ททท.ประกาศแผนปี'60
ตั้งเป้ารายได้2.86ล้นล้านล้านบาท
ก้าวใหม่ที่ท้าทายการเริ่มเดินหน้าท่องเที่ยว4.0
ตั้งเป้ารายได้2.86ล้นล้านล้านบาท
ก้าวใหม่ที่ท้าทายการเริ่มเดินหน้าท่องเที่ยว4.0
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน (การประชุม บูรณาการแผนท่องเที่ยวปี 2560 :TATAP วันที่ 4 กรกฎาคม
2559 ณ โรงแรม อวานี คอนเว็นชั่น แอนด์ เซ็นเตอร์ จ.ขอนแก่น)
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท)
ประกาศให้ทุกฝ่ายหลอมพลังแรงกายและใจทำรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2560 ที่จะเริ่มออกตัวในอีกสามเดือนหน้านับตั้งแต่ 1 ตุลาคม
2559 ตามกรอบปีงบประมาณ จะต้องทำเงินให้ได้ตามเป้าสูงถึง 2.86 ล้านล้านบาท
(ปี2559 ตั้งเป้าไว้ 2.4 ล้านล้านบาท) มาจาก
1.รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ (domestic) 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ราว 1.6 แสนล้านบาท
ซึ่งตั้งไว้ที่ 8.4 แสนล้านบาท
2.จากชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย (inbound) 1.86 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 4 แสนล้านบาท
ซึ่งตั้งไว้ 1.4 ล้านล้านบาท
โดยการใช้เครื่องมือการตลาดท่องเที่ยว 4.0 "คน-เครื่องมือ-นวัตกรรม-เทโนโลยี-ความคิดสร้างสรร-ขานรับตลาด-เป็นผู้นำเทรนด์"
ต้องเกิดขึ้นและเดินหน้าไปด้วยกัน ในการตั้งสมการเศรษฐกิจทำรายได้ตามสูตรใหม่ ด้วยการเพิ่ม
"รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อทริป" คู่ขนานกับการ
"เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว"
ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มด้วยคุณภาพและปริมาณในการคิดค้น สร้างสรร นวัตกรรม
ถ่วงดุลทั้ง 3 ขา คือ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม
นำพาสินค้าชุมชนยกฐานะมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์ มีจุดขายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชุมชน
เพื่อ ททท.จะได้นำไปสู่แบรนด์ระดับ "ชาติ"
ซึ่งพร้อมจะนำไปประกาศขายเชื่อมสู่ "ตลาดโลก"
ทำให้ท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นที่ 1 เข้าครอบครองหัวใจ "คนไทยด้วยกัน"
และ หัวใจ "คนทั้วโลก" ด้วยคุณภาพ มิตรภาพ จากการแบ่งปันด้วยหัวใจของคน
ททท.ซึ่งพร้อมจะแคร์หัวใจทุกดวงของนักท่องเที่ยวทุกคน
ทว่าจะทำให้ไปถึง "เป้าหมาย" แสนจะ "ยากสุด ๆ"
ตามที่วางไว้ เป็นเรื่อง "ซูเปอร์ท้าทายฝีมือ" ผู้บริหารทุกคนในองค์กร
ททท.ที่ตั้งมานานถึง 57 ปี ได้นั้น
"หัวใจ" ของทุกองคาพยพทั้งประเทศไทย
"ต้องเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน"
สำหรับ ททท.ผู้นำองค์กรประกาศขอความร่วมมือที่จะต้องใช้ Holistic Approach เข้ามาปลดล็อกวิธีการทำงาน จากปัจจุบันของ สำนักงาน ททท.ในประเทศ กับ
ต่างประเทศ ที่แยกกันทำภารกิจ จนลืมหันหลังกลับมาดูว่า "เป็นไผ่แตกกอ"
ต่างฝ่ายต่างทำ ขาดกันบูรณาการร่วมกันจากต้นทาง "ข้างใน" ทั้ง ๆ
ที่อยู่ในหน่วยงานเดียวกัน แล้วจะไป "ต่อพ่วงขั้วบวกลบ"
เชื่อมโยงการทำงานกับ "ข้างนอก" ทั้งในระดับชาติ และระดับโลกได้อย่างไร
นับจากนี้เป็นต้นไป "ต้องห้ามพลาดแก้ไขจากต้นทางข้างใน"
ด้วยการเลิกวิธีการทำงานแบบเก่าคือต่างฝ่ายต่างทำเพียงแค่หาคำตอบให้
