (ASK) เติบโตเพิ่มขึ้น 8.5%   

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง