ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา”ผอ.บพท.ผ่าตัดใหญ่เศรษฐกิจฐานราก ชูงานวิจัย&นวัตกรรมเพิ่มทั่วไทยปี’65ติดอาวุธแก้จน500ชุมชน

 เจาะลึก“ดร.กิตติ”บิ๊กองค์กรใหม่บพท.ผ่าตัดใหญ่เศรษฐกิจฐานราก

ชูงานวิจัย&นวัตกรรมเพิ่มทั่วไทยปี’65ติดอาวุธแก้จน500ชุมชน

คิงเพาเวอร์ชูบริการใหม่Click&Collectรับสินค้าได้ที่สนามบิน

คิงเพาเวอร์ให้สมาชิกใช้กะรัตกินมื้ออร่อยร้านใหม่“มหานครอีเทอรี่”

บางจากผนึกอพม.พันธมิตรติดตั้ง“ตู้กระทิงเติมน้ำมันดิจิทัลอัจฉริยะ

ททท.กอดคอTUI NORDICทำชาเตอร์ไฟต์โกยนอร์ดิก3หมื่นคน

เที่ยวกันเถอะ“สีสันดอยตุง”ชมพระตำหนักและสวนดอกไม้งามสุดๆ

“กินปลา”กันได้แล้วมีประโยชน์ป้องกันทั้งโรคหลอดเลือดและหัวใจ

แอคคอร์ในไทย80โรงแรมจัดแคมเปญใช้บัตรALLรับแต้มเพิ่ม3เท่า

รมว.พิพัฒน์สั่ง“อพท.”ลุยปั้นใหม่12ชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืนโลกปี’65

 

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา 

ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ (บพท.) 

 วันอาทิตย์ 5 ธันวาคม 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่บพท #ผ่าตัดเศรษฐกิจฐานรากแก้จน500ชุมชน #KingPower  #KingPowerClickCollect #TAT  #เที่ยวสีสันดอยตุงเชียงราย

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://fb.watch/9HZz9gCApr/


ช่วงที่ 1 เปิดมุมใหม่กับ “ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ (บพท.) นำงานวิจัยและนวัตกรรมผนึก รัฐ สถาบันการศึกษา องค์กรท้องถิ่น ผนึกกำลังติดอาวุธแม่นยำแก้จน ปลดล็อก “เศรษฐกิจฐานราก” ปั้นทีมท้องถิ่นแจ้งเกิด “โมเดลพึ่งพาตนเองครบวงจร” นักธุรกิจ นวัตกร สินค้า ตลาด กระตุ้นใช้ “ทุนทางวัฒนธรรม- เมืองน่าอยู่ยั่งยืน-เมืองแห่งการเรียนรู้-Learning City” กระจายแล้วกว่า 50 จังหวัด สร้างกว่า 500 นวัตกร พร้อมวิสาหกิจเมือง 19 แห่ง โชว์ต้นแบบความสำเร็จ “หลาดทุ่งสง นครศรี-กาดข่วงหลวง ลำปาง” ปี’65 ตั้งเป้าท้าทายขยายผลเพิ่มเครือข่ายใหม่อีก 500 ชุมชน 

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ (บพท.)  เปิดเผยว่า ในฐานะหน่วยงานใหม่ที่จัดตั้งภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เกิดขึ้นมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนระดับพื้นที่ โดยใช้งานข้อมูลจากวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยการใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง วางเป้าหมายโดยทำอย่างไรจะทำให้คุณภาพชีวิตประชาชน และกลไกในพื้นที่เข้มแข็งขึ้น การใช้ข้อมูลวิจัยและนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญการแก้ปัญหาต่าง ๆ เพราะฉนั้นจึงทำใน 2 มิติ ใช้ศักยภาพพื้นที่และปัญหาของประชาชนเป็นตัวตั้ง ประกอบด้วย

 


มิติที่  1 การยกระดับ “เศรษฐกิจฐานราก”  ภายใต้ยุทธศาสตร์แรก คือทำงานวิจัยและนวัตกรรมเพิ่มเพื่อขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ดูแลเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการพัฒนาผู้ประกอบการในพื้นที่ (Local Enterprise)

มิติที่ 2 การวางกลไกระดับเมือง ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่สอง -การยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้วยการพัฒนาชุมชนและฐานทุนทางวัฒนธรรม ด้วยการทำงานด้านโครงสร้างเพื่อการกระจายรายได้ พัฒนาชุมชนท้องถิ่นและฐานทุนทางวัฒนธรรม ทาง บพท.มีหน้าที่เข้าไปเสริมพลังเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลระดับท้องถิ่น อย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับมิติหรือยุทธศาสตร์เพื่อยกระดับ “เศรษฐกิจฐานราก” ระดับชุมชน ของประเทศไทย ความจริงแล้วเติบโตมาจากส่วนสำคัญ 2 ฐาน ได้แก่ 1.ฐานทรัพยากรในพื้นที่ 2.ฐานทางวัฒนธรรม ชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นงานที่ บพท.ทำล่วงหน้ามา 2-3 ปีแล้ว ด้วยศักยภาพของไทยมีชาติพันธุ์ วิถีชีวิต วัฒนธรรม อันเป็นที่มาของการสร้าง “มูลค่าเพิ่ม+แรงบันดาลใจ” ทำให้เกิด ผู้ประกอบการวัฒนธรรม พื้นที่วัฒนธรรม  และเกิดการค้าขาย ในลักษณะแบบนี้โดยจะต้องเกิด “อัตลักษณ์ท้องถิ่น” เกิดการอนุรักษ์ ย้อนกลับไปรักษา ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม พื้นถิ่น ของพื้นที่นั้น ๆ

 


ส่วน “โมเดลต้นแบบ” บพท.ทำล่วงหน้ามาตั้งแต่ปี 2560 โดยเข้าไปร่วมกับท้องถิ่นจนถึงปัจจุบันประมาณ 40 จังหวัด 53 พื้นที่ จุดเริ่มต้นครั้งแรก ไปเชิญชวนพื้นที่มาสร้าง “กลไกวัฒนธรรม” เป็นเป้าหมายร่วมทำเรื่อง “ทุนทางวัฒนธรรม” ในพื้นที่ของตนเอง แล้วนำมาเรียบเรียงสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ ออกมาเป็น “ย่านวัฒนธรรม” กลายเป็น “หน้าร้าน” สามารถนำ “สินค้าวัฒนธรรม” มาตั้งเพื่อกลับไปดูแลวัฒนธรรม

“พื้นที่” ที่ได้รับความนิยมคนรู้จักมากคือ “หลาดชุมทางทุ่งสง” ตำบลปากแพรก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช กับ “กาดข่วงหลวง” อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง รวมทั่วประเทศราว 53 แห่ง และอีกหลายพื้นที่ทำงานต่อเนื่องกับเทศบาลท้องถิ่น งานนี้ทาง บพท.วัดมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นปีแรก ๆ ทำได้ประมาณกว่า 130 ล้านบาท

 

ดร.กิตติ กล่าวว่า การนำนวัตกรรมเข้าไปสร้างความยั่งยืน ตามที่พบคือการพัฒนาตนเองในชุมชน จะมีทั้งภาคส่วนประชาสังคม ภาครัฐ ส่วนกระทรวงการอุดมศึกษาฯ มีงานวิจัยเยอะมากทางผมได้ให้ทางเครือข่ายมหาวิทยาลัยกับราชภัฎต่าง ๆ ทำ “นวัตกรรมพร้อมใช้” ส่งเสริมชุมชนได้ พบมีหลากหลายนวัตกรรมเกิดขึ้นเรียกว่า “นวัตกรรมชุมชนพร้อมใช้” เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพิ่มขึ้น


พูดง่าย ๆ ก็คืองานวิจัยและนวัตกรรมเข้าไป “เสริมพลังชาวบ้านหรือชุมชน” แล้วสร้าง “นวัตกรชุมชน” (Innovator:คนแรกที่ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจ ประยุกใช้อย่างสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ ) เกิดขึ้นมา หมายความว่า นักวิจัยก็นำนวัตกรรมพร้อมใช้ที่เหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ บางพื้นที่ก็จะเป็น “นวัตกรผสมเทียม นวัตกรเลี้ยงแพะ นวัตกรทำผักออร์แกนิก นวัตกรการทำสินค้ามูลค่าเพิ่มของพื้นที่ตามหลักพื้นบ้าน

 

แล้วนวัตกรเหล่านี้สามารถนำงานจากผู้วิจัยไปปรับประยุกต์ใช้งานตามพื้นที่แล้วขยายผลได้ ตอนนี้มีพื้นที่ดำเนินการกว่า 500 ตำบล ประมาณ 50 จังหวัด มีนวัตกร 2,500 คน ซึ่งเป็นนวัตกรที่นำความรู้ไปใช้ได้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งนำไปขยายผลได้

หมวดที่มีความโดดเด่นสร้างวัฒนธรรมกินได้ สร้างอาชีพ มีรายได้ ก็โดดเด่นเกือบทุกหมวดเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และคุณภาพ ขอตัวอย่างสัก 2-3 มิติ เช่น

ตัวอย่างที่ 1 มิติด้านเศรษฐกิจและอาชีพ มีนวัตกร ที่ บพท.ต้องสร้างเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มการผลิตในพื้นที่ โดย อาจารย์วินัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สร้างนวัตกรผสมเทียม ให้เพียงพอในการบริโภค เพราะการผสมเทียมภาครัฐส่งเสริมชุมชน ส่วนนักวิจัยก็นำความรู้เข้าไปช่วยระดับท้องถิ่น และร่วมกับทางจังหวัดสร้างนวัตกรขึ้นมา สามารถทำให้มีแกนนำสร้างการผสมเทียมได้ หรือการเลี้ยงแพะ จังหวัดน่าน เพื่อจำหน่ายได้

ตัวอย่างที่ 2 มิติการจัดการสิ่งแวดล้อม ทำที่ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ตามพระราชบัญญัติ (พรบ.) อุทยานแห่งชาติ และ พรบ.ป่าชุมชนของกรมป่าไม้ บพท.เข้าไปสร้างนวัตกรชุมชนแล้วนำกฎหมายเกี่ยวข้องสร้างจิตสำนึกการรักษาป่า ทำให้ภาครัฐชุมชนมากขึ้นถึงการดูแลป่าและการทำอาชีพตนเองของคนในชุมชน ทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ร่วมกับป่า ผลักดันให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ลดความขัดแย้งลงได้

 


ดร.กิตติ กล่าวว่า ตามปีงบประมาณ 2565 บพท.ตั้งเป้าหมาย จะขยายพื้นที่สร้างนวัตกร โดยนำงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์เพิ่มให้ได้อย่างน้อยอีก 500 ชุมชน จะเดินหน้าทำคู่ขนานกัน 2 ส่วน  คือ

ส่วนที่ 1 “การต่อยอดพื้นที่ปัจจุบัน” โดยให้นวัตกรที่มีอยู่สามารถจัดการตนเองและค้นหาแหล่งทุน ความสำเร็จ แล้วส่งต่อไปแผนไปยังจังหวัด

ส่วนที่ 2 “ส่งเสริมขยายผลเพิ่มพื้นที่ใหม่” จะร่วมมือกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยพัฒนาพื้นที่ ทำกับประชาสังคม เพื่อให้การขยายผลระดับชุมชนเดินหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน ตอนนี้ขอให้เครือข่ายคัดสรรพื้นที่เหมาะสม ซึ่งทาง บพท.เตรียมไว้แล้วถึง 2,000 นวัตกรรม หากสร้างกระบวนการเรียนรู้กับชาวบ้าน คาดการณ์จะสามารถยกระดับชุมชนได้อีกเป็นจำนวนมากในอนาคตต่อไป

ขณะเดียวกันก็มีแผนแม่แบบที่จะหัวหอกสร้างเศรษฐกิจฐานรากผ่าน “ผู้ประกอบการชุมชน” เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน ในการทำงานลักษณะดังกล่าวผู้ประกอบการชุมชนคือกลุ่มที่มีโครงสร้าง สามารถสร้างอาชีพ และสร้างการกระจายรายได้ เพราะเวลาที่เศรษฐกิจเกิดขึ้นจะเกิดในพื้นที่นั้น ๆ

ตัวอย่าง “วัฒนธรรม” ดังนั้นสินค้าทางวัฒนธรรมในพื้นที่รอบ ๆ บริเวณ ซึ่งจะทำให้เกิด “การกระจายรายได้” อันเป็นความหมายของคำว่าฐานรากทางเศรษฐกิจ


สำหรับการลงพื้นที่ไปทำโครงการเปิด “ตลาดวัฒนธรรม -กาดข่วงหลวง” อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ประสบความสำเร็จมีผลสัมฤทธิ์เป็นอย่างดี โดยสามารถตอบโจทย์หลัก ๆ คือ

1.กลไกความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ภาคท้องถิ่น ภาคประชาชน เครือข่ายต่าง ๆ พบว่าที่ลำปางมีเครือข่ายที่เข้มแข็งมาก โดยเฉพาะเครือข่ายวัฒนธรรมท้องถิ่น เกาะเกี่ยวกันได้เป็นอย่างดี

2.เมื่อเปิดพื้นที่ร่วม เครือข่ายพื้นที่ มีโอกาสนำงานที่ตนเองมีอยู่มานำเสนอสู่สาธารณะได้ด้วย ตอนนี้กำลังหารือกันอยู่หรือมีเสียงเรียกร้องให้ทำต่อเนื่อง โดยจะพัฒนาต่อยอดในปี 2565

3.ประชาคมวัฒนธรรมเครือข่ายท้องถิ่น จะสามารถช่วยเหลือดูแลกันเองได้

ดร.กิตติ กล่าวถึง ยุทธศาสตร์เมืองน่าอยู่และเมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) ตามปกติการทำแผนต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เพราะฉนั้นสิ่งที่วางไว้ในแผนของ บพท.คือการวางตำแหน่งเมืองแห่งการเรียนรู้จะต้องมีเมืองกระจายความเจริญในอีก 20 ปี เรื่องนี้ บพท.ก็ใช้หมุดหมายการพัฒนาเมือง หมายถึง การพัฒนาศูนย์กลางกระจายสู่ความเจริญ สร้างงานในพื้นที่ และแผ่ขยายไปยังท้องถิ่นรอบนอก


เพราะฉนั้นในแผนอนาคต จึงได้บรรจุเรื่อง เมืองเศรษฐกิจ เมืองแห่งการเรียนรู้ เมืองสุขภาพ ยกตัวอย่าง “เมืองแห่งการเรียนรู้” ที่จะต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต” บพท.จะหมายถึงการนำโครงสร้างพื้นฐาน มาร่วมมือกับเทศบาล หรือท้องถิ่น เช่น อุทยานการเรียนรู้โดยใช้พื้นที่ที่มีอยู่เดิมอย่าง “พิพิธภัณฑ์” ทำการเรียนรู้จากรากเหง้า Local Study แล้วนำสิ่งเหล่านี้มาทำเป็น “หลักสูตร” โดย บพท.ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่ แล้วเปิดโอกาสให้คนทุกช่วงวัย คนพื้นที่รอบนอกที่ประสงค์จะเรียนรู้ได้เข้ามาเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต แล้วสามารถ takecouse รับปริญญาได้จากมหาวิทยาลัยที่รับผิดชอบในพื้นที่ เป็นส่วนหนึ่งที่ บพท.ทำแล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

ในการขับเคลื่อน  “เมืองแห่งการเรียนรู้” จะต้องโครงสร้างการพัฒนาโดยนำอัตลักษณ์ของ บพท.เข้าไปติดตั้งก่อนอันดับแรกเป็นกลไกการทำงานเรียกว่า “วิสาหกิจพัฒนาเมือง” ขณะนี้จดทะเบียนเป็นรูปบริษัทแล้ว 19 บริษัท แล้วบริษัทเหล่านี้จะไปทำงานร่วมกับภาคอื่น ๆ เช่น ภาคประชาสังคม ภาครัฐ ท้องถิ่น ทำการเรียนรู้เมืองสุขภาพ ตามบริบทท้องถิ่น นำองค์ความรู้ทางนวัตกรรมไปให้พี่น้องประชาชน พัฒนาพื้นที่ของตนเอง

ดร.กิตติ กล่าวทิ้งท้ายถึงความเป็นอยู่ ณ วันนี้ อะไรต่าง ๆ มีพลวัตรการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น “การอยู่รอดได้” ตอนนี้ทั้งโลกเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันหมดคือ “ต้องใช้ข้อมูล” เท่านั้น ใครก็ตามที่ต้องประกอบธุรกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต การดูแลตัวเองและครอบครัว ถ้าเรามีการใช้ความรู้ ใช้ข้อมูล ประกอบ จะทำให้เกิดการเรียนรู้ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ชูบริการใหม่Click&Collectรับสินค้าได้ที่สนามบิน

“คิง เพาเวอร์” นำเสนอบริการใหม่! ล่าสุด KING POWER CLICK & COLLECT มาให้เลือกช้อปสินค้า ดิวตี้ ฟรี ออนไลน์ รับของง่ายที่สนามบิน เพื่อทำให้นักเดินทางทุกคนท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ ช้อปที่ไหนก็คุ้มค่า พร้อมข้อเสนอพิเศษสุด ๆ เช่นกัน ช้อปได้เลย! https://bit.ly/31OOOzV

