กระทรวงการท่องเที่ยวนำ5มิตรจัดมาราธอนวิ่งผ่าเมืองอะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอนแบงค็อก2020 : 2ก.พ.63 ชงครม.เพิ่ม5รายการยกไทยขึ้นSport Tourism Hubเอเชีย

พิพัฒน์"นำท่องเที่ยว5มิตรจัดมาราธอนวิ่งผ่าเมือง2ก.พ.63

ชงครม.เพิ่ม5รายการยกไทยขึ้นSport Tourism Hubเอเชีย

เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋
#วิ่งผ่าเมืองอะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอนแบงค็อก2020 #ททท

รมว.พิพัฒน์ รัชกิจประการ นำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กอดคอ 5 พันธมิตร “ททท-กกท.-กทม.-สธ.-ไทยแลนด์ไตรลีก” ลุยจัดท่องเที่ยวเชิงกีฬาจัดมหกรรมแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยว   “วิ่งผ่าเมือง ครั้งที่ 3 ประจำปี 2563” รายการ อะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอนแบงค็อก 2020 พรีเซ็นต์บายโตโยต้า” ตุนรายได้ต้อนรับปีใหม่’63 เฉียด 1,000 ล้าน ตั้งเป้าดันไทยผงาดศูนย์กลางวิ่งมาราธอนเอเชีย

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานเปิดโครงการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลกรายการ “อะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอนแบงค็อก 2020 พรีเซ็นต์บายโตโยต้า” เพื่อกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport tourism) ร่วมกับ 5 องค์กร มีทั้ง การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไทยแลนด์ไตรลีก ผู้แทนภาคเอกชน ผู้แทนชมรมวิ่ง ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 ตั้งเป้าดึงรายได้ต้อนรับปีใหม่ 2563 ไม่ต่ำกว่า 900ล้านบาท พร้อมทั้งขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างแบรนด์เป็น WORLD EVENT ทำให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการวิ่งมาราธอนแห่งเอเชีย 

โดยได้มีนโยบายให้ต้องจัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ทำให้รายการแข่งขันมาราธอนรายการนี้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของมาราธอนที่คนทั่วโลกอยากเดินทางมาร่วมแข่งขันมากที่สุด  อีกทั้งยังมอบหมายให้ ททท.เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดเป็นซีรี่ย์มาราธอนของประเทศต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2563 ขั้นต้นเลือกนำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร (อะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอน) 2.บุรีรัมย์ 3.ชลบุรี 4.ภูเก็ต และ 5.ราชบุรี ตั้งเป้ามีผู้ร่วมแข่งขันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเกิน 100,000 คน เป็นคนต่างชาติ มากกว่า 15,000 คน 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการ ททท.กล่าวว่า ในฐานะประธานอำนวยการคณะกรรมการจัดการแข่งขัน  ตามที่ รมว.พิพัฒน์ มอบหมายให้เป็นเจ้าภาพหลักจัดแข่งขันมาราธอนรายการนี้ร่วมกับไทยแลนด์ไตรลีกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 มุ่งยกระดับให้ไทยเป็นจุดหมายปลายด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา (SPORT TOURISM DESTINATION) อย่างยั่งยืน จึงพร้อมจะใช้กระแสการวิ่งสร้างรายได้จากคนไทยและต่างชาติเข้าประเทศไตรมาสแรกปี 2563 ตามคาดการณ์จะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากถึง 30,0000 คน เป็นต่างชาติกว่า 5,000 คน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 900 ล้านบาท อีกทั้งยังตั้งเป้าภายใน 3 ปี อะเมซิ่งไทยแลนด์ มาราธอน จะขึ้นเป็น 1 ในรายการที่ต่างชาติเข้าร่วมมากที่สุดในเอเชีย

ภายในสิ้นปี 2562 ทางสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (IAAF) ในฐานะ BRONZE LABEL จะประกาศรับรองอย่างเป็นทางการ รายการ อะเมซิ่งไทยแลนด์ มาราธอน ถือเป็นมาราธอนน้องใหม่วงการวิ่งที่ IAAF รับรองเร็วที่สุดภายในเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น
โดย ททท.เตรียมเปิดบูธประชาสัมพันธ์ครอบคลุมในรายการมาราธอนระดับโลกมากมาย เช่น โอซาก้ามาราธอน ที่ญี่ปุ่น ปักกิ่งมาราธอน ที่จีน  สิงคโปร์มาราธอน เพื่อกระตุ้นนักวิ่งจากชาติต่าง ๆ ลงแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น 

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์กล่าว ได้จัดทำแผนจัดการแข่งขันอะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอนซีรี่ย์ เสนอผ่านที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจ เรียบร้อยแล้ว 5 รายการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างเร่งทำเอกสารเสนอ ครม.ใหญ่อนุมัติ และประกาศเดินหน้าอย่างเป็นทางการ 

สำหรับชื่อรายการแข่งขันอย่างเป็นทางการ คือ “อะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอนแบงค๊อก 2020 พรีเซ็นต์บายโตโยต้า : AMAZING THAILAND MARATHON BANGKOK 2020 PRESENTED BY TOYOTA 

วันแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563
จุดปล่อยตัว-เวลา   ระยะ 42.195 กม. เวลา 03.00 น. ณ ราชมังคลากีฬาสถาน กกท.
ระยะ 21.10 กม. เวลา 03.00 น. ณ ราชมังคลากีฬาสถาน กกท.
ระยะ 10 กม. เวลา 05.30 น. ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน
ระยะ 5 กม. เวลา 06.10 น. ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน

เส้นชัย ระยะ 42.195 กม. ณ ถ.พระสุเมรุ
ระยะ 21.10 กม. และ 10 กม. ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ระยะ 5 กม. ณ ถ.ราชดำเนินนอก (บริเวณหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์)

เวลาตัดตัว ระยะ 42.195 กม. เวลาประมาณ 10.30 น.
ระยะ 21.10 กม. เวลาประมาณ 07.30 น.
ระยะ 10 กม. เวลาประมาณ 07.50 น.
ระยะ 5 กม. เวลาประมาณ 07.30 น.


เงินรางวัลรวม 2,236,500 บาท
ระยะ 42.195 กม. ชนะเลิศ 200,000 บาท รองชนะเลิศ 100,000 บาท อันดับ 3 50,000 บาท
(ทั่วไปชาย-หญิง) อันดับ 4 30,000 บาท อันดับ 5 20,000 บาท อันดับ 6 15,000 บาท
อันดับ 7 12,000 บาท อันดับ 8 10,000 บาท อันดับ 9 9,000 บาท
อันดับ 10 8,000 บาท 

(ไทย ชาย-หญิง) ชนะเลิศ 50,000 บาท รองชนะเลิศ 30,000 บาท อันดับ 3 20,000 บาท
อันดับ 4 10,000 บาท อันดับ 5 5,000 บาท

(กลุ่มอายุต่างๆ ชาย-หญิง) ชนะเลิศ 10,000 บาท รองชนะเลิศ 7,000 บาท อันดับ 3 5,000 บาท
อันดับ 4 4,000 บาท อันดับ 5 3,000 บาท

ระยะ 21.10 กม. ชนะเลิศ 50,000 บาท รองชนะเลิศ 25,000 บาท อันดับ 3 15,000 บาท
(ทั่วไปชาย-หญิง) อันดับ 4 10,000 บาท อันดับ 5 7,500 บาท
(ไทย ชาย-หญิง) ชนะเลิศ 30,000 บาท รองชนะเลิศ 15,000 บาท อันดับ 3 10,000 บาท

(กลุ่มอายุต่างๆ ชาย-หญิง) ชนะเลิศ 7,500 บาท รองชนะเลิศ 5,000 บาท อันดับ 3 4,000 บาท  อันดับ 4 3,000 บาท อันดับ 5 2,000 บาท

ระยะ 10 กม. ชนะเลิศ 20,000 บาท รองชนะเลิศ 12,000 บาท อันดับ 3 8,000 บาท
(ทั่วไปชาย-หญิง) อันดับ 4 6,500 บาท อันดับ 5 5,500 บาท
(ไทย ชาย-หญิง) ชนะเลิศ 15,000 บาท รองชนะเลิศ 10,000 บาท อันดับ 3 7,500 บาท

(กลุ่มอายุต่างๆ ชาย-หญิง) ชนะเลิศ 5,000 บาท รองชนะเลิศ 4,000 บาท อันดับ 3 3,000 บาท  อันดับ 4 2,000 บาท อันดับ 5 1,000 บาท

ระยะ 5 กม.-ไม่มีเงินรางวัล

จำนวนผู้แข่งขัน - รวมทั้งสิ้น 30,000 คน ระยะ 42.195 กม. จำนวน 5,500 คน ระยะ 21.10 กม. จำนวน 9,500 คนระยะ 10 กม. จำนวน 12,000 คน ระยะ 5 กม. จำนวน 3,000 คน