"ตัวชี้วัด" ที่ถูกกำหนดขึ้นปีต่อปี
สิ่งที่ควรลงมือทำผโดยกลับมาตั้งต้นเหมือนวันแรกเมื่อ 56 ปีก่อน
นั่นคือ "กอดคอเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวเดินหน้าไปด้วยกัน"
โดย "ททท.ในประเทศ" ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น 3 เรื่อง
ภายใต้คอนเซ็ปต์ WE CARE คือ
1.ดูแลการผลิตสินค้าจากแหล่งให้มีทั้งนวัตกรรมและคุณภาพที่แข่งขันได้
พร้อม ๆ
2.สร้างกิจกรรมโครงการดึงดูดคนไทยเข้ามาเที่ยวและใช้จ่ายเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้น
3.ผลิตสินค้าที่เหมาะสมกับตลาดต่างประเทศ
2.สร้างกิจกรรมโครงการดึงดูดคนไทยเข้ามาเที่ยวและใช้จ่ายเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้น
3.ผลิตสินค้าที่เหมาะสมกับตลาดต่างประเทศ
ส่วน "ททท.สำนักงานต่างประเทศทั่วโลก" ก็จะต้องร่วมมือ
ให้คำแนะนำความต้องการของลูกค้าในแต่ละตลาดกับ ททท.สำนักงานในประเทศอย่างใกล้ชิด
และยกเครื่องกระบวนการทำตลาดจากเวอร์ชั่น 2 และ 3 เข้าสู่โหมด 4.0 โดยเร็วที่สุด
ส่วนทีมหน้าด่านอย่าง "ฝ่ายประชาสัมพันธ์" ถึงเวลาต้อง
"ริ้อเครื่องล้างครั้งใหญ่" เพื่อเสริมทักษะทำพีอาร์แบบมืออาชีพให้สอดคล้องกับโลกจริง
ละลดเลิกภาพสวยช่วยขายของตั้งแต่ "สากกะเบือยันเรือรบ"
จนผู้คนในสังคมจำไม่ได้ว่าหน่วยงานนี้ทำอะไรไปแล้วบ้าง
เพราะปัจจุบันและอนาคต "รัฐบาล" ฝากอนาคต "ประเทศไทย"
ไว้ในอุ้งมือการท่องเที่ยว ถึงแม้จะเป็นอุตสาหกรรมที่ทำเงินเข้าระบบเศรษฐกิจเพียงปีละไม่ถึง
3 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ 1 ใน 4 หรือเพียง 25 % ของรายได้จาก
"ภาคการส่ออก" ที่ในสถานการณ์ปกติจะทำรายได้เข้าประเทศปีละ 12 ล้านบ้านบาท
แต่วันนี้
"การส่งออก" ของประเทศ "ป่วย"
อาการดีขึ้นแต่ยังอ่อนแอไม่มีแรงมากพอจะเป็นเสาหลักเศรษผฐกิจเหมือนก่อน
ประการสำคัญ "ท่องเที่ยว" เป็น
"วัคซีนป้องกันเศรษฐกิจ" ที่ออกฤทธิ์เร็ว
เพราะสามารถสร้างเงินกระจายเข้าถึง "รากหญ้าและSMEs" ได้ทุกหย่อมหญ้าในเวลาอันรวดเร็ว
แตกต่างจากส่งออก ทำตัวเลรายได้เข้าประเทศสูงกว่า 4 เท่าก็จริง
แต่รายได้ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
ที่ประเทศไทยเป็นแค่ฐานการผลิตให้กับทุนต่างชาติ อาทิ
กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์, ยานยนต์ มสำหรับ
"สินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก" การแข่งขันในเวทีโลกสูง
สู้กันทุกรูปแบบด้วยกลกล "ถล่มราคาขาย" แบบฝุ่นตลบมาตลอด
วันนี้ประเทศชาติและทั่วโลกเห็นถึง "คุณค่าของ ททท."
ซึ่งมีมากมหาศาล
แต่"คน ททท."และ "รัฐบาล" กับ "เอกชน" ไทย
จะปลดกำแพงความเห็นแก่ตัว ถอดหัวโขน เพื่อกอดคอกันเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ในวันที่โอกาสและจังหวะเปิดทางสว่างโล่งขนาดนี้
เพื่อที่จะทำ
"อุตสาหกรรมท่องเที่ยว-องค์กร-ประเทศ" มี " คุณค่า...หรือไม่ ?
ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัญญาของท่าน ๆ ทุกคน...เป้าหมายยิ่งสูง
ยิ่งท้าทาย
หากทะลุมิติตอนนี้ก้าวข้ามกำแพงพฤติกรรมความอ่อนแอและกำจัดจุดอ่อนทั้งหลายที่เขียนแผนกันมากว่า
50 ปีได้ "คุณค่า" และ "ความยั่งยืน" ย่อมเกิดแก่
"ทุกคน-องค์กร-ชาติบ้านเมือง" อย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น