สภาท่องเที่ยวชี้ปี6255เมืองรองมาแรง เร่งรัฐปลดล็อกงบท่องเที่ยวท้องถิ่น-ทัวร์เทศกาลดอกไม้ เลย-เชียงราย-เชียงใหม่

• สภาท่องเที่ยวลุยผ่าสถานการณ์ร้อนทัวร์ไทยปี’62 
• ชี้เป้า รมว.หลังเลือกตั้ง-ขอรัฐปลดล็อกงบท้องถิ่น
•  คิงเพาเวอร์จัดฟรี“วันเด็ก”ไปสนุกกับดีสนีย์รางน้ำ
•  ททท.บูมทัวร์งานดอกไม้ปาร์คนายเลิศ21-24ก.พ. 
• บางจากชวนเติมไฮดีเซลSรับได้ทันทีคะแนน2เท่า 
• ชมงานดอกไม้หน้าหนาว”เลย-เชียงราย-เชียงใหม่ 
• ป้องกันอาการล้าจากการทำงานอย่างง่าย2แบบ 
• ครม.เวรคืนที่5จังหวัดผุดรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน 
• ชิมอาหารหน้าหนาวต้นตำรับญี่ปุ่นที่รร.ดิ โอกุระ
•  ร่วมฉลองครบ4ปีอินดิโก้กรุงเทพฯพัก4จ่าย3คืน

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97

ช่วงที่ 1 มาถอดรหัสธุรกิจท่องเที่ยวกับ “ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช” รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สถานการณ์ท่องเที่ยวปีหมูทอง 2562 เอกชนไทยจะทำให้ 55 เมืองรอง และชุมชน รุ่งเรืองได้อย่างไร เมื่อคนไทยหันมาเที่ยวในประเทศเกินกว่า 170 ล้านคน-ครั้ง และหลังการเลือกตั้งอยากได้รัฐมนตรีคุณภาพน้ำดีเลิกใช้วังวนการเมืองแบ่งเก้าอี้ตามโควต้าแบบเดิม ๆ โดยส่งคนไม่รู้เรื่องท่องเที่ยวมาทำงาน ขณะเดียวกันก็วอนรัฐปลดล็อกการใช้งบองค์กรท้องถิ่นหันมาเที่ยวครบวงจรกับบริษัทท่องเที่ยวบ้าง เตรียมนำร่องจับมือกับกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทยภายในมีนาคม 2562 จะทำโปรเจ็กต์ปฐมฤกษ์ผลิตแพกเกจท่องเที่ยวชุมชนนวัตวิถีไปร่วมขายในงานเทรดแฟร์ของ พช.ทุกเวที  

นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวปี 2562 จะกระตุ้นการท่องเที่ยวเติบโตได้จากมีปัจจัยบวก 1.การท่องเที่ยวเมืองรองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการสนับสนุนทำให้บางจังหวัดได้สร้างการรับรู้ด้วยความถี่สูงขึ้น หรือเส้นทางท่องเที่ยวบางแห่งอย่าง นครศรีธรรมราช ลำปาง เชียงราย หรืออื่น ๆ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 2.สายการบินต่าง ๆ เริ่มขยายจุดบินหรือเพิ่มความถี่ เพิ่มเส้นทางเข้าถึงจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองใหม่ ๆ นำคนเข้าออกเพิ่มขึ้น โดยบินข้ามภาค และใช้สนามบินอู่ตะเภา นอกเหนือจากสุวรรณภูมิ ดอนเมือง จึงเป็นแรงส่งทำให้มีนักท่องเที่ยวหลากหลายจำนวนมาก 3.หลังการเลือกตั้งเมื่อได้รัฐบาลใหม่แล้วควรจะเล็งเห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 

ดังนั้นก็ควรจะคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีความรู้ ความเข้าใจ ให้ความสำคัญมากเป็นกรณีพิเศษ เพราะเดิมนั้นแทบจะไม่ได้จัดอยู่ในกระทรวงเศรษฐกิจ ซึ่งการเลือกตั้งแต่ละครั้งที่ผ่านมาใช้วังวนเดิม ๆ ต่อรองตำแหน่งแล้วส่งใครมาก็ได้ แตกต่างจากครั้งนี้เอกชนมีความหวังที่จะได้รัฐมนตรีคุณภาพดีจากการเลือกตั้งเข้ามาทำงาน 4.การใช้จ่ายเงินระหว่างการเลือกตั้งทำให้มีเงินสะพัดมากขึ้นช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า จึงจะเป็นปัจจัยเสริมให้ท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น แต่ก็มีปัจจัยน่ากังวลเรื่องการส่งออกที่จะกระทบถึงเงินในกระเป๋าของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง อันเกิดจากสงครามของสหรัฐอเมรากับจีนขัดแย้งกันเรื่องการค้าระหว่างประเทศต่อเนื่อง เขย่าเศรษฐกิจโลกกระทบตามไปด้วยหลังจากไม่ค่อยดีต่อเนื่องมาแล้ว3-4 ไตรมาสก่อน แล้วมามีผลต่อการการใช้เงินในประเทศของไทยด้วยทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเองมีความกังวลเล็ก ๆ กับเรื่องนี้อยู่บ้าง

 แต่สถานการณ์การท่องเที่ยวช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ผลปรากฎว่ากำลังซื้อในประเทศใช้จ่ายเงินค่อนข้างดี จึงพอจะเบาใจลงได้บ้าง นายยุทธชัยกล่าวต่อถึงแนวโน้มเป้าหมายการท่องเที่ยวในประเทศที่จะมีคนไทยเดินทางเที่ยวไทยปีนี้มากกว่า170 ล้านคน-ครั้ง จะมีผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม เกี่ยวข้องกับการการเดินทาง ขนส่ง เช่ารถตู้ รถบัส เครื่องบิน แต่บริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยวจะเติบโตไม่มากมายเพียงเฉลี่ย 5.7 % เพราะกระแสการท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่เดินทางเอง กลยุทธ์ชวนให้คนมาเที่ยวกับบริษัททัวร์ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวยังไม่ได้มีนโยบายที่เข้มแข็งมากเพียงพอ คงปล่อยให้เป็นไปตามกลไกธรรมชาติ จึงทำให้ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวไม่เติบโตเท่าที่ควร รวมถึงยังมีกระตุ้นให้คนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศ ไปยังอาเซียน และเอเชียตะวันออก ผลคือคนไทยมาเที่ยวกับกลุ่มบริษัทในประเทศชะลอตัวลง หรือเติบโตไม่ได้สูงมากนัก ดังนั้นเอกชนต้องการให้รัฐบาลใช้ยาแรงเพื่อกระตุ้นให้คนหันมาเลือกใช้บริษัทนำเที่ยวด้วยวิธี ปลดล็อกการใช้จ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เดินทางดูงานในประเทศได้มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มมาตรการหันมาใช้บริษัททัวร์เพิ่มขึ้นแทนลักษณะเดิม ๆ เลือกใช้เฉพาะการเช่ารถเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับหน่วยงานราชอื่น ๆ น่าจะมีคำสั่งให้ทำได้โดยใช้บริษัทนำเที่ยว ปลดล็อกการเบิกจ่ายอาหารและเครื่องดื่มให้สอดคล้องกับความจริง เช่น ค่ากาแฟในโรงแรมอนุญาตให้เบิกได้เพียงแก้วละ 50 บาท

 เรื่องนี้กรมบัญชีกลางควรทำความเข้าใจกับราคาตลาดจริงและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาพรวมให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากกว่านี้ สถิติองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปัจจุบันประมาณ 30 % ใช้บริการบริษัทนำเที่ยว ส่วนที่เหลือกว่า 70 % พบว่าผู้นำท้องถิ่นใช้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งรถเช่า โรงแรมที่พัก แต่จะใช้วิธีให้หน่วยปกครองส่วนท้องถิ่นปลายทางดำเนินการให้ทั้งหมด ซึ่งควรจะมาหารือกันเพื่อทำให้เข้ามาใช้บริษัทนำเที่ยวเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการนำเที่ยว 4 สมาคม ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสมาชิกจัดนำเที่ยวในประเทศ ได้ประสานงานกับทางอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เมื่อช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา วางเป้าหมายจัดนำนักท่องเที่ยวเข้าไปยังท้องถิ่น พร้อมทั้งผลิตแพกเกจท่องเที่ยว ไปวางขายในงาน โอท็อปนวัตวิถี 

ขณะนี้กำลังตกผลึกเรื่องรูปแบบการจัดทำเมื่อแล้วเสร็จก็จะทำให้เกิดการคัดสรรนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้าไปยังชุมชนอย่างเข้าใจ รับรู้ผ่านทางมัคคุเทศก์ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวที่มีความพร้อม รับรองนักท่องเที่ยวอย่างมีความสุข ใช้จ่ายเงินกระจายรายได้ถึงมือชาวบ้านอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ประมาณ 1-2 เดือนหน้า หรือราวเดือนมีนาคม 2562 เป็นต้นไป โครงการนี้จะปรากฎเป็นรูปธรรม มีแพกเกจท่องเที่ยวชุมชนนวัตวิถีวางจำหน่ายตามงานต่าง ๆ ของกรมการพัฒนาชุมชน ตามเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ แต่ละครั้ง นายยุทธชัยย้ำถึงการท่องเที่ยวชุมชน และ 55 เมืองรอง นั้น เอกชนจะเข้าไปมีส่วนร่วมขยายฐานตลาดให้เติบโตมากกว่านี้ตามช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ 

1.เข้าร่วมกับกรมการท่องเที่ยว ซึ่งดูแลและได้ประกาศพื้นที่พิเศษ ให้โอกาสปราชญ์ชาวบ้านเข้ามาทำหน้าที่พิเศษทำหน้าที่มัคคุเทศก์ท้องถิ่นให้บริการในชุมชนนั้น ป้องกันมัคคุเทศก์นอกพื้นที่เข้าไปบรรยาย ซึ่งจะเป็นโครงการเชื่อมต่อให้คนท้องที่กับนักวิชาการเข้าไปแนะนำอย่างเป็นระบบ 

2.ทางด้านการตลาด ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สามารถนำผลงานที่สมบูรณ์แล้วของแหล่งท่องเที่ยวมาเสนอต่อนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติได้อย่างสบายใจ แหล่งท่องเที่ยวมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง เพราะในอดีตการผลิตโฆษณาประชาสัมพันธ์ เสนอภาพออกไปสวยงามแต่พอนักท่องเที่ยวมาถึงกลับไม่ได้เป็นตามจริงดังภาพที่โฆษณา แตกต่างจากตอนนี้สามารถขายได้ตรงตามความจริงมากขึ้น เพราะการเตรียมแหล่งท่องเที่ยวให้มีความพร้อม ทั้งเรื่องถนนเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว อาหารการกิน และอื่น ๆ สำหรับของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย 

ตอนนี้ได้เข้าไปเตรียมความพร้อมแต่ละชุมชนจำนวนมากภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จึงพร้อมจะขายตามสภาพความเป็นจริงแก่นักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติได้เช่นกัน ขณะที่ความคาดหวังใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือกระจายรายได้ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจนั้น เอกชนมองว่าดีขึ้น ประเมินจากงานของ ททท.ที่จะจัด “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2562” ระหว่าง 23-27 มกราคม 2562 ที่สวนลุมพินี กับงานโอท็อปชุมชน ท่องเที่ยวนวัตวิถี ของกรมการพัฒนาชุมชน จัดปีละ 2 ครั้ง 

ทั้ง 2 งานมีส่วนลดความเหลื่อมล้ำ เสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่มีความพร้อมได้ผลิตโปรแกรมและจำหน่ายแพกเกจให้แก่นักท่องเที่ยว เพียงแต่การใช้งบประมาณผ่านบริษัทออร์แกไนเซอร์ เพื่อจัดงานแต่ละครั้ง ในฐานะที่ผมเองก็เป็นกรรมการหรือบอร์ด ททท.กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบขอให้พยายามเพิ่มโอกาสแก่โอท็อปที่มีศักยภาพมาร่วมออกจำหน่าย โดยหมุนเวียนกัน อย่าให้เฉพาะกลุ่มเดิมหมุนเวียนกันมาขาย ควรแสวงหากลุ่มเล็ก ๆ มีสินค้าคุณภาพ ได้เข้ามาขายในเวทีดังกล่าวนี้บ้าง เช่นเดียวกับทางกรมการพัฒนาชุมชนก็นำเสนอขอให้มีโอท็อปและชุมชนใหม่ ๆ เข้ามาขายในงานบ้าง ถึงแม้บางครั้งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจะต้องการอาหารอร่อยร้านเดิม ๆ แต่ความจริงแล้วในท้องถิ่นมีผู้ผลิตพยายามพัฒนาฝีมือให้ใกล้เคียงกันได้สลับมาขาย 

แนวทางนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็กได้ดีขึ้น เพราะการขายในเวทีใหญ่ หรือผ่านทางโซเชียลออนไลน์ ล้วนแล้วแต่เป็นโอกาสของผู้ประกอบการท้องถิ่นแทบทั้งสิ้นที่จะนำเสนอแก่นักท่องเที่ยวแต่ละปี นายยุทธชัยเสนอแนะถึงการใช้กลยุทธ์สร้างสมดุลการสร้างรายได้ท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย ทุกครั้งที่มีวิกฤตจากภายนอกก็หันมาทุ่มเทปลุกกระแสการใช้จ่ายในประเทศ แต่ภาครัฐมีส่วนสำคัญอย่างมากในการออกนโยบายและมาตรการสร้างกลไกการตลาด เพิ่มสิทธิพิเศษกระตุ้นการเดินทางภาคประชาชน ในการออกวิธีการพิเศษเหล่านี้รัฐควรจะนำข้อมูลมาหารือกับเอกชนท่องเที่ยวบ้าง เช่น โครงการ ใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเมืองรอง 15,000 บาท สามารถลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ในปี 2561 ควรจะได้สรุปร่วมกับเอกชนถึง ผลลัพธ์ว่าการใช้จ่ายเงินตามโครงการดังกล่าวดีหรือไม่อย่างไร แล้วเม็ดเงินไปกระจุกตัวอยู่กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวใดบ้าง เมื่อรู้ข้อมูลก็จะเป็นผลดีที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะได้นำเสนอนโยบายต่อรัฐบาลในครั้งต่อไป เป็นประโยชน์ทั้งต่อภาครัฐและเกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างตรงกลุ่มเป้าหมายด้วย เพราะการกำหนดนโยบายด้วยมาตรการพิเศษแต่ละครั้ง ถ้าได้คุยกันระหว่างภาครัฐกับเอกชนก็จะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ 

ทว่าที่ผ่านมากรมสรรพากรไม่ได้หารือกับเอกชนท่องเที่ยวมากนัก ที่สำคัญคือของอุทยานแห่งชาติเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทั้งทางทะเล ภูเขาต่าง ๆ ทางกรมอุทยานแห่งชาติ ก็น่าจะเร่งการปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวเข้ามายังเขตของตนเอง ในอดีตอาจจะอ้างว่าจัดเก็บรายได้ท่องเที่ยวได้น้อย แตกต่างจากตอนนี้กรมสามารถทำเงินได้ปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท เป็นรายได้ที่เก็บไว้ยังหน่วยงานไม่ต้องส่งเข้าคลัง บางอย่างจึงสามารถนำเงินมาบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว ผลิตแคมเปญโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ได้ด้วยตนเอง และการปรับปรุงสถานที่รองรับนักท่องเที่ยว อาทิ พื้นที่กางเต็นต์ ห้องน้ำ สถานพยาบาลในอุทยาน ต้องมีอุปกรณ์เพียงพอพร้อมดูแลนักท่องเที่ยว ในยุคนี้ต้องปรับตัวสู่ดิจิตอล หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวในความดูแลของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เองก็ควรจะคุยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวหาวิธีใหม่ตามมาตรฐาน เพื่อเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ด้วยคุณภาพที่ดีมากขึ้นต่อไป 

ถือเป็นการยกเครื่องหน่วยงานราชการซึ่งเป็นเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวให้หันมาเปลี่ยนแปลงปรับโครงสร้างการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่บูรณาการร่วมกับเอกชนกลุ่มผู้ประกอบการมืออาชีพ พร้อมทั้งสามารถใช้เงินพัฒนา โฆษณา ประชาสัมพันธ์ จูงใจนักท่องเที่ยวได้ด้วยการใช้ความสามารถของหน่วยงานตนเองได้แล้ว เพื่อสร้างประโยชน์ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเดินหน้าไปด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์จัดฟรีวันเด็กใน“ดีสนีย์ รางน้ำ”

 กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนน้องมาฉลองวันเด็กไปด้วยกันกับการท่องโลกการ์ตูนดีสนีย์ในงาน King Power and Disney’s Endless Celebrations เติมเต็มความสุข พร้อมจินตนาการสัมผัสประสบการณ์ตรงฉลองครบรอบ 90 ปี มิคกี้ เม้าส์ จากค่าย เดอะ วอลท์ ดีสนีย์ ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เพื่อสร้างประสบการณ์และความทรงจำสุดพิเศษกับเหล่าคาแรคเตอร์ดีสนีย์ที่ทุกคนชื่นชอบ เพื่อมอบเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ “นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา” ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ในวันเด็กปี 2562 เสาร์ที่ 12 มกราคม นี้ เตรียมสร้างสรรค์สิ่งดีมีประโยชน์ให้แก่เยาวชนไทยโดยเปิดให้เข้ามาท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรม ได้ในสวนสนุกแห่งความฝันของเด็ก ๆ ที่ ดีสนีย์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กรุงเทพฯ ได้สัมผัสกับความสุข สนุกกับกิจกรรม และของแจกมากมาย

 วันที่เด็ก ๆ จะได้ตื่นตาตื่นใจกับคาแรคเตอร์การ์ตูนในฝัน อาทิ มิคกี้ เม้าส์ มินนี่ เม้าส์ พลูโต กู๊ฟฟี่โดนัลด์ ดั๊ก เดซี่ ดั๊ก และชิปแอนด์เดล พร้อมร่วมเล่นเกมส์ และกิจกรรมเวิร์คช็อปเสริมสร้างทักษะในด้านต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน ประสบการณ์ครั้งนี้จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญในการเปิดโลกทัศน์ให้แก่เยาวชนได้เป็นอย่างดี กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมที่จะเปิดให้เยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพผ่านกิจกรรมในโครงการต่าง ๆ ตลอดทั้งปี นำร่องงานวันเด็กที่จะชวนให้เด็ก เยาวชน ได้เข้ามาชมงานจัดแสดงการ์ตูนดีสนีย์ที่ยิ่งใหญ่ และเป็นคาแรคเตอร์ที่ได้รับความนิยมในระดับโลก แล้วร่วมผจญภัยไปกับเหล่าผองเพื่อนจากดีสนีย์ทั้งหมด 6 โซนหลัก ประกอบด้วย

 1. เซเลเบรชั่น เอ็กซ์เพรส รถไฟมหาสนุกที่มีหน้าตาเป็นรูปมิคกี้ เม้าส์ 

2. การ์เด้น ออฟ ดรีมส์ สวนกลางถนนรางน้ำที่ตกแต่งในธีมมิคกี้ เม้าส์ ละลานตาด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม 

3. มิคกี้ แอนด์ เฟรนด์ส บูเลอวาร์ด ออกแบบให้มีบรรยากาศเหมือนย่านการค้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวการ์ตูนดีสนีย์ในท่าทางต่าง ๆ 

4. มิคกี้ ฮอลล์เวย์ ผนังอินเตอร์แอคทีฟขนาดยาวที่จะมีการแสดงภาพกราฟิกน่ารัก ๆ 

5. เมกา สโตร์ พบกับสินค้าลิขสิทธิ์คอลเลกชั่นพิเศษจากดีสนีย์ 6. มิคกี้ แกลเลอรี่ นิทรรศการศิลปะสุดแนวในชื่อ “ขอต้อนรับมิคกี้สู่ประเทศไทย” ที่สร้างสรรค์ลวดลายบนหุ่นโมเดลมิคกี้ เมาส์ โดย 9 ศิลปินไทย นักแสดงระดับแถวหน้าและคนดังมากมาย 

 นอกจากได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมในโซนต่าง ๆ แล้ว น้องๆ ยังได้ร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อป อาทิ เปเปอร์ ทอย (Paper Toy) เสริมสร้างสมาธิ และการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก พร้อมรับกลับบ้านเป็นที่ระลึกจากการเยี่ยมชมในครั้งนี้อีกด้วย 

ข่าวที่ 2 “ททท.-ปาร์คนายเลิศบูมงานดอกไม้แห่งปี21-24ก.พ.”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ได้สนับสนุน บริษัท สมบัติเลิศ จำกัด จัดงานดอกไม้ ณ ปาร์คนายเลิศ หรือ Nai Lert Flower & Garden Art Fair 2019 ต้อนรับเดือนแห่งความรัก ระหว่าง 21-24 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 9.00-21.00 น.นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่สุดตระการตาตลอด 5 วัน ในงานแสดงงานดอกไม้แห่งแรกของไทยซึ่งเป็นตำนานทำสืบต่อมาอย่างยาวนาน โดยขายบัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท และเด็ก 80 บาท เพื่อรายได้ทั้งหมดจากการจัดงานจะนำไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือมูลนิธิและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อการกุศล

 ตลอดงานยังเปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่หันมาสนใจงานศิลปะและงานฝีมือผ่านการประกวดโคมระย้าดอกไม้และการแข่งขันจัดสวนดอกไม้ เพื่อต่อยอดและส่งเสริมอาชีพให้เป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงในระดับประเทศและนานาชาติ ภายในงานจะได้พบกับไฮไลต์ 5 กิจกรรม ได้แก่ 

1.FLOWERS X ART บริเวณปาร์คนายเลิศ พบกับประติมากรรมดอกไม้ของศิลปินดังและองค์กรต่าง ๆ ในรูปแบบต่าง ๆ กว่า 20 ผลงาน ภายใต้ คอนเซ็ปต์ “คาร์นิวัลดอกไม้” (Floral Carnival) ชมงานแสดงพวงมาลัยดอกไม้ที่สุดตระการตา 

2.FLOWERS X FASHION หรือ Art Market ตลาดนัดศิลปะที่รวบรวมงานแฮนด์เมดจากศิลปิน ผู้ประกอบการรุ่นใหม่มากกว่า 20 ร้าน เอ็กซิบิชั่น แกลลอรี่กว่า 45 ร้าน จำหน่ายเสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องประดับ สินค้าตกแต่งบ้าน และอื่น ๆ

 3.FLOWERS X TASTE ท่าน้ำนายเลิศ ชมตลาดน้ำภายในปาร์คนายเลิศที่รวบรวมอาหารขึ้นชื่อจากหลากหลายท้องถิ่นมาให้ผู้เข้าชมได้ลิ้มลอง โดยใช้ดอกไม้เป็นส่วนผสมในแต่ละเมนู เช่น ร้านมา เมซอง (Ma Maison) อาหารไทยต้นตำรับของปาร์คนายเลิศ ร้านเลดี้แอล การ์เดน บิสโทร (Lady L Garden Bistro) อาหารตะวันตกสไตล์โฮมคุก และบริเวณสนามหญ้าปาร์คนายเลิศ นำฟู้ดทรัคและฟู้มาร์เก็ตจากทั่วประเทศมาร่วมสร้างความอร่อยถึง 20 ร้านดัง

 4. FLOWERS X PLAY เดอะ เซลส์ แกลลอรี่ เปิดให้ร่วมทำ 7 เวิร์คช็อป เช่น การผสมเครื่องดื่มจากดอกไม้ งานทอผ้าพันคอจากดอกไม้ การทำน้ำหอมกลิ่นดอกไม้สำหรับเครื่องประดับ การถ่ายภาพดอกไม้จากมือถืออย่างมืออาชีพ  

5.FLOWERS X COMPETITION จัดการแข่งขัน 2 ประเภท โดยมีรางวัลให้ผู้ชนะเป็นถ้วยรางวัลเกียรติยศและประกาศนียบัตร และเดินทางไปร่วมชมงาน Chelsea Flower Show ณ กรุงลอนดอน อังกฤษ ดังนี้

1. การประกวดโคมระย้าดอกไม้ (Floral Chandelier Competition) 2. การแข่งขันจัดสวนดอกไม้ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Happy Garden” 

ข่าวที่ 3 “บางจากทุ่มแคมเปญเติมไฮดีเซลSรับคะแนน2เท่า”

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชวนสมาชิกบัตรบางจากร่วมแคมเปญ “บรึ้นแรง เบิ้ลคะแนน” ด้วยการเลือกเติมน้ำมันบางจาก ไฮ-ดีเซล S ตลอดครึ่งปีแรก ระหว่างวันนี้ – 30 มิ.ย. 2562 แล้วรับได้ทันทีคะแนนสะสมคูณ 2 ซึ่งเทียบเท่ากับมูลค่าส่วนลดสูงสุด 10 สต./ลิตร

 กับกติกาง่าย ๆ ดังนี้

 1.สมาชิกบัตรบางจาก เติมน้ำมันบางจากไฮดีเซลเอส รับคะแนนสะสมคูณ2 จากคะแนนสะสมที่ได้รับปกติ ซึ่งเติมน้ำมันดีเซล 4 ลิตร รับคะแนนสะสม 1 คะแนน

 2. ตัวอย่างการคำนวณคะแนนสะสมเมื่อคูณ 2 เช่น เติมน้ำมัน 30 ลิตร คะแนนสะสมที่ได้เท่ากับ (30 หาร 4 เศษปัดทิ้ง) นำมาคูณ 2 เท่ากับคะแนนจะได้รับ 14 คะแนน 3.บัตรสมาชิก 1 ใบ สะสมคะแนนเติมน้ำมันสูงสุดได้ไม่เกิน 300 ลิตร/ครั้ง (สูงสุด 2 ครั้ง/วัน) และสูงสุดไม่เกิน 2,000 ลิตร/เดือน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.bcpgreenmiles.com หรือคอล เซ็นเตอร์ 1651 

ช่วงที่ 2 ออกไปดื่มด่ำการท่องเที่ยวเทศกาลดอกไม้หน้าหนาวช่วงมกราคม และต้อนรับเดือนแห่งความรักกุมภาพันธ์ โดยมีให้เลือกได้ถึง 3 งานใหญ่ คริสต์มาส ภูเรือ จังหวัดเลย ดอกไม้อาเซียน เชียงราย และ เมืองดอกไม้ เชียงใหม่ ส่วนใครที่ทำงานหนักฟังเคล็ดลับ “ลดอาการตาล้าจากการทำงานแบบง่าย ๆ” ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง “ครม.มีมติเวนคืนที่ดิน” รับการก่อสร้างเมกะโปรเจ็กต์ทำรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา แล้วแวะไปดื่มด่ำกับเทศกาลอาหารญี่ปุ่นหน้าหนาวที่ มายาซาโตะ โรงแรมดิ โอกุระ กรุงเทพฯ หรือจะเลือกซื้อแพกเกจห้องพักร่วมฉลอง 4 ปี โรงแรมอินดิโก กรุงเทพฯ 

@เที่ยวไม้เมืองหนาว “เลย-เชียงราย-เชียงใหม่ 

การออกเดินทางเทศกาลและประเพณี งานเทศกาลไม้ดอกเมืองหนาวเลือกได้ทั้งในภาคอีสานและภาคเหนือ

แห่งแรก เทศกาลคริสต์มาสภูเรือ จังหวัดเลย กำลังบานสะพรั่งสีแดงสดใสกระจายอยู่ทั่วลานคริสต์มาสกว่า 20,000 ต้น ตกแต่งสวยงามทั้งแสง สี เสียง ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ ผสมผสานกับไอเย็นของอุณหภูมิเย็นสบายเหนือระดับน้ำทะเล ยามค่ำคืนชมต้นไม้เรืองแสง ยามค่ำคืนก็มีการฉายหนังสั้น ถนนอาหาร อาหารถิ่น ดนตรีดัง ศิลปะ และห้ามพลาดผลิตภัณฑ์โอท็อปพื้นบ้านของชาวภูเรือ ก่อนจะเดินทางไปชมเทศกาลคริสต์มาสภูเรือ ก็ลองสอบถามก่อนได้ที่ โทร.0 4289 9004 ,0 4289 9580

 แห่งที่ 2 “งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน เชียงราย” บริเวณสวนไม้งามริมน้ำกก ศูนย์ราชการฝั่งหมื่น พื้นที่กว่า 25 ไร่ จะจัดไปจนถึงวันที่ 13 มกราคม นี้ พบกับความอลังการของ สวนทิวลิป ดอกลิลลี่ คอสมอส บีโกเนีย กล้วยไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ และอีกมากมาย ผลิตภัณฑ์ชุมชน

 รวมทั้งยังจะได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวเชียงราย ซึ่งเกิดจากเหล่าศิลปินจากขัวศิลปะช่วยกันดีไซน์พื้นที่ให้เป็นโซนพัฒนาคุณภาพชีวิตสไตล์ “ลานกาสะลองชัย” ประกอบด้วย การอัญเชิญ “พระบรมสารีริกธาตุจากเมียนมา” มาประดิษฐานให้นักท่องเที่ยวได้สักการะ “กาดมั่วครัวล้านนา” ศูนย์รวมวัฒนธรรมล้านนาและชนเผ่า สะท้อนผ่านบ้านเรือนถิ่นที่อยู่ของชนเผ่า ผาภูมิปัญญาล้านนาสล่าเชียงราย เรื่อยจนไปถึง “ถนนคนเดิน” รวมของดีเชียงรายมาให้นักท่องเที่ยวต่างถิ่นได้ช้อปกลับบ้าน 

แห่งที่ 3 “มหกรรมดอกไม้เชียงใหม่” จัดต้อนรับวาเลนไทน์เดือนแห่งความรัก ระหว่าง 1-3 กุมภาพันธ์ 2562 บริเวณสวนสาธารณะหนองบวกหาด อำเภอเมืองเชียงใหม่ กลายเป็นปฎิทินท่องเที่ยวประจำปีไปเรียบร้อยแล้ว จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 43 ตระการตาทุกครั้งตั้งแต่วันเริ่มงานกับขบวนรถโบราณบุปผชาติ ประดับประดาด้วยดอกไม้ โดยมีสาวงามแตกกายในชุดไทยสวยสะดุดตา 

จากนั้นก็จะได้สัมผัสความงดงามของดอกไม้ในสวนสาธารณะกลางเมืองเบ่งบานไปด้วยดอกไม้นานาชนิด สลับกับการแสดง เรื่อยไปจนถึงการเดินเลือกช้อปสินค้าพื้นเมืองมากมาย เทศกาลท่องเที่ยวดอกไม้เมืองหนาวระหว่างมกราคม-กุมภาพันธ์ ปีนี้ 

ทั้ง 3 จังหวัด ภูเรือ จ.เลย อ.เมือง เชียงราย และ อ.เมือง เชียงใหม่ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวัย 

@ป้องกันอาการล้าจากการทำงานง่าย ๆ 2 แบบ

ล้าเป็นอาการอย่างหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นได้บ่อยในเวลาทำงาน เกิดขึ้นได้ทั้งงานที่ต้องใช้แรงงานหนักเช่น งานยกของ งานดึงและดัน และงานเบาที่ต้องอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ หรือต้องทำงานเบานั้นซ้ำซาก การล้าที่เกิดขึ้นในร่างกายแบ่งได้ 2 แบบ คือการล้าของกล้ามเนื้อ และการล้าทั่วไป เช่น การล้าของสายตา อาการล้าจากความเครียด เป็นต้น กล้ามเนื้อสามารถทำงานได้ 2 แบบ และเกี่ยวข้องกับการล้าดังนี้ 

1.การหดตัวของกล้ามเนื้อแบบเป็นจังหวะ คือมีการหดตัวและคลายตัวสลับกันไป เช่น การยกวัตถุขึ้นวางบนชั้น ผู้ยกจะใช้กล้ามเนื้อแขน ขา และลำตัวในระยะเวลาสั้น และจะมีการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ ในช่วงที่หยุดยก การทำงานของกล้ามเนื้อในลักษณะนี้ จะมีช่วงพักให้เลือดไหลเข้าไปในกล้ามเนื้อ ถ้างานไม่หนักมากนัก (น้อยกว่าร้อยละ 15 ของความสามารถสูงสุด) จะต้องทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานจึงจะเกิดการล้าได้ 

2.การหดตัวแบบคงค้าง คือมีการหดตัวค้างไว้ตลอดเวลา เช่น การนั่งอยู่ในท่าก้มหลังและก้มคอพิมพ์คอมพิวเตอร์อยู่นานๆ การหดตัวแบบนี้จะทำให้เลือดไหลไปสู่กล้ามเนื้อไม่สะดวก เนื่องจากหลอดเลือดที่เข้าไปเลี้ยงกล้ามเนื้อถูกบีบจากการหดตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่มีการคลายตัวเหมือนการหดตัวกล้ามเนื้อแบบเป็นจังหวะ การหดตัวแบบคงค้างเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการล้าของกล้ามเนื้อเนื่องจากมีกรดและของเสียสะสมอยู่ในกล้ามเนื้อเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กล้ามเนื้อตึงตัวและมีอาการกล้ามเนื้ออักเสบจากการทำงานได้การหดตัวแบบคงค้างนี้จะทำให้กล้ามเนื้อล้าอย่างรวดเร็ว 

ถ้าต้องออกแรงเพียงร้อยละ 8 ของความสามารถกล้ามเนื้อสูงสุด การหดตัวของกล้ามเนื้อแบบคงค้างนี้จะพบได้ใน กล้ามเนื้อที่ใช้ในการทรงท่า เช่น กล้ามเนื้อคอและหลังขณะนั่งหรือยืน กล้ามเนื้อจะต้องหดตัวแบบคงค้างอยู่ตลอดเวลา

ยิ่งมีท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น ก้มคอหรือหลังมากเกินไป จะทำให้ล้าง่ายขึ้น ให้ลองยืนตรงแล้วก้มไปข้างหน้าเอามือแตะเข่าค้างไว้ ท่านจะรู้สึกเมื่อยที่กล้ามเนื้อหลังภายในเวลาไม่ถึงนาที หรือลองก้มคอแล้ว ค้างไว้สัก 3 นาที ท่านจะรู้สึกล้าที่กล้ามเนื้อคอด้านหลัง 

นอกจากท่าทางที่ไม่ถูกต้องจะทำให้เกิดการล้าของกล้ามเนื้อแล้วส่วนของเอ็นและส่วนที่อยู่ใกล้จะถูกยืดมากกว่าปกติทำให้เกิดอาการอักเสบของเอ็นต่างๆ ได้

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง 

ข่าวแรก “ครม.มีมติเวรคืนเพียบที่ดินสร้างรถไฟเชื่อม3สนามบิน”

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินเพื่อเวนคืนในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา รวมกว่า 850 ไร่ ครอบคลุมบริเวณ 5 จังหวัด กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ประกอบด้วย 

1.โครงการแอร์พอร์ต เรล ลิงค์เดิม คือ ช่วงพญาไทถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2.โครงการแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ส่วนต่อขยาย ช่วงพญาไทถึงท่าอากาศยานดอนเมือง และ 3.โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ (บริเวณสถานีรถไฟแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ลาดกระบัง) ถึงท่าอากาศยานอู่ตะเภา รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 224,544 ล้านบาท

 เขตที่ดินเวนคืนจะอยู่ในบริเวณ ท้องที่แขวงคลองสามประเวศ แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ต.บางเตย ต.วังตะเคียน ต.ท่าไข่ ต.บางขวัญ ต.บ้านใหม่ ต.บางไผ่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา ต.บ้านสวน ต.หนองข้างคอก ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี ต.บางพระ ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา ต.นาเกลือ ต.หนองปรือ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง ต.นาจอมเทียน ต.บางเสร่ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และ ต.สำนักท้อน ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง 

ข่าวที่สอง “ชิมตำรับอาหารญี่ปุ่นฤดูหนาวที่ดิโอกุระ7-27ม.ค.”

