วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

รมว.วีระศักดิ์-ททท.-ทอท-บินไทย รวมพลังแก้สถานการณ์นักท่องเที่ยวตกค้างจากเหตุอินเดียถล่มปากีสถาน

รมว.วีระศักดิ์-ททท.-ทอท.ดูแลนักเที่ยวตกค้างเต็มที่
บินไทยขอใช้น่านฟ้าจีนทยอยเปิดบินปกติเข้าสู่ยุโรป

 เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #สวท97 #TAT #AOT #กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ขอบคุณภาพ...รมว.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ 





ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำทีมลงปักหลักในสนามบินนาชาติสุวรรณภูมิ เพื่อร่วมกับฝ่ายปฎิบัติงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่ตกค้าง หลังเกิดเหตุความขัดแย้งระหว่างอินเดียทางแนวชายแดนปากีสถาน จนทางการปากีสถานสั่งปิดน่านฟ้าชั่วคราวมาตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 จนถึงขณะนี้ เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย 



ดังนั้น รมว.วีระศักดิ์จึงได้นำทีมลงพื้นที่ พบปะพูดคุย ตอบข้อซักถาม ให้กำลังใจ บรรดานักท่องเที่ยวที่ตกค้างอยู่ในเมืองไทย และพร้อมให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ตลอดการพำนักอยู่ในไทยจนกว่า การบินไทย และสายการบินนานาชาติ จะประกาศใช้เส้นทางอื่นเพื่อเลี่ยงการบินผ่าน่านฟ้าของปากีสถาน ไปใช้น่านฟ้าโซนอื่น บินเข้ายุโรปตามปกติ



 ล่าสุดการบินไทยได้เจรจาจนได้ ข้อสรุปเบื้องต้นคือ ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ได้ขอทางสาธารณรัฐประชาชนใช้แอร์เวย์สบินผ่านน่านฟ้าแทนปากีสถาน นำผู้โดยสารเข้าไปยังจุดหมายปลายทางในยุโรป โดยได้เปิดให้ผู้โดยสารตกค้างทยอยไปลงทะเบียนใช้สิทธิ์การเดินทางเที่ยวบินต่าง ๆ ได้ตามปกติ และการบินไทยจะเร่งเคลียร์ทุกเที่ยวบินให้แล้วเสร็จกลับสู่การบินตามปกติโดยเร็ว

 ทางด้าน ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเท่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ ททท.สำนักที่เกี่ยวข้องทุกแห่งมอนิเตอร์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความวิตกกังวลของนักท่องเที่ยว ล่าสุดมีข้อมูลยืนยันเส้นทางบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-อินเดีย ดังนี้

 ทางสายการบิน Spice jet  ของอินเดียมีไฟลท์บินตรง อมริทสาร์ - กรุงเทพ 4 เที่ยว/สัปดาห์ (จันทร์,พุธ,ศุกร์,เสาร์)  ด้วยเครื่องแอร์บัส A320 ขนาด189 ที่นั่ง สำหรับผลกระทบจากขัดแย้งชายแดนอินเดีย - ปากีสถานปัจจุบันมีดังนี้

 1) Spice jet ยกเลิกเที่ยวบินวันที่ 27 ก.พ.62 ส่วนในวันที่ 1 มี.ค. นี้ ยังเปิดทำการบินปกติ ณ เวลานี้ แต่อัตราบรรทุกผู้โดยสารลดลงจากเดิม 75% เหลือ50 % ประชาชนส่วนใหญ่ยังรอดูสถานการณ์เรื่องนี้อย่างจดจ่อ บางส่วนอาจเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน เพื่อรอจนกว่าทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ

 2) ณ เวลานี้ สนามบินศรีนาคา, สนามบินจันดิการ์ , สนามบินอมริทสาร์ ,สนามบินเดราดูน นังเปิดทำการโดยปกติ

 3) สายการบินในอินเดีย อาทิ Vistara, Jet airway , Air India , Spice jet ,Indigo ต่างก็มีประกาศให้ลูกค้าสามารถแจ้งยกเลิก, เลื่อนการเดินทางได้ตลอดเวลาโดยขอคืนค่าตั๋วโดยสารได้แบบเต็มราคา
3)เหตุการณ์นี้ยังคงตรึงกำลังระหว่าง 2 ฝ่ายอยู่บริเวณชายแดนเป็นสำคัญ แต่จะมีการตรวจสอบความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่เข้มข้นขึ้นกว่าปกติทั้งที่เมืองศรีนาคา โดยเฉพาะบริเวณสนามบินของเมืองที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของการใช้การเคลื่อนกำลังทางการบินของฝูงบินอินเดีย ดังกล่าวข้างต้น คือผู้เดินทางต้องเสียเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นอีก

4) สำนักงานเอกอัครราชฑูตไทยประจำกรุง นิวเดลี เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ประเทศไทย เพื่อประเมิน นี้สถานการณ์และเตรียมในการช่วยเหลือคนไทยกรณีเหตุการณ์วิกฤติ ในวันพฤหัสบดีนี้ ช่วงเวลาบ่าย 2 โมง



 นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บมจ.ท่าอากาศยานไทย "ทอท." ได้ประสานงานกับทุกหน่วยงานภายในสุวรรณภูมิ เพื่อร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแลช่วยเหลือ สื่อสาร ประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวนานาชาติ ที่ยังคงตกค้างอยู่ในสนามบิน เพื่อให้ทุกคนผ่อนคลายในมาตรการความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ของทุกฝ่ายต่างพร้อมใจกันทำในนามประเทศไทย

🌏🌎ข้อมูล การบินไทย เปิดบินไปยุโรปตามปกติ 🌎🌎

ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ประกาศเมื่อเวลา 14.00 น.เป็นต้นไป เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่าการบินไทยต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น จากกรณีที่สาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประกาศปิดน่านฟ้ากะทันหัน จากสาเหตุของความขัดแย้งระหว่างสาธารณรัฐอินเดียและสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน โดยขณะนี้บริษัทฯ ได้ใช้เส้นทางบินอื่นที่ไม่บินผ่านน่านฟ้าปากีสถานเพื่อทำการบินไปยังยุโรป

และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการปฏิบัติการบิน บริษัทฯ ได้ขออนุญาตใช้เส้นทางบินผ่านสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยไม่บินผ่านน่านฟ้าปากีสถาน ซึ่งในวันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2562) บริษัทฯ จะทำการบินเที่ยวบินขาไปในเส้นทางกรุงเทพฯ - ยุโรป ดังนี้

เที่ยวบินกลางวันของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 บริษัทฯ จะทำการบินตามตารางการบินปกติ ได้แก่
-เที่ยวบินที่ ทีจี 974 เส้นทางกรุงเทพฯ - มอสโก (ล่าช้ากว่ากำหนดการบินตามตารางการบินปกติ)
-เที่ยวบินที่ ทีจี 916 เส้นทางกรุงเทพฯ - ลอนดอน
-เที่ยวบินที่ ทีจี 922 เส้นทางกรุงเทพฯ - แฟรงก์เฟิร์ต
 -เที่ยวบินที่ ทีจี 962 เส้นทางกรุงเทพฯ - สตอกโฮล์ม
โดย เที่ยวบินกลางคืนบริษัทฯ จะทำการบินตามตารางบินปกติ

ซึ่งผู้โดยสารต้องมาทำการเช็คอินในคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 11 เที่ยวบิน ได้แก่ -เที่ยวบินที่ ทีจี 920 เส้นทางกรุงเทพฯ - แฟรงก์เฟิร์ต รวมทั้งเที่ยวบินที่ระบุวันเดินทางบนบัตรโดยสารเป็นวันที่ 1 มีนาคม 2562 ได้แก่

-เที่ยวบินที่ ทีจี 910 เส้นทางกรุงเทพฯ - ลอนดอน
-เที่ยวบินที่ ทีจี 924 เส้นทางกรุงเทพฯ - มิวนิก
-เที่ยวบินที่ ทีจี 930 เส้นทางกรุงเทพฯ - ปารีส
-เที่ยวบินที่ ทีจี 934 เส้นทางกรุงเทพฯ - บรัสเซลส์
-เที่ยวบินที่ ทีจี 944 เส้นทางกรุงเทพฯ - โรม
-เที่ยวบินที่ ทีจี 936 เส้นทางกรุงเทพฯ - เวียนนา
-เที่ยวบินที่ ทีจี 960 เส้นทางกรุงเทพฯ - สตอกโฮล์ม
 -เที่ยวบินที่ ทีจี 970 เส้นทางกรุงเทพฯ - ซูริก
-เที่ยวบินที่ ทีจี 950 เส้นทางกรุงเทพฯ - โคเปนเฮเกน
 -เที่ยวบินที่ ทีจี 954 เส้นทางกรุงเทพฯ - ออสโล

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะทำการบินเที่ยวบินที่ ทีจี 507 และทีจี 508 เส้นทางกรุงเทพฯ - มัสกัต ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 โดยปรับเส้นทางบินไม่แวะการาจี และมีความจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินที่ ทีจี 345 และทีจี 346 เส้นทางกรุงเทพฯ - ละฮอร์ (ไป - กลับ) ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและดูแลผู้โดยสารตามมาตรฐานสากล โดยผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารในเส้นทางที่บริษัทฯ ยกเลิก บริษัทฯ ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสารเส้นทางที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

โดยจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ กำลังติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยขอความกรุณาผู้โดยสารที่จะเดินทางในเส้นทางดังกล่าว ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หรือตรวจสอบตารางการบินได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com หรือ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

More Fun จันทบุรี เที่ยวเมืองรองสุขทุกวันในอ่างเอ็ด อ่าวคุ้งกระเบย

สุขทุกวันเที่ยวเมืองรอง"จันทบุรี" 
More Fun : บ้านอ่างเอ็ด-อ่าวคุ้งกระเบน

 เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #เที่ยวกับกู๋ #MoreFunตะวันออก #สุขทุกวันที่จันทบุรี #TATตะวันออก


สัมผัสความสดสะอาดในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอ่าวคุ้งกระเบน

เมืองไทยมีทุกวันดี ๆ ให้เดินทางสำรวจได้หลากหลายโดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเลตะวันออก สามารถมีความสุขได้ทุกวันในเมืองรองสุดแสนคึกคัก “จันทบุรี” โดยมีโครงการพระราชดำริมาแนะนำให้ไปท่องเที่ยวได้ทั้งความสุข ความรู้ ความสนุก ที่ต้องห้ามพลาด 2 แห่ง

บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการพัฒนาป่าชุมชนบ้านอ่างเอ็ด ขลุง


แห่งแรก “โครงการพัฒนาป่าชุมชนบ้านอ่างเอ็ด” ที่ตำบลตกพรม อำเภอขลุง 

เป็นโครงการในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดำเนินงานโดยมูลนิธิชัยพัฒนา พัฒนา “ป่าชุมชน” เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าไม้ สนับสนุนให้ชุมชนเข้าใจเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสามารถสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนได้

ภายในโครงการนักท่องเที่ยวจะได้ชม สวนเกษตรและแปลงสาธิตการปลูกพืชแบบผสมผสานทั้งสวน มังคุด ทุเรียน ลองกอง เงาะโรงเรียน เก็บเกี่ยวตามฤดูกาล ปาล์มน้ำมัน การปลูกมะนาวในบ่อซีเมนท์ การเผาถ่านน้ำส้มควันไม้ การผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ การเพาะเห็ดเศรษฐกิจ ค่ายวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา และงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับพืช สัตว์ สมุนไพรพื้นบ้าน

ร่วมชมสาธิตการปลูกพืชและการทำเกษตรในอ่างเอ็ด


 สามารถเข้าไปเดินศึกษาธรรมชาตินำรวจป่าตามหาสัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ระยะทาง 1.5 กม. หรือชมพิพิธภัณฑ์เหมืองพลอย จากอดีตสู่ปัจจุบัน

อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับกลุ่มศึกษาดูงาน มีพื้นที่กางเต็นต์นอนได้สูงสุด 60 คน ลานเอนกประสงค์ ขนาด 100 คน

สอบถามได้ที่ 089-833-8600 หรือ www.chaipat.or.th 

แห่งที่ 2 “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ในตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่


บรรยากาศการท่องเที่ยวในอ่าวคุ้งกระเบน


 โครงการอันเกิดจากการฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรชายฝั่งทะเลจากยอดเขาสู่ท้องทะเล ขนาด 4,000 ไร่ สถานที่เหมาะแก่การดูงานอย่างมาก มีเรื่องราวน่าค้นหาในการทำการเกษตรแบบผสมผสานอีกแห่ง และความหลากหลายของการสาธิตเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝก การผลิตปุ๋ยหมักจากดินเลนนากุ้ง

นักท่องเที่ยวสามารถร่วมสร้างประสบการณ์พายเรือชมธรรมชาติอ่าวคุ้งกระเบน


 หรือจะร่วมปลูกป่าชายเลนร่วมกันได้ที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ และกิจกรรมทำลูก EM BALL สารจุลินทรีย์ช่วยบำบัดน้ำเสีย

ภายในโครงการมี “ห้องประชุม” ให้ใช้บริการได้ตั้งแต่ขนาดห้องละ 30-200 คน “ห้องพัก” เลือกได้ตั้งแต่พักรวมห้องละ 12-15 คน และ “ห้องอาหาร” ขนาดนั่งได้ 90 คน

สอบถามได้ที่ โทร.039-433-216-8 หรือ www.fisheries.go.th/cfkung_krabaen

วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ผู้นำททท.เดินหน้า4ภารกิจท้าทายก่อนหลังเลืองตั้งปี62-ชู3มหัศจรรย์เมือวไทย ปั้น POWER SPOTขายเมืองรอง

ผู้นำ ททท.เคลื่อนทัพใหญ่4ภารกิจท้าทายก่อนหลังเลือกตั้ง 
ชู3มหัศจรรย์ไทย-งัดญี่ปุ่นโมเดลบูมPOWER SPOTทั่วไทย 
คิงเพาเวอร์ชวนสมัครสมาชิกตลอดปี62รับเพียบทั้งลด-ฟรี 
บัตรคิงเพาเวอร์ใช้กินห้องญี่ปุ่นโรงแรมพูลแมนลดสุด20% 
ททท.เปิดแล้วTHE SEASONหนังท่องเที่ยวมัดใจตลาดโลก 
ไทยดึงเซเลบดาราดังสหรัฐปลุกทัวร์จิตอาสารุกมิลเลนเนียล 
บางจากสร้างเยาวชนนักเขียนรู้ลึกวิถีชุมชนพลังงานยั่งยืน 
BCPGเครือบางจากปลื้มกำไรปี61ปัจจัยบวกเพียบโต25% 
ขึ้นดอยสูงเที่ยวธรรมชาติ”ปางตอง-ปางอุ๋ง” แม่ฮ่องสอน 
ระวังภัยร้าย “อาการตะคิวกินกลางดึก”ต้องรับมืออย่างไร 
3ทุนใหญ่ดึง“ดองกิ”ห้างดังญี่ปุ่นบุกเปิดกลางกรุงทองหล่อ 
รร.อินดิโก้กรุงเทพฯชูบุฟเฟต์ชาร์แบงคอกเทรนด์โลก999บ. 
แควนตัสโชว์ครึ่งปีแรกกำไร1.7หมื่นล้านสวนราคาน้ำมันพุ่ง 


ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ ช่วงที่ 1 ล้วงลึก

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 


“ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 4 ปีได้ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ MOVE ใน ททท.สัมฤทธิ์ผลหรือไม่ พ่วงด้วยการเปิด 4 ภารกิจท้าทายก่อนและหลังเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปี ท่องเที่ยวกับการเมืองวินวินได้ด้วย 3 มหัศจรรย์เมืองไทย “มีการเลือกตั้ง-พิธีพระบรมราชาภิเษก-ไทยประธานอาเซียน” และพบกับ 55 เมืองรองมุมใหม่โคลนนิ่งต้นแบบจากญี่ปุ่นมาใช้เพิ่มของขาย “POWER SPOT-จุดรวมพลังรับโชค” ทั่วไทย

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ผลสัมฤทธิ์จากวิสัยทัศน์ MOVE ที่นำเข้ามาพลิกโฉมการบริหารจัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตลอด 4 ปี ระหว่างปี 2558-2562 เริ่มจาก M :Marketing and More ตามบทบาทของ ททท.ประเมินตัวเลขรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวภาพรวมเติบโตต่อเนื่องมาตลอด สิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ สถิติปี 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทย 38.3 ล้านคน รายได้มากถึง 3 ล้านล้านบาท สะท้อนถึงการเดินหน้าทำต่อเนื่องการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งแวดล้อม การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันระยะยาว ทำให้ไทยเป็นประเทศเติบโตได้ดีขึ้น



ส่วนภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยต้องช่วยกันลงลึกรายละเอียดพยายามทำอย่างมุ่งมั่นต่อไป รวมถึงสิ่งสำคัญที่สุดคือนโยบายของ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สอดรับกันพอดีพุ่งเป้าร่วมกันทำทางด้านรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้ ททท.มีบทบาทไม่เฉพาะกวักคนเข้าไปเที่ยวแต่ต้องดูความพร้อมของแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณที่เสี่ยงต่อผลกระทบถึงสิ่งแวดล้อม และการแก้ปัญหานักท่องเที่ยวจีนศูนย์เหรียญในภูเก็ต ก็แก้ไขจนลุล่วงไปด้วยดี จึงเป็นคำตอบชัดว่าได้นำวิสัยทัศน์เข้ามายกระดับตลาดการท่องเที่ยวของประเทศก้าวไปสู่กลุ่มคุณภาพได้ระดับหนึ่ง

สำหรับ O : Operational Exellence เป็นการบริหารจัดการองค์กร ททท.ทำสอดคล้องกับแผนวิสาหกิจมุ่งสู่องค์กรที่สมรรถนะสูง ที่จับต้องได้คือคะแนน ททท.ดีขึ้นตามลำดับ ในปีงบประมาณ 2561 ทำได้ถึง 4 จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน นับเป็นครั้งแรกและเร็วกว่าแผนมาตรฐานถึง 2 ปี

 V : Valucation เป็นการทำเซ็กเมนต์โดยร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กร ต่าง ๆ ทำให้สินค้าท่องเที่ยว การกระจายตัวท่องเที่ยว ดีขึ้นตามลำดับ ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง และสร้างภาพลักษณ์ให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ หรือ Quality Destination แทนการเป็นประเทศท่องเที่ยวราคาถูก รวมทั้งให้เกิดการจับจ่ายใช้เงินถึงมือชุมชน ช่วยแก้ปัญหาระบบโครงสร้างในมิติเวลากับพื้นที่ด้วย

 E :efficiency ประสิทธิภาพและประสิทธิผลการใช้ทรัพย์สินที่ ททท.มีอยู่ ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ขณะนี้มีบางบริษัทผลประกอบการดีขึ้น เช่น บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ การ์ด จำกัด (TPC) เจ้าของบัตรหรูไทยแลนด์ อิลิต การ์ด เดิมเคยขาดทุนมาพอสมควร จนถึงขณะนี้มีทุนสะสมและกำไรของบริษัทเกินกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งคงจะต้องดำเนินการให้เติบโตต่อไป



ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ปี 2562 เตรียมผลักดันจุดขายโหมตลาดท่องเที่ยวในประเทศกระจาย 5 ภูมิภาค ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามอบให้พัฒนาเชิงพื้นที่การท่องเที่ยวชุมชนเพื่อความยั่งยืน โดยร่วมกับทางกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดทำโครงการหมู่บ้านโอท็อปนวัตวิถี หรือแม้กระทั่งชุมชนท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ Creative Innovation Village : CIV ของกระทรวงอุตสาหกรรม ก็นำมาช่วยกันขายท่องเที่ยว

 สำหรับท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเสนอไปยังกระทรวงการคลัง ขยายมาตรการลดหย่อนภาษี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองมากขึ้น และรักษาโมเมนตั้มดังกล่าวไว้ ส่วนไฮไลต์ที่จะต้อง “สร้างจุดขายใหม่ ส่วนที่ 1 คัดสรรแหล่ง “Power SPOT -จุดนำโชค รับพลัง” ซึ่งเคยเห็นต้นแบบในญี่ปุ่นสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับไทยได้ โดยนำสถานที่ซึ่งอาจจะไม่ใช่วัดแต่เป็นสถานที่ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวไปยืนแล้วสามารถสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง ตัวอย่างในญี่ปุ่นจะเป็นถ้ำแล้วนำหินมาเรียง



ล่าสุดผมมีโอกาสเดินทางไปจันทบุรี พบพระปรางค์แห่งหนึ่ง สถานที่เก็บอัฐิของทหารพระเจ้าตากสินผู้เคยร่วมในเหตุการณ์กู้ชาติบ้านเมือง พอได้ไปยืนอยู่ตรงพระปรางค์จุดนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงพลัง ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ขอให้แต่ละภูมิภาคเสนอกันเข้ามา ส่วนที่ 2 “อาหารถิ่น” ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวยังให้ความสำคัญและสนใจถึงอาหารพื้นบ้าน ททท.ต้องสีสันทำให้เมืองรองเป็นแม่เหล็กดึงดูดการท่องเที่ยวและรายได้อย่างจริงจัง ส่วนที่ 3 “การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ” ยกระดับขีดความสามารถระยะยาวของไทย จึงต้องระวังเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะทรัพยากรธรรมชาติเป็นจุดขาย เพราะคนไทยและทั่วโลกมักชื่นชอบเที่ยวธรรมชาติ ผนวกกับตัวตน อัตลักษณ์ท้องถิ่น ททท.จึงจะประกาศให้ปี 2562 เป็นปีการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ต้องดีขึ้นทั้งในส่วนเจ้าของพื้นที่และผู้เข้ามาท่องเที่ยว เป็น Flagship Project ของ ททท.ด้วย

 ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนและหลังการเลือกตั้งได้สร้างการรับรู้การท่องเที่ยวกับการเมืองนั้น ในมุมมองของคนไทยและต่างชาติล้วนเข้าใจมุมมองของประเทศไทยไม่ใช่เรื่องเกี่ยวข้องกันโดยตรง และจากคำกล่าวของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มองปัจจัยบวกของไทย 3 เรื่อง คือ 1.การเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2.พิธีบรมราชาภิเษกเดือนพฤษภาคม และ 3.ไทยเป็นประธานอาเซียน เป็นปัจจัยบวก 3 มหัศจรรย์ในเชิงบวกที่จะทำให้คนหันมาเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับกลยุทธ์การกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงก่อนเลือกตั้งมีนาคม ทั่วประเทศยังไม่ค่อยมีกิจกรรมดึงดูดความสนใจมากนัก แต่ที่น่าสนใจจะเป็นหลังเลือกตั้งช่วงเดินทางเที่ยวเทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายนนี้ ททท.จะเริ่มประชาสัมพันธ์ โดยคำนึงถึงระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายเลือกตั้งด้วย นั่นคือ ห้ามจัดการประชุมในช่วงเลือกตั้ง 10 วัน แต่หลังจากนั้นก็จะเริ่มกระตุ้นให้ออกไปท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ไทยเพิ่มความคึกคักช่วงสงกรานต์ โดยจะจัดสงกรานต์เมืองรองด้วย

ดร.ยุทธศักดิ์ อธิบายถึงการเตรียมนำผู้บริหารและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเดินทางไปร่วมมหกรรมงานขายท่องเที่ยวรายการใหญ่สุดของโลก ITB 2019 ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมันี ว่า จะชู 3 สิ่งมหัศจรรย์ในไทยตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ธีมงานจึงเน้นนโยบายขายเมืองรอง นำข้อมูลการสื่อสารอธิบายเรื่องทั้งหมด ถึงแม้จะมีปัจจัยภายนอกที่สร้างความวิตกกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในสหภาพยุโรปและมาตรการ BREXIT ของอังกฤษ แต่ก็ยังมีความเชื่อว่าการท่องเที่ยวเป็นเรื่องของความพึงพอใจ ถ้าไทยสามารถรักษาบรรยากาศที่ดีไว้ได้คนก็จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ตลอดปี 2562 นี้เติบโตต่อไปได้ตามเป้าหมาย



สำหรับตลาดยุโรปหรือตลาดระยะไกล ยังได้รับผลกระทบจากฟื้นฟูของเศรษฐกิจ อย่าง ตุรกี ททท.กำลังจับตาดูอยู่เช่นกัน ประเมินแล้วตลาดปีนี้จะเติบโตแบบไม่หวือหวา แต่ก็มีข่าวดีในบางพื้นที่อย่าง ททท.สำนักงานปร๊าก ดูแลตลาดในพื้นที่ สาธารณรัฐเช็ค ฮังการี โปแลนด์ สโลวาเนีย ทั้ง 4 ประเทศจะเติบโตแบบก้าวกระโดด จาก 2 ปัจจัย คือ ฐานจำนวนนักท่องเที่ยวเดิมยังไม่สูงมาก และจำนวนการเพิ่มเที่ยวบินเข้าสู่เมืองไทย ส่วนประเทศอื่น ๆ ตลาดเดิม เช่น สหราชอาณาจักร ทาง ททท.สำนักงานลอนดอน ต้องใช้วิธีขยายตลาดในเมืองรองอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เบอร์มิ่งแฮม แมนเชสเตอร์ มีพอร์ตการบินเข้าสู่ไทยโดยแวะผ่านเข้าทางกลุ่มตะวันออกกลาง ควบคู่กับการชูขายโครงการ EAT THAI VISIT THAI ฝรั่งเศสทำการตลาดเชิงอาหาร หรือเยอรมันก็ร่วมมือกับเตอร์กีแอร์ไลน์ส ก็จะสามารถทำให้ตลาดยุโรปปีนี้เติบโตได้ 5-10 % โดยจะใส่เครื่องมือหลัก ๆ เพื่อให้เติบโตตามเป้าหมาย คือ ข้อมูลข่าวสารอัพเดทสินค้า ตามที่ฝ่ายสินค้าคัดสรรจากเมืองรองมาไว้จำนวนมาก

ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ดิจิตอล ทรานฟอร์เมชั่น ดังจะเห็นได้ปี 2562 จะทำการตลาดดิจิตอล โซเชียล มีเดีย และบล็อกเกอร์ต่าง ๆ เพื่อทำให้ตัวเลขรายได้และจำนวนการท่องเที่ยวเข้าเป้าหมาย
ปี 2562 ภาพรวมตลาดในประเทศ สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท เพิ่ม 10 % จำนวนการเดินทาง 177 ล้านคน-ครั้ง เพิ่ม 6 % จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง การเปิดใช้งานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และ 3 ความมหัศจรรย์เมืองไทย ส่วนปี 2561 ตลาดในประเทศทำได้แล้วโดยสร้างรายได้ 1.07 ล้านล้านบาท เพิ่ม 8 % จำนวนนักท่องเที่ยว 167 ล้านคน-ครั้ง เพิ่ม 5 %



ปี 2562 ตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท เพิ่ม 10 % จำนวนนักท่องเที่ยว 41 ล้านคน เพิ่ม % ปี 2561 มีรายได้ 2 ล้านล้านบาท เพิ่ม 10 % นักท่องเที่ยว 38.3 เพิ่ม 8 % โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก มาตรการฟรีวีซ่า FREE VISA ON ARRIVAL ขยายไปจนถึงเมษายนนี้ ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัย การเพิ่มเส้นทางบินใหม่มีเช่าเหมาลำจาก เยอรมัน นอร์เวย์ส รัสเซีย และสายการบินเปิดใหม่ระยะใกล้ เช่น อีส สตาร์ เจ็ต จากเกาหลีเข้าสู่ไทย

ปัจจัยทั้งหมดตามที่ ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวไว้ข้างต้น จะเป็นแม่เหล็กผลักดันทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปี 2562 จะทำให้รายได้และจำนวนคนเดินทางหลั่งไหลเข้ามายกนำไทยสู่ดาวรุ่งของภูมิภาคอาเซียนและเป็นอีกหนึ่งปีทองของประเทศนั่นเอง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง 

ข่าวที่ 1 “สมัครสมาชิกคิง เพาเวอร์ รับสิทธิ์เพียบในและทั่วโลก 


กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เชิญชวน ให้มาร่วมสมัครบัตรสมาชิกสมัครเลย! ที่จุดบริการสมาชิกทุกสาขา แล้วสะสมยอด เพื่อปรับสถานะสมาชิก CROWN รับส่วนลดสูงสุด 20% และสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น วันนี้ – 31 ธันวาคม 2562 สิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกคิง เพาเวอร์ • สมาชิกประเภท NAVY / SCARLET / ONYX มีอายุ 5 ปี • ยอดซื้อทุก 100 บาท รับ 1 กะรัตสะสม • สิทธิ์ร่วมรายการ Birthday Celebration มอบ 2 สิทธิพิเศษ เพียงซื้อสินค้าราคาปกติตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป เริ่มที่ 1 ชิ้นแรก แล้วก็รับทันทีอีก 2 ต่อ ดังนี้

 ต่อที่ 1: รับ Cash Back 30% ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี มหานคร พัทยา และภูเก็ต

ต่อที่ 2: รับ Cash Back 25% ที่คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต

รวมทั้งสิทธิประโยชน์มากมายจากการสมัครบัตรสมาชิก ได้แก่ 1.ห้องรับรองพิเศษ King Power Lounge 2.ส่วนลดสายการบิน โรงแรม อัตราแลกเปลี่ยน บริการรถเช่า แพ็กเกจทัวร์ 3.ส่วนลดร้านอาหารที่คิง เพาเวอร์รางน้ำ และใน 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต สิทธิในการใช้คูปองส่วนลด on-top 5% จะหมดอายุวันที่ 31 มกราคม 2563

สามารถนำไปใช้ในคิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ใช้ร่วมกับส่วนลดตามแพ็กแกจสมาชิกคิง เพาเวอร์ (คูปอง 1 ใบ สำหรับการซื้อสินค้า 1 ใบเสร็จรับเงิน ) แต่ไม่สามารถเปลี่ยนมือให้สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ท่านอื่นนำมาใช้ได้ และไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการ Birthday Celebration, Gift Voucher, Cash Voucher, E-Purse, E- Cash, Cash Card, Gift Card, คูปองส่วนลดทุกประเภท ยกเว้น ยอดเงินที่ได้รับจากการสมัครสมาชิก สามารถร่วมรายการได้

ข่าวที่ 2”บัตรคิงเพาเวอร์รับส่วนลดที่ห้องญี่ปุ่นพูลแมนรางน้ำถึง20%"




 สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ รับสิทธิพิเศษ ที่ TENSHINO JAPANESE RESTAURANT PULLMAN BANGKOK KING POWER จองได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2562 โดยสมาชิกบัตรประเภท Vega และ Crown รับส่วนลด 20% • ประเภท Onxy, Scarlet และ Navy รับส่วนลด 15% บัตรทุกประเภทใช้เป็นส่วนดเครื่องดื่ม ซึ่งไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ 10 %

 โทร. 0 2680 9999 Facebook: tenshinobangkok หรือ www.tenshinobangkok.com

ข่าวที่ 3 “ททท.เปิดใหญ่THE SEASONหนังท่องเที่ยวยุคใหม่รับปี62” 



นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 เปิดตัวภาพยนตร์สารคดี THE SEASON เพื่อวัดกระแสความสนใจนักท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งภาพยนตร์ชุดนี้ผลิตโดย บริษัท ด็อคคิวเมนท์ จำกัด เป็นฝีมือของบริษัทคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญการทำหนังสารคดีซึ่งแตกต่างภาพยนตร์โฆษณาที่ใช้กลยุทธ์การเซ็ตฉาก ส่วนภาพยนตร์สารคดีใช้ทักษะความสามารถของทีมงานที่จะดึงความงามแท้จริงของธรรมชาติโดยไม่ได้ปรุงแต่งออกมาโชว์ ซึ่งเมืองไทยในแต่ละฤดูกาล ทั้งฤดูหนาว-ฤดูฝน-ฤดูร้อน ล้วนแล้วแต่มีความงดงามในทิศทางแตกต่างกันไป เช่น ฤดูหนาวจะได้เห็นความงดงามของต้นไม้ ดอกไม้ สายหมอก ภูเขา ภาคเหนือ

ขณะเดียวกันในฤดูฝนจะได้เห็นความงดงามของป่าร้อนชื้นทางภาคใต้ ป่าฮาลาบารา นราธิวาส ยะลา หรือทางชายทะเลภาคตะวันออก และฝั่งอันดามันภาคใต้ ภาพยนตร์ THE SEASON จะเป็นโจทก์หนังสารคดีแบ่งเป็น 14 ตอน แบ่งความงามของ 3 ฤดู หนาว-ร้อน-ฝน โดยในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นี้ จะนำมาให้ชมเพียง 3 ตอนเรียกน้ำย่อยก่อน เพราะหลายตอนยังอยู่ในช่วงการผลิตและถ่ายทำ ส่วนช่องทางการเผยแพร่สื่อสารให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกจะนำภาพยนตร์สารคดี นำเสนอผ่านออนไลน์ของเว็บไซต์ www.tourismthailand.org และเว็บไซต์ของสำนักงาน ททท.ในแต่ละประเทศทั่วโลก รวมทั้งจะฉายผ่านช่อง Discovery ด้วย

 ประเด็นสำคัญต้องการนำความงามทั้งหมดของเมืองไทยไปนำเสนอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยขมวดปมสุดท้ายเรื่อง “ความงาม” เหล่านี้มีความเปราะบาง แต่จะทำอย่างไรให้ความงดงามคงอยู่ตลอดไป ทางเดียวก็คือนักท่องเที่ยวจะต้องมีทัศนคติในการเดินทางใหม่ทั้งหมด โดยเดินทางอย่างรับผิดชอบ ซึ่ง ททท.เองเคยมีคอนเซ็ปต์ให้คนทุกกลุ่มเดินทางโดยเก็บมาเพียงภาพถ่าย ทิ้งไว้เพียงรอยเท้า ซึ่งภาพยนตร์สารคดี THE SEASON ต้องการสื่อความหมายอันลึกซึ้งเหล่านี้ออกมาให้ได้

 ข่าวที่ 4 “ททท.ต้อนรับคนดังสหรัฐทำกิจกรรมดึง1.7ล้านแฟนคลับทัวร์ไทย”





 นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ต้อนรับผู้มีชื่อเสียงจากสหรัฐอเมริกาซึ่งมีอิทธิพลต่อนักท่องเที่ยว โดยททท.สำนักงานนิวยอร์กได้เชิญมาสัมผัสประสบการณ์ในเมืองไทยคือ Mr.Michael Trevino ดารานำเรื่อง “Vampire Diary”และ TV Series เรื่องใหม่ล่าสุด The CW’s Roswell, New Mexico แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Operation Smile USA รวมทั้งการเทย่า โรเจอร์ ทูตสร้างรอยยิ้มของมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัครโครงการผ่าตัดให้แก่เด็กโรคปากแหว่งเพดานโหว่ร่วมกับทีมแพทย์ของเมืองไทยที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

หลังจากเสร็จสิ้นการท่องเที่ยวเชิงจิตอาสาแล้ว ทีมของ Mr.Michael Trevino ได้เดินทางเที่ยวต่อในเชียงใหม่ พังงา และกรุงเทพฯ ด้วยความประทับใจที่เดินทางเที่ยวเมืองไทยเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งได้โพสต์เรื่องราวผ่าน Instagram และ Twitter สามารถต่อยอดการรับรู้สินค้าใหม่ของไทยไปสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวสหรัฐคนรุ่นใหม่ Millennials ซึ่งผู้ติดตามสื่อโซเชียลของ Michael Trevino กว่า 1.7 ล้านคน

ข่าวที่ 5 “บางจากสร้างนักเขียนเยาวชนสัมผัสวิถีชุมชนยั่งยืน”




 นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานวางแผนยุทธศาสตร์และพัฒนาความยั่งยืนองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดโครงการ ค่ายบางจากฯ สร้างนักเขียนเยาวชน ปีที่ 7 : ตามรอยศาสตร์พระราชา โดยร่วมกับนิตยสารสารคดี จัดอบรมพัฒนาทักษะความรู้ด้านการเขียนและการถ่ายภาพ เพิ่มพูนประสบการณ์ความรู้นอกห้องเรียนให้แก่เยาวชนอายุระหว่าง 15-22 ปี ลงพื้นที่เรียนรู้ร่วมกับเกษตรกร สัมผัสวิถีชุมชนที่ยั่งยืน และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ พื้นที่อำเภอแก่นมะกรูด จังหวัดอุทัยธานี ระหว่างวันที่ 14-17 กุมภาพันธ์ 2562 เพื่อนำมาถ่ายทอดเรื่องราว สร้างสรรค์ผลงาน

พร้อมกันนี้น้อง ๆ ยังได้เยี่ยมชมสถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขาสุขุมวิท 62 ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างสรรค์การบริการเพื่อส่งมอบ Greenovative Experience สู่ผู้ใช้บริการด้วยตู้จ่ายดิจิตอลแบบแขวนแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย พร้อมชมศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมสีเขียว Greenovation Learning Center ที่สำนักงานใหญ่ บริษัท บางจากฯ

ข่าวที่ 6 “BCPGเครือบางจากโชว์ปี61กำไรโตทะลุ25%” 

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจใน ปี 2561 บริษัทยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำกำไรสุทธิได้ถึง 2,219 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ประมาณ 25 % จากปัจจัยหลักคือ การบันทึกกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานในญี่ปุ่น รวมทั้งผลการดำเนินงานที่ดีในไทยกับญี่ปุ่น และรับรู้ผลกำไรเต็มปีจากโครงการในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย โดยอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 67 % และกำไรต่อหุ้น 1.11 บาท พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 0.16 บาทต่อหุ้น รวมจ่ายเงินปันผลทั้งปีหุ้นละ 0.64 บาท คิดเป็นเงินปันผลรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,278 ล้านบาท

 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการจำหน่ายสินทรัพย์โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่น 2 โครงการให้แก่กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) รวมทั้งการเปิดเชิงพาณิชย์ธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในไทย กำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์ และญี่ปุ่น 4 เมกะวัตต์



 ช่วงที่ 2 ขึ้นดอยสูงไปเยี่ยมเยือน “ปางตอง-ปางอุ๋ง” ดื่มด่ำธรรมชาติแสนงามกับศูนย์บริการและพัฒนาที่สูง ตามรอยพระบาท ด้านการส่งเสริมอาชีพชาวเขาในภาคเหนือ พร้อม ๆ กับการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย แล้วหันมาสนใจสุขภาพกับเรื่อง “เมื่อเกิดอาการตะคริวกลางดึก” จะต้องทำอย่างไร และข่าวทันเหตุการณ์ “3ทุนใหญ่ยกห้างดองกิ ญี่ปุ่น” มาเปิดที่ทองหล่อไม่ต้องบินให้ยุ่งยากอีกแล้ว “โรงแรมอินดิโก้กรุงเทพฯ” ชวนจิบบุฟเฟต์ชายามบ่ายที่ “ชาร์ แบงคอก เทรนด์โลก” ดื่มไม่อั้นจ่ายแค่ 999 บาท “แควนตัส” สายการบินออสเตรเลียโชว์เหนือครึ่งปีแรกโกยกำไร 1.7 หมื่นล้านบาท สวนทางราคาน้ำมันพุ่ง 

@ขึ้นดอยสูงไปเที่ยวศูนย์ฯ ปางตอง แม่ฮ่องสอน 

แหล่งท่องเที่ยว ตามรอยพระบาท ด้านการพัฒนาและ ส่งเสริมอาชีพ ในภาคเหนือ “ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดําริ” สายหมอกยามเช้า ที่ป่าสนริมอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง คือกิจกรรมท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของคนที่ได้มาเยือนแม่ฮ่อนสอน ซึ่งปางอุ๋งนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดําริ แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ปางอุ๋งเท่านั้น เพราะที่ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดำริหรือศูนย์ปางตอง

ปัจจุบันมีการขยายพื้นที่โดยแบ่งเป็น โครงการพระราชดำริปางตอง 1 (ห้วยมะเขือส้ม)โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) โครงการ พระราชดำริปางตอง 3 (แม่สะงา-หมอกจำแป่) และโครงการพระราชดำริปางตอง 4 (พระตำหนักปางตอง) พัฒนาเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้บนพื้นที่สูง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามรอยพระบาทแห่งสำคัญ

ศูนย์ปางตอง คือแหล่งเรียนรู้สู่การขยายผล เพื่อชุมชน คน และป่าในพื้นที่เป้าหมาย ประกอบไปด้วยศูนย์การวิจัยเชิงพัฒนาส่งเสริมอาชีพบนพื้นที่สูงหลายแขนง สถานีวิจัยทดสอบพันธุ์สัตว์ การเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่า ตลอดจนศูนย์อนุรักษ์และจัดการพื้นที่ป่า และการพัฒนาระบบไฟฟ้าพลังน้ำ เรียกว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติ ที่นอกจากจะได้ความเพลิดเพลินแล้ว ยังมีความรู้มากมายติดตัว กลับไปเต็มกระเป๋า

เส้นทางท่องเที่ยวปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) จ.แม่ฮ่องสอน

 วันแรก : เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน “ช่วงเช้า” ชมวิวที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม “ช่วงบ่าย” เยี่ยมชมหลวงพ่ออุ่นเมือง วัดน้ำฮู และเจดีย์อนุสรณ์สถานพระสุพรรณกัลยา พระธาตุแม่เย็น ช็อปปิ้งถนนคนเดินปาย

วันที่สอง : เที่ยวแม่ฮ่องสอน “ช่วงเช้า”เดินทางไปจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล บ้านสันติชล แวะจุดชมวิวปางมะผ้า “ช่วงบ่าย” โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) พระตำหนักปางตอง ชมพื้นที่เลี้ยงแกะ ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตองพระตำหนักปางตอง แวะเยี่ยมชมพูโคลนคันทรีคลับ “ช่วงเย็น” ไปสักการะพระธาตุดอยกองมู เดินเล่นถนนคนเดินแม่ฮ่องสอนชมทัศนียภาพที่วัดจองคำ-วัดจองกลาง ยามค่ำ

เที่ยวต่ออีกเป็นวันที่สาม “ช่วงเช้า” ไปวัดต่อแพชมผ้าม่าน 100 ปี เยี่ยมชมอนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น “ช่วงบ่าย” ชมบ้านเมืองปอน และวัดแม่ปาง วัดพระธาตุจอมแจ้ง และศูนย์วัฒนธรรมแม่สะเรียง สถานที่เที่ยวห้ามพลาด ไปชมพระตำหนักปางตอง ชมเรือนประทับแรมไม้ 6 หลัง ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้บนไหล่เขา สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าปางตอง ชมสัตว์ป่าหาดูยากกว่า 30 ชนิด เช่น เสือลายเมฆ หมีควาย ไก่ฟ้า นกยูง รวมทั้งไปชมสถานีแปลงพันธุ์ไม้ดอก ชมเรือนเพาะชำต้นกล้าไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์

 แล้วต้องห้ามพลาดสนุกกับกิจกรรม เดินลัดเลาะเนินเขา ข้ามลำธารขึ้นไปชมพระตำหนักปางตอง ที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม ชมหิ่งห้อยยามค่ำคืนที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติภายในสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ ชมฝูงแกะและฝูงม้าที่ลานทุ่งหญ้ากว้าง แปลงผักปลอดสารพิษและผักพื้นเมือง

เที่ยวเมืองไทยในแม่ฮ่องสอนสนุกกว่าคิดอย่างแน่นอน

@เกิดอาการเป็นตะคริวกลางคืนต้องจัดการอย่างไร ?




ตะคริว คือ อาการหดเกร็งที่ทำให้กล้ามเนื้อปวดและเป็นก้อนแข็ง ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยที่ไม่สามารถบังคับได้ การเป็นตะคริวอาจเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อส่วนใดของร่างกายก็ได้ในบางรายอาจมีอาการตะคริวที่ขาในขณะนอนหลับตอนกลางคืน จนสะดุ้งตื่น หรือที่เรียกว่า ตะคริวกลางคืน (Nocturnal Leg Cramps) ซึ่งตะคริวมักเกิดกับกล้ามเนื้อขาและพบได้บ่อยในคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุ ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดตะคริว

 แต่พบว่าบางรายอาจสัมพันธ์กับการที่นั่งอยู่เป็นเวลานาน ๆ หรือมีการใช้กล้ามเนื้อส่วนนั้นมากเกินไป การยืน หรือทำงานบนพื้นแข็ง เช่น คอนกรีตเป็นเวลานาน หรือนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น

นอกจากนี้พบว่าอาการตะคริวอาจสัมพันธ์กับภาวะต่าง ๆ ได้แก่ การตั้งครรภ์ ภาวะขาดน้ำ กลุ่มโรคทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โรคต่อมไร้ท่อ หรือการรับประทานยาบางประเภท เช่น ยาขับปัสสาวะ เป็นต้น หากเกิดขึ้นบ่อยหรือรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมต่อไป

 หากไม่อยากเป็นตะคริวตอนกลางคืนหรือขณะนอนหลับ ควรนอนในท่าที่สบายผ่อนคลาย ใช้หมอนรองขา ให้สูงจากเตียงประมาณ 10 เซนติเมตร ห่มผ้าให้ความอบอุ่นกับร่างกาย รวมทั้งดื่มนมก่อนนอนเพื่อเพิ่มแคลเซียม และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่ถ้าเป็นตะคริวขณะนอนหลับสามารถดูแลให้ดีขึ้นได้โดย - ยืดกล้ามเนื้อขา ยืดขาให้ตรง - กระดูกปลายเท้าขึ้นค้างไว้ 5 วินาที ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง - นวดกล้ามเนื้อขาเป็นวงกลมไปเรื่อย ๆ จนอาการดีขึ้น

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง 

ข่าวแรก “3ทุนใหญ่นำดองกิศูนย์การค้าดังญี่ปุ่นปักธงเปิดที่ทองหล่อ” 


นายโคจิ โอฮาร่าประธานกรรมการบริษัท เจซีอี-ทีโอเอ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มทุนได้รวมตัวกันลงทุนกว่า 700 ล้านบาท ยึดทำเลทองกว่า 3 ไร่ เปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ คือ ดองกิ มอลล์ มาเปทองหล่อ กับร้านดอง ดอง ดองกิ ตั้งอยู่บริเวณซอยทองหล่อ 10 ใกล้ปากซอยเอกมัย 5 ออกแบบสร้างจุดขาย “FOOD, FUN, CULTURE & AMUSEMENT MALL ซึ่งเป็นศูนย์รวมความบันเทิงสไตล์ญี่ปุ่นแบบครบวงจรทั้ง ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ดัง

ศูนย์การค้าดองกิ มอลล์ เริ่มเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นมา ด้วยการร่วมมือของกลุ่มทุน 3 บริษัท คือ บริษัท แพน แปซิฟิค อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิงส์ จำกัด ในกลุ่มดองกิโฮเต้ บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายสีรายใหญ่ประเทศไทย และ บริษัท พี พี ไอ จำกัด มี บริษัท นิปปอน พาร์คกิ้งดีเวลลอปเมนท์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ร่วมบริหาร

ภายในศูนย์การค้าดองกิ เปิดบริการ 24 ชั่วโมง มี 5 ชั้น ได้แก่

“ชั้น 1 และ 2” คือ ร้านดอง ดอง ดองกิ ขายสินค้าหลากหลายชนิด เริ่มตั้งแต่ข้าวของเครื่องใช้ ผลิตภัณฑ์อาหารสดและแปรรูป ขนม สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์กีฬาและสันทนาการ สินค้าแต่ละชนิดราคาใกล้เคียงกับในญี่ปุ่น

 “ชั้น 3 และ 4” เป็นพื้นที่บริการร้านอาหารกว่า 20 ร้าน เช่น เซน นากิยะ เทปเปน ซางามิ และอื่น ๆ พร้อมร้านคาเฟ่ กับร้านอาหารสาขาแรกในไทย ได้แก่ ร้านนานะ กรีนที คาเฟ่ มิทซูโมโตะ คอฟฟี่ มา เมซง เรื่อยไปจนถึงร้านต้นตำรับญี่ปุ่นอย่าง ร้านซูรูฮะ ร้านแว่นตาโอนเดส์ ร้านคาราโอเกะมาเนกิเนโกะ

ชั้น 5 ออกแบบพื้นที่เป็นโซนสุขภาพและเอนเตอร์เทนเมนท์ มีร้านอุปกรณ์กีฬา ดี-สปอร์ตส์ สเตเดียม ลานกีฬาในร่มยอดนิยมของญี่ปุ่น สวนสนุกคาแรคเตอร์ “HELLO KITTY GO AROUND THAILAND” และร้านเกมที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน

ข่าวที่สอง “โรงแรมอินดิโก้ชวนจิบชาร์แบงคอกสไตล์เทรนด์โลกแค่999บาท” 




โรงแรม โฮเต็ล อินดิโก้ กรุงเทพฯ ถนนวิทยุ แนะนำบริการใหม่ “ชาร์ แบงคอก” การจิบชายามบ่ายในสไตล์ เฮนดริกส์ จิน ที่ถูกรังสรรค์โดยนักชงระดับโลก “คุณเผ่าทอง มั่นคงวงศ์เจริญ หรือคุณเต๋า” ในวิวพาโนรามา พร้อมเลือกของว่างทานคู่กับเซ็ตน้ำชา ทั้งขนมและอาหารคาว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในราคาเซ็ตสำหรับ 2 คน 999++ บาท รวมชาและกาแฟแบบเติมได้ไม่อั้น

สำหรับเซ็ตน้ำชายามบ่ายนี้ ถูกรังสรรค์โดยคุณเต๋า บาร์เทนเดอร์ระดับโลก ที่นำน้ำชามาผสมกับเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ของเฮนดริก อาทิเช่น ชาเฮนดริกจินไอซ์ที หรือ ออย สโมคกี้ ทำให้เซ็ตน้ำชานี้หอม อร่อย กลมกล่อม คลายความเหนื่อยล้าตลอดทั้งสัปดาห์ของคุณให้หมดไป สามารถแวะไปจิบชายามบ่าย พร้อมอาหารอร่อย เช่น สโคนราดแยมมะเดื่อ สลัดปลาคอดเสิร์ฟพร้อมกับอัลมอนด์และหน่อไม้ฝรั่ง มาการอง บรีออช์ราดคัสตาร์ใบเตย หรือลาเวนเดอร์พานาคอตตาราดน้ำผึ้ง ได้ทุกวัน เวลา 17.00 – 19.00 น. ที่ ชั้น25 และ ชั้น26 โทร 02-207-4999 หรือ อีเมล charbangkok@ihg.com

 ข่าวที่สาม “แควนตัสกรุ๊ปปลื้มทำกำไรพุ่ง1.7หมื่นล้นสวนทางน้ำมันพุ่ง” 




มร.อลัน จอยส์ ประธานกรรมการบริหาร แควนตัส กรุ๊ป เปิดเผยว่า แควนตัสกรุ๊ปปลื้มผลประกอบการครึ่งปีแรกสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2561 ด้วยกำไรก่อนภาษี 17,940 ล้านบาท (780 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) กำไรก่อนหักภาษี 16,905 ล้านบาท (735 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) แม้ประสบราคาน้ำมันขึ้น 9,568 ล้านบาท (416 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) หรือคิดเป็น 27 %

กลยุทธ์ที่นำมาใช้ในช่วงครึ่งปีแรก 2562 ทั้ง 2 แบรนด์ คือสายการบินแควนตัสและสายการบินเจ๊ทสตาร์ วางแผนร่วมมือกันให้บริการในเส้นทางบินภายในประเทศอย่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน ส่วนราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเป็นปัจจัยหลักทำให้ต้องปรับตัวเรื่องค่าใช้จ่ายซึ่งง่ายกว่าเส้นทางต่างประเทศที่น้ำมันถือเป็นค่าใช้จ่ายหลัก อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นทั้งค่าคอมมิชชั่นที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินสกุลออสเตรเลีย

 ทว่าแควนตัสคงเดินหน้ากลยุทธ์ที่วางไว้โดยรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ ปลดระวางเครื่องบินโบอิ้ง 747 เพิ่มความหลากหลายด้านบริการที่มีลูกค้าจงรักภักดีต่อแบรนด์แควนตัสที่มีการตอบรับดียิ่ง รวมทั้งแควนตัสกรุ๊ปยังอัพเกรดห้องพักรับรองผู้โดยสารหลายแห่งเพื่อส่งเสริมการใช้บริการของผู้โดยสารระดับพรีเมี่ยมด้วย

ติดตามฟังข่าวได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ผู้ดำเนินรายการและคอลัมนิสต์ท่องเที่ยว



วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

เปิดใจ ผู้นำ ทอท.เคลียร์2ปมคาใจสุวรรณภูมิ เปิดแล้วTORดิวตี้ฟรี3สัญญา-ล้มกระดานเทอร์มมินัล2 -สุขทุกวันที่จันทบุรีในอ่างเอ็ดกับอ่าวคุ้งกระเบน

เปิดใจ”บิ๊กทอท.”เคลียร์เบื้องลึก2ปมคาใจสุวรรณภูมิปี’62 
ดิวตี้ฟรี-PickUpCounterฉลุย-นับหนึ่งใหม่ดีไซน์อาคาร2 
คิงเพาเวอร์ชูแคมเปญดาวน์ทาวน์ทุกสาขาแจกอั่งเปา3พัน 
ช้อปดิวตี้ฟรี3สนามบินรับส่วนลดทันที650บาทถึง28ก.พ. 
ททท.จัดกระหึ่มCosplay Fun Runเขาใหญ่ 23-24 ก.พ. 
บางจากชูใช้บัตรเครดิตแบงก์กรุงเทพฯเติมน้ำมันลด10% 
โครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาวอุดรชุบวิถีเกษตรที่สูงยั่งยืน 
เที่ยวสนุกสุขทุกวันที่จันทบุรีใน”อ่างเอ็ด-อ่าวคุ้งกระเบน” 
เตรียมตัวอย่างไรเพื่อรับมือร่างกายเสื่อมจากวัย 9อย่าง 
บางกอกแอร์ผุดสตรีทฟู้ดลอยฟ้าทุกเที่ยวบินตลอดปี’62 
บินไทยลั่นทำแผนผ่าตัดใหญ่ปลดหนี้ไทยสไมล์8พันล้าน 
กสอ.ฝันปั้น215หมู่บ้านท่องเที่ยวCIVเฉิดฉายในเวทีโลก 

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ #วันธรรมดาน่าเที่ยว #MoreFunตะวันออก #อะเมซิ่งไทยเท่ #TAT



ช่วงที่ 1 เกาะติดเบื้องลึกกับ “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” 2 ปมคาใจการเปิดประมูล 2 โปรเจ็กต์ในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่บอร์ดเทหน้าตักให้ แยกสัญญา TOR บริหารจัดการออกเป็น 3 สัญญา “ดิวตี้ฟรี-พื้นที่เชิงพาณิชย์ และ Pick up Counter ปลดทุกล็อกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ให้แข่งแบบไม่ต้องมีรายใหญ่ ขานรับดิวตี้ฟรีเสรีในเมือง ส่วนการล้มกระดานเพื่อนับหนึ่งใหม่ โปรเจ็กต์การประกวดและออกแบบอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 อันมีเหตุปัจจัยซึ่งมีนัยสำคัญหลังถกกับ ACC มีข้อเสนอเพิ่มเติมในหลายเรื่องเกี่ยวข้องกับการลงทุนโดยตรง ภายในต้นมีนาคมจะส่งเอกสารสรุปให้กระทรวงคมนาคมส่งสภาพัฒน์ตรวจละเอียดยิบ ก่อนเดินหน้าเปิดประมูลใหม่ต่อไป 




ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่าขณะนี้ได้เดินหน้าตามมติคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่เป็นกระแสแรงในต้นปีนี้โดยได้รับความสนใจจากสังคมอย่างมาก 2 เรื่อง คือ เรื่องแรก การจัดทำเงื่อนไขการประมูล (Term of Reference : TOR) พื้นที่ในอาคารสนามบินสุวรรณภูมิ กับ เรื่องที่ 2 การทบทวนโครงการประมูลการประกวดและออกแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สุวรรณภูมิ ผลการประชุมบอร์ด ทอท.เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 เรื่อง ประกอบด้วย



 เรื่องที่ 1 การเปิดเงื่อนไข TOR ประมูลพื้นที่ในอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิ บอร์ดมีความเห็นให้มุ่งเน้นแยกการประมูลการใช้พื้นที่เป็น 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1.พื้นที่ส่งมอบสินค้าปลอดอากรสนามบิน หรือ Pick up Counter ควรให้เปิดกว้างในทุกท่าอากาศ ทอท.เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการซึ่งสนใจลงทุนธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในเมือง (Duty free downtown) โดยทั่วไป เมื่อนักท่องเที่ยวช้อปปิ้งสินค้าดิวตี้ฟรีจากในเมืองเรียบร้อยแล้ว สามารถไปรับมอบที่สนามบินของ ทอท.ได้ เพื่อเป็นการปลดล็อกโดยไม่จำเป็นจะต้องมีรายใหญ่รายเดียว 2.พื้นที่จำหน่ายสินค้าปลอดอากรภายในสนามบินสุวรรณภูมิ (duty free Airport) และ 3.พื้นที่เชิงพาณิชย์ (Commercial Area) เพื่อใช้ประโยชน์ทางบริการร้านค้า ร้านอาหาร และอื่น ๆ

ขณะเดียวกันยังจะมีการกำหนดทีโออาร์แยกในช้พื้นที่ทำกิจกรรมอื่น ๆ แบบเฉพาะเจาะจง อีกประมาณกว่า 10 สัญญาอาทิ ป้ายโฆษณา การขนส่ง เลาจน์ผู้โดยสารสนามบิน Sleeping Box และกิจกรรมพิเศษ รวมถึงดิวตี้ฟรี pick up counter ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเหล่านี้ด้วย ตามขั้นตอนตามระเบียบปฏิบัติหรือกติกา ทอท. ทางบอร์ดมีข้อสังเกตซึ่งเป็นประเด็นทางกฎหมาย เกี่ยวกับความชัดเจนในทางปฏิบัติในการเปิดรายละเอียดตามเงื่อนไข TOR เมื่อดำเนินการศึกษาจนได้ข้อสรุปแนวทางการเปิดเชิญชวนให้เอกชนเข้าซื้อซองทีโออาร์เข้าสู่กระบวนการประมูลได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องนำกลับมาเข้าบอร์ด ทอท.อีกแล้ว

สำหรับ ทอท.ทราบถึงสัญญาดิวตี้ฟรีปัจจุบันในสุวรรณภูมิจะหมดสัญญาอีก 1 ปีข้างหน้า สิ้นสุด ณ วันที่ 27 กันยายน 2563 ก่อนจะหมดสัญญาจะต้องมีเวลาประมาณ 1 ปี ให้เอกชนรายใหม่ที่ชนะการประมูลครั้งนี้ได้ตกแต่ง ออกแบบสถานที่ เตรียมความพร้อมทำข้อตกลงเจรจากับเจ้าของแบรนด์เนมสินค้าที่จะนำมาวางจำหน่ายในร้านค้าดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ คาดว่ากระบวนการตามกฎหมายตามเป้าหมายประมาณเดือนมีนาคม 2562 จะสามารถเปิดรายละเอียดทั้งหมดตามกรอบกฎหมายได้อย่างครบถ้วน เพื่อประกาศขายซองทีโออาร์ นับต่อไปคือจะมีเวลาให้เอกชนประมาณ 1 ปีครึ่ง



สำหรับพื้นที่การประมูลร้านค้าดิวตี้ฟรีปัจจุบันในอาคารผู้โดยสารหลักยังคงเป็นของ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งจะหมดสัญญาในช่วงเดียวกันกับจะเปิดบริการ Sattlel light Terminal หลังใหม่ ข้อมูลทั้งหมดในทีโออาร์จะระบุไว้อย่างชัดเจนเมื่อประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมประมูลตามกรอบเบื้องต้นประมาณเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายยังพอมีเวลาพอในการเขียน proposal ข้อเสนอสิทธิประโยชน์ และ ทอท.เองก็มีช่วงตอบข้อซักถามของผู้สนใจยื่นประมูล โดยจะมีเกณฑ์มาตรฐานสากลระบุให้ด้วยถึงขนาดพื้นที่กับแนวทางการเขียนข้อเสนอสิทธิประโยชน์เท่าไร

ขณะนี้อาจจะยังไม่สามารถพูดรายละเอียดได้ทั้งหมด เนื่องจากมีข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามถึงจะประกาศเชิญชวนเข้าร่วมประมูลในเดือนมีนาคมนี้ ยังมีเวลาเพียงพอตามระเบียบอย่างแน่นอน ส่วนข้อแนะนำภาคเอกชนที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันประมูลบริหารจัดการพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ ปี 2562 นับเป็นการเปิดประมูลครั้งใหญ่ของประเทศไทยรวมถึงสาธารณชนต่างพากันจับตาคงจะต้องให้ข้อมูลพร้อมกันในวันประกาศทีโออาร์ เพื่อป้องกันความได้เปรียบเสียเปรียบ รวมถึงต้องระวังอย่างมากเกี่ยวกับข้อกฎหมายควบคู่กันไปด้วย



ดร.นิตินัย กล่าวถึง เรื่องที่ 2 การทบทวนผลประมูลโครงการประกวดและออกแบบการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สุวรรณภูมิ ตามมติบอร์ด ทอท.ให้ยกเลิกผลการแข่งขันที่ประกาศรายชื่อผู้ชนะไปแล้วเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561 แล้วมอบหมายให้ ทอท.ไปดำเนินการตามขั้นตอนการเปิดประมูลครั้งใหม่ “ผมขอย้อนเหตุการณ์เมื่อปี 2561 ทอท.ได้เสนอสำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษบกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปพร้อมกัน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การขยายทางวิ่งสุวรรณภูมิเส้นที่ 3 (Runway 3) 2.การขยายส่วนต่อขยายก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศตะวันตก (WEST WING) 3.วิจัยและออกแบบการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Terminal 2) จากนั้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ได้รับความสนใจมากสังคม บอร์ดจึงขอให้ ทอท.เสนอไปยังสภาพัฒน์ขอให้ชะลอการพิจารณาเรื่องส่วนต่อขยายเทอร์มินัล 2 ไว้ก่อน แล้วเร่งพิจารณาส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันตกก่อน

 จากนั้น เมื่อวันที่ 17-18 มกราคม 2562 ทอท.ได้เปิดเวทีพูดคุยกับทาง คณะกรรมการที่ปรึกษาท่าอากาศยาน หรือ ACC : Airport Consultative Committee ที่มีสมาชิกเป็นกลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการสายการบิน สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) สมาคมตัวแทนจัดนำเที่ยว แต่ละฝ่ายให้ความร่วมมือกับ ทอท.เป็นอย่างดี โดยได้แสดงความเห็นและความเห็นห่วงถึงความแออัดในอาคารผู้โดยสารปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงการขอ Slot การบิน การเพิ่มฝูงบิน รวมทั้งการบริการลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวเข้า-ออก จะยิ่งยากลำบาก

 ในเวทีดังกล่าวจึงสนับสนุนให้ ทอท.เดินหน้าขยายการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ต่อไป แต่ทางผู้ใช้บริการ (user) ได้มีข้อเสนอแนะระบุถึงความต้องการเพิ่มในด้านต่าง ๆ อาทิ สายพานขนกระเป๋ารวดเร็วระหว่างอาคาร 1-2 มีความสะดวกในการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างอาคารด้วยบริการรถโมโนเรลหรือไม่ หากไม่มีสิ่งที่เสนอแนะไว้ก็ขอให้ทำเพิ่มเติม ซึ่งทาง ทอท.ก็ได้รวบรวมข้อคิดเห็นต่าง ๆ อีกครั้งก่อนเสนอที่ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงมติบอร์ดครั้งใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการจริงของผู้ประกอบการซึ่งเป็นทั้งผู้ให้และผู้ใช้บริการสุวรรณภูมิ ซึ่งมีข้อเสนอใหม่นำไปสู่ “การเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมการออกแบบหรือดีไซน์อย่างมีนัยสำคัญ” แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ทอท.ไม่สามารถไปเพิ่มงานให้กับทางผู้ชนะการประมูลโครงการวิจัยและออกแบบสุวรรณภูมิที่ประกาศรายชื่อไปเมื่อปี 2561 ได้



ดังนั้นจึงต้องยกเลิกผลการประมูลครั้งที่ผ่านมา แล้วดำเนินการเปิดประมูลดีไซน์เทอร์มินัล 2 สุวรรณภูมิใหม่ ตามขั้นตอน ทอท.ต้องรวบรวมรายละเอียดข้อมูลส่งไปให้สภาพัฒน์ฯ พิจารณาเรื่องดังกล่าวใหม่อีกครั้ง หลังจากที่เคยทำหนังสือให้ชะลอไว้เมื่อปีที่ผ่านมา แนวโน้ม ทอท.น่าจะทำข้อมูลทั้งหมดส่งให้กระทรวงคมนาคมได้ภายในต้นเดือนมีนาคมนี้ แล้วส่งต่อไปยังสภาพัฒน์ต่อไป สำหรับในการหารือกับผู้ชนะการประมูลโครงการวิจัยและออกแบบอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 นั้น

ทอท.จะต้องจัดทีมเข้าพูดคุยอธิบายรายละเอียดถึงความจำเป็นที่จะต้องยกเลิกการประมูลดังกล่าวได้ เนื่องจากตามทีโออาร์ได้ระบุเงื่อนไขไว้ด้วยเช่นกันถึงหากมีเหตุจำเป็นก็สามารถยกเลิกสัญญาได้ แต่ต้องขอยืนยันว่า ทอท.จะไม่ได้ทำการแบบละลานอย่างไร้เหตุผล หรือจะยกเลิกก็ทำนั้น แต่ที่ผ่านมา ทอท.ได้ทำหนังสือสอบถามขอคำแนะนำไปถึงองค์การการพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) สมาคมขนส่งทางอากาศเอเชีย แปซิฟิก และอีกหลายหน่วยงาน รวมถึงข้อเสนอที่ได้รับจากผู้ประกอบการกลุ่มผู้ใช้สนามบินสุวรรณภูมิระบุถึงความต้องการที่ขอให้เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมการออกแบบก่อสร้างอย่างมีนัยสำคัญจริง ๆ

นำมาซึ่งความจำเป็นที่จะต้องใช้อำนาจตามกฎหมายที่สงวนไว้เพื่อยกเลิกการประมูลกิจกรรมโครงการดังกล่าว แล้วเริ่มต้นเปิดประมูลกันใหม่ในปี 2562 โดยไม่ได้มีเจตนาหรือมุ่งหวังรังแกเอกชนรายใด ๆ ทั้งสิ้น พร้อมทั้งขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ฟังข่าวต้นชั่วโมง 

ข่าวที่ 1 ช้อปคิงเพาเวอร์ดาวน์ทาวน์ทุกสาขารับอั่งเปาสูงสุด3,000 บาท 




กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนสมาชิกผู้ถือบัตรคิง เพาเวอร์ ทุกประเภท ช้อปอย่างเพลิดเพลินตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2562 รับทันทีอั่งเปาส่วนลดสูงสุด 3,000 บาท ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และมหานคร เมื่อช้อปครบตามยอดที่กำหนดแล้วรับส่วนลด 2 ต่อแบบชีล ๆ แล้วนำคูปองส่วนลดไปซื้อสินค้า คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต ภายในวันที่แลกรับนั้น ๆ โดยรับ

 ต่อที่ 1 ช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ รับทันที อั่งเปาส่วนลด 1,000 บาท

ต่อที่ 2 ช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ รับเพิ่ม อั่งเปาส่วนลด 2,000 บาท

 ตามเงื่อนไขรายการ จำกัดสิทธิ์ 1 สิทธิ์/ใบเสร็จ/คน/วัน ช้อปสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบสินค้าเพิ่มเติม ณ จุดขาย ยอดซื้อที่เกิดจากแผนกเหล้า บุหรี่ ไม่สามารถร่วมรายการ หรือจะผ่อนชำระ 0% ก็สามารถทำได้ กับบัตรเครดิตที่เข้าร่วมรายการกับคิง เพาเวอร์ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย

ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์เทลดน้ำหอม3สนามบินสูงสุด650บาท” 




คิง เพาเวอร์ แนะนำให้ช้อปได้เต็มที่ ในแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง รับส่วนลดสูงสุด 650 บาทที่ คิง เพาเวอร์ สนามบินดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ (ร้านค้าขาออก) วันนี้ – 28 ก.พ. 2562 พิเศษ สำหรับพาสปอร์ตไทย และสมาชิกคิง เพาเวอร์ ช้อปครบ 3,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ ลดทันที 300 บาท หรือ ช้อปครบ 6,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ ลดทันที 650 บาท

โดยการช้อปสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบสินค้าร่วมรายการเพิ่มเติมที่จุดขายสามารถ รายการผ่อนชำระ 0% สามารถร่วมรายการ และใช้ร่วมกับส่วนลดจากบัตรสมาชิกคิง เพาเวอร์ แต่ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ Birthday Celebration, ยอดเงินในบัตรสมาชิก, Cash Card, Gift Card, Cash Voucher, Gift Voucher รวมถึงคูปองส่วนลดอื่นๆ ยกเว้น ยอดเงินในบัตรสมาชิกที่ได้รับจากการสมัครบัตรสมาชิก สามารถร่วมรายการได้

ข่าวที่ 3 “ททท.โคราชจัดกระหึ่ม Cosplay Fun Run 23-24ก.พ.นี้”




 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา ร่วมสนับสนุนภาคีพันธมิตร ชวนนักท่องเที่ยวร่วมสนุกในมหกรรม Amazing Cosplay Fun Run ระหว่าง 23 - 24 ก.พ. 2562 ณ 8 SPEED เขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อกระตุ้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ภายในงานมีกิจกรรมให้ร่วมทำอย่างจุใจ คือ 1. วิ่ง Cosplay ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร 2. วิ่ง Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร ค่าสมัครแต่ละประเภทจ่ายได้สบายกระเป๋า ได้แก่ 1.Cosplay คนละ 300 บาท 2.Fun Run คนละ 400 บาท สมัครและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 08 4714 0000 Facebook : Neekrung togo และ Line : @neekrungtogo

 ในวันแรกเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 ลงทะเบียนได้ในช่วงเวลา 16.30 – 18.00 น. รับ BIB และ Race Packจากนั้นช่วง 18.30 – 23.30 น. บรรดานักวิ่งจะต้องแต่งกายด้วยชุด Cosplay ต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน ตลอดงานยังได้จัดให้มี ตลาดนัดสินค้า DIY และอาหารถิ่นขึ้นชื่อในท้องถิ่น สนุกกับมินิคอนเสิร์ตจากเหล่าศิลปินดัง

จากนั้นวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เตรียมปล่อยตัวนักวิ่ง Fun Run 5 กิโลเมตร 06.30 - 06.45 น. และปล่อยตัวนักวิ่ง Cosplay 3.5 กิโลเมตร ช่วง 07.00 - 07.15 น. โดยมีรางวัลล่อใจในการเข้าร่วมสนุกกับการวิ่งไปพร้อมกับการท่องเที่ยวรายการนี้ ได้แก่

1. ประเภท Cosplay Run ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร (บุคคล) มี 1.1 ถ้วยรางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินจำนวน 10,000 บาท 1.2 ถ้วยรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 พร้อมเงินจำนวน 5,000 บาท 1.3 ถ้วยรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 พร้อมเงินจำนวน 3,000 บาท 1.4 รางวัลชมเชย 2 รางวัลๆ ละ 1,500 บาท

 2. ประเภท Cosplay Run ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร (ทีม) มี 2.1 ถ้วยรางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินจำนวน 20,000 บาท 2.2 ถ้วยรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 พร้อมเงินจำนวน 10,000 บาท 2.3 ถ้วยรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 พร้อมเงินจำนวน 5,000 บาท 2.4 รางวัลชมเชย 2 รางวัลๆ ละ 1,500 บาท

3. ประเภท Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร (บุคคลชาย) และ(บุคคลหญิง) มี ถ้วยรางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 อันดับ 2

ข่าวที่ 4 “เติมบางจากด้วยบัตรเครดิตกรุงเทพฯลดสูงสุด10%ถึง30มิ.ย.62” 




บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพฯ ชวนให้เติมน้ำมันปั๊มบางจากแล้วชำระเงินด้วยบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ทุก 800 บาท รับเงินคืนสูงสุด 10% วันนี้ - 30 มิ.ย. 62 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตวีซ่า มาสเตอร์การ์ด รวมถึงบัตรไทเทเนียม และ บัตรอินฟินิทที่ออกโดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพียงแค่ผู้ใช้บริการทำตามกติกาง่าย ๆ ดังนี้

• บัตรเครดิต ประเภทบัตรทอง หรือบัตรคลาสสิก เติมบางจากทุก 800 บาท รับเงินคืน 2% • บัตรเครดิต ประเภทบัตรแพลทินัม หรือบัตรไทเทเนียม เติมบางจากทุก 800 บาท รับเงินคืน 3% • บัตรเครดิต ประเภทบัตรวีซ่าอินฟินิท เติมบางจากทุก 800 บาท รับเงินคืน 10%

ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/Cards/Credit-Cards/Promotions/Gas--Cash-Rebate

ข่าวที่ 5 “มูลนิธิปิดทองถอดบทเรียนโครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาว จ.อุดร” 




มูลนิธิปิดทองหลังพระ นำลงพื้นที่สำรวจ “โครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาวพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รัชกาลที่ 10” ในตำบลตำบลทมนางาม อำเภอ โนนสะอาด จังหวัด อุดรธานี แหล่งน้ำเลี้ยงชีวิตกว่า 350 ครอบครัว ทำให้การเกษตรที่ราบสูงเพาะปลูกได้อย่างอุดมสมบูรณ์ สร้างความกินดีอยู่แก่พี่น้องคนไทย

การถอดบทเรียนโครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาวพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รัชกาลที่ 10” เริ่มเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาวพร้อมระบบส่งน้ำไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่ชาวบ้านคือ นายชาย ช่วยนา ราษฎรบ้านห้วยหมากหล่ำ หมู่ที่ 6 ตำบลทมนางาม อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี ขอพระราชทานโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำซำตมขาวพร้อมท่อส่งน้ำ บริเวณบ้านห้วยหมากหล่ำ ตำบลทมนางาม เพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร (หนังสือสำนักราชเลขาธิการ ที่ รล 0008.3/7280 ลงวันที่ 3 เมษายน 2560)



 สำหรับ “หมู่บ้านห้วยหมากหล่ำ” มีชุมชนตั้งถิ่นฐานในพื้นที่อาศัยในภูมิประเทศภูเขาสูงชันที่ราบแคบ ๆ เชิงเขาสลับกับเนิน ต้องดำรงชีวิตอย่างยากลำบาก ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา กรมชลประทาน ดำเนินการก่อสร้างทำนบดิน กว้าง 6 เมตร ยาว 187 เมตร สูง 15 เมตร ความจุ 204,100 ลูกบาศก์เมตร ก่อสร้างอาคารระบายน้ำล้น กว้าง 6.4 เมตร ยาว 93 เมตร พร้อมระบบท่อส่งน้ำสายหลักฝั่งขวา ความยาวรวม 2,250 เมตร และอาคารประกอบ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมงานเบื้องต้น แล้วเสร็จเมื่อช่วงกันยายน 2561

 เมื่อแล้วเสร็จพื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำพร้อมระบบส่งน้ำ ได้สร้างประโยชน์ ทำให้ราษฎรบ้านห้วยหมากหล่ำ จำนวน 80 ครัวเรือน 300 คน มีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค พร้อมกับส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตรในฤดูฝน จำนวน 350 ไร่ และในฤดูแล้ง จำนวน 250 ไร่


ช่วงที่ 2 ออกไปตะลอนทัวร์ตามสโลแกนสุขทุกวันที่ “จันทบุรี” ใน 2 โครงการพระราชดำริ “บ้านอ่างเอ็ด” อำเภอขลุง มีป่าชุมชนสวยงาม กับ “อ่าวคุ้งกระเบน” แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์ทะเลขนาดมหึมา ยกโลกใต้ทะเลมาให้ศึกษาบนบกได้ ด้านการดูแลสุขภาพถึงเวลาต้อง “เตรียมรับมือกับความเสื่อมจากวัย” 9 หย่างที่มาเยือนแน่นอน และข่าวมัน ๆ “บางกอกแอร์ยกสตรีทฟู้ดลอยฟ้า” เสิร์ฟไม่ยั้งปี 62 ในทุกเที่ยวบิน “บินไทยกอดคอไทยสไมล์” ผ่าตัดใหญ่ปลดหนี้แก้ขาดทุนสะสมอื้อซ่ากว่า 8,270 ล้านบาท “มาแล้วหมู่บ้านท่องเที่ยว CIVปีหมู” กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมฟุ้งจะดัน 215 หมุ่บ้านเฉิดฉายขายทัวร์ในตลาดโลก 

@สุขทุกวันจันทบุรีที่“บ้านอ่างเอ็ด-อ่าวคุ้งกระเบน” 




 เมืองไทยมีทุกวันดี ๆ ให้เดินทางสำรวจได้หลากหลายโดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกสามารถสร้างความสุขได้ทุกวันใน “จันทบุรี” มีโครงการพระราชดำริมาแนะนำให้ไปท่องเที่ยวแล้วได้ความรู้ 2 แห่ง แห่งแรก “โครงการพัฒนาป่าชุมชนบ้านอ่างเอ็ด” ที่ตำบลตกพรม อำเภอขลุง เป็นโครงการในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดำเนินงานโดยมูลนิธิชัยพัฒนา พัฒนา “ป่าชุมชน” เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าไม้ สนับสนุนให้ชุมชนเข้าใจเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสามารถสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนได้



ภายในโครงการมีสวนเกษตรและแปลงสาธิตการปลูกพืชแบบผสมผสานทั้งสวน มังคุด ทุเรียน ลองกอง เงาะโรงเรียน เก็บเกี่ยวตามฤดูกาล ปาล์มน้ำมัน การปลูกมะนาวในบ่อซีเมนท์ การเผาถ่านน้ำส้มควันไม้ การผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ การเพาะเห็ดเศรษฐกิจ ค่ายวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา และงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับพืช สัตว์ สมุนไพรพื้นบ้าน สามารถเข้าไปเดินศึกษาธรรมชาตินำรวจป่าตามหาสัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ระยะทาง 1.5 กม. หรือชมพิพิธภัณฑ์เหมืองพลอย จากอดีตสู่ปัจจุบัน

อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับกลุ่มศึกษาดูงาน มีพื้นที่กางเต็นต์นอนได้สูงสุด 60 คน ลานเอนกประสงค์ ขนาด 100 คน

สอบถามได้ที่ 089-833-8600 หรือ www.chaipat.or.th



โครงการที่ 2 “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ในตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ โครงการอันเกิดจากการฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรชายฝั่งทะเลจากยอดเขาสู่ท้องทะเล ขนาด 4,000 ไร่ สถานที่เหมาะแก่การดูงานอย่างมาก มีเรื่องราวน่าค้นหาในการทำการเกษตรแบบผสมผสานอีกแห่ง และความหลากหลายของการสาธิตเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝก การผลิตปุ๋ยหมักจากดินเลนนากุ้ง หรือจะร่วมปลูกป่าชายเลนร่วมกันได้ที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ และกิจกรรมทำลูก EM BALL สารจุลินทรีย์ช่วยบำบัดน้ำเสีย

ภายในโครงการมี “ห้องประชุม” ให้ใช้บริการได้ตั้งแต่ขนาดห้องละ 30-200 คน “ห้องพัก” เลือกได้ตั้งแต่พักรวมห้องละ 12-15 คน และ “ห้องอาหาร” ขนาดนั่งได้ 90 คน

สอบถามได้ที่ โทร.039-433-216-8 หรือ www.fisheries.go.th/cfkung_krabaen

@เตรียมรับมือ เมื่อร่างกายเกิดความเสื่อมจากวัย 


ปัจจุบันเราพบว่าผู้คนวัยหนุ่มสาวจำนวนมากมีภาวะอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายเสื่อมมากกว่าปกติ โดยมีสาเหตุจากปัจจัยหลากหลาย ทั้งการกินอาหารไม่มีประโยชน์ การพักผ่อน ไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกายอย่างถูกต้องเหมาะสม มีภาวะความเครียด อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ ขาดสมดุลในการใช้ชีวิต จึงต้องเตรียมรับมือกับความเสื่อมจากวัยที่กำลังมาเยือน ได้แก่

1. ดวงตา กลางคืนมองเห็นไม่ชัดเจน ตาแห้ง มีปัญหาสายตายาว สายตาเอียง - วิธีรับมือ พกน้ำตาเทียม อ่านหนังสือหรือดูโทรทัศน์ในที่มีแสงสว่างเพียงพอ พบจักษุแพทย์สม่ำเสมอเพื่อดูแลการใช้งานของสายตา ลดการใช้สายตาหรือพักการใช้งานดวงตาทุก ๆ 15 นาที หากทำงานกับจอคอมพิวเตอร์หรือจอโทรศัพท์ มือถือ กะพริบตาบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงดวงตา และลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความเสื่อมเร็วขึ้น สวมแว่นกันแดดเสมอเมื่อต้องอยู่กลางแดด ไม่ขยี้ดวงตาบ่อย ๆ หากสวมคอนแทคเลนส์ควรดูแลเรื่อง ความสะอาดอย่างเคร่งครัด

2. ผิวหนัง มีปัญหาเรื่องความแห้งกร้าน ไม่มีความ ยืดหยุ่น เพราะการทำงานของอิลาสตินเสื่อม เกิดผื่นแพ้ได้ง่าย หนาวง่าย ร้อนง่าย เกิดรอยช้ำได้ง่าย - วิธีรับมือ ทามอยส์เจอไรเซอร์เติมความชุ่มชื้น ให้ผิวสวมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ระวังในการสัมผัสน้ำร้อนหรือภาชนะที่มีอุณหภูมิสูง

3. หู มีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน ทนอยู่ในที่มีเสียงดังมากไม่ได้ - วิธีรับมือ ไม่อยู่ในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนจำนวนมาก ให้แพทย์ช่วยเอาขี้หูออกบ้าง ตรวจการใช้งานของหูและการได้ยินสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี งดสั่งน้ำมูกแรง ๆ หรือกลั้นจาม เพราะอาจทำให้เยื่อแก้วหูมีปัญหา งดแคะหูเอง เพราะขี้หูเป็นขี้ผึ้งรักษา ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ การแคะหูทำให้เกิดการอักเสบ และเยื่อแก้วหูฉีกขาดได้

4. หัวใจและ หลอดเลือด มีไขมันเกาะ หัวใจทำงานหนักขึ้น - วิธีรับมือ ควรมีอุปกรณ์สำหรับวัดความดันไว้คอยตรวจเช็ค พักผ่อนให้เพียงพอ เลือกกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เน้นผักผลไม้และวิตามินให้มากขึ้น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

5. ระบบการเผาผลาญ อ้วนง่ายขึ้น การทำงานของไทรอยด์ผิดปกติ - วิธีรับมือ ตรวจการทำงานของไทรอยด์สม่ำเสมอ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมถูกวิธี

6. ระบบการขับถ่าย ปวดปัสสาวะบ่อย กลั้นไม่อยู่ ท้องผูก ต่อมลูกหมากโต -วิธีรับมือ หากต้องเดินทางไกล ควรเตรียมตัวและวางแผนเรื่องการเข้าห้องน้ำให้ดี ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะจะทำให้ขับปัสสาวะบ่อย ฝึกขมิบเพื่อบริหารกล้ามเนื้อหูรูดและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

7. การหายใจ การขยายตัวของปอดลดลง ทำให้ออกซิเจนเข้าไปสู่ร่างกายได้น้อยลง ปอดติดเชื้อได้ง่าย เป็นหวัดง่าย สำลักได้ง่าย - วิธีรับมือ ออกกำลังกายที่ช่วยขยายปอด เช่น โยคะ เคี้ยวช้า ๆ เวลากินอาหาร

8. กระดูกและข้อต่อ ความสูงลดลง กระดูกพรุน ข้ออักเสบ กระดูกติดยากหากเกิดอุบัติเหตุ - วิธีรับมือ เคลื่อนไหวร่างกายให้ช้าลง ดูแลเรื่องสถานที่ห้องน้ำ และการขึ้นลงบันไดให้เหมาะสม ระวังเรื่องการลื่นหกล้มเป็นพิเศษ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ไม่เน้นการลงน้ำหนักหรือทำำให้เกิดการกระแทกบริเวณข้อต่อ

9. สมอง และระบบประสาท ความจำลดลง เพราะระดับออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงสมองน้อยลง ระยะเวลาของการนอนเปลี่ยนแปลงไป - วิธีรับมือ ฝึกความจำ เช่น คิดเลข คิดคำศัพท์ ลดการนอนกลางวัน เพื่อให้หลับได้ยาวนานขึ้นในเวลา กลางคืน ลดปริมาณคาเฟอีน ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “บางกอกแอร์ผุดสตรีทฟู้ดลอยฟ้าทุกเที่ยวบินปี62” 



นางสาวอมรรัตน์ คงสวัสดิ์ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและส่งมอบผลิตภัณฑ์ ฝ่ายบริหารเครือข่ายเส้นทางบินและวางแผนฝูงบิน สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า ได้จัดงานเปิดตัวเมนูอาหารบนเครื่องบินปี 2019 ภายใต้แนวคิด “บูทีค สตรีท ฟู้ด – Boutique Street Food” เพราะตลอดการบริการกว่า 50 ปี บางกอกแอร์เวย์สมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านต่าง ๆ ต่อเนื่องเพื่อสร้างความประทับใจในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร

 โดยเฉพาะเมนูอาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องบิน ในปี 2562 จึงได้นำแนวคิดเรื่องอาหารสตรีทฟู้ด หรืออาหารจานเดียวของไทยซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของรสชาติที่ถูกปากและเป็นที่นิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทางบางกอกแอร์เวย์สจึงร่วมกับ ครัวการบินกรุงเทพ (Bangkok Air Catering - BAC) คัดสรรเมนูที่ได้รับความนิยมมานำเสนอในแบบฉบับบูทีคแอร์ไลน์พร้อมเสิร์ฟและให้บริการบนเที่ยวบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ

 อาทิ ผัดไทยกุ้ง ข้าวกระเพราไก่ บะหมี่เป็ดแดง ข้าวหมกไก่ ขนมจีนแกงปลา ข้าวคั่วกลิ้งไก่ ข้าวผัดต้มยำกุ้ง กุ้งอบวุ้นเส้น วุ้นฝอยทอง วุ้นกะทิ สังขยาฟักทอง และ กล้วยบวชชี

โดยตั้งเป้าจะใช้เมนูอาหารแนวคิดใหม่นี้สร้างสีสันและบรรยากาศความประทับใจในการเดินทางให้ผู้โดยสารหันมาเลือกบินกับบางกอกแอร์เวย์สเพิ่มมากขึ้นต่อไป

ข่าวที่สอง “2ผู้นำบินไทยโชว์แผนผ่าตัดใหญ่ไทยสไมล์ขาดทุน8พันล้าน”

 เปิดศักราชปี 2562 ทั้ง นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กับ “ชาริตา ลีลายุทธ” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยสมายล์แอร์เวย์ ทั้ง 2 ผู้นำเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันปลดหนี้ ลดภาระการขาดทุนไทยสไมล์สถิติปี 2561 ขาดทุนสะสมสูงถึง 8,270 ล้านบาท จึงต้องผ่าตัดใหญ่ด้วยการวางแผนจัดทัพเที่ยวบินใหม่ให้สอดคล้องกับการคุ้มทุนทางบริการ

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม” ดีดีการบินไทย หลังนั่งเก้าอี้ ประธานบอร์ดไทยสมายล์ ก็เร่งให้ใช้กลยุทธ์เชื่อมต่อแผนการบินและการขายของทั้งการบินไทยกับไทยสไมล์ให้สอดคล้องกันอย่างเป็นรูปธรรม นำร่องปี 2562 เตรียมถ่ายโอนเส้นทางบินประจำ ไป-กลับ ให้ไทยสไมล์เข้าไปบินคู่กับการบินไทย เริ่มไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป ทดลองบินวันละ 1 เที่ยว ก่อน จากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองต่าง ๆ ในสาธารณรัฐประชาชนจีน นำร่องก่อน 3 เมือง คือ เซียะเหมินคุนหมิง เฉิงตู

พร้อม ๆ กับศึกษาเส้นทางอื่นด้วย เช่น เวียดนาม เส้นทางบิน ดานังและซาปา ไต้หวัน เส้นทางไทเปกับเกาสง

นอกจากนี้ยังเตรียมเพิ่มความถี่เที่ยวบินสู่เมืองหลักในอินเดีย อย่างมุมไบ เพิ่มเป็น 7 จากปัจจุบันมีเพียง 5 เที่ยว/สัปดาห์ กรุงเทพฯ-โกลกาตา 7 เที่ยว/สัปดาห์ ขณะเดียวกันก็จะต้องระดมเครื่องมืออื่น ๆ เข้ามาเสริมทัพอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น ช่องทางการขายตั๋วออนไลน์ การทำโค้ดแชร์กับสายการบินขาใหญ่ในตลาดสำคัญ และอื่น ๆ

ข่าวที่สาม “ปี’62กสอ.แจ้งเกิดหมู่บ้านท่องเที่ยวสร้างสรรทั่วไทย215แห่ง” 



นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า วางแผนปี 2562 มุ่งขยายโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ CIV ด้วยแผนงานการสร้างกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเข้มข้น ในการปั้นแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองใหม่ 215 ชุมชน ทั่วประเทศ 77 จังหวัด ผลักดันเทรนด์การท่องเที่ยวชุมชน 7 เฉดใหม่ ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม 2.การท่องเที่ยวทางน้ำ 3.การท่องเที่ยวแบบวิถีชาวบ้าน 4.การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 5.การท่องเที่ยวเชิงกีฬา 6.การท่องเที่ยวเชิงอาหาร และ 7.การท่องเที่ยวแบบมีกิจกรรมหรือผจญภัย

พร้อมทั้งจะนำเสนอข้อมูลหมู่บ้านท่องเที่ยว CIV ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์และระบบดิจิทัลจะมีอิทธิพลอย่างสูง เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการค้นคว้าข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ และต้องการความคุ้มค่าจากสิ่งที่จะได้รับ โดยการทำแพ็กเกจท่องเที่ยว กระตุ้นการใช้จ่ายด้านค่าอาหาร – เครื่องดื่ม สินค้าที่ระลึก และการช้อปสินค้าต่าง ๆ ภายในชุมชน



ปี 2562 กสอ.จะเพิ่มความแรงแผนพัฒนาโครงการหมู่บ้าน CIV ด้วยกลยุทธ์การสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ แอปพลิเคชั่น พัฒนาการตลาดให้มีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือต่างๆ อาทิ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ITC) โครงการไทยเด่น การฝึกอบรมเชิงลึกในด้านการทำตลาดเพื่อเจาะกลุ่มกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจเฉพาะบุคคล ช่วยลดการกระจุกตัว พร้อมผลักดันให้เมืองรองแต่ละภูมิภาคเติบโตเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักในอนาคต

พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรรค์ เพื่อเพิ่มผลิตภาพ พัฒนามาตรฐานต่าง ๆ ด้วยวิธีทำให้เกิดการรวมกลุ่มหรือคลัสเตอร์ ผสมผสานกิจกรรมที่จะช่วยให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิรูปแบบใหม่ ๆ ยกระดับไทยให้กลายเป็นจุดหลายปลายทางทางการท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

  นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ได้แค่ 9.5 ล้านคน จับตา !! ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว 3 เดือนแรกไม่ถึง 10 ล้านคน เม.ย.นี้ร...