ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.สำเร็จเกินเป้าปี61บุกATF2019ผนึกอาเซียนทำท่องเที่ยวอย่างรัลบผิดชอบ-ทัวร์บุญพุทธสุทธาวาส จ.ลำปาง

ผู้นำ ททท.ดันท่องเที่ยวโกยความสำเร็จเกินเป้าปี’61
เปิดแผนใหม่ผนึกอาเซียน3โปรเจ็กต์ใน ATF 2019
คิงเพาเวอร์ชูเคาน์ดาวน์มหานครสกายวอล์ค31ธ.ค.
ททท.เจาะตลาดฮานอยรุ่นใหม่แห่เที่ยวเหนือปี’62
บางจากชวนสมาชิกบัตรรับบริการเช็ครถ11รายการ
TCEBควงกทม.ทุบสถิติคว้าอันดับ2ไมซ์ยั่งยืนเอเชีย
ทอท.เคลียร์6สนามบินรับผู้โดยสารปีใหม่3.18ล้าน
สุวรรณภูมิบริการฟรีSuttle bus2สายปีใหม่ 7 วัน
เที่ยวทางบุญสายใหม่ช่วงหน้าหนาวเมืองรองลำปาง
ชวนทำ 3 ขั้นตอนเปลี่ยนสุขภาพใหม่ต้อนรับปี’62
หยุดยาว5วันท่องเที่ยวทำเงินสะพัด 4.7 หมื่นล้าน
ดุสิตลด 40% ฉลองเปิดแบรนด์ดีทูอ่าวนาง-ภูฎาน
โรงแรมอินดิโก้ชูจุดขายใหม่@work on Wireless

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97

ช่วงที่ 1 ส่งท้ายปีด้วยข้อมูลเจาะลึก “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ททท.เผยความสำเร็จของท่องเที่ยวปี’61 นำรายได้เข้าเป้า 3 ล้านล้าน สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เที่ยวไทยทำเงินทะลุ1 ล้านล้านเป็นปีแรก รุกใหญ่ปี’62 กระจายเงินทัวร์ต่างชาติไหลเข้าเมืองรอง ชุมชน เที่ยววันธรรมดา นำทัพรัฐ-เอกชน บุกมหกรรม ATF 2019 ประกาศเป็นผู้นำชวนอาเซียนทำ 3 โปรเจ็กต์ “ท่องเที่ยวเกื้อกูล-เที่ยวอย่างรับผิดชอบลดพลาสติก-เปิดเส้นทางทัวร์อาหารอาเซียน” หนุนนโยบายพลเอกประยุทธ์ประธานอาเซียน และเปิดโครงสร้างใหม่ตั้งรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว



ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตลอดปี 2561 การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศโดยมีความมั่นใจการทำตลาดเชิงรุกทั้งในประเทศและต่างประเทศจะทำรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าเป้าหมาย ถึงจะแม้มีเหตุการณ์เรือล่มนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตสร้างความกังวลในหลายฝ่าย แต่ไทยก็สามารถผ่านอุปสรรคมาได้

สถิติล่าสุด ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยแล้ว 36.3 ล้านคน เพิ่ม 7 % ในช่วงที่เหลืออีก 13 วันสิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม ปีนี้จะทำได้ถึง 38 ล้านคน รายได้มกราคม-พฤศจิกายน 1.81 ล้านล้านบาท เพิ่ม 10 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา และรายได้ก็จะได้ตามเป้าหมาย 2 ล้านล้านบาท

ส่วนตลาดในประเทศ 1 ล้านล้านบาท เป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ที่จะทำรายได้จากการท่องเที่ยวไทยได้ทะลุ 1 ล้านล้านบาท โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 167 ล้านคน-ครั้ง สูงกว่าเป้าหมาย 7 ล้านคน-ครั้ง จากเมื่อต้นปีงบประมาณตั้งไว้เพียง 160 ล้านคน-ครั้ง

ทั้งตลาดต่างประเทศและในประเทศ ประจำปี 2561 เข้าตามเป้าทั้งหมด



การกระจายเม็ดเงินรายได้ ช่วงแรกยอมรับเรื่องเม็ดเงินระยะแรกยังไม่ได้กระจายไปสู่ 55 เมืองรอง แต่หลังจากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นด้วยการนำใบเสร็จจากการใช้จ่ายระหว่างเดินทางท่องเที่ยวมาใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ก็ทำให้เห็นผลชัดเจนมีคนไทยเที่ยวเมืองไทยกระจายสู่เมืองรองเติบโตเพิ่มขึ้นจากปกติ 4-5 % และบางเมืองเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ย 9-10 %

ตลาดต่างประเทศจะสอดคล้องกับข้อมูลของ Expedia เว็บไซต์ออนไลน์อินเตอร์ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจองผ่าน 30 % พุ่งเป้าจองท่องเที่ยวเมืองรอง ไปยัง เชียงราย ตราด สตูล หลีเป๊ะ

ปี 2562 การวางกลยุทธ์เพิ่มจุดขายท่องเที่ยวเมืองรอง ชุมชน และกระจายตัวเที่ยววันธรรมดา ภาพรวมมุ่งสร้างการท่องเที่ยวยั่งยืน ดังนั้นจะเร่งส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองอย่างต่อเนื่อง หลายจังหวัดเมืองรองได้รับผลดี เชียงราย จันทบุรี ราชบุรี จะส่งเสริมนอกฤดูท่องเที่ยว วันธรรมดา เพราะจะพึ่งตลาดต่างประเทศก็อาจจะไม่สมดุล



รวมทั้งจะใส่ใจถึงกลุ่มเป้าหมาย ผู้หญิง ผู้สูงวัย และแก้ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการเพิ่มขีดความสามารถระยะยาวของท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ควบคู่กับการกระตุ้นให้พี่น้องคนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น จะพยายามรักษาฐานรายได้ไว้ที่ 1 ใน 3 เป็นภารกิจพยายามทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งยั่งยืนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

ปลายปีนี้ ททท.มีของขวัญปีใหม่มอบจากใจคน ททท.ประกอบด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่


กิจกรรมแรก จัดงาน Shopping and Dining ย้ายจากเดิมจัดกลางปีนำมาจัดในช่วงปลายปีนี้ บริเวณตะเข็บชายแดน แม่สอด จ.ตาก อุดรธานี ช่องจอม จ.สุรินทร์ อรัญญประเทศ จ.สระแก้ว ระดมสินค้าที่อยู่ในความสนใจเป็น ไทยแลนด์ ท็อป แบรนด์ ต่าง ๆ เพิ่มการใช้จ่ายเงินจากนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติในรอยต่อเพื่อนบ้านมากขึ้น

กิจกรรมที่ 2 จัดเคาน์ดาวน์พื้นที่ต่าง ๆ แบ่งเป็นพื้นที่ที่ ททท.ให้การสนับสนุนตามหัวเมือง และในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และเพิ่มเติมเป็นการจัด Amazing Thailand เมืองรอง 4 จังหวัด เชียงราย นครพนม สตูล ราชบุรี



กิจกรรมที่ 3 จับมือ TQM อินชัวรันซ์ มอบฟรีกรมธรรม์เดินทางท่องเที่ยวปลอดภัยช่วงปีใหม่ มูลค่าการคุ้มครอง 100,000 บาท ฟรี 100,000 ราย ขณะนี้ยังคงสามารถเข้าไปลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิดังกล่าวได้ เพราะสะดวกสบาย @line TQM พร้อมกรอกรายละเอียดก็ได้รับการคุ้มครองแล้ว และมีแนวโน้มปลายปีนี้ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางไม่ต่ำกว่า 2.7 ล้านคน

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ปี 2562 ไทยได้รับเลือกให้เป็นประเทศเจ้าภาพอาเซียนโดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานอาเซียน ในภาคของการท่องเที่ยวจะต้องทำเรื่องที่มีความสำคัญนำความโดดเด่นเรื่อง


1.การท่องเที่ยวแบบเกื้อหนุนกัน (collaborative) ไทยจะมองภาพอาเซียนเป็นภูมิภาคเดียวกัน ทำ Single VISA กระตุ้นการเดินทางแลกเปลี่ยนภูมิภาค ตามนโยบายนายกรัฐมนตรีให้ทำ Two Country One Destination และ Single Region ควบคู่กันไป ทำให้เกิด Tourism for All



2.เป็นผู้นำอาเซียนในบทบาทประเทศไทยทำให้ทุกประเทศส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อการเพิ่มขีดความสามารถในระยะยาว ททท.โดยรัฐบาลไทยจะเสนอให้อาเซียนขานรับนโยบายการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบดังนั้น นำร่องโดยขอให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วภูมิภาคอาเซียนลดการใช้พลาสติกลง ซึ่ง ททท.ริเริ่มทำมาแล้วปี 2561

ททท.จะเสนอใน 2 เรื่องดังกล่าวในเวทีการเป็นประเทศประธานอาเซียนปี 2562

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่าในเวที ASEAN TOURISM FORUM 2019 ระหว่างวันที่ 14-18 มกราคม 2562 ณ ฮาลอง เวียดนาม จะนำทัพภาครัฐและเอกชนโปรโมตการท่องเที่ยวใน 2 ส่วน คือการท่องเที่ยวแบบเกื้อหนุน และการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ รวมทั้งเพิ่มโครงการชูเรือธงการท่องเที่ยวเชื่อมโยงสามารถทำร่วมกันแล้วขายได้ เช่น การท่องเที่ยวเชิงอาหาร : gastronomy Tourism จะบูมและแสวงหาความร่วมมือดังกล่าว

ตลาดอาเซียนมีความสำคัญต่อประเทศไทยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวปีละกว่า 10 ล้านคน ททท.เล็งเห็นถึงการเติบโต เพราะการเดินทางง่ายสะดวกสบายทั้งทางอากาศ ทางบก อีกทั้งเป็น 1 ในยุทธศาสตร์สำคัญต่อการกระจายนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน เพื่อสร้างความสมดุลมากขึ้น ตอนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มแต่รายได้ยังเพิ่มน้อย
ดังนั้น ททท.จะต้องเน้นกลยุทธ์ 1.เพิ่มรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวอาเซียนเฉลี่ยต่อคนต่อทริปให้สูงขึ้น เน้นท่องเที่ยวชุมชน เมืองรอง และโปรดักซ์ที่มีศักยภาพต่อการกระตุ้นให้ใช้จ่ายเงิน เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงการศึกษา มาโปรโมตให้มากขึ้น 2.ทำให้นักท่องเที่ยวอาเซียนมองไทยเป็นประเทศท่องเที่ยวเกรดพรีเมี่ยม สามารถเดินทางเข้ามาได้บ่อยที่สุดไม่เฉพาะช่วงวันหยุด Weekend เพียงอย่างเดียว แต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดนใจระดับไฮเอนด์ จึงต้องพยายามกระตุ้น 2 เรื่องนี้มากที่สุด

โดยจะใส่เครื่องมือทางการตลาด ให้ข้อมูลข่าวสาร โรดโชว์ KOL-Key Opinion Leader  การทำแฟมทริปเฉพาะเจาะจง เข้ามา ซึ่ง ททท.วางกลยุทธ์ตลาดต่างประเทศโดยพุ่งเป้าทำเรื่องการเจาะเข้าถึงลูกค้าในตลาดกลุ่มเป้าหมาย หรือ segmentation ต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ผนวกกับกระบวนการต่าง ๆ ที่ปรับตัวตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อรับมือกับภาวะตลาดโลกที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว ไม่เฉพาะไทยแต่อีกหลายประเทศก็อาจะได้รับผลกระทบดังกล่าว

หน้าที่ของ ททท.ต้องพยายามพยุงรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศ ต่างประเทศ และเพิ่มรายได้จากตลาดอาเซียนอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อเป้าหมาย


สำหรับโครงสร้างใหม่ของ ททท.ในการเพิ่มด้านดิจิตอลและวิจัยพัฒนา ขานรับนโยบายรัฐบาล ในเรื่องการท่องเที่ยว 4.0 และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเห็นดิจิตอล ทรานฟอร์เมชั่น ให้รัฐวิสาหกิจ จึงเป็นการตอบรับในภารกิจ TAT digital นำกระบวนการทางการตลาดด้วยคอนเซ็ปต์ DOM- digital Organization Marketing เพิ่มมากขึ้น ทั้งการให้ข้อมูลข่าวสาร รูปแบบการทำตลาดท่องเที่ยว และเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ ต้องถูกเปลี่ยนไปอย่างไฮเทคโนโลยีทันเหตุการณ์
รวมทั้งฝ่ายใหม่นี้จะต้องนำพา ททท.ไปสู่การจัดระบบ Big Data ได้ด้วย เพื่อนำไปสู่การสร้างฐานข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว การวางแผนตลาดอย่างแม่นยำและตรงจุด อย่างมากด้วย

ททท.มีความตั้งใจโดยหารือร่วมกันมาแล้ว แพลตฟอร์มออนไลน์ การเชื่อมโยง portal เข้ากับการค้นหาข้อมูลใน google และอื่น ๆ ซึ่งภายในปี 2562 จะปรากฎรูปโฉมบริการใหม่จากฝ่ายดิจิตอลวิจัยและพัฒนาอย่างเข้มข้น สำคัญที่สุดเมื่อเปิดตัวออกมาแล้วจะต้องทำให้ทุกคนทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาใช้บริการอย่างแน่นอน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์จัดเคาน์ดาวน์มหานครสกายวอล์ค2แพกเกจ31ธ.ค.”




กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดส่งท้ายปีเก่า เคาท์ดาวน์ ปีใหม่ 2562 โดยการสร้างประสบการณ์ความแปลกใหม่บนยอดตึกระฟ้า “มหานคร สกายวอล์ค” คิง เพาเวอร์ มหานคร ในค่ำคืนที่ 31 ธันวาคม 2561 ก้าวข้ามคืนไปถึงวันที่ 1 มกราคม 2562 พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมความงาม และพลุทั่วฟ้าของกรุงเทพฯ ในค่ำคืนสุดท้ายบนจุดชมวิวที่สูงที่สุด เพลิดเพลินกับกิจกรรม ดนตรี และอีกมากมาย พร้อมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ไปด้วยกัน ณ ชั้น 74 และ 78 ที่เห็นวิวกรุงเทพมหานครแบบ 360 องศาในค่ำคืนที่มีพลุเต็มท้องฟ้าที่สวยที่สุดแห่งปี


โดยได้เนรมิต มหานคร สกายวอล์ค ให้เป็นสถานที่เคาท์ดาวน์ สูงสุดบนเส้นขอบฟ้าแห่งกรุงเทพมหานคร เฉลิมฉลองปีใหม่แบบไม่เหมือนใครกลางอากาศ จัดการแสดง โชว์ ดนตรี เกมส์ และกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดวันบนชั้น 74 และ 78 พร้อมนำเสนอแพ็กเกจสุดพิเศษ

สามารถจองตั้งแต่วันนี้ได้ที่ kingpowermahanakhon.co.th หรือ เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตร ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ มหานครสำหรับแพ็กเกจแบบกลุ่ม และแบบโต๊ะ สำรองที่นั่งล่วงหน้า  โทร. 0-2677-8721 ต่อ 4045 หรือ อีเมล์ Sales.kpmn@kingpower.com

โดยมีแพกเกจให้เลือกดังนี้

1.แพ็กเกจ ‘คิง เพาเวอร์ มหานคร รีเฟลกชั่น’ ณ ชั้น 74 จุดชมวิวภายในอาคาร  ซึ่งภายในงานตกแต่งด้วย mirror ball ที่เล่นกับการกระทบของแสงและแสงสะท้อนรอบ ๆ ห้อง
1.1 ช่วงพระอาทิตย์ตก เวลา 16.00-19.30น. ราคา 1,250 บาท/ท่าน  รวม Soft Drink  1 แก้ว พร้อมเพลิดเพลินกับวงดนตรีสด และดีเจ

1.2 ช่วงเคาท์ดาวน์ เวลา 21.00-01.00น. ราคา 2,800 บาท/ท่าน   รวม Free Flow Soft Drinks, Prosecco 1 แก้ว, Oyster Bar และคานาเป้ พบกับวงดนตรีสด ดีเจ เกมส์ และการแสดงสุดพิเศษ

2.แพ็กเกจ ‘คิง เพาเวอร์ มหานคร สกายไลน์ เคาท์ดาวน์’ ณ ชั้น 78 จุดชมวิวภายนอกอาคารแบบ 360 องศาที่สูงที่สุดในประเทศไทย

2.1 ช่วงพระอาทิตย์ตก เวลา 16.00-19.30น. ราคา 4,000 บาท/ท่าน  รวมแชมเปญ Taittinger ขนาด 375ml และคานาเป้ เพลิดเพลินกับวงดนตรีสดและดีเจ

2.2 ช่วงเคาท์ดาวน์ เวลา 21.00-01.00น. ราคาเริ่มต้น 12,000 บาท/ท่าน  รวมแชมเปญ Taittinger ขนาด 375ml  และคานาเป้ สนุกสนานไปกับโต๊ะเรืองแสง การแสดงบัลเล่ต์ชุด ‘Swan Lake’ บนพื้นกระจกลอยฟ้า การแสดงแสงสีเสียงสุดตระการตา วงดนตรีสด ดีเจ และการปล่อยบอลลูนเพื่อร่วมเคาท์ดาวน์ในเวลาเที่ยงคืน

ข่าวที่ 2 “ททท.บุกเจาะตลาดฮานอยแห่เที่ยวเหนือของไทยปี’62”


ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าได้นำทีม ททท.และเอกชนจัดมหกรรม “Amazing Thailand” รุกกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวในกรุงฮานอย เวียดนาม เดินทางเที่ยวเมืองไทยครั้งแรก (First Visit) ให้เดินทางมาเที่ยวภาคเหนือของไทยเพิ่มมากขึ้น ขานรับกับการเปิดเที่ยวบินตรงทั้งจากกรุงฮานอยและเมืองไฮฟอง มายังกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ผนวกกับปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากฮานอยมาไทยประมาณ  20 %ของเวียดนามเที่ยวเมืองไทย มีจำนวนมากเป็นอันดับ 2 รองจากโฮจิมินห์

โดยมีความชื่นชอบใช้จ่ายเงินสูงมาก ในกิจกรรมหลัก ๆ ได้แก่ การรับประทานอาหารไทย ชมแสงสียามค่ำคืน การนวดสปา ร่วมกิจกรรมงานประเพณีของไทย

ตลอดปี 2561 ททท.คาดจะมีนักท่องเที่ยวเวียดนามเดินทางมาเมืองไทยกว่า 1,050,000 คน สร้างรายได้มากกว่า 30,000 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อ13 ธันวาคม 2561 ททท. ได้จัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามครบคนที่ 1 ล้าน และมั่นใจจะส่งผลไปถึงผลต่อเนื่องที่จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเวียดนามวางแผนเดินทางมาไทยช่วงวันหยุดเต๊ด (Tet Lunar New Year) ซึ่งเป็นวันหยุดงานต่อเนื่องกัน 10 วัน ช่วงกุมภาพันธ์ 2562

สำหรับงาน Amazing Thailand  ททท.ได้จัดไปเมื่อ 22 - 23 ธันวาคม 2561 ณ ลานถนนคนเดินริมทะเลสาบ Ho Hoan Kiem กรุงฮานอย เวียดนาม เป็นครั้งแรกที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ ด้วยการระดมสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์มากมาย ควบคู่กับการจัดกิจกรรมการแสดงและสาธิตเชิงศิลปวัฒนธรรมไทยซึ่งตรงกับความสนใจของนักท่องเที่ยวเวียดนาม

ประกอบด้วย การสาธิตการปรุงอาหารไทย ขนมไทย การนวดแผนไทย การวาดร่ม  การวาดหน้าหุ่นกระบอก การแสดงมวยไทยไลฟ์โชว์ การแสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ การให้ข้อมูลข่าวสาร และเสนอขายแพ็กเกจท่องเที่ยวไทย


ข่าวที่ 3 “บางจากจัดเต็มปีใหม่สมาชิกรับสิทธิ์เช็ครถ11รายการ”



บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชวนสมาชิกบางจาก เช็ครถก่อนการเดินทาง ตรวจเช็คฟรี 11 รายการ (มูลค่าเริ่มต้น 500 บาท/ครั้ง) ระหว่างวันนี้ – 31 มกราคม 2562 เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางปีใหม่ ปลอดภัยทุกระยะทาง” เช็ครถก่อนการเดินทาง ตรวจเช็คฟรี 11 รายการ มูลค่าเริ่มต้น 500 บาท/ครั้ง

วิธีรับสิทธิ์ : แสดงบัตรสมาชิกบางจากก่อนรับสิทธิ์ ในช่วงจัดรายการระหว่างวันนี้– 31 มกราคม 2562
สิทธิ์ในการตรวจเช็ครถกับ บมจ.บางจากฯ ทั้ง 11 รายการ ประกอบด้วย 1.ตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง 2.ตรวจเช็คน้ำมันเบรก / คลัทซ์ 3.ตรวจเช็คน้ำมันเกียร์ธรรมดา / อัตโนมัติ 4.ตรวจเช็คน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ 5.ตรวจเช็คน้ำฉีดกระจก 6,ตรวจเช็คน้ำในหม้อน้ำ / ฝาหม้อน้ำ 7.ตรวจเช็คทำความสะอาดกรองอากาศ / กรองแอร์ห้องโดยสาร 8.ตรวจเช็คสายพานเครื่องยนต์ / เพาเวอร์ / แอร์ 9.ตรวจเช็คแบตเตอรี่-น้ำกลั่น / ขั้ว 10.ตรวจเช็คน้ำมันเฟืองท้าย 11.ตรวจเช็คสภาพยาง / เติมลมยาง

ข่าวที่ 4 “TCEBควงกทม.คว้าไมซ์ยั่งยืนอันดับ2ของเอเชีย”



นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่ากรุงเทพมหานครและทีเส็บ เพิ่งเข้าร่วมการจัดอันดับเป็นครั้งแรก และล่าสุดกรุงเทพมหานครคว้าอันดับ 2 ในเอเชียจากการประกวดเมืองพัฒนาไมซ์อย่างยั่งยืน The Global Destination Sustainability Index (GDS Index) 2018 โดยทางคณะกรรมการโครงการ GDS ได้พิจารณาประกอบด้วยคะแนนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ผู้ประกอบการ และองค์กรส่งเสริมการประชุม ซึ่งพบว่าคะแนนของ ทีเส็บ สูงสุดในบรรดาเมืองของเอเชียที่เข้าร่วมประกวด

“ผลการจัดอันดับดังกล่าว เป็นผลที่น่ายินดีตอกย้ำถึงประเทศไทยให้ความสำคัญกับมาตรฐานและสิ่งแวดล้อมในการประชุม ซึ่งปัจจุบัน นักเดินทางกลุ่มไมซ์ต่างให้ความสนใจด้านความยั่งยืนมาก เพราะเป็นเรื่องสำคัญของโลก นอกจากนี้ GDS ก็เชื่อมโยงอยู่กับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติด้วย การจัดอันดับครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทั้งอุตสาหกรรมไมซ์และประเทศไทยไปพร้อม ๆ กัน”

ทั้งนี้ สมาคมการประชุมระหว่างประเทศ International Congress and Convention Association :ICCA ได้จัดพิธีมอบรางวัลเมืองพัฒนาไมซ์อย่างยั่งยืนของโลกตามลำดับ 5 อันดับแรก  ได้แก่ เมืองโกเธนเบิร์ก(Gothenburg) สวีเดน เมืองโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก เมืองเรคยาวิก(Reykjavík) ไอซ์แลนด์ เมืองออสโล (Oslo) นอร์เวย์ และเมืองอุปซอลา (Uppsala) สวีเดน

อีกทั้ง GDS ได้รายงานถึงในทวีปเอเชียนั้น คะแนน 5 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับที่ 1 เมืองเกียวโต ญี่ปุ่น อันดับที่ 2 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย อันดับที่ 3 เมืองโกยาง เกาหลีใต้ อันดับ 4 เมืองซัปโปโร ญี่ปุ่น และอันดับที่ 5 เมืองดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์

สำหรับกรุงเทพมหานครได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับ 2 ของเอเชีย และอันดับที่ 21 ของโลก ผ่านการให้คะแนนตามตัวชี้วัดทั้งสิ้น4 ด้าน ได้แก่ ตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental performance) 14 ข้อ, ตัวชี้วัดด้านสังคม (Social performance)  4 ข้อ, ตัวชี้วัดด้านความสามารถของการให้บริการ (Supplier performance) 8 ข้อ และตัวชี้วัดด้านความสามารถขององค์กรสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมของแต่ละประเทศ (CVB performance) 12 ข้อ ซึ่งกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ได้คะแนนรวมทั้งสิ้น58% โดยมีคะแนนสูงสุดในด้านองค์กรส่งเสริมการประชุม
โดย TCEB มีคะแนนการดำเนินงาน 69% สูงกว่าค่าเฉลี่ยคะแนนของทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 53% เท่านั้น

ข่าวที่ 5 “ทอท.เคลียร์6สนามบินรับผู้โดยสารปีใหม่3.18ล้านคน”



ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ได้ประเมินสถานการณ์ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 จะมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการสนามบิน ทอท.ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ (ทชม.) หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (โดยประเมินตามข้อมูล ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2561) ประมาณ 3.18 ล้านคน เฉลี่ย453,600 คน/วัน เพิ่มขึ้น 11.8 % และมีเที่ยวบิน 18,300 เที่ยว เฉลี่ย2,610 เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 12.6 %

 สนามบินสุวรรณภูมิ จะมีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุด ประกอบด้วย ผู้โดยสาร 1.52 ล้านคน เฉลี่ย 217,000 คน/วัน เพิ่มขึ้น 15.3 % และมีเที่ยวบิน 8,000 เที่ยว เฉลี่ย 1,140 เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น15.3 % ขณะที่สนามบินดอนเมือง จะมีผู้โดยสาร 887,000 คน เฉลี่ย 126,700 คน/วัน เพิ่มขึ้น 11.7 % และมีเที่ยวบิน 5,400 เที่ยว เฉลี่ย 770 เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 10.2 %

ข่าวที่ 6 “สุวรรณภูมิฟรีShuttle Bus2สายภายในสนามบิน”



ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ได้ร่วมสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยให้ได้สนามบินสุวรรณภูมิ ยกเว้นค่าจอดรถลานจอดรถระยะยาวโซน C ต่อเนื่องกันตลอดวันหยุดยาว 7 วัน ระหว่าง 28 ธันวาคม 2561 - 2 มกราคม 2562 จนถึง 17.00 น. เพื่อเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้แก่ผู้ใช้บริการ ซึ่งรองรับการจอดรถยนต์ได้ 718 คัน

รวมทั้ง ทอท.สุวรรณภูมิ ได้จัด Shuttle Bus รถบริการฟรี 2 สาย ได้แก่

1. Shuttle Bus สายพิเศษ เพื่อให้บริการรับ - ส่งผู้โดยสารระหว่างบริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาวโซน C กับอาคารผู้โดยสารทุก ๆ 15 นาที รับส่งไปยังอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 5 ลงไปที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 ประตู 5 กลับไปที่ลานจอดรถระยะยาว โซน C

2. Shuttle Bus สาย A (สายปกติ) รับส่งผู้โดยสาร ไป-กลับ จากศูนย์ขนส่งสาธารณะ (Bus Terminal) ไปยังลานจอดรถระยะยาว โซน C เพื่อรับผู้โดยสารไปส่งยังอาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ประตู 3  และประตู 8 และขึ้นไปที่ชั้น 2 ประตู 5 กลับไปยังศูนย์ขนส่งสาธารณะ (

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายบริหารการขนส่ง โทร.0 2132 9511-12 และ คอล เซ็นเตอร์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง

ช่วงที่ 2 ต้อนรับทริปท่องเที่ยวรับพรกับเส้นทางทัวร์บุญปีใหม่ในเมืองรอง “ลำปาง” ปีนเขาขึ้นไปไหว้พระ “วัดพุทธบาทสุทธาวาส” หรือ “วัดพระบาทปู่ผาแดง” ต้องปีนถึง 3 ขั้น เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย และไหว้พระธาตุหลวงศักดิสิทธิ์ของเมืองรถม้า แล้วไปสนุกกับการแช่ไข่ต้มในน้ำแร่ร้อน “อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน” หรือจะไปชีลยังเขื่อนกิ่วลม ก่อนจะหันมาดูแลสุขภาพด้วย “3ขั้นตอนเปลี่ยนสุขภาพรับปี’62” สำหรับข่าวแรง ๆ ส่งท้ายปี “หยุด5วัน” ท่องเที่ยวทำเงินสะพัดทั่วไทยกว่า 47,000 ล้านบาท “ดุสิต ดี ทู” ลดสูงสุด 40 % ฉลองเปิดแบรนด์ใหม่ที่อ่าวนางและภูฎาน ส่วน “อินดิโก้” โรงแรมใจกลางสุขุมวิทเปิดจุดขายใหม่ @Work on Wireless ชูบริการเช่าพื้นที่ทำงาน จัดประชุม คิดรายชั่วโมงเริ่มแค่ 299 บาท แถมให้สิทธิเพียบกับผู้สมัครใช้รายวันและรายเดือน

@ทัวร์บุญรับพรปีใหม่ในเมืองรองลำปาง



ถนนทุกสายในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นิยมเดินทางไป สวดมนต์ข้ามคืน การไปท่องเที่ยวเมืองรอง “จังหวัดลำปาง” ช่วงฤดูหนาวแถมยังตรงกับเทศกาลปีใหม่ ต้องไป “วัดพุทธบาทสุทธาวาส หรือ วัดพระบาทปู่ผาแดง” ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ผู้พิทักษ์ขุนเขาจากการระเบิด ที่ถูกแปรเปลี่ยนเป็นภาพจำใหม่โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมภาพเจดีย์สีขาวลอยฟ้ากลางสายหมอก


สถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา วัดพุทธบาทสุทธาวาส แห่งนี้ชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้น โดยเลือกทำเลบนยอดเขามานานกว่า 10 ปี เป็นความมหัศจรรย์ เพราะนอกจากจะปกป้องยอดเขาจากการระเบิดแล้วแล้ว ทุกวันนี้ได้กลายเป็นอันซีน ไทยแลนด์ สวรรค์บนดินที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเข้าไปชมความงดงาม

ภายในวัดจะมีจุดชมย่อย ๆ 3 ชั้น ชั้นแรก เป็นที่ตั้งของวัดวัดพุทธบาทสุทธาวาส สร้างพระอุโบสถแบบล้านนา และมีเจดีย์โดดเด่นงามสง่า ชั้นที่ 2 มีรถสองแถวบริการนักท่องเที่ยวนั่งขึ้นไปต่อยังภูผาหมอก เป็นชั้นที่สองของวัด ภายในประดิษฐานพระพุทธบาท ศูนย์รวมใจชาวเมืองลำปาง ชั้นที่ 3 เดินทางเข้าไปดอยพระบาท เพื่อสักการะพระธาตุสีทองและเจดีย์สีขาว 5 องค์ บนชะง่อนหิน

ด้วยจิตศรัทธาอันมุ่งมั่นของนักท่องเที่ยว จึงทำให้วัดวัดพุทธบาทสุทธาวาสกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่ง ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกปี

จังหวัดลำปาง ยังมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมต้องห้ามพลาดอีกหลายแห่ง คือ



“อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน” มีบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติพื้นมีหินตะปุ่มตะป่ำกระจายอยู่ทั่วไปหมด นักท่องเที่ยวชอบไปแช่น้ำแร่ หรือไม่ก็ทำกิจกรรมนำไข่ลงไปต้ม โดยมีเมนูขึ้นชื่อให้ชิมคือ ยำไข่แช่น้ำแร่ บริเวณอุทยานยังมี “น้ำตก” เย็น ๆ กลางธรรมชาติให้แช่ตัวและสูดโอโซนบริสุทธิ์ได้แบบเต็มปอด รวมถึงมีถ้ำและหน้าผาสวยงามให้เลือกเที่ยวได้หลายแห่ง



“เขื่อนกิ่วลม” ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของลำปาง ตั้งอยู่กลางหุบเขา สามารถล่องแพชมธรรมชาติตามแหลมต่าง ๆ คือ แหลมชาวเขื่อน ผาเกี้ยง ผางาม และทะเลสาบสบพุ และวิถีชีวิตประมงน้ำจืดของชาวบ้านสา



“วัดพระธาตุลำปางหลวง” วัดคู่บ้านคู่เมือง สร้างด้วยศิลปะล้านนาแสนงดงาม ตามตำนานกล่าวไว้ว่า สร้างตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวพุทธศตวรรษที่ 20 เป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีฉลู

ช่วงอากาศหนาว ๆ และปีใหม่ ลองไปลำปาง สักครั้ง แล้จะรู้ว่าความสุขจากการท่องเที่ยวเมืองรองของไทยสัมผัสได้และมีอยู่จริง

@3 ขั้นตอนการเปลี่ยนสุขภาพรับปี 2562

มาเริ่มกันใหม่ในปี 2562 ด้วยการเพียงลองเปลี่ยนตัวเองให้ได้แค่ 3 ประการ เพื่อทำให้สุขภาพแข็งแรงกว่าเดิม

ขั้นตอนที่ 1 หมดยุคการนับแคลอรี่

ในช่วงที่ผ่านมา การนับแคลอรี กลายเป็นวิธีควบคุมน้ำหนักที่ได้รับความนิยม แต่ ณ ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ แนะนำว่าการกินโดยลดปริมาณแคลอรีจากความต้องการตามปกติของร่างกายเพียงเล็กน้อยกลับส่งผลดีต่อสุขภาพและช่วยให้การลดน้ำหนัก มีประสิทธิภาพมากกว่า ที่สำคัญควรพิจารณาที่คุณภาพของอาหารซึ่งเป็นที่มาของแคลอรีมากกว่าการจำกัดปริมาณแคลอรีอย่างเข้มงวดเพียงอย่างเดียว

ขั้นตอนที่ 2 ขยับวันละนิดดีกว่าโหมออกกำลัง
ในระยะ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา วงการวิทยาศาสตร์สุขภาพกล่าวว่า การนั่งนาน ๆ นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เป็นสาเหตุก่อโรคที่ทำให้คนวัยทำงานเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เพราะเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวาน ประเภทที่ 2 โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงและโรคไขมันพอกตับ ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการขยับร่างกายเพียงเล็กน้อย โดยมีข้อมูลจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Journal of American Heart Association ที่ทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างอายุ 70 – 80 ปี จำนวน 1,000 คน ดูจากอายุจะเห็นว่ามีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวร่างกายอยู่แล้ว คือ ไม่สามารถวิ่งหรือออกกำลังกายหนัก ๆ ได้กิจกรรมที่กำหนดให้ทำจึงเป็นเพียงเรื่องง่ายๆ เช่น ทำงานบ้าน ร้องเพลง เดินรอบ ๆ  บ้าน ผลลัพธ์คือ ในระยะเวลา 10 ปี กลุ่มตัวอย่าง ที่ทำกิจกรรมดังกล่าวเป็นประจำทุกวันสามารถลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้เป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุในวัยเดียวกันที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่ควร

ขั้นตอนที่ 3 ดูอ่อนเยาว์ต้องคิดบวก

ต้องบอกว่าเมื่อเกิดความรู้สึกโกรธแบบสะสมจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพในระยะยาว เนื่องจากความเครียดจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งอะดรีนาลิน หัวใจก็จะเต้นเร็วและแรงขึ้น นอกจากเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและความดันโลหิตสูงแล้ว ยังเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Journal of Psychology and Aging ศึกษากลุ่มตัวอย่างวัย 40 ปี 158 คน โดยให้คะแนนความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้สูงวัย เช่น คุณเห็นด้วยหรือไม่ว่า ผู้สูงวัยมักมีปัญหาในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และมีปัญหาด้านความทรงจำ หลังจากนั้นอีก 25 ปีต่อมา จึงสแกนสมองของกลุ่มตัวอย่างและพบว่า ผู้ที่คิดลบและมองโลกในแง่ร้ายจากการวิเคราะห์ ผลคะแนนในแบบทดสอบก่อนหน้านี้ มีปัญหาการสูญเสียปริมาณสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ซึ่งส่งผลต่อความทรงจำและมีความสัมพันธ์กับการเป็นโรคอัลไซเมอร์

โดยเฉลี่ยผู้ที่คิดลบจะตรวจพบปัญหาดังกล่าวภายใน 3 ปี ขณะที่ผู้ที่คิดบวกจะพบปัญหาดังกล่าวภายใน 9 ปีหลังการทำแบบทดสอบแสดงว่า การคิดลบทำให้สมองเสื่อมลงเร็วกว่าเดิมถึง 3 เท่า

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ไทย-เทศแห่เที่ยวปีใหม่ตลอด5วันเงินสะพัด4.7หมื่นล้าน”



ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พยากรณ์สถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  5 วัน ระหว่าง 28 ธันวาคม 2561 - 1 มกราคม 2562 นี้ ทั้งชาวต่างชาติเและคนไทยเที่ยวไทยจะทำให้เกิดรายได้กระจายสู่ทั่วประเทศ 47,430 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 9.3 % โดยเป็นผลมาจากมาตรการของภาครัฐร่วมกับแรงกระตุ้นจากฝั่งผู้ประกอบการเป็นสำคัญ