สำหรับสินค้าที่เข้าร่วมบริการ King Power Click & Collect มีโปรโมชั่นลดมากกว่า 25% เพียงแค่ทำตามกติกาง่าย ๆ ช้อปออนไลน์ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.รหัสส่วนลด “DFS25” นำใช้ได้ที่ www.kingpower.com และ แอปพลิเคชัน KING POWER เฉพาะวันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565 เท่านั้น

2.รับส่วนลดสูงสุด 25% เมื่อช้อปครบ 4,000 บาทขึ้นไป เฉพาะการสั่งซื้อสินค้า Duty Free ในเที่ยวบินขาออก (Departure flight) และเที่ยวบินขาเข้า (Arrival Flight)

3.รหัสส่วนลด “DFS25” เฉพาะการสั่งซื้อสินค้า Duty Free ที่ร่วมรายการแคมเปญ

4.รับสินค้าที่สนามบินขาออก (Pick up at Departure) โดยจะต้องสั่งสินค้าได้ก่อนเวลาเที่ยวบินขาออก ขั้นต่ำอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือภายใน 60 วัน และลูกค้าสามารถมารับสินค้าได้ตรงบริเวณ Pickup Counter

5.รับสินค้าที่สนามบินขาเข้า (Pickup on Arrival) จะต้องสั่งสินค้าก่อนเวลาเที่ยวบินขาเข้าขั้นต่ำอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือภายใน 60 วัน จำกัดการสั่งขั้นต่ำคนละ 20,000 บาท ตามกฎหมายนำเข้าของศุลกากร และลูกค้าสามารถมารับสินค้า ณ Collection Point

ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ https://www.kingpower.com/content/pre-order-guide-duty-free

 


ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ให้สมาชิกใช้กะรัตกินมื้ออร่อยร้านใหม่“มหานครอีเทอรี่”

คิง เพาเวอร์ ชวนสมาชิกมาดื่มด่ำกับ 7 ร้านอาหาร และคาเฟ่ชื่อดังจาก MAHANAKHON EATERY ที่ มหานคร คิวบ์ คิง เพาเวอร์ มหานคร พิเศษ! เฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์ เท่านั้น อิ่มอร่อยที่ MAHANAKHON EATERY เเลกกะรัตสูงสุด 500 กะรัต ใช้เเทนเงินสดสูงสุด 500 บาท รับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ -  31 ธ.ค. 2565

รายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/30TN5ZT โดยโค้ดย่อจำนวนกะรัต ขัดคำสั่งด้านล่าง  1.ใช้ 100 กะรัตแลกแทนเงินสด 100 บาทคลิกที่นี่ 2.ใช้ 200 กะรัต แลกแทนเงินสด 200 บาทคลิกที่นี่ 3.ใช้ 300 กะรัต แลกแทนเงินสด 300 บาทคลิกที่นี่ 3.ใช้ 400 กะรัตแลกแทนเงินสด 400 บาทคลิกที่นี่ 5.ใช้ 500 กะรัต แลกแทนเงินสด 500 บาทคลิกที่นี่

กติกาในการใช้สิทธิ์แลกกะรัต

1.สมาชิก คิง เพาเวอร์ คุ้มราคา 100 บาท, 200 บาท, 300 บาท, 400 และ 500 บาท สำหรับในอนาคต ที่ Mahanakhon Eatery ชั้น G มหานคร คิวบ์ คิง คิง พาวเวอร์ มหานครเวลา 07:00 – 22:00 น. 2.แลกรับสิทธิ์ได้ผลประโยชน์ - 31 ธันวาคม 2565  3.บี๋บังคับกด ไม่ได้อ้างสิทธิ์ในกรณีที่มีโปรโมชั่น ทางไกล ขอไม่ใ...

4.คูปองอาจยกเลิกสิทธิ์เท่านั้น 5.สิทธิ์ที่แลกรับผู้ซื้อเปลี่ยนหรือชำระเป็นเงินสด 6.โดยเฉพาะร้าน Avril Gourmet & Bordier Selection, El 'mar, ICI, Isabella Italian Rotisserie by Andreas, Maison Du Vin, Meat & Spices by Another Hound Café,ร้านอื่นๆ 7.เงื่อนไขข้อเรียกร้องที่ข้อเรียกร้องในข้อเรียกร้อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 02 677 8721


ข่าวที่ 3 บางจากผนึกอพม.และพันธมิตรติดตั้ง“ตู้กระทิงเติมน้ำมันดิจิทัลอัจฉริยะ

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่มุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมสีเขียวเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำ “โครงการเสริมสร้างสวัสดิการให้กับอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.)” กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ บริษัท ไมโครออยล์แอนด์รีเทล จำกัด และบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ทำ “ตู้กระทิง” เติมน้ำมันอัจฉริยะระบบดิจิทัล  เสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญเพื่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น อีกทั้งยังเป็นช่องทางช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ อพม. ในรูปแบบของสวัสดิการ โดยอาศัยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลและการประสานความร่วมมืออันดีระหว่างภาครัฐและเอกชน

 

“ตู้กระทิง” เกิดจากการนำเสนอแนวคิดของพนักงานภายในองค์กรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม สามารถนำไปต่อยอดสู่การสร้างธุรกิจได้  โดยบางจากจะทำงานร่วมกับไมโครออยล์และดีแทคเป็นผู้ติดตั้งและบริหารตู้เติมน้ำมัน รวมทั้งจัดทำระบบสื่อสารเพื่อใช้จัดตั้งเครือข่ายตู้กระทิงในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

 

ทำให้ตู้กระทิงเป็นแพลตฟอร์มให้บริการน้ำมันคุณภาพที่เข้าถึงระดับชุมชนเล็ก ๆ ช่วยส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงพลังงานที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน และต่อยอดขยายไปสู่บริการอื่น ๆ นอกเหนือจากบริการด้านน้ำมันในอนาคต เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นได้อย่างรอบด้าน

 

บางจากฯ มีความยินดีที่ได้เห็นผลงานจากการนำเสนอแนวคิดของพนักงานมาสู่อีกหนึ่งรูปแบบของการทำธุรกิจที่มีพันธมิตรจากหลายภาคส่วนมาร่วมกันนำเทคโนโลยีโดยมาช่วยสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่น ทั้งสร้างรายได้และโอกาสในการเข้าถึงน้ำมันที่มีคุณภาพ เป็นไปตามพันธกิจของบริษัท สร้างสรรค์นวัตกรรมสีเขียวที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า พร้อมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับการไว้วางใจและสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และส่งเสริมการพัฒนาของสังคมอย่างยั่งยืน 

 

ข่าวที่ 4 ททท.ยุโรปกอดคอTUI NORDICทำชาเตอร์ไฟโกยตลาดนอร์ดิก3หมื่นคน

นางฐิติพร มณีเนตร ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคยุโรป แอฟริกาและตะวันออกกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับ TUI Nordic บริษัทตัวแทนนำเที่ยวรายใหญ่ในยุโรป เปิดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight)  จากกลุ่มประเทศนอร์ดิก หรือสแกนดิเนเวีย เข้าภูเก็ตต่อเนื่องกัน 6 เดือน ระหว่างพฤศจิกายน 2564 -เมษายน 2565 โดยเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 จัดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ BLX 371 จากเดนมาร์กเข้าภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว 296 คน

 

ถือเป็นสัญญาณดีโดยเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดโรคโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศนอร์ดิก มาไทยตลอดที้งปีรวม 705,911 คน ได้แก่ เดนมาร์ก 162,485 คน ฟินแลนด์ 128,012 คน นอร์เวย์ 128,031 คน และ สวีเดน 287,383 คน

 

นางสาวเอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสต๊อกโฮล์ม สวีเดน กล่าวว่า จับมือกับ TUI Nordic ทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำนำนักท่องเที่ยวเข้ามายังภูเก็ตและกระบี่ ช่วงฤดูท่องเที่ยวปลายปีนี้จนถึงปีหน้าตั้งแต่ธันวาคม 2564 – เมษายน 2565 ตั้งเป้าจะทำให้ได้ถึง 30,000 คน จาก นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และเดนมาร์ก

 

                ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์ หนาวนี้ต้องเที่ยวงาน “สีสันดอยตุง” เชียงราย ชมพระตำหนัก สวยดอยตุง ดอกไม้ ประติมากรรม วิถีชนเผ่า แต่ละมุมงดงามต่างกันไป แล้วหันมา “กินปลา” ตามผลวิจัยพบว่าป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจได้ชะงัดจริง ๆ ฟังด่วน ข่าวแรก “ALL บัตรสมาชิกแอคคอร์” แจกใหญ่ปลายปีใช้บัตรทั่วไทยใน 80 โรงแรม ฉลองวันพิเศษ คริสต์มาส ปีใหม่ รับคะแนนเพิ่ม 3 เท่า ข่าวที่สอง “รมว.พิพัฒน์ รัชกิจประการ” สั่ง อพท.ลุยปั้นท่องเที่ยวยั่งยืนโลก 12 ชุมชน ปลุกรายได้ท่องเที่ยวปี’65

 


ท่องเที่ยว –เที่ยวกันเถอะ“สีสันดอยตุง”ชมพระตำหนักและสวนดอกไม้งามสุดๆ

ฤดูกาลท่องเที่ยว “โครงการพัฒนาดอยตุง” จังหวัดเชียงรายมาถึง เช็คคิวให้พร้อมเพื่อออกเดินทางโกยความสุขส่งท้ายปีในงาน ‘สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 8’ ปีนี้จัดในธีม “Forward to Nature” ณ บริเวณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) หรือบริเวณรอบ ๆ พระตำหนักดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ต่อเนื่องยาว 2 เดือน ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่วันนี้ ยาว ๆ ไปจนถึงวันที่ 30 ม.ค. 2565 

ออกเดินทางขึ้นเหนือสุดแห่งสยามเพื่อสัมผัสลมเย็นภายในงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ไปจนถึง 6 โมงเย็น สามารถ เดินเล่นชิมอาหารชนเผ่า ช้อปปิ้งงานคราฟต์สุดเก๋ แวะถ่ายรูปเท่ๆ กับ 'ครอบครัวน้องโต' สัญลักษณ์แห่งความโชคดี

 


การจัดงานปี 2564 เพิ่มความสนุกด้วยการนำเทคโนโลยีเสมือนจริง (AR-Augmented Reality) โผล่ดุ๊กดิ๊กท่ามกลางหุบเขาและสวนแม่ฟ้าหลวง พร้อมด้วยมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด   

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/DoiTungClub หรือ โทร. 0-2252-7114, 05-3767-0157

           

ไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวบนดอยตุง มี 4 แห่ง ได้แก่ พระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง หอแห่งแรงบันดาลใจ และสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง (ดอยช้างมูบ) ภายในโครงการมีบริการที่พักขนาดกลางชื่อดอยตุงลอดจ์ และร้านอาหารสองแห่งไว้รองรับนักท่องเที่ยว

ทุกวันนี้ดอยตุงมุ่งพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติและวิถีชุมชนของชนเผ่าบนดอยตุงอย่างใกล้ชิด

จุดแรก “พระตำหนักดอยตุง” เป็นสถานที่ประทับของ “สมเด็จย่า” ซึ่งมีการจัดแสดงนิทรรศการข้าวของส่วนพระองค์ต่างๆ รวมถึงโต๊ะทรงงาน และตัวอย่างแผนงานโครงการที่ทรงมีพระราชดำริ และพระราชทานแก่พสกนิกรชนเผ่าต่าง ๆ

พระตำหนักดอยตุง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลต์แบบสวิส เป็นที่ประทับเมื่อเสด็จมาทรงงาน “บ้านที่ดอยตุง” ของสมเด็จย่าเน้นความประหยัด เรียบง่าย มุ่งประโยชน์ใช้สอยซึ่งสะท้อนพระจริยวัตรของพระองค์ได้อย่างดี เช่น การนำลังไม้สนใส่สินค้าจากท่าเรือคลองเตยมาทำเป็นผนัง เป็นต้น จุดเด่นของพระตำหนักอยู่ที่การแกะสลักไม้สนบนเพดานท้องพระโรงเป็นกลุ่มดาวตามตำแหน่งวันพระราชสมภพของสมเด็จย่าเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443


จุดที่ 2 “สวนแม่ฟ้าหลวง” เมื่อครั้งอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นจุดพักของกองคาราวานฝิ่น น้ำยาทำเฮโรอีน และอาวุธสงครามของเส้นทางลำเลียงยาเสพติด ปัจจุบันเป็นสวนภูมิทัศน์ขนาด 32 ไร่ที่มีไม้ดอกนานาพันธุ์สวยงามตลอด 365 วันที่ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อาทิ กล้วยไม้รองเท้านารี ไม้ดอกเมืองหนาว เฟิร์นประเภทต่างๆ และต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกลดหลั่นไปตามไหล่เขา ซึ่งได้รับการออกแบบพื้นที่ให้ นักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยชมสวนได้อย่างใกล้ชิด

 

โดยมีประติมากรรมรูปปั้นเด็กยืนต่อตัวกัน เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของสวนแม่ฟ้าหลวง ผลงานของคุณ “มีเซียม ยิบอินซอย” จิตรกรและประติมากรแถวหน้าของเมืองไทย สมเด็จพระบรมราชชนนีทรงพระราชทานชื่อให้ประติมากรรมชิ้นนี้ว่า “ความต่อเนื่อง” (Continuity) สื่อถึงการทำงานใดๆ จะสำเร็จได้ต้องทำอย่างต่อเนื่อง สามัคคี เพื่อส่งต่องานนั้นสู่คนรุ่นหลัง นอกจากจุดถ่ายรูปต่างๆ แล้ว สวนแม่ฟ้าหลวงยังมีสนามเด็กเล่น และกิจกรรมแอดเวนเจอร์อย่างการเดินบนเรือนยอดไม้ (DoiTung Tree Top Walk) และการโหนซิปไลน์ (Zipline) อีกด้วย

 

            จุดที่ 3 “หอแห่งแรงบันดาลใจ” ภายในจัดแสดงนิทรรศการเรื่องราวของราชสกุล “มหิดล” ให้ประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้พระราชจริยวัตรอันเรียบง่าย และพระวิริยะอุตสาหะของแต่ละพระองค์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่กันและกันในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่มาเยี่ยมชม

            จุดที่  4“หอฝิ่น” อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย นำเสนอประวัติความเป็นมาของฝิ่น โดยเฉพาะฝิ่นในดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมผ่านมัลติมีเดีย เพื่อให้ความรู้ และการตระหนักถึงภัยยาเสพติด

 


สุขภาพ - “กินปลา”ได้แล้วมีประโยชน์ป้องกันได้ทั้งโรคหลอดเลือดและหัวใจ

การกินข้าวกินปลา อยู่ในวัฒนธรรมของคนไทยมาตลอด มีหลักฐานทางวิชาการทั่วโลกมากมาย สนับสนุนให้เห็นว่า การกินปลาช่วยลดการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดโอกาสเป็นอัมพาต โดยเฉพาะในผู้หญิง แถมเนื้อปลายังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ดูได้ดังนี้

 

1. กินปลาลดโอกาสเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง

มนุษย์กินปลา (เป็นตัว) มาตั้งแต่โบราณ ประชากรที่กินปลามาก ลดโอกาสเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยทุก ๆ 1 หน่วยบริโภคต่อสัปดาห์ท เมื่อกินปลาเพิ่มขึ้น ลดโอกาสเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจประมาณ 4 % สมาคมแพทย์หัวใจแห่งอเมริกาแนะนำให้ประชาชนทั่วไป (ที่ไม่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ) กินปลาหลาย ๆ ชนิด อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 มื้อ

 

2. การกินปลาลดโอกาสหัวใจล้มเหลว

การศึกษาที่ผ่านมายังบอกไม่ได้ชัดเจนว่า การกินปลาหรืออาหารที่มีโอเมก้า 3 (ไขมันปลา สาหร่าย อาหารทะเล) จะช่วยลดโอกาสเป็นหัวใจล้มเหลวหรือไม่ แต่จากการรวบรวมการศึกษาแบบ systematic review จากฐานข้อมูลทางการแพทย์จนถึงเดือนสิงหาคม 2554 ได้ศึกษาคุณภาพดี 7 การศึกษา โดยพบว่า กลุ่มประชากรที่กินปลามากที่สุด (เมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินน้อย หรือไม่ได้กินเลย) ลดโอกาสเกิดหัวใจล้มเหลว15 % หลังจากปรับปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องแล้ว

 

3. การกินปลาช่วยลดโอกาสเป็นอัมพาตในผู้หญิง

 

การศึกษาไปข้างหน้าในเนเธอร์แลนด์ พบว่า ผู้หญิงที่กินปลาโดยเฉลี่ยมากกว่า 188 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบกับกินน้อยกว่า 57 มิลลิกรัมต่อวัน ลดโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต  51 % หลังจากปรับค่าปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่พบความสัมพันธ์นี้ในผู้ชาย

 

4. การกินปลาลดโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

จากการศึกษาแบบ systematic review ในฐานข้อมูลทางการแพทย์จนถึงเดือน พฤษภาคม 2554 ได้การศึกษาไปข้างหน้า และการศึกษาแบบกลุ่มหรือเปรียบเทียบ เพื่อดูความสัมพันธ์ระหว่างการกินปลากับโอกาสเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก พบว่า กลุ่มประชากรที่กินปลามากที่สุด (เมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินปลาน้อยที่สุดหรือไม่ได้กิน) ลดโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักลง 17 %

 

รวมทั้งพบว่า การกินปลาป้องกันมะเร็งทวารหนัก ได้มากกว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งการกินปลาไม่ช่วยลดโอกาสเสียชีวิตจากการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก แต่ลดโอกาสเป็นมะเร็ง “รายใหม่” ลง14 %ดังนั้น การกินปลา (เป็นตัว) น่าจะช่วยลดโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

 

ข่าวท้ายชั่วโมง



ข่าวแรก แอคคอร์ในไทย80โรงแรมจัดแคมเปญใช้บัตรALLรับแต้มเพิ่ม3เท่า

 

ALL - Accor Live Limitless ผู้นำโปรแกรมความสุขการท่องเที่ยว การพักผ่อน และการกิน พร้อมมอบด้วยประสบการณ์การรับประทานอาหารใโรงแรมเครือแอคคอร์แคมเปญ #TASTETHEREWARDS เปิดโอกาสให้สมาชิก “ALL - Accor Live Limitlessรับคะแนนสะสม 3 เท่า ที่ร้านอาหารในโรงแรมเครือแอคคอร์ทั่วประเทศไทย กว่า 80 แห่งเมื่อเลือกรับประทานอาหารที่ร้านอาหารและบาร์ที่โรงแรมเครือแอคคอร์ (Accor) แบรนด์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น โซฟิเทล (Sofitel), โซ/ (SO/), เอ็มแกลเลอรี่ (MGallery), พูลแมน (Pullman), โนโวเทล (Novotel) และไอบิส (ibis) ทันทีที่รัฐบาลคลายล็อกให้นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ทั่วประเทศ ทาง ALL - Accor Live Limitless จึงได้จัดโปรแกรมรอยัลตี้ชวนสมาชิกกลับมาพบปะเพื่อนฝูงและคนรัก มาใช้บริการ


1.จัดงานเฉลิมฉลองในวันพิเศษ มื้อค่ำวันศุกร์ตื่นตาตื่นใจ กับมื้อสายวันอาทิตย์อันน่าตื่นเต้น หรือมื้ออาหารริมชายหาด สมาชิก ALL จะได้รับคะแนนสะสม 3 เท่า เมื่อใช้จ่ายขั้นต่ำ 374 บาท ที่ร้านอาหารและบาร์ในโรงแรมเครือแอคคอร์ทั่วไทย ตั้งแต่วันนี้- 31 ธันวาคม 2564 ตลอดปีนี้รับ 1 คะแนนทุก ๆ การใช้จ่าย 37 บาท

2.เฉลิมฉลองวันคริสต์มาสอย่างอบอุ่นได้ที่ห้องอาหารสไตล์ยุโรปแต่ละโรงแรม เช่น

2.1 โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท ห้องอาหาร วัวล่า! (Voilà!) ให้บริการคริสต์มาสบรันช์อันแสนรื่นรมย์ อิ่มอร่อยกับไก่งวง แฮม และอาหารทะเลสด ๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี อิ่มใจกับเพลงคริสต์มาสเพราะๆ จากคณะนักร้องประสานเสียงที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ ราคา 2,190++ บาท/คน

2.2 ฉลองค่ำคืนวันคริสต์มาสในสไตล์เบลเยียมได้ดีกว่าทุกแห่งที่ “เบลก้า รูฟท็อปบาร์ แอนด์ บราสเซอรี่ : Belga Rooftop Bar & BrasserieW ร้านอาหารเบลเยียมร่วมสมัยแห่งแรกและแห่งเดียวในในกรุงเทพฯ  mk’เชฟนิโกและทีมงานได้สร้างสรรค์เมนูพิเศษต้อนรับเทศกาลที่เข้ากันได้ดีกับเบียร์เอล (Ale)

 

2.3 คริสต์มาสอันเป็นเอกลักษณ์จากเบลเยียม เร้ด โอเว่น ที่โรงแรมโซ/ แบงคอก เป็นเสมือนพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาเพื่อต้อนรับนักชิมผู้มีสไตล์ในช่วงเทศกาล เสิร์ฟมื้อเย็นวันคริสต์มาส ‘Gourmandise Christmas Feast’ จะรับประกันค่ำคืนที่สนุกสนานด้วยบุฟเฟต์ที่เต็มไปด้วยอาหารแสนอร่อย เช่น ล็อบสเตอร์สดๆ หอยนางรมที่ดีที่สุด ฟัวกราส์ฝรั่งเศส ไก่งวง และขนมหวานพิเศษตามเทศกาล เริ่มต้น 2,200++ บาท/คน

 

3.บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับใหม่ New Year's Eve Culinary Symphony’ จะทำให้คืนสุดท้ายแห่งปีเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำด้วยอาหารน่ารับประทาน เช่น อาหารทะเลสดใหม่เสิร์ฟบนน้ำแข็งเย็นฉ่ำ ชีสบาร์ อาหารเอเชียแบบต้นตำรับ ข้าวหน้าเนื้อวากิว ไปจนถึงไอศกรีมโฮมเมดที่อร่อยที่สุด เริ่มต้น 2,700++ บาทต่อคน พร้อมกาแฟ ชา และแชมเปญหนึ่งแก้ว

 

3.1 ห้องอาหาร เดอะ สแควร์ โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ ให้ทุกคนได้รำลึกถึงเมืองท่องเที่ยวผ่านบุฟเฟ่ต์นานาชาติแสนอร่อยในเมืองตากอากาศอย่างหัวหินเสิร์ฟอาหารพิเศษประจำวัน สร้างสรรค์โดยเชฟโทเบียส สวาสเซนต์ดอร์ฟี  เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟของโรงแรมโซ/ หัวหิน เมนูไฮไลท์ ได้แก่ เนื้อปลาแซลมอนนอร์เวย์กับครีมต้มยำในวันพฤหัสบดี และเนื้อวัวเวลลิงตันสไตล์ใหม่ในวันเสาร์ที่ บีช โซไซตี้ (Beach Society) ร้านอาหารริมทะเลและบาร์สุดชิค ราคาเริ่มต้นที่ 280++ บาท/เมนู

 

3.2 ภูเก็ตห้องอาหารปอร์โตซิโน (Portosino) ที่โรงแรมอวิสต้า แกรนด์ ภูเก็ต กะรน – เอ็มแกลเลอรี่ นำเสนอประสบการณ์ 'เดอะ แกรนด์ อินเดียน บรันช์' (The Grande Indian Brunch) พร้อมเพลงบอลลีวูดสนุกสนาน พร้อมให้ลิ้มลองเมนูเด็ดของเชฟอานันท์ เช่น Rogan Josh ที่ปรุงแบบ slow-cooked และ Phuket Lobster Moilee รวมถึงอาหารอินเดียสุดคลาสสิกต่าง ๆ ทั้งไก่ทันดูรี ทิกก้า และปานี ปูริ เริ่มต้นที่ 899++ บาทต่อคน

 

3.3 โรงแรมพูลแมน ภูเก็ต อาเคเดีย เวโร (Vero) ที่ห้องอาหารอิตาเลี่ยนและบาร์ไวน์ชั้นนำพร้อมวิวพระอาทิตย์ตกของภูเก็ตที่สวยงาม เปิดโอกาสให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ 'The Art of Sabrage' เป็นเทคนิคโบราณการเปิดขวดแชมเปญด้วยดาบ เพื่อเพิ่มความพิเศษให้กับมื้ออาหารที่น่าจดจำ แชมเปญราคาขวดละ 5,900++ บาท

 

ข่าวที่สอง รมว.พิพัฒน์สั่ง “อพท.”ลุยปั้นใหม่12ชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืนโลกปี’65

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ปี 2565 มอบนโยบายให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) “อพท.” ขยายศักยภาพพื้นที่ท่องเที่ยวยั่งยืนให้ได้อีก 50 ชุมชน ต่อเนื่องจากการยกมาตรฐานสู่ระดับโลกได้แล้ว12 ชุมชน ด้วยเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน (CBT Thailand) ขานรับกับสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria หรือ GSTC)

 

โดยจะต้องรวมทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม พฤติกรรมนักท่องเที่ยว ที่หันมาสนใจท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรม หรือการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ชุมชนที่มีศักยภาพสามารถรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพได้จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐาน โดยเฉพาะมาตรฐานระดับสากล

 

ปัจจุบัน อพท.นำร่องทำสำเร็จแล้ว ประกอบด้วย 1.ชุมชนตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี 2.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จ.ตราด 3.ชุมชนหนองอ้อ สุโขทัย 4.ชุมชนเมืองเก่าสุโขทัย จ.สุโขทัย 5.ชุมชนบ้านคุกพัฒนา จ.สุโขทัย 6.ชุมชนนครชุม จ.กำแพงเพชร 7.ชุมชนกกสะทอน จ.เลย 8.ชุมชนภูป่าเปาะ จ.เลย 9.ชุมชนภูหลวง จ.เลย 10.ชุมชนในเวียง จ.น่าน 11.ชุมชนบ่อสวก จ.น่าน และ12.ชุมชนเมืองโบราณทวราวดี-อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

 

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า ปี 2565 อพท.วางแผนยกระดับชุมชนต้นแบบจะคัดเลือก 50 ชุมชนที่มีศักยภาพตามมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนในระดับสากล มาพัฒนาต่อยอดให้โดดเด่นยิ่งขึ้น โดยให้ชุมชนที่อยู่ในพื้นที่พิเศษและในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวตามที่คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติมอบหมาย ตอบโจทย์แนวทางการพัฒนาตามนโยบาย BCG Model มากขึ้น เช่น กิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ปลดปล่อยคาร์บอนอย่างสมดุล (Carbon Neutral CBT) การท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ (Wellness CBT)  

 

ขณะนี้ อพท. กำลังนำเสนอชุมชนบ่อสวก จังหวัดน่าน หนึ่งในชุมชนต้นแบบการพัฒนาตามเกณฑ์ CBT Thailand เข้าประกวดรางวัล UNWTO Best Tourism Village โดยก่อนหน้านี้ อพท. ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์ ได้รับมาตรฐานระดับโลกกว่า 70 ชุมชน จากนั้นก็พร้อมจะส่งมอบแต่ละชุมชนให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ หน่วยงานเกี่ยวข้องนำไปส่งเสริมการตลาดต่อไป

 

ปี 2565 อพท.มุ่งเดินหน้ายกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวต้นแบบ 12 ชุมชน  พัฒนาและยกระดับตามมาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืนโลก กระทั่งประเทศไทยได้การยอมรับในระดับสากลกวาดมาแล้วหลายรางวัล เริ่มจากปี 2562 จังหวัดสุโขทัยยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน  ปี 2563 ตำบลในเวียง จ.น่าน ตำบลเชียงคาน จ.เลย ได้รับการประกาศให้เป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก หรือ Global Sustainable Destinations Top 100) และปี 2564 ตำบลเมืองเก่า จ.สุโขทัย ได้รับการประกาศเป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลกในปี 2564

            ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai