ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ชูพลังผู้หญิงรายได้เที่ยวไทยปี62โกย1.2ล้านล้าน-ญาญ่านำทัพHero Local-ดึงนักท่องเที่ยวไล่ล่าPinนำโชค5ภาค-More Fun มุมใหม่ในจันทบุรี

ททท.ชูพลังผู้หญิงปลุก4ตลาดฮือเที่ยวไทย1.2ล้านล้าน 
ดึงญาญ่านำทัพฮีโร่โลคอล-ไล่ล่าพินนำโชค5ภาคเม.ย.นี้ 
คิงเพาเวอร์ชวนตรุษจีน5สิ่งศักดิ์สิทธิ์กิน50ร้านดังที่รางน้ำ 
เทศกาลเที่ยวเมืองไทยดันยอดเที่ยวต่อเนื่องโตเกินเป้า50%
 บางจากรับซื้อผักผลไม้ปลอดภัยขายในร้านSPA 19 สาขา 
TCEBย้ำแผนผลิตคนพันธุ์ไมซ์-ฮับการศึกษาอาเซียนปี’62 
More Fun สนุกมุมใหม่ในจันทบุรี “กิน-เที่ยว-ช้อป-เช่ด” 
เปลี่ยนพฤติกรรมการกินแค่3เรื่องพลิกชีวิตพ้นความป่วย 
มูลนิธิปิดทองฯผูก3มิตรเปิดทัวร์ชุมชนโป่งลึก-บางกลอย 
การบินไทยงัดโปรแรงตั๋วคู่รักบินรอบโลกเริ่มแค่8พันบาท 
ภูเก็ตทุ่มจัดเทศกาลใหญ่โคมไฟเสริมมงคลวันนี้-19ก.พ. 

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าวFM97 #คอลัมนิสต์ท่องเที่ยว

ช่วงที่ 1 ห้ามพลาด “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการ ด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศใช้กลยุทธ์ปราบเซียน “พลังผู้หญิง” ดาราสาว “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” เพิ่มความฟีเวอร์ “อะเมซิ่ง ไทเท่” ปี’62 ลุยกวาดเม็ดเงิน 1.2 ล้านล้านบาท ตลาดท่องเที่ยวในประเทศกลุ่มเด็กเจนวาย-ผู้หญิง-ครอบครัว-คนสูงวัย ชวนกันออกเดินทางไปไล่ล่า Pin 5 ภาค พร้อมจัดสนามแบทเทิลช่างภาพมืออาชีพกับสมัครเล่นประกันภาพถ่ายชิงรางวัลเพียบ มีเวลาอีก 2 เดือนเตรียมตัวให้พร้อม ททท.จะเปิดเวทีให้ไล่ล่าความสุขกันอย่างเต็มที่ เฟสแรก เมษายน-มิถุนายน นี้ 

ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ
รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จะขับเคลื่อนตลาดในประเทศอย่างมีนัยสำคัญโดยมีเป้าหลักขยับส่วนแบ่งรายได้จากมูลค่ารวมให้ได้เป็น 33 % จากปกติ 30 % มูลค่ารวม 1.2 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายตลอดปี 2562 รวมทั้งสิ้น 3.4 ล้านล้านบาท โดยด้านสื่อสารการตลาดจะต้องคิดค้นแคมเปญสร้างความฮือฮาผ่านแคมเปญอะเมซิ่ง ไทยเท่ โดยได้เปิดตัวในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2562 ณ สวนลุมพินี เลือกใช้ดาราแถวหน้าของเมืองไทย “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” ผู้หญิงที่มีพลังสูงและอิทธิพลสูงมากกับแฟนคลับทุกกลุ่ม จากปี 2561 เลือกใช้ “อนันดา เบอร์มิ่งแฮม” ก็สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองได้เป็นอย่างดี ผลการประเมินเมื่อต้นปีเมืองรองเติบโตไม่ต่ำกว่า 10 %

ปี 2562 นำ “ญาญ่า -อุรัสยา เสปอร์บันด์” มาเป็นพรี เซ็นเตอร์ โดยมุ่งเจาะกลุ่มผู้หญิง ด้วยคุณสมบัติซึ่งมีทั้งความสดใส สวย เก่ง เท่ เป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่ด้วย นิสิต นักศึกษา คนเริ่มทำงาน มีความเป็นไปได้สูงที่จะเดินทางท่องเที่ยวตามต้นแบบพรี เซ็นเตอร์ ผนวกกับผู้หญิงอีกกลุ่มก็เป็นผู้มีอิทธิพลชี้นำการตัดสินใจในตลาดครอบครัวได้ด้วย การเลือกญาญ่าจึงเป็นพลังปลุกผู้หญิงทุกกลุ่มขึ้นมาท่องเที่ยวอย่างคึกคักตลอดทั้งปี ความพิเศษของอะเมซิ่ง ไทยเท่ ปี 2562 จะต่อยอดพัฒนาจากปี 2561 ยุคอนันดาใช้ความเท่ผสมผสานเข้ากับดนตรีสร้างสรรค์จุดขายเมืองรอง



 ปีนี้จะลงลึกอะเมซิ่ง ไทยเท่ มากขึ้น จะสัมผัสได้จากภาพยนตร์โฆษณาเมืองรอง โดยจะพาไปพบกับ LOCAL HERO มีองค์ความรู้ของสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นเป็นอย่างดีชัดเจน เช่น ปราชญ์ ศิลปิน ผู้นำชุมชน ที่มีบทบาท ทำให้พื้นที่แข็งแรงขึ้นมา โดยใช้ความเป็นผู้นำของคนเหล่านี้มาเล่าเรื่องให้ชัดมากขึ้น ผนวกกับความใหม่ของไทยเท่ปีที่ 2 จะเพิ่มกลไกกระตุ้นให้เกิดเดินทาง “Pin Your Trip” โดยมีแรงจูงใจมาจากการใช้ Google Map มานำทางเพียงแต่ ททท.เปลี่ยนให้เป็น Pin สัญลักษณ์เข็มรูปหมีที่นำอัตลักษณ์ความมีชื่อเสียงของแต่ละท้องถิ่น เช่น พินตุ๊กตาหมีใส่ผ้าย้อมคราม จังหวัดสกลนคร เดิมเป็นตุ๊กตาขนาดใหญ่สวมใส่ผ้าย้อมครามเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจนกลายเป็นจุด Check in ยอดนิยม ททท.จึงได้ดัดแปลงมาทำเป็นพินเพื่อเป็นกิมมิกให้นักท่องเที่ยวตามหาตลอดปีนี้



สำหรับกิจกรรมไล่ล่าหา Pin Your Trip ตลอดปี 2562 จะมีพินที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของแต่ละภาคอย่างชัดเจนทั้ง 5 ภาค มีพิน 5 แบบด้วยกัน ได้แก่ “ภาคอีสาน” เป็น พินหมีผ้าย้อมคราม จ.สกลนคร “ภาคเหนือ” เป็นพินตุ๊กตาชาวเขากับสตอเบอรี่ “ภาคกลาง” ทำเป็นรูปลิงกับดอกทานตะวัน สัญลักษณ์ของลพบุรีและอีกหลายจังหวัด “ภาคใต้” ใช้ควายน้ำ ที่มีอยู่มากในพัทลุง นครศรีธรรมราช ซึ่งมีความผูกพันกับวิถีชีวิตเกษตรกรรม “ภาคตะวันออก” พินรูปทุเรียนเทอร์โบ นำเสนอพื้นที่สวนผลไม้ที่ได้รับความนิยมมาตลอด ตามแผน ททท.จะนำเสนอกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวใช้กลไกการไล่ล่าพินสัญลักษณ์ของแต่ละภาคด้วยหลัก ๆ ง่าย คือ

ต้องลงพื้นที่เดินทางจริงแล้วไปรับพินยังสำนักงาน ททท.จังหวัดต่าง ๆ ทั้ง 5 ภาค เฟสแรก ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2562 ตรงกับเริ่มฤดูเดินทางเทศกาลสงกรานต์ จากนั้นจะเพิ่มความถี่การโฆษณาตามหาพินของญาญ่าผ่านภาพยนตร์โฆษณาแหล่งท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดปี โดยจะกระตุ้นนักท่องเที่ยวสะสมพินทั้ง 5 แบบ รับรางวัลท่องเที่ยวฟรีในประเทศ

หากผลตอบรับดีจะขยายผลออกแบบพินให้ตามไล่ล่าให้ครบ 77 จังหวัด แล้วแจกรางวัลแจ็คพ็อตให้นักท่องเที่ยวที่สามารถร่วมกิจกรรมได้ครบตามกำหนด ซึ่งเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับ LOCAL HERO ในแต่ละพื้นที่ทั่วไทย



สำหรับแคมเปญที่ 2 One Pic Big Dream เป็นอีกช่องทางการสื่อสารทางออนไลน์ ด้วยการปลุกกระแสการถ่ายภาพจะทำโครงการประกวดรูปถ่าย เป็นอีกกลไกปลุกกระแสการเดินทางด้วยวิธีให้แบทเทิลกันระหว่าง “ช่างภาพมืออาชีพกับมือสมัครเล่น” สามารถใช้กล้องแบบใดถ่ายรูปแหล่งท่องเที่ยวก็ได้ โดยพฤติกรรมทุกวันนี้นักท่องเที่ยวจะบันทึกภาพความประทับใจ แล้วส่งเข้ามายังกรรมการซึ่งมี คุณวินิจ รังผึ้ง บรรณาธิการนิตยสาร อสท.และช่างภาพมืออาชีพแถวหน้าของเมืองไทยที่จะมาช่วยกันคอมเมนท์ถึงภาพที่จะกลายเป็นฮีโร่ต่อไป โดยจะทยอยทำในเฟส 2 ต่อจากเฟส 1 การไล่ล่าพินท่องเที่ยวเมืองรอง

นายธเนศวร์กล่าวว่า วางกลยุทธ์สื่อสารการตลาดออนไลน์คู่ขนานกันไปด้วย โดยใช้เซลิบริตี้และผู้มีชื่อเสียงเป็นผู้นำกระแสยังคงเป็นมนต์ขลังที่สามารถนำมาใช้ได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาเทศกาลท่องเที่ยว ตรุษจีน สงกรานต์ และอื่น ๆ แต่จะเริ่มจากปล่อยโฆษณาตัวแม่ของภาพยนตร์โฆษณาซึ่งมี “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” เป็นดาราแนะนำแหล่งท่องเที่ยวเป้าหมาย แล้วจากนั้นก็จะมีโฆษณาแหล่งท่องเที่ยวย่อย ๆ เสริมทัพเข้ามาเป็นระลอก



โดยสรุปปี 2562 ททท.จะเร่งสร้างสรรค์สื่อการตลาดเพื่อนำมาพิชิตรายได้การท่องเที่ยวในประเทศให้ได้ตามเป้า 1.2 ล้านล้านบาท เริ่มต้นเปิดศักราชใหม่ด้วยการนำ “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” เป็นพรี- เซ็นเตอร์ ภายใต้แคมเปญ “อะเมซิ่ง ไทยเท่” ถ่ายทอดแนวคิด “เมืองไทย... สวยทุกที่ เท่ทุกเวลา” ผ่าน Local Hero จากท้องถิ่น ปลุกคนไทยออกไปสัมผัสประสบการณ์การเดินทางเที่ยวเมืองไทยแบบลึกซึ้งตามชุมชนทั่วประเทศ พุ่งเป้าสร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวเป้าหมายลุกขึ้นมาเดินทางด้วยความถี่เพิ่มขึ้นทั้ง 4 กลุ่ม คือ 1.วัยรุ่น-GenY 2.กลุ่มผู้หญิง 3.กลุ่มผู้สูงวัย-Silver Age) 4.กลุ่มครอบครัว