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ จัดเทศกาลอาหารชุดพิเศษต้นตำรับฤดูหนาวของญี่ปุ่น ที่ห้องยามาซาโตะ ระหว่าง7 ถึง 27 มกราคม 2562 เท่านั้นมื้อกลางวัน 11.30 น.-14.30 น. ราคาชุดละ 1,400++ บาท และมื้อค่ำ 18.00 น.-22.30 น. ราคาชุดละ 4,700++ บาท โดยเชฟชิเงรุ ฮางิวาระ หัวหน้าพ่อครัว ของห้องอาหารยามาซาโตะ รังสรรค์อาหารชุดพิเศษ เพื่อให้ได้สัมผัสความหลากหลายของวัตถุดิบที่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่นิยมรับประทานช่วงฤดูหนาว เพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย

 “อาหารชุดมื้ออาหารกลางวัน” เริ่มจากเป็ดรมควันเสิร์ฟกับผักดอง 5 สีปรุงรสราดซอสน้ำส้มสายชูกับไข่แดงและกระเจี๊ยบญี่ปุ่น ซุปลูกชิ้นเนื้อปูและเห็ดชิเมจิ เสิร์ฟมาพร้อมกับปลาดิบชั้นดี 3 ชนิด (ปลาทูน่า ปลาหางเหลือง หอยปีกนก) พร้อมด้วยอาหารจานหลักปลาฮิราซึย่างซอสครีมขาวผสมมิโซะ เนื้อปลาบุริต้มกับหัวไชเท้าญี่ปุ่น แครอท เห็ดชิทาเกะ และขิง โรยหน้าด้วยผิวยูซุ เทมปุระกุ้ง หอยนางรมและผักนานาชนิด ทั้งหมดนี้ให้บริการมาพร้อมกับข้าวญี่ปุ่นคลุกเคล้ากับเนื้อปลากะพงโรยหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอน และซุปมิโซะ ขนมหวานให้บริการเป็นมูสนมถั่วเหลืองผสมกากสาเก ราดซอสถั่วแดง 

“อาหารชุดมื้อค่ำ” ให้บริการแบบ “ไคเซกิ” ตามแบบราชสำนักญี่ปุ่น ราคาท่านละ 4,700++ บาท ประกอบด้วยอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับ 7 รายการ ได้แก่ ฟองเต้าหู้สดกับดอกกระเจี๊ยบราดซอสสูตรพิเศษ ซุปลูกชิ้นตับปลามังค์ฟิชและเห็ด ที่ให้บริการพร้อมกับปลาดิบชั้นดี 4 ชนิด (ปลาทูน่า ปลาหางเหลือง หอยเชลล์เผา กุ้งหวาน) แล้วจึงตามด้วยปลาแมคคอเรลและเป็ดย่างกับพริกซันโชญี่ปุ่น ปลาแซลมอนตุ๋นกากสาเกและผักนานาชนิด เทมปุระปูหิมะ ปลาเงิน และผักต่าง ๆ สุดท้ายให้บริการเส้นหมี่น้ำญี่ปุ่นใส่ไข่ปลาคอดและเห็ดชิเมจิโรยหน้าด้วยผิวยูซุกับข้าวห่อสาหร่ายไส้ผักดองญี่ปุ่น และจึงให้บริการขนมหวานเป็นถั่วแดงต้มใส่เกาลัดเสิร์ฟกับสาหร่ายทะเล 

ข่าวที่สาม “ร่วมฉลอง4ปีอินดิโก้พัก4จ่ายแค่3คืนตลอดปี62”

 โรงแรม โฮเต็ล อินดิโก้ กรุงเทพ ถนนวิทยุ จัดแพกเกจฉลอง 4 ปี "#StaySurprised FOUR* Free" ตลอดปีหมูทอง ระหว่างวันนี้-14 ธันวาคม 2562 ราคาเริ่มต้นที่ 4,950 บาทต่อห้อง ต่อคืน รวมอาหารเช้า 2 คน/วัน กับผู้เข้าพักที่จองห้องพัก 3 คืนขึ้นไป จะได้เข้าพักฟรีคืนที่ 4 

สำหรับโฮเต็ล อินดิโก้ฯ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อ 8 มกราคม 2558 เป็นโรงแรมแห่งแรกที่เปิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ใจกลางศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้ง อาหารเลิศรส บนถนนวิทยุ เป็นแม่เหล็กดึงดูนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาใช้จ่ายเงินในเมืองไทย  

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.97.0 MHz.