เจาะลึก "ทวีพงษ์" นำ อพท.สร้างโมเดลท่องเที่ยวชุมชนปี62-เที่ยวเมืองเลย3ภูสวย ภูกระดึง/ภูเรือ/ภูลมโล

เจาะใจ“ทวีพงษ์”ผ่าแผนอพท.โมเดลทัวร์ชุมชนปี62
ผนึก4กระทรวงใหญ่-3จังหวัดใต้บุกตลาดมาเลเซีย
คิงเพาเวอร์แจกLuckyDraw-โหมคริสต์มาส์ดีสนีย์
ททท.ปลื้มจัดรับทัวร์สิงคโปร์-เวียดนามคนที่ 1 ล้าน
บางจากคว้า3รางวัลอินเตอร์ฉลองสำเร็จส่งท้ายปี
ทอท.ถกคาร์โก้โมเดลสนามบินดูไบใช้ที่สุวรรณภูมิ
เที่ยวจ.เลย3ภูสวยสัมผัสความหนาวสุดแดนอีสาน
ศาสตร์จีนแนะอาหาร10อย่างไม่ควรกินมากเกิน
คมนาคมเคาะงบปี62เทลงทุนเฉียด 4 แสนล้าน
การบินไทยเร่งเปิดแอพThai Airwaysครบวงจร
ไทยแอร์เอเชียลุยเปิดบิน 10 เส้นทางจีน-อินเดีย
โรงแรมแคนทารีกบิลบุรีชิงจัดดินเนอร์เคาน์ดาวน์

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม  2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97

ช่วงที่ 1 ผ่าแผน ขับเคลื่อน อพท.กับ “ทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ์” รักษาการผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) “อพท.” ท่องเที่ยวโดยชุมชปี’62 สุดคึกคัก กับการทำงานแบบบูรณาการ 4 กระทรวงใหญ่ “มหาดไทย-พัฒนาสังคม-พาณิชย์-อุตสาหกรรม” นำมาตรฐานการพัฒนาความยั่งยืน 5 ด้าน 100 ข้อ ใช้กับท้องถิ่น ลุยขยายคลัสเตอร์ท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนใต้ 6 บวก 4 ชุมชน รุกเจาะตลาดมาเลเซียปีหน้า

ทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ์ รักษาการผู้อำนวยการ
 องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) “อพท.

ทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ์ รักษาการผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) “อพท.” เปิดเผยว่าในปี 2562 ทิศทางการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวโดยชุมชนที่จะขยายเป็นวงกว้างด้วยกลยุทธ์ให้ทุกท้องถิ่นรักษาอัตลักษณ์และทรัพยากรของตนเอง อพท.ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน  เพื่อเป้าหมายสูงสุดรักษาให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สร้างท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือทำให้ชีวิตของผู้คนในชุมชนดีขึ้น โดยทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่ต้นน้ำคือเลือกชุมชนที่จะพัฒนา กลางน้ำ-ใส่องค์ความรู้เข้าไปให้ชุมชน และ ปลายน้ำ ส่งต่อให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยนำไปเสนอขายในตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ปี 2562 จะใส่ความโดดเด่นบนฐานของการท่องเที่ยวชุมชนเป็นเครื่องมือการพัฒนา ด้วยการหารือกับหน่วยงานบริหารจัดการ ภายใต้คณะกรรมการ (บอร์ด) อพท.เดินหน้าตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ทั้งชุมชนกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ที่มีกระบวนการอยู่แล้ว ทาง อพท.ก็จะนำมาตรฐานการพัฒนาท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งมี 5 ข้อหลัก เข้าไปดูแลกลไกการขับเคลื่อนของชุมชนในทุกพื้นที่ต้องมีชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน

มาตรฐานแรก เครื่องมือการขับเคลื่อน ชุมชนที่ได้รับคัดเลือกจะต้องมีโครงสร้าง ประธาน และกรรมการ พร้อมการแบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างชัดเจน ทำข้อตกลงร่วมกันว่าเมื่อมีรายได้เข้ามาแล้วจะต้องจัดตั้ง “กองทุน” เพื่อดูแลรักษาพื้นที่

มาตรฐานที่ 2 สังคม 3.วัฒนธรรม 4.เศรษฐกิจ และ 5.ความปลอดภัยในบริการ

เป็นเวทีกลางในการแลกเปลี่ยนให้เกิดความรู้ความเข้าใจและความต้องการให้ตรงกัน ซึ่งนำข้อเสนอความต้องการจากชุมชนเสนอขึ้นมาแล้ว อพท.มาจัดทำรูปแบบให้สอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งเป็นแผนพัฒนาของชุมชนที่มีแผนพัฒนาของตนเอง จากนั้นก็นำมาตรฐานเข้าไป สุดท้าย อพท.ก็จะเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงให้ชุมชน

ส่วนงบประมาณพัฒนาพื้นที่ชุมชน มาจาก ส่วนแรก อพท.จัดสรร นำเรื่องจุดขายที่มีอยู่ในท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง แล้วส่วนที่ขาดต้องประมวลถึงความต้องการ เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่ดีให้ยั่งยืน โดยดูถึงความเกี่ยวข้องกับหน่วยใดก็ให้ตั้งงบเสนอไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ก็เสนอ ทรัพยากรธรรมชาติ หรือกระทรวงน้ำ และอื่น ๆ

การขยายเครือข่ายในการพัฒนาพื้นที่เชื่อมโยง AREA BASE เป็นในลักษณะคลัสเตอร์ ขณะนี้ได้แก้ไขพระราชกฤษฎีกา โดยเข้าไปดูแลเขตคลัสเตอร์ ซึ่งทางบอร์ดนำร่องให้ดูแล คุ้งบางกระเจ้า ฉะเชิงเทรา และพื้นที่พระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองมรดกโลก ในคลัสเตอร์ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนกลาง มีเรื่องเล่าขานมากมาย อพท.จะเข้าไปพัฒนาเรื่องเหล่านี้ รวมทั้ง อพท.ยังได้รับมอบหมายจากพลเอกฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล อพท.ให้เข้าไปดำเนินการ 1.พัฒนากำกับพื้นที่ต้นแบบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อที่จะลดความเหลื่อมล้ำ โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสร้างรายได้ในพื้นที่เพิ่มขึ้น 2.การพัฒนาท่องเที่ยวทางน้ำคลองดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี จะเริ่มลงมือทำปี 2562

ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อพท.จะดำเนินการร่วมกับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และราชภัฎสงขลา โดยได้เลือกพื้นที่พัฒนาจังหวัดละ 2 แห่ง ได้แก่ ยะลา 2 พื้นที่ ได้แก่ หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 และ 10  เป็นชุมชนประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์มาลายาจีนดั้งเดิมทั้งสองแห่ง มีกิจกรรมล่องแพชมเขื่อน มีความสมบูรณ์ของป่าฮาลาบาลา มีความสวยงามทางธรรมชาติ
ส่วนปัตตานี ชุมชนบางปู ต.บางปู ทำกิจกรรม ล่องอ่าวปัตตานี ลอดอุโมงค์โกงกาง ชมวิถีประมง และชุมชนบ้านทรายขาว 2 วัฒนธรรม และน้ำตก พัฒนากิจกรรมต่อยอดท่องเที่ยว และ นราธิวาส   และชุมชนวัดชลธาราสิงเหน เมืองที่มีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ และหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 ย้อนรอยประวัติศาสตร์วิถีมุสลิม และล่องแก่งแม่น้ำสายบุรี

โดยได้นำร่องนำนักท่องเที่ยวลงพื้นที่ไปสัมผัสเรื่องราวต่าง ๆ ของการท่องเที่ยวโดยชุมชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 6 แห่ง จากนั้นปี 2562 เตรียมเสนอขายเจาะตลาดมาเลเซีย เบื้องต้นพยายามให้คนใน 3 จังหวัดแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวภายในพื้นที่ด้วย และขยายผลของ อพท.ต่อเนื่องเพิ่มอีก 4 ชุมชน ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้เช่นกัน อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือกตามมาตรฐาน 5 ด้าน 100 ข้อ เพื่อปรับปรุงพัฒนาให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

การพัฒนาท่องเที่ยวโดยชุมชน อพท.ได้ทำมาตั้งแต่ปี 2553 รวมแล้ว 8 ปี ส่วนการดำเนินงานตลอด 15 ปี ในระยะเริ่มต้น 7 ปีแรก จะจำกัดอยู่เฉพาะพัฒนาท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษ จะมี เกาะช้าง พัทยา สุโขทัย เลย น่าน อู่ทอง (สุพรรณบุรี) แล้วต่อมามีพระราชบัญญัติรองรับก็ขยายมาเป็นท่องเที่ยวโดยชุมชน ถอดบทเรียนจนมีกรอบและแนวทางชัดเจน ขณะนี้ได้หารือกับทางกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมกันพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

สำหรับการท่องเที่ยวโดยชุมชน ขณะนี้มีหลายหน่วยงาน หลายกระทรวง ถาโถมเข้ามาทำท่องเที่ยว ทั้งกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กรมพัฒนาพื้นที่สูง กระทรวงพัฒนาสังคม อพท.ได้เข้าประชุมหารือร่วมกันไปแล้ว และยังมีกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม นั้น อทพ.พยายามเข้าไปให้ความรู้และความเข้าใจกับทุกหน่วยงานและชุมชนถึงเรื่องจุดยืนการทำท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการพัฒนาท่องเที่ยวโดยชุมชนจะต้องนำไปต่อยอดท่องเที่ยว จะต้องมีกระบวนการสำคัญคือ ขั้นตอน 5 ด้าน 100 ข้อ เข้าไปเป็นเกณฑ์การพัฒนา โดยยึดความต้องการของชุมชนเป็นหลัก ส่วนหน่วยงานต่าง ๆ มีหน้าที่หลักในการเข้าไปเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ขณะนี้ อพท.ได้ทำหน้าที่องค์กรประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง ที่จะเข้ามาพัฒนาท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งจะต้องคำนึงถึงชุมชนที่มีความพร้อมเข้าสู่ชุมชนท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะไม่สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ทุกชุมชน แต่จะต้องพิจารณาชุมชนที่อยู่ในระหว่างเส้นทางการท่องเที่ยวเมืองหลัก เมืองรอง ซึ่งมีความโดดเด่นทางด้านของชุมชน ทางด้านวัฒนธรรม อาหาร  สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกัน ไม่ใช่ไม่ได้ดูเรื่องการท่องเที่ยวกระแสหลักเลย

ในการเดินทางไปท่องเที่ยวชุมชน นักท่องเที่ยวควรจะปฏิบัติตนให้มีส่วนร่วมรับผิดชอบ สร้างความยั่งยืน รักษาสิ่งแวดล้อม ตระหนักถึงชุมชน เพื่อทำกิจกรรม สร้างประสบการณ์ รักษาทรัพยากร ต้องทำภายใต้บริบทกฎเกณฑ์ที่ชุมชนวางไว้ เพื่อให้ทุกฝ่ายรับผิดชอบร่วมกัน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์อัดโปรคริสต์มาสดีสนีย์-Lucky Drawปีใหม่”

เริ่มแล้ว ! บรรยากาศฉลองคริสต์มาสในงานดีสนีย์ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ได้จัด Lucky Draw Promotion วันนี้ – 31 มกราคม 2562 มอบเป็นของขวัญช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่สาขาในเมือง คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และในสนามบินที่สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ โดยให้สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ เพียงซื้อสินค้าครบทุก 5,000 บาท (สุทธิ) ลุ้นรับทริปท่องเที่ยวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พิเศษ เพียงซื้อสินค้าภายในงานดิสนีย์ รับคูปองลุ้น 2 สิทธิ์

  ส่วนผู้ถือบัตรเครดิตร่วม คิง เพาเวอร์กับธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย ไม่สามารถร่วมรายการ
จับรางวัล และประกาศผลภายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562สมาชิกที่ได้รับของรางวัลที่มีมูลค่า 1,000 บาทขึ้นไป จะต้องชำระค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5%

ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้จัดกิจกรรมไฮไลต์ ร่วมกับ บริษัท เดอะ วอลท์ ดีสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด กับความสุขสนุกสนานแบบไม่มีที่สิ้นสุดให้กับทุกท่านด้วยงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่สุดท้ายปลายปี 2018 ภายใต้แคมเปญ “คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดีสนีย์ เอนด์เลส เซเลเบรชั่นส์” ร่วมกิจกรรมและเลือกซื้อสินค้าที่เหมาะแก่การมอบเป็นของขวัญสุดน่ารักจากคอลเลกชั่นพิเศษของ วอลท์ ดีสนีย์ ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ  พร้อมทั้งมีโปรโมชั่นสุดพิเศษ เมื่อซื้อสินค้า ดีสนีย์ ครบ 3,000 บาท รับทันทีกระเป๋า Disney’s Mickey Collection ด้วยสินค้าลิขสิทธิ์คอลเลกชั่นพิเศษมากมายทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ตุ๊กตา เครื่องครัว และของใช้ต่างๆ ในร้านคิง เพาเวอร์ ทุกสาขารวมทั้ง เมกาสโตร์ (Mega Store) ที่ถนนรางน้ำ โดยไม่ต้องมีเที่ยวบินเดินทางไปต่างประเทศ

ระหว่างวันนี้-31 ธันวาคม 2561 จะมีกิจกรรม คริสต์มาสมาร์เก็ต ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสนุกพร้อมการตกแต่งประดับประดาไฟในช่วงกลางคืนอย่างสวยงาม เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คในช่วงเทศกาลสำหรับชาวกรุงเทพมหานครที่หาสถานที่ในการถ่ายรูปช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นอกจากนี้ภายใน คริสต์มาสมาร์เก็ต ยังมีขบวนพาเรดในธีมคริสต์มาส, ร้านอาหารและกิจกรรมให้ร่วมสนุกฟรี พร้อมลุ้นรับของรางวัลอีกมากมายภายในงานอีกด้วย ทั้งโดยมีมินิคอนเสิร์ตวันคริสต์มาส เริ่มตั้งแต่ค่ำคืนวันที่ 24 ธันวาคม 2561 ก็เต็มไปด้วยความสนุกและความอบอุ่นจากมินิคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง คุณโต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร และคุณมาเรียม เกรย์ อัลคาลาลี่ ที่จะมาขับกล่มบทเพลงในคืนคริสต์มาสอีฟ และร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ 2562 กับขบวนพาเหรดของดีสนีย์ กับกิจกรรมที่จะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิเช่น แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข, Sweat16, กลุ่มศิลปินวัยรุ่น ออฟ-กัน-เต-นิว และปิดท้ายคืนเค้าท์ดาวน์ด้วยกลุ่มศิลปิน 4 โพดำ นำโดย แก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น, กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ, โดม จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม และตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม  ซึ่งจะสร้างความสนุกสนานและมอบความเพลิดเพลินให้กับทุกคน ในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

ข่าวที่ 2 “ททท.เฮรับสิงคโปร์/เวียดนามครบ1ล้านคนรุกแจกเพียบ”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ในเดือนธันวาคม นี้ ได้จัดกิจกรรมต้อนรับและแจกรางวัลนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าเมืองไทย คนที่ 1 ล้าน 2 ประเทศ คือ ในวันที่ 21 ธันวาคม 2561 จะมีนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์เดินทางมาถึงเมืองไทย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดี พร้อมทั้งมอบรางวัล โดย ททท.สำนักงานสิงคโปร์ เตรียมมอบเป็นแพกเกจพักผ่อนในไทย 5 วัน 4 คืน เพื่อสร้างประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยว 3 จังหวัด ในเมืองหลักที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และ 1 เมืองรอง ในเชียงราย

โดยมีภาคีพันธมิตร 3 องค์กรใหญ่ สนับสนุนรางวัลแก่นักท่องเที่ยว ได้แก่ การบินไทย มอบตั๋วโดยสาร ไป-กลับ สิงคโปร์-กรุงเทพฯ 2 ที่นั่ง กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ มอบสิทธิประโยชน์รวมกว่า 120,000 บาท ประกอบด้วย บัตรช้อปสินค้าดิวตี้ฟรีมูลค่า 1 แสนบาท พร้อมห้องพักโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ 2 คืน และบัตรเข้าชมสกายวอล์ค คิง เพาเวอร์ มหานคร ส่วนเครือสยามพิวรรธน์ มอบมูลค่า 50,000 บาท เป็นบัตรช้อปปิ้ง One Siam Card และบัตรเอกสิทธิ์ VIZ Back Card

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิคการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ให้การต้อนรับและมอบรางวัลแก่ นางสาวเยือง ทู จาง ( Miss Doung Thu Trang ) นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย คนที่ 1 ล้าน ในปี 2561 ซึ่งเดินทางมาด้วยเที่ยวบิน TG 561 ฮานอย-กรุงเทพฯ ททท. ได้มอบแพคเกจท่องเที่ยวไทย 2 คน มีทั้งตั๋วชั้นธุรกิจ จาก  บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ไป-กลับ กรุงเทพฯ – เวียดนาม 2 ที่นั่ง  กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบบัตรกำนัลช้อปปิ้งดิวตี้ฟรี 10,000 บาท  บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มอบรถลีมูซีนเพื่อบริการรับส่งระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิถึงที่พัก อีกด้วย

เวียดนามเป็นตลาดระยะใกล้ ประชากรมากกว่า 96 ล้านคน เดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้หญิง กลุ่มหนุ่มสาววัยทำงาน สถิติปี 2560 เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย 970,000 คน สร้างรายได้กว่า 30,000 ล้านบาท
ในปี 2562 ททท. สำนักงานโฮจิมินห์กำหนดแผนการตลาดเชิงรุกในพื้นที่ภาคเหนือในเมืองหลักและเมืองรองที่มีเที่ยวบินตรงเข้าไทย อาทิ กรุงฮานอย เมืองไฮฟอง เมืองกว่างนินห์ และเมืองบริวารโดยรอบ ซึ่งประชากรมีกำลังซื้อสูง มีศักยภาพในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ มีการเพิ่มขึ้นของสายการบินต้นทุนต่ำบินตรงเข้าไทย จึงมีแนวโน้มการขยายตัวสูงและเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก

ข่าวที่ 3 “บางจากกวาด3รางวัลส่งท้ายปี’61ทั้งในและต่างประเทศ”

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่าได้รับรางวัลส่งท้ายปีถึง 3 รางวัลด้วยกัน ประกอบด้ย นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานวางแผนยุทธศาสตร์และพัฒนาความยั่งยืนองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนขึ้นรับ 2 รางวัล ในเวทีรายงานความยั่งยืน ประเภทยอดเยี่ยม (Excellence) และรางวัล Best SDGs Reporting ประจำปี 2561 ในงาน CSR Club Conference 2018 โดยมีนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทำพิธีมอบรางวัลรายงานความยั่งยืน ประจำปี 2561 (Sustainability Report Awards 2018) ซึ่งงานนี้จัดโดย CSR Club สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สำนักงาน ก.ล.ต. และสถาบันไทยพัฒน์

ทางด้าน ดร.เอนกประชา แก้วมณี วิศวกรอาวุโส ส่วนวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็เป็นผู้แทนบริษัทฯ ร่วมบรรยายแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เชิงนวัตกรรม ในหัวข้อ “Application of Industrial-Scale Membrane Technologies for Water Recycle in Petroleum Refinery”

โดยนำเสนอกลยุทธ์การจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงรุก ภายใต้แนวทางการบำบัดน้ำเสียในระดับโรงงานอุตสาหกรรม  ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิตและการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในฐานะที่บริษัท บางจากฯ เป็นองค์กรที่ตระหนักถึงความสำคัญในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมมาอย่างต่อเนื่อง

พร้อมรับรางวัล The Best Presenter & Excellent oral Presentation ในงานประชุมนานาชาติด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน (3rd International Conference on Environmental Engineering and Sustainable Development (CEESD 2018) จัดโดยสมาคมวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์แห่งเอเชียแปซิฟิค (Asia Pacific Institute of Science and Engineering (APISE) ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 2 ธ.ค.61 ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีวิศวกร นักวิชาการ และนักศึกษาจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน

ข่าวที่ 4 “ทอท.พร้อมใช้คาร์โก้โมเดลสนามบินดูไบปรับใช้ในสุวรรณภูมิ”



นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดนำคณะผู้บริหาร ทอท.ได้เข้าประชุมหารือความร่วมมือด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศกับคณะผู้บริหารของท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ โดยมี Mr. Eugene Barry  Executive Vice President of Dubai Airports

ไฮไลต์การประชุมครั้งนี้ ทอท. ได้มีโอกาสศึกษาการบริหารจัดการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางอากาศของท่าอากาศยานนานาชาติดูไบที่ถือเป็นเครือข่ายการขนส่งสินค้าที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างเอเชียกับสหภาพยุโรป เนื่องจากท่าอากาศยานนานาชาติดูไบเป็นท่าอากาศยานที่มีจุดแข็งในเรื่องของการขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยเฉพาะสินค้าเน่าเสียง่ายที่มีการนำเข้าเพื่อการบริโภคของประชากรในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และประเทศในตะวันออกกลาง โดย ทอท.จะนำมาปรับใช้ในการดำเนินโครงการจัดตั้งและบริหารงานศูนย์ตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าก่อนส่งออกของ ทอท. (Certify Hub) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต่อไป

ช่วงที่ 2 ลมหนาวมาแล้วเตรียมแพ็คกระเป๋าให้พร้อมสัมผัสอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศา ที่ “เมืองรองจังหวัดเลย” หนาวสุดแห่งอีสาน กับการขึ้น 3 ภูสวย “ภูกระดึง-ภูเรือ-ภูลมโล” ส่วนเรื่องสุขภาพมีข้อแนะนำจากศาสตร์จีน เรื่องการเลือกกินอาหาร 10 อย่าง ต้องไม่มากเกินไป และข่าวแรงประจำสัปดาห์ “คมนาคม” เคาะงบปี 62 เทหน้าตัก 4 แสนล้านบาท ลงทุนทางอากาศ ทางบก “การบินไทย” ทุ่มเปิดแอพลิเคชั่น Thai Airways บริการครบวงจร “ไทยแอร์เอเชีย” ลุยเปิด 10 เส้นทาง บุกจีนกับอินเดีย “โรงแรมแคนทารี กบิลบุรี” ออกตัวแรงด้วยโปรต้อนรับปีใหม่

@หนาวนี้อีกสักครั้งเที่ยวเมืองเลยใน 3 ภูสวย

ฤดูหนาวปีนี้ จังหวัดเลย  อุณหภูมิเริ่มต่ำลงเหลือไม่ถึง 20 องศาเซียลเซส แถมเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีภูให้ชมหลายแห่งด้วยกัน ทั้งภูกระดึง ภูเรือ  โดยเฉพาะ “ภูลมโล” เป็นแหล่งชมนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระขนาดใหญ่ของเมืองไทยกระจายอยู่ในพื้นที่หุบและเนินเขากว่า 1,000 ไร่ รวมทั้งมีไร่กะหล่ำปลีสีเขียวต้นโต ๆ ของชาวเขาขึ้นเรียงรายสวยงาม สามารถกางเต็นท์นอนชมดาวยามค่ำคืนได้

ตอนนี้ “ภูกระดึง” พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบอากาศหนาวกันแล้ว ที่สนุกก็คือการผจญภัยในการพิชิตภูสูงแห่งนี้ ด้วยการเดินเท้าปีนขึ้นไปชมความงดงามของธรรมชาติ รายล้อมด้วยต้นสน เมเปิ้ล สัตว์ป่านานาชนิด และจุดชมวิวหน้าผาต่าง ๆ อาทิ ผานกแอ่น ผาเหยียบเมฆ ผาจำศีล ผาแดง ผาหมากดูก

ส่วน “ภูเรือ” เป็นภูเขารูปร่างคล้ายเรือลำใหญ่ อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีและหนาวสุดในสยาม มีลานหินให้เดินเล่น รอบ ๆ ก็มีป่าสน ดอกไม้ป่า แล้วยังมีผาโหล่น้อยเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อน หรือจะไปเล่น “น้ำตกห้วยไผ่” สูงสวยน้ำพุ่งแรงน้ำเย็นสบาย หรือจะไปลอด “ถ้ำไทร” กับ ถ้ำน้ำตก ก็เลือกได้ตามใจชอบ

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งในภูเรือคือ “วัดป่าห้วยลาด” มีอ่างเก็บน้ำตั้งอยู่กลางหุบเขา มีทั้งสถาปัตยกรรมและประติมากรรมองค์พญานาคซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่อยู่ด้วย

หรือจะเลือกไปนอนพักผ่อนใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ที่ “เชียงคาน” ก็เป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชอบมาช่วงหน้าหนาว ในเมืองเล็ก ๆ ริมแม่น้ำโขง ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตพื้นบ้าน วัฒนธรรมประเพณีพื้นเมือง อย่างการตื่นเช้าขึ้นมาปูเสื่อหน้าบ้านรอพระเดินเท้ามารับบาตรข้าวเหนียว แล้วช่วงสาย ๆ ก็ปั่นจักรยานไปไหว้พระ 9 วัด พอตกค่ำก็เดินเล่นบนถนนเชียงคาน มองหาอาหารถิ่นอร่อย ๆ รับประทาน

หนาวนี้ห้ามพลาดเที่ยวเมืองเลย ใน 3 ภูสุดสวยแดนอีสานของเมืองไทย

@ศาสตร์จีนแนะอาหาร10 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกินไป


อาหารสารพัดชนิดที่มีให้หาซื้อกันได้อย่างเสรีนั้น มีคุณประโยชน์แตกต่างกัน อีกทั้งปริมาณที่กินเข้าไปด้วย นั่นคือ ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน แต่ควรกินอยู่ด้วยความพอดี ยึดทางสายกลางเป็นหลัก เคล็ดลับการดูแลสุขภาพตามศาสตร์แพทย์จีน ว่าด้วยเรื่องอาหารการกิน 10 อย่าง ที่ไม่ควรกินมากเกิน มีดังนี้

1. ไข่เยี่ยวม้า ไข่เยี่ยวม้ามีส่วนประกอบของตะกั่วการกินไข่เยี่ยวม้าปริมาณมากๆ และบ่อยๆ อาจเกิดพิษจากสารตะกั่ว นอกจากนั้นยังทำให้การดูดซึมแคลเซียมลดน้อยลง เกิดภาวะขาดแคลเซียม ทำให้กระดูกผุได้

2. ปาท่องโก๋  กระบวนการทำปาท่องโก๋มีการใช้สารส้มเป็นส่วน ประกอบ และในสารส้มมีส่วนประกอบของตะกั่วการกินปาท่องโก๋ทุกวันจะทำให้ไตทำงานหนักในการขับสารตะกั่ว ซึ่งเป็นพิษต่อสมองและเซลล์ประสาท ทำให้เสื่อมเร็ว เป็นโรคความจำเสื่อมนอกจากนี้ย้งทำให้คอแห้ง เจ็บคอโดยเฉพาะคนที่ร้อนในง่าย

3. เนื้อย่าง  ประเภทต่างๆเนื้อที่ถูกรม ย่างไฟ จะเกิดสารเบนโซไพริน  ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง

4. ผักดอง การกินผักดอง หรือของหมักเกลือนานๆ จะเกิดการสะสมของเกลือโซเดียม ทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดโรคความดันเลือดสูง และโรคหัวใจได้ง่ายนอกจากของหมักดองยังมีสารก่อมะเร็ง แอมโมเนียมไนไตรต์

5. ตับหมู  ตับหมู 1 กิโลกรัม มีโคเลสเตอรอลมากกว่า 400 มิลลิกรัม การกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลปริมาณสูงมากๆ นานๆ จะทำ ให้หลอดเลือดแข็งตัว มีความเสี่ยง ต่อโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดทางสมอง รวมถึงโรคมะเร็งด้วย

6. ผักขม, ผักปวยเล้ง ผักขม, ผักปวยเล้งมีสารอาหารอุดมสมบูรณ์ แต่มีกรดออกซาเลตมาก จะทำให้มีการขับสังกะสีและแคลเซียมออกจากร่างกายมาก เกิดภาวะขาดแคลนแคลเซียมและสังกะสี

7. บะหมี่สำเร็จรูป บะหมี่สำเร็จรูปหลายชนิดมีสารกันบูด สารปรุงแต่งรสที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายการกินบะหมี่สำเร็จรูปบ่อยๆ จะทำให้ขาดสารอาหารและเกิดการสะสมสารพิษในร่างกาย

8. เมล็ดทานตะวัน เมล็ดทานตะวันมีส่วนประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัว การกินเมล็ดทานตะวันปริมาณมาก จะทำให้ระบบเมตาบอลิซึมของไขมันผิดปกติ ทำให้มีการสะสมไขมันที่ตับได้ เป็นอันตรายต่ออวัยวะตับ

9. เต้าหู้หมัก, เต้าหู้ยี้ กระบวนการหมักเต้าหู้ มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่ายนอกจากนี้ ยังมีสารย่อยสลายโปรตีน ไฮโดรเจนซัลไฟล์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย

10. ผงชูรส คนเราไม่ควรกินผงชูรสเกินกว่า 6 กรัมต่อวัน จะทำให้กรดกลูตามิกในเลือดสูง ซึ่งมีผลต่อการทำงานของ ประจุแคลเซียมและแมกนีเซียม เกิดอาการปวดศีรษะ ใจสั่น คลื่นไส้ นอกจากนี้ มีผลเสียต่ออวัยวะสืบพันธุ์ด้วย

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “คมนาคมทุ่มลงทุนปี’62เฉียด4แสนล้านบก-อากาศฉลุย”

กระทรวงคมนาคม รายงานการสรุปปี 2562 ได้รับจัดสรรงบงบลงทุนทั้งหมด 369,199 ล้านบาท สูงกว่าปี 2561  44,990 ล้านบาท แบ่งเป็นงบแผ่นดิน 174,935.98 ล้านบาท และงบรัฐวิสาหกิจ 194,263.06 ล้านบาท เพื่อใช้ใน 41 โครงการ ประกอบด้วย 4 ประเภท 1.โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง  17 โครงการ 2.โครงการที่รอและอยู่ระหว่างการประกวดราคา 5 โครงการ 3.โครงการที่รอนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ 19 โครงการ 4.โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 17 โครงการ

โดยเฉพาะงบสนับสนุนการลงทุนทางอากาศ 44,150.50 ล้านบาท 11.96% ทางน้ำ 5,546.61 ล้านบาท 1.50% และงานด้านนโยบาย 328.17 ล้านบาท  0.09%

ทางอากาศ จัดสรรให้ 8 หน่วยงาน คือ บริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” 29,558.55 ล้านบาท  8.01% บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 7,090.20 ล้านบาท 1.92%, กรมท่าอากาศยาน 5,388.84 ล้านบาท 1.46%  บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด 1,405 ล้านบาท 0.38% สถาบันการบินพลเรือน 466.47 ล้านบาท 0.313%, บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด 194.29 ล้านบาท  0.05% บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด 45 ล้านบาท 0.01% บริษัทไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีส์ตเอเชีย จำกัด 2.15 ล้านบาท

รวมทั้งมีของทางบก เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 17 โครงการ ได้แก่ มอเตอร์เวย์ พัทยา-มาบตพุด 20,200 ล้านบาท จะแล้วเสร็จภายในปี 2562  มอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช 84,600 ล้านบาท แล้วเสร็จปี 2563 มอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี  55,620 ล้านบาท แล้วเสร็จปี 2564 รถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น  24,326 ล้านบาท เปิดให้บริการ ส.ค.2562  รถไฟทางคู่ สายอีสาน มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 26,459 ล้านบาท เปิดให้บริการ ก.ค.2566


รถไฟทางคู่ สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน 15,718 ล้านบาท เปิดให้บริการ ก.ค.2564 เปิดให้บริการ ก.พ.2564 รถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์  5,807 ล้านบาท เปิดให้บริการ ก.พ.2564  รถไฟทางคู่ สายใต้ ช่วงประจวบ-ชุมพร 12,457 ล้านบาท เปิดให้บริการ ก.ค.2565 รถไฟทางคู่ สายเหนือ ลพบุรี-ปากน้ำโพ 21,687 ล้านบาท เปิดให้บริการ ธ.ค.2565 รถไฟฟ้าความเร็วสูง ไทย-จีน เส้นทาง กรุงเทพ-นครราชสีมา 179,412 ล้านบาท จะเปิดให้บริการปี 2565

ข่าวที่สอง “การบินไทยชูเปิดแอพใหม่ThaiAirwaysครบวงจร”

นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า การบินไทยได้พัฒนาแอปพลิเคชันใหม่โดยใช้ชื่อ “Thai Airways” เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางให้กับลูกค้า รวมทั้งเพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายในการใช้งานครั้งถัดไป เนื่องจากแอปพลิเคชันใหม่นี้จะจดจำข้อมูลการค้นหาและการเดินทางของผู้โดยสารไว้ในแอปพลิเคชันดังกล่าว นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางการให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น อาทิ การสำรองที่นั่ง การค้นหาเที่ยวบิน การชำระเงิน การเช็คอิน การตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ทั้งก่อนและหลังการเดินทาง รวมถึงโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษจากการบินไทย

สำหรับ Thai Airways Mobile Apps ที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ ได้เพิ่มการให้บริการต่างๆ อาทิ การบริการข้อมูลเที่ยวบินและแผนการเดินทาง การแจ้งเตือนวันเดินทาง การบริการข้อมูลสำหรับสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส รวมทั้ง
E-Boarding Pass แสดงบัตรที่นั่งผ่านแอปพลิเคชันเพื่อเดินทาง รวมถึงรายละเอียดเที่ยวบินผ่านสมาร์ทวอท์ช
ที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ตลอดจนบริการเสริมต่างๆ อาทิ การจองโรงแรม การจองรถเช่า และประกันเดินทาง เป็นต้น

โดยมีโปรโมชั่นพิเศษให้แก่ผู้โดยสารที่สมัครสมาชิกบัตรรอยัล ออร์คิด พลัส ตั้งแต่วันนี้ พร้อมล๊อคอิน สำรองที่นั่ง ผ่านแอปพลิเคชั่น Thai Airways Mobile Apps และเดินทางกับการบินไทย จะได้รับโบนัสไมล์สูงสุด 3,500 ไมล์ โดยดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่าน App Store สำหรับระบบ iOS และ Google Play สำหรับระบบ Android ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ข่าวที่สาม “แอร์เอเชียลุยเปิด10เส้นทางต้อนรับท่องเที่ยวปี62”

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน ไทย แอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ได้ทยอยเปิดเส้นทางบินต้อนรับปี 2562 รวม 10 เส้นทาง ปลุกกระแสการท่องเที่ยวที่มีสัญญาณเติบโตรวดเร็วใน 2 ประเทศ คือสาธารณรัฐประชาชนจีนและอินเดีย ประกอบด้วย

เที่ยวบินตรงแบบประจำ ไป-กลับ 1.เชียงใหม่-ปักกิ่ง (จีน)  7 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม 30 พ.ย. 2.เชียงใหม่-หนานชาง(จีน)   4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เริ่ม 1 ธ.ค. 3.กระบี่-มาเก๊า  4 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม 1 ธ.ค. 4.กระบี่-ฮ่องกง 3 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม 2 ธ.ค. 5.กระบี่-ฉงชิ่ง (จีน) 7 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม 7 ธ.ค.

6.กรุงเทพ-คยา (อินเดีย) 4 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม 3 ธ.ค. 7.กรุงเทพ-ภูวเณศวร (อินเดีย)  3เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม 6 ธ.ค.
8.กรุงเทพ-วิชาคาปัทนัม (อินเดีย) 4 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม 7 ธ.ค. 9.กรุงเทพ-โคลัมโบ (ศรีลังกา) 4 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม14 ธ.ค.10.ขอนแก่น-อู่ตะเภา (พัทยา) 4 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม 21 ธ.ค.2561 เป็นต้นไป

ข่าวที่สี่ “ฉลองต้อนรับวันปีใหม่รร.แคนทารี กบินทร์บุรี”

โรงแรมแคนทารี กบินทร์บุรี ร่วมส่งท้ายปีเก่า ที่ห้องอาหารแคลิฟอร์เนีย สเต็ก   ในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. อิ่มเอมใจกับบุฟเฟต์มื้อค่ำเมนูสุดพิเศษ คัดสรรความอร่อยโดยเชฟมืออาชีพ ดื่มด่ำกับไวน์ชั้นดี ในบรรยากาศแสนอบอุ่น ราคาสุทธิเพียงท่านละ 850 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา

โทร. 037-282-699 หรือที่เว็บไซต์ www.kantarycollection.com

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.