บิ๊กAOTบูมMICE LANE
วันสต็อป เซอร์วิสดันเศรษฐกิจโต
ย้ำร่วมTCEBหัวหอกใหญ่ดึงตลาดไมซ์โลกนำเงินเข้าไทย
ลุยต่อยอด3บริการใหม่“Welcoming-เช็คอิน-สต๊าฟภาษาจีน
สมาชิกคิงเพาเวอร์ช้อปสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-ภูเก็ตรับ2คุ้ม
คิงเพาเวอร์รางน้ำแจกโปรแรง5วัน 13-17ก.ย.ลด 10+10%
ช้อปคิงเพาเวอร์รับ2ฟรีกับSPECIAL GIFT@ONLINE ONLY
ททท.จัดใหญ่ครั้งแรกDNA Travel &Fairดีไซน์ทัวร์ไทยได้เอง
บางจากรับสมัครGenwitซีซัน2วันนี้-31ต.ค.ปั้นเด็กอัจฉริยะ
TCEBหนุนGumball3000แรลลี่รถหรูซูเปอร์สตาร์โลกเข้าไทย
เที่ยว“เสน่ห์ไทย5ภูมิภาคซอฟท์พาวเวอร์5พิกัดตลอดก.ย.67
3วิธีลดโซเดียมด่วนๆ
หลังกินเค็มโดยไม่ได้ตั้งใจต้องแก้ทันที
เวียตเจ็ทไทยฉลอง8ปีขายตั๋วบินใน/ต่างประเทศราคา8บาท
ท่องเที่ยวลุ้น3เดือนสุดท้ายปั๊มรายได้ต่างชาติเพิ่ม1ล้านล้าน
วันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #AOT
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/GkDoLryNPYekrweg/?mibextid=oFDknk
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !!
“ดร.กีรติ
กิจมานะวัฒน์” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT หรือ ทอท.” นำ 6 สนามบิน ลุยขับเคลื่อนโครงการ “Thailand
MICE One Stop Service”
ยกระดับไทยผู้นำตลาดไมซ์นานาชาติ ยันรู้จักและเข้าใจภารกิจ “TCEB” เป็นอย่างดีในฐานะองค์กรเจ้าภาพหลักดึงอีเวนต์ไมซ์ทั่วโลกเข้ามาจัดในไทย
ปี’67 ทุกสนามบินเปิดแล้ว
“VIP Service” เดินหน้าหารือ TCEB ต่อยอดเพิ่มอีก 3บริการ 1.Welcoming” จัดทีมต้อนรับลูกค้าไมซ์ทุกประเทศถึงประตูเครื่องบิน
2.off Check in Airport” เช็คอินตรงได้ที่ศูนย์ประชุมอินเตอร์ใหญ่ของไทย
3.จัดสต๊าฟภาษาจีน
อินเดีย ดูแลไมซ์เริ่มปี’68
ล่าสุดได้ติดตั้งอุปกรณ์อัตโนมัติ Auto Check อำนวยความสะดวกเข้าออกสะดวกรวดเร็ว
สร้างความประทับใจเต็มรูปแบบ
ดร.กีรติ
กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT หรือ
ทอท.” เปิดเผยว่า ทอท.ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องคการมหาชน) หรือ TCEB เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ
Thailand MICE LANE One Stop Service
โดยได้เปิดเลนพิเศษในท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลทั้ง 6 แห่ง เพื่อให้บริการกลุ่มนักเดินทางกลุ่มขนาดต่าง
ๆ ที่มีจุดประสงค์เข้ามาจัดงาน MICE/ไมซ์ ทั้งการประชุมสัมมนา
/Meeting การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล
/Incentive จัดการแสดงสินค้า/Exhibition
และจัดการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่/Convention
ซึ่งสามารถดึงดูดตลาดสำคัญที่พร้อมใช้จ่ายเงินระดับกลางไปจนถึงสูงในแต่ละทริปเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของไทยได้เป็นอย่างดี
ทาง ทอท.เล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาดกลุ่มลูกค้าไมซ์/MICE จากทั่วโลกของทีเส็บที่นำนักเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี จึงวางกลยุทธ์บริหารจัดการในแต่ละสนามบินโดยได้จัด “เลนบริการพิเศษ” นำร่องสนามบินละ 1 เลน เพื่อต้อนรับนักเดินทางทุกกลุ่มที่ประสานการเดินทางผ่านทีเส็บเพื่อเข้ามาจัดงานไมซ์ในเมืองไทย พร้อมกับส่งผ่านเรื่องมาถึง ทอท.ก็จะได้รับการดูแลเป็นระดับ “VIP Service” โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตั้งแต่หน้าประตูเครื่องบิน ต่อเนื่องไปยังเคาน์เตอร์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สายพานรับกระเป๋า จนถึงขั้นตอนสุดท้ายออกจากสนามบินอย่างสะดวกสบาย
ความร่วมมือดังกล่าว
ทอท.พร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์เป็นวิธีทำงานเชิงบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรมด้านการประสานระหว่างหน่วยงาน
ผลักดันนโยบายของรัฐบาลเรื่องการขยายฐานตลาดไมซ์และการประชุมนานาชาติจากทั่วโลกมาไทยเติบโตเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้
ทอท.กำลังร่วมกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพัฒนาการลงทุนติดตั้งอุปกรณ์บริการตรง
“บริเวณขาเข้าประเทศ” ด้วยระบบ Auto Gate พิเศษรองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ได้ด้วย
สร้างความสะดวกสบายและความประทับใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบัน
ทอท.ได้ติดตั้งออโตเมติกเกทขาเข้าไปเรียบร้อยแล้ว 12 เกต ทดลองให้คนไทย ฮ่องกง สิงคโปร์
ทดลองใช้อยู่ขณะนี้ หลังจากนั้นก็จะทยอยเปิดให้นักเดินทางประเทศอื่น ๆ
เข้ามาใช้มากขึ้น
ส่วน
“นักเดินทางขาออกประเทศไทย” ตอนนี้ทั่วโลกทั้ง 91 ประเทศ สามารถใช้ระบบออโตเกตในสนามบิน
ทอท.โดยเฉพาะพื้นที่นำร่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว 81
เครื่อง สะดวกสบายในทุกการเดินทาง
ซึ่ง ทอท.พยายามนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่ออำนวยความดวกแก่ผู้โดยสาร
ลดขั้นตอนการเข้าออก ลดเวลาการรอคอยตรวจเอกสารต่าง ๆ
ดร.กีรติ
กล่าวว่า นับจากนี้เป็นต้นไป ทอท.กับทีเส็บ
จะต่อยอดขยายความร่วมมือในมิติอื่นเพิ่มขึ้นอีกหลายกิจกรรมโครงการ
โดยได้หารือกันถึงการจัด กิจกรรมที่ 1 “พิธีต้อนรับ
:Welcoming”
นำพาผู้โดยสารกลุ่มไมซ์เข้าออกประเทศให้ได้เร็วที่สุด กิจกรรมที่ 2 ประสานงานกับสายการบินนานาชาติ
ในระยะยาวกำลังศึกษาแนวทาง Off Airport Check in หรือขั้นตอนการเช็คอินสำหรับกลุ่มเดินทางมาประชุม
โดยประสานกับทางสถานที่จัดประชุมโดยตรง เช่น ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา หรืออิมแพ็คเมืองทองธานี โดยจะพิจารณานำร่องกับกลุ่มประชุมขนาดใหญ่ที่มีจำนวนคนมาก
ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มดังกล่าว ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการกระเป๋าเดินทาง
กับระยะเวลารอในสนามบินลดขั้นตอนสั้นลงด้วย
ภายใต้มาตรฐานแนวทางปฏิบัติที่เป็นไปตามหลักสากล
หลังจากเปิดให้บริการ MICA LANE ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้สักระยะแล้ว พบจุดเด่นที่ได้รับความสนใจจากนักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวนมาก รวมถึงการสอบถามเรื่องขั้นตอน วิธีการ การเตรียมตัว และสิทธิประโยชน์ ซึ่งทางทีเส็บได้ประสานโดยการให้ข้อมูลพร้อมกับทำประชาสัมพันธ์ โดยมีนักเดินทางไมซ์ที่ใช้บริการเป็นประจำ ได้แก่ ฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศแถบยุโรป
ขณะเดียวกัน
ทอท.ก็ไม่ได้มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนคนที่เดินทางมาในฐานะไมซ์
ซึ่งพร้อมจะทำหน้าที่เป็น “เจ้าบ้านที่ดี” เพียงแค่ประสานงานผ่านทีเส็บมายัง
ทอท.ก็จะได้รับการอำนวยความสะดวกครบทุกขั้นตอน
ดร.กีรติ
กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้นำองค์กร ทอท.คุ้นเคยและรู้จักทีเส็บเป็นอย่างดี
ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทพัฒนาตลาดกลุ่มนักเดินทางศักยภาพสูงนำการจัดงานประชุมขนาดใหญ่ระดับนานาชาติจากทั่วโลกเข้ามาสู่ประเทศไทย
อีเวนต์จัดการแสดงสินค้าของโลก ประการสำคัญยังได้ทั้ง ทอท.และทีเส็บยังได้จัดประชุมทุก
ๆ 2-3 เดือน
เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางบริการ กรอบความร่วมมือ รองรับนักเดินทางไมซ์
นักธุรกิจกึ่งท่องเที่ยวด้วย
ปี 2568
ทอท.พร้อมบูรณาการทำงานร่วมกับทีเส็บตามนโยบายของ “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร”
นายกรัฐมนตรี
มอบให้ทุกองค์กรขับเคลื่อนนโยบายรองรับนักเดินทางกลุ่มขนาดใหญ่ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย
เพื่อมาจัดประชุม สัมมนา จึงได้หารือกับทางทีเส็บเพื่อวางแผนให้บริการตรงกลุ่มเป้าหมาย
เช่น นักเดินทางจากตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย
ก็จะจัดเจ้าหน้าที่ประจำสนามบินซึ่งสามารถสื่อสารภาษาของทั้ง 2 ประเทศ ไว้ต้อนรับและอำนวยความสะดวกทุกการเดินทาง
เพื่อให้เกิดความรู้สึกประทับใจ ดึงดูดตลาดประชุม สัมมนา ไมซ์
หลั่งไหลเข้ามาไทยตามนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างดี
ส่วนการตอบโจทย์นโยบายเพื่อจะยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค
หรือ Aviation Hub นั้น
ทอท.จะต้องขยายความร่วมมือทำงานเชิงบูรณาการกับอีกหลายหน่วยงาน
นอกเหนือจากทีเส็บแล้ว ก็ยังมี สตม.ศุลกากร กระทรวงการต่างประเทศ
รวมไปถึงกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และทุกคน
เดินทางเข้าออกประเทศผ่านสนามบินอย่างราบรื่น ซึ่งปัจจุบันยังคงมีกฎระเบียบที่เข้มงวด
ดังนั้นทาง สตม.กำลังช่วยพิจารณาเพิ่มระบบอัตโนมัติมากขึ้น
และทางกรมศุลกากรก็ได้ทำงานร่วมกับ ทอท.เรื่องการนำระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติเข้าไปตรวจจับกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร
ทำให้ลดคิวการรอลงไปได้มาก
แล้วยังสามารถรักษาความถูกต้องตามกฎหมายเข้าออกประเทศไว้ได้
แล้วประชาชนก็เดินทางสะดวกมากขึ้นเช่นกัน
ขณะที่หน่วยงานอื่น
ๆ หน่วยกักกันโรค กระทรวงสาธารณสุข หันมาร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่ประสิทธิภาพ
นับเป็นการเดินมาตรงเป้าหมายและถูกทางแล้ว
ดร.กีรติ
ในช่วงตารางบินฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
ขอให้นักเดินทางที่มีแผนจะเดินทางนั้นทาง
ทอท.มีความพร้อมทุกมิติที่จะให้อำนวยความสะดวกทุกการเดินทาง
โดยได้เปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ SAT-1
:Sattleite terminal 1 เปิดครบ 1
ปี
ให้บริการเต็มรูปแบบโดยมีสะพานเทียบเครื่องบินต่างประเทศแล้ว 28 สะพานเทียบ
ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องใช้ประตูขึ้นเครื่องโดยรถบัสหรือ Bus Gate อีกต่อไป จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป สุวรรณภูมิจะเปิดเส้นทางวิ่งเครื่องบิน
(runway) ที่ 3
จะเพิ่มขีดความสามารถเครื่องบินขึ้นลงจากเป็น
96 เที่ยวบิน/ชั่วโมง
จากปัจจุบัน 64 เที่ยวบิน/ชั่วโมง
จะช่วยลดปัญหาที่ผ่านมาเกี่ยวกับสล็อตการบินไม่เพียงพอและเครื่องต้องจอดรอขึ้นลงด้วย
ผนวกกับมีระบบเช็คอินด้วยตนเอง (Self Check in) ระบบเช็คสัมภาระกระเป๋าด้วยตนเอง (shelf
backdrop)
โดยไม่ต้องต่อแถวคอย
และมีระบบออโต้เกตทำให้ไม่ต้องรอคิวตรงเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง
ตม.ซึ่งพร้อมรองรับปริมาณจราจรเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารหนาแน่นในช่วงฤดูเดินทางพีคซีซันปลายปีนี้
สำหรับการใช้อาคารผู้โดยสาร
SAT-1 ตอนผู้โดยสารทำเช็คอินที่อาคารสนามบินสุวรรณภูมิหลังหลัก
ซึ่งจะมีทั้งหมด 6 คอนคอร์ส A-B-C-D-E-F ส่วน SAT-1 ในบัตรโดยสารขึ้นเครื่องของสายการบินจะระบุเป็นคอนคอร์ส
S เป็นสัญลักษณ์ตัว
S
ตามขั้นตอนจะเช็คอิน ตรวจค้นร่างกาย และตรวจหนังสือเดินทาง
เมื่อผ่านครบทุกขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้สังเกตุป้ายชี้ไปยังตัว S เพื่อเดินลงบันไดใต้ดิน
ไปขึ้นรถไฟฟ้าไร้คนขับหรือ APM เชื่อมระหว่างอาคารหลังหลักกับ
SAT-1 รวดเร็วมากใช้เวลาเพียง
2-3 นาทีเท่านั้น
ภายในอาคาร SAT-1 มีความโอ่อ่าหรูหรา สะดวกสบาย พื้นที่ใหม่
แสดงอัตลักษณ์ความเป็นไทยด้วย
จึงขอเชิญชวนให้ไปใช้บริการกันเมื่อมีโอกาสเดินทางขาออกประเทศไทย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-สมาชิกคิงเพาเวอร์ช้อปสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-ภูเก็ตรับ2คุ้ม
คิง
เพาเวอร์ ชวนสมาชิกช้อปครบ รับคุ้ม! เปิดให้ช้อปได้ทั้ง 3 สนามบินหลัก ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต แจกคูปองส่วนลดตามร้านอาหารและเครื่องดื่ม
เดือนละ 2,000-3,000 บาท/สนามบิน ดังนี้
แห่งที่
1 ช้อปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับแบบไม่ต้องลังเล 2
คุ้ม ดังนี้
คุ้มที่
1 : สมาชิก คิง เพาเวอร์ ทุกสถานะ ช้อปครบ 10,000 บาท (สุทธิ) / ใบเสร็จ คูปองส่วนลด 200 บาท นำไปใช้ในร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมรายการ
แจกเดือนละ 3,000 สิทธิ์
คุ้มที่
2 : พิเศษ! เฉพาะสมาชิก คิง เพเวอร์ NAVY เลือกรับได้ตามใจระหว่าง “รับสิทธิ์เข้าใช้ King Power Space” เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท (สุทธิ) / ใบเสร็จ ได้ 1 สิทธิ์ / สมาชิก / วัน และได้รับ 2 สิทธิ์ / สมาชิก
/ วัน เมื่อช้อปครบ 12,000 บาท หรือเลือกรับ “คูปองส่วนลด” 200 บาท ไปใช้ตามร้านอาหารและเครื่องดื่ม
แห่งที่ 2 ช้อปที่ท่าอากาศยานดอนเมือง สมาชิก
คิง เพาเวอร์ ช้อปครบ 5,000 บาท (สุทธิ) / ใบเสร็จ รับคุ้มอีกเช่นกัน รับคุ้ม “คูปองส่วนลด” 100 บาท
นำไปใช้บริการตามร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่ร่วมรายการ แจกเดือนละ 2,000 สิทธิ์
แห่งที่
3 สายช้อปมีแพลนบินที่ท่าอากาศยานภูเก็ต สมาชิก
คิง เพาเวอร์ ช้อปครบ 5,000 บาท (สุทธิ) / ใบเสร็จ รับคุ้ม “คูปองส่วนลด” 100
บาท นำไปใช้บริการตามร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ร่วมรายการ แจกเดือนละ
500 สิทธิ์
ข่าวที่ 2-คิงเพาเวอร์รางน้ำแจกโปรแรง5วัน13-17ก.ย.ลด
10+10%
คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ จัดโปรแรง 5 วันเท่านั้น! เริ่มวันนี้
-17 กันยายน 2567 คัดสินค้าแบรนด์เด่น
ๆ มาให้ช้อปแบบจัดเต็มก่อนหมดกันยายน ช้อปให้มันส์กับสินค้าที่เข้าร่วมรายการทั้งน้ำหอม
เครื่องสำอาง ลดสูงสุด 10% + ลดเพิ่มอีก! สูงสุด 10% ดังนี้
1.1
ลดเพิ่ม 5% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
1.2
ลดเพิ่ม 7% เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
1.3ลดเพิ่ม 10% เมื่อช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
ช้อปตามกติกาง่าย
ๆ กับสินค้าที่ร่วมรายการ สามารถเช็คอีกครั้งได้ที่จุดขายคิง เพาเวอร์ ทุกสาขา
กรณีที่
1 บัตรเครดิตร่วม คิง เพาเวอร์ กับธนาคารไทยพาณิชย์
และกสิกรไทย ร่วมโปรโมชั่นนี้
กรณีที่
2 ใบเสร็จรับเงินจากการใช้คูปองส่วนลดของบัตรเครดิตไทยพาณิชย์
มูลค่า 3,000 บาท ร่วไม่ได้เข้าร่วมโปรโมชั่นนี้
กรณีที่
3 ลูกค้าใช้คูปองส่วนลด 2,000 บาท
กับสินค้าที่ร่วมส่งเสริมการขาย ยกเว้นสมาชิกใหม่ที่เพิ่งสมัครบัตรคิง เพาเวอร์ SCARLET
ข่าวที่ 3ช้อปคิงเพาเวอร์รับฟรี SPECIAL
GIFT@ONLINE ONLYถึง30ก.ย.
คิง
เพาเวอร์ ออนไลน์ จัดดีลดี “SPECIAL GIFT @ONLINE ONLY” แจกดีลเด็ดของแถมสุดแกลม เพียงแค่ช้อปออนไลน์ตามเงื่อนไข
ก็มีสิทธิ์รับของแถมมากมาย อย่ารอช้า! กดช้อปด่วนพร้อมรอรับของที่สนามบิน วันนี้- 30 กันยายน 2567
ใช้สิทธิ์ Online Special Offer!! รับสินค้าฟรีแบบจุก ๆ
ได้ดังนี้
1.ฟรี ! ส่วนลด 15%
เมื่อสั่งซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ ที่กรุงเทพประกันภัย
พิเศษ!
รับ Starbuck E-Coupon มูลค่า 200 บาท
เมื่อซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศ รายปี ขั้นต่ำ 2,000 บาท
ระยะเวลาการแจกและใช้โค้ดส่วนลด
วันนี้- 31 ธันวาคม 2567 เมื่อสั่งซื้อสำเร็จตามเงื่อนไขรอรับสิทธิ์ส่วนลดทาง
SMS
2. ฟรี!! 100 บาท เมื่อใช้บริการ Grab เดินทางไปหรือกลับ จาก 4 สนามบินหลัก คือ สุวรรณภูมิ
ดอนเมือง บินภูเก็ต และเชียงใหม่ เมื่อลูกค้ามียอดช้อปออนไลน์ครบ 8,000 บาท
(สุทธิ) แจกโค้ดส่วนลด วันนี้ - 30 กันยายน 2567
ใช้โค้ดส่วนลดได้ตั้งแต่วันนี้– 15 ตุลาคม 2567 แจก 1,000
สิทธิ์ รับได้ 1 ครั้ง / 1 บัญชีสมาชิก
ข่าวที่
4-ททท.จัดครั้งแรกDNA Travel &Fairดีไซน์ทัวร์ไทยได้เอง
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดงาน “DNA
(Destination Navigator Assessment) Travel & Fair Festival” ระหว่าง 19 – 22 กันยายน 2567 ที่ฮอลล์ 6 - 7 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งเป้าตอกย้ำการเดินทางท่องเที่ยวกับ ททท.
มีแต่ประสบการณ์ใหม่ ๆ ใส่ใจความยั่งยืน วันนี้ 12 กันยายน
ได้นำเสนอรายละเอียดงานโดยตัวแทนกลุ่มหลักเข้าร่วมด้วยคือ นางอัญชลิกา กิจคณากร
กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัคริณ โฮเทล กรุ๊ป จำกัด จูดี้ เดี่ยว จารุกิตติ์ วิว - Point Of View ชนัญญา เตชจักรเสมา ตัวแทนนักท่องเที่ยว
และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ส่วนช่วงวันจริงในการจัดงานพร้อมจัดเต็ม 5 โซนหลัก
เน้นสร้างประสบการณ์หลากหลายและไม่เหมือนใคร โดยจะใช้งานนี้เพิ่มความถี่คนไทยและต่างชาติเดินทางใช้จ่ายเงินช่วงปลายปีนี้
กิจกรรมส่งเสริมตลาดครั้งนี้
ททท.ต้องการยกระดับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ
STGs : Sustainable Tourism Goals : STGs เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ
ซึ่งปัจจุบันเลือกเที่ยวแบบประสบการณ์เฉพาะเจาะจงและตรงกับความสนใจของตนเองเป็นหลัก
โดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาบทบาทสำคัญเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวเข้ากับจุดหมายปลายทางและกิจกรรมที่แต่ละคนสนใจ
ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน
ททท.จึงได้ออกแบบจัดงาน
DNA (Destination Navigator Assessment) Travel & Fair Festival โดยเน้นการท่องเที่ยวแบบสไตล์เคชั่นในรูปแบบตรงใจ
ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม ด้วยการแนะนำเส้นทางท่องเที่ยว
5 สไตล์ ได้แก่ 1.ผจญภัย 2.ท่องประวัติศาสตร์
3.ดื่มด่ำธรรมชาติ
4.ไหว้พระสักการะตามความเชื่อและความศรัทธา
5.การท่องเที่ยวแบบสร้างคอนเทนต์
ซึ่งได้นำเทคโนโลยีอย่าง AI มาเป็นผู้ช่วยวางแผน
ทริปท่องเที่ยวอนาคต
การออกแบบกิจกรรมจะสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายให้ผู้ร่วมงาน
พร้อมสินค้าและบริการการท่องเที่ยวครบถ้วน ตอบโจทย์ทุกสไตล์เคชั่นกับเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ระหว่างกัน
@ททท.เปิดเทรนด์
Your Travel DNA ดิจิทัล 5
โซน
ททท.
ชวนออกเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการผ่าน Your
Travel DNA โดยสามารถออกแบบการท่องเที่ยวให้เหมาะกับตนเอง
และสร้างประสบการณ์หลากหลายและไม่เหมือนใคร ทั้งการผจญภัย วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์
ธรรมชาติ และพักผ่อน
โดยมีกิจกรรมและแนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวเหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เช่น
การท่องเที่ยวเชิงผจญภัยของคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของผู้ที่สนใจเรียนรู้เรื่องราวของท้องถิ่น
หรือการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของผู้ที่ต้องการ การพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย เลือกได้ภายในงาน
5 โซนหลัก
ประกอบด้วย
โซนที่
1 Nature ท่องเที่ยวสายธรรมชาติ
ชาร์จความสดชื่นและดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความร่มรื่น
สำรวจพื้นที่สีเขียวและเส้นทางเที่ยวธรรมชาติ ลิ้มรสวัตถุดิบท้องถิ่น
เรียนรู้สมุนไพรและกลิ่นหอมจากธรรมชาติ สัมผัสสัตว์ประจำอุทยานไทยผ่านเทคโนโลยีโปรเจคชั่น
แมปปิ้ง
โซนที่
2 Adventure ท่องเที่ยวสายลุย
ท้าทายทุกความกล้า เผชิญหน้าทุกการผจญภัย เสมือนจริงผ่าน VR ทั้งการเดินเที่ยว ตะลุยด่านบน ATV ท่องโลกเสมือนจริงแบบ 360 องศา และเล่นเซิร์ฟในทะเลจำลองไม่ต้องกลัวเปียก
โซนที่
3 Influencer ท่องเที่ยวสายคอนเทนต์
แชะ แชร์ เช็กอินห้ามพลาด ไปไหนต้องมีคอนเทนต์ เปิดจุดเช็กอินที่เหล่าอินฟลูสายท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด
ชิมร้านอร่อย มุมถ่ายรูป สร้างคอนเทนต์ตามรอยคนดัง
โซนที่
4 Spirit Seeker ท่องเที่ยวสายศรัทธา
เส้นทางความเชื่อ เสริมแต้มบุญ หนุนพลังใจ ร่วมกิจกรรมศรัทธาพาเที่ยวไทยให้ร่วมสัมผัสเส้นทางความเชื่อ
เคล็ดลับสักการะให้ปัง รับวอลเปเปอร์มงคล
และร่วมทำบุญกับโรงพยาบาลสงฆ์เสริมสิริมงคล
โซนที่
5 Time Traveler ท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์
ย้อนวันวานผ่านกาลเวลา เดินทางสำรวจเรื่องราวในอดีต มีกิจกรรม ONCE UPON A
TIME ย้อนวันวานพาชมแลนด์มาร์คประวัติศาสตร์
สัมผัสวิถีชีวิตในอดีต พาย้อนเวลาด้วยเทคโนโลยี Visual Effect และเวิร์คช้อปมากมาย
@แจกจริงรางวัลกว่า4แสน-เกาะตดอินฟูล-Vlogger
พิเศษ!!
ตลอดการจัดงานยังแจกรางวัลมูลค่ากว่า 400,000 บาท ชมการแสดงของเหล่าศิลปินชื่อดัง อย่าง
ต้าห์อู๋-พิทยา โมบายล์-พิมรภัส เป๊ก ผลิตโชค ส้ม-มารี ร่วมพูดคุยแบบใกล้ชิดกับอินฟลูเอนเซอร์
และ Vlogger จาก 4 สไตล์เคชั่น ได้แก่ พลอย จาก Pigkaploy (สายอินฟลู) เบนซ์ จาก The Gaijin Trips แบกเป้เที่ยวคนเดียว (สายลุย) วิว จาก Point
of View (สายประวัติศาสตร์)
และบาส จาก Go Went Go (สายธรรมชาติ)
ข่าวที่ 5-บางจากรับสมัครGenwitซีซัน2วันนี้-31ต.ค.ปั้นเด็กอัจฉริยะ
กลุ่มบริษัทบางจาก รายงานว่า
ทางบางจากร่วมกับ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เตรียม เปิดรับสมัครผู้ร่วมแข่งขันรายการ
“Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ Presented
by Bangchak Group" ซีซั่น 2 เวทีแห่งการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชนเพื่อส่งต่อการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด
สร้างสรรค์คนรุ่นใหม่เพื่อประเทศไทยยั่งยืน
หลังจากซีซั่นแรกประสบความสำเร็จอย่างสูง ที่ได้นำเสนอรายการแข่งขันส่งเสริมความรู้
สร้างความบันเทิงให้ผู้ชมรายการร่วมกันตอบโจทย์และไขปริศนาความท้าทายต่าง ๆ ได้รับความสนใจมีผู้ชมผ่านทางออนไลน์สูงถึงกว่า 81.7 ล้านวิว กับEngagement การมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ 6.1 ล้านครั้ง ตลอดระยะเวลาการออกอากาศของรายการได้รับความคิดเห็นเชิงบวกและเป็นกลางสูงถึงเกือบ 100%
สำหรับการสมัคร
Genwit ซีซั่นสอง เริ่มเปิดให้ทีมโรงเรียนระดับมัธยมปลายร่วมแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และทุนการศึกษาจากกลุ่มบริษัทบางจากได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง
31 ตุลาคม 2567 สามารถศึกษารายละเอียดข้อมูลการรับสมัคร
ได้ที่ Facebook Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่
รายการ
“Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ Presented
by Bangchak Group" เริ่มจัดครั้งแรกปี 2567 ในโอกาสครบรอบ 40 ปี บางจากฯ
ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และส่งเสริมการพัฒนาเยาวชน
ตามแนวคิด “ส่งต่อความสุขไม่สิ้นสุด” เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงศักยภาพความสามารถในเชิงวิชาการตามแนวทางสะเต็มศึกษา
(วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์)
ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศไทยในอนาคตต่อไป
ข่าวที่ 6 -TCEBหนุนGumball3000แรลลี่รถหรูซูเปอร์สตาร์โลกเข้าไทย
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บ ได้สนับสนุนและเตรียมต้อนรับ Gumball
3000 องค์กรเอกชนด้านไลฟ์สไตล์และบันเทิงจากสหราชอาณาจักร
จัดยิ่งใหญ่แรลลี่แห่งปี “Gumball 3000 Rally” ฉลองครบ
25 ปี โดยมีซูเปอร์สตาร์ เซเลบริตี้ จากทั่วโลกกว่า 250
คน ขับรถซูเปอร์คาร์ 120 คัน
ร่วมขบวนแรลลี่ครั้งสำคัญ ระหว่างวันที่ 14-22 กันยายน 2567
รวม 6 วัน ระยะทางยาว 3,000
กม. ผ่าน 5 ประเทศ เริ่มต้นจากไซง่อน (โฮจิมินห์ซิตี้)
เวียดนาม ผ่านกัมพูชา (พนมเปญ/เสียมราฐหรือนครวัด) มายังประเทศไทย
(กรุงเทพฯ กระบี่) สู่มาเลเซีย (กัวลาลัมเปอร์) ไปสิ้นสุดที่สิงคโปร์เพื่อเข้าร่วมงานการแข่งขันรถฟอร์มูลาร์วัน
หรือ F1 Singapore Grand Prix 2024 เมื่อถึงแต่ละประเทศก็จะจัดงานเทศกาลรถยนต์
ดนตรี และงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่
แรลลี่ครั้งนี้มีความพิเศษสุดขับเคลื่อนโดยคนดังจากทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ นำโดยบุคคลผู้มีชื่อเสียง อินฟลูเอนเซอร์
นักกีฬาและศิลปินดนตรี นักเล่นเกม ยูทูบเบอร์ และผู้นำธุรกิจ จะขับรถซูเปอร์คาร์หรูมีทั้ง
Porsche วินเทจไปจนถึง Bugatti และ Koenigsegg
ไฮเปอร์คาร์
มร. Maximillion Cooper ผู้ก่อตั้ง
British Gumball 3000 ผู้จัดงาน กล่าวว่า การเปิดเส้นทางแรลลี่ระดับโลกเฉลิมฉลองครบรอบ
25 ปี Gumball 3000
คือการเปิดรับวัฒนธรรมใหม่และหลอมรวมผู้คนจากทุกสัญชาติในระดับภูมิภาค
พร้อมสนับสนุนโครงการการกุศลเพื่อให้เยาวชนมีโอกาสชีวิตที่ดีขึ้น
คาราวานแรลลี่ครั้งนี้ตนเองจะขับรถ Lamborghini
SVJ ร่วมกับ มร. JWW อินฟลูเอนเซอร์ด้านรถยนต์ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังจากหลากหลายสาขา
เช่น สตรีมเมอร์ IShowSpeed สหรัฐอเมริกา ผู้ขับ Lamborghini
Huracan STO, ตำนานฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและฝรั่งเศส Patrice
Evra จะมาพร้อมกับยานพาหนะ Rolls Royce Cullinan, LazarBeam ยูทูบเบอร์ชาวออสเตรเลีย, Lachlan และ Vikkstar
อินฟลูเอนเซอร์จากสหราชอาณาจักร
พร้อมด้วย Land Rover Defender, ยูทูบเบอร์ด้านรถยนต์จากสหรัฐฯ
DailyDrivenExotics (DDE) ที่จะมาในรถ Lamborghini
SVJ ที่โด่งดัง, แรปเปอร์ชาวสหรัฐฯ Ja
Rule และ Bun B, สมาชิก MLB Hall of
Fame Ken Griffey Jr รวมถึงอดีตดาว NFL Jimmy Graham และบุคคลดังอีกมากมาย
กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองแรลลี่ Gumball จะเริ่มวันเสาร์ที่ 14
กันยายน 2567 จากใจกลางเมืองไซง่อน เวียดนาม พร้อมมอบความบันเทิงยามค่ำคืนฟรีกับ
Gumball 3000 เพื่อให้แฟนคลับชมการแสดงสด โดยมีดีเจ Martin2Smoove,
Andy Purnell, CJ Beatz พร้อมแขกวีไอพี เข้าร่วมงาน
จากนั้น IShowSpeed จะโบกธงเริ่มต้นเวลาเที่ยงวันอาทิตย์ที่
15 กันยายน บนถนน Le Loi ใจกลางเมืองโฮจิมินห์
ส่งสัญญาณเริ่มการเดินทางของผู้ขับขี่ “ช่วงแรก”มุ่งหน้าไปยังอุโมงค์ Cu
Chi ที่มีชื่อเสียง จุดที่ 2 จะเข้าสู่พนมเปญ กัมพูชา
จะจัดต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่พร้อมการแสดงสดของศิลปินดนตรียิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ จุดที่
3 มุ่งสู่ “เสียมราฐ/นครวัด” ภาคเหนือไปยังภูมิภาคที่มีโบราณสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลก
เมืองเสียมราฐ
ซึ่งทางมูลนิธิ Gumball 3000 มีโปรแกรมจะจัดงานเลี้ยงกาลาประจำปีและเปิดประมูลเพื่อการกุศลร่วมกับสถาบันชั้นนำระดับโลก
Christie’s ที่นครวัดสถานที่สิ่งมหัศจรรย์แห่งที่ 8 ของโลก นำเงินที่ระดมทุนได้นำไปใช้สนับสนุนโครงการเยาวชนทั่วโลก
รวมถึงสร้างสนามฟุตบอลลอยน้ำให้ชุมชนในกัมปงเกลียง กัมพูชา
และจัดหาอุปกรณ์สเกตบอร์ด ในแคมเปญ Supply the Ride' campaign
ระหว่างเส้นทางแรลลี่ในแต่ละประเทศจะร่วมกับ The Skatepark Project ไฮไลต์วันอังคารที่ 17 กันยายน Gumball จะสร้างสถิติโลกใหม่ในบันทึกกินเนสบุ๊คด้านการจัดแสดงซูเปอร์คาร์รายการใหญ่ที่สุดที่นครวัด
กัมพูชา แล้วจากนั้น วันพุธที่ 18 กันยายน นี้ ขบวนรถจะเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยชมเสน่ห์ยามค่ำคืนกีฬามวยไทยและดนตรีสดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
กรุงเทพฯ เสร็จแล้ววันที่ 19 กันยายน นี้ จะมุ่งสู่ภาคใต้ผ่านป่าฝนไป
“จังหวัดกระบี่” พร้อมกับจัดกิจกรรมการกุศล ที่สนามฟุตบอลลอยน้ำเกาะปันหยี
อ่าวพังงา โดยทางมูลนิธิ Gumball 3000 จะมอบเงินบริจาคเพื่อซ่อมแซมสนามฟุตบอล
และจะมีแชมโลกฟุตบอลแสดงฟรีสไตล์ Séan Garnier ให้ได้ชมด้วย
วันศุกร์ที่ 20 กันยายน ขบวนรถจะเดินทางต่อไปยัง
The Exchange TRX Mall กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย พร้อมจัดการแสดงพิเศษแรปเปอร์ชาวสหรัฐฯ
Ja Rule จุดสุดท้าย วันเสาร์ที่ 20 กันยายน
เข้าเส้นชัยที่สิงคโปร์ เพื่อชมการแข่งขันรถฟอร์มูลาร์วัน F1
ปิดท้ายเย็นวันเสาร์จะแจกถ้วยรางวัล Asprey’s
Spirit of Gumball ส่งมอบในแบบฉบับของ Gumball ที่บริเวณบนดาดฟ้ามาริน่า เบย์ แซนด์ สิงคโปร์
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยตลอดกันยายน นี้
ชวนไปสุขทันทีที่เที่ยว “เสน่ห์ไทย 5 ภูมิภาค 5 พิกัด” สนุกกับซอฟท์ พาวเวอร์ ดนตรี อาหาร แฟชั่น คราฟท์ ทั่วไทย
แล้วฟังด่วน “3วิธีลดโซเดียม” ที่กินเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ
พร้อมข่าวดี ๆ ข่าวแรก “ไทยเวียตเจ็ท” เปิดขายตั๋วในและต่างประเทศ 8 บาท/เที่ยว ฉลอง 8 ปี ข่าวที่สอง
“กระทรวงท่องเที่ยว” เร่งเครื่อง 3 เดือนสุดท้ายปั๊มเงินทัวร์ต่างประเทศเพิ่ม
1 ล้านล้านบาท
ท่องเที่ยว –เที่ยว“เสน่ห์ไทย5ภาค”ซอฟท์พาวเวอร์5พิกัดตลอดก.ย.67
มาแล้วเที่ยวเมืองไทยไปได้ทุกที่ตลอดเดือนกันยายน
นี้ วงปฏิทินรอเที่ยว “เสน่ห์ไทย 5 ภูมิภาค” ตลอดเดือนกันยายน
2567 เน้นยกระดับอัตลักษณ์ท้องถิ่น ร้อยเรียงเรื่องราว
เสริมนวัตกรรมสมัยใหม่ สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเสน่ห์ไทย หรือซอฟท์ พาวเวอร์ 5
ภาค 5 พื้นที่ ได้แก่ “ภาคใต้” นครศรีธรรมราช “ภาคเหนือ”
เชียงใหม่ “ภาคตะวันออก “ ชลบุรี “ภาคกลาง” กาญจนบุรี และ “ภาคอีสาน” ขอนแก่น
แต่ละพื้นที่จะนำเสนอครบเครื่องทั้ง เทศกาลดนตรี แสงสีเสียง อาหาร ศิลปะ
วัฒนธรรมถิ่น สินค้าบริการและกิจกรรมทางการท่องเที่ยว เสนอขาย 5 Must Do in
Thailand
ตลอดเดือนกันยายน
นี้ นักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานจะได้ตื่นตากับความยิ่งใหญ่ตระการตาด้วยแสง เสียง
อิ่มอร่อยกับเมนูเด็ด อาหารถิ่น งานอาร์ตเอาใจสาย DIY โซนถ่ายรูปแชะแชร์ทุกโมเมนต์สุขทันทีที่เที่ยวไทย สนุกสนานกับฟรีคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินดัง
กระจายจัดครบทั้ง 5 พิกัด
พิกัดที่
1 ภาคใต้ : “Charming
Khanom” วันที่ 14 - 15 และ 20 - 22 ก.ย. 2567 เวลา 16.00 – 22.30 น.บริเวณหาดหน้าด่าน
อำเภอขนอม จ.นครศรีธรรมราช ชวนมาสุขกับ กิจกรรมแรก ฟังเพลงไพเราะจากศิลปินดัง TWOPEE,
WHAL & DOLPH, TILLY BIRD, PARADOX, THE PARKINSON, YOURMOOD, MIRR, MIYARAP,
PURPEECH กิจกรรมที่ 2 GAVIN : D ชมการแสดงทางวัฒนธรรม รำมโนราห์ นาฏศิลป์ไทยร่วมสมัย หนังตะลุง กิจกรรมที่
3 ละลานกับร้านอาหารท้องถิ่น ฟู้ดทรัค ช้อป ชิม ชิล ตลอดงาน
กิจกรรมที่ 4 ดื่มด่ำศิลปวัฒนธรรมสุดเท่เก๋ได้ทุกวัย สตรีท
อาร์ต สนุกกับโซนถ่ายภาพ Good Vibes อวดบนโซเชียล
พร้อมทั้งเอาใจนักท่องเที่ยวสายศรัทธาตลาดสายมู
Craft & MU Market เนรมิตพื้นที่สุดคลาสสาธิตกิจกรรมกีฬาทางทะเล
SUP & SKIM CLINIC BALANCE BOARD ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองเล่นและฝึกซ้อม
กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับพันธมิตรสำหรับผู้ที่สนใจเดินทางท่องเที่ยวต่อในพื้นที่
อาทิ เส้นทางท่องเที่ยวทางบก ขนอม – สิชล และ เส้นทางท่องเที่ยวทางทะเล
ชมปลาโลมาสีชมพู ผาพับผ้า
พิกัดที่
2 ภาคเหนือ : “HOP
Chiang Mai Art and Music Festival” วันที่ 20-29 กันยายน 2567 เวลา 16.00 – 22.00 น. ที่ลานประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เพิ่มบรรยากาศด้วย Music
Hopping “Harmony & Art Performance” ชมฟรีคอนเสิร์ตกับศิลปินชื่อดัง
เจนนิเฟอร์ คิ้ม, บุรินทร์, ตู่
ภพธร, ลานนา คัมมินส์, นุนิว
(NU NEW), THE TOYS, ไม้เมือง, เขียนไขและวานิช
และการแสดงของศิลปินท้องถิ่นเชียงใหม่ อย่าง คณะสุเทพการบันเทิง, พาวิน หนึ่งเดอะสะล้อ, Worthless Boy, The Bundit Boy, Chiangmai
Blues, สภาพสุภาพ, LAWN, The Funckster, Money Shelby
Bar และอีกมากมาย
จัดงานกระจายตามจุดท่องเที่ยวสำคัญทั่วเชียงใหม่
ได้แก่ เวทีหลักอยู่ตรงลานประตูท่าแพ เวที Classic Stage ตรงลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และเวที Hopping Stage กระจายไปยัง 3 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 หน้าห้างสรรพสินค้า MAYA วันที่ 20-22 กันยายน 2567 จุดที่ 2 ลาน More
Space วันที่ 23-26 กันยายน 2567 จุดที่ 3 ลานข้างโรงแรมดุสิตดีทู
เชียงใหม่ไนท์บาซ่า วันที่ 27-29 กันยายน 2567
ชมการลงทุนนำเสนอความอลังการประดับตกแต่งซุ้มไฟบนถนนทั่วเมืองเชียงใหม่
และ Art Installation รวมทั้งแจกของที่ระลึกและดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการ
โรงแรม/ที่พัก ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ที่พร้อมมอบให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน
พิกัดที่
3 ภาคตะวันออก : “Chonburi International Music Festival in the Rain @Pattaya” จังหวัดชลบุรี วันที่ 20 – 22 กันยายน 2567 และวันที่ 27 – 29 กันยายน 2567 เวลา 17.00 – 23.00 น. ที่ชายหาดพัทยากลาง จ.ชลบุรี เปิดพื้นที่ริมชายหาดจัดเทศกาลดนตรี
3 เวที 3 แนวเพลง รอความสนุกจากเสียงดนตรี
3 เวทีใหญ่ Colorful Burapha Stage, Chonburi Jazz
& Chill Stage, Pattaya Dance Stage นำทัพศิลปินยอดนิยมตลอด
6 วัน รวมกว่า 50 คน เช่น TILLY
BIRD, สิงโต นำโชค, PAPER PLANES, LOMOSONIC,PARADOX,
BOWKYLION, PALMY, THE TOYS, TILLY BIRD, F.HERO และ ZOM
MARIE สนุกสุดมันส์กับ DJ ชื่อดังระดับ International
และ Thai Local ที่จะมาสร้างสีสันและเสียงเพลงตลอดการจัดงาน
ไฮไลต์ต้องรอชม
“การแสดงพลุดอกไม้ไฟ” ทุกวัน ที่เวทีกลาง แล้วก็อิ่มอร่อยกับ 60 ร้านอาหารเด็ด ซีฟู้ดสุดพรีเมี่ยม ชวนนักท่องเที่ยวรักษ์โลกกับกิจกรรมทำของที่ระลึกจากขยะพลาสติกทะเล
พิกัดที่
4 ภาคกลาง : “The River of
Time สายน้ำแห่งกาญจน์เวลา” วันที่ 22 - 30 กันยายน
2567 เวลา 16.00 – 23.00 น.
โรงงานกระดาษไทย จ.กาญจนบุรี มาพร้อมการแสดงแสงเสียง 3D Mapping บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตผ่านสายน้ำ มีบริการฟรีนั่งรถท้องถิ่นเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติวันละ
300 คน ชอปปิ้งตลาดวินเทจมาร์เก็ต ฟังเพลงเพราะจากศิลปิน PALMY,
เจ เจตริน, อ๊อฟ ปองศักดิ์, วง MEAN, NO ONE ELSE, GETSUNOVA, และ INDIGO
สายผจญภัยต้องลองทำในโซน
Sup Station มีกิจกรรมพายซับบอร์ด สอนการเล่น Sup
หรือกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจอื่น ๆ
ชมนิทรรศการย้อนรอยประวัติศาสตร์กาญจนบุรีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จิบกาแฟ
แลประวัติศาสตร์ จากผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟ
พิกัดที่
5 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ :
“เสน่ห์อีสานม่วนซื่น ณ ขอนแก่น” วันที่ 25-29 กันยายน 2567
เวลา 14.00 – 24.00 น. บริเวณลาน บขส.3
จ.ขอนแก่น ม่วนซื่นกับหมอลำชื่อดัง อีสานนครศิลป์, ระเบียบวาทะศิลป์, ประถมบันเทิงศิลป์, แอน อรดี คณะหมอลำใจเกินร้อย และสาวน้อยเพชรบ้านแพง มาแล้วต้องได้ทำกิจกรรม
Khonkraft Showcase เอาใจผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะกับอีสานคราฟท์
เสิร์ฟแบบไม่ยั้งอาหารเมนูเด็ดท้องถิ่นและไทยฟิวชั่นกว่า 80 บูธ
และกิจกรรมพิเศษ “เสน่ห์ม่วนซื่น ฟรีทัวร์” กิน เที่ยว ช้อป โดยร่วมกับห้างสรรพสินค้า
โรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหารในพื้นที่ จัดอย่างยิ่งใหญ่ตลอดสัปดาห์สุดท้ายเดือนกันยายนนี้
สุขภาพ
–3วิธีลดโซเดียมด่วนๆ
หลังกินเค็มโดยไม่ได้ตั้งใจต้องแก้ไขทันที
โซเดียม เป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย
ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและความดันโลหิต แต่การบริโภคโซเดียมมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคไต
และโรคหัวใจ พบบ่อยในคนไทย เพราะในชีวิตประจำวันมักบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูงโดยไม่รู้ตัว
ร่างกายต้องการโซเดียมเท่าไหร่ต่อวัน? ปริมาณที่พอเหมาะคือ
1,500-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน
หรือเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา
เทียบกับน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชา
หากบริโภคเกินกว่านี้ จะเสี่ยงเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคไต โรคหัวใจ
ความดันโลหิตสูง
โซเดียมพบได้ในอาหารหลายประเภท
เช่น “เครื่องปรุงรส” น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสหอยนางรม ปลาร้า “อาหารแปรรูป”
อาหารสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ อาหารกระป๋อง “เบเกอรี่” ขนมที่ใช้ผงฟู เช่น ขนมปัง เค้ก “เครื่องดื่มเกลือแร่” นักกีฬา หรือ คนทั่วไป
แนะนำ 3
วิธีลดโซเดียมออกจากร่างกาย
เมื่อกินเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ต้องรีบแก้ไขป้องกันสุขภาพพัง ดังนี้
วิธีที่
1 ดื่มน้ำตามมากๆจากคำแนะนำของ Brierley Horton ผู้อำนวยการศูนย์โภชนาการของเว็บไซต์ Cooking
Light.com อาหารรสเค็ม รวมไปถึงอาหารรสจัด
จะทำให้ไตของคุณทำงานหนักมากขึ้น
ดังนั้นการดื่มน้ำเข้าไปในร่างกายมากขึ้นอีกเล็กน้อบ
จะช่วยให้ไตของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และของเหลวที่เพิ่มมากขึ้นในร่างกายยังช่วยไม่ให้ร่างกาย
และใบหน้าของคุณบวมอีกด้วย
วิธีที่
2 ออกกำลังกาย ยังไม่สายไปที่จะกินแล้วรีบออกกำลังกายเผาผลาญพลังงานจากอาหารเหล่านั้นออกไปซะ
โดยเฉพาะการลดโซเดียมที่จะถูกร่างกายขับออกมาผ่านเหงื่อที่ไหลออกมาระหว่างการออกกำลังกายนั่นเอง
อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่าให้ร่างกายขาดน้ำก่อน และระหว่างออกกำลังกายด้วย
คนที่มีอาการอย่างที่กล่าวไว้ในตอนแรก
ว่าหากทางอาหารรสเค็ม หรืออาหารรสจัด แล้วมีอาการต่างๆ มากกว่าแค่หน้าบวม เช่น
ตัวบวม ใจเต้น ใจสั่น ปวดศีรษะ กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทางออกให้กับร่างกายของตัวเองอย่างถูกต้อง
เพราะคุณอาจมีปัญหาในการรับโซเดียมที่ทำให้หัวใจ ไต ระบบไหลเวียนโลหิต
และระบบอื่นๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติไปก็ได้ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นอย่าประมาทเด็ดขาด
วิธีที่
3 เลือกกินอาหารที่ช่วยลดโซเดียม เช่น แตงกวา : มีน้ำเยอะและช่วยขับน้ำส่วนเกิน แตงโม
: ช่วยปรับสมดุลของเหลวในร่างกายและขับโซเดียม กล้วย : มีโพแทสเซียมสูง
ช่วยลดอาการบวมน้ำ หน่อไม้ฝรั่ง : มีกรดแอสพาราจีน ช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย ฟักเขียว
: ขับปัสสาวะและช่วยลดอาการบวม ทั้งหมดสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–เวียตเจ็ทไทยฉลอง8ปีขายตั๋วบินใน/ต่างประเทศราคา8บาท
เวียตเจ็ทไทยแลนด์ รายงานว่า ได้จัดฉลองบริการในไทยครบ
8 ปี ด้วยการมอบโปรโมชั่น “สุขสันต์ 8 ปี
ปล่อยโปรฯ ดี เหมา 8 วัน (8th Anniversary Mega Sale)” ขายตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง
8 บาท (ราคาไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม) เปิดให้จองซื้อทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ
ทางเว็บไซต์ ที่ th.vietjetair.com ระหว่างวันที่
12 – 19 กันยายน 2567 แล้วนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่
1 ตุลาคม 2567 ข้ามปีไปจนถึง 31
พฤษภาคม 2568 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ทางเวียตเจ็ทไทยแลนด์ โดยสารราคาโปรโมชั่นนี้เลือกจองเที่ยวบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์
เส้นทาง “ภายในประเทศ”ครอบคลุมทุกภาคของประเทศ ได้แก่ สนามบินหลักจากกรุงเทพฯ
(สุวรรณภูมิ) ไป-กลับ “ภาคเหนือ” เชียงใหม่ เชียงราย “ภาคใต้” ภูเก็ต กระบี่
หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี “ภาคอีสาน” อุดรธานี ขอนแก่น และอุบลราชธานี และเส้นทางบินข้ามภาค ภูเก็ต
ปลายทางเชียงใหม่ และเชียงราย
เส้นทางบิน
“ระหว่างประเทศ” ไป-กลับ สนามบินหลักจาก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ปลายทางยอดนิยมอย่าง เวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน ฟูกูโอกะ (ญี่ปุ่น) ไทเป(ไต้หวัน) พนมเปญ(กัมพูชา) สิงคโปร์ รวมถึงเส้นทางบินตรงจากภาคเหนือ
เชียงใหม่ ไปยัง โอซาก้า (ญี่ปุ่น)
ขณะนี้เวียตเจ็ทไทยแลนด์ พร้อมเปิดให้ผู้โดยสารทุกคนเข้าไปเลือกเที่ยวบินเพื่อซื้อตั๋วโดยสารราคาพิเศษ
8 บาท/เที่ยวได้ทางเว็บไซต์ www.vietjetair.com แอปพลิเคชัน
“Vietjet Air” หรือ www.facebook.com/VietJetThailand (คลิกที่แถบ
“จองเลย”) และตัวแทนจำหน่ายหรือสำนักงานจำหน่ายบัตรโดยสาร ผู้โดยสารชำระเงินด้วย
“ทรูมันนี่ วอลเล็ท” และบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต ก็ได้ตามวิธีที่สะดวกของแต่ละคน
@เวียดเจ็ทไทยแลนด์ครองใจผู้โดยสารเมืองไทย28ล้านคน
เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เริ่มเปิดให้บริการบินเชิงพาณิชย์ในเมืองไทยครั้งแรกเมื่อกันยายน
2559 มาจนถึงปัจจุบัน ครบ 8 ปี
ช่วงเริ่มต้นมีฝูงบินเพียง 3 ลำ ปัจจุบันลงทุนขยายฝูงบินเติบโตขึ้นมาก
พร้อมมีเครือข่ายเส้นทางบินทั้งในและต่างประเทศรวม 21
เส้นทาง มีผู้โดยสารไทยและต่างชาติใช้บริการรวมแล้วกว่า 28
ล้านคน
ปี 2567 เวียตเจ็ทไทยแลนด์ก้าวสู่ปีที่ 8
พร้อมจะให้บริการอย่างมั่นคงและยอดเยี่ยม
เน้นย้ำให้บริการด้วยความสนุกสนานเป็นมิตร ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย
ตรงต่อเวลา นำเสนอราคาตั๋วโดยสารที่เข้าถึงได้ รวมทั้งยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายเส้นบินสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยมทั่วเอเชียแปซิฟิก
มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพบริการผสานนวัตกรรมขั้นสูงเพื่อยกระดับการเดินทาง และขยายฝูงบินด้วยเครื่องรุ่นใหม่ทันสมัยเพื่อให้ผู้โดยสารสัมผัสประสบการณ์ดีที่สุด
พร้อมจะกลับมาใช้เวียตเจ็ทไทยแลนด์อย่างต่อเนื่องตลอดไป
ข่าวที่สอง
-ท่องเที่ยวลุ้น3เดือนสุดท้ายปั๊มรายได้ต่างชาติเพิ่ม1ล้านล้าน
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานว่า
สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างประเทศมาเมืองไทย เข้าสู่สัปดาห์แรกของเดือนที่ 9 ระหว่างวันที่
1 มกราคม – 8 กันยายน
2567 มีนักเดินทางสะสมรวมทั้งสิ้น
24,174,056 คน (จากเป้าหมายทั้งหมด 39 ล้านคน)
สร้างรายได้ 1,135,748 ล้านบาท (ช่วง 3 เดือนสุดท้าย กันยายน-ธันวาคม 2567 ต้องทำเพิ่มเกิน
50 % เพื่อให้ถึงเป้าหมายตลอดปีตั้งไว้
2 -2.5 ล้านล้านบาท)
สถิติมีนักท่องเที่ยวจำนวนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 สาธารณรัฐประชาชนจีน
4,895,707 คน อันดับ 2 มาเลเซีย 3,364,847 คน อันดับ
3 อินเดีย 1,403,169 คน อันดับ
4 เกาหลีใต้
1,279,415 คน อันดับ 5 รัสเซีย 1,100,970 คน
เฉพาะวันที่ 2-8 กันยายน
2567 ภายในสัปดาห์เดียวมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาเมืองไทย
2 กลุ่มตลาดหลัก
ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ตลาดระยะไกล
(Long haul) เดินทางข้ามทวีปมีสัญญาณการฟื้นตัวกลับมเดินทางเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน
9.22 % คาดกำลังซื้อกลุ่มนี้จะเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคมนี้
กลุ่มที่ 2 ตลาดระยะใกล้
(Short haul) ลดลง 5.04 % เนื่องจากหลายประเทศเริ่มเข้าสู่สิ้นสุดการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดต่อเนื่องทั้งมาเลเซีย
เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ
ทำให้ภาพรวมตลอดสัปดาห์ที่ 2-8 กันยายน
2567
มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศรวมทั้งสิ้น 533,851 คน
ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 9,602 คน หรือคิดเป็น 1.77 % เฉลี่ยมีวันละ
76,265 คน สถิตินักท่องเที่ยวที่ยังเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 สาธารณรัฐประชาชนจีน
97,248 คน อันดับ 2 มาเลเซีย 86,146 คน อันดับ
3 อินเดีย 33,728 คน
อันดับ 4 เกาหลีใต้
26,250 คน อันดับ 5 ญี่ปุ่น 21,850 คน
เพิ่มขึ้น 7.98 % ส่วน จีน อินเดีย มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ทุกประเทศปรับตัวลดลงเล็กน้อย
แนวโน้มสัปดาห์ถัดไป ระหว่างวันที่ 9-15 กันยายน
2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
คาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยยังคงมีแรงกระตุ้นการเดินทางจาก
2 ปัจจัย
คือ ปัจจัยที่ 1 การเดินทางท่องเที่ยวก่อนมีวันหยุดต่อเนื่อง
4 ตลาดใหญ่
ได้แก่ มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน ปัจจัยที่ 2 มาตรการ Ease of traveling นโยบายรัฐบาลไทยช่วยอํานวยความสะดวกต่างชาติเข้าไทยได้ง่ายขึ้น
บริเวณด่านทางบกได้รับการยกเว้นบัตร ตม.6 และทางอากาศสายการบินทยอยเร่งเปิดเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งจากเส้นทางระยะใกล้ในอาเซียน
เอเชีย และระยะไกลข้ามทวีปจากยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง
จึงจะเป็นแรงเสริมที่ดีกับการท่องเที่ยวภาพรวมของไทย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น