ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

28 กรกฎาคม 2567 โครงการพระราชดำริรัชกาลที่ 10

 น้อมนำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริรัชกาลที่ 10

พัฒนา“แหล่งน้ำ-การศึกษา-สุขภาพ-เกษตร-ทำดีด้วยหัวใจ”

สมาชิกคิงเพาเวอร์รับสิทธิพิเศษกินอาหารสุดหรูลดแรง25%

ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์รับสินค้าขาออกที่สนามบินภูเก็ต

ททท.ควงแอลลี่-PROXIEบูมหนัง55เมืองน่าเที่ยว5Must Do

บางจากส่งต่อนวัตกรรมบPersonal Healthที่รพ.พระรามเก้า 

ชวนเที่ยว“นครนายก-ปราจีน”ดูโบราณสถานไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

อเมริกันเอ็กซ์เพรสเปิดโพลล์ปี67คนไทยเฮเที่ยวไทยโตแรง

การบินไทยขยายสัญญาจีอีแอโร่สเปซต่อ6ปีใช้GEทุกฝูงบิน

 


วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/p/rUJL7C6QtXGTTnZT/?mibextid=oFDknk

ช่วงที่ 1 สกู๊ปพิเศษ “โครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” รวบรวมมาจาก “มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ทางรายการขอน้อมนำ “โครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ของ “มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ” มาเผยแพร่สร้างประโยชน์สุขต่อปวงชนชาวไทย

 


มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ นำเสนอโครงกาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 5 ด้าน คือ

1.โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

2.โครงการอันเนื่องมาจากพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุข

3.โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการเกษตรและส่งเสริมอาชีพ

4.โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการศึกษา

5.โครงการจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ”

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทราบด้วยพระเนตรพระกรรณ ถึงปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จากการตามเสด็จสมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี ออกเยี่ยมเยียนพสกนิกรทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทรงพระวิริยะอุตสาหะเอาพระราชหฤทัยใส่ในการเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท สมเด็จพระบรมราชบุพการี ด้วยทรงตระหนักถึงพระราชภาระอันสำคัญที่รอคอยอยู่ในภายภาคหน้า และด้วยน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาต่อประชาชนทุกผู้ทุกนาม และทุกหมู่เหล่า

 

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริก่อเกิดด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ต่อเนื่องยาวนานมากว่า 27 ปี ตั้งแต่ครั้งดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

 

ด้วยพระวิสัยทัศน์ และสายพระเนตรที่ยาวไกล โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงครอบคลุม ในทุกด้าน ทั้งการพัฒนาแหล่งน้ำ การพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกร การสาธารณสุข การศึกษา การรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และความมั่นคงของชาติ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ” ทรงดำเนินตามรอยพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบรมชนกนาถที่ทรงให้ความสำคัญกับ “น้ำ” ที่เป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพของพสกนิกรโดย ถ้วนทั่ว เริ่มต้นจากการพัฒนาแหล่งน้ำในหลากหลายรูปแบบมาตั้งแต่ปี 2534 จนถึงปัจจุบัน

 

1.โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริตรงที่พระราชทานเมื่อเสด็จพระราชดำเนินไป ในพื้นที่ต่าง ๆ มีจำนวน 61 โครงการ ใน 12 จังหวัด ทุกภูมิภาค จากหมู่บ้านชายขอบบนภูเขาทางภาคเหนือจดหมู่บ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ เชียงใหม่ ราชบุรี จันทบุรี อุดรธานี จนถึงนราธิวาสเพื่อช่วยพลิกฟื้นชีวิตราษฎรตามความต้องการของประชาชนและ ความเหมาะสมของสภาพภูมิประเทศ

 

นับจากนั้นเป็นต้นมาในเกือบทุกครั้งที่โดยเสด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่าง ๆ ขณะที่สมเด็จพระบรมราชชนนี ทรงงานด้านศิลปาชีพมักทรงแยก ไปทอด พระเนตรความเป็นอยู่ของราษฎรและพระราชทานแนวพระราชดำริในการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อช่วยเหลือปัดเป่าความเดือดร้อนให้กับราษฎรในพื้นที่นั้น

 

โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้ง ดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครอบคลุมตั้งแต่การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ฝาย แก้มลิง บ่อเก็บน้ำ ท่อระบายน้ำ ระบบส่งน้ำ และการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำ ฝายอาคาร บังคับน้ำ ระบบและท่อส่งน้ำ ทำนบดิน การจัดหาน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ การเกษตรและการอุปโภคบริโภคของประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ และการ พัฒนาพื้นที่แบบบูรณาการ

 

ทั้ง 61 โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กระจายอยู่ในทุกภูมิภาค คือ “ภาคเหนือ” มี 6 โครงการ ใน 2 จังหวัด เชียงราย และเชียงใหม่ “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”  12 โครงการ ใน 6 จังหวัด คือ อุบลราชธานี มุกดาหาร บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุดรธานี และสกลนคร “ภาคกลาง” จังหวัดราชบุรี รวม 6 โครงการ  “ภาคใต้” เป็นภาคที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานโครงการมากถึง 37 โครงการ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

 

 “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการสาธารณสุข” ที่แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับความทุกข์ยากจากการเจ็บป่วย ยากไร้และขาดโอกาส คือ

 

“โครงการกาญจนบารมี” ที่พระราชทานพระราชดำริให้ก่อตั้งขึ้นและทรงเป็นประธาน จัดสร้างศูนย์บำบัดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นปีที่ 50 เพื่อลด ความทุกข์ยากลำบากของผู้ป่วยในการเดินทางมารับการรักษา

 

เนื่องจาก “โรคมะเร็ง” เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของไทย และมีแนวโน้มที่คนไทยจะมีโอกาส เป็นมะเร็งมากขึ้น ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น แต่สถานพยาบาลผู้ป่วยกลับมีจำนวนจำกัด ทำการดูแลรักษาโรคมะเร็งที่ต้องอาศัยระยะเวลาและความต่อเนื่องไม่สามารถกระทำได้เต็มที่เพื่อ ให้โครงการกาญจนบารมี ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ตาม เป้าหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะกรรมการของโครงการกาญจนบารมีดำเนินการ จัดตั้งมูลนิธิกาญจนบารมีขึ้นในวันที่ 15 กรกฎาคม 2540

 

วัตถุประสงค์ของมูลนิธิกาญจนบารมี นอกจากเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ยากไร้แล้ว ยังเพื่อสนับสนุนส่งเสริมการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็ง โดยเน้นการรักษาผู้ป่วยทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ให้ทุนการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็ง เป็นกองทุนสนับสนุนการดำเนินงาน กิจกรรมต่าง ๆ และการพัฒนาบุคลากรของศูนย์ฯ มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งส่วนภูมิภาคที่อยู่ในความรับผิดชอบ รวมทั้งร่วมมือกับองค์กร การกุศลอื่น ๆ และเพื่อสาธารณ ประโยชน์

 

ปัจจุบัน “ศูนย์บำบัดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง มหาวชิราลงกรณ” ธัญบุรี ยกสถานะขึ้นเป็นโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี ให้บริการรักษาผู้ป่วยมะเร็งทุกชนิด ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย มีผู้ป่วยเข้ารับ บริการเฉลี่ยปีละ 2,000 คน ทั้งมะเร็งเต้านม มะเร็งไทรอยด์ มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก และ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีการใช้กัมมันตรังสีในการรักษามะเร็งไทรอยด์ ซึ่งได้ผลการรักษา ทำให้มีผู้ป่วย มีอายุเกิน 5 ปี ได้ถึงร้อยละ 90

 

“โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการเกษตร และส่งเสริมอาชีพ “ ได้แก่ “โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เป็นโครงการที่สามารถแก้ปัญหาให้กับราษฎรจำนวน ๗ หมู่บ้านได้อย่างบูรณาการ ครอบคลุม ตั้งแต่การพัฒนาแหล่งน้ำ การฟื้นฟูปรับปรุงดิน การบรรเทาอุทกภัย การเพิ่มผลผลิตและรายได้ การสร้างอาชีพใหม่ รวมทั้งการฟื้นฟูอนุรักษ์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ โดยความร่วมมือของ ราษฎร ๗ หมู่บ้านโดยรอบหนองอึ่ง

 

จากเดิมที่เคยมีการบุกรุกแผ้วถาง ทำไร่เลื่อนลอย จนป่าเสื่อมโทรม กลายเป็นป่าชุมชนดงมัน พื้นที่ 3,006 ไร่ ที่ชาวบ้านร่วมกันฟื้นฟูสภาพและอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเกื้อกูลกัน ผลผลิตจากป่าที่ได้รับการพัฒนา ยกระดับขึ้น จนสามารถสร้างชีวิตและรายได้ที่ดีให้กับชาวบ้าน

 

โครงการนี้ เริ่มต้นขึ้นจากการเสด็จพระราชดำเนินของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านคำน้ำสร้าง ตำบลค้อเหนือ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2543 ซึ่งได้รับผลกระทบ จากน้ำท่วม ในการนี้ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานพระราชดำริให้หน่วยงาน ราชการต่าง ๆ พิจารณาช่วยเหลือเรื่องปากท้องของราษฎร ในพื้นที่ซึ่งเป็นหมู่บ้านยากจน

 

“โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการศึกษา” ได้สร้างคุณูปการให้กับเด็กและเยาวชนจำนวนมาก ในทุกระดับชั้น โดยพระราชปณิธานมุ่งมั่นเพื่อสร้างโอกาสให้กับเยาวชนที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไป พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริให้นำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และทรัพย์จากผู้บริจาค โดยเสด็จพระราชกุศลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนที่ ยากจน ให้มีโอกาสศึกษาอย่างต่อเนื่อง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “โครงการทุนการศึกษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2552 ในเวลาต่อมาจึงจัดตั้งเป็น “มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” หรือ ม.ท.ศ. ขึ้น เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553

และทรงเป็นประธานกรรมการเอง ทุนการศึกษา พระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” หรือ ม.ท.ศ. เป็นทุนการศึกษาแก่ เยาวชนที่เรียนดี ขยันหมั่นเพียร ประพฤติดี มีคุณธรรมและฐานะยากจนให้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับ ที่สูงขึ้นจนจบปริญญาตรีหรือเทียบเท่าในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับความรู้ความสามารถและความต้อง การของผู้เรียน โดยไม่มีภาระผูกพันต้องใช้ทุนคืนและเมื่อจบการศึกษาจะเปิดโอกาสให้เข้าทำงานเป็น ข้าราชบริพารในพระองค์ฯ ตามความสมัครใจ

 

“โครงการจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เป็นโครงการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขึ้น เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2560 ด้วยน้ำพระราชหฤทัยทรงห่วงใย ความอยู่ดีมีสุขของประชาชน และพระราชปณิธานแน่วแน่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชาชน สร้างความมั่นคงและวัฒนาสถาพรให้กับประเทศ

 

โครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” คือ การรณรงค์ให้ประชาชนชาวไทยแสดงพลังจิต อาสาร่วมกับหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ข้าราชบริพาร หน่วยราชการ ในพระองค์ และหน่วยราชการต่าง ๆ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์ ร่วมกับหน่วยราชการต่าง ๆ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน เป็นแบบอย่างในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมและผู้อื่น ด้วยสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม และส่งเสริมการสร้างสังคมของคนดี เชิดชูคนทำความดี

 

จากก้าวแรกที่ทรงเริ่มต้น การทำความดีด้วยหัวใจของประชาชนแผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง จากคนกลุ่มหนึ่ง จากพื้นที่พื้นที่หนึ่ง เป็นแบบอย่างของการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมและผู้อื่น ด้วยสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ที่ขยายวงกว้างออกไปทุกสังคม ทุกพื้นที่

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1สมาชิกคิงเพาเวอร์รับสิทธิพิเศษกินอาหารสุดหรูลด25%

 

สมาชิก คิง เพาเวอร์ เชิญลิ้มรสชาติสไตล์ยุโรปสุดเอกซ์คลูซิฟได้เหนือระดับจาก #KingPower และพันธมิตร เลือกรับเมนูอาหารพิเศษ ฟรี! หรือ รับส่วนลด 25% สำหรับอาหารสุดพิเศษ เพื่อสมาชิกเท่านั้น รับสิทธ์ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2567

 

1.ร้านอาหาร Medium Rare Steak & Wineรับส่วนลด 25%* สำหรับเมนูพิเศษ แลก 200 กะรัต* เลือกรับเมนูพิเศษฟรี!

2.ร้านอาหาร Rib Room & Barรับส่วนลด 25%* สำหรับเมนู Lobster Tagliolini with Newburg Sauce

แลก 200 กะรัต* รับฟรี Truffle Mushroom Soup

3.ร้านอาหาร Wine Connection รับส่วนลด 25% สำหรับ Homemade Pizza ทุกเมนู แลก 200 กะรัต* รับฟรี Homemade Pizza ทุกเมนู

 

ข่าวที่ 2 ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์รับสินค้าขาออกที่สนามบินภูเก็ต

 

ช้อปคิง เพาเวอร์  ดิวตี้ฟรี ออนไลน์ นักท่องเที่ยวที่เดินทางออกต่างประเทศในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมสามารถรับของที่ “สนามบินภูเก็ต” สะดวกสบาย ง่ายๆ สำหรับนักเดินทางที่กำลังมองหา น้ำหอม เครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ รีบเลือกคลิกลงตะกร้าช้อปสินค้าแบรนด์ชั้นนำ ของแท้ ให้คุณเลือกช้อป ทั้ง ATELIER COLOGNE, AUGUSTINUS BADER, SERGE LUTENS, DRUNK ELEPHANT

 

ช้อปแล้วรอรับสินค้าที่สนามบินภูเก็ตขาออก (Departure) ได้ตลอด เพียงโชว์คำสั่งซื้อออนไลน์ ตรงบริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 3 เพื่อประสบการณ์การช้อปที่สะดวกสบายของทุกคน

 

วันนี้ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ คัดสรรค์สินค้าดิวตี้ฟรีมาให้ช้อปกว่า 10,000+ รายการ บน แอปพลิเคชัน King Power และ kingpower.com ได้ล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วันก่อนออกเดินทาง มีไฟลต์แล้ว คลิกเลย

 

1.สินค้า Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน

2.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 6 เดือน

3.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18%

4.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)

5.รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์

6.รับสิทธิ์สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท(สุทธิ)

  

ข่าวที่ 3 ททท.ดึงแอลลี่-PROXIEบูม55เมืองน่าเที่ยวหนังโฆษณา5Must Do

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เปิดตัวแล้วแคมเปญ “สุขทันที...ที่เมืองน่าเที่ยว” ทั่วไทย 55 จังหวัด โดยได้ดึงท็อปแห่งวงการ T-POP สาวน้อยเสียงใส ‘แอลลี่-อชิรญา นิติพน’ และบอยกรุ๊ปมากความสามารถ 6 หนุ่มวง “PROXIE” พร้อมกับเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศนำเสนอแนวคิดการท่องเที่ยวเมืองไทยที่ต้องห้ามพลาดทำ “5 Must Do in Thailand” เติมประสบการณ์การเดินทางด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีตอบโจทย์นักท่องเที่ยวชวนคนไทยออกไปสุขทันทีที่ได้ไปใช้เวลากับคนที่รักและสิ่งที่รัก โดยจะมีศิลปินมาร่วมเสิร์ฟความสุขตลอดโครงการ

 

ททท. จัดแคมเปญนี้ขานรับนโยบายรัฐบาลให้ใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสำคัญพัฒนาเศรษฐกิจ พลิกฟื้นการท่องเที่ยวไทยสู่มิติใหม่ โดยเฉพาะตลาดในประเทศได้เดินหน้าทำการตลาดเชิงรุกผ่านแคมเปญ “สุขทันที...ที่เมืองน่าเที่ยว” ปลุกกระแสการเดินทางกระจายไปให้ทั่ว 55 จังหวัด โดยนำเสนอเรื่องราวผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งใช้ดิจิทัล แพลตฟอร์ม ทำประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมเชิงรุกเส้นทางท่องเที่ยว ที่พร้อมจะสร้างประทับใจและจุดเด่นที่แตกต่างสร้างความพึงพอใจให้คนเลือกใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละทริป

 

ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท.วางแนวทางส่งเสริมตลาดเชิงรุกด้วยกลยุทธ์เชื่อมโยงเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ โชว์เสน่ห์อัตลักษณ์ไทยผ่านแคมเปญ “สุขทันที...ที่เมืองน่าเที่ยว” ด้วยกลยุทธ์ “Celebrity Marketing” นำผู้มีอิทธิพลทางความคิดที่มีชื่อเสียงในวงการที-ป็อบ อย่างลูกสาวแห่งชาติ “แอลลี่ อชิรญา นิติพน” กับ 6 หนุ่มสุดฮอตจากวง PROXIE ได้แก่ กร วรรณไพโรจน์, โชกุน-ปวริศร์ ศรีชัยชนะ, อองรี-ออสการ์ เอ็ดเวิร์ด วัตราเศรษฐ์, กัน-รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์, วิคเตอร์-วรเมธ กอนุประพันธ์ และ คิม-ปัณณธร จิรศาสตร์  ซึ่งเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ออกมาสร้างแรงบันดาลใจการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ทำได้เลย 5 Must Do in Thailand  ได้แก่

 

Must Taste :  ต้องชิม อิ่มอร่อยอาหารจานเด็ดที่มีอย่างหลากหลายทั้ง อาหารถิ่น สตรีทฟู้ด ไฟน์ไดนิ่ง และคุ้กกิ้งคลาส

 

Must Try : ต้องลอง กิจกรรมมากมายสนุกสุดมันกับกีฬาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย ปั่นจักรยาน พายเรือ  วิ่งเทรล และบริการสุขภาพอย่าง  สปา  เวลเนส และอื่น ๆ

 

Must Buy  : ต้องซื้อ ของกินของฝากล้ำค่า น่าซื้อหา  สินค้าโอทอป อัญมณี หัตถกรรม งานศิลปะ และวัตถุมงคล 

 

Must Seek : ต้องแสวงหา แหล่งท่องเที่ยว อันซีน...ถิ่นน่าเที่ยว  แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวประเภทแมนเมดหรือมนุษย์สร้างขึ้น

 

Must See  :  ต้องชม ความละลานตาการแสดงวัฒนธรรมนาฏศิลป์ ละคร ลิเก คาบาเลต์โชว์ คอนเสิร์ต โชว์ตระการตา การแสดงวัฒนธรรม เทศกาล / งานดนตรีระดับโลก และอีกมากมาย

 

ขณะนี้ ททท. เร่งรวบรวมคลังข้อมูลยกมาไว้บนเว็บไซต์ www.เมืองน่าเที่ยว.com  เตรียมเปิดตัวอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ โดยจะทำเป็นศูนกลางแหล่งข้อมูลให้ทุกคนได้ค้นหาได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ พร้อมกับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ใช้วิธีแบ่งข้อมูลเป็นกลุ่มจังหวัด คัดเฉพาะไฮไลท์สถานที่ 1.อันซีน 2.อาหารรสเด็ด 3.รวมสถานที่เวิร์กชอป 4.แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 5.ทำคอนเทนต์กิจกรรมให้ร่วมสนุกพร้อมชิงของรางวัลมากมาย  

   

ข่าวที่ 4 บางจากส่งต่อนวัตกรรมPersonal Health ที่รพ.พระรามเก้า  

 

นายปริญญา กิตติการุญจิต  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจค้าปลีก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ส่งต่อสุขภาพที่ดีและการเข้าถึงนวัตกรรมบริการด้านการดูแลสุขภาพ โดยได้สนับสนุนการติดตั้งเครื่องตรวจวัดสุขภาพ personal health-screening kiosk  ในโอกาสครบรอบ 32 ปี โรงพยาบาลพระรามเก้า ร่วมสนับสนุนปณิธาน “HEALTHCARE YOU CAN TRUST” ในโอกาสที่เข้าร่วมแสดงความยินดีกับ นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระรามเก้าในโอกาสฉลองครบรอบ 32 ปี โรงพยาบาลพระรามเก้า ภายใต้แนวคิด “โรงพยาบาลสีเขียว” กับกิจกรรม “เปลี่ยนกระเช้า…เป็นต้นไม้”

 

พร้อมกับร่วมแนะนำเครื่องตรวจวัดสุขภาพ personal health screening kiosk หรือเครื่องตรวจวัดสุขภาพที่ติดตั้งให้ผู้ที่สนใจสามารถทดลองใช้บริการได้ที่บริเวณ 9 แคร์ ช้อป อาคาร B ชั้น 1 โรงพยาบาลพระรามเก้า ได้ถึงสิ้นเดือนกันยายน 2567

ขณะนี้บางจากฯ อยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนา Telehealth Platform (บริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต) ร่วมกับโรงพยาบาลพระรามเก้า เพื่อความถูกต้องแม่นยำในการใช้อุปกรณ์ และพัฒนาสู่การใช้บริการนี้เพื่อต่อยอดกับ Telemedicine platform (แพลตฟอร์มให้บริการทางการแพทย์ทางไกล) ต่อไป

  

            ช่วงที่ 2 เที่ยวเมืองไทยไปได้ทันที “นครนายก-ปราจีนบุรี” เปิดเส้นทางชวน สายประวัติศาสตร์ไปชม “เมืองศรีมโหสถ” กับพิพิธภัณฑ์ แล้วแนะนำให้สายศรัทธาไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ที่วัดบ้านด่าน และวิหารเจ้าพระแม่กวนอิม ส่งท้ายด้วยข่าวดี ๆ ข่าวแรก “อเมริกันเอ็กซ์เพรส” ทำโพลล์ครั้งแรกในไทยชี้คนแห่เที่ยวในประเทศโตแรง ข่าวที่สอง “การบินไทย” ต่อสัญญาจีอีแอโร่สเปซอีก 6 ปี

 

ท่องเที่ยว –ชวนเที่ยว“นครนายก-ปราจีนบุรี”ชมโบราณสถานไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

เที่ยวเมืองไทยในช่วงฤดูฝนเย็นฉ่ำว้าว ตั้งเข็มไมลไปสำรวจ “นครนายก-ปราจีนบุรี” เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย

 

พิกัดที่ 1 โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบสำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แนะนำให้ลองไปเยือนโบราณสถานเมืองศรีมโหสถ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี! แล้วเดินชมโบราณวัตถุสำคัญและเรียนรู้เรื่องราวที่หายไปในกาลเวลา ตอนนี้ยังคงมีกลิ่นอายแห่งความเก่าแก่ให้เห็นอยู่มากมาย

 

พิกัดที่ 2 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องแวะชมความอลังการงานจัดแสดงศิลปะโบราณและสิ่งของมีค่าที่สวยงามหายาก เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง

 

แนะนำวางแผนทริปเที่ยวมุมใหม่ นครนายก - ปราจีนบุรี 3 วัน 2 คืน ขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวลับ กิจกรรมใหม่ๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ สัก 3 วัน 2 คืน ต่อเนื่องไปด้วย

วันแรก เที่ยว “นครนายก” ร่วมทำ CSR ปลูกต้นไม้ ล้างกรงสัตว์ป่า ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1  ต่อด้วยล่องแก่ง เล่นกิจกรรมผจญภัยที่ “สาริกา แอดเวนเจอร์ พอยท์”

 

วันที่ 2 เที่ยว “ปราจีนบุรี มุ่งหน้าไปชิมทุเรียนปราจีนบุรีที่ “ตลาดหนองชะอม” จากนั้นก็ตั้งจิตเดินทางไป สักการะ”หลวงพ่อทอง” ที่วัดหลวงปรีชากูล แล้วแวะรับประทานมื้อเที่ยงที่ “บ้านบางพลวง” สั่งกุ้งแม่น้ำมารับประทานให้จุใจ แล้วอย่าลืม ซื้อของฝากจากเสื่อกกกลับบ้านด้วยช่วงบ่ายไปนั่งรถรางชม “เมืองโบราณศรีมโหสถ”

 

วันที่ 3 ยังอยู่ในปราจีนบุรี สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวสายศรัทธา จุดที่ 1ขอพรเจ้าแม่กวนอิมที่ วิหารกวนอิม อี่ทงเทียนไท้  จุดที่ 2 ต้องไปไหว้หลวงพ่อเอียที่ วัดบ้านด่าน

 

ดูวิธีวางแผนทำทริปเที่ยว นครนายก-ปราจีนบุรีได้ที่ https://api.tourismthailand.org/.../content.../128-31989.pdf และ https://thai.tourismthailand.org/Articles/east-rout

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –อเมริกันเอ็กซ์เพรสเปิดโพลล์ปี67คนไทยเฮเที่ยวไทยโตแรง

 

นายพร้อม สิริสันต์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย เปิดเผยว่า อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ได้ทำผลสำรวจปี 2567 ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเรื่อง “แนวโน้มการท่องเที่ยว การรับประทานอาหาร และไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมของอเมริกัน เอ็กซ์เพรส หรือ American Express Travel, Dining, and Luxury Trends Research for Thailand พบ “คนไทย” จำนวนมากต้องการออกไปท่องโลกในปีนี้มีจำนวน 7 ใน 10 คน วางแผนออกเดินทางอย่างน้อย 3-4 ครั้ง ตอกย้ำถึงการท่องเที่ยวยังคงเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากผู้ตอบแบบสำรวจถึง 55% วางแผนปีนี้จะเดินทางเพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2566

 

คนไทยที่วางแผนท่องเที่ยวปีนี้มี “3 เหตุผลหลักในการเดินทาง” คือ อันดับ 1 ต้องการได้ไปเยือนสถานที่ในฝันหรือเก็บทริปตามลิสต์ที่ตั้งใจไว้ 68% อันดับ 2 การเฉลิมฉลองวันหยุดหรือเหตุการณ์สำคัญในชีวิต 47% และ อันดับ 3 การไปพักผ่อนแบบโรแมนติก 43%

 

คนไทยส่วนใหญ่ “นิยมการท่องเที่ยวระยะสั้น” ประกอบด้วย  1.ชอบทริปสั้น ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์หรือวันหยุดยาว 55% 2.ชอบท่องเที่ยวนานหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้น มีประมาณ 39%  ผลสำรวจยังพบคนไทยนิยมท่องเที่ยวในประเทศมากกว่าไปต่างประเทศ โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจอยากจะท่องเที่ยวภายในประเทศ 54% และ อยากจะท่องเที่ยวต่างประเทศ 29%

ส่วน “ต่างประเทศยอดนิยม” ปี 2567 ผู้ตอบแบบสอบถามไทย 7 ใน 10 คน เลือกไปเที่ยวญี่ปุ่น ขณะที่ “ในประเทศ” เลือกจุดหมายปลายทางยอดนิยมสูงสุด คือ เชียงใหม่และภูเก็ต ซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนไปยัง 2 จังหวัดนี้มากถึง 56%

 

นายพร้อม สิริสันต์ กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้เห็นการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะคนไทยยังต้องการจะออกไปสำรวจโลกเช่นเดิม ด้วยความถี่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังสถานการณ์โรคระบาด จึงเห็นแนวโน้มเดียวกันนี้จากสมาชิกบัตรอเมริกัน เอ็กซ์เพรส มียอดจองทริปเพียงเพื่อจะออกไปค้นหาและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ในฐานะผู้นำด้านการท่องเที่ยวระดับโลก รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้สนับสนุนให้สมาชิกบัตรได้ท่องโลกตามที่ปรารถนาในทุกจุดหมายปลายทาง

 

@ผู้ตอบแบบสอบถามไทยช่ำชองการเดินทาง

อเมริกัน เอ็กซ์เพรส นำเสนอผลสำรวจพบว่า “ผู้ตอบแบบสอบถาม” 88%  มีเคล็ดลับยอดนิยมที่ใช้ในการเดินทางช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 เลือกที่พักที่มีบริการอาหารเช้าฟรี 54% อันดับที่ 2 เลือกเดินทางช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือโลว์ซีซัน 48 % เพราะราคาถูกกว่าฤดูปกติทั่วไป อันดับ 3 เลือกใช้บัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ ในการเดินทาง 46%

นายพร้อมกล่าว่าปัจจุบัน ผู้บริโภคเล็งเห็นประโยชน์ที่ได้รับจากบัตรเครดิตและเลือกจะใช้สิทธิประโยชน์เหล่านั้นเมื่อวางแผนการเดินทางและตอนออกไปท่องเที่ยว ทางอเมริกัน เอ็กซ์เพรสจึงออกแบบรางวัลและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้สมาชิกบัตรใช้เป็นเพื่อนร่วมเดินทางช่วยสรรสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างโดดเด่น และมีรสนิยม ส่วนสมาชิกบัตรเองก็เก็บเกี่ยวความทรงจำจากการเดินทางได้ทั่วโลก ควบคู่กับบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์การเดินทางอย่างราบรื่น น่าประทับใจสูงสุดให้แก่สมาชิกบัตรทุกคน ทุกการเดินทางไปยังทุกสถานที่เป้าหมาย

 

ปัจจุบัน “อเมริกัน เอ็กซ์เพรส” มอบสิทธิประโยชน์และการเข้าถึงการเดินทางระดับพรีเมียมให้สมาชิกบัตรที่มีสิทธิ์ ประกอบด้วย 1.ห้องรับรองที่สนามบินทั่วโลกกว่า 1,400 แห่ง ผ่าน Global Lounge Collection® โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวคอยวางแผนการเดินทางตามความประสงค์ 2.สิทธิประโยชน์ในโรงแรมชั้นนำทั่วโลกที่คัดสรรมากว่า 2,000 แห่ง ผ่าน Fine Hotels + Resorts® และ The Hotel Collection และ 3.สิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย

 

ขณะนี้ “คนไทย” ปี 2567 ผู้ตอบแบบสอบถามระบุ อันดับที่ 1 จะเลือกคนในครอบครัวเป็นเพื่อนร่วมเดินทางสูงถึง 70% อันดับที่ 2 จะเดินทางไปกับคนรัก 53% อันดับที่ 3 เดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อนฝูง 44%

 

โดยมีกลุ่มตลาดคนไทยรุ่นใหม่ทั้งมิลเลนเนียล และเจน ซี (Millennials &Gen Z) กับกระแส “ความหลงใหลในการเดินทาง” หรือ “travelling bug” ทั้งสองกลุ่มนี้หลงไหลการท่องเที่ยวอย่างมาก จะเลือกเดินทางท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละถึง 4.1 ครั้ง ตามข้อมูลยังระบุ 1 ใน 3 ของกลุ่มคนเหล่านี้ หรือคิดเป็น 34% ปีนี้วางแผนเดินทางท่องเที่ยวด้วยความถี่อย่างน้อย 5 ครั้ง หรือมากกว่าจำนวนมากนี้ด้วย

 

การวางแผน “ค่าใช้จ่ายหลัก” ในการท่องเที่ยว อันดับ 1 ทุกรุ่นทุกวัย 8 ใน 10 คน ตอบตรงกันคือเลือกรับประทานอาหารนอกบ้าน 79% อันดับ 2 ช้อปปิ้ง เจนเอ็กซ์ ใช้จ่ายซื้อสินค้า 76% ส่วน มิลเลนเนียล กับ เจน ซี นั้น จะใช้จ่ายเงินช้อปปิ้ง 59% อันดับ 3 ค่าใช้จ่ายทำกิจกรรมต่าง ๆ ใกล้เคียงกันประมาณ 58%

 

@ทำสำรวจกลุ่มเป้าหมายในไทยรายได้1.4แสนบาท/เดือน

สำหรับผลสำรวจของอเมริกัน เอ็กซ์เพรส เรื่องแนวโน้มการท่องเที่ยว การรับประทานอาหาร และไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมสำหรับประเทศไทย ครั้งนี้ ได้นำเสนอเกี่ยวกับแนวโน้มการท่องเที่ยว การรับประทานอาหาร และไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม โดยมี บริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส สนับสนุน และมีบริษัท Kantar จัดทำข้อมูลรายงานฉบับนี้ จากผลสำรวจกลุ่มผู้อยู่อาศัยในเมืองไทย 363 คน อายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป มีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 140,000 บาท/เดือน ผู้ตอบแบบสอบถามได้รับการคัดเลือกจากเครือข่าย Kantar โดยวิธีสัมภาษณ์ทั้งหมดผ่านรูปแบบแบบสอบถามออนไลน์ระหว่างวันที่ 2-16 พฤษภาคม 2567

 

 

ข่าวที่สอง -การบินไทยขยายสัญญาจีอีแอโร่สเปซ6ปีใช้GEทุกฝูงบิน

 

            นายรัสเซลล์ สโต๊คส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายเครื่องยนต์พาณิชย์และบริการของ จีอี แอโร่สเปซ เปิดเผยว่า ทางบริษัท GE Aerospace NYSE: GE ประกาศเรื่อง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) ได้ลงนามขยายสัญญาการให้บริการ TrueChoice™ กับ GE Aerospace อีก 6 ปี ครอบคลุมการบำรุงรักษา ซ่อมแซม และการยกเครื่องยนต์  GE90 ที่ติดตั้งในเครื่องการบินไทยฝูงบินขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์โบอิ้ง 777  จึงรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ให้การดูแลฝูงเครื่องยนต์ GE90 การบินไทยต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือต่อไป แล้วก็ต้องขอขอบคุณความร่วมมือทั้งหมด ที่ได้ส่งมอบบริการและการสนับสนุนลูกค้าที่ดีเยี่ยมในครั้งนี้

 

ส่วนการให้บริการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ของ TrueChoice มีหลายตัวเลือก รวมถึงความสามารถและปรับแต่งตามอายุการใช้งานขอวเครื่องยนต์บริการ TrueChoice ซึ่งได้รับการสนับสนุนความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและประสบการณ์จีอี แอโร่สเปซที่จะลดภาระการบำรุงรักษาและช่วยให้บริการไหลรื่นไม่หยุดชะงักลง

 

นายชาย เอี่ยมสิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า จีอี แอโร่สเปซได้พิสูจน์ตัวเองถึงการเป็นผู้ให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ GE90 ที่เหมาะสมกับการบินไทย แล้วการขยายสัญญาครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญช่วยสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับเครื่องยนต์ให้ฝูงบินการบินไทยจะได้รับการสนับสนุน ดูแลอย่างครบถ้วน ต่อไปในอนาคตอย่างแข็งแกร่ง

 

ล่าสุดทั้งการบินไทย และจีอี แอโร่สเปซเพิ่งประกาศคำสั่งซื้อเครื่องยนต์ GEnx ที่จะนำมาติดตั้งตามแผนขยายฝูงบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ รวมทั้งจะใช้เครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ เลือกติดตั้งเครื่องยนต์ CFM LEAP อีกแบบด้วย

 

 

สำหรับ CFM เป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างจีอี แอโร่สเปซ GE กับ Safran Aircraft Engines โดยกำหนดถือหุ้นตามสัดส่วนฝ่ายละครึ่งคือฝ่ายละ 50 %

 

@จีอี แอโร่สเปซยักษ์ใหญ่ผลิตเครื่องยนต์การบิน

 

จีอี แอโร่สเปซ/GE Aerospace เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกผู้ให้บริการด้านเครื่องยนต์เจ็ท ทั้งการผลิตชิ้นส่วนประกอบ พร้อมติดตั้งระบบต่างๆ ในเครื่องบินพาณิชย์และเครื่องบินทางทหาร มีเครือข่ายบริการครอบคลุมทั่วโลก เพื่อรองรับการบริการต่าง ๆ ทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทจีอี แอโร่สเปซ และบริษัทร่วมทุน ปัจจุบันได้ผลิตเครื่องยนต์ให้เครื่องบินพาณิชย์แล้วกว่า 44,000 เครื่อง และเครื่องบินทางทหารกว่า 26,000 เครื่อง มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจสำคัญในการช่วยกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมการบินแห่งอนาคตของโลก ซึ่งกำลังเติบโตทุกด้านทั้งขนส่งผู้โดยสาร ขนส่งสินค้าทางอากาศ และด้านการทหาร

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง