“โซเชียลกิ๊ฟเวอร์”แจ้งเกิดธุรกิจทัวร์CSR
ทั้งนี้กลุ่มแอร์ เอเชีย เอ็กซ์
ปัจจุบันในประเทศก็มี “ไทย แอร์ เอเชีย เอ็กซ์”
รวมอยู่ด้วย โดยให้บริการบินจากกรุงเทพฯ
ไปยังประเทศปลายทางที่ต้องใช้เวลาบินไกลเกิน 4 ชั่วโมง เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และ
จีน บางเมือง
ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้โดยสารทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก
พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.
ททท.ซิดนีย์โชว์เพิ่มรายได้ตลาดโอเชเนีย
มิสเวิลด์ออสซี่ทัวร์ไทยส.ค.นี้ช่วยบูม4จังหวัด
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม 2559 เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” รู้ทันข่าวและสารคดีท่องเที่ยวอัพเดททุกสถานการณ์
ช่วงแรกเวลา 11.15 น.
อาชว์ วงศ์จินดาเวศย์ ซีอีโอ บริษัท โซเชียลกิีฟเวอร์ จำกัด เจ้าแรกที่บุกเบิกธุรกิจท่องเที่ยวซีเอสอาร์ |
“อาชว์ วงศ์จินดาเวศย์”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซเชียลกิ๊ฟเวอร์ จำกัดเจ้าของ www.Socialgiver.com นักธุรกิจ Start Up เจ้าแรกที่บุกเบิกท่องเที่ยวเพื่อสังคมพันธุ์ใหม่ซื้อแล้วนำกำไรทั้งหมดไปแบ่งปันช่วยเหลือคืนให้ผู้ด้อยโอกาสทั้งคนและสัตว์
จะมาเล่าให้ฟังถึงเส้นทางการเข้าสู่สนามธุรกิจมาแล้ว 3 ปี โดยเปิดเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นขาย
Gift Card ท่องเที่ยว มีเครือข่ายผู้ให้บริการชั้นนำทั้งสายการบิน โรงแรม
ร้านอาหาร สปา นำเที่ยว และธุรกิจเกี่ยวข้อง กระจายอยู่ตามเมืองหลักทั่วประเทศกว่า
100 แบรนด์
โดยคัดเลือกผู้ประกอบการคุณภาพสูงของแต่ละจังหวัดทั้งแบบหรูหราและประหยัด
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ที่ทำธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนและดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
กลยุทธ์หลักจะนำกำไรจากการขายบัตรของขวัญท่องเที่ยวไปบริจาคให้มูลนิธิและอาสาสมัคร
แปลงการใช้จ่ายของคนนำไปช่วยเหลือสังคม (CSR)
จากการท่องเที่ยวแล้วยังสามารถทำดีเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ขณะนี้มีโครงการแบ่งปันกำไรคืนให้สังคมที่โดดเด่น อาทิ Teacher for Thailand
ต้นแบบมาจากอเมริกาที่นำมาประยุกต์ในไทยโดยคัดเลือกเด็กที่มีศักยภาพสูงจบมหาวิทยาลัยดีมีโปรไฟล์เยี่ยมเข้ามาเป็นอาสาสมัครครู
2 ปี
เพื่อพัฒนาเป็นผู้นำเลือกสอนในโรงเรียนเด็กด้อยโอกาส
หรือบางห้องเรียนต้องการถ่ายทอดเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์อย่าง Science movement foundation โครงการนำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาสอนพ่อแม่นวดบำบัดให้เด็กพิการ
ทางเราก็นำกำไรแบ่งปันให้ใช้ประโยชน์
ซึ่งทาง Socialgiver.com เน้นหาโครงการแปลกใหม่ ๆ
ที่มีศักยภาพเข้ามาเป็นเครือข่ายการรับเงินบริจาคเพื่อนำไปพัฒนาชุมชนสังคมในรูปแบบต่าง
ๆ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เฉลี่ยแต่ละเดือนจะมีผู้ประกอบการแบรนด์ต่างๆ
เข้าร่วมเพิ่มเดือนละ 2-3 แห่ง และมีโครงการเพื่อสังคมเพิ่มเดือนละ 1 โครงการ
เพื่อเป็นทางเลือกของผู้ซื้อ ตลอด 3 ปี ระดมทุนได้ 1.8 ล้านบาท ช่วยเหลือไปมากถึง 20 โครงการ
ช่วยทั้งคนและสัตว์ทำให้ดีขึ้นแล้วกว่า 10,000
ชีวิต
ทาง Socialgiver.com
มุ่งเน้นปลุกจิตสำนึกให้ “ภาคธุรกิจ” รับผิดชอบต่อสังคม มีส่วนร่วมคืนกำไรทำให้สังคมมีประสิทธิภาพยั่งยืน
เพราะเราเองก็พยายามเพิ่มมูลค่าสินค้าของผู้ขายให้ด้วย ทางด้าน “นักท่องเที่ยวหรือลูกค้า”
ต้องการจุดประกายให้เกิดความตระหนักที่จะเลือกสนับสนุนกิจการที่มีคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้น
เพราะอนาคตประเทศหากคนส่วนใหญ่เข้าไปสนับสนุนธุรกิจที่ดีโลกก็จะเดินไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย
ๆ ถ้าอุดหนุนสิ่งที่ไม่ดีก็จะพากันแย่ลง
เพราะโลกเดินไปข้างหน้าด้วยการใช้จ่ายซึ่งมีอำนาจการตัดสินใจในเรื่องสำคัญที่สุดคือออกเสียงเลือกบริโภคอย่างถูกวิธี
ถ้าทุกคนช่วยกันใช้เงินที่ต้องซื้อท่องเที่ยวอยู่เพียงแค่ใส่ใจเพิ่มลงไปอีกนิดด้วยการ
“เลือกอุดหนุนธุรกิจที่มีคุณธรรมจริยธรรม”
อนาคตของบ้านเมืองจะน่าอยู่และมั่นคงยั่งยืนนั่นเอง
จากนั้นมาฟังข่าวต้นชั่วโมงในแวดวงท่องเที่ยว
ข่าวที่
1 “ช้อปดิวตี้ฟรีรับไปเลย3ต่อ”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรม “ซีรีย์สำหรับนักเดินทาง หรือ The
Journey Series” ระหว่างวันนี้ – 31 กรกฏาคม 2559 ช้อปสินค้าในดิวตี้ฟรี ที่คิง เพาเวอร์
รางน้ำ, ศรีวารี, พัทยา และภูเก็ต เลือกรับไปเลย 3 ต่อ คือ
ต่อที่ 1 รับส่วนลดสูงสุด 25% ต่อที่ 2 พิเศษ!
กะรัตสะสมแลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 1,000 บาท เมื่อช็อปครบ 10,000 บาท (สุทธิ)
ขึ้นไป (1 กะรัตมีค่าเท่ากับ 1 บาท)ต่อที่ 3
ช็อปครบรับกะรัตสะสมสูงสุด 4,000 กะรัต เมื่อ ช็อปครบ
10,000 บาท (สุทธิ) รับเพิ่ม 100
กะรัต ช็อปครบ 50,000 บาท (สุทธิ) รับเพิ่ม 1,000 กะรัต ช็อปครบ 100,000 บาท (สุทธิ) รับเพิ่ม 4,000 กะรัต
ด้วยเงื่อนไขในการรับสิทธิ เช่น เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ยอดซื้อทั้งหมดเป็นยอดซื้อสุทธิ สมาชิกที่ได้รับของรางวัลจะต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 5%
และรางวัลไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือคืนเป็นเงินสด สอบถามเงื่อนไขอื่น
ๆ ได้จากพนักงานประจำร้าน หรือเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ www.kingpower.com
ข่าวที่ 2 “สมัครด่วนสาวนักปั่นห้ามพลาด6ส.ค.นี้”
บริษัท แบงค์คอกไรเตอร์ แอนด์
พาร์ทเนอร์ส จำกัด ในฐานะผู้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ตลาดในประเทศ ททท.รายงานว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ได้จัดกิจกรรมชวนสาวนักปั่นร่วมคาราวานปั่นจักรยานไปบอกรักแม่กับ “คาราวานสิงหาตามหาเสือผู้หญิง ไปบอกรักแม่” ในวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม 2559 ใน 3
เส้นทางท่องเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ “ปั่นชมเวียง เคียงชมวัด
นิทรรศน์วัง” จุดเริ่มต้นการปั่นที่ “สยามนิรมิตถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”
ระยะทาง 15 กม.
จากนั้นขบวนจะแยกตามเส้นทางท่องเที่ยว 3 เส้นทาง และไปสิ้นสุดที่สนามหลวง
ได้แก่
เส้นทางที่ 1 “ปั่นชมเวียง” ระยะทาง 16.4 กม. เส้นทางทางเที่ยว
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เส้นทางที่ 2 “เคียงชมวัด” ระยะทาง 15.3
กม. เส้นทางทางเที่ยว วัดราชบพิธฯ อนุสาวรีย์หมู วัดราชประดิษฐ์ฯ และ เส้นทางที่ 3 “นิทรรศน์วัง” ระยะทาง 20 กม. เส้นทางทางเที่ยว
พิพิธภัณฑ์ไม้-สักทอง ในวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร วังปารุสกวัน
พิเศษสำหรับสาวนักปั่นที่สนใจสามารถสมัครพร้อมรับเสื้อ
T-shirt แบบลิมิเต็ท ฟรี!! เฉพาะเสือผู้หญิง 500 ท่านเท่านั้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Facebook: คาราวานสิงหาตามหาเสือผู้หญิง
ไปบอกรักแม่ (www.facebook.com/ladycycling)
ข่าวที่
3 “ททท.ซิดนีย์โชว์แผนเพิ่มรายได้โอเชเนียปี’60
รุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผอ.ททท.ซิดนีย์ |
ททท.ซิดนีย์ เปิดแผนตลาดปี’60 นักท่องเที่ยวออสเตรเลีย
นิวซีแลนด์ เข้าไทย “รายได้พุ่ง” สวนทาง “จำนวนคนลดลง” เตรียมนำ “มิสออสเตรเลีย”
เที่ยวไทยต้นเดือน ส.ค.นี้ ลุยโปรโมต 4 พื้นที่
“กรุงเทพฯ-เชียงราย-หัวหิน-ภูเก็ต” (อ่านต่อสกู๊ปฉบับเต็มได้ใน ไทยโพสต์-คอลัมน์จัตุรัสทั่วไทย
ฉบับวางแผงวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ค.59)
“รุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ” ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานซิดนีย์
ได้พิสูจน์การทำโอเชเนียให้เป็นตลาดที่มีศักยภาพทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
และประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ ถึงแม้จำนวนนักท่องเที่ยวภาพรวมปี2558 จะมาเที่ยวเมืองไทยรวมกว่า 8
แสนคน ซึ่งลดลงต่อเนื่องจนถึง 5 เดือนแรกปี 2559 ยังคงลบ 0.3 % จากปัจจัยภายในเรื่องเงินเฟ้อ
ค่าเงินผันผวน อุปสรรคใหญ่สุดคือ “คู่แข่งขัน” ทุ่มงบอัดแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์และขายแพกเกจห้องพักรวมตั๋วโดยสารเครื่องบินถูกกว่าไทย
3-5 เท่า
แต่ที่น่าสนใจคือตลาดโอเชเนียที่เดินทางเข้ามาไทย
“มีค่าใช้จ่ายเป็นบวกเพิ่ม”
สวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งจากออสเตรเลีย ปี 2558 ทำรายได้ 63,441 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 5.36 % ตลอด 5 เดือนแรก
มกราคม-พฤษภาคม 2559 ทำรายได้ 24,091 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 1.09 % นิวซีแลนด์ก็เช่นกัน 5เดือนแรกปีนี้มีนักท่องเที่ยว 39,702 คน ติดลบ 1.97
% แต่รายได้ทะยานถึง 24,000 ล้านบาท เพิ่ม 1.41
%
ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2559 ททท.ซิดนีย์จะนำมิส เวิลด์ ออสเตรเลีย
5 คน
เดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย 4 พื้นที่
ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงราย หัวหิน ภูเก็ต ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไทยในตลาดออสเตรเลีย
ยังคงเป็น “ภูเก็ต” ขยายไปยังกลุ่มจังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน อาทิ กระบี่ พังงา
ซึ่งขณะนี้มีสายการบินเวอร์จินแอร์ไลน์บินตรงแบบประจำ เพิร์ธ (ออสเตรเลีย)-ภูเก็ต
ส่วนโปรดักซ์หรือกิจกรรมท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงสำหรับตลาดนักท่องเที่ยวเศรษฐีออสเตรเลียคือการท่องเที่ยว
ประเภทเรือสำราญ วัฒนธรรม ธรรมชาติ
ทั้งนี้ภาพรวมตลาดโอเชเนียมาไทยที่มี “จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง” แต่ “รายได้เพิ่ม” ถ้าททท.ต้องการจะเพิ่มทั้ง 2 ส่วน อาจจะต้อง “อัดฉีดงบเพิ่ม” หรือไม่
เพื่อให้ทันคู่แข่งทุนหนาอย่างสิงคโปร์ บาหลี(อินโดนีเซีย) ตะวันออกกลาง และอื่นๆ
เป็นเรื่องที่จะต้องเร่งพิจารณาเพิ่มในปี 2560 ต่อไป
ข่าวที่ 4 “เข้าปั๊มบางจากเติมE85รับแต้ม2เท่า/ส่วนลด”
บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เชิญชวนสมาชิกบัตร
“แก๊สโซฮอล์คลับ” เติมน้ำมัน E85
ระหว่างวันนี้-31 ธันวาคม 2559 รับไปเลยสิทธิที่สามารถเลือกได้ทันที
คือ 1.จะรับเป็นคะแนนสะสมในบัตรเพิ่ม 2 เท่า หรือ 2.รับส่วนลดราคาน้ำมันลงลิตรละ 40 สตางค์ ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ สมาชิกผู้ถือบัตตามปกติจะได้รับคะแนนทุก ๆ 1 ลิตร เคยได้ 1 คะแนน หากเลือกเติม E85 ตอนนี้รับทันทีลิตรละ 2
คะแนน นอกจากจะได้สิทธิ์ต่าง ๆ
แล้วยังมีส่วนร่วมในการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าในการดูแลสิ่งแวดล้อมของโลก
ข่าวที่ 5 “โค้งสุดท้ายไมซ์ไทยรุก3กลยุทธ์8ยุทธศาสตร์”
ทีเส็บเร่งโค้งสุดท้ายปี’59ใช้ 3 กลยุทธ์ 8 ยุทธศาสตร์ ทำเงินไมซ์ทั่วโลกเข้าประเทศเข้าเป้าแสนล้านบาท
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมนาชาติ (องค์การมหาชน)-สสปน.หรือ TCEB กล่าวว่าในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 จะเร่งเพิ่มความแรงยกระดับประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการจัดงานกิจกรรมทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียควบคู่กับทำรายได้เข้าประเทศให้เป็นไปตามเป้าเกือบ
1 แสนล้านบาท ด้วยการเดินหน้าใช้ 3 กลยุทธ์ 8 ยุทธศาสตร์ โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็น
3 ส่วนหลัก คือ
เพิ่มความสามารถในการดึงดูดและชนะการเสนอราคาในการจัดงานกิจกรรมทางธุรกิจนานาชาติในประเทศไทย
ส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการติดต่อธุรกิจ
และพัฒนาศักยภาพของประเทศในการจัดงานอีเวนต์ที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างความประทับใจได้
ข่าวที่
6 “ดอนเมืองจัดเต็มบริการช่วงเข้าพรรษา”
“เพ็ชร ชั้นเจริญ” ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง
เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 15-20 ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวเทศกาลวันเข้าพรรษา
ทางสนามบินได้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน
ทั้งการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัย โดยในส่วนของมาตรการรักษาความปลอดภัย
ได้มีชุดตรวจผสมร่วมจากหน่วยงานต่างๆ มาช่วยตรวจสอบความเรียบร้อยทั้งภายใน และภายนอกสนามบินดอนเมือง
ส่วนการจราจร ได้ประสานกับสถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง สถานีตำรวจนครบาลวิภาวดี
และกรมการขนส่งทางบกให้เข้ามาช่วยดูแล
เพราะคาดจะมีการเดินทางผ่านดอนเมืองตลอดเทศกาล
5 วัน แยกเป็นเที่ยวบินรวม 4,056 เที่ยว
เฉลี่ยวันละ 676 เที่ยว ผู้โดยสารรวม 594,000 คน เฉลี่ยวันละ 99,000 คน ประกอบด้วย
ผู้โดยสารภายในประเทศ 70% และระหว่างประเทศ 30% ทั้งนี้วันที่ 17 ก.ค. จะมีจำนวนเที่ยวบินสูงที่สุด
684 เที่ยว
ข่าวที่
7 “แอร์เอเชียเอ็กซ์คว้าสุดยอดบริการชั้นพรีเมี่ยม”
กลุ่มแอร์ เอเชีย รับรางวัล สกายแท็กซ์ เวิลด์ แอร์ไลน์ส อวอร์ด 2016” |
กลุ่มแอร์เอเชีย เอ็กซ์ คว้ารางวัลสายการบินดีที่สุดในโลกจาก
“สกายแท็กซ์ เวิลด์ แอร์ไลน์ส อวอร์ด 2016”
“นายตัน ศรี ราฟิดาห์ อาซิซ” ประธานกรรมการ แอร์เอเชีย เอ็กซ์
เบอร์ฮัด เปิดเผยว่า ประสบความสำเร็จจากการประกาศผลของสกายแท็กซ์ เวิลด์ แอร์ไลน์ส
อวอร์ด ประจำปี 2559 ในงานแอร์โชว์นานาชาติ โดยได้จัดอันดับให้กลุ่มแอร์เอเชีย
เอ็กซ์ คว้ารางวัลดีที่สุดในโลกประเภท
“สายการบินโลว์คอสต์ที่มีห้องโดยสารพรีเมี่ยมและที่นั่ง” ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 4
ขณะที่ “กามารุดดิน เมอรานัม” ซีอีโอ
กลุ่มแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า
ได้ปรับปรุงบริการภายในห้องโดยสารเครื่องบินทุกลำอย่างต่อเนื่องซึ่งสะท้อนถึงการตระหนักถึงบริการระดับพรีเมี่ยมซึ่งไม่เฉพาะแต่ทำโปรดักซ์ให้ดีแต่ยังหมายรวมไปถึงการมุ่งมั่นจะให้บริการขนส่งผู้โดยสารเต็มรูปแบบหรือฟูลเซอร์วิสด้วย
สำหรับบริการพรีเมี่ยมของทางกลุ่มแอร์เอเชียเอ็กซ์นั้น
พัฒนาถึงขั้นมีบริการเก้าอี้ปรับนอนราบได้ มีขนาดเทียบเท่าที่นั่งโดยสารชั้นธุรกิจ
ด้วยความกว้าง 60 นิ้ว ความยาว 77 นิ้ว พื้นที่วางเท้า 22 นิ้ว
ทำให้ห้องโดยสารกลายเป็นยูนิเวอร์แซล
โดยปรับปรุงหูฟังความบันเทิงทุกรูปแบบได้อย่างยอดเยี่ยม
รวมถึงการบิลต์อินถาดอาหารหน้าที่นั่งส่วนตัวของผู้โดยสารทุกที่นั่ง
มีหมอนและเครื่องอำนวยความสะดวก รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญเช็คอิน
เวลาขึ้นเครื่อง การโหลดสัมภาระกระเป๋าเดินทางได้ถึง 40 กก.ต่อคน
และมีบริการอาหารฟรี
โดยกลุ่มแอร์ เอเชีย
เอ็กซ์ เป็นสายการบินโลว์คอสต์เจ้าแรกของโลกที่มี “เก้าอี้ปรับเอนราบได้”
ที่นำมาติดตั้งในฝูงบินแอร์บัส A330 ซึ่งเป็นฝูงบินที่มีอายุเฉลี่ยการใช้งานใหม่มากเพียง
4 ปี 5 เดือน เท่านั้น
ขณะนี้ยังได้ยืนยันคำสั่งซื้อเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดเพิ่มคือ A330 นีโอ เพิ่มอีก 60 ลำ รวมถึงอยู่ระหว่างทยอยรับมอบฝูงบินแอร์บัส
A350 XWB อีก 10 ลำ
เข้ามาบริการอย่างต่อเนื่องด้วย
ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.
ถึงเวลาต้องไปหาประสบการณ์ใกล้กรุง ย้อนวิถีเกษตรที่
“พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ” คลองหนึ่ง ปทุมธานี แล้วก็ฟังให้ดี ๆ
วิธีทิ้งยาหมดอายุให้โลกปลอดภัยเขาทำกันอย่างไร
@ย้อนเที่ยววิถีใกล้กรุงพิพิธภัณฑ์เกษตรฯปทุม
จะฉายเดี่ยว เที่ยวเป็นคู่ หรือเที่ยวเป็นครอบครัว ใคร ๆ
ก็สามารถไปเที่ยว “ปทุมธานี” ได้ อยู่ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียวเท่านั้น ใช้เวลาขับรถเพียงชั่วโมงเศษ
ไปยังเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในสมัย “สมเด็จพระนารายณ์มหาราช”
โดยฝีมือชาวมอญที่มาปักหลักแห่งแรกในอำเภอสามโคก
ปทุมธานีได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการเกษตรอีกด้วย
ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ลองแวะไปเที่ยว “พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
(องค์การมหาชน) ตำบลคลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
สถานที่ที่ได้จุดประกายคอนเซ็ปต์แนวคิดเชิงสร้างสรรค์ให้เป็น “แหล่งเรียนรู้”
ด้วยสไตล์ “พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต” พร้อมเดินหน้าเข้าสู่โลกการเกษตรยุคใหม่ ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลให้ผู้เข้าไปเยี่ยมชมและท่องเที่ยวได้นำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตถึงการใช้ชีวิต
“สู่วิถีพอเพียงที่เป็นสุขอย่างเพียงพอ” ได้
ความตื่นตาตื่นใจในการเข้าชม 3 โซน คือ โซนแรก “เรื่องของพ่อในบ้านเรา” บอกเล่าเรื่องราวการทรงงาน 23 หัวข้อ
ที่สร้างความอยู่เย็นเป็นสุขให้คนไทยมาทุกวันนี้
โซนที่สอง “ตามรอยพ่อ อยู่อย่างพอเพียง” ชมแนวคิดต้นแบบที่จีรังของพ่อหลวงอย่างใกล้ชิด
โซนที่สาม “พระราชดำริพิธีในวิถีเกษตร”
จัดแสดงหุ่นจำลองการประกอบพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ด้วยประวัติเล่าอย่างละเอียดยิบ
แต่ละโซนสะท้อนผ่าน “พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์แห่งพันธุกรรม” เดินเรื่องด้วยการบอกเล่าเรื่องราวเมล็ดพันธุ์พืชด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
แสง สี เสียง จำลองพืชท้องถิ่นจากสวนป่าต้นแบบ
“พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร”
เข้าไปแล้วจะได้สัมผัสกลิ่นอายป่าจำลองทั้งกลางวันและกลางคืน
พร้อมทั้งหุ่นจำลองสัตว์ป่ามากมายที่ใช้ชีวิตอยู่จริง
“พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา” ทั่วบริเวณมีการถ่ายทอดเรื่องราวการทรงงานเพื่อพสกนิกรของพระองค์ท่าน
รวมถึงการจัดแสดงพิธีเกี่ยวกับการเกาตร พระอัจฉริยภาพด้านดิน น้ำ ป่า และคน
ผ่านโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
โครงการหลวงและศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริถึง 6 ศูนย์
และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
“พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง” รอบบริเวณพื้นที่นอกอาคาร มีของจริงให้เรียนรู้สวนสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
เกษตรพื้นแข็ง บ้านต้นไม้ บ้านวัสดุธรรมชาติ
ฐานเรียนรู้วัฒนธรรมเกษตร 1 ไร่ พอเพียงวิถีไทย 4 ภาค
และวิถีการเกษตรอีกหลากหลายอย่างตามแบบคนไทยภาคกลาง
สำหรับ “พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
(องค์การมหาชน) เปิดบริการทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ ปิดวันจันทร์และวันนักขัตฤกษ์
เข้าไปชมได้ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6
โมงเย็น สอบถามเพิ่มที่ 02-529-2212 หรือ
094-649-2333, www.wisdomking.or.th
@การทิ้งยาหมดอายุให้ถูกวิธีช่วยโลกปลอดภัย
นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย
เปิดเผยว่า ยาของประชาชนที่เป็นผู้ป่วย ได้รับมาจากโรงพยาบาล
หรือสถานบริการการสาธารณสุข แล้วกินยาไม่ครบตามแพทย์สั่ง
รวมถึงยาบางชนิดที่ประชาชนซื้อหามาจากร้านขายยาทั่วไปแล้ว หมดอายุ เหลือใช้ หรือไม่ใช้แล้ว มักเก็บไว้ในบ้าน สะสมเป็นเวลานานจนมีจำนวนมากขึ้น
ประชาชนบางรายนำไปทิ้งลงถังขยะ ทิ้งลงแหล่งน้ำ
หรือฝังลงดินในบริเวณบ้านซึ่งพบว่ายาบางประเภทส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม
โดยทั่วไปยาจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ยาทั่วไป ได้แก่ ยาสามัญประจำบ้าน จำพวก ยาแก้ปวด
ยาลดไข้ และยาที่มีฤทธิ์ตกค้างยาวนานในสิ่งแวดล้อม (Environmental Persistent Pharmaceutical
pollutants : EPPP) เช่น ยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรคความดันโลหิต เบาหวาน
ยารักษาอาการโรคซึมเศร้า รวมทั้ง ฮอร์โมนหรือยาคุมกำเนิด ซึ่งยาประเภทหลังนี้
จะมีคุณสมบัติที่คงสภาพ ทนทาน โดยฤทธิ์ของยาจะไม่ถูกทำลายด้วยระบบกรองน้ำ
ระบบผลิตน้ำประปา หรือระบบบำบัดน้ำเสีย ดังนั้น ยาประเภทดังกล่าว
จึงปนเปื้อนในแหล่งน้ำ แล้วมีโอกาสย้อนกลับเข้าสู่ระบบผลิตน้ำดื่ม และน้ำประปา
สำหรับการอุปโภค บริโภคของประชาชนในที่สุด
ซึ่งในระยะยาวการรับสัมผัสยาที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมอาจส่งผลต่อสุขภาพไม่ทางใดก็ทางหนึ่งประชาชนควรหลีกเลี่ยงการทิ้งยาลงในสิ่งแวดล้อมโดยตรง
“วิธีจัดการยา” สำหรับครัวเรือนและชุมชน
สามารถทำได้ด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนมีความความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินยา
การจัดเก็บยาให้ถูกต้องปลอดภัยต่อเด็กเล็ก
และเรียนรู้วิธีการสังเกตหรืออ่านวันหมดอายุของยาภายในบ้าน อีกทั้ง ต้องรับทราบ
สถานการณ์การปนเปื้อนยาในสิ่งแวดล้อมและโอกาสเสี่ยงต่อการรับสัมผัสยาที่ตกค้างในน้ำดื่มน้ำใช้
เพื่อให้ประชาชนตระหนักและร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ในการส่งกลับยาไปกำจัด
ซึ่งทางภาครัฐ ทั้งโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
และหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น ต้องร่วมกันหาทางจัดการ และควรกำหนดจุดตั้งกล่อง
หรือภาชนะรวบรวมยาจากประชาชน เพื่อรวบรวมนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง
ซึ่งหากเป็นยาที่มีฤทธิ์ตกค้างยาวนานในสิ่งแวดล้อม ต้องนำไปกำจัดโดยวิธีเผาที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า
1,200 องศาเซลเซียส ส่วนยาทั่วไปประเภทอื่นสามารถนำไปกำจัดที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า
850 องศาเซลเซียส ก่อนนำเถ้าไปฝังกลบตามหลักสุขาภิบาลต่อไป
สำหรับข่าวที่น่าติดตามในรอบสัปดาห์นี้
ข่าวแรก
“20ปีหน้าธุรกิจค้าเครื่องบินพุ่ง3ล้านล้านดอลล์”
บริษัท แอร์บัส จำกัด
เปิดพยากรณ์อุตสาหกรรมบริการการบิน (Global Services Forecast: GSF) ระยะ 20 ปีหน้า
เป็นครั้งแรกในงาน “ฟาร์นโบโรห์ แอร์โชว์” ประจำปี พ.ศ.2559 โดยยืนยันสถานการณ์ตลาดการบริการหลังการขายของอุตสาหกรรมจะมีมูลค่าการใช้จ่ายรวมถึง
3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบด้วย
1.
มูลค่ารวมจากกิจกรรมบำรุงรักษา ซ่อมบำรุง และการทำงานของเครื่องจักร (Maintenance,
Repair & Overhaul: MRO) ภายในปี 2578 จะมีมูลค่ามากกว่า
1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วงเวลาแต่ละปี แอร์บัสคาดว่ากิจกรรมบำรุงรักษา
ซ่อมบำรุง และการทำงานของเครื่องจักรจะเติบโตขึ้นจากปีละ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 1.32 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ยปีละ
4.6 %
2.กิจกรรมด้านการบริการหลังการขายนั้นเชื่อมโยงกับการเติบโตของจำนวนฝูงบินโดยสาร
จะเพิ่มมากกว่าสองเท่าจากจำนวนเครื่องบิน 19,500 ลำ สถิติในช่วงสิ้นปี
2558 มีเครื่องบินขนาดมากกว่า 100
ที่นั่งเพิ่มอย่างต่อเนื่องในปี 2578 เป็นเกือบ 40,000 ลำ
3.ความต้องการที่เติบโตตามมาพร้อมกันคือ
จำนวนนักบิน จากปัจจุบันนี้มีนักบินประมาณ 200,000 คน
ที่ทำหน้าที่ปฏิบัติการเครื่องบินโดยสารอยู่ ปี 2578 จะเพิ่มเป็น
450,000 คน และภายในปีดังกล่าวยังต้องเพิ่มนักบินที่จะมาทดแทนผู้เกษียณไปใน 20 ปีต่อจากนี้ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ช่วงนี้ต้องเพิ่มการฝึกอบรมนักบินใหม่มากถึง 560,000 คน
ส่วนช่างเทคนิค คาดตลาดจะต้องการใหม่อีกประมาณ 540,000 คน เพื่อมาทำหน้าที่ต่างๆ
ทั้งด้านโครงสร้างเครื่องบิน เครื่องยนต์และอะไหล่ต่างๆ นั่นเอง
ข่าวที่สอง
“มิวเซียมสยามสัญจรที่ขอนแก่น”
มิวเซียมสยาม ชวนเที่ยวชม
“มิวเซียมสยามมินิ” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 31 กรกฎาคม 2559 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ ลานโปรโมชัน ชั้น G
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น เปิดให้ชมฟรีเป็นนิทรรศการมิติใหม่ที่นำเสนอการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ผ่าน
3
เรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน อันได้แก่ กินของเน่า เล่าเรื่องแบบมีกลิ่น โดยตีแผ่ภูมิปัญญาท้องถิ่นคนไทย
และความหลากหลายทางวัฒนธรรมผ่านภาษาไทยบนลายเสื้อยืด สอบถามเพิ่มที่ 02-225-2777 หรือ www.facebook.com/museumsiamfan
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม
ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า
รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao
และ ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์
:gurutourza.blogspot.com
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรายการ ขอให้พักผ่อนอย่างมีความสุขตลอดวันหยุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น