ด้วยการวางกลยุทธ์ใช้ช่องทางการสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา ผ่านผลงานโฆษณารูปแบบต่าง ๆ ทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ ควบคู่กับการทำกิจกรรมทางการตลาดด้วยกิมมิกใหม่ ๆ ประกอบด้วยกิจกรรม 2 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 “Pin Your Trip” ให้นักท่องเที่ยวสนุกกับการไล่ล่าตามหาพินสัญลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ทั้ง 5 ภูมิภาค ระหว่างเมษายน-มิถุนายน 2562 โดยทำพินคอลเลคชั่นพิเศษ 5 แบบ ได้แก่

ภาคเหนือ-สตอเบอร์รี่ เชียงราย ภาคใต้-ควายน้ำ พัทลุง ภาคตะวันออก-ทุเรียนเทอร์โบ จันทบุรี ภาคกลาง-ลิงทานตะวัน ลพบุรี ภาคอีสาน-หมีคราม สกลนคร หากกระแสตอบรับดีก็จะขยายผลทำให้ครบทั้ง 77 จังหวัด เป็นความท้าทายในการสร้างกระแสและกระตุ้นตลาดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีญาญ่านำทัพไปสร้างประสบการณ์ดี ๆ กับ Local Hero ตามเมืองรองทั่วประเทศ เบื้องต้นมี กลุ่มย้อมผ้าคราม สกลนคร เกาะเหลาเหลียง ตรัง บ้านนกเขา-ตรอกโรงยา อุทัยธานี ชุมชนริมน้ำจันทบูร จันทบุรี



เฟสที่ 2 เตรียมสร้างความฮือฮาด้วยกิจกรรม “One Pic Big Dream” เปิดแนวรุกออนไลน์ให้นักท่องเที่ยวได้แบตเทิลกันระหว่างช่างภาพมืออาชีพกับมือสมัครเล่น ถ่ายรูปเรียลลิตี้ออนไลน์นำเสนอภาพแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างความประทับใจมาแข่งขันกัน โดยมีกรรมการตัดสินระดับเซียน อาทิ วินิจ รังผึ้ง บรรณาธิการนิตยสาร อสท.และช่างภาพแถวหน้าของเมืองไทย

ส่วนของรางวัลจัดเต็มแบบจุใจทั้ง ตั๋วโดยสารเครื่องบิน แพกเกจท่องเที่ยว รางวัลเล็ก ใหญ่ เพื่อให้คนได้เที่ยวเมืองไทยอย่างมีความสุข สนุกสนาน ทุกที่ ทุกเวลา

ททท.ได้ใช้งบจัดทำโครงการ “พรี-เซ็นเตอร์” ปลุกกำลังซื้ออะเมซิ่ง ไทยเท่ รวมตลอดทั้งปีราว 50 ล้านบาท

ฟังข่าวต้นชั่วโมง 

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชวนร่วมตรุษจีนกับ5สิ่งศักดิ์สิทธิ์” 



กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดแคมเปญต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขด้วยงาน “KING POWER CHINESE NEW YEAR 2019 THE BLISSFUL HARMONY สำราญความสุข สมบูรณ์เงินทอง รุ่งโรจน์รับปีใหม่” โดยได้รวบรวบและอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสิริมงคลมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาไว้ ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พร้อม ๆ จัดกิจกรรมมากมาย เปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบได้ร่วมสนุก ร่วมช้อป ร่วมลุ้นรับอั่งเปา และร่วมสัมผัลกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนต่อเนื่องถึง 14 วัน โดยไม่ได้ต้องเดินทางไปไกลถึงแดนมังกร เพียงแค่มายัง คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ – วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2562

ตลอดการจัดงานที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ นักท่องเที่ยวจะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่นิยมกราบไหว้กันในช่วงเทศกาลตรุษจีน เสริมสร้างสิริมงคลในชีวิตและเสริมดวงชะตา รวมถึงขอพรในด้านต่าง ๆ ได้ครบทั้ง การงาน โชคลาภ เงินทอง ได้แก่

 เทพเจ้าเงินตรา “ไฉ่ซิงเอี้ย” เทพเจ้าแห่งโชคลาภ สำหรับชาวจีนแล้วถือเป็นเทพเจ้าที่มี ความสำคัญมากที่สุดในการเริ่มเข้าสู่ปีนักษัตรใหม่ เป็นเทพเจ้าที่ลูกหลานชาวจีนให้ความสำคัญมากที่สุดโดยเชื่อว่า “ไฉ่ซิงเอี้ย” จะช่วยดลบันดาลความมั่งมีศรีสุข ร่ำรวย โชคลาภ เงินทอง ไหลมาเทมา

พระสังกัจจายน์ พระอสีติมหาสาวกแห่งโชคลาภ มีพุทธลักษณะอ้วน พุงพลุ้ย หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภ เป็นพระอรหันต์ 1 ใน 80 พระอสีติมหาสาวกในศาสนาของพระโคตมพุทธเจ้า ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะ

เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เทพผู้มีอำนาจคุ้มครองดูแลดวงชะตาของมวลมนุษย์ให้ร่มเย็นเป็นสุข ชาวจีนให้ความสำคัญมาก ดังจะเห็นได้จากโหราศาสตร์หรือดวงจีนที่ผูกพันกับเรื่องนักษัตรปีเกิด จะต้องไหว้เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา

“ไท้ส่วยเอี้ย” เพื่อให้คุ้มครอง หากดวงชะตาชีวิตดีอยู่แล้ว ก็จะช่วยส่งเสริมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าชะตาชีวิตไม่ดีก็จะช่วยให้หนักเป็นเบา คุ้มครองป้องกันจากอุปสรรคทั้งปวงให้ผ่านพ้นไปด้วยดีจนผ่านปีนักษัตรนั้นไปได้ด้วยความราบรื่น

เทพเจ้าตั่วเหล่าเอี๊ยหรือองค์เทพเฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่ ช่วงตรุษจีนของทุกปี ผู้คนนิยมไปกราบไหว้ขอพรกันอย่างเนืองแน่น เพื่อให้มีโชคมีชัยตลอดทั้งปี ชาวจีนถือเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องอภิบาลและปราบปรามศัตรู พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (เจ้าแม่กวนอิม) เป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับการบูชาแพร่หลายมากที่สุด และเป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา โดยมีความพิเศษตรงใบหน้า พระองค์จะก้มลงมามองมนุษย์เพื่อรับคำขอ สร้างราว พ.ศ.1430 ณ วัดจามยาง ใน เซ็นทรัล ทิเบต เป็นพระที่บูชาในระดับกษัตริย์ หรือดาไลลามะในทิเบต ที่มีหนึ่งเดียวในไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ทั้งนี้ “วันตรุษจีน” ถือเป็นวันมหามงคลที่มีความสำคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน ซึ่งจะจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วโลก ส่วนไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีชาวจีนรวมถึงไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยยังรักษาประเพณีอันดีงามไว้ด้วยการกราบไหว้บูชาเทพเจ้าฟ้าดินและบรรพบุรุษ เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก การประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลและนำมาซึ่งความสุขความเจริญในชีวิต พร้อมทั้งสวมใส่เสื้อผ้าใหม่สีแดงสด อันเป็นสีที่เป็นสิริมงคลของพี่น้องชาวจีน ถือเป็นสีแห่งความสุข ความสำเร็จ ความมั่งคั่ง และโชคลาภ


 ส่วนสัญลักษณ์วันตรุษจีนที่ทุกคนรอคอยคือ “อั่งเปา” ตามธรรมเนียมคือผู้ใหญ่จะมอบซองสีแดง ให้เด็ก ๆ ที่มีอายุต่ำกว่าหรือยังไม่ได้ทำงาน พร้อมกล่าวสวัสดีปีใหม่ ซึ่งสีแดงของซองอั่งเปามีความหมายถึงโชคดี และเงินที่ใส่ในซองอั่งเปา มักจะมีจำนวนเป็นเลขนำโชคตามวิถีจีนคือเลข 8 นั่นเอง

ข่าวที่ 2 “ททท.ปลื้มเที่ยวเมืองไทยต่อยอดทัวร์ทะลุ50%” 



ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.อธิบายว่า ตลอดการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2562 เป็นจุดเริ่มดัชนีชี้วัดการท่องเที่ยวตลอดปี 2562 เพื่อสร้างรายได้ตลาดในประเทศให้เข้าเป้า 1.2 ล้านล้านบาท ต้องยอมรับความท้าทายตั้งแต่งานแรกนั่นคือ เรื่องคนเข้าร่วมชมงานตลอด 5 วัน เพราะเป็นจังหวะเดียวกับการเกิดปัญหาฝุ่นในกรุงเทพมีปริมาณหนาแน่นจนสร้างความกังวลให้ผู้คนทั่วเมืองซึ่งอาจกระทบกับการเดินทางมาเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ของหมู่บ้านท่องเที่ยว 5 ภาค ซึ่งนำมุมใหม่ ๆ มาให้เลือกสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ไปด้วยกัน ทั้งเส้นทางการท่องเที่ยว กิจกรรม อาหารการกิน สินค้าท้องถิ่น รวมทั้งการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านมากมาย



ผลสรุปการเข้าชมงานของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2562 ก็สร้างพึงพอใจให้ ททท.โดยสามารถดึงคนเข้าร่วมได้กว่า 450,000 คน มีสัญญาณที่ดีชัดเจนเพิ่มขึ้นถึง 3 เรื่อง ได้แก่

เรื่องที่ 1 นักท่องเที่ยวเกิน 50 % ตอบรับหลังชมงานแล้วพร้อมจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่อเนื่องตามจังหวัดต่าง ๆ ทั้งเมืองหลักและเมืองรองสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้

เรื่องที่ 2 การใช้เงินฉลี่ยตลอดงานคนใช้สูงกว่าเป้าด้วยเช่นกัน ทั้งที่จำนวนนักท่องเที่ยวรวมต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ราว 10 % นั่นคือประเมินจะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานประมาณ 600,000 คน แต่ด้วยหลายปัจจัยที่ไม่เอื้อโดยเฉพาะปัญหาฝุ่นควันทำให้มีนักท่องเที่ยวเพียง 500,000 คน ในจำนวนทั้งหมดก็สามารถกระจายรายได้ให้ชุมชนที่นำสินค้าและแพกเกจท่องเที่ยวทุกโซนทั้ง 5 หมู่บ้าน มีรายได้เป็นกอบกำ

เรื่องที่ 3 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย (Expat) เดินทางเข้าชมงานกว่า 16 % สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา

นพดล ภาคพรต (ซ้าย)
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยปี 2562 จะเร่งขับเคลื่อนทำกิจกรรมสร้างรายได้ท่องเที่ยวตลาดในประเทศทุกรูปแบบ ภายใต้แคมเปญ “อะเมซิ่ง ไทยเท่” ซึ่งผู้อำนวยการ ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาค ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ เตรียมสร้างความแรงอย่างต่อเนื่องร่วมกับฝ่ายสื่อสารการตลาด ททท.ที่ได้นำดาราดังมาเป็นพรี-เซ็นเตอร์ ปลุกกระแสคนไทยเที่ยวในประเทศให้คึกคักตลอดปีนี้ ซึ่งจะมีมุมใหม่ ๆ มานำเสนอต่อเนื่อง ควบคู่กับการปลุกจิตสำนึกการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน

วิบูลย์ นิมิตรวานิช
 ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท.


นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท.ในฐานะผู้จัดการโครงการ เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2562 กล่าวเสริมว่าผลสรุปความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานปีนี้มีสูงเกิน 93 % ดีกว่าทุกปีที่ผ่านมาและสามารถสร้างโอกาสการเข้าถึงข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ และการกระจายรายได้ในการจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นของหมู่บ้านท่องเที่ยว 5 ภาค ในมิติของมูลค่าเงินและการซื้อขายจริงอย่างเป็นรูปธรรม

โดยเฉพาะกลุ่มชุมชนท่องเที่ยวที่แต่ละภูมิภาคได้รับการคัดเลือกพื้นที่เด่น ๆ ให้เข้ามาร่วมเสนอแพกเกจท่องเที่ยว จังหวัดละ 1-2 ชุมชน ต่างพึงพอใจที่ได้มีประสบการณ์ขายโดยตรงกับนักท่องเที่ยวที่หมุนเวียนเข้ามาสอบถามรายละเอียดทุกวัน ปี 2562 จึงนับเป็นอีกก้าวแห่งความสำเร็จของ ททท.ในมิติใหม่ในการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย อย่างชัดมากขึ้นคือ พฤติกรรมและกระแสตอบรับของ “กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ” ซึ่งใช้จ่ายเงินมูลค่าสูงกว่าจำนวนคนเข้าร่วมงาน

และชาวต่างชาติเริ่มรู้จักงานมากขึ้นจนมีสัดส่วนการเข้าชมเปอร์เซ็นต์สูงถึง 16 % และความตื่นตัวของการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วยความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ

นับเป็นสัญญาณดีของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศที่จะเป็นเสาหลักเศรษฐกิจสำคัญของประเทศในปีหมูทอง 

ข่าวที่ 3 “บางจากรับซื้อผักผลไม้ปลอดภัยขายในร้านSPA19สาขาแรก” 



นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยเรื่องการรับรองความปลอดภัยผลผลิตประเภทผักสด และผลไม้สด ที่นำมาจำหน่ายในร้าน SPAR (สพาร์) กับมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค ในคุณภาพของสินค้าที่มีความสด ใหม่ ปลอดภัยพร้อมได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ ณ ร้าน SPAR

เบื้องต้นได้คัดสรรผักและผลไม้ปลอดภัยที่ผ่านการรับรองจากคณะเทคนิคการแพทย์มีทั้งสิ้น 19 รายการ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ปลักไม้ลาย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม นำมาติดฉลากเขียวและจำหน่ายในร้าน SPAR 5 สาขาแรก เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อสุขภาพด้วย

ข่าวที่ 4 “TCEBลั่นปี’62เร่งสร้างคนพันธุ์ไมซ์-ฮับการศึกษาอาเซียน” 

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์
รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ปี 2562 จะเดินหน้าศูนย์เครือข่ายการศึกษาไมซ์ในภูมิภาคต่อเนื่อง ตั้งเป้าผลิตคนพันธุ์ไมซ์รุ่นใหม่เพิ่มเข้าสู่ตลาดขานรับกับแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2561-2565) ภายในปี 2565 จะสามารสร้างฮับการศึกษาทางด้านไมซ์อาเซียน และต่อยอดคนต้นแบบไมซ์ไม่ต่ำกว่า 500 คน ที่จะไปพัฒนานักศึกษาในสถาบันเพิ่มขึ้นได้อีกจำนวนกว่า 10,000 คน สอดคล้องกับสถานการณ์การเติบโตของอุตสาหกรรมธุรกิจไมซ์ในไทยตลาดขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีนักเดินทางจากไมซ์ต่างชาติและในประเทศปีละกว่า 35 ล้านคน สร้างรายได้ราว 2 แสนล้านบาท

 ตั้งแต่ปี 2561 TCEB มุ่งให้ความสำคัญทุ่มเทพัฒนาบุคลากรไมซ์ เพื่อสร้าง Value Chain อย่างเข้มแข็งทั้งทางด้านการผลิตและความต้องการใช้งาน ทำให้ไมซ์สร้าง Ecosystem อย่างสมบูรณ์ แล้วกระจายคนลงสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยวิธีร่วมกับเอกชนและมหาวิทยาลัยเครือข่ายใน ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก เพื่อจัดตั้ง “ศูนย์เครือข่ายการศึกษาไมซ์ในภูมิภาค” หรือ MICE Academic Cluster ซึ่งเริ่มต้นทำงานตามแต่ลักษณะภูมิภาคเรียบร้อยแล้ว และจะเดินหน้านำให้บรรลุเป้าหมายตามกรอบเวลาที่ตั้งไว้ 

ช่วงที่ 2 ชวนไปสนุกกับการเดินทางมุมใหม่ตามสไตล์ “More Fun จันทบุรี” 2 วัน 1 คืน “เที่ยว-ช้อป-เช่ด” ให้รู้กันไปเลยจากพื้นราบลงสู่ทะเล และอาหารถิ่นระหว่างมื้อนั้นเช่ดขนาดไหน แล้วก็ช้อปผลิตภัณฑ์เสื่อกก พลอยน้ำงาม ของกินของฝาก ติดมือกลับบ้าน โดยต้องใส่ใจสุขภาพ “เปลี่ยนพฤติกรรมการกินแค่3เรื่องก็ไม่ป่วยแล้ว” และติดตามข่าวเด็ด ๆ “มูลนิธิปิดทองหลังพระ” พาตลุยเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ชุมชนโป่งลึก-บางกลอย บุกชมท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมชนเผ่าปกากะญอหนึ่งเดียวในประเทศบนยอดเขาสูงเกือบสุดแผ่นดินใจกลางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน “การบินไทยจัดโปรตั๋วคู่รักบินรอบโลก” เริ่มแค่ 8,000 บาท “ภูเก็ตชวนเที่ยวเทศกาลโคมไฟ” วันนี้-19 กุมภาพันธ์ 2562 

@More Funจันทบุรี‘กิน เที่ยว ช้อป เช่ด2วัน1คืน’ 

ถึงเวลาสนุกกันอีกแล้ว กับการเลียบชายฝั่งทะเลไปเที่ยว More Fun เมืองจันทบุรี ‘กินเที่ยว ช้อป เช่ด2วัน1คืน’ ตามคำแนะนำของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออก จัดสรรเส้นทางดี ๆ มาชวนไปเที่ยว



วันแรก ปักธงเลือกสถานที่ท่องเที่ยว “ชุมชนปัถวี ” ชุมชนเกษตรกรออร์แกนิก100 %” ของเมืองจันท์ ที่มีเรื่องราวการทำสวนผักและผลไม้ ฟัง“ พี่รัฐไท ” จากผู้ริเริ่มรายแรกๆในจันทบุรีเล่าถึงความเป็นมาทั้งหมด แล้วนั่งซาเล้งเที่ยวสวนผลไม้ ชิมน้ำหวานสด ๆ จากรังชันโรง

ได้ความรู้เติมพลังสมองแล้ว ก็ถึงเวลา “เติมอาหารมื้อเที่ยง” สามารถอิ่มอร่อยภายใต้ Concept “ Chef's Table ” โดยเชฟชุมชนที่นำผักและผลไม้ปลอดสารของเด่นของดีที่มีอยู่ในท้องถิ่น มาเป็นวัตถุดับหลักในการปรุงอาหาร พร้อมรับประทานท่าทกลางบรรยากาศใต้ต้นผลไม้



ตกบ่ายเดินไปชมโบราณสถานภายใน “ วัดพลับ ” พร้อมฟังเรื่องราวย้อนรอยอดีตประวัติศาสตร์ของชุมชนบางกะจะตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินที่ใช้บริเวณวัดพลับเป็นจุดพักทัพและสร้างพระยอดธง จวบจนสมัยต้นรัตนโกสินทร์กับความสำคัญของโบราณสถานแห่งนี้



แวะเที่ยวชม “ ตลาดทุบหม้อ ” ชิมเมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด “ ก๋วยเตี๋ยวน้ำกุ้งผัดยายลั้ง ” แล้วร่วมย้อนสู่ยุคที่จันทบุรีเริ่มทำเหมืองพลอย@ชุมชนบางกะจะ ณ “ บ่อพลอยเหล็กเพชร ” ฟังเรื่องราวความเป็นมาของพลอยเมืองจันท์ พลอยแบบโบราณดั้งเดิม พร้อมร่วมกิจกรรม “ ขุดหาพลอยจากอุโมงค์ใต้ดิน ”

ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวใน วันแรก ค่าอาหารกลางวัน + ค่ากิจกรรม ณ ชุมชนปัถวี ชุมชนเกษตรกรออร์แกนิก คนละ 350 บาท โดยมีกิจกรรมนั่งซาเล้งชมสวนออแกนิค เก็บน้ำผึ้งชันโรง ทำเครื่องดื่มสมุนไพร



วันที่สอง ชวนกันไปหมู่บ้านประมงพื้นบ้าน “ ชุมชนท่าแฉลบ ” เยี่ยมชม “ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเสื่อบ้านท่าแฉลบ ” สินค้าพื้นเมืองขึ้นชื่อของเมืองจันท์ หนึ่งในอาชีพหลักของคนชุมชนท่าแฉลบ กกเมืองจันท์มีโดดเด่นและแตกต่างจากกกที่อื่นในประเทศ เรียนรู้ขั้นตอนต่าง ๆ กว่าจะเป็นเสื่อกก พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสื่อกก



 จากนั้นไปยังท่าเรือ “ ท่าแฉลบ ” ลงเรือไปฟาร์มหอยลุงทม ล่องเรือลัดเลาะไปตามริมป่าชายเลน 2 ฝั่งแม่น้ำจันทบุรี สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านหมู่บ้านท่าแฉลบ แหล่งผลิตอาหารทะเลธรรมชาติคุณภาพอีกแห่งหนึ่งของเมืองจันท์

พร้อมนั่งเรือชมฟาร์มหอยนางรมยักษ์ที่ลุงทมเลี้ยงตามธรรมชาติกลางแม่น้ำจันทบุรี กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวจะได้สนุกสนานเต็มอิ่มในฟาร์มหอยลุงทม คือเรียนรู้วิธีการเลี้ยงหอยนางรมยักษ์ ( หอยตะโกรม ) ใช้ความพิถีพิถันดูแลกว่า 2 ปีถึงจะนำมาขายได้ แล้วก็ร่วมทำ DIY อีแปะสร้างบ้านให้หอยนางรม

ปิดท้ายด้วยการอิ่มอร่อย “มื้อเที่ยง” กับเมนูอาหารทะเลสดๆ “ลุงทม Table ” เลือกใช้วัตถุดิบสดมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติริม 2 ฝั่งคลองบ้านท่าแฉลบ ให้เนื้อสัมผัสที่หวานเป็นพิเศษ พร้อมหอยนางรมไซค์พิเศษคัดสรรเน้น ๆ ส่งตรงจากฟาร์มลุงทม ท่ามกลางบรรยากาศบนแพประมงกลางแม่น้ำจันทบุรี

ช่วงบ่าย ออกไปเดินแชะ ชิม ชิว ชุมชน 3 วัฒนธรรม “ ชุมชนริมน้ำจันทบูร ” ซึมซับบรรยากาศยุคเก่าที่ยังคงอยู่



สำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ วันที่สอง ค่าเรียนรู้วิธีการเลี้ยงหอยนางรมยักษ์ ( หอยตะโกรม ) และทำกิจกรรม DIY สร้างบ้านให้หอยนางรม ที่ “ ฟาร์มหอยนางรม ป้าหลุยลุงทม ” คนละ 500 บาท ค่าอาหารกลางวัน ณ แพลุงทม คนละ 900 บาท หอยนางรม ปู ปลา หมึก)

เที่ยวจันทบุรีมีบริษัททัวร์ Chanthaburi CBT Travel คอยให้บริการอยู่ในพื้นที่ โทร.039-373666, 081-3112952 หรือ website:www.chanthaburicbttravel.com

@เปลี่ยนพฤติกรรมการกินแค่3เรื่องก็ไร้ป่วยได้ 



ผลจากสถิติปี 2560 มีคนไทยพากันเดินเข้าออกโรงพยาบาลกว่า 61.6 ล้านคน กลุ่มการแพทย์และนักวิชาการของประเทศ อ.สง่า ดามาพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และนักวิชาการโภชนาการ ที่ปรึกษากรมอนามัย จึงต้องหันมารณรงค์ให้ “คนหันมาเปลี่ยนพฤติกรรมการกินก่อนจะป่วย”

โดยระบุข้อมูลคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ชั่วโมงละ 37 คน และสาเหตุของที่คนทั่วโลกก็เสียงชีวิตจากโรคนี้ปีละ 36 ล้านคน ทำให้ภาคีอื่น ๆ ต่างรณรงค์เรื่องสุขภาพ อาหารการกิน เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคที่มีส่วนเกี่ยวพันกับ “พฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิต”

เรื่องแรก การกินในแต่ละวัน 6:6:1 คือ กินน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา น้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชา เกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา ซึ่งจะทำให้เราห่างไกลโรค NCDs รวมถึงต้องศึกษาข้อมูลด้วย เช่น กาแฟ ให้พลังงานเท่ากับข้าว 6-7 ทัพพี ไข่เจียวให้พลังงาน 240 แคลอรี่

เรื่องที่ 2 ทำอย่างไรถึงจะไม่ป่วย อ.สง่า แนะนำให้กินผักผลไม้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม ซึ่งจะได้รับใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีจากผักและผลไม้แล้ว ยังป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs ได้ด้วย ขณะที่ สสส.และภาคีที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตั้งเป้าปี 2564 คนไทยหันมากินผักผลไม้เพิ่มขึ้นจากเดิม 25.9% เป็น 50%

เรื่องที่ 3 จะกินผักผลไม้อย่างไร ให้ได้วันละ 400 กรัม วันละ 3 มื้อ แนะนำวิธีเริ่มต้นกินผักผลไม้ให้อร่อยและมีความสุข ดังนี้

1.พกผลไม้ไว้กินวันละ 1-2 ผล เช่น กล้วย ส้ม แอปเปิ้ล ชมพู่ ฝรั่ง 2. มีผลไม้หรือกล่องผักสลัดติดตู้เย็น ติดบ้าน/ที่ทำงาน 3. ลองทำกับข้าวกินเองสัปดาห์ละ 1 วัน เลือกผักที่ชอบ หรือทดลองผักใหม่ ๆ ล้างเอง

4. เตรียมอาหารกลางวันไปกินที่ทำงาน ลองทำอาหารง่าย ๆ ที่เตรียมได้ตั้งแต่ตอนกลางคืน เช่น แซนด์วิช สลัด ข้าวผัด หรือข้าวคลุกน้ำพริกง่าย ๆ 5. เตรียมผักสดมาเป็นผักเคียงอาหารจานหลัก หรือลวกผักพกมาเติมในก๋วยเตี๋ยว 6. ทำน้ำผักผลไม้ปั่น โดยผสมน้ำผลไม้เล็กน้อยเพื่อช่วยลดกลิ่นผัก และเพิ่มรสอร่อยมากขึ้น แต่ปั่นแล้วต้องดื่มทันที เพื่อไม่ให้สูญเสียคุณค่าของเอนไซม์

สรุปการกินผักไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ทำซ้ำ ๆ 21 วัน หรือ ทฤษฎี 21 วันจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงให้เกิดเป็นนิสัย ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเพื่อกำหนดสุขภาพของตัวเราเองด้วย

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 ข่าวแรก “มูลนิธิปิดทองผนึก3มิตรชูทัวร์ชุมชนโป่งลึก-บางกลอยเพชรบุรี” 



มูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ นำทีมสื่อมวลชนลงพื้นที่เมื่อวันที่ 29-30 มกราคม 2562 เพื่อร่วมประสบการณ์ในฐานะนักท่องเที่ยวกับ “โครงการแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามพระราดำริ บ้านโป่งลึก-บางกลอย” และเป็น “โครงการวิจัยและพัฒนาแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในชุมชนปกากะญอ บ้านโป่งลึก-บางกลอย เพชรบุรี บนพื้นฐานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

ซึ่งเป็นการทำงานเชิงบูรณาการของมูลนิธิปิดทองหลังพระ ร่วมกับ ศูนย์บริการวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และองค์การปกครองท้องถิ่นทั้งผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ได้ร่วมกันพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวปกากะญอที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในป่าลึกเกือบสุดเขตแดนในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

 โดยใช้เวลาประมาณ 6 ปี พลิกชีวิตชาวบ้านกว่า 1,200 คน สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยได้รับการส่งเสริมด้านการสร้างอาชีพการเกษตรสอนให้ปลูกพืชผัก ผลไม้ เศรษฐกิจ มีทั้ง ทุเรียน กาแฟ มะนาว กล้วย แปลงผักครัวเรือน เพื่อบริโภค ทำปศุสัตว์ เลี้ยงหมู กบ ปลาดุก ไก่บ้าน จนกระทั่งปัจจุบันมีรายได้เสริมจากการขายผลผลิตเหล่านี้มูลค่ารวมปี 2561 มากถึงปีละกว่า 2.3 ล้านบาท



 ปี 2562 มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ เตรียมขยายผลสร้างจุดขายด้าน “ชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม” โดยร่วมกับทางศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์ และอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สร้างกิจกรรมในครัวเรือนนำเสนอแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มที่ชื่นชอบท่องเที่ยวเชิงผจญภัยและเรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น เพราะในชุมชนบ้านโป่งลึกและบางกลอย มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมและมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในปริมาณที่เหมาะสม ทั้งกลุ่มบริการ กลุ่มผลิตสินค้าชุมชน กลุ่มท่องเที่ยว บริการล่องแพ ทำอาหารท้องถิ่น นำชมงานจักรสานซึ่งเป็นวิถีดั้งเดิมของปกากะญอ โดยเปิดให้มีการแลกเปลี่ยนข้อเสนอในฐานะเจ้าบ้านและการต้อนรับแขกผู้มาเยือน เพื่อนำไปปรับปรุงสร้างมาตรฐานทำการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

 โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมบ้านโป่งลึก-บางกลอย ได้ แต่จะต้องจองล่วงหน้าผ่านศูนย์บริการท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ส่วนกิจกรรมก็สามารถ ล่องแพชมธรรมชาติและวิถีชีวิตในต้นแม่น้ำเพชรบุรีกลางป่า ใช้เวลาล่องประมาณ 30-45 นาที การเดินชมวิถีชีวิตบ้านเรือนไม้ไผ่ ทำเครื่องจักรสาน ชิมอาหารถิ่นปกากะยอ ซื้อผลิตภัณฑ์งานมือชิ้นเดียวในโลก ประเภทเครื่องจักรยาน เครื่องประดับ เสื้อผ้าชาวปกากะญอ ย่าม กระเป๋า เครื่องดื่มสมุนไพร โดยเฉพาะกาแฟที่ผลิตในหมู่บ้านมีอัตลักษณ์เฉพาะตัวแห่งเดียวในเมืองไทย

ข่าวที่สอง “บินไทยงัดโปรตั๋วคู่รักบินรอบโลกเริ่มที่8พันบาท”



นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย-ประเทศไทย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จับมือกับซิตี้แบงก์จัดโปรโมชั่น “HAPPY IN LOVE 2019 for 2” ฉลองเทศกาลแห่งความรัก ด้วยโปรโมชั่นตั๋วบินเป็นคู่หรือ 2 คน ไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลก โดยเข้าไปจองและออกตั๋วได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ -10 มีนาคม 2562 แล้วนำไปใช้เดินทาง1 กุมภาพันธ์-31 กรกฎาคม 2562 ราคาตั๋วเริ่มต้นเพียง 8,000 บาท/คน ตามเส้นทางยอดนิยม ไป-กลับ กรุงเทพฯ ปลายทาง เช่น ฮ่องกง เริ่มต้น 8,605 บาท กรุงโซล เริ่ม16,005 บาท/คน โตเกียว เริ่ม 17,470 บาท/คน เวียนนา เริ่ม 27,560 บาท/คน ปารีส เริ่ม 27,875 บาท/คน ลอนดอน เริ่ม 31,550 บาท/คน

พร้อมกับมอบสิทธิพิเศษให้ผู้ถือบัตรซิตี้แบงก์ถึง 3 ต่อ ต่อที่ 1 เมื่อซื้อบัตรโดยสารในโปรโมชั่นดังกล่าว ได้แก่

ต่อที่ 1 สมาชิก 100 คนแรก ที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรครบ 40,000 บาท ต่อเซลล์สลิป ตั้งแต่วันที่ 1-10 กุมภาพันธ์ 2562 รับ e-voucher ใช้รถแกร็บรับส่งระหว่างบ้านสู่สนามบินสุวรรณภูมิ

ต่อที่ 2 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10,000 บาท และ

ต่อที่ 3 สำหรับสมาชิกที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรสะสมสูงสุดตลอดรายการ ตั้งแต่ 350,000 ขึ้นไป ลุ้นรับรางวัลตั๋วการบินไทยชั้นประหยัดสู่ 3 เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-มอสโก กรุงเทพฯ-โอซากาและกรุงเทพฯ-โซล โปรโมชั่น HAPPY IN LOVE 2019 for 2 สามารถ ซึ่งบัตรโดยสารราคาพิเศษโปรโมชั่นนี้ ใช้เฉพาะเที่ยวบินที่กำหนดและรวมภาษีทุกประเภทแล้ว (ค่าภาษีและค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ออกบัตรโดยสาร) เป็นบัตรโดยสารแบบมีเงื่อนไขและเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด จองตั๋วได้ที่ www.thaiairways.com และ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 หรือสำนักงานขายการบินไทยทั่วประเทศ

ข่าวที่สาม “ภูเก็ตชวนเที่ยวเทศกาลโคมไฟวันนี้-19ก.พ.62” 



จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ศูนย์การค้าไลม์ไลท์อเวนิวภูเก็ต ชมรมอ๊ามจังหวัดภูเก็ต ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต และภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง จัดเทศกาลโคมไฟภูเก็ต หรือ “ป่างเตงโห่ย” แปลว่า การมาชุมนุมกันหรือร่วมกันจัดโคมไฟ วันนี้เป็นวัน ส่างเจ้ากุ่นกง (ส่งเทพแห่งเตาไฟ) ขึ้นสวรรค์ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 29 มกราคม ทุกแห่งทั่วภูเก็ตจะเปิดไฟ ด้วยโคมไฟประดับหลากหลาย ทุกคืนจนถึง เจี้ยโง๊ยจับหง่อ (เดือนแรกวันขึ้นสิบห้าค่ำ) ปีนี้จะตรงกับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันเพ็ญแรกของปี (วันขึ้น 15 ค่ำ) วันหยวนเซียว และเป็นวันแซยิดขององค์ "เทียนก๊วนไต่เต่" เป็นเทพแห่งสวรรค์ มีหน้าที่มาให้พรพวกเราได้อยู่เย็นเป็นสุขปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง

ดังนั้น ทุกหน่วยงาน ทุกบ้าน ประดับโคมไฟตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม-19 กุมภาพันธ์ 2562 ปี 2562 นักท่องเที่ยวสามารถชมกิจกรรมในงานเทศกาลโคมไฟภูเก็ตได้ตั้งแต่วันนี้ -19 กุมภาพันธ์ นี้ คือ 1.การประดับตกแต่งเมืองด้วยประติมากรรมโคมไฟ บริเวณพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในเขตเมือง คือ บริเวณวงเวียนสุริยะเดช วงเวียนสุรินทร์ และถนนสายหลัก และ 2.จัดกิจกรรมขบวนแห่เกี่ยวกับเทศกาลโคมไฟ ในขบวนแห่พิธีเปิดงานตรุษจีน ย้อนอดีตเมืองภูเก็ต ครั้งที่ 20 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 ณ บริเวณย่านเมืองเก่า

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ท่องเที่ยวและผู้ดำเนินรายการ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai