รัสเซียแห่เที่ยวไทยเฉียดล้านฮิตทำเวลเนสสปา
ททท.มอสโกนำเอกชนลุยตลาดทัวร์เศรษฐีสค.นี้
เที่ยวตามรอยบุญใหญ่เข้าพรรษา5พื้นที่ยอดนิยม
เอื้อมพร จิรกาลวิศัลย์ ผอ.ททท.มอสโก |
ช่วงแรกเวลา 11.15 น. “นางสาวเอื้อมพร จิรกาลวิศัลย์” ผู้อำนวยการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานมอสโก สาธารณรัฐรัสเซีย ให้สัมภาษณ์อย่างละเอียดเกี่ยวกับ
“รัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS” ตลาดดาวรุ่งที่ทุ่มเทหัวใจรักในวิถีประเทศไทย
ถึงแม้ปี 2554
มีปัญหาเศรษฐกิจภายในทำให้กระทบการเดินทางมายังไทย แต่ผ่านไปช่วงหนึ่งชาวรัสเซียชื่นชอบคนไทย
ผนวกกับการเมืองรัสเซียมีปัญหากับยุโรป
ส่วนประเทศใกล้เคียงอย่างอียิปต์มีเหตุการณ์ก่อการร้าย
ดังนั้นนักท่องเที่ยวรัสเซียจึงปรับพฤติกรรมใหม่
ถึงจะมีหลายประเทศใกล้ๆใช้เงินลงทุนโฆษณาในรัสเซียสูงมาก ตัวอย่างเช่น อิสราเอล
ทุ่มงบไปกว่า 2 ล้านเหรียญยูโร
ประมาณ 80
ล้านบาทแต่แฟนพันธุ์แท้จากรัสเซียยังมั่นคงในความรักเมืองไทย ส่งผลปี 2559 สถิติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวน่าพอใจมาก 5
เดือนแรกปีนี้ จำนวน 5.1 แสนคน เพิ่ม 17 % แต่มากกว่าไปนั้นคือปีที่ผ่านมาค่าใช้จ่าย (จำนวนคนลดลงเล็กน้อย) เฉลี่ย 80,000-85,000 บาทต่อคนต่อทริป เพิ่ม 15 % พักเฉลี่ยครั้งละ 17 วัน จากเดิมพักเพียง 15 วัน
แต่เพื่อความคุ้มค่าเงินจึงต้องอยู่ให้นานขึ้น
เรื่องที่ ททท.พยายามเพิ่มค่าใช้จ่ายสาขาใหม่คือ “บริการการแพทย์องค์รวมครบวงจร” ทั้งสปาและเวลเนส การตรวจสุขภาพ ความสวยงามด้าน antie aging ทำให้หนุ่มสาวอยู่ตลอด
หรือการป้องกันรักษาสุขภาพอื่น ๆ ด้วย ประเทศไทยโด่งดังมาก
โดยเฉพาะสปาไม่มีประเทศใดเทียบชั้นได้
ซึ่งปัจจุบันชาวไซบีเรียบินมาใช้บริการที่วลาดิวอสต็อกแต่ใช้เวลานานถึง 9 ชั่วโมง จึงหันมาบินไปใช้บริการที่เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ แต่มีอุปสรรคเรื่องค่าใช้จ่ายสูงและบริการยังไม่โดดเด่นมากเท่ากับประเทศไทย
จึงได้คุยกับผู้บริหารการวางแผนในบริษัทนำเที่ยวรัสเซียพร้อมทั้งตกลงกันว่า ระหว่างวันที่ 22-26 สิงหาคม 2559 ททท.จะนำผู้ประกอบการไทยกลุ่มสปา
เมดิคอล เวลเนส ไปในเขตตะวันออก 3 เมือง ได้แก่ วลาดิวอสต็อก
คาบาลอฟ เมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีผลิตอาวุธและอุตสาหกรรมหนักอื่น ๆ เมืองยูสโน
บนเกาะซัคคาริน เริ่มทำแล้วโดยมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เป็นน้องใหม่บินเข้ามายังไทยคือ เอส-เซเว่น จากวลาดิวอสต็อกมายังกรุงเทพฯ
สถานประกอบการการแพทย์ของไทยที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมในรัสเซียมีหลายแบรนด์เด่น
ๆเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในรัสเซียและกลุ่มประเทศซีไอเอส ได้แก่
โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งมีสาขาครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ ในไทย ทั้งกรุงเทพฯ
ภูเก็ต สมุย พัทยา เตรียมเดินทางไปโรดโชว์เดือนสิงหาคมนี้ด้วย หรือ โรงพยาบาลปิยะเวช
กล้วยน้ำไทย บำรุงราษฎร์ แม้แต่กลุ่มผู้ประกอบสุขภาพอย่าง ชีวาศรม ระรินจินดา เป็นสปาที่ได้มาตรฐาน หรือคลินิก
ส่วนสถานประกอบการขึ้นชื่อด้านชะลอวัย (ทำให้เป็นหนุ่มสาวโดยไม่แก่ไปตามวัย)
ได้แก่ Triar BEC เป็นกลุ่มทันสมัยได้รับการร้องขอจากคู่ค้าในรัสเซีย
ปี 2560 ททท.มอสโก
จะนำตลาดรัสเซียและประเทศใกล้เคียงเข้าสู่ “ท่องเที่ยว 4.0”
พลิกรูปแบบจากการท่องเที่ยวในอดีตอาจเน้นการขายดิบ
ๆ ไปเลย ราคาที่ได้จึงไม่สูงมาก แต่มาถึงยุคปัจจุบัน “ทรัพยากรมีน้อยลง” จึงต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการหาวิธีเสนอลูกค้าประทับใจ “สินค้าชนิดเดิม” ที่มีจำนวนจำกัดแต่มีคุณค่ามูลค่าเพิ่มขึ้น
โจทก์ข้อนี้ในการนำท่องเที่ยวเข้าสู่ 4.0
เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องทำให้ได้ในการสร้าง “ความพึงใจและรายได้เพิ่มขึ้นทั้งสองเรื่องควบคู่กัน
รวมถึงจะกระจายนักท่องเที่ยวจากเดิมกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ชายทะเล พัทยา ภูเก็ต ระยะหลังนี้มี “กลุ่มนักท่องเที่ยวครอบครัว” เพิ่มขึ้น พ่อแม่ลูก
ผู้สูงอายุ เริ่มกระจายไปยัง หัวหิน ปราณบุรี ทับสะแก ททท.ผนวกกับการเพิ่มกิจกรรมใหม่เสริมเข้าไปเรื่อย
ๆ เช่น การท่องเที่ยวเผชิญผจญภัย การโหนสลิงต้นไม้อย่าง หนุมานฟลายอิ้งในภูเก็ต
หรือการนั่งบอลลูนท่องเที่ยว เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ พื้นที่เขาสก
นักท่องเที่ยวรัสเซียไปเที่ยวธรรมชาติ
ราคาแพกเกจปกติจะสูงแต่ผู้ให้บริการเน้นมาตรฐานความปลอดภัยสากลท่ามกลางการท่องเที่ยวธรรมชาติ
เป้าหมายปี 2560 ททท.มอสโกคาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางมาไทยไม่ต่ำกว่า
1 ล้านคน ใช้เงินเฉลี่ย 85,000 บาทต่อคนต่อทริป
นำรายได้รวมเข้าประเทศไม่ต่ำกว่าปีละ 80,000
ล้านบาท หรืออาจจะสูงกว่านี้ด้วย
ต้องติดตามฟังรายละเอียดตรงจาก “ผอ.เอื้อมพร” ได้ในช่วงเวลา 11.15-11.30 น.
จากนั้นมาฟังข่าวต้นชั่วโมงในหลากหลายเรื่องราวในแวดวงท่องเที่ยว
ข่าวที่
1 “ทายาทคิงเพาเวอร์แนะSMEsทำธุรกิจสู่แชมเปี้ยน”
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา(ซ้ายสุด) ซีอีโอกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ |
“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ เปิดเผยถึงการวางเส้นทาง 3 ธุรกิจ ที่อยู่ในความดูแล ธุรกิจแรก
“คิงเพาเวอร์ ไทยแอร์เอเชีย” และ “สโมสรเลสเตอร์ซิตี้” โปรโมตให้คนไทยเป็นนักเตะอังกฤษ
ลงทุนให้เปล่าเพื่อทำโครงการ FOX HUNT นำเยาวชนไทยอายุ 16 ปี เข้าสู่โครงการนักเตะ บอลไทยไปบอลโลก คนไทยไปเล่นพรีเมียร์ ลีก
ทั้งสร้างหาและผลิตนักเตะเติบโตไปพร้อมกัน
การนำพาธุรกิจจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกนั้น
“อัยยวัฒน์” ย้ำว่าแตกต่างรุ่นพ่อเน้นทำการค้าหน้าร้าน พอมาถึงรุ่นลูก
“ดิจิตอล-ออนไลน์-โซเชียลมีเดีย”
รุกจับมือขยายเครือข่าวกับออนไลน์โลกอย่าง ALIBABA , TRI MORE ซึ่งขายออนไลน์ติดอันดับโลก
ส่วน “การบริหารภายใน” เมื่อเกิดความผิดพลาด
ต้องหาทางแก้ไขโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เดินต่อได้ อย่าปล่อยให้เกิดความเสียหาย
แล้วต้องยอมรับหากผิดพลาด ต้องรับผิดชอบและแก้ไข รวมถึงต้องฟังผู้ใหญ่
นำประสบการณ์มาผสมผสานระหว่าง 2 รุ่น พูดคุยจน "เข้าใจ-เชื่อใจ-ไว้วางใจ”
กันด้วยดีทุกฝ่ายจะทำให้เดินไปข้างหน้าอย่าง "แชมป์เปี้ยน" ได้แน่นอน
ข่าวที่ 2 “วันธรรมดาจองเที่ยวออนไลน์ที่หินตกแคมป์”
“หินตก เเคมป์ปิ้ง รีสอร์ท”
เข้าร่วมลดราคาสูงสุดถึง 65 % กับแคมเปญ “วันธรรมดา ซูเปอร์น่าเที่ยวภาคกลาง ออนไลน์”
เป็นซาฟารีแคมป์รีสอร์ทดีไซน์สวยงามอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเเละประวัติศาสตร์ ณ
ช่องเขาขาด ในอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี เป็นที่พักสไตล์
“เต้นท์ติดแอร์มีห้องน้ำในตัว” ริมเเม่น้ำเเควน้อย
ด้วยสถานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณ ช่องเขาขาด หรือ ช่องไฟนรก หมาะกับการท่องเที่ยวแนวผจญภัยที่ดีที่สุดในพื้นที่ประวัติศาสตร์ของโลก
พักผ่อนได้ใกล้ชิดเเละเข้าถึงธรรมชาติ
รวมทั้งมี “พิพิธภัณฑ์” ให้ไปเยี่ยมชมสถานที่หนึ่งเดียวในประเทศที่เก็บรวบรวมสิ่งของต่างๆ
ตั้งแต่สมัยมนุษย์ยังอาศัยอยู่ในถ้ำ
ทางแคมป์มีกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุก เช่น ปั่นจักรยาน ชมหินงอกหินย้อย
บาร์บีคิวกลางลานสนามหญ้าซาฟารี ขี่ช้าง พายเรือเเคนู เเละอื่นๆ มากมาย
สอบถามข้อมูลสำนักงานกรุงเทพ : 02 642 5497 (08.30 – 20.30 น. ทุกวัน)
รีสอร์ท: 081-754-3898 (06.00 – 22.00 น. ทุกวัน) www.HintokRiverCamp.com
ศุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าด้านสื่อสารการตลาด ททท. |
ศุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าด้านสื่อสารการตลาด
ททท.กล่าวว่า วางแผนทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ “การท่องเที่ยว 4.0”
โดยจะเน้นให้นักท่องเที่ยวมีประสบการณ์เข้าถึงวิถีไทยอย่างลึกซึ้ง บูรณาการทำงาน
การใช้งบประมาณ ระหว่างฝ่ายสินค้ากับทุกฝ่ายทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย “ตลาดต่างประเทศ”
จะชูธีม Amazing Thailand Discover Amazing
Stories
โดยก้าวข้ามปีนี้ซึ่งเน้นคุณค่าของมูลค่าเพิ่มทางรายได้ไปสู่การเพิ่มประสบการณ์เข้าถึงเอกลักษณ์ชุมชนท้องถิ่นทั้งทางด้านแหล่งท่องเที่ยวและสินค้า
ซึ่งจะแปลงกิจกรรมโครงการจากเดิมเน้นสร้างการรับรู้คุณค่าขยับเป็นกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของตลาดแต่ละช่วงทั้งในฤดูจะรักษาจุดแข็งสร้างการรับรู้
ส่วนนอกฤดูเดินทางจะผลิตสินค้าเฉพาะกลุ่มกระตุ้นเพิ่มเติม ผ่านช่องทางเทรนด์ใหม่กลุ่มบล็อกเกอร์
ออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย ครบวงจร
ส่วน “ตลาดในประเทศ” ปี 2560 ธีมจะปรับเป็น “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง”
ต่อยอดจากปีนี้ที่ใช้ “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร”
ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ที่ทำให้คนหันมาแต่งชุดไทย ต่อไปจะต้องลงลึกประสบการณ์เอกลักษณ์ท้องถิ่นไทยอีกหลายอย่างที่มีความสำคัญมากเส้นทางท่องเที่ยว
ผ้าพื้นเมือง อาหารถิ่น ความประทับใจ การเดินทางในแต่ละภาค
“ศุกรีย์”
ย้ำว่ากลยุทธ์การสร้างประสบการณ์เดินทางเข้าถึงเอกลักษณ์ท้องถิ่นไทยอย่างลึกซึ้ง
ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้จะต้องร่วมมือกัน 4 ด้าน คือ 1.ททท.ทำหน้าที่เชื่อมโยงโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาบูรณาการร่วมกับท้องถิ่น
2.ชุมชนต้องรักษาเอกลักษณ์และความเป็นเจ้าบ้านที่ดี 3.ผู้ประกอบการมีส่วนสำคัญมากจะต้องมีความเข้าใจผลิตแพกเกจให้สอดคล้องกับสินค้าท้องถิ่น
ขณะเดียวกันมัคคุเทศก์นำเที่ยวต้องรู้เรื่องราวลึกแหล่งท่องเที่ยวชุมชนท้องถิ่นแล้วนำมาเล่าให้มาก 4.นักท่อง
ต้องนำความประทับใจร้อยเรียงเนื้อหานำไปบอกต่อยังกลุ่มอื่น ๆ ต่อไป
จึงจะทำให้ประสบการณ์เที่ยวอย่างเข้าถึงท้องถิ่นสำเร็จเป็นอย่างดี
ข่าวที่ 4 “ไทยเตรียมเปิดรับ3งานไมซ์โลกปลายปี59”
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
ประธานกรรมการคณะกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เปิดเผยว่า
นโยบายขยายผลตลาดการจัดประชุมนานาชาติและนิทรรศการแสดง
การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ ไมซ์
ซึ่งสร้างทั้งมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าให้หน่วยงานองค์กรในประเทศและนานาชาติ ในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีการดึงงานต่างประเทศ 2
รายการใหญ่เข้าจากต่างประเทศเข้ามาจัดในไทย เป็นงาน การประชุมวิชาการน้ำตาลโลก และการจัดงาน “วันท่องเที่ยวโลก”
โดยเลขาธิการสหประชาชาติด้านการท่องเที่ยวโลก จะมาคณะกรรมการมาประชุมในประเทศไทย ช่วงเดือนตุลาคม 2559 ภายใต้หัวข้อหลักเรื่อง “การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวอย่างเข้าใจ” ซึ่งทีเส็บสามารถใช้เวทีดังกล่าว
นำเสนอแผนปฏิรูปการท่องเที่ยวรองรับเทรนด์ นักท่องเที่ยวกลุ่มคนชรา
ผู้บกพร่องทางกาย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก
ในสถานที่ท่องเที่ยว ห้องพัก การคมนาคม
จะช่วยส่งเสริมการออกแบบพัฒนาให้สอดคล้องกับที่นานาชาติมาสัมมนาแล้วสรุปข้อมูลความต้องการ
เพราะอนาคตไทยจะมีประชากรสูงวัยเกิน 20 ปี รวมถึงจำนวนคนพิการปัจจุบันมีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
ข่าวที่ 5 “ปั้นดอนเมืองขึ้นเบอร์1โลว์คอสต์โลก”
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ตามแผนขยายสนามบินนานาชาติ 5-10 ปีข้างหน้า
ที่จะใช้ลงทุนเงิน 1.94 แสนล้านบาท
เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับผู้โดยสารทั้ง 6 แห่ง
ได้รวมปีละ 181 ล้านคน
โดยเฉพาะ “สนามบินนาชาติดอนเมือง”
จะเร่งรักษาสถิติการเป็น “สนามบินรองรับสายการบินโลว์คอสต์อันดับ
1 ของเอเชียและโลก”
ด้วยสถิติการให้บริการในปี 2558 การเติบโตทั้งจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง
40 % และจำนวนเที่ยวบินก็เพิ่ม 30 % ขณะนี้อยู่ในแผนพัฒนาดอนเมือง
ระยะที่ 3 พร้อมจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารอนาคตเป็นปีละ
40 ล้านคน จากปัจจุบัน 30 ล้านคน
ข่าวที่ 6 “เคล็ดลับเลือกที่นั่งเจ๋งๆที่นั่งบินโลว์คอสต์”
ไทยแอร์ เอเชีย มีข้อแนะนำการ “วิธีการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน” ด้วยบริการที่จัดเตรียมไว้ทุกเส้นทางในทุกเที่ยวบินคือ
ที่นั่งแบบ “Hot Seats” เป็นบริการสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเป็นคนแรกที่ขึ้นเครื่อง
แล้วนั่งสบายบนที่นั่งแบบมีที่วางขามากเป็นพิเศษในที่แถว
1 , 12
& 14 ส่วน “ที่นั่งชั้นประหยัด”
หรือ อีโคโนมีซีท
เป็นบริการการเดินทางให้ผู้โดยสารทุกคนได้เลือกที่นั่งหนังหรูหราของไทย แอร์เอเชีย
ที่ใช้ฝูงบินแอร์บัส A320 สำหรับที่นั่งในแถว 11, 12
และ 31 เป็นแบบไม่สามารถปรับเอนได้
ผู้โดยสารที่นั่งในแถวทางออกฉุกเฉินจะต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ต้องอายุเกิน 15
ปี ห้ามท้อง สติตั้งมั่น ไม่เดินทางกับเด็ก
เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต้องพร้อมแปลงร่างเป็นผู้ช่วยลูกเรือได้ทันที
ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ฟังเรื่องดี ๆ
มีความสุข “ตามรอยทัวร์บุญเข้าพรรษา”
1.งานประติมากรรมเทียนนานาชาติ
ประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี
2.งานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง
งานแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง “จังหวัดสุรินทร์”
ระหว่างวันที่ 19 - 21 กรกฎาคม 2559 ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง
อำเภอเมืองสุรินทร์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 87 พรรษา
และร่วมกันสืบทอดประเพณีอันดีงามและส่งเสริมการท่องเที่ยว กิจกรรมภายในงานได้แก่ ขบวนแห่เทียนพรรษาที่ตกแต่งอย่างสวยงาม
วิจิตรอลังการจาก 12 คุ้มวัดชื่อดังในจังหวัด
อาทิ วัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ วัดศาลาลอยพระอารามหลวง
วัดกลางสุรินทร์ ฯลฯ
ชมขบวนฟ้อนรำศิลปวัฒนธรรมของชาวจังหวัดสุรินทร์จากนักแสดงนับร้อยชีวิต
พร้อมขบวนแห่ช้างที่ยิ่งใหญ่นับ 87 เชือกและร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก
โดยมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั่งบนหลังช้างออกรับบิณฑบาตแก่นักท่องเที่ยวให้ได้
ร่วมใส่บาตรกันทุกคน สอบถามได้ที่ 044-541-447-8
3.ประเพณีแห่เทียนโคราช
งานแห่เทียนพรรษา “นครราชสีมา” จัดอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี เช่นกัน ปีนี้จัด 19 -
21 กรกฎาคม 2559 ภายใต้ชื่องาน “เสริมบุญ สร้างบารมี
แห่เทียนโคราช” เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์ไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทยให้
คงอยู่ สืบไป สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการแสดงโขนนาฏกรรม รามเกียรติ์ ตอน
"นารายณ์ปราบนนทก" บริเวณลานคุณย่าโม ขบวนแห่รถเทียนโคราช และร่วมฟังเสวนาธรรมเทศนา
โดยพระอาจารย์สมพงษ์ โมฆรัตน์ สอบถามได้ที่ 044-213-030
044-213-666
4.งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาอำเภอธาตุพนม
ประจำปี 2559
ชมขบวนแห่เทียนเข้าพรรษา “นครพนม” วันที่ 20
- 21 กรกฎาคม 2559 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม
ภายในงานมีการแห่ต้นเทียนที่ตกแต่งด้วย
บุพชาติอย่างตระการตา การประกวดเทพีต้นเทียน
นมัสการองค์พระธาตุพนมพร้อมร่วมพิธีทำบุญตักบาตรและเวียนเทียนในวันเข้าพรรษา
สอบถามได้ที่ 042-513-490-1
5.ประเพณีแห่เทียนพรรษาสุพรรณบุรี
ประเพณีแห่เทียนพรรษาสุพรรณบุรี ระหว่างวันที่ 19 -
21 กรกฎาคม 2559 จัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม
ทางศาสนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุพรรณบุรี
โดยนำเสนอผ่านการแกะสลักเทียนพรรษาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวย
งามของงานแกะสลักเทียนจากฝีมือของชาวสุพรรณบุรี ภายในงานมีการเดินขบวนของเหล่าเทียนพรรษา
การแสดงศิลปวัฒธรรมพื้นบ้านและการประกวดเทียนพรรษาบริเวณวัดป่าเลไลยก์ วรวิหาร
สอบถามได้ที่ 035-525-867
035-525-880
สำหรับ
“อาสาฬหบูชา” ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย จัดพร้อมกันในวันที่
19 กรกฎาคม 2559 ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ เดือน 8 ก่อนวันเข้าพรรษา 1 วัน
เป็นวันที่สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดง พระปฐมเทศนา หรือการแสดง
พระธรรมครั้งแรก ในวันนี้พุทธศาสนิกชนต่างพากันมาน้อมระลึกถึงพระรัตนตรัย
ด้วยการไปชุมนุมตามพระอารามต่าง ๆ เพื่อกระทำการบูชาปูชนียวัตถุได้แก่พระธาตุเจดีย์
หรือพระพุทธปฏิมาที่เป็นพระประธานในพระอุโบสถ เริ่มด้วยการสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย
เวียนเทียน และฟังพระธรรมเทศนา สอบถามได้ที่ 076-211-036
076-212-213@กินอาหารตามวัยสุขภาพดี
ผศ.ดร.ชุติมา ไวศรายุทธ์
รองคณบดีฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร ม.เกษตรศาสตร์
แนะนำวิธีการกินตามวัยแล้วจะทำให้สุขภาพดี เริ่มจาก “วัยเด็ก” ที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
จึงต้องการอาหารที่ให้สารอาหารและพลังงานสูง
สิ่งสำคัญคือเด็กต้องได้รับโปรตีนและแคลเซียมที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต
ของกระดูกและกล้ามเนื้อ
นมและผลิตภัณฑ์จากนมเป็นแหล่งอาหารที่ดีที่ให้ทั้งโปรตีนและแคลเซียมที่จำเป็นที่หาได้จากนมครบส่วน
และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันเต็ม นอกจากการรับประทานอาหารที่ให้พลังงานอย่างเพียงพอแล้ว
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีพลังงานที่สูงเกินไปเพียงอย่างเดียว เช่น น้ำตาล และขนมหวาน
“วัยรุ่น” เป็นอีกวัยหนึ่งที่มีการพัฒนาและการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น จึงต้องการอาหารที่ให้สารอาหารและพลังงานสูง
แต่สิ่งสำคัญคือต้องมั่นใจว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่าขนมหวาน
หรืออาหารไขมันสูง เช่น น้ำอัดลม เค้ก ขนมปัง ซึ่งมีแคลอรี่สูงแต่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ
โดยส่วนประกอบอาหารของวัยรุ่นที่สำคัญ คือ อาหารประเภทแป้งเป็นพื้นฐาน
อุดมด้วยผลไม้และผัก และมีผลิตภัณฑ์โปรตีนและนมในปริมาณปานกลาง
รวมทั้งการรับพลังงานโปรตีนจากเนื้อสัตว์แล้ว ถั่ว และธัญพืชต่างๆ
ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อให้ได้ความหลากหลายทางโปรตีน
“ผู้ใหญ่ช่วงอายุ 19-50 ปี” จะมีความต้องการทางโภชนาการ
ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก ซึ่งอาหารสำคัญสำหรับคนวัยนี้ควรเป็น
อาหารประเภทแป้งที่มีเส้นใยสูงและผัก ผลไม้ มีอาหารโปรตีนพอประมาณจากเนื้อสัตว์
ถั่ว นม และรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลและไขมันในปริมาณน้อย
สิ่งสำคัญคือการควบคุมน้ำหนัก ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับส่วนสูงของตนเอง
เมื่ออายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ควรเริ่มรับประทานอาหารน้อยลง
แต่ให้รับประทานอาหารเป็นประจำ โดยเน้นผักและผลไม้
เนื่องจากระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกาย จะลดลง ประกอบกับการมีกิจกรรมทางกายน้อยลง
ดร.ชุติมา แนะนำว่า
วัยนี้ควรหันมาให้ความสนใจในการเพิ่ม สารอาหารประเภท โฟลิค แอซิด (Folic Acid) ที่เป็นสารอาหารที่ร่างกาย
ใช้ในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดที่ได้มาจากข้าวไม่ขัดสี ผักต่างๆ และไฟเบอร์
เพื่อทำความสะอาดลำไส้
เมื่อนำเคล็ดลับการทานอาหารให้เหมาะกับช่วงวัยมาใช้ร่วมกับเทคนิคการเลือกซื้ออาหารสดและสำเร็จรูปที่มีคุณค่าและคุณประโยชน์ต่อร่างกาย
รวมถึงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เชื่อว่าหลายๆ ท่าน
จะต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงโดยไม่ต้องพึ่งพายาวิเศษ หรือแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญแต่อย่างใด
สำหรับข่าวยอดนิยมในรอบสัปดาห์ช่วงท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
“ซีพีแลนด์ทุ่มเปิดศูนย์ประชุมไมซ์ในขอนแก่น”
บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน)
ประกาศอยู่ระหว่างลงทุนธุรกิจไมซ์ (MICE-Meetings Incentive Conference Exhibition) แห่งแรกใน จ.ขอนแก่น บนที่ดิน 26
ไร่ ทำศูนย์ประชุมนานาชาติและจัดนิทรรศการแสดงพื้นที่ 26,000
ตร.ม.ขณะนี้ได้ บริษัท แก่นประกาย จำกัด
เข้ามารับเหมาก่อสร้างเริ่มเดือนกรกฎาคม 2559 นี้
กำหนดแล้วเสร็จในปี 2560 พร้อมกับตั้งเป้าเมื่อเปิดบริการจะมีอีเวนต์หลักอย่างน้อย
ปีละ 12 อีเวนต์ โดยจะทำหน้าที่เป็นพันธมิตรกับการจัดงานอีเวนต์
ใหญ่ ๆ ในกรุงเทพฯ เช่น ร่วมมือกับ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
เวลามีงานแสดงสินค้าในกรุงเทพฯแล้วต้องการไปจัดแสดงในต่างจังหวัด
ก็จะป้อนงานจัดแสดงมาไว้ที่ศูนย์ไมซ์ขอนแก่น โครงการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า
ขอนแก่น Khon Kaen Convention Exhibition Center เป็นต้น
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า
ตลอดเดือนกรกฎาคม นี้ ห้ามพลาดไปท่องเที่ยว “ถนนสายวัฒนธรรม” เมืองกะทู้
จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม
ขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นของเมืองกะทู้
พร้อมปลูกฝังให้เยาวชนรักในบ้านเกิดและช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมของภูเก็ต กิจกรรมภายในงานได้แก่
การแสดงของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต นิทรรศการศิลปะร่วมสมัย
การแสดงประวัติชุมชนคนกระทู้และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย สอบถามที่ 076-211-036 076-212-213
ข่าวที่สาม
“ห้ามพลาดงานพัทยามาราธอน17ก.ค.นี้”
ระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม 2559 ชวนกันไปเปิดประสบการณ์การแข่งขันวิ่งสุดยิ่งใหญ่ ที่ หาดพัทยา, จังหวัดชลบุรี
กับสุดยอดมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ "พัทยามาราธอน
2016" บนเส้นทางที่สวยงามและน่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การแข่งขันประกอบด้วย
วิ่งมินิมาราธอน 10.55 กม. วิ่งฮาร์ฟมาราธอน 21.1 กม. และ ฟูลมาราธอน 42.195 กม.
สอบถามได้ที่โทร. 038-427-667 038-428-750 038-423-990
พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม
ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao
และ ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรายการ ขอให้พักผ่อนอย่างมีความสุขตลอดวันหยุด
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน -ผู้เขียนและผู้ดำเนินรายการ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น