          โดยมีผลต่อเนื่องมาจากสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในเดือนธันวาคม 2561 กลับมาเติบโตตามปกติผนวกกับมีปัจจัยบวก 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของต่างชาติ 2.ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลก 3.รัฐบาลออกมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (VOA) สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเที่ยวไทย 21 ประเทศ มีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดระยะใกล้ทั้งจีนและอินเดีย ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562  ด้วย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินรายได้ของต่างชาติเที่ยวไทย ซึ่งรวมกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาก่อนและอยู่ฉลองปีใหม่จะสร้างเงินได้มากถึง 32,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0 %  ส่วน “คนไทยเที่ยวไทย” ช่วงเทศกาลปีใหม่ จะทำได้อีก 15,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9 % โดยเดินทางท่องเที่ยวหลากหลายวัตถุประสงค์ทั้งกลับไปเยี่ยมบ้าน ควบคู่กับการท่องเที่ยวทั้งในและนอกพื้นที่ รวมถึงกลุ่มวางแผนท่องเที่ยวแบบพักค้างคืนและแบบไปเช้าเย็นกลับ

ข่าวที่สอง “ดุสิตฉลองเปิดแบรนด์ดีทูอ่าวนาง-ภูฎานลดสูงสุด40%”



มร. ลิม บุน ควี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ของดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ในช่วงเปิดโรงแรมใหม่ภายใต้แบรนด์ดุสิต ดี ทู  2 โรงแรม ในจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2561 และ ยาร์เคย์ ในกรุงทิมพู  ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศภูฏาน ในวันหิมะแรกต้นฤดูหนาว 19 ธันวาคม 2561 จึงได้มอบส่วนลดพิเศษห้องพักพร้อมอาหารเช้าสูงถึง 40% สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองห้องพักได้ที่ www.dusit.com

โดยโรงแรมดุสิตดีทู อ่างนาง ได้รับการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นตามแบบแบรนด์ดุสิตดีทู  กับห้องพักจำนวน 173 ห้องในทำเลชั้นเยี่ยม ใกล้ชายหาดและย่านใจกลางเมืองในระยะเดินเพียงไม่กี่สิบก้าว ขณะที่ภายในโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องอาหารที่เปิดให้บริการตลอดวัน ล็อบบี้บาร์ สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็กแยกต่างหาก สนามเด็กเล่น ห้องออกกำลังกาย สปา และห้องจัดเลี้ยงขนาด 200 ตารางเมตร ที่นี่ยังตอบโจทย์แขกที่รักการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยไปในธรรมชาติเพราะใกล้กับทั้งแหล่งปีนเขา เดินป่า และยังสามารถจัดทริปทางเรือสั้นๆ ไปพักผ่อนที่เกาะใกล้เคียงได้อีกด้วย



ส่วน ดุสิตดีทู ยาร์เคย์ ทิมพู ประเทศภูฏาน  มีจุดชมวิวอันน่าทึ่งของเทือกเขาหิมาลัยที่ปกคลุมด้วยหิมะ เป็นโรงแรมระดับสากลแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในภูฏาน โดยผสานการบริการมาตรฐานสากลเข้ากับความเป็นท้องถิ่น ด้วยการตกแต่งภายในที่มีเสน่ห์ของศิลปะที่มีเอกลักษณ์ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้านของชาวภูฏานเรื่อง “4 สหายสามัคคี” ที่เล่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ผ่านตัวละครที่เป็นสัตว์สี่ตัวที่ใช้ความสามัคคีและมิตรภาพเพื่อร่วมมือกันเก็บผลไม้ไว้เป็นอาหาร โรงแรมแห่งนี้ประกอบด้วยห้องพักรวม 83 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันพร้อมห้องอาหารไทยรสเลิศ โรงแรมยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม อาทิ  คุนเซลโพดรัง หรือ Big Buddha วัดทาชิโชซอง สวนพฤกษศาสตร์ และ จัตุรัสกลางเมือง

ข่าวที่สาม “โรงแรมอินดิโก้ชูบริการใหม่@Work On Wirelessลดเพียบ”



โรงแรม โฮเต็ล อินดิโก้ กรุงเทพฯ ถนนวิทยุ รายงานว่า ได้เปิดให้บริการ พื้นที่ทำงานร่วมกันสุดหรูที่ 22 Steps Craft House ซึ่งได้จัดให้บริการเป็นพื้นที่ทำงาน ในชื่อ @Work On Wireless  เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้ามาใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งสะดวกสบาย เหมาะนัดประชุม พบปะ หรือเป็นสถานที่ทำงาน และผ่อนคลายกับของว่างและเครื่องดื่มต่างๆ ในระหว่างทำงาน

อัตราค่าใช้บริการไม่รวมค่าบริการและภาษี มีดังนี้ 1.แบบชั่วโมง รายชั่วโมง: 299 บาท 2.รายวัน (9 ชั่วโมง) 849 บาท 3.รายเดือน 4,699 บาท

ผู้ใช้บริการทั้งแบบรายวัน และสมาชิกรายเดือน จะสามารถใช้อินเทอร์เน็ต Wi-Fi พื้นที่จอดรถ อุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ รวมทั้งได้รับ น้ำดื่ม กาแฟสด ชา ขนมขบเคี้ยว และซิกเนเจอร์ค็อกเทลของชาร์ รูฟท็อป บาร์ (CHAR Rooftop Bar) ที่จะทำให้วันทำงานของคุณเป็นวันที่สมบูรณ์แบบ   (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการปริ๊นท์  ถ่ายเอกสาร และ Apple TV)

พิเศษสำหรับสมาชิกรายเดือน ใช้บริการที่โรงแรมอินดิโก้ ได้ คือ ฟิตเนส 2 ครั้ง/สัปดาห์ ส่วนลดบริการซักรีด 30%   ส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่ม 20% ที่ห้องอาหารเมโทร ออน ไวร์เลส  และ 22 สเต็ปส์ คราฟท์ เฮ้าส์

ทางรายการขอให้ทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดอย่างปลอดภัย
และติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์และผู้ดำเนินรายการ FM97.0 



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai