บิ๊กTCEBนำ17จังหวัดพลิกโฉมเมืองสู่จุดหมายไมซ์โลก
ปลุกชาวอุดรธานีเดินหน้าลุยเจ้าภาพพืชสวนโลกปี’69
ดึง“AOT-กงศุล-ตม.”เปิดวันสต็อปไมซ์สนามบิน9ภารกิจ
The Power Saleคิงเพาเวอร์ออนไลน์ลดต่อก.ค.นี้ 50%
ช้อปคิงเพาเวอร์แจกความหอมลุคแพงลดเพียบ10-15%
สมาชิกคิงเพาเวอร์ช้อปครบรับบัตรดูฟรี“ฟ้าจรดทราย”
ททท.ลุย5โจทย์ใหญ่TATAPปี’68ทำยอด3.4 ล้านล้าน
บิ๊กบางจากแนะใช้โมเดลเปิดกว้างนำพาธุรกิจโตยั่งยืน
TCEB-ภูเก็ตผนึกชิงเจ้าภาพInterPride2025ชูเด่น4ด้าน
เที่ยวฟินใกล้กรุงชุ่มฉ่ำรับหน้าฝน“สมุทรสาคร”5พิกัด
6วิธีกินอาหารเพื่อสุขภาพสามารถทำได้ทันทีตอนนี้เลย
“บขส.-AOT”เปิดพื้นที่ขายตั๋วรถ3สนามบินบูมเที่ยวไทย
ทราเวลโลก้าเปิดขายทัวร์เรือDisney Adventureในไทย
วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #เที่ยวชุ่มฉ่ำสมุทรสาคร
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/SQMmbp2e9wRsFhkU/?mibextid=oFDknk
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเวที MICE City Summit 2024 ระดมรัฐ เอกชน ท้องถิ่น 17 จังหวัด พลิกโฉมเมืองสู่จุดหมายไมซ์โลก” ผนึก กกร. รับฟังชุมชนในอุดรธานี ร่วมแสดงพลังพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก 2569 และเปิดผนึก 4 องค์กร ทำแผนยกระดับ “One Stop Service MICE” ในสนามบินหลักของไทย สร้างความชัดเจน 9 ภารกิจใหญ่
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า
ทีเส็บเปิดเวทีจัด MICE City Summit 2024 ครั้งที่ 6 จ.อุดรธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Evolving Future
Cities into Leading Global MICE Destination : พลิกโฉมเมือง
สู่จุดหมายไมซ์ระดับโลก”
หัวใจหลักเป็นการรวมตัวกันของเมืองไมซ์ 17 จังหวัด ประกอบด้วย ไมซ์ ซิตี้ 10 จังหวัด และเมืองไมซ์ที่มีศักยภาพอีก 7 จังหวัด พร้อมกับเปิดเวทีระดมสมองผู้บริหารภาครัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด กับเอกชน โดยมีทั้งสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมจัดการประชุมนานาชาติ (ไทย) “ทิก้า” สมาคมท่องเที่ยวในประเทศ แล้วยังมีนักวิชาการร่วมวงด้วย ทีเส็บมุ่งใช้งานนี้ สร้าง 3 อย่าง 1.เครือข่ายศักยภาพไมซ์ ซิตี้ 2.อัพเดทอุตสาหกรรม 3.กระจายรายได้สู่ภูมิภาค ผนวกกับการวางกลยุทธ์ไมซ์เมืองน่าเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล
โดยทุกฝ่ายจับมือกับทีเส็บร่วมทำนวัตกรรมแล็บในหัวข้อ “shape our cities intoleading global MICE destinations” เน้น 3 ไฮไลต์ “นวัตกรรม/Innovation-เมืองสร้างสรรค์/Creativity-การสร้างความยั่งยืน/Sustainability” จุดประกายเริ่มพัฒนาเมืองไมซ์ไปสู่เมืองไมซ์ระดับสากล ได้แก่
ไฮไลต์ที่ 1 Innovation นวัตกรรมด้านต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการจัดประชุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศูนย์การจัดประชุมฯ เทคโนโลยีการสื่อสารและดิจิทัล ระบบคมนาคมและขนส่งต่าง ๆ
ไฮไลต์ที่ 2 Creativity นำอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่สืบทอด มาใส่ความคิดสร้างสรรค์ให้มีความร่วมสมัย เป็นสากลเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและคุณค่าให้กับท้องถิ่น
ไฮไลต์ที่ 3 Sustainability เน้นพัฒนาเมือง และการจัดงานไมซ์ โดยคำนึงถึงความยั่งยืน ทั้งต่อชุมชนและต่อประเทศ
โดยได้ข้อสรุปถึงแนวทางสร้าง “MICE City Branding” เพื่อพลิกโฉมเมือง สู่จุดหมายไมซ์ระดับโลก นำเสนอเดินหน้า 4 เรื่องหลัก ดังนี้
เรื่องที่
1 Eventful “The Mega
Event” บริบทตามเมือง ความยั่งยืน การจัดการเมืองอย่างมีส่วนร่วม
ความปลอดภัยเมือง คนพร้อม เปิดให้ทุกคนในชุมชนร่วมแรงร่วมใจสร้างเมือง จัดงานอีเวนต์ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ “ย้อมเมือง” ครบเครื่องด้วย สถาปัตยกรรม เรื่องราว วิถีชุมชน
เรื่องที่
2 Health & Wellbeing นำร่องโมเดลเวลบีอิ้ง
(กายใจ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น) มีกิจกรรม
หลากหลาย มีความเชื่อความต้องการของผู้ซื้อ ความปลอดภัย การมีส่วนร่วมของคน
เรื่องที่
3 Identity บูรณาการการบริหารทีมสร้างแบรนด์
คน Creativity 3P, Passion Story
telling เข้าใจเรื่องแบรนด์โดยทำงานเน้นเรื่องเล่ารุ่นสู่รุ่น
ความร่วมมือที่ยั่งยืน แตกต่าง ทีมบริหาร ทีมงาน
สร้างแบรนต์ ทำให้เมืองโดดเด่นมีอัตลักษณ์ มีภูมิปัญญา
เรื่องที่ 4 Accessibility & Facilities การเข้าถึงและสิ่งอำนวยความสะดวก พัฒนาระบบเมือง สร้างความปลอดภัย เน้นอาหารดี อากาศดี ทำโมเดลท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และจัดโซนนิ่ง ทำสมาร์ตการขนส่งท้องถิ่น พัฒนากิจกรรมกลางคืน
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า ได้ใช้โอกาสนี้ติดตามงานในจังหวัดอุดรธานี เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2569 ตามมติของสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ (AIPH) มีมติให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดระหว่างระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 - 14 มีนาคม 2570 ทางทีเส็บกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ทั้งสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมลงพื้นที่ด้วยพร้อมกับระดมความเห็นร่วมกับผู้นำพื้นที่และชุมชนถึงการแสดงความจำนงเป็นเจ้าภาพ ทางทีเส็บจะทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์อัพเดทภายในเมือง ควบคู่กับทำตลาดการขาย เพื่อเชิญชวนพาวิลเลี่ยนต่างประเทศเลือกมาจัดแสดงให้ได้มากที่สุด
ส่วนการพิจารณายกระดับ “จังหวัดศักยภาพ” ขึ้นมาเป็น ไมซ์ ซิตี้ เพิ่มในอนาคตนั้นจะต้องรอรอบใหม่ปี 2569 เพื่อให้ทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมทั้งการลงทุนศูนย์ประชุม สิ่งอำนวยความสะดวก และอื่น ๆ ที่ได้ตามมาตรฐานสากล
นายจิรุตถ์กล่าวว่า วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2567
จะประกาศความร่วมมือกันทำเป้าหมายบริการกลุ่มไมซ์ด้วย “One
Stop Service” ในท่าอากาศยานหลักของประเทศไทย
เพิ่มความสะดวกให้กับไมซ์ตลาดต่างประเทศ โดยจะนำเสนอการทำงานอย่างชัดเจนกับ 4 พันธมิตร ได้แก่ บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” กรมการกงศุล
กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และทีเส็บ
เบื้องต้นจะแบ่งความรับผิดชอบทำด้วยกันรวม 9 ภารกิจ
ประกอบด้วย
“ทีเส็บ” จะรับผิดชอบดูแล 3 ภารกิจ คือ 1.บริการต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในท่าอากาศานหลักของประเทศไทย 2.ประสานการอำนวยความสะดวกเรื่องการขอวีซ่าให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์ 3.เว็บไซต์ศูนย์ประสานงานเพื่อการอำนวยความสะดวกในอุตสหกรรมไมซ์
“บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT” จะรับผิดชอบดูแล 2 ภารกิจ คือ 1.บัตรเข้าพื้นที่หวงห้ามชนิดรายปี ถาวร หมายเลข 3 และ 2.จัดเตรียมพื้นที่ห้องรับรองพิเศษ
“กรมการกงศุล” และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะดูแลรับผิดชอบ 1 ภารกิจ คือ การอำนวยความสะดวกขอวีซ่าเข้าประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมไมซ์สำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลไทยนโยบายเปิดใช้มาตรการฟรีวีซ่าเริ่มตั้งแต่มิถุนายน 2567 ให้ 93 ประเทศ พำนักในไทยได้ไม่เกิน 60 วัน
“สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” รับผิดชอบ 3 ภารกิจ คือ 1.ช่องตรวจลงตราพิเศษสำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ทางเข้าออกเมืองในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3 โซน ทางด้านตะวันออก โซนกลาง และตะวันตก 2.บริการห้องรับรองพิเศษ 3.จุดติดตั้งป้ายอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทางด้านตะวันตกและตะวันออก
สำหรับการยกระดับการอำนวยความสะดวกให้ตลาดไมซ์ต่างประเทศทั่วโลกเข้ามายังไทยสอดคล้องตามนโยบาย
IGNITE
Thailand ผนวกกับการเตรียมความพร้อม
ซึ่งมีผลการศึกษาตลาดขนาดใหญ่ที่ได้ฟรีวีซ่าอย่างอินเดีย
กำลังมีจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จากประสบการณ์มีตลาดที่ต้องการใช้บริการพิเศษ
ได้แก่
กลุ่มที่ 1 จัดงานประชุมนานาชาติ มีจำนวนครั้งละกว่า 10,000 คน/งาน กลุ่มที่ 2 งานแสดงสินค้านานาชาติ ซึ่งสามารถยืนยันได้ด้วยการสนับสนุนวี.ไอ.พี.จากการทำผลสำรวจแล้วลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการการเข้าออกเมืองอย่างสะดวกรวดเร็ว กลุ่มที่ 3 จัดงานอีเวนต์ ซึ่งยังไม่ได้เข้ามาเต็มตัวผ่านช่องทางไมซ์ หากเป็นการจัดงานเฟสติวัลจะเข้าเกณฑ์ ยกเว้นอีเวนต์งานคอนเสิร์ตยังถกเถียงกันอยู่เพราะต้องบริหารจัดการแฟนคลับที่มาครั้งละหลายพันคนต้องเพิ่มมาตรการบริหารจัดการความปลอดภัยแตกต่างจากกรุ๊ปทั่วไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 The Power Saleคิงเพาเวอร์ออนไลน์ลดต่อก.ค.นี้ 50%
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรม “The Power Sale” ลดแล้ว ลดต่ออีก 1 เดือน ลดแรง 50 % ทาง คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ เริ่มตั้งแต่วันนี้-31 กรกฎาคม 2567 นำสินค้าแฟชั่น และไอเทมแอคเซสซอรี่ทั้งแว่นตา นาฬิกา กระเป๋าหลากสไตล์ อย่างแบรนด์ เฟอร์รากาโม คลิปลิ่ง ทูมิ เอ็มซีเอ็ม แดเนียลเวลลิ่งตั้น โค้ช ดีเซล COCCINELLE GROSSE
คิง เพาเวอร์ ทำให้ทุกการช้อป “เป็นได้สุด เซลให้สุด” ลดสูงสุดถึง 50% คุ้มเกินคุ้ม ช้อปง่ายๆไม่ต้องใส่โค้ด และไม่มีขั้นต่ำ ก็กดช้อปได้เลยที่ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ เท่านั้น ส่วนลดดีเกินคาดแค่มีไฟลต์บินต่างประเทศ ก็ช้อปได้เลย เพราะยกทัพสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ มาลดจุกๆ ไม่อยากพลาดดีลพิเศษแบบนี้ ต้องรีบช้อปด่วน! และรอรับของที่สนามบิน
ข่าวที่ 2 ช้อปคิงเพาเวอร์แจกความหอมลุคแพงลดเพียบ10-15%
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ มาพร้อมกับเทรนด์หอมแบบคลาสสิกด้วยกลิ่นที่ให้ความรู้สึกแพงไปกับการพาเหรดแบรนด์เนมชั้นนำมาให้ช้อปอย่างจุใจ
วันนี้-31 กรกฎาคม 2567 นำโดย TOM
FORD , DIPTYQUE , LANCÔME , BURBERRY , YVES SAINT LAURENT, VERSACE, GUCCI, DIOR
และแบรนด์อื่น ๆ แบบละลานตา
ต่อด้วย
“READY GO TRAVEL ช้อปเพลิน...ได้ทุกที่ ทุกเวลา!
ส่องไอเทมแบรนด์ดังก่อนบิน พร้อมดีลพิเศษ เล็งผลิตภัณฑ์ไหนแล้วไว้ต้องรีบจัดแล้ว
ช้อปครบจบที่ “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” สินค้าจัดเต็มทุกหมวดทั้งเครื่องสำอางค์
น้ำหอม สกินแคร์ กระเป๋า แว่นตา นาฬิกา พร้อมไอเทมแทรเวล เอ็กซ์คลูซีฟ และอีกมากมาย
มีไฟลต์ต้องรีบช้อปด่วน!
และรอรับของที่สนามบิน
1.ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท กดรับรหัสส่วนลด 10JUL24
2.ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท กดรับรหัสส่วนลด 15JUL24
ห้ามพลาด !! 1.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 11,000 บาท 2.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง
3.รับเลย สิทธิสมัครสมาชิก
เมื่อสมัครออนไลน์รับส่วนลด 800 บาท
และสมัครฟรีเมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท
ข่าวที่ 3 สมาชิกคิงเพาเวอร์ช้อปครบรับบัตรดูฟรี“ฟ้าจรดทราย”
คิง เพาเวอร์ เล่นใหญ่ จัดเต็ม เฉพาะ “สมาชิก คิง เพาเวอร์”
ทุกการช้อปตามกติกา ที่คิง เพาเวอร์
รางน้ำ เพียงแห่งเดียว เริ่มวันนี้- 31 กรกฎาคม 2567 รับทันทีบัตรฟรีชมละครเวที “ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล
ชมฟรีแบบนี้ต้องรีบมาใช้ด่วน ๆ 2 สิทธิ์หลัก ได้แก่
สิทธิ์แรก ช้อปครบ 35,000 บาทขึ้นไป รับฟรี!* บัตร 1 ที่นั่ง สิทธิ์ที่ 2 ช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป รับฟรี!* บัตร 2 ที่นั่ง
สำหรับยอดซื้อสินค้าที่จะได้สิทธิ์ดังกล่าว
จะต้องช้อปโดยมีใบเสร็จใช้จ่ายภายในวันและสาขาเดียวกันเท่านั้น
โดยสามารถรวมใบเสร็จรับเงินได้ ครบตามเงื่อนไขเพื่อบัตรเข้าชม ได้คนละ1 สิทธิ์/
วัน เข้าชมการแสดงละครเวที ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล ตามวันเวลาที่กำหนดเท่านั้น
และไม่สามารถเลือกที่นั่งเองได้ รวมทั้งห้ามขายหรือใช้ในการพาณิชย์
โดยยังคงสิทธิ์ร่วมรายได้อื่น ๆ ได้คือ ผ่อนชำระ 0%
ตามเงื่อนไขการช้อป รวมทั้งมีบัตรเครดิตร่วมรายการนี้คือ คิง
เพาเวอร์กับธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย
ข่าวที่
4 ททท.ลุย5โจทย์ใหญ่TATAPปี’68ทำยอด3.4ล้านล้าน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ได้ดำเนินการจัดประชุมเชิงบูรณาการแผนปฏิบัติการ ททท. ปี 2568 -Tourism Authority of Thailand Action Plan 2025 : TATAP 2025” มาถึงวันสุดท้ายศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2567 โดยได้แลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกันภายในครบทุกทั้งฝ่ายกับทีมรองผู้ว่าการทั้ง
8 ด้าน ผู้บริหารทุกระดับจากตลาดในประเทศ 45 สำนักงาน ต่างประเทศทั่วโลก 29 สำนักงาน
ถกกันละเอียดทุกแง่มุม วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2567 เตรียมแถลงให้โลกรู้ถึงแผนตลาดการท่องเที่ยวประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะเริ่มใช้จริง 1 ตุลาคม 2567-30 กันยายน 2568 พร้อมเดินหน้าฝ่าความท้าทาย 5 โจทย์ใหญ่ ประกอบด้วย
โจทย์ที่
1 ตั้งเป้าหมายทำรายได้การท่องเที่ยวรวมเข้าประเทศให้ได้สูงสุด
3.05 - 3.4 ล้านล้านบาท เพิ่มการเติบโต 7.5-10 % จากปี 2567
โจทย์ที่
2 นำเข้านักท่องเที่ยวทั่วโลกมาใช้จ่ายเงินในไทย 40
ล้านคน กระตุ้นคนไทยเที่ยวในประเทศ 220 ล้านคน-ครั้ง
โจทย์ที่
3 นำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยติดอันดับ 1 ใน 14 ของโลก
โจทย์ที่
4 ขานรับนโยบายรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน
ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวโลก หรือ Tourism Hub และนำการท่องเที่ยวเป็นเวิลด์คลาสโลก หรือ Worldclass Tourism
โจทย์ที่ 5 ตอบสนองวิสัยทัศน์ IGNITE Thailand ขับเคลื่อน 5 กลยุทธ์ คือ 1.สร้างประสบการณ์ที่ดีลย่างก้าว 2.ชู 5 Must Do in Thailand 3.ยกระดับเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว
4.สานฝันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน : Hub of ASEAN และ 5.ปั้นไทยสู่ศูนย์กลางจัดงานอีเวนต์โลก :
Worldclass Event Hub
โดยจะขีดเส้นใต้เดินหน้าเต็มที่ในการขาย “5
Must Do in Thailand” นักท่องเที่ยวทุกคนที่เที่ยวเมืองไทยต้องได้สัมผัสประสบการณ์หรือลงมือทำ
1 ใน 5 อย่าง ได้แก่ 1.Must Eat
:กินอาหารไทย 2.Must Beat ดูหรือฝึกกีฬามวยไทย
3.Must See ตื่นตากับโชว์ไทย 4.Must Buy ซื้อสินค้าพื้นเมืองไทย โดยเฉพาะผ้าไทย 5.Must Seek มีความสุขกับวัฒนธรรมไทย
นางสาวสมฤดี จิตรจง
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าในการประชุมแผนตลาดปี
2568 ตลาดในประเทศที่จะกระตุ้นคนเที่ยวในประเทศยังคงยึดโยงเข้าด้วยกัน
2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 แผนการท่องเที่ยวแห่งชาติ
6 ยุทธศาสตร์ นำการท่องเที่ยว พลิกโฉมประเทศไทย
สู่เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน ส่วนที่ 2
แผนของ ททท.ตามนโยบายรัฐบาลประกาศวิสัยทัศน์ทำ IGNITE Thailand ซึ่งมีหลายอุตสาหกรรมผนวกรวมอยู่ด้วยโดยมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องเดินหน้าทำอย่างเข้มแข็ง
โดยจะต้องใส่คอนเทนท์สร้างจุดขายแรงจูงใจให้คนออกเดินทางท่องเที่ยวด้วย 5 กลยุทธ์ ประกอบด้วย
กลยุทธ์ที่
1 ประสบการณ์ที่ดีทุกย่างก้าว
รัฐบาลเน้นสินค้าท่องเที่ยว ส่วน ททท.ต้องเสริมด้วยการตลาด
ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวหรือ Story telling เติมเต็มเข้าไป
กลยุทธ์ที่
2 Must Do in Thailand ก็จะมี อาหารไทย วัฒนธรรมไทย
โชว์ไทย ผ้าไทย กีฬาไทย
ซึ่งเป็นสินค้าท่องเที่ยวอยู่แล้วก็ต้องนำมาผูกกับเส้นทางการท่องเที่ยว
กลยุทธ์ที่
3 ยกระดับเมืองหลักและ 55 เมืองน่าเที่ยว
ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาค
ต้องนำเนื้อหาของแต่ละพื้นที่มาผูกให้เห็นเสน่ห์เชิงสร้างสรรแล้วใช้วิธีเล่าเรื่องเชื่อมเมืองหลักสู่เมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยว
กระจายนักท่องเที่ยวและรายได้ถึงมือท้องถิ่นมากขึ้นกว่าปัจจุบัน
กลยุทธ์ที่
4 Hub of ASEAN ตอนนี้รัฐบาลประกาศนโยบายยกเลิกกรอกใบผ่านแดน
ตม.6 กับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกัน
หรือการเชื่อมระบบรางของรถไฟความเร็วสูงระหว่างประเทศ
หนองคาย-เวียงจันทน์(สสป.ลาว) เตรียมจัดรถไฟท่องเที่ยวขบวนพิเศษด้วย ปี 2568
การท่องเที่ยวในประเทศจะมีตลาดต่างประเทศเข้ามาเพิ่มด้วย
ในภาคอีสานอยู่ระหว่างการปลดล็อกใบผ่านแดนการเดินทางจากจีนซึ่งเป็นประเทศที่ 3
ผ่าน สสป.ลาว ยังไม่ได้อนุญาต เพื่อจะมายังไทย
กลยุทธ์ที่
5 World Class Events รัฐบาลกำลังพยายามนำงานระดับโลกเลือกมาจัดในเมืองไทย
นางสาวสมฤดีกล่าวว่า
ไฮไลต์สำคัญของแผนตลาดปี 2568 จะต้องตอบโจทย์การ
“พัฒนารายได้เชื่อมโยง” ไปยัง 55 เมืองน่าเที่ยว ซึ่งตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ
“สภาพัฒน์” ได้กำหนดไว้ในแผนจะ “ยกระดับเมืองรองสู่เมืองหลัก”
ทั้งหมดจะต้องทำให้เป็นผลสำเร็จภายในปี 2580 ระหว่างนี้
ททท.และหน่วยงานต่าง ๆ จะต้องนำเครื่องมือต่าง ๆ เข้าไปช่วยผลักดันการท่องเที่ยวด้วยการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่พร้อมจะเป็นเมืองหลักต้องมีผู้เยี่ยมเยือนเข้าไปใช้บริการจังหวัดละ
4 ล้านคนขึ้นไป/ปี
โดยเฉพาะยุคนี้
“คนนิยมขับรถท่องเที่ยว” โดยมีรถระบบไฟฟ้า (EV) มาแล้ว คนก็แสวงหาแหล่งท่องเที่ยว
แต่ปัญหาที่จะต้องแก้ไขเพื่อรองรับการท่องเที่ยวด้วยรถอีวี คือ 1.โรงแรมตามเมืองน่าเที่ยวจะต้องเร่งเพิ่มจุดชาร์จไฟฟ้าอีวี บริการซ่อมรถ
ทางกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ควรจะหารือกับสถาบันการศึกษาผลิตช่างไว้บริการ 2.การรณรงค์ให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืนเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เพื่อประโยชน์โดยรวมของทั้งประเทศ
ข่าวที่ 5 บิ๊กบางจากแนะใช้โมเดลเปิดกว้างนำพาธุรกิจโตยั่งยืน
นางกลอยตา ณ ถลาง
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ขึ้นเวทีเสวนาถอดต้นแบบเรื่อง “Business for Good: Spotlight on Sustainable Business
Models แบ่งปันเส้นทางการสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจของบางจาก”
ในงาน National Director Conference 2024 หัวข้อ Sustainable
Future : The Board as a Catalyst for Value โดยนำเสนอโมเดลของบางจากฯ เริ่มตั้งแต่การดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันต่อเนื่องมาถึง 40 ปี จนถึงปัจจุบันทำให้ธุรกิจโดยรวมขยายเติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุล เดินหน้าสู่ทศวรรษที่ 5 ผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก จะต้องอาศัยทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อนส่วน
และดำเนินงานด้านความยั่งยืนถือเป็นความรับผิดชอบของทุกคนในองค์กร ตั้งแต่กรรมการ
(บอร์ด) ผู้บริหาร พนักงาน ไม่ได้ปล่อยเป็นหน้าที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเพียงอย่างเดียว
โดยเฉพาะคณะกรรมการบริษัทมีบทบาทสำคัญเรื่องการกำหนด
“ยุทธศาสตร์” ผลักดันธุรกิจให้เติบโตและกำกับดูแลเชิงกลยุทธ์ ส่งเสริมนวัตกรรมกับแสวงหาโอกาสใหม่
ๆ ในการลงทุนเพื่อตอบสนองต่อปัจจัยกดดันจากภาคอุตสาหกรรมและความท้าทายต่าง ๆ
โดยมีตัวอย่างเป็นไฮไลต์ 2
โครงการ ได้แก่
โครงการที่ 1 บุกเบิกการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วมุ่งตอบโจทย์การสร้างสังคมคาร์บอนต่ำและเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
โครงการที่ 2 นำแนวทางการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม
สังคม มีธรรมาภิบาลหรือ ESG : มาร่วมผสานเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจอย่างลงตัว
นางกลอยตากล่าวว่า
ทางคณะกรรมการบริษัทเปิดกว้างถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งกับการจะขับเคลื่อนความยั่งยืน
ครอบคลุมทั้งด้าน การสื่อสารแบบเปิดกว้าง การเปิดรับข้อมูลต่าง ๆ การเปิดใจ
เปิดความคิด เปิดตา เปิดหู ฟังให้มากขึ้น
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ต้องการให้มีผู้รับฟังเสียงสะท้อนต่าง ๆ เพราะองค์กรกำลังยืมโลกของพวกเขามาใช้
จากการใช้ทรัพยากรมากกว่าโลกมีให้ในแต่ละปี จึงประสบผลสำเร็จตามแผนดำเนินงานด้านความยั่งยืน
แล้วยังจะส่งผลดีต่อองค์กร เช่น โอกาสการลงทุน ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ชื่อเสียง
ความสามารถในการแข่งขัน เพราะการดึงดูดคนรุ่นใหม่ซึ่งให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน แล้วนำความเห็นของคนรุ่นใหม่ถึงเรื่องปัจจัยสำคัญขับเคลื่อนความยั่งยืนให้คณะกรรมการบริษัท ซึ่งเน้นเรื่องการสื่อสารอย่างเปิดกว้าง เปิดรับข้อมูล รับฟัง เพราะคนรุ่นใหม่เองก็ต้องการมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนเพื่ออนาคตของตนเองด้วยเช่นกัน
ภายในงาน National Director Conference 2024
ได้นำ BSGF บริษัทในกลุ่บางจากจัดนิทรรศการ ”ทอดไม่ทิ้ง” โครงการรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วเพื่อนำไปผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF :Sustainable Aviation Feul ผู้เข้าร่วมงานนี้ต่างแสดงความสนใจเป็นอย่างมาก
สำหรับงานดังกล่าวเจ้าภาพหลักคือสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
โดยมีผู้บริหารร่วมแลกเปลี่ยนในวงเสวนาหลายองค์กร นำโดย นายแอนโทนี วาตานาเบ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)
นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการเสวนา และมีกรรมการ
ผู้บริหารจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD) ร่วมรับฟังกว่า 200 คน ที่โรงแรม วอลดอล์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ
ข่าวที่
6 TCEB-ภูเก็ตผนึกชิงเจ้าภาพInterPride2025ชูเด่น4ด้าน
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB”
เปิดเผยว่า ทีเส็บกับ ร่วมกับมูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ จัดงานTown Hall: Nation Wide Pride Epiosode2
และคัดเลือกจังหวัดที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด InterPride World Conference 2025 มีผลโหวตล่าสุด “จังหวัดภูเก็ต”
ได้รับคะแนนสูงสุดให้เป็นสถานที่หลักการจัดงาน ในช่วงโค้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 11
รกฎาคม 2567 เฉือนเอาชนะเชียงใหม่กับขอนแก่นมาได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ขั้นตอนหลังจากนี้ทีเส็บจะเป็นองค์กรสนับสนุนทำงานร่วมกับทีมของจังหวัดภูเก็ตและ
Pride community ทั่วประเทศ
เตรียมความพร้อมและวางแผนก่อนเดินทางไปโคลัมเบียเพื่อยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวจะพิจารณาอย่างเป็นทางการเดือนตุลาคม
2567 หากไทยได้รับคัดเลือกเป็นประเทศเจ้าภาพ
จะสร้างผลเชิงบวกได้อีก 2
ส่วน คือ ส่วนที่ 1 สร้างรายได้เข้าประเทศช่วงจัดงาน
InterPride
World Conference 2025
ประมาณกว่า 1,140
ล้านบาท ส่วนที่ 2 เป็นแต้มต่อที่จะได้รับการพิจารณาให้จัดระดับโลกงาน
WorldPride 2030 ที่กรุงเทพฯ ปี 2573
ขณะที่ทางหอการค้าจังหวัดภูเก็ตเป็นแกนนำร่วมลงนามความร่วมมือกับ
14 จังหวัด
ผนึกกำลังกันทั้งภาคใต้เพื่อร่วมจัดเป็นเจ้าภาพงาน InterPride World Conference 2025
นำเสนอจุดแข็งสิ่งอำนวยความสะดวกแบบวันสต็อปเซอร์วิส ประกอบด้วย
ด้านที่ 1 เที่ยวบินเข้าออกทั้งภายในและระหว่างประเทศมีรวมกว่าวันละ
100 เที่ยว
โดยมีประมาณ 52 สายการบิน
จาก 63 เมือง 19 ประเทศ
ด้านที่ 2 ที่พักโรงแรม
ในภูเก็ตรวมแล้วมีมากกว่า 93,000
ห้อง เมื่อรวมกับพื้นที่ใกล้เคียงจังหวัดพังงาซึ่งเป็นอีกจุดหมายการท่องเที่ยวยอดนิยมแล้วรวมกันก็เกินกว่า
100,000 ห้อง
ด้านที่ 3 สถานที่จัดประชุมนานาชาติ
รองรับผู้เข้างานได้ครั้งละกว่า 1,000
คน ตอบโจทย์การจัดประชุม InterPride World Conference 2025
ปี 2568 จะมีผู้เข้าร่วมประมาณ
700-800 คน
รวมทั้งสามารถนำเสนอจัดนอกห้องหรือเอาท์ดอร์ได้ด้วยซึ่งสามารถเปลี่ยนพื้นที่ที่เหมาะสมให้กลายเป็นห้องประชุมกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี
เบื้องต้นกำลังพิจารณาบริเวณหาดป่าตองเป็นสถานที่หลักเนื่องจากเป็นจุดเริ่มสร้างความเท่าเทียมของนักเดินทางกลุ่มความหลากหลายทางเพศ
ผนวกกับมีศักยภาพจัดงานได้ทั้งกลางและกลางคืน
ด้านที่ 4 แหล่งท่องเที่ยวและอื่น
ๆ ในภูเก็ต
และจังหวัดใกล้เคียงมีสถานที่ยอดนิยมเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางกลุ่มตลาด LGBTQIAN+ ซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวศักยภาพสูงใช้จ่ายเงินมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป
2-3 เท่า/คน/ทริป
ขณะที่ประเทศไทยภายใต้รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ได้ผ่านร่าง พ.ร.บ.
สมรสเท่าเทียม ปูทางก้าวแรไว้แล้ว รวมทั้งพร้อมผลักดันกฎหมายและข้อเรียกร้องอื่น ๆ
ต่อไป เพื่อช่วยยกระดับความเท่าเทียมของประเทศควบคู่กับต่อยอดสนับสนุนการท่องเที่ยวเติบโตและทำให้ประเทศเป็นจุดหมายดึงงานระดับโลกมาจัดในไทยเพิ่มมากขึ้นต่อไป
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยใกล้กรุง ตามพิกัดมาได้เลย สุขทันทีที่ “สมุทรสาคร”
เพิ่มความเย็นชุ่มฉ่ำแบบไปเช้าเย็นกลับ 5 พิกัด ฟิน กิน
เที่ยว แล้วฟัง “6 วิธีกินเพื่อสุขภาพ” ทำทันทีดีทันใจ
เกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก “บขส.บวก AOT” เปิดขายตั๋วรถทัวร์ใน
3 สนามบิน ข่าวที่สอง “ทราเวลโลก้าเปิดขายตั๋วทัวร์เรือ Disney
Adventure” ในไทย
ท่องเที่ยว – เที่ยวฟินใกล้กรุงชุ่มฉ่ำรับหน้าฝน“สมุทรสาคร”5พิกัด
เที่ยวใกล้
เที่ยวง่าย ไปกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมุทรสงคราม ชวนปักหมุดเที่ยว
2 สมุทร ฤดูเที่ยวธรรมชาติ ให้ชุ่มฉ่ำต้อนรับหน้าฝน
พร้อมค้นหาความสุขใกล้กรุงเทพฯ สุขทันที่เที่ยว “สมุทรสาคร” แบบไปเช้าเย็นกลับ
5 พิกัด ฟิน ๆ
พิกัดที่ 1 “อควาเรียมสมุทรสาคร”
(ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำสมุทรสาคร) เพลิดเพลินกับภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกว่า
100 ชนิด ทั้งฉลามบก, ปลาไหลมอเรย์, ปลาตะกรับลายบั้ง,
ปลาผีเสื้อนกกระจิบ, กระเบนทองจุดฟ้า, ปลาเก๋า, ปลากุเรา, กะพงแดง,
ปลาช่อนทะเล, ปลาการ์ตูน, ปลาสิงคโปร์แองเจิ้ล, ปลาบู่หน้าผี, ปลาหมอส้ม และอีกมากมาย
พิกัดที่ 2 “วัดท่าไม้” ชมความงดงามของพระอุโบสถมหาปรินิพพาน
ที่มีสถาปัตยกรรมคล้ายกับโบสถ์ทางภาคเหนือ มีเสาหินอ่อนสีขาวแกะสลักลวดลายสวยงาม
ตั้งเป็นทิวแถวเรียงรายไปจนถึงอุโบสถ
มาจนถึงทางเข้าอุโบสถงดงามอ่อนช้อยด้วยรูปปั้นพญานาคสีทอง
ภายในพระอุโบสถยิ่งตะลึงในความงดงาม ประดิษฐานพระประธาน
คือพระพุทธชินราชจำลองหน้าตัก 69 นิ้ว เป็นพระประธานในพระอุโบสถ
รวมทั้งมีพระเชียงแสน พระสุโขทัย และพระอู่ทอง
ร่วมประดิษฐานในพระอุโบสถด้วย งดงามด้วยลวดลายลงรักปิดทองบริเวณผนัง
นอกจากนี้บริเวณริมน้ำยังมีอุทยานพญานาค มีรูปปั้นพญานาค 7 เศียรที่งดงาม
เป็นตระกูลพญานาคที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาลอีกด้วย
พิกัดที่ 3 “100
Rai Cafe Restaurant and Resort” คาเฟ่บรรยากาศดี ฟีลริมทะเลน้ำจืดแห่งแรกของสมุทรสาคร
เหมาะกับการพักผ่อน ถ่ายภาพเช็คอิน มีบริการอาหาร/เครื่องดื่มครบครัน
รวมทั้งที่พักรูปแบบรีสอร์ท จำนวน 50 หลัง สถานที่จัดประชุม/สัมมนา/จัดเลี้ยง
บนพื้นที่ทั้งหมด 100 ไร่
พิกัดที่ 4 วิสาหกิจชุมชนบ้านสวนแช่มชื่น
เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร
ชิมน้ำมะพร้าวน้ำหอมแท้ 100%
พร้อมล่องเรือชมสวนผลไม้แบบเกษตรผสมผสานบนเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ณ สวนผลไม้นายตั้ม
โดยแบ่งพืชหลักเป็น แก้วมังกร ปลูกหม่อน เป็นไม้ล้อมรั้ว และปลูกผลไม้อื่นๆ
แซมด้วยอาทิ กล้วยหอม และ ฟิก เป็นต้น ซึ่ง ฟิก
นิยมในหมู่คนรักสุขภาพโดยเฉพาะชาวต่างชาติจะชอบมาก
และในประเทศไทยปัจจุบันนิยมผลไม้แห้งมากกว่าผลไม้สด
พิกัดที่ 5 สมาภรณ์ การ์เด้น ส่งท้ายด้วยคาเฟ่บรรยากาศ
ทุ่งทานตะวัน & ทุ่งปอเทือง ภายในสวนมีเครื่องดื่มเย็นๆ
ไว้ดับร้อน ทั้ง ชา กาแฟ และน้ำผลไม้เพิ่มความสดชื่น แนะนำให้ไปช่วงเช้า หรือ
15.30 น เป็นต้นไป แล้วก็พกร่มหรือหมวกกันมาด้วย
เที่ยวไทย ใกล้กรุง แบบนี้ มาซ้ำ บ่อย ๆ ตลอดหน้าฝนเย็นฉ่ำ ชิว ฟิน เว่อร์
ได้ทุกสัปดาห์
สุขภาพ
– 6วิธีกินอาหารเพื่อสุขภาพทำได้ทันทีตอนนี้เลย
อาหารการกินเป็นเรื่องสำคัญกับการเติมร่างกายให้มีพลัง
ด้วยการเลือกกินอย่างถูกหลักโภชนา เพื่อประโยชน์กับสุขภาพ แนะนำ 6 วิธี กินแล้วดีต่อสุขภาพ ดังนี้
วิธีที่ 1 กินอาหารเช้า
เป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ส่งผลต่อจิตใจ และพลังชีวิตของคุณไปตลอดทั้งวัน
และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
ช่วยเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น ทำให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง
วิธีที่ 2 เปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร
ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน
ปรุงอาหารแทนน้ำมันแบบเดิมที่เคยใช้ เพราะเป็นไขมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย
และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี
วิธีที่ 3 ดื่มน้ำให้มากขึ้น
คนเราควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย (ยกเว้นในรายที่ไตทำงานผิดปกติ)
เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด
จะทำให้สดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว
วิธีที่ 4 เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก
ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
ผักใบเขียว
เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและกระดูก
ทำให้ระบบประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
วิธีที่ 5 บอกลาขนมและของกินจุบจิบ
ตัดของโปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจากชีวิตบ้าง
แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทน วิตามิน และกากใยในผลไม้ มีประโยชน์กว่าไขมัน
และน้ำตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ
วิธีที่ 6 สร้างความคุ้นเคยกับการกินธัญพืชและข้าวกล้อง
เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่าเป็นอาหารนก
ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้วพบว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว
เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–“บขส.-AOT”เปิดพื้นที่ขายตั๋วรถ3สนามบินบูมเที่ยวไทย
นายอรรถวิท
รักจำรูญ กรรมการบริษัทฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด
(บขส.) เปิดเผยว่า ล่าสุดนำ บขส. หารือกับนายกีรติ กิจมานะวัฒน์
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เจ้าของท่าอากาศยานนานาชาติ 6 แห่ง ตกลงจะเดินหน้าความร่วมมือเปิดพื้นที่ในสนามบินจัดตั้งจุดขายตั๋วโดยสารรถ
บขส. และจัดเส้นทางเดินรถจากท่าอากาศยานหลักเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่าง ๆ
อำนวยความสะดวกประชาชน นักท่องเที่ยว
สามารถใช้บริการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างรถโดยสารกับท่าอากาศยานอย่างไร้รอยต่อ ขานรับนโยบายรัฐบาลให้ทุกหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมผลักดันไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการเดินทาง
หรือ Tourism & Logistic Hub
ตามแผน
บขส.เตรียมจัดตั้งเปิดจุดขายตั๋วโดยสารภายในสนามบินของ AOT คาดจะเปิดบริการจุดขายตั๋วโดยสารในสนามบินได้ภายในปี 2567 ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้เจะเร่งจัดทำรายละเอียดถึงแผนงานลงทุนตกแต่งพื้นที่
กำหนดเส้นทางฟีดเดอร์ นำร่อง 3 แห่ง
ได้แก่ 1.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2.ท่าอากาศยานดอนเมือง และ 3.ท่าอากาศยานภูเก็ต
ทางผู้บริหาร AOT ยืนยันจะสนับสนุนพื้นที่จัดตั้งจุดขายจำตั๋วรถโดยสาร
จัดพื้นที่การประชาสัมพันธ์ และพื้นที่จุดจอดรถโดยสารอย่างเป็นระบบตามมาตรฐาน
ส่วน
บขส. เตรียมจัดรถโดยสารระบบขนส่งเสริม (Feeder) เส้นทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเชื่อมต่อสู่จุดหมายปลยทางจังหวัดต่าง
ๆ เน้นบริการกลุ่มจังหวัดเมืองหลัก เมืองท่องเที่ยวหรือเมืองรอง
โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ อย่างภาคตะวันออก
นำโดย พัทยา จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ภาคกลางคือ หัวหิน
จ.ประจวบคีรีขันธ์ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ นครราชสีมา
สนับสนุนนโยบายรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศครอบคลุมทั้งเมืองหลัก
และ 55 เมืองน่าเที่ยว/เมืองรอง
นายอรรถวิท
กล่าวว่า บสข.ได้รับพิจารณาเพื่อนำไปดำเนินการต่อไปถึงข้อเสนอแนะจาก AOT ขอให้เปิดบริการเพิ่มเติมเส้นทางจากท่าอากาศยานภูเก็ตไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอุทยานเขาหลัก
จ.พังงา เนื่องจากประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเชื่อมต่อ
สภาพปัจจุบันการเดินทางทางรถยนต์อื่น ๆ มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
หากเปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะจะเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนสะดวก สบาย
ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ได้ประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย
ข่าวที่สอง
-ทราเวลโลก้าเปิดขายทัวร์เรือDisney Adventureในไทย
ซีซาร์ อินทรา ประธาน บริษัท ทราเวลโลก้า เปิดเผยว่า แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกาศเป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายบัตรล่องเรือสำราญ
“Disney Cruise Line” ในไทย
หลังเปิดเส้นทางการล่องเรือสำราญสุดหรูในเอเชียที่สิงคโปร์แล้วคือ Disney
Adventure ปี 2568 จะมอบโอกาสให้ผู้โดยสารคนไทยได้สัมผัสมนต์เสน่ห์และความมหัศจรรย์ของโลกดิสนีย์กลางมหาสมุทร ด้วยการนำเสนอเมนูอาหารธีมดิสนีย์อันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมหลากหลายที่น่าสนใจ เจาะตลาดนักท่องเที่ยวทุกช่วงวัย
การเปิดตัวเรือสำราญดิสนีย์ลำแรกในเอเชียถือเป็นโอกาสใหม่ของผู้ชื่นชอบการเดินทางจะได้เข้าสู่โลกแห่งการผจญภัย
เตรียมเปิดให้เริ่มลงทะเบียนรับข่าวสารบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทราเวลโลก้า
และรอดื่มด่ำไปกับการล่องเรือดิสนีย์ได้ก่อนใคร ทั้งการพักผ่อนแบบครอบครัว
แบบคู่รัก หรือแนวผจญภัย ทางทราเวลโลก้าพร้อมจะมอบสิทธิประโยชน์หลากหลายและเติมเต็มความฝันในช่วงวันหยุด
เปิดให้จองตั๋วและแพ็กเกจ
Fly-Cruise สุดพิเศษช่วงวันหยุดพักผ่อนในสิงคโปร์
ทั้งแบบคู่กับการล่องเรือดังกล่าวพร้อมตัวเลือกอีกมากมาย
สำหรับการล่องเรือสำราญ Disney Adventure พร้อมจะมอบประสบการณ์ค้นพบและการผจญภัยอันมหัศจรรย์ที่เดินทางมาบรรจบกับจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด
สร้างสีสันความมีชีวิตชีวาตามสไตล์การเล่าเรื่องของดิสนีย์
ผู้โดยสารจากไทยจะได้พบกับความบันเทิงพิเศษ 7 พื้นที่
บนเรือลำนี้จัดให้มีธีมไม่ซ้ำกัน ที่จะเสริมสร้างมนต์เสน่ห์แห่งจินตนาการ
การค้นพบ การผจญภัย
โดยแต่ละจุดประกอบด้วยตัวละครที่น่าทึ่งและประสบการณ์อันน่าจดจำมากมายทำให้ผู้โดยสารอยากสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้แบบไม่รู้จบ ประกอบด้วย
พื้นที่ 1 Disney Imagination Garden เป็นหัวใจหลักของเรือสำราญ Disney Adventure ประกอบด้วยหุบเขาต้องมนต์
สวนเทพนิยาย พื้นที่การแสดงกลางแจ้งครบในพื้นที่เดียว
ร่วมท่องดินแดนแห่งจินตนาการที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวดิสนีย์กว่า 100 ปี
สร้างความทรงจำและประสบการณ์เดินทางผ่านประตูสู่ดินแดนอันน่าอัศจรรย์ที่ยากจะลืมเลือนให้กับแขกผู้มาเยือน
พื้นที่
2 Disney Imagination Reef สวรรค์แห่งการช้อปปิ้งและลิ้มลองอาหารรสเลิศสำหรับเวลาของครอบครัว
บนพื้นที่ที่ออกแบบเป็นจุดพักผ่อนผ่อนคลายและไม่จำเจ
ชวนให้ระลึกถึงตัวละครในท้องทะเลและเรื่องราวการเดินเรือที่คุณโปรดปรานจาก Walt
Disney Animation Studios และ Pixar Animation Studios
พื้นที่ 3 San Fransokyo Street ได้รับแรงบันดาลใจจากการผสมผสานของเรื่องราวในภาพยนตร์ "Big
Hero 6" ของ Walt Disney Animation Studios
เป็นพื้นที่ความบันเทิงสำหรับครอบครัวที่เต็มไปด้วยพลังบวกและบรรยากาศของตลาดริมถนนที่มีชีวิตชีวา
ประกอบด้วยเกมและกิจกรรมที่ใช้เทคโนโลยีแบบ Interactive ร้านค้า
โรงภาพยนตร์และอื่น ๆ อีกมากมาย
พื้นที่
4 Wayfinder Bay เป็นพื้นที่ผ่อนคลายและความบันเทิงที่ผู้โดยสารจะได้สัมผัสกับสระว่ายน้ำทอดยาว
ทำให้มองเห็นท้องฟ้าบรรจบกับทะเลได้อย่างสวยงามในโอเอซิสกลางแจ้งภายใต้แสงแดด รวมทั้งสามารถพักผ่อนริมสระว่ายน้ำท่ามกลางบรรยากาศที่เหมือนยกหมู่เกาะแปซิฟิกจากภาพยนตร์
Moana มาไว้ตรงหน้าทุกคน
พื้นที่ 5 Town Square พื้นที่เฉลิมฉลองตัวละครดิสนีย์
ซึ่งเป็นดินแดนแห่งเทพนิยายที่เหมาะกับคนช่างฝัน
รังสรรค์ให้ความฝันของสาวกดิสนีย์เป็นจริง จำลองป่ามหัศจรรย์ผืนนี้รายล้มอด้วย ร้านค้า
เลานจ์ คาเฟ่ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงในธีมเจ้าหญิงดิสนีย์มากมายให้เลือกสรรอย่างจุใจ
พื้นที่ 6 Marvel Landing รวบรวมฮีโร่จากจักรวาล Marvel ไว้ในที่เดียวเพื่อสาวกจากประเทศไทยได้เพลิดเพลินกับการผจญภัยล้ำสมัยและมันสุดขีดของเหล่า Avengers พร้อมสิ่งจูงใจและประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวจินตนาการผ่านซุปเปอร์ฮีโร่ตัวโปรดไปด้วยกัน
พื้นที่ 7 Toy Story Place เป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เยี่ยมชม โดยมอบประสบการณ์เต็มไปด้วยการสำรวจ การสร้างสรรค์ การใช้เวลาร่วมกัน และความสนุกสนานบนสนามเด็กเล่นแบบอินเตอรแร็กทีฟไม่เหมือนใคร พร้อมร้านอาหารตกแต่งตามธีม Toy Story และสวนน้ำที่จะทำให้โลกของภาพยนตร์สั้น "Toy Story" ของพิกซาร์กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งอย่างน่าประทับใจ